ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

นาตาลี มันแกว

ขาประจำ
  • จำนวนเนื้อหา

    63
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย นาตาลี มันแกว

  1. อาการปวดหัวเกิดได้จากหลายสาเหตด้วยกัน แค่คุณพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนหลับไม่เต็มอิ่ม หรือมีความเครียดมาก ๆ ก็ทำให้ปวดหัวได้เช่นกัน แก้ได้โดยเพียงแค่พักผ่อนให้เพียงพอ และหากิจกรรมทำเพื่อช่วยให้ผ่อนคลายเสียหน่อย อาการปวดหัวจากความเครียดก็จะหายไปเอง แต่หากคุณมีอาการปวดหัวบ่อย ๆ ปวดหัวเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหต ทำอย่างไรก็ไม่หาย อาจกำลังมีความกังวลใจ เพราะเริ่มมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หากใครที่เป็นเช่นนี้เราไม่อยากให้นิ่งนอนใจ เพราะรู้หรือไม่? หากคุณมีอาการปวดหัวบ่อย ปวดหัวเรื้อรัง เห็นภาพซ้อน เสี่ยง!! เป็นเนื้องอกในสมองได้เลยนะ วันนี้เรานำความรู้ดี ๆ จากทางศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลนครธน เกี่ยวกับเนื้องอกในสมองอาการเป็นอย่างไร และมีแนวทางวิธีรักษาเนื้องอกในสมองอย่างไรบ้าง มาฝากกัน ลองไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมกันได้เลยค่ะ เนื้องอกในสมองเป็นอย่างไร? เนื้องอกในสมอง (Brain Tumor) เป็นโรคที่เกิดจากเนื้อเยื่อในสมอง หรือเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียงสมองมีการเจริญเติบโตผิดปกติจนมีผลต่อระบบสมอง และระบบประสาททำให้ร่างกายมีอาการต่าง ๆ ตามมา ซึ่งเนื้องอกที่เจริญผิดปกตินั้นจะไปเบียดเนื้อสมอง และกระทบต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายที่มีสมองเป็นตัวควบคุม โดยเนื้องอกที่เกิดขึ้นในสมองอาจไม่ใช่มะเร็งเสมอไป โรคเนื้องอกสมองได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ เนื้องอกในสมองชนิดไม่ร้ายแรง หรือ เป็นเนื้องอกแบบเนื้อธรรมดา เกิดจากความผิดปกติของสารพันธุกรรมในเซลล์สมอง หรือการกลายพันธุ์ของเซลล์ ทำให้เซลล์มีการแบ่งตัวและเจริญเติบโตในอัตราที่ผิดปกติ ก้อนเนื้องอกมีการเจริญเติบโตช้า ไม่ใช่เซลล์มะเร็ง สามารถรักษาให้หายได้ เนื้องอกในสมองชนิดร้ายแรงหรือมะเร็ง เกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ คือ เซลล์มะเร็ง อาจเกิดขึ้นบริเวณสมอง หรือเซลล์มะเร็งเกิดขึ้นที่อวัยวะอื่นแล้วลามเข้าสู่สมอง จะมีอัตราการเติบโตเร็วและอาจลุกลามหรือกดทับเนื้อเยื่อรอบข้าง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองและเป็นอันตรายต่อชีวิต ปัจจัยเสี่ยงของเนื้องอกในสมอง สาเหตุที่ทำให้เกิดเนื้องอกในสมองยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด อย่างไรก็ตามมีปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดเนื้องอกในสมอง ดังนี้ อายุ เนื้องอกในสมองเกิดได้กับคนทุกวัย แต่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดกับคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป เพศ เนื้องอกในสมองเกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง การสัมผัสกับกัมมันตรังสีหรือสารเคมีบางชนิดในที่ทำงาน อาการแบบไหนเสี่ยง เนื้องอกในสมอง อาการของเนื้องอกในสมองขึ้นอยู่กับตำแหน่ง ชนิด และขนาดของเนื้องอก บางคนอาจไม่แสดงอาการใด ๆ และพบว่าเป็นเนื้องอกหลังเข้ารับการตรวจร่างกาย หากมีอาการต่อไปนี้ควรพบแพทย์ทันที ปวดหัวเรื้อรัง มีอาการปวดหัวมากกว่า 15 วันต่อเดือน อย่างน้อย 3 เดือนติดต่อกัน คลื่นไส้หรืออาเจียน โดยเฉพาะการอาเจียนในตอนเช้า ค่อยๆ สูญเสียความรู้สึกหรือการเคลื่อนไหวแขนหรือขา ชา อัมพาตบางส่วน ปัญหาในการทรงตัวหรือเดิน สับสน สูญเสียความทรงจำ หรือบุคลิกภาพเปลี่ยนไป หูอื้อ วิงเวียน กล้ามเนื้อใบหน้าชาหรือเป็นเหน็บ กลืนลำบาก ตามัวหรือเห็นภาพซ้อน ความบกพร่องทางการพูด ความลำบากในการเข้าใจและแสดงออกทางภาษา ปัญหาด้านกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ ทราบอย่างไรว่าเป็น เนื้องอกในสมอง? เบื้องต้นแพทย์จะทำการตรวจร่างกาย และทำการทดสอบทางประสาทวิทยาก่อน เช่น ตรวจการมองเห็น การได้ยิน การทรงตัว ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและปฏิกิริยาตอบสนองทางร่างกาย หากพบอาการป่วยที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยโรคหรือสาเหตุอย่างอื่น แพทย์อาจส่งตรวจหาเนื้องอกในสมองด้วยการสแกนสมอง ซึ่งเป็นการฉายภาพรังสีให้เห็นสมองและพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ภายใน เช่น การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) เครื่องตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) หรือเครื่องถ่ายภาพรังสี PET scan หากตรวจพบว่ามีเนื้องอกในสมอง แพทย์อาจส่งตรวจอวัยวะอื่น ๆ ร่วมด้วย เพื่อหาตำแหน่งของเซลล์มะเร็งที่อาจแพร่ลามไปยังอวัยวะอื่น ๆ ต่อไปได้ นอกจากนี้ อาจทำการตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจวินิจฉัย (Biopsy) หาความผิดปกติของเนื้อเยื่อว่าเป็นเนื้องอกที่อยู่ในขั้นและระดับความรุนแรงใด เป็นเนื้อร้ายหรือไม่ เพื่อวางแผนการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมต่อไป วิธีรักษาเนื้องอกในสมอง แพทย์จะรักษาให้เหมาะกับสภาพการณ์ของผู้ป่วยแต่ละราย หากสภาพของผู้ป่วยไม่ร้ายแรง โอกาสที่จะหายมีสูงและความเสี่ยงที่ต้องผ่าตัดมีต่ำ โดยวิธีการโรคเนื้องอกในสมอง มีดังนี้ การผ่าตัด หากเนื้องอกในสมองอยู่ในบริเวณที่ง่ายต่อการผ่าตัด ไม่กระทบต่อเนื้อเยื่อหรือเส้นประสาทบริเวณใกล้เคียงจนเสี่ยงต่ออันตรายร้ายแรง แพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อนำเอาเนื้อเยื่อที่ผิดปกติออกไปจากจุดที่มีเนื้องอกในสมองให้ได้มากที่สุด โดยนวัตกรรมการผ่าตัดสมองมีดังนี้ การผ่าตัดผ่านกล้องกำลังขยายสูง (Microscopic) เป็นกล้องผ่าตัดที่มีกำลังขยายสูง และมีลำแสงที่สามารถส่งลงไปในจุดที่ลึกๆ ได้ จึงให้รายละเอียดในการผ่าตัดที่สูงขึ้น ทำให้ศัลยแพทย์มองเห็นรายละเอียด เส้นประสาท และพยาธิสภาพที่ต้องการแก้ไขได้ชัดเจน มีความปลอดภัยมาก และลดอัตราการบาดเจ็บต่ออวัยวะสำคัญขนาดเล็กโดยรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ การผ่าตัดส่องกล้องแผลเล็ก (Endoscopic) กล้องที่มีลักษณะเป็นแท่ง สอดเข้าไปในบริเวณสมองที่ต้องการผ่าตัดมีความละเอียดสูงทำให้มองเห็นในจุดที่ลึกได้อย่างชัดเจน โดยเครื่องมือชนิดนี้จะเหมาะสำหรับการผ่าตัดบางอย่าง เช่น การผ่าตัดระบายน้ำคั่งในสมอง และการผ่าตัดเนื้องอกที่ต่อมใต้สมอง รังสีรักษา ใช้รังสีพลังงานสูงฆ่าทำลายเนื้องอกในสมองที่เป็นเซลล์มะเร็งลดความเสียหายต่อเซลล์ปกติ เช่น วิธีการฉายรังสีแบบปรับความเข้ม (IMRT) วิธีการฉายรังสีแบบระบบนาวิถี (IRGT) และวิธีการฉายแบบหมุนรอบตัวผู้ป่วย (VMAT) วิธีเหล่านี้เพิ่มอัตราส่วนของกัมมันตรังสีเพื่อฆ่าเซลล์เนื้องอกและไม่ทาลายเนื้อเยื่อปกติ เคมีบำบัด (Chemotherapy) เป็นการใช้ยารักษาและฆ่าเซลล์เนื้องอก มีทั้งรูปแบบยารับประทานและยาฉีดเข้าเส้นเลือด โดยแพทย์จะจ่ายยาตามความเหมาะสม อาจใช้ยาร่วมกันหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับอาการ ลักษณะและความรุนแรงของเนื้องอก หากเป็นเนื้องอกที่เกิดจากเซลล์มะเร็งที่อวัยวะส่วนอื่น ต้องได้รับยารักษาตามแต่ชนิดของมะเร็งเป็นกรณีไป ภาวะแทรกซ้อนของเนื้องอกในสมอง สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญ อาการแทรกซ้อนของเนื้องอกในสมอง อาจส่งผลร้ายแรงหรือความเสียหายถาวรที่นำไปสู่ความพิการทางร่างกาย โคม่า หรือแม้กระทั่งเสียชีวิต โดยมีอาการแทรกซ้อน ได้แก่ ความสามารถทางสมองและความคิดที่อ่อนแอ, สูญเสียความทรงจำ ปัญหาในการทองเห็น การได้ยิน การดมกลิ่น หรือการพูดเรื่องจากประสาทได้รับความเสียหาย มีอาการชัก, แขนและขาอ่อนแรง, อัมพาตครึ่งล่าง ความผิดปกติทางฮอร์โมน, การรั่วของน้าหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง อาการชัก เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เกิดการติดเชื้อ ปัญหาด้านกระเพาะปัสสาวะและลาไส้ โรคปอดอักเสบ สำหรับใครที่กำลังมีอาการปวดหัวบ่อย ปวดหัวเรื้อรัง แต่ไม่ค่อยแน่ใจว่าอาการที่เป็นอยู่นี่ จะเข่าข่ายใช่เนื้องอกในสมองหรือไม่ อยากสอบถามในเรื่องเกี่ยวกับเนื้องอกในสมองเพิ่มเติม ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลนครธน มีความพร้อม และมีบุคลากรทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไว้รองรับ และคอยช่วยเหลือให้คำปรึกษา สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมก่อนได้ตามข้อมูลที่ให้ไว้ได้เลยค่ะ ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.nakornthon.com/article/detail/เนื้องอกในสมองภัยร้ายที่มาพร้อมอาการปวดหัวเรื้อรัง
  2. โดยธรรมชาติแล้วร่างกายของมนุษย์เราจะมีการสร้างภูมิคุ้มกันอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว เมื่อมีอะไรที่ร่างกายมองว่ามันเป็นสิ่งแปลกปลอมจะเกิดการต่อต้าน กับสิ่งที่มากระตุ้นนั้น ไม่ช้าก็เร็วร่างกายจะแสดงปฏิกิริยาการแพ้ออกมาให้เห็นอย่างแน่นอน อย่างเช่น บางคนรับประทานอาหารบางชนิดนานมาแล้วถึงมีอาการแพ้อาหารในภายหลัง แต่บางครั้งก็แพ้อย่างรุนแรงมีอาการแพ้อาหารแบบเฉียบพลันขึ้นทันที หรือมีอาการจุกเสียดท้องบ่อย ๆ จนป่วยเรื้อรัง หากใครที่มีภาวะแพ้อาหารเช่นที่กล่าวมานี้ ไม่ควรนิ่งนอนใจ ควรรีบไปเข้ารับการตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง เพื่อหาสาเหตุการแพ้ หาทางป้องกันและรักษาแต่เนิ่นก่อนอาการลุกลามหนัก เพื่อหาคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าแล้วอาการภูมิแพ้อาหารแฝงคืออะไร? แตกต่างอย่างไรกับการแพ้อาหารแบบทั่วไป ทางศูนย์สุขภาพนครธน ของรพ.นครธน มีคำตอบมาให้แล้วค่ะ ภูมิแพ้อาหารแฝงกับแพ้อาหารแตกต่างกันอย่างไร หลายคนอาจคิดว่าการแพ้อาหารทั้ง 2 แบบนี้มีอาการเหมือนกัน แต่แท้จริงแล้วทั้งสองมีอาการที่แตกต่างกัน ดังนี้ การแพ้อาหารแบบทั่วไป เมื่อร่างกายรับประทานอาหารที่แพ้เข้าไปเพียงเล็กน้อยก็ตาม จะไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานเกินกว่าปกติ โดยร่างกายจะเข้าใจผิดว่าสิ่งที่รับประทานเข้าไปเป็นอันตรายต่อร่างกาย จึงเกิดปฏิกิริยาแบบเฉียบพลัน ซึ่งอาการอาจเกิดขึ้นเพียงระบบเดียวหรือหลายระบบก็ได้และค่อนข้างรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ เช่น เกิดผื่นคันตามร่างกาย อาเจียน ท้องเสีย หรือเกิดภาวะช็อก หายใจติดขัด หอบ ซึ่งอาการรุนแรงอย่างหลังจำเป็นต้องรีบพบแพทย์ทันที ภาวะภูมิแพ้อาหารแฝง เมื่อร่างกายได้รับอาหารที่แพ้เข้าไปจะมากหรือเล็กน้อย ก็จะไม่แสดงอาการในทันที แต่จะเกิดอาการเมื่อผู้ป่วยรับประทานอาหารชนิดนั้นซ้ำ ๆ ภูมิแพ้ในลักษณะนี้จะทำให้มีอาการเรื้อรังโดยที่ไม่รู้ตัว และภาวะนี้ไม่สามารถทานยาแก้แพ้เพื่อลดอาการได้ ทำให้ไม่มียารักษาโดยตรงนอกเหนือไปจากรักษาตามอาการ และเลี่ยงอาหารที่แพ้จะสามารถดีขึ้น และกลับมารับประทานได้ หากเราเลี่ยงอาหารนั้นเป็นเวลาช่วงหนึ่ง โดยเฉลี่ยประมาณ 6 เดือน ภูมิแพ้อาหารแฝงเป็นอย่างไร ภูมิแพ้อาหารแฝง หรือเรียกอีกแบบว่า การแพ้อาหารแบบเรื้อรัง เป็นภาวะอาการแพ้ที่เกิดจากภูมิคุ้มกัน (antibody) ชนิด IgG (Immunoglobulin G) ที่ร่างกายสร้างมาต่อต้านอาหาร โดยบางครั้งจะทำปฏิกิริยากับอาหารที่แพ้แล้วทำลายเนื้อเยื่อของร่างกายเราเองหรือไปรบกวนระบบภูมิต้านทานทั้งร่างกายจนแปรปรวน เนื่องจากร่างกายเข้าใจคลาดเคลื่อนคิดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมเข้ามา และจะยังไม่ก่อให้เกิดอาการผิดปกติรวดเร็วทันทีทันใด ซึ่งจุดนี้เป็นจุดสำคัญที่ทำให้คนที่มีอาการต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ทราบว่าอาการนั้นเกิดจากสาเหตุใด และไม่ทราบว่าได้เกิดการแพ้อาหารชนิดนั้น ๆ ขึ้นมา ทำให้ยังคงรับประทานอาหารนั้นต่อ ร่างกายก็ยิ่งต่อต้าน ยิ่งกระตุ้นการสร้าง IgG มากจนกำจัดไม่หมด ร่างกายก็จะโดน IgG ทำลาย ส่งผลให้มีอาการต่าง ๆ ตามมาในที่สุด ภูมิแพ้อาหารแฝงมีลักษณะอาการอย่างไร ลักษณะอาการของการแพ้อาหารแบบแฝงนั้น มักจะมีอาการโดยที่เราไม่ทราบสาเหตุว่าแพ้สิ่งใด อาหารชนิดไหน เนื่องจากจะใช้เวลานานกว่าจะแสดงอาการ โดยอาจใช้เวลากว่า 48 ชั่วโมง มักแสดงอาการหลากหลาย แต่ไม่รุนแรง และมีอาการแพ้เป็นอยู่บ่อยครั้งแบบเรื้อรัง จนไม่คิดว่าเป็นอาการของการแพ้อาหาร แม้อาการแพ้ไม่รุนแรง แต่ก็อาจเป็นเบื้องหลังของอาการน่ากวนใจบางอย่าง โดยภูมิแพ้อาหารแฝงนั้นมีอาการที่แสดงได้หลายจุด ได้แก่ อาการทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน จุกเสียดท้อง เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารทำให้เรอและผายลมบ่อย เป็นต้น อาการทางผิวหนัง เช่น กลุ่มสิวอักเสบ หรือการอักเสบใต้ชั้นผิวหนังตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ใบหน้า ตามตัว บริเวณหลัง แขนขา ลมพิษ ผื่นคัน ผิวบวม เป็นต้น อาการทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม น้ำมูกไหล จมูกอักเสบ ไซนัสอักเสบ คัดจมูก หอบหืด เป็นต้น อาการอื่น ๆ เช่น ปวดหัวแบบเรื้อรัง ไมเกรน อาการปวดตามข้อ เป็นต้น รู้ได้อย่างไรว่า เป็นภูมิแพ้อาหารแฝง หากสำรวจตัวเองแล้วเป็นไปตามอาการในข้างต้น และลองหลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องสงสัยแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรมาปรึกษาแพทย์ตรวจภูมิแพ้อาหารแฝง เพื่อให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ปัจจุบันทราบได้โดยเข้ารับการตรวจเลือด การทดสอบเลือดสำหรับสารก่อภูมิแพ้อาหาร IgG ทั้งนี้การตรวจเลือดสามารถช่วยให้เรารู้ว่า การแพ้อาหารที่แอบแฝงอยู่นั้นเป็นอาหารชนิดใด โดยวิธีการคือ ส่งเลือดเข้าไปตรวจ วิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการ ซึ่งจะรายงานผลการตรวจออกมาเป็นระดับการแพ้อาหารแต่ละรายการ เพื่อให้เราได้ป้องกันและหลีกเลี่ยงจากภัยแฝงต่าง ๆ ของโรคที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ภูมิแพ้อาหารแฝงนั้นไม่สามารถทานยาแก้แพ้เพื่อให้อาการดีขึ้นได้ หากยังปล่อยไว้ให้อาการสะสมเรื่อย ๆ โดยไม่ได้รับการรักษา หรือรับการตรวจวินิจฉัยอย่างถูกวิธี อาจนำไปสู่การเกิดโรคต่าง ๆ มากมายตามมาได้ในท้ายที่สุด เช่นนั้น หากสงสัยว่าอาการที่เราเป็นอยู่นั้นเข้าข่ายต้องสงสัยแพ้อาหารแฝงหรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย หรือ สอบถามปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ด้านล่าง สำหรับใครที่มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน จุกเสียดเรื้อรัง มีภาวะการแพ้ แต่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นการแพ้อาหารแบบธรรมดา หรือเป็นภูมิแพ้อาหารแฝง มีข้อสงสัยอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้ ทางศูนย์สุขภาพนครธน รพ.นครธน ทีมแพทย์ชำนาญการ และบุคลากร พร้อมช่วยเหลือ ให้คำปรึกษา สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมก่อนได้ตามข้อมูลที่ให้ไว้ได้เลยค่ะ ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.nakornthon.com/article/detail/ภูมิแพ้อาหารแฝง-ภาวะต้องสงสัยของอาการผิดปกติหลายอย่าง/
