ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ราคาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐปิดร่วงลงกว่า 1 ดอลลาร์ หลังนักลงทุนผิดหวังเฟดส่งสัญญาณชัดเจนไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงนี้

 

ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท ตลาดไนเม็กซ์ ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 1.22 ดอลลาร์ปิดตลาดที่ 104.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 57 เซนต์ ปิดที่ 124.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

นอกจากสัญญาณเชิงลบจากเฟดแล้ว นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) จะเปิดเผยในคืนนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.3%

 

ขณะเดียวกัน นักลงทุนก็จับตาดูสถานการณ์ของอิหร่าน หลังจากนายอาลี-อัคบาร์ ซาเลฮี รัฐมนตรีคลังอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับสหรัฐเพื่อแลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งเป็นมาตรการตอบโต้อิหร่านที่ดำเนินโครงการนิวเคลียร์

 

การแสดงความคิดเห็นของนายซาเลฮี มีขึ้นก่อนที่การประชุมนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่าน และ 5 ชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้แก่ สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน บวกเยอรมนี หรือกลุ่ม จี5+1 จะมีขึ้นในวันที่ 13 เม.ย.นี้ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

 

ทั้งนี้ สำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) คาดการณ์ว่า ต้นทุนการนำเข้าน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ใช้น้ำมันอาจพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2555 หากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 4 เมษายน 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์ค่ะทุกคน

ผิดทางนิดหน่อยแต่ยังไม่ลึกเท่าไหร่น่า(แต่ตัวเองไม่ได้กด มันแม่งๆ เห็นกล้ากันเยอะ)

เอาใจช่วยทุกคนนะคะรวมตัวเองด้วยเพราะตัวเองกผ้มีดอยเก่าอยู่แล้ว

วันนี้ให้โอกาสน้องทองกลับตัวกลับใจซะใหม่ ม่ายงั้นมี งอลลลลลลลลลลลล

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:17 :Wt

 

คุณ jumbo A วันนี้หุ้นมีตัวไหนน่าเน้นๆ มั่งครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ คุณ เด็กขายของ คุณ nuchaba คุณ ปุยเมฆ คุณ NongRee คุณ GB2514 คุณ Raty คุณ Mr.Li คุณ Aiya คุณ foo คุณ พลอยสีสวย คุณ เกี้ยมอี๋ คุณ พวงชมพู คุณ Racha คุณ arthas คุณ กระต่ายทอง คุณ ขาใหม่ คุณ Jumbo A คุณ nene81 คุณ modtanoiy คุณ noijaa คุณ kaykee คุณ ท่านตี๋ คุณ แมวหลวง คุณ Pasaya คุณ nufirst คุณ Madee คุณ forgame คุณ noonoon_ja คุณ luk คุณ ดอกเหมยสีทอง และทุกๆท่านครับ(ขออภัยที่เอ่ยนามไม่ครบครับ)

 

ผิดทางกันเต็มๆ ดอยกันไป :Wt :_02 แค่นี้ยังถือว่า จิ๊บๆ ถ้าก่อนบ่ายโมงยังขึ้นไปยืนเหนือ 1650 ไม่ได้ อาจจะลงไปต่อถึง 1630 แล้วถ้าหลุดลงไป อาจมีโลว์ใหม่แถว 160X-161X ครับ อาตี๋ช่วยด้วยดีดแรงหน่อย อินเดีย ไม่ซื้อทองหน่อยหรือ ขอให้ดีดแรงไม่ดีดดับ(แววไม่ค่อยดีนักนะครับ) ไม่ขออะไรมากครับวันนี้ ยืนให้อยู่ 1650 ทั้งวันก็พอ หรือมีแรง 1660 ได้ก็สวยครับ

 

ทองเหวี่ยงขนาดนี้ เป็นเพราะมีนักลงทุนระยะสั้นมาเล่นมาก ทองเลยเป็นทรัพย์สินเสี่ยงไป ถ้าจะให้ปลอดภัย เล่นตามกำลังที่มี ไม่โอเวอร์มากเกินไป เล่นทองแท่งจริงๆ อย่าไปเล่นกระดาษนะครับ ยังแอบหวังอยู่ลึกๆว่า จาก 1648-1714 มีครั้งหนึ่งเคยลากขึ้นไป ยังอยากเห็นเหมือนเดิม ช่วยด้วยนะ ขาใหญ่ อิอิ :uu :17

