ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สวัสดียามเย็นวันจันทร์ค่ะทุกคน

สัปดาห์นี้คงได้เห็นอะไรดีๆ แน่เลย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**นักวิเคราะห์คาดยอดค้าปลีกสหรัฐเดือนมิ.ย.ขยายตัวรับดีมานด์ด้านยานยนต์

 

 

นักวิเคราะห์คาดว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐในเดือนมิ.ย. จะขยายตัวขึ้น 0.8% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนพ.ค.

 

ยอดค้าปลีกสหรัฐเดือนมิ.ย. ซึ่งจะมีการเปิดเผยคืนนี้ตามเวลาไทยนั้น คาดว่า จะได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการด้านยานยนต์ที่แข็งแกร่งขึ้น

 

 

ต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำลง และความมั่นคงของภาคครัวเรือนได้รับแรงหนุนจากราคาบ้านและหุ้นที่สูงขึ้น ซึ่งช่วยผลักดันยอดขายรถ ตลาดแรงงานที่ดีขึ้นก็มีส่วนช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบที่ใหญ่ที่สุดของระบบเศรษฐกิจ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**จับตาแถลงการณ์ประธานเฟดกลางสัปดาห์นี้-เก็งงบฯแบงก์

 

 

SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,455.40 จุด เพิ่มขึ้น 1.69 จุด(+0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 39,366 ล้านบาท หุ้นไทยแกว่งแคบติดแนวต้าน 1,460 จุด รอประธานเฟดแถลงนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรสในวันที่ 17-18 ก.ค.ภายในมีงบฯไตรมาส 2/56 กลุ่มสถาบันการเงินปลายสัปดาห์คาดจะออกมาดี ภาพรวมโต 20% ได้ ทิศทางพรุ่งนี้เทรดกรอบ 1,440-1,460 จุด รอปัจจัยใหม่กระตุ้นตลาด

 

 

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,455.40 จุด เพิ่มขึ้น 1.69 จุด(+0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 39,366 ล้านบาท

 

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนกรอบสลับบวกและลบตลอดวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,464.72 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,449.54 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 400 หลักทรัพย์ ลดลง 276 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 163 หลักทรัพย์

 

 

 

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยแกว่งแคบดัชนีไม่ไปไหนไกลยังไม่ผ่าน 1,460 จุด ปัจจัยต่างประเทศดี แต่ภายในประเทศหลังจากที่ดัชนีดีดแรงขึ้นมาตั้งแต่วันพฤหัสฯ (11 ก.ค.) วันนี้ติดแนวต้าน 1,460 จุด

 

ทั้งนี้ ตลาดรอดูนายเบน เบอร์นันเก้ ประธาน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงนโยบายการเงินอย่างไรต่อกรรมาธิการสภาคองเกรสสหรัฐฯในวันที่ 17-18 ก.ค.นี้ เพื่อรอตีความเรื่องการลด QE อีกครั้ง

 

ส่วนปัจจัยในประเทศปลายสัปดาห์นี้จะมีการประกาศงบฯ ไตรมาส 2/56 กลุ่มสถาบันการเงินน่าจะออกมาดี ภาพรวมน่าจะโตได้ 20% แต่ถ้าสังเกตช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นสัญญาณการลดประมาณการเนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวหลังบอนด์ยิลของสหรัฐปรับขึ้นสูง

 

 

ทิศทางพรุ่งนี้ดัชนีไม่น่าจะไปไหนไกล มองเทรดในกรอบ 1,440-1,460 จุด จนกว่าจะมีทิศทางออกไปด้านในด้านหนึ่ง ช่วงนี้รอปัจจัยกระตุ้นตลาดใหม่ๆ

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 31.14/16 ไร้ปัจจัยใหม่ คาดกรอบพรุ่งนี้ 31.10-31.20

 

 

นักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.14/16 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.19/21 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทแข็งค่าสุดที่ระดับ 31.10 บาท/ดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดที่ระดับ 31.21 บาท/ดอลลาร์

 

 

การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้เป็นไปตามแรงซื้อขายของตลาด ซึ่งโดยรวมแล้ววันนี้ตลาดไม่ค่อยคึกคัก ซึ่งอาจจะเป็นเพราะยังไม่มีปัจจัยเด่นๆ เข้ามาที่จะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินมากนัก

 

 

"วันนี้บาทเคลื่อนไหวตามแรงซื้อขายปกติ มีแรงขายจาก offshore บ้าง แต่แรงซื้อจากผู้ประกอบการน้ำมันก็ยังพอมี แต่รวมๆ แล้วตลาดเงียบมาก ยังไม่มีปัจจัยไหนที่จะดึงให้บาทไปด้านใดด้านหนึ่งอย่างชัดเจน" นักบริหารเงิน ระบุ

 

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.10 - 31.20 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.92/96 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 99.19/22 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3025/3026 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3061/3065 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,455.40 จุด เพิ่มขึ้น 1.69 จุด, +0.12%

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 426.77 ลบ.(SET+MAI)

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารกลางฮ่องกง (Hong Kong Monetary Authority-HKMA) ร่วมมือพัฒนาการเชื่อมโยงระบบบาทเนตของไทยกับระบบ US Dollar Clearing House Automated Transfer System (USD CHATS) ของฮ่องกง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการชำระดุลธุรกรรมซื้อขายเงินบาทและเงินดอลลาร์สหรัฐ คาดเปิดให้บริการได้ในเดือนกรกฎาคม 2557

- กระทรวงพาณิชย์ เผยยอดจดทะเบียนเลิกกิจการของธุรกิจส่งออก หลังจากเคยมีปัญหาปิดกิจการไปเป็นจำนวนมากในช่วงที่ค่าเงินบาทแข็งค่า พบว่า ในเดือน มิ.ย.56 มียอดปิดกิจการลดลงเหลือเพียง 34 ราย จากเดือน พ.ค.56 ที่ปิดกิจการถึง 54 ราย และส่วนใหญ่มีปัญหาการขาดทุน และไม่ใช่เป็นผลกระทบจากปัญหาเงินบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ปัญหาเงินบาทไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจส่งออกแล้ว

- นายวิรไท สันติประภพ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ประสานเสียงนายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ภัทร ชี้เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังไม่เผชิญกับภาวะหน้าผาการคลัง เหตุหนี้สาธารณะต่อจีดีพียังไม่น่าห่วง แต่หวั่นนโยบายประชานิยมและการกู้เงินนอกงบประมาณของรัฐบาลจะเป็นตัวเร่งให้เศรษฐกิจไทยเดินเข้าสู่ปากเหวอย่างไม่รู้ตัว

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 58 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,980 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,295.91 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.27 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนสอดคล้องกับการคาดการณ์ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.4% แตะ 297.49 เมื่อเวลา 8.09 น.ตามเวลาลอนดอน

- ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ระบุว่าธนาคารกลางจะยังดำเนินนโยบายด้านการเงินอย่างระมัดระวัง และเพิ่มแรงจูงใจทางการเงินแก่กลุ่มบริษัทขนาดเล็ก โดยจะสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการส่งเสริมเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน

- มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เปลี่ยนแปลงแนวโน้มของระบบธนาคารของสิงคโปร์จากมีเสถียรภาพเป็น "เชิงลบ" เนื่องจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของสินเชื่อ และราคาอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นในสิงคโปร์และตลาดในภูมิภาคที่ธนาคารของสิงคโปร์เปิดทำการ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะทำให้คุณภาพของสินเชื่อถดถอยลง ภายใต้เงื่อนไขที่อาจจะพลิกผันได้ในภาคการธนาคารในอนาคต

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2556 17:37:54 น.

กรุงเทพฯ--15 ก.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกในช่วงบ่าย เคลื่อยไหวอยู่บริเวณ US$1,280 ต่อออนซ์(Gold spot) โดยยังคงไม่ผ่านระดับ US$1,300 ต่อออนซ์ แม้จะมีแรงหนุนจากฝั่งยุโรปทั้งเรื่องการปรับลดอันดับเครดิตของอิตาลี ประธาณาธิบดีไซปรัสกล่าวว่าเขาหวังว่าจะไม่มีการขายทองคำสำรองของประเทศเพื่อแลกเปลี่ยนในการได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ โดยทางฝั่งเอเชีย ตัวเลขเศรษฐกิจจีนอย่าง GDP ไตรมาส 2 ออกมาตามคาด เช่นเดียวกับยอดค้าปลีกที่ออกมาดีกว่าคาด แต่ผลผลิตอุตสาหกรรมออกมาต่ำกว่าที่คาด ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในคืนนี้คือตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างยอดค้าปลีกและคำปราศรัยของนายDaniel Talluro หนึ่งในคณะกรรมการ FOMC ที่มีแนวคิดสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่สัปดาห์นี้ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การแถลงนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรสที่จะมีผลต่อประเด็นเรื่องมาตรการ QE ที่มีผลต่อราคาทองคำ ด้านค่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 31.10บาทต่อดอลลาร์ กองทุน SPDR รายงานการถือครองทองคำคงที่ระดับ 939.07 ตัน

