ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 14 พ.ย.2557

-- ดัชนีหุ้นนิวยอร์กค่อนข้างทรงตัวเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ย.) โดยดาวโจนส์ปิดขยับลงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งหนึ่ง โดยเป็นครั้งที่หกในรอบเจ็ดวันทำการที่ผ่านมา ท่ามกลางภาวะซื้อขายที่ค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งชะลอการเข้าลงทุน หลังจากที่ตลาดเคลื่อนไหวแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ และทำสถิติใหม่หลายครั้งในรอบสัปดาห์

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดลง 18.05 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 17,634.74 จุด ดัชนี S&P500 ขยับขึ้น 0.49 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 2,039.82 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 8.40 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 4,688.54 จุด

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ย.) โดยภาวะการซื้อขายถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มบริการสุขภาพ และกลุ่มเหมือง ขณะเดียวกันมีการเปิดเผยตัวเลขจีดีพีซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว ขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสสาม แต่การฟื้นตัวยังคงเป็นไปอย่างซบเซา

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 335.63 จุด โดยทั้งสัปดาห์ดัชนีขยับขึ้น 0.1%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 14.51 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 4,202.46 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเพิ่มขึ้น 4.43 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 9,252.94 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนเพิ่มขึ้น 18.92 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 6,654.37 จุด

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ย.) หลังจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นได้ช่วยหนุนให้หุ้นกลุ่มบริษัทพลังงานดีด ตัว ขณะเดียวกันมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งรวมถึงจีดีพียุโรป และผลผลิตภาคการก่อสร้างของอังกฤษ

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 18.92 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 6,654.37 จุด หลังจากที่ร่วงลง 0.4% ในช่วงแรกของการซื้อขาย สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีเพิ่มขึ้น 1.2% ซึ่งปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สี่

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ราคาน้ำมันร่วงลงอย่างหนักแตะระดับต่ำสุดในรอบสี่ปีเมื่อวันก่อน นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มโอเปคอาจตัดสินใจลด กำลังการผลิตเพื่อหนุนราคาน้ำมันที่ร่วงลงต่ำกว่า 80 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบสี่ปี

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้น 1.61 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 75.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. สำหรับตลอดสัปดาห์ ราคาร่วงลง 3.6%

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้น 1.92 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 79.41 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 5.4% ในรอบสัปดาห์

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ย.) เนื่องจากได้แรงหนุนจากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เป็นวันที่สอง และจากการที่ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าโอเปคอาจลดกำลังการผลิต

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 24.1 ดอลลาร์ หรือ 2.07% ปิดที่ 1,185.6 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้น 69.3 เซนต์ หรือ 4.44% ปิดที่ 16.314 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ดีดขึ้น 14.1 ดอลลาร์ หรือ 1.18% ปิดที่ 1,213.1 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับขึ้น 0.50 เซนต์ ปิดที่ 771.35 ดอลลาร์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ย.) หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลดลง แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินเยน หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ ได้แก่ ยอดค้าปลีกและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสนับสนุนมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น

 

เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2525 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2487 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5680 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5718 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวสูงขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 116.25 เยน เทียบกับระดับ 115.71 เยน ลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9591 ฟรังค์ จาก 0.9625 ฟรังค์ และลดลงแตะ 1.1283 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.1364 ดอลลาร์แคนาดา

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,634.74 จุด ลดลง 18.05 จุด -0.10%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,688.54 จุด เพิ่มขึ้น 8.40 จุด +0.18%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,039.82 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด +0.02%

[Pete 15,187]

เพื่อนบางคน อาจชอบมอง อดีตย้อนหลัง เพื่อมองภาพอนาคต เรามามองภาพเส้นฯ 1 ปีย้อนหลังกัน เมื่อปีที่แล้ว เดือนพฤศจิกายน 2013 เกิดอะไรขึ้นกับราคาทอง เส้นสัญญานด้านบนเป็นยังไง และเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ราคาทองได้ทำจุดต่ำสุด 1130 ไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่เมื่อคืนวันศุกร์ก็ได้ปรับขึ้น 1178 ไปแล้วด้วย / ภาพของอดีต ถ้าบอกว่าจะมองอนาคต ก็น่าจะมองออกเป็น ผลดี ผลบวก ต่อราคาทอง ได้ ถึงเมื่อไหร่ดี ปลายเดือนมกราคม ปีหน้า หรือ ต้นกุมภาฯ

