ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

darunee

ขาประจำ
  • จำนวนเนื้อหา

    15
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย darunee

  1. โรคความเสื่อมทางสมองควรต้องใส่ใจรู้เท่าทันเพื่อป้องกันและหาแนวทางการรักษาได้อย่างเหมาะสม นอกจากจะมีคุณภาพชีวิตที่สดใส สมองยังต้องไบรท์ คิด วิเคราะห์ และแยกแยะเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้อย่างดี การรู้เท่าทันความเสื่อมของโรคทางสมองจึงควรดูแลสมองตั้งแต่วัยทำงาน เพราะสมองมีหน้าที่ควบคุมการทำงานของร่างกาย การสั่งการ การเคลื่อนไหว พฤติกรรม และหน้าที่ต่าง ๆ แต่เมื่ออายุมากขึ้น สมองก็เสื่อมไปตามวัย ทำให้อุบัติการณ์ของโรคสมองเพิ่มขึ้นอยู่เสมอผู้ใกล้ชิดจึงยิ่งต้องเฝ้าสังเกตอาการและตรวจวินิจฉัยก่อนอาการของโรคจะลุกลามเกินการป้องกัน และรักษาแล้วอัลไซเมอร์อาการเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้เรามาหาคำตอบกัน อัลไซเมอร์อาการเป็นแบบไหน ควรสงสัยว่าเป็นสมองเสื่อม? โรคอัลไซเมอร์อาการระยะแรกของผู้ป่วย เริ่มจากขี้หลงขี้ลืม ลืมเรื่องที่เพิ่งพูดไปหรือลืมเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้น มีพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ ชอบถามคำถามเดิม ๆ ซ้ำๆ มีความลังเล ไม่สามารถตัดสินใจเรื่องง่ายๆ ได้ ทำให้มีความวิตกกังวลมากขึ้น ตื่นตกใจง่าย และอาจมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงได้ - ความเข้าใจภาษาลดลง ใช้ภาษาไม่ถูกต้อง เรียกชื่อสิ่งของไม่ถูก อาจหยุดพูดกลางคันและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรต่อ หรือพูดย้ำกับตัวเอง รวมถึงอาจพูดน้อยลง - สับสนเรื่องเวลาหรือสถานที่ อาจลืมว่าตอนนี้ตนอยู่ที่ใดและเดินทางมายังสถานที่นั้นได้อย่างไร - ไม่สามารถทำกิจกรรมที่เคยทำได้มาก่อน เช่น ลืมวิธีการเปลี่ยนช่องทีวี - บกพร่องในการรับรู้หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่ทราบว่าของสิ่งนี้มีไว้ทำอะไร หรือไม่สามารถแยกแยะรสชาติหรือกลิ่นได้ - บกพร่องในการบริหารจัดการ และตัดสินใจแก้ไขปัญหา ไม่กล้าตัดสินใจหรือตัดสินใจผิดพลาดบ่อย ๆ - บกพร่องในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น อาบน้ำ แต่งตัว ไม่สามารถไปไหนตามลำพังได้ - บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง เช่น ซึมเศร้า เฉื่อยชา โมโหฉุนเฉียวง่ายโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน เห็นภาพหลอน หวาดระแวง - ปัจจัยเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมมีหลากหลาย ทั้งปัจจัยที่หลีกเลี่ยงได้ และปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ได้แก่ - อายุเกิน 65 ปี - ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน ไขมัน เพราะดรคเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดสมองตีบ และทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม - ผู้ที่ชอบทำอะไรจำเจ ทานอาหารเดิม ๆ ไปสถานที่เดิม ๆ มีกิจกรรมเดิม ๆ - ผู้ป่วยที่มีภาวะซึมเศร้าเรื้อรังและไม่ได้รับการรักษา - ผู้ที่ไม่เข้าสังคม เช่น นอนดูทีวีอยู่บ้าน ชอบอยู่คนเดียวเป็นกิจวัตร หากผู้ใกล้ชิดหมั่นเฝ้าสังเกตผู้สูงวัยใกล้ตัวแล้วสงสัยเห็นว่าท่านเข้าค่ายโรคอัลไซเมอร์อาการช่วงเริ่มต้นให้รีบพาท่านไปพบแพทย์ เพื่อแพทย์จะสามารถวินิจฉัยในกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อมได้แต่เนิ่น ๆ เพื่อที่จะทำให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษา และผู้ป่วยปรับพฤติกรรมการดำเนินชีวิตสามารถช่วยชะลอตัวโรค ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น อ่านหนังสือ การทำงาน โดยไม่เกษียณตัวเอง เล่นเกมที่อาศัยการคิดคำนวณ การพบปะพูดคุยเข้าสังคม ดูแลสุขภาพจิตให้ดี คิดบวก ลดความเครียด ทานอาหารที่มีประโยชน์ การนอนหลับที่ดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยชะลอหรือทุเลาอาการเสื่อมที่จะเกิดขึ้นได้ค่ะ
  2. หากเพื่อน ๆ กำลังวางแผนจะกู้ซื้อบ้าน สักหลังแต่ไม่ทราบว่าจะต้องเริ่มจากจุดไหน และ ควรจะเตรียมตัวอย่างไรดีถึงจะยื่นกู้กับธนาคารผ่าน เพื่อน ๆ ที่มีรายได้จำกัดคงจะเคยสงสัยกันใช่ไหมว่าถ้าเรามีเงินเดือนต่ำกว่า 20,000 บาท จะซื้อบ้านได้ไหม ต้องบอกกันก่อนเลยว่าได้ค่ะ และเพื่อเป็นการทำให้ทุกคนเห็นภาพวันนี้เราจึงได้ทำการรวบรวมข้อมูลดี ๆ ที่เพื่อน ๆ สามารถมีบ้านเป็นของตัวเองได้เอามาฝาก 1. คำนวณหาจำนวนเงินที่เราจะมีกำลังในการกู้ซื้อได้ จากหลักของการกู้ทั่วไปมีอยู่ว่า ผู้กู้สามารถแบกรับภาระได้ไม่เกิน 40% ของรายได้เท่านั้น ตัวอย่างเช่น ผู้กู้มีเงินเดือน 15,000 บาท จะสามารถผ่อนชำระสูงสุดได้ 15,000 x 40% = 6,000 บาท ซึ่งก็คือหากผู้กู้มีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือนจะสามารถผ่อนชำระเป็นจำนวนเงินได้ 6,000 บาท ที่สำคัญเราต้องไม่มีหนี้สินผ่อนชำระสินค้าอื่น ๆ หากเรามีหนี้สินอื่น ๆ เช่น ผ่อนรถอยู่ เดือนละ 5,000 บาท ก็ทำให้ผู้กู้เหลือความสามารถในการผ่อนบ้านต่อเดือนลดลง (6,000 – 5,000) เหลือเพียง 1,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น 2. หาโครงการบ้านที่อยู่ในวงเงินที่เราสามารถกู้ได้เมื่อคำนวณจากเคล็ดลับที่ 1 สมมติว่า เราเลือกจะผ่อนชำระที่ 30 ปี จะสามารถกู้ได้ 858,000 บาท ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีโครงการที่ราคาต่ำกว่าล้านอยู่หลายโครงการเลย เช่น คอนโดแถบชานเมือง หรือในแถบปริมณฑลก็ยังมีราคาไม่ถึงล้านอยู่เยอะ หรือถ้าหากอยู่ที่ต่างจังหวัดก็ยิ่งมีโครงการราคาต่ำกว่าล้านมากมาย 3. ทำประวัติเครดิตบูโรของเราให้ดี มีหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และบัตรผ่อนชำระต่าง ๆ หนี้สินของบัตรต่าง ๆ ตรงนี้จะไปแสดงที่เครดิตบูโรของเรา หากมีประวัติการชำระหนี้ไม่ดี ไม่ตรงต่อเวลา ผิดนัดจ่ายหนี้กับธนาคาร หรือเบี้ยวหนี้ไม่จ่ายเลย เครดิตบูโรก็จะขึ้น Blacklist ซึ่งหมายความว่า เมื่อเราไปยื่นกู้กับธนาคารแล้วทางธนาคารไปตรวจสอบเครดิตบูโรของเราก็จะเห็น Blacklist ของเรา ซึ่งอาจทำให้กู้ซื้อได้ยาก และยังมีอีกกรณีหนึ่งหากเป็นหนี้บัตรเครดิตเยอะเกินไป ซึ่งหมายความว่าเราไม่ได้ติด Blacklist แต่เมื่อธนาคารทำการประเมินรายได้ของเราแล้วปรากฏว่า แค่ยอดที่ต้องชำระในแต่ละเดือนสำหรับบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดแต่ละใบของเราในแต่ละเดือน ก็ไม่พอที่จะส่งค่างวดสำหรับสินเชื่อบ้านแล้ว แบบนี้ธนาคารก็คงอนุมัติให้ผ่านยากค่ะ 4.หาผู้กู้ร่วม ในกรณีที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแต่กู้คนเดียวไม่ผ่านหรือรายได้ไม่พอ การกู้ร่วมก็เป็นทางออกหนึ่งของปัญหาที่นิยมเลือกใช้กันมาก และในบางสถาบันการเงินจะกำหนดให้ผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์กับผู้กู้ในฐานะที่เป็นพี่น้องท้องเดียวกันหรือบิดามารดากู้ร่วมกับบุตรและสามีภรรยา หรือถ้าแต่งงานกันแล้วและยังไม่ได้จดทะเบียน ผู้กู้ร่วมก็ต้องแสดงหลักฐานอื่น ๆ ประกอบ เช่น ทะเบียนบ้านที่แสดงว่าปัจจุบันอยู่ด้วยกัน หรือถ้ามีบุตรก็ต้องแสดงใบเกิดที่ระบุชื่อพ่อแม่ ในการซื้อบ้านแบบการกู้ร่วมสามารถทำได้ 2 แบบ คือ 1.กรรมสิทธิ์บ้านเป็นชื่อของคน ๆ เดียว แต่เวลากู้ยืมใช้คนหลายคนมากู้ร่วม 2.การกู้ร่วมโดยใส่ชื่อผู้กู้ทุกคนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวม ซึ่งการกู้ร่วมนั้น สถาบันการเงินจะพิจารณารายได้ของทุกคนที่ขอกู้ร่วม โดยจะหักภาระค่าใช้จ่ายของทุกคน หลังจากนั้นก็ดูว่า เหลือเงินที่จะสามารถผ่อนชำระได้ต่อเดือนเท่าไหร่ แล้วพิจารณาให้สินเชื่อไปตามสัดส่วน ซึ่งจะทำให้เพื่อน ๆ ที่มีผู้กู้ร่วม สามารถกู้วงเงินได้สูงขึ้นมาก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความที่เราได้นำเสนอไปคงจะช่วยเป็นทางให้เพื่อน ๆ เงินเดือนน้อยยื่นกู้ซื้อบ้าน ก็จะสามารถเป็นได้เจ้าของบ้านในฝันได้เหมือนกับทุก ๆ คน อย่างแน่นอนค่ะ
