ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
kumponys

มังกรจีน และ มังกรไทย

โพสต์แนะนำ

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 377

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #77 เมื่อ: สิงหาคม 05, 2009, 12:23:03 pm »

จริง ๆ ผมอยากผูกเรื่อง การเอาบุญมาล่อ ก็เหมือน กับการ ลงทุน ของพวกเราในปัจจุบัน ไม่ว่าลงทุนใด ๆ มัก มีผลกำไร มาล่อ

 

แต่สุดท้ายแล้ว ใหม่ ๆ ก็พอมีกำไร แต่ ทำไป ทำไป ความโลภ เข้าครอบงำ เรากินคำเล็ก แต่ เขางาบคำใหญ่ เสร็จกัน ครับ ยิ่ง

 

เจริญ เล่ห์เหลี่ยมการลงทุนยิ่งมากมาย วกวน จน จนใจ ครับ ระมัดระวังตัวกันไว้บ้างก็ดี อย่าได้ลุ่มหลงจนงมงาย ดังเรื่อง บุญ

 

นะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

MOR LEK

แฟนพันธุ์แท้

 

ออนไลน์

 

กระทู้: 880

 

 

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #78 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2009, 07:31:10 pm »

ผมยังมีกิเลสเยอะครับก็เลยงก ผมคิดว่าถ้าผมมีข้าวเปลือกอยู่ 1กำมือ ผมจะเลือกหว่านลงในนาที่มีความสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ผมจะหาได้

ผมจะไม่ไปทำทานกับพระทุศีลเป็นอันขาด ผมมองว่าการทำทานกับพระทุศีลเป็นการปล่อยให้เหลือบของศาสนาโตขึ้น เป็นการทำลายศาสนาในรูปแบบหนึ่ง

ถ้าใครไม่เห็นพระดี ขอให้มองไปรอบๆบ้านจะพบพระแก้ว2องค์ (ถ้าท่านยังอยู่นะครับ)ดูแลท่านให้ดี ไม่ต้องไปหาทำทานไกลๆดอก ขายทองได้กำไรก่อนใช้เองแบ่งให้ท่านก่อนแล้วคุณจะพบแต่ความสุขความเจริญ ดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้แปลเป็นไทยง่ายๆว่า

การดูแลเลี้ยงดูบิดามารดาเป็นมงคลอันสูงสุด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 377

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #79 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2009, 09:25:41 am »

ถูกต้องแล้วครับ คุณหมอเล็ก พ่อแม่เลี้ยงลูกหลายคนมาได้ แต่ ลูกหลายคนเลี้ยงพ่อแม่ไม่ได้ ปัญหาคือ ลูกเขย ลูกสะใภ้

 

แต่หากตัวเองดี มีความกตัญญู ปัญหาบุคคลที่ 3 ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ปัจจุบันนี้ ลูก ๆ มักละเลยพ่อแม่ ดังนั้นกรรม จะเกิดกับ

 

ตัวเองในวันหนึ่ง อาจมีสักวัน ลูก ๆ ของเขาอาจถามว่า ปู่ ย่า ตา ยาย สบายดีไหม ไม่เคยเห็นปู่ ย่า ตา ยาย เลย แล้ว สักวัน

 

หนึ่ง ลูกเราเอง ก็จะปฎิบัติ เยี่ยงเรา เนื่องจากเราเป็นตัวอย่างที่ลูก ๆ จะมอง เป็นอันดับแรก ครับ

 

 

เพิ่มเติมอีกสักนิดครับ วันเสาร์ที่ผ่านมา ผมก็ได้ไปบริจาคโรงศพให้วัดพระบาทน้ำพุ อีกครั้ง ก็ได้พูดคุยกันนะ ว่า วัดไหน

 

ไม่มีหมอดู ไม่มีเครื่องรางของขลัง ไม่ใบ้หวย และ ไม่ทำเสน่ห์ หรือ ไม่เทศน์ เรื่องนรก สวรรค์ เทวดา นางฟ้า วัดนั้น ๆ ก็จะ

 

ไม่ค่อยมีใครไปทำบุญ ผมก็คงไม่พูดมากไปกว่านี้ ทั้งนี้ ความศรัทธา ไม่มีเหตุ และ ไม่มีผล ครับ ผมคิดของผมส่วนตัวนะครับ

 

ก็เลย ได้นำ เลขที่บัญชีวัดพระบาทน้ำพุ มา เผื่อใครสนใจทำบุญนะครับ ธ.ไทยพาณิชย์ ลพบุรี 5792337307

 

ธ.กรุงเทพ ลพบุรี 2890846971 ธ.กสิกรไทย ลพบุรี 3042412779 ท่านใดสนใจทำบุญ ก็เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 377

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #81 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2009, 09:47:25 am »

สวัสดีครับเพื่อนรักทุกท่านและทุกวัย

 

วันนี้ผมมีโอกาสมาเขียนบทความอีกนิด หลายวันมานี้ ผมไตร่ตรองตัวเองดูว่า พูดมากไปหรือเปล่า พูดแล้วไปกระทบใครหรือเปล่า

 

ก็เลย ได้ข้อสุภาษิต เข้ามา 1 บท หลังจาก สวดมนต์ ไหว้พระ ใครเคยได้ยิน สุภาษิตนี้บ้างครับ "ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์" เช้านี้ผม

 

ก็โทรไปหาอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งเคยทำงานร่วมกันมา ท่านจบอักษรฯ และ เป็นอาจารย์คณะอักษรฯ เลยได้ความหมายมาว่า เรื่อง

 

อะไร หากไม่หนักหนานัก ไม่ใช่เรื่องของเรา ก็อย่าไปยุ่งกะเขาเลย ผมก็เพิ่มเติมว่า อย่าไปยุ่งเรื่องคนอื่น ช่วงนี้ ผมตื่นเช้าออกำลัง

 

กาย ชมนก ชมอากาศ ชมธรรมชาติ ทำให้นึกเปรียบเทียบว่า นก เวลาบินในท้องฟ้า มันสง่าเหลือเกิน แต่ พอลงดินมา กระโดดเหยง

 

ๆ ดูมันไม่ทะมัดทะแมงเลย ส่วนเจ้ากระรอกตัวน้อย วิ่งบนสายไฟ หางกระดิกไปมา เพื่อ ประคองตัว ดูมันวิ่งได้รวดเร็ว เหมือนนัก

 

กายกรรม แต่เมื่อเปรียบมันว่า มันสามารถบินได้เหมือนนกไหม คำตอบคือ บินไม่ได้ ส่วนเจ้านก หากให้มาวิ่งบนสายไฟ อย่างกระรอก

 

มันก็ทำไม่ได้ อย่างมาก ก็เกาะสายไฟ พักเหนื่อย หลังจากบิน ทำให้ผมนึกเปรียบเทียบกับการลงทุนของคน หากเราลงทุนไปแล้ว

 

ไปไม่รอด หรือ ขาดทุนเสมอ ๆ แต่เราก็ยังดันทุรัง ลงทุนต่อไป ก็เปรียบเสมือน นก กับ กระรอก ที่ผมเห็น เราก็คงต้องกลับมาพิจารณา

 

ว่าการลงทุน นั้นเหมาะกับเราหรือไม่ เราลงทุนเพราะเป็นไปตามกระแส หรือ ตามอย่างเขาหรือไม่ ถึงได้คำตอบออกมาว่า ความถนัด

 

ของคนเราต่างกัน ความรู้ต่างกัน ประสบการณ์ต่างกัน กำลังเงินต่างกัน และ อื่น ๆ ที่ต่างกันอีกมากมาย จึงได้เกิดหลายสาขาอาชีพ

 

หลายสาขาการลงทุน แตกแขนงยังโลกมนุษย์ใบกลม ๆ นี้อย่างมากมาย และ แสนจะวุ่นวาย ก็เพียงแค่ ต้องการกำไร ต้องการหา

 

เพื่อการดำรงชีพ หาเพื่อสะสม หาเพื่อ อะไรก็ตาม ที่มนุษย์ใช้เป็นข้ออ้างและ เหตุผลอยู่เสมอ ๆ ผมจะไม่สรุปให้ใครคิดนะครับ หากแต่

 

หลายคนอ่าน หลายคนอาจคิดกันไปคนละทางสองทาง แต่วันนี้ผมจะหักเรื่องอย่างรวดเร็วครับ

 

ใครบ้างเคยระลึกความหลัง และ หันกลับไปปฎิบ้ติ แบบเดิม ๆ ที่เคยเริ่มต้นเช่น ไม่เคยหอมแฟนมานานมากแล้ว ลองหอมดูอีกสักครั้ง

 

ไม่เคยพูดดี ๆ กับแฟนเรา ก็ลองหันกลับไปพูดอีกสักครั้ง ไม่ต้องบ่อย เราจะเห็นความสดใสในดวงตา ซึ่งสะท้อนออกมาจากดวงใจ

 

วันนี้หลังสวดมนต์ ผมลองเอามือ ลูกศรีษะภรรยา เบา ๆ แล้วบอกเขาว่า วันนี้ ขอให้ขายดี นะ มีลูกค้าเข้าร้านเยอะ ประกายตาเธอดู

