ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

แบงก์ ออฟ คอมมูนิเคชันส์ (BOCOM) คาดการณ์ไว้ในรายงานวิจัยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ของจีนจะดีดตัวกลับมาแตะที่ระดับ 3.5% ในเดือนมีนาคมจาก 3.2% ในเดือนกุมภาพันธ์

         BOCOM คาดการณ์ว่าระดับราคาอาหารในเดือนมีนาคมจะพุ่งขึ้น 0 ถึง 0.4% เปรียบเทียบกับเมื่อเดือนก่อน

         ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ราคาเนื้อหมูได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาแปดเดือนแล้ว เฉพาะสองเดือนที่ผ่านมาราคาเนื้อหมูดิ่งลงราว 10%

         อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันเมื่อเร็ว ๆ นี้ ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของราคาพืชผัก ผลักดันให้ตลาดคาดการณ์ว่าจะอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มสูงขึ้น

         ด้านนายตั๋ง เจียนเหว่ย นักวิเคราะห์อาวุโสของ BOCOM กล่าวว่าปัจจัยระยะสั้นจะไม่เปลี่ยนแนวโน้มขาลงของดัชนีซีพีไอได้ พร้อมเสริมว่าราคาพืชผักจะลดลงอีกเนื่องจากสภาพอากาศดีขึ้น ทั้งอุณหภูมิก็สูงขึ้นด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

**ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 10,103.06 จุด ลบ 79.51 จุด

[Pete 15,187]

ตลาดหุ้นฮ่องกง:น้ำมันร่วงถ่วงหุ้นพลังงานฉุดฮั่งเส็งดิ่งกว่า 200 จุด

 

 

 

 

        ตลาดหุ้นฮ่องกงดิ่งลงในวันนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันได้รับแรงกดดันจากการ ร่วงลงของราคาน้ำมัน หลังจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐได้เพิ่มขึ้นเกินคาด

        ณ เวลา 09.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีฮั่งเส็งรูดลง 250.58 จุด  หรือ 1.20 % สู่ 20,634.84

        หุ้นกลุ่มพลังงานของจีนถ่วงตลาดลง ขณะที่หุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกง มีแนวโน้มปิดตลาดวันนี้ในแดนลบเป็นวันที่ 11 ในรอบ 12 วันทำการ

        ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงวานนี้ โดยได้รับแรงกดดัน จากการพุ่งขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐและแนวโน้มที่สหรัฐกับบางประเทศในยุโรป จะปล่อยน้ำมันในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ออกมา 

        ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ค.รูดลง 1.92 ดอลลาร์ หรือ 1.79 %  มาปิดตลาดที่ 105.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 104.67-106.94  ดอลลาร์  

        ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอนดิ่งลง 1.38 ดอลลาร์  หรือ 1.1 % สู่ 124.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 123.53- 125.18 ดอลลาร์ 

        หนังสือพิมพ์ Le Monde ของฝรั่งเศสรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ฝรั่งเศส กำลังติดต่อกับอังกฤษและสหรัฐเรื่องการปล่อยน้ำมันในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ออกมา  โดยมีจุดประสงค์เพื่อกดดันราคาเชื้อเพลิงให้ลดต่ำลง 

        เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวว่า สหรัฐกำลังพิจารณาการระบายน้ำมันออกจาก คลังสำรอง แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องนี้ 

        สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.1 ล้านบาร์เรล สู่ 353.39 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 23 มี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2011, สต็อกน้ำมันกลั่น ลดลง 711,000 บาร์เรล สู่ 135.87 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.54  ล้านบาร์เรล สู่ 223.37 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันพุ่งขึ้น  2.3 % สู่ 84.5 %

[DonJuan 4,685]

สวัสดียามเช้า1656 มันมาอีกแล้ว ใก้ลเคียงที่ป๋าบอกเลย ออนตอนนี้. 1663. 24305/24255. ที่รักเจ้ได้กดไหม

 

โถๆๆ............... คนดี ยายี๋ อุตส่าห์เป็นห่วงเค้า(หรือห่วงราคาในตอนเช้า เป็นน่าเก็บ) ถามว่าเค้าเก็บไปรึยัง 24195 เก็บไปแล้วเมื่อคืนก่อนนอน ตอนนี้ กำไร 50 บาทแระ ยังไม่ขาย รอบ่ายอีกหน่อย น่าจะมีอะไรดีบ้าง คงมีเหวี่ยงไปมา เพราะขายตอนนี้ คงได้ ปลาอินทรีย์เค็มมหาชัย + หมึกกระตอยแถมอีกนิดหน่อย เฮ้ย นับวันยิ่งหาเงินยากทุกที 1 เมษาเลือกตั้งพม่า ไม่รู้ใครจะมาจับปลาให้กินและสร้างบ้านให้อยู่

