ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯ ลดลง 2.3% ในเดือนสิงหาคม เป็น 295,000 เป็นตัวเลขที่ลดลง 4 เดือนติดต่อกัน

ยอดขายเดือนที่ผ่านมาเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์

 

โพลฯ ของนักวิเคราะห์กล่าวว่า คือ 292,000 สูงกว่า โพลฯ แต่ก็ ลดลง

[Jaiy 1]

ขอถามเพื่อนๆ.. สักคำ

 

ตอนนี้ทองยังเป็นสินทรัพย์..ที่ปลอดภัยอยู่หรือเปล่าครับ.

 

 

ช่วงนี้เห็นมีข่าวอะไรทองก็ชอบจะลงงงงง

[Pete 15,187]

FRANKFURT (MarketWatch) -- Yves Mersch, a hawkish member of the European Central Bank's Governing Council, said Monday he doesn't fully rule out interest rate cuts if the euro-zone's economy worsens considerably.

 

"Interest rate cuts aren't completely ruled out," Mersch, who is also the head of Luxembourg's central bank, is quoted as saying by German newspaper Boersen-Zeitung.

 

"We have leeway if the euro-zone's economic dynamics worsen considerably, which would go against current data."

 

The ECB has noted the "distinct weakening" of the economy, but this "has been in our forecasts for a long time," he said. The likelihood of a recession in the euro-zone is small, he added.

 

คนของ ธนาคารกลางยุโรป ได้กล่าวเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลงมา ว่า จะไม่ทำการลดอัตราดอกเบี้ยลงมา

และหนทางแก้ไข ปัญหาวิกฤติ ก็จะคล้ายกับหมอ ที่รักษาอาการไข้ เช่น เป็นหวัด ก็กินยาบรรเทาหวัด มีน้ำมูก ก็กินยา

ลดน้ำมูก ปวดหัว ก็ทานยาแก้ปวด เป็นต้น และคุยอีกว่า วิกฤติที่เกิดขึ้น เราคาดมานานแล้ว ว่าต้องมีสักวันหนึ่ง

แต่เป็นเรื่องจิ๊บ จิ๊บ

 

 

[Pisan 124]

ส่วนกรณี SPDR อย่างที่เคยกล่าวไปแล้วว่า SPDR ซื้อเข้า 2 ครั้งล่าสุด ครั้งละ 10 ตัน ที่ราคา US$1,811 และ US$1,855

ตามลำดับ ยังติดดอยอยู่เลย ประกอบกับ SPDR ก็ประสบปัญหามูลค่าหุ้นที่ลดลงตามตลาดหุ้นฯ จึงคงกำลังปรับพอร์ตของ

ตัวเองอยู่ มั่งครับ

[/color]

 

 

ถ้าให้กรณีนี้ ในความคิดของคุณเด็กขายของว่า มีโอกาสมากน้อยเพียงใดที่ SPDR จะขายทอง 20 ตัว ที่ติดดอย เพื่อปรับพอร์ตและดำเนินการอื่นๆ ต่อไปไหมครับ

 

ขอบพระคุณครับ

[goldgold 29]

ขอบคุณค่ะคุณเด็กขายของ

[KhaoOte 0]

ถึงคุณ Kan2011 ต้องขอเกริ่นสักนิดหน่อย เพื่อจะได้เรียนรู้ร่วมกันไปของเพื่อนๆ บางท่าน ที่อาจไม่ทราบ

 

การซื้อขายล่วงหน้า หรือ Futures Trading นั้น คำว่า มาร์จิ้น (Margin) คือ เงินประกัน หรือ หลักประกัน ที่จะต้องมีการเรียกเก็บไว้เพื่อ

เป็นการรองรับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากกระบวนการซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งจะมีการเรียกเก็บเงินทั้งทางฝ่ายผู้ซื้อและผู้ขาย จุดประสงค์

