tonmakham 0 Report post Posted July 29, 2011 ดีใ่จด้วยคนครับ ที่คุณเสมมา แวะมาเยี่ยมเยียนบ่อยๆนะครับ :D Quote Share this post Link to post Share on other sites
Tiewsian 10 Report post Posted July 29, 2011 !thk !thk !thk Quote Share this post Link to post Share on other sites
Mim25 1 Report post Posted July 29, 2011 ขอบคุณมากๆค่ะ คุณเสม !thk !thk !thk Quote Share this post Link to post Share on other sites
milo 888 Report post Posted July 29, 2011 (edited) ขอบคุณครับคุณเสม ดีจังมาตอบให้เองเลย คุณใหญ่เลื่อนเป้าตามแล้วนะครับ ความท้าทายใหม่ใช่ไหมครับคุณเสม Edited July 29, 2011 by milo Quote Share this post Link to post Share on other sites
missbabara 4 Report post Posted July 29, 2011 Thank you ka p'seam Quote Share this post Link to post Share on other sites
aenumac 24 Report post Posted July 29, 2011 SET = เขียว (SL : 1,062.39) S50 = เขียว (SL : 740.60) GC = เขียว (SL : 1,482.60) SI = เขียว (SL : 38.95) AFET = เขียว (SL : 145.15 => new SL) TOCOM = เขียว (SL : 381.10) รบกวนผู้มีประสบการณ์ตรวจสอบให้ด้วยนะครับ และรบกวนสอบถามครับว่า สำหรับ SET S50 และ GC หากเราจะ protect profit จะมีวิธีพิจารณาอย่างไรครับ เพราะเห็น SL อยู่ไกลมากครับ เพราะถ้าลงไปถึง SL ที่ปรากฏอยู่ ณ ขณะนี้จริง แม้จะเข้าที่เขียวแรกยังไงก็ขาดทุนครับ คุณเสม เคยให้คำแนะนำไว้ คือ การนำ ATR Trailing Stop เข้ามา protect profit ช่วงที่ SET และ S50 ขึ้นมาสูงมาก ๆ ในช่วงเลือกตั้ง ไม่แน่ใจว่า เราสามารถนำมาใช้ในกรณีนี้ได้หรือไม่ครับ ขอบพระคุณมากครับ รบกวนสอบถาม คุณhenry หรือเพื่อนๆๆ ก็ได้ค่ะ คำว่า SL แปลว่าอะไรคะ เห็น GC เขียว (SL : 1482.60) แปลว่าการปรับฐานหรือปล่าวคะ เพราะ ก่อนจะเป็นกระทิงรอบนี้ ก็หลุดไป 14xx เหมือนกันค่ะ ใช้วิธีออมแท่ง แล้วก็กอดแน่น ตามที่คุณเสม บอก แต่ไม่ค่อยได้ศึกษากราฟ เท่าไร เพราะลงโปรแกรมแล้วใช้ไม่ค่อยเป็นค่ะ ชอบที่จะอ่านตามหัวข้อแล้วถึงเวลาซื้อจริง ก็ซื้อกองทุนแทน ค่ะ แต่บางทีก็รู้ว่า เราพึ่งตัวเองไม่ได้ซักกะที แล้วก็ดีใจด้วยค่ะ ที่ คุณเสม แวะมา ว่างๆๆ ก็มาบ้านนี้ต่อนะคะ ที่ผ่านมา ก็คุณส้มโอมือ คุณ henry คุณ 888 มาร่วมกันเขียนให้กระทู้คึกคักค่ะ ขอบคุณทุกๆท่านนะคะ จะคอยอ่านคำตอบค่ะ Quote Share this post Link to post Share on other sites
gaichon 0 Report post Posted July 29, 2011 ดีใจจังที่คุณ เสมแวะมา ขอขอบคุณที่เอากราฟมาให้ดูครับ Quote Share this post Link to post Share on other sites
