ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

tampatiz

ขาประจำ
  • จำนวนเนื้อหา

    33
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย tampatiz

  1. อาการลองโควิด ( Long COVID ) ภาวะแทรกซ้อนหลังหายป่วยโควิด นอกจากมีอาการหลงเหลือตามมาแล้ว ยังมักจะมีอาการใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อเชื้อหายไปแล้ว 4 -12 สัปดาห์ ภาวะลองโควิด ( Long COVID ) หากปล่อยทิ้งไว้ยิ่งนาน ก็จะยิ่งหนักจนเกิดความซับซ้อนยุ่งยากมากในการดูแลทีหลัง การดูแลรักษาจึงไม่ควรรีรอ ต้องแข่งกับเวลา เร่งซ่อมแซมฟื้นฟูระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะปอดหลังจากเชื้อหายเพียงวันเดียว ปรับสมดุลร่างกายหลังติดเชื้อ นี่เป็นประเด็นการดูแลสุขภาพที่สำคัญมาก ๆ สำหรับคนที่เคยติดเชื้อโควิด วันนี้ ทีมแพทย์จีน ASLY GRANULE ของเอินเวย์ ( ENWEI ) จึงสรุป 10 อาการลองโควิดที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งเป็นวิธีการเช็กอาการลองโควิด ( Long COVID ) ได้ง่ายมาก ๆ เพื่อให้ทุก ๆ คนสามารถประเมินตนเองได้ว่า โควิดทิ้งปัญหาเท่าไหร่ไว้ให้คุณแล้ว 1.เหนื่อยง่าย หายใจได้ไม่โล่ง ไม่ลึก ไอนาน ๆ ไม่หาย มีเสลดมาก 2.ปวดเมื่อยตามตัว ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ 3.อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ง่วงนอนบ่อย ไม่สดชื่น หน้าตาอิดโรย 4.การรับรส การได้กลิ่นผิดปกติ 5.รู้สึกมีไข้ ตัวร้อน 6.ปวดศีรษะ มึนศีรษะ คุณภาพการนอนหลับไม่ดี หลับไม่สนิท ตื่นกลางดึกบ่อย ๆ 7.ขี้หลงขี้ลืม ขาดสมาธิ สมองล้า มึนงง 8.เครียด คิดมาก วิตกกังวล ซึมเศร้า 9.ท้องอืด ท้องเสีย ถ่ายเหลว อาหารไม่ค่อยย่อย ไม่ค่อยอยากอาหาร 10.ใจสั่น ใจหวิว แน่นหน้าอก ประมาณ 90% ของผู้ที่ติดเชื้อโควิดมาแล้ว ถึงแม้หายจากโควิดแล้ว แต่รู้สึกได้ว่าร่างกายไม่เหมือนก่อน เพราะการติดเชื้อโควิดแล้วจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวม ในผู้ที่ภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นโรคภูมิแพ้ เด็กหรือผู้สูงอายุ ร่างกายอ่อนแอ ผู้ที่มีโรคเครียดหรือซึมเศร้า ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ คุณภาพการนอนหลับไม่ดี ก็ยิ่งจะมีอาการลองโควิด ( Long COVID ) ที่ชัดเจนมากกว่าคนปกติทั่วไป หากดูแลไม่ทันเวลา ปล่อยเรื้อรังไว้นาน ก็ยิ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นฐานสุขภาพมากขึ้น ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงควรดูแลรักษาอาการลองโควิด ( Long COVID ) ทันทีที่หายป่วยโควิด ในทัศนะการแพทย์แผนจีน สำหรับผู้ที่ติดเชื้อโควิด โดยเฉพาะคนที่มีภาวะลองโควิด ( Long COVID ) ควรฟื้นฟูซ่อมแซม ปรับสมดุลอย่างเร่งด่วน ฟื้นฟูพื้นฐานสุขภาพ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันเชิงบูรณาการ ไม่เพียงแค่ฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเหมือนเดิม แต่ยังเสริมสร้างให้พื้นฐานสุขภาพสมดุลแข็งแรงกว่าเดิมอีกด้วย เอินเวย์ ( ENWEI ) จึงคัดเลือกยาสมุนไพรจีนสูตรเฉพาะ ซึ่งคัดเลือก Nuzhenzi และ Astragali จัดเป็นหมวดยาชั้นสูงซึ่งมีประวัติการใช้ในวงการแพทย์แผนจีนมายาวนานกว่า 2,000 ปี ผ่านการศึกษา วิจัย ทดลองทางคลินิกตามหลักการแพทย์สากล ผ่านการสกัดโดยใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย ควบคุมสารออกฤทธิ์ได้อย่างเข้มข้น คงที่และแม่นยำ คงผลการรักษาได้ยาวนาน ซึ่งมีกลไกการออกฤทธิ์สำคัญดังนี้ (A).ฟื้นฟูซ่อมแซมทางเดินหายใจทั้งระบบ ฟื้นฟูเซลล์ปอด เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด (養肺健肺) (B).ปรับสมดุลของการไหลเวียนของเลือดและพลังลมปราณ (活血通絡) (C).บำรุงม้าม ซึ่งเป็นแหล่งการสร้างพลังลมปราณ ที่เป็นเกราะป้องกันของร่างกาย (扶助正气) (D).เสริมสร้างพลังลมปราณของไต ปรับระบบภูมิคุ้มกันให้สมดุล (補腎益氣 ) (E).ปรับปรุงคุณภาพ ปริมาณ สารอาหารและสารจำเป็นของเลือดให้สมบูรณ์ (補血養血) (F).ระบายพลังลมปราณตับเพื่อให้อารมณ์ผ่อนคลาย ลดอาการเครียด ครุ่นคิด วิตกกังวล ช่วยให้นอนหลับสบาย (疏肝解郁) อย่าปล่อยให้ภาวะลองโควิด ( Long COVID ) ทำลายสุขภาพของคุณไปในแต่ละวัน รักษาอาการลองโควิด ( Long COVID ) ไม่ควรรีรอ ต้องแข่งกับเวลา เพื่อมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ หากอาการลองโควิด ( Long COVID ) กำลังกัดกร่อนสุขภาพคุณอยู่ สนใจดูแลที่ต้นเหตุโดยการใช้วิธีของการแพทย์แผนจีนหรือยาสมุนไพรจีนสมัยใหม่ของเอินเวย์ ( ENWEI ) ทีมผู้เชี่ยวชาญและแพทย์จีนเอินเวย์ (ENWEI ) ยินดีให้คำแนะนำค่ะ 02 - 7514399 LINE @enwei *** ASLY GRANULE ที่หลาย ๆ ท่านถามหากันอยู่ มีดีอะไร เพื่อน ๆ ที่หายจากอาการลองโควิดแล้ว สามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันได้ที่ Line @enwei ขอขอบคุณความรู้ข้อมูลสุขภาพดี ๆ จากบริษัท เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด หากเพื่อน ๆ สนใจศึกษาข้อมูลความรู้การดูแลสุขภาพในทัศนะการแพทย์จีนเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จากช่องทางข้างล่างนี้ ปรึกษาแพทย์แผนจีนและผู้เชี่ยวชาญได้ที่ สายด่วนสุขภาพเอินเวย์ 02-7514399 Line @enwei ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม Website : https://www.enweigroup.co.th ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH Facebook : https://www.facebook.com/EnweiGroup ขอบคุณข้อมูลจาก enwei : https://www.enweigroup.co.th/บทความสุขภาพ/แก้ภาวะลองโควิด-ทีมแพทย
  2. คุณกำลังมีอาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน ต้องลุกมาเข้าห้องน้ำกลางดึกอยู่ไหม อาการปวดฉี่บ่อย โดยเฉพาะฉี่บ่อยตอนกลางคืนนั้น ในทางการแพทย์จีน เป็นอาการไตอ่อนแอ ไตเสื่อมที่พบบ่อยนั่นเอง ไตเป็นรากฐานชีวิต ควบคุมความสมดุลของร่างกาย ทั้งควบคุมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ มีหน้าที่กักเก็บ เหนี่ยวร้าง ควบคุมความสมดุลของน้ำในร่างกาย รวมทั้งการเปิดปิดของกระเพาะปัสสาวะ เมื่ออาการไตอ่อนแอหรือไตเสื่อมมาเยือน ก็จะมีอาการปวดฉี่บ่อย โดยเฉพาะปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน เพราะในช่วงนอนหลับตอนกลางคืน กระเพาะปัสสาวะจะเก็บน้ำปัสสาวะได้มาก และไตจะกลั่นน้ำปัสสาวะน้อยลงเพื่อรองรับการนอนหลับเต็มที่ 7-8 ชั่วโมงโดยไม่ต้องลุกเข้าห้องน้ำ เมื่อมีอาการไตอ่อนแอ โรคไตหรือไตเสื่อม ก็มักจะต้องตื่นมาปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน ไม่เพียงเท่านี้ อาการไตอ่อนแอหรือไตเสื่อมยังมีอาการเตือนอีกหลาย ๆ ด้าน รู้ทันอาการไตอ่อนแอหรือไตเสื่อม 14 ข้อ 1.อาการปวดฉี่บ่อย ฉี่บ่อยตอนกลางคืน 2.ปวดหลังปวดเอวปวดเข่า ปวดเมื่อยตามร่างกาย 3.นอนหลับไม่สนิท ฝันบ่อย ชอบสะดุ้งระหว่างนอน ตื่นเช้าไม่สดชื่น 4.เป็นภูมิแพ้ ภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นหวัดบ่อย 5.หย่อนสมรรถภาพทางเพศ เฉื่อยชาทางเพศ 6.ผมหงอกก่อนวัย ผมร่วง ผมบาง ผมแห้งกรอบ แตกปลาย 7.ผิวหน้าหมองคล้ำ หยาบกร้าน ไม่มีสีเลือดฝาด ผิวไม่มีออร่า 8.เหงือกฟันร่น ฟันโยก 9.หูอื้อ หูมีเสียง หูตึง 10.ตาพร่า ตามัว สายตาเสื่อมลง ขอบตาหมองคล้ำ 11.อ้วนง่าย บวมฉุ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 12.เป็นวัยทองก่อนเวลาอันควร 13.มีบุตรยากทั้งชายและหญิง แท้งบุตรง่าย ประจำเดือนผิดปกติ 14.ขี้หนาว มือเท้าเย็น เลือดไหลเวียนไม่ดี ไตในทัศนะการแพทย์จีนเป็นรากฐานชีวิต ไตเสื่อมลงหรือเริ่มมีอาการไตอ่อนแอตามอายุที่เพิ่มมากขึ้นและปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ อาการไตอ่อนแอหรือไตเสื่อมมักจะเรื้อรังอย่างช้า ๆ จนคุณคุ้นชิน จนลืมไปแล้วว่าตอนที่ไตแข็งแรงนั้นร่างกายควรเป็นอย่างไร เอินเวย์ (enwei) ได้เลือกใช้สมุนไพรจีนสูตรเฉพาะ ซึ่งเป็นต้นตำรับยาสมุนไพรบำรุงไต ฟื้นฟูไต ซึ่งมีประวัติการใช้ในวงการแพทย์จีนมา 1000 กว่าปี คัดเลือกสมุนไพรบำรุงไตจากแหล่งที่ดีที่สุด ซึ่งประกอบด้วย Dihuang, Shanzhuyu, Zexie, Fuling, Guizhi, Fuzhi, Niuxi, Shanyao, Mudanpi, Cheqianzi ฯลฯ ผ่านการศึกษา วิจัย ทดลองทางคลินิกตามหลักการแพทย์สากลและผ่านการสกัดที่ทันสมัย ควบคุมสารออกฤทธิ์ได้อย่างเข้มข้น แม่นยำและคงที่ เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย ทั้งคงผลได้ยาวนาน "บำรุงไต บำบัดสารพัดโรค" เป็นหลักทฤษฎีชี้แนะแนวทางการดูแลรักษาสุขภาพจากรุ่นสู่รุ่น เป็นสมบัติอันล้ำค่าของวงการแพทย์จีนซึ่งมีมานานนับพันปี รักสุขภาพ ใส่ใจดูแลบำรุงไตเป็นอันดับแรก หากคุณมีอาการไตอ่อนแอ ไตเสื่อมหรือโรคไต มีอาการปวดฉี่บ่อย โดยเฉพาะฉี่บ่อยตอนกลางคืนมานานแล้ว เคยรักษามาแต่ไม่ถูกจุด หรือพยายามดูแลด้วยหลายวิธีมาแล้วก็ยังไม่เห็นผลที่น่าพอใจ ปรึกษาทีมแพทย์จีนและเภสัชกรเอินเวย์ (enwei) ได้ค่ะ โทรศัพท์ 02-7514399 LINE @enwei *** Maxitin ที่หลาย ๆ ท่านถามหากัน มีดีอะไร เพื่อน ๆ ที่หายจากอาการไตอ่อนแอ ไตเสื่อมมาแล้ว สามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันได้ที่ Line @enwei ขอขอบคุณความรู้ข้อมูลสุขภาพดี ๆ จากบริษัท เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด หากเพื่อนๆ สนใจศึกษาข้อมูลความรู้การดูแลสุขภาพในทัศนะการแพทย์จีน เพิ่มเติม สามารถติดตามได้จากช่องทางข้างล่างนี้ ปรึกษาแพทย์แผนจีนและผู้เชี่ยวชาญได้ที่ สายด่วนสุขภาพเอินเวย์ 02-7514399 Line @enwei ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม Website : https://www.enweigroup.co.th ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH Facebook : https://www.facebook.com/EnweiGroup ขอบคุณข้อมูลจาก enwei : https://www.enweigroup.co.th/บทความสุขภาพ/อาการปวดฉี่บ่อย
  3. โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 2 ของชาวไทย คิดเฉลี่ยชั่วโมงละ 4 คน และยังมีแนวโน้มการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกปี โรคนี้เกิดได้กับคนทุกวัย ถือเป็นโรคภัยเงียบ ซึ่งผู้ป่วยอาจมีอาการร้ายแรงได้ ทั้งที่ไม่เคยมีอาการเตือนเส้นเลือดหัวใจตีบมาก่อน หลอดเลือดของคนเรามีความยาวถึง 1แสนกิโลเมตร จะเสื่อมลงและมีการติดขัดเพิ่มขึ้นปีละ 1% ตามอายุที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 1 ปี ยกตัวอย่างเช่น คนอายุ 50 ปี หลอดเลือดก็มีการติดขัดไปแล้วประมาณ 50% คนอายุ 80 ปี หลอดเลือดก็ติดขัดไปแล้วประมาณ 80% เป็นต้น สำหรับผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ขาดการออกกำลังกายหรือเลือดหนืดข้น ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดก็จะมีการติดขัดมากขึ้นและเร็วขึ้นจนเลือดไหลเวียนช้าลง ซึ่งเลือดก็จะหนืดข้นมากขึ้นและเกิดลิ่มเลือดได้ นี่ก็คือภาวะเลือดคั่งตามหลักการแพทย์แผนจีน เสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันหรือโรคหลอดเลือดสมองตีบ ทั้งยังส่งผลกระทบต่อทุก ๆ ระบบของร่างกายอีกด้วย ดังนั้น เราจึงควรหมั่นสังเกตอาการเตือนเส้นเลือดหัวใจตีบ และป้องกันดูแลไว้แต่เนิ่น ๆ ก่อนที่จะสายเกินไป ถ้าจะสังเกตภาวะเลือดคั่งด้วยตนเอง การแพทย์แผนจีนมีวิธีการตรวจเช็คเบื้องต้น เพียงแค่กระดกลิ้นขึ้น หากพบว่าหลอดเลือดใต้ลิ้นมีสีม่วงคล้ำหรือขอดใหญ่ นั่นแสดงว่าในร่างกายมีภาวะเลือดคั่งแล้ว เพราะหลอดเลือดใต้ลิ้นจะบ่งบอกถึงสภาพการไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกาย ซึ่งยังเป็นตำแหน่งที่สังเกตเห็นได้ชัด ผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน หรือผู้ที่มีอาการเตือนเส้นเลือดหัวใจตีบ หากสังเกตเส้นเลือดใต้ลิ้นแล้วก็มักจะเป็นสีม่วงและโป่งพองด้วย สำหรับผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน เมื่อตีบตันไปมากกว่า 70% แล้ว ก็จะเริ่มมีอาการเตือนเส้นเลือดหัวใจตีบ เช่น เหนื่อยง่าย ทำอะไรนิดหน่อยก็เหนื่อย หายใจสั้น จุกเสียด แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ฯลฯ แต่จะมี 30% ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ต่อให้ตีบไปมากกว่า 70% แล้ว ก็ไม่แสดงสัญญาณเตือน เราจึงได้ยินข่าวอยู่บ่อย ๆ ว่า คน ๆ หนึ่งที่ไม่เคยมีอาการเตือนเส้นเลือดหัวใจตีบมาก่อน แต่อยู่ ๆ ก็เสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ซึ่งน่าเสียดายมาก ๆ ในทางการแพทย์แผนจีนสมัยใหม่ สำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปลาย ๆ หรือ 50 ต้น ๆ ควรใส่ใจดูแลสุขภาพของหลอดเลือดเพื่อให้หลอดเลือดโล่งสะอาด โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ควรได้รับการรักษาจากต้นเหตุและองค์รวมแต่เนิ่น ๆ เพราะในเมื่อเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันได้ หลอดเลือดสมองหรือหลอดเลือดส่วนอื่น ๆ ในร่างกายก็ย่อมตีบตันได้เช่นกัน เพราะหลอดเลือดทั่วร่างกายมีสภาพที่เหมือน ๆ กัน เอินเวย์ ( enwei ) ได้เลือกใช้ยาสมุนไพรจีนสูตรเฉพาะ ซึ่งเป็นต้นตำรับยาล้างหลอดเลือด มีประวัติการใช้ในวงการแพทย์แผนจีนมากว่า 400 ปี คัดเลือกยาสมุนไพรจีนจากแหล่งที่ดีที่สุด ซึ่งประกอบด้วย Taoren, Niuxi, Danggui, Zhiqiao, Chuanxiong, Jiegeng, Honghua, Chaihu, Dihuang ฯลฯ ผ่านการศึกษา วิจัย ทดลองทางคลินิกตามหลักการแพทย์สากลและผ่านการสกัดที่ทันสมัย ควบคุมสารออกฤทธิ์ได้อย่างเข้มข้น แม่นยำและคงที่ เพื่อให้มีประสิทธิภาพที่ดี ทั้งคงผลการรักษาได้นาน ซึ่งมีกลไกการออกฤทธิ์สำคัญดังนี้ - ลดระดับคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ เพิ่ม HDL เพื่อนำ LDL ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีขับออกจากร่างกาย - ปรับความสมดุลตับ เพื่อตับจะผลิตไขมันในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ผลิตไขมันมากเกินไปหรือเร็วเกินไป - ลดการแข็งตัวและเพิ่มความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือด - สลายภาวะเลือดคั่ง ลดความข้นและความหนืดของเซลล์เม็ดเลือด - ยับยั้งการก่อตัวของลิ่มเลือด - ผลักดันการไหลเวียนของเลือด เพิ่มประสิทธิภาพของการไหลเวียนในหลอดเลือดฝอย หลอดเลือดทั่วร่างกายจึงโล่งสะอาด เลือดไหลเวียนดี หล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอ ป้องกันและรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันจากต้นเหตุได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าประมาทกับอาการเตือนเส้นเลือดหัวใจตีบ อย่าให้โรคหลอดเลือดหัวใจตีบตันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคุณหรือคนที่คุณรัก ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ แก้เร็วย่อมดีกว่าต้องเสียใจภายหลัง ล้างหลอดเลือดให้โล่งสะอาด เลือดไหลเวียนดี ปราศจากการติดขัดหรือภาวะเลือดคั่ง คุณเองก็สามารถเริ่มต้นการดูแลได้ตั้งแต่วันนี้ ปรึกษาแพทย์แผนจีนและผู้เชี่ยวชาญได้ที่ สายด่วนสุขภาพเอินเวย์ 02-7514399 Line @enwei ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม Website : https://www.enweigroup.co.th ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH Facebook : https://www.facebook.com/EnweiGroup ขอบคุณข้อมูลจาก enwei : https://www.enweigroup.co.th/บทความสุขภาพ/หลอดเลือดหัวใจตีบตัน