 

สดใสขึ้น และ หลังจากโน้มศีรษะเธอ เข้ามาหา และ หอมแก้มเหี่ยว ๆ สักฟอด (พูดเล่นนะครับ) แล้วให้นึกถึงว่า ตอนจีบเธอใหม่ ๆ

 

เราทำอะไรบ้าง แล้วเดี๋ยวนี้ เราทำอะไรบ้าง ทบทวนดูนะครับ แล้วจะพบว่า น้ำพริกถ้วยเก่า นั้น เป็นฉันไร เราปฎิบัติกับคนภายนอก

 

บ้านเช่นไร และ ปฎิบัติกับคนในบ้านเช่นไร เราละเลยครอบครัวของเรา และ คนใกล้ชิดหรือไม่ อย่าให้อะไรสำคัญกว่า หรือ มาโน้ม

 

น้าวให้เราสนใจ จนลืม เขาเหล่านั้น นะครับ ผมผูกเรื่อง สองเรื่อง ให้มาเป็นเรื่องเดียวกัน นะครับ อ่านและไตร่ตรอง ไม่ต้องเชื่อผม

 

นะครับ ว่าง ๆ จะหาบทความดี ๆ มาเขียนใหม่ ปิดท้ายคือ ยังไม่มีเวลาหรือละเลย ผลัดวันประกันพรุ่ง ผมคิดว่าจะไปหาพจนานุกรม

 

ภาษาไทยมาสักเล่ม และ หนังสือรวมสุภาษิตไทย เพราะ หลายปีมานี้ เคยได้เอ ภาษาไทย แต่ ตอนนี้ คงได้เอฟ เสียแล้วครับ ก็สรุป

 

มัวแต่หาเงินเป็นเหตุโดยแท้ ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 377

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #82 เมื่อ: สิงหาคม 25, 2009, 09:11:23 am »

สวัสดีครับทุกท่าน

 

ผมเพิ่งกลับจากชุมพร เช้านี้เอง เจอรถไฟไทย เจออะไรแบบเดิม ๆ แต่ที่ดีใจ เจอ เด็กสาวคนหนึ่งอายุ 25 แต่งงานแล้ว

 

มีลูกชายเล็ก ๆ น่ารัก วัย 1 ขวบ ขยันทำมาหากินเป็นที่สุด ที่สำคัญ เป็นลูกสาวคนจีน ที่อบรมบ่มนิสัยมาดี แถมยังมีเลือด

 

การค้า ของคนจีนติดตัวมา ว่าง ๆ จะเขียนว่า ไปเจอไรมา ที่จังหวัดชุมพร คนชุมพร ทำมาหากินอะไร แต่ที่แปลกใจคือ โรง

 

เรียนที่ชุมพร สะอาดมาก ๆ สมกับชื่อโรงเรียนสอาด และ อีกโรงเรียนหนึ่งประจำจังหวัด ก็สะอาดเช่นกัน ตัวเมืองชุมพรก็

 

สะอาดมาก ๆ ร้านค้าน่ารัก ตกแต่งได้สวย ไม่บ้านนอก อีกต่อไป ที่สำคัญได้ไปไหว้ ศาลกรมหลวงุชมพร เมื่อได้อ่านจารึก

 

ถึงความรักชาติแล้ว ผมอึ้ง อยากให้ใครคนหนึ่ง ซึ่งกำลังก่อความวุ่นวายไม่เลิก ได้อ่านบ้าง ว่าง ๆ จะมาเขียนเล่าให้พวกเราฟัง

 

กันครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 377

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #84 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2009, 02:24:57 pm »

สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน

 

วันก่อนยังไม่ได้เล่าว่า ไปชุมพรแล้วพบอะไร เอาเป็นว่า บ่นเรื่องรถไฟไทยก่อนดีกว่าครับ กำหนดการ รถไฟออก 1 ทุ่ม ต้องไปถึง

 

สถานีชมพรเวลา 3.00 น. ผมก็อุตส่าตั้งนาฬิกาปลุกเผื่อไว้ เป็น 3.30 แล้ว ปรากฎว่า พอตื่นขึ้นมา คนดูแลรถไฟ คนนี้ซึ่งดีมาก ๆ

 

บอกผมว่า นอนต่อเถอะยังอีกไกล ไว้ใกล้ถึงแล้วจะปลุกอีกครั้ง ที่ว่าดีนั้น คือ ตั้งแต่ขึ้นรถ เขาเล่าเรื่องต่าง ๆ รวมทั้งให้ระวัง โจรโขมย

 

วิธีนอนอย่างไรปลอดภัย ทรัพย์สินเก็บอย่างไร อัธยาศัยไมตรีดีมาก บ่งบอกว่า เขาภูมิใจในอาชีพ แต่พอเราแย้งเขาเรื่องความเจริญของ

 

รถไฟไทย เรื่องรถไฟรางคู่ เรื่องการลงทุนของการรถไฟ สุดท้ายหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็คุยกันเรื่องขอรับฉัน และ สุดท้ายก็เรื่องสหภาพแรง

 

งานรถไฟ เขาไม่เถียงสักคำ แถมยังยินดี ที่เรามีข้อมูลพอสมควร และ ติ ได้ถูกต้อง เป็นอันว่า เช้านั้น ผมทำประจำบนรถไฟ คือ รีบไป

 

แปรงฟัน ล้างหน้า เข้าห้องน้ำให้เสร็จ ไม่อยากลุกมาแย่งกัน แบบ ใกล้สถานี แล้ว ยังแปรงฟันกันอยู่ เที่ยวนั้น เจอแต่ ฝรั่ง ก็เลยไม่

 

หนวกหู เขามีมรรยาทมาก พอเปิดเตียง เสียงจ้อกแจ้ก จอใจ เงียบโดยฉับพลัน ไม่เหมือนเที่ยวหนึ่ง ที่ผมไปหาดใหญ่ เจอคนจาก

 

กระทรวงศึกษาธิการ ดูอายุอานาม ก็คง เฉลี่ย 50 ขึ้น ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวไปตลอดทาง จนผมทนไม่ได้ ดูนาฬิกา 3 ทุ่มกว่า แล้ว มันยัง

 

ส่งเสียงดังอยู่ คิดในใจ ถ้าเป็นครูบา อาจารย์ มันจะสอน นักเรียนได้ไงหว่า ตัวมันเองก็เป็นแบบอย่างที่ไม่ดี อดไม่ได้ จึงลุกขึ้นมาต่อว่า

 

แบบสุภาพ ว่า ขออภัยนะครับ นี่ดึกแล้ว แล้วเป็นบนรถไฟ คนกำลังจะพักผ่อน ขอความกรุณาเถิดนะครับ เท่านั้นแหละ ค้อน กัน ควัก ๆ

 

ดีว่า อีกคน คงเป็นระดับหัวหน้า หรือ ผู้อำนวยการ ทำนองนี้ ตอบผมว่า ขอบคุณครับ แล้วยิ้ม ๆ หมอนี่ อีคิว ดีมาก ๆ ยังคิดในใจเลยว่า

 

ตรูว่าเมริง นะ ยังมายิ้มได้ ตกลงวันนั้นผมไปถึงชุมพร 6.00 น. รถเสียเวลาสับหลีกไป 3 ชั่วโมง ประสารถไฟไทย คนมารับหน้าตา

 

ยู่ยี่ คงนอนรอในรถ จนเมื่อย พอไปถึง แทนที่จะได้พักสัก 3 ชั่วโมง จองโรงแรมไว้ เป็นอันไม่ได้นอน รีบไปรับทานโจ๊กเจ้าเก่า เหลือบ

 

ไปเห็นข้าวเหนียวหน้าต่าง ๆ แบบ ที่กรุงเทพ หารับทานยาก เพราะมีแต่ขนมต่างชาติ ผมรีบโผไปถามราคาทันที ห่อเบ้อเร่อ ขาย 10บาท

 

เลยต้องซื้อมาตุน เสียหน่อย โจ๊ก 20 บาท ใส่ไข่ ไม่แพงเลย แถมมีชาจีนร้อน ชาจีนจริง ๆ หอมหวลมาก พอหนังท้องตึงหนังตาชักหย่อน

 

เพราะบนรถไฟ แทบไม่ได้นอน กระเทือน และ ปวดเมื่อยมาก ๆ ทำให้คิดถึงหมอนวดแผนโบราณ ขาประจำ เสร็จกิจ รีบอาบน้ำ ไม่ทันเอา

 

ของเก่าออกจากท้องรีบแต่งตัว ไปถึงโรงเรียนแห่งแรก 8.30 น. เริ่มบรรยายให้นักเรียนฟังทันที โรงเรียนนี้ ชื่อโรงเรียนสอาด ผมไม่

 

ทราบมาก่อน ก็เลยขึ้นคอมว่า สะอาด เลยต้องรีบลบกันพัลวัน โรงเรียนสะอาดมาก ๆ ไม่บ้านนอกอย่างที่คิด ห้องโสต ก็ทันสมัยทีโอที