gaichon 0 Report post Posted July 29, 2011 มีท่านใดทราบว่าจะหา กราฟ Millenniom Trader ได้จากที่ใดบ้างครับ ของผมเคยมีแต่ตอนนี้ลงไม่ได้ อยากทราบว่าแก้ไขอย่างไรครับ ท่านใดทราบขอคำชี้แนะด้วยครับ ปล้ำมาครึ่งวันแล้ว ไม่สำเร็จ Quote Share this post Link to post Share on other sites
naiyana 0 Report post Posted July 29, 2011 ขอบคุณค่ะคุณเสม..ขอบคุณกระบี่มากน้ำใจ Quote Share this post Link to post Share on other sites
ส้มโอมือ 4,910 Report post Posted July 29, 2011 รบกวนสอบถาม คุณhenry หรือเพื่อนๆๆ ก็ได้ค่ะ คำว่า SL แปลว่าอะไรคะ เห็น GC เขียว (SL : 1482.60) แปลว่าการปรับฐานหรือปล่าวคะ เพราะ ก่อนจะเป็นกระทิงรอบนี้ ก็หลุดไป 14xx เหมือนกันค่ะ ใช้วิธีออมแท่ง แล้วก็กอดแน่น ตามที่คุณเสม บอก แต่ไม่ค่อยได้ศึกษากราฟ เท่าไร เพราะลงโปรแกรมแล้วใช้ไม่ค่อยเป็นค่ะ ชอบที่จะอ่านตามหัวข้อแล้วถึงเวลาซื้อจริง ก็ซื้อกองทุนแทน ค่ะ แต่บางทีก็รู้ว่า เราพึ่งตัวเองไม่ได้ซักกะที แล้วก็ดีใจด้วยค่ะ ที่ คุณเสม แวะมา ว่างๆๆ ก็มาบ้านนี้ต่อนะคะ ที่ผ่านมา ก็คุณส้มโอมือ คุณ henry คุณ 888 มาร่วมกันเขียนให้กระทู้คึกคักค่ะ ขอบคุณทุกๆท่านนะคะ จะคอยอ่านคำตอบค่ะ SL คือจุดSTOP LOSS คือถ้าลงมาต่ำกว่าจุดนี้แท่งกราฟจะเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดงครับ แดงแรกมาให้ขายครับ SLที่คุณhenryให้มาเป็นของรายวันนะครับ พวกGF ทองคำแท่งและแร่เงินกองทุนทองคำกอดไว้ไม่ขายครับ รอสัญญาณรายสัปดาห์แดงค่อยขายครับ ทองคำและแร่เงินย่อเมื่อไหร่หาจังหวะซื้อครับ Quote Share this post Link to post Share on other sites
itums 39 Report post Posted July 29, 2011 ขอบคุณมากครับคุณเสม !01 !01 แวะมาบ่อยๆ เป็นกำลังใจดีครับ Quote Share this post Link to post Share on other sites
ส้มโอมือ 4,910 Report post Posted July 29, 2011 ธุรกิจ : CEO Blogs วันที่ 29 กรกฎาคม 2554 14:53ศ.ดร.วรภัทร โตธนะเกษม เจ้าของคอลัมภ์นิสต์ BUSINESS&SOCIETY จำนวนคนอ่าน 583 คน.หนี้นั้น...สำคัญไฉน โดย : วรภัทร โตธนะเกษม สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่ให้การช่วยเหลือประเทศต่างๆ ที่กำลังพัฒนาและด้อยพัฒนา จำนวนมาก รวมทั้งยังทำตัวเป็น ตำรวจโลก ต่อเนื่องมาเป็นเวลานานอีกด้วย จึงทำให้ต้องแบกภาระทางการเงิน จำนวนมหาศาล และมีหนี้จำนวนมาก แต่การที่ เงินดอลลาร์ เป็นที่ยอมรับทั่วโลก ก็เลยทำให้อเมริกาสามารถที่จะก่อหนี้ได้ไม่ยากนัก อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการสะสมหนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ วันหนึ่งหนี้เหล่านี้จึงติด "เพดานหนี้" ที่รัฐสภาได้กำหนดไว้ และ ประธานาธิบดี ก็ต้องพยายามเจรจาทางการเมือง เพื่อขอให้ รัฐสภาอนุมัติให้เพิ่มเพดานหนี้ ขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ประธานาธิบดีเกือบทุกคน ต่างก็ทำเช่นนี้มาแล้วกันทั้งนั้น เช่น ประธานาธิบดีเรแกน ขอเพิ่มเพดานหนี้ ถึง 18 ครั้ง และได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาทุกครั้ง ประธานาธิบดีบุช ก็ขอเพิ่มเพดานหนี้ รวม 7 ครั้ง และได้รับความเห็นชอบทุกครั้ง เช่นกัน ส่วนโอบามา นั้น ก็ได้ขอเพิ่มเพดานหนี้มาแล้ว 3 ครั้ง ในระหว่างปี ค.ศ. 2009 ถึง 2010 โดยไม่มีปัญหาใดๆ จากรัฐสภา ก็เพิ่งจะครั้งนี้แหละ ที่โอบามากำลังปวดเศียรเวียนเกล้า มาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว และอีกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ก็จะถึง "เส้นตาย" คือ วันอังคารที่ 2 ส.ค. ในสัปดาห์หน้านี้ ถ้าหากรัฐสภายังไม่ยอมให้ความเห็นชอบให้เพิ่มเพดานหนี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็คงจะประสบกับสภาวะที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คือ ไม่สามารถชำระหนี้ได้ และบริษัทจัดอันดับเครดิต ก็จะลดอันดับความน่าเชื่อถือลงไปเป็น “SD” ซึ่งหมายถึง “Selective Default” คือ ผิดนัดชำระหนี้เป็นบางกรณี ถ้าเป็นเช่นจริง ก็จะเกิดผลกระทบตามมามากมายในตลาดเงิน ตลาดทุน และผลต่อประชาชนชาวอเมริกัน รวมทั้งประเทศต่างๆ ทั่วโลก การเจรจาที่ผ่านมา ระหว่างโอบามา กับรัฐสภานั้น มีปัญหาอย่างมากมาโดยตลอด และนับจนถึงเมื่อวานนี้ ก็ยังไม่เห็นท่าทีว่าจะสำเร็จลงได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม ผมมีความรู้สึกว่า เมื่อถึงวันที่ 2 ส.ค. สมาชิกรัฐสภาก็คงไม่อยากให้รัฐบาลชำระหนี้ไม่ได้ เพราะจะเกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย ดังนั้น ผมจึงอยากจะคาดการณ์ว่า การเจรจาขอเพิ่มเพดานหนี้ น่าจะสำเร็จลงได้อย่างหวุดหวิดในนาทีสุดท้าย (อยากภาวนาว่าการคาดการณ์ของผม จะไม่ผิดนะครับ) ปัญหาที่ค้างคาอยู่ในขณะนี้ ก็คือ ฝ่ายคัดค้านนั้น ไม่ยอมให้เพิ่มเพดานหนี้ โดยไม่มีข้อแลกเปลี่ยน ใดๆ จากรัฐบาล จึงเรียกร้องให้รัฐบาลลดค่าใช้จ่ายลง 4 ล้านล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลา 12 ปีข้างหน้า ซึ่งขณะนี้ ตัวเลขที่รัฐบาลยอมได้ก็เพียง 2 ล้านล้านดอลลาร์เท่านั้น การเจรจาจึงยังคงดำเนินต่อไปอย่างเคร่งเครียด และเส้นตายก็ใกล้เข้ามาทุกที ในขณะที่ บริษัทจัดอันดับเครดิต อย่าง S&P หรือ Moody’s ก็ประกาศมาหลายรอบแล้วว่า จะพิจารณาปรับอันดับของอเมริกาลง เพราะถ้าหากขยายเพดานหนี้ไม่ได้ ก็ชำระหนี้ไม่ได้ และจะถูกปรับอันดับเป็น “SD” ในขณะที่ S&P ยังบอกว่า แม้จะตกลงกันได้ก็ตาม แต่ถ้าตัวเลขงบประมาณค่าใช้จ่าย ลดลงไม่ถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์ ก็จะพิจารณาลดอันดับจาก AAA ให้ต่ำลงไปอยู่ดี ส่วน Moody’s ไม่ได้หยิบยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็น จึงเป็นไปได้ว่า ถ้าหากเพิ่มเพดานหนี้ได้สำเร็จจริง Moody’s ก็คงจะไม่ปรับอันดับลดลง คำถามที่ตามมา ก็คือ แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากมีการปรับอันดับเครดิตลง คำตอบ ก็คือ จะเกิดความวุ่นวายในตลาดเงิน ตลาดทุน รวมทั้งต่อประชาชน โดยเป็นผลกระทบอย่างต่อเนื่อง เพราะตราสารการเงินของอเมริกันนั้น ได้รับความเชื่อถือจากทั่วโลกในระดับสูงสุด ที่ AAA ซึ่งหมายถึง การกู้ยืมเงินของรัฐบาลอเมริกันจะได้อัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด ถ้าอันดับเครดิตลดลง ต้นทุนการกู้ยืมเงินของ รัฐบาลอเมริกัน ก็จะสูงขึ้นตามความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น แต่เหตุการณ์จะไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เพราะบริษัทเอกชน รวมทั้งรัฐบาลท้องถิ่นของรัฐต่างๆ ก็จะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะเป็นการอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยการก็ยืมเงินของรัฐบาลกลาง ซึ่งได้ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เพราะผลกระทบที่ต่อเนื่องกันนั้น ในที่สุด ก็จะทำให้ อัตราดอกเบี้ยบ้าน รถยนต์ หรือบัตรเครดิต ฯลฯ เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งกระทบต่อประชาชนทั่วไป ส่วนระดับ ตลาดเงินตลาดทุน นั้น ผลตอบแทนใน ตลาดพันธบัตร ก็จะสูงขึ้น ในขณะที่ ตลาดหุ้น คงจะได้รับผลกระทบ ในทางลบ ทั้งในสหรัฐ และต่อเนื่องไปยังตลาดทุนอีกหลายแห่งของโลก เรื่องราวเหล่านี้ ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ ว่า ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ยิ่งใหญ่ สามารถกู้หนี้ยืมสินมาได้เป็นเวลานานหลายทศวรรษ แต่ก็ยังคงรักษาอันดับเครดิตไว้ได้ที่ AAA มาได้โดยตลอด (แม้จะเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ก็ยังรักษาไว้ได้) แต่วันนี้ กำลังเดินทางมาสู่จุดที่มีความเป็นไปได้แล้ว ว่า อันดับเครดิตอาจจะถูกปรับลดลงในเวลาอีกไม่นานนัก ทำให้ผมคิดต่อไปอีกเช่นกัน ว่า ประเทศกรีซ ซึ่งเป็นประเทศที่ ยากจนที่สุดในกลุ่มยูโรโซน แต่ประเทศอื่นๆ ในยูโรโซน ก็ให้การช่วยเหลือทางการเงินมาเป็นเวลานาน ทำให้มีการกู้ยืมเงินจำนวนมาก มีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจ แต่ประชาชนกลับไม่ได้พัฒนาฝีมือความรู้ หรือความสามารถในการแข่งขัน และในที่สุด กรีซ ก็ถึงวันที่ใกล้จะล้มละลายเต็มที อย่างที่เป็นข่าวมานานหลายเดือนแล้ว คิดเช่นนี้แล้ว ก็ทำให้ ตัวเลขต่างๆ ล่องลอยผ่านมาในสมองของผมอีกมากมาย เช่น "วันละ 300 บาท" "เดือนละ 15,000 บาท" ฯลฯ เป็นต้น ซึ่ง ณ ขณะนี้ อย่างไรเสีย ก็คงต้องพยายามทำตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ แต่ผมขอกระซิบเบาๆ ว่า ในระหว่างที่จะทำอะไรต่อไปตามคำสัญญาที่ให้ไว้ต่อประชาชนนั้น... อย่าลืมเหลียวมองอเมริกา หรือกรีซ ในยามนี้ บ้างนะครับ 2 Quote Share this post Link to post Share on other sites
henry130 191 Report post Posted July 30, 2011 ขอบคุณคะ Khun Henry & คุณส้มโอมือ ช่วงไหนจะเข้าซื้อกองทุน rmf & lmf ได้คะ (ไว้ลดหย่อนภาษีนะคะ) ต้องขออภัยด้วยครับ ไม่มีความรู้จริง ๆ แนะนำให้เข้าไปดูข้อมูลได้ที่กระทู้ของ K.ngoodin ครับ (หุ้น+ข่าว+ทอง+....) มีการวิเคราะห์เกี่ยวกับกองทุนต่าง ๆ เยอะเลยครับ เวลาผมจะซื้อ LTF ก็ศึกษาจากกระทู้นั้นเช่นกันครับ Quote Share this post Link to post Share on other sites
henry130 191 Report post Posted July 30, 2011 สำหรับคอบอล โดยเฉพาะ " ปืนใหญ่ " วันที่ 30 กรกฎาคม 2554 เอมิเรตส์ คัพ 20.00 น. นิวยอร์ก เร้ด บูลล์ - เปแอสเช ทรูสปอร์ต 1(101) 22.30 น. อาร์เซน่อล - โบคา จูเนียร์ส ทรูสปอร์ต 1(101) วันที่ 31 กรกฎาคม 2554 20.00 น. เปแอสเช - โบคา จูเนียร์ส ทรูสปอร์ต 1(101) 22.20 น. อาร์เซน่อล - นิวยอร์ค เร้ดบลูส์ ทรูสปอร์ต 1(101) เช้านี้อ่านไทยรัฐ ทีมได้ กองกลางตัวใหม่ (กลาง / ริมเส้น) นำเข้าจากบาเลนเซียแล้วนะครับ " ฆวน มาตา " 19 ล้านปอนด์ จริงไม่จริง รอดูนักเตะชูเสื้อชัวร์สุดครับ ถ้าได้มาจริง ก็แสดงว่า ข่าวการย้ายของ " เชส " คงเกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ Quote Share this post Link to post Share on other sites
lekster 29 Report post Posted July 30, 2011 (edited) ต้องขออภัยด้วยครับ ไม่มีความรู้จริง ๆ แนะนำให้เข้าไปดูข้อมูลได้ที่กระทู้ของ K.ngoodin ครับ (หุ้น+ข่าว+ทอง+....) มีการวิเคราะห์เกี่ยวกับกองทุนต่าง ๆ เยอะเลยครับ เวลาผมจะซื้อ LTF ก็ศึกษาจากกระทู้นั้นเช่นกันครับ เป็นความเห็นส่วนตัวนะ ใช้ PNT ราย week ค่ะ ตอนนี้เขียวมา 2 บ้องแล้วก็น่าจะซื้อได้อยู่นะ แต่ตอนมันแดง คงต้องทำใจค่ะ เพราะถ้ายังไม่ถึง5 ปีก็ออกไม่ได้กยกเว้น RMF สามารถ switch ออกไปยังกองตราสารหนี้ แล้ว switch กลับมาตอนเขียวแรก Edited July 30, 2011 by lekster Quote Share this post Link to post Share on other sites