ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
jarurote

วิเคราะห์แมวๆ เพื่อการลงทุนกองทุนทองคำ

โพสต์แนะนำ

 

เพื่อนบอกว่าเขาย้ายมาเดือน มีนา นี่คะ คุณงูดิน

แต่กอง DV จากข้อมูลที่มี เห็นว่า under perform มาตั้งแต่เปิดปีใหม่มาจนถึงสิ้นเดือน กพ. เลยค่ะ

หลังจากปันผลเมื่อกลางเดือน มีค แล้วจนถึงปัจจุบันก็ under perform มากขึ้นนิดนึง (เทียบกับ SET INDEX)

 

แต่เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรก็ต้องรอดูค่ะ

 

นั่นแหละครับที่ทำให้ผมสงสัย เพราะถ้าเพื่อน ๆ จำได้ ค่า nav ของกองทุน spdr ที่สิงคโปร์ มีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติในช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งผมตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะมีการทุ่มซื้อท้ายตลาดสิงคโปร์เพื่อให้มีผลต่อค่า nav ของกองทุนทองคำในประเทศไทย ซึ่งถือราคาปิดตลาดสิงคโปร์เป็นเกณฑ์คำนวณ คนที่รู้เทคนิคนี้ก็ต้องเป็นคนที่ควบคุมดูแลกองทุนทองคำในประเทศไทย และกองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดของไทยคือ k-gold ของกสิกรไทย นั่นอาจจะเป็นการทำราคาทิ้งทวนฟันกำไรให้พอร์ตของตัวเองก่อนย้ายไปที่ scb ก็ได้ และถ้าข้อสงสัยเป็นจริง ผู้ต้องสงสัยนี้อาจจะเป็นเพียงหนึ่งในเครือข่ายขนาดใหญ่ อาจจะมีผู้จัดการกองทุนคนอื่นเกี่ยวข้องด้วยอีกได้ ถ้าเป็นจริง ก็

!_cd

 

 

 

เรื่องเงินทองนี้ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ :mad: เรื่องของจรรยาบรรณผจก.กองทุนนี้ มันก็คล้ายๆผู้ดำรงตำแหน่งส.ส. ในหมู่รัฐมนตรี

 

แรกๆมาก็ด้วยอุดมการณ์ หลังๆก็อุดมกิน

 

ระยะหลังนี้ในเวปกองทุนกสิกร K-GOLD ขึ้นตัวหนังสือเล็กทิ้งท้ายเกี่ยวกับ พอร์ทเงินฝาก และการหาผลประโยชน์อื่นๆโดยไม่ขัด กฎหมาย กลต.

 

อ่านข่าวจากก่อนหน้านั้น แล้วมาดูรายละเอียดที่ออกมาเสนอ

 

มันดูขัดๆและแปลกๆดีเหมือนกันเนอะ <_<

 

http://www.kasikornasset.com/th/pages/K-GOLD.aspx

 

 

 

สำหรับใครที่ยังมือใหม่ พึ่งจะเข้ามาลงทุนกองทุน ก็จงระวังพวกโจรหัวโขน ประจำกองทุนพวกนี้ไว้

 

http://www.thaigold.info/Board/index.php?app=blog&blogid=5&showentry=170&st=

 

 

ถ้ามันทำดี กูก็เชิดชู

 

ถ้ามันชั่ว กูก็ตะปบหัว ตบๆและฝั่งๆดิน และขุดๆขึ้นมา ก็ตบๆและฝังๆต่อ

 

e9dddedb1fcb3c4c4bc3cbfb99f7ae92.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไปค้นอะไรเจอมาเข้า

 

ใครที่เคยจำได้ว่ามีคนมาป่วนๆ สร้างความรำคาญคนๆนี้ได้บ้างที่เอา คลิปแขกขายกล้วยแขกมาพูดเพ้อเจอว่า ทองคำไม่มีค่า เงินกระดาษเช็ดตรูดมีค่า

 

http://www.thaigold.info/Board/index.php?app=core&module=search&do=user_activity&search_app=&mid=3331&sid=a313533a0ada2d66cc1a8231165bc4c1

 

อาชีพพวกนี้มัน เป็นพวกนักล่าเหยื่อนี่เอง :mad:

 

ส่วนตัวผมทำงานอยู่โบรกเกอร์หุ้นแห่งหนึง แต่ไม่ขอบอกว่าอยู่โบรกไหนแล้วกันน่ะครับ ผมดูกราฟอยู่ทุกวัน ตอนนี้กราฟดอลล่าลงมามากพอสมควรแล้ว ซึ่งมันจะตรงข้ามกับกราฟราคาทอง ซึ่งขึ้นมาสูงเกินไปมาก!!!!!!!!!แล้ว ดังนั้นถ้าทองมีรีบาวน์ขึ้นมา ความเห็นส่วนตัวผม ขาย!!!!!!! อย่างเดียวครับ

ปล. กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์คำพูดของผมครับ

 

