ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ที่มา ไทยรัฐอนไลน์

 

 

เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง รายงานสถานการณ์ทองคำว่า ราคาทองคำปรับฐานลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 หลังจากในช่วงเช้าเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา แต่ราคาก็ไม่สามารถผ่านแนวต้านระยะสั้นบริเวณ 1,685-1,690 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ขึ้นไปได้ ก่อนที่จะมีแรงขายออกมาในการซื้อขายช่วงบ่ายและต่อเนื่องไปจนถึงช่วงค่ำ จนราคาปรับตัวลงค่อนข้างแรง และกลับลงมาปิดที่บริเวณ 1,663.12 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ลดลงจากระดับปิดของวันอังคาร 16.32 ดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาทำจุดต่ำสุดและสูงสุดในระหว่างวันที่บริเวณ 1,655.70 และ 1,683.80 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศวานนี้ขายออกที่บาทละ 24,450 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 24,350 บาท เงินบาทที่อ่อนค่าลงส่งผลให้ราคาในประเทศปรับตัวลงน้อยกว่าปกติ

 

การเคลื่อนไหวของราคาทองในทางเทคนิคกลับเข้าสู่ช่วงอ่อนตัวลงอีกครั้ง หลังจากเริ่มมีการดีดตัวเกิดขึ้นในการซื้อขายช่วงปลายสัปดาห์ก่อนต่อเนื่องมาจนถึงต้นสัปดาห์นี้ แต่ด้วยภาพการเคลื่อนไหวที่ยังอยู่ในช่วงของการปรับฐานจึงทำให้การฟื้นตัวของราคาทองขาดความต่อเนื่อง และในท้ายที่สุดก็กลับอ่อนตัวลงและมีแนวโน้มที่จะปรับฐานลงไปยังจุดต่ำสุดของรอบก่อนที่บริเวณ 1,627-1,630 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดที่ทำไว้ในสัปดาห์ก่อน และด้วยภาพการเคลื่อนไหวของราคายังอยู่ในช่วงอ่อนตัวลง การฟื้นตัวก็ยังไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่ารอบก่อนหน้าที่บริเวณ 1,715 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ได้ 

 

ดังนั้นในช่วงที่ราคาปรับฐานลงก็อาจมีการลงทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่ารอบก่อน การเก็งกำไรในทองคำผ่านทองคำแท่งในช่วงขาลงควรใช้วิธีการทยอยสะสมหรือหากมีทองคำอยู่แล้วก็สามารถเข้าไปมีสถานะขายในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อบริหารพอร์ต ส่วนการเก็งกำไรทางเดียวผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้านั้น หากต้องการเก็งกำไรฝั่งซื้อ ควรรอเปิดสถานะที่บริเวณแนวรับและไม่ควรถือสถานะนาน และหากราคาปรับฐานลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในระหว่างวัน ก็ควรปิดสถานะตัดขาดทุนก่อน หรืออาจเลือกเก็งกำไรด้านขายจากแนวต้านในช่วงที่ราคาดีดตัวขึ้นในระหว่างวัน โดยคาดว่าในช่วงสั้นราคาทองที่ปรับฐานลงมาค่อนข้างแรงอาจมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามา โดยมีแนวต้านอยู่ที่บริเวณ 1,670-1,675 และ 1,680 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนการปรับฐานในระหว่างวันมีแนวรับระยะสั้นอยู่ที่บริเวณ 1,650-1,655 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ และคาดว่าจะมีแรงขายออกมามากหากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้ จนทำให้ราคาปรับฐานลงไปยังแนวรับซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของรอบก่อนที่บริเวณ 1,627-1,630 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์  

 

ทั้งนี้ ราคาทองคำในประเทศเปิดตลาดปรับตัวลดลง 150 บาท โดยราคาทองคำแท่งรับซื้อ 24,200 บาท ขายออก 24,300 บาท และราคาทองรูปพรรณ รับซื้อ 23,846.68 บาท ขายออก 24,700 บาท

 

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures(29/03/2555)