  3. เนื่องจากเด็กทารกแรกเกิดเป็นช่วงวัยที่บอบบางน่าทะนุถนอมมากที่สุด คุณพ่อคุณแม่จึงต้องใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กแรกเกิดเป็นพิเศษ ต้องคำนึงถึงความสะอาด ปลอดภัย อย่างการเลือกใช้ขวดนม นอกจากจะต้องเลือกขวดนมที่ได้มาตรฐานแล้ว ยังต้องเลือกใช้น้ำยาล้างขวดนมเด็กแรกเกิด ที่เป็นน้ำยาล้างขวดนมสูตรอ่อนโยนเท่านั้น จึงจะเหมาะที่จะใช้กับเด็กแรกเกิดและลูกน้อย โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ย่อมมีความกังวลใจมากในการเลือก ดังนั้นควรจะเลือกน้ำยาล้างขวดนมยี่ห้อไหนดี ? ที่ผ่านการทดสอบการแพ้และระคายเคือง ช่วยให้ลูกน้อยห่างไกลจากสารเคมีอันตรายได้อย่างปลอดภัย ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด วันนี้เรามีน้ำยาล้างขวดนมเด็ก สูตรอ่อนโยน ยี่ห้อพิพเพอร์ สแตนดาร์ด มาแนะนำกันค่ะ ผลิตภัณฑ์ล้างขวดนมและจุกนม พิพเพอร์ สแตนดาร์ด น้ำยาล้างขวดนมสูตรอ่อนโยน พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ที่ใช้สารทำความสะอาดธรรมชาติจากสับปะรด ปราศจากสารเคมีอันตราย ไม่ใส่สี ปราศจากน้ำหอมสังเคราะห์ ผ่านการทดสอบการแพ้และการระคายเคือง มีกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ 100% สามารถทำความสะอาดขวดนม จุกนม ยางกัด ได้สะอาดหมดจด ไม่ทิ้งคราบน้ำนม และยังอ่อนโยนต่อผิวมือคุณแม่ขณะล้างด้วยนะคะ วิธีใช้น้ำยาล้างขวดนม พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ขั้นที่ 1: ผสมผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างขวดนมเด็ก 2 ปั๊มต่อน้ำ 500มล ขั้นที่ 2: ล้างด้วยแปรงนุ่ม ขั้นที่ 3: ล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพราะเด็กแรกเกิดควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด และด้วยคุณสมบัติพิเศษที่เหมาะสมของน้ำยาล้างขวดนม พิพเพอร์ สแตนดาร์ด จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ เราจึงขอแนะนำพิพเพอร์ สแตนดาร์ด ให้เป็นน้ำยาล้างขวดนม เด็กแรกเกิด ที่ดีที่สุดเหมาะสำหรับการดูแลเจ้าตัวเล็กค่ะ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม และเลือกซื้อสินค้าได้ที่ https://www.pipperstandard.com/product/natural-bottle-and-nipple-cleaner/ https://www.facebook.com/pipperstandard/
  4. ปัญหาหนักอึ้งของคนทำอาหารในห้องครัว ที่ได้สร้างความหนักใจให้บรรดาแม่ครัว พ่อครัวทั้งหลาย คงหนีไม่พ้นเรื่องคราบสกปรกฝังแน่นต่าง ๆ ที่ขัดถูอย่างไรก็ไม่ออก ยังสะสมติดแน่นอยู่ตามภาชนะเครื่องครัว และหากปล่อยให้มีคราบหนักสะสมเกิดขึ้นมาก ๆ ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพอนามัยที่ดีของสมาชิกทุกคนในบ้านเป็นแน่ หากคุณแม่บ้านกำลังเจอปัญหาเรื่องนี้อยู่ เราขอแนะนำผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด เป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ สยบคราบหนักทุกงานครัว เพียงแค่ฉีด ขัดถู ทำความสะอาด แล้วล้างออก ด้วยพลังธรรมชาติจากสับปะรด จึงปลอดภัยไร้สารเคมีอันตรายตกค้าง ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ทำให้การขจัดคราบได้ง่ายและสะดวกขึ้นกว่าที่เคย ด้วยพลังธรรมชาติจากสับปะรด ทำให้การทำความสะอาดครัวเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งขึ้น ช่วยขจัดคราบหนักที่ฝังแน่น คราบอาหาร รวมถึงคราบอื่น ๆ เช่น คราบน้ำหมึก กาแฟ ช็อกโกแลต เบอรี่ ของหวาน ไวน์ และซอส มีประสิทธิภาพในการขจัดคราบสูงโดยไม่ทำลายเนื้อโลหะพื้นผิวเครื่องครัว วิธีใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด สำหรับทำความสะอาดห้องครัว ขั้นที่ 1: ฉีดผลิตภัณฑ์ขจัดคราบลงบนบริเวณคราบทิ้งไว้ ขั้นที่ 2: ขัด ถู วน ๆ ตรงบริเวณที่มีคราบเบา ๆ ขั้นที่ 3: ล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดทำความสะอาดตามปกติ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีการขจัดคราบ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ ตอนที่คราบยังใหม่ คราบหนักที่ฝังแน่น อาจจำเป็นต้อง ฉีดผลิตภัณฑ์ขจัดคราบและทิ้งไว้ให้นานขึ้นหรือทำซ้ำ ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ด้วยสารทำความสะอาด พลังธรรมชาติจากสับปะรด สามารถขจัดคราบฝังแน่นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเศษอาหารที่ติดอยู่ตามภาชนะหรือคราบหนักฝังแน่น คราบน้ำมันที่หลงเหลืออยู่ในกระทะหลังใช้ก็สามารถกำจัดได้ในพริบตา สบายใจเรื่องความปลอดภัยไร้สารตกค้าง ผ่านการทดสอบการระคายเคือง ปราศจากสารก่อภูมิแพ้ และสารเคมีอันตราย กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด สุดยอดผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ ที่แม่หลายคนติดใจ ใช้ดีจนต้องบอกต่อ ดีจริงจนอยากท้าให้คุณพิสูจน์รีบหามาใช้ไว้ติดในครัวกันสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม และเลือกซื้อสินค้าได้ที่ https://www.pipperstandard.com/product/ผลิตภัณฑ์ขจัดคราบ/ https://www.facebook.com/pipperstandard/
  5. โรคกระดูกคอที่มักมีอาการปวดต้นคอท้ายทอย ปวดต้นคอบ่าไหล่ ซึ่งรวมถึงโรคกระดูกคอเสื่อม ถือว่าเป็นโรคยอดฮิตในปัจจุบัน อาการปวดต้นคอบ่าไหล่หรือปวดเมื่อยต้นคอ ได้สร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมา ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการหนัก ได้เลือกใช้วิธีการผ่าตัด แต่การผ่าตัดนั้นก็ไม่ได้ผลการรักษาที่น่าพอใจเสมอไป นอกจากปวดเมื่อยต้นคอ ปวดต้นคอบ่าไหล่ ปวดต้นคอท้ายทอยแล้ว อาการอื่น ๆ ที่พบบ่อยได้แก่ ปวดข้อไหล่ ปวดสะบัก หรือบางรายที่เป็นนานเป็นหนัก จะรู้สึกปวดมึนศีรษะ หนักท้ายทอย จนบางทีรู้สึกแขนชามือชา ตาพร่ามัว สมองล้า โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ชอบก้มหน้าดูมือถือ ทำงานออฟฟิศ ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นประจำ หรือผู้สูงวัยที่กระดูกคอเสื่อมอยู่แล้ว สำหรับอาการปวดเมื่อยต้นคอหรือปวดต้นคอท้ายทอย ในช่วง 10 ปีให้หลังนี้มีการขยายลงไปในกลุ่มคนที่มีอายุน้อยลงเป็นจำนวนมาก สำหรับอาการปวดต้นคอท้ายทอย ปวดต้นคอบ่าไหล่ หรือปวดเมื่อยต้นคอ การรักษาด้วยกลุ่มยาแก้ปวด ยาลดการอักเสบ ยาคลายกล้ามเนื้อหรือการนวดนั้น ก็เป็นเพียงระงับอาการไว้ชั่วคราวเท่านั้น ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ การผ่าตัดอาจได้ผลดีในผู้ป่วยบางราย แต่คงไม่เหมาะกับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ทั้งผู้ป่วยหลายท่านยังคงลังเลในเรื่องค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะตามมา การแพทย์แผนจีนได้จัดโรคกระดูกคอให้อยู่ในกลุ่มโรคชาและปวดเมื่อยอันเนื่องจากเส้นลมปราณติดขัด ส่งผลให้เลือดไหลเวียนช้าลงหรือสะดุด จึงเกิดภาวะเลือดคั่ง ไปกีดขวางการไหลเวียนของเลือด จนเกิดอาการปวดต้นคอท้ายทอย ปวดต้นคอบ่าไหล่ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการวินิจฉัยและการรักษาอันสำคัญของการแพทย์แผนจีนที่ว่า " ปวดแสดงว่าไม่โล่ง โล่งแล้วก็จะไม่ปวด " ( 通則不痛,痛則不通 ) อีกทั้งพิษลม พิษเย็นและพิษชื้นที่สะสมอยู่ในเส้นลมปราณบริเวณคอ บ่า ไหล่จะจับตัวเป็นก้อน ทำให้เส้นลมปราณและเส้นเลือดมีการติดขัดมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เส้นเอ็น กล้ามเนื้อและกระดูกคอได้รับการหล่อเลี้ยงจากเลือดไม่เพียงพอ จนเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว จึงเกิดอาการปวดเมื่อยต้นคอ ปวดต้นคอบ่าไหล่ หรือปวดต้นคอท้ายทอย ซึ่งสร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก การแพทย์แผนจีนสมัยใหม่จึงมุ่งเน้นการรักษาโรคกระดูกคอจากต้นเหตุ และฟื้นฟูโดยองค์รวม ช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสหลีกเลี่ยงการผ่าตัด หรือการทานยาแก้ปวดไปตลอด เอินเวย์ ( enwei ) ได้เลือกใช้ยาสมุนไพรจีนสูตรเฉพาะ ซึ่งเป็นตำรับยาที่วงการแพทย์แผนจีนนิยมใช้มายาวนาน โดยมียาสมุนไพรจีนสำคัญ เช่น Dangshen, Chuanxiong , Fuling , Niuxi , Danshen , Sanqi , Gancao , Baizhu Dilong, Maqianzi Fen ฯลฯ ผ่านการศึกษา วิจัย ทดลองทางคลินิกตามหลักการแพทย์สากลและผ่านการสกัดที่ทันสมัย ควบคุมสารออกฤทธิ์ของยาสมุนไพรจีนได้อย่างเข้มข้น แม่นยำและคงที่ โดยมีหลักการการออกฤทธิ์สำคัญดังนี้ ■ สลายภาวะเลือดคั่ง ช่วยให้เส้นเอ็น กล้ามเนื้อและกระดูกคอได้รับการหล่อเลี้ยงจากเลือดได้อย่างเพียงพอ ■ ทะลวงเส้นเลือดและเส้นลมปราณบริเวณคอ บ่า ไหล่ให้โล่งสะอาด ■ ผลักดันการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้เลือดขึ้นไปหล่อเลี้ยงสมองได้ดี ■ ขจัดพิษลม พิษเย็น และพิษชื้นที่สะสมอยู่ตามบริเวณคอ บ่า ไหล่ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของอาการปวดต้นคอท้ายทอย ปวดต้นคอบ่าไหล่หรือปวดเมื่อยต้นคอ ■ เสริมสร้างพลังลมปราณเพื่อลดภาวะเส้นลมปราณติดขัด วิธีการรักษาจากต้นเหตุนี้ จึงช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสหลีกเลี่ยงการผ่าตัด ไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวดหรือยาคลายกล้ามเนื้อ โรคกระดูกคอหรือออฟฟิศซินโดรมนั้นจึงไม่น่าหนักใจอีกต่อไป หากคุณกำลังทุกข์ใจอยู่กับออฟฟิศซินโดรม อาการปวดต้นคอท้ายทอย ปวดต้นคอบ่าไหล่ หรือปวดเมื่อยต้นคอกำลังรุมเร้าคุณอยู่ เอินเวย์ ( enwei ) มีทางออก ปรึกษาอาการและวิธีการดูแลรักษาจากต้นเหตุกับทีมแพทย์แผนจีนเอินเวย์ ( enwei ) ได้ โทร. 02-7514399 Line. @enwei ( CALMUS CAP มีดีอะไร ทำไมมีคนถามหากันมาก สำหรับท่านใดที่หายจากโรคกระดูกคอแล้ว เชิญแสดงความคิดเห็นกันได้ที่ Line @enwei ) สุดท้ายนี้ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ ความรู้การดูแลสุขภาพในทัศนะการแพทย์แผนจีนจาก บริษัท เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด หากท่านสนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ enweigroup.co.th ปรึกษาแพทย์แผนจีนและผู้เชี่ยวชาญได้ที่ สายด่วนสุขภาพเอินเวย์ 02-7514399 Line @enwei ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม Website : https://www.enweigroup.co.th/ ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH Facebook : https://www.facebook.com/EnweiGroup/ ขอบคุณข้อมูลจาก enwei https://www.enweigroup.co.th/บทความสุขภาพ/ปวดต้นคอท้ายทอย/
  6. ในมุมมองของการแพทย์แผนจีน ไตเป็นรากฐานชีวิต วันนี้ แพทย์แผนจีนเอินเวย์ได้สรุปอาการไตอ่อนแอที่พบบ่อย ซึ่งมี 14 ข้อด้วยกัน ให้ทุกท่านสามารถเช็คสุขภาพไตในเบื้องต้น หากท่านเข้าข่าย 1-2 ข้อ ควรใส่ใจดูแลรักษาไตอ่อนแอตั้งแต่เนิ่น ๆ หลักการการบำรุงรักษาไตของการแพทย์แผนจีนและสมุนไพรบำรุงไต ที่ผ่านมามีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพของชาวไทยอย่างยาวนาน หลักทฤษฎีของการแพทย์แผนจีน" บำรุงไต บำบัดสารพัดโรค " จึงเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในสังคมปัจจุบัน ภาวะไตอ่อนแอ อาการ 14 ข้อที่ไตกำลังเตือนคุณว่าไม่ไหวแล้ว 1. ปัสสาวะบ่อย ต้องลุกเข้าห้องน้ำกลางดึก 2. ปวดหลังปวดเอว ปวดเมื่อยตามร่างกาย 3. นอนหลับไม่สนิท ฝันบ่อย ชอบสะดุ้งระหว่างนอน 4. เป็นภูมิแพ้ ภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นหวัดบ่อย 5. หย่อนสมรรถภาพทางเพศ เฉื่อยชาทางเพศ 6. ผมหงอกก่อนวัย ผมร่วง ผมบาง เส้นผมแห้งกรอบ แตกปลาย 7. ขี้หนาว มือเท้าเย็น เลือดไหลเวียนไม่ดี 8. เหงือกฟันร่น ฟันโยก 9. หูอื้อ หูมีเสียง การได้ยินลดลง 10. ตาพร่า ตามัว สายตาเสื่อมลง ใต้ตาหมองคล้ำ 11. อ้วนง่าย น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 12. เป็นวัยทองก่อนเวลาอันควร 13. มีบุตรยากทั้งชายและหญิง แท้งบุตรง่าย ประจำเดือนมาไม่ปกติ 14. ผิวหน้าหมองคล้ำ หยาบกร้าน ไม่มีสีเลือดฝาด ไตจะเสื่อมลงตั้งแต่เมื่ออายุ 25 - 30 ปี หลักการการบำรุงรักษาไตได้ซึมเข้าไปในวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวจีนมายาวนาน ตามธรรมชาติแล้ว ไตเสื่อมลงหรือไตอ่อนแอลงตามวัยและปัจจัยเสี่ยง อาการไตอ่อนแอมักจะเรื้อรังอย่างช้า ๆ จนคุณเคยชิน และอาจลืมไปแล้วว่าตอนคุณปกตินั้นร่างกายควรจะเป็นอย่างไร เราจึงควรหมั่นสังเกตอาการไตอ่อนแอ ใส่ใจดูแลรักษาไตอ่อนแอตั้งแต่เนิ่น ๆ เอินเวย์ ( enwei ) ได้คัดเลือกยาสมุนไพรจีนสูตรเฉพาะ ซึ่งเป็นต้นตำรับยารักษาไตอ่อนแอ มีประวัติการใช้ในวงการแพทย์แผนจีนมากว่า 1,000 ปี มีส่วนประกอบยาสมุนไพรจีนสำคัญ เช่น Niuxi Shechuangzi Dihuang Shanzhuyu Shanyao Mudanpi Zexie Fuling Guizhi Fuzhi ฯลฯ ได้ศึกษา วิจัย ทดลองทางคลินิกตามหลักการแพทย์สากลและผ่านการสกัดที่ทันสมัย " บำรุงไต บำบัดสารพัดโรค " เป็นหลักทฤษฎีของการแพทย์แผนจีนที่ชี้แนะแนวทางการดูแลรักษาสุขภาพจากรุ่นสู่รุ่น เป็นสมบัติอันล้ำค่าของวงการแพทย์แผนจีนซึ่งมีมานานนับพันปี การบำรุงไตให้แข็งแรงขึ้นนั้น จะส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม ซ่อมแซมฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาสมดุลและแข็งแรง ชะลอความเสื่อมความชรา ช่วยให้ร่างกายต้านกับปัจจัยเสี่ยงที่เผชิญอยู่ได้ดีขึ้น อย่าปล่อยให้ภาวะไตเสื่อมหรืออาการไตอ่อนแอค่อย ๆ ลดทอนสุขภาพของคุณไปเรื่อย ๆ รักสุขภาพ ใส่ใจการบำรุงไตให้แข็งแรงขึ้นเป็นอันดับแรก หากภาวะไตเสื่อมหรืออาการไตอ่อนแอกำลังทำให้คุณกังวลใจอยู่ สนใจใช้หลักการการบำรุงรักษาไตให้แข็งแรงขึ้นโดยแนวทางของการแพทย์แผนจีนหรือยาสมุนไพรจีน ลองปรึกษาทีมแพทย์แผนจีนเอินเวย์ ( enwei ) ได้นะคะ โทร. 02-7514399 หรือ Line. @enwei ( MAXITIN ที่คนถามหากันเยอะมาก มีดีอะไร เพื่อน ๆ ที่กำลังบำรุงไตกันอยู่ ลองแสดงความคิดเห็นได้ที่ Line @enwei ) สุดท้ายนี้ขอขอบคุณความรู้ข้อมูลสุขภาพดี ๆ จากสถาบันวิจัยการแพทย์แผนจีนและยาสมุนไพรจีนเอินเวย์ หากเพื่อน ๆ สนใจจะศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามได้จากช่องทางข้างล่างนี้นะคะ ปรึกษาแพทย์แผนจีนและผู้เชี่ยวชาญได้ที่ สายด่วนสุขภาพเอินเวย์ 02-7514399 Line @enwei ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม Website : https://www.enweigroup.co.th/ ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH Facebook : https://www.facebook.com/EnweiGroup/ ขอบคุณข้อมูลจาก enwei https://www.enweigroup.co.th/บทความสุขภาพ/อาการ-รักษาไตอ่อนแอ/
