ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
kumponys

มังกรจีน และ มังกรไทย

โพสต์แนะนำ

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 379

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #188 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2010, 02:33:56 pm »

 

สวัสดีเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ

 

ช่วงนี้ อยากระบายความในใจ ให้ท่านทั้งหลายได้รับฟัง และ สิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ อาจเป็นประโยชน์สำหรับบางท่านไม่มากก็น้อยครับ

 

จากการที่ผมได้พบกับความสูญเสีย ไป เมื่อปลายปีที่แล้ว คือพ่อตา และ ต่อมา คือแม่ยาย สิ่งที่ผมได้คิดคือ ยามที่ทั้งสองยังอยู่ เรา

 

ได้ปฎิบัติกับท่านเช่นไร และ เมื่อยามจากไป แล้วเราปฎิบัติเยี่ยงไร คนเรายามอยู่ ความคับข้องหมองใจ ใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรา หรือ เป็น

 

เขา หากมิได้บอกให้ทราบชัด หรือ ขจัดความขัดแย้ง ให้สิ้น ยามจากไป ก็รังแต่จะต้องขออโหสิกรรม ซึ่งกันและกัน ความรัก ความชัง

 

มักเป็นของคู่กันเสมอ ในคราวพ่อตา ผมยังโชคดี ได้มีการพูดจากันจนเป็นที่เข้าใจ และ ต่างสบายใจ แม้ก่อนจะจากไป ท่านก็ยังมาเข้า

 

ฝัน และ ขอให้ สลายความคับข้องหมองใจต่าง ๆ เมื่อยามแม่ยายจะสิ้นใจ พ่อตาก็ยังอุตส่าห์ มาเตือนให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งเป็นกุศลอย่าง

 

ยิ่งสำหรับผม ส่วนแม่ยาย ผม นั้น ก่อนจากไป ท่านทรมาน นอนอยู่บนเตียงเป็นอัมพาต นานถึง 5 ปี กว่า ผมก็ได้ทำหน้าที่ ลูกเขย

 

โดยสมบูรณ์ กล่าวคือ ภรรยาผมเป็นลูกสาวคนเดียว ดังนั้นยามแม่ยายเจ็บไข้ได้ป่วย ผมก็ต้องช่วยพาไปพบแพทย์ แม้กระทั่งจัดคนมา

 

ดูแล ที่บ้าน นี่แหละครับ ที่มาที่ไป ที่ซ้อผม ต้องไปขายก๋วยเตี๋ยว เพื่ออยู่เป็นเพื่อนแม่ หลายคนไม่เข้าใจ ว่าผมทำไมต้องไปขายก๋วยเตี๋ยว

 

แม้กระทั่งหลาน ๆ ซึ่งก็คือลูกของผม แต่สิ่งที่ผมอยากบอกเล่า พวกเราก็คือ อาการของคนระหว่างใกล้สิ้นใจ คือ อาเจียน หอบหายใจ

 

เหนื่อย สุดท้ายไฟธาตุแตก ขับถ่าย แล้วก็จากไป ทรวงอกสะท้อนแรง แล้วค่อยแผ่วเบา ตัวเย็น มือเท้าเขียว เมื่อไปถึงโรงพยาบาล

 

แพทย์บอกว่า สิ้นใจ ระหว่างทางส่งโรงพยาบาลแล้ว ก่อนเข็นรถ ไปห้องดับจิต สิ่งที่ผมทำก็คือ กราบแทบเท้าแม่ยาย ขออโหสิกรรม

 

ในสิ่งที่เคยล่วงเกิน แต่ผมเสียดายเหลือเกินคือ ไม่ได้คุยกับแม่ยายตอนที่ยังฟังผมเข้าใจ และ ยังดูแลแม่ยายไม่ดีพอ ไม่เพียงพอ

 

แต่ ทำไรได้ครับ สุดท้าย ก็สายเกินไป ก็ตรงกับที่หลายคนที่เคยเล่าให้ผมฟังว่า ยามเป็น สำคัญกว่า ยามตาย คำว่าเสียดายนี่แหละครับ

 

อีกเรื่องก็คือ คนเรา ย่อมรู้ตัวเอง มากกว่า คนอื่นรู้ หากเราสังเกตจิตใจตนเอง หัดสังเกตจิตใจตนเอง แล้วนำมาพิจารณา ก็จะถ่องแท้

 