[Pete 15,187]

ประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ 5 ชาติหรือบริกส์จัดการประชุมที่กรุงนิวเดลีของอินเดีย

 

บรรดผู้นำประเทศกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่รายใหญ่ของโลก 5 ประเทศหรือ บริกส์ซึ่งได้แก่จีน อินเดีย รัสเซีย บราซิลและแอฟริกาใต้ จะมาประชุมร่วมกันครั้งที่ 4 ที่กรุงนิวเดลีของอินเดียวันนี้และวันพรุ่งนี้โดยมีวาระสำคัญเพื่อหารือการจัดตั้งธนาคารเพื่อการพัฒนา หรือบริคส์แบ็งค์ขึ้นใหม่ ธนาคารดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟเพื่อให้ทุนแก่โครงการเพื่อการพัฒนาต่างๆและสิ่งอำนวยความสะดวกในประเทศที่กำลังพัฒนาซึ่งจะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีอำนาจในการปรับปรุงแก้ไขโอกาสทางการค้าของประเทศเหล่านั้นท่ามกลางรายข่าวการประท้วงของชาวทิเบตเพื่อต่อต้านประธานาธิบดีหู จิ่นเทาของจีน ขณะที่จีน ซึ่งมีทุนสำรองเงินตรามากที่สุดในโลก ก็ต้องการทำให้เงินหยวนมีความเป็นสากลมากขึ้น หลังถูกเงินดอลลาร์ของสหรัฐครอบงำโลกมาเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม การจะไปถึงจุดหมายนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด เนื่องจากกลุ่มบริกส์ทั้ง 5 ประเทศยังมีความแตกต่างกันมากมาย ทั้งขนาดเศรษฐกิจและความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ แต่อย่างน้อยก็เป็นสัญญาณที่ดีที่กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาจะได้มีบทบาทในเวทีโลกมากขึ้น

 

 

 

 

สหรัฐประกาศระงับการส่งอาหารช่วยเหลือเกาหลีเหนือ

 

สหรัฐประกาศระงับการส่งอาหารช่วยเหลือเกาหลีเหนือหลังจากที่เกาหลีเหนือไม่ยอมปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้ว่าจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการยิงจรวดและขีปนาวุธ นายปีเตอร์ ลาวอย ผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหมฝ่ายกิจการเอเชียแปซิฟิกของสหรัฐแจ้งต่อสภา คองเกรสว่า แผนการปล่อยจรวดส่งดาวเทียมของเกาหลีเหนือในเดือนหน้า สะท้อนให้เห็นว่าเกาหลีเหนือไม่ปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้กับประชาคมโลก ดังนั้นสหรัฐจึงจำเป็นจะต้องระงับโครงการส่งอาหารช่วยเหลือแก่เกาหลีเหนือ ขณะเดียวกันก็ยังไม่มั่นใจว่าอาหารที่ส่งให้เกาหลีเหนือจะถึงประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ ก่อนหน้านี้สหรัฐเตือนว่า การทดลองยิงจรวดหรือขีปนาวุธของเกาหลีเหนือจะส่งผลกระทบต่อการส่งอาหารช่วยเหลือเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตามเกาหลีเหนือกล่าวว่า การส่งดาวเทียมไปพร้อมกับจรวดขึ้นสู่อวกาศในเดือนหน้าก็เพื่อประมาณการผลผลิตทางการเกษตรและตรวจวิเคราะห์ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ

 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : รักษ์ธานินทร์ ทองประเสริฐ / สวท.   Rewriter : รักษ์ธานินทร์ ทองประเสริฐ / สวท.

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 วันที่ข่าว : 29 มีนาคม 2555

 

[Pete 15,187]

สภาออสเตรีย เปิดอภิปรายแผนรัดเข็มขัด หวังลดขาดดุลงบให้ได้ภายในปี 2559

 

รัฐสภาออสเตรีย เปิดอภิปรายแผนรัดเข็มขัดฉบับใหม่มูลค่า 27,900 ล้านยูโรไปเมื่อวานนี้ โดยตั้งเป้าจะทำให้งบประมาณของประเทศกลับมาอยู่ในระดับสมดุลอีกครั้งภายในปี 2559 คาดว่าแผนการนี้จะผ่านความเห็นชอบจากสภาได้อย่างไม่ยากเย็น แม้จะถูกต่อต้านอย่างหนักจากพรรคฝ่ายค้าน ปัจจุบัน ออสเตรีย มียอดหนี้สาธารณะอยู่ที่ร้อยละ 74 ของจีดีพี แต่หมายมั่นจะลดลงให้เหลือร้อยละ 70 ของจีดีพีภายในอีก 5 ปีข้างหน้า