  7. คราบสกปรก คราบเหงื่อไคล และคราบฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่ติดตามเสื้อผ้าเป็นเรื่องสำคัญที่คุณแม่บ้านทุกคนไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะต้องระวังให้มากขึ้นเมื่อต้องสวมใส่เสื้อผ้าออกไปทำธุระหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค เชื้อไวรัสติดมาได้ง่ายอีกด้วย ฉะนั้นในการดูแลทำความสะอาดเสื้อผ้า สิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษสำหรับทุกคนในครอบครัวก็คือ น้ำยาซักผ้า เพราะการเลือกซื้อน้ำยาซักผ้าจะเน้นแค่เรื่องการทำความสะอาดอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ควรต้องดีต่อสุขภาพอนามัยของสมาชิกทุกคนในบ้านด้วย โดยเฉพาะครอบครัวไหนที่มีเด็กเล็ก ๆ และผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ก็อาจได้รับผลกระทบจากสารเคมีอันตรายตกค้างได้ ดังนั้นควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้าที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ จึงจะปลอดภัยที่สุด หากคุณแม่บ้านยังไม่มีแบรนด์ไหนในใจ วันนี้เรามีน้ำยาซักผ้าธรรมชาติไอเทมเด็ดของแม่บ้านยุคใหม่ มาแนะนำ น้ำยาซักผ้าธรรมชาติ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่า น้ำยาซักผ้าสับปะรดมีประสิทธิภาพในการขจัดคราบสกปรกบนผ้าได้อย่างหมดจด ด้วยส่วนผสมธรรมชาติที่อ่อนโยน ปราศจากสารเคมีอันตราย ไม่ทำลายเส้นใยผ้า ฟองน้อย ล้างออกง่าย ไม่ก่อให้เกิดกลิ่นอับ แม้ตากเวลากลางคืนหรือในที่ร่ม ใช้ได้ทั้งเสื้อผ้าเด็กและผู้ใหญ่ และผ้าที่บอบบาง ผ่านการทดสอบการแพ้และการระคายเคือง ปราศจากสารก่อภูมิแพ้และสารปิโตรเคมี มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ 100% ตอบโจทย์น้ำยาซักผ้าสําหรับคนแพ้ง่าย และผิวบอบบางของเด็ก ๆ สามารถใช้ได้ทั้งครอบครัว สะอาด อ่อนโยน ไม่ก่อภูมิแพ้ วิธีใช้น้ำยาซักผ้าธรรมชาติ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ขั้นที่ 1: เทผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้าธรรมชาติ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ในช่องใส่น้ำยาซักผ้า ขั้นที่ 2: เลือกโปรแกรมการซักให้เหมาะกับเสื้อผ้า เพื่อผ้าที่สะอาด สำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า เทผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้าธรรมชาติ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ลงในฝาของผลิตภัณฑ์ ตวง 30 มล. (ขีดล่าง) สำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน เทผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้าธรรมชาติ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ลงในฝาของผลิตภัณฑ์ ตวง 40 มล. (ขีดบน) สำหรับซักมือ ใช้ 30 มล. ต่อ น้ำ 10 ลิตร สามารถเข้าไปดูรายละเอียดน้ำยาซักผ้าธรรมชาติ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด เพิ่มเติมและเลือกซื้อสินค้าได้ที่ https://www.pipperstandard.com/product/ldeu9002/ https://www.facebook.com/pipperstandard/
  8. ตับเป็นรากฐานสำคัญของร่างกาย นอกจากเป็นอวัยวะภายในที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแล้ว ยังทำงานหนักและเสื่อมโทรมไว การบำรุงตับหรือถนอมตับด้วยการลดปัจจัยเสี่ยงหรือการใช้ยาสมุนไพรจีนบำรุงฟื้นฟูตับนั้น เป็นวิธีที่ดีที่จะลดภาวะตับเสื่อมหรือตับอ่อนแอ ป้องกันการเป็นตับอักเสบ หรือโรคตับแข็ง อีกทั้งยังเป็นวิธีเสริมสร้างให้สุขภาพของตับสมดุลแข็งแรงขึ้นอีกด้วย ถ้าพูดถึงสุขภาพของตับ หลายคนอาจจะนึกถึงผลการตรวจเช็กค่าตับซึ่งจะรู้ได้เพียงตับอักเสบอยู่หรือไม่ แต่การจะประเมินสุขภาพของตับนั้น การแพทย์แผนจีนมีวิธีง่าย ๆ แค่เราหมั่นสังเกตอาการตามตำแหน่งต่าง ๆ ที่เส้นลมปราณตับพาดผ่าน ก็สามารถประเมินได้ว่าเรามีภาวะตับเสื่อมหรือตับอ่อนแอหรือไม่ เส้นลมปราณตับจะเริ่มทอดตั้งแต่ปลายนิ้วหัวแม่เท้าไปตาม 17 ตำแหน่งสำคัญของร่างกาย แล้วสิ้นสุดที่สมอง การสะดุดติดขัดของเส้นลมปราณตับจึงส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติตามตำแหน่งต่างๆ ภาวะตับอ่อนแอหากปล่อยทิ้งไว้นาน ก็จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับ ตับอักเสบหรือโรคตับแข็งได้ในที่สุด หากเส้นลมปราณตับส่วนบนติดขัด มักจะเกิดอาการของตับอ่อนแอ เช่น ตาขาวเหลืองขุ่น นอนหลับไม่ค่อยดี เครียด วิตกกังวล หงุดหงิด โมโหง่าย อารมณ์อ่อนไหว โหนกแก้มมีฝ้า หายใจไม่โล่ง ผิวหน้าเหลือง หางคิ้ว ระหว่างคิ้วมีริ้วรอย มุมปากหรือริมฝีปากหมองคล้ำ เส้นลมปราณตับส่วนกลางติดขัด ก็มักจะเกิดอาการของตับอ่อนแอ เช่น เจ็บหรือคัดเต้านม โดยเฉพาะในสตรีจะเป็นมากขึ้นช่วงก่อนมีประจำเดือน เป็นเนื้องอกหรือมะเร็งในเต้านม มดลูกหรือรังไข่ ท้องอืดท้องเฟ้อ เรอบ่อย อาหารไม่ค่อยย่อย แก๊สในกระเพาะเยอะ ปวดแน่นบริเวณชายโครงด้านขวา ตับอักเสบ ตับแข็ง เป็นเนื้องอกหรือมะเร็งในตับ หากเส้นลมปราณตับส่วนล่างติดขัด ก็มักจะเกิดอาการของตับอ่อนแอ เช่น เส้นเอ็นตึงเกร็ง ปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาเป็นลิ่มเป็นก้อน ดำคล้ำ ประจำเดือนขาด ปวดท้องน้อย ในเพศชายอาจรู้สึกปวดหน่วงอัณฑะ ตับอ่อนแอลงหรือภาวะตับเสื่อมจะเป็นไปตามวัยและปัจจัยเสี่ยง ในวงการแพทย์แผนจีนจึงนิยมใช้ยาสมุนไพรจีนบำรุงฟื้นฟูตับ เพื่อดูแลสุขภาพของตับแต่เนิ่น ๆ เอินเวย์ ( enwei ) ได้เลือกใช้ยาสมุนไพรจีนสูตรเฉพาะ ซึ่งเป็นต้นตำรับยาสมุนไพรจีนบำรุงฟื้นฟูตับ มีประวัติการใช้ในวงการแพทย์จีนมากว่า 800 ปี มีส่วนประกอบของยาสมุนไพรจีนบำรุงฟื้นฟูตับ เช่น Xiangfu Danggui Bohe Gancao Chaihu jizi Baishu Fuling Mudanpi ฯลฯ ได้ศึกษาวิจัยทดลองทางคลินิกตามหลักการแพทย์สากลและผ่านการสกัดที่ทันสมัย ให้อยู่ในรูปแบบเป็นสารสกัดเข้มข้น ควบคุมสารออกฤทธิ์ได้อย่างแม่นยำและคงที่ โดยมีกลไกการออกฤทธิ์สำคัญ ดังนี้ ■ บำรุงตับ ฟื้นฟูเซลล์ตับ ปรับสมดุลตับ ■ ปรับสมดุลระบบเลือดและลมปราณเพื่อส่งเสริมสุขภาพตับให้สมดุลแข็งแรง ■ ทะลวงเส้นลมปราณของตับให้โล่ง ลดภาวะพลังลมปราณอั้นอยู่ในตับ ส่งเสริมให้เลือดและพลังลมปราณไหลเวียนได้อย่างสะดวก ภาวะตับเสื่อมหรือตับอ่อนแอจึงค่อย ๆ ดีขึ้นหรืออาจหายไปในที่สุด อีกทั้งลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคตับ ตับอักเสบหรือโรคตับแข็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าให้ภาวะตับเสื่อมหรืออาการตับอ่อนแอลดทอนสุขภาพหรือคุณภาพการใช้ชีวิตของคุณ ถนอมตับก่อนตับพัง รักสุขภาพ ดูแลถนอมตับกันนะคะ ด้วยความห่วงใยจากเอินเวย์ ( enwei ) หากคุณกำลังกังวลใจกับภาวะตับเสื่อมหรือตับอ่อนแอ สนใจดูแลรักษาตับจากต้นเหตุโดยการใช้วิธีของการแพทย์แผนจีนหรือยาสมุนไพรจีนบำรุงฟื้นฟูตับ ทีมแพทย์แผนจีนเอินเวย์ ( enwei )ยินดีให้คำแนะนำค่ะ 02-7514399 หรือ Line @enwei ( ARMONY ที่คนตามหากันมาก ดีอย่างไร ท่านที่ประทับใจสามารถแสดงความคิดเห็นกันที่ Line @enwei ) สุดท้ายนี้ขอขอบคุณความรู้ข้อมูลสุขภาพดี ๆ จากบริษัท เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด หากเพื่อน ๆ สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จากช่องทางข้างล่างนี้ ปรึกษาแพทย์แผนจีนและผู้เชี่ยวชาญได้ที่ สายด่วนสุขภาพเอินเวย์ 02-7514399 Line @enwei ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม Website : https://www.enweigroup.co.th/ ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH Facebook : https://www.facebook.com/EnweiGroup/ ขอบคุณข้อมูลจาก enwei https://www.enweigroup.co.th/บทความสุขภาพ/การถนอมตับ-ดูแลภาวะตับ/
  9. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เรียกว่าเป็นโรคยอดฮิตของผู้หญิงเมืองหลวงก็ว่าได้ เนื่องด้วยการจราจรที่ติดขัดบนท้องถนน ส่งผลทำให้สาว ๆ หลายคน ต้องทนกลั้นปัสสาวะกันบ่อย ๆ หรือบางครั้งต้องเดินทางไกลไปต่างจังหวัด ต้องนั่งรถโดยสารสาธารณะเป็นเวลานานมากถึงจะได้เข้าห้องน้ำ และยิ่งหากต้องเจอกับห้องน้ำสาธารณะที่สกปรกด้วยแล้วก็ไม่จะยอมเข้า จึงได้แต่ทนปวดไปก่อน พอได้เข้าห้องน้ำกลับมีอาการปวดท้องน้อย ปัสสาวะแสบขัด ซึ่งเป็นอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นการอักเสบติดเชื้อต่อเนื่องมาจากท่อปัสสาวะ เกิดจากการกลั้นปัสสาวะนาน ๆ บ่อย ๆ หรือทำความสะอาดอวัยวะเพศไม่ดีพอนั่นเอง สาว ๆ หลายคนมองข้ามเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ความจริงแล้วมีอันตรายมากกว่าที่เราคิด วันนี้เรามีความรู้จากทางศูนย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลนครธน มาฝาก เพื่อที่สาว ๆ จะได้รู้ถึงอันตรายของโรคกระเพราะปัสสาวะอักเสบ ที่เกิดจากการติดเชื้อเช่นนี้กันค่ะ คนที่ชอบกลั้นปัสสาวะเอาไว้นาน ๆ กลั้นบ่อย ๆ หรือ บางคนปวดปัสสาวะแต่ไม่สามารถเข้าห้องน้ำได้ ต้องทนปวดไปก่อน พอได้เข้าห้องน้ำกลับมีอาการปวดท้องน้อย ปัสสาวะแสบขัด นั้นคือสัญญาณว่าคุณกำลังเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งโรคนี้หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงอะไร แต่ถ้าหากทุกคนมองข้ามโรคนี้แล้วปล่อยให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดการอักเสบของไตเรื้อรัง และยิ่งไปกว่านั้นอาจทำให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน กลายเป็นการอักเสบติดเชื้อในกระแสเลือด ที่ส่งผลให้เสียชีวิตได้อีกด้วย กระเพาะปัสสาวะทำหน้าที่อะไร กระเพาะปัสสาวะ เป็นอวัยวะที่มีรูปร่างคล้ายบอลลูน ในผู้หญิงจะอยู่หลังกระดูกหัวเหน่าภายในอุ้งเชิงกรานด้านหน้ามดลูก และผู้ชายจะอยู่ด้านหน้าต่อทวารหนัก มีหน้าที่กักเก็บปัสสาวะได้ประมาณ 350-500 มิลลิลิตร ผนังของกระเพาะปัสสาวะมีกล้ามเนื้อเรียบ 3 ชั้น ที่คอของกระเพาะจะมีกล้ามเนื้อหูรูดทวารเบามัดใน (internal sphincter muscle) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อลายอยู่ด้วย กระเพาะปัสสาวะจะทำหน้าที่เป็นที่เก็บสะสมน้ำปัสสาวะ จนกระทั่งมีน้ำปัสสาวะเกิน 250 มิลลิลิตร ก็จะรู้สึกปวด อยากถ่ายปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะจะหดตัว ขับน้ำปัสสาวะออกมา เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม โดยไม่มีอาการปวดหรือแสบใด ๆ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเกิดจากอะไร กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis) เป็นหนึ่งในกลุ่มโรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ (Urinary Tract Infection หรือ UTI) ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียจากบริเวณรอบท่อปัสสาวะ พบได้ในทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศ หรือคนที่นั่งโต๊ะทำงาน เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ปรับเปลี่ยน ทำให้บ่อยครั้งต้องอั้นปัสสาวะเป็นระยะเวลานาน ๆ หรือเร่งรีบเบ่งปัสสาวะซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคนี้ที่พบบ่อยที่สุดในปัจจุบัน ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ส่วนใหญ่มักเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากผู้หญิงมีท่อปัสสาวะสั้นและอยู่ใกล้กับช่องคลอดและทวารหนัก ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะผ่านทางท่อปัสสาวะได้โดยง่าย ขณะที่ผู้ชายมีท่อปัสสาวะยาวกว่าและอยู่ห่างจากทวารหนัก โอกาสที่เชื้อโรคจะผ่านเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะจึงมีน้อยกว่ามาก รวมไปถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ดังนี้ การกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน จะทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี เกิดการสะสมของแบคทีเรียซึ่งนำไปสู่การติดเชื้อได้ง่าย ผู้สูงอายุ เนื่องจากสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศไม่ดี โดยเฉพาะคนที่ป่วยเป็นโรคที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือในผู้ที่ขาดคนดูแลอย่างใกล้ชิด และไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว ดื่มน้ำน้อย ปัสสาวะจึงแช่ค้างหรือคั่งในกระเพาะปัสสาวะ เชื้อโรคและแบคทีเรียจึงเจริญเติบโตได้ดี สตรีมีครรภ์ เมื่ออายุครรภ์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ศีรษะของทารกในท้องกดดันให้เกิดการคั่งของปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะไม่หมด เกิดปัสสาวะแช่ค้างในกระเพาะปัสสาวะ และก่อให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย การดูแลรักษาสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศไม่ดี