ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

กระทรวงพลังงานเผยแผนปรับ โครงสร้างราคาแอลพีจีครัวเรือนและขนส่ง 2 แนวทาง ปรับขึ้นไตรมาสละ 40 สตางค์ต่อกิโลกรัม หรือ 1 บาทต่อกิโลกรัม เริ่มปี 2558 ขณะที่ราคาน้ำมันจ่อลดราคา เบนซินไม่เกิน 3 บาทต่อลิตร และตรึงราคาดีเซลต่อไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร มีผลภายในปีนี้

 

แหล่งข่าวกระทรวงพลังงานเผยเมื่อวันอังคารถึงการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันและก๊าซว่า ยังคงกรอบเดิมที่ได้ศึกษาไว้ แต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่อนุมัติและตีกลับ เนื่องจากต้องการให้ทำ ความเข้าใจกับประชาชนก่อน อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาที่ได้จัดทำไว้คือการปรับลดรา คาน้ำมันเบนซิน ด้วยการลดเก็บส่งเข้ากอง ทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและลดเก็บภาษีสรรพสา มิต ซึ่งคาดว่าจะลดได้ไม่เกิน 3 บาทต่อลิตร โดยมีแผนจะเริ่มปรับลดราคาในปีนี้

 

ส่วนราคาน้ำมันดีเซลนั้น แต่เดิมมีแผนจะปรับขึ้น โดยการเรียกเก็บเงินเข้าภาษีสรรพสามิตเพิ่ม จากปัจจุบันจัดเก็บอยู่แค่ 0.005 บาทต่อลิตร แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกเริ่มปรับลดลง และสามารถเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ ได้เพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงเปลี่ยนแนวทางเป็นการตรึงราคาดีเซลไว้ไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรต่อไป สำ หรับพลังงานทดแทนโดยเฉพาะน้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 20 นั้น จะยังคงมีการชดเชยต่อไป

 

ส่วนโครงสร้างราคาก๊าซนั้น มีแผน จะปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ครัวเรือนและภาคขนส่ง รวมถึงขึ้นราคาก๊าซ ธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) โดย ที่ผ่านมาได้เสนอแนวทางการปรับราคา แอลพีจี เป็น 2 แนวทาง คือ 1.ปรับขึ้น ไตรมาสละ 40 สตางค์ต่อกิโลกรัม หรือ 2.ปรับขึ้น 1 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่เอ็นจีวีจะมีการปรับขึ้นราคาเช่นกัน แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ อย่างไรก็ตามคงต้องอยู่ที่การตัดสินใจของ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้า คสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ ซึ่งตามแผนจะเริ่มปรับขึ้นในปี 2558

 

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระ ทรวงพลังงาน เผยว่า กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอแผนพัฒนาไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี พ.ศ.2558-2578 (พีดีพี) ฉบับใหม่ หรือพีดีพี 2015 เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่จะเปิดประชุมในวันที่ 15 ส.ค.นี้ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นประธาน โดยขออนุมัติกรอบการออกพีดีพี 2015 ก่อน และจากนั้นทางกระทรวงพลังงานจะเริ่มจัดทำแผนไฟฟ้าระยะยาวของประเทศ ซึ่งจะใช้เวลา 3 เดือนดำเนินการให้แล้วเสร็จ และดำเนินการควบคู่ไปกับการสร้างความเข้าใจกับประชาชน หลังจากนั้นจะนำแผนพีดีพีเข้าสู่การพิจารณาของ กพช.อีกครั้ง เพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติจริง พร้อมกันนี้จะนำเรื่องการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน โดยให้เงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริง (ฟีดอินทารีฟ) เข้าสู่การพิจารณาด้วย

 

นอกจากนี้ จะนำเรื่องเพื่อทราบเข้าสู่ที่ประชุม กพช.อีก 2 เรื่อง ได้แก่ 1.การแยกธุรกิจท่อก๊าซธรรมชาติออก จากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อแก้ปัญหาการผูกขาดธุรกิจก๊าซฯ รวมถึงลดการผูกขาดธุรกิจต่างๆ และ 2.สร้างการ แข่งขันในธุรกิจน้ำมัน โดย ปตท.เตรียมจะขายหุ้นโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์ นิ่ง (เอสพีอาร์ซี).