 

 

เศรษฐกิจแดนน้ำหอม ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.2 ช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 54

 

สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส รายงานตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว ปรากฏว่าขยายตัวได้เพียงร้อยละ 0.2 ส่งผลให้การเติบโตรวมทั้งปี 2554 อยู่ที่ร้อยละ 1.7 ก่อนหน้านี้ไม่นาน รัฐบาลฝรั่งเศส เพิ่งประกาศปรับเพิ่มประมาณการณ์ทางเศรษฐกิจประจำปีนี้จากร้อยละ 0.5 มาอยู่ที่ร้อยละ 0.7 แต่ขยับลดตัวเลขคาดการณ์ของปีหน้าลงจากร้อยละ 2.0 มาอยู่ที่ร้อยละ 1.75

 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : รักษ์ธานินทร์ ทองประเสริฐ / สวท.   Rewriter : รักษ์ธานินทร์ ทองประเสริฐ / สวท.

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 วันที่ข่าว : 29 มีนาคม 2555

 

[Pete 15,187]

สวิส รี ปรับเพิ่มคาดมูลค่าความเสียหายภัยพิบัติโลกปี 54 เป็น 370,000 ล้านดอลลาร์

 

สวิส รี บริษัทประกันรายใหญ่ของโลก ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์มูลค่าความเสียหายจากหายนะภัยทั่วโลกในปี 2554 มาอยู่ที่ 370,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่เคยประเมินไว้เมื่อเดือนธันวาคมที่ 350,000 ล้านดอลลาร์ โดยเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่มญี่ปุ่น ถือเป็นภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายรุนแรงที่สุด ขณะที่บรรดาบริษัทประกันภัย ต้องสูญเงินจ่ายค่าชดเชยภัยพิบัติในปีที่แล้วสูงถึง 116,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากเมื่อปี 2553

 

 

 

 

แอร์อินเดีย ขาดทุนยับเกือบวันละ 100 ล้านรูปี

 

รัฐมนตรีกระทรวงการบินพลเรือนของอินเดีย เปิดเผยว่าปัจจุบัน แอร์ อินเดีย สายการบินแห่งชาติ กำลังประสบปัญหาขาดทุนสูงถึงวันละ 100 ล้านรูปี แอร์อินเดีย นั้นเผชิญกับวิกฤตการเงินต่อเนื่องมานานหลายปี จากพิษราคาเชื้อเพลิงแพงและการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาด ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอินเดีย เคยอัดฉีดเงินเข้าช่วยเหลือแอร์ อินเดียแล้วกว่า 12,000 ล้านรูปี และมีความเป็นไปได้ว่าอาจอนุมัติเงินช่วยสายการบินแห่งนี้อีกครั้งในเร็วๆ นี้

 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : จีรธิดา คำสวน / สวท   Rewriter : จีรธิดา คำสวน / สวท

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

วันที่ข่าว : 28 มีนาคม 2555

 

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบหลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐลดลง (29/03/2555)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืน นี้ (27 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงวันแรกในรอบ 3 วันทำการ หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐปรับตัวลดลง และจากการที่นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มพลังงาน

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.5% ปิดที่ 266.92 จุด

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดลบ 0.33 จุด แตะที่ 7,078.90 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดลบ 32.39 จุด หรือ 0.92% แตะที่ 3,469.59 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,869.55 จุด ลดลง 33.15 จุด

 

ตลาด หุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันหลังจาก คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนมี.ค.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 70.2 จากระดับของเดือนก.พ.ที่ได้มีการทบทวนแล้วที่ 71.6 จุด และยังต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่ 70.8 จุด

 

อย่าง ไรก็ตาม แม้ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวลดลง แต่ดัชนี Present Situation Index ซึ่งประเมินทัศนคติของผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและสถานะการเงิน ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 51.0 จุด จากระดับ 46.4 จุด

 