 

บริจาคครับ ดูดีมาก เด็ก ๆ ที่คัดมาสนใจฟังบรรยายวิชาคณิตศาสตร์ดีมาก พร้อมทั้ง ยังช่วยกันทำโจทย์คณิตศาสตร์ ผู้อำนวยการ และ

 

คณะครูให้การต้อนรับดีมาก มีอยู่ตอนหนึ่งเด็ก ๆ กำลังเพลินกับการทำแบบฝึกหัด ผมก็แบบเดิม ๆ สอดรู้สอดเห็น เดินมาดูบริเวณโรงเรียน

 

โอ้โห มีเครื่องเติมเงิน มือถือในโรงเรียนด้วย มีทุกค่ายในเครื่องเดียวกัน เติมได้ตั้งแต่ 5 บาท ขึ้นไป โห ไม่เคยเห็น เราเองเลยต้องเป็น

 

บ้านนอกไปฉับพลัน เสร็จการบรรยาย รีบตรงไปร้านขายเครื่องเขียนของเพื่อน ซึ่งเขาแกงเขียวหวานไก่ ไว้ หนึ่งหม้อ หมมจีน ข้าว และ

 

น้ำพริก พร้อมสรรพ เครื่องเคียง ผักต่าง ๆ มากมาย ก่อนอาหาร ตามธรรมเนียมจีน ผมเจออากงเขา นั่งยิ้ม ก็รีบเข้าไปทักทายเป็นภาษาจีน

 

คำแรกที่เขาถาม ทำให้คิดถึงย่า เสมอ ย่าสอนไว้เรื่อย เราเป็นจีนแต้จิ๋ว มาจามณฑล เท่งไห้ ลำน้ำใหญ่ แซ่แต้ อายุเท่าไร เท่านั้นหละ อากง

 

ยิ้มแก้มปริ เลย ที่เราเข้าไปทัก เสร็จอาหารมื้อเที่ยงรีบไปอีกโรงเรียน ความที่เป็นตอนบ่าย หนังท้องตึง ทั้งนักเรียนและผู้บรรยาย เริ่มหนังตา

 

หนัก ก็เลยต้องเพิ่มมุข ขำ ๆ ให้เด็ก หายง่วง เสร็จงาน แวะมาดื่มกาแฟ สักนิด งีบไปได้คนละ 20 นาที ที่โรงแรม พี่ พี่ ตื่น ไปไหว้ศาล

 

กรมหลวงชุมพร กันครับ พอไปถึง เดินรอบศาล และ ไหว้ท่าน พร้อมกับ อ่านคำบรรยายของท่านทำให้ขนหัวลุกซู่ ในความรักชาติบ้าน

 

เมืองของท่าน ผมอยากให้ใครคนหนึ่ง ซึ่งปากบอกรักชาติ มาอ่านข้อความเช่นนี้บ้าง ผมเห็นนักการเมืองโบราณหลายคน ยกตัวอย่าง

 

ท่านปรีดีย์ พนมยงค์ ท่านอาจารย์ป๋วย อึ้งภากร ท่านไม่เคยติประเทศของเราเลย จนวาระสุดท้าย ท่านไม่เคยทำเพื่อตนเอง แล้วอ้าง

 

ประเทศชาติประชาชนเลย แต่นายคนนี้ เพื่อความสะใจ เพื่อให้ชนะ ประเทศชาติจะฉิบหาย ช่างหัวมัน ผมมาคิดดูดี ๆ ข้อดีเขาก็มีมาก

 

แต่ข้อไม่ดี มากมายจนลบล้างความดีที่ตัวเองเคยก่อไว้หมด เสร็จจากไหว้ศาล ก็แวะมาทานข้าวเย็นเพื่อรีบขึ้นรถไฟ 2 ทุ่ม สังเกต

 

ถนนหนทางชุมพร สะอาด เป็นระเบียบ ตกแต่งร้านค้าต่าง ๆ สวยงาม มีรสนิยม ไม่บ้านนอกเลย ดีกว่า กรุงเทพบางแห่งด้วยซ้ำ แต่ที่

 

ย้ำคือ บ้านเมืองเขาสะอาด งามตา มาก ๆ ผมเจอเด็กผู้หญิง ก็ไม่เด็กแล้ว อายุ 25 ซึ่งมาช่วยเราประสานงานกับโรงเรียน เขาแต่งงาน

 

เร็ว มีลูกชายน่ารัก 1 คน เป็นผูหญิงที่ดูคล่องแคล่วมาก ๆ พูดเก่ง แถมจูงใจ ค้าขายเก่งไม่เบา ทำให้คิดว่า ผู้หญิงยุคนี้ คงเป็นช้างเท้า

 

หน้า ไม่ใช่ช้างเท้าหลังอีกต่อไป เธอมีพรสวรรค์ในการค้าขายมาในสายเลือดเลย เพิ่งมาถามเอาทีหลังว่า จบอะไรมา ถึงได้ถึงบางอ้อว่า

 

เธอจบการตลาด เช่นผม เธอสามารถประยุกต์ การค้าแบบต่าง ๆ กันมาไว้ด้วยกัน คือยิงนกนัดเดียวได้นกสองตัว ประหยัดเวลา แต่ผลที่

 

ได้คุ้มค่า รูปร่างเธอเล็ก ๆ ดูบอบบาง แต่เมื่อได้เห็นถึงความสามารถ ชายอก 3 ศอก อย่างผม ยังอายเลย เมื่อเห็นเด็กสาว อายุ 25

 

ช่างขยันเช่นนี้ เมื่อมาเปรียบกับวัยรุ่นบางคน ในกรุงเทพ ยังแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่เลย หรือ ถึงแม้ทำงานแล้ว เงินก็ยังไมพอใช้ ต้อง

 

ขอเงินเพิ่มจากพ่อแม่อยู่ดี เขาเลือกลงทุน และ มองศักยภาค ในการลงทุน ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด และ ประเมินผลการลงทุนตลอดเวลา

 

คุ้ม หรือ ไม่คุ้ม มีในหัว เธอเสมอ ครับ ขากลับ เราขึ้นรถไฟกันตอน 2 ทุ่ม ถึงกรุงเทพ 6.00 น. ไม่ช้าเหมือนขาไป ค่อยยังชั่ว

 

มาถึงรีบทานข้าวดื่มกาแฟ แล้ว นั่งนอน ตื่นอีก ที 8.00 อาบน้ำอาบท่า แล้วทำงานต่อ นี่แหละหนา มนุษย์ ทำงาน ทำเพื่อไร .......

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 377

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #85 เมื่อ: กันยายน 15, 2009, 04:03:54 pm »

สวัสดีเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ

 

ช่วงหลังมานี้ ผมไม่ค่อยได้เข้ามาเขียนบทความเท่าใด ก็เพราะ ลองหันมาทำธุรกิจอย่างจริงจังอีกครั้ง รวมทั้ง หางานเสริมที่คิดว่า

 

ไม่ต้องเก็งกำไร ไม่ต้องเสี่ยงมาก มาทำ เช่น ขายปลาเงินปลาทองสวยงาม และ ขายรังนกสำเร็จรูป ที่เก็บขนเรียบร้อยแล้ว พร้อม

 

ต้มรับทานได้ รวมทั้งรังนกแห้ง ที่ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการทำความสะอาด และ ก็ลองมองหาลู่ทางขยายธุรกิจ ที่ทำอยู่ ผลออกมา

 

ก็ดีพอสมควร สมัยหนึ่ง ผมมัวแต่เล่นหุ้น เสียเวลาไปหลายปี ก็เคยเล่าประสบการณ์ให้พวกเราฟังกันไปแล้ว ต่อมา ก็เล่นทองคำ

 

แถมติดเว็บงอมแงม ต่อมาก็เล่นทั้งหุ้นและทองคำ รวมทั้งทำธุรกิจส่วนตัว สุดท้าย ไม่ได้ดีสักอย่าง เลยต้องเพลา ๆ การเล่นทองคำ

 

รวมทั้งการเล่นหุ้น จนเหลือ หุ้นบางตัว ที่คิดว่า ไม่ต้องมานั่งซื้อขายทุกวัน และ ยังสามารถได้รับเงินปันผลที่คุ้มค่า ส่วนทอง ก็ไม่เล่น

 

ระยะสั้น ถูก จริง ๆ ถึงจะซื้อ ผมคิดว่า ความถนัดของแต่ละคนต่างกัน เราว่าเราถนัดแล้ว แต่สุดท้ายผลตอบแทน ชักไม่คุ้ม เนื่องจาก

 

ลงทุนสูง เสียสมอง เสียเวลา เสียสังคม ติดเว็บงอมแงมอย่างที่บอกไว้ เบื้องต้น ตอนนี้เลยเริ่มมีความคิดใหม่ว่า จะทำอย่างไร ให้เวลา

 

ที่เสียไป งอกเงยเป็นเงินทอง กลับคืนมา โดยอาศัยประสบการณ์จากการเล่นทองคำ และ เล่นหุ้น เป็นสิ่งเตือนใจ สิ่งที่ผมจะพูดต่อไป

