ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ค่าเงินบาทเปิดตลาด 32.12-32.14 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า คาดวันนี้เคลื่อนไหว 32.10-32.18 บาท/ดอลลาร์

 

 

นักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์ กล่าวว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.12-32.14 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อยจากที่ปิดตลาดวานนี้ คาดว่ามาจากปัจจัยเดิมคือตลาดคาดว่ามีโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดได้ หากตลาดแรงงานฟื้นตัว หลังจากฟังรายงานของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ที่แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อเร็วๆ นี้ ขณะที่เงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง

 

สำหรับวันนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 32.10-32.18 บาทต่อดอลาร์

 

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (17/07/2557)

[Pete 15,187]

บรรดาผู้นำของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ได้ตัดสินใจเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ในการประชุมคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับสหรัฐอเมริกา อันเนื่องมาจากมาตรการคลี่คลายวิกฤติยูเครนของรัสเซียนั้น ไม่เป็นที่น่าพอใจ

 

แถลงการณ์ระบุว่า คณะกรรมาธิการอีซีมีมติคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม โดยมีเป้าหมายที่กลุ่มองค์กรต่างๆ รวมถึงองค์กรรัสเซีย ซึ่งมีพฤติกรรมสนับสนุนด้านวัตถุและการเงินต่อขบวนการบ่อนทำลายหรือเป็นภัยคุกคามต่ออำนาจอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และเอกราชของยูเครน

 

ทั้งนี้ อีซีจะตัดสินใจในส่วนของรายชื่อองค์กรและบุคคลกลุ่มแรกภายในสิ้นเดือนก.ค. นอกจากนี้ อีซียังได้ส่งคำขอให้ทางธนาคารเพื่อการลงทุนยุโรป (EIB) ระงับการปล่อยเงินสนับสนุนล็อตใหม่ในรัสเซียด้วย

 

แถลงการณ์ดังกล่าวยังได้ประนามถึง "การเคลื่อนไหวที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จากกลุ่มกองกำลังติดอาวุธในยูเครนตะวันออก"

 

นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้กล่าวก่อนเข้าร่วมการประชุมว่า "เราเชื่อว่าความพยายามของรัสเซียเพื่อนำสันติภาพสู่ยูเครนนั้น ยังไม่เพียงพอ"

 

ด้านนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า "การประชุมวันนี้มีวาระสำคัญที่ต้องหารือมากมาย โดยประเด็นที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ว่า สถานการณ์ปัจจุบันในยูเครนนั้นไม่สามารถยอมรับได้"

 

เขากล่าวว่า "รัสเซียไม่ให้ความเคารพต่อบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน เราจึงจำเป็นต้องส่งสาสน์ที่ชัดแจ้งผ่านการกระทำที่ชัดเจนในการประชุมคณะมนตรีคืนนี้"

 

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปมีมติคว่ำบาตรรายบุคคลเพิ่มเติมเป็นจำนวน 11 รายจากสถานการณ์ในยูเครน ซึ่งส่งผลให้บุคคลที่อยู่ในบัญชีดำเพิ่มขึ้นเป็น 72 ราย สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 17 กรกฎาคม 2557)

[Pete 15,187]

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนกำลังมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ในเศรษฐกิจโลก สะท้อนได้จากขนาดเศรษฐกิจของโลกที่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมกว่า 74.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ณ ปี 2556) แน่นอนว่ามหาอำนาจทางเศรษฐกิจสหรัฐยังเป็นอันดับหนึ่งที่มีมูลค่าทาง เศรษฐกิจกว่า 16.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

 

แต่ก็ตามมาด้วยอันดับสอง คือ เศรษฐกิจจีน ที่มีมูลค่ากว่า 9.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นเราจะได้เห็นบทบาทของเศรษฐกิจจีนที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต

 

ซึ่งในวันนี้ ภาคธุรกิจและนักลงทุนระหว่างประเทศต่างเริ่มหันไปสนใจเรื่องเกี่ยวกับสกุล เงินหยวน (Yuan) ของประเทศจีน ด้วยเหตุที่เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก นับเป็นประเทศที่มีการค้าขายมากเป็นอันดับสองของโลกเช่นกัน และมีเงินสำรองที่เป็นเงินตราต่างประเทศจำนวนกว่า 4.0 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ถือได้ว่าเป็นมูลค่าการถือครองเงินสำรองที่มากที่สุดในโลก อีกทั้งมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญในประเทศจีนด้วย โดยมีผู้นำคนใหม่ชื่อ Xi Jinping เมื่อเดือนมีนาคม 2556

