ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

อียิปต์ระอุ!ระดมปชช.สลายม็อบหนุน'มอร์ซี'

ข่าวต่างประเทศ วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2556 8:23น.

 

กองทัพอียิปต์ ปลุกระดม ปชช. เดินขบวนส่งสัญญาณสลายม็อบหนุนอดีต ปธน.มอร์ซี ขณะกลุ่มหนุนมอร์ซี นัดชุมนุมต้านการเคลื่อนไหวของกันและกัน

สำนักข่าวเอพี รายงานว่า พล.อ.อับดุล ฟัตตาห์ อัล ซิซี ผู้บัญชาการทหารบกของอียิปต์ ที่โค่นอำนาจอดีตประธานาธิบดี โมฮัมเหม็ด มอร์ซี เรียกร้องเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ให้ประชาชนออกมาชุมนุมสนับสนุนกองทัพ ในวันนี้ เพื่อให้อำนาจเขาและตำรวจในการยุติเหตุรุนแรงและการก่อการร้าย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าจะอ้างความชอบธรรมเพื่อสลายม็อบผู้สนับสนุน นายมอร์ซี

 

ผู้บัญชาการทหารบกของอียิปต์ กล่าวในพิธีจบการศึกษาของวิทยาลัยทหารในกรุงไคโร ที่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ ระบุว่า อยากให้ชาวอียิปต์ แสดงให้ทั่วโลก รับรู้ว่า พวกเขามีเจตนารมณ์ และการตัดสินใจของตัวเอง และหากใครใช้ความรุนแรงและการก่อการร้าย กองทัพและตำรวจก็มีภาระหน้าที่ ที่จะต้องจัดการ

 

ขณะที่กลุ่มมุสลิมภราดรภาพที่สนับสนุน อดีตประธานาธิบดีมอร์ซี ระบุว่า การกล่าวดังกล่าว เหมือนการประกาศให้มีการเปิดฉากสงครามกลางเมือง และเตือนว่าจะเกิดการสังหารหมู่อย่างกว้างขวาง พร้อมกันนี้บอกด้วยว่า ชาวอียิปต์หลายล้านคนจะออกมาชุมนุมในวันนี้ เพื่อปฏิเสธการรัฐประหารของกองทัพ

 

ด้านกลุ่มทามาร็อด แกนนำการประท้วงขับไล่ นายมอร์ซี ที่สามารถระดมคนออกมาชุมนุมใหญ่ได้หลายล้านคนจนกองทัพต้องออกมาร่วมโค่นล้ม อดีตประธานาธิบดีมอร์ซี แสดงจุดยืนสนับสนุนกองทัพ โดยบอกให้ชาวอียิปต์ ออกมารวมพลในวันนี้เช่นกัน เพื่อสนับสนุนกองทัพกวาดล้างการก่อการร้าย

[Pete 15,187]

โตเกียว - ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าในเดือนมิถุนายนสูงถึง 1,820 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลจากมูลค่าการนำเข้าแซงหน้าการส่งออก โดยเพิ่มขึ้นเป็น 11.8% เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนทำให้ราคาสินค้านำเข้าแพงขึ้น ขณะเดียวกันมูลค่าการส่งออกทะยานขึ้น 7.4% ขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 เพราะความต้องการของผู้บริโภคในยุโรปกระเตื้องขึ้นและปริมาณการส่งออกรถ ยนต์ไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ มูลค่าการนำเข้าของญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เกิดวิกฤตโรงไฟฟ้า นิวเคลียร์ฟุกุชิมะ เมื่อปี 2554 ซึ่งทำให้ต้องปิดเตาปฏิกรณ์หลายแห่งเพื่อความปลอดภัยแล้วหันไปใช้พลังงานจาก น้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งมีราคาสูงกว่าแทน

 

 

 

ดัชนีพีเอ็มไอจีนลดลง

 