  3. อากาศบ้านเรามันร้อนอบอ้าวสุดจะทน หลายคนเลือกที่จะพักผ่อนอยู่บ้านแบบไม่ต้องไปเผชิญแสงแดดที่แสบร้อน ซึ่งวิธีคลายร้อนแบบประหยัดที่ได้รับความนิยม และดีที่สุดก็คงหนี้ไม่พ้นแอร์ แต่นอกจากแอร์แล้วก็ยังมีเจ้าพัดนี่แหละค่ะที่ถือว่าตอบโจทย์ในเรื่องการช่วยคลายความร้อน ซึ่งวันนี้เราก็ขอนำเสนอถึงข้อดี ข้อด้อย และวิธีการเลือกซื้อพัดลมติดผนังที่ดีเอามาฝากให้กับทุก ๆ คนด้วย ว่าแล้วก็ตามมาดูกันเลยค่ะ 4 ข้อดีของพัดลมติดผนัง 1.ห้องดูกว้างขึ้น พื้นที่เล็ก ๆ อย่างในคอนโด อาจมีพื้นที่จำกัด ถ้ายิ่งใช้พัดลมตั้งพื้น หรือพัดลมตั้งโต๊ะทำให้ห้องดูเล็กเพิ่มขึ้นอีก ทำให้เกะกะเวลาเดินผ่าน แถมบางครั้งอาจจะเดินสะดุดสายไฟกันอีกด้วย 2.พัดลมติดผนัง ทำความสะอาดบ้านง่ายขึ้น การปัดกวาด เช็ดถู ก็ทำได้ง่ายขึ้นไม่ต้องคอยยกพัดลมหลบไปมาให้เหนื่อยช่วยทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น 3.ปลอดภัย สำหรับบ้านไหนที่มีลูกเล็กๆ วัยกำลังซน ที่ชอบเอานิ้วมือแหย่เข้าในตัวพัดลม หมดปัญหาดังกล่าวไปได้ในทันที 4.พัดลมติดผนังราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องปรับอากาศ ช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้า เหมาะกับการใช้ในห้องทั้งแบบปิด และแบบเปิดโล่ง ซ่อมแซมง่าย อะไหล่มีราคาถูก แม้จะมีข้อดีหลายประการ แต่พัดลมติดผนังเองก็มีข้อด้อยเช่นกัน นั่นก็คือการติดตั้งแบบตายตัวด้วยการเจาะผนัง เพื่อทำการยึดพัดลมให้แน่นอยู่กับกำแพง ดังนั้นการขนย้าย หรือเปลี่ยนตำแหน่งจึงกลายมาเป็นสิ่งที่ค่อนข้างลำบากอย่างมากเช่นกัน นอกจากนี้หากติดตั้งพัดลมเอาไว้สูงจนเกินไป ก็จะทำให้ทำความสะอาดพัดลมได้ค่อนข้างลำบาก วิธีการเลือก 1.เลือกพัดลมที่มีเครื่องหมายมาตรฐานรับรองความปลอดภัย ควรเลือกซื้อพัดลมที่มีเครื่องหมายมาตรฐานบังคับรับรองความปลอดภัยหรือที่เราเรียกว่า (มอก.) เพราะพัดลมที่ผ่านการรับรองมาตรฐานมานั้นได้รับการทดสอบมาแล้ว ว่าใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าไม่สิ้นเปลืองพลังงาน 2.เลือกพัดลมให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน เพื่อตอบโจทย์การใช้งานพร้อมกับช่วยประหยัดพลังงาน ดังนั้นการเลือกซื้อพัดลมแต่ละครั้งก็ควรเลือกให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน โดยพิจารณาจากจำนวณคนและพื้นที่ในการใช้งาน เช่น ถ้าใช้เพียงคนเดียว ไม่เกิน 2 คน ก็เลือกซื้อขนาดมอเตอร์ที่เล็กกว่า และกำลังไฟฟ้าที่ใช้ก็น้อยกว่า จึงช่วยประหยัดพลังงานได้ดีกว่าพัดลมแบบตั้งพื้นและเพดานนั่นเอง 3.เลือกซื้อพัดลมที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ฉลากประหยัดไฟ คือ ฉลากที่บ่งบอกระดับการใช้ไฟฟ้าและข้อมูลเบื้องต้นต่าง ๆ ของเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างเช่น ค่าใช้จ่ายต่อปี ประสิทธิภาพในการใช้งานและประหยัดพลังงาน เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสมและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว หลังจากที่ได้ทราบข้อดี - ข้อเสียของพัดลมติดผนังกันไปแล้ว ถ้าหากใครคิดว่าพัดลมติดผนังนี่ล่ะตอบโจทย์ความต้องการของตัวเอง แต่ไม่รู้ว่าควรเลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะ ขอแนะนำให้ลองเลือกจากวิธีที่เราแนะนำเอาไว้ใช้เป็นแนวทางการเลือกซื้อได้นะคะ เพื่อที่จะได้สินค้าดี ๆ ราคาประหยัด คุณภาพเยี่ยมเอาไว้ใช้งานได้นาน ๆ ค่ะ
  4. การเลือกซื้อโทรศัพท์ในปัจจุบันมีหลาย ๆ ปัจจัยในการตัดสินใจ ยิ่งเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีด้านสมาร์ทโฟนนั้นได้พัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ มีรุ่นใหม่ ๆ ออกมาเกือบทุกเดือน และด้วยความหลากหลายต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เลือกกันแทบไม่ถูกว่าจะซื้อรุ่นไหนดี ซึ่งในตอนนี้มีโทรศัพท์ในท้องตลาดเยอะมากทำให้ยากต่อการตัดสินใจ เพราะแบบนี้วันนี้เราจึงจะมาแนะนำให้กับคุณเองว่าต้องมีขั้นตอนการพิจารณา และวิธีการเลือกซื้อโทรศัพท์อย่างไรบ้าง พร้อมแล้วมาดูกันเลยค่ะ วิธีการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือยังไงให้เหมาะตัวคุณเอง 1.เลือกระบบปฏิบัติการ ระบบปฏิบัติการหลักตอนนี้มีอยู่สองระบบคือ Android และ iOS ใน Android นั้นจะมีหลากหลายรุ่น หลากหลายแบรนด์ให้เลือกตามความต้องการ ส่วนใน iOS นั้นจะมีแค่แบรนด์เดียวเท่านั้น การปรับแต่งของ Android สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ตามความชอบของผู้ใช้งาน 2.สเปกและฟีเจอร์การใช้งาน ถือว่าเป็นหัวใจหลักในการเลือกซื้อโทรศัพท์อีกปัจจัยหนึ่งเลย ทั้งขนาด, ความละเอียดหน้าจอ, ความจุ, ชิปเซ็ต, แบตเตอรี่ และที่ขาดไม่ได้คือ ความละเอียดของกล้อง ซึ่งก็พ่วงมาถึงฟีเจอร์การใช้งานของกล้องด้วยว่าถ่ายออกมาดีขนาดไหน ใช้งานง่ายไหม ฟีเจอร์ในแต่ละแบรนด์ก็แตกต่างกันไป อย่างใน Galaxy Note จะมี S Pen เพิ่มเข้ามา รองรับการใช้งานด้านเอกสาร โน้ตต่าง ๆ หรือสมาร์ทโฟนที่รองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอ รวมถึงการชาร์จเร็วและชาร์จไร้สาย 3.แบรนด์และดีไซน์ เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่จะเลือกซื้อโทรศัพท์ใหม่จะต้องมีแบรนด์และรุ่นในใจอยู่แล้ว เราควรดูจากแบรนด์ที่เรามีไว้ในใจก่อน แล้วค่อย ๆ ไปดูแบรนด์อื่นส่วนเรื่องของดีไซน์ก็เป็นส่วนหนึ่งในตัวเลือกเช่นกัน ดีไซน์สวยแล้วจับไม่ถนัดมือก็ถือว่าเป็นตัวตัดสินใจในการเลือกซื้อ และอย่าลืมถามเรื่องบริการหลังการขาย, การรับประกัน, ศูนย์บริการต่าง ๆ เพราะสำคัญมากหลังจากที่ใช้งานไปแล้วเกิดมีปัญหากับตัวเครื่อง จะได้อุ่นใจในเรื่องการเคลมประกันหรือส่งซ่อม 4.งบประมาณ เรื่องงบประมาณกันเลย ด้วยหน้าตาสมาร์ทโฟนสมัยนี้ที่หน้าตาคล้าย ๆ กัน ซีรีส์เดียวกันอาจมีหลายรุ่น หลายราคา ตั้งแต่รุ่นแพงลงไปถึงรุ่นถูกสุด สเปกราคาในรุ่นระดับกลางอาจจะใกล้เคียงกับรุ่นแพง ๆ ก็เป็นได้ ดังนั้นก่อนจะซื้อพิจารณาและตั้งงบเผื่อไว้สักหน่อย อาจจะทำให้มีตัวเลือกที่มากขึ้นรวมถึงสามารถเลือกข้ามไปยังซีรีส์อื่น ๆ ได้มากกกว่าในราคาที่ไม่ต่างกันมากอีกด้วย 5.โปรโมชั่น ได้รุ่นที่ถูกใจ โปรโมชั่นของแต่ละแบรนด์ แต่ละร้านค้านั้นก็ไม่ควรพลาด จะลด แลก แจก แถม ใช้สิทธิ์บัตรเครดิตต่าง ๆ ก็ต้องเลือกให้คุ้มที่สุด รวมถึงบริการหลังการขายก็น่าสนใจไม่น้อย เราเชื่อว่าบทความนี้น่าจะเป็นตัวช่วยให้ผู้ที่กำลังไปซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ได้มีแนวทางการเรียงลำดับขั้นตอนการเลือกว่าควรพิจารณาเลือกซื้ออย่างไรบ้างเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และได้โทรศัพท์เครื่องใหม่ที่ตรงใจที่สุดกลับบ้านค่ะ