 

ผมยังย้ำในสิ่งที่ผมพูดที่ผ่านมาครับ คือ "นี่แหล่ะครับ ความคิดเห็นต่างกัน การซื้อขายจึงเกิด ถ้าคนเราคิดเหมือนกัน การแมทชิ่งคงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่าครับ"

 

ปล. ผมใช้ประสบการณ์ที่ผมคลุกคลีในวงการหุ้น ทอง น้ำมัน มาพอสมควร และแค่มาบอกเล่าเพื่อนในบอร์ดแห่งนี้ครับ (((((ย้ำน่ะครับผมไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรด้วยเลย)))) และไม่เคยบังคับเพื่อนๆในที่นี้ให้เชื่อตามผมด้วยน่ะครับ คุณ thon อาจจะพูดแรงเกินไปรึปล่าวครับ

 

 

 

ผมได้อธิบายกับคำพูดที่ผมได้เขียนไว้ทั้งหมดแล้วว่าการลงทุนนั้นประกอบไปด้วยศาสตร์(พื้นฐาน+เทคนิค)และศิลป์(จิตวิทยา)ครับ ซึ่งคุณจะบอกว่าผมลอกเค้ามาหรือผมคิดเองนั้น ผมมองว่าแล้วแต่คุณจะคิดแล้วกัน แต่ที่ผมเค้ามาโพสในที่นี้ผมแค่อยากให้เพื่อนๆระวัง อย่าประมาท ส่วนตัวผมไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรเลย ผมได้เข้ามาเตือนด้วยความหวังดี และที่สำคัญที่เราต้องคำนึงถึงกันด้วยคือจิตวิทยาจะสำคัญมากในตลาดเก็งกำไรในสมัยนี้ เพราะทุกอย่างในโลกใบนี้ถูกจับเข้ามาปั่นทำราคากันหมดแล้วซึ่งถ้าไม่มีการเก็งกำไรกันในตลาดทองคำนั้นโดยส่วนตัวคิดว่าราคาทองน่าจะอยู่ไม่เกิน900-1000 ไม่ใช่ถูกปั่นราคามาจนถึง1500 แบบนี้ครับและผมเคยบอกว่าทองนั่นน่าลงทุนครับแต่ไม่ใช่ราคาตอนนี้ ตอนนี้มันสูงเกินไปแล้ว แล้วคอยดูกันต่อไปล่ะกันน่ะครับว่าจะเป็นไปตามที่ผมบอกไว้รึปล่าว คงไม่นานเกินรอครับ

ทั้งหมดนี้แล้วแต่พิจารณญาณของเพื่อนๆล่ะกันน่ะครับ อย่าเชื่อผม

 

เค้ายังดีเนอะ ยังเตือนตัวมันเองว่า มันไม่น่าเชื่อถือพอ แถมเป็นเบื๊อกเกอร์บ๊องส์ๆ ใครเจอคนห่วยๆแบบนี้ปิดพอร์ททิ้งๆไปเลย ขยะสังคม <_<

ถูกแก้ไข โดย Meaw_Joe

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วิธีดูประวัติการโพสของคุณ ton

 

ไปที่ Link: http://www.thaigold.info/Board/index.php?app=core&module=search&do=user_activity&search_app=&mid=3331&sid=a313533a0ada2d66cc1a8231165bc4c1

 

แล้วทำตามรูป ดังนี้:

 

postedbyton01.png

 

ผลลัพธ์ออกมาเป็นดังรูป

 

postedbyton02.png

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กองทุนอาจมีการลงทุนในประเทศ สำหรับการดำเนินการของกองทุน รอจังหวะการลงทุนในต่างประเทศ รักษาสภาพคล่องของกองทุน หรือสำหรับการอื่นใดอันมีลักษณะทำนองเดียวกันนี้ โดยจะลงทุนในหลักทรัพย์ที่เสนอขายในประเทศ ได้แก่

 

เงินฝาก ตราสารทางการเงิน และลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ก.ล.ต. ทั้งนี้กองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเกือบทั้งหมด โดยไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ

 

อย่างไรก็ตามกองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Notes)

 

 

 

A structured note is a hybrid security that attempts to change its profile by including additional modifying structures.

 

A simple example would be a five-year bond tied together with an option contract. This structure would work to increase the bond's returns.