 

มิใช่ ต้องการให้ทุกคนเลิกเล่นหุ้นหรือเล่นทองคำนะครับ เพียงแต่ เล่าเรื่องให้ฟัง ว่า เวลาที่ผมเสียไป แม้มีกำไรบ้าง แต่ไม่คุ้มค่ากับ

 

เงินทุน และ เวลาที่ลงไป ดังนั้น ก็เหมือนกับการขับรถไปข้างหน้า มันก็ต้องมีเบรคบ้าง หรือ เลี้ยวบ้าง สุดท้ายก็คงต้องวกกลับ บ้าง

 

เป็นธรรมดา การลงทุนมีได้ มีเสีย เป็นเรื่องปกติ หากแต่ ต้องแบ่งเงิน หรือ จัดสรรเงิน ผมไม่อยากได้ยินคำว่า ผมเอาเงินทุนที่ผมออมมา

 

ชั่วชีวิต มาลงทุน กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่กล่าวอย่างนั้นก็เพราะว่า คนเราอายุมากขึ้น สมอง และ สติปัญญา ก็ถดถอยลง โอกาสเริ่มต้นก็ถดถอย

 

เช่นกัน จะเทียบกับคนหนุ่มคนสาว นั้นยาก สุดท้ายคงต้องร้องเพลง สุดแต่ใจจะไขว่คว้า สุดท้ายก็จบลงด้วยประโยคที่ว่า ความคิดเห็นเป็น

 

ของผม เงินทองเป็นของท่าน สุดท้ายท่านเป็นคนตัดสินใจเอง ด้วยความเป็นห่วงครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 377

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #86 เมื่อ: กันยายน 17, 2009, 02:11:20 pm »

สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน

 

 

ใกล้วันทีไร ฝนตกทุกที คงไม่ได้คิดไปเองนะครับ 5555555555555 วันนี้ คิดได้เรื่องหนึ่ง ยามที่ผมควักเงินออกจากกระเป๋า

 

ทีไร ทำให้คิดทุกที เช่น สมัยเงินเดือน 5หมื่น เนื้อหมูกิโลละ 60 บาท ต่อมาเงินเดือน 1แสน หมูกิโลละ 80 ต่อมาเงินเดือนไม่มี

 

หันมาทำมาหากิน รายได้ประมาณ 5 หมื่น ถอยหลังลงมา แต่ไง ราคาหมู มันไป กิโลละ 110 - 120 บาทเสียแล้ว เวลาจ่ายเงิน

 

เรามักจะคิดว่า ราคาสินค้าแพงขึ้น รายได้ก็น้อยลงกว่าเก่า ทำอย่างไรดี คำตอบคือ หารายได้เพิ่มขึ้น อะไรเล่าจะเป็นตัวทำให้รายได้

 

เพิ่มขึ้น หลายคนคงคิดไม่เหมือนกัน แต่ อีกหลายคนก็คิดเหมือนกัน คือมองอะไรที่ใกล้ตัว หรือ กระแส แต่แล้วต้องมองกลับไปว่า

 

การลงทุนตามกระแส แล้วผลตอบแทนที่ได้ ได้กันจริง ๆ หรือ บ่อยครั้งจากประสบการณ์ หรือ ได้ยินได้เห็นมา คือ ส่วนใหญ่แล้ว

 

เริ่มต้น มักมีกำไร แต่ทำไปทำมา ทั้งต้นทั้งกำไร มันเอากลับไปในพริบตา ก็มีมากมายครับ คนเราก็แปลกแต่จริง ยามที่ขาดทุน

 

มักบ่นมักเจ็บใจ แต่ยามมีกำไร กลับลืมความหลังเสียสิ้น แม้ว่า รายได้เราจะถดถอยน้อยลง แม้ว่าสินค้าต่าง ๆ ราคาจะแพงขึ้น

 

ผมมักบอกเด็ก ๆ ที่ถามผมเสมอว่า แก้ได้ไม่ยาก เรื่องแรกคือ หารายได้เพิ่มขึ้น เรื่องต่อมา หากหารายได้เพิ่มไม่ได้ ก็ควรลด

 

ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก ผมมองกลับไปในอดีต ตอนก่อร่างสร้างตัวใหม่ ๆ เรามักทำบัญชี สำหรับครอบครัว คือ บัญชีรายรับ

 

รายจ่าย และ เมื่อสิ้นเดือน เราจะมานั่งดูว่า รายได้มากกว่ารายจ่ายอยู่เท่าไร รายจ่ายไหนควรลด จะเพิ่มเงินออมอย่างไร

 

น้องคนหนึ่ง ตอนนี้ หลังจากหันหลังให้การลงทุนตามกระแส เขาเล่าว่า เขาได้ลงทุนในกิจการเล็ก ๆ สองอย่าง อย่างแรก

 

เขาคุมเอง อย่างที่สองให้คุณแม่คุม ปรากฎว่า กิจการของเขา ประสบความสำเร็จ ดีวันดีคืน ส่งอีเมลมาเล่าให้ผมฟังว่า

 

การลงทุนมีหลายอย่าง อย่างที่ผมเคยกล่าวไว้ หากแต่ ความชำนาญของแต่ละคนต่างกัน จะเอามาเป็นเกณฑ์ หรือ เป็น

 

มาตรฐานเดียวกันไม่ได้ พักหลังผมเขียนบทความชักวนไปวนมา แต่เพื่อให้คิด และไม่อยากกระทบจิตใจใคร ก็เลยอาจดูวกวน

 

แต่จุดประสงค์ก็คือ ไม่แค่คิดหารายได้เพิ่ม ต้องคิดลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง เมื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง ก็คงไม่ต้อง

 

กระเสือกกระสนหารายได้เพิ่ม แต่ก็ไม่ได้ว่า การหารายได้เพิ่มนั้นไม่ดี ทำไม่ได้ แต่ต้องดูความถนัด กลัวจะเป็นการดิ้นรนแบบ

 

ยิ่งดิ้นยิ่งจมในบ่อโคลนดูด ในโลกกลม ๆ ใบนี้ ยังมีอะไรอีกมากมาย ที่เราไม่เห็น ไม่ว่าด้วยตาเนื้อ หรือ จากจิตใจ คนเราส่วนใหญ่

 

พอมุ่งมั่นอะไร ก็จะลืมมองสิ่งอื่น ๆ รอบข้าง ทำให้เสียโอกาส ยกตัวอย่างนะ คนเรา ยามหนุ่มสาว หากกำลังมีความรัก หรือ มีแฟน

 

ไม่ว่าผู้ชาย หรือ หญิง จะไม่มองคนอื่น ๆ อีกเลย สวยแค่ไหน หล่อแค่ไหน สู้แฟนฉันไม่ได้หรอก แต่เมื่อมีอันเลิกรากันไป จะพบว่า

 

ตาสว่างขึ้นอีกเยอะ การลงทุนก็เช่นกัน ผมก็ไม่อยากมาเขียนว่า มีการลงทุนมากมาย ที่เราคิดไม่ถึง หากแต่ ถ้ายังไม่ใช่จังหวะ ไม่

 

ใช่โอกาส หรือ ไม่เหมาะสมกับเรา ดิ้นรนไป ก็มีแต่จะเปลืองทรัพย์สินเงินทอง ที่อุตส่าห์ บากบั่น หามา หรือ สั่งสมมา ผมเตือนตน

 

เสมอว่า มีคนกำไร ก็ต้องมีคนขาดทุน ไม่มีใครกำไรหมด ไม่มีใครขาดทุนหมด ต้องมี ทั้งสองอยู่คู่กันเสมอ การดำเนินชีวิต หรือ

 

วางแผนลงทุนใด ๆ ไม่ใช่ว่าจะต้องเอาชนะคะคาน หากประเมินดูแล้ว ไปไม่รอด ก็เลิกเสีย เหมือนคนหนุ่มทำงาน ทำไปแล้วไม่ก้าวหน้า

 

เราจะเป็นเสมียนไปตลอดชีวิตหรือ ก็หาไม่ ก็คงต้องหางานใหม่ ที่ก้าวหน้าทำกัน แต่สิ่งหนึ่ง ที่ ไม่รอคอยเราเลย คือเวลาที่ผ่านไป

 

และก็อีกเวลา ทำให้เราสั่งสมประสบการณ์ ทำให้เราแข็งแกร่ง ขึ้น คนเราจะก้าวหน้าได้ ต้องไม่หยุดอยู่กับที่ ต้องคอยประเมินสถานการณ์

 

ของตัวเอง วางแผนให้ชีวิต อย่าปล่อยให้ กระแสมาเป็นนายเรา ผมพูดรวม ๆ นะครับ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนใด ๆ มักมีความเสี่ยงแอบแฝง

 

เสมอ ๆ เราอย่าประมาท คิดว่าอะไรง่ายไปหมด หรือ โอกาสจังหวะยังไม่มาถึง ก็อย่าฝืน อย่าเอาชนะคะคาน ตัวผมเองก็ไม่ได้เก่งกาจมา