โดยเฉพาะผู้หญิงหากทำความสะอาดไม่ถูกวิธี ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ผู้ป่วยที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน หากควบคุมโรคได้ไม่ดี จะมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ การสวนล้างช่องคลอดด้วยยาปฏิชีวนะ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน อาการบ่งบอกกระเพาะปัสสาวะอักเสบ อาการแสดงที่สำคัญ คือ ปัสสาวะบ่อย แสบขัด อาจบ่อยมากทุก ๆ 1-2 ชั่วโมงหรือกระปริบประปรอย หรืออาจแสบขัดมาก จนไม่อยากถ่ายปัสสาวะ อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปัสสาวะไม่ค่อยสุด หยด หรือไหลซึมออกมาอีก รู้สึกปวดบริเวณท้องน้อย ขณะปัสสาวะสุด อาจปวดมากแบบบิดเกร็งหรืออาจปวดแบบถ่วงๆ ปัสสาวะมีเลือดหยดออกมาตอนสุดหรือมีเลือดปนในน้ำปัสสาวะ บางรายมีอาการไข้ร่วมด้วย ปัสสาวะขุ่น ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น กลางคืนต้องตื่นลุกขึ้นมาปัสสาวะเกิน 2 ครั้งขึ้นไป การตรวจและวินิจฉัยโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ร่วมกับการตรวจปัสสาวะถ้าตรวจพบเม็ดเลือดขาวในน้ำปัสสาวะ ก็วินิจฉัยได้เลยว่าเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หากมีการติดเชื้อแพทย์อาจส่งน้ำปัสสาวะเพื่อการเพาะเชื้อ ในกรณีที่เป็นซ้ำบ่อย ๆ หรือมีอาการรุนแรง อาจจำเป็นต้องตรวจอัลตราซาวด์หรือส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะเพิ่มเติมว่ามีความผิดปกติในกระเพาะปัสสาวะหรือไม่ เช่น มีนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ หรือนิ่วในไต เป็นต้น การรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โดยทั่วไปการรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ คือ การให้ยาปฏิชีวนะประมาณ 3-5 วันขึ้นอยู่กับชนิดของยา ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงอาจต้องรับประทานยาปฏิชีวนะนาน 7-10 วัน ร่วมกับการรักษาตามอาการ เช่น ยาแก้ปวด ยากลายการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น และ ให้ดื่มน้ำเสมอๆ วันละ 2.5 ลิตรต่อวัน (24 ชั่วโมง) ป้องกันไม่ให้เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบอย่างไร โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบสามารถป้องกันได้ด้วยการลดความเสี่ยงของโรคลง อาทิ ไม่ควรกลั้นปัสสาวะโดยไม่จำเป็น การดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน รักษาสุขอนามัยบริเวณอวัยวะเพศด้วยการทำความสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง ควบคุมโรคเบาหวานที่เป็นปัจจัยเสี่ยง ไม่สวนล้างช่องคลอดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และหลังมีเพศสัมพันธ์ ควรปัสสาวะทิ้งและทำความสะอาดร่างกายทันที เป็นต้น หากคุณต้องการติดต่อเพื่อเข้ารับการรักษา หรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมศูนย์ศัลยกรรม ของโรงพยาบาลนครธน มีความพร้อมเป็นอย่างมากมีบุคลากรทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไว้รองรับและคอยช่วยเหลือให้คำปรึกษา สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลก่อนได้ตามลิงค์ด้านล่างได้เลยค่ะ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.nakornthon.com/article/detail/โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
  10. ภาวะลองโควิด ( Long COVID ) อาการหลงเหลือหลังติดเชื้อโควิด ซึ่งหลาย ๆ คนหายป่วยโควิดแล้ว แต่กลับตามมาด้วยกลุ่มอาการผิดปกติที่กำลังบั่นทอนสุขภาพและลดทอนคุณภาพการใช้ชีวิต ผู้ที่มีภาวะลองโควิด ( Long COVID ) จึงต้องแข่งกับเวลา เร่งซ่อมแซมฟื้นฟูร่างกายเพื่อขจัดอาการลองโควิด ( Long COVID ) เพราะยิ่งปล่อยทิ้งไว้นาน ร่างกายก็จะยิ่งได้รับความเสียหายมากขึ้นจนเยียวยายาก ทีมแพทย์แผนจีนเอินเวย์ ( enwei ) จึงได้สรุป 10 อาการที่พบบ่อย ซึ่งเป็นวิธีเช็กอาการลองโควิด ( Long COVID ) ได้ง่าย ๆ ให้คุณสามารถตรวจเองได้ในเบื้องต้นว่า เมื่อเชื้อหายแล้ว โควิดยังทิ้งอะไรไว้ให้กับร่างกายคุณบ้าง เหนื่อยง่าย หายใจไม่เต็มอิ่ม ไอเรื้อรัง ปวดเมื่อยตามตัว ปวดตามข้อและกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง หน้าตาอิดโรย การรับรสและการได้กลิ่นผิดปกติ รู้สึกเหมือนมีไข้ ปวดศีรษะ มึนศีรษะ นอนหลับยาก หลับไม่ลึก หลงลืมง่าย ขาดสมาธิ สมองล้า มึนงงบ่อย เครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า ท้องอืด ท้องเสีย อาหารไม่ค่อยย่อย ไม่ค่อยอยากอาหาร ใจสั่น แน่นหน้าอก 87% ของผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด เมื่อหายป่วยโควิดแล้ว ร่างกายจะไม่เหมือนเดิม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อ ซึ่งเรียกกันว่าภาวะลองโควิด ( Long COVID ) โดยเฉพาะผู้ที่ภูมิคุ้มกันต่ำ ผู้สูงอายุ ผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ เด็ก ผู้ที่มีภาวะเครียดหรือซึมเศร้า ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่นอนดึก คุณภาพการนอนหลับไม่ดีหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ อาการลองโควิด ( Long COVID ) ก็ยิ่งจะเป็นมากขึ้น ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมในระยะยาว ในทัศนะการแพทย์แผนจีน สำหรับผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด โดยเฉพาะกลุ่มที่มีภาวะลองโควิด ( Long COVID ) ร่างกายควรได้รับการฟื้นฟูซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน ปรับปรุงและเสริมสร้างพื้นฐานสุขภาพเชิงบูรณาการ เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาสมดุลแข็งแรง เอินเวย์ ( enwei ) ได้คัดเลือกยาสมุนไพรจีนสูตรเฉพาะ ซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญ เช่น Astragali และ Nuzhenzi เป็นหมวดยาชั้นสูงซึ่งมีประวัติการใช้ในวงการแพทย์แผนจีนมากว่า 2,000 ปี ได้ศึกษาวิจัยทดลองทางคลินิกตามหลักการแพทย์สากลและได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการสกัด ให้อยู่ในรูปแบบเป็นสารสกัดเข้มข้น ควบคุมสารออกฤทธิ์ได้อย่างคงที่และแม่นยำ ซึ่งมีกลไกการออกฤทธิ์สำคัญ ดังนี้ ■ บำรุงปอด ฟื้นฟูเซลล์ปอดให้แข็งแรง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด(養肺健肺) ■ ปรับความสมดุลการไหลเวียนของพลังลมปราณและเลือด (活血通絡) ■ บำรุงม้ามซึ่งเป็นแหล่งของการสร้างพลังลมปราณ ที่เป็นเกราะป้องกันให้กับร่างกาย (扶助正气) ■ เสริมสร้างพลังลมปราณของไต ปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกัน (補腎益氣 ) ■ ปรับปริมาณและคุณภาพของเม็ดเลือดต่าง ๆ ให้สมบูรณ์ (補血養血) ■ ระบายพลังลมปราณของตับเพื่อให้อารมณ์ผ่อนคลาย ลดอาการเครียด วิตกกังวล ช่วยปรับคุณภาพการนอนหลับให้ดี (疏肝解郁) รักษาภาวะลองโควิด ( Long COVID ) เพื่อให้ผู้ป่วยกลับมามีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ หากภาวะลองโควิด ( Long COVID ) กำลังทำให้คุณกังวลใจอยู่ สนใจดูแลรักษาจากต้นเหตุโดยใช้วิธีของการแพทย์แผนจีนหรือยาสมุนไพรจีนสมัยใหม่ สามารถปรึกษาทีมแพทย์แผนจีนเอินเวย์ ( enwei ) ได้ค่ะ 02-7514399 LINE @enwei ( ASLY GRANULE ที่หลาย ๆ คนถามหากัน มีดีอะไร เพื่อนๆที่หายจากอาการลองโควิดมาแล้ว สามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ที่ Line @ enwei ) ขอขอบคุณความรู้ข้อมูลสุขภาพดี ๆ จากบริษัท เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด หากเพื่อน ๆ สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จากช่องทางข้างล่างนี้ ปรึกษาแพทย์แผนจีนและผู้เชี่ยวชาญได้ที่ สายด่วนสุขภาพเอินเวย์ 02-7514399 Line @enwei ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม Website : https://www.enweigroup.co.th/ ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH Facebook : https://www.facebook.com/EnweiGroup/ ขอบคุณข้อมูลจาก enwei https://www.enweigroup.co.th/บทความสุขภาพ/ภาวะลองโควิด/
  11. ในปัจจุบัน ชาวเอเชียกว่า 40% มีปัญหาด้านคุณภาพการนอนหลับ คุณภาพการนอนหลับที่ดี เป็นหลักประกันพื้นฐานของการมีสุขภาพที่แข็งแรง หากคุณเริ่มนอนหลับยาก มีอาการนอนหลับไม่สนิท ตื่นบ่อย ตื่นง่าย ตื่นแล้วหลับต่อยาก ฝันบ่อย ตื่นเช้าไม่สดชื่น ง่วงนอนระหว่างวันติดต่อกันเพียง 3 สัปดาห์ นับว่าคุณมีแนวโน้มจะเข้าสู่การเป็นโรคนอนไม่หลับเรื้อรังแล้ว โรคนอนไม่หลับเรื้อรังหรืออาการนอนหลับไม่สนิทเป็นบ่อเกิดโรคและลดทอนคุณภาพการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก หากไม่ได้รักษาให้ถูกวิธีหรือหากปล่อยทิ้งไว้นาน จะยังเพิ่มความรุนแรงของโรคประจำตัวที่เป็นอยู่แล้ว และเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าหรือวิตกกังวลด้วย ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะพึ่งยานอนหลับ หรือต่อให้ทานยานอนหลับแล้วบางทีก็ยังนอนหลับไม่ได้อยู่ดี จึงสร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ทั้งยังต้องกังวลกับผลข้างเคียงของยานอนหลับที่จะตามมา ในทางการแพทย์แผนจีน โรคนอนไม่หลับเรื้อรังหรืออาการนอนหลับไม่สนิทนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่จะมีสาเหตุหลักที่พบบ่อยมาก คือ หยินหยางเสียสมดุล ร่วมกับภาวะลมปราณในตับอุดกั้น โดยเฉพาะในคนที่มีอาการเครียด วิตกกังวล คิดมาก หงุดหงิด โมโห โกรธง่าย ใจร้อน ก็ยิ่งจะส่งผลให้ตับร้อนดั่งไฟ ซึ่งตามธรรมชาติแล้ว ความร้อนจะลอยขึ้นสู่ด้านบน ไปกระทบต่อหัวใจ ศีรษะ จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพการนอนหลับ นอกจากนี้ อาการนอนหลับไม่สนิทหรือโรคนอนไม่หลับเรื้อรัง เกิดได้จากการนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลให้พลังลมปราณและเลือดพร่องลง หัวใจจึงขาดการหล่อเลี้ยง ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมีอาการวิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย ใจสั่น กระสับกระส่าย หน้าซีดร่วมด้วย และผู้ที่พักผ่อนไม่เป็นเวลา นาน ๆ ไปก็จะเริ่มมีอาการนอนหลับไม่สนิท จนกลายเป็นโรคนอนไม่หลับเรื้อรังได้ในที่สุด การแพทย์แผนจีน จึงเน้นการรักษาโรคนอนไม่หลับเรื้อรังหรืออาการนอนหลับไม่สนิทจากต้นเหตุ เอินเวย์ ( enwei )ได้เลือกใช้ยาสมุนไพรจีนสูตรเฉพาะ ซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญ เช่น Zhenzhumu Suanzaoren Baihe Siwujia Shouwuteng Dihuang Wuweizi Maidong Xuanshen ฯลฯ ผ่านการศึกษาวิจัยทดลองทางคลินิกตามหลักการแพทย์สากลและได้ใช้เทคโนโลยีการสกัดที่ทันสมัย ให้อยู่ในรูปแบบเป็นสารสกัดเข้มข้น ควบคุมสารออกฤทธิ์ได้อย่างคงที่และแม่นยำ ซึ่งมีกลไกการออกฤทธิ์สำคัญ ดังนี้ ■ ระบายพลังลมปราณในตับ ■ บำรุงพลังหยิน ระบายความร้อน ■ สงบอารมณ์และจิตใจ จากการศึกษาทางการแพทย์และเภสัชวิทยาในปัจจุบันยังพบว่า ยาสมุนไพรจีนรักษาโรคนอนไม่หลับเรื้อรังหรืออาการนอนหลับไม่สนิทกลุ่มนี้ยังช่วยปรับสมดุลสาร Serotonin GABA และสารเคมีสำคัญในสมอง เพื่อปรับวงจรการนอนหลับให้กลับสู่ภาวะปกติ อีกทั้งยังบรรเทาอาการเครียด วิตกกังวลและซึมเศร้าด้วย การรักษาจากต้นเหตุนี้ โรคนอนไม่หลับเรื้อรังหรืออาการนอนหลับไม่สนิทก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น คุณภาพการนอนหลับก็จะค่อย ๆ กลับไปสู่ปกติ คุณจึงหลับง่าย หลับสนิท หลับอย่างมีความสุขตลอดทั้งคืน ตื่นเช้ามาสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีชีวิตชีวา พร้อมเริ่มต้นวันใหม่ที่สดใส เห็นผล 94% ไม่พึ่งยานอนหลับ หมดปัญหาด้านเห็นผลล่าช้า การดื้อยาหรือผลข้างเคียงใด ๆ นอนหลับดี สุขภาพแข็งแรง หากคุณกำลังทุกข์ใจกับอาการนอนหลับไม่สนิทหรือโรคนอนไม่หลับเรื้อรัง อยากรักษาจากต้นเหตุโดยการใช้วิธีของการแพทย์แผนจีนหรือยาสมุนไพรจีน ปรึกษาทีมแพทย์แผนจีน เอินเวย์ ( enwei ) ได้ค่ะ 02- 7514399 Line @enwei ( ALLEN มีดีอะไร ทำไมคนจึงถามหากันมาก สำหรับท่านที่มีคุณภาพการนอนหลับที่ดีแล้ว สามารถบอกเล่าประสบการณ์ หรือแสดงความคิดเห็นกันได้ที่ Line @enwei ) สุดท้ายนี้ขอขอบคุณข้อมูลความรู้สุขภาพดี ๆ จาก บริษัท เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด หากเพื่อน ๆ สนใจศึกษาเพิ่มเติมสามารถติดตามได้จากช่องทางต่าง ๆ ข้างล่างนี้นะคะ ปรึกษาแพทย์แผนจีนและผู้เชี่ยวชาญได้ที่ สายด่วนสุขภาพเอินเวย์ 02-7514399 Line @enwei ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม Website : https://www.enweigroup.co.th/ ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH Facebook : https://www.facebook.com/EnweiGroup/ ขอบคุณข้อมูลจาก enwei https://www.enweigroup.co.th/บทความสุขภาพ/นอนไม่หลับเรื้อรัง/