 

Link: http://www.investopedia.com/terms/s/structurednote.asp

 

 

 

สงสัยจริงๆว่า <_< ทำไมพวกกองทุนต่างๆพวกนี้ต้องใช้คำว่า "สัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง" ทั้งๆที่มันก็คือ หุ้นกู้อนุพันธ์ หรือเป็นการจงใจใช้คำ ให้ลูกค้าคนทั่วไปมันงงๆ จนหาคำตอบไม่เจอกันแน่

 

 

 

 

 

เอกสารประกอบเกี่ยวกับ Structure Note หรือหุ้นกู้อนุพันธ์ หรือ หุ้นกู้+option

ถูกแก้ไข โดย Meaw_Joe

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ได้ความรู้ลึกๆเกี่ยวกับกองทุนดีมากเลยค่ะอาจารย์เหมียว :lol:

เม่าน้อยก็เล่นk-goldอยู่ด้วยขอบคุณมากค่ะที่มาบอกเล่าความผิดปกติจะได้ระวังกันบ้าง :D

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมี้ยวๆๆๆ !37

 

เอาเรื่องมาอ่านเล่นสักหน่อยมาฝาก

 

ข้อมูลที่ลำเอียง

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

Monday, 4 July 2011

 

 

เวลาที่รับข้อมูลเข้ามา สิ่งที่ Value Investor จะต้องพิจารณาก่อนที่จะนำไปใช้หรือนำไปวิเคราะห์ต่อก็คือ ข้อมูลนั้นน่าจะถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง ถ้าไม่ถูกต้อง มันน่าจะมากหรือน้อยเกินไป ดีเกินไปหรือแย่เกินไป วิธีที่จะดูนั้น หลักการสำคัญก็คือ ดูว่าคนให้ข้อมูล “รู้จริง” หรือมีข้อมูลจริงไหม นอกจากนั้น สิ่งที่สำคัญมากอีกข้อหนึ่งก็คือ คนที่ให้ข้อมูลมี “แรงจูงใจ” อะไรในการที่ให้ข้อมูลนั้น

 

เวลาที่มีนักเศรษฐศาสตร์มาบอกหรือพยากรณ์ภาวะเศรษฐกิจ ถ้าเขามาจากหน่วยงานที่มีนักเศรษฐศาสตร์ที่มักจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก และหน่วยงานนั้นไม่ได้อิงกับการเมืองในทางใดทางหนึ่ง ในกรณีแบบนี้ พวกเขาก็จะมีทั้งความรู้ ข้อมูล และไม่มีความ “ลำเอียง” ในการให้ความเห็นหรือพยากรณ์ ข้อมูลที่เราได้น่าจะเป็นข้อมูลที่เรานำไปใช้ได้อย่างสบายใจ อย่างไรก็ตาม พึงระลึกเสมอว่า การพยากรณ์เป็นศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอนสูง แม้แต่นักเศรษฐศาสตร์ที่เก่งที่สุดในโลกก็มักจะทำนายผิดอยู่บ่อย ๆ ดังนั้น เวลาที่เราอ่านหรือฟังคำพยากรณ์เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ ผมคิดว่าเราอย่าไปเชื่ออย่างปักใจว่ามันจะถูกต้องแม้ว่าแหล่งข้อมูลหรือคนที่ให้ข้อมูลจะเป็นที่น่าเชื่อถือมาก ๆ

 

นักเศรษฐศาสตร์หรือหน่วยงานที่อิงกับการเมืองในทางใดทางหนึ่ง อาจจะให้ความเห็นหรือพยากรณ์ภาวะเศรษฐกิจโดยมีความ “ลำเอียง” ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว ความลำเอียงที่ว่านั้นมักจะออกมาในด้านที่ดีกว่าความเป็นจริง เหตุผลก็คือ ฝ่ายการเมืองนั้น อยากจะให้ภาพเศรษฐกิจที่ดี ๆ เพราะนั่นคือ “ผลงาน” ของเขาในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น เวลาดูหรืออ่านข้อมูลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจากหน่วยงานรัฐ เราจึงควรจะดูว่ามันมาจากหน่วยงานไหน ในแวดวงของนักเศรษฐศาสตร์กันเองนั้น บางทีก็มีการพูดกันว่า ถ้ามาจากหน่วยงานนี้ ตัวเลขมักจะดูมองโลกในแง่ดีกว่าอีกหน่วยงานหนึ่งเสมอจนแทบจะเป็น “ธรรมเนียม”

 

ผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนนั้นมักจะให้ข้อมูลและคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทในด้านที่ดีกว่าความเป็นจริงเสมอ เริ่มตั้งแต่ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ผมพบว่าแทบไม่มีบริษัทไหนบอกว่าตนเองนั้นฝีมือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ว่าที่จริงแทบทุกบริษัทจะบอกว่าตนเองเป็นบริษัทระดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรม บางบริษัทบอกว่าตนเองนั้นเป็นบริษัทที่เด่นมากในการผลิตหรือการดำเนินงานที่คู่แข่งไม่สามารถเข้ามาแข่งขันได้ พวกเขาอาจจะไม่ได้โกหก แต่พวกเขามักจะลำเอียงทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ด้วยท่าทีที่มั่นอกมั่นใจและด้วยความรู้ที่มีมากกว่าคนฟังหรือนักวิเคราะห์ของผู้บริหาร ทำให้คนฟังมักจะเชื่ออย่างสนิทใจว่ามันเป็นเรื่องจริง เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ข้อมูลผลประกอบการที่ “ดี ๆ” ในช่วงที่ผ่านมาเร็ว ๆ นี้ ที่แสดงให้คนฟังเห็น มักจะเป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งที่ผู้บริหารพูดนั้น เป็นความจริงอย่างแน่นอน