แก่ใจตนเอง ดีกว่า ต้องให้ใครก็ตาม มาว่ากล่าวตักเตือน การหัดเตือนตน ตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ การบอกกล่าวความรัก การให้อภัย การ

 

พูดความในใจ การยอมรับผิด ย่อมดีกว่า เมื่อ บุคลอื่น หรือ ตัวเราจากไป ซึ่งสายไปเสียแล้ว ทำได้แค่ อย่างที่ผมบอกคือ ก็แค่ กราบ

 

เท้า ขออโหสิกรรม วันนี้ ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมไม่สบายใจ เมื่อนึกถึงอา ที่ผมรักและเคารพ เมื่อโทรทางไกลไปคุย ปรากฎว่า อาผม

 

กล่าวกับผมว่า คิดถึงเหมือนกัน ว่าจะโทรไปหา อามีเรื่องสำคัญจะบอก อาอยู่ได้แค่ อีก 6 เดือนเท่านั้น นอกจากมีปาฎิหาร อาเป็นมะเร็ง

 

นี่แหละครับ มนุษย์ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครหนีพ้น หากแต่ ยามเป็น ๆ หรือ มีลมหายใจอยู่ เราจะรู้จักใช้เวลาที่มีอยู่นี้ ให้เกิด

 

ประโยชน์ ได้เพียงไร ยามมา ก็มาแต่ตัว ยามไป ก็ไม่มีอะไรติดตัวไปได้สักอย่าง ผมก็ได้แต่ปลง และคิดว่า พระเทศน์ ที่ผมฟังใน

 

วันนั้น ก็มีข้อความที่พระท่านแสดงธรรมว่า ตถาคต ได้แสดงธรรมไว้ ครั้งสุดท้ายว่า ดำรงค์ตนด้วยความไม่ประมาท (ย่อ ๆ นะครับ)

 

ก็ได้แต่ ใช้พื้นที่นี้ เล่าเรื่องราวที่ผู้ที่ผ่านมาได้อ่าน และ อาจก่อให้เกิดประโยชน์ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

I Love Gold

เด็กมัธยม

 

ออนไลน์

 

กระทู้: 82

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #190 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2010, 03:44:03 pm »

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ

ปฏิบัติดีต่อท่าน ยามที่ท่านมีชีวิต ดีกว่าหาน้ำหาข้าวให้ท่าน แล้วไปเคาะโลงบอกกล่าวให้ท่านมารับประทาน

คุณแม่ดิฉันเป้นมะเร็งเช่นกัน หมอบอกว่าจะมีชีวิตอยู่อีก ๔ เดือน

เสียใจที่ทราบ และดีใจเช่นกัน ทำให้เราได้ทำในสิ่งทีเราละเลย และผัดวันประกันพรุ่ง

พาท่านไปเที่ยว ไปทานอาหารอร่อย ไปหาท่านทุกสัปดาห์ ไม่ขัดใจท่าน

และในที่สุดท่านก็จากไปอย่างสงบ ในเวลา ปีครึ่งหลังจากที่ทราบว่าเป้นมะเร็ง

เราก็ไม่ได้เสียใจที่ยังไม่ได้ทำโน่น ทำนี่ เพราะได้ทำมาหมดแล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 379

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #197 เมื่อ: มิถุนายน 21, 2010, 06:57:30 pm »

 

อ้างจาก: clubjew ที่ มิถุนายน 20, 2010, 09:43:08 pm

อ้างจาก: Mr.Yanyong ที่ มิถุนายน 16, 2010, 02:33:56 pm

สวัสดีเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ

 

ช่วงนี้ อยากระบายความในใจ ให้ท่านทั้งหลายได้รับฟัง และ สิ่งที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ อาจเป็นประโยชน์สำหรับบางท่านไม่มากก็น้อยครับ

 

จากการที่ผมได้พบกับความสูญเสีย ไป เมื่อปลายปีที่แล้ว คือพ่อตา และ ต่อมา คือแม่ยาย สิ่งที่ผมได้คิดคือ ยามที่ทั้งสองยังอยู่ เรา

 

ได้ปฎิบัติกับท่านเช่นไร และ เมื่อยามจากไป แล้วเราปฎิบัติเยี่ยงไร คนเรายามอยู่ ความคับข้องหมองใจ ใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรา หรือ เป็น

 