ปักกิ่ง - ธนาคารเอชเอสบีซีเผยผลการสำรวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ของจีนเดือนกรกฎาคมว่า ลดลงจาก 48.2 เมื่อเดือนมิถุนายน เหลือ 47.7 ในเดือนนี้ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีก่อน เป็นหลักฐานแรกที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนจะยังคงสูญเสียแรงขับดันต่อไปในไตร มาส 3 ของปีนี้ ตัวเลขนี้บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลจากคำสั่งซื้อใหม่ซบเซาและมีการระบายสินค้าคงคลังอย่างรวดเร็ว เพิ่มแรงกดดันต่อตลาดแรงงานจีน รัฐบาลจีนจึงต้องเร่งออกนโยบายสนับสนุนเพื่อรักษาเสถียรภาพการขยายตัวทาง เศรษฐกิจ ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายน ขยายตัวเพียงร้อยละ 7.5 ลดลงจากร้อยละ 7.7 ในไตรมาสเดือนมกราคม-มีนาคม และร้อยละ 7.9 ในไตรมาสเดือนตุลาคม-ธันวาคมปีก่อน รัฐบาลจีนตั้งเป้าเศรษฐกิจปีนี้ทั้งปีให้ขยายตัวที่ร้อยละ 7.5 และยังไม่ออกมาตรการใด ๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

ที่มา: แนวหน้า(วันที่ 26 กค.56)

 

[modtanoiy 126]

ป๋าคะอยากให้ป๋าอธบายกราฟอิชิมุกุค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

[Pete 15,187]

แนวต้าน : 1336.75, 1340.18

แนวรับ. : 1332.00, 1325.05, 1318.00, 1315.00, 1309.60, 1304.05 และ ถ้าหลุด $1300 ก็ RIP

[Pasaya 499]

สวัสดีค่ะทุกคน

วันศุกร์แล้ว คืนนี้คงมีสักขาที่สุขสันต์

โชคดีค่ะทุกคน

[Pete 15,187]

**ตลาดหุ้นยุโรปคาดเปิดตลาดปรับตัวขึ้น ขานรับกำไรภาคเอกชนสดใส

 

ตลาดหุ้นยุโรปคาดเปิดตลาดในแดนบวกวันนี้ เนื่องจากบริษัทเอกชนต่างรายงานผลกำไรรายไตรมาสที่สูงขึ้นกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ อาทิ โททาล และบีจี กรุ๊ป

ดัชนี Euro Stoxx 50 บวก 0.6% แตะ 2,757 เมื่อเวลา 7.25 น.ตามเวลาลอนดอน

 

หุ้นโททาลอาจจะปรับตัวสูงขึ้น ส่วนหุ้นวิเวนดี อาจจะปรับตัวขึ้น หลังจากที่ได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัท แอคทิวิชั่น บลิซซาร์ด ให้กับบริษัท

 

ฝรั่งเศสเผยอัตราว่างงานในปท.ชะลอตัวลง แต่การจ้างงานยังไม่ฟื้นตัว

 

 

นายมิเชล ซาปิน รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานของฝรั่งเศสกล่าวว่า อัตราการขยายตัวของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานได้ชะลอตัวลง แต่ยังไม่ได้ช่วยให้อัตราว่างงานลดลง

 

นายซาปินให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งของฝรั่งเศสว่า “มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการปรับตัวที่ดีขึ้นเล็กน้อยของอัตราการขยายตัวและตำแหน่งงาน แต่เรายังต้องผลักดันเพื่อให้มีความต่อเนื่องและเพิ่มความพยายามเพื่อให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น"

 

นายซาปินยอมรับว่า “กราฟตัวเลขว่างงานยังไม่ได้พลิกกลับ และหากมีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นอีก 1 คน ก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าพอใจ"

 

รายงานซึ่งเปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาระบุว่า ถึงแม้จะมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวที่ยังเปราะบางในเดือนนี้ แต่จำนวนคนว่างงานในฝรั่งเศสได้พุ่งแตะสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 3.279 ล้านคน

 

รายงานระบุว่า ประชาชนที่ว่างงานกว่า 14,900 คนได้กลับเข้าสู่ตลาดแรงงานที่ซบเซาในเดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 0.5% จากเดือนพ.ค. สร้างความไม่พอใจครั้งใหม่ต่อประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศส ซึ่งได้แสดงความเชื่อมั่นว่าจะทำให้แนวโน้มอัตราว่างงานลดลงก่อนสิ้นปีนี้ด้วยสํญญาจ้างงานซึ่งรัฐบาลให้การสนับสนุนทางการเงินและมาตรการกระตุ้นศักยภาพด้านการแข่งขัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

[Pete 15,187]