หุ้น กลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากมีรายงานว่าเกิดเหตุก๊าซรั่วไหลที่แท่นขุดเจาะ น้ำมันและก๊าซในทะเลเหนือ ซึ่งเป็นบ่อน้ำมันที่ถือหุ้นร่วมกันระหว่างบริษัท โททาล เอสเอ, บีจี กรุ๊ป, อีเอ็นไอ เอสพีเอ, เอ็กซอนโมบิล คอร์ป และเชฟรอน คอร์ป โดยหุ้นโททาล ดิ่งลง 6% หุ้นบีจี กรุ๊ป ร่วงลง 2.9% หุ้นรอยัล ดัชท์ เชลล์ ดิ่งลง 1.2% หุ้นบีพีร่วงลง 2.2% และหุ้นเคร์น เอนเนอร์จี ร่วงลง 2.2%

 

หุ้น ดอยช์ ลุฟฮันซ่า ปิดบวก 2.2% แม้สายการบินดอยช์ ลุฟท์ฮันซ่า เอจี ซึ่งเป็นสายการบินรายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป ยกเลิกเที่ยวบินทั่วโลก 400 เที่ยวเมื่อวานนี้ เนื่องจากการผละงานประท้วงของเจ้าหน้าที่แผนกดูแลสัมภาระและพนักงานด้านความ ปลอดภัยที่สนามบินหลายแห่งในประเทศเยอรมนี

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

วันที่ 29 มีนาคม 2555

 

[Pete 15,187]

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลง ถ้วนหน้าเช้านี้ โดยหุ้นของญี่ปุ่นร่วงลง ขณะที่เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง และราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังจากที่อุปทานน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) อ่อนตัว 0.4% เมื่อเวลา 9.47 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว

 

ดัชนี นิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 10,153.51 จุด ลดลง 101.64 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,959.98 จุด ลดลง 86.93 จุด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,341.00 จุด ลดลง 6.18 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 2,034.35 จุด ลดลง 5.41 จุด ส่วนดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,074.64 จุด เพิ่มขึ้น 45.18 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,588.16 จุด เพิ่มขึ้น 0.06 จุด และดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,012.73 จุด ลดลง 6.18 จุด

 

นัก วิเคราะห์กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ได้มีการเปิดเผยเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ผันผวน ดังนั้น ตลาดจึงอยู่ในช่วงของการพักฐาน หลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปแล้ว

 

คอน เฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนมี.ค.อ่อนตัวลงเล็กน้อย หลังจากที่ดัชนีอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีในเดือนก่อนหน้านั้น

 

สำนัก ข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 70.2 จากระดับที่ได้มีการทบทวนแล้วที่ 71.6 และยังต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 70.8

 

สแตน ดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านเดือนม.ค.ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนม.ค. ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงประสบปัญหาในการฟื้นตัว โดยดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ยังคงทรงตัวในเดือนม.ค.เมื่อมีการปรับตามฤดูกาล หลังจากที่ลดลง 0.5% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่มีการปรับทบทวนแล้ว

 

ก่อนหน้านี้ นักเศรษฐศาสตร์มีการคาดการณ์ที่หลากหลายตั้งแต่ปรับตัวลง 0.5% ไปจนถึงปรับเพิ่มขึ้น 0.3%

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ วันที่ 29 มีนาคม 2555

[Pete 15,187]

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอ เอ็มบี ไทย จำกัด เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 30.73/75 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.68/69 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงมาเล็กน้อย

 

"สาเหตุ ที่เงินบาทอ่อนค่าน่าจะมีแรงซื้อจากผู้นำเข้า (Importer) ด้วย เพราะ Level ไม่ค่อยหลุด 30.70 ลงไปซะที และก็อาจจะตามค่าเงินอื่นๆบ้างเล็กน้อย แต่ก็ดูไม่ค่อยเคลื่อนไหวมาก" นักบริหารเงิน กล่าว

 

ส่วน ความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 83.09/11 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 82.70/74 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3318/3320 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.3355/3360 ดอลลาร์/ยูโร

 

นัก บริหารเงิน คาดว่า ทิศทางค่าเงินบาทวันนี้ น่าจะมีทิศทางเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งแคบๆ ในกรอบระหว่าง 30.70-30.85 บาท/ดอลลาร์ โดยให้ติดตามเรื่องภาพรวมของยุโรปกับสหรัฐอเมริกาในช่วงนี้

 

"คาดว่าเงินบาทน่าจะขึ้นลงแบบแคบๆ เพราะถ้าอ่อนค่าไปเอ็กซพอร์ตก็รอขายที่เลข 8 อิมพอร์ตก็รอซื้อที่เลข 7"นักบริหารเงินกล่าว

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

วันที่ 29 มีนาคม 2555

 

[Pete 15,187]