 

จากไหน บางครั้ง ก็เจอกับตัวเอง ก็มาเล่าสู่กันฟังครับ ก็มีทั้งที่ชอบและไม่ชอบ ที่ไม่ชอบ ผมก็ขออภัยเสมอมาครับ ว่าง ๆ จะมาเขียนใหม่

 

ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 377

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #93 เมื่อ: กันยายน 21, 2009, 09:45:39 am »

สวัสดีครับทุกท่าน

 

วันนี้ ผมก็มีเรื่องสั้นมาเล่าอีกสักสองสามเรื่องครับ หวังว่าอ่านไปแล้ว จะ สะท้อนภาพบางอย่างนะครับ

 

วันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดผม หากแต่ ผมวางแผนว่าจะไปทำบุญตักบาตรตอนเช้า แต่คิดไปคิดมา ตื่นสายสักวัน

 

เช้าวันเสาร์ ผมก็ทำทุกอย่างเหมือนเดิม คือไปจตุจักร แบบทุกครั้ง แต่วันนี้ ตั้งใจว่า จะคิดอะไรบางอย่าง ก็เลยนั่ง

 

รถไฟฟ้า ไป เมื่อไปถึง ก็สังเกตุว่า ทุกวันนี้ตลาดนัดของเรา ชักสกปรก รถไม่ออกจากตลาดนัด แต่เช้าเหมือนเดิม

 

ก็เลยถามเทศกิจ ว่า ทำไมให้รถอยู่ในตลาดนานนัก เขาว่า อนุโลมให้ออก ถึง 12.00 น. ซึ่งเคยจำได้ว่าไม่นาน

 

มานี้เขาประกาศให้รถออกให้หมด ก่อน 11.00 น. แต่ในอดีต ที่เริ่มจริง ๆ 10.00 น. ก็ไม่มีรถราแล้วครับ

 

ก็มานึกว่า ปัจจุบันตลาดนัด คนมาเดินเช้ามาก โดยเฉพาะ คนต่างชาติ ที่กลัวร้อน จะมาเดินกันแต่เช้า 10.00 น.

 

ก็มาเดินกันเต็มแล้ว คิดไป คิดมา ทำไรได้ ก็แค่ 1 เสียง เราไปบอกเขาแล้ว ก็แล้วกันไป เมื่อเดินไปสักครู่ ตาไป

 

สะดุดกับพ่อลูกคู่หนึ่ง ผมเห็น มา 3 ปี แล้ว เด็กผู้หญิง สมัยนั้น แค่ 3-4 ขวบ มาร้องเพลงกับพ่อ พ่อดีดกีต้าร์ ลูกร้อง

 

เพลง แลกกับเศษเงิน วันแล้ววันเล่า จนมาวันนี้ เขาก็ยัง มาร้องเพลง ประสาพ่อลูก เด็กก็โตขึ้น แต่สังเกต เด็กผู้หญิง

 

คนนี้ ตาเศร้า ๆ แต่ไม่ซนนะ ก็ร้องเพลง หาเงินกับพ่อ สองคน ผมอดไม่ได้ ก็หยอดตังให้เขาตามเคย เด็กหญิง เอ่ยคำว่า

 

ขอบคุณคะ แค่นี้ ผมก็อิ่มใจแล้ว สะท้อนอะไรบางอย่างให้ผมคิด เด็กหญิงคนนี้ ช่วยพ่อหาเศษเงิน จากคนบริจาค แม้ไม่

 

มากมาย แม้อากาศจะร้อน แค่ไหน เด็กไม่เคยบ่น แต่ ในตาเศร้าหมอง ผมเห็นแล้วสะท้อนใจ อายุแค่นี้ แทนที่ได้เล่น

 

ได้เที่ยวตามประสาเด็ก สะท้อนให้เห็นอีกภาพหนึ่ง ลูกสาวผู้มีอันจะกินท่านหนึ่ง ก็ช่วยพ่อเช่นกัน ไปให้การในชั้นศาล

 

เธอทั้งสองไม่แตกต่างกันเลย คือ กตัญญู แต่ภาพที่ผมประทับใจกว่า คือภาพพ่อลูกร้องเพลงหา สตางค์ที่จตุจักร ครับ

 

บ่าย ๆ ระหว่างเดินเล่น เห็น สุนัข มีตระกูลตัวหนึ่ง อดีต คงน่ารัก แต่ปัจจุบัน มันแก่มาก เลยนึกขึ้นมาว่า ยามมันน่ารัก

 

มันอยู่ในบ้านอันอบอุ่น มีอาหารกิน มีคนอาบน้ำให้ เจ็บป่วย มีคนพาไปหาหมอ แต่เมื่อมันหมดวามน่ารัก คือแก่ตัวลง

 

มันก็หมดค่า เจ้าของคงเอามันมาปล่อย หรือ ถ้าคิดให้ดี มันอาจหลงมาก็ได้ สิ่งที่ผมเห็นประจำคือ สุนัข จรจัดมือใหม่

 

บางตัว หากินเองไม่ได้ คุ้ยขยะไม่เป็น อ่อนด้อยประสบการณ์ คือ ไม่เคยเป็นสุนัขจรจัดมาโดยกำเนิด และ กว่ามันจะ

 

ปรับตัวเข้ากับสุนัขจรจัด ตัวอื่น ๆ ได้ วัน ๆ มันวิ่งเตลิด ด้วยความกลัว ด้วยความไม่เคยชิน บางวัน มันโดนรุมกัดจาก

 

สุนัขเจ้าถิ่น กว่า มันจะปรับสภาพได้ บาดแผลก็เต็มตัว เหมือนคนเรา ยามรุ่งเรือง ทุกส่งทุกอย่างย่อมสมหวัง แต่วันหนึ่ง

 

เมื่อสิ้นอำนาจ สิ้นวาสนา ก็ไม่ต่างจากสุนัขจรจัด เลยครับ

 

เช้านี้ ขณะเปลี่ยนน้ำปลา เห็นจิ้งจก มันคงหาแมลงไม่พอ กะเพาะ ของมัน มันดอดมากินอาหารปลา ที่ผมโรยไว้ ในอ่างปลา

 

อาหารหอมอันโอชะ แต่ต้องแลกมาด้วยความอันตราย มันตกน้ำ เพื่อแลกกับอาหาร ผมเห็นแล้ว สงสาร ต้องเอามาปล่อยไว้

 

นอกอ่าง อาหารอันโอชะหนอ อาจต้องแลกมาด้วยชีวิต หากเพลี่ยงพล้ำ ส่วนจิ้งจกอีกตัว มันฉลาด ผมลดน้ำต้นไม้ทีไร มันวิ่ง

 

มากินแมลงทุกที จิ้งจกตัวนี้ฉลาด เวลาลดน้ำต้นไม้ แมลง ที่อยู่ใต้ดิน จะมุดออกมา มันเพียงแต่ เกาะบนโคนต้น รอแมลงวิ่งขึ้นมา

 

แล้วมันก็จับกินอย่างเอร็ดอร่อย ปลอดภัย ไม่เหมือนจิ้งจกตัวแรก ผมยังมีเรื่องทำนองนี้มาเล่าอีกมากมาย

 

 

วันนี้ เล่า เล่น ๆ อ่านไปคิดไป แล้วอาจคิดว่าผมนี่ช่างประชดประชันจัง จริง ๆ แล้วเปล่าเลย เพียงแต่เขียนให้ข้อคิด นะครับ

 

ลืมไปครับ เรื่องสำคัญไม่ได้เล่า วันเสาร์ ผมก็เลยทำบุญด้วยการบริจาคโลงศพให้วัดพระบาทน้ำพุ เห็นหลวงพี่ท่านแล้ว

 

ก็นึกถึงว่า ใครมีหน้าที่ ใครทำหน้าที่ แต่สุดท้าย พระ ที่ ผู้คนไม่ว่ายุคใดสมัยใด ก็ยังเป็นที่พึ่งพา วัดและพระ เป็นที่พึ่งพา

 

ของสัตว์โลก ทุกตัวตน ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 377

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #95 เมื่อ: กันยายน 22, 2009, 02:22:56 pm »

สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน

 

ผมเลี้ยงสุนัขไว้ สองตัว ตัวแรก พันธุ์ ยอร์คเชียร์เทอเรีย ตัวผู้ อายุ 10 ปี ตาบอดไปแล้ว แต่ดมกลิ่นเก่ง เดินชนโน่นชนนี่

 

แต่มันก็ยังพยายามเดิน อาศัยดมกลิ่น ฟังเสียง และ ความชำนาญ ชื่อโดมอน (รูปหล่อมาก ๆ ) อีกตัว ตัวเมียอายุ 4 ปี

 

ยังสาวสะพรั่ง ชื่อมีมี่ ผมพาไปหาสัตวแพทย์ แถวทองหล่อ ทีไร ญี่ปุ่นถาม ชื่อไร ผมบอกมีมี่ เขาว่า มันชื่อเหมือนญี่ปุ่น ผม