ของการเรียกเก็บเงินดังกล่าวก็เพื่อให้เป็นที่แน่ใจว่าผู้ซื้อและ ผู้ขายสินค้าล่วงหน้านี้จะปฏิบัติตามภาระผูกพันที่มีอยู่ต่อตลาดกล่าวแบบตรงไปตรงมา มาร์จิ้น หรือ Margin ใน Futures นี้มีไว้สำหรับเป็น เงินมัดจำ หรือ หลักประกัน (ตามตำราเรียกว่า a sign of good

faith คล้ายกับการวางหลักทรัพย์ หรือ ทรัพย์สิน เพื่อประกันตัวผู้ต้องหาที่สถานีตำรวจ ถ้าหนีคดี หรือ หลบหนี หลักประกันก็จะโดนยึด)

โดยเงิน Margin ใน Futures นี้ไม่ใช้เงินที่นำมาใช้จ่ายค่าสินค้า (ไม่เหมือนกันหุ้นที่เงิน Margin มีไว้เพื่อจ่ายค่าหุ้น) แต่เป็นเงินที่วางไว้

เพื่อให้ได้มาของสิทธิที่จะซื้อ หรือ จะขายสินค้าในวันข้างหน้า การจ่ายเงิน-รับเงินสำหรับการซื้อขายสินค้าจริง จะมีขึ้นเมื่อสัญญาซื้อขาย

ล่วงหน้าครบกำหนดส่งมอบแล้วเท่านั้น

 

จากคำถาม คำตอบ คงอยู่ที่ ความผันผวนอย่างมากของตลาดทองคำ ที่มีช่วงห่างเพิ่มขึ้น US$50 - US$100 ต่อคืน จึงต้องมีการ

เรียกวงประกัน ให้คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น เพื่อป้องกันการเบี้ยวหนี้ ครับ

 

ประธานกรรมการ ของ CME Clearing ซึ่งคือ Ms.Kimberly Taylor เขียนบทความเรื่อง “Understanding Margin Changes”

( ทำความเข้าใจ เรื่องความเปลี่ยนแปลง มาร์จิ้น ) ผ่านทาง website OPEN Markets เพื่ออธิบายให้นักลงทุนเข้าใจถึงแนวทาง

ที่ CME Group ในการปรับเปลี่ยนมาร์จิ้น

 

 

อธิบายว่า “มาร์จิน” ไม่ใช่เป็นเครื่องมือในการกำหนดราคา หรือสามารถทำให้ราคาสินค้าเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง

แต่ “มาร์จิน” เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงที่ทาง Exchange ใช้ประเมินความเสี่ยงด้านราคาเพื่อช่วยนักลงทุนในการเตรียม

ความพร้อมรับมือกับความความเสี่ยงด้านราคาการของซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งทาง CME Clearing มีหลักในการคำนวณมาร์จิ้นให้มี

ขนาดที่เหมาะสม ต่อ ความเสี่ยงการขึ้นลง ของราคา ณ. ช่วงเวลาหนึ่ง มิให้มากเกินไปจนเป็นภาระต่อผู้ลงทุน หรือน้อยเกินไป

จนทำให้ไม่สามารถรองรับความเสี่ยงจากการผันผวนของราคาของสินค้าใดได้ ( Safety First ในด้านของตัวเองเป็นหลัก ไม่

อยากให้เกิดเหตุการณ์ต้องไปตามทวงหนี้ เพิ่ม วางเยอะๆ ไว้ก่อน กูชอบ แต่นักลงทุนไม่ชอบ )

 

ส่วนกรณี SPDR อย่างที่เคยกล่าวไปแล้วว่า SPDR ซื้อเข้า 2 ครั้งล่าสุด ครั้งละ 10 ตัน ที่ราคา US$1,811 และ US$1,855

ตามลำดับ ยังติดดอยอยู่เลย ประกอบกับ SPDR ก็ประสบปัญหามูลค่าหุ้นที่ลดลงตามตลาดหุ้นฯ จึงคงกำลังปรับพอร์ตของ

