ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

เงินบาทเปิด 31.02/04 แข็งค่าตามภูมิภาคหลังเฟดเล็งลดมาตรการQEเร็วๆนี้

 

 

แหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.02/04 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.27/29 บาท/ดอลลาร์ โดยเป็นการแข็งค่าตามสกุลเงินในภูมิภาคหลังดอลลาร์อ่อนค่าลงจากประเด็นที่เฟดออกมาระบุว่าอาจจะมีการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในปัจจุบันลงเร็วๆ นี้ เนื่องจากภาวะการจ้างงานปรับตัวดีขึ้น

 

"ดอลลาร์กลับมาอ่อนค่า ค่าเงินเอเชียก็แข็งค่าเกือบจะทุกสกุล...เพราะที่ประชุมกนง.เมื่อวานนี้ไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพร์สตลาด" แหล่งข่าวกล่าว

 

ทั้งนี้ คาดว่าเงินบาทวันนี้น่าจะยังมีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 31.00-31.25 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

 

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.38/40 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 100.09/12 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3076/3079 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.2814/2818 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.วันนี้อยู่ที่ 31.2570 บาท/ดอลลาร์

- นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวในการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมเมื่อเดือนที่แล้วว่า มาตรการผ่อนคลายทางการเงินในปัจจุบันอาจจะมีการปรับลดลงภายในปีนี้

สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) หลายรายที่มีสิทธิออกเสียงระบุว่า "การลดขนาดการซื้อสินทรัพย์มีแนวโน้มที่จะมีความเหมาะสมในเร็วๆ นี้ หลังจากการว่างงานลดลงมากขึ้นนับแต่การประชุมเดือนก.ย. และการจ้างงานในภาคเอกชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง" รายงานระบุ

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังไม่มั่นใจว่าเฟดจะตัดสินใจลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE เมื่อใด หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ระบุว่า เฟดต้องการให้ตลาดแรงงานฟื้นตัวขึ้นมากกว่านี้ ก่อนที่จะตัดสินใจชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

ค่าเงินดอลลาร์สสหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 100.18 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 100.95 เยน และอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9655 ฟรังค์ จากระดับ 0.9724 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2881 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2787 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4923 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4869 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.9115 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9191 ดอลลาร์สหรัฐ

ขณะที่เงินหยวนปรับตัวขึ้น 0.53% แตะที่ 6.1599 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดระดับใหม่

- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า สหรัฐจำเป็นต้องใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้เพื่อผลักดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 270 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,950 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,292.66 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 29.21 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.761 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบร่วงลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 2.99 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 108.51 ดอลลาร์/บาร์เรล

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บีโอเจมีมติคงนโยบายการเงิน-ปรับเพิ่มการประเมินเศรษฐกิจเดือนก.ค

 

 

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ พร้อมกับปรับเพิ่มการประเมินเศรษฐกิจเดือนก.ค. อย่างไรก็ตาม บีโอเจได้ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจในปีงบประมาณ 2556 ว่า จะขยายตัว 2.8% จากเดิมที่คาดว่า จะขยายตัว 2.9%

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แค่บ่นเฉยๆ ว่า ค่าเงินบาทที่เหมาะสม ตอนนี้ ต้อง 30.70 - 30.80 บาท ต่อ 1 ดอลล์สหรัฐ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นบ่ายนี้ ขานรับวาทะ"เบอร์นันเก้"-ผลประชุมบีโอเจ

 

 

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นบ่ายนี้ ขานรับวาทะของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า สหรัฐยังจำเป็นต้องใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณต่อไป รวมทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากมติของที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในการคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายไว้ไม่เปลี่ยนแปลง

ดัชนี MSCI Asia Pacific พุ่ง 1.7% แตะ 134.65 เมื่อเวลา 11.51 น.ตามเวลาฮ่องกง

หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่ง 2.3% ในตลาดหุ้นออสเตรเลีย ขณะที่หุ้นกลุ่มวัตถุดิบดีดตัวขึ้น ส่วนหุ้นนิวเครสท์ ไมนิ่ง ทะยาน 11% ขานรับราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 4 วัน

นายเบอร์นันเก้ กล่าวที่สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติของสหรัฐเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากอัตราว่างงานยังสูงและอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายของเฟด

ทางด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ พร้อมกับปรับเพิ่มการประเมินเศรษฐกิจเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มการประเมินเศรษฐกิจติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 โดยระบุว่า "เศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นตัวปานกลาง" ท่ามกลางการฟื้นตัวขึ้นของความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคก็พุ่งขึ้นแข็งแกร่งด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนวรับแนวต้าน อาจเริ่มจากบ่ายถึงเที่ยงคืน

 

Support: - 1272.92, 1262.38 and 1252.34(main). 1237.46, 1213.60

 

Resistance: - 1293.55(main)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มันมาทดสอบอย่างแข็งกร้าวเลยป๋า

 

ตอนนี้ ตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ กลัว จ้าว ทุบ ^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งวิเคราะห์วิเดายามบ่าย กล่าวไว้ว่า " แมร่งไม่คิดว่า $ 1299 จะมาให้เห็นเร็วจังในตอนนี้ การที่ราคาทอง Spot ปรับขึ้น เกิดจากความอ่อนล้า / การทำกำไรค่าเงิน ของนักลงทุนที่เทขายดอลล์สหรัฐฯ ไม่ใข่ว่ายูโรโซนจะมีอะไรดี ที่ทำให้ค่าเงินยูโรกลับมาเพิ่มขึ้นเหนือ 1.30 ในเมื่อราคาทองขึ้นมาได้ระดับนี้ ใครถือสถานะซื้ออยู่ก่อนแล้ว ก็คงต้องถือต่อไป โดยมีเป้าหมาย 2 จุด คือ $1299 และ $1309 แต่ในมุมมองที่จะกล่าววันนี้ คือ " ย่อตัว " แบบแต่สูงกว่าราคาปิดเมื่อคืนที่ $1261 คงระหว่าง $1265-1275 สำหรับขาเสี่ยงให้ ดังนี้

 

หมายเหตุ ท่องจำ จำใส่กบาล : Mr.Bernarke : Remember that i have told you FED won't allow the dollar to be stronger than 1.2700 นายเบนฯ จะเลี้ยงค่าเงิน ไม่ยอมให้สกุลเงินดอลล์สหรัฐฯ ต่อ ยูโร แข็งเกินกว่า 1.2700 โดยมีการอาศัยขาใหญ่ เทขายสกุลเงินเมื่อถึงจุดที่วางไว้ จนกว่า มันจะลาออกจากตำแหน่ง ประธานฯ Fed

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แค่บ่นเฉยๆ ว่า ค่าเงินบาทที่เหมาะสม ตอนนี้ ต้อง 30.70 - 30.80 บาท ต่อ 1 ดอลล์สหรัฐ

 

ถามนิดค่ะป๋า ว่ามีที่มาจากที่นายเบนจะเลี้ยงค่าเงินหรือเปล่าคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งวิเคราะห์วิเดายามบ่าย กล่าวไว้ว่า " แมร่งไม่คิดว่า $ 1299 จะมาให้เห็นเร็วจังในตอนนี้ การที่ราคาทอง Spot ปรับขึ้น เกิดจากความอ่อนล้า / การทำกำไรค่าเงิน ของนักลงทุนที่เทขายดอลล์สหรัฐฯ ไม่ใข่ว่ายูโรโซนจะมีอะไรดี ที่ทำให้ค่าเงินยูโรกลับมาเพิ่มขึ้นเหนือ 1.30 ในเมื่อราคาทองขึ้นมาได้ระดับนี้ ใครถือสถานะซื้ออยู่ก่อนแล้ว ก็คงต้องถือต่อไป โดยมีเป้าหมาย 2 จุด คือ $1299 และ $1309 แต่ในมุมมองที่จะกล่าววันนี้ คือ " ย่อตัว " แบบแต่สูงกว่าราคาปิดเมื่อคืนที่ $1261 คงระหว่าง $1265-1275 สำหรับขาเสี่ยงให้ ดังนี้

 

หมายเหตุ ท่องจำ จำใส่กบาล : Mr.Bernarke : Remember that i have told you FED won't allow the dollar to be stronger than 1.2700 นายเบนฯ จะเลี้ยงค่าเงิน ไม่ยอมให้สกุลเงินดอลล์สหรัฐฯ ต่อ ยูโร แข็งเกินกว่า 1.2700 โดยมีการอาศัยขาใหญ่ เทขายสกุลเงินเมื่อถึงจุดที่วางไว้ จนกว่า มันจะลาออกจากตำแหน่ง ประธานฯ Fed