ราคาทองคำดีดตัวขึ้นได้เพียงช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะมีแรงขายออกมาในการซื้อขายช่วงบ่ายต่อเนื่องไปจนถึงช่วงค่ำ จนทำให้ราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับที่บริเวณ 1,670-1,675 ดอลลาร์ เช่นเดียวกันกับราคาโลหะเงินซึ่งมีแรงขายออกมามากในช่วงที่ราคาปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับของวันที่บริเวณ 32.5 0ดอลลาร์ จนราคากลับลงมาเคลื่อนไหวอยู่ที่บริเวณ 32.0 ดอลลาร์ และยังทรงตัวอยู่ที่บริเวณดังกล่าวต่อเนื่องมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ โดยภาพการเคลื่อนไหวของทั้งราคาทองและราคาโลหะเงินซึ่งในช่วงปลายสัปดาห์ก่อนต่อเนื่องมาจนถึงต้นสัปดาห์นี้เริ่มดีดตัวกลับนั้น แต่ยังไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่ารอบก่อนหน้าได้ จึงเป็นเพียงการดีดตัวทางเทคนิค แล้วจึงเริ่มกลับเข้าสู่ทิศทางของการปรับฐาน และด้วยรูปแบบการเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าว การปรับฐานของราคาที่เกิดขึ้นก็มีแนวโน้มที่จะลงทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่ารอบก่อน ดังนั้นการปรับตัวลงของราคาทองในรอบนี้อาจไม่สามารถยืนเหนือแนวรับที่เป็นจุดต่ำสุดของสัปดาห์ก่อนที่บริเวณ 1,627-1,630 ดอลลาร์ ทำให้การเก็งกำไรในระยะสั้นผ่านทองคำแท่งอาจใช้วิธีการทยอยสะสมในช่วงที่ราคาปรับฐานเข้าใกล้แนวรับ หรืออาจเข้ามามีสถานะขายในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถือครองทองคำ โดยประเด็นที่กดดันให้ราคาทองปรับฐานลงนั้น มาจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบและตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่กลับแย่กว่าที่คาด ประกอบกับคำเตือนเกี่ยวกับมาตรการที่ใช้แก้ปัญหาในยุโรปในขณะนี้อาจยังไม่เพียงพอสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น จึงทำให้ตลาดประเมินว่าเงินยูโรอาจอ่อนค่าลงอีก โดยในช่วงสุดสัปดาห์นี้จะมีการประชุมของรัฐมนตรีคลังยุโรป ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือเกี่ยวกับเรื่องมาตรการรองรับและแก้ไขปัญหาของกลุ่มที่อาจเกิดขึ้นอีก และในระยะสั้นคาดว่าจะเป็นประเด็นลบที่กลับมากดดันการเคลื่อนไหวของราคาทองจนทำให้การฟื้นตัวมีกรอบค่อนข้างจำกัด โดยในระหว่างวันคาดว่าราคาอาจเริ่มดีดตัวกลับแต่คงยังจะไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,670-1,675 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ และหากปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,655 ดอลลาร์ คาดว่าจะมีแรงขายออกมามากจนราคาปรับฐานลงไปยังแนวรับด้านล่างบริเวณ 1,640 และ 1,627 ดอลลาร์ ต่อไป เช่นเดียวกันกับราคาโลหะเงินที่ต้องระวังแรงขายหากปรับฐานลงต่ำกว่า 31.80 ดอลลาร์ โดยคาดว่าจะมีแรงขายออกมามากจนทำให้ราคาปรับฐานลงไปยังแนวรับบริเวณ 31.50 และ 31.0 ดอลลาร์ ต่อไป

 

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนเม.ย.55

Close   chg.  Support        Resistance

24,660  -160  24,500/24,400  24,700/24,800

ราคาทองปรับฐานลงต่ำกว่าจุดปิดสถานะตัดขาดทุนฝั่งซื้อที่บริเวณ 1,670 ดอลลาร์ จนราคาปรับฐานลงไปต่ำสุดที่แนวรับบริเวณ 1,655 ดอลลาร์ และเริ่มดีดตัวกลับ โดยมีแนวต้านในระหว่างวันอยู่ที่ 1,670 และ 1,680 ดอลลาร์ตามลำดับ จึงสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งซื้อได้ในช่วงสั้นๆ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,650-1,655 ดอลลาร์ และสามารถเลือกเก็งกำไรด้านขายในช่วงที่ราคาปรับตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับดังกล่าว

 

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนเม.ย.55

Close  chg.  Support  Resistance

1,005  -36   990/980  1,010/1,020

มีแรงขายออกมามากหลังจากราคาโลหะเงินไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 32.40-32.50 ดอลลาร์ ได้ โดยเช้านี้ราคาทรงตัวอยู่ที่แนวรับบริเวณ 32 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะมีการดีดตัวในระยะสั้นเกิดขึ้นหลังจากราคาปรับฐานลงมาค่อนข้างแรงติดต่อกัน 2 วัน จึงสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งซื้อจากการดีดตัวกลับในช่วงสั้นๆ และต้องระวังแรงขายในกรณีที่ราคาปรับฐานลงไปต่ำกว่า 31.70-31.80 ดอลลาร์ โดยสามารถกลับมาเก็งกำไรฝั่งขายในช่วงที่ราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวรับดังกล่าวได้

 

ที่มา ThaiPR.net วัพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2555

 

[Pete 15,187]

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน : บมจ.ไทยออยล์ (29/03/2555)