  4. หลอดเลือดของคนเรามีความยาวถึง 100,000 กิโลเมตร ทำหน้าที่ในการลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารไปยังเซลล์ต่าง ๆ และนำเอาของเสียที่เกิดจากการทำงานของเซลล์ออกจากร่างกาย ดังนั้น ระบบการไหลเวียนของเลือดมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพและอายุขัยเป็นอย่างมาก โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 2 ของชาวไทย คิดเฉลี่ยชั่วโมงละ 4 คน และเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตเฉลี่ยชั่วโมงละ 15 คน ยังมีแนวโน้มการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกปี โรคหลอดเลือดหัวใจและสมองเกิดได้กับคนทุกวัย ถือเป็นโรคภัยเงียบ ซึ่งผู้ป่วยอาจมีอาการที่ร้ายแรงได้ทั้งที่ไม่เคยมีสัญญาณเตือนมาก่อน หลอดเลือดของคนเราจะเสื่อมลงและมีการติดขัดเพิ่มขึ้นปีละ 1% ตามอายุที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 1 ปี ยกตัวอย่างเช่น คนที่มีอายุ 50 ปี หลอดเลือดตีบก็ติดขัดไปประมาณ 50% คนอายุ 80 ปี หลอดเลือดตีบก็ติดขัดไปประมาณ 80% เป็นต้น แต่สำหรับผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ขาดการออกกำลังกายหรือเลือดหนืดข้น หลอดเลือดตีบก็จะมีการติดขัดมากขึ้นและเร็วขึ้นจนเลือดไหลเวียนช้าลง นี่ก็คือภาวะเลือดคั่งตามหลักการแพทย์แผนจีน ส่งผลให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง ทั้งยังส่งผลกระทบต่อทุก ๆ ระบบของร่างกายอีกด้วย ถ้าจะสังเกตภาวะเลือดคั่งด้วยตนเอง ลองกระดกลิ้นขึ้น หากพบว่าหลอดเลือดใต้ลิ้นมีสีม่วงคล้ำหรือขอดใหญ่ นั่นแสดงว่าในร่างกายมีภาวะเลือดคั่งแล้ว เพราะหลอดเลือดบริเวณใต้ลิ้นจะบ่งบอกถึงสภาพของหลอดเลือดทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งยังเป็นตำแหน่งที่สังเกตเห็นได้ง่ายที่สุด สำหรับภาวะเลือดคั่งหรือเส้นเลือดตีบ การแพทย์แผนจีนเน้นการรักษาจากต้นเหตุและองค์รวม เอินเวย์ ได้เลือกใช้ยาสมุนไพรจีนที่อยู่ในรูปแบบของสารสกัด เช่น Taoren, Niuxi, Danggui, Zhiqiao, Chuanxiong, Jiegeng, Honghua, Chaihu, Dihuang ฯลฯ ควบคุมสารออกฤทธิ์ได้อย่างเข้มข้นและแม่นยำ ซึ่งมีกลไกการออกฤทธิ์ดังนี้ - ปรับความสมดุลของตับ ไม่ให้ผลิตโคเลสเตอรอลมากหรือเร็วเกินไป ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ เพิ่ม HDL เพื่อนำ LDL ซึ่งเป็นโคเลสเตอรอลที่ไม่ดีที่สะสมตามผนังหลอดเลือดเพื่อขับออกจากร่างกาย - สลายภาวะเลือดคั่ง ลดความข้นและความหนืดของเซลล์เม็ดเลือด - ยับยั้งการก่อตัวของลิ่มเลือด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดแรงต้านทานและการแข็งตัวของหลอดเลือด เพิ่มควายืดหยุ่นของหลอดเลือด หลอดเลือดจึงโล่งสะอาด เลือดไหลเวียนดีและไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้อย่างเพียงพอ อย่าให้โรคหลอดเลือดหัวใจและสมองเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของคุณและคนที่คุณรัก ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ แก้เร็วดีกว่าต้องเสียใจภายหลัง ล้างหลอดเลือดให้โล่งสะอาด เลือดไหลเวียนดี ปราศจากภาวะเลือดคั่ง คุณเองก็สามารถเริ่มต้นการดูแลได้ตั้งแต่วันนี้... ปรึกษาแพทย์แผนจีนและผู้เชี่ยวชาญได้ที่ สายด่วนสุขภาพเอินเวย์ 02-7514399 Line @enwei ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม : https://youtu.be/o_WDE4WNMi8 ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH ขอบคุณข้อมูลจาก Enwei : http://www.enwei.co.th/article_detail/detailArticle/141
  5. ภาวะโลหิตจางพบบ่อยในคนทุกวัย โดยเฉพาะในเด็ก วัยรุ่น ผู้สูงอายุ สตรีมีประจำเดือน ตั้งครรภ์หรือหลังคลอดบุตรและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง อาการที่พบบ่อยได้แก่ อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ ใจสั่น หน้ามืด ตาแห้ง ผมร่วง นอนไม่หลับ ฝันบ่อย ใบหน้าและริมฝีปากซีดเซียว เล็บเปราะ ขี้หนาว มือเท้าเย็น หลงลืมง่าย ภูมิคุ้มกันต่ำ ติดเชื้อง่าย สุขภาพอ่อนแอ เจ็บป่วยบ่อย การแพทย์แผนจีนได้จัดภาวะโลหิตจางให้อยู่ในกลุ่มโรคของเลือดพร่อง ซึ่งได้ครอบคลุมถึงความผิดปกติทั้งปริมาณและคุณภาพของเซลล์เม็ดเลือดต่าง ๆ รวมถึงภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำและเกล็ดเลือดต่ำอีกด้วย เอินเวย์ ได้คัดเลือกอือเจียว ซึ่งได้รับการยกย่องในวงการแพทย์แผนจีนให้เป็นราชาสมุนไพรจีนบำรุงเลือดมาเป็นเวลานานกว่า 2000 ปี ร่วมกับโสมคน ซึ่งเป็นสุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงพลังชี่ เหมาะกับทุกเพศทุกวัยทุกสภาพร่างกาย สามารถใช้เพื่อบำรุงร่างกายเป็นประจำอีกด้วย 1.เกื้อหนุนสารอาหารสำคัญในการสร้างเลือดอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ทำให้เม็ดเลือดแดงและฮีโมโกลบินเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและคุณภาพได้อย่างเด่นชัด 2.กระตุ้นการแบ่งตัวและเพิ่มจำนวนของสเต็มเซลล์ในไขกระดูกซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดและสามารถพัฒนาเป็นเซลล์เม็ดเลือดชนิดต่าง ๆ ได้ 3.เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายเชิงบูรณาการ จึงช่วยให้รู้สึกสดชื่นแข็งแรง หน้าตาสดใส ดูมีชีวิตชีวาอย่างอัศจรรย์ เห็นผลโดยรวม 96% บอกลาภาวะโลหิตจาง เลือดดี สุขภาพดี ตัวคุณเองก็สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ปรึกษาแพทย์แผนจีนและผู้เชี่ยวชาญได้ที่ สายด่วนสุขภาพเอินเวย์ 02-7514399 Line @enwei ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม : https://youtu.be/o_WDE4WNMi8 ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH
  6. โรคแพ้อากาศหรือโรคหืด เป็นโรคภูมิแพ้ที่พบบ่อยที่สุด สำหรับโรคแพ้อากาศอาการที่พบบ่อยคือ คัดจมูก คันจมูกน้ำมูกไหล ไอ มีเสมหะมาก อาจมีน้ำมูกไหลลงคอ เป็นหวัดบ่อย เป็นหวัดง่าย โรคแพ้อากาศพบได้ในคนทุกวัย โดยเฉพาะเด็กนักเรียนในกรุงเทพเป็นมากถึง 40% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากกรรมพันธุ์ ในอนาคตเด็กเหล่านี้ก็มักจะถ่ายทอดโรคภูมิแพ้ให้กับลูก ๆ อีก โรคหืด เกิดจากการอักเสบของหลอดลม ทำให้มีความไวและตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นมากผิดปกติ เมื่อสัมผัสสิ่งกระตุ้น หลอดลมก็จะหดตัวอย่างรุนแรงจนตีบแคบ ทำให้หายใจลำบาก ไอ หอบ แน่นหน้าอกและหายใจมีเสียงวี๊ด ๆ พบได้ในคนทุกวัย โรคหืดนี้จะถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ หากพ่อแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นโรคหืด ลูกจะมีโอกาสเป็น 30-50% และจะสูงถึง60-100% หากพ่อแม่เป็นทั้งคู่ การแพทย์แผนจีนได้จัดโรคภูมิแพ้ให้อยู่ใน กลุ่มโรคที่เกิดจากพลังชี่พร่อง ซึ่งพลังชี่เป็นพลังชีวิต เป็นพลังงานขนาดเล็กที่ทรงอนุภาพ ทำหน้าที่ขับเคลื่อนให้อวัยวะทุกส่วนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน พลังชี่ยังมีหน้าที่ในการปกป้องร่างกายจากการรุกรานของโรคและช่วยให้โรคต่าง ๆ หายเร็วขึ้น เมื่อพลังชี่พร่องลง สมรรถภาพการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ก็ถดถอยลงไปด้วย จึงส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้จึงมักจะแสดงอาการของพลังชี่พร่องหลายอย่างด้วยกัน เช่น ใบหน้าซีดเหลือง ง่วงเหงาหาวนอนบ่อย ขี้หนาว มือเท้าเย็น ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายหายใจถี่ หายใจไม่ทั่วท้อง เหงื่อออกง่ายทั้งที่ไม่รู้สึกร้อน เป็นหวัดง่าย ลิ้นมีฝ้าสีขาว ขอบลิ้นมีรอยกดทับของฟัน สำหรับการรักษาโรคภูมิแพ้การแพทย์แผนจีนนิยมใช้ยาสมุนไพรจีนที่มีสรรพคุณโดดเด่นในการเสริมสร้างพลังชี่เพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ปรับระบบภูมิคุ้มกันให้เกิดความสมดุลย์ เอินเวย์ได้เลือกใช้ Astragali สมุนไพรจีนอัศจรรย์ในการบำรุงพลังชี่จัดอยู่ในหมวดยาชั้นสูงที่มีประวัติการใช้มาอย่างยาวนานและได้ถูกบันทึกในคัมภีร์โบราณ神农本草经 ที่มีอายุกว่า 2000 ปี คัดเลือกจากแหล่งของ Astragali ที่มีสรรพคุณที่ดีที่สุดในโลก จากทางภาคเหนือของประเทศจีนซึ่งติดกับเขตแดนของประเทศมองโกเรีย ผ่านกรรมวิธีผัดกับน้ำผึ้งบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นกรรมวิธีพิเศษที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางปัญญาของประเทศจีนเพื่อเพิ่มสรรพคุณทางยาให้มีคุณค่าสูงสุด ผ่านการสกัดโดยการใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยที่สุด ควบคุมสารออกฤทธิ์ได้อย่างเข้มข้น แม่นยำและคงที่จึงช่วยให้โรคภูมิแพ้และอาการอื่น ๆ ที่เกิดจากภาวะพลังชี่พร่องจึงค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เอาชนะโรคภูมิแพ้เริ่มต้นการเสริมสร้างพลังชี่ตั้งแต่วันนี้ เอินเวย์ นวัตกรรมสมุนไพรจีน สร้างเสริมสุขภาพ ปรึกษาแพทย์แผนจีนและผู้เชี่ยวชาญได้ที่ สายด่วนสุขภาพเอินเวย์ 02-7514399 Line @enwei ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม : ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH
  7. เนื้องอกมดลูกเป็นเนื้องอกที่พบได้บ่อยในทางนรีเวช โดยส่วนใหญ่เป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง ซึ่งเกิดขึ้นบริเวณกล้ามเนื้อของมดลูก มีขนาดตั้งแต่เมล็ดถั่วจนถึงผลส้ม มักพบในเพศหญิงอายุ 30-50 ปีสูงถึง 30% และ 50% ของผู้ป่วยมักไม่แสดงอาการ แต่สามารถรู้ได้จากการตรวจสุขภาพประจำปี โดยการตรวจภายในหรืออัลตราซาวนด์ ชนิดและตำแหน่งที่เกิดเนื้องอก Checklist อาการ - ประจำเดือนผิดปกติ มักพบประจำเดือนมามากและนานผิดปกติ หรืออาจมีลิ่มเลือด - ปวดท้องประจำเดือน ปวดหน่วงท้องน้อย ปวดในอุ้งเชิงกราน - มีบุตรยาก แท้งบุตร เนื่องจากก้อนเนื้องอกกดทับท่อรังไข่ หรือทำให้โพรงมดลูกบิดเบี้ยวไม่เหมาะต่อการฝังตัว - ปัสสาวะบ่อย ท้องผูก เป็นอาการอื่น ๆ ที่เกิดจากการที่ก้อนเนื้องอกเบียดอวัยวะใกล้เคียง - อาจพบภาวะโลหิตจางร่วมด้วย เนื่องจากประจำเดือนมามากและนาน ทำให้ประสบปัญหาเลือดพร่อง แนวทางในการบำบัดทั่วไป จะเน้นการใช้ยาเพื่อปรับฮอร์โมน ในผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาจะรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด แต่การผ่าตัดก็มีข้อจำกัดบางประการสำหรับผู้ที่ต้องการมีบุตร ถ้าผ่าตัดเฉพาะก้อนเนื้องอกก็ยังมีโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ และโอกาสการตั้งครรภ์จะลดลงเหลือเพียง 50 % สาเหตุในมุมมองของการแพทย์จีน - พิษเย็น พิษชื้น แทรกเข้าสู่ร่างกาย ในช่วงที่มีประจำเดือนหรือหลังคลอดบุตร ได้รับพิษเย็นพิษชื้นเข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจากการดื่มน้ำเย็นเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็น ตากแอร์ เป่าลม โดนฝน สระผมหรืออาบน้ำเย็น ฯลฯ - ความเครียดสะสม เมื่อความเครียดสะสมเป็นระยะเวลานาน ซึ่งจะทำลายตับ เนื่องจากในการแพทย์แผนจีน ตับเป็นศูนย์บัญชาการในการกระจายเลือดและพลังลมปราณไปทั่วร่างกาย ทั้งสองสาเหตุ ล้วนส่งผลให้เลือดและพลังลมปราณบริเวณมดลูกเกิดการติดขัด ไหลเวียนไม่สะดวก จนเกิดการคั่งค้างกลายเป็นเลือดคั่ง สะสมนานวันเข้าจึงเกิดก้อนเนื้องอกในที่สุด การแพทย์จีนบำบัดจากต้นเหตุ การแพทย์แผนจีนนิยมบำบัดจากต้นเหตุ โดยใช้สมุนไพรจีนที่มีสรรพคุณในการกระตุ้นการไหลเวียนเลือด (活血) สลายเลือดคั่ง (化瘀) สลายก้อน (消癥) เพื่อบำบัดภาวะเนื้องอกมดลูก ช่วยลดและสลายก้อน ปรับสมดุลประจำเดือน เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ในผู้ที่มีบุตรยากที่เกิดจากเลือดคั่งอุดกั้นภายในมดลูก จากการศึกษาวิจัยและทดลองทางการแพทย์และเภสัชวิทยาในปัจจุบันพบว่า ยาสมุนไพรจีนอยู่ในรูปแบบสารสกัดเป็นรูปแบบที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากสามารถสกัดและควบคุมสารออกฤทธิ์ได้อย่างเข้มข้นและแม่นยำ กลไกการออกฤทธิ์ของยา - ปรับสมดุลการไหลเวียนเลือดทั่วร่างกาย ลดความหนืดความข้นของเลือด ลด Hematocrit - ลดการอักเสบ ลดระดับสารที่ก่อเกิดการอักเสบ เช่น IL-1β, IL-2, TNF-α และเพิ่มสารที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เช่น IL-4, IL-10 - ปรับสมดุลฮอร์โมนและระบบภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระดับ Estrogen Progesterone - ต้านการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอกมดลูก ลดระดับ Bcl-2, Survivin, c-myc ผลการทดลองทางคลินิก ในปัจจุบันมีผลการทดลองทางคลินิก ตามหลักการแพทย์สากลพบว่า สมุนไพรจีนมีประสิทธิภาพในการบำบัด เนื้องอกมดลูกสูงถึง 92%* ช่วยปรับความสมดุลประจำเดือน ปรับสมดุลการไหลเวียนเลือด เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ จึงถือเป็นทางออกที่ปลอดภัยและเป็นข่าวดีสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ *中医中药 [J].2012, 2(12):83. China Medicine and Pharmacy[J].2012, 2(12):83. ปรึกษาแพทย์แผนจีนและผู้เชี่ยวชาญได้ที่ สายด่วนสุขภาพเอินเวย์ 02-7514399 Line @enwei ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.youtube.com/watch?v=IQmJ6Z2eBu8 ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH
  8. จากอดีตจวบจนปัจจุบัน วงการแพทย์แผนจีนได้มีหลักการสำคัญเกี่ยวกับการเพิ่มความงามของสุภาพสตรีว่า ความงามที่ยั่งยืนต้องมาจากพื้นฐานสุขภาพที่ดี แล้วนี่ก็คือเหตุผลของการเลือกใช้สมุนไพรจีน Astragali แค่ดื่มก็สวยได้ Astragali เป็นหมวดยาชั้นสูงในการเสริมสร้างพลังชี่ พลังชี่เป็นพลังงานขนาดเล็กที่ทรงอานุภาพ มีอยู่ในทุกอณูของร่างกาย ซึ่งเสมือนแบตเตอรี่ของร่างกาย ทำหน้าที่ในการฟื้นฟูซ่อมแซมและเป็นภูมิคุ้มกัน ที่สำคัญคือ พลังชี่มีหน้าที่ในการพยุงอวัยวะภายใน ทั้งยังยกกระชับใบหน้า ผิวหนังและกล้ามเนื้อ จากการศึกษาวิจัยในปัจจุบัน ได้พบว่า Astragali อุดมด้วยสาร APS2-1 - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างคอลลาเจนของร่างกายให้มากขึ้น จึงทำให้ผิวพรรณเต่งตึง ยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอย - ช่วยซ่อมแซมรอยแผล เร่งฟื้นฟูเซลล์ผิว ลำเลียงสารอาหารไปยังหลอดเลือดฝอยเพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวได้มากขึ้น ผิวจึงชุ่มชื้น กระจ่างใส - ช่วยสร้างโปรตีน keratin ในการปกป้องความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ผิว เพื่อป้องกันผิวแห้ง หยาบกร้าน ลอกเป็นขุย - สาร Astragaloside ใน Astragali จะช่วยลดผลกระทบจากรังสี UV ที่มีต่อผิว - สาร Astragaloside ใน Astragali IV ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว - สาร Astragaloside ใน Astragali ยังช่วยต้านอาการแพ้และอักเสบของผิว เสริมเกราะป้องกันให้แก่ผิวที่บอบบางแพ้ง่าย เอินเวย์ได้เลือกใช้ Astragali ซึ่งเป็นยาสมุนไพรจีนอัศจรรย์ในการบำรุงพลังชี่ จัดอยู่ในหมวดยาชั้นสูงที่มีประวัติการใช้มาอย่างยาวนานและถูกบันทึกในคัมภีร์โบราณ 神農本草經 มากว่า 2000 ปี คัดเลือกจากแหล่งของ Astragali ที่มีสรรพคุณที่ดีที่สุดในโลกจากทางภาคเหนือของประเทศจีนซึ่งติดกับเขตแดนของประเทศมองโกเลีย ผ่านกรรมวิธีผัดกับน้ำผึ้งบริสุทธิ์ซึ่งเป็นกรรมวิธีพิเศษที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางปัญญาของประเทศจีนเพื่อเพิ่มสรรพคุณทางยาสมุนไพรจีนให้มีคุณค่าสูงสุด ผ่านการสกัดโดยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ควบคุมสารออกฤทธิ์ได้อย่างเข้มข้นและแม่นยำ Astragali ช่วยให้คุณสวยจากภายในสู่ภายนอก ชาร์จแบตเตอรี่ให้กับร่างกายทุกวัน Astragali ความสวยที่ดื่มได้ ปรึกษาแพทย์แผนจีนและผู้เชี่ยวชาญได้ที่ สายด่วนสุขภาพเอินเวย์ 02-7514399 Line @enwei ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.youtube.com/watch?v=f9rB-WAtktg ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH
  9. ภาวะกึ่งแข็งแรง หมายถึง การอยู่บนเส้นแบ่งระหว่างคนแข็งแรงกับคนเจ็บป่วย จะว่าแข็งแรงก็ไม่ใช่ จะว่าเจ็บป่วยก็ไม่เชิง ซึ่งเป็นภาวะที่คนในปัจจุบันเป็นกันมาก แล้วตัวคุณเองเป็นอยู่หรือไม่ วันนี้เรามาไขข้อข้องใจและเช็คอาการไปด้วยกัน ปัจจัยเสี่ยงในชีวิตประจำวันเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าการใช้ชีวิตที่เร่งรีบ การทำงานหนัก การทุ่มเทเวลาให้กับงานมากเกินไป ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่ค่อยใส่ใจอาหารการกิน มลภาวะเป็นพิษ หรือแม้แต่อายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็ทำให้หลาย ๆ ท่านรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่สดชื่น ไม่มีเรี่ยวแรง ใจสั่น หายใจถี่ หน้ามืดตาลาย สมองล้า ความจำเสื่อม ขาดสมาธิ เป็นภูมิแพ้ เป็นหวัดบ่อย เป็นหวัดง่าย ง่วงเหงาหาวนอน แต่จะไปนอนจริง ๆ กลับนอนไม่ค่อยหลับ ทำให้หน้าตาดูอิดโรย เหมือนคนไม่ค่อยสบาย ไปตรวจที่โรงพยาบาลด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย กลับไม่พบความผิดปกติใด ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้สึกได้ว่าไม่แข็งแรง ไม่สดชื่น หากคุณมีอาการดังกล่าว 1-2 ข้อขึ้นไป แสดงว่าคุณกำลังเข้าสู่ภาวะกึ่งแข็งแรงแล้ว ภาวะกึ่งแข็งแรงถ้าได้รับการดูแลอย่างทันท่วงทีและถูกวิธีและก็จะกลับมาเป็นคนแข็งแรงแต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้เรื้อรังอาการก็จะยิ่งชัดเจนมากขึ้นจนกลายเป็นคนเจ็บป่วย การแพทย์แผนจีนได้จัดภาวะกึ่งแข็งแรง ให้อยู่ในกลุ่มโรคที่เกิดขึ้นจากการพร่องลงของพลังชี่และเลือด พลังชี่และเลือดเป็นวัตถุพื้นฐานซึ่งร่างกายขาดไม่ได้ ถ้าจะเปรียบร่างกายเป็นต้นไม้ พลังชี่และเลือดก็จะเหมือนดิน น้ำ ปุ๋ยและแสงแดด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมาก ๆ สำหรับต้นไม้ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับปัจจัยเสี่ยงที่เผชิญอยู่ในชีวิตประจำวัน การสร้างเลือดและพลังชี่ของร่างกายก็ถดถอยลง จึงส่งผลให้ร่างกายค่อย ๆ เข้าสู่ภาวะกึ่งแข็งแรง ภาวะเลือดพร่อง และเสื่อมชราลง ในทางการแพทย์แผนจีน การเสริมสร้างพลังชี่และเลือดเป็นวิธีพื้นฐานของการดูแลสุขภาพเชิงบูรณาการ เอินเวย์ได้เลือกใช้สมุนไพรจีนสูตรเฉพาะ ซึ่งเป็นต้นตำรับยาบำรุงพลังชี่และบำรุงภาวะเลือดพร่อง มีประวัติการใช้ในวงการแพทย์แผนจีนมากว่า 2000 ปี คัดเลือกสมุนไพรจีนสำคัญ เช่น อือเจียว ซึ่งเป็นราชายาสมุนไพรจีนบำรุงเลือด และ โสมแดง ซึ่งเป็นราชายาสมุนไพรจีนบำรุงพลังชี่ ดูแลภาวะเลือดพร่อง เสริมด้วย Shudihuang Dangshen Shanzha เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการย่อยและการดูดซึม ซึ่งมีกลไกการออกฤทธิ์สำคัญ ดังนี้ - ฟื้นฟูและเสริมสร้างพลังชี่ - ส่งเสริมการสร้างเลือด - เพิ่มปริมาณ คุณภาพของเลือด - ปรับการไหลเวียนของเลือดให้มีประสิทธิภาพ - ช่วยให้ร่างกายสดชื่น มีพลัง กระปรี้กระเปร่า มีชีวิตชีวา - เสริมสร้างและปรับความสมดุลของภูมิคุ้มกันทั่วร่างกาย ที่สำคัญคือ วิธีการดูแลนี้ยังเหมาะมาก ๆ กับผู้ที่เลือดน้อย มีภาวะเลือดพร่อง โลหิตจาง หรือร่างกายอ่อนแอ เป็นภูมิแพ้ เลือดดี พลังชี่สมบูรณ์ เป็นพื้นฐานของการมีสุขภาพที่แข็งแรง ภาวะกึ่งแข็งแรงนั้นจึงค่อย ๆ ดีขึ้นหรืออาจหายไปในที่สุด ทั้งช่วยชะลอความเสื่อมความชรา ได้ดีอีกด้วย COLLATIN จากเอินเวย์ ห่วงใยและใส่ใจสุขภาพของคุณเสมอ หากคุณมีภาวะกึ่งแข็งแรง ภาวะเลือดพร่อง โลหิตจาง เลือดน้อย อ่อนเพลียเรื้อรัง หรือสนใจวิธีการดูแลสุขภาพในทัศนะการแพทย์แผนจีน ทีมแพทย์จีนและเภสัชกรเอินเวย์ ยินดีให้คำแนะนำ 02-7514399 LINE @enwei ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.youtube.com/watch?v=Irhi8pJZhQY ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH Facebook : https://www.facebook.com/EnweiGroup
  10. หายจากการติดเชื้อโควิดแล้ว แต่ทำไมยังป่วยอยู่ เพราะอะไร สุขภาพไม่กลับมาเหมือนเดิม ต้องฟื้นฟูร่างกายอย่างไรให้กลับมาเหมือนเดิม การแพทย์แผนจีนมีคำตอบ เอินเวย์มีทางออกค่ะ 87% ของผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด ได้แสดงอาการหลงเหลือ ซึ่งเรียกกันว่าลองโควิด (Long covid)อาการที่พบบ่อยคือ อ่อนเพลียเรื้อรัง เหนื่อยง่าย หายใจได้ไม่ลึก แน่นหน้าอก ไอ หอบหืด คัดจมูก จมูกไม่ได้ค่อยกลิ่น เจ็บป่วยง่าย และยังพบว่ามีผลกระทบต่อระบบประสาท สมอง และสภาพจิตใจ ส่งผลให้สมาธิสั้นลง ความจำถดถอย เครียดง่าย วิตกกังวล อารมณ์แปรปรวน นอนหลับไม่ดี หรือแม้กระทั่งซึมเศร้าตามมาค่ะ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่เคยใช้เครื่องช่วยหายใจ ภาวะแทรกซ้อนหลังติดโควิดที่จะตามมาย่อมจะหนักกว่า นอกจากนี้แล้วลองโควิด (Long covid) ยังมีผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาว จึงบั่นทอนสุขภาพและลดทอนคุณภาพชีวิตเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่ติดเชื้อโควิด ปอดจะเกิดการอักเสบรุนแรง ทำให้เกิดผังผืดภายในปอด ถุงลมปอดขาดความยืดหยุ่น ทำให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนลดลง จึงส่งผลกระทบต่อการทำงานของปอดในระยะยาว รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโดยรวม แต่ต่อให้เชื้อไวรัสนั้นหมดไปแล้ว ร่างกายก็ยังคงบาดแผลของความเสียหายที่ต้องเร่งซ่อมแซมและฟื้นฟู ในทัศนะการแพทย์แผนจีน สำหรับผู้ที่เคยผ่านการติดเชื้อโควิด ควรฟื้นฟูซ่อมแซมร่างกายอย่างเร่งด่วน ปรับปรุงและเสริมสร้างพื้นฐานสุขภาพของผู้ที่เคยติดเชื้อให้กลับมาแข็งแรง โดยนิยมใช้ยาสมุนไพรจีนสูตรเฉพาะ เอินเวย์ได้เลือกใช้ Astragali และ Nuzhenzi ที่อยู่ในรูปแบบเป็นสารสกัดเข้มข้น ซึ่งมีกลไกการออกฤทธิ์สำคัญ ดังนี้ - บำรุงปอด ฟื้นฟูเซลล์ปอดให้แข็งแรง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด - บำรุงม้ามซึ่งเป็นแหล่งของการสร้างพลังลมปราณ ที่เป็นเกราะป้องกันให้กับร่างกาย (扶助正气) - บำรุงฟื้นฟูไตซึ่งเป็นรากฐานชีวิต ปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกัน - ปรับปริมาณและคุณภาพของเม็ดเลือดต่าง ๆ ให้สมบูรณ์ - ปรับระบายพลังลมปราณของตับเพื่อให้อารมณ์ผ่อนคลาย ลดอาการเครียด วิตกกังวล ช่วยปรับคุณภาพการนอนหลับ - ปรับความสมดุลการไหลเวียนของพลังลมปราณและเลือด รักษาอาการหลงเหลือหลังการติดเชื้อโควิด ให้หมดไป ฟื้นฟูสุขภาพร่างกายโดยองค์รวม เพิ่มคุณภาพการใช้ชีวิต ให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้กลับมามีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ ด้วยความห่วงใยจาก Asly Granule เอินเวย์ ผู้นำเข้ายาสมุนไพรจีนสำเร็จรูปรายหลักของประเทศไทย ศูนย์รวมยาสมุนไพรจีนระดับพรีเมี่ยมที่สุดจากประเทศจีน ปรึกษาแพทย์แผนจีนและผู้เชี่ยวชาญได้ที่ สายด่วนสุขภาพ เอินเวย์ 02-7514399 Line @enwei ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH
  11. ท่ามกลางเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้น ด่านแรกของร่างกายที่เชื้อไวรัสจะเข้ารุกรานโจมตีก็คือ ระบบทางเดินหายใจ ประเด็นสำคัญที่ทุกคนให้ความสนใจเป็นอย่างมากก็คือ การเตรียมพร้อมเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้กับระบบทางเดินหายใจทั้งระบบอย่างเร่งด่วนและปกป้องดูแลปอด วิธีการเตรียมพร้อมนี้ในทางการแพทย์แผนจีนเรียกกันว่า จื้อเว่ยปิ้ง 治未病 (ซึ่งแปลว่า การป้องกันตนเองเพื่อไม่ให้ติดเชื้อภายใต้การแพร่ระบาดของเชื้อโรค) ซึ่งถือเป็นหลักการสำคัญของวงการแพทย์แผนจีนที่มีมานานนับพันปี ในทางการแพทย์แผนจีนภูมิคุ้มกัน หรือ เจิ้งชี่ (正气) คือพลังลมปราณ ซึ่งเป็นเกราะป้องกันของร่างกาย ถูกสร้างมาจากม้ามและไต หากม้ามและไตแข็งแรง ก็จะสร้างเลือดและพลังลมปราณได้ดี ระบบสร้างภูมิคุ้มกัน ก็จะแข็งแรง เป็นเกราะป้องกันที่ดี จึงเป็นวิธีต้านการรุกรานของเชื้อไวรัสและปกป้องระบบทางเดินหายใจได้เป็นอย่างดี อีกทั้งปอดเป็นศูนย์บัญชาการของระบบทางเดินหายใจ มีหน้าที่ในการกระจายพลังลมปราณ เลือด และสารน้ำไปทั่วทั้งร่างกาย เมื่อปอดแข็งแรง ระบบทางเดินหายใจก็จะแข็งแรง การเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้ระบบทางเดินหายใจทั้งระบบอย่างเร่งด่วน เอินเวย์เลือกใช้ยาสมุนไพรจีนสูตรเฉพาะ Astragali และ Nuzhenzi ซึ่งจัดอยู่ในหมวดยาชั้นสูง ที่มีประวัติการใช้ในวงการแพทย์แผนจีนมากว่า 2,000 ปี ผ่านการสกัดที่ทันสมัย ควบคุมสารออกฤทธิ์ได้อย่างเข้มข้น แม่นยำและคงที่ ซึ่งมีกลไกการออกฤทธิ์สำคัญ เช่น - บำรุงปอด บำรุงม้าม ส่งเสริมการสร้างเลือดและลมปราณ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากภายใน - ปรับสมดุลระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพื่อเป็นเกราะป้องกันที่ดีจากการโจมตีของไวรัส - ปรับความสมดุลของไตและตับ เพื่อส่งเสริมการกักเก็บและการกระจายเลือดและลมปราณ - เพิ่มเม็ดเลือดขาวเพื่อปกป้องร่างกายจากการรุกรานของเชื้อโรค ไม่ว่าเชื้อไวรัสจะกลายพันธุ์ไปกี่ครั้งกี่สายพันธุ์ การมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงจากภายใน ก็ยังเป็นเกราะป้องกันที่สำคัญที่สุด Asly Granule เร่งสร้างภูมิคุ้มกัน ปกป้องดูแลปอด เอินเวย์ห่วงใยและเคียงข้างคุณเสมอ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Asly Granule ปรึกษาแพทย์แผนจีนและเภสัชกรเอินเวย์ 02-7514399 LINE @enwei ศึกษาเพิ่มเติม https://www.youtube.com/watch?v=ayaxAdz8sGQ ช่องทางติดตาม Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH
  12. นอนหลับดี สุขภาพดี ชีวีมีสุข โรคนอนไม่หลับเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจสำหรับใครหลาย ๆ คน แล้วคุณรู้ไหมว่า ผลกระทบจากการทานยานอนหลับนั้นยังน่าเป็นห่วงยิ่งกว่าอีก เมื่อนอนไม่หลับเรื้อรัง ไม่แปลกที่ใครหลายคนจะนึกถึงยานอนหลับ ถึงแม้เป็นยาพื้นฐานเพื่อให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากไปชั่วข้ามคืน แต่เมื่อทานยานอนหลับติดต่อกันแล้ว ผลกระทบที่จะเผชิญคือ 1.จะเกิดการดื้อยา ต้องเพิ่มขนาดการทานมากขึ้นเรื่อย ๆ 2.จะทำให้เสพติดยา ไม่ทานก็จะนอนไม่หลับ หรือบางรายถึงจะทานก็นอนไม่หลับอยู่ดี 3.มีผลกระทบต่อสภาพอารมณ์ หงุดหงิดโมโหฉุนเฉียวง่าย อารมณ์สับสน 4.มีผลกระทบต่อความจำ สมองล้า ขาดสมาธิ ร่างกายทรุดโทรม สำหรับโรคนอนไม่หลับเรื้อรัง การแพทย์แผนจีนมุ่งเน้นรักษาที่ต้นเหตุ เพิ่มคุณภาพการนอนหลับ โดยไม่ต้องพึ่งยานอนหลับ เอินเวย์เลือกใช้สมุนไพรจีนสูตรเฉพาะที่อยู่ในรูปแบบของสารสกัดเข้มข้น เพื่อกระจายพลังลมปราณ ปรับสมดุลหยินหยาง ปรับสมดุลสารสำคัญในสมอง โดยฉพาะ GABA และ Serotonin เพื่อให้วงจรการนอนหลับกลับสู่ภาวะปกติ ช่วยให้คุณกลับมามีคุณภาพการนอนหลับที่ดี หลับง่าย หลับสนิทตลอดทั้งคืน ห่างไกลยานอนหลับ เห็นผล 94 % ไม่มีผลข้างเคียง รักษาจนจบคอร์สแล้วได้ผลเป็นที่น่าพอใจแล้วก็สามารถหยุดยาได้ เพื่อให้ผู้ที่เคยนอนไม่หลับหรือคุณภาพการนอนหลับไม่ดีสามารถกลับมาหลับง่าย หลับสนิท หลับอย่างมีความสุขต่อเนื่องกันตลอดทั้งคืน ตื่นเช้าขึ้นมารู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา คุณภาพการนอนหลับที่ดีเป็นหลักประกันพื้นฐานของการมีสุขภาพที่แข็งแรง คนเราถึงต้องใช้เวลา 1 ใน 3 ของชีวิตให้กับการนอนหลับ หากคุณกำลังทุกข์ใจอยู่กับปัญหาการนอนหลับหรือโรคนอนไม่หลับอยู่ แพทย์แผนจีนและเภสัชกรเอินเวย์ ยินดีให้คำแนะนำค่ะ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : 02-7514399 Website : http://www.enwei.co.th Facebook : https://www.facebook.com/EnweiGroup TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP
  13. ปวดหลัง ปวดเอว ปวดร้าวลงที่ขา ขาชา ขาอ่อนแรง อาการของโรคกระดูกทับเส้น รากประสาทขาถูกกดทับ หรือหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท มักเป็นกับผู้ที่มีอิริยาบถที่ไม่เหมาะสมในชีวิตประจำวัน ผู้สูงอายุที่มีภาวะกระดูกเสื่อม ผู้ที่เคยได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือมีแรงกระแทกบริเวณเอว ล้วนส่งผลให้เกิดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้ การแพทย์แผนจีนได้จัดโรคกระดูกทับเส้นให้อยู่ในกลุ่มโรคปี้เจิ้ง (痹症) ซึ่งมีสาเหตุมาจากการทำงานหนัก ความเสื่อมตามวัย หรือพิษเย็นชื้นที่สะสมบริเวณเอว ทำให้เลือดและเส้นลมปราณติดขัด จนเกิดอาการปวด หรือในบางรายที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ กระดูกขาดการหล่อเลี้ยง ก็ส่งผลให้เกิดอาการปวดได้เช่นเดียวกัน การแพทย์แผนจีนจึงเน้นการรักษาอาการกระดูกทับเส้นจากต้นเหตุ เอินเวย์ได้เลือกใช้ยาสมุนไพรจีนสูตรเฉพาะที่อยู่ในรูปแบบเป็นสารสกัดเข้มข้น ผ่านการศึกษา วิจัย ทดลองทางคลินิกตามหลักการแพทย์สากลและผ่านการสกัดที่ทันสมัย ควบคุมสารออกฤทธิ์ได้เข้มข้น แม่นยำและคงที่ โดยมีกลไกการออกฤทธิ์สำคัญเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด สลายเลือดคั่ง ขับระบายพิษเย็นและพิษชื้น แก้อาการปวด ลดอาการบวม ต้านการอักเสบ ทะลวงเส้นลมปราณและเส้นเลือดบริเวณที่มีอาการปวดตึง ผลักดันการไหลเวียนของพลังลมปราณและเลือด เพื่อไปหล่อเลี้ยงข้อต่อ เส้นเอ็น กล้ามเนื้อและกระดูกได้อย่างเพียงพอ อาการปวด ตึง เมื่อย ล้า ชาหรือขาไม่มีแรงจึงค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างชัดเจน ได้ผล 95% รักษาจนจบคอร์สแล้วสามารถหยุดยาได้ ช่วยให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตประจำวันได้สะดวก และเมื่ออาการต่าง ๆ ดีขึ้นแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปผ่าตัดหรือใช้ยาระงับอาการปวด อย่าปล่อยให้อาการกระดูกทับเส้นหรือหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาทมาบั่นทอนสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคุณอีกเลย หากคุณหรือคนที่คุณรักกำลังเป็นอยู่ ปรึกษาแพทย์แผนจีนเอินเวย์ฟรี ได้ที่ 02-7514399 Website : http://www.enwei.co.th Facebook : https://www.facebook.com/EnweiGroup TikTok : https://www.tiktok.com/@enweihealth?lang=th-TH Youtube : https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP
  14. เชื้อโควิด-19 เป็นเชื้อไวรัสที่มีผลกระทบกับระบบทางเดินหายใจโดยตรง โดยอวัยวะที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ “ปอด” เมื่อได้รับเชื้อจะเริ่มมีอาการเหนื่อยง่าย หายใจไม่สะดวก บางคนที่ได้รับเชื้อในปริมาณมาก มีอาการรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบ หากรักษาไม่ทันก็อาจส่งผลถึงชีวิตได้ หลายคนที่เคยติดเชื้อ และได้รับการรักษาจนหายดีแล้ว กลับพบว่า ยังคงมีความรู้สึกหายใจไม่เต็มปอด เหนื่อยง่าย และไอเรื้อรังอยู่ นั่นหมายความว่าเชื้อโควิด-19 ส่งผลกระทบระยะยาวกับปอด เนื่องจากเชื้อก่อโรคโควิด-19 มีผลทำให้มีฝ้าขาวที่ปอด เนื้อปอดขาดความยืดหยุ่น แลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ไม่ค่อยดีนัก จึงหายใจไม่เต็มปอด ทำให้คุณรู้สึกไม่สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ได้เหมือนเดิม แต่จากสถานการณ์ล่าสุด มีการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ชนิดใหม่ ชื่อสายพันธุ์ B.1.1.529 หรือ โอมิครอน (Omicron) ซึ่งสิ่งที่น่ากังวลก็คือ สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบร่างกายมนุษย์ได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้นกว่าสายพันธุ์เดลตา คนที่เคยติดมาแล้ว มีโอกาสที่จะติดเชื้อซ้ำได้อีก แต่อาการของโควิดกลายพันธุ์โอมิครอน เบื้องต้นพบว่าไม่รุนแรง ไม่ค่อยมีไข้ จมูกยังสามารถได้กลิ่น ลิ้นรับรสได้ดี มีอาการไอเล็กน้อย คนที่มีอาการไม่รุนแรงสามารถรักษาที่บ้านได้ ถึงแม้ว่าโอมิครอน Omicron จะเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ร้ายแรงมากนัก มีอัตราการเสียชีวิตน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ผ่านมา แต่เราก็ไม่ควรวางใจ เพราะเชื้อโรคอาจมีการกลายพันธุ์ไปได้อีก ฉะนั้นการพยายามหาทางป้องกันตนเองเพื่อไม่ให้ติดเชื้อ เป็นสิ่งที่เราไม่ควรละเลย ควรหมั่นเช็คอาการตัวเองอยู่เสมอ และเตรียมพร้อมรับมือ ควรต้องมียาสำคัญต่าง ๆ ติดบ้านไว้ เพื่อป้องกันและรักษาอาการเจ็บป่วยไว้แต่เนิ่น ๆ เหลียนฮัวชิงเวินแคปซูล lianhua qingwen jiaonang คือ ยาที่ถูกกำหนดให้อยู่ในกรอบการวินิจฉัยและรักษาโควิด – 19 ของประเทศจีน สามารถบรรเทาอาการของโควิด – 19เช่น ไข้ ปวดเมื่อยทางร่างกาย น้ำมูก ไอ เจ็บคอ ปวดหัว อ่อนเพลีย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการศึกษา เหลียนฮัวชิงเวินแคปซูล (Lianhua Qingwen Capsule) ที่มีการตีพิมพ์ใหม่เกี่ยวกับการลดอัตราการติดเชื้อในผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด – 19 ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า เหลียนฮัวชิงเวินแคปซูล (Lianhua Qingwen Capsule) สามารถลดอัตราการติดเชื้อในผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด – 19 สูงถึง 76% เพื่อความปลอดภัยของคุณเองและครอบครัวในการใช้ยาเหลียนฮัวชิงเวินแคปซูลของแท้ (Lianhua Qingwen Capsule) โปรดใส่ใจในการซื้อผลิตภัณฑ์เหลียนฮัวชิงเวินแคปซูลของแท้ ดังนี้ วิธีสังเกตยาเหลียนฮัวชิงเวินแคปซูลของแท้! 1.ยาเหลียนฮัวชิงเวินของแท้ต้องมีโลโก้ของเอินเวย์ 2.ยาเหลียนฮัวชิงเวินของแท้ต้องมีชื่อยาเป็นภาษาไทย 3.ยาเหลียนฮัวชิงเวินของแท้ต้องมีเลขทะเบียนยา 4.ยาเหลียนฮัวชิงเวินของแท้ต้องมีฉลากภาษาไทย *โปรดระวังยาเหลียนฮัวชิงเวินแคปซูลปลอม!! แพร่ระบาดจัดจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ ยาเหลียนฮัวชิงเวินแคปซูลของแท้ มีจำหน่ายที่ร้านขายยาชั้นนำทั่วไปและสถานพยาบาลเท่านั้น สอบถามเพิ่มเติม และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาเหลียนฮัวชิงเวินแคปซูล ได้ที่ http://www.enwei.co.th https://www.facebook.com/EnweiGroup https://youtu.be/HQDWI8YghRA
  15. วันที่ 25 มกราคม 2565 ศูนย์ข้อมูลโควิด – 19 ของประเทศไทย ได้รายงานสถานการณ์ COVID – 19 ประจำวัน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 6,718 ราย หายป่วยจำนวน 7,659 รายและเสียชีวิตเพิ่ม 12 ราย ผลกระทบหลังจากติดเชื้อโควิด อาจอยู่นานถึงครึ่งปี กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า มีคนไทยอย่างน้อย 400,000 คนในประเทศไทยจะต้องทนทุกข์ทรมานหลังจากการติดเชื้อโควิด – 19 เป็นผลกระทบทางสุขภาพระยะยาว หรือที่เรียกว่า Long – Covid โดยมีอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง เครียด นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ไอ มีปัญหาด้านความจำ และอาการอื่น ๆ ซึ่งอาการอาจอยู่นานถึงครึ่งปี โดยพบในผู้หญิงสูงถึง 1.5 เท่า และในผู้ใหญ่สูงถึง 3 เท่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า ผลที่ตามมาหลังจากติดเชื้อโควิด – 19 จะมองข้ามไม่ได้ ประชาชนควรป้องกันตัวเองและพยายามไม่ติดเชื้อ อยู่ให้ไกลไวรัส ไม่ติดเชื้อย่อมดีที่สุด รศ.นพ.ธีระ ชี้ว่าสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ผลกระทบหลังจากการติดเชื้อโควิด – 19 (Long COVID) อาจเกิดขึ้นได้ในผู้ที่เคยติดเชื้อแต่มีอาการไม่รุนแรง และสังเกตอาการอยู่ที่บ้านของตนเอง จากงานวิจัยหลายชิ้นที่คณะวิจัยได้ทบทวนบ่งชี้ว่า มีการตรวจพบสารเคมีในเลือดซึ่งมีการอักเสบอย่างต่อเนื่องในกลุ่มคนที่เป็น Long COVID จึงทำให้เกิดการอักเสบในร่างกายระยะยาวได้ ผลกระทบหลังจากติดเชื้อโควิด-19 นั้นมีไม่น้อย ประชาชนควรพยายามดูแลตนเองเพื่อไม่ให้ติดเชื้อ ถึงแม้ว่า Omicron จะมีอาการที่ไม่รุนแรง แต่ก็ไม่ควรปล่อยปละละเลยและมองข้ามไป ควรป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ และรีบรักษาให้เร็วที่สุดเมื่อมีการติดเชื้อ เหลียนฮัวชิงเวินแคปซูล (Lianhua Qingwen Capsule) เป็นยาที่ถูกกำหนดให้อยู่ในกรอบการวินิจฉัยและรักษาโควิด – 19 ของประเทศจีน สามารถบรรเทาอาการของโควิด – 19เช่น ไข้ ปวดเมื่อยทางร่างกาย น้ำมูก ไอ เจ็บคอ ปวดหัว อ่อนเพลีย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการศึกษา เหลียนฮัวชิงเวินแคปซูล (Lianhua Qingwen Capsule) ที่มีการตีพิมพ์ใหม่เกี่ยวกับการลดอัตราการติดเชื้อในผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด – 19 ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า เหลียนฮัวชิงเวินแคปซูล (Lianhua Qingwen Capsule) สามารถลดอัตราการติดเชื้อในผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด – 19 สูงถึง 76% เพื่อความปลอดภัยของคุณเองและครอบครัวในการใช้ยาเหลียนฮัวชิงเวินแคปซูลของแท้ (Lianhua Qingwen Capsule) โปรดใส่ใจในการซื้อผลิตภัณฑ์ของแท้ สอบถามเพิ่มเติม และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรจีน เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล ได้ที่ https://www.facebook.com/EnweiGroup http://www.enwei.co.th
  16. ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่การระบาดของโควิดระลอกที่ 5โดยมาพร้อมกับโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอน( Omicron) เนื่องจากการกลายพันธุ์ของโอมิครอนทำให้ไวรัสเข้าสู่เซลล์ได้ง่ายขึ้นและแบ่งตัวเก่งขึ้น ส่งผลให้แพร่เร็ว ติดง่าย และอาจสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซินด้วย WHO จึงได้ยกระดับสายพันธุ์โอมิครอนเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล ถึงแม้ว่าที่ผ่านมามีหลายคนมองในแง่ดีว่าผู้ที่ติดเชื้อโอมิครอนจะมีอาการไม่รุนแรง และการที่แพร่เร็ว ติดง่ายอาจทำให้ทุกคนต้องติดในที่สุดจนสามารถเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้ แต่ในวันที่12 มกราคมที่ผ่านมา WHO ก็ได้ออกมาเตือนว่าอย่าประเมินโอมิครอนต่ำ และจากการวิจัยล่าสุดของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) ของประเทศจีนก็ได้พบว่า ไวรัสอาจอยู่ในร่างกายมนุษย์ สมองและอวัยวะต่าง ๆนานกว่า 200 วันแม้ผลการตรวจเป็นลบ ซึ่งเป็นเหตุทำให้ผู้ที่ติดเชื้อต้องประสบปัญหา Long Covid หรือผลกระทบระยะยาวหลังติดเชื้อโควิด นั่นหมายถึงว่าโควิดหายแต่อาการไม่จบ ดังนั้น การป้องกันและรักษาแต่เนิ่น ๆ จึงมีความสำคัญยิ่งต่อร่ายกาย ส่วนอาการโอมิครอนที่พบบ่ายได้แก่ ไอ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ ไข้ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ เมื่อโอมิครอนกำลังแพร่เร็ว ติดง่ายแบบนี้ เราควรหมั่นเช็คอาการตัวเองอยู่เสมอ และเตรียมพร้อมรับมือ ควรต้องมียาสำคัญต่าง ๆ ติดบ้านไว้ เพื่อป้องกันและรักษาแต่เนิน ๆ หลาย ๆ บ้านเริ่มตื่นตัวกับการหาซื้อผลิตภัณฑ์ป้องกันและรักษาโควิด-19 มาติดบ้านไว้กันมากขึ้น โดยเฉพาะยาสมุนไพรจีนที่เกิดกระแสแห่ซื้อตุนกัน นั่นคือ Lianhua Qingwen Capsule (เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล) ซึ่งเป็นยาที่รัฐจีนประกาศให้ใช้ในการป้องกันและรักษาโควิด 19 Lianhua Qingwen Capsule (เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล) สามารถรักษาอาการไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไอ เจ็บคอ ปวดหัว คัดจมูก น้ำมูกและอาการอ่อนเพลียได้ใน 1 เดียวโดยไม่ต้องใช้ยาหลาย ๆ ตัว ทำให้ Lianhua Qingwen Capsule (เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล) ได้รับความนิยมกันมากจนมียาเหลียนฮัวชิงเวินแคปซูลปลอมระบาดหนักในท้องตลาด โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์ อย. เตือนระวังยาปลอม!! ยาสมุนไพรจีนต้านไวรัส เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล Lianhua Qingwen Capsule (เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล) เป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ได้รับอนญาติให้จำหน่ายเฉพาะในร้านขายยาและสถานพยาบาลเท่านั้น โดยผู้ที่ได้รับอนุญาตนำเข้า คือบริษัท เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด แต่เพียงผู้เดียว ทั้งนี้ กฎหมายไม่อนุญาตให้ขายผลิตภัณฑ์ผ่านทางสื่อออนไลน์ และห้ามขายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหากผู้บริโภคสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวที่มีการลักลอบขายทางสื่อออนไลน์ เสี่ยงต่อการได้รับยาปลอม ทั้งอาจได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ อย.และ ตำรวจ ปคบ. ได้ร่วมแถลงผลการจับกุมตรวจยึดผลิตภัณฑ์ยาปลอมLianhua Qingwen Capsule (เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล) จำนวนกว่า 70,000 กล่อง เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.สมุนไพร พ.ศ. 2562 ฐาน “การขายยาปลอม การขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หากท่านพบบรรจุภัณฑ์ของ Lianhua Qingwen Capsule (เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล) ที่แตกต่างจากจุดสังเกตดังกล่าวในท้องตลาด โปรดร้องเรียนยา Lianhua Qingwen Capsule (เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล) ปลอมได้ที่ สายด่วน อย.1556, 02 5907354-5 หรือ Email: 1556@Fda.moph.go.th หรือสายด่วนเอินเวย์ enwei 02 751 4399 (20 คู่สาย) หากท่านหลงซื้อยาปลอม แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ลักลอบจำหน่ายยาปลอม ณ สถานีตำรวจท้องที่ได้ทันที สอบถามเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Lianhua Qingwen Capsule (เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล) ได้ที่02-7514399 หรือ Line@enwei ขอบคุณข้อมูลจาก : นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์