ถูกแก้ไข โดย DonJuan

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้อาแปะตั้งราคากั๊กสูงพอสมควร ใครมีทองแท่งเอาไปขายอาแปะ มาซื้อกลับออนไลน์ก็กำไรละ 30 บาท (กำลังคิดอยู่ แต่ดันไม่ได้เอาติดตัวมาซะด้วย)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ห้องนี้เห็นรวมพลเด็ก(โต) ซ่าส์กันเยอะ เลยไม่กล้าแหยม

ช่วงนี้กัปตันก็เตรียมซ่อมบำรุงเครื่องเอาไว้ให้พร้อมนะ

เวลาบินจะได้ปรู๊ดปร๊าดสมใจ..................

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ คุณ เด็กขายของ คุณ nuchaba คุณ ปุยเมฆ คุณ NongRee คุณ GB2514 คุณ Raty คุณ Mr.Li คุณ Aiya คุณ foo คุณ พลอยสีสวย คุณ เกี้ยมอี๋ คุณ พวงชมพู คุณ Racha คุณ arthas คุณ กระต่ายทอง คุณ ขาใหม่ คุณ Jumbo A คุณ nene81 คุณ modtanoiy คุณ noijaa คุณ kaykee คุณ ท่านตี๋ คุณ แมวหลวง คุณ Pasaya คุณ nufirst คุณ Madee คุณ forgame คุณ noonoon_ja คุณ luk คุณ ดอกเหมยสีทอง และทุกๆท่านครับ(ขออภัยที่เอ่ยนามไม่ครบครับ)

 

ผิดทางกันเต็มๆ ดอยกันไป :Wt :_02 แค่นี้ยังถือว่า จิ๊บๆ ถ้าก่อนบ่ายโมงยังขึ้นไปยืนเหนือ 1650 ไม่ได้ อาจจะลงไปต่อถึง 1630 แล้วถ้าหลุดลงไป อาจมีโลว์ใหม่แถว 160X-161X ครับ อาตี๋ช่วยด้วยดีดแรงหน่อย อินเดีย ไม่ซื้อทองหน่อยหรือ ขอให้ดีดแรงไม่ดีดดับ(แววไม่ค่อยดีนักนะครับ) ไม่ขออะไรมากครับวันนี้ ยืนให้อยู่ 1650 ทั้งวันก็พอ หรือมีแรง 1660 ได้ก็สวยครับ

 

ทองเหวี่ยงขนาดนี้ เป็นเพราะมีนักลงทุนระยะสั้นมาเล่นมาก ทองเลยเป็นทรัพย์สินเสี่ยงไป ถ้าจะให้ปลอดภัย เล่นตามกำลังที่มี ไม่โอเวอร์มากเกินไป เล่นทองแท่งจริงๆ อย่าไปเล่นกระดาษนะครับ ยังแอบหวังอยู่ลึกๆว่า จาก 1648-1714 มีครั้งหนึ่งเคยลากขึ้นไป ยังอยากเห็นเหมือนเดิม ช่วยด้วยนะ ขาใหญ่ อิอิ :uu :17

 

 

ขอบคุณค่ะ. อยากเห็นเหมือนเดิม เหมือนกันค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ของเรา. Tdc ซื้อขายได้เลยคะ แต่ราคาซื้อขายจะสู้เจ้าอื่นไม่ค่อยได้ :70

 

อ้าว มีคนเคยบอก ราคาดีกว่าเจ้าอื่น วันนี้เวลาตรงกัน เลยลองเทียบดู

 

แต่ไม่สะดวกสำหรับปุย เพราะใช้ tablet หรือ ipad ไม่ได้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ห้องนี้เห็นรวมพลเด็ก(โต) ซ่าส์กันเยอะ เลยไม่กล้าแหยม

ช่วงนี้กัปตันก็เตรียมซ่อมบำรุงเครื่องเอาไว้ให้พร้อมนะ

เวลาบินจะได้ปรู๊ดปร๊าดสมใจ..................