  5. เชื่อว่าตอนนี้อาจมีหลาย ๆ ท่านที่กำลังสงสัย และมีคำถามเรื่องการส่องกล้องกระเพาะอาหาร คืออะไร? และการรักษาด้วยวิธีนี้มีผลดีและมีขั้นตอนอย่างไร ทำไมจึงเป็นที่นิยมมากในขณะนี้ วันนี้ทางเราได้ค้นหาข้อมูลนี้มานำเสนอเพื่อช่วยให้ทุกท่านได้คลายความสงสัย คลายความกังวลใจ ว่าแล้วก็ตามเรามาดูกันเลยค่ะ การส่องกล้องกระเพาะอาหาร คือการใช้กล้องเอนโดสโคป (Endoscope) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ลักษณะเป็นท่อยืดหยุ่นได้ มีแสงไฟและเลนส์กล้องที่บริเวณส่วนปลาย ใส่เข้าไปทางปากของคนไข้เพื่อตรวจดูอาการหรือรักษาภาวะผิดปกติที่เกิดขึ้นภายในหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น นอกจากนั้นการส่องกล้องกระเพาะอาหารสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในกรณีต่อไปนี้ได้อีกด้วย ตรวจดูอาการ ใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการบ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร หลอดอาหาร หรือลำไส้เล็กส่วนบน เช่น อาการปวดท้อง ,คลื่นไส้และอาเจียนเป็นประจำ,อาหารไม่ย่อย แสบร้อนกลางอกเรื้อรัง ,กลืนอาหารลำบากหรือกลืนแล้วรู้สึกเจ็บ มีเลือดออกอย่างรุนแรง มักทำให้เกิดอาการเจ็บแปลบในท้อง อาเจียนเป็นเลือด หรืออุจจาระเป็นเลือด อุจจาระดำเหมือนยางมะตอย และมีภาวะโลหิตจางที่อาจมีสาเหตุมาจากเลือดออกภายในไม่หยุด ยืนยันการวินิจฉัยโรค แพทย์สามารถยืนยันอาการของผู้ป่วยหลังจากการวินิจฉัยเบื้องต้นให้แน่ใจหรือแยกโรคที่มีอาการคล้ายกันออกไปด้วยการส่องกล้อง เช่น โรคกระเพาะอาหารหรือแผลในกระเพาะอาหาร โรค Coeliac Disease ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการแพ้กลูเตนและมีภาวะลำไส้อักเสบร่วมด้วย โรคกรดไหลย้อน หลอดอาหารอักเสบเรื้อรัง มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร ภาวะความดันโลหิตเส้นเลือดดำพอร์ทัลสูง (Portal Hypertension) และยังใช้ในการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจได้อีกด้วย รักษาโรคบางชนิด ไม่เพียงแต่การวินิจฉัยหรือตรวจดูอาการ การส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารยังนำมาใช้เป็นอุปกรณ์ในการรักษาความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับกระเพาะอาหาร หลอดอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้นได้เช่นกัน ขั้นตอนการส่องกล้องกระเพาะอาหาร แพทย์จะอธิบายถึงขั้นตอนต่าง ๆ อย่างละเอียด รวมถึงภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ระหว่างนี้หากผู้ป่วยมีข้อสงสัยใด ๆ ก็สามารถซักถามได้ ก่อนรับการส่องกล้องผู้ที่สวมใส่แว่นตา คอนแทคเลนส์ หรือฟันปลอมจะต้องถอดออกทั้งหมด และไม่จำเป็นต้องถอดเสื้อผ้า แต่อาจให้สวมชุดคนไข้ทับเสื้อผ้าของตัวผู้ป่วยเองอีกที จากนั้นแพทย์จึงเริ่มด้วยการฉีดสเปรย์ยาชาเฉพาะส่วนที่คอเพื่อให้เกิดความรู้สึกชา หรืออาจใช้ยาระงับความรู้สึกแบบฉีดแทน ซึ่งจะพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนเด็กที่ยังเล็กอาจต้องใช้ยาสลบ โดยยาระงับความรู้สึกที่ได้รับจะส่งผลให้มีอาการง่วงซึมและรู้สึกผ่อนคลายลงขณะทำการส่องกล้อง หลังฉีดสเปรย์ยาชาเฉพาะแห่งหรือให้ยาระงับความรู้สึก แพทย์อาจใช้ฟันยางเพื่อเปิดปากและป้องกันไม่ให้ฟันผู้ป่วยกัดสายท่อ ต่อจากนั้นจึงให้ผู้ป่วยพลิกตัวนอนตะแคงซ้าย แล้วใส่กล้องเอนโดสโคปเข้าไปในลำคอพร้อมทั้งบอกให้พยายามกลืนกล้องให้ลงไปยังหลอดอาหาร ทั้งนี้ในช่วงแรก ๆ อาจรู้สึกไม่ค่อยดีบ้าง มีอาการคลื่นไส้หรืออยากอาเจียน แต่ก็จะค่อย ๆ ทุเลาลงเมื่อท่อส่องกล้องเคลื่อนลงไปแล้ว โดยกระบวนการส่องกล้องนี้จะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที สำหรับผลการตรวจนั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการส่องกล้อง เช่น การตรวจดูกระเพาะอาหารอาจทราบผลได้ทันทีหลังการตรวจ แต่หากเป็นการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการอาจต้องรอผลตรวจเป็นเวลา 2-3 วัน การส่องกล้องกระเพาะอาหารนับเป็นกระบวนการที่มีความปลอดภัยสูง ภาวะแทรกซ้อนที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่มักพบได้น้อย อาจมีโอกาสเกิดลำไส้ทะลุ หรือภาวะเลือดออกได้ในรายที่มีการทำหัตถการร่วมด้วย เช่น การตัดติ่งเนื้อ แต่โอกาสเกิดขึ้นต่ำมาก อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยมีอาการปวดท้องรุนแรง ถ่ายเป็นเลือด หรือมีไข้ขึ้นสูงหลังการส่องกล้องควรกลับมาพบแพทย์ทันทีค่ะ
  6. การมีบ้านคือความฝันของใครหลาย ๆ คน ซึ่งบางคนต้องใช้เวลาเก็บหอมรอมริบเงินมาเป็นระยะเวลายาวนานเพื่อที่จะได้มีบ้านเป็นของตนเอง ดังนั้นทำให้ต้องให้ความใส่ใจในการคัดสรรด้วยเหตุผลและปัจจัยที่ทำให้คุณได้บ้านที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด หลายคนยังไม่ทราบว่าจะต้องเริ่มจากจุดไหน จะซื้อบ้านได้ราคาประมาณเท่าไหร่ และควรจะเตรียมตัวอย่างไร แต่สำหรับใครที่ไม่รู้ว่า ควรจะประเมินการซื้อบ้านจากปัจจัยใด แนะนำให้ลองหยิบไอเดียทั้งหมดในบทความนี้นำไปประยุกต์ใช้ดูก็ได้นะคะ ว่าแต่จะต้องมีข้อมูลใดบ้างที่ควรเตรียมไว้แต่เนิ่น ๆ เรามาดูกันเลย 1.เลือกซื้อบ้านจากงบประมาณ เรื่องงบประมาณถือเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้น ๆ ที่คนเราใช้เพื่อตัดสินใจเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นการเตรียมความพร้อมในเรื่องงบประมาณและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จะช่วยทำให้คุณสามารถคำนวณเงินที่จะสามารถใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้อย่างเหมาะสมและไม่เกินตัวจนเกินไป ด้วยวิธีการง่าย ๆ ดังนี้ วิธีที่ 1 : ประเมินตนเองเรื่องค่าใช้จ่ายต่อเดือน ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันช่วงก่อนซื้อบ้านหรือเป็นค่าใช้จ่ายที่ควรรู้ทั้งหมด เช่น ค่าผ่อนชำระ ค่าธรรมเนียม ค่าส่วนกลาง ฯลฯ โดยจะต้องประมาณการออกมาเป็นตัวเลขว่า ในแต่ละเดือนคุณจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะถ้าหากขาดเหลือมากจนเกินไป อาจจะต้องเก็บเงินเพิ่มขึ้น หรือลดราคาบ้านที่จะซื้อให้ถูกลง วิธีที่ 2 : ประเมินตนเองเรื่องรายได้ นับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารใช้ในการพิจารณาความสามารถด้านการกู้สินเชื่อ ถ้าหากคุณประมาณรายได้ของตนเองมาอย่างรอบคอบว่าจะสามารถกู้ซื้อ ได้ช่วงราคาที่เท่าไหร่ก็จะทำให้การกู้ซื้อผ่านกับทางธนาคารผ่านได้ง่ายขึ้น โดยสัดส่วนที่เหมาะสมของภาระหนี้ทั้งหมด รวมถึงภาระหนี้สำหรับการกู้บ้านจะต้องไม่เกิน 30% – 40% ของรายได้ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการซื้อในราคา 2 ล้านบาท คุณก็จะต้องผ่อนชำระเดือนละประมาณ 14,000 บาท แต่ถ้าหากคุณมีเงินเดือนอยู่ที่ 20,000 บาทการกู้ซื้อในราคา 2 ล้านบาทจะทำให้คุณมีภาระหนี้ในการผ่อนชำระเกินกว่า 40% ของจำนวนรายได้ จึงควรลดราคาบ้านที่ต้องการซื้อให้ต่ำกว่านี้ หรือหาวิธีการสร้างรายได้เพิ่มเติมและขยันเก็บเงินให้มากขึ้น เป็นต้น วิธีที่ 3: ประเมินแผนการเก็บเงิน หากคุณเลือกใช้วิธีการเก็บเงินเพื่อซื้อบ้านในฝัน คุณควรที่จะเริ่มประเมินแผนการออมเงินของคุณดูได้แล้วว่า เหมาะสมกับเป้าหมายที่เป็นสินทรัพย์ชิ้นใหญ่แบบนี้หรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น ในปัจจุบันคุณมีรายได้เดือนละ 30,000 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วคุณจะมีเงินเก็บอยู่ที่เดือนละ 10,000 บาท คุณตั้งเป้าหมายที่จะซื้อบ้านในราคา 5 ล้านบาท แต่คุณเลือกใช้วิธีการออมเงินด้วยการฝากประจำที่ให้ผลตอบแทนปีละ 2% นั่นเท่ากับว่า คุณจะต้องออมเงินเป็นเวลากว่า 40 ปีกว่าจะได้บ้านมาครอบครอง สรุปแล้วสิ่งที่ควรประเมินก่อนการซื้อบ้านคือ ความต้องการที่จะช่วยกำหนดปัจจัยต่าง ๆ ในการเลือกซื้อของคุณเอง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีความรอบคอบในการตัดสินใจ และมีเหตุผลที่สนับสนุนให้คุณตัดสินใจได้แม่นยำมากขึ้นเพื่อที่จะได้บ้านที่ตรงใจและสามารถจัดสรรค่าใช้จ่ายที่จะจ่ายค่าผ่อนชำระหลักหมื่น แต่ก็ยังมีสภาพคล่องทางการเงินที่สูงอยู่ได้นั่นเองค่ะ