ตัวเองอยู่ มั่งครับ

 

ขอบคุณค่ะ คุณเด็กขายของผู้ใจดี ตอบคำถามได้กระจ่างมากเลย

[เศษรฐีน้อย จากร้อยสู่ล้าน 97]

ญี่ปุ่นย้ำพร้อมเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อสกัดเยนแข็ง

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน 2011 เวลา 21:14 น. กอง บก.ออนไลน์ ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ

 

ญี่ปุ่นย้ำถึงความพร้อมที่จะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเยน โดยรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นแสดงความไม่พอใจต่อการที่เยนแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากปัญหาหนี้ยูโรโซนและความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกถดถอย โดยจากคำแถลงของผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าบีโอเจอาจจะผ่อนคลายนโยบายการเงินลงในอนาคต โดยจะพิจารณาอย่างละเอียดว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทำให้แนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเผชิญความเสี่ยงที่สูงขึ้นจนถึงขั้นที่ทำให้บีโอเจต้องดำเนินมาตรการใหม่หรือไม่ ทั้งนี้รมว.คลังญี่ปุ่นกล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า เยนยังคงอยู่ในระดับสูง และได้รับแรงหนุนจากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสิ่งนี้อาจเป็นปัจจัยที่ถ่วงเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยทางการญี่ปุ่นเคยกล่าวมาแล้วหลายครั้งว่าญี่ปุ่นจะดำเนินมาตรการที่เฉียบขาดในการต่อต้านการแข็งค่ามากเกินไปของเยนที่เกิดจากการเก็งกำไร ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ค่าเงินเยนเบี่ยงเบนไปจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ

[เศษรฐีน้อย จากร้อยสู่ล้าน 97]

ตลาดอนุพันธ์ขยายช่วงเวลา Pre-Night Session

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน 2011 เวลา 21:44 น. สุวิภา บุษยบัณฑูร ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในวันนี้ (26 ก.ย.2554) ตลาดอนุพันธ์ได้ขยายช่วงเวลา Pre-Night Session ของการซื้อขาย Gold Futures และ Silver Futures จากเดิมในช่วง 19:15 - 19:30 น. เป็นช่วง 19:15 - 20:10 น. เนื่องจากระบบงานต้องใช้เวลาในการประมวลผลมากกว่าปกติ โดยตลาดอนุพันธ์ได้เปิดการซื้อขายในช่วง Night Session ตั้งแต่เวลา 20:10 น. ซึ่งตลาดอนุพันธ์ ได้แจ้งให้บริษัทสมาชิกตลาดอนุพันธ์ทราบความคืบหน้าเป็นระยะๆ ทั้งนี้จะปิดทำการซื้อขายในเวลา 22:30 น. ตามปกติ

[เศษรฐีน้อย จากร้อยสู่ล้าน 97]

ยุโรปร่างแผนกอบกู้ยูโรโซน

 

ต่างประเทศ 27 กันยายน 2554 - 00:00

รัฐบาลยุโรปเริ่มหารือร่างแผนการกอบกู้วิกฤติยูโรโซน ป้องกันปัญหาหนี้สินกรีซไม่ให้ลุกลามไปทั้งโลก เผยทางเลือกไรต์ดาวน์หนี้กรีซ 50% พร้อมขยายกองทุนปล่อยกู้โอบอุ้มชาติสมาชิก

กลุ่มชาติยุโรปในยูโรโซนกำลังพิจารณามาตรการใหม่ เพื่อรับมือวิกฤติหนี้สาธารณะของชาติสมาชิก โดยเฉพาะกรีซที่สุ่มเสี่ยงต่อการล้มละลายและต้องผิดนัดชำระหนี้ หากไม่ได้รับเงินกู้งวดใหม่จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ในเดือนหน้า โดยมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยุโรปกำลังร่างแผนกอบกู้หนี้ และคาดหวังว่าจะปรากฏเป็นรูปเป็นร่างได้ภายใน 5-6 สัปดาห์

ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีคลังจี 20 และไอเอ็มเอฟกับธนาคารโลก เมื่อสุดสัปดาห์ อียูถูกสหรัฐ, จีนและหลายชาติกดดันอย่างหนัก ให้ใช้ความแน่วแน่เด็ดขาดมากขึ้นในการแก้ปัญหาหนี้สินในยูโรโซน

ขณะเดียวกัน กลุ่มจี 20 ได้ออกแถลงการณ์ด่วนฉบับหนึ่งตามมาในวันอาทิตย์ ยืนยันว่า จี 20 ยังคงยึดมั่นกับการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างแข็งขัน เพื่อแก้ปัญหาท้าทายที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญ พร้อมกับให้คำมั่นว่าจะ "ดำเนินการอย่างหนักแน่นเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน, ฟื้นความเชื่อมั่น และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ"

ด้านรัฐมนตรีคลัง อีวานเจลอส เวนิเซลอส ของกรีซ พยายามเรียกความมั่นใจเช่นกันในที่ประชุมสมาคมธนาคาร 450 แห่งจากทั่วโลก โดยเขากล่าวว่า กรีซจะมีมาตรการใหม่ๆ มาต่อสู้วิกฤติหนี้สินของประเทศ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 160% ของจีดีพี "เราพร้อมจะริเริ่มมาตรการใหม่ๆ ที่จำเป็น ไม่ว่าจะต้องแลกกับต้นทุนทางการเมืองเท่าใด" เขายืนยันด้วยว่า กรีซจะไม่ออกจากยูโรโซนและจะไม่ผิดนัดชำระหนี้

ในขณะที่ผู้แทนกรีซยังแสดงความมั่นใจว่า วิกฤติในประเทศตนจะไม่ก่อ "โดมิโนเอฟเฟ็กต์" ไปยังชาติอื่นในยูโรโซน บรรดารัฐบาลของยูโรโซนเองก็กำลังร่างแผนขยายกองทุนปล่อยกู้ของตน ที่เรียกในชื่อว่า กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (อีเอฟเอสเอฟ) ที่ปัจจุบันมีอำนาจในการปล่อยกู้ที่ 440,000 ล้านยูโร

ข่าวบีบีซีรายงานว่า รายงานของไอเอ็มเอฟจากที่ประชุมในวอชิงตันสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแย้มพรายว่า แผนที่ทะเยอทะยานและใหญ่โตนี้อาจเกี่ยวพันถึงการการลดมูลค่าทางบัญชีทรัพย์สินของกรีซลง 50% และรวมถึงการเพิ่มขนาดกองทุนโอบอุ้มชาติสมาชิกยูโรโซนเป็น 2 ล้านล้านยูโร

ออลลี เรห์น กรรมาธิการการคลังอียู เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ดีเวลต์ ฉบับวันจันทร์เช่นกันว่า อียูกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มอำนาจการปล่อยกู้ของอีเอฟเอสเอฟ เพื่อให้กองทุนนี้มีความแข็งแกร่งขึ้น

อย่างไรก็ดี ยังมีความเห็นขัดแย้งอยู่มากว่า ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อการเพิ่มขนาดกองทุนดังกล่าว และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ควรทุ่มเงินที่มีอยู่มหาศาลลงไปโอบอุ้มธนาคาร และชาติสมาชิกยูโรโซนมากขึ้นหรือไม่ อันโตนิโอ บอร์เกส เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไอเอ็มเอฟประจำยุโรป กล่าวกดดันอีซีบีว่า ธนาคารกลางยุโรปเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่มีอำนาจพอที่จะ "ขู่ขวัญ" ตลาด

กระนั้น รัฐบาลเยอรมนีซึ่งเป็นผู้ควักกระเป๋ารายใหญ่สุด และพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงในอีซีบี ยังแสดงความกังวลหากอีซีบีถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับการโอบอุ้มกรีซ และประเทศที่หนี้สินล้นพ้นตัวชาติอื่นๆ อย่างล้ำลึกกว่านี้.