 

เลยได้แต่ยิ้ม บอกว่า ตอนมันเล็ก ๆ ตามันหยี เลยตั้งชื่อญี่ปุ่น ญี่ปุ่นสงสัย ตาหยี คือไร ก็เลยตอบว่า ตรงกันข้ามกับตาโต

 

สุนัข ทั้งสอง ปรองดองกันมาก ไม่เคยกัดกัน ไม่เคยแย่งอาหารกันกิน หยอกล้อกันบ้าง ตามประสาหมาประเทศเดียวกัน

 

เอ๊ย ตามประสา สุนัข บ้านเดียวกัน มันจะเห่าเมื่อมีคนแปลกหน้ามา เท่านั้น ส่วนถ้าเป็นคนในบ้าน มันรู้จักคุ้นเคยดี เจ้าตัว

 

เมีย มีมี่ เป็นสุนัขที่ฉลาด ถ้าอาบน้ำเสร็จทีไร มันจะเดินตามไปทุกที่ คือ ขอออกไปเที่ยวด้วย มันรู้มาก อาบน้ำสะอาด

 

อย่างแรกคือ วิ่งไปอวดตัวกะทุกคน ว่า ตูข้านี้ สะอาดแล้ว จับสิ ลูบสิ ประจบประแจง เป็นที่หนึ่ง คือ ทำตัวน่ารัก สงสัย

 

ว่า คนเลียนแบบมัน หรือ มันเลียนแบบคน 55555555 บางครั้งผมไม่ให้มันไปด้วย โดยบอกว่า ไม่ให้ไป เฝ้าบ้าน มันจะ

 

เดินช้า ๆ อ้อยอิ่ง เข้าไปในกรง นั่งลงแบบเรียบร้อย พยายามสบตาผม หรือ ทำตาละห้อย พยายามแล้ว พยายามอีก จน

 

บางครั้งผมต้องใจอ่อน พามันไปด้วย เวลาขึ้นรถ มันรู้ว่า จะต้องนั่งทางไหน เวลารถออก จะหมอบนิ่ง หากมีใครนั่งไปกะ

 

มันด้วย มันจะชูคอ มองโน่นมองนี่ แต่ถ้า ผมขับไปกะมัน ตัวเดียว ไม่ใช่คนเดียว นะ มันจะนั่งอย่างสงบ เพราะไม่มีใครจับ

 

มันไว้ เวลาเบรค มันเคยหล่นจากเบาะแล้ว มันก็เลยจำ คือ เจ็บแล้วจำ อันนี้ มันดีกว่าคนนะ คนเราบางทีเจ็บแล้วไม่เคยจำ

 

ส่วนอาหารที่ให้ ก็แบ่ง เป็น 2 ถ้วย มันจะจำถ้วยตัวเองได้ ไม่แย่งกัน ถ้วยใครถ้วยมัน หากอีกตัวกินเหลือ มันก็จะช่วยอีก

 

ตัวกิน เสมอ ไม่เคยแย่งอาหารกันเอง ไม่เคยกัดกัน ไม่เคยเห่าใส่กัน อันนี้แหละแปลกแต่จริง สมควรที่มนุษย์จะเอาอย่างมัน

 

มันมีความพยายามเสมอ บางที ผมไม่ให้มันไปด้วย มันจะคอยติดตาม ครั้งแล้วครั้งเล่า ต้องมีสักครั้งน่า ที่ผมใจอ่อน มันคงคิด

 

และอ่านใจผมออก มันก็เลยมีความพยายาม ต้องมีสักครั้งที่สำเร็จ อันนี้ก็อีก ทำไม่คนอย่างเรา ๆ ไม่เอาอย่างมัน นะ มันกิน ก็

 

พออิ่ม มันไม่เคยคาบไปซ่อน หรือ ไปตุน ไว้ในกรง พอกินอิ่ม มันก็จากชามไป เฮ้อ สุนัข หนอ สุนัข ยามเรานอน มันก็มาหมอบ

 

ใกล้ ยามเราตื่น มันก็มาพะเน้าพะนอ ยามเราโกรธ มันรีบเดินเข้ากรงนอนสงบ เอาตัวรอด มันไม่เคยก่อความรำคาญ แต่ความ

 

น่ารักของมัน นี่สิ สุนัข หนอ สุนัข มันก็คงคิด เหมือนกัน กะคนนะ มนุษย์ หนอ มนุษย์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 377

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #96 เมื่อ: กันยายน 23, 2009, 09:03:16 am »

สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน

 

เป็นอีกวันหนึ่ง ที่ ผมรู้สึกหดหู่ใจกับข่าวทางทีวี ช่อง3 เรื่องข่าวการตบตีกันของนักเรียนหญิง ด้วยเรื่องแย่งผู้ชาย

 

ผมคงไม่ตัดสินหรือ กล่าวหาว่า เด็กเป็นฝ่ายผิด เรื่องนี้ เกิดขึ้นมานาน หากสังคมไม่ได้ใส่ใจ และ ส่วนหนึ่งเกิดจาก

 

สมัยก่อนไม่มี โทรศัพท์มือถือถ่ายรูป หรือ ถ่ายคลิปวิดีโอ ได้ ผมคิดว่า สื่อ ต่าง ๆ ในปัจจุบัน และ ผู้ใหญ่ เจ้าของสื่อ

 

มุ่งหวัง ผลกำไร จากการประกอบธุรกิจ จนเกินไป เช่นละครทีวี น้ำเน่า ต่าง ๆ ที่มีฉากตบตี กัน สนั่นจอ เสียกรีดร้อง

 

เหมือนเปรต ขอส่วนบุญ ขอให้สะใจคนดู เรตติ้งเยอะ ๆ จะได้ค่าโฆษณา งาม ๆ ผู้จัดการละครบางท่านก็ไม่รู้ว่าจะนับ

 

เป็นเพศไหน ส่วนหนังสือพิพม์ หลายฉบับ นิตยสาร หลายฉบับ ล้วนประโคมข่าว ชู้สาวของดารา กิ๊ก บ้าง เลิกรากันบ้าง

 

เนอสเซอรี่ บ้าง เลยกลายเป็นค่านิยมของเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสา เอาเป็นแบบอย่าง ปัญหาร้ายแรงที่กำลังตามมาก็คือ

 

เด็กเหล่านั้น ยังไม่รู้หรอกว่า เสพติด ภาพต่าง ๆ สื่อต่าง ๆ เข้าไปจนพอ ๆ กับ เสพยาบ้าเสียแล้วครับ ที่ผมบอกว่า เสพติด

 

เนื่องจาก กระแส สังคมขณะนี้ มันแรง หากเรายืนอยู่ในสังคม แล้ว ไม่รู้ข่าวคราว หรือ กระแส ต่าง ๆ เราจะเป็นคนล้าสมัย

 

ดังนั้น นายทุน และ ผู้ประกอบการ บางราย ไม่ได้สนใจหรอกว่า ความเสียหายของสังคมที่เกิดขึ้นขณะนี้ ตนเองก็มีส่วน

 

ขอมีกำไร เข้ากระเป๋า ขอได้เสพสุข ก็พอแล้ว ผมเองขณะหนึ่ง ยังยอมรับเลยว่า เสพติดสื่อบางอย่าง การลงทุนบางอย่าง

 

แต่บัดนี้ ตาสว่างแล้วครับ อีกเรื่องที่น่าหนักใจ คือ เพศที่ 2,3,4, ผมเคารพสิทธิ์ของเขาเหล่านั้น นะครับ หากเขาเหล่า

 

นั้นอยู่กันอย่างสงบสุข ไม่สร้างกระแส ไม่สร้างข่าว แม้แต่ภาพยนต์ บางเรื่อง ก็เอาพล๊อต ชีวิต เขาเหล่านั้นมาสร้าง และ

 

ก็กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูง ก็สิทธิ์ ของเขาอีกนั่นแหละ ผมคงไม่ละเมิดสิทธิ์ ไปวิจารณ์อะไรมากมาย หากแต่ ให้คำนึงถึง

 

ผลที่จะกระทบจากสังคมบ้าง ถ้าหากสังเกตให้ดี ขณะนี้ ซีรีย์ เกาหลี ไต้หวัน ได้เข้ามาจองพื้นที่ จอทีวี เรา มากมาย เพราะ

 

อะไร ครับ ผมคงไม่พูดมากไปกว่านี้ บางครั้ง คนในสังคมบางกลุ่ม ซึ่งเป็นเพศ พิเศษ มักกลบเกลื่อนตัวเอง ด้วยการ คบหญิง

 

คนนั้น คบหญิงคนนี้ เพื่อให้ตกเป็นข่าว กลบเกลื่อนตัวเอง ซึ่ง มีหลายคนถึงขั้นแต่งงานกับเพศหญิง บางคู่ก็อยู่กันรอด จน

 

ลูกเป็นหนุ่มเป็นสาว บางคู่ แต่งงานไปไม่ทันไร ฝ่ายหญิงทราบเข้า หย่ากันไปก็มากมาย สรุป เลิกเถิดครับ หากไม่แน่ใจว่าตัว