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ (วันที่ 6 สิงหาคม 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไทยโพสต์ * ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี คาด กนง.ถก 6 ส.ค.นี้ มติคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2% ระบุแม้ ศก.ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แต่ยังต้องพึ่งพาแรงส่งจากนโยบายการเงิน กกร.ประเมินจีดีพีครึ่งปีหลังโตได้ 4% หลังโรดแม็พ คสช.ปลุกเชื่อมั่นฟื้น หุ้นดีดแรงปิดบวก 19 จุด

 

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics ประ เมินว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และมีแนวโน้มที่สดใสขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี แต่การฟื้นตัวที่ยังคงอยู่ในช่วงตั้งไข่ ยังมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะขยายตัวในระดับต่ำกว่าศักยภาพไปอีกระยะหนึ่ง อีกทั้งเศรษฐกิจไทยยังต้องการแรงส่งจากนโย บายการเงินเพื่อรักษาระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อไป

 

ทำให้มองว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในวันที่ 6 ส.ค.นี้ จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.00% และจะคงดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวไว้จนถึงสิ้นปีเป็นอย่างน้อย จนกว่าสัญญาณการฟื้นตัวจะมีความชัด เจนมากกว่าปัจจุบัน ภายใต้ภาวะเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับไม่น่ากังวล

 

ทั้งนี้ หลังจากเศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับภาวะสุญญากาศทางการเมือง และไตรมาสแรกปีนี้ติดลบ 0.6% เมื่อเทียบไตรมาสแรกปี 2556 และหดตัว 2.1% หากเทียบไตรมาส 4/2556 จนหลายฝ่ายกังวลว่าไทยอาจเข้าสู่ ภาวะถดถอยทางเทคนิคได้ หาก เศรษฐกิจหดตัวต่อเนื่องในไตร มาส แต่หลังการเข้ามาบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. ทำให้ทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2557 มีความชัดเจนขึ้น โดยศูนย์วิเคราะห์ฯ ประเมินว่าไตรมาส 2 เศรษฐกิจน่าพลิกมาขยายตัวเล็กน้อยที่ระดับ 0.1% ทำให้ความกังวล ว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคคลายตัวลง

 

นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) กล่าวว่า ที่ประชุม กกร.ได้สรุปภาวะเศรษฐกิจไทยครึ่งแรกปี 2557 และแนวโน้มครึ่งปีหลังที่คาดว่าครึ่งปีหลังจะโต 4% จากสัญญาณความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวต่อเนื่องในทุกภาคส่วนจากโรดแม็พของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคาดว่าทั้งปีจะเติบโต 2% การส่งออกจะเติบโต 1.2-1.5%

 

นอกจากนี้ กกร.มีมติเห็นชอบให้ตั้งหน่วยงาน "เดลิเวอรี ยูนิต" เพื่อติดตามการทำงานของ ภาคเอกชนกับภาครัฐ ที่นำเสนอผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ซึ่งเรื่องดังกล่าวเตรียมเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต่อไป

 

นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า แนวโน้มการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมอาหารส่งออกของไทยปี 2557 จะปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน คาดว่าจะหดตัวเพียง 5% จากปีที่ผ่านมาหดตัว 7.6% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 8 แสนล้านบาท

 

ด้านหุ้นไทยวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างแรง โดยปิดที่ 1,519.38 จุด เพิ่มขึ้น 19.18 จุด หรือ 1.28% มูลค่าการซื้อขาย 47,052.78 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,059.97 ล้านบาท กองทุนซื้อสุทธิ 970.01 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 639.97 ล้านบาท และรายย่อยขายสุทธิ 1,390.01 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอยู่ที่ 13,655,157.81 ล้านบาท

 

นายยศพณ แสงนิล รอง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลัก ทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประ เทศไทย) กล่าวว่า หุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาจากปัจจัยต่างประเทศ จากข่าวการช่วยเหลือทางการเงินของธนาคารกลางโปรตุเกสในการเพิ่มทุนให้แก่ธนาคาร บังโก เอสปิริโต ซันโต ซึ่งประสบปัญหาขาดทุนในครึ่งปีแรกสูงถึง 154,100 ล้านบาท ส่วนปัจจัยภายในประเทศ มาจากแรงซื้อกลับของหุ้นทุกกลุ่ม รวมถึงการเสนอขายกองทุนที่เคยขายไปแล้ว เริ่มกลับมาตั้งกองทุนใหม่ อีกทั้งดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์ก่อนลดลงค่อนข้างแรง ทำให้เป็นช่วงของการปรับฐาน.