 

ภาพในอนาคตของบริษัทที่ผู้บริหารแถลงออกมานั้น มักจะยิ่งสดใสกว่าความเป็นจริง ผู้บริหารมีแรงจูงใจที่จะวาดภาพบริษัทให้ดูดี เพราะเขามีแรงจูงใจหลาย ๆ อย่าง เช่น เขาอยากจะเป็นผู้บริหารที่มีความสามารถได้รับการยกย่อง หรือ ผู้บริหารที่เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทอาจจะอยากให้คนมาซื้อหุ้นทำให้ราคาขึ้นไปและเขาอาจจะขายได้ราคาสูง เหล่านี้เป็นต้น

 

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะประเมินว่าผู้บริหารพูด “เว่อร์” หรือลำเอียงมากไปแค่ไหน เหตุผลเพราะเราไม่ได้อยู่ในธุรกิจหรือเราไม่สามารถหาข้อมูลได้มากพอที่จะตัดสิน นักวิเคราะห์หรือนักลงทุนบางคนใช้วิธีดูผลงานที่ผ่านมาเทียบกับสิ่งที่ผู้บริหารเคยพูดไว้ว่าตรงหรือใกล้เคียงไหม ซึ่งผมคิดว่าเป็นวิธีที่พอใช้ได้ อย่างไรก็ตาม บางบริษัทอาจจะไม่มีข้อมูลที่ยาวพอ ทำให้เราใช้ข้อมูลนี้ได้ยาก วิธีที่น่าจะดีกว่าก็คือ ผมจะมองไปถึง “โครงสร้างของอุตสาหกรรม” ว่าบริษัททำธุรกิจอะไร ปัจจัยในการแข่งขันในอุตสาหกรรมเป็นอย่างไร บริษัทอยู่ในตำแหน่งไหน? ได้เปรียบหรือเสียเปรียบคู่แข่งขันอื่นและการได้เปรียบนั้นเป็นการได้เปรียบชั่วคราวหรือถาวร สุดท้ายยังต้องดูอีกว่าในอนาคต 3-4 ปีขึ้นไป จะมีผู้เล่นรายใหม่ ๆ มาแข่งขันด้วยหรือไม่ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นตัวบอกว่า “คำคุย” ของผู้บริหารจะเป็นจริงหรือไม่ พูดง่าย ๆ ในการวิเคราะห์ว่าผู้บริหารลำเอียงไปมากน้อยแค่ไหน ผมจะพยายามตัดประเด็นเรื่องฝีมือของผู้บริหารออก แล้วมาดูในด้านของตัวอุตสาหกรรมและตำแหน่งของบริษัทในอุตสาหกรรมเป็นหลัก ถ้าตำแหน่งของบริษัทแย่หรือเสียเปรียบ แต่ผู้บริหารบอกว่าบริษัทของตนจะเอาชนะและแย่งชิงธุรกิจได้มากกว่าคู่แข่งมากด้วยเพราะฝีมือของผู้บริหารหรือพนักงาน ผมก็จะไม่มั่นใจเลยว่าเขาจะทำได้

 

โบรกเกอร์และนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์นั้น เราต้องรู้ว่าเขามีความลำเอียง ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ ที่จะให้เราซื้อ ๆ ขาย ๆ หุ้นมากกว่าปกติ ดังนั้น เขาก็มักจะชอบแนะนำหุ้นที่กำลังมีราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นมากอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การให้ความเห็นเกี่ยวกับหุ้นจึงมักเป็นการแนะนำให้ซื้อหุ้นที่กำลังร้อนแรงและราคาอาจจะสูงเกินพื้นฐานไปแล้ว แต่ในความเห็นของเขานั้นกลับเห็นว่าหุ้นยังต่ำกว่าพื้นฐานและน่าลงทุนทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าที่หุ้นจะร้อนและราคาหุ้นยังต่ำอยู่ พวกเขาไม่เคยพูดถึงเลยว่าเป็นหุ้นที่น่าสนใจ ข้อเตือนใจของผมสำหรับเรื่องนี้ก็คือ ราคาหรือมูลค่าพื้นฐานของหุ้นที่เกิดจากการคำนวณของนักวิเคราะห์นั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็น “มูลค่าในจินตนาการ” หมายความว่า คุณอาจจะให้ค่าเท่าไรก็ได้จากราคาเช่น 10 บาท ถึง 40 บาท ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะตั้งสมมุติฐานอย่างไรหรือให้คุณค่ากับบริษัทมากน้อยแค่ไหน ในยามที่ราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นร้อนแรง คุณจะให้ราคา 40 บาท คนก็เชื่อ แต่ในยามที่หุ้นตัวนั้นเงียบเหงานั้น บางทีคุณบอกว่า 10 บาท คนก็ยังบอกว่าไม่น่าสนใจ