            ราคาน้ำมันดิบร่วง เหตุปริมาณน้ำมันดิบคงคลังปรับเพิ่มเกินกว่าคาดมาก"เวสต์เท็กซัสปรับลดลง 1.92 เหรียญฯ/บาร์เรล ปิดที่ 105.41 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์ปรับลดลง 1.38 เหรียญฯปิดที่ 124.16 เหรียญฯ

 

            ตลาดคลายความกังวลต่อปัญหาอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ รายงานปริมาณน้ำมันคงคลังของสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 23 มี.ค. 55 ว่าปรับเพิ่มขึ้นมากถึง 7.1 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 353.39 ล้านบาร์เรล ซึ่งนับว่าเป็นระดับที่สูงที่สุดนับจากเดือน ก.ค.54 และมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 2.6 ล้านบาร์เรล เนื่องจากปริมาณการนำเข้าที่ปรับเพิ่มขึ้น อยู่ที่ 1.05 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

            ราคาน้ำมันดิบถูกกดดัน จากที่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของฝรั่งเศส ได้ออกมาแถลงว่า มีความเป็นได้ว่าฝรั่งเศสจะร่วมมือกับ สหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ในการนำปริมาณน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ของแต่ละประเทศออกสู่ตลาด เพื่อช่วยลดแรงกดดันราคาน้ำมันดิบที่ยืนอยู่ในระดับสูงมาเป็นเวลานานแล้ว ทั้งนี้ข้อตกลงดังกล่าวของฝรั่งเศสยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจากับสหรัฐและสหราชอาณาจักรอยู่

 

            อย่างไรก็ตาม ทางรัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย ก็ได้ออกมากล่าวว่า ซาอุดิอาระเบียยังคงที่จะไม่ปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ เนื่องจากอุปสงค์น้ำมันดิบโลกยังไม่ได้ตึงตัวอย่างแท้จริง ทั้งนี้หากทางซาอุดิอาระเบียเห็นว่าอุปทานไม่เพียงพอ ก็พร้อมที่จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตในทันที นอกจากนนี้ยังได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า การนำปริมาณน้ำมันสำรองทางยุทธศาตร์ออกมาใช้นั้น จะสมเหตุและผลก็ต่อเมื่อปริมาณน้ำมันดิบไม่เพียงต่อความต้องการเท่านั้น

 

            ราคาน้ำมันเบนซินสิงคโปร์ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความกังวลต่อเหตุการณ์การหยุดผลิตของโรงกลั่นในสิงคโปร์ผ่อนคลายลง ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ และอุปทานที่เพิ่มขึ้นของโรงกลั่นทางเอเซียเหนือ เพื่อเพิ่มปริมาณสำรองให้พร้อมกับหน้าร้อนที่จะมาถึงทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง

 

            กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบเบรนท์ 120 - 127 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 103 - 110 เหรียญฯ  

 

            ติดตามข้อตกลงของสหรัฐ ฝรั่งเศสและอังกฤษ ต่อแผนการนำน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์มาใช้ และการเจรจาระหว่างชาติตะวันตกกับอิหร่านในเรื่องนิวเคลียร์ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ต้องติดตามได้แก่ จีดีพี ไตรมาส4/54 ของสหรัฐฯ

 

            ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่ วันพฤหัสฯ: จีดีพีและยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ รวมทั้งอัตราการว่างงานเยอรมนี วันศุกร์: ยอดรายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลและความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของเมืองชิคาโก และดัชนีราคาผู้บริโภคสหภาพยุโรป วันเสาร์: ดัชนีภาคการผลิตจีน (Official PMI)

 

            ติดตามการประชุมของรัฐมนตรีการคลังสหภาพยุโรปในวันที่ 30-31 มี.ค. นี้ ที่จะมีการหารือในเรื่องการควบรวมกองทุนชั่วคราวเสถียรภาพการเงินยุโรป (ESFS) เข้ากับกองทุนถาวรกลไกสร้างเสถียรภาพยุโรป (ESM) และพิจารณาว่าจะมีการปรับเพดานเงินที่ประเทศสมาชิกจะใส่เข้าไปในกองทุนใหม่นี้หรือไม่

 

            ความคืบหน้าการเปิดการเจรจาระหว่าง 6 ประเทศแกนนำหลักของโลกและอิหร่านในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน รวมทั้งอิหร่านจะยอมให้สำนักงานปรมาณูสากลเข้าตรวจสอบพื้นที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์หรือไม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของชาติตะวันตกในการยอมเปิดเจรจาครั้งนี้

 

            สถานการณ์ความไม่สงบในประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ได้แก่ ไนจีเรีย ซีเรีย อิรัก เยเมน และซูดาน

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 29 มีนาคม 2555)

 

[Pete 15,187]