รหัส 5,35,9 ของราคาทองคำ เส้นดำเชิดเลย ถ่างออกเลย 555 หลังจากเมื่อวานนี้ เส้นดำเส้นแดง ตัดกันเป็นวันแรก : ก็คงมีเพื่อนๆ ได้กำไรงามๆ ไปอีกแล้ว เหมือนกับวันศุกร์ที่ผ่านมา 2 ศุกร์เชียว ที่ราคาทองขึ้นมา ดังนั้น บางส่วนที่ซื้อเข้ามาต่ำกว่า 18000 บาท เมื่อวาน จึงควรจะแสวงหาที่ขาย เพื่อนำกำไรมาเป็นที่น่าชื่นใจบ้าง พักผ่อนมากๆๆ ทานเยอะๆๆ จะได้มีแรงมาเก็งกำไรต่ออาทิตย์หน้า

 

ส่วนวันนี้ ต้องขอไปเชียร์บอลประเพณี จตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 27 ที่สนามศุภฯ ต่อ 13:30 น.

 

เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ ตอนนี้ ก็ต้องถือทองแท่ง กันต่อไปอย่างอดทน เพราะความเชื่อ บวกเดาตามเส้นดำเส้นแดงของ รหัส. 5,35,9 ว่า ยังสามารถไปต่อได้ 1188-1196

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 17, 2014 โดย เด็กขายของ

[chaiklang 161]

เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ ตอนนี้ ก็ต้องถือทองแท่ง กันต่อไปอย่างอดทน เพราะความเชื่อ บวกเดาตามเส้นดำเส้นแดงของ รหัส. 5,35,9 ว่า ยังสามารถไปต่อได้ 1188-1196

 

ขอบคุณครับ

 

สวัสดีเช้าทองขึ้นครับผ้ม

[meng166 131]

สะบายดีวันจันทร์ทุกๆท่าน

[Pete 15,187]

รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดกดดันให้ราคาทองอ่อนตัวลงในการซื้อขายช่วงค่ำของวันศุกร์ แต่ด้วยการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน หลังจากมีการประเมินว่ากลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน อาจเริ่มปรับลดกำลังการผลิตลง เพื่อประคองราคาน้ำมันดิบ ซึ่งปรับตัวลงมามากในปีนี้ ก็กลับมาเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัว

 

โดยราคาทองคำปิดตลาดวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ 1,189.10 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ เพิ่มขึ้น 26.88 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,146 และ 1,193 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ

 

ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวันเสาร์ผ่านมา ขายออกที่บาทละ 18,450 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,350 บาท กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 720.62 ตัน

 

รายงานข้อมูลเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ ในช่วงค่ำของวันศุกร์ออกมาในทางบวก แต่ด้วยราคาหุ้นซึ่งเป็นตัวแทนสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นมามาก แรงซื้อจึงเริ่มลดลง แต่ก็เป็นปัจจัยลบที่กดดันให้ราคาทองอ่อนตัวลงในช่วงสั้นๆ โดยกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนตุลาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% นับเป็นสัญญาณสดใสที่บ่งชี้ว่า การปรับตัวลงของราคาน้ำมันช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน

 

ในขณะที่สหรัฐฯ กำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลจับจ่ายซื้อของเนื่องในเทศกาลวันหยุด ส่วนสต๊อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนกันยายน ขณะที่ยอดขายของภาคธุรกิจแทบไม่เปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี โดยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆ ของสหรัฐฯ กดดันให้ราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,140-1,145 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ก่อนที่การฟื้นตัวของราคาน้ำมันจะกลับมาเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองดีดตัว กลับ

 

นักลงทุนยังจับตาความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน โดยรัฐมนตรีน้ำมันและเหมืองแร่ของเวเนซุเอลา กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากอุปทานในตลาดที่มีอยู่มากเกินไป ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นลบจากจีน โดย นายราฟาเอล รามิเรซ รัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลา ได้เริ่มออกเดินทางเยือนประเทศสมาชิกของกลุ่มประเทศส่งออกน้ำมันเพื่อหารือ ถึงแผนยุทธศาสตร์ร่วม ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อหนุนราคาน้ำมันดิบ การเดินสายเยือนหลายประเทศของรามิเรซมีขึ้นสองสัปดาห์ก่อนหน้าการประชุม โอเปกในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งที่ประชุมมีกำหนดหารือเรื่องเพดานการผลิตน้ำมันของกลุ่ม ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 30 ล้านบาร์เรล ต่อวัน และคาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ราคาทองสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ต่อไป