 

เรื่องความลำเอียงในตลาดหุ้นนั้น ผมคิดว่ายังมีอีกมาก สิ่งที่เราควรเข้าใจก็คือ ตลาดหุ้นนั้น เป็นที่อยู่ของคนที่มักจะมองโลกในด้านที่บวกสูงกว่าคนปกติ เป็นที่อยู่ของคนที่มีความหวังหรือความฝันที่สูงกว่าคนทั่วไป พวกเขาฝันที่จะรวยอย่างรวดเร็วหรือสามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ ไม่ว่าเมื่อวานตลาดหุ้นจะเลวร้ายแค่ไหน ก่อน 10 โมงเช้าที่ตลาดเปิด คนเล่นหุ้นก็มักจะมีความหวังเสมอ การมองโลกที่สดใสกว่าปกตินั้น ผมคิดว่าทำให้คนในตลาดหุ้นส่วนใหญ่มี “ความลำเอียง” ที่จะมองการลงทุนหรือการซื้อขายหุ้นในแง่ที่ดีกว่าความเป็นจริง ถ้าลองถามคนที่ลงทุนเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ว่าเขาคิดว่าจะได้รับผลตอบแทน “ปีนี้” กี่เปอร์เซ็นต์ ผมเชื่อว่าคำตอบเฉลี่ยคงเป็นอย่างน้อย 20-30% ขึ้นไป ทั้ง ๆ ที่ผลตอบแทนต่อปีในอดีตของตลาดหุ้นนั้นเท่ากับประมาณ 10% เท่านั้น

 

ในฐานะของ Value Investor เราต้องพยายาม “ฉีก” ตนเองออกจาก “ตลาด” ความหมายก็คือ เราต้องเข้าใจเรื่อง “ความลำเอียง” ทั้งหลายที่เกิดขึ้นจากเหตุจูงใจต่าง ๆ และธรรมชาติบางอย่างของคนโดยเฉพาะที่อยู่ในตลาดหุ้น การอ่านหรือฟังข้อมูลนั้น เราต้องรู้ “เบื้องหลัง” หรือ “วาระซ่อนเร้น” ที่อาจจะมีอยู่ เพื่อที่ว่าเราจะได้นำข้อมูลที่ได้รับมา “ปรับ” ให้ถูกต้องใกล้เคียงขึ้น การรับข้อมูลโดยไม่พิจารณาเพิ่มเติมนั้นเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวง เพราะบางครั้งมันอาจจะหมายถึงการที่เราถูก “หลอก” ให้สำคัญผิดใน “พื้นฐาน” ของบริษัท ซึ่งทำให้การตัดสินใจของเราผิดพลาดและเกิดความเสียหายร้ายแรงได้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลืมไปว่าวันนี้วันหยุด อ่านเรื่องสาระมากไป อาจไร้สาะ ก็เป็นได้

 

งั้นดูการ์ตูนแมวๆดีก่า !37

 

http://www.youtube.com/watch?v=I1qHVVbYG8Y

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

laugh.gif เข้ามาอ่านบทวิเคราะห์โบรกเกอร์

วิเคราะห์ได้แบบตรงไปตรงมา และจริงใจมาก ขอบคุึณครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากคับ คุณเหมียวโจ ส่วนตัวผมเองก็คงเก็บทุกเหรียญยกเว้นเหรียญทอง(เพราะไม่มีปัญญา) แต่คงเก็บอย่างละไม่กี่เหรียญเอาไว้เป็นที่ระลึกในโอกาสพิเศษแบบนี้

ขออนุญาตรบกวนถามอีกนิดคับ แล้วเหรียญทองแดงละคับ คุณเหมียวพอมีข้อมูลไหมคับว่าเป็นยังไง

ขอบคุณมากเลยครับ

 

ปล.เห็นข่าวผู้จัดการกองทุนละ น่ากัวจิง หวังว่าคงมีมาตรการให้รัดกุมกว่านี้

ถูกแก้ไข โดย AunTonio

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:)ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลและบทความมากมายค่ะคุณเหมียวโจอี้ :wub:

มิสเคไม่อยู่หลายวัน คงต้องตามอ่านให้หมดเลยค่ะ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณเมียวโจ้ครับ กองทุนอีทีเอฟอ้างอิงทองคำ เป็นไงบ้างครับมีคำวิจารณ์สำหรับกองนี้มั้ยครับ

 

 

หุ้นไทยเข้าตา ฮ่องกงจีบตั้ง ETF ตลท.หวังผลดึงเงินกองทุนนอก

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กรกฎาคม 2554 20:54 น.