เขา หากมิได้บอกให้ทราบชัด หรือ ขจัดความขัดแย้ง ให้สิ้น ยามจากไป ก็รังแต่จะต้องขออโหสิกรรม ซึ่งกันและกัน ความรัก ความชัง

 

มักเป็นของคู่กันเสมอ ในคราวพ่อตา ผมยังโชคดี ได้มีการพูดจากันจนเป็นที่เข้าใจ และ ต่างสบายใจ แม้ก่อนจะจากไป ท่านก็ยังมาเข้า

 

ฝัน และ ขอให้ สลายความคับข้องหมองใจต่าง ๆ เมื่อยามแม่ยายจะสิ้นใจ พ่อตาก็ยังอุตส่าห์ มาเตือนให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งเป็นกุศลอย่าง

 

ยิ่งสำหรับผม ส่วนแม่ยาย ผม นั้น ก่อนจากไป ท่านทรมาน นอนอยู่บนเตียงเป็นอัมพาต นานถึง 5 ปี กว่า ผมก็ได้ทำหน้าที่ ลูกเขย

 

โดยสมบูรณ์ กล่าวคือ ภรรยาผมเป็นลูกสาวคนเดียว ดังนั้นยามแม่ยายเจ็บไข้ได้ป่วย ผมก็ต้องช่วยพาไปพบแพทย์ แม้กระทั่งจัดคนมา

 

ดูแล ที่บ้าน นี่แหละครับ ที่มาที่ไป ที่ซ้อผม ต้องไปขายก๋วยเตี๋ยว เพื่ออยู่เป็นเพื่อนแม่ หลายคนไม่เข้าใจ ว่าผมทำไมต้องไปขายก๋วยเตี๋ยว

 

แม้กระทั่งหลาน ๆ ซึ่งก็คือลูกของผม แต่สิ่งที่ผมอยากบอกเล่า พวกเราก็คือ อาการของคนระหว่างใกล้สิ้นใจ คือ อาเจียน หอบหายใจ

 

เหนื่อย สุดท้ายไฟธาตุแตก ขับถ่าย แล้วก็จากไป ทรวงอกสะท้อนแรง แล้วค่อยแผ่วเบา ตัวเย็น มือเท้าเขียว เมื่อไปถึงโรงพยาบาล

 

แพทย์บอกว่า สิ้นใจ ระหว่างทางส่งโรงพยาบาลแล้ว ก่อนเข็นรถ ไปห้องดับจิต สิ่งที่ผมทำก็คือ กราบแทบเท้าแม่ยาย ขออโหสิกรรม

 

ในสิ่งที่เคยล่วงเกิน แต่ผมเสียดายเหลือเกินคือ ไม่ได้คุยกับแม่ยายตอนที่ยังฟังผมเข้าใจ และ ยังดูแลแม่ยายไม่ดีพอ ไม่เพียงพอ

 

แต่ ทำไรได้ครับ สุดท้าย ก็สายเกินไป ก็ตรงกับที่หลายคนที่เคยเล่าให้ผมฟังว่า ยามเป็น สำคัญกว่า ยามตาย คำว่าเสียดายนี่แหละครับ

 

อีกเรื่องก็คือ คนเรา ย่อมรู้ตัวเอง มากกว่า คนอื่นรู้ หากเราสังเกตจิตใจตนเอง หัดสังเกตจิตใจตนเอง แล้วนำมาพิจารณา ก็จะถ่องแท้

 

แก่ใจตนเอง ดีกว่า ต้องให้ใครก็ตาม มาว่ากล่าวตักเตือน การหัดเตือนตน ตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ การบอกกล่าวความรัก การให้อภัย การ

 

พูดความในใจ การยอมรับผิด ย่อมดีกว่า เมื่อ บุคลอื่น หรือ ตัวเราจากไป ซึ่งสายไปเสียแล้ว ทำได้แค่ อย่างที่ผมบอกคือ ก็แค่ กราบ

 

เท้า ขออโหสิกรรม วันนี้ ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมไม่สบายใจ เมื่อนึกถึงอา ที่ผมรักและเคารพ เมื่อโทรทางไกลไปคุย ปรากฎว่า อาผม

 

กล่าวกับผมว่า คิดถึงเหมือนกัน ว่าจะโทรไปหา อามีเรื่องสำคัญจะบอก อาอยู่ได้แค่ อีก 6 เดือนเท่านั้น นอกจากมีปาฎิหาร อาเป็นมะเร็ง