 นายภูมิ สาระผล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือน ก.พ.2555 มีมูลค่า 19,038.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.91% คิดเป็นเงินบาท 597,145.6  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.21% เทียบเดือนเดียวกันปีก่อน การนำเข้ามีมูลค่า  18,509.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.25% คิดเป็นเงินบาท 587,445.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.76% ไทยได้ดุลการค้า 529.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 9,700.3  ล้านบาท  

    สำหรับระยะ 2 เดือนแรก (ม.ค.–ก.พ.) การส่งออกมีมูลค่า 34,775.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 2.36% การนำเข้ามูลค่า 35,373.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.94% ไทยขาดดุลการค้า 597.4 ล้านเหรียญสหรัฐ

    “การส่งออกเริ่มส่งสัญญาณการกลับมาขยายตัวแล้วในเดือน ก.พ.นี้ แม้จะขยายตัวไม่มากนัก แต่เป็นทิศทางที่ดีว่าในเดือน มี.ค. การส่งออกของไทยมีโอกาสสูงที่จะกลับมาขยายตัวเป็นบวก ซึ่งจะทำให้ทั้งปีการส่งออกจะขยายตัวตามเป้าหมาย 15% ภายใต้สมมุติฐานที่ราคาน้ำมันไม่ผันผวนหรือมีราคาสูงมากนัก อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 31.36 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และปัญหาเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปเริ่มคลี่คลายลง" นายภูมิกล่าว

    สำหรับการส่งออกเดือน ก.พ.ที่ขยายตัว 0.91% มาจากความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นในหมวดสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมเกษตรเพิ่มขึ้น 4.8% เช่น  ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง 3.5% อาหารทะเลแช่แข็งไม่รวมกุ้ง 21.4% น้ำตาลทราย 94.5% สินค้าเกษตรที่ลดลง ได้แก่ ข้าว ลดลง 17.4% ยางพารา 23.3%  สินค้าอุตสาหกรรมที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ อัญมณี (ไม่รวมทองคำ) เพิ่มขึ้น  87.5% เครื่องสำอาง 29.8% อาหารสัตว์เลี้ยง 25.3% ส่วนสินค้าที่ส่งออกลดลง  ได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ลดลง 10.7% เครื่องใช้ไฟฟ้า 6.5% สิ่งทอ 10.2%  เป็นต้น.

 

ที่มา ไทยโฟสต์ วันพฤหัสบดี ที่ 29 มีนาคม 2555

 

[Pete 15,187]

หวั่น!บริษัทญี่ปุ่นเคลมเบี้ยโอเวอร์ (29/03/2555)

วงการประกันภัยหวั่นบริษัทญี่ปุ่นเคลมโอเวอร์ ตีมูลค่าความเสียหายสูงเกินจริง ด้านไทยรีระบุ ต้นเหตุสำคัญมาจากประกันยุ่นจ่ายความเสียหายแบบอะลุ้มอล่วย ระบุ ประกันภัยต่อทั่วโลกจ้องรื้อกรมธรรม์ มาสำรวจภัยใหม่เพื่อป้องกันการจ่ายสินไหมเกินจริง   ลั่นจ่ายรายใหญ่ไม่ทันกลางปี เหตุความเสียหายสูง มองอนาคตธุรกิจประกันภัยไทย รายกลาง-เล็กเสี่ยงกำไรหดถึงขั้นขาดทุน

นายสุรชัย ศิริวัลลภ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน)หรือTHRE  เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ" ถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากผลกระทบน้ำท่วมว่าทำไมยังไม่สามารถประเมินออก มาเป็นตัวเลขยังไม่นิ่งนั้น ทางไทยรีมองว่า ต้นเหตุสำคัญน่าจะมาจากบริษัทจากประเทศญี่ปุ่น เพราะจากข้อมูลจะเห็นว่าความเสียหายเพิ่มขึ้นทุกวัน จนสุดท้ายการประเมินความเสียหายเชิงการประกันภัยสูงถึง 4.5 แสนล้านบาท

"ถามว่าเพิ่มขึ้นแบบนี้ด้วยเหตุผลอะไร  ไม่มีใครทราบ ทางเดียวที่จะหาคำตอบได้คือ จะต้องใช้ผู้สำรวจภัย (Adjuster) เข้ามาประเมินเพื่อให้ได้ความเสียหายที่ชัดเจน โดยเฉพาะตัวตึก เครื่องจักรมีสิ่งใดบ้างที่จะต้องเปลี่ยน ตัวสต๊อกสินค้าที่เป็นความเสียหายจริง ไม่ใช่ปั้นตัวเลขขึ้นมา