 

 

 

 

 

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผย ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นสูง เตะตากองทุนต่างชาติ แห่นำดัชนี SET 50 อ้างอิงกองทุนอีทีเอฟจดทะเบียนในต่างประเทศ แย้ม บลจ.ฮ่องกง เตรียมคลอดกองทุนทีอีเอฟอิงหุ้นไทย ก.ย. นี้ หลังเทรดที่ฝรั่งเศส-ญี่ปุ่นแล้ว ชี้ส่งผลดีเพิ่มฐานนักลงทุนสถาบันต่างชาติ-วอลุ่มซื้อขายเพิ่มขึ้น “เกศรา” เชื่อหากไม่มีสถานการณ์เลวร้าย วอลุ่มเทรดนี้ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท

 

นางเกศรา มัญชุศรี ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากการที่ตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดอันดับ 2 ของตลาดหุ้นเอเซีย ทำให้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ต่างประเทศ สนใจที่จะที่จะทำดัชนี SET 50 ของไทย ไปอ้างอิงออกกองทุนอีทีเอฟ ซึ่งขณะนี้มีกองทุนที่ฮ่องกงติดต่อมาว่าต้องการที่จะนำไปอ้างอิงกองทุนอีทีเอฟ ซึ่งคาดว่าจะออกขายได้ประมาณเดือนกันยายนนี้ ซึ่งถือว่าเป็นกองทุนอีทีเอฟต่างประเทศกองที่ 3 ในปีนี้ ที่กองทุนต่างประเทศนำไปออกกองทุนจากก่อนหน้าที่จดทะเบียนในฝรั่งเศสในเดือนกรกฎาคม 2554 และ ที่ญี่ปุ่นที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม 2554

 

ทั้งนี้ จากการที่กองทุนต่างประเทศนำดัชนีตลาดหุ้นไทยอ้างอิงออกกองทุนนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีจะเป็นการเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีกทีหนึ่ง ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯตั้งเป้าที่จะให้มีนักลงทุนสถาบันต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย จากการไปโรดโชว์ ซึ่งการไปโรดโชว์นั้นเราไม่สามารถที่จะทราบได้ว่าเงินเข้ามาลงทุนหรือไม่ แต่หากเป็นกองทุนอีทีเอฟนั้นสามารถทราบได้ว่านักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนเพิ่มจากขนาดกกองทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย

 

อย่างไรก็ตามส่วนตัวเชื่อว่าหากหากปัจจัยแวดล้อมทั้งเศรษฐกิจและการเมืองไม่มี เหตุการณ์พลิกผันจนกระทบทางลบต่อดัชนีอย่างรุนแรง จึงเชื่อว่ามูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นจากนี้ไปจะไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อวัน โดยปัจจุบันถือว่าตลาดหุ้นไทยนั้นมีเครื่องมือเพื่อให้นักลงทุนบริหารการลงทุนได้ครบวงจร ซึ่งในบางช่วงตลาดหุ้นไม่ดี นักลงทุนสามารถเข้ามาลงทุนในกองทุนได้ และสามารถป้องกันความเสี่ยงการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ ฯลฯ

 

“จากการที่กองทุนต่างประเทศนำดัชนีตลาดหุ้นไทยไปอ้างอิงออกกองทุนอีทีเอฟแล้วนำไปจดทะเบียนในต่างประเทศนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯก็จะได้ค่าธรรมเนียมจากการนำดัชนีSET 50 ไปใช้อ้างอิงในการออกสินค้า แต่ประโยชน์หลักน่าจะเป็นการช่วยเผยแพร่ดัชนีมากกว่าทำให้นักลงทุนต่างประเทศสนใจตลาดหุ้นไทย ทำให้สภาพคล่องการซื้อขายในตลาดหุ้นให้สูงขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของนักลงทุนสถาบัน”นางเกศรา กล่าว

 

นางเกศรา กล่าวว่า สำหรับกองทุนอีทีเอฟที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยปีนี้ ตั้งเป้าไว้ 5 กองทุน ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟอ้างอิงทองคำ จำนวน 2 กองทุน กองแรก คือ กองทุนเปิดเคแทม โกลด์อีทีเอฟ แทร็กเกอร์(GLD) ซึ่งจะเทรดวันที่ 8 สิงหาคม ส่วนอีกกองทุนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ กองทุนอีทีเอฟหุ้นปันผลสูง ซึ่งจะเทรดวันที่ 16 สิงหาคมนี้ และมีกองทุนอีทีเอฟอ้างอิงหุ้นต่างประเทศ คาดว่ากองแรกจะเป็นดัชนีของเกาหลี กองต่อไปอ้างอิงดัชนีหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนในปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯจะร่วมลงทุนกองทุนละ 20 ล้านบาท

 

สำหรับปัจจุบันมีกองทุนอีทีเอฟจดทะเบียนอยู่จำนวน 3 กอง คือ กองทุนเปิดไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) กองทุนเปิด MTRACK ENERGY ETF (ENGY) กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอส อี เคแทม ซีเอสไป 300 ไซน่า แทร็กเกอร์ ส่วนกองทุนเปิด FTSE SET Large Cap ETF นั้นได้ถอนออกไปแล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณเมียวโจ้ครับ กองทุนอีทีเอฟอ้างอิงทองคำ เป็นไงบ้างครับมีคำวิจารณ์สำหรับกองนี้มั้ยครับ

 

หุ้นไทยเข้าตา ฮ่องกงจีบตั้ง ETF ตลท.หวังผลดึงเงินกองทุนนอก

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กรกฎาคม 2554 20:54 น.