 

เองเพศอะไร อย่าทำลายเพศหญิง ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยเลย หากสังเกต ในอดีต ดาราไทย เช่น คุณสมบัติ เมทะนี และ อีก

 

หลายท่าน ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดี ของสังคมไทย มีชีวิตครอบครัวที่ พร้อมสมบูรณ์ ดาราสมัยเก่า ๆ ไม่ค่อยมี ข่าว คาว ต่างๆ

 

อันนี้ น่าเป็นตัวอย่างที่ดี นะครับ เห็นคลิปสาว ๆ ตบกัน แย่งผู้ชาย เลิกเถิดครับ ศักศรี ลูกผู้หญิงไปไหนหมด หากผมเป็นผู้ชาย

 

แล้วมีใครมาตบตีกันแย่งผม ผมไม่เอาทำภรรยาเด็ดขาด หนุ่ม ๆ อ่านแล้วเอาไปคิดกันนะ ว่า ตัวเองเป็นต้นเหตุให้เขา ตบตีกัน

 

หรือไม่ ผมว่า ต้นเหตุน่ามาจากหนุ่ม ๆ หลายใจ ครับ ก็ขอออกความเห็นตามประสาคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งเห็นว่า สังคมไทย มัน

 

มากเกินไปเสียแล้ว หากมากไปในทางดี จะไม่ออกมาวิจารณ์ให้เมื่อยหรอกครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 377

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #98 เมื่อ: กันยายน 24, 2009, 11:08:09 am »

สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

 

 

เท้าความเดิม เจ้าโดมอน สุนัขของผม อายุ ราว 10 ปีแล้ว ความที่มันตาบอด แต่ใจยังสู้ มันใช้หูฟัง และ จมูกดม แต่กระนั้น

 

มันก็ยังชนถูกเก้าอี้บ้าง เตียงบ้าง ก็คงเจ็บ ครับ บางครั้งมันวิ่งเร็วไปหน่อย หัวกระทบเตียงไม้ ดัง โป๊ก ก็อดสงสารมันไม่ได้

 

เมื่อมาเทียบเคียงกับคน ผมเองสักวันก็คงแก่เหมือนมัน แต่ยังได้เปรียบตรงที่ ผมมีลูกหลาน คอยดูแล ดูเหมือนเจ้าโดมอน

 

ของผม มันจะไม่ได้ฝ้าฟางอย่างเดียว มันยังฉี่บ่อย ผมเลยนึกถึงอาการของคนคือ ต่อมลูกหมากโต เจ้าโดมอน มันก็คงเป็น

 

ระยะหลังมันฉี่ไม่สุด แต่แปลกนะ แม้มันจะตาบอด ย้ำนะ แต่มันยังพยายามใช้จมูกดมกลิ่น ใช้หูฟังเสียง แต่คนตาดี ๆ บางครั้ง

 

อะไร ไม่รู้ไปบดบัง ทำให้ ตาบอด ก่อนวัยอันควร เรื่องแล้วเรื่องเล่า ประดังเข้ามา เรามัวแต่ทะเลาะกันเองไม่ได้หยุดหย่อน

 

ก็เพราะคน คนเดียว ที่เป็นต้นเหตุ บางครั้งผลประโยชน์ ที่คนบางคน บางกลุ่มได้รับ โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศ

 

ชาติ และ ประชาชนโดยรวม ผมไม่รู้หลอก ว่า ลึก ๆ แล้วเป็นเช่นไร แต่คนตาดี ๆ กลับสู้เจ้าโดมอนของผมไม่ได้เลย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 377

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #100 เมื่อ: กันยายน 28, 2009, 09:00:30 am »

สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน

 

ก่อนอื่น ขอบคุณ คุณซายอง ที่เข้าใจ ผมสอดแทรกอะไรไว้ในเรื่องสั้นเสมอ แต่ผมอาจเป็นนักประพันธ์ ไส้แห้ง คือไม่เคย

 

ขายบทความของตนเอง หรือ รับจ้างเขียน รับจ้างเชียร์ หรือ รับจ้างอย่างที่นิยม ทำกันอยู่ เป็นอาชีพใหม่ ซึ่งต่อ ๆ ไป ประชา

 

ชนทั้งหลาย จะรู้ว่า อาชีพนี้ รวยเร็ว แม้จะขัดต่อ ศีลธรรม อันดีงาม แต่ก็เป็นที่นิยม เพราะทำให้รวยเร็ว หรือ รวยรัดครับ

 

 

วันนี้ผมมีบทความที่คิดก่อนนอน เสมอ ๆ มาเล่าให้ฟังครับ ความคิดของผมก็คือ

 

 

คนเรานะครับ สะสมเงินทองเสียมากมาย แต่ยามทุกข์ยามโศก เงินทองที่สะสมมาไม่เคยช่วยให้เขา

 

พ้นทุกข์ พ้น โศกได้เลย ตรงกันข้าม

 

คนเรา หากสะสมความดี สะสมบุญ ไม่สร้างกรรม ยามทุกข์ยามโศก ความดี และ บุญที่สั่งสมมาสามารถ

 

ช่วยให้พ้นทุกข์ พ้น โศกได้

 

วันนี้เรื่องสั้นจริง ๆ ครับ คนอ่านก็ไม่ต้องอ่านมากให้ปวดตา ผมก็เขียนแบบพื้น ๆ อ่านแล้วเข้าใจโดยง่าย

 

แต่หากไม่เข้าใจ ผมก็คงนึกถึง บัว 4 เหล่า ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 377

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #101 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2009, 09:22:08 am »

สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน

 

วัน เดือน ปี ไม่เคยคอยใครจริง ๆ นับเวลาที่ผมเข้ามาเขียนข้อความ ตั้งแต่เว็บสมาคมผู้ค้าทองคำ จนมาถึง เว็บของคุณกำพล กะ

 

เฮียเน้าส์ (สหายรัก) พบว่าเวลาล่วงเลยไปเร็ว มาก ๆ ผมผ่านอุปสรรค ผ่าน ปัญหา ผ่าน ความไม่พออก พอใจ ของคนบางคน

 

มามากต่อเนื่อง แต่ท้ายสุด ความเข้าใจ ก็กลับคืนมาอีกครั้ง แม้ใช้เวลา จนขณะนี้ ก็คงเหลือ ไม่กี่คน ที่ยังถือฑิฐิ หรือ อะไรก็ตาม

 

ซึ่งผมคงไม่เอามาเป็นอารมย์ จากการสังเกต เด็ก ๆ สมัยนี้ มีพัฒนาการเพิ่มขึ้น มีความคิดที่ดี แต่ติดที่ใจเร็วไปหน่อย หรือ ใจใหญ่

 

ไปหน่อย การลงทุนใด ๆ ก็ตาม ควรลงจากน้อย หรือ สร้างพอร์ตจำลองในการลงทุน โดยยังไม่ต้องลงเป็นตัวเงิน จากนั้นอาจต้อง

 

มีการประเมินผล และดูความเหมาะสม ดูความถนัด คนเราถนัดไม่เหมือนกัน การเอาแบบอย่าง อันนี้ น่าเป็นห่วง จากนั้น อาจลงทุน

 

จริง ในวงเงินน้อย ๆ ก่อน สิ่งที่เป็นห่วงก็คือ หลายคนมีงานประจำ จะเป็นลูกจ้างก็ดี จะเป็นเจ้าของกิจการก็ดี อันนี้ ต้องอย่าละเลย

 

งานประจำ หรือ ทำให้งานประจำเสีย ก็อย่างที่บอกเสมอ หากทุกคนมีกำไร ใครเล่าขาดทุน บางคนออกมาสบประมาทผมว่า ไม่ประ

 

สบผลสำเร็จในการเล่นทองคำ หรือ โง่ บ้างก็ตาม อันนี้อาจเป็นข้อมูลที่คาดเคลื่อนจากความเป็นจริง การประเมินคนที่ไม่เคยรู้จักมักคุ้น

 

หรือการสรุป ด้วยความคิดแบบอคติ หรือใด ก็ตาม ผมว่า ............. จากนี้ไป คนที่เกษียณอายุอย่างจริงจัง หรือ รีไทร์ก่อน

 

วัยอันสมควร ซึ่งบุคคลประเภทหลังนี้ น่าเป็นห่วงที่สุด เนื่องจาก บางท่านอาจเคยเป็นผู้บริหาร บางท่านเคยทำงานในตำแหน่งหน้าที่การ

 

งานที่ดี เงินเดือนดี แต่ การงานสะดุดหยุดลง ซึ่งผมเคยประสบมาก่อน 10 ปี แล้ว จึง ปรับตัวได้ค่อนข้างดี ไม่ได้ชมตัวเองนะครับ

 

ผมทำงานหนักมาตลอด จนส่งเสียลูก ๆ จนสำเร็จ เกือบหมด แล้ว รายจ่ายจึงน้อยลง แต่สิ่งที่ผมพึงสังวรณ์ เสมอ คือ ทำอย่างไร