สวัสดีครับ คุณ Yama

เชิญมาแวะคุยในห้องฯ ได้นะครับ ไม่ได้ซ่าส์อย่างที่คิด แค่จริงใจ และ จริงจัง ต่อการหากำไรจากการซื้อขาย ทองแท่ง ถ้าลองไล่ลำดับความดู : การคุยเล่นแบบพอสมควร และหรือ เวลารอน้องทองเคลื่อนไหว ก็สนุกสนานครึกครื้น แต่ถ้ามาถึงก็โพสต์ถามแบบ ไม่เคยได้อ่านย้อนหลังเลย แค่มาพิมพ์แล้วก็ไม่ได้รอคำตอบ คุณ Yama มองว่าไง

 

เด็กขายของพยายามสร้างสังคมที่สามารถไว้ใจกันได้ เขื่อใจกันได้ ในบ้านไทยโกลด์ ถึงแม้ว่าจะไม่เคยพบหน้ากันก็ตาม ให้ดีที่สุด มองขึ้นมองลง ย่อมมีในความคิดของทุกๆคน แต่ต้องมีเหตุ และ ผล มาเป็นองค์ประกอบ เราซื้อทองแท่ง ก้อน 10 บาท ก็ราคา 2 แสนกว่าบาท เงินทองเป็นของหายาก และ การเข้ามาในห้องฯ นี้ ก็เพื่อมาหาข้อมูลเพิ่มเติมในการตัดสินใจลงทุน ว่าจะซื้อหรือขาย ลองพิจารณาดูนะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จับตาปัจจัยเสี่ยงน้ำมันดิบดูไบทะลุ 130 ดันเงินเฟ้อปี 55 เกินกรอบ 3.9% (04/04/2555)

นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังคงประมาณการณ์อัตรการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อ) ปี 2555 ว่าจะเป็นไปตามกรอบ 3.3-3.8% โดยแนวโน้มเงินเฟ้อในไตรมาส 2 น่าจะขยยตัวระดับ 3.5% เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสแรกที่อยู่ระดับ 3.39% เพราะโดยปกติเงินเฟ้อในช่วงไตรมาส 2-3ของทุกปีจะปรับตัวสูงขึ้นกว่าไตรมาสแรก จากภาวะเศรษฐกิจที่จะเริ่มปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้การใช้พลังงานเพิ่มขึ้น  และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ปัจจัยจากภาวะอากาศร้อนอาจจะทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรลดลง และมีราคาปรับสูงขึ้นด้วย

 

ทั้งนี้ จากการประเมินผลกระทบจากปัจจัยการปรับขึ้นค่าแรงงาน 300 บาท ซึ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2555 คาดว่าหากนโยบายนี้มีผลบังคับใช้เต็มที่จะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ 0.1% หรือทำให้อัตราเงินเฟ้อทั้งปีปรับเพิ่มขึ้นเป็น 3.9% ส่วนการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อระดับต่ำ เพียง 0.01% โดยสินค้าหมวดที่จะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงงานมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มอาหาร อาหารทะเลแปรรูปและแช่แข็ง กลุ่มสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม และกลุ่มอัญมณี

 

ส่วนผลกระทบจากการปรับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก แบ่งเป็น 3 กรณี คือ 1) ราคาน้ำมันดิบในตลาดดูไบขยับขึ้นเป็น 120-130 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และทรงตัวตลอดทั้งปี ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อ 0.1% ซึ่งอาจจะทำให้เงินเฟ้อทั้งปี ขยับขึ้นเป็น 3.9% 2) ราคาน้ำมันดิบดูไบขยับเกินกว่า 130-150 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ 0.1-0.5% ซึ่งอาจทำให้เงินเฟ้อทั้งปี ขยับเป็น 3.9-4.4% และกรณีที่ 3 ราคาน้ำมันดิบในตลาดดูไบขยับขึ้นเกินกว่า 150-200 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ 0.5-1.7% ซึ่งอาจจะทำให้เงินเฟ้อทั้งปี ปรับขึ้นเป็น 4.4-5.5% อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์ของกระทรวงพาณิชย์ และการคาดกาณ์ของกระทรวงการคลังตามระดับราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยขณะนี้อยู่ที่ 116 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล สอดคล้องกับสมมติฐานที่ 1 ซึ่งอาจจะทำให้เงินเฟ้อปรับขึ้นเป็น 3.9%

 

ขณะที่การศึกษาผลกระทบจากปรับขึ้นค่าบริการแท็กซี่เฉลี่ย 12% จะมีผลต่อเงินฟ้อ 0.0128% เพราะมีน้ำหนักในการคำนวนเงินเฟ้อนเพียง 0.23% และการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต เครื่องปรับอากาศ อาจจะมีผลต่ออัตราเงินเฟ้อน 0.07% เท่านั้น