จีที เวลธ์ สรุปภาวะ Precious Metals Futures ภาคเช้า วันนี้ (26 กรกฎาคม 2556) ราคาทองคำในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น US$12.35 ต่อออนซ์ ปิดที่ระดับUS$1,333.04 ต่อออนซ์(Gold spot)

 

ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯออกมาแย่ กว่าคาด โดยปรับสูงขึ้น 7,000 รายสู่ 343,000 ราย สะท้อนว่าตลาดการจ้างงานสหรัฐฯกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว และหนุนการคาดการณ์ว่า FED จะยังคงมาตรการ QE ต่อไป ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนทั่วไป(สินค้าที่จะมีการใช้งานไปอีก 3 ปีเป็นอย่างต่ำ) พุ่งขึ้นสู่ 4.2% สะท้อนความเชื่อมั่นภาคธุรกิจสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงเมื่อเทียบตะกร้าสกุลเงินหลัก(Dollar Index)ต่ำกว่า 82 จุด ประกอบกับแรงหนุนจากการปิดสัญญา Option เดือนสิงหาคมในตลาด Gold Futures สหรัฐฯ ทั้งนี้ตลาดยังรอดูผลการประชุม FOMC ที่จะมีสัปดาห์หน้า ค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าใกล้ระดับ 31.05 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ กองทุน SPDR รายงานการถือครองทองคำลดลง 2.41 ตัน สู่ระดับ 927.35 ตัน

 

ราคาทองคำโลกเช้านี้ (Gold Spot) เคลื่อนไหวเหนือระดับ US$1,330 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 (GFQ13) ราคาเปิดเช้านี้ที่ 19,820 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 19,600 บาท ราคาเสนอขาย 19,700 บาท

 

แนวโน้วทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า sentiment ตลาดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่ามาสะท้อนชัดว่าทิศทางราคาทองคำในช่วงนี้และต่อไปใน อนาคตจะผันผวนตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ เพราะกระทบต่อมุมมองที่มีต่อการคงหรือลดมาตรการ QE ในอนาคต อย่างไรก็ดีเรายังประเมินว่าทิศทางในระยะ 1-2 เดือนข้างหน้าราคายังมีโอกาสฟื้นตัวต่อจากอุปสงค์ในเอเชียและธนาคารกลางใน ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจในระยะสั้นเชื่อว่ายังไม่ชัดเจนทำให้ในการประชุม FOMC ในช่วงสัปดาห์หน้ายังไม่น่าจะมีการส่งสัญญาณชะลอ QE ทางเทคนิค ราคาเคลื่อนไหวในกรอบขาขึ้นระยะสั้น US$1,275-1,350 โดยมีกรอบเป้าหมายระยะกลางประมาณ US$1,380-1,400 แนวรับสำคัญระยะสั้น US$1,300

ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ(วันที่ 26 กค.56)

 

[Pete 15,187]

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวของค่าเงินประจำวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2556 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.06/08 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าลงมากกับเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (24/7) ที่ระดับ 30.95/97 บาท/ดอลลาร์

 

หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนมิถุนายนปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.3% สู่ระดับ 497,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 485,000 ยูนิต ประกอบกับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตในเดือนกรกฎาคมของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.3 จุด มาอยู่ที่ระดับ 53.2 จากการคาดการณ์ที่ระดับ 52.50 ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะมีการชะลอมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ ค่าเงินบาทยังได้รับแรงกดดันจากการที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงกว่า 20 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากผู้ค้าทองมีความต้องการเงินสกุลดอลลาร์มากขึ้น เพื่อนำไปซื้อทอง หลังจากมีการประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตในเดือนกรกฎาคมของประเทศจีนปรับตุวลดลง 0.5 จุด สู่ระดับ 47.7 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 11 เดือน จากระดับ 48.2 แต่อย่างไรก็ตาม ในระหว่างวันค่าเงินบาทยังคงผันผวนในกรอบแคบ ๆ เนื่องจากตลาดยังคงจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในทิศทางของโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์ของธนาคารกลางสหรัฐ โดยในระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 31.06-31.10 บาท/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 31.08/10 บาท/ดอลลาร์

 