 

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 (GFQ13) ปิดที่ระดับ 19,030 บาท ปริมาณการซื้อขาย 797 สัญญา

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 ขนาด 10 บาท (GF10Q13) ปิดที่ระดับ 19,030 บาท ปริมาณการซื้อขาย 2,896 สัญญา

 

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า Sentiment ของทองคำในช่วงนี้ยังคงเป็นบวกหลังเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ซึ่งคณะกรรมการหลายท่านยังคงให้น้ำหนักของตัวเลขการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นสำคัญก่อนการชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้น้ำหนักความกังวลของตลาดลดลงไปพอสมควร และเริ่มมีแรงไหลกลับเข้ามาของ fund flow จากการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินในภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้เราประเมิณว่าหากตัวเลขการจ้างงานยังคงอยู่ในระดับ 195,000-200,000 ตำแหน่ง อย่างต่อเนื่อง 2-3 เดือนข้างหน้า ความกังวลเรื่องการชะลอมาตรการ QE น่าจะกลับมามีผลกระทบต่อทองคำอีกครั้ง โดยระดับการตัดสินใจสำคัญ US$1,300 ซึ่งเป็นแนวต้านทางเทคนิคและมีเป้าหมายถัดไป US$1,330-1,350

 

GT Wealth Management

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2556 17:01:37 น.

กรุงเทพฯ--15 ก.ค.--PRdd

สภาวะตลาดวันที่ 15 กรกฎาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,280.93—1,294.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ13 อยู่ที่ 19,010 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 60 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,950 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVQ13 อยู่ที่ 610 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 610 บาท

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.25 น.ของวันที่ 15/07/13)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 16 กรกฎาคม 2556

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)ของจีน ไตรมาส 2/2556 ของจีนขยายตัว 7.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ขยายตัว 7.7% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด ส่วนจีดีพีในช่วงครึ่งปีแรกขยายตัว 7.6% สูงกว่าเป้าหมายตลอดปี 2556 ที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 7.5% จึงส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำแต่ไม่มากนัก ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเนื่องจากสกุลเงินยูโรเผชิญกับแรงกดดัน เมื่อวิกฤติยูโรโซนเสี่ยงที่จะปะทุขึ้นอีกครั้งหลังจากบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหรืออันดับเครดิตของรัฐบาลฝรั่งเศสลงมาสู่ระดับ AA+ จากระดับก่อนหน้านี้ ที่อยู่ในระดับ AAA เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ทั้งนี้สหรัฐมีแนวโน้มทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่าประเทศคู่ค้าที่สำคัญอย่างมาก ซึ่งทำให้เป็นไปได้มากขึ้นที่ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดมาตรการกระตุ้นในปีนี้ แต่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี), ธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางญี่ปุ่น ต่างยังคงผ่อนคลายนโยบายการเงินลง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวหนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้ปรับตัวขึ้น ซึ่งส่งผลให้ทองคำลดความน่าดึงดูดลง ซึ่งหากราคาทองคำหากมีการเคลื่อนตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,300-1,303 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถทะลุไปได้ ต้องระมัดระวังแรงกดดันเชิงเทคนิคซึ่งจะส่งผลให้เกิดการอ่อนตัวของราคาทองคำได้อีก สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ต้องเน้นไปที่การเก็งกำไรระยะสั้น ในขณะที่หากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอจังหวะการอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,268-1,253 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยหากสามารถรับความเสี่ยงได้ อาจซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,253 ดอลลาร์ต่อออนซ์พร้อมทั้งมีจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน

 