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 23 มี.ค. พุ่งขึ้น 7.1 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 353.39 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นรดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2554 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.8 ล้านบาร์เรล

 

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 711,000 บาร์เรล แตะที่ 135.87 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัว และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.54 ล้านบาร์เรล แตะที่ 223.37 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันพุ่งขึ้น 2.3% แตะที่ 84.5% มากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.3%

 

สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่ได้รายงานในข้างต้นนั้น ไม่นับรวมกับน้ำมันในคลังยุทธภัณฑ์สำรอง (Strategic Petroleum Reserve - SPR) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ปริมาณ 697 ล้านบาร์เรล โดยรัฐบาลสหรัฐจะระบายน้ำมันออกจากคลังดังกล่าวก็ต่อเมื่อเกิดภาวะอุปทานตึงตัวที่เป็นผลมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ การโจมตีของผู้ก่อการร้าย และสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์  วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2555

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าอ่อนตัวตามภูมิภาค,ไร้ปัจจัยใหม่-ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง (29/03/2555)

นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะอ่อนตัวลงตามภูมิภาค หลังไร้ปัจจัยบวกใหม่ๆเข้ามาขับเคลื่อน ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงค่อนข้างแรง เนื่องจากตลาดฯผิดหวังตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯที่ออกมาต่ำกว่าคาด และได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ฝรั่งเศสกำลังเจรจากับสหรัฐฯและอังกฤษ เพื่อที่จะปล่อยปริมาณน้ำมันสำรองทางยุทธ์ศาสตร์ออกมา เพื่อกดให้ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง

 

รวมทั้งกระแสข่าวที่ซาอุดีอาระเบียประกาศจะเพิ่มแท่งจุดเจาะน้ำมันให้มากเป็นประวัติการณ์ เพื่อชดเชยปริมาณน้ำมันของที่อิหร่านถูกคว่ำบาตร ซึ่งน่าจะส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีถูกขายทำกำไรระยะสั้นออกมา อย่างไรก็ตามคงจะมีแรงซื้อจากต่างชาติช่วยประคองตลาดฯไว้

 

พร้อมให้แนวรับ 1,198 และ 1,194 จุด แนวต้าน 1,208-1,210 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวานนี้(28 มี.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,126.21 จุด ลดลง 71.52 จุด(-0.54%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,405.54 จุด ลดลง 6.98 จุด(-0.49%) ดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,104.96 จุด ลดลง 15.39 จุด(-0.49%)

 

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 791.28 ล้านบาทเมื่อวานนี้

- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 105.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.92 ดอลลาร์ หรือ 1.79%

 

- ?กิตติรัตน์" เปิดศึกแบงก์ชาติต้องการเห็น "บาทอ่อนค่า" หวังช่วยผู้ประกอบการ ย้ำไม่ต้องการเห็นเงินทุนไหลเข้ามาเก็งกำไรค่าเงิน ลั่นในฐานะรองนายกฯ คุมด้านเศรษฐกิจส่งสัญญาณแล้วต้องทำ ขณะที่ผู้ว่าการธปท. สวนกลับค่าเงินบาทตอนนี้สอดคล้องกับพื้นฐานเศรษฐกิจ ระบุชัดหากกดให้อ่อนอาจเกิดวิกฤตแบบปี 2540 ได้ ระบุดอกเบี้ยปัจจุบันอ่อนคลายที่สุดในภูมิภาค

 

- บอร์ดบีโอไอ อนุมัติ เพิ่มสิทธิประโยชน์เพิ่มยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% นาน 3 ปี เฉพาะพื้นที่ลงทุนโซน 2 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมยกเว้นภาษี 8 ปี วงเงินไม่เกิน 150% ของมูลค่าลงทุนเฉพาะ 6 นิคมฯ ถูกน้ำท่วม เอกชนขานรับมาตรการ ชี้ช่วยกระตุ้นลงทุน อนุมัติส่งเสริม 11 โครงการ มูลค่ากว่า 8 หมื่นล้าน

 

- "ภูมิ" เผยตัวเลขส่งออกเดือน ก.พ.เริ่มฟื้น ขยับเป็นบวกครั้งแรกที่ 0.91% หลังติดลบต่อเนื่องตลอด 3 เดือนหลังวิกฤติน้ำท่วมครั้งใหญ่ ฟุ้งอาหารเป็นตัวผลักดันยอดส่งออกเป็นบวก สะท้อนไทยมีศักยภาพเป็นครัวโลก ยืนยันเป้าส่งออกโต 15% จับตาราคาน้ำมัน-หนี้ยุโรปฉุดกำลังซื้อ