สำหรับค่าเงินยูโรวันนี้เปิดตลาดที่ระดับ 1.3194/97 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (24/7) ที่ระดับ 1.3232/34 ดอลลาร์/ยูโร เนื่องจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีเกินคาด่ของสหรัฐ แต่อย่างไรก็ตาม ค่าเงินยูโรได้รับแรงสนับสนุนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนกรกฎาคมปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.10 จากคาดการณ์ที่ระดับ 49.10 รวมถึงยอดค้าปลีกของอิตาลีปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.1% ในเดือนพฤษภาคม จากระดับ -0.1% ในเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ ในระหว่างวันค่าเงินยูโรปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากมีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมันในเดือนกรกฎาคมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 106.20 ซึ่งสูงกว่าระดับ 105.9 ในเดือนก่อนหน้า ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนกรกฎาคมของอิตาลีปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 97.3 จาก 95.7 ในเดือนก่อนหน้า โดยในระหว่างวันกรอบการเคลื่อนไหวของสกุลเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3179-1.3235 ดอลลาร์/ยูโร ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1.3186/88 ดอลลาร์/ยูโร

 

สำหรับค่าเงินเยนวันนี้เปิดตลาดที่ระดับ 100.28/30 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (24/7) ที่ 99.98/100.03 เยน/ดอลลาร์ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ แต่อย่างไรก็ตาม ค่าเงินเยนปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากการทำกำไรของนักลงทุน ทั้งนี้ค่าเงินเยนยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ และมีกรอบการเคลื่อนไหวของสกุลเงินเยนระหว่างวันอยู่ที่ระดับ 99.75-100.45 เยน/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 100.00/05

 

อนึ่ง ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ได้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.5% ตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และสัญญาณการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนและออสเตรเลีย

 

ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการผู้ว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของอังกฤษ (Q2), ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีโดยสถาบัน IFO, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของอิตาลี, ยอดขายสินค้าคงทนของสหรัฐฯ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของฝรั่งเศส (26/7)

 

อัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +5.6/5.7 สตางค์/ดอลลาร์ และอัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +4/5 สตางค์/ดอลลาร์

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (วันที่ 26 กรกฎาคม 2556)

 

[Pete 15,187]

ฝรั่งวิเคราะห์วิเดาราคาทองยามบ่าย กล่าวว่า " ราคาทองมีเด้งจากแนวรับที่แข็งแรง ตรงจุด $1308 และสามารถปิดเหนือ $1330 ในค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลดลงกว่าระดับที่ควรจะเป็น ณ. ตอนนี้ เราติดปัจจัยจากสถานการณ์ปัจจุบัน ในจุดต่ำของ Ichimoku ในมุมมองลบ และกำลังมีความพยายามที่จะให้เกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ คืนวันศุกร์ สำหรับขาเสี่ยง ก็เป็นจุดเดิม ดังนี้

[Pete 15,187]

Support: - 1325.30, 1316.20 and 1305.87(main).

Resistance: - 1350.02(main)

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 26, 2013 โดย เด็กขายของ

[modtanoiy 126]

ขอบคุณค่ะ

[Pete 15,187]

::

[Pete 15,187]

::

[Pete 15,187]

เงินบาทปิดตลาด 31.10/11 แกว่งแคบ เหตุไม่มีปัจจัยใหม่

 

 

นักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 31.10/11 บาทดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 31.09/11 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามค่าเงินในภูมิภาค โดยระหว่างวันเงินบาททำโลว์ที่ระดับ 31.05 บาท/ดอลลาร์ และทำไฮที่ระดับ 31.15 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

 

"เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบตามค่าเงินในภูมิภาค ปัจจัยยังไม่มีอะไรใหม่" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าไว้ในกรอบระหว่าง 30.90-31.20 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

 

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.68 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 99.18/21 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3283 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3280/3282 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,476.71 จุด เพิ่มขึ้น 20.03 จุด, +1.38% มูลค่าการซื้อขาย 44,187.05 ล้านบาท

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 98.77 ล้านบาท(SET+MAI)

- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทย วันที่ 19 ก.ค.56 อยู่ที่ 171.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่ 12 ก.ค.56 ที่ 170.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ฐานะฟอร์เวิร์ดสุทธิของไทย วันที่ 19 ก.ค.56 อยู่ที่ 23.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับวันที่ 12 ก.ค.56 อยู่ที่ 23.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนเงินสำรองระหว่างประเทศในรูปเงินบาทวันที่ 19 ก.ค.56 อยู่ที่ 5,327.0 พันล้านบาท จาก 5,306.1 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 12 ก.ค.56