  17. ตัวแทน บ.เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้ายาสมุนไพรจีนต้านโควิด ยาเหลียนฮัว ชิงเวิน พร้อม ทนายความ เข้าแจ้งความดำเนินคดี น.ส.ฝนทิพย์ วัชรตระกูล หรือ “ปุ๊กลุก” ดารานักแสดงสาว และ นารา เครปกะเทย เน็ตไอดอลชื่อดัง เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (6 ก.ย.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) น.ส.บุษบัน จันทราสิริตระกูล ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด พร้อมด้วย นายกันตเมธส์ จโนภาส ทนายความ เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน ผบก.ปคบ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ฝนทิพย์ วัชรตระกูล หรือ “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์” ดารานักแสดงสาว และ นารา เครปกะเทย เน็ตไอดอลชื่อดัง รวมถึงเจ้าของเพจขายผลิตภัณฑ์สินค้าต้านโควิด หลังลักลอบจำหน่าย ยาสมุนไพร เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล ผิดกฎหมาย น.ส.บุษบัน กล่าวว่า บริษัท เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนนำเข้า และจัดจำหน่ายยาสมุนไพร เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล (Lianhua Qingwen Capsule) ในประเทศไทย ที่ได้จดทะเบียน อย.ถูกต้องตามกฎหมายเพียงผู้เดียว แต่ปรากฏว่ามีสินค้าปลอมระบาดตามสื่อออนไลน์ หวั่นผู้บริโภคเสียประโยชน์เข้าถึงการรักษาที่ไม่ถูกต้อง โดยเริ่มระบาดในสื่อออนไลน์ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ค.64 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ข้อสังเกตสินค้าของจริง คือ โลโก้ผลิตภัณฑ์ เลขทะเบียนยาและฉลากยาที่เป็นชื่อภาษาไทย ด้านนายกันตเมธส์ ทนายความกล่าวว่า ทางบริษัทได้สั่งซื้อยาสมุนไพรดังกล่าวจากดาราสาว เน็ตไอดอลชื่อดัง และ เจ้าของเพจดัง เพื่อมาตรวจสอบพบว่ายังไม่ได้รับอนุญาตในเรื่องของการโฆษณาขายยาทางสื่อออนไลน์และสถานที่จำหน่ายถูกต้อง จึงรวบรวมพยานหลักฐานมาแจ้งความ ปคบ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดตามกฎหมาย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกรณี เน็ตไอดอลชื่อดัง พบพฤติกรรมไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา ภายในตลาดแห่งหนึ่งว่า ยาสมุนไพรดังกล่าวช่วยต่อต้านโควิด หรือช่วยบรรเทาอาการโควิด ราคากล่องละ 350 บาท โดยทางบริษัท ได้ทำการสั่งซื้อยาสมุนไพรดังกล่าวมาทำการตรวจสอบปรากฏว่าเป็นยาปลอม ไม่มี อย.รับรอง ซึ่งยาดังกล่าวเป็นอันตรายต่อชีวิต เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562 เกี่ยวข้องในการลักลอบนำเข้าผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม ตามมาตรา 101 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท แต่ถ้าเป็นแค่ผู้ขายเท่านั้นมีอัตราโทษสูงสุด ตามมาตรา 102 จำคุกไม่เกิน 3 ปีปรับไม่เกิน 3 แสนบาท นอกจากนี้ยังพบว่า เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ดาราสาว ได้อัดคลิปวิดีโอโฆษณาผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ที่มียอดติดตามกว่า 2.3 ล้านคน เสนอขายยาสมุนไพร ที่นำไปใช้ในการป้องกันรักษาผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 โดยผู้บริโภคได้ขอให้บริษัท ช่วยตรวจสอบ จึงได้ทำการสั่งซื้อยาสมุนไพร เหลียนฮัว ชิงเวิน จำนวน 1 กล่อง ในราคา 350 บาท ผ่านทางสื่อออนไลน์ที่ปุ๊กลุกแจ้ง ภายหลังตรวจสอบแล้วพบว่า ยาดังกล่าวได้รับการรับรองจาก อย. แล้ว แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตในเรื่องของการโฆษณาขายยาทางสื่อออนไลน์ เบื้องต้นเข้าข่ายผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 มาตรา 17 วรรคแรกประกอบกับมาตรา 91 ผู้ใดผลิต หรือนำเข้า หรือขาย ผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 17 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ทางบริษัท ยังแจ้งความดำเนินคดีกับเพจเฟซบุ๊ก “เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว หน้ากากอนามัย Mash.กระชายฟ้าทลายโจร Propoliz.” และเพจเฟซบุ๊ก “.LK.thailand.สินค้านำเข้าราคาโรงงาน” หลังลักลอบขายยาปลอมสมุนไพรทางออนไลน์โดยผิดกฎหมาย ซึ่งทีมกฎหมายของบริษัทได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด อาทิ แชทการสั่งซื้อทางออนไลน์ หลักฐานการโอนเงิน ชื่อบัญชีผู้รับโอนเงิน คลิปวีดิโอการไลฟ์สด รีวิวขายยา ฯลฯ มามอบให้ บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายหมายต่อไปด้วย อ่านเพิ่มเติม : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_6604211 http://www.enwei.co.th/new_detail/detailnew/132
  18. วันนี้ 6 ก.ย. 2564 ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ผู้นำเข้ายาเหลียนฮัว ชิงเวิน แจ้งความเอาผิด "ปุ๊กลุก ฝนทิพย์" และ "นารา เครปกะเทย" หลังขายยาสมุนไพรผิดกฎหมายผ่านทางออนไลน์ หวั่นประชาชนหลงเชื่อ และซื้อไปบริโภคจนเกิดอันตราย เนื่องจากมีการลองสั่งซื้อมาแล้ว พบว่าของนารานั้นเป็นของปลอม ส่วนของปุ๊กลุก แม้ได้รับการรับรองจาก อย. แล้ว แต่ว่ายังไม่มีการอนุญาตให้ขายผ่านทางออนไลน์จึงเข้าข่ายผิดกฎหมาย ซึ่งเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา นักแสดงสาว ปุ๊กลุ๊ก ฝนทิพย์ ได้อัดคลิปวิดีโอโฆษณาผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งมียอดติดตามกว่า 2.3 ล้านคน เสนอขายยาสมุนไพรต้านโควิด-19 โดยผู้บริโภคได้ขอให้บริษัท ช่วยตรวจสอบ จึงได้ทำการสั่งซื้อยาสมุนไพร จำนวน 1 กล่อง ราคา 350 บาท ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ที่ปุ๊กลุกแจ้ง ภายหลังตรวจสอบแล้วพบว่า ยาดังกล่าวได้รับการรับรองจาก อย. แล้ว แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตในเรื่องของการโฆษณาขายยาทางสื่อออนไลน์ เบื้องต้นเข้าข่ายผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 มาตรา 17 วรรคแรกประกอบกับมาตรา 91 ผู้ใดผลิต หรือนำเข้า หรือขาย ผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 17 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และตรวจสอบปรากฏว่าเป็นยาปลอม ไม่มี อย.รับรอง ซึ่งยาดังกล่าวเป็นอันตรายต่อชีวิต เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 เกี่ยวข้องในการลักลอบนำเข้าผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม ตามมาตรา 101 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท แต่ถ้าเป็นแค่ผู้ขายเท่านั้นมีโอกาส ได้รับโทษสูงสุดคือตามมาตรา 102 จำคุกไม่เกิน 3 ปีปรับไม่เกิน 3 แสนบาท ทั้งนี้ ทางทีมข่าวได้ติดต่อไปยัง ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ และ นารา เครปกะเทย แล้ว แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตาม คงต้องรอให้ทั้งสองคน ออกมาชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองอีกครั้ง อ่านเพิ่มเติม : https://entertainment.trueid.net/detail/r2P7OelG9jpz
  19. ตัวแทน บ.เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้ายาสมุนไพรจีนต้านโควิด เหลียนฮัว ชิงเวิน พร้อม ทนายความ เข้าแจ้งความดำเนินคดี น.ส.ฝนทิพย์ วัชรตระกูล หรือ “ปุ๊กลุก” ดารานักแสดงสาว และ นารา เครปกะเทย เน็ตไอดอลชื่อดัง เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 ก.ย. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) น.ส.บุษบัน จันทราสิริตระกูล ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด พร้อมด้วย นายกันตเมธส์ จโนภาส ทนายความ เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน ผบก.ปคบ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ฝนทิพย์ วัชรตระกูล หรือ “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์” ดารานักแสดงสาว และ นารา เครปกะเทย เน็ตไอดอลชื่อดัง รวมถึงเจ้าของเพจขายผลิตภัณฑ์สินค้าต้านโควิด หลังลักลอบจำหน่าย ยาสมุนไพร เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล ผิดกฎหมาย น.ส.บุษบัน กล่าวว่า บริษัท เอินเวย์ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนนำเข้า และจัดจำหน่ายยาสมุนไพร เหลียนฮัว ชิงเวิน แคปซูล (Lianhua Qingwen Capsule) ในประเทศไทย ที่ได้จดทะเบียน อย.ถูกต้องตามกฎหมายเพียงผู้เดียว แต่ปรากฏว่ามีสินค้าปลอมระบาดตามสื่อออนไลน์ หวั่นผู้บริโภคเสียประโยชน์เข้าถึงการรักษาที่ไม่ถูกต้อง โดยเริ่มระบาดในสื่อออนไลน์ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ค.64 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ข้อสังเกตสินค้าของจริง คือ โลโก้ผลิตภัณฑ์ เลขทะเบียนยาและฉลากยาที่เป็นชื่อภาษาไทย ด้านนายกันตเมธส์ ทนายความ กล่าวว่า ทางบริษัทได้สั่งซื้อยาสมุนไพรดังกล่าวจากดาราสาว เน็ตไอดอลชื่อดัง และ เจ้าของเพจดัง เพื่อมาตรวจสอบพบว่า ยังไม่ได้รับอนุญาตในเรื่องของการโฆษณาขายยาทางสื่อออนไลน์และสถานที่จำหน่ายถูกต้อง จึงรวบรวมพยานหลักฐานมาแจ้งความ ปคบ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดตามกฎหมาย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบกรณี เน็ตไอดอลชื่อดัง พบพฤติกรรมไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา ภายในตลาดแห่งหนึ่งว่า ยาสมุนไพรดังกล่าวช่วยต่อต้านโควิด หรือช่วยบรรเทาอาการโควิด ราคากล่องละ 350 บาท โดยทางบริษัท ได้ทำการสั่งซื้อยาสมุนไพรดังกล่าวมาทำการตรวจสอบปรากฏว่าเป็นยาปลอม ไม่มี อย.รับรอง ซึ่งยาดังกล่าวเป็นอันตรายต่อชีวิต เบื้องต้นเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562 เกี่ยวข้องในการลักลอบนำเข้าผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม ตามมาตรา 101 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท แต่ถ้าเป็นแค่ผู้ขายเท่านั้นมีอัตราโทษสูงสุด ตามมาตรา 102 จำคุกไม่เกิน 3 ปีปรับไม่เกิน 3 แสนบาท นอกจากนี้ยังพบว่า เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ดาราสาว ได้อัดคลิปวิดีโอโฆษณาผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ที่มียอดติดตามกว่า 2.3 ล้านคน เสนอขายยาสมุนไพร ที่นำไปใช้ในการป้องกันรักษาผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 โดยผู้บริโภคได้ขอให้บริษัท ช่วยตรวจสอบ จึงได้ทำการสั่งซื้อยาสมุนไพร เหลียนฮัว ชิงเวิน จำนวน 1 กล่อง ในราคา 350 บาท ผ่านทางสื่อออนไลน์ที่ปุ๊กลุกแจ้ง ภายหลังตรวจสอบแล้วพบว่า ยาดังกล่าวได้รับการรับรองจาก อย. แล้ว แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตในเรื่องของการโฆษณาขายยาทางสื่อออนไลน์ เบื้องต้นเข้าข่ายผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 มาตรา 17 วรรคแรกประกอบกับมาตรา 91 ผู้ใดผลิต หรือนำเข้า หรือขาย ผลิตภัณฑ์สมุนไพร โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 17 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ทางบริษัท ยังแจ้งความดำเนินคดีกับเพจเฟซบุ๊ก “เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว หน้ากากอนามัย Mash.กระชายฟ้าทลายโจร Propoliz.” และเพจเฟซบุ๊ก “.LK.thailand.สินค้านำเข้าราคาโรงงาน” หลังลักลอบขายยาปลอมสมุนไพรทางออนไลน์โดยผิดกฎหมาย ซึ่งทีมกฎหมายของบริษัทได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด อาทิ แชตการสั่งซื้อทางออนไลน์ หลักฐานการโอนเงิน ชื่อบัญชีผู้รับโอนเงิน คลิปวิดีโอการไลฟ์สด รีวิวขายยา ฯลฯ มามอบให้ บก.ปคบ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายหมายต่อไปด้วย อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/news/241226 คลิปข่าว : https://www.youtube.com/watch?v=MO8gilwu-n4