  7. หม้อหุงข้าวไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันอย่างยิ่งสำหรับคนไทยอย่างเรา เนื่องจากวัฒนธรรมของคนไทยเรานั้นรับประทานข้าวสวยหรือข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก หม้อหุงข้าวไฟฟ้าเป็นวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีของมนุษย์ ที่ใช้ความร้อนจากไฟฟ้าทำให้ข้าวสุกโดยอัตโนมัติ และรักษาอุณภูมิของข้าวไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากหม้อหุงข้าวแล้วยังมี หม้อนึ่งไฟฟ้า, หม้อทอดไฟฟ้า, เครื่องปิ้งขนมปัง, กระทะไฟฟ้า และยังมีอุปกรณ์อื่น ๆ อีกมากมายที่นำความร้อนจากไฟฟ้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ ปัจจุบันมีการออกแบบหม้อหุงข้าวมาหลายหลายรูปทรงและหลายขนาด หลัก ๆ จะมีระบบไอน้ำที่ช่วยให้ข้าวสุกไวเป็นฝาติดกับหม้อ และแบบหูจับฝาแยกซึ่งทำความสะอาดได้ง่าย เป็นตัวเลือกให้คุณแม่บ้านหาซื้อเพื่อความสะดวกในการหุงข้าว โดยจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิดดังนี้ 1.หม้อหุงข้าวธรรมดา หรือแบบดั้งเดิม หม้อแบบธรรมดา และหม้อแบบดิจิทัลนั้นมีการใช้งานพื้นฐานที่เหมือนกัน เช่น ใส่ข้าว ตวงน้ำ กดปุ่มแล้วเริ่มทำการหุงข้าว แต่หม้อแบบดิจิทัล ตัวเครื่องก็จะมีฟังก์ชันการใช้งานที่มากกกว่าแค่หุงหรืออุ่นข้าวธรรมดา สามารถหุงข้าวได้หลายชนิดมากกว่า ปรุงอาหารอื่น ๆ เช่น โจ๊ก ได้ นอกจากนี้ตัวเครื่องหม้อหุงข้าวดิจิทัลยังมีหน้าจอเพื่อกำหนดระยะเวลาการหุง รวมถึงการกำหนดอุณหภูมิในการหุงเองได้ด้วย ใช้สำหรับหุงข้าว ตั้งแต่ตวงข้าวสาร ใส่น้ำและกดปุ่ม รอให้สุกพร้อมรับประทาน 2.หม้อหุงข้าวดิจิตอล กลับทำได้มากกว่าการหุงข้าวธรรมดา นั่นคือ เราสามารถปรับปุ่มอุ่นข้าวให้ร้อนตลอดวันได้หลังหุง หรือยังจะกำหนดระยะเวลาของการหุงข้าว และ นอกจากนี้ยังมีความพิเศษ คือ สามารถทำเค้ก หุงข้าวเหนียว หรือการทำโจ๊กได้อีกด้วยหม้อแบบดิจิทัลจะมีการติดตั้งเสียงสัญญาณเพื่อแจ้งให้ผู้ใช้รู้ว่าข้าวเสร็จแล้ว ต่างจากหม้อแบบธรรมดาที่จะต้องสังเกตเองว่าข้าวสุกพอทานหรือยัง หรืออย่างมากก็จะมีการเด้งเตือนเมื่อครบรอบการหุงซึ่งอาจจะยังไม่ได้ที่ รวมถึงการออกแบบหม้อแบบดิจิทัลส่วนใหญ่จะจะดูดี ดูทันสมัย ยืดหยุ่นกับเฟอร์นิเจอร์หลากหลายทำให้การตกแต่งครัวดูสวยงามโมเดิร์นด้วย ข้อดี ข้อด้อย ของหม้อหุงข้าวดิจิทัล ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือ หุงข้าวอร่อยกว่า หอมกว่า เลือกได้เลยว่าจะเป็นข้าวขาว ข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียว ข้าวต้ม หรือจะทำขนมเค้กก็ได้ สามารถตั้งเวลาหุงข้าวและปรับอุณหภูมิที่ต้องการได้ ดูมีความคุ้มค่าเพราะสามารถใช้งานได้หลายอย่างข้อเสียใช่ว่าจะไม่มี เพราะหม้อแบบดิจิทัลนั้นใช้เวลาหุงข้าวนานกว่า ประมาณ 45 นาทีสำหรับข้าวหอมมะลิ แต่ถ้าข้าวกล้องจะนานมากเพราะข้าวชนิดนี้มีความแข็งมากกว่าจึงต้องใช้เวลานาน และราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหม้อหุงข้าวอื่น ๆ สุดท้ายข้อควรคำนึงทั่วไปในการเลือกซื้อหม้อหุงข้าว ควรเลือกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ด้านความปลอดภัยควบคุมอยู่ดังนั้นตรวจฉลากให้ดี นอกจากนี้ควรเลือกซื้อที่มีการรับประกัน เมื่อมีปัญหาในการใช้งานต้องมีศูนย์ที่พร้อมให้การดูแลซ่อมแซม เลือกขนาดความจุของหม้อและกำลังไฟฟ้าให้เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งาน เพื่อเป็นการประหยัดไฟฟ้า ต้องมีสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายบอกปริมาณในส่วนหม้อด้านใน ขีดบอกระดับ หรือสัญลักษณ์อื่นที่แสดงความจุที่กำหนด ซึ่งมองเห็นได้ในขณะเติมน้ำ และสุดท้ายสำหรับหม้อแบบดิจิทัลควรมีสัญลักษณ์การใช้งานภาษาไทยกำกับและควรมีคู่มือการใช้งานภาษาไทยเพื่อกันความผิดพลาดและสมาชิกในครอบครัวทุกคนสามารถใช้งานได้ค่ะ
  8. ในปัจจุบันราคามือถือมีความยืดหยุนมาก หลายช่วงราคาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มีงบประมาณจำกัด ผู้ผลิตหลายรายจึงแข่งกันคิดค้นและผลิตโทรศัพท์มือถือ ราคาไม่สูงที่มีคุณภาพและสามารถรองรับการใช้งานของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพออกมามากมายหลายรุ่นค่ะ เป็นข้อดีที่ทำให้ราคา โทรศัพท์มือถือถูกลง และผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น หลายคนเกิดความลังเลเมื่อพูดถึงราคา โทรศัพท์มือถือ งบไม่เกิน 5,000 บาท คงจะคิดว่าฟังก์ชันหรือสเปกของเครื่องคงจะไม่มีคุณภาพหรือมีคำถามในใจว่าประสิทธิภาพจะดีไหม ดังนั้น วันนี้เราจึงจะมาแนะนำข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับ วิธีการเลือกซื้อโดยยึดหลักราคา โทรศัพท์มือถืองบไม่เกิน 5,000 บาท แบบละเอียดและเข้าใจง่าย มีวิธีการเลือกนั้นจะมีจุดไหนที่ควรพิจารณาบ้าง ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลยค่ะ เลือกจากสเปกของโทรศัพท์มือถือ - ตรวจสอบ CPU ที่เหมาะสมกับการใช้งาน CPU หรือหน่วยประมวลผลกลาง ที่ถือว่าเป็นมันสมองของโทรศัพท์มือถือ ซึ่งอาจจะเหมือนกัน หรือแตกต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อ หากใช้งานทั่วไป เช่น ถ่ายรูป เล่นโซเชียลมีเดีย ซึ่งไม่ได้เล่นเกมเป็นหลัก เราขอแนะนำมือถือที่ใช้ CPU จาก Mediatek (MTK) รหัส Helio หรือ MT และ Exynos ซึ่งถูกออกแบบมาให้ใช้งานทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลื่นไหล ประมวลผลได้รวดเร็ว ระบายความร้อนได้ดี แต่ก็สามารถใช้เล่นเกมได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่อาจจะประมวลผลการทำงานในระหว่างเล่นเกมได้ไม่ดีเท่า Snapdragon ค่ะ และสำหรับการเล่นเกม ขอแนะนำ CPU จาก Qualcomm อย่าง Snapdragon รหัส 4xx หรือ รหัส 6xx ขึ้นไป และ Kirin รหัส 7xx ขึ้นไป เพราะมาพร้อมกับการ์ดจอและการออกแบบมาให้รองรับการเล่นเกมได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกราฟิก และการระบายความร้อนในขณะที่เครื่องทำงานหนักจากการเล่นเกมค่ะ - ตรวจสอบขนาด RAM ให้เพียงพอต่อการใช้งาน หากต้องการใช้งานเบื้องต้น เราขอแนะนำโทรศัพท์มือถือที่มีขนาด RAM ที่ 2GB - 3GB ซึ่งจะทำให้ใช้งานได้ดีในระดับหนึ่งเลย ใช้เล่นเกม เราขอแนะนำให้มองหาโทรศัพท์มือถือที่มี RAM ขนาด 4GB ขึ้นไป เพราะขณะเล่นเกมจำเป็นต้องอาศัย RAM ในการรับมูลต่าง ๆ - ตรวจสอบความจุ ROM