[เศษรฐีน้อย จากร้อยสู่ล้าน 97]

วิธีถนอมดวงตาเวลาใช้คอมพิวเตอร์เรื่องเล่าดีๆ

 

ถนอม "สายตา" คู่สวย ยามนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ ด้วยวิธีง่ายๆ

 

1.เริ่มจาก จอภาพ ควรห่างจากสายตาประมาณ 1 ช่วงแขน และ ตั้งกับโต๊ะที่ไม่สูงหรือต่ำเกินไป หากระยะห่างระหว่างจอกับตาไม่สัมพันธ์กัน จะทำให้รู้สึกเมื่อยล้าและปวดตาได้ นอกจากนี้ ยังส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณไหล่และหลังเกร็ง เนื่องจากท่านั่งไม่สมดุล และต้องก้ม-เงย เป็นเวลานาน

 

2.ปรับแสงหน้าจอคอมฯ ให้รู้สึกสบายตา โดยดูจากสภาพแวดล้อมในห้องด้วยว่า เมื่อส่องมากระทบจะมีแสงจ้าเกินไปหรือไม่ เพราะแสงที่สว่างมากจะส่งผลเสียต่อตาได้ง่าย อาจทำให้รู้สึกแห้งและแสบตา

 

3.คลายความล้า โดยหยุดพักทุก 30 นาที มองไปไกล ๆ หรือหลับตาประมาณ 5 นาที จากนั้น อาจเปลี่ยนอิริยาบถยืดเส้นยืดสาย เพื่อลดปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเนื่องจากการใช้คอมฯ เป็นเวลานาน

 

4.หลังทำงานเสร็จ หลับตา แล้วใช้น้ำเย็นชโลมดวงตา หรือหาผ้าชุบน้ำหมาด ๆ มาปะคบประมาณ 5 นาที จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อตา และทำให้เลือดหมุนเวียนมาเลี้ยงดวงตาได้ดี

 

ลองไปปรับใช้กับคอมพิวเตอร์เครื่องโปรดกันดู เพื่อถนอมดวงตาคู่สวยให้ใสปิ๊ง และทำหน้าที่อย่างมี

Link : http://www.innnews.co.th/วิธีถนอมดวงตาเวลาใช้คอมพิวเตอร์--310119_32.html

[เศษรฐีน้อย จากร้อยสู่ล้าน 97]

ตลท.ร่วมสมาคมบล. ย้ำบจ. ยังแกร่ง เน้นผู้ลงทุนบริหารพอร์ตการลงทุน

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน 2011 เวลา 22:00 น. สุวิภา บุษยบัณฑูร ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

 

 

ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ยันพื้นฐานบริษัทจดทะเบียนและเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง ย้ำผู้ลงทุนควรติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด

 

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยภายหลังได้ร่วมหารือกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ถึงกรณีที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET Index) ปรับลดลงในวันนี้ โดยเฉพาะในการซื้อขายภาคเช้าจนถึงช่วงแรกของภาคบ่าย และได้ปรับตัวดีขึ้นจนปิดที่ 904.06 จุด ลดลง 5.65 % โดยพบว่า เมื่อเทียบการซื้อขายในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ไทย ซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศ TIP (ไทย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์) ได้ปรับลดลงในระดับที่ใกล้เคียงกัน โดยตลาดหลักทรัพย์ไทยลดลง 11.1% อินโดนีเซีย 11.6% และฟิลิปปินส์ 13.6% ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ของอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ได้ปรับลดลงไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว

 

 

 