 

วันนี้พี่ขายของ ดุเดือดจัง แต่ ช๊อบชอบ สะใจมาก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ถามนิดค่ะป๋า ว่ามีที่มาจากที่นายเบนจะเลี้ยงค่าเงินหรือเปล่าคะ

ไม่น่าใช่ครับ เป็นเรื่องของกิจการภายในของรัฐบาล มากที่สุดครับ รัฐบวมล้วนๆๆ งานนี้ ที่ทำให้อ่อนค่า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 31.11/12 อ่อนค่าจากแรงซื้อขาย มองกรอบพรุ่งนี้ 31.00-31.20

 

 

แหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 31.11/12 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.02/04 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับสกุลเงินอื่นๆในภูมิภาค

 

 

โดยระหว่างวันปรับตัวขึ้นลงในกรอบ 31.02-31.12 บาท/ดอลลาร์ ค่อนข้างผันผวน ช่วงเช้าแข็งค่า และอ่อนค่าลงในช่วงบ่าย ตามแรงซื้อขาย

 

 

ทั้งนี้คาดว่าวันพรุ่งนี้เงินบาทน่าจะยังมีทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 31.00-31.20 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.40 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 99.38/40 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3042 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.3076/3079 ดอลลาร์/ยูโร

- SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,447.04 จุด เพิ่มขึ้น 58.63 จุด(+4.22%) มูลค่าการซื้อขาย 55,125.74 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีดีดตัวขึ้นเป็นตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชีย รับแรงหนุนประธานเฟดยังคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อและรายงานการประชุมเฟดมีการบ่งชี้ว่าสมาชิกอยากให้ตัวเลขการว่างงานดีขึ้นก่อนปรับลดขนาด QE

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 308 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,988 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,296.77 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 33.32 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

- สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า พันธบัตรหมายเลข 329 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.815% ลดลง 0.035% จากระดับปิดเมื่อวานนี้ ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือนกันยายน ปรับตัวขึ้น 0.49 จุด แตะที่ระดับ 143.12 ในตลาดโตเกียว

- ธนาคารกลางเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศจะทำสถิติสูงสุดสถิติใหม่ในปีนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลง โดยรายงานของธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจะทำสถิติใหม่ที่ 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2556 หลังมียอดเกินดุล 4.31 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2555

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไม่น่าใช่ครับ เป็นเรื่องของกิจการภายในของรัฐบาล มากที่สุดครับ รัฐบวมล้วนๆๆ งานนี้ ที่ทำให้อ่อนค่า

 

ขอบคุณค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 11 กรกฎาคม 2556 โดย YLG

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม 2556 16:59:06 น.

กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--PRdd

สภาวะตลาดวันที่ 11 กรกฎาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,264.41—1,298.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ13 อยู่ที่ 19,060 บาท โดยราคาปรับตัวขึ้น 390 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,670 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVQ13 อยู่ที่ 610 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 610 บาท

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.46 น.ของวันที่ 11/07/13)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 12 กรกฎาคม 2556

รายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ประจำวันที่ 18-19 มิถุนายน ระบุว่ากรรมการ FOMC กรรมการหลายคนต้องการหลักฐานยืนยันว่าการจ้างงานในสหรัฐได้ฟื้นตัวขึ้น โดยมีพื้นฐานที่มั่นคงก่อนที่เฟดจะปรับลดขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด กล่าวที่สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติว่า เฟดจะดำเนิน"นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างมากในอนาคตอันใกล้นี้ต่อไป" และ กล่าวย้ำด้วยว่า อัตราว่างงานที่ 7.6% ในปัจจุบันอาจจะสะท้อนภาวะตลาดแรงงานที่มากกว่าความเป็นจริง และอัตราดอกเบี้ยจะไม่ปรับขึ้น โดยอัตโนมัติ เมื่ออัตราว่างงานแตะเป้าหมายที่ 6.5% ของเฟด ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์ร่วงลง หลังจากความเห็นประธานเฟด ทั้งนี้นักลงทุนต้องขายดอลลาร์ออกมา ขณะที่ตลาดทองคำต้องทำการประเมินใหม่ต่อจังหวะเวลาที่เฟดจะเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากด้านเจ้าหน้าที่เฟดจำนวนมากต้องการให้มีความมั่นใจมากขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของการจ้างงาน ก่อนจะปรับลดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้เป็นปัจจัยหนุนเข้ามายังตลาดทองคำสำหรับมุมมองของวายแอลจีที่มีต่อราคาทองคำนั้น ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านในโซน 1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง แต่ถ้าไม่สามารถผ่านได้ยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรทางเทคนิคออกมา ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าซื้อเก็งกำไรเช่นเดิม