 

- "อารักษ์" ยันยังไม่เก็บเงินเข้ากองทุนจากเบนซินเพิ่มหวั่นเพิ่มภาระให้ประชาชน กรมธุรกิจพลังงานเล็งเสนอเลื่อนยกเลิกขายเบนซิน 91 ออกไปก่อน หลังสำรวจโรงกลั่นยังไม่พร้อม ด้านผู้ค้าก๊าซหุงต้มประเมินขึ้นราคาต่อถังไม่เกิน 10 บาท รับต้นทุนค่าขนส่งและค่าแรงเพิ่ม

 

- พม่าประกาศยกเครื่องระบบอัตราแลกเปลี่ยน ใช้ระบบลอยตัวแบบบริหารจัดการ เริ่ม 1 เม.ย.นี้ ผู้เชี่ยวชาญชี้ ระบบใหม่เอื้อการค้า-การลงทุนช่วงเปิดประเทศ ขณะที่กระทรวงพลังงานพม่า เปิดต่างชาติลงทุนแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มอีก 9 หลุม หลังชาติตะวันตกผ่อนคลายคว่ำบาตร

 

- ร่างแก้ รธน.สรรหา ส.ส.ร.ฉบับรัฐบาลล่มกลาง กมธ.เหตุประธานสั่งโหวตขณะที่ฝ่ายรัฐบาลหาย ปชป.สบช่องจี้ยึดหลักข้อบังคับตกแล้วไม่เอามาคุยอีก คปก.ทำหนังสือจี้ประธานสภา-นายกฯ เร่งนำร่างกฎหมายเสนอโดยประชาชนเข้าสภาให้ทันสมัยนิติบัญญัติ

 

ที่มา  สำนักข่าวอินโฟเควสท์ วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2555

 

[Pete 15,187]

************ โต้งย้ำอยากเห็นบาทอ่อน อ้างคุมศก.ห้ามธปท.เถียง (29032555)

"กิตติรัตน์ "ออกโรงยืนยันต้องการให้ค่าเงินบาทอ่อน ดอกเบี้ยต่ำ ย้ำมีหน้าที่บริหารเศรษฐกิจ ประเทศทุกฝ่ายต้องฟัง โดยเฉพาะแบงก์ชาติเถียงน้อยๆจะดีเอง เมินเสียง" กรณ์"ชี้เป็นแค่อดีตรมว.คลัง และฝ่ายค้าน พูดอะไรก็ไม่มีความหมาย

 

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวว่า ไม่ชอบเห็นเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาในประเทศมากๆ ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาเก็งกำไร 

 

"ผมเป็น รมว.คลัง ต้องการส่งสัญญาณอยากเห็นค่าเงินบาทอ่อนค่ามากกว่านี้ ผมมีหน้าที่บริหารเศรษฐกิจของประเทศ ทุกฝ่ายต้องฟังผม ธปท.ต้องฟังผม เถียงน้อยๆ หน่อย แล้วก็จะดีเอง ผมยืนยันต้องเห็นบาทอ่อน ใครจะมาฟาดปากผมก็ไม่แคร์ เพราะมันเป็นความต้องการของผม" นายกิตติรัตน์ กล่าว

 

นายกิตติรัตน์ กล่าวถึงกรณีที่นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง ออกมาให้ความเห็นว่านโยบายทำบาทอ่อนของรัฐบาลเป็นการแทรกแซงการทำงานของ ธปท. และ รัฐบาลควรให้ความสำคัญแก้ปัญหาราคาสินค้าแพงมากกว่าทำบาทอ่อนที่ไม่ใช่หน้าที่ของรัฐบาลว่า นายกรณ์ เป็นแค่อดีต และรมว. คลัง และฝ่ายค้านเท่านั้น พูดอะไรไปก็ไม่มีความหมาย

 

ก่อนหน้านี้ นักวิชาการออกมาให้ความเห็นนโยบายทำค่าเงินบาทอ่อน ว่า จะกระทบเศรษฐกิจ แม้ว่าจะทำให้มูลค่าการส่งออกเพิ่ม แต่จะทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นด้วย

 

สำหรับค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2555 ปิดตลาดที่ระดับ 30.76/78 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิดตลาด 30.73/75 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบแคบมาก โดยนักบริหารเงิน ประเมินทิศทางค่าเงินบาทในวันที่ 29 มีนาคม 2555ว่าน่าจะมีเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวแคบๆ ในกรอบ 30.70-30.80 บาท/ดอลลาร์ เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยมีข่าวใหม่ จึงแนะนำให้ติดตามปัจจัยต่างประเทศ เช่น ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนกุมภาพันธ์และ สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