  20. โรคข้อเข่าเสื่อม หมายถึง โรคที่เกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อ ทั้งทางด้านรูปร่าง โครงสร้าง การทำงานของกระดูกข้อต่อและกระดูกบริเวณใกล้ข้อ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไม่สามารถกลับสู่สภาพเดิมและอาจมีความเสื่อมรุนแรงขึ้นตามลำดับ โรคเกี่ยวกับข้อเข่านี้เกิดจากหลายสาเหตุ บางรายข้อเข่าเสื่อมอาจเกิดได้ก่อนวัยอันควร เนื่องจากการใช้งาน ท่าทาง กิจกรรมที่มีแรงกดต่อข้อเข่ามาก เช่น การนั่งคุกเข่า พับเพียบ ขัดสมาธิ ขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ เป็นต้น วันนี้โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ มีความรู้เกี่ยวกับโรคข้อเข่าเสื่อม รวมถึงอาการและการรักษาด้วยการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมมาฝากกันค่ะ ข้อเข่า ข้อสะโพก ไม่แก่ก็เสื่อมได้ แม้ข้อเข่าจะเป็นเพียงส่วนประกอบของร่างกายที่หลายคนมองข้าม แต่ก็มีบทบาทต่อการเคลื่อนไหวของร่างกายมากเลยทีเดียว หลายคนมีพฤติกรรมการใช้ข้อเข่าที่ไม่เหมาะสม จนส่งผลให้ข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร ข้อเข่าก็เปรียบเสมือนบานพับที่เชื่อมระหว่างหัวกระดูกต้นขา และเบ้ากระดูกหน้าแข้ง ซึ่งปลายกระดูกทั้งสองจะมีกระดูกอ่อนคลุมไว้ และจะมีน้ำเลี้ยงคอยหล่อลื่นเพื่อช่วยลดแรงกระแทกในขณะที่เราเคลื่อนไหว ดังนั้นการเสื่อมสลายของผิวกระดูกอ่อนบริเวณดังกล่าวนี่เอง จึงเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ข้อเข่าติดขัด และเกิดการอักเสบ บวม และรู้สึก ปวดตามมา อาการเหล่านี้คือ “อาการข้อเข่าเสื่อม” สาเหตุสำคัญ “อาการข้อเข่าเสื่อม” - อายุ โดยอาการข้อเข่าเสื่อมจะพบได้มากในผู้ที่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป - เพศ เพศหญิง จะมีโอกาสเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้มากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวัยที่หมดประจำเดือน - น้ำหนักตัว ปกติเวลาเดินบนพื้นราบ ข้อเข่าแต่ละข้างของเราจะต้องแบกรับน้ำหนักประมาณ 3 เท่า ของน้ำหนักตัว ซึ่งหากเรามีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ก็จะส่งผลให้กระดูกอ่อนผิวข้อชำรุด สึกหรอ และเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร - การบาดเจ็บบริเวณข้อเข่า การเล่นกีฬาที่เกิดแรงกระแทกในข้อเข่า เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล รวมไปถึงการเกิดอุบัติเหตุ บริเวณข้อเข่า หรือเส้นเอ็นภายในข้อเข่า ก็จะส่งผลให้ความแข็งแรงของข้อเข่าลดน้อยลง และเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้ผิวข้อเข่าชำรุดก่อนวัย การรักษา ข้อเข่าเสื่อม ปัจจุบันการรักษาข้อเข่าเสื่อม สามารถทำได้หลายวิธี โดยหากอาการของโรคยังไม่รุนแรง แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้การรักษาด้วยการฉีดน้ำหล่อลื่นผิวข้อเข่า เพื่อลดการเสียดสีขณะเคลื่อนไหว โดยวิธีนี้จะสามารถทำได้กับเฉพาะผู้ที่ไม่เคยมีการติดเชื้อในข้อเข่าเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากมีอาการปวดที่รุนแรงเรื้อรังมานาน แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทดแทนข้อเข่าที่เสื่อม การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมและผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม คือ การผ่าตัดเอาข้อที่เสื่อมสภาพออก จากนั้นแพทย์จะใส่ข้อใหม่ซึ่งทำมาจากวัสดุพิเศษทางการแพทย์ที่มีความแข็งแรงทนทาน นอกจากนี้ไม่เพียงการนำกระดูกที่เสื่อมออก แพทย์จะปรับความตึงหรือหย่อนของเนื้อเยื่อรอบข้อเข่า ข้อสะโพก เพื่อให้ขามีรูปร่างปกติ ไม่โก่งผิดรูป ซึ่งการเปลี่ยนข้อเข่าเทียมจะได้ผลดีเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับ - ประสบการณ์และความชำนาญของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด - สภาพของข้อเข่าของผู้ป่วยก่อนผ่าตัด ถ้าข้อเข่าติดแข็งหรือผิดรูป เช่น เข่าโก่ง หรือกล้ามเนื้อข้อเข่าลีบ ต้องมีการบริหารข้อเข่าหลังผ่าตัดเพื่อฟื้นฟูต่อไป - ความร่วมมือของผู้ป่วยหลังผ่าตัดในเรื่องของบริหารข้อเข่าหลังผ่าตัดระยะเวลาของข้อเข่าเทียม ในผู้ป่วยกว่าร้อยละ 80 ข้อเข่าเทียมข้อสะโพกเทียมจะสามารถอยู่ได้นานกว่า 20 ปี อย่างไรก็ตาม สภาพของข้อเข่าเทียมจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งการใช้งานของผู้ป่วย ความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์กระดูก และคุณสมบัติของข้อเทียม ซึ่งผู้ป่วยควรดูแลน้ำหนักตัวไม่ให้เพิ่มขึ้น หลีกเลี่ยงการนั่งแบบยอง ๆ โดยไม่จำเป็น ไม่วิ่งทางไกล ไม่เล่นกีฬาที่ต้องมีการปะทะ และหมั่นดูแลตัวเองไม่ปล่อยให้ตัวเองติดเชื้อที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลานาน รวมทั้งไม่ปล่อยให้ฟันผุ เหงือกอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือเป็นแผลที่เล็บเท้า ก็จะช่วยให้ข้อเข่าเทียมมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นได้ วิธีการเตรียมตัว ก่อน-หลังการผ่าตัด ก่อนการผ่าตัด - เตรียมร่างกายให้พร้อม รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งนอนหลับให้เพียงพอ - งดน้ำงดอาหาร อย่างน้อย 6 ชั่วโมง - แจ้งประวัติประจำตัว การแพ้ยา ให้แจ้งแพทย์เมื่อมีอาการป่วยก่อนการผ่าตัด - งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ - ถอดเครื่องประดับเอาไว้ในที่ปลอดภัย เช่น แหวน สร้อยคอ ต่างหู หรือเครื่องประดับจากการเจาะตามร่างกาย เพื่อป้องกันการเสียหายใน ระหว่างการผ่าตัด หลังการผ่าตัด - งดน้ำงดอาหาร ประมาณ 12-24 ชั่วโมง ตามแพทย์สั่ง - งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ นับว่าการผ่าตัดนั้นจำเป็นต้องอาศัยแพทย์และทีมงานที่มีความชำนาญพิเศษ โดยทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ มีทีมแพทย์ที่ผ่านการศึกษาอบรมการผ่าตัดจากสถาบันการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งพร้อมให้การดูแลรักษาสุขภาพของท่านเป็นอย่างดี ซึ่งหากแพทย์ตรวจพบโรคแล้วจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด ทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ ขอมอบสิทธิ์พิเศษเสริมความปลอดภัยให้ทุกท่านที่จะเข้ารับการผ่าตัดทุกประเภท ให้ได้รับการตรวจโรค COVID-19 ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แม้ว่าเราจะสามารถสังเกตอาการปวดเข่าจากโรคข้อเข่าเสื่อมได้เองในเบื้องต้น แต่เพื่อความแน่ใจและได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง จึงควรรีบไปพบแพทย์ หรือขอคำปรึกษาเรื่องทำการรักษาเพื่อไม่ให้อาการรุนแรงไปมากกว่านี้ เพราะยิ่งได้รับการรักษาเร็วเท่าไหร่ยิ่งเป็นการดูแลข้อเข่าให้ใช้ได้นานยิ่งขึ้นค่ะ ขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ : https://bit.ly/39phvn0 สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ โทร 02-363-2000
  21. หากคุณหรือคนที่คุณรักกำลังมีอาการปวดคอ ปวดหลัง และอีกหลายอาการปวดตามร่างกาย ไม่ว่าจะเกิดจากการ นั่งทำงานต่อเนื่องยาวนานหรือการยกของหนักบ่อย ๆ อาจเป็นอาการปวดทั่ว ๆ ไปที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเมื่อไหร่มีอาการปวดคอ ปวดหลัง ร้าวลงแขน ขาหรือเท้า ร่วมกับอาการชาและกล้ามเนื้ออ่อนแรง นั่นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุและมีความรุนแรงหลายระดับ รวมถึงการแสดงอาการของโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทก็แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของข้อกระดูกสันหลังที่เป็น หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กระดูกสันหลัง จะมีหมอนรองกระดูก และข้อต่อกระดูกสันหลังคอยเชื่อมต่อกับกระดูกหลายชิ้น โดยที่ตัวกระดูกสันหลังทำหน้าที่ปกป้องไขสันหลัง ส่วนหมอนรองกระดูกจะทำหน้าที่ให้กระดูกสันหลังยืดหยุ่นและสามารถรับแรงกระแทกของน้ำหนักตัวจากการเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นการใช้งานหนักในชีวิตประจำวัน หรืออายุที่เพิ่มขึ้น ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพได้ หมอนรองกระดูก ที่พบว่ามีปัญหาบ่อยที่สุดก็คือ หมอนรองกระดูกสันหลังในระดับเอวข้อที่ 4-5 เนื่องจากเป็นข้อต่อระดับที่มีการเคลื่อนไหว และรับน้ำหนักมากในร่างกาย ซึ่งเมื่อหมอนรองกระดูกมีสภาพเสื่อม ความสูงของหมอนรองกระดูกจะมีขนาดลดลง และมีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อหมอนรองกระดูก ทำให้แกนหมอนรองกระดูกหลุดรอดมาภายนอก และกดทับเส้นประสาทไขสันหลังได้ อาการของ โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท - ปวดหลัง สะโพกและปวดร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างรุนแรง ซึ่งจะมีอาการปวดมากขึ้นเวลาไอ หรือจาม - กล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อสะโพกและขาบางรายมีอาการชาปลายเท้าร่วมด้วย หากอาการรุนแรงมากจะไม่สามารถกระดกปลายเท้า หรือเดินได้ - ปลายเท้าชา โดยเฉพาะบริเวณง่ามนิ้วหัวแม่เท้า - ระบบขับถ่ายผิดปกติ ในกรณีที่มีอาการรุนแรงมาก จะมีความผิดปกติของระบบขับถ่ายร่วมด้วย เช่น ไม่สามารถควบคุมการอุจจาระ หรือ ปัสสาวะได้ ซึ่งจำเป็นต้องผ่าตัดรักษาอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันระบบขับถ่าย ไม่สามารถฟื้นคืนได้ตามปกติ การรักษา โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท 1.รักษาโดยการลดน้ำหนัก พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอาการหนักขึ้น - การยกของหนัก - การนั่งรถยนต์เป็นเวลานาน - หลีกเลี่ยงอาการท้องผูกหรือเบ่ง ถ่ายอุจจาระแรงเกินไป เป็นต้น เนื่องจากจะทำให้เกิดแรงดัน ในหมอนรองกระดูกสูง ซึ่งเป็นสาเหตุให้หมอนรองกระดูกทนแรงดันไม่ได้ ทำให้เกิดการแตกของหมอนรองกระดูกตามมา 2.ยาต้านการอักเสบ NSAIDS และ ยาคลายกล้ามเนื้อ 3.ใช้กายภาพบำบัดและใช้เสื้อพยุงหลัง เพื่อช่วยในการลดอาการปวด และทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับไป ใช้ชีวิตประจำวัน ได้ปกติเร็วขึ้น และทำให้หน้าท้องกระชับขึ้น เพื่อที่จะจะช่วยลดแรงดันในหมอนรองกระดูกสันหลังได้ นอกจากกนี้ยังต้องลดเคลื่อนไหวของ กระดูกสันหลัง ก็จะทำให้อาการปวดลดลง เช่นกัน 4.การผ่าตัด แพทย์จะพิจารณาตามเกณฑ์ดังนี้ - ผู้ป่วยที่มีอาการปวดมากจนทนไม่ได้ แม้จะรักษาโดยรับประทานยา พักและกายภาพบำบัดเต็มที่แล้วก็ยังไม่เป็นปกติ - มีอาการชา อ่อนแรง หรือกล้ามเนื้อขาลีบอย่างเห็นได้ชัด - มีปัญหาระบบขับถ่ายผิดปกติ ที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาท เช่น กลั้นอุจจาระหรือปัสสาวะไม่ได้ การผ่าตัดส่องกล้องส่องขยาย (Microscopic Spine Surgery) การผ่าตัดหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทโดยทั่วไป ศัลยแพทย์กระดูกจะใช้เครื่องมือในการตัดกระดูก และเอ็นพังผืดเพื่อขยายโพรงประสาทคลายการกดรัดเส้นประสาท โดยในระหว่างทำการผ่าตัดบางตำแหน่งของโพรงประสาท อาจมีขนาดที่ตีบแคบมาก ทำให้มองเห็นเส้นประสาทได้ไม่ชัดเจนและมีข้อจำกัด ซึ่งการสอดใส่เครื่องมือผ่าตัดอาจเป็นอันตรายต่อเส้นประสาทได้ ซึ่งการผ่าหมอนรองกระดูกสันหลังโดยการส่องกล้องขยายนั้น จะสามารถลดขนาดแผลผ่าตัดให้เล็กลงได้ และที่กล้องขยายจะมาช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถ ที่จะมองเห็นรายละเอียดในการผ่าตัดได้อย่างชัดเจนอีกด้วย ข้อดีของการผ่าตัดผ่านกล้อง 1.ช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและอวัยวะภายใน ทำให้มีความเจ็บปวดน้อย และลดการเสียเลือด 2.ขนาดของแผลนั้นเล็กเพียง 1-2 ซม. ซึ่งเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดจะทำให้มีแผลกว้างถึง 12-20 ซม. ดังนั้น การผ่าตัดแบบ MIS จะช่วยลดขนาดของแผลเป็นที่จะเกิดขึ้นจากการผ่าตัดแบบเปิด 3.พักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 1-2 วัน ซึ่งในบางกรณีอาจจะกลับบ้านได้ทันทีหลังการผ่าตัด นับว่าเร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิด ที่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนานเป็นสัปดาห์ 4.ช่วยลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน และโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ถือว่าปลอดภัยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด 5.ช่วยลดการเกิดพังผืดจากการผ่าตัดแบบเปิด 6.ทำให้แพทย์มองเห็นรายละเอียดของตำแหน่งที่ต้องการผ่าตัดได้อย่างชัดเจน ด้วยเทคโนโลยีกำลังขยายของกล้อง ซึ่งช่วยให้ผ่าตัดได้ตรงจุดจึงลดการกระทบต่ออวัยวะอื่น ๆ ข้อจำกัดของการผ่าตัดส่องกล้อง - มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์ที่มีนวัตกรรมพิเศษ - ยังไม่สามารถใช้วิธีนี้กับผู้ป่วยในบางราย ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีโรคปอดและหัวใจขั้นรุนแรง และผู้ที่เคยผ่าตัด หรือมีพังผืดจำนวนมาก วิธีการเตรียมตัว ก่อน-หลังการผ่าตัด ก่อนการผ่าตัดส่องกล้อง - เตรียมร่างกายให้พร้อม รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งนอนหลับให้เพียงพอ - งดน้ำงดอาหาร อย่างน้อย 6 ชั่วโมง - แจ้งประวัติประจำตัว การแพ้ยา ให้แจ้งแพทย์เมื่อมีอาการป่วยก่อนการผ่าตัด - งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ - กรณีผ่าตัดลำไส้ แพทย์จะทำการล้างลำไส้ โดยจะให้ยากระตุ้นการขับถ่ายออกมาให้หมด - ถอดเครื่องประดับเอาไว้ในที่ปลอดภัย เช่น แหวน สร้อยคอ ต่างหู หรือเครื่องประดับจากการเจาะตามร่างกาย เพื่อป้องกันการเสียหายใน ระหว่างการผ่าตัด หลังการผ่าตัดส่องกล้อง - งดน้ำงดอาหาร ประมาณ 12-24 ชั่วโมง ตามแพทย์สั่ง - งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ นับว่าการผ่าตัดด้วย Minimal Invasive Surgery นั้นจำเป็นต้องอาศัยแพทย์และทีมงานที่มีความชำนาญพิเศษ โดยทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ มีทีมแพทย์ที่ผ่านการศึกษาอบรมการผ่าตัดด้วยวิธี Minimal Invasive Surgery จากสถาบันการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งพร้อมให้การดูแลรักษาสุขภาพของท่านเป็นอย่างดี ซึ่งหากแพทย์ตรวจพบโรคแล้วจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด ทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ ขอมอบสิทธิ์พิเศษเสริมความปลอดภัยให้ทุกท่านที่จะเข้ารับการผ่าตัดทุกประเภท ให้ได้รับการ ตรวจโรค COVID-19 ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมนวัตกรรมการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Minimally Invasive Surgery - MIS) มาช่วยย่นระยะเวลาการพักฟื้น และลดรอยแผล และความเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทเป็นได้ ก็รักษาได้ หากท่านใดสงสัยว่าตนเองกำลังเป็นโรคนี้อยู่อย่าปล่อยให้ปวดทรมานไว้นาน เพราะมีผลกระทบอย่างมากในการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ สามารถปรึกษาทางโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกสันหลังโดยตรงพร้อมให้คำปรึกษาแนะนำ สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร 02-363-2000 ขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ https://bit.ly/2XulRUr