 

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ราคาทองคำมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นไปได้ โดยหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,300-1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ราคาทองคำอาจมีย่อตัวลงมาเพื่อสร้างฐานของราคา โดยประเมินแนวรับที่ 1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวหากราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับสำคัญถัดไปบริเวณ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ยังคงแนะนำลงทุนระยะสั้นโดยให้รอจังหวะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดดีดตัว

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,272 (18,690บาท) 1,260 (18,510บาท) 1,250 (18,360บาท)

แนวต้าน 1,300 (19,100บาท) 1,310 (19,250บาท) 1,320 (19,390บาท)

GOLD FUTURES (GFQ13)

แนวรับ 1,272 (18,830บาท) 1,260 (18,650บาท) 1,250 (18,500บาท)

แนวต้าน 1,300 (19,240บาท) 1,310 (19,390บาท) 1,320 (19,530บาท)

SILVER FUTURES (SVQ13)

แนวรับ 19.70 (600 บาท) 19.35 (589 บาท) 18.90 (575 บาท)

แนวต้าน 20.35 (620 บาท) 20.60 (628 บาท) 20.95 (639 บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะตลาด Gold Future By GT Wealth Management 11 ก.ค. 56 (ภาคบ่าย)

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม 2556 17:17:16 น.

กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ US$1,280-1,290 ต่อออนซ์(Gold spot) โดยได้รับแรงหนุนจากรายงานการประชุม FOMC ครั้งล่าสุดและคำแถลงการณ์ของนายเบน เบอร์นันเก้ ซึ่งช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับมาตรการ QE ที่อาจจะลดขนาดลง ทางด้านเอเชีย ผลการประชุม BOJ มีมติคงนโยบายการเงินพร้อมปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจ โดยวันนี้ติดตามตัวเลขยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และการปราศรัยของนาย Daniel Tarullo หนึ่งในคณะกรรมการ FOMC ที่มีสิทธิ์ออกเสียงที่มีแนวคิดสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ ขณะที่ค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าใกล้ระดับ 31.0 THB/US$ ด้านกองทุน SPDR รายงานการถือครองทองคำลดลงต่อเนื่อง 0.68 ตันที่ระดับ 939.07 ตัน

 

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 (GFQ13) ปิดที่ระดับ 19,020 บาท ปริมาณการซื้อขาย 1,273 สัญญา

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 ขนาด 10 บาท (GF10Q13) ปิดที่ระดับ 19,010 บาท ปริมาณการซื้อขาย 3,240 สัญญา

 

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเมื่อคืนสะท้อนแรงซื้อจากประเด็นมาตรการ QE ซึ่งจากการประเมินเชื่อว่าจะยังไม่มีการลดในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า จึงมองว่าราคาทองคำอาจจะฟื้นตัวได้ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวประกอบกับแรงหนุนของ ECB การใช้นโยบายผ่อนคลายกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรปผ่านนโยบายดอกเบี้ยต่ำก็น่าจะเป็นปัจจัยเชิงบวก ปัจจัยที่ต้องระมัดระวังคือค่าเงินบาทหลังยังไม่ส่งสัญญาณชะลอ QE เร็ว ๆ นี้อาจจะทำให้เงินดอลล่าร์สหรัฐฯ อ่อนค่าเทียบสกุลเงินอื่นและทำให้เงินบาทแข็งค่ากดดันราคาทองคำในประเทศ ทางเทคนิควันนี้แนะนำ Take profit เนื่องจากใกล้กรอบราคาเป้าหมายที่ให้ไว้ก่อนหน้า US$1,280-1,285 โดยอาจจะรออ่อนตัวแล้วกลับมาสะสมซื้อใหม่อีกครั้ง

 

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...