 

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผย ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นสูง เตะตากองทุนต่างชาติ แห่นำดัชนี SET 50 อ้างอิงกองทุนอีทีเอฟจดทะเบียนในต่างประเทศ แย้ม บลจ.ฮ่องกง เตรียมคลอดกองทุนทีอีเอฟอิงหุ้นไทย ก.ย. นี้ หลังเทรดที่ฝรั่งเศส-ญี่ปุ่นแล้ว ชี้ส่งผลดีเพิ่มฐานนักลงทุนสถาบันต่างชาติ-วอลุ่มซื้อขายเพิ่มขึ้น “เกศรา” เชื่อหากไม่มีสถานการณ์เลวร้าย วอลุ่มเทรดนี้ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท

 

นางเกศรา มัญชุศรี ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า จากการที่ตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดอันดับ 2 ของตลาดหุ้นเอเซีย ทำให้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ต่างประเทศ สนใจที่จะที่จะทำดัชนี SET 50 ของไทย ไปอ้างอิงออกกองทุนอีทีเอฟ ซึ่งขณะนี้มีกองทุนที่ฮ่องกงติดต่อมาว่าต้องการที่จะนำไปอ้างอิงกองทุนอีทีเอฟ ซึ่งคาดว่าจะออกขายได้ประมาณเดือนกันยายนนี้ ซึ่งถือว่าเป็นกองทุนอีทีเอฟต่างประเทศกองที่ 3 ในปีนี้ ที่กองทุนต่างประเทศนำไปออกกองทุนจากก่อนหน้าที่จดทะเบียนในฝรั่งเศสในเดือนกรกฎาคม 2554 และ ที่ญี่ปุ่นที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม 2554

 

ทั้งนี้ จากการที่กองทุนต่างประเทศนำดัชนีตลาดหุ้นไทยอ้างอิงออกกองทุนนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีจะเป็นการเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีกทีหนึ่ง ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯตั้งเป้าที่จะให้มีนักลงทุนสถาบันต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย จากการไปโรดโชว์ ซึ่งการไปโรดโชว์นั้นเราไม่สามารถที่จะทราบได้ว่าเงินเข้ามาลงทุนหรือไม่ แต่หากเป็นกองทุนอีทีเอฟนั้นสามารถทราบได้ว่านักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนเพิ่มจากขนาดกกองทุนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทย

 

อย่างไรก็ตามส่วนตัวเชื่อว่าหากหากปัจจัยแวดล้อมทั้งเศรษฐกิจและการเมืองไม่มี เหตุการณ์พลิกผันจนกระทบทางลบต่อดัชนีอย่างรุนแรง จึงเชื่อว่ามูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นจากนี้ไปจะไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาทต่อวัน โดยปัจจุบันถือว่าตลาดหุ้นไทยนั้นมีเครื่องมือเพื่อให้นักลงทุนบริหารการลงทุนได้ครบวงจร ซึ่งในบางช่วงตลาดหุ้นไม่ดี นักลงทุนสามารถเข้ามาลงทุนในกองทุนได้ และสามารถป้องกันความเสี่ยงการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ ฯลฯ

 

“จากการที่กองทุนต่างประเทศนำดัชนีตลาดหุ้นไทยไปอ้างอิงออกกองทุนอีทีเอฟแล้วนำไปจดทะเบียนในต่างประเทศนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯก็จะได้ค่าธรรมเนียมจากการนำดัชนีSET 50 ไปใช้อ้างอิงในการออกสินค้า แต่ประโยชน์หลักน่าจะเป็นการช่วยเผยแพร่ดัชนีมากกว่าทำให้นักลงทุนต่างประเทศสนใจตลาดหุ้นไทย ทำให้สภาพคล่องการซื้อขายในตลาดหุ้นให้สูงขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของนักลงทุนสถาบัน”นางเกศรา กล่าว

 

นางเกศรา กล่าวว่า สำหรับกองทุนอีทีเอฟที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยปีนี้ ตั้งเป้าไว้ 5 กองทุน ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟอ้างอิงทองคำ จำนวน 2 กองทุน กองแรก คือ กองทุนเปิดเคแทม โกลด์อีทีเอฟ แทร็กเกอร์(GLD) ซึ่งจะเทรดวันที่ 8 สิงหาคม ส่วนอีกกองทุนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ กองทุนอีทีเอฟหุ้นปันผลสูง ซึ่งจะเทรดวันที่ 16 สิงหาคมนี้ และมีกองทุนอีทีเอฟอ้างอิงหุ้นต่างประเทศ คาดว่ากองแรกจะเป็นดัชนีของเกาหลี กองต่อไปอ้างอิงดัชนีหุ้นญี่ปุ่น ซึ่งกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนในปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯจะร่วมลงทุนกองทุนละ 20 ล้านบาท