 

สำหรับเงินเฟ้อในเดือนมีนาคม 2555 เท่ากับ 114.30 สูงขึ้น 3.45% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2554 ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงสุดในรอบปีนี้ และเมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2555 สูงขึ้น 0.59% ส่งผลให้เงินเฟ้อไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) 2555 อยู่ที่ 3.39% จากกรอบคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2555 ของกระทรวงพาณิชย์ที่ วางไว้ 3.3-3.8%

 

สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อเดือนมี.ค.สูงขึ้น 0.59% เป็นผลมาจากการปรับสูงขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ปรับสูงขึ้น โดยดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหาร และเครื่องดื่ม 0.66% จากการปรับขึ้นราคาสินค้าไข่ ผลิตภัณฑ์นม ผลไม้สด และผักบางชนิด เช่น สัมเขียวหวาน แตงโม แอ๊ปเปิ๊ล และทุเรียน มะนาว ผักชี ผักกาดขาว มะเขือเทศ ต้นหอม และคื่นฉ่าย จากภาวะอากาศร้อน และแห้งแล้ง และสินค้าที่มีต้นทุนการผลิตสูงขึ้น อาทิ กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยว ข้าวแกง โจ๊ก และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น กาแฟสำเร็จรูป น้ำอัดลม น้ำดื่ม เป็นต้น ส่วนสินค้าที่มีราคาลดลง อาทิ หอมแดง กระเทียมแห้ง พริกแห้ง เป็นต้น ส่วนดัชนีราคาสินค้าหมวดที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 0.55% โดยสินค้าที่ปรับราคาสูงขึ้น อาทิ ค่าเช่าบ้าน เสื้อผ้า วัสดุก่อสร้าง ค่าน้ำประปา ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด น้ำยาล้างห้องน้ำ ค่ายาและเวชภัณฑ์ ของใช้ส่วนบุคคล และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น

 

ส่วนสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อเทียบปี ปรับสูงขึ้น 3.45% จากการสูงขึ้นของดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 7.07% อาทิ ข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง เนื้อสัตว์ เป็ดไก่ สัตว์น้ำ ไข่และผลิตภัณฑ์นม ผักและผลไม้ เครื่องประกอบอาหาร เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหารสำเร็จรูป และจากการสูงขึ้นของดัชนีหมวดที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม 1.23% จากการสูงขึ้นของราคาหมวดพาหนะ ขนส่ง สื่อสาร เคหสถาน ตรวจรักษา และบริการส่วนบุคคล เครื่องนุ่งห่ม ยาสูบและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หมวดบันเทิง และการศึกษา และศาสนา เป็นต้น

 

 “ปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะส่งผลต่อเงินเฟ้อของไทยในปีนี้ ได้แก่ การปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดดูไบ จะมีความรุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง และปัจจัยการเก็บเงินชดเชยเข้าสู่กองทุนน้ำมัน ภัยธรรมชาติที่อาจจะกระทบต่อสินค้าหมวดอาหาร ตลอดจนความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนจากภาวะการเมืองและเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป” นายยรรยงกล่าว

 

นายยรรยง กล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐ่านของประเทศที่คำนวณจากสินค้าและบริการ 300 รายการ ที่หักกลุ่มอาหารสดและพลังงาน ออก 117 รายการ ในเดือนมีนาคม เท่ากับ 17.73 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ สูงขึ้น 0.33% และเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2554 สูงขึ้น 2.77% และเฉลี่ย 3 เดือน (ม.ค.-มี.ค) สูงขึ้น 2.74% ซึ่งยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ธนาคาแห่งประเทศไทย คาดการณ์ไว้ระหว่าง 0.5-3.0%

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ (วันที่ 4 เมษายน 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บาทเปิดตลาดที่ระดับ 30.90/92 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่า นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง หันมาถือครองดอลล์ กดดันบาทใกล้หลุดแตะ 31 บาท/ดอลลาร์

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวค่าเงินบาทในวันนี้ (4 เม.ย.) ว่า เปิดตลาดที่ระดับ 30.90/92 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงอีกจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.80/82 บาท/ดอลลาร์

"เฟดได้ลดความกังวลในเรื่องที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจจะไม่ทำ QE3 เงินดอลลาร์จึงปรับตัวแข็งค่าขึ้น ตอนนี้นักลงทุนเริ่มขายสินทรัพย์เสี่ยงและกลับไปถือดอลลาร์" นักบริหารเงิน ระบุ