 

ตั้งแต่เกิดวิกฤต Subprime ของสหรัฐเมื่อปี 2551 รัฐบาลจีนได้พบปัญหาหลักเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินระหว่างประเทศ คือ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางการเงินของโลก ที่บทบาทของเศรษฐกิจสหรัฐและค่าเงินเหรียญสหรัฐน่าจะต้องลดลงในอนาคต พร้อม ๆ ไปกับเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียและกลุ่มเศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่อื่น ๆ ที่จะมีบทบาทมากขึ้น

 

ดังนั้น โจทย์ทางนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลจีนคือ การต้องเร่งทำให้เงินหยวนเป็นเงินสกุลสากลที่ยอมรับมากขึ้น ซึ่งฐานะทางการเงินของประเทศจีนภายใต้ระบบการเงินระหว่างประเทศปัจจุบัน ทำให้เศรษฐกิจจีนต้องเผชิญความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของเงินสกุลเหรียญสหรัฐ ที่เป็นเงินสกุลหลักของโลก และเป็นเงินสำรองระหว่างประเทศที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ ถือครองมากที่สุดในโลก โดยประเมินว่าประเทศจีนถือเงินเหรียญสหรัฐเป็นเงินสำรองระหว่างประเทศจำนวนประมาณกว่า 2 ใน 3 ของเงินสำรองโลก ทำให้ฐานะทางการเงินประเทศจีนจะต้องได้รับผลกระทบจากนโยบายทางการเงินภายใน ประเทศของสหรัฐเป็นอย่างมาก สะท้อนได้จากนโยบายการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีผลกระทบต่อค่าของเงินสกุลเหรียญสหรัฐ

 

ทั้งนี้ ผมคิดว่าประเด็นเรื่องการทำให้เงินหยวนของจีนเป็นเงินสกุลสากลในอดีตยังไม่ ได้รับความสนใจ เพราะปัญหาการแลกเปลี่ยนเงินหยวนในตลาดอย่างเสรี (Renminbi Convertibility) ซึ่งยังเกี่ยวพันกับการเปิดเสรีของการไหลเข้าออกของเงินหยวนในระบบเศรษฐกิจ ของจีน เพราะไม่มีใครในประเทศจีนที่คิดว่าประเทศจีนจะจริงจังในการเปิดเสรีให้เงิน หยวนไหลเข้าออกได้อย่างเสรีในอนาคตอันใกล้

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับการสร้างโครงสร้างทางการเงินใหม่ในภูมิภาค และการปรับโครงสร้างทางการเงินระหว่างประเทศ การทำให้เงินหยวนของจีนเป็นเงินสกุลสากลที่ยอมรับระดับนานาชาติ น่าจะเป็นวิธีการแก้ปัญหาในการสร้างความมั่นคงและการป้องกันผลประโยชน์ในเงินทุนสำรองของจีนที่ถือเป็นเงินสกุลเหรียญสหรัฐ ที่ง่ายกว่า และมีช่องทางที่ประเทศจีนจะสามารถดำเนินการได้เองมากกว่า

 

ซึ่งก็แน่นอน การทำให้เงินหยวนเป็นเงินสกุลสากลเป็นประเด็นที่มีปัญหาหลายแง่มุม และต้องพิจารณาอย่างละเอียดและรอบคอบ และมีขั้นตอนที่ประเทศจีนต้องดำเนินการหลายประการ เช่น (1) การทำให้เงินหยวนเป็นเงินสกุลที่ใช้ในการค้าระหว่างประเทศระดับสูงของโลก (2) การทำให้เงินหยวนเป็นเงินสกุลที่ใช้ในการลงทุนระหว่างประเทศระดับสูงของโลก และ (3) การทำให้เงินหยวนเป็นเงินสกุลที่ใช้เป็นเงินสำรองระหว่างประเทศระดับสูงของ โลก

 

ทั้งหมดนี้ถือเป็นความท้าทายของนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนที่จะต้องทำในอนาคต ซึ่งนักวิเคราะห์หลายฝ่ายต่าง คาดการณ์ว่า 1 ใน 3 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของจีนจะมีการชำระเงินโดยใช้สกุลเงินหยวน และค่าเงินหยวนจะสามารถแลกเปลี่ยนในตลาดอย่างเสรี (Full Convertibility) ภายในปี พ.ศ. 2560 ครับ

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (วันที่ 17 กรกฎาคม 2557)

[Pete 15,187]