 

ส่วนภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองคำ ซึ่งในวันศุกร์ราคาทองคำอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับของวันบริเวณ 1,145-1,150 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ก่อนที่จะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา โดยราคาทองดีดตัวขึ้นมาปิดเหนือแนวต้านบริเวณ 1,180 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ จึงเป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวขึ้นไปยังแนวต้านบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ต่อไป โดยมีแนวรับสำหรับกลับเข้าซื้อเก็งกำไรในระหว่างวัน อยู่ที่บริเวณ 1,170-1,175 และ 1,160 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ

 

 

 

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (17/11/2557)

[Pete 15,187]

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การเชื่อมโยงระบบการซื้อขายระหว่างตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้วในวันี้ เพื่อเปิดทางให้นักลงทุนสามารถทำการซื้อขายหุ้นในอีกตลาดได้ และถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของจีนในการเปิดตลาดทุนของประเทศ

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 17 พฤศจิกายน 2557)

 

[Pete 15,187]

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาด ค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 32.80-33.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ จับตาประชุมเฟด ดัชนีราคาผู้บริโภค

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 10-14 พฤศจิกายน 2557 ว่า เงินบาทปรับตัวในกรอบแคบ ๆ โดยเงินบาทขยับแข็งค่าในช่วงต้นสัปดาห์รับข่าวตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกลงในช่วงต่อมา เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาคที่อ่อนค่าลงตามทิศทางค่าเงินเยน แต่กระนั้น แรงขายเงินดอลลาร์ฯ ของผู้ส่งออก ชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทไว้บางส่วน ขณะในวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.83 บาทต่อดอลลาร์ เท่ากับระดับในวันศุกร์ก่อนหน้า (7 พฤศจิกายน)

 

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป ระหว่างวันที่ 17-21 พฤศจิกายน เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.80-33.10 บาทต่อดอลลาร์ โดยตลาดอาจจับตาบันทึกการประชุมเฟดเพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในปีหน้า ขณะที่ข้อมูลอื่น ๆ ที่จะทยอยรายงานออกมาในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ เครื่องชี้ตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจภาคการผลิตและภาคธุรกิจของเฟดสาขานิวยอร์กและฟิลาเดลเฟีย และดัชนีราคาผู้บริโภค นอกจากนี้ นักลงทุนอาจรอประเมินสัญญาณเศรษฐกิจจากข้อมูลอื่น ๆ อาทิ จีดีพีประจำไตรมาส 3/57 ของญี่ปุ่น และดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนพฤศจิกายนของหลาย ๆ ประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ ตลาดการเงินในประเทศอาจมีจุดสนใจเพิ่มเติมในช่วงต้นสัปดาห์ที่การประกาศข้อมูลจีดีพีประจำไตรมาส 3/57 ของไทย

 

ที่มา : สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น (วันที่ 17 พฤศจิกายน 2557)

[Pete 15,187]

ธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยัน ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนเหมาะสม สอดคล้องภูมิภาค รับปัญหาการส่งออก เกิดจากโครงสร้างการผลิต

 

นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทในขณะนี้นั้นถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาพบว่า ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นประมาณร้อยละ 2 เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศคู่ค้า ซึ่งถือว่ายังเกาะกลุ่มกับประเทศเพื่อบ้าน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ค่าเงินบาทผันผวนมาจากทั้งภายใน และภายนอกประเทศ โดยแข็งค่ามากที่สุดในวันที่ 6 มกราคม ปี 2557 อยู่ที่ 31.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น การแข็งค่าของเงินบาทจึงไม่ใช่ปัจจัยหลัก ที่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของประเทศ

 