 

อยากเห็น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดดอกเบี้ยนโยบายได้มากกว่าในปัจจุบัน

 

ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2555

 

[sila9 6]

GT ยัง online ไม่ได้ แต่โทรสั่งได้นะครับ ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 24255/24295 ครับ

[Pete 15,187]

2เดือนสภาพคล่องทะลัก 2.1 ล้านล้าน (29/03/2555)

"ศูนย์วิจัยกสิกรไทย" เผยตัวเลขสภาพคล่อง 2 เดือนแรก ล้นทะลัก เหตุแบงก์เร่งระดมทุนรองรับการปล่อยกู้ลูกค้าน้ำท่วม แถมเงินทุนต่างชาติยังไหลเข้ามากกว่า 2 แสนล้านบาท ระบุภาพรวมทั้งปีค่าเงินเคลื่อนไหวผันผวน วางกรอบทั้งปีอยู่ที่ 29.50-32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

นางสาวธัญญลักษณ์ วัชระชัยสุรพล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า สภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ 11 แห่ง ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กุมภาพันธ์) เร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากระดับต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาทในเดือนมกราคม เพิ่มเป็นมากกว่า 2.1 ล้านล้านบาท ในเดือนกุมภาพันธ์หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 144,609 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากการเร่งระดมเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ที่เติบโตสูงถึง 162,866 ล้านบาท รวมถึงการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติในตลาดหุ้น 73,635 ล้านบาท และตลาดพันธบัตรอีก 297,866 ล้านบาท ซึ่งมีแรงหนุนจากการเตรียมสภาพคล่องเพื่อรองรับการขยายตัวของสินเชื่อที่คาด ว่าจะเร่งตัวสูงขึ้นจากการเร่งฟื้นฟูหลังน้ำท่วม อีกทั้งเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจเอเชียและไทยที่ ฟื้นตัวอย่างชัดเจนหากเทียบกับเศรษฐกิจตะวันตก

"มิติสำคัญที่ทำให้สภาพคล่องไต่ระดับเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเหตุจากการปรับโครงสร้างเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์เร่งระดมผ่าน เงินออมแทนตั๋วแลกเงิน (บี/อี) ซึ่งเป็นผลของการนำส่งเงินเพื่อการบริหารหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนา ระบบสถาบันการเงิน (เอฟไอดีเอฟ) และอีกส่วนจากการครบกำหนดของพันธบัตรต่างๆ เช่น พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะเดียวกันก็ยังมีการออกหุ้นกู้เพิ่มขึ้นค่อนข้างมากโดย 2 เดือนแรก มูลค่าเฉียด 200,000 ล้านบาท" นางสาวธัญญลักษณ์กล่าว

ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อซึ่งเป็นตัวสะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจช่วงที่ ผ่านมาเติบโตขึ้น74,703 ล้านบาท โดยโมเมนตัมการขยายตัวในเดือนกุมภาพันธ์เริ่มทะยานสูงขึ้นจากเดือนมกราคม ถือเป็นทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อหมุนเวียนในประเทศ 26.7% ของสินเชื่อรวม และเพื่อการลงทุนเติบโตขึ้น 19.6% ส่วนสินเชื่อธุรกิจระหว่างประเทศเติบโตชะลอตัวลงตามทิศทางการส่งออก ขณะที่สินเชื่อผู้บริโภคเริ่มกลับเข้ามามากขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ ผ่านมา

ทั้งนี้ ประมาณการการเติบโตของสินเชื่อในสิ้นปี 2555 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 10.5% หรืออยู่ในกรอบ 9-12% ลดลงจากปี 2554 ที่เติบโตสูงถึง 14.7% ถือเป็นภาพการเติบโตที่ค่อนข้างระมัดระวัง โดยแบ่งเป็นสินเชื่อธุรกิจเติบโต 7.6-10.7% แยกเป็นสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ 6.5-9% สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี 8.5-12% และสินเชื่อรายย่อยเติบโต 12.6-14.9% แยกเป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 8-10% สินเชื่อเช่าซื้อ 26-30% สินเชื่อบัตรเครดิต 14.5-16% สินเชื่อบุคคล 28-33%