ราคาทองคำวานนี้เริ่มฟื้นตัวกลับหลังจากปรับตัวลงในปริมาณมากต่อเนื่องในการ ซื้อขายช่วง 2 วันก่อนหน้า แต่โดยรวมแล้วคาดว่าเป็นการดีดตัวทางเทคนิคที่มักเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ หลังจากที่ราคาปรับตัวลงแรง และยังต้องระวังแรงขายที่คาดว่ายังจะมีกลับออกมา

 

โดยราคาทองปิดตลาด เมื่อวานนี้ 1,299.25 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.15 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,293 และ 1,303 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 19,800 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,700 บาท กองทุน SPDR รายงานว่า ได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลงราว 2.7 ตัน โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 806.03 ตัน

 

เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังมีรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดประเมิน โดยกระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งสูงกว่าผลสำรวจที่ประเมินว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% และสูงกว่าเดือนพฤษภาคมที่หดตัวลง 0.2% เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4 จุด สู่ระดับ 53 จุด ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม

 

โดย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือนกรกฎาคมปรับตัวขึ้นสูงกว่าผลสำรวจที่ ประเมินไว้ที่ 50 จุด ส่วนคำแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อสมาชิกสภาคองเกรสโดยรวมแล้วยังไม่มีประเด็นที่ชัดเจนว่าจะมีการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยเมื่อใด แต่สำหรับมาตรการผ่อนคลายทางการเงินนั้น คาดว่าจะมีลดวงเงินต่อเนื่องไปจนถึงช่วงต้นไตรมาส 4 และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ นั้น คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้า ซึ่งประเด็นนี้จะเป็นปัจจัยลบกดดันให้การฟื้นตัวของราคาทองมีกรอบค่อนข้าง จำกัด และสำหรับในช่วงค่ำวันนี้จะมีการรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย สัปดาห์ของสหรัฐฯ ซึ่งผลสำรวจประเมินว่าจะมีผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราว 3.10 แสนราย จากสัปดาห์ก่อนที่ 3.04 แสนราย

 

ส่วนรายงานภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หรือ Beige Book นั้น โดยรวมแล้วในเขตเศรษฐกิจที่มีสาขาของธนาคารกลางสหรัฐฯ ตั้งอยู่ ยังคงมีสัญญาณการฟื้นตัว สอดคล้องกับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ช่วงที่ผ่านมา ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในวันนี้ยังมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวในระหว่าง วัน หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,305-1,310 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ยังเป็นระดับแนวต้านที่ควรระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมา รวมทั้งกรณีที่ราคาทองคำอ่อนตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,285-1,290 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ซึ่งจะเป็นสัญญาณขายในทางเทคนิค กดดันให้ราคาปรับตัวลงสู่แนวรับบริเวณ 1,270 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ต่อไป

 

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (17/07/2557)

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $2.7 จากข่าวอินเดียนำเข้าทองคำเพิ่มขึ้น (17/07/2557)

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังจากมีรายงานว่า อินเดียนำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงเป็นเวลาหลายวันก่อนหน้านี้

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 2.7 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ 1,299.8 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 11.4 เซนต์ ปิดที่ 20.775 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 1,485.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 8.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 876.75 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ตลาดทองคำนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากมีรายงานว่า อินเดียซึ่งเป็นผู้นำเข้าทองคำรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก มียอดการนำเข้าทองคำในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งถึง 65%

 

อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% และสูงกว่าเดือนพ.ค.ที่ดัชนีหดตัวลง 0.2%

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 17 กรกฎาคม 2557)

 

[Pete 15,187]

ปัจจัยที่ต้องจับตามอง และ ขาใหญ่นำมาเป็นข้ออ้าง จับตาการส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง อย่างไรก็ตาม ล่าสุดแหล่งผลิตน้ำมันขนาดใหญ่ El Sharara ซึ่งมีกำลังผลิต 340,000 บาร์เรลต่อวัน และท่าเรือหลัก Es Sider และ Ras Lanuf กลับมาเปิดใช้การได้อีกครั้ง แม้อาจต้องใช้เวลาในการซ่อมบำรุงท่อส่งน้ำมันและอุปกรณ์การส่งออกน้ำมัน ต่างๆ แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าการส่งออกลิเบียอาจเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