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ (วันที่ 5 สิงหาคม 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์แข็งค่า ค่าเงินบาท (6 ส.ค.) เปิดตลาดที่ 32.19/21 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าตามภูมิภาค หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้น จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาดีขึ้นทุกตัว ขณะที่ยูเครนและรัสเซียก็กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกระลอก "ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดตลาดมาปรับตัวลดลงทุกกระดาน ขณะที่ดาวน์โจนดีดตัวขึ้น" นักบริหารเงินธนาคารกสิกรไทย ระบุ คาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหววันนี้คาดการณ์แนวรับที่ 32.15/17 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 32.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (06/08/2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.19/21 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.13/14

 

บาทเช้านี้อ่อนค่าจากเมื่อเย็นวาน และคาดว่าจะยังเป็นทิศทางอ่อนค่าต่อแต่อาจจะขยับไปไม่มาก เนื่องจากบาทอ่อนค่าไปค่อนข้างมากแล้ว ปัจจัยสำคัญวันนี้คงต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิมที่ 2.00% ส่วนต่างประเทศอาจต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) รวมทั้งทิศทางของดอลลาร์สหรัฐที่ยังแกว่งๆ อยู่ต่อเนื่อง

 

"ทิศทางวันนี้บาทขยับอ่อนค่าขึ้นมาเยอะแล้ว ข้างบนคงไม่ผ่าน high เดิมเมื่อวันก่อนที่เคยขึ้นไป 32.29 ส่วนด้านล่างก็อาจจะไปปิดเท่าช่วงท้ายตลาดวานนี้" นักบริหารเงินระบุ

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.15-32.30 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.56 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 102.65 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.3364 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3390 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.1180 บาท/ดอลลาร์

 

- ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 5/2557

- "แบงก์ชาติ" เผยผลสำรวจความเห็น ภาคธุรกิจ คาดคำสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศเริ่มฟื้นไตรมาส 3 โดยเฉพาะคำสั่งซื้อจากยุโรปก่อนหมดสิทธิ "จีเอสพี" ขณะที่ "การลงทุน" ยังแผ่ว เหตุรอดูความชัดเจนของรัฐบาลใหม่ ด้านต้นทุนวัสดุก่อสร้างแนวโน้มยังเพิ่มขึ้น "โกลด์แมน แซคส์" ปรับเพิ่มจีดีพีไทยปีนี้ ขยายตัว 0.4% จากเดิมให้ติดลบ 0.5%

 

- "แบงก์ชาติ" เผยอยู่ระหว่างพิจารณา โครงสร้างค่าธรรมเนียมธนาคารพาณิชย์ ย้ำควรคิดจากต้นทุนบริการแท้จริง ไม่ใช่ลอยมาจากอากาศ เผยที่ผ่านมาขอความร่วมมือแบงก์ยกเลิกค่าธรรมเนียมบางตัวแล้ว เช่น ค่าธรรมเนียมการไถ่ถอนที่ดิน เหตุถือเป็นหนึ่งในบริการเงินกู้อยู่แล้ว ส่วนค่าธรรมเนียมการฝากเงินเหรียญ วอนสถาบันการเงินดูเจตนา แนะผ่อนปรนในกรณีฝากเงินเพื่อออม

 

- ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยผลการประชุม คสช. ชุดใหญ่ ว่า พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก หัวหน้า คสช. มอบหมายให้กระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ร่วมกันศึกษาแนวทางและมาตรการในการช่วยเหลือและป้องกันหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน

 

- กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมนำทัพผู้บริหารถกขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจร่วมส.อ.ท. 18 ส.ค.นี้ หลังตั้งคณะทำงานร่วม 4 ชุดดูแลใกล้ชิด สุดปลื้มยอดขอ รง. 4 (ม.ค.-ก.ค.) 2,212 แห่ง เงินลงทุนทะลุ 2.11 แสนล้านบาท แนวโน้มไตรมาส 4 มั่นใจยอดกระฉุด หลังปรับร่นเวลาอนุญาตเหลือ 30 วันทำได้จริง