ด้าน นางรุ่ง มัลลิกะมาส ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธปท. ระบุว่า สาเหตุของการส่งออกประเทศไทยที่ชะลอตัวลงนั้นมาจากปัญหาเชิงโครงสร้างการผลิต และคุณภาพของสินค้าที่ไม่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลก โดยเห็นได้ชัดว่า แม้เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวดีขึ้น แต่ภาคการส่งออกของไทย กลับได้ประโยชน์เพียงเล็กน้อย และยังน้อยกว่าประเทศคู่แข่งอื่นๆ ซึ่งภาครัฐจะต้องเร่งเข้ามาให้การสนับสนุนและยกระดับสินค้า รวมทั้งการนำเข้าเครื่องจักรเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต

 

ที่มา : สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น (วันที่ 16 พฤศจิกายน 2557)

 

[Pete 15,187]

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียชี้เศรษฐกิจรัสเซียอาจจะเผชิญกับวิกฤตจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง หลังจากที่เศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรและค่าเงินรูเบิลที่ร่วงลง

 

ผู้นำรัสเซียเปิดเผยก่อนเดินทางเข้าร่วมการประชุม G20 กล่าวว่า ทุนสำรองของรัสเซียมีมากกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้รัสเซียสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ผันผวนต่างๆ

 

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบร่วงลงไปเกือบ 1 ใน 3 แล้วในปีนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรัสเซียที่เป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่รายหนึ่งของโลก

 

ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกจะไม่ดื้อรั้นเพื่อคงกำลังการผลิตไว้ที่ระดับสูง หลังจากที่เห็นกลุ่มประเทศสมาชิกโอเปกได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบ นอกจากนี้ ซาอุดิอาระเบียยังได้สอบถามความเห็นจากประเทศสมาชิกก่อนจะถึงการประชุมโอเปคที่กรุงเวียนนาในวันที่ 27 พ.ย.นี้

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 17 พฤศจิกายน 2557)

 

[Pete 15,187]

เงินบาท แข็ง 32.50-32.55 เชียวนะ สำหรับเหตุ มาจากดอลล์สหรัฐ อ่อนค่า 87.23

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 17, 2014 โดย เด็กขายของ

[leo_attack 579]

ขออนุญาติถามคุณ เด็กขายของ นะครับว่าเลขชุด 5,35,9 ไม่ทราบว่ามีที่ไปที่มาอย่างไรหรอครับ ทำไมคุณเด็กขายของถึงใช้เลขชุดนี้

[Pete 15,187]

กบง.ให้ผู้ค้าลดเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ลิตรละ 60 สต.,ลดอุดหนุน LPG 50 สต./กก.

 

 

นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) กล่าวว่า ที่ประชุม กบง.วันนี้พิจารณาสถานการณ์ราคาขายปลีกในประเทศทั้งกลุ่มน้ำมันและก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) โดยในกลุ่มน้ำมันนั้น ขณะนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น เพื่อให้ราคาขายปลีกภายในประเทศปรับตัวสะท้อนกลไกตลาด จึงขอความร่วมมือไปยังผู้ค้าน้ำมันให้พิจารณาปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับผู้บริโภค โดยปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดทั้งเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ลิตรละ 0.60 บาท ยกเว้น E85

ส่วนน้ำมันดีเซล กบง.มีมติให้จัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่ม 0.60 บาท/ลิตร ซึ่งไม่ส่งผลต่อราคาขายปลีกแต่อย่างใด โดยราคาขายปลีกจะอยู่ที่ 29.39 บาท/ลิตร

นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.ยังให้ลดการอุดหนุนราคาขายปลีก LPG ภาคครัวเรือนและภาคขนส่งลง 0.4673 บาท/กก. เพื่อให้สะท้อนรต้นทุนที่แท้จริงของตลาด ซึ่งจะส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG ภาคครัวเรือนและขนส่งเพิ่มขึ้น 0.50 บาท/กก. ขยับจากราคา 22.63 บาท/กก.เป็น 23.13 บาท/กก. มีผลตั้งแต่ 18 พ.ย.เป็นต้นไป

[auntnextdoor 4,268]

ถึงป๋า ผลบอล ใครชนะอ่ะ

[chaiklang 161]

ป๋า หาย ไป

 

กลับมาเร้ววววว

 

สาวกรออยู่คร้าบ ^^

[Pete 15,187]

::

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 18, 2014 โดย เด็กขายของ