ความไม่แน่นอนของการปะทะกันระหว่างกองทัพรัฐบาลยูเครนกับกบฏแบ่งแยกดินแดน ฝักฝ่ายรัสเซียในยูเครนตะวันออกว่าจะเป็นไปในทิศทางใด หลังตัวแทนรัฐบาลยูเครนย้ำไม่ยอมหยุดยิงฝ่ายเดียวอีกต่อไป ขณะที่แกนนำของกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักฝ่ายรัสเซียในยูเครนยังคงเตรียมตัวตอบโต้ กลับกองทัพยูเครนอย่างต่อเนื่อง

แม้ความรุนแรงในอิรักที่ลดความรุนแรงลงและไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมัน ดิบทางตอนใต้ของประเทศแต่ปัญหาการแยกตัวออกมาเป็นรัฐอิสระของชาวเคิร์ด ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิรักอาจส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลเรื่องอุทานน้ำมัน ดิบอิรักอีกครั้ง โดยปัจจุบันการส่งออกน้ำมันดิบจากบริเวณเคอร์ดิสถานอยู่ที่ราว 300,000 บาร์เรลต่อวัน

เหตุการณ์ความรุนแรงในฉนวนกาซาระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ ล่าสุดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และสร้างความกังวลว่าเหตุการณ์จะบานปลายไปยังบริเวณอื่นในตะวันออกกลาง ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติเรียกร้องทุกฝ่ายยุติการยิง

 

วันพฤหัสยอดขอสร้างบ้านใหม่สหรัฐฯ - มิ.ย. 57

ดัชนีภาคอุตสาหกรรมรัฐฟิลาเดลเฟีย ก.ค. 57

ดัชนีราคาผู้บริโ4คสหภาพยุโรป - มิ.ย. 57

วันศุกร์ความรู้สึกผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ - ก.ค. 57

 

 

 

 

[กมลทิพย์ 146]

ขอบคุณค่ะ คุณป๋า ครบเครื่องเรื่องทองและข่าวสาร

[chaiklang 161]

ขอบคุณครับผ้ม

[Pete 15,187]

ขอบคุณค่ะ คุณป๋า ครบเครื่องเรื่องทองและข่าวสาร

ขอบคุณครับผ้ม

::

[chaiklang 161]

ป๋ามากด ลิ-เก ( Li - Ke ) อุอิ ^^

[Pete 15,187]

ด่านต้าน $1305 - 1308

 

ถูกแก้ไข กรกฎาคม 17, 2014 โดย เด็กขายของ

[arthas2u 407]

ไม่ผ่านๆ โอมจงลง 1292 1285 5555

[auntnextdoor 4,268]

ขอบคุณทุกท่านค่ะ

[Pete 15,187]

ไม่ผ่านๆ โอมจงลง 1292 1285 5555

::

[Pete 15,187]

บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมเนจเม้นท์ แนะกลยุทธ์การลงทุนในทองคำวันนี้ (17 กรกฎาคม 2557) นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน) ให้เปิดสถานะขายที่แนวต้าน $1,320/Oz และมีจุดซื้อกลับทำกำไรที่ $1,287/Oz หรือต่ำกว่า ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว ให้ถือสถานะที่มีไว้โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ระดับ $1,287/Oz

 

ภาพรวมตลาดทองคำคืนวานนี้

Gold – ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวขึ้น $5.15/Oz หรือ 0.40% มาอยู่ที่ $1,299.25/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในรอบวันอยู่ที่ $1,293.20-1,303.75) ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากกระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% และสูงกว่าเดือนพ.ค.ที่ดัชนีหดตัวลง 0.2% นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่ขยายตัว 0.5% ในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.จะเพิ่ม ขึ้น 0.3% อย่างไรก็ตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐกระเตื้องขึ้นในทุกภูมิภาคในช่วงหลายสัปดาห์ ที่ผ่านมา โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคมีความแข็งแกร่งเป็นปัจจัยหนุนต่อเงินดอลลาร์

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

Gold – เริ่มมีการสร้างฐานได้ในกราฟวันแต่มองเป็นเพียงการรีบาวด์ทดสอบเส้นค่า เฉลี่ย 200 วันที่/$1,310/Oz ก่อนปรับตัวลงต่อเนื่องจากเส้นค่าเฉลี่ยที่คอยกดดัน ในวันนี้มองกรอบราคาทองคำที่ $1,287-1,320/Oz

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำวันนี้

•ดัชนีเงินเฟ้อพื้นฐานยูโซน เวลา 16.00 น.

•ยอดอนุญาตสร้างบ้านสหรัฐ เวลา 19.30 น.

•ยอดผู้ขอรับสวัสดิการสหรัฐ เวลา 19.30 น.

•ยอดสร้างบ้านสหรัฐ เวลา 19.30 น.

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ (17/07/2557)