 

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้(5 ส.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคบริการและยอดสั่งซื้อภาคโรงงานที่ปรับตัวแข็งแกร่ง

 

- ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส หลังจากสถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.7 ในเดือนก.ค. จากระดับ 56 ในเดือนมิ.ย. โดยตัวเลขเดือนก.ค.เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2548 หรือในรอบแปดปีครึ่ง และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นที่เพียง 56.5

 

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ รายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าที่ผลิตในโรงงานสหรัฐปรับตัวขึ้น 1.1% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งที่สี่ในรอบห้าเดือน และมากที่สุดในรอบ 3 เดือน อีกทั้งยังมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ถึงเกือบ 2 เท่า

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 91 เซนต์ ปิดที่ 97.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 80 เซนต์ ปิดที่ 104.61 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 50 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,930 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,292.16 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 5.42 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

 

- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป(ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของยูโรโซนเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. จากระดับเดือนพ.ค. และขยายตัวขึ้น 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยยอดค้าปลีกที่ขยายตัวขึ้น 0.4% มาจากยอดค้าปลีกในภาคธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม และยาสูบที่เพิ่มขึ้น 0.5% การขยายตัวในภาคธุรกิจที่ไม่ใช่อาหารเพิ่มขึ้น 0.3% ขณะที่เชื้อเพลิงที่อ่อนตัวลง 0.1% สำหรับยอดค้าปลีกของกลุ่มสหภาพยุโรป เพิ่มขึ้น 0.3% และเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 6 สิงหาคม 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โบรกฯคาดหุ้นไทยเช้านี้ย่อตัวตามภูมิภาค จากความกังวลสถานการณ์ยูเครน ประเมินกรอบที่ 1,516-1,550 จุด

 

 

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสย่อตัวลงในทิศทางเดียวกับดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาค โดยมองว่ามาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมา 2 วันติดต่อกัน หรือราว 30 จุด ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครน หลังจากทางการโปแลนด์ได้ออกมาเตือนว่า การที่รัสเซียเพิ่มกำลังทหารบริเวณชายแดนนั้น อาจจะมีแผนโจมตียูเครน

 

สำหรับปัจจัยต่างๆในประเทศยังมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งสถานการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้น และเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

 

"ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะย่อตัวลงมา เพราะเราขึ้นมา 2 วันติดแล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่วานนี้หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน ที่ไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้ แต่ยังต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัสเซียได้เพิ่มกำลังทหารบริเวณชายแดนทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับลดลงราว 1 %"นายอดิศักดิ์ กล่าว

 

พร้อมให้แนวรับ 1,516-1,520 จุด แนวต้าน 1,545-1,550 จุด

 

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (06/08/2557)

 

ปล. ถ้าหุ้นร่วง ค่าเงินบาทน่าจะอ่อนค่า แถมมีประชุม กำหนดนโยบายการเงินแถมไปอีก 55555

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่าขึ้นกดดันราคาทองวานนี้อ่อนตัวลงต่อ เนื่องจากวันจันทร์ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯกลับมาเป็นปัจจัยกดดันราคาทองว่า อาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐฯ...

 

โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ 1,287.40 ดอลลาร์ ลดลง 0.30 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,282 และ 1,293 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 19,650 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 19,550 บาท กองทุน SPDR ไม่มีรายงานการเปลี่ยนแปลงปริมาณการถือครองทองคำ โดยปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 800.05 ตัน

 

เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นตอบรับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่งกด ดันราคาทองวานนี้ให้อ่อนตัวลงต่อเนื่องจากการซื้อขายวันจันทร์ โดยช่วงค่ำที่ผ่านมามีรายงานว่าดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.7 ในเดือนกรกฎาคม จากระดับ 56 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งตัวเลขเดือนล่าสุดเป็นระดับสูงสุดในรอบแปดปี และดีกว่าผลสำรวจที่ประเมินว่าจะอยู่ที่ 56.5 จุด ภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนถึงราว 90% ของระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนมุมมองเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และกดดันให้ราคาทองวานนี้อ่อนตัวลง และนอกจากรายงานดังกล่าวแล้วช่วงค่ำที่ผ่านมามีการรายงานยอดสั่งซื้อสินค้า ที่ผลิตในโรงงานสหรัฐฯ ซึ่งปรับตัวขึ้น 1.1% ในเดือนมิถุนายน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 เดือน และมากกว่าผลสำรวจที่ประเมินว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในระยะที่ผ่านมาโดยรวมแล้วมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นักลงทุนจึงยังมีมุมมองว่าธนาคารกลาสหรัฐฯ อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นจากที่เคยประเมิน

 

ส่วนการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทยในวันนี้คาดว่าจะมีมติให้ ตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.0% ต่อไป รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของไทยซึ่งส่วนใหญ่ชะลอตัวลงในไตรมาส 1 และ 2 นั้น คาดว่าคงมีผลต่อเงินบาทค่อนข้างน้อย เพราะนักลงทุนต่างประเมินว่าเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดในช่วงเวลาดังกล่าวไป แล้ว และมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในครึ่งปีหลัง และสำหรับภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองคำโดยรวมแล้วยังไม่แตกต่างไป จากต้นสัปดาห์ แนวรับบริเวณ 1,275-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังเป็นระดับแนวรับสำหรับกลับเข้าซื้อเก็งกำไรการดีดตัวในระหว่างวัน แต่กรณีที่ราคาทองไม่สามารถประคองตัวเหนือแนวรับบริเวณนี้ได้ คาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมามากและกดดันให้ราคาทองอ่อนตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 1,255-1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ต่อไป.

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (06/08/2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

การเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องจนถึงต้นสัปดาห์หน้า อาจทำให้นักลงทุนลดน้ำหนักการลงทุนเพื่อปิดความเสี่ยงในช่วงวันหยุดได้เช่น กัน

ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ จะกลับมาสนใจตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยยะอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ นายกรัฐมนตรี และ ครม. โดยเฉพาะ รมต.ด้านเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของเดือนส.ค.นี้น่าจะได้เห็นภาพ บวกกับเม็ดเงินใหม่ของกองทุน Trigger funds ราว 5.0 พันล้านบาทที่น่าจะเริ่มทยอยลงทุนตลาดหุ้นไทยหลังวันหยุดยาวในกลางสัปดาห์ หน้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งเดาทองยามบ่ายกล่าวว่า ราคาทองยังคงย้ำในบริเวณเดิม 1282-1284 ทำให้มองกันว่า 1282 เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง ลงมาทีไร เด้งขึ้นกลับได้ ตรงจุดนี้ มองกันว่าเข้าซื้อ แล้วไปขายที่ 1292 ขึ่นไป แต่ถ้าเมื่อซื้อเข้าแล้ว ราคาถอยหลังมาต่ำกว่า 1280 ก็ต้องยอม Cut Loss เพราะยากที่จะเกิดมาก ส่วนในด้านขาขึ้นเปลี่ยนสถานะนั้น เราขอหวัง 1308 ล่ะก็ อาจได้เฮ แต่สุดท้าย เดาว่า วันนี้แหละ รายงานเงียบๆ ขึ้นให้ชาวไร่ ไล่ตาม พร้อมแนวทางขาเสี่ยง คือ

 

LONG GOLD above 1280 SL 1277 TP 1292-1300-1308-1315-1322

SHORT GOLD below 1277 SL 1280 TP 1268-1260-1254

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บอร์ด กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.00%

 

 

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุม ครั้งที่ 5/2557 วันนี้ (6 ส.ค.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.00% ตามตลาดคาดการณ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานข่าว เขาว่า ราคาทองขึ้น เพราะกลัวสงคราม เพราะ รัสเซียเสริมกำลังเป็นจำนวนมากที่ชายแดนยูเครน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

LONG GOLD above 1280 SL 1277 TP 1292-1300-1308-1315-1322

SHORT GOLD below 1277 SL 1280 TP 1268-1260-1254

 

 

piccolo-1.gif$1308-$1315

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เสียดายเฟ้ยว่าจะๆ ตั้งแต่วาน อดแดกกันไป :064 :064

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...