 

ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทวันนี้คาดอ่อนค่าลงต่อเนื่อง แต่คงยังไม่แตะที่ 31 บาท มองกรอบไว้ 30.85-30.95 บาท/ดอลลาร์

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 4 เมษายน 2555)

 

โบรกฯมองแนวโน้มหุ้นไทยวันนี้ผันผวน น้ำมันลดกดดัน-ลุ้นเงินทุนไหลเข้าหนุน คาดวันนี้แนวรับ 1,200 แนวต้าน 1,214 จุด

 

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ (4 เม.ย.) ว่า ดัชนีน่าจะแกว่งตัวผันผวน หลังเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นแรงถึง 1%  ประกอบกับถูกกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศทั้งดาวโจนส์ ยุโรป และตลาดภูมิภาค รวมทั้งราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อ่อนตัวลง อย่างไรก็ตามตลาดฯยังคงได้รับแรงหนุนจาก Fund flow ช่วยประคองไว้

ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวดัชนีวันนี้คาดแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,200 จุด แนวต้าน 1,214 จุด

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 4 เมษายน 2555)

 

รัฐบาลสเปนแถลงปรับลดงบประมาณประจำปี 2555 ลง 2.7 หมื่นล้านยูโร (3.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการรัดเข็มขัดครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ทั้งนี้ การปรับลดงบประมาณครั้งนี้จะรวมถึงการตรึงเงินเดือนพนักงานภาครัฐและลดงบประมาณในหน่วยงานต่างๆ ลง 16.9% ขณะที่รัฐมนตรีพลังงานเผยว่าจะปรับขึ้นค่าไฟฟ้า 7% ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป นอกจากนี้ ยังจะมีการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วย โดยมาตรการเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณของสเปนลงมาอยู่ที่ 5.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จากระดับ 8.5% ในปี 2554

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 4 เมษายน 2555)

 

 

 

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (4 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ในรายงานการประชุมซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ร่วงลง 0.4% ณ เวลา 9:41 น.ตามเวลาโตเกียว

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดที่ 4,328.10 จุด ลดลง 8.94 จุด ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ 10,045.88 จุด ลดลง 4.51 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดที่ 2,046.90 จุด ลดลง 2.38 จุด ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,007.73 จุด ลดลง 7.25 จุด

 

อย่างไรก็ตาม ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นมะนิลาเปิดที่ 5,056.68 จุด เพิ่มขึ้น 0.20 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดที่ 1,607.54 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีนปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวันหยุดประจำชาติ

 

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงหลังจากรายงานการประชุมของเฟดระบุว่า แม้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) รับรู้ถึงสัญญาณการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งขึ้นของเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่คณะกรรมการเฟดก็ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการ QE3 ในระยะนี้

 

ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนทั่วประเทศสหรับประจำเดือนมี.ค.ในวันนี้เวลา 19.15 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. หลังเพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่งใน เดือนก.พ.

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 4 เมษายน 2555)

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐฯ หรือ FOMC แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานในการประชุมครั้งล่าสุดที่ผ่านมา แต่ไม่มีการส่งสัญญานใช้ QE เพิ่มเติม

 

โดยรายงานการประชุม เฟดเมื่อวันที่ 13 มี.ค. คณะกรรมการเฟด ไม่ได้ระบุ หรือ ส่งสัญญานถึงการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงประมาณเพิ่มเติม โดย คณะกรรมการเพียง 2 ท่านระบุว่า การใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม อาจจะจำเป็นก็ต่อเมื่อ เศรษฐกิจสหรัฐฯ สูญเสียโมเมนตัม หรือ เงินเฟ้อ อยู่ในระดับที่ต่ำกว่ากรอบของเฟดที่ 2% ในระยะกลาง ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่เห็นความจำเป็นต้องใช้มาตรการเพิ่มเติม

 

ขณะที่นายเจฟฟรีย์ แล็กเกอร์ ประธานเฟด สาขาริชมอนด์ กล่าวว่า การที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ยต่ำนานเกินไปเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเฟดอาจจะต้องใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นก่อนที่จะถึงปลายปี 2014 เพื่อที่จะดูแลเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบที่ 2%

 

ที่มา : money channel (วันที่ 4 เมษายน 2555)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...