  22. ผู้สูงอายุส่วนมากมักมีปัญหาเรื่องข้อเข่าเสื่อม บางรายมีอาการข้อสะโพกเสื่อมร่วมด้วย ข้อเข่าก็เหมือนอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกายที่มีอาการเสื่อมลงได้ เมื่อท่านมีอายุมากขึ้น ยกตัวอย่างคุณแม่บางท่านมีอาการข้อเข่าเสื่อมตั้งแต่อายุ 50 ต้น ๆ ในขณะที่คุณแม่อีกท่านที่อายุ 60 กว่า ๆ แต่ยังไม่มีอาการปวดเข่าเลย นั่นก็เป็นเพราะว่า อัตราความเร็วในการเสื่อมของข้อเข่า ของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน โดยจะขึ้นอยู่กับความหนักของการใช้งานข้อเข่าในอดีตที่ผ่านมา นั่นเป็นเพราะว่าข้อเข่าทำหน้าที่รับน้ำหนักของร่างกาย ดังนั้น หากผู้ที่ต้องทำงาน โดยยืนหรือเดินเป็นเวลานาน ๆ เป็นประจำ โดยเฉพาะเมื่อต้องหิ้วของหนัก ๆ ร่วมด้วย หรือเป็นคนที่น้ำหนักตัวมากกว่าปกติ ก็จะถือว่าเป็นผู้ที่ใช้งานข้อเข่าหนัก นอกจากการยืนหรือเดินแล้ว การขึ้น-ลงบันได และการนั่งยอง ๆ ก็ทำให้มีน้ำหนักกดไปที่ข้อเข่ามากด้วยเช่นกัน หากคุณเป็นอีกคนที่กำลังตัดสินใจและต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม หรือผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียมใหม่ให้กับคุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้สูงอายุในครอบครัว เพื่อแก้ไขอาการเสื่อมอยู่ล่ะก็ เรามีข้อมูลการรักษาและการผ่าตัดจากทางโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ มาฝากกันค่ะ ข้อเข่า ข้อสะโพก ไม่แก่ก็เสื่อมได้ แม้ข้อเข่าจะเป็นเพียงส่วนประกอบของร่างกายที่หลายคนมองข้าม แต่ก็มีบทบาทต่อการเคลื่อนไหวของร่างกายมากเลยทีเดียว หลายคนมีพฤติกรรมการใช้ข้อเข่าที่ไม่เหมาะสม จนส่งผลให้ข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร ข้อเข่าก็เปรียบเสมือนบานพับที่เชื่อมระหว่างหัวกระดูกต้นขา และเบ้ากระดูกหน้าแข้ง ซึ่งปลายกระดูกทั้งสองจะมีกระดูกอ่อนคลุมไว้ และจะมีน้ำเลี้ยงคอยหล่อลื่นเพื่อช่วยลดแรงกระแทกในขณะที่เราเคลื่อนไหว ดังนั้นการเสื่อมสลายของผิวกระดูกอ่อนบริเวณดังกล่าวนี่เอง จึงเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ข้อเข่าติดขัด และเกิดการอักเสบ บวม และรู้สึกปวดตามมา อาการเหล่านี้คือ “อาการข้อเข่าเสื่อม” สาเหตุสำคัญ “อาการข้อเข่าเสื่อม” - อายุ โดยอาการข้อเข่าเสื่อมจะพบได้มากในผู้ที่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป - เพศ เพศหญิง จะมีโอกาสเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้มากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวัยที่หมดประจำเดือน - น้ำหนักตัว ปกติเวลาเดินบนพื้นราบ ข้อเข่าแต่ละข้างของเราจะต้องแบกรับน้ำหนักประมาณ 3 เท่า ของน้ำหนักตัว ซึ่งหากเรามีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ก็จะส่งผลให้กระดูกอ่อนผิวข้อชำรุด สึกหรอ และเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร - การบาดเจ็บบริเวณข้อเข่า การเล่นกีฬาที่เกิดแรงกระแทกในข้อเข่า เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล รวมไปถึงการเกิดอุบัติเหตุ บริเวณข้อเข่า หรือเส้นเอ็นภายในข้อเข่า ก็จะส่งผลให้ความแข็งแรงของข้อเข่าลดน้อยลง และเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้ผิวข้อเข่าชำรุดก่อนวัย การรักษา ข้อเข่าเสื่อม ปัจจุบันการรักษาข้อเข่าเสื่อม สามารถทำได้หลายวิธี โดยหากอาการของโรคยังไม่รุนแรง แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้การรักษาด้วยการฉีดน้ำหล่อลื่นผิวข้อเข่า เพื่อลดการเสียดสีขณะเคลื่อนไหว โดยวิธีนี้จะสามารถทำได้กับเฉพาะผู้ที่ไม่เคยมีการติดเชื้อในข้อเข่าเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากมีอาการปวดที่รุนแรงเรื้อรังมานาน แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทดแทนข้อเข่าที่เสื่อม การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมและผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม คือ การผ่าตัดเอาข้อที่เสื่อมสภาพออก จากนั้นแพทย์จะใส่ข้อใหม่ซึ่งทำมาจากวัสดุพิเศษทางการแพทย์ที่มีความแข็งแรงทนทาน นอกจากนี้ไม่เพียงการนำกระดูกที่เสื่อมออก แพทย์จะปรับความตึงหรือหย่อนของเนื้อเยื่อรอบข้อเข่า ข้อสะโพก เพื่อให้ขามีรูปร่างปกติ ไม่โก่งผิดรูป ซึ่งการเปลี่ยนข้อเข่าเทียมจะได้ผลดีเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับ - ประสบการณ์และความชำนาญของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด - สภาพของข้อเข่าของผู้ป่วยก่อนผ่าตัด ถ้าข้อเข่าติดแข็งหรือผิดรูป เช่น เข่าโก่ง หรือกล้ามเนื้อข้อเข่าลีบ ต้องมีการบริหารข้อเข่าหลังผ่าตัดเพื่อฟื้นฟูต่อไป - ความร่วมมือของผู้ป่วยหลังผ่าตัดในเรื่องของบริหารข้อเข่าหลังผ่าตัดระยะเวลาของข้อเข่าเทียม ในผู้ป่วยกว่าร้อยละ 80 ข้อเข่าเทียมข้อสะโพกเทียมจะสามารถอยู่ได้นานกว่า 20 ปี อย่างไรก็ตาม สภาพของข้อเข่าเทียมจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งการใช้งานของผู้ป่วย ความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์กระดูก และคุณสมบัติของข้อเทียม ซึ่งผู้ป่วยควรดูแลน้ำหนักตัวไม่ให้เพิ่มขึ้น หลีกเลี่ยงการนั่งแบบยอง ๆ โดยไม่จำเป็น ไม่วิ่งทางไกล ไม่เล่นกีฬาที่ต้องมีการปะทะ และหมั่นดูแลตัวเองไม่ปล่อยให้ตัวเองติดเชื้อที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลานาน รวมทั้งไม่ปล่อยให้ฟันผุ เหงือกอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือเป็นแผลที่เล็บเท้า ก็จะช่วยให้ข้อเข่าเทียมมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นได้ วิธีการเตรียมตัว ก่อน-หลังการผ่าตัด ก่อนการผ่าตัด - เตรียมร่างกายให้พร้อม รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งนอนหลับให้เพียงพอ - งดน้ำงดอาหาร อย่างน้อย 6 ชั่วโมง - แจ้งประวัติประจำตัว การแพ้ยา ให้แจ้งแพทย์เมื่อมีอาการป่วยก่อนการผ่าตัด - งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ - ถอดเครื่องประดับเอาไว้ในที่ปลอดภัย เช่น แหวน สร้อยคอ ต่างหู หรือเครื่องประดับจากการเจาะตามร่างกาย เพื่อป้องกันการเสียหายใน ระหว่างการผ่าตัด หลังการผ่าตัด - งดน้ำงดอาหาร ประมาณ 12-24 ชั่วโมง ตามแพทย์สั่ง - งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ นับว่าการผ่าตัดนั้นจำเป็นต้องอาศัยแพทย์และทีมงานที่มีความชำนาญพิเศษ โดยทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ มีทีมแพทย์ที่ผ่านการศึกษาอบรมการผ่าตัดจากสถาบันการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งพร้อมให้การดูแลรักษาสุขภาพของท่านเป็นอย่างดี ซึ่งหากแพทย์ตรวจพบโรคแล้วจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด ทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ ขอมอบสิทธิ์พิเศษเสริมความปลอดภัยให้ทุกท่านที่จะเข้ารับการผ่าตัดทุกประเภท ให้ได้รับการตรวจโรค COVID-19 ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ : https://bit.ly/39phvn0 สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ โทร 02-363-2000
  23. เส้นเอ็นไขว้หน้าข้อเข่า เป็นเส้นเอ็นที่บริเวณกึ่งกลางข้อเข่าด้านหน้า ซึ่งเส้นเอ็นนี้จะอยู่เชื่อมต่อระหว่างข้อกระดูกของต้นขาและยึดกันกับข้อกระดูกของหน้าแข้ง โดยการวางตัวของเอ็นจะทำมุมในลักษณะแนวเฉียงไขว้เป็นรูปกากบาทกับเส้นเอ็นไขว้หลัง จึงเรียกว่าเส้นเอ็นไขว้หน้า ส่วนใหญ่สาเหตุที่พบมักเกิดในอุบัติเหตุจากการเล่นกีฬาที่ต้องเกิดการปะทะกันอย่างเช่น บาสเกตบอล, วอลเลย์บอล, เบสบอล, ฟุตบอล เป็นกีฬาที่มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการเล่นที่ไม่ถูกวิธี บางครั้งการหมุนเข่าหรือเข่าพลิกอย่างฉับพลัน อาจทำให้ “เอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาด” ได้แบบไม่รู้ตัว สาเหตุจากอุบัติเหตุอื่น ๆ ที่อาจพบได้แต่ไม่บ่อยเท่ากับการเล่นกีฬา บางรายพบว่ามีเสียงลั่นในข้อ มีอาการปวดเข่า เข่าบวม อาจสงสัยว่าอาการนี้มาจากข้อเข่าเสื่อม หรือเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาดกันแน่ เรามีข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาด้วยการผ่าตัดส่องกล้องจากโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการมาให้ความรู้กันค่ะ การผ่าตัดส่องกล้องซ่อมเอ็นเข่าและไหล่ เรื่องเล็กที่ไม่เล็ก เมื่อพูดถึงเรื่องการบาดเจ็บของเส้นเอ็นส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มคนอายุน้อยและเกิดการบาดเจ็บหลังได้รับอุบัติเหตุหรือหลังจากเล่นกีฬาส่วนมากการบาดเจ็บที่พบบ่อยที่สุดคือการบาดเจ็บของเอ็นไขว้หน้าเข่าและการฉีกขาดของเอ็นไหล่ซึ่งการบาดเจ็บดังกล่าวจะส่งผลให้มีการปวดเรื้อรังรู้สึกข้อเข่าหลวมไม่มั่นคงหรือไหล่หลุดง่ายซึ่งหากปล่อยไว้นานอาการปวดจะรบกวนชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทนไม่ไหว สาเหตุ 1.การบาดเจ็บของเอ็นเข่า - ส่วนใหญ่เกิดจากการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาได้แก่กีฬาจำพวก Contact Sport หรือกีฬาที่ต้องเกิดการปะทะกันเช่น บาสเกตบอล, วอลเลย์บอล, เบสบอล, ฟุตบอล - เกิดจากการหมุนเข่าหรือเข่าพลิกอย่างฉับพลันทำให้เอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาด - อุบัติเหตุจราจร 2.การบาดเจ็บของเอ็นข้อไหล่ - อาการบาดเจ็บของข้อไหล่เกิดจากการได้รับการกระแทกโดยตรงเช่นกันล้มไหล่กระแทกกับพื้นหรือการล้มเอามือยันพื้นทำให้แรงดันพื้นส่งมากระทบที่ไหล่ หรือการเล่นกีฬาที่ผิดท่า อาการ มีอาการปวดบวมช้ำหรือเดินลงน้ำหนักไม่ได้ถ้าถึงขั้นเอ็นฉีกขาดก็จะมีเลือดออกในข้อซึ่งเขาจะบวมมากโดยส่วนใหญ่จะเดินลงน้ำหนักไม่ได้เลยใน 1-2 วันแรกหลังจากได้รับการบาดเจ็บ การรักษา การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดแบบส่องกล้องซ่อมเอ็นใหม่ซึ่งข้อดีของการผ่าตัดส่องกล้องคือ - ช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและอวัยวะภายในทำให้มีความเจ็บน้อยปวดน้อยและลดการเสียเลือด - ขนาดของแผลมีขนาดเล็กเพียง 1-2 เซนติเมตรซึ่งเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดจะทำให้มีแผลกว้างถึง 12 ถึง 20 เซนติเมตร ดังนั้นการผ่าตัดแบบ MIS จะช่วยลดขนาดของแผลเป็น - การพักฟื้นที่โรงพยาบาลหลังผ่าตัดเพียง 2-3 วัน ซึ่งเร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิดที่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนานประมาณ 5-7 วัน - ช่วยลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนและโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ - ช่วยลดการเกิดพังผืดจากการผ่าตัดแบบเปิด - แพทย์ผู้ผ่าตัดเห็นรายละเอียดของตำแหน่งที่ต้องการผ่าตัดได้อย่างชัดเจนด้วยเทคโนโลยีกำลังขยายของกล้องซึ่งช่วยให้ผ่าตัดได้ตรงจุดจึงลดการกระทบต่ออวัยวะอื่น ๆ ข้อจำกัดของการผ่าตัดส่องกล้อง มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์ที่มีนวัตกรรมพิเศษ การผ่าตัดด้วย Minimally invasive surgery (MIS) นั้นจำเป็นต้องอาศัยแพทย์และทีมงานที่มีความชำนาญพิเศษโดยทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการมีทีมแพทย์ที่ผ่านการศึกษาอบรมการผ่าตัดด้วยวิธี Minimally invested surgery จากสถาบันการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งพร้อมให้การดูแลรักษาสุขภาพของท่านเป็นอย่างดี ซึ่งหากแพทย์ตรวจพบโรคแล้วจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัดทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการขอมอบสิทธิพิเศษเสริมความปลอดภัยให้ทุกท่านที่จะเข้ารับการผ่าตัดทุกประเภทให้ได้รับการตรวจโรค COVID -19 ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมนวัตกรรมการผ่าตัดแบบส่องกล้อง Minimally invasive surgery มาช่วยลดระยะเวลาในการพักฟื้นและลดรอยแผลจากการผ่าตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงตอนนี้คุณคงจะได้รับความกระจ่างเกี่ยวกับอาการเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาดแล้ว และ คลายความกังวลที่จะเข้ารับการรักษาด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดส่องกล้องแล้วนะคะ ฉะนั้นผู้ที่กำลังมีอาการดังกล่าว ควรรีบไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาก่อนที่การบาดเจ็บจะเรื้อรังจนทำให้ข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควรนะคะ ขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ : https://bit.ly/3nJrV6p สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร 02-363-2000