 

นี่แหละครับ มนุษย์ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครหนีพ้น หากแต่ ยามเป็น ๆ หรือ มีลมหายใจอยู่ เราจะรู้จักใช้เวลาที่มีอยู่นี้ ให้เกิด

 

ประโยชน์ ได้เพียงไร ยามมา ก็มาแต่ตัว ยามไป ก็ไม่มีอะไรติดตัวไปได้สักอย่าง ผมก็ได้แต่ปลง และคิดว่า พระเทศน์ ที่ผมฟังใน

 

วันนั้น ก็มีข้อความที่พระท่านแสดงธรรมว่า ตถาคต ได้แสดงธรรมไว้ ครั้งสุดท้ายว่า ดำรงค์ตนด้วยความไม่ประมาท (ย่อ ๆ นะครับ)

 

ก็ได้แต่ ใช้พื้นที่นี้ เล่าเรื่องราวที่ผู้ที่ผ่านมาได้อ่าน และ อาจก่อให้เกิดประโยชน์ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ครับ

 

สวัสดี เฮียยง ขอแสดงความนับถือด้วยครับ เมื่อวันศุกร์ ผมไปเยี่ยม แม่ครูที่โรงเรียนน้องน้ำ เป็นมะเร็ง เคยผ่าเมื่อ 4 ปีก่อน หมอบอกว่า อยู่ไม่เกิน 5 ปี และแล้ว วันนี้ก็มาถึง ตอนนี้แม่เขา ไม่รับรู้อะไรแล้วรอวันไปอย่างเดียว ผมเห็นแล้วส่งสารมากๆ เพราะแม่เขาอายุน้อยกว่าแม่ผมอีก ทุกวันนี้ผมเลย พาพ่อกับแม่ผมไปเที่ยว เกือบทุกอาทิตย์เลย กลัวจะไม่ได้ตอบแทนบุญคุณที่ท่านเลี้ยงมา แล้วก็มีข่าวดีบอกเฮียยงด้วยครับ ปีหน้า ผมจะแต่งแล้วน่ะครับ ตอนนี้ ขอฟิตหุ่น และหาเงินก่อน แล้วจะเชิญเฮียไปด้วยน่ะครับๆๆๆ

ดีใจแทนน้องน้ำด้วยครับ ที่จะเป็นฝั่งเป็นฝา โดยสมบูรณ์ วันนี้ เฮียก็กลับจากชะอำ คือหลังจากเผาแม่ยายแล้ว

 

ยังรู้สึกเครียด เลยพาครอบครัว ไปเที่ยว ค้างสักคืน เพื่อชาร์จแบต หลังจากนี้ คงคิดทำอะไรอีกมากมาย จิว รู้จักเฮียดี นี่ เฮียเป็นคน

 

ฝันเฟื่อง คิดอะไรได้ ก็ลองทำ มันไปเรื่อย ๆ สักวัน ความฝัน เฮียอาจเป็นจริง วันก่อน ฟังหมอรักษ์ คุย ว่า ค่าส่วนแบ่ง โทรศัพท์ ดูดวง

 

ที่ได้รับ มหาศาล มาก ฟังแล้ว แอบอิจฉาเล็ก ๆ แต่ก็ คิดว่า ในเมื่อเขาพูดความจริงว่า เขาเรียนหอการค้า ตั้ง 8 ปี ถึงจบ ในฐานะรุ่นพี่

 

อย่างเฮีย ที่เรียน 3 ปีครึ่ง แต่กลับ ยังหาเงินได้น้อยกว่าเขา อันนี้แหละครับ ทำให้เราต้องพยายาม การมองคนที่เหนือกว่าเรา ทำให้

 

เรามีพลังใจขับเคลื่อน แต่ ก็อย่าลืมมองคนที่ด้อยกว่าเรา เพื่อ ปลอบใจตัวเอง สุดท้ายนี้ ถ้าจิวแต่งงาน ขอเพียงแต่โทรมาชวนเฮียสักคำ

 

เฮียจะไม่ปฎิเสธเลย เพราะ สาวน่ารัก อย่างน้ำ หาไม่ได้ อีกแล้วครับ เฮียรับประกัน ครับ 55555555555

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 379

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #198 เมื่อ: วันนี้ เวลา 09:07:59 am »

 