 

ให้เงินสะสม หมด อย่างช้า ๆ ทำอย่างไรให้มีรายได้เพิ่ม ไม่ว่าจะ สมัครทำงานใหม่ สร้างบริษัทด้วยตัวเอง ขายสินค้า ในที่สุดพบว่า

 

เงินที่สะสมมา ร่อยหรอ พอสมควรเนื่องจากเราคงต้องยอมรับความจริงว่า รายได้เราไม่เท่าเดิม ดังนั้น การคิดทำธุรกิจ หรือ การค้า

 

จึงผุดขึ้นมาในสมองเสมอ ๆ ในที่สุด ผมพบความจริงที่ว่า การลงทุนทำธุรกิจ หรือ ทำงาน เป็นการหารายได้อย่างแท้จริง การเล่นหุ้น

 

หรือ ลงทุนทองคำ ไม่ว่าในรูปแบบไหนก็ตาม เป็นเพียง ความคิดแบบง่าย ๆ ของคนที่ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว หรือ เกษียณอายุ อย่างแท้

 

จริงแล้ว แต่หาก คนเรายังอยู่ในวัย 50 ต้น ๆ ผมว่า ยังมีเวลาทำมาหากิน ได้อีก อย่างน้อย 10 ปี แต่หากประสบความสำเร็จ อาจทำได้

 

ยาวนานกว่านั้น หากเป็นธุรกิจส่วนตัว การเก็บตัว หรือ หาเพื่อนสนิทมิตรสหาย หาก ผิดวิธี เราจะสูญเสียเวลาไป โดยเปล่าประโยชน์

 

อย่างที่ผมว่า เก่าไปใหม่มา ผ่านไป แล้ว ก็ผ่านมา อารมณ์ก็สำคัญ หลายคนหงุดหงิด เคยทำงานประจำ เคยมีลูกน้องห้อมล้อม เคยมี

 

เป้าหมายในใจ แต่ เป้าหมายในใจสะดุดหยุดลง แต่บางคนระยะเริ่มต้นอาจโชคดี ในการเสี่ยงลงทุน แต่ผมว่านะ จะจีรัง หรือไม่ ผมคง

 

ไม่ตอบแทนเขาเหล่านั้น เพราะทุกชีวิต มีอิสระ ในการเลือกทางเดินชีวิต ผมเพียงเล่าประสบการ แต่ไม่หวังให้ใครเชื่อผม ผมคิดว่าทุกคน

 

มีความคิดเป็นของตัวเอง สิ่งที่ห่วงที่สุดคือ การเข้าครอบงำความคิดบุคคลอื่น การให้คำแนะนำใด ๆ ผมก็ห่วงเป็นที่สุดเนื่องจากอย่างที่

 

กล่าวข้างต้นว่า คนเรามีความถนัดไม่เหมือนกัน ดังนั้น ต้องค้นหาความถนัดของตนเอง ผมก็คงไม่มีเวลามาเขียนเล่าเรื่องได้มากขึ้น

 

หลัง ๆ มานี้ ผมมีเวลา ก็อาจเข้ามาพูดเล่นใน แช็ตบ๊อก แต่ผมก็ซ่อนเนื้อหา วิชาชีพ ต่าง ๆ ไว้เสมอ และก็อย่างที่บอก คนเรา ไม่จำเป็น

 

ต้องมีความเห็นเดียวกัน แต่ก็ ไม่มีความจำเป็นต้องขัดแย้ง หรือ โกรธ เกลียด ใด ๆ เลย มันเปล่าประโยชน์ ต่างคนต่างความคิดเห็น

 

ไม่พอใจกัน ก็ต่างคนต่างคุย ผมอายนะครับ ที่ จะต้องมานั่งทะเลาะกันเอง ยอมรับว่า บางครั้งก็ยากทำใจ เนื่องจากยังเป็นปุถุชน

 

แต่เมื่อ รู้ตัว ก็พยายามปรับ อารมย์ ให้คงที่ขึ้น หากเราตกเป็นทาสอารมย์ ไป เรื่อย ๆ ผมว่า ตัวเราจะหนักขึ้น ชักออกนอกเรื่องแล้ว

 

เข้าเรื่องต่อ นะครับ หลายวันมานี้ ผมเห็นเด็กหนุ่มเด็กสาว บางคนเดินทางไปต่างประเทศ บางคนไปพาหุรัด บางคนไปห้างสรรพสินค้า

 

แฟชั่น ดัง ๆ หาซื้อสินค้า แล้วนำมาวางขาย บ่อยครั้งกลางคืน หน้าสถานีรถไฟฟ้า มาบุญครอง เจเจ วันเสาร์อาทิตย์ เห็น เขาเหล่านั้น

 

มาค้าขาย เห็นแล้ว ปลื้มครับ คือเขาเหล่านั้น หันมารับผิดชอบหาเงินเอง อาจต้องการช่วยผู้ปกครอง หรือ ต้องการหารายได้เพิ่ม เพื่อเอา

 

ไปทำอะไรก็ตาม แต่เป็นวัฒนธรรม ที่ดี ครับ แต่ก็มีบางส่วนมัวเมาในอบายมุข ยามคำคืน สิ่งที่ผมกลัวและเห็นคือ วันไนท์สแตนด์

 

ซึ่งมีทั้ง หนุ่ม สาว ตุ๊ด แต๋ว ต่าง ๆ อันนี้ วัฒนธรรมที่ไม่ดี ที่ยกตัวอย่างมานี้ คือ คนเราวัยเดียวกัน แต่ กำลังดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน

 

แล้วสาอะไร กับใหญ่ วัยเดียวกัน แต่ทำอะไรแตกต่างกัน ผมว่า คงต้องมามอง บทบาท และ ทบทวน หน้าที่ของตัวเราเองเสียใหม่

 

สุดท้าย ความเห็นต่าง ๆ ที่เขียนมา หากกระทบจิตใจใครไปบ้าง ขออภัย และ อโหสิให้แก่กันด้วยนะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 377

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #103 เมื่อ: ตุลาคม 08, 2009, 09:14:55 am »

สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน

 

วันนี้ ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นการเมือง ขอกล่าวในฐานะประชาชนคนไทย คนหนึ่งว่า ผมก็รักชาติครับ

 

ไม่แพ้นักการเมืองทั้งหลาย วันนี้ ผมเห็นเหตุการบ้านเมือง แล้ว เศร้าใจ ทำให้นึกถึง สมัยเรียนหนังสือ ซึ่งยังจำคำสั่งสอน

 

ของครูบาอาจารย์ได้ คงนำมากล่าวสัก 2 ข้อความ ส่วนที่เหลือ ทุกท่านคงเดาได้ว่า ความหมายคือเช่นไร นะครับ

 

1.ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า

 

2.ตีงูให้แก่กากิน กากินแล้วบินหนี โทษนี้บ่อเป็นคุณ

 

สองข้อความนี้ เข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบัน ของการเมืองไทยได้ดี เลยครับ

 

 

 

เพิ่มเติมอีกนิดครับ เมื่อเช้านี้ เห็น ยอดซื้อสุทธิ ของหุ้นไทย โดยต่างชาติ กว่า 3พันล้าน เห็นข่าวดอลอ่อน ซึ่งหลายสื่อ

 

ใช้อ้างว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้ทองคำ ราคาสูงขึ้นมาก และ เห็นราคาน้ำมัน ซึ่งย่อตัวลงเล็กน้อย แต่ก็ยัง สูงอยู่ แถว 70

 

ดอลล่าต่อแบเรล ทองคำช่วงที่ผ่านมา ราคาสูงขึ้น ก็คงเป็นเพราะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำ และ ย้อนกลับมา

 

ที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท ซึ่งเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก อาจส่งผลต่อราคาทองคำ ทำให้ราคาทองคำ ไม่สูงค่าเท่าที่ควร

 

ก็อยากให้ หาอ่านข่าวกันให้กว้างขวาง และ พิจารณากันให้รอบคอบ ด้วย นะครับ ไม่ว่าราคาทองคำ น้ำมัน หุ้น และ

 

อื่น ๆ เมื่อราคาขึ้นมาถึงระดับหนึ่ง ย่อมเกิดแรงจูงใจ ในการเทขายทำกำไร การไล่ราคาบนยอด ย่อมอันตราย เพราะ

 

ช่องว่างในการทำกำไร แคบขึ้นทุกที นะครับ ย้ำคำพูดเดิม ความคิดเห็นเป็นของผม เงินทองเป็นของท่าน ท้ายสุดท่าน

 

เป็นผู้ตัดสินใจเองนะครับ

 

 

ต้นทุนที่สูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับกำไร ที่จะได้ รวมถึง คำพูดที่พูดบ่อยในหมู่นักลงทุน คือ ติดดอย

 

คุ้มค่าแก่การลงทุนหรือไม่ ยังติดลมครับ เพิ่มเติมอีกนิดนะครับ หากเรากำไรกันหมด แล้วใครเล่าครับ

 

ที่ขาดทุน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...