  24. รู้ทันก่อนรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท หากคุณกำลังมีอาการปวดหลังร้าวลงขา ตึงหลัง ขาชา เดินลำบากแล้วละก็ อย่าปล่อยให้อาการเรื้อรัง อาจเสี่ยงหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทได้ หรืออาการที่เรียกกันติดปากว่า “กระดูกทับเส้น” โรคยอดฮิตของคนปวดหลัง แต่จริง ๆ แล้วกระดูกไม่ได้ทับเส้นประสาทอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ แต่เป็นหมอนรองกระดูกต่างหาก แล้วหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเกิดขึ้นได้อย่างไร ? วันนี้เรามีข้อมูลแบบละเอียดเกี่ยวกับอาการและการรักษา รวมไปถึงการผ่าตัดส่องกล้อง จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการมาให้ความรู้กันค่ะ หมอนรองกระดูกสันหลัง กดทับเส้นประสาท กระดูกสันหลัง จะมีหมอนรองกระดูก และข้อต่อกระดูกสันหลังคอยเชื่อมต่อกับกระดูกหลายชิ้น โดยที่ตัวกระดูกสันหลังทำหน้าที่ปกป้องไขสันหลัง ส่วนหมอนรองกระดูกจะทำหน้าที่ให้กระดูกสันหลังยืดหยุ่นและสามารถรับแรงกระแทกของน้ำหนักตัวจากการเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นการใช้งานหนักในชีวิตประจำวัน หรืออายุที่เพิ่มขึ้น ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพได้ หมอนรองกระดูก ที่พบว่ามีปัญหาบ่อยที่สุดก็คือ หมอนรองกระดูกสันหลังในระดับเอวข้อที่ 4-5 เนื่องจากเป็นข้อต่อระดับที่มีการเคลื่อนไหว และรับน้ำหนักมากในร่างกาย ซึ่งเมื่อหมอนรองกระดูกมีสภาพเสื่อม ความสูงของหมอนรองกระดูกจะมีขนาดลดลง และมีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อหมอนรองกระดูก ทำให้แกนหมอนรองกระดูกหลุดรอดมาภายนอก และกดทับเส้นประสาทไขสันหลังได้ อาการของ โรคหมอนรองกระดูกสันหลัง กดทับเส้นประสาท - ปวดหลัง สะโพกและปวดร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างรุนแรง ซึ่งจะมีอาการปวดมากขึ้นเวลาไอ หรือจาม - กล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อสะโพกและขาบางรายมีอาการชาปลายเท้าร่วมด้วย หากอาการรุนแรงมากจะไม่สามารถกระดกปลายเท้า หรือเดินได้ - ปลายเท้าชา โดยเฉพาะบริเวณง่ามนิ้วหัวแม่เท้า - ระบบขับถ่ายผิดปกติ ในกรณีที่มีอาการรุนแรงมาก จะมีความผิดปกติของระบบขับถ่ายร่วมด้วย เช่น ไม่สามารถควบคุมการอุจจาระ หรือ ปัสสาวะได้ ซึ่งจำเป็นต้องผ่าตัดรักษาอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันระบบขับถ่าย ไม่สามารถฟื้นคืนได้ตามปกติ การรักษา โรคหมอนรองกระดูกสันหลัง กดทับเส้นประสาท 1.รักษาโดยการลดน้ำหนัก พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอาการหนักขึ้น - การยกของหนัก - การนั่งรถยนต์เป็นเวลานาน - หลีกเลี่ยงอาการท้องผูกหรือเบ่ง ถ่ายอุจจาระแรงเกินไป เป็นต้น เนื่องจากจะทำให้เกิดแรงดัน ในหมอนรองกระดูกสูง ซึ่งเป็นสาเหตุให้หมอนรองกระดูกทนแรงดันไม่ได้ ทำให้เกิดการแตกของหมอนรองกระดูกตามมา 2.ยาต้านการอักเสบ NSAIDS และ ยาคลายกล้ามเนื้อ 3.ใช้กายภาพบำบัดและใช้เสื้อพยุงหลัง เพื่อช่วยในการลดอาการปวด และทำให้ผู้ป่วยสามารถกลับไป ใช้ชีวิตประจำวัน ได้ปกติเร็วขึ้น และทำให้หน้าท้องกระชับขึ้น เพื่อที่จะจะช่วยลดแรงดันในหมอนรองกระดูกสันหลังได้ นอกจากกนี้ยังต้องลดเคลื่อนไหวของ กระดูกสันหลัง ก็จะทำให้อาการปวดลดลง เช่นกัน 4.การผ่าตัด แพทย์จะพิจารณาตามเกณฑ์ดังนี้ - ผู้ป่วยที่มีอาการปวดมากจนทนไม่ได้ แม้จะรักษาโดยรับประทานยา พักและกายภาพบำบัดเต็มที่แล้วก็ยังไม่เป็นปกติ - มีอาการชา อ่อนแรง หรือกล้ามเนื้อขาลีบอย่างเห็นได้ชัด - มีปัญหาระบบขับถ่ายผิดปกติ ที่เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาท เช่น กลั้นอุจจาระหรือปัสสาวะไม่ได้ การผ่าตัดส่องกล้องส่องขยาย (Microscopic Spine Surgery) การผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทโดยทั่วไป ศัลยแพทย์กระดูกจะใช้เครื่องมือในการตัดกระดูก และเอ็นพังผืดเพื่อขยายโพรงประสาทคลายการกดรัดเส้นประสาท โดยในระหว่างทำการผ่าตัดบางตำแหน่งของโพรงประสาท อาจมีขนาดที่ตีบแคบมาก ทำให้มองเห็นเส้นประสาทได้ไม่ชัดเจนและมีข้อจำกัด ซึ่งการสอดใส่เครื่องมือผ่าตัดอาจเป็นอันตรายต่อเส้นประสาทได้ ซึ่งการผ่าหมอนรองกระดูกสันหลังโดยการส่องกล้องขยายนั้น จะสามารถลดขนาดแผลผ่าตัดให้เล็กลงได้ และที่กล้องขยายจะมาช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถ ที่จะมองเห็นรายละเอียดในการผ่าตัดได้อย่างชัดเจนอีกด้วย ข้อดีของการผ่าตัดผ่านกล้อง 1.ช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและอวัยวะภายใน ทำให้มีความเจ็บปวดน้อย และลดการเสียเลือด 2.ขนาดของแผลนั้นเล็กเพียง 1-2 ซม. ซึ่งเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิดจะทำให้มีแผลกว้างถึง 12-20 ซม. ดังนั้น การผ่าตัดแบบ MIS จะช่วยลดขนาดของแผลเป็นที่จะเกิดขึ้นจากการผ่าตัดแบบเปิด 3.พักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 1-2 วัน ซึ่งในบางกรณีอาจจะกลับบ้านได้ทันทีหลังการผ่าตัด นับว่าเร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิด ที่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนานเป็นสัปดาห์ 4.ช่วยลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน และโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ถือว่าปลอดภัยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด 5.ช่วยลดการเกิดพังผืดจากการผ่าตัดแบบเปิด 6.ทำให้แพทย์มองเห็นรายละเอียดของตำแหน่งที่ต้องการผ่าตัดได้อย่างชัดเจน ด้วยเทคโนโลยีกำลังขยายของกล้อง ซึ่งช่วยให้ผ่าตัดได้ตรงจุดจึงลดการกระทบต่ออวัยวะอื่น ๆ ข้อจำกัดของการผ่าตัดส่องกล้อง - มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากต้องใช้อุปกรณ์ที่มีนวัตกรรมพิเศษ - ยังไม่สามารถใช้วิธีนี้กับผู้ป่วยในบางราย ได้แก่ ผู้ป่วยที่มีโรคปอดและหัวใจขั้นรุนแรง และผู้ที่เคยผ่าตัด หรือมีพังผืดจำนวนมาก วิธีการเตรียมตัว ก่อน-หลังการผ่าตัด ก่อนการผ่าตัดส่องกล้อง - เตรียมร่างกายให้พร้อม รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งนอนหลับให้เพียงพอ - งดน้ำงดอาหาร อย่างน้อย 6 ชั่วโมง - แจ้งประวัติประจำตัว การแพ้ยา ให้แจ้งแพทย์เมื่อมีอาการป่วยก่อนการผ่าตัด - งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ - กรณีผ่าตัดลำไส้ แพทย์จะทำการล้างลำไส้ โดยจะให้ยากระตุ้นการขับถ่ายออกมาให้หมด - ถอดเครื่องประดับเอาไว้ในที่ปลอดภัย เช่น แหวน สร้อยคอ ต่างหู หรือเครื่องประดับจากการเจาะตามร่างกาย เพื่อป้องกันการเสียหายใน ระหว่างการผ่าตัด หลังการผ่าตัด - งดน้ำงดอาหาร ประมาณ 12-24 ชั่วโมง ตามแพทย์สั่ง - งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ นับว่าการผ่าตัดด้วย Minimal Invasive Surgery นั้นจำเป็นต้องอาศัยแพทย์และทีมงานที่มีความชำนาญพิเศษ โดยทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ มีทีมแพทย์ที่ผ่านการศึกษาอบรมการผ่าตัดด้วยวิธี Minimal Invasive Surgery จากสถาบันการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งพร้อมให้การดูแลรักษาสุขภาพของท่านเป็นอย่างดี ซึ่งหากแพทย์ตรวจพบโรคแล้วจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด ทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ ขอมอบสิทธิ์พิเศษเสริมความปลอดภัยให้ทุกท่านที่จะเข้ารับการผ่าตัดทุกประเภท ให้ได้รับการ ตรวจโรค COVID-19 ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมนวัตกรรมการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Minimally Invasive Surgery - MIS) มาช่วยย่นระยะเวลาการพักฟื้น และลดรอยแผล และความเจ็บปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากท่านใดสงสัยว่าตนเองกำลังประสบปัญหา มีอาการปวดหลังร้าวลงขา อย่าปล่อยให้อาการเรื้อรัง อาจมีภาวะเสี่ยงโรคหมอนรองกระกดูกทับเส้นประสาท ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ ยินดีให้บริการตั้งแต่การให้คำปรึกษา ตรวจวินิจฉัยและรักษาอาการได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ครบครัน รวมถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ยินดีให้คำปรึกษาด้วยความจริงใจ สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร 02-363-2000 ขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ https://bit.ly/2XulRUr
  25. ข้อเข่า ข้อสะโพก ไม่แก่ก็เสื่อมได้ โรคข้อเข่าข้อสะโพกเสื่อม เป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนภายในข้อ ส่วนมากการเสื่อมนี้จะเกิดขึ้นในผู้สูงอายุเป็นการเสื่อมสภาพตามธรรมชาติของกระดูกอ่อน แต่ถึงแม้อายุจะไม่เยอะก็สามารถเป็นโรคนี้ได้ ส่วนปัจจัยหนึ่งที่พบบ่อย คือ พันธุกรรม โดยชาวเอเชียเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมมากกว่าฝรั่ง นอกจากนี้นักกีฬา นักวิ่ง โดยเฉพาะนักฟุตบอล ซึ่งใช้เข่าเยอะและเกิดการบาดเจ็บที่หัวเข่าบ่อย ๆ จนส่งผลให้ข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันควร ข้อเข่าก็เปรียบเสมือนบานพับที่เชื่อมระหว่างหัวกระดูกต้นขา และเบ้ากระดูกหน้าแข้ง ซึ่งปลายกระดูกทั้งสองจะมีกระดูกอ่อนคลุมไว้ และจะมีน้ำเลี้ยงคอยหล่อลื่นเพื่อช่วยลดแรงกระแทกในขณะที่เราเคลื่อนไหว ดังนั้นการเสื่อมสลายของผิวกระดูกอ่อนบริเวณดังกล่าวนี่เอง จึงเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ข้อเข่าติดขัด และเกิดการอักเสบ บวม และรู้สึกปวดตามมา อาการเหล่านี้คือ “อาการข้อเข่าเสื่อม” สาเหตุสำคัญ “อาการข้อเข่าเสื่อม” - อายุ โดยอาการข้อเข่าเสื่อมจะพบได้มากในผู้ที่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป - เพศ เพศหญิง จะมีโอกาสเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมได้มากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับวัยที่หมดประจำเดือน - น้ำหนักตัว ปกติเวลาเดินบนพื้นราบ ข้อเข่าแต่ละข้างของเราจะต้องแบกรับน้ำหนักประมาณ 3 เท่า ของน้ำหนักตัว ซึ่งหากเรามีน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ก็จะส่งผลให้กระดูกอ่อนผิวข้อชำรุด สึกหรอ และเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร - การบาดเจ็บบริเวณข้อเข่า การเล่นกีฬาที่เกิดแรงกระแทกในข้อเข่า เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล รวมไปถึงการเกิดอุบัติเหตุบริเวณข้อเข่า หรือเส้นเอ็นภายในข้อเข่า ก็จะส่งผลให้ความแข็งแรงของข้อเข่าลดน้อยลง และเพิ่มโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้ผิวข้อเข่าชำรุดก่อนวัย การรักษา ข้อเข่าเสื่อม ปัจจุบันการรักษาข้อเข่าเสื่อม สามารถทำได้หลายวิธี โดยหากอาการของโรคยังไม่รุนแรง แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้การรักษาด้วยการฉีดน้ำหล่อลื่นผิวข้อเข่า เพื่อลดการเสียดสีขณะเคลื่อนไหว โดยวิธีนี้จะสามารถทำได้กับเฉพาะผู้ที่ไม่เคยมีการติดเชื้อในข้อเข่าเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากมีอาการปวดที่รุนแรงเรื้อรังมานาน แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมทดแทนข้อเข่าที่เสื่อม การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม คือ การผ่าตัดเอาข้อที่เสื่อมสภาพออก จากนั้นแพทย์จะใส่ข้อใหม่ซึ่งทำมาจากวัสดุพิเศษทางการแพทย์ที่มีความแข็งแรงทนทาน นอกจากนี้ไม่เพียงการนำกระดูกที่เสื่อมออก แพทย์จะปรับความตึงหรือหย่อนของเนื้อเยื่อรอบข้อเข่า เพื่อให้ขามีรูปร่างปกติ ไม่โก่งผิดรูป ซึ่งการเปลี่ยนข้อเข่าเทียมจะได้ผลดีเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับ - ประสบการณ์และความชำนาญของศัลยแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด - สภาพของข้อเข่าของผู้ป่วยก่อนผ่าตัด ถ้าข้อเข่าติดแข็งหรือผิดรูป เช่น เข่าโก่ง หรือกล้ามเนื้อข้อเข่าลีบ ต้องมีการบริหารข้อเข่าหลังผ่าตัดเพื่อฟื้นฟูต่อไป - ความร่วมมือของผู้ป่วยหลังผ่าตัดในเรื่องของบริหารข้อเข่าหลังผ่าตัด ระยะเวลาของข้อเข่าเทียม ในผู้ป่วยกว่าร้อยละ 80 ข้อเข่าเทียมจะสามารถอยู่ได้นานกว่า 20 ปี อย่างไรก็ตาม สภาพของข้อเข่าเทียมจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งการใช้งานของผู้ป่วย ความเชี่ยวชาญของศัลยแพทย์กระดูก และคุณสมบัติของข้อเทียม ซึ่งผู้ป่วยควรดูแลน้ำหนักตัวไม่ให้เพิ่มขึ้น หลีกเลี่ยงการนั่งแบบยอง ๆ โดยไม่จำเป็น ไม่วิ่งทางไกล ไม่เล่นกีฬาที่ต้องมีการปะทะ และหมั่นดูแลตัวเองไม่ปล่อยให้ตัวเองติดเชื้อที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลานาน รวมทั้งไม่ปล่อยให้ฟันผุ เหงือกอักเสบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือเป็นแผลที่เล็บเท้า ก็จะช่วยให้ข้อเข่าเทียมมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นได้ วิธีการเตรียมตัว ก่อน-หลังการผ่าตัด ก่อนการผ่าตัด - เตรียมร่างกายให้พร้อม รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งนอนหลับให้เพียงพอ - งดน้ำงดอาหาร อย่างน้อย 6 ชั่วโมง - แจ้งประวัติประจำตัว การแพ้ยา ให้แจ้งแพทย์เมื่อมีอาการป่วยก่อนการผ่าตัด - งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ - ถอดเครื่องประดับเอาไว้ในที่ปลอดภัย เช่น แหวน สร้อยคอ ต่างหู หรือเครื่องประดับจากการเจาะตามร่างกาย เพื่อป้องกันการเสียหายใน ระหว่างการผ่าตัด หลังการผ่าตัด - งดน้ำงดอาหาร ประมาณ 12-24 ชั่วโมง ตามแพทย์สั่ง - งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ เพราะข้อเข่า ข้อสะโพกเสื่อม ไม่ใช่โรคสำหรับผู้สูงอายุเท่านั้น อย่าละเลยอาการปวดข้อ โดยเฉพาะข้อเข่าและข้อสะโพก ซึ่งเป็นอวัยวะที่รองรับการทรงตัวของร่างกาย เมื่อเริ่มมีอาการปวดหรือผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ ซึ่งหากแพทย์ตรวจพบโรคแล้วจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด ทางโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ ขอมอบสิทธิ์พิเศษเสริมความปลอดภัยให้ทุกท่านที่จะเข้ารับการผ่าตัดทุกประเภท ให้ได้รับการตรวจโรค COVID-19 ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ขอบคุณข้อมูลจากโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ : https://bit.ly/39phvn0 สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ โทร 02-363-2
×
×
  • สร้างใหม่...