  12. สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงอย่างน้องหมาน้องแมว คงทราบกันดีว่าพฤติกรรมของน้อง ๆ เค้าที่มีส่วนคล้าย ๆ กันอยู่นั่นก็คือ มีนิสัยขี้เล่น ชอบวิ่งซุกซน ชอบกัด ชอบแทะของเล่น แล้วนอนเกลือกกลิ้งตามพื้นบ้านให้เห็นเป็นประจำ สำหรับของเล่นหมาแมว ก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้เลย เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้น้องหมาน้องแมวได้ใช้ทำกิจกรรม เป็นวิธีช่วยคลายเครียดให้กับน้อง ๆ ทำให้ไม่รู้สึกเหงา ดังนั้นของเล่นหมาแมวจึงต้องมีการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่า น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ที่คุณใช้กับ ของเล่นของน้องหมา น้องแมว ปลอดภัยแล้วจริงหรือ ? ฉะนั้นเราควรพิถีพิถันในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเพื่อใช้ในการทำความสะอาด และที่สำคัญต้องปลอดภัย ไม่ระคายเคืองกับผิวหมาแมว หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกน้ำยาอเนกประสงค์แบบไหนดี เรามีคำแนะนำ น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ทำให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่ายและสะดวกกว่าที่เคย เพียงฉีดผลิตภัณฑ์ลงบนพื้นผิวที่ต้องการทำความสะอาด แล้วเช็ดออกโดยไม่ต้องเช็ดน้ำซ้ำ ผลลัพธ์ที่ได้คือพื้นผิวสะอาด ปราศจากคราบสกปรก โดยไม่ทิ้งสารเคมีที่เป็นอันตราย และย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ ปลอดภัยต่อสุขภาพ สามารถใช้ได้กับหลากหลายพื้นผิวเช่น ไม้ ลามิเนต กระเบื้อง พลาสติก กระจก แก้ว หรือเหล็ก วิธีใช้น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ขั้นที่ 1: ฉีดผลิตภัณฑ์ลงไปบนพื้นผิวที่ต้องการทำความสะอาด สำหรับบริเวณที่เปื้อนมาก หรือมีคราบ และทิ้งไว้ 5 ถึง 10 นาที ขั้นที่ 2: เช็ดออกด้วยผ้า โดยไม่ต้องเช็ดน้ำซ้ำ สำหรับพื้นผิวที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ฉีดน้ำยาลงบนผ้าหรือฟองน้ำสะอาด แล้วเช็ดทำความสะอาดขจัดคราบสิ่งสกปรกและคราบอันไม่พึงประสงค์ จนคราบหมดไป โดยไม่ต้องเช็ดน้ำซ้ำ เพียงเท่านี้พื้นผิวที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ก็จะสะอาด อ่อนโยน ปลอดภัย โดยไม่ทิ้งสารเคมีอันตรายตกค้าง ทำความสะอาดบ้านแบบไร้สารเคมีอันตราย ด้วยน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด มั่นใจไร้กังวล ปลอดภัยต่อสุขภาพของทุกคนในบ้านและสัตว์เลี้ยงของคุณ มาพร้อม 2 กลิ่นหอมที่เลือกได้ตามใจชอบ กลิ่นเกรฟฟรุ๊ต หอมสดชื่น กลิ่นยูคาลิปตัส หอมผ่อนคลาย สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม และเลือกซื้อสินค้าได้ที่https://www.pipperstandard.com/product/ทำความสะอาดอเนกประสงค์/ https://www.facebook.com/pipperstandard/
  13. สำหรับบ้านใครที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงไว้ในบ้าน อย่างเช่นน้องหมาน้องแมว การดูแลบ้านเรือนให้สะอาดอยู่เสมอนับเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะบริเวณพื้นบ้านต้องดูแลให้สะอาดอยู่ตลอดเวลา เพราะไหนจะเรื่องขนที่มักจะร่วงอยู่ตามพื้นตลอดเวลา ยังมีเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ของน้องหมาน้องแมวอีก ไอเทมทำความสะอาดที่จะขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นแต่ถึงแม้บ้านของคุณจะดูสะอาดยังไง แต่เรื่องความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงก็ต้องมาก่อน ทางที่ดีเราควรเลือกใช้ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นธรรมชาติที่ไม่มีสารเคมีอันตราย เพราะบางทีน้องหมาน้องแมวอาจจะเผลอเลียผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นยังไม่แห้ง ซึ่งสารเคมีเหล่านั้นอาจจะทำให้เกิดอันตรายตามมาได้ วันนี้เรามีไอเทมจากธรรมชาติที่คนเลี้ยงสัตว์ต้องมี!! มาแนะนำ นั่นคือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นจากธรรมชาติแบรนด์พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ช่วยให้พื้นบ้านของคุณสะอาด ให้น้องหมาน้องแมวเลียพื้นปลอดภัยอย่างไร้กังวล ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยง รับรองว่าถูกอกถูกใจ คนรักสัตว์สุด ๆ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นธรรมชาติ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติเอมไซน์ น้ำหมักสับปะรดและออร์แกนิคอโลเวร่า มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดพื้นผิว สามารถใช้ได้กับพื้นหลากหลายประเภท เช่น ไม้ กระเบื้อง ลามิเนต หรือ กระเบื้องยาง พื้นสะอาดโดยไม่ทิ้งสารเคมีตกค้างหรือ คราบเหนียวบนพื้น ปราศจากสารเคมีอันตราย และผ่านการทดสอบการแพ้และการระคายเคืองโดยแพทย์ผิวหนัง จึงปลอดภัยต่อผิวเด็กเล็ก และสัตว์เลี้ยง กลิ่นหอมลาเวนเดอร์อ่อน ๆ จากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ100% ทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายได้กันทั้งครอบครัว วิธีใช้น้ำยาถูพื้นธรรมชาติ พิพเพอร์ สแตนดาร์ด ขั้นที่ 1: ปริมาณการใช้งานของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้น 1 ฝา (25มล.) ต่อ น้ำ 5 ลิตร ขั้นที่ 2: ใช้ผ้าหรือม๊อบทำความสะอาดชุบน้ำที่ผสมผลิตภัณฑ์ เช็ดทำความสะอาด ในบริเวณที่ต้องการ หรือ บริเวณที่น้องหมาน้องแมวชอบไปนอน ไอเทมดี ๆ ที่ไร้สารเคมีอันตรายแบบนี้ บ้านไหนได้ลองก็ต้องติดใจกันทุกคน ไม่ว่าบ้านจะเลอะบ่อยแค่ไหนก็เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย ๆ ไม่จำเป็นต้องเช็ดด้วยน้ำเปล่าตามอีกครั้ง แถมปลอดภัยต่อเด็ก และทุกคนในครอบครัว หรือเเม้แต่สัตว์เลี้ยงในบ้าน สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม และเลือกซื้อสินค้าได้ที่ https://www.pipperstandard.com/product/ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื/ https://www.facebook.com/pipperstandard/
  14. ต้องยอมรับเลยว่าลอตเตอรี่ ออนไลน์ช่วงนี้มีกระแสที่ดีมาก ๆ ผู้คนเริ่มนิยมหันมาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาที่ขายได้ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป แถมยังมีรางวัลที่ 1 และมีรางวัลใหญ่ ๆ อยู่ในตลาดลอตเตอรี่ออนไลน์เพียบ เรียกได้ว่าที่ผ่านมามีผู้โชคดีถูกรางวัลติดต่อกันมาหลายงวดแล้ว จากการซื้อลอตเตอรี่ออนไลน์ หลายคนจึงสนใจที่จะซื้อลอตเตอรี่ ออนไลน์กับทางหงษ์ทอง เพราะมองเห็นถึงโอกาสที่จะถูกรางวัลมีสูง ซื้อที่นี่มีสิทธิ์ลุ้นเป็นผู้โชคดีเป็นเจ้าของรางวัลใหญ่ได้ไม่ยาก เพราะแบบนี้จึงไม่แปลกใจที่หงษ์ทอง ลอตเตอรี่ออนไลน์ ถึงขายเกลี้ยงแผง ขายหมดทุกงวด เลือกซื้อลอตเตอรี่ออนไลน์ ทำไมต้องเป็นหงษ์ทอง? มาทำความรู้จักให้มากขึ้นกันค่ะ หงษ์ทอง ลอตเตอรี่ออนไลน์ ผู้จัดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยการนำลอตเตอรี่ใบจริง มาเข้าระบบการจำหน่ายบนเว็บไซต์ ทำให้สามารถเลือกซื้อได้ง่ายทางออนไลน์ เป็นบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย มีทีมงานมืออาชีพคอยให้บริการช่วยเหลือในทุกช่องทาง ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อลูกค้าทำการสั่งซื้อลอตเตอรี่ ออนไลน์จากหงษ์ทอง ลอตเตอรี่ใบนั้น ๆ จะถูกเก็บไว้ด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดตลอด 24 ชั่วโมง มีการจัดเก็บข้อมูลการซื้อลอตเตอรี่แต่ละใบเข้าสู่ระบบ การันตีได้ว่าจะไม่มีวันสูญหาย แต่หากเกิดกรณีลอตเตอรี่หาย หงษ์ทอง ลอตเตอรี่ออนไลน์ ยินดีจ่ายเงิน 3 เท่าของรางวัลที่ถูก!!!! หงษ์ทอง ลอตเตอรี่ออนไลน์ มีสลากใบจริงทุกใบ คุณลูกค้าสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวคุณเอง โดยคุณลูกค้าที่สั่งซื้อลอตเตอรี่กับหงษ์ทอง แล้วแจ้งความประสงค์ขอรับใบจริง ให้ส่งถึงบ้าน ทางหงษ์ทองพร้อมจัดส่งให้คุณทันทีทางไปรษณีย์ EMS สบายใจได้ไม่ต้องกลัวโดนโกง!! ซื้อลอตเตอรี่ ออนไลน์ แล้วได้รับลอตเตอรี่ใบจริง ต้องที่หงษ์ทอง ลอตเตอรี่ออนไลน์เท่านั้นค่ะ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hongthongonline.com/
  15. สาเหตุที่ทำให้เราบาดเจ็บ รู้สึกปวดและเมื่อยกล้ามเนื้อ หลังจากออกกำลังกาย อธิบายให้ เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ เมื่อเราออกกำลังกายแล้ว เส้นใยกล้ามเนื้อจะขยายและเกิดการสลายหรือถูกทำลาย เป็นผลทำให้เกิดการอักเสบของเซลล์ต่าง ๆ และร่างกายเราจะพยายามรักษาสภาพให้คืนกลับมาดังเดิม โดยการซ่อมแซมเซลล์ ซึ่งการบาดเจ็บทั้งหมดภายในเซลล์นี้ ร่างกายจะตอบสนองมาให้เรารับรู้ ในรูปแบบของอาการปวดและเมื่อยที่เราเป็นนั่นเองค่ะ หากท่านใดกำลังมีอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง ปวดบ่าไหล่ หลังจากเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายอยู่ตอนนี้ เราขอแนะนำให้นวดด้วยน้ำมัน TKOเป็นน้ำมันมวยบรรเทาปวดเมื่อย คลายกล้ามเนื้อ ที่ทุกบ้านต้องมี รับรองว่าคุณจะติดใจจนต้องบอกต่อคนข้าง ๆ ถึงผลลัพธ์อันน่าทึ่งของผลิตภัณฑ์นี้ มาดูส่วนผสมเด่น ๆ ในน้ำมันคลายกล้ามเนื้อ TKO กันเลยค่ะ ส่วนผสมเด่น ๆ ในน้ำมันคลายกล้ามเนื้อแก้ปวดเมื่อยTKO 1.Methyl salicylate เป็นยาระงับปวดชนิดใช้เฉพาะที่สำหรับบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ ที่ไม่รุนแรง เช่น ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อจากภาวะตึงหรือเคล็ด ข้อต่ออักเสบ ช้ำ หรือปวดหลัง ปวดบ่า ปวดคอ เป็นต้น โดยยานี้จะช่วยให้รู้สึกเย็นบริเวณผิวหนังในตอนแรก จากนั้นจะค่อย ๆ อุ่นขึ้น 2.น้ำมันไพล เป็นหนึ่งสมุนไพรที่หมอแผนโบราณใช้นวดรีดเส้น เพื่อบรรเทาปวด เป็นน้ำมันแก้ปวดเมื่อยน้ำมันคลายเส้น น้ำมันคลายกล้ามเนื้อ ช่วยให้ผู้ใช้ฟื้นตัวเร็ว ไม่ระบมหลังการนวด สรรพคุณทั่วไปและเด่น ๆ บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย บาดเจ็บ ได้อย่างฉับพลัน ดั่งสโลแกนที่ว่า "น้ำมัน TKOชัยชนะที่เด็ดขาดทุกเกมส์การแข่งขัน" วิธีใช้ น้ำมันคลายกล้ามเนื้อแก้ปวดเมื่อยTKO ควรทา ก่อน หรือ หลัง ออกกำลังกาย โดยการใช้ทานวดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกาย 15-30 นาที หรือใช้เมื่อทำการวอร์มอัพก่อนเล่นกีฬา ก่อนลงแข่งขัน ช่วยทำให้กล้ามเนื้อตื่นตัว ทำให้กล้ามเนื้อร้อนขึ้นช่วยยืดเยียดกล้ามเนื้อที่ตึงให้คลายตัว หากทำเช่นนี้สม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดจากการเล่นกีฬา และทุกกิจกรรมที่ต้องใช้กล้ามเนื้อหนัก ๆ ได้ค่ะ facebook: https://www.facebook.com/น้ำมันมวย-TKO-106565604958116/?ref=pages_you_manage
  16. การวอร์มอัพหรือการอบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกาย บางคนไม่ทำ เพราะคิดว่าไม่จำเป็น จึงทำให้กล้ามเนื้อไม่ได้ถูกยืดเหยียดอย่างเหมาะสม และเป็นสาเหตุให้เกิดการบาดเจ็บ หรือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ในระหว่างออกกำลังกายได้ง่าย เมื่อเราวอร์มอัพหรืออบอุ่นร่างกายจึงควรนวดด้วยน้ำมันมวย เนื่องจากอุณหภูมิของร่างกายจะสูงขึ้น และอุณหภูมิกล้ามเนื้อสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้กล้ามเนื้อสามารถหดและยืดตัวได้ง่ายขึ้น เพื่อให้เราสามารถออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ และลดโอกาสการเกิดอาการบาดเจ็บ ของกล้ามเนื้อนั่นเองและ เราขอแนะนำน้ำมันแก้ปวดเมื่อย TKO เป็นน้ำมันมวยรูปแบบน้ำ น้ำมันมวยนี้มีกลิ่นเฉพาะตัว ที่เรามักจะพบเห็นได้ในงานแข่งกีฬาต่าง ๆ โดยนักกีฬาจะใช้ถูนวดตามร่างกายก่อนเริ่มแข่งขัน ซึ่งเราอาจจะเคยสงสัยกันว่า ในน้ำมันมวยจะมีสรรพคุณอย่างไร และมีส่วนประกอบใดบ้าง เราจะมาทำความรู้จักกับน้ำมันแก้ปวดเมื่อยTKO ตัวนี้กันค่ะ น้ำมัน TKO มีส่วนผสมอะไรบ้าง ส่วนผสมเด่น ๆ ในน้ำมันแก้ปวดเมื่อย TKO 1.Methyl salicylate เป็นยาระงับปวดชนิดใช้เฉพาะที่สำหรับบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ ที่ไม่รุนแรง เช่น ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อจากภาวะตึงหรือเคล็ด ข้อต่ออักเสบ ช้ำ หรือปวดหลัง ปวดบ่า ปวดคอ เป็นต้น โดยยานี้จะช่วยให้รู้สึกเย็นบริเวณผิวหนังในตอนแรก จากนั้นจะค่อย ๆ อุ่นขึ้น 2.น้ำมันไพล เป็นหนึ่งสมุนไพรที่หมอแผนโบราณใช้นวดรีดเส้น เพื่อบรรเทาปวด เป็นน้ำมันแก้ปวดเมื่อยน้ำมันคลายเส้น น้ำมันคลายกล้ามเนื้อ ช่วยให้ผู้ใช้ฟื้นตัวเร็ว ไม่ระบมหลังการนวด สรรพคุณทั่วไปและเด่น ๆ ที่เหมาะกับนักกีฬาคือ บรรเทาอาการปวด อาการบาดเจ็บโดยฉับพลันที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนและระหว่างการแข่งขัน นวดเพื่อคลายเส้น คลายกล้ามเนื้อก่อน นักกีฬาใช้ทาก่อนลงสนาม นักมวยทาก่อนขึ้นชก ด้วยกลิ่นหอมของสมุนไพรเฉพาะตัว ในสูตรของน้ำมัน TKOเพียงแค่นักกีฬาทาแล้วได้กลิ่นของน้ำมันTKOจะทำให้ได้ความรู้สึกคึกคัก ฮึกเหิมมาก ๆ จนอยากลงแข่งขันเดี๋ยวนี้เลย เพราะได้อารมณ์พร้อมสู้ พร้อมลงสนามเพื่อกำชัยชนะ พร้อมน็อคเอาท์คู่ต่อสู้ทันที ดั่งสโลแกนที่ว่า "น้ำมัน TKO ชัยชนะที่เด็ดขาดทุกเกมส์การแข่งขัน" น้ำมัน TKOครองใจผู้รักสุขภาพ บรรเทาอาการปวดเมื่อย ให้หายดีเป็นปลิดทิ้ง เมื่อทานวด อาการจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บรรเทาและรักษาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ปวดกระดูก ปวดหลัง ปวดเอว แม้แต่คนทำงานหนักมีอาการปวดเมื่อยทั่วไป น้ำมันTKOช่วยคลายอาการปวดเมื่อย หรือบาดเจ็บได้ แต่ก็ไม่สามารถทดแทนการอบอุ่นร่างกาย หรือยืดกล้ามเนื้อโดยตรงได้ ฉนั้น ไม่ว่าจะออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาในรูปแบบไหนก็ตาม จึงควรทาควบคู่กับการทำ ท่าวอร์มอัพ ก่อนทุกครั้งไปนะคะ ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.facebook.com/น้ำมันมวย-TKO-106565604958116/?ref=pages_you_manage