อ้างจาก: มือใหม่(หัวใจทอง) ที่ มิถุนายน 20, 2010, 08:54:52 pm

ชอบมาแอบอ่านกระทู้นี้ บ่อยมากค่ะ ไม่ค่อยโพสต์ นานๆ โพสต์ทีนึง!32 อ่านแล้ว ได้อะไรเก็บไปคิด เก็บไปเป็นความรู้ เก็บไปเป็นแนวทางในกานดําเนินชีวิตได้มากทีเดียวค่ะ ขอบคุณ เจ้าของกระทู้ค่ะ

 

คนเราหากกล้าเล่าความจริง กล้าพูดความจริง ยอมรับความผิดพลาดของตนเอง แล้ว พยายามแก้ไข ความสุขก็จะได้แก่ตัวเรา

 

หากแต่ ปุถุชนเช่นเรา ก็ยังทำความผิดอยู่วันยังค่ำ ครับ หากแต่ เมื่อได้เล่าสู่กันฟัง หรือ ระบายออกมา ก็รู้สึกว่า ตัวเบาขึ้นมาก

 

การแอบคิด แอบทำ แอบอย่างไร ก็แอบใจตัวเองไม่ได้ สู้ยอมรับมัน เปิดเผยมันออกมา แล้วแก้ไขเสีย ดีกว่ากันเยอะเลยครับ

 

พูดไปพูดมาผมเอง ก็ชักงง กับตัวเองขึ้นมาอีกแล้วสิครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะ Mr.Yanyong ตามมาจากบ้านเก่า มีเวลาว่างเมื่อไหร่ ต้องเปิดอ่านกระทู้ มังกรจีน และมังกรไทย ของคุณเกือบทุกวันค่ะ

อาจไม่ค่อยได้พิมพ์ถาม-ตอบ ตามติดเหมือนเดิม ด้วยความนับถือ !thk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณยรรยง ยังไม่ตามมาบ้านใหม่เหรอคะ มารออ่านที่บ้านใหม่แล้วค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Mr.Yanyong

แฟนพันธุ์แท้

 

ออฟไลน์

 

กระทู้: 382

 

 

 

 

Re: มังกรจีน และ มังกรไทย

« ตอบ #204 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2010, 11:48:14 am »

สวัสดี นาเดีย

 

สบายขึ้นครับ ลูกสาว ก็จบแล้ว กำลังหางานอยู่ ส่วนลูกชายได้งานใหม่ งานน้อยลง เลยเริ่มหันมาคิดเรียนโทต่อครับ

 

ป๋า ก็เลย ต้องคิดหาเงินสำรองเพิ่ม เพื่อเป็นทุนให้เขา เรียน และ สร้างเนื้อสร้างตัว ทำงานมา 3 ปี ต่อโท เงินที่สะสม

 

ไว้ คงไม่พอ คนเป็นพ่อ ความเป็นพ่อ ไม่เคยสิ้นสุดครับ การศึกษา คือ การลงทุน ครับ สมัยนี้ ศึกษามาก ความได้เปรียบ

 

ในการทำงาน และ เลือกงาน ก็มากขึ้น แต่ที่น่าเสียดายคือ แรงงานต่างชาติ ชนิดถูกกฎหมาย มีใบอนุญาตทำงาน พวก

 

นี้ เงินเดือนสูงมาก เอารัดเอาเปรียบคนไทยเรา แย่งงานคนไทย รัฐบาลเราก็มัวแต่ ปราบแรงงานต่างชาติ ชนิด ทำงาน

 

ที่คนไทยไม่ทำ ค่าแรงงานถูก ๆ แต่พวกใส่สูทผูกไทด์ หัวแดง รัฐบาลกลับไม่สนใจ คงกลัว จีดีพี ตก มังครับ แต่คิดให้ดี

 

จีดีพี ไทย ก็กระจุก อยู่ ไม่กระจายเท่าที่ควร ป๋าเลยคิดว่า เราห่วงจีดีพี เกินไปหรือเปล่า เปิดประเทศเร็วเกินไปหรือเปล่า

 

คนไทยเรา การศึกษา และ .................................เท่าเทียมต่างชาติแล้วหรือ แต่ที่ล้ำหน้า

 

ต่างชาติ เห็นจะเป็นเรื่อง ที่ลงหนังสือพิมพ์ หน้าบันเทิง หรือ พวก ต่ำกว่า 18 ทั้งนั้นครับ พูดไป สามไพเบี้ย 5555555

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...