สำหรับปัจจัยที่ดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ปรับลดลง เป็นผลจากการลดลงของ 2 หมวดธุรกิจที่มี Market Cap. ใหญ่ ได้แก่ หมวดธนาคาร (Banking) และหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค (Energy & Utilities) โดยหมวดพลังงานฯ ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงต่อเนื่อง ในขณะที่ หมวดธนาคารได้รับผลกระทบจากปัญหาธนาคารในยุโรป ประกอบกับมีการกระจายสินทรัพย์ (Asset Allocation) จากสินทรัพย์ที่ผันผวนสูงโดยเฉพาะน้ำมัน ทอง และหุ้น ไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

 

“บริษัทจดทะเบียนไทยมีพื้นฐานที่ดี เห็นได้จากความสามารถในการทำกำไรที่ดีต่อเนื่องโดยมีกำไรสุทธิในช่วง 6 เดือนแรกของปีเพิ่มขึ้น 35% จากปีที่แล้ว และมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกลางสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ 110, 050 ล้านบาท นอกจากนี้ ในภาค Real Sector ยังแข็งแรง โดยได้รับการยืนยันจากคุณพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยว่าบริษัทต่าง ๆ มีแผนรองรับที่ดี แม้จะมีวิกฤตยุโรปก็ตาม” นายจรัมพรกล่าว

 

นายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนในตลาดโลกยังมีความระมัดระวังในการลงทุนสินทรัพย์มีความเสี่ยง ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย โดยผลกระทบที่เกิดจาก panic selling ในครั้งนี้ เนื่องจากตลาดไทยปรับตัวลงช้ากว่าตลาดอื่น และยืนยันว่า short sale ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ตลาดลง สำหรับตลาดอนุพันธ์ที่มีข่าวลือว่าเกิดการ forced sell นั้น ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าน้อยมาก จึงไม่ใช่สาเหตุ เนื่องจากผู้ลงทุนในตลาดอนุพันธ์เข้าใจและปรับสถานะได้อย่างเหมาะสม

 

นายชาญชัยกล่าวด้วยว่า พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง แต่ผู้ลงทุนต้องติดตามสถานการณ์ว่ายุโรปจะแก้ไขปัญหาอย่างไร ซึ่งเรื่องเหล่านี้มีอิทธิพลต่อตลาด ผู้ลงทุนควรระมัดระวังในการลงทุนโดยติดตามข่าวสารในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด” นายชาญชัยกล่าว

 

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นที่ปรับตัวลงครั้งนี้ เป็นแรงขายจากต่างประเทศ ช่วงที่ผ่านมาตลาดอื่นปรับตัวลดลง และค่าเงินบาทในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับสกุลเงินเอเชีย ค่อนข้างแข็งค่า ทำให้ผู้ลงทุนกลุ่มนี้ขายหุ้นออกมาเพื่อเยียวยากับการลงทุนในตลาดอื่น จากการประเมินเบื้องต้น เห็นว่ายังมีความไม่แน่นอนสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรติดตามข้อมูลรวมทั้งงานวิจัยของโบรกเกอร์เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน ซึ่งขณะนี้เป็นเวลาที่ผู้ลงทุนที่สามารถเริ่มทยอยสะสมลงทุนในหุ้น และกองทุน LTF/RMF ได้

 

นายมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหลักทรัพย์ของไทยมีระบบบริหารความเสี่ยงที่ดีสำหรับบริษัทสมาชิกและผู้ลงทุน ประการแรก คือการมีระบบ Margin ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2551 มีระบบ Equity Credit Bureau ที่ทำให้บริษัทสมาชิกสามารถเห็นข้อมูลการให้ข้อมูลการให้สินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin) ทำให้มีข้อมูลที่ดีในการควบคุมการปล่อยสินเชื่อ และช่วยจำกัดความเสี่ยง สำหรับอัตราการวางหลักประกันในการซื้อขาย 15% เป็นเป็นอัตราที่เหมาะสม เพราะทำให้นักลงทุนมีความรอบคอบ

 