- น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เผยยอดสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 เมษายน 2556 มีจำนวน 5,154,753.61 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 44.21 ของ GDP

- กระทรวงพาณิชย์ เผยเดือน มิ.ย.56 การส่งออกมีมูลค่า 19,098 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัว 3.38% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 21,013 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.01% ส่งผลให้ขาดดุลการค้าราว 1,915 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-มิ.ย.56) ยอดส่งออกมีมูลค่า 113,304 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 0.95% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 129,075 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 4.32% ขาดดุลการค้ารวมทั้งสิ้นประมาณ 15,771 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปลัดกระทรวงพาณิชย์ยอมรับว่ายอดส่งออกในปีนี้คงไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 7-7.5% ซึ่งต้องมีการทบทวนเป้าหมายใหม่ แต่ในเบื้องต้นคาดว่ายอดส่งออกปีนี้จะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงปีก่อนที่ระดับ 3%

- นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2556(ต.ค.55-มิ.ย.56) มีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,615,578 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 174,079 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.1

- นายมิเชล ซาปิน รมต.แรงงานของฝรั่งเศส เผยอัตราการขยายตัวของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานได้ชะลอตัวลงแต่ยังไม่ได้ช่วยให้อัตราว่างงานลดลง แม้จะมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวที่ยังเปราะบางในเดือนนี้ เนื่องจากจำนวนคนว่างงานในฝรั่งเศสได้พุ่งแตะสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 3.279 ล้านคน

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส(Insee) เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้นแตะระดับ 82 จากระดับ 79 ในเดือน มิ.ย. เนื่องจากภาคครัวเรือนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินในช่วงที่ผ่านมาและในอนาคต ขณะที่บรรยากาศการซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ๆ มีความคึกคักมากขึ้น

- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดลดลงในวันนี้ โดยตลาดได้รับแรงซื้อหลังจากตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลงอย่างหนัก โดยพันธบัตรหมายเลข 329 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.785% ลดลง 0.010% จากระดับปิดเมื่อวานนี้ ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือนกันยายน ปรับตัวขึ้น 0.10 จุด แตะที่ระดับ 143.63 ในตลาดหุ้นโตเกียว

- กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน(MIIT) ออกประกาศเป้าหมายยกเลิกการผลิตที่ล้าสมัยล็อตแรกสำหรับปี 2556 ซึ่งจะครอบคลุมอุตสาหกรรม 19 ประเภท เช่น ทองแดง, อิเล็กโตรไลท์ อลูมินัม, สังกะสี และเหล็กกล้า ก่อนสิ้นเดือน ก.ย.56 นอกจากนี้รัฐบาลท้องถิ่นของจีนยังเดินหน้าออกมาตรการเพื่อรักษาอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนให้มีเสถียรภาพ หลังจาก GDP ชะลอตัวลงในช่วงครึ่งปีแรก

[Pete 15,187]

กรีซได้รับเงินกู้ 2.5 พันล้านยูโร หลังบรรลุเงื่อนไขที่เจ้าหนี้กำหนด

 

 

กรีซได้รับเงินกู้งวดใหม่มูลค่า 2.5 พันล้านยูโร (3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่รัฐบาลประเทศต่างๆในยูโรโซนเลื่อนการหารือเรื่องการผ่อนปรนหนี้ให้กับกรีซออกไปจนกว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งในเยอรมนีที่จะจัดขึ้นเดือนก.ย.นี้

 

 

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า รัฐมนตรีคลังของประเทศสมาชิกยูโรโซนอนุมัติเงินกู้ดังกล่าวผ่านการประชุมทางโทรศัพท์ หลังจากที่กรีซใช้มาตรการต่างๆเพื่อลดจำนวนพนักงานของรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไข 22 ข้อสุดท้ายที่บรรดาเจ้าหนี้กำหนดมา

 

 

นอกจากนี้ กรีซจะได้รับเงินกู้ 1.8 พันล้านยูโรจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) โดยไอเอ็มเอฟจะประชุมเพื่อหารือเรื่องนี้ในวันที่ 29 ก.ค. และในวันเดียวกันรัฐบาลเยอรมนีจะประชุมเรื่องการให้ความช่วยเหลือกรีซเช่นกัน