สำหรับกลุ่มที่ทำประกันธุรกิจหยุดชะงัก Business Interruption Insurance: BI) อาจต้องใช้เวลาสำรวจความเสียหายต่ออีกหลายเดือนกว่าจะรู้มูลค่าที่แท้จริง ซึ่งกรณีที่บริษัทญี่ปุ่นแจ้งเคลมเข้ามาที่แสดงให้เห็นความเสียหายสูง ตรงนี้ในวงการธุรกิจรับประกันภัยต่อด้วยกันเองก็ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมาบริษัทญี่ปุ่นไม่มีรายงานจากผู้สำรวจภัย ขณะที่ตัวเลขความเสียหายออกมาจากศูนย์ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไม่สามารถยืนยันได้

ทั้งนี้ ต้องเข้าใจว่าวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น มีการทำประกันแบบในเครือ เช่น กลุ่มมิตซุย  กลุ่มโตเกียวมารีน จะทำประกันภายในเครือของตัวเอง เหมือนเป็นเครือญาติ ทำให้เกิดปัญหา สิ่งที่ตามมา คือ ความเสียหายที่แท้จริงเท่าไหร่ นั่นคือปัญหาถือว่ายอดเคลมแบบอะลุมอล่วยสูงถึง30-40%ของยอดเคลมทั้งหมด ส่วนต่างแบบนี้จะเรียกเคลมจากรี อินชัวเรอร์ไม่ได้ เพราะไม่ใช่ความเสียหายที่แท้จริง อีกทั้ง ตาม พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย มาตรา 31 วรรค 11 ห้ามบริษัทประกันจ่ายเงินเกินเงื่อนไข ดังนั้นการจ่ายค่าสินไหมทดแทนเกินจริงทำให้ทุกวันนี้ภาพรวมของธุรกิจประกัน วินาศภัยปั่นป่วนไปหมด เป็นเหตุผลทำให้บริษัทรี อินชัวเรอร์ต้องตั้งทีมสำรวจภัยเพื่อตัดปัญหาตรงนี้     "ไทยรีมองเห็นปัญหาจุดนี้ ดังนั้นจึงทำการว่าจ้างทีมผู้สำรวจภัยซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจากสิงคโปร์ เข้ามาทำการประเมินความเสียหายจริงว่าเป็นเท่าไหร่ มูลค่าที่ต้องจ่ายจริงเท่าไหร่ ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ถูกต้องและยุติธรรมที่สุด เช่น กรณีน้ำท่วม บริษัทญี่ปุ่นระบุว่าเสียหาย 70%ของทุนประกันขณะที่บริษัทประกันภัยไทยอื่นๆ ประเมินว่าเสียหาย 40-50% เมื่อผลส่วนต่างตรงนี้ออกมาทำให้ทุกบริษัทระวังตรงนี้ มีโอกาสจ่ายเคลมโอเวอร์ 30% กระทบกับกระแสเงินสดทั้งระบบได้"

นายสุรชัย กล่าวอีกว่าส่วนกรณีบริษัทญี่ปุ่น หากมีการจ่ายเกินสินไหมที่แท้จริงให้กับลูกค้า สุดท้ายกระบวนการจ่ายสินไหมจะเกิดการเบี่ยงเบน เกิดส่วนต่างหลายพันล้านบาท เช่น จ่ายส่วนต่างแค่ 1% ยอดก็จะสูงถึง 4,000 ล้านบาท แต่เชื่อว่าจะไม่จ่ายแค่ 1% ส่วนต่างน่าจะขยับขึ้นไปสูงถึง 5% จนหลายหมื่นล้านได้

อย่างไรก็ตาม น้ำท่วมปลายปีปัญหาที่พบคือ บริษัทรี อินชัวเรอร์ต้องรื้อกรมธรรม์มาสำรวจภัยใหม่ไม่ต่ำกว่า 60% เพื่อป้องกันการจ่ายสินไหมเกินจริง ทำให้การจ่ายสินไหมถูกยืดระยะเวลาออกไป คาดว่าภายในเดือนมิถุนายน 2555นี้  บริษัทน่าจะทยอยจ่ายแก่รายใหญ่ไม่ต่ำกว่า 40% แม้ คปภ.จะกำหนดให้จ่ายถึง 75% ก็ตาม ดังนั้นหากจะให้จ่ายสินไหมครบภายใน 6 เดือนหรือก่อนเดือนกรกฎาคม 2555 โอกาสจ่ายได้ครบจะน้อยมากๆ เพราะต้องรอการสำรวจภัยให้ครบทุกกรมธรรม์ คาดใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 18 เดือน หรือ 1 ปีครึ่ง ถึงจะทยอยจ่ายได้ครบ 100% ซึ่งภาพรวมของตลาดจะเป็นไปในลักษณะนี้เหมือนกันทั้งระบบ