  17. มีผู้หญิงหลายคน เวลามีประจำเดือนทีไร มีความทุกข์ทรมานกับอาการปวดท้องน้อยเป็นอย่างมาก เป็นสิ่งที่น่าเห็นอกเห็นใจอย่างยิ่ง อาการแบบนี้ถ้าไม่เกิดกับใครจะไม่รู้สึกหรอก แต่ก็มีผู้หญิงบางคนไม่เคยปวดท้องน้อยมาก่อนเลย ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการมีประจำเดือนหรือไม่มีประจำเดือน ก็ไม่เคยปวดเลยสบายดีมาตลอด แต่มาช่วงนี้ทำไมเกิดปวดขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่ อาการปวดท้องน้อยในผู้หญิงเป็นอาการหนึ่งที่พบได้บ่อย ๆ ที่ทำให้ต้องมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจและรักษาโรคทางนรีเวช เป็นอาการที่สร้างความกังวลใจให้ได้เรื่อย ๆ โดยเฉพาะคนที่มีอาการปวดอยู่ตลอด ๆ ปวดเรื้อรังไม่หายสักที ดังนั้นเราจึงควรมารู้จักกับอาการปวดท้องน้อยกันสักหน่อย จากทางศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลนครธน เพื่อจะได้ทราบแนวทางทั้งการตรวจวินิจฉัยรวมถึงแนวทางการรักษาด้วย ปวดท้องน้อย เป็นอาการที่ผู้หญิงหลายคนมักจะมองข้ามอยู่บ่อยครั้ง เพราะคิดว่าเป็นอาการปวดท้องทั่ว ๆ ไป คล้ายกับการปวดประจำเดือนที่ไม่นานก็หาย แต่หากปวดเฉียบพลัน ปวดท้องประจำเดือนมาก และเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ปวดบ่อยแบบไม่ทราบสาเหตุ จนไม่สามารถทำกิจวัตรประจำอื่นได้ นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคทางนรีเวชได้ อาการปวดท้องน้อยเป็นอย่างไร? อาการปวดท้องน้อย (pelvic pain) ในผู้หญิง เป็นอาการปวดตั้งแต่บริเวณใต้สะดือลงไปจนถึงหัวหน่าว มีทั้งการปวดแบบเฉียบพลัน และการปวดแบบเรื้อรัง อาจจะสัมพันธ์หรือไม่สัมพันธ์กับประจำเดือนได้ แต่อาการปวดท้องอย่างไรที่ควรพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาโรคเพิ่มเติม ปวดเฉียบพลัน ทันที และมีอาการรุนแรง อาการปวดไม่ดีขึ้นหลังจากทานยาแก้ปวด อาการปวดที่เป็นนานเรื้อรัง รบกวนชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเป็นมานานกว่า 6 เดือน อาการปวดที่มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้ คลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะแสบขัด มีประวัติมีบุตรยาก ปวดท้องประจำเดือนมาก และเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสาเหตุของอาการปวดนั้นมีได้ทั้งจากโรคเกี่ยวกับลำไส้ ทางเดินอาหาร ระบบทางเดินปัสสาวะ กล้ามเนื้อ หรืออาจเป็นมาจากโรคทางนรีเวช เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลุกเจริญผิดที่ ถุงน้ำ (cyst) รังไข่ โรคทางนรีเวชที่พบบ่อยและเกี่ยวข้องกับอาการปวดท้องน้อย เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการปวดท้องประจำเดือน โดยเฉพาะในคนที่มีประวัติมีบุตรยาก ปวดเรื้องรังนานกว่า 6 เดือน ปวดหน่วงขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือ มีคลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด ระหว่างมีประจำเดือน กลุ่มโรคเยื่อบุโพรงมดลุกเจริญผิดที่ยังรวมถึงโรค chocolate cyst อีกด้วย เนื้องอกมดลูก (Myoma uteri) อาการปวดมักเกิดจากการที่ก้อนเนื้องอกใหญ่จนมีการกดเบียดอวัยวะข้างเคียง การบิดขั้วของเนื้องอกจะทำให้เกิดการปวดที่รุนแรง ปวดท้องประจำเดือน หรือ มีเนื้อตายภายในเนื้องอก เนื้องอก หรือ ถุงน้ำรังไข่ (Ovarian tumor) อาจเกิดการบิดขั้ว แตก รั่ว ของถุงน้ำ จะทำให้เกิดอาการปวดท้องแบเฉียบพลัน อาจมีเลือดออกในช่องท้อง หรือ ติดเชื้อได้ หากถุงน้ำมีขนาดใหญ่มากจะทำให้เกิดอาการแน่นท้อง จุก เสียด ทานอาหารอิ่มง่ายได้ การตรวจและการวินิจฉัย การซักประวัติและการตรวจร่างกาย การตรวจภายใน การตรวจด้วยอัลตราซาวด์ การส่องกล้องเพื่อดูพยาธิสภาพบริเวณอุ้งเชิงกราน การรักษา การให้ยาแก้ปวด การรักษาด้วยฮอร์โมน การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง หรือ การผ่าตัดส่องกล้อง ดังนั้น หากคุณผู้หญิงเกิดมีอาการปวดท้องน้อยขึ้นมาอีก ทั้งแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง ถ้ารักษาเบื้องต้นด้วยตนเองแล้วไม่ดีขึ้น ก็อย่ารอทิ้งให้อาการปวดเรื้อรังเนิ่นนานเกินไป แวะปรึกษากับแพทย์หรือมารับการรักษากับทางศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลนครธนเสียแต่เนิ่น ๆ นะคะ จะเป็นการช่วยคัดกรองโรคทางนรีเวชเหล่านี้ หากตรวจพบได้เร็ว รักษาได้ไว ก็จะช่วยให้คุณกลับมามีสุขภาพที่ดีเหมือนเดิม ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลนครธนhttps://www.nakornthon.com/article/detail/ปวดท้องน้อยในผู้หญิง-สัญญาณเตือนของโรคทางนรีเวช
  18. แม้การออกกำลังกายจะส่งผลดีต่อร่างกาย แต่การออกกำลังกายที่หนักหักโหมหรือเล่นกีฬาที่โลดโผนจนเกินไป รวมถึงการขาดความรู้หรือทักษะ ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายและอาการบาดเจ็บตามมาได้เช่นกัน กายภาพบำบัดคือการฟื้นฟูและรักษาอาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายให้ร่างกายสามารถกลับมาใช้งานได้อย่างปกติและดีเหมือนเดิมได้เร็วที่สุด หากมีอาการบาดเจ็บไม่มากเช่น ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เส้นยึด เส้นตรึง ลองใช้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่เกิดขึ้นนี้ ด้วยการทาน้ำมัน TKOสิน้ำมันมวยตัวนี้ เป็นน้ำมันคลายเส้น คลายกล้ามเนื้อ ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มนักกีฬา และกลุ่มผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะน้ำมัน TKO ช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บเบื้องต้นนี้ได้โดยฉับพลัน เหมาะกับผู้ต้องการความรวดเร็วในการฟื้นฟูร่างกาย น้ำมัน TKO มีส่วนผสมอะไรบ้าง ส่วนผสมเด่น ๆ ในน้ำมันแก้ปวดเมื่อย น้ำมัน TKO 1.Methyl salicylate เป็นยาระงับปวดชนิดใช้เฉพาะที่สำหรับบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ ที่ไม่รุนแรง เช่น ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อจากภาวะตึงหรือเคล็ด ข้อต่ออักเสบ ช้ำ หรือปวดหลัง ปวดบ่า ปวดคอ เป็นต้น โดยยานี้จะช่วยให้รู้สึกเย็นบริเวณผิวหนังในตอนแรก จากนั้นจะค่อย ๆ อุ่นขึ้น 2.น้ำมันไพล เป็นหนึ่งสมุนไพรที่หมอแผนโบราณใช้นวดรีดเส้น เพื่อบรรเทาปวด เป็นน้ำมันแก้ปวดเมื่อยน้ำมันคลายเส้น น้ำมันคลายกล้ามเนื้อ ช่วยให้ผู้ใช้ฟื้นตัวเร็ว ไม่ระบมหลังการนวด สรรพคุณทั่วไปและเด่น ๆ ที่เหมาะกับนักกีฬาคือ บรรเทาอาการปวด อาการบาดเจ็บโดยฉับพลันที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนและระหว่างการแข่งขัน นวดเพื่อคลายเส้น คลายกล้ามเนื้อก่อน นักกีฬาใช้ทาก่อนลงสนาม นักมวยทาก่อนขึ้นชก ด้วยกลิ่นหอมของสมุนไพรเฉพาะตัว ในสูตรของน้ำมัน TKOเพียงแค่นักกีฬาทาแล้วได้กลิ่นของน้ำมัน TKOจะทำให้ได้ความรู้สึกคึกคัก ฮึกเหิมมาก ๆ จนอยากลงแข่งขันเดี๋ยวนี้เลย เพราะได้อารมณ์พร้อมสู้ พร้อมลงสนามเพื่อกำชัยชนะ พร้อมน็อคเอาท์คู่ต่อสู้ทันที ดั่งสโลแกนที่ว่า "น้ำมัน TKO ชัยชนะที่เด็ดขาดทุกเกมส์การแข่งขัน" นั้นคือคุณสมบัติที่โดดเด่นที่รวมกันอยู่ในน้ำมัน TKO และหลังจากทาน้ำมันTKO ซึ่งเป็นวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และควรหยุดพักการเคลื่อนไหวตรงบริเวณที่บาดเจ็บ หลังจากนั้นควรใช้การประคบเย็นตรงบริเวณที่บาดเจ็บทุก 3 ชั่วโมง ครั้งละไม่เกิน 15 นาที พร้อมกับพันกระชับส่วนที่บาดเจ็บด้วยผ้ายืดพันยึด ซึ่งจะช่วยลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณที่บาดเจ็บ ในขณะที่นอนอาจจะยกบริเวณที่บาดเจ็บให้สูงขึ้นเพื่อลดอาการบวมด้วย และควรหยุดพักการออกกำลังกายสักระยะ
  19. การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดี แต่หากออกกำลังกายหักโหมมากเกินไปก็สามารถให้โทษแก่ร่างกายได้เช่นกัน บางคนรู้สึกอ่อนเพลีย หมดแรง ไม่กระปรี้กระเปร่า อารมณ์ไม่แจ่มใส อาจเกิดจากการหักโหมจนกล้ามเนื้อเกิดอาการล้า ส่งผลให้ร่างกายไม่แอคทีฟ ดังนั้นจึงควรออกกำลังกายแต่พอดี ไม่มาก และไม่น้อยจนเกินไป บางคนอาจมีอาการปวดเมื่อยทั้งตัว หรือปวดเฉพาะส่วนที่จากออกกำลังกายอย่างหนัก และเกิดการสึกหรอหรือบาดเจ็บ วันนี้เรามีตัวช่วยดี ๆ มาฝากกันค่ะ น้ำมัน TKO น้ำมันบรรเทาปวดเมื่อย คลายกล้ามเนื้อ ใช้ก่อนและหลังจากออกกำลังกาย ช่วยบรรเทาอาการปวด อาการบาดเจ็บได้โดยฉับพลัน ซึ่งหลายคนอาจพกำลังเกิดความสงสัยว่าในน้ำมันTKOมีส่วนผสมของอะไรบ้าง มีสรรพคุณอย่างไร วันนี้เราเราจะพาไปทำความรู้จักกับ น้ำมัน TKOให้มากยิ่งขึ้น น้ำมัน TKO มีส่วนผสมอะไรบ้าง ส่วนผสมเด่น ๆ ในน้ำมันแก้ปวดเมื่อย น้ำมัน TKO 1.Methyl salicylate เป็นยาระงับปวดชนิดใช้เฉพาะที่สำหรับบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ ที่ไม่รุนแรง เช่น ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อจากภาวะตึงหรือเคล็ด ข้อต่ออักเสบ ช้ำ หรือปวดหลัง ปวดบ่า ปวดคอ เป็นต้น โดยยานี้จะช่วยให้รู้สึกเย็นบริเวณผิวหนังในตอนแรก จากนั้นจะค่อย ๆ อุ่นขึ้น 2.น้ำมันไพล เป็นหนึ่งสมุนไพรที่หมอแผนโบราณใช้นวดรีดเส้น เพื่อบรรเทาปวด เป็นน้ำมันแก้ปวดเมื่อยน้ำมันคลายเส้น น้ำมันคลายกล้ามเนื้อ ช่วยให้ผู้ใช้ฟื้นตัวเร็ว ไม่ระบมหลังการนวด สรรพคุณทั่วไปและเด่น ๆ ที่เหมาะกับนักกีฬาคือ บรรเทาอาการปวด อาการบาดเจ็บโดยฉับพลันที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนและระหว่างการแข่งขัน นวดเพื่อคลายเส้น คลายกล้ามเนื้อก่อน นักกีฬาใช้ทาก่อนลงสนาม นักมวยทาก่อนขึ้นชก ด้วยกลิ่นหอมของสมุนไพรเฉพาะตัว ในสูตรของน้ำมัน TKO เพียงแค่นักกีฬาทาแล้วได้กลิ่นของน้ำมัน TKOจะทำให้ได้ความรู้สึกคึกคัก ฮึกเหิมมาก ๆ จนอยากลงแข่งขันเดี๋ยวนี้เลย เพราะได้อารมณ์พร้อมสู้ พร้อมลงสนามเพื่อกำชัยชนะ พร้อมน็อคเอาท์คู่ต่อสู้ทันที ดั่งสโลแกนที่ว่า "น้ำมันTKOชัยชนะที่เด็ดขาดทุกเกมส์การแข่งขัน" ดังนั้นต่อไปนี้ เราควรออกกำลังกายแต่พอดี ในระดับที่เหมาะสมกับร่างกายของเรา วัยของเรา นอกจากนี้ยังต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้สารอาหารที่หลากหลาย ดื่มน้ำสะอาดให้มากขึ้น เพราะช่วยทดแทนจากเหงื่อที่เราเสียไป และพักผ่อนให้เพียงพอ และหากมีอาการปวดเมื่อยปวดกล้ามเนื้อ หลังจากเล่นกีฬา หรือจากการออกกำลังกาย ครั้งใดไม่ต้องต้องกังวลใจ เพราะเพียงแค่ทาน้ำมัน TKOแล้วคลึง นวดในจุดที่มีปัญหาอยู่เท่านั้น ก็สามารถบรรเทาอาการปวดเมื่อย คลายกล้ามเนื้อ คลายเส้นยึด เส้นตึง ให้คุณได้แล้วค่ะ
  20. การไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐที่สุด แต่โรคภัยไข้เจ็บไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์นั้นหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเกิดป่วยขึ้นมาจึงต้องหมั่นสังเกตอาการต่าง ๆ ที่เกิดกับตนเองอยู่ตลอด เช่น ปวดแสบปวดร้อนบริเวณลิ้นปี่เวลาท้องว่าง หรือจุก เสียด แน่นท้อง หรือปวดคล้ายกับเวลาหิวข้าว อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกอาการแผลในกระเพาะอาหารซึ่งมักเกิดขึ้นหลังจากกินอาหารเสร็จแล้วแผลในกระเพาะอาหาร เป็นโรคเรื้อรัง เมื่อรักษาแผลหายแล้วยังมีโอกาสเป็นซ้ำได้อีก หากไม่ระวังเรื่องการปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง วันนี้เรามีข้อมูลความรู้ดี ๆ จากทางศูนย์ทางเดินอาหารและตับของทางโรงพยาบาลนครธนมาฝากกันค่ะ เพื่อจะได้รู้จักโรคแผลในกระเพาะอาหาร อาการภาวะแทรกซ้อนและการรักษา ซึ่งอาจเป็นประโยชน์กับคุณในอนาคต มาติดตามอ่านข้อมูลกันได้เลยค่ะ อาการ “ปวดแสบปวดร้อนบริเวณลิ้นปี่เวลาท้องว่าง หรือจุก เสียด แน่นท้อง เมื่อได้รับประทานอาหารมักจะหายปวด หรือปวดยิ่งขึ้น” อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเป็น โรคแผลในกระเพาะอาหาร อยู่ก็เป็นได้ สำหรับผู้มีอาการผิดปกติเหล่านี้ หากปล่อยไว้แล้วไม่ได้รับการรักษาจะทำให้อาการรุนแรงขึ้น และเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ รู้จัก...โรคแผลในกระเพาะอาหาร โรคแผลในกระเพาะอาหาร หรือเรียกย่อๆ ว่า โรคพียู (PU) หรือพียูดี (PUD, Peptic ulcer disease) เป็นโรคที่มีแผลที่เกิดขึ้นในเยื่อบุทางเดินอาหารบริเวณที่สัมผัสกับน้ำย่อยของกระเพาะอาหารที่มีกรดเป็นองค์ประกอบสำคัญ จึงพบแผลได้ตั้งแต่ส่วนล่างของหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น ส่วนตำแหน่งที่พบแผลได้บ่อย คือ กระเพาะอาหารส่วนปลาย และลำไส้เล็กส่วนต้น ใกล้รอยต่อระหว่างกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น สาเหตุสำคัญเกิดจาก กรดและน้ำย่อยที่หลั่งออกมาในกระเพาะอาหาร ซึ่งเป็นตัวทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหารที่สร้างแนวต้านทานกรดได้ไม่ดี ไม่ว่ากรดนั้นจะมีปริมาณมากหรือน้อยก็ตาม รวมไปถึงการรับประทานยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) และยาต้านเกร็ดเลือด เช่น แอสไพริน ส่วนปัจจัยอื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ด ความเครียด เป็นต้น นอกจากนี้ การติดเชื้อแบคทีเรียเอช.ไพโลไร (H.Pylori : Helicobacter pylori) มีบทบาทโดยตรงและถือเป็นสาเหตุสำคัญอันหนึ่ง ที่ทำให้กระเพาะอาหารมีการอักเสบเรื้อรัง จนทำลายผนังเยื่อบุกระเพาะอาหารและสำไส้เล็กส่วนต้น ทำให้เป็นแผลในกระเพาะอาหาร หากในขณะทำการรักษาแผลในกระเพาะอาหารอยู่ เชื้อนี้จะเป็นสาเหตุที่ทำให้แผลหายช้า หรือทำให้แผลที่หายแล้วกลับมาเป็นซ้ำได้อีก กลายเป็นแผลในกระเพาะอาหารเรื้อรัง ที่สำคัญ ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารอีกด้วย อาการสำคัญของโรคแผลในกระเพาะอาหาร อาการสำคัญหลักๆ เลย คือ ปวดท้องหรือแสบที่กระเพาะอาหารบริเวณลิ้นปี่ มักมีอาการตอนท้องว่างหรือประมาณ 2-3 ชั่วโมงก่อนมื้ออาหาร ปวดท้องมากเฉพาะหลังรับประทานอาหารรสเผ็ดจัด จะมีอาการปวดแน่นท้องยามดึกหลังจากหลับไปแล้ว ปวดๆหายๆ เป็นแรมปี และอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น รู้สึกคลื่นไส้ หรืออาเจียน น้ำหนักลดลง เบื่ออาหาร แสบร้อนกลางอก อาหารไม่ย่อย เป็นต้น ภาวะแทรกซ้อนโรคแผลในกระเพาะอาหาร โดยทั่วไปพบว่าผู้ป่วยอาการจะค่อยๆ ทุเลาและหายไปเองโดยไม่ต้องรับการรักษา แต่โอกาสที่จะกลับมาเป็นอีกมีอัตราสูงถึงแม้ว่าจะได้รับการรักษาดีเพียงใดก็ตาม และที่สำคัญโรคแผลในกระเพาะอาหาร หากปล่อยไว้แล้วไม่ได้รับการรักษาจะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น และเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา ได้แก่ ภาวะเลือดออกภายในกระเพาะอาหาร เป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบมากที่สุด โดยผู้ป่วยที่มีเลือดออกจะมีอาการอ่อนเพลีย เวียนศีรษะ หน้ามืด ถ่ายเป็นเลือดหรือมีสีดำ อาเจียนเป็นเลือด รวมถึงภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กซึ่งเกิดจากการเสียเลือดจากแผลในกระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารทะลุ จะทำให้ปวดท้องอย่างเฉียบพลันรุนแรง หน้าท้องแข็งตึง กดเจ็บมา กระเพาะอาหารอุดตัน ผู้ป่วยจะอิ่มเร็ว อาเจียน เบื่ออาหาร น้ำหนักลด การรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร การรักษาทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับสาเหตุของการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร โดยวิธีการรักษามีรายละเอียดแตกต่างกันดังต่อไปนี้ 1. การรักษาด้วยยา การใช้ยารักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารนั้น จำเป็นต้องใช้ยาหลายชนิดพร้อมกัน โดยแพทย์จะให้ยาลดกรด และยารักษาแผลในกระเพาะอาหาร ซึ่งต้องรับประทานติดต่อกันเป็นเวลา 6-8 สัปดาห์ แผลถึงจะหาย ในกรณีที่มีการติดเชื้อแพทย์จะใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อช่วยในการฆ่าเชื้อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย เอช.ไพโลไร 2. การรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารที่เกิดจากการใช้ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์(nonsteroidal anti-inflammatory drugs หรือ NSAIDs) อาจต้องทำการปรับเปลี่ยนยาที่ใช้ จากเดิมเปลี่ยนเป็นพาราเซตามอล หรือยาแก้ปวดต้านการอักเสบในกลุ่มเอ็นเสดอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้น้อยกว่า ร่วมกับรับประทานยาลดกรดหรือยาเคลือบแผลในกระเพาะอาหารตามแต่แพทย์สั่ง 3. การผ่าตัดในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง มักใช้ในผู้ป่วยที่เป็นแผลในกระเพาะอาหารแล้วไม่เข้ารับการรักษา มีเลือดออกในกระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กฉีกขาด เป็นต้น ทั้งนี้ ควรงดอาหารที่เป็นปัจจัยเสี่ยง เช่น เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ อาหารรสจัด ร้อนจัด เย็นจัด ของหมักดอง รวมทั้งอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซในกระเพาะอาหาร และควรรับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย เมื่อมีอาการดีขึ้นแล้ว จึงค่อยๆ กลับมารับประทานอาหารที่ใกล้เคียงปกติ โรคแผลในกระเพาะอาหาร เป็นเหมือนภัยเงียบที่คอยบั่นทอนสุขภาพ หากทิ้งไว้นานวันเข้าโดยที่ไม่รักษาอย่างจริงจัง จะกลายเป็นโรคเรื้อรั้งที่รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายขาดได้ อีกทั้งอาจเป็นสาเหตุโรคร้ายแรงอย่าง โรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้ หากคุณที่อ่านกำลังมีอาการดังกล่าวข้างต้น อย่าได้เก็บความกังวลใจความสงสัยไว้กับตัวสามารถติตต่อสอบถามศูนย์ทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลนครธน มีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาท่านได้ค่ะ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์ทางเดินอาหารและตับโรงพยาบาลนครธนhttps://www.nakornthon.com/article/detail/ปวดท้องแบบนี้-สัญญาณบ่งบอกแผลในกระเพาะอาหาร/