เพราะมีผลต่อการจัดเก็บข้อมูล ROM คือพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลของโทรศัพท์ ซึ่งสำหรับการใช้งานทั่วไปที่มีความจุ ROM ที่ 16GB ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่ถ้าหากใช้งานหลายแอปพลิเคชัน ใช้เล่นเกม หรือเป็นคนที่ชื่นชอบในการถ่ายรูป เราขอแนะนำโทรศัพท์มือถือที่มี ROM ตั้งแต่ 32GB ขึ้นไป - ตรวจสอบความละเอียดของกล้องถ่ายรูป สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการถ่ายรูปและการถ่ายเซลฟี คุณภาพและความละเอียดของกล้องถ่ายรูปจึงเป็นสิ่งสำคัญ เราขอแนะนำให้เลือกที่มีกล้องหน้าที่มีความละเอียดไม่ต่ำกว่า 5 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลังควรมีความละเอียดไม่ต่ำกว่า 12 ล้านพิกเซล และแนะนำว่าควรเป็นกล้องคู่หรือมากกว่า เพื่อการถ่ายรูปที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นค่ะ - ขนาดและความละเอียดหน้าจอหากคุณชอบดูหนัง ดูซีรีส์ และคลิปวิดีโอเป็นชีวิตจิตใจ ขนาดและความละเอียดของหน้าจอเป็นสิ่งสำคัญ คุณควรเลือกโทรศัพท์มือถือที่มีขนาดหน้าจอตั้งแต่ 6.2 นิ้ว ขึ้นไปและมีความละเอียดไม่ต่ำกว่า HD+ พร้อมกับจอ LCD ชนิด IPS ที่ให้สีฉูดฉาด จัดจ้าน สมจริง เหมาะกับการดูหนังและคลิปวิดีโอเป็นอย่างมากค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สำหรับวิธีดูสเปกมือถือ โดยยึดหลักราคา โทรศัพท์มือถือ ไม่เกินงบ 5,000 บาท พอจะใช้เป็นแนวทางการเลือกซื้อได้บ้างนะคะ ซึ่งแน่นอนว่าโทรศัพท์มือถือแต่ละแบรนด์ย่อมมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็อาจจะมาพร้อมกับจุดเด่นเรื่องการถ่ายภาพเอาใจคนชอบเซลฟี่ และบ้างก็อาจจะเน้นสเปกไปที่การประมวลผลภาพแบบหนัก ๆ สำหรับเกมเมอร์ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ดี ข้อมูลทั้งหมดที่แนะนำไว้จะช่วยให้คุณเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณได้มากที่สุดค่ะ
  9. หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา หรืออยากได้ที่อยู่อาศัยใหม่สำหรับครอบครัว เป็น ทาวน์เฮาส์ ทาวโฮม ทำเลติดถนนใหญ่ ทำเลดีเดินทางสะดวก อยู่ล่ะก็ เชิญตามมาทางนี้ได้เลย เพราะวันนี้ได้รวบรวมโครงการ ทาวน์เฮาส์ ทาวโฮม บางนา บางนาตราด แบริ่ง ปู่เจ้า เทพารักษ์ บางปู กิ่งแก้ว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม แถวบางนาพร้อมขาย บ้านใหม่ทุกทำเล ราคาที่ชอบทำเลที่ใช่มาฝากให้คุณได้ลองศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ มีหลายโครงการที่น่าสนใจ มาดูข้อมูลทางนี้พร้อมกันเลยค่ะ 1.Lalin Town Lio BLISS บางนา – ศรีวารีน้อย ทาวน์โฮม บางนา – ศรีวารีน้อย โครงการลลิลเป็นทาวน์โฮมแบบใหม่ล่าสุดครั้งแรกบนบางนา-ตราด มากับฟังก์ชั่น Modern Bauhaus ที่ดีไซน์ด้วยลายเส้นที่ลงตัว การออกแบบภายในที่สอดคล้องกับการใช้ชีวิตยุค New Normal lubhouse,CCTV,ระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม. ABAC บางนา,มหาวิทยาลัยหัวเฉียว สนามบินสุวรรณภูมิ ทาวน์โฮมโครงการใหม่ เปิดเฟสใหม่ ใกล้คลับเฮ้าส์ พร้อมวิวสวน 4 ห้องนอน 2 ที่จอดรถในร่ม ทำเลดีกว่า ใหญ่กว่า เริ่มต้น : 1.89 ล้าน* 2.เมททาวน์ ทาวน์โฮม บางนา ทาวน์โฮมหน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่มาพร้อมกับสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลางที่ร่มรื่น โครงการได้ออกแบบให้พื้นที่ส่วนกลาง มีที่จอดรถกว้างขวางสะดวก ให้ความรู้สึกเสมือนบ้านเดี่ยว พร้อมต้อนรับรอยยิ้มทุกครอบครัวในสังคมคุณภาพหน้ากว้างประมาณ 5.7 เมตร พื้นที่ใช้สอย 111 ตร.ม. 3 ห้องนอน 1 ส่วนรับประทานอาหาร2 ห้องน้ำ1 ห้องครัวไทย 1 ห้องรับแขกทางด่วนบางนา-บางปะกง ถนนวงแหวนรอบนอก ทาวน์โฮม 3 ห้องนอน ราคาพิเศษ จากปกติ 2,190,000 บาท พิเศษ 1,990,000 บาท 3.ทาวน์โฮม บางนา โครงการ Villaggio บางนา แลนด์ แอนด์ เฮาส์ พื้นที่โครงการ 152 ไร่ ประเภททาวน์โฮม มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 89 ตารางเมตร บนขนาดที่ดินตั้งแต่ 18 ตารางวา ขึ้นไป ราคา 2.3 - 8 ล้านบาท Unseen European Village มนต์เสน่ห์ของหมู่บ้านสไตล์ยุโรปกลางหุบเขา ที่จะทำให้ทุกวันของที่นี่สวยและน่าอยู่ที่สุดบนทำเลบางนาจุดเด่นโครงการ ดีไซน์ใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากเมืองกลางหุบเขาทางตอนเหนือของยุโรป ที่มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยพื้นที่ส่วนกลางกว่า 40% พร้อมอำนวยความสะดวกรองรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง 4.โกลเด้น ทาวน์ ทาวน์โฮม บางนา-สวนหลวง ทาวน์โฮม พร้อมอยู่ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พร้อมเพิ่มฟังก์ชันพิเศษ อาทิ ครั้งแรกกับห้องพระ ในทาวน์โฮม 2 ชั้น มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องต่าง ๆ ได้ตามต้องการ พิเศษกับ GOLDEN KITCHEN นวัตกรรมครัวไทยสไตล์อังกฤษ แปลงสวย ใกล้ถนนเมน อลังการสโมสร + โรงหนังส่วนตัวเดินทางสะดวก ติดถนนใหญ่ ใกล้เมกะ + สุวรรณภูมิ เริ่ม 2 ล้านกว่าบาท แหละนี่ก็จัดว่าเป็นทำเลที่ตั้งสำคัญ ทำให้สะดวกสบายต่อการเดินทาง ไม่ต้องเจอวิกฤติรถติดเหมือนเดิม เดินทางสะดวกสบายสุด ๆ หากคุณสนใจแนะนำให้ติดต่อเซลของโครงการเพื่อดูอัตราราคาบ้านว่าจะเพิ่มสูงในช่วงไหน เพื่อให้คุณได้ราคาบ้านที่ดีต่อใจมากที่สุด บ้านทาวน์โฮมจัดว่าเป็นบ้านในฝันของใครหลายคน เพราะมีพื้นที่ใช้สอยเยอะ และราคาจับต้องได้ การขอสินเชื่อบ้านก็ไม่ยากเหมือนในอดีต มีหลายสินเชื่อที่รองรับเหตุผลของความต้องการซื้อมาก ทำให้คุณมีบ้านทาวน์โฮมในฝันได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
  10. เข้าช่วงปีใหม่มาย่างเข้าเดือนที่ 2 ของปี 2021 ก็ยังถือว่ายังอยู่ในช่วงเทศกาลปีใหม่อยู่ และเดือนกุมภาพันธ์นี้ก็มีเทศกาลตรุษจีนที่หลาย ๆ คนเตรียมเฉลิมฉลองเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต หลาย ๆ คนอยากหาซื้อมือถือรุ่นใหม่ เอาไว้ใช้เองหรือฝากคนที่เรารัก ซึ่งวันนี้เราพามาดูเทรนมือถือสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ที่พึ่งออกมาช่วง 1-3 เดือน ในราคาประหยัดสุดคุ้มเอามาฝากเพื่อน ๆ ด้วย งั้นเพื่อน ๆ อย่ารอช้าตามมาดูพร้อม ๆ กันทางนี้ได้เลยค่ะ 1.มือถือรุ่นใหม่ Galaxy A21s เปิดตัวครั้งแรก 18 พฤศจิกายน 2020 ราคาเปิดตัว 5,299 บาท ด้วยกล้อง 4 เลนส์ประสิทธิภาพสูงของ Galaxy A21s กล้องหลักความละเอียด 48MP ให้ภาพที่คมชัดทั้งในที่สว่าง และที่แสงน้อย กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 8MP มุมมอง 123 องศา สำหรับเก็บภาพในมุมมองกว้างเสมือนกับที่ตาเห็น กล้อง Macro ความละเอียด 2MP ถ่ายภาพโฟกัสชัดแม้ถ่ายระยะใกล้สุด 4 ซม. และกล้อง Depth ความละเอียด 2MP ถ่ายหน้าชัดหลังละลาย ทำให้วัตถุในภาพดูโดดเด่นยิ่งขึ้นดึงดูดทุกสายตา ดีไซน์เรียบหรู พร้อมลวดลายโดดเด่นแบบโฮโลแกรม และตัวเครื่องที่มีความโค้งมน ทำให้จับถนัดมือ ใช้งานง่าย มีให้เลือกหลากหลายสี ได้แก่ ฟ้า ดำ และขาว พร้อมให้คุณแมทช์เข้ากับสไตล์ของคุณ 2.