สำหรับทิศทางของธุรกิจประกันภัยไทยนั้น นายสุรชัยกล่าวว่า ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 เป็นต้นไป กำไรจากธุรกิจประกันภัยจะเริ่มหายไป อันเป็นผลจากภัยน้ำท่วม บริษัทถูกปรับลดค่าคอมมิสชันลงอย่างน้อย 10% จากที่เคยได้ 45% จะลดลงเหลือ 35% ขณะที่รี อินชัวเอร์กำหนดให้ต้องได้กำไรจากการรับประกันอย่างน้อย 20% ยิ่งที่ผ่านมาบริษัทประกันไทยส่งงานต่อให้กับบริษัทรี เกือบทั้งหมดเมื่อมาถูกลดค่าคอมมิสชัน ยิ่งถูกจำกัดในเรื่องความเสียหาย หากความเสียหายยิ่งสูง กำไรจากค่าคอมมิสชันก็จะยิ่งลดลง เมื่อมารวมกับต้นทุนธุรกิจที่เท่าเดิม ก็มีความเสี่ยงสูงที่ไตรมาสแรก กำไรของแต่ละบริษัทจะลดลง และจะเห็นชัดเมื่อถึงสิ้นปี และมีความเป็นไปได้สูงที่ปีนี้บริษัทขนาดกลาง-เล็ก แทบไม่มีกำไรหรือถึงขั้นขาดทุนก็เป็นได้

 

"คาดการณ์การเติบโตทางธุรกิจของบริษัท ว่า ตลอด 2 ปีทีผ่านมาบริษัทจะประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่อง 2 ปี คือ ปี 2554 ขาดทุน 1,400 ล้านบาท และคาดว่า 2555 จะขาดทุนอีกไม่ต่ำกว่า 4,100 ล้านบาท รวม 5,500 ล้านบาท แต่เชื่อว่าหลังมีการเพิ่มทุนแล้วน่าจะทำให้ปี 2556 บริษัทคาดว่าจะกลับมามีผลกำไรได้อีกครั้ง"

ในส่วนของแผนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ปี 2555 นี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะออกประกันภัยคุ้ม ครองสินเชื่อ Loan Protection ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ประกันสุขภาพ ซึ่งประกันทั้งหมดสร้างเบี้ยประกันรับไม่ต่ำกว่า 65% สำหรับเป้าเบี้ยประกันภัยรับ 2555 บริษัทคาดว่าจะมีเบี้ยสุทธิ 6,300 ล้านบาท เติบโตจากปี 2554 เกือบ 10% ขณะที่ปี 2554 เทียบจากปี 2553 พบว่ามีอัตราการเติบโตสูงถึง 45% ส่วนการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สำหรับปีนี้จะเน้นไปที่การขายตรง โดยการออกผลิตภัณฑ์แล้วให้พันธมิตรส่งงานเข้าไทยรี ไม่ต่ำกว่า 50%

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

 

วันที่ 29 มีนาคม 2555

 

[Pete 15,187]

        ราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐยังคงอ่อนตัวในวันนี้ หลังจากดิ่งลง  1.8 % เมื่อวานนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบในสหรัฐ  รวมทั้งจากข่าวที่ว่า สหรัฐและบางประเทศในยุโรปจะระบายน้ำมันในคลังสำรอง ทางยุทธศาสตร์ 

         ณ เวลา 09.26 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ราคาสัญญาน้ำมันดิบส่งมอบ เดือนพ.ค.ในตลาด NYMEX ลบ 11 เซนต์ สู่ 105.30 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก ปิดตลาดวานนี้รูดลง 1.92 ดอลลาร์ หรือ 1.79 % สู่ 105.41 ดอลลาร์       

        ส่วนราคาสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดลอนดอนปรับตัวลง  19 เซนต์ สู่ 123.97 ดอลลาร์ในวันนี้ หลังจากปิดตลาดวานนี้ดิ่งลง 1.38 ดอลลาร์  หรือ 1.1 % สู่ 124.16 ดอลลาร์

        อย่างไรก็ดี มีแนวโน้มว่าราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX อาจปิดตลาด ไตรมาสนี้พุ่งขึ้นกว่า 6 % จากไตรมาสที่แล้ว ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์มีแนวโน้ม ทะยานขึ้น 15 % ในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกเกี่ยวกับ โครงการนิวเคลียร์ช่วยพยุงราคาน้ำมันไว้ในปีนี้

        ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงเมื่อวานนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน ของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.1 ล้านบาร์เรล  สู่ 353.39 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 มี.ค. ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุด นับตั้งแต่เดือนส.ค. 2011 และเป็นระดับที่สูงเกินคาด

 

        สต็อกน้ำมันเบนซินลดลงมากเกินคาดราว 3.54 ล้านบาร์เรล สู่ 223.37  ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 711,000 บาร์เรล สู่ 135.87 ล้านบาร์เรล

        ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงเมื่อวานนี้หลังจากหนังสือพิมพ์ Le Monde ของฝรั่งเศส รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ฝรั่งเศสกำลังติดต่อกับอังกฤษและสหรัฐเรื่องการระบาย น้ำมันในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ออกมา  โดยมีจุดประสงค์เพื่อกดดันราคาเชื้อเพลิง ให้ลดต่ำลง โดยการปล่อยน้ำมันดังกล่าว "จะมีขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า"

        บริษัทโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า ทางบริษัทกำลังปรับอันดับความน่าลงทุนของ สินค้าโภคภัณฑ์ลงสู่ "neutral" จาก "overweight" สำหรับการลงทุนระยะใกล้  ในขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึงทองแดง, น้ำมันดิบ และถั่วเหลือง ได้พุ่งขึ้นไปแตะเป้าหมายระยะใกล้ที่ทางบริษัทตั้งไว้แล้ว

 

        นายอาลี อัล-ไนมี รมว.น้ำมันซาอุดิอาระเบียกล่าวตำหนิราคาน้ำมันที่อยู่ ในระดับสูง "อย่างไม่สมเหตุสมผล" ในบทความในหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์  อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้ส่งสัญญาณว่าซาอุดิอาระเบียจะปรับเพิ่มปริมาณการผลิต

 

        แหล่งข่าวกล่าวว่า ในขณะที่การส่งออกน้ำมันของอิหร่านกำลังจะเผชิญ กับการคว่ำบาตรที่เข้มงวดยิ่งขึ้นนั้น ซาอุดิอาระเบียก็มีแนวโน้มที่จะดำเนินการ ขุดเจาะน้ำมันและก๊าซราว 140 แห่งก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดของซาอุดิ อาระเบีย

[Pete 15,187]

วันนี้ข่าวสารที่สำคัญเหมือนเป็นลางสังหรณ์ " เกาหลีเหนือเริ่มเติมน้ำมันจรวดที่จะส่งขึ้นสู่อวกาศ " สงสัยจะสื่อฯ บอกให้รู้อะไรบางอย่าง เกี่ยวกับราคาทองคำ

" ราคาทองคำเริ่มเติมน้ำมันจรวดที่จะส่งขึ้นสู่อวกาศ " หุหุหุ เด็กขายของ เสนอข่าวแบบมั่วๆๆ จับแพะชนแกะ หรือเปล่าว่ะ ร้านนาย ฮ. ก็ออกข่าววิเคราะห์ฯ ที่อยู่ข้างบนให้อ่านไปแล้วว่า ตลาดสู่ภาวะอะไร ? นักลงทุนฯ เริ่มกลับมา กลัว อีกครั้ง. จากวันก่อนพึ่งดีใจ ที่ทองจะพุ่งไปที่ $5,000

 

ท้ายที่สุด ทุนสั้นเด็กขายของก็เข้าซื้อ เพื่อเป็นเพื่อนร่วมเดินทางกับคุณ Donjuan / Pasaya / พลอยสีสวย จะได้เชียร์ขึ้น ในแนวทางเดียวกัน " กล้าเมื่อคนอื่นกลัว "

[@kung@ 4]

วันนี้ข่าวสารที่สำคัญเหมือนเป็นลางสังหรณ์ " เกาหลีเหนือเริ่มเติมน้ำมันจรวดที่จะส่งขึ้นสู่อวกาศ " สงสัยจะสื่อฯ บอกให้รู้อะไรบางอย่าง เกี่ยวกับราคาทองคำ

" ราคาทองคำเริ่มเติมน้ำมันจรวดที่จะส่งขึ้นสู่อวกาศ " หุหุหุ เด็กขายของ เสนอข่าวแบบมั่วๆๆ จับแพะชนแกะ หรือเปล่าว่ะ ร้านนาย ฮ. ก็ออกข่าววิเคราะห์ฯ ที่อยู่ข้างบนให้อ่านไปแล้วว่า ตลาดสู่ภาวะอะไร ? นักลงทุนฯ เริ่มกลับมา กลัว อีกครั้ง. จากวันก่อนพึ่งดีใจ ที่ทองจะพุ่งไปที่ $5,000

 

ท้ายที่สุด ทุนสั้นเด็กขายของก็เข้าซื้อ เพื่อเป็นเพื่อนร่วมเดินทางกับคุณ Donjuan / Pasaya / พลอยสีสวย จะได้เชียร์ขึ้น ในแนวทางเดียวกัน " กล้าเมื่อคนอื่นกลัว "

 

ผมก็ขึ้นรถแล้วครับ เชียร์ขึ้นดอยด้วยคนครับ

[DonJuan 4,685]

วันนี้ข่าวสารที่สำคัญเหมือนเป็นลางสังหรณ์ " เกาหลีเหนือเริ่มเติมน้ำมันจรวดที่จะส่งขึ้นสู่อวกาศ " สงสัยจะสื่อฯ บอกให้รู้อะไรบางอย่าง เกี่ยวกับราคาทองคำ