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมบริษัทนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า การลงทุนในช่วงนี้แบ่งได้เป็น 2 ระยะ คือ ระยะสั้น และระยะยาว ซึ่งมาตรการ Operation Twist ของธนาคารกลางของสหรัฐฯ ที่มุ่งเป้ากดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวลดลง ผู้ลงทุนจึงควรใช้ความรอบคอบในการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว ในขณะที่การลงทุนระยะสั้นในช่วงนี้ยังมีความไม่แน่นอน

 

“ขณะนี้หุ้นไทยอยู่ในภาวะตลาดขาลง ซึ่งต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานอย่างชัดเจน หุ้นที่นักวิเคราะห์รวบรวมใน SAA Consensus จะเห็นได้ว่าหุ้นในกลุ่ม SET50 มีราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน 20-30% ซึ่ง ณ ระดับดัชนีที่ 900 จุด ผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ประมาณ 4% ถือว่าสูง ขณะที่พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง ประกอบกับมีตัวช่วยจากนโยบายรัฐบาลที่ตลาดอื่นไม่มี คือ การลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เป็น 23% ในปี 2555 และจะลดเป็น 20% ในปี 2556 ซึ่งจะทำให้พื้นฐานบริษัทจดทะเบียนไทยดีขึ้น รวมทั้งมาตรการเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนซึ่งจะทำให้จะมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญคือผู้ลงทุนต้องมีการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่ดี” นายสมบัติกล่าวเสริม

[เศษรฐีน้อย จากร้อยสู่ล้าน 97]

ส.ค.ยอดขาดดุลการค้าของนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น NZ$ 111 ล้าน

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน 2011 เวลา 22:23 น. กอง บก.ออนไลน์ ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ

 

สำนักงานสถิติแห่งชาตินิวซีแลนด์เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าของนิวซีแลนด์อยู่ที่ระดับ 641 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นจากเดือนก.ค.ที่ระดับ 111 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ เนื่องจากนิวซีแลนด์มียอดการนำเข้าสูงกว่าการส่งออก โดยยอดการส่งออกพุ่งขึ้น 313 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ เนื่องจากมีการส่งออกเนื้อและเครื่องในสัตว์, น้ำมันดิบ, นมผง, เนย และชีส สูงขึ้น ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 523 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ เนื่องจากมีการนำเข้าน้ำมันดิบ และ เครื่องจักรและอุปกรณ์เครื่องจักรเพิ่มขึ้น ซึ่งตัวเลขการนำเข้าและส่งออกในเดือนส.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าเดือนส.ค.ปีที่แล้ว ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศที่นำเข้าสินค้าจากนิวซีแลนด์มากที่สุด โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 117 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ หรือเพิ่มขึ้น 47% โดยส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าไม้สนพันธุ์ pinus radiata ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 40 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ ขณะที่เกาหลีใต้นำเข้าผลกีวีสีทองจากนิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น 28 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ หรือเพิ่มขึ้น 30%

[Pete 15,187]

4 ทุ่มครึ่ง ได้เวลาตลาดลอนดอย ปิดอีกแล้ว อเมริกันฉายเดี่ยวจะไปทางไหนดีล่ะ ?

[แนน 0]

ขอบคุณน้ำใจงามๆของคุณเด็กขายของ และ คุณเศรษฐีน้อยจากร้อยสู่ล้านนะค้ะ

ที่นำข่าวสารและแง่คิดดีๆมาให้พวกเราได้ติดตามอย่างรวดเร็ว ทันเหตุการณ์

ขอให้รวยๆ และมีความมากๆนะค้ะ !thk

[เลียงผา 13]

4 ทุ่มครึ่ง ได้เวลาตลาดลอนดอย ปิดอีกแล้ว อเมริกันฉายเดี่ยวจะไปทางไหนดีล่ะ ?

 

เย้ เย้ เมกาเอาขึ้นมานิดนึงแย้ว 1628 แต่กว่าตลาดบ้านเราเปิดคงลงมาเท่าตอนลอนดอยปิด ><"