  21. สำหรับพ่อแม่ทุกคน “ลูก” เป็นเสมือนแก้วตาดวงใจ เป็นสิ่งที่สวยงามและน่าทะนุถนอม เมื่อลูกรักเจ็บป่วยขึ้นมา จึงทำให้พ่อแม่เป็นกังวลยิ่งนัก การเลือกโรงพยาบาลที่ดีที่สุดสำหรับลูกรักจึงเป็นสิ่งสำคัญและมาเป็นอันดับหนึ่งก่อนเสมอสำหรับพ่อแม่ ศูนย์สุขภาพเด็กโรงพยาบาลนครธน นับเป็นศูนย์การแพทย์สำหรับเด็กที่ครบครันที่สุดแห่งหนึ่งในย่านฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานคร (ธนบุรีด้านทิศใต้) มีทั้งทีมกุมารแพทย์หรือที่เรียกคุณหมอเด็กทั่วไป และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสำหรับเด็กในทุกสาขา ศูนย์สุขภาพเด็ก โรงพยาบาลนครธน มาตรฐาน “หมอเด็ก” ที่คุณพ่อ-คุณแม่วางใจ เพราะลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ ศูนย์สุขภาพเด็ก โรงพยาบาลนครธน ให้บริการตรวจรักษาเด็กอย่างครบวงจรด้วยกุมารแพทย์ (คุณหมอเด็ก) ที่เข้าใจปัญหาสุขภาพเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยรุ่น (อายุ 15 ปี) เป็นโรงพยาบาลแหล่งรวมคุณหมอเด็กที่ครอบคลุมทุกสาขาวิชาทางการแพทย์ โดยเน้นทั้งการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพพร้อมให้การตรวจรักษาโรค บริการวัคซีนขั้นพื้นฐาน วัคซีนทางเลือก ให้คำปรึกษาเรื่องพัฒนาการเจริญเติบโต การเลี้ยงดูบุตร และบริการคลินิกพิเศษเฉพาะทาง เพราะเด็กเป็นวัยที่มีการพัฒนาการอย่างรวดเร็ว การดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด คุณหมอเด็กจึงเป็นหัวใจหลักที่สำคัญเพื่อให้เด็กเจริญเติบโตตามวัยอย่างเหมาะสม นอกจากการบริการตรวจรักษาเด็กด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยศูนย์สุขภาพเด็กยังใส่ใจในเรื่องสถานที่ให้บริการแบ่งแยกโซนเด็กดีและเด็กป่วยไม่ให้ปะปนกัน เพื่อป้องกันการติดต่อและแพร่กระจายของเชื้อโรคจากเด็กป่วยไปยังเด็กสุขภาพดี ศูนย์สุขภาพเด็ก ได้ออกแบบและตกแต่งสถานที่ให้มีบรรยากาศน่ารักสดใส ภายใต้ธีมก้อนเมฆและสายรุ้ง สร้างความรู้สึกอบอุ่น และให้เกิดความผ่อนคลายในขณะรอพบหมอเด็ก อีกทั้งยังเป็นศูนย์บริการดูแลแบบ One Stop Service ตั้งแต่จุดรับลงทะเบียน รับการตรวจรักษา ชำระเงิน และรับยา ได้เบ็ดเสร็จในจุดเดียว บรรยากาศภายในศูนย์ – ฝั่งเด็กป่วย การบริการทางการแพทย์ รักษากลุ่มทารกแรกเกิด ให้บริการคำปรึกษาคุณแม่เพื่อเตรียมความพร้อมให้เป็นการตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพ มีกุมารแพทย์ (คุณหมอเด็ก) เฉพาะทางด้านทารกแรกเกิด ดูแลเด็กทารกหลังคลอด เพราะทุกนาทีมีความหมายกับชีวิต เน้นและส่งเสริมการเลี้ยงบุตรด้วยนมแม่ รักษาโรคระบบต่อมไร้ท่อ ตรวจรักษาเกี่ยวกับการเจริญเติบโตที่อาจผิดปกติ เด็กอ้วน เด็กผอม เด็กที่มีการเจริญเติบโตไม่สมวัย (ตัวเตี้ย/เล็ก) เป็นหนุ่มสาวเกินวัยภาวะที่ร่างกายมีฮอร์โมนผิดปกติ เช่น โรคของต่อมไทรอยด์ รักษาโรคระบบทางเดินปัสสาวะและโรคไตในเด็ก รักษาโรคทางโลหิตวิทยา ให้บริการปรึกษา ตรวจรักษาเกี่ยวกับเด็กที่มีภาวะซีด โรคเลือดจาง ธาลัสซีเมีย ภาวะเลือดออกง่ายหรือเลือดออกแล้วหยุดยาก ภาวะเกร็ดเลือดต่ำ มีจ้ำเลือดเกิดขึ้นง่าย รักษาโรคผิวหนัง เด็กเล็กเป็นช่วงวัยที่ผิวหนังยังไม่แข็งแรงเท่าเด็กโตหรือผู้ใหญ่ ทำให้เกิดโรคผิวหนังที่แตกต่างจากคนวัยอื่น สำหรับปัญหาที่พบบ่อย เช่น โรคผิวหนังติดเชื้อแบคทีเรีย/ เชื้อรา โรคผื่นผ้าอ้อม โรคผื่นผิวหนังจากต่อมไขมันอักเสบ รักษาโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด ให้บริการตรวจรักษาและวินิจฉัยโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดในเด็กที่มีความผิดปกติ โดยกุมารแพทย์โรคหัวใจ (คุณหมอเด็กโรคหัวใจ) เช่น โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ลิ้นหัวใจอักเสบ หลอดเลือดหัวใจโป่ง โรคคาวาซากิ เป็นต้น รักษาโรคระบบประสาทและสมอง คุณหมอเด็กด้านโรคเฉพาะทางจะให้บริการดูแลรักษาเด็กที่มีความผิดปกติโรคทางด้านระบบประสาทและด้านสมอง เช่น ปวดศีรษะเรื้อรัง สมองพิการ โรคลมชักเยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบเลือดออกในสมอง เนื้องอกในสมอง กล้ามเนื้ออ่อนแรงจากสาเหตุต่าง ๆ การเคลื่อนไหวผิดปกติ ให้คำปรึกษาจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ตรวจรักษาเกี่ยวกับเด็กที่มีปัญหา เด็กที่มีปัญหาทางด้านจิตใจและอารมณ์ เช่น กลัวมาก เครียดง่าย วิตกกังวล ซึมเศร้า ทำร้ายร่างกายตัวเอง / ผู้อื่น คิดฆ่าตัวตาย พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงต่อผู้อื่นและตนเอง เด็กที่มีปัญหาทางด้านพฤติกรรม เช่น พฤติกรรมซนมาก อยู่ไม่นิ่ง พฤติกรรมหุนหันพลันแล่น ดื้อและต่อต้านพ่อแม่รุนแรง เด็กที่มีปัญหาทางด้านการเรียน เช่น สมาธิสั้น ผลการเรียนไม่ดี ไม่สนใจการเรียน ไม่ยอมไปโรงเรียน เด็กที่มีพฤติกรรมทางด้านจิตใจและสังคมล่าช้า เช่น พูดช้า ไม่เข้าสังคม พฤติกรรมผิดปกติ ปรึกษาการเลี้ยงดูเด็กและวัยรุ่นให้มีสุขภาพจิตดี การปรับพฤติกรรม และฝึกวินัยให้ลูก ปัญหาอื่น ๆ เช่น ปัสสาวะรดที่นอน การเคลื่อนไหวผิดปกติ ปัญหาการนอน การปรับตัว ปัญหาพฤติกรรมการรับประทานอาหาร คลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็ก ฝึกกระตุ้นเด็กที่มีปัญหาในด้านพัฒนาการที่ไม่สมวัย มีปัญหาด้านกล้ามเนื้อ เช่น ไม่เดิน,เด็กวัยเรียนจับดินสอไม่เป็น,ไม่เข้าสังคม คลินิกแก้ไขการพูด (ฝึกพูด) ฝึกแก้ไขในเด็กที่พูดช้า ไม่พูด พูดไม่ชัด ออกเสียงไม่ชัด พูดติดอ่าง คลินิกจิตวิทยา ประเมินและทดสอบเชาว์ปัญญา (IQ: Intelligence Quotient), วัดความฉลาดทางอารมณ์ (EQ:Emotional Quotient)พร้อมรายงานสรุปวิเคราะห์ผล หมอเด็ก ศูนย์สุขภาพเด็ก โรงพยาบาลนครธน มีความพร้อมทุกด้านที่จะช่วยดูแลสุขภาพเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงช่วงวัยรุ่น เพื่อให้ช่วงวัยแรกของชีวิตมีความสมบูรณ์ พร้อมจะสร้างพื้นฐาน นับเป็นศูนย์การแพทย์สำหรับเด็กที่ครบครันที่สุด พร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสำหรับเด็กในทุกสาขา จึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะไว้วางใจเลือกให้ศูนย์สุขภาพเด็กดูแลลูกรักของคุณนะคะ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์สุขภาพเด็ก โรงพยาบาลนครธนhttps://www.nakornthon.com/center/detail/ศูนย์สุขภาพเด็ก
  22. อายุที่มากขึ้น รวมถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ อาจนำไปสู่การเป็นโรคกระดูกพรุน ซึ่งกระดูกมีโอกาสแตกหรือหักได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ส่งผลเสียต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน และก่อให้เกิดอันตรายกับตัวผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนได้ มาดูกันว่า คุณมีความเสี่ยงแค่ไหนมีปัจจัยใดบ้างที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุน สามารถดูแลหรือรักษาได้อย่างไร เกี่ยวอะไรกับแคลเซียมข้าวโพด วันนี้ 90 ปีแข็งแรง โดยแคล-ที มีคำตอบค่ะ ปัจจัยเสี่ยงกระดูกพรุน เพศ ผู้หญิงเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่าและเร็วกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะเมื่อหมดประจำเดือน มีประวัติ กรรมพันธุ์ พ่อหรือแม่มีโรคกระดูกพรุน ลูกจะมีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนแล้วกระดูกหักด้วย ชาวผิวขาวหรือเชื้อชาติและคนเอเชียมีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนสูง สูบบุหรี่สารพิษนิโคตินเป็นตัวทำลายเซลล์สร้างมวลกระดูกทำให้กระดูกบางลง แอลกอฮอล์ การดื่มเหล้า เบียร์ ทำให้มีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนเร็วขึ้น น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว คนที่ผอมเกินไปจะเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่า ใช้ยาสเตียรอยด์เกินขนาด เช่น กลุ่มยาสเตียรอยด์ในผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล เช่น โรคต่อมไทรอยด์ เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคตับ โรคทางเดินอาหารผิดปกติ ขาดการออกกำลังกาย คนไม่ออกกำลังกายมีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่า ขาดสารอาหาร โดยเฉพาะขาดแคลเซียม วิตามินดี และโปรตีน ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินเป็นประจำ เนื่องจากอาหารและเครื่องดื่มดังกล่าวจะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม ส่วนอาหารเค็มจัดและคาเฟอีนยังทำให้ร่างกายขับแคลเซียมมากขึ้นอีกด้วย เมื่อทราบว่าตัวเองเป็นโรคกระดูกพรุน ควรทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงเพื่อบำรุงกระดูก หรือเสริมด้วย แคล-ที แคลเซียมข้าวโพด (แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต พลัส แมกนีเซียม) ช่วยดูแลและเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง คุณสมบัติแคลเซียมข้าวโพด (แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต พลัส แมกนีเซียม) ดูแลโรคกระดูกพรุน แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต พลัส แมกนีเซียม ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในกระดูก และยับยั้งการสลายตัวของกระดูก ดูแลโรคข้อเสื่อม แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต พลัส แมกนีเซียม จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในกระดูก และกระดูกอ่อน รวมทั้งสร้างน้ำไขข้อ ส่งเสริมให้กระดูกและข้อแข็งแรง ดูดซึมได้ดี แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต พลัส แมกนีเซียม ดูดซึมได้ด้วยตัวเองถึง 95 % เป็น passive transport ซึมผ่านระหว่างเซลล์ โดยไม่ต้องอาศัยวิตามินดี ซึ่งแคลเซียมชนิดอื่น ๆ ต้องใช้วิตามินดี เพื่อช่วยในการดูดซึม ไม่ทำให้ท้องผูก แคลเซียม แอล-ทรีโอเนต พลัส แมกนีเซียม แตกตัวและละลายได้ดีในน้ำ จึงไม่หลงเหลือให้ตกตะกอน หรือสะสมเกาะตามอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย และไม่ทำให้ท้องอืด ท้องผูก แคลเซียมข้าวโพด จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด สำหรับผู้ที่สนใจรับประทานแคลเซียม และต้องการบำรุงกระดูกให้แข็งแรงโดยไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย เพียงทานแคลเซียม แอล-ทรีโอเนต พลัส แมกนีเซียม ครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 2 ครั้ง เท่านี้กระดูกของเราก็แข็งแรง ดูแลโรคกระดูกพรุนได้แล้วเพื่อสุขภาพกระดูกและข้อ อย่าลืมนึกถึง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แคล-ที หากท่านใดสนใจสินค้าหรืออยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพกับโครงการ 90 ปีแข็งแรง โดยแคล-ที ได้ที่ Website : https://www.cal-t.com/แคลเซียมจากข้าวโพด/ Facebook : https://www.facebook.com/CalTthailand Youtube : https://youtu.be/opDMHIvx_Pc