มือถือรุ่นใหม่ OPPO A15 - ออปโป้เปิดตัวครั้งแรก 1 ธันวาคม 2020 ราคาเปิดตัว 4,299 บาท สมาร์ทโฟน (โทรศัพท์มือถือพร้อมระบบปฏิบัติการ) จอแสดงผล IPS-LCD 24-bit (16 ล้านสี) หน้าจอหยดน้ำ (Waterdrop Display) กว้าง 6.52 นิ้ว (แนวทะแยง) ความละเอียด 720 x 1600 พิกเซล (269 ppi)วัสดุรอบตัวเครื่องหน้าจอกระจกแข็งกรอบพลาสติ ระบบเซ็นเซอร์ )ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ ระบบจดจำใบหน้า ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ ตรวจจับแสงปรับความสว่างอัตโนมัติ ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา กล้องดิจิตอล 13 MP + 2MP (Macro) + 2MP (Depth) (Triple Camera) รูรับแสงขนาด ƒ/2.2 ปรับมุมมองการแสดงผลอัตโนมัติ มีสีให้เลือกสีดำ สีขาว 3.มือถือรุ่นใหม่ Vivo V20 SE – วีโว่ เปิดตัวครั้งแรก 9 พฤศจิกายน 2020 ราคาเปิดตัว 8,699 บาท จอแสดงผล AMOLED 24-bit (16 ล้านสี)หน้าจอหยดน้ำ (Waterdrop Display) กว้าง 6.44 นิ้ว (แนวทแยง ) ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล (409 ppiวัสดุรอบตัวเครื่อง หน้าจอกระจกแข็ง กล้องดิจิตอล 48MP + 8MP (Ultrawide) + 2MP (Depth) (Triple Camera) รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 ไฟแฟลช Dual-LED dual-tone flash ซูมดิจิตอล 10 เท่า (10x Digital Zoom) ซูมออฟติคอล 2 เท่า (2x Optical Zoom)ขนาดภาพสูงสุด 8000 x 6000 พิกเซล (Image Size) โฟกัสอัตโนมัติ (Auto Focus)ค้นหาใบหน้าอัตโนมัติ (Face Detection)เทคโนโลยีถ่ายภาพอัจฉริยะ (AI Camera)มีสีให้เลือก (Colors) : Black, Bluelight เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ 3 รุ่น 3 แบรนด์ ราคาสุดคุ้ม ที่ออกมาใหม่ช่วง 1-3 เดือนนี้ ราคาหลักพันคุณภาพหลักหมื่น ที่คุ้มค่าน่าซื้อมากที่สุดตอนนี้ จะเห็นได้ว่าโทรศัพท์มือถือแต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติตัวเครื่องที่ใกล้เคียงกัน แต่จุดเด่นหลัก ๆ ก็จะแตกต่างออกไปตามการใช้งาน โดยมือถือทุกรุ่นข้างต้นนี้สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ในทุก ๆ ด้านอย่างแน่นอน ซึ่งเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังมองหาโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ราคากลาง ๆ คุณสมบัติตัวเครื่องครอบคลุมทุกการใช้งานก็สามารถเก็บเอาไว้พิจารณาเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเลือกซื้อไปใช้ได้นะคะ
  11. แน่นอนว่า การทำความสะอาดบ้าน ยิ่งทำบ่อย ๆ ก็ยิ่งดี แต่จะให้เดินกวาดถูทั่วทั้งบ้านในทุก ๆ วันก็คงจะไม่ไหวแน่ใช่มั้ยล่ะคะ และสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการทำความสะอาดบ้าน การมองหาเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้งานง่าย ดูดฝุ่นได้คล่อง ซื้อติดบ้านเอาไว้คงแบ่งเบางานต่าง ๆ ได้เยอะเลยค่ะ หรือถ้าอยากได้เครื่องดูดฝุ่นที่ช่วยให้บ้านสะอาดได้ทุกซอกทุกมุม แนะนำให้เลือกเป็นเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก เพราะจะได้ทำความสะอาดในซอกมุมต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึง ซึ่งวันนี้เราก็มีหลายรุ่นที่อยากจะเอามาแนะนำให้ทุก ๆ คนได้รู้จักกันด้วยว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้นเรามาดูกันเลย 1.เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก Samsung POWERstickVS60K6050KW POWERstick พร้อมหัวแปรง EZClean ขจัดเส้นผมที่ติดพัน, 30 วัตต์ VS60K6050KW/STด้วยพลังดูด 30 วัตต์ ทำความสะอาดสารพัดสิ่งสกปรกได้อย่างทั่วถึง 2-in-1 ถอดเป็นดูดฝุ่นแบบพกพาทำความสะอาดรถหรือพื้นที่ขนาดเล็ก พลังการดูดสูงกว่าเครื่องดูดฝุ่นทั่วไปถึง 3 เท่า* จึงสามารถเก็บกวาดฝุ่นละออง สิ่งสกปรก และเส้นผมได้อย่างหมดจด เทคโนโลยี EZClean ช่วยให้คุณขจัดฝุ่นผงและสิ่งสกปรกที่อยู่ในถังเก็บฝุ่น ถูกหลักสุขอนามัย ในการเทขยะออกจากถังเก็บฝุ่น คุณเพียงแค่ดึงแกนจับ และหัวแปรงดูด จะหลุดออกจากถังเก็บฝุ่น แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 21.6 V แบบถอดออกได้ใช้งานที่ยาวนานถึง 30 นาทีโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมด มีดีไซน์เพรียวบางและน้ำหนักเบา เพียง 2.7 กิโลกรัมสามารถจัดเก็บไว้ในที่เล็กและแคบราคา 7,590.00 บาท 2.เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก PowerPro Compact FC9350เทคโนโลยี PowerCyclone 5จากฟิลิปส์ มีแผ่นกรองแบบ EPA 10 ช่วยเสริมการดัดจับฝุ่นผงและมีคุณสมบัติป้องกันการอุดตันของเศษขยะจึงใช้กรองสิ่งสกปรกได้นานยิ่งขึ้น มาพร้อมแปรงชนิดขนและแปรงดูดที่ทำความสะอาดได้หลากหลายพื้นผิว แถมแปรงดูดยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ง่าย โดยไม่ต้องกลัวหัวดูดหลุดระหว่างใช้งาน เพราะมีระบบ Active Lock แน่นหนาป้องกันอยู่ ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัด แต่ด้วยพลังแรงดูดแบบไซโคลน อาจทำให้เกิดเสียงดังได้ ดังนั้น ลองปรับระดับให้พอดีกับของที่ต้องการกำจัด ราคา 3,290 บาท 3.BGN21800 เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็ก ใช้งานง่ายจาก นวัตกรรมใหม่อย่าง HiSpin Motor และ Aerodynamic Blade ที่สามารถปรับระดับความแรงได้ และดูดฝุ่นด้วยแรงดูดเพิ่มขึ้นกว่า 60% ไปพร้อม ๆ กับการเพิ่มการไหลเวียนของอากาศ ซึ่งช่วยเพิ่มการดักจับฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังช่วยประหยัดพลังงานไปในตัวด้วย และเสริมด้วยแผ่นกรองแบบ Micro Filter ช่วยกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ดีและสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ หัวดูดปรับได้หลายรูปแบบตามความเหมาะสมของพื้นผิว ส่วนท่อดูด ยืดหดได้ ที่สำคัญผู้ใช้ยังเลือกเก็บฝุ่นได้ตามใจด้วยระบบ DualFiltration ที่จะเลือกเก็บในถุงเพื่อลดการสัมผัส หรือจะเก็บในกล่องจุขนาดใหญ่ก็ได้ โดยจะมีสัญญาณเตือนเมื่อถุงเก็บฝุ่นเต็มอีกด้วยราคา 4,490 บาท 4.Tefal เครื่องดูดฝุ่นไร้สายอเนกประสงค์ HANDSTICK CORDLESS X-pert360 รุ่น TY7233WO แบตเตอรรี่ลิเที่ยม กำลังไฟ 22 โวลต์ คุณภาพสูง ใช้งานได้ยาวนานเครื่องดูดฝุ่นไร้สายอเนกประสงค์ ทำความสะอาดง่ายไม่มีสายเกะกะใช้งานทำความสะอาดบ้านได้ต่อเนื่องสูงสุด 45 นาที*ตอบโจทย์การใช้งานได้หลายพื้นผิว ตั้งแต่พื้นจนถึงเพดานด้วยเครื่องเดียวหัวแปรงมีมอเตอร์ช่วยทำให้ดูดฝุ่นได้หมดจดทุกพื้นผิว ทำให้ดูดฝุ่นภายในบ้านได้อย่างรวดเร็ว หัวแปรงมีไฟ LED ช่วยให้มองเห็นในที่แคบและมืด ราคา 7,990.00บาท ผ่านไปสำหรับเครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กสำหรับใช้ทำความสะอาดบ้านที่เราได้แนะนำมา หวังว่าจะเป็นที่ถูกใจสำหรับทุก ๆ คนนะคะ เพราะหากใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีขนาดใหญ่อาจใช้งานได้ไม่คล่องตัว เคลื่อนย้ายยาก ทั้งยังเปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บ จึงควรเลือกเป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย แบบด้ามจับ จะช่วยให้ดูดฝุ่นได้คล่องตัวกว่า แถมยังซอกซอนตามซอกมุมได้ดีกว่าอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อยากได้เครื่องดูดฝุ่นแบบไหน ก็เน้นเลือกตามสไตล์การทำความสะอาดของเราได้เลย และถ้าใครตัดสินใจได้แล้ว ก็ออกไปช้อปเครื่องดูดฝุ่นแบบที่คุณต้องการได้เลยค่ะ