อย่างไรก็ตาม มุมมองข้างหน้า ศูนย์วิจัยยังเชื่อมั่นว่าสภาพคล่องจะทยอยปรับตัวลดลงบ้าง สาเหตุหลักจากการปล่อยสินเชื่อที่น่าจะค่อยๆ มีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากแรงส่งของการกู้ยืมภาคเอกชนที่น่าจะชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ที่ต้องจับตาคือปริมาณการออกตราสารหนี้ที่จะเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 2-3 โดยเฉพาะฝั่งรัฐบาลทั้งเพื่อรองรับการขาดดุลงบประมาณ โครงการลงทุนบริหารจัดการน้ำ กองทุนมหันตภัย ซึ่งถ้าเข้ามาระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้อาจจะเห็นตัวเลขที่ไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาท ซึ่งในมุมนี้เองจะเป็นปัจจัยที่ทำให้การดูแลและการแข่งขันจากฝั่งเงินฝากของ ธนาคารพาณิชย์น่าจะเข้มข้นและดุเดือดขึ้น

"ถ้าจะมองสภาพคล่องในช่วงที่เหลือของปียังมองว่าสภาพคล่องแบงก์จะยังคง ตึงตัวขึ้น โดยเฉพาะในมิติของการปล่อยสินเชื่อที่น่าจะเร่งตัวขึ้นตามลำดับ แต่ต้องติดตามคือสภาพคล่องในตลาดการเงินที่จะตึงตัวกลับมีความขัดแย้งกับ เงินทุนที่จะไหลเข้า และทิศทางค่าเงินบาทก็อิงกับการเคลื่อนย้ายของเงินทุนที่อิงกับความไม่แน่ นอนของเศรษฐกิจโลก"

นางสาวธัญญลักษณ์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทตั้งแต่ต้นปี จนถึงปัจจุบันแข็งค่าขึ้น 2.5% ตามการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติ แต่ในเดือนมีนาคมนี้ เงินบาทเริ่มอ่อนค่า จากปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก จากความกังวลการเติบโตเศรษฐกิจที่อาจไม่ดีอย่างที่คาดไว้ และปัญหาหนี้ยุโรปยังไม่จบ รวมทั้งน้ำมันแพง กดดันฐานะการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดไทย อาจทำให้การไหลเข้าของเงินทุนมายังประเทศไทยขาดความต่อเนื่องในทางกลับกัน หากสถานการในยุโรปทรงตัว จะทำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น แต่การขยายทางเศรษฐกิจไทยยังมีมุมในเชิงบวก ทำให้ความแตกต่างของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระหว่างไทย-สหรัฐฯ กว้างขึ้นทำให้เงินทุนไหลเข้ามาในประเทศอย่างต่อเนื่องค่าเงินบาทก็จะอยู่ใน ทิศทางแข็งค่า ดังนั้นค่าเงินบาทเทียบสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะเคลื่อนไหวผัวผวนแต่โดยรวม ทั้งปีจะเป็นการแข็งค่า หรือเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29.50-32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 31.54 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

 

วันที่ 29 มีนาคม 2555

 

[Pete 15,187]

นายจุน อาซูมิ รมว.คลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า เขาได้หารือกับนายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลี เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มทุนทรัพย์ให้กับกองทุนการเงินระหว่าง ประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตหนี้สาธารณะลุกลามไปยังประเทศโดยรอบกลุ่มยูโรโซน

 

"เรา ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในระดับหนึ่ง" นายอาซูมิกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากได้พบกับนายมอนติที่โรงแรมในกรุง โตเกียว และยังกล่าวด้วยว่าผู้นำทั้งสองได้หารือกันเกี่ยวกับปัญหาด้านการคลังใน ยุโรป รวมทั้งความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างญี่ปุ่นและอิตาลี นอกจากนี้ นายมอนติจะพบปะหารือกับนายโยชิฮิโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในช่วงเย็นวันนี้ด้วย

 

ญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกรายใหญ่ของไอเอ็มเอฟที่กำลังพิจารณาเรื่องการเพิ่ม ทุนทรัพย์ให้กับไอเอ็มเอฟ ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้ปัญหาหนี้ของกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส ลุกลามไปยังประเทศอื่นๆที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่กว่าในยูโรโซน เช่น อิตาลี และสเปน และเพื่อป้องกันการถดถอยของเศรษฐกิจทั่วโลก

 

สำนัก ข่าวเกียวโดรายงานว่า ประเด็นการเพิ่มทุนทรัพย์ให้กับไอเอ็มเอฟจะเป็นวาระสำคัญในการประชุมรม ว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G20 ซึ่งเป็นการประชุมนอกรอบการประชุมรายครึ่งปีของไอเอ็มเอฟและธนาคารโลกที่ กรุงวอชิงตันในเดือนหน้า

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์