  23. อาการปวดหลังมีหลายแบบสังเกตด่วน !!! คุณกำลังมีอาการแบบนี้อยู่หรือไม่? ปวดหลัง ปวดบริเวณเอว เป็น ๆ หาย ๆ เดินได้ไม่ไกล มีอาการปวดชาลงไปถึงขาเหมือนเป็นตะคริวร่วมด้วย บางครั้งต้องหยุดพักก่อนแล้วจึงจะเดินต่อไปได้ บางทีมีอาการปวดหลังร้าวลงขารุนแรง อาจเป็นสัญญาณเสี่ยงหมอนรองกระดูกทับเส้นได้ แล้วจะรักษาอย่างไรดี? วันนี้เรามีความรู้ดี ๆ ที่เป็นประโยชน์กับคุณอย่างมาก จากทางโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ มาฝากกันค่ะ หมอนรองกระดูกสันหลัง กดทับเส้นประสาท กระดูกสันหลัง จะมีหมอนรองกระดูก และข้อต่อกระดูกสันหลังคอยเชื่อมต่อกับกระดูกหลายชิ้น โดยที่ตัวกระดูกสันหลังทำหน้าที่ปกป้องไขสันหลัง ส่วนหมอนรองกระดูกจะทำหน้าที่ให้กระดูกสันหลังยืดหยุ่นและสามารถรับแรงกระแทกของน้ำหนักตัวจากการเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นการใช้งานหนักในชีวิตประจำวัน หรืออายุที่เพิ่มขึ้น ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพได้ หมอนรองกระดูก ที่พบว่ามีปัญหาบ่อยที่สุดก็คือ หมอนรองกระดูกสันหลังในระดับเอวข้อที่ 4-5 เนื่องจากเป็นข้อต่อระดับที่มีการเคลื่อนไหว และรับน้ำหนักมากในร่างกาย ซึ่งเมื่อหมอนรองกระดูกมีสภาพเสื่อม ความสูงของหมอนรองกระดูกจะมีขนาดลดลง และมีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อหมอนรองกระดูก ทำให้แกนหมอนรองกระดูกหลุดรอดมาภายนอก และกดทับเส้นประสาทไขสันหลังได้ อาการของ โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท • ปวดหลัง สะโพกและปวดร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างรุนแรง ซึ่งจะมีอาการปวดมากขึ้นเวลาไอ หรือจาม • กล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อสะโพกและขาบางรายมีอาการชาปลายเท้าร่วมด้วย หากอาการรุนแรงมากจะไม่สามารถกระดกปลายเท้า หรือเดินได้ • ปลายเท้าชา โดยเฉพาะบริเวณง่ามนิ้วหัวแม่เท้า • ระบบขับถ่ายผิดปกติ ในกรณีที่มีอาการรุนแรงมาก จะมีความผิดปกติของระบบขับถ่ายร่วมด้วย เช่น ไม่สามารถควบคุมการอุจจาระ หรือ ปัสสาวะได้ ซึ่งจำเป็นต้องผ่าตัดรักษาอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันระบบขับถ่าย ไม่สามารถฟื้นคืนได้ตามปกติ การรักษา โรคหมอนรองกระดูกสันทับเส้นประสาท 1. รักษาโดยการลดน้ำหนัก พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอาการหนักขึ้น • การยกของหนัก • การนั่งรถยนต์เป็นเวลานาน • หลีกเลี่ยงอาการท้องผูกหรือเบ่ง ถ่ายอุจจาระแรงเกินไป เป็นต้น เนื่องจากจะทำให้เกิดแรงดัน ในหมอนรองกระดูกสูง ซึ่งเป็นสาเหตุให้หมอนรองกระดูกทนแรงดันไม่ได้ ทำให้เกิดการแตกของหมอนรองกระดูกตามมา 2. ยาต้านการอักเสบ NSAIDS และ ยาคลายกล้ามเนื้อ 3. ใช้กายภาพบำบัดและใช้เสื้อพยุงหลัง เพื่อช่วยในการลดอาการปวด และทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับไป ใช้ชีวิตประจำวัน ได้ปกติเร็วขึ้น และทำให้หน้าท้องกระชับขึ้น เพื่อที่จะจะช่วยลดแรงดันในหมอนรองกระดูกสันหลังได้ นอกจากกนี้ยังต้องลดเคลื่อนไหวของ กระดูกสันหลัง ก็จะทำให้อาการปวดลดลง เช่นกัน 4. การผ่าตัด แพทย์จะพิจารณาตามเกณฑ์ดังนี้ • ผู้ป่วยที่มีอาการปวดมากจนทนไม่ได้ แม้จะรักษาโดยรับประทานยา พักและกายภาพบำบัดเต็มที่แล้วก็ยังไม่เป็นปกติ • มีอาการชา อ่อนแรง หรือกล้ามเนื้อขาลีบอย่างเห็นได้ชัด • มีปัญหาระบบขับถ่ายผิดปกติ ที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาท เช่น กลั้นอุจจาระหรือปัสสาวะไม่ได้ การผ่าตัดส่องกล้องส่องขยาย (Microscopic Spine Surgery) การผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทโดยทั่วไป ศัลยแพทย์กระดูกจะใช้เครื่องมือในการตัดกระดูก และเอ็นพังผืดเพื่อขยายโพรงประสาทคลายการกดรัดเส้นประสาท โดยในระหว่างทำการผ่าตัดบางตำแหน่งของโพรงประสาท อาจมีขนาดที่ตีบแคบมาก ทำให้มองเห็นเส้นประสาทได้ไม่ชัดเจนและมีข้อจำกัด ซึ่งการสอดใส่เครื่องมือผ่าตัดอาจเป็นอันตรายต่อเส้นประสาทได้ ซึ่งการผ่าหมอนรองกระดูกสันหลังโดยการส่องกล้องขยายนั้น จะสามารถลดขนาดแผลผ่าตัดให้เล็กลงได้ และที่กล้องขยายจะมาช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถ ที่จะมองเห็นรายละเอียดในการผ่าตัดได้อย่างชัดเจนอีกด้วย ข้อดีของการผ่าตัดผ่านกล้อง 1. ช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและอวัยวะภายใน ทำให้มีความเจ็บปวดน้อย และลดการเสียเลือด 2. ขนาดของแผลนั้นเล็กเพียง 1-2 ซม. ซึ่งเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดจะทำให้มีแผลกว้างถึง 12-20 ซม. ดังนั้น การผ่าตัดแบบ MIS จะช่วยลดขนาดของแผลเป็นที่จะเกิดขึ้นจากการผ่าตัดแบบเปิด 3. พักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 1-2 วัน ซึ่งในบางกรณีอาจจะกลับบ้านได้ทันทีหลังการผ่าตัด นับว่าเร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิด ที่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนานเป็นสัปดาห์ 4. ช่วยลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน และโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ถือว่าปลอดภัยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด 5. ช่วยลดการเกิดพังผืดจากการผ่าตัดแบบเปิด 6. ทำให้แพทย์มองเห็นรายละเอียดของตำแหน่งที่ต้องการผ่าตัดได้อย่างชัดเจน ด้วยเทคโนโลยีกำลังขยายของกล้อง ซึ่งช่วยให้ผ่าตัดได้ตรงจุดจึงลดการกระทบต่ออวัยวะอื่น ๆ ข้อจำกัดของการผ่าตัดส่องกล้อง • มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์ที่มีนวัตกรรมพิเศษ • ยังไม่สามารถใช้วิธีนี้กับผู้ป่วยในบางราย ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีโรคปอดและหัวใจขั้นรุนแรง และผู้ที่เคยผ่าตัด หรือมีพังผืดจำนวนมาก วิธีการเตรียมตัว ก่อน-หลังการผ่าตัด ก่อนการผ่าตัดส่องกล้อง • เตรียมร่างกายให้พร้อม รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งนอนหลับให้เพียงพอ • งดน้ำงดอาหาร อย่างน้อย 6 ชั่วโมง • แจ้งประวัติประจำตัว การแพ้ยา ให้แจ้งแพทย์เมื่อมีอาการป่วยก่อนการผ่าตัด • งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ • กรณีผ่าตัดลำไส้ แพทย์จะทำการล้างลำไส้ โดยจะให้ยากระตุ้นการขับถ่ายออกมาให้หมด • ถอดเครื่องประดับเอาไว้ในที่ปลอดภัย เช่น แหวน สร้อยคอ ต่างหู หรือเครื่องประดับจากการเจาะตามร่างกาย เพื่อป้องกันการเสียหายใน ระหว่างการผ่าตัด หลังการผ่าตัด • งดน้ำงดอาหาร ประมาณ 12-24 ชั่วโมง ตามแพทย์สั่ง • งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ นับว่าการผ่าตัดด้วย Minimal Invasive Surgery นั้นจำเป็นต้องอาศัยแพทย์และทีมงานที่มีความชำนาญพิเศษ โดยทางโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ มีทีมแพทย์ที่ผ่านการศึกษาอบรมการผ่าตัดด้วยวิธี Minimal Invasive Surgery จากสถาบันการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งพร้อมให้การดูแลรักษาสุขภาพของท่านเป็นอย่างดี ซึ่งหากแพทย์ตรวจพบโรคแล้วจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด ทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ ขอมอบสิทธิ์พิเศษเสริมความปลอดภัยให้ทุกท่านที่จะเข้ารับการผ่าตัดทุกประเภท ให้ได้รับการ ตรวจโรค COVID-19 ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมนวัตกรรมการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Minimally Invasive Surgery - MIS) มาช่วยย่นระยะเวลาการพักฟื้น และลดรอยแผล และความเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทรักษาได้ หากคุณกำลังเผชิญปัญหาอาการปวดหลัง หรือภาวะเสี่ยงหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท แนะนำว่าให้รีบพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อดำเนินการรักษา อย่าปล่อยให้อาการเรื้อรังนาน คุณสามารถติดต่อขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษา กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ด้านกระดูกสันหลังโดยเฉพาะได้ สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร 02-363-2000 ขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ https://bit.ly/2XulRUr
  24. ปัญหาเกี่ยวกับการบาดเจ็บหรือเอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาด เป็นเรื่องน่าหนักใจเพราะสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย จากอุบัติเหตุหรือหลังจากเล่นกีฬา ซึ่งเส้นเอ็นไขว้หน้าข้อเข่า อยู่บริเวณจุดกึ่งกลางข้อเข่า ยาวไปตามแนวเฉียงจากด้านหลังของกระดูกต้นขาไปจนถึงกระดูกหน้าแข้ง เป็นเส้นเอ็นที่คอยทำหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกระดูกหน้าแข้ง ท่านใดที่กำลังเจอปัญหานี้อยู่หรือกำลังมองข้อมูลเพื่อทำการรักษาด้วยการผ่าตัดส่องกล้อง เรามีความรู้จากทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการมาฝากกันค่ะ การผ่าตัดส่องกล้องซ่อมเอ็นเข่าและไหล่ เรื่องเล็กที่ไม่เล็ก เมื่อพูดถึงเรื่องการบาดเจ็บของเส้นเอ็นส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มคนอายุน้อยและเกิดการบาดเจ็บหลังได้รับอุบัติเหตุหรือหลังจากเล่นกีฬาส่วนมากการบาดเจ็บที่พบบ่อยที่สุดคือการบาดเจ็บของเอ็นไขว้หน้าเข่าและการฉีกขาดของเอ็นไหล่ซึ่งการบาดเจ็บดังกล่าวจะส่งผลให้มีการปวดเรื้อรังรู้สึกข้อเข่าหลวมไม่มั่นคงหรือไหล่หลุดง่ายซึ่งหากปล่อยไว้นานอาการปวดจะรบกวนชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทนไม่ไหว สาเหตุ 1. การบาดเจ็บของเอ็นเข่า ส่วนใหญ่เกิดจากการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาได้แก่กีฬาจำพวก contact sport หรือกีฬาที่ต้องเกิดการปะทะกันเช่น บาสเกตบอล วอลเลย์บอล เบสบอล ฟุตบอล เกิดจากการหมุนเข่าหรือเข่าพลิกอย่างฉับพลันทำให้เอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาด อุบัติเหตุจราจร 2. การบาดเจ็บของเอ็นข้อไหล่ อาการบาดเจ็บของข้อไหล่เกิดจากการได้รับการกระแทกโดยตรงเช่นกันล้มไหล่กระแทกกับพื้นหรือการล้มเอามือยันพื้นทำให้แรงดันพื้นส่งมากระทบที่ไหล่ หรือการเล่นกีฬาที่ผิดท่า อาการ มีอาการปวดบวมช้ำหรือเดินลงน้ำหนักไม่ได้ถ้าถึงขั้นเอ็นฉีกขาดก็จะมีเลือดออกในข้อซึ่งเขาจะบวมมากโดยส่วนใหญ่จะเดินลงน้ำหนักไม่ได้เลยใน 1-2 วันแรกหลังจากได้รับการบาดเจ็บ การรักษา การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดแบบส่องกล้องซ่อมเอ็นใหม่ซึ่งข้อดีของการผ่าตัดส่องกล้องคือ ช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและอวัยวะภายในทำให้มีความเจ็บน้อยปวดน้อยและลดการเสียเลือด ขนาดของแผลมีขนาดเล็กเพียง 1-2 เซนติเมตรซึ่งเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดจะทำให้มีแผลกว้างถึง 12 ถึง 20 เซนติเมตร ดังนั้นการผ่าตัดแบบ MIS จะช่วยลดขนาดของแผลเป็น การพักฟื้นที่โรงพยาบาลหลังผ่าตัดเพียง 2-3 วัน ซึ่งเร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิดที่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนานประมาณ 5-7 วัน ช่วยลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนและโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ช่วยลดการเกิดพังผืดจากการผ่าตัดแบบเปิด แพทย์ผู้ผ่าตัดเห็นรายละเอียดของตำแหน่งที่ต้องการผ่าตัดได้อย่างชัดเจนด้วยเทคโนโลยีกำลังขยายของกล้องซึ่งช่วยให้ผ่าตัดได้ตรงจุดจึงลดการกระทบต่ออวัยวะอื่น ๆ ข้อจำกัดของการผ่าตัดส่องกล้อง มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์ที่มีนวัตกรรมพิเศษ การผ่าตัดด้วย Minimally invasive surgery (MIS) นั้นจำเป็นต้องอาศัยแพทย์และทีมงานที่มีความชำนาญพิเศษโดยทางโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ มีทีมแพทย์ที่ผ่านการศึกษาอบรมการผ่าตัดด้วยวิธี Minimally invested surgery จากสถาบันการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งพร้อมให้การดูแลรักษาสุขภาพของท่านเป็นอย่างดี ซึ่งหากแพทย์ตรวจพบโรคแล้วจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัดทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการขอมอบสิทธิพิเศษเสริมความปลอดภัยให้ทุกท่านที่จะเข้ารับการผ่าตัดทุกประเภทให้ได้รับการตรวจโรค COVID -19 ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมนวัตกรรมการผ่าตัดแบบส่องกล้อง Minimally invasive surgery มาช่วยลดระยะเวลาในการพักฟื้นและลดรอยแผลจากการผ่าตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในนักกีฬาหรือคนทั่วไปที่เกิดอุบัติเหตเกิดอาการเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาดนั้นขณะเกิดการบาดเจ็บอาจรู้สึกได้ถึงการฉีกขาดอย่างชัดเจน จากนั้นจะมีอาการปวดบวมบริเวณหัวเข่าในทันที และไม่สามารถลงน้ำหนักตัวได้เหมือนปกติ หากพบอาการดังกล่าวแนะนำว่าควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็วที่สุด หรือท่านใดจะติดต่อขอคำแนะนำเรื่องการผ่าตัดส่องกล้องกับทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ เราพร้อมให้คำปรึกษาและยินดีให้บริการ สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร 02-363-2000 ขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ https://bit.ly/3nJrV6p
  25. โอกาสสุดท้าย! วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม(สยามเทค) ขยายเวลารับสมัครถึง 31 พ.ค. นี้เท่านั้น สำหรับนักเรียนที่จบ ม3 ม.6 ปวช. หรือเทียบเท่าเรียนต่อ ปวช.หรือ ปวส. เลือกสาขาวิชาที่อยากเรียนได้แล้วอย่ารอช้า จองสิทธิ์รีบสมัครกันได้เลย สามารถสมัคเรียนด้วยตัวเองได้ทุกวัน (เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) หรือสมัครเรียนผ่านระบบออนไลน์ สมัครเรียนสยามเทคการเดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สามารถเดินจากสถานีจรัญฯ 13 ทางออกที่ 4 เพียง 30 เมตร ที่สำคัญหมดห่วงเรื่องค่าเทอม วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม(สยามเทค) สามารถเลือกชำระค่าเทอมแบบสบายกระเป๋าได้ 2 ทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นเลือกผ่อนชำระสูงสุด 5 งวด หรือผ่อนผ่านบัตร KTB หรือ KBank 0% 3 งวด หรือจะยื่นกู้ กยศ. หรือ กรอ. ก็ได้เช่นกัน รีบมาสมัครกันเยอะ ๆ นะคะ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค) “เราสร้างคนสู่โลกอนาคต” เกือบห้าทศวรรษที่ได้ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาเยาวชนไทย ให้เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศต้นกล้าที่ครูอาจารย์ได้อบรมบ่มเพาะในด้านทักษะวิชาชีพและคุณธรรม จริยธรรม ผลิดอกออกผลให้เห็นเป็นที่ประจักษ์มาหลายรุ่นนั้นเป็นเครื่องการันตีให้เราเห็นถึงศักยภาพและความพร้อมที่จะเป็นแม่ข่ายในการสร้างคนให้เป็นทั้งคนเก่ง และคนดีรวมไปถึงความมุ่งมั่นที่จะเป็นที่หนึ่งในระดับอาเซียนต่อไป ช่องทางการสมัครเรียนสยามเทค สมัครเรียนออนไลน์ http://siamtech.co/eEnrollment/ สมัครโดยตรง ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (สยามเทค) ณ อาคาร 12 ชั้น 3 website :https://www.siamtech.ac.th/ facebook : https://www.facebook.com/vrsiamtech สอบถามข้อมูลสมัครเรียนสยามเทคเพิ่มเติม โทร. 02-8640358-61
×
×
  • สร้างใหม่...