" ราคาทองคำเริ่มเติมน้ำมันจรวดที่จะส่งขึ้นสู่อวกาศ " หุหุหุ เด็กขายของ เสนอข่าวแบบมั่วๆๆ จับแพะชนแกะ หรือเปล่าว่ะ ร้านนาย ฮ. ก็ออกข่าววิเคราะห์ฯ ที่อยู่ข้างบนให้อ่านไปแล้วว่า ตลาดสู่ภาวะอะไร ? นักลงทุนฯ เริ่มกลับมา กลัว อีกครั้ง. จากวันก่อนพึ่งดีใจ ที่ทองจะพุ่งไปที่ $5,000

 

ท้ายที่สุด ทุนสั้นเด็กขายของก็เข้าซื้อ เพื่อเป็นเพื่อนร่วมเดินทางกับคุณ Donjuan / Pasaya / พลอยสีสวย จะได้เชียร์ขึ้น ในแนวทางเดียวกัน " กล้าเมื่อคนอื่นกลัว "

 

ตามนั้นลูกเพี๊ยะ(ออกเสียงให้เหมือนเพื่อความขำ) เจ้ เข้ากันหมดแล้ว เจ้รอจังหวะได้หรือยัง ไม่งั้นคนอื่นไปสวรรค์ เจ้จะค้างอยู่บน ยอดหญ้า อิอิ

[meng166 131]

:01

[ariya 1,481]

ป๋าจ๋า เข้าเย็นๆ ค่ำ ๆทันไหม ตอนนี้ไม่มีเวลามาดูเดี๋ยวเิกิดเปลี่ยนแปลง ปรับไม่ทัน ออน 24271/24227

[luk 352]

วันนี้ข่าวสารที่สำคัญเหมือนเป็นลางสังหรณ์ " เกาหลีเหนือเริ่มเติมน้ำมันจรวดที่จะส่งขึ้นสู่อวกาศ " สงสัยจะสื่อฯ บอกให้รู้อะไรบางอย่าง เกี่ยวกับราคาทองคำ

" ราคาทองคำเริ่มเติมน้ำมันจรวดที่จะส่งขึ้นสู่อวกาศ " หุหุหุ เด็กขายของ เสนอข่าวแบบมั่วๆๆ จับแพะชนแกะ หรือเปล่าว่ะ ร้านนาย ฮ. ก็ออกข่าววิเคราะห์ฯ ที่อยู่ข้างบนให้อ่านไปแล้วว่า ตลาดสู่ภาวะอะไร ? นักลงทุนฯ เริ่มกลับมา กลัว อีกครั้ง. จากวันก่อนพึ่งดีใจ ที่ทองจะพุ่งไปที่ $5,000

 

ท้ายที่สุด ทุนสั้นเด็กขายของก็เข้าซื้อ เพื่อเป็นเพื่อนร่วมเดินทางกับคุณ Donjuan / Pasaya / พลอยสีสวย จะได้เชียร์ขึ้น ในแนวทางเดียวกัน " กล้าเมื่อคนอื่นกลัว "

 

อ้าวเฮียเข้าไปที่ราคาเท่าไรครับ

[DonJuan 4,685]

US INDEX 78.99 หลุดแนว 79 แล้ว จรวดทองเตรียมพุ่ง

[Pasaya 499]

วันนี้ข่าวสารที่สำคัญเหมือนเป็นลางสังหรณ์ " เกาหลีเหนือเริ่มเติมน้ำมันจรวดที่จะส่งขึ้นสู่อวกาศ " สงสัยจะสื่อฯ บอกให้รู้อะไรบางอย่าง เกี่ยวกับราคาทองคำ

" ราคาทองคำเริ่มเติมน้ำมันจรวดที่จะส่งขึ้นสู่อวกาศ " หุหุหุ เด็กขายของ เสนอข่าวแบบมั่วๆๆ จับแพะชนแกะ หรือเปล่าว่ะ ร้านนาย ฮ. ก็ออกข่าววิเคราะห์ฯ ที่อยู่ข้างบนให้อ่านไปแล้วว่า ตลาดสู่ภาวะอะไร ? นักลงทุนฯ เริ่มกลับมา กลัว อีกครั้ง. จากวันก่อนพึ่งดีใจ ที่ทองจะพุ่งไปที่ $5,000

 

ท้ายที่สุด ทุนสั้นเด็กขายของก็เข้าซื้อ เพื่อเป็นเพื่อนร่วมเดินทางกับคุณ Donjuan / Pasaya / พลอยสีสวย จะได้เชียร์ขึ้น ในแนวทางเดียวกัน " กล้าเมื่อคนอื่นกลัว "

 

ไชโย มีเพื่อนร่วมเดินทางแล้ว เร่งสปีดเบยลูกพี่

[Pasaya 499]

ว่าแต่มีใครเข้า GT. online. ได้บ้างยังคะ

เริ่มเคืองแล้วนะ