  12. ตู้เย็นเป็นหัวใจสำคัญของห้องครัว มันมีความสำคัญที่สุดในการเก็บอาหารสดทุกชนิดให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์โดยทำให้เย็นหรือแช่แข็งอาหารให้สดใหม่อยู่เสมอ คำถามสุดฮิต เลือกตู้เย็นประหยัดไฟ เลือกแบบไหนดี มียี่ห้อไหนน่าสนใจบ้าง วันนี้เราจะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้มีตัวเลือกที่มากขึ้นและช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าตู้เย็นไหนแบบไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด หากพร้อมแล้วเรามาดูกันเลย 1.ตู้เย็น SAMSUNG 2 ประตู RT35K5534S8/ST พร้อมด้วย Twin Cooling, 365 L Twin Cooling System : ระบบทำความเย็นแยกอิสระ 5 Smart Conversion Mode ระบบสลับความเย็น LED Lighting ช่วยประหยัดพลังงานเป็นตู้เย็นประหยัดไฟ สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาสำหรับการเก็บของสดไว้ในตู้เย็น ด้วยระดับความชื้น 70% เมื่อเทียบกับตู้เย็นแบบที่มีช่องแช่แข็งอยู่ด้านบนทั่วไปที่มีระดับความชื้นเพียงแค่ 30% ทำให้สามารถเก็บของสดได้นานกว่าโดยไม่แห้งเสียแต่อย่างใดปลงช่องแช่แข็งให้กลายเป็นช่องแช่เย็นได้ง่าย ๆ เพื่อเอาไว้เก็บอาหารสดตามฤดูกาลหรือเนื่องในโอกาสพิเศษต่าง ๆ หรือใช้โหมดปิดช่องแช่แข็ง* เพื่อประหยัดพลังงานราคา15,990.00 2.SAMSUNG ตู้เย็น 2 ประตู (9.1 คิว, สี Pebble blue) รุ่น RT25FGRADUT/ST ตู้เย็น 2 ประตู อินเวอร์เตอร์คอมเพรสเซอร์แบบดิจิตอลปรับความเร็วได้ 7 ระดับ ตอบสนองความต้องการด้านการทำความเย็นที่แตกต่างกัน ซึ่งต่างจากคอมเพรสเซอร์แบบเดิมที่ทำงานสลับหยุดพักตลอดเวลา จึงทำงานได้อย่างราบรื่น ลดการสึกหรอ เพิ่มความทนทาน และลดเสียงรบกวน และเป็นตู้เย็นประหยัดไฟมากคุณจะสบายใจกับค่าไฟฟ้าที่ลดลงและการรับประกันนาน 10 ปี ราคา 7,998 บาท 3.Hitachi ตู้เย็น 2 ประตู ขนาด 520 ลิตร รุ่น R-V510PD Hitachi ตู้เย็น 2 ประตู (18.4 คิว, สีเงิน BSL) รุ่น R-V510PD ไม่เพียงแต่สร้างพลังความเย็นเพื่อรักษาระดับความเย็นในตู้ได้อย่างลงตัวเป็นตู้เย็นประหยัดไฟ เพราะสามารถควบคุมและรักษาระดับความเย็นในระดับต่ำได้ดีอีกด้วย จึงทำให้ ไม่เปลืองไฟราคาประมาณ19,890 บาท 4.LG ตู้เย็น 2 ประตู รุ่น GN-B422SQCL ตู้เย็นประหยัดไฟ LG มีระบบการความเย็นแบบใช้คอมเพรสเซอร์แบบ Smart Inverter ทำให้มันทำความเย็นได้ดีเยี่ยมมาก ๆ มีขนาดใหญ่มากสามารถใช้งานได้ทั้งครอบครัวช่องใส่ผักและช่องแช่แข็งก็มีขนาดใหญ่ทำให้คุณสามารถเลือกใส่ของหรือแช่ไอติมได้ ชั้นวางภายในตู้เย็นนั้นสามารถปรับระดับได้ตามใจชอบ ตัวเครื่องมีระบบกำจัดกลิ่นแบบ FRESH+TM สามารถกำจัดกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบการรักษาความชุ่มชื่นภายในทำให้อาหารสดใหม่อยู่ตลอดเวลาราคา 10,990 บาท เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับตู้เย็นประหยัดไฟแบบ 2 ประตู ที่เราได้นำเสนอมา ส่วนคุณจะเลือกตู้เย็นแบบใด หรือยี่ห้อไหนขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของแต่ละครอบครัว ว่าต้องการใช้งานแบบใด ตู้เล็ก ตู้ใหญ่ อย่างไรก็ตามควรเลือกตู้เย็นที่ได้มาตรฐาน มอก. และประหยัดพลังงานจะได้ช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้าภายในบ้านได้ นอกจากนี้ก็ยังมีตู้เย็นที่สามารถใช้งานได้ดีอีกมากมาย แต่ที่เราแนะนำมานี้ล้วนเป็นยี้ห้อชั้นนำ ที่ได้มาตรฐานมีการรับประกันสินค้าในกรณีที่เกิดความเสียหายระหว่างขนส่งหรือการใช้งาน คุณควรเลือกตู้เย็นที่มีการรับประกันตัวเครื่องรวมถึงการรับประกันคอมเพรสเซอร์เพื่อให้คุณสามารถเคลมสินค้าได้หากมีปัญหาหรือเกิดความเสียหายใด ๆ โดยที่ไม่คาดฝันได้ค่ะ
  13. เปิดตัวมือถือออกใหม่อัพเดทล่าสุดประจำเดือนพฤศจิกายน63 เดือนนี้มีมือถือออกใหม่หลายรุ่นเลยทีเดียว มีทั้งรุ่นที่เปิดตัวใหม่และรุ่นที่ยังคงได้รับความนิยมตั้งแต่เดือนก่อน ๆ สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหามือถือใหม่ หากกำลังตัดสินใจว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี ก็ลองพิจารณาดูจากทั้ง 4 รุ่นนี้ก่อนว่ามีคุณสมบัติถูกใจเพื่อน ๆ หรือเปล่าไปดูกัน 1.Samsung Galaxy M21s มือถือใหม่เปิดตัวครั้งแรก 9/ 10/2020 สมาร์ทโฟน หน้าจอทรงหยดน้ำ รูปตัว U กว้าง 6.4 นิ้ว (แนวทะแยง) ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล (403 ppi) หน้าจอกระจกแข็ง Corning Gorilla Glass 3ระบบเซ็นเซอร์ (Sensor) ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ ระบบจดจำใบหน้า ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ ตรวจจับแสงปรับความสว่างอัตโนมัติ) ตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง (Accelerometer)ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนาระบบเซนเซอร์หมุนภาพ ปรับมุมมองการแสดงผลอัตโนมัติ มีสีให้เลือก (Colors) : Black, Blue 2.มือถือใหม่ OPPO OPPO Reno4 Pro 5G ได้เปิดตัวครั้งแรก 6 ตุลาคม 2020 จอแสดงผล AMOLED 24-bit (16 ล้านสี) จอแสดงผล HDR 10 จอแสดงผลมีรูสำหรับกล้องหน้า อัตราการสัมผัสหน้าจอ 90 เฮิรตซ์ (Refresh Rate 90Hz)กว้าง 6.5 นิ้ว (แนวทะแยง) ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล (402 ppi) ระบบสัมผัส : 180Hz touch-sensingหน้าจอกระจกแข็ง ระบบเซ็นเซอร์ ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ระบบจดจำใบหน้า (Face Detection)ระบบเปิด/ปิดหน้าจออัตโนมัติขณะสนทนา ปรับมุมมองการแสดงผลอัตโนมัติ มีสีให้เลือก (Colors) : Black, Blue 3.Vivo X50 Pro 5G (วีโว X50 Pro 5G) มือถือใหม่เปิดตัววันที่ 8/9/2020 จอแสดงผลแบบ E3 AMOLED Dual Curved Punch-Hole Display ความละเอียด 2376x1080 พิกเซล: กว้าง 6.56 นิ้ว : 397 ppi) พร้อมค่า Refresh Rate ระดับสูงสุด 90Hz ประมวลผลการทำงานด้วยชิปเซ็ต Octa-Core Qualcomm Snapdragon 765G ความเร็วในการประมวลผล 2.4 GHz พร้อมระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย User Interface แบบ Funtouch OS 10.5หน่วยความจำภายในสำหรับเก็บบันทึกข้อมูลแบบ UFS 2.1 ขนาด 256 GB และ RAM แบบ LPDDR4x ขนาด 8 GBพร้อมรองรับการ์ดหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card (TransFlash) ได้สูงสุดขนาด 256 GBใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านระบบ WiFi, 5G, 4G LTE, 3G HSPA+, EDGE 5.1 กล้องดิจิทัลจำนวน 4 ตัว (Quad Camera) ระบบ Gimbal รุ่นแรกของโลก ความละเอียด 48+13+8+8 ล้านพิกเซล และกล้องดิจิทัลขนาดเล็กฝังบนหน้าจอ (In-Display Selfie) ความละเอียดระดับ 32 ล้านพิกเซล 4.Huawei nova 8 SE – หัวเหว่ย มือถือใหม่เปิดตัวครั้งแรก 9 พฤศจิกายน 2020 จอแสดงผล OLED 24-bit (16 ล้านสี) จอแสดงผล HDR 10 หน้าจอหยดน้ำ (Waterdrop Display) กว้าง 6.53 นิ้ว (แนวทะแยง) ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล (403 ppi) วัสดุรอบตัวเครื่อง หน้าจอกระจกแข็ง กรอบพลาสติก ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (Fingerprint Under Display) ตรวจจับความเคลื่อนไหวของตัวเครื่อง ปรับมุมมองการแสดงผลอัตโนมัติ (Orientation)สถานะ มีวางจำหน่ายในต่างประเทศวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 4 ปี 2020 (พฤศจิกายน 63) ราคาเปิดตัว - บาท (ยังไม่กำหนดราคา) มีสีให้เลือก (Colors) : Black, Blue, Silver ผ่านไปแล้วมือถือทั้ง4รุ่นที่ออกมาใหม่ในเดือนพฤศจิกายน 63 นี้ มีหลายราคาหลายระดับให้เลือกตามที่เพื่อน ๆต้องการ หวังว่าจะถูกตา ต้องใจถอยมาใช้ใหม่สักเครื่องนะคะ หากมีรุ่นใหม่ ๆ ออกมาอีกจะกลับมาอัพเดทให้เพื่อนทราบกันอีกนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ
  14. ช่วงนี้มีเพื่อน ๆ หลายคนกำลังมองหามือถือไว้ใช้งานเพิ่มสักเครื่อง อยากได้ที่คุณภาพดี ราคาย่อมเยา ตั้งงบประมาณไว้หลักพันต้น ๆ วันนี้เรามีข้อมูลราคาตามงบมาฝากให้เพื่อนได้ทราบรายละเอียดถึง 5 รุ่นด้วยกันตามมาดูพร้อมกันทางนี้เลยค่ะ 1.Galaxy A01 มือถือจอขนาดใหญ่ 5.3 นิ้ว มาพร้อมกับความละเอียดคมชัดระดับ HD+ จอใหญ่เห็นเต็มตา แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ แต่ยังคงไว้ซึ่งความบางที่ลงตัว หนาเพียงแค่ 8.6 มม. ดีไซน์ลวดลายทันสมัยโดดเด่นสะดุดตา มีให้เลือกหลายหลายสีสัน ดำ น้ำเงิน แดง ถ่ายภาพได้สวยงาม สว่าง คมชัด ด้วยกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซลและกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ราคา 2,699 บาท 2.Galaxy A01 มีให้เลือกทั้งสีดำ สีน้ำเงิน สีแมทอันล้ำสมัย ด้วยตัวเครื่องที่บางเพียง 8.3 มม. ทำให้คุณสามารถถือได้อย่างสะดวกสบายและยาวนานยิ่งขึ้น เก็บภาพได้อย่างสวยสดงดงามท่ามกลางแสงแดดหรือในสภาวะแสงน้อยได้ด้วยกล้องหลัง 13MP ของ Galaxy A01 นอกจากนี้มือถือ Galaxy A01 ยังให้คุณยังสามารถใช้ Live Focus เพื่อลองเบลอฉากหลังได้ทั้งก่อนและหลังจากกดถ่ายภาพด้วย Depth Camera ราคา 3,290 บาท 3.Haixu Haixu V17 จอ 6.1 นิ้ว โทรศัพท์มือถือ รุ่น Haixu V17 2SIM รองรับ 3G/4G ทุกเครือข่ายหน้าจอใหญ่ จอ 6.1 นิ้ว สดใส ด้วยระบบ QHD คมชัด (QHD IPS 1280 x 960) ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 RAM 2GB + ROM 16GB เพิ่มหน่วยความจำ สูงสุด 128GBกล้องหลังดิจิตอล 8 ล้านพิกเซลและ 16 ล้านพิกเซล Wi-Fi / E-mail, A-GPS, G-sensor, Bluetooth, FM แบตเตอรี่ 3400 mAh หน้าจอ Touch Screen LCD ขนาด 6.1 นิ้ว ระบบสัมผัสแม่นยำ ราคา1,469 บาท 4.Vivo Y50 มือถือหน้าจอ 6.53 นิ้ว Full HD+ รองรับการใช้งาน 4G และมาพร้อม 4 กล้องหลัง ความละเอียดสูงสุด 13 ล้านพิกเซล หน้าจอไร้ขอบ Android 10.0; Funtouch OS 10 กล้องหลัง13 MP + 8 MP + 2 MP + 2 MPกล้องหน้า16 MP จุดเด่นจุดเด่น Wi-Fi , Hotspot/Tethering , GPS , Bluetooth , Flash , Fingerprint Scanner , 3.5mm Headphone Jack , Quad Cameras ราคา 2,950 บาท 5.Nokia C2 มือถือที่มาพร้อมจอแสดงผล HD+ 5.7 นิ้ว ขับเคลื่อนโดยโปรเซสเซอร์ UNISOC แบบ Quad-core, Android 9 Pie OS, แบตเตอรี่แบบถอดได้ขนาด 2,800 mAh และติดตั้งกล้องด้านหลังและด้านหน้า 5 MP กล้องหลัง5 MP กล้องหน้า 5.MP จุดเด่น Wi-Fi , Hotspot/Tethering , GPS , Bluetooth , Flash , 3.5mm Headphone Jack ราคา 2,090 บาท ผ่านไปแล้วกับมือถือราคาหลักพันต้น ๆ จำนวน 5 รุ่นที่เรานำมาให้คุณเลือกใช้กัน โดยแม้ว่าสเปคอาจจะไม่ได้สูงมากแต่กับการใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นถือว่าตอบโจทย์ได้แน่นอน ส่วนใครจะโดนใจรุ่นไหนที่สุดก็พิจารณาจากความชอบในด้านดีไซน์ และการทำงานในระดับพื้นฐานได้อย่างน่าพอใจ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายอีกด้วย ให้คุณพิจารณาเลือกใช้กัน จะเป็นเครื่องจริง หรือเครื่องสำรอง หรือซื้อให้คนในครอบครัวใช้ก็ลงตัวแน่ค่ะ
  15. เดี๋ยวนี้การเลือกซื้อไมโครเวฟซักเครื่องนั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ยิ่งถ้าต้องการเช็คราคา ไมโครเวฟราคาถูกใจ และเหมาะกับการใช้งานของเรามากที่สุดด้วยแล้วยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ วันนี้เรามีรีวิวราคา ไมโครเวฟมาให้เลือก 4 รุ่นไมโครเวฟที่ราคาหลากหลายตั้งแต่หลักพัน จนถึงหลักหมื่นและคุณภาพเยี่ยมมารีวิวให้ได้ชมตามมาทางนี้ได้เลยค่ะ 1. เตาอบไมโครเวฟ อุ่นอาหาร Samsung MS23K3513AW, 23 ลิตร MS23K3513AW/ST โปรแกรมทำอาหารอัตโนมัติ กำจัดกลิ่นอาหารในไมโครเวฟ เทคโนโลยีเร่งการละลายน้ำแข็ง ทนทาน ทำความสะอาดง่าย ป้องกันรอยขีดข่วน พื้นผิวที่เรียบลื่นสามารถทำความสะอาดได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องออกแรงขัดถู สีคงทนเมื่อเวลาผ่านไป ทนต่อสนิมและรอยขีดข่วน จึงรองรับการใช้งานได้ยาวนานกว่า ราคา ไมโครเวฟ 2,789.00 บาท 2. ไมโครเวฟM TOSHIBA MWP-MM20P(WH) 20 ลิตร SKU: 1157730 ระบบการกระจายคลื่นเป็นระบบจานหมุน ปรับระดับความร้อนได้ 5 ระดับ ตามความต้องการ ประตูกระจกนิรภัย ทนทานต่อแรงกระแทก ปลอดภัย ทำความสะอาดได้ง่ายที่สามารถปรับความร้อนได้ถึง 5 ระดับ ระบบการกระจายคลื่นเป็นระบบจานหมุน ช่วยกระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึง ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี ประตูกระจกนิรภัย ทนทานต่อแรงกระแทก ง่ายต่อการทำความสะอาด เหมาะสำหรับคนยุคใหม่ ใช้งานสะดวก ดีไซน์ทันสมัย ให้คุณสร้างสรรค์เมนูได้หลากหลาย ราคา ไมโครเวฟ 1,590 บาท 3. ไมโครเวฟ LG รุ่น MH6883BAKรหัสสินค้า SKU-00544 อุ่น+ย่าง ขนาด 28 ลิตรฮีตเตอร์ย่างระบบควอร์ต (Quartz Heater) ให้ความร้อนสูงทำให้อาหารสุกเร็วขึ้น และด้วยการออกแบบตำแหน่งของฮีตเตอร์ในช่องอบแบบฝังผนัง ช่วยให้คุณปลอดภัยเมื่อคุณหยิบจับอาหารด้านในอีกด้วย ด้านหลังช่องอบถูกออกแบบให้เป็นร่องๆ ทำหน้าที่กระจายคลื่นไมโครเวฟ ให้เข้าสู่อาหารให้ทั่วถึง อาหารจึงสุก และร้อนได้สม่ำเสมอราคา ไมโครเวฟ 2,690.00 บาท 4. เตาอบไมโครเวฟ อบ อุ่น ย่าง ทอด Samsung MC32K7055CT Convection, 32 ลิตร HotBlast™ อบกรอบนอกนุ่มใน SLIM FRY™ ทอดอร่อยไร้น้ำมัน ย่างเหลืองกรอบเทคโนโลยี Hot Blast™ เป็นวิธีช่วยลดเวลาในการปรุงอาหารได้อย่างมาก โดยลมร้อนจะถูกเป่าผ่านช่องลมหลายช่องไปยังอาหารโดยตรง อาหารจึงสุกอย่างทั่วถึง กรอบนอกนุ่มใน แตกต่างจากเตาปิ้งย่างทั่วไป เพราะจะช่วยให้คุณปรุงอาหารให้สุกอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยปรับปรุงความครอบคลุมได้ถึง 99%* และด้วยการกระจายความร้อนที่สม่ำเสมอมากขึ้น คุณจะเพลิดเพลินกับอาหารที่ปิ้งย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบทุกครั้ง ทำอาหารได้มากขึ้นด้วยจานหมุนขนาดใหญ่ ขนาดภายในเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นจานหมุนจึงใหญ่ขึ้น ขนาด 345 มม. ช่วยให้คุณทำอาหารจานใหญ่ได้อย่างง่ายดาย พิเศษราคา ไมโครเวฟ 10,990.00 จากราคา14,990.00 ประหยัดถึง 4,000บาท เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับ รีวิวเช็คราคา ไมโครเวฟ 4 รุ่น ที่เรานำมาฝากกันหวังว่าจะถูกใจทุกคนนะคะ ซึ่งไมโครเวฟเองจัดว่ามีความจำเป็นกับแม่บ้านในยุคนี้มาก เพราะด้วยการใช้ชีวิตที่มีความเร่งรีบ หากสามารถประหยัดเวลาลงได้ก็จะช่วยให้คุณมีเวลาจัดการชีวิตประจำวันที่เพิ่มขึ้น การเลือกซื้อ เตาไมโครเวฟที่มีคุณภาพ ยี่ห้อที่ชอบและราคาที่ถูกใจ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ทำให้คุณประหยัดเวลาในการจัดเตรียมอาหาร เพราะสามารถอุ่นอาหาร และรับประทานได้ในทันที หากเลือกซื้อไว้ใช้งานย่อมสร้างความสะดวกให้คุณและครอบครัวได้แน่นอน. เมื่อเลือกไมโครเวฟที่ถูกใจได้แล้วก็ไปช้อปกันได้เลยค่ะ ยิ่งช่วงนี้มีโปรโมรชันดี ๆ ออกมาอีกเพียบเลยหละค่ะ
×
×
  • สร้างใหม่...