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,300-1,303 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,317 ดอลลาร์ต่อออนซ์และยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนให้เน้นไปที่การลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,268 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,258 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ จะเห็นการดีดตัวขึ้นระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าว ราคาจะปรับตัวลงต่อ

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,268 (18,650บาท) 1,253 (18,430บาท) 1,234 (18,150บาท)

แนวต้าน 1,303 (19,170บาท) 1,317 (19,380บาท) 1,326 (19,510บาท)

GOLD FUTURES (GFQ13)

แนวรับ 1,268 (18,830บาท) 1,253 (18,610บาท) 1,234 (18,330บาท)

แนวต้าน 1,303 (19,350บาท) 1,317 (19,560บาท) 1,326 (19,690บาท)

SILVER FUTURES (SVQ13)

แนวรับ 19.55 (603 บาท) 19.30 (595 บาท) 19.00 (586 บาท)

แนวต้าน 20.05 (618 บาท) 20.40 (629 บาท) 20.75 (640 บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนวรับและแนวต้าน

 

Support: - 1281.47, 1272.92, 1262.38 and 1252.34(main).

Resistance: - 1293.55 (main)

ฝรั่งวิเคราะห์วิเดายามบ่าย กล่าวไว้ว่า " ราคาทอง และ ค่าเงินยูโร ช่วงนี้ จะกอดคอกันเดินร่วมกันในแนวทางเดียวกัน ถ้าทะลุ $1293.55 ล่ะก็ จะสามารถขึ้นไปทดสอบที่ $1330 แต่ยังไงก็คงมีการย่อตัว เพื่อหาแรงดีดก่อนที่ $1263 ห้ามหลุดต่ำกว่า $1260 เพราะจะกลายเป็นไหลลง ขาดสี่ยงมองแนวทางดังนี้

::

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

คืนนี้เจอกันปู้นเลยนะ.....พี่ใหญ่

ถ้าย่อลงแล้ว ก็ขอให้ค้างไว้ นิ่งๆ มั่ง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Core Retail Sales (MoM)

Actual: 0.0%

Forecast:0.4%

Previous:0.3%

Importance: Currency:USDSource Of Report:Census Bureau (Release URL)

OverviewChartHistory

Core Retail Sales measures the change in the total value of sales at the retail level in the U.S., excluding automobiles. It is an important indicator of consumer spending and is also considered as a pace indicator for the U.S. economy.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the USD, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the USD.

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

NY Empire State Manufacturing Index

Actual:9.5

Forecast:5.0

Previous:7.8

Importance: Currency:USDSource Of Report:Federal Reserve Bank of New York (Release URL)

OverviewChartHistory

The Empire State Manufacturing Index rates the relative level of general business conditions New York state. A level above 0.0 indicates improving conditions, below indicates worsening conditions. The reading is compiled from a survey of about 200 manufacturers in New York state.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the USD, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the USD.

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Retail Sales (MoM)

Actual:0.4%

Forecast:0.8%

Previous:0.5%

Importance: Currency:USDSource Of Report:Census Bureau (Release URL)

OverviewChartHistory

Retail Sales measure the change in the total value of inflation-adjusted sales at the retail level. It is the foremost indicator of consumer spending, which accounts for the majority of overall economic activity.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the USD, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the USD.

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Business Inventories (MoM)

 

Actual:0.1%

Forecast:0.1%

Previous:0.2%

Importance: Currency:USDSource Of Report:Census Bureau (Release URL)

OverviewChartHistory

Business Inventories measures the change in the worth of unsold goods held by manufacturers, wholesalers, and retailers. A high reading can indicate a lack of consumer demand.

 

A higher than expected reading should be taken as negative/bearish for the USD, while a lower than expected reading should be taken as positive/bullish for the USD.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กราฟ MACD รหัส 12,26,9 แบบดั้งเดิม ทนสู้แดด ทนต้านฝน ถือทนกันต่อไป เพราะเส้นมันตัดกันวันก่อน นังไม่มีการตัดกันรอบใหม่ให้หยุดถือ ก็ต้องถือตีอไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ในกราฟสัญญานรหัส 5,35,9 แบบส่งสัญญานนำทาง Signal ยังให้อยู่ในสถานะซื้อ ที่ซื้อเข้าไปแล้วตั้งแต่ 18,500 บาทต่อบาททอง ก็ต้องทนถือกันต่อไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...