 

สำหรับปัจจุบันมีกองทุนอีทีเอฟจดทะเบียนอยู่จำนวน 3 กอง คือ กองทุนเปิดไทยเด็กซ์ เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) กองทุนเปิด MTRACK ENERGY ETF (ENGY) กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอส อี เคแทม ซีเอสไป 300 ไซน่า แทร็กเกอร์ ส่วนกองทุนเปิด FTSE SET Large Cap ETF นั้นได้ถอนออกไปแล้ว

 

คำวิจารณ์ได้อยู่ในกระทู้งูดินไปแล้ว แต่อย่างที่พููดไว้ว่า กองทุนETFบ้านเรา มันก็เหมือนหุ้นโวลุ่มบางๆ จะมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องเป็นอย่างมาก

 

อีกทั้งเป็น กองทุน ETF ซ้อน กองทุน ETF โวลุ่มต่ำที่มีปัญหา อีกที มันทำให้เสียค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อนเกินความจำเป็น อีกทั้งอาจเสี่ยงโดนปั่นหรือทุบ ไม่ในตลาดบ้านเรา ก็ตลาดในสิงคโปร ที่ทำให้ค่า NAV เพี้ยนไปจาก spot ทองคำ บางที่สามารถเพี้ยนได้ตั้งแต่ 6-10 % ได้เช่นกัน http://www.thaigold.info/Board/index.php?/blog/5/entry-170-%E0%B9%81%E0%B8%89%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3-etf-gld-%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%8C/

 

 

http://en.wikipedia.org/wiki/Exchange-traded_fund

 

Criticism

ETFs are dependent on the efficacy of the arbitrage mechanism in order for their share price to track net asset value. While the average deviation between the daily closing price and the daily NAV of ETFs that track domestic indexes is generally less than 2%, the deviations may be more significant for ETFs that track certain foreign indexes.[5] The Wall Street Journal reported in November 2008, during a period of market turbulence, that some lightly traded ETFs frequently had deviations of 5% or more, exceeding 10% in a handful of cases, although even for these niche ETFs, the average deviation was only a little more than 1%. The trades with the greatest deviations tended to be made immediately after the market opened.

 

 

 

 

 

ถ้าคนเล่นน้อย ก็เสี่ยงสภาพคล่องต่ำ ซึ่งอาจจะหนักกว่ากองทุน ETF ทองคำ ในสิงคโปร

 

ถ้าร้ายกว่านี้ก็คือ สมมุติตั้งราคาซื้อ ATC แล้วโดนปั่นลากราคาตอนปิดตลาด

 

คล้ายๆวันที่ 18 มีนาคม ราคาปิดตลาดเพี้ยนจากราคาทองคำจริง 6%

 

กลับมาตอนวันจันทร์ โดนตีกลับมาอิงกับตัวเลขพื้นฐานปกติ คนซื้อเมื่อวันศุกร์เหมือนโดนทุบราคา ซวยทั้งขึ้นและล่อง

 

เมื่อเป็นแบบนี้มันเหมือนไปลงทุนหุ้นที่มีความเสี่ยงโดนปั่นหรือทุบได้อยู่ดี

 

ถูกแก้ไข โดย Meaw_Joe

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น่าเสียดายจังนะคับ หลักการรวมๆดี แต่เวลาปฏิบัติจิงมีปัญหา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากคับ คุณเหมียวโจ ส่วนตัวผมเองก็คงเก็บทุกเหรียญยกเว้นเหรียญทอง(เพราะไม่มีปัญญา) แต่คงเก็บอย่างละไม่กี่เหรียญเอาไว้เป็นที่ระลึกในโอกาสพิเศษแบบนี้

ขออนุญาตรบกวนถามอีกนิดคับ แล้วเหรียญทองแดงละคับ คุณเหมียวพอมีข้อมูลไหมคับว่าเป็นยังไง

ขอบคุณมากเลยครับ

 

ปล.เห็นข่าวผู้จัดการกองทุนละ น่ากัวจิง หวังว่าคงมีมาตรการให้รัดกุมกว่านี้

วันอาทิตย์ญาติโทรมาว่าสนใจเหรียญทองคำที่ระลึกพระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริมั้ย(ของหลุดโรงจำนำ) 15กรัม ราคา23,500บาท คิดราคาเทียบกับเนื้อทองคำแล้ว ถูกกว่าเหรียญทองคำ84พรรษา เลยตกลงซื้อ ช่วงนี้เงินสดมีไม่มากเลยไม่ได้จองเหรียญทองคำ84พรรษา

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...