ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

รายงานยุโรปบ่ายนี้ โพลฯให้มาแบบไม่มีการเปลี่ยนแปลง ราคาทองก็คงสงบนิ่ง ดังนั้น เราคงไปหวังพึ่งเหตุเมื่อวาน ที่ ธนาคารกลางยุโรป ไม่มีการปรับดอกเบี้ยลงมาอีก และ นโยบายเรื่องอัดฉีดเงินยังไม่แน่ชัด จะทำให้ยูโรแข็งค่าขึ้น พร้อมกับ ราคาทองขยับขึ้นแบบบันได

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานสหรัฐฯ ถ้าตามโพล ตัวเลขสร้างงานเพิ่มขึ้นในช่วงประกาศ 1 ทุ่มครึ่ง และ ตัวเลขเวลา 3 ทุ่ม ออกมาแย่ ดังนั้น ก็อาจส่งผล ขึ้นๆ ลงๆๆ ขึ้นๆๆ กับราคาทอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และประกาศแผนการซื้อสินทรัพย์ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,215.1 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 21.2 เซนต์ ปิดที่ 17.047 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 19.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,270.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 15.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 768.65 ดอลลาร์/ออนซ์

 

อีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.05% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากธนาคารพาณิชย์ในช่วงกลางเดือนต.ค. และจะซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ( ABS- Aasset-backed Aecurities) ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

 

ในช่วงแรกนั้น สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ยอดขายเหรียญทองคำในสหรัฐและออสเตรเลียปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่ากองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำรายใหญ่สุดของโลกได้ปรับลดการถือครองทองคำลงอย่างมากในเดือนก.ย.

 

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะปรับตัวขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.

 

ส่วนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 27 ก.ย. ลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 287,000 ราย สวนทางกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 297,000 ราย

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 ตุลาคม 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยโครงการซื้อสินทรัพย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนในการประชุมเมื่อวานนี้

 

ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ที่ระดับ 1.2674 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2609 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6145 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6177 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 108.41 เยน เทียบกับระดับ 109.19 เยน และลดลงขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9537 ฟรังค์ จาก 0.9571 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8804 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8726 ดอลลาร์

 

อีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.05% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด พร้อมกับประกาศว่าจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากธนาคารพาณิชย์ในช่วงกลางเดือนต.ค. และจะซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (ABS- Aasset-backed Aecurities) ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน

 

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 27 ก.ย. ลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 287,000 ราย สวนทางกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ซึ่งคาดการณ์ว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นแตะ 297,000 ราย

 

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค.หดตัวลง 10.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2535 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 9.3%

 

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะปรับตัวขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 ตุลาคม 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เบรนท์ทรุดหนักจากความกังวลด้านอุปทาน ขณะที่เวสท์เท็กซัสปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีขึ้นต่อเนื่อง

- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากความกังวลของนักลงทุนทั้งในเรื่องอุปสงค์ที่อ่อนแอและอุปทานที่ยังคงล้น ตลาด รวมไปถึงการที่ซาอุดิอาระเบียประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ ยังไม่พิจารณาปรับลดกำลังการผลิตลง ซึ่งส่งผลทำให้ส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันดิบเบรนท์และราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัสของสหรัฐฯ ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2556

- สมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ OPEC บางประเทศได้ออกมาเรียกร้องให้ ทางกลุ่ม OPEC พิจารณาการลดกำลังการผลิตของกลุ่มลงในการหารือที่จะมีขึ้นในเดือน พฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม สมาชิกหลัก เช่น ซาอุดิอาระเบีย ยังคงมีท่าทีที่จะชะลอการพิจารณาจนกระทั่งช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่มีอุปสงค์สูงสุดของปี

+ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสของสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ จากการประกาศปรับตัวลดลงของปริมาณน้ำมันสำรองคุชชิ่ง ใน โอคลาโฮมา รวมไ ปถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากตัวเลขการว่างงานในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง

+ นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงจากการที่ธนาคารกลางของยุโรป (European Central Bank: ECB) ได้ออกแผนการที่จะซื้อหุ้นกู้มีประกัน (Secured Debt) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในยุโรป ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสของสหรัฐฯให้ เพิ่มขึ้น และพยุงราคาน้ำมันดิบเบรนท์ไม่ให้ปรับตัวลดลงมากนัก

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในสิงคโปร์ที่ปรับตัวลดลง และอุปสงค์จากอินโดนีเซียและแอฟริกาตะวันตกที่ยังช่วยหนุนราคาไว้อย่างต่อ เนื่อง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ที่ปรับตัวลดลงในออสเตรเลีย จีน และ อินโดนีเซีย ซึ่งมีผลมาจากเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ชะลอตัว รวมไปถึงปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังของสิงคโปร์ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น

ทิศทางราคาน้ำมันดิบ

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 90-96 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 92-98 เหรียญฯ

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

-จับตาการประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีนในฮ่องกง ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ซึ่งฮ่องกงเป็นเป็นช่องทางหนึ่งที่จีนใช้เป็นฐานเชื่อมต่อกับประเทศต่างๆ ทั้งทางด้านตลาดทุน ตลาดเงินและการขนส่ง เหตุการณ์นี้อาจทำให้เศรษฐกิจจีนที่ยังคงซบเซาอยู่เลวร้ายไปกว่าเดิม และส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบย่ำแย่ด้วยเช่นกัน

-ยังคงต้องจับตามองถึงประสิทธิภาพของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวของอี ซีบี ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเงินฝืด และจะทำให้อุปสงค์การใช้น้ำมันในภูมิภาคกลับมาได้หรือไม่

-รายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน ต.ค. ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ในวันที่ 7 ต.ค. และ OPEC ในวันที่ 10 ต.ค. ติดตามว่าจะมีการปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในปีนี้ลงอีกหรือไม่ หลังหลายฝ่ายยังคงกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายตัวที่ลดลงของผู้บริโภคน้ำมันอันดับสองของโลกอย่าง จีน

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตาม

วันพฤหัสอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ของอีซีบี

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐฯ - ก.ย. 57

วันศุกร์ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ - ก.ย. 57

อัตราการว่างงานยุโรป - ก.ย. 57

ดัชนีภาคการบริการสหรัฐฯ - ก.ย. 57

วันพุธดัชนีภาคการบริการจีน (HSBC) - ก.ย. 57

ดัชนีภาคการผลิตจีน (HSBC) - ต.ค. 57

วันพฤหัสยอดค้าส่งสหรัฐฯ - ส.ค. 57

วันศุกร์ดุลการค้าจีน - ก.ย. 57

ที่มา หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 3 ตุลาคม 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ในฮ่องกงอย่างใกล้ชิด ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงเริ่มเปิดทำการซื้อขายในวันนี้ หลังจากที่ปิดทำการเป็นเวลา 2 วันเนื่องในการฉลองวันชาติของจีน

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) ปรับตัวลง 0.1% แตะที่ 138.35 จุด เมื่อเวลา 09.00 น.ตามเวลาฮ่องกง

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ 15,616.48 จุด ลดลง 45.51 จุด หรือ -0.29% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 22,691.59 จุด ร่วงลง 241.39 จุด หรือ -1.05% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดที่ 1,838.06 จุด เพิ่มขึ้น 0.38 จุด หรือ +0.02% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดที่ 3,226.50 จุด ลดลง 2.21 จุด หรือ -0.07%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดที่ 7,192.74 จุด ลดลง 3.52 จุด หรือ -0.05% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดที่ 9,010.30 จุด เพิ่มขึ้น 35.11 จุด หรือ +0.39% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดที่ 5,297.70 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง

 

นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ในฮ่องกงอย่างใกล้ชิด โดยความคืบหน้าล่าสุดของการประท้วงในฮ่องกงนั้น นายเหลียง ชุน-หยิง ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงประกาศปฏิเสธการลาออกจากตำแหน่ง และแต่งตั้งนางแคร์รี แลม หัวหน้าเลขาธิการรัฐบาลเป็นตัวแทนเจรจากับนักศึกษาที่เข้าร่วมการเคลื่อนไหวในกลุ่ม Occupy Central

 

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ในวันศุกร์ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะปรับตัวขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.

 

ส่วนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 27 ก.ย. ลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 287,000 ราย สวนทางกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 297,000 ราย

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 ตุลาคม 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 12,26,9 แบบนักลงทุนนั่งมองกันเยอะ ยอดนิยม เส้นดำเส้นแดง อยู่ในแนวโน้มที่ยังค่อยๆ เดินขึ้นต่อไปได้ แบบขึ้นบันได

 

เลิกขี่กันแล้ว ^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำอ่อนตัวลงในช่วงสั้นๆ ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามา แต่โดยรวมแล้วการเคลื่อนไหวของราคาทองยังเป็นการแกว่งตัวในกรอบค่อนข้าง แคบ...

 

ก่อนที่จะปิดตลาดทรงตัวใกล้ระดับปิดของวันพุธ ผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในช่วงเย็นวานนี้ ยังไม่มีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใดๆ เพิ่มเติม และมาตรการที่เตรียมนำมาใช้นั้น นักลงทุนบางส่วนยังไม่มั่นใจว่าจะเพียงพอสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในกลุ่ม ยุโรป โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ 1,214.90 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,208 และ 1,222 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 18,700 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,600 บาท กองทุน SPDR รายงานว่าได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลงราว 1.19 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 767.47 ตัน

 

ประธานธนาคารกลางยุโรปได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมวานนี้ว่า ธนาคารกลางยุโรปจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากธนาคารพาณิชย์ในช่วงกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป และจะซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (ABS- Asset-backed securities) ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน และโครงการดังกล่าวจะใช้เวลาในการดำเนินการอย่างน้อย 2 ปี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นสินเชื่อและสนับสนุนการปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทขนาดเล็ก และขนาดกลาง ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจยูโรโซน และประเมินว่ามาตรการต่างๆ ที่ธนาคารกลางยุโรปนำมาใช้นั้น จะช่วยให้อัตราเงินเฟ้อเคลื่อนไหวใกล้ระดับเป้าหมาย ประธานธนาคารกลางยุโรปยังกล่าวด้วยว่า ธนาคารกลางยุโรปมีเป้าหมายที่จะอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ด้วยการขยายงบดุลให้อยู่ในระดับเดียวกับในช่วงต้นปี 2555 โดยมาตรการเข้าซื้อตราสารหนี้ดังกล่าวควบคู่กับการใช้มาตรการ TLTRO จะช่วยให้งบดุลของอีซีบีมีมูลค่าสูงเกือบแตะระดับ 3 ล้านล้านยูโร หรือ 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ เหมือนกับในช่วงต้นปี 2555 และมาตรการใหม่นี้จะช่วยหนุนภาคส่วนต่างๆ ในระบบเศรษฐกิจและเป็นช่องทางสำคัญในการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

 

ส่วนอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปนั้น ในการประชุมวานนี้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปมีมติคง อัตราดอกเบี้ยเงินฝากไว้ที่ระดับติดลบ 0.2% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ที่ระดับติดลบ 0.3% ส่วนรายงานข้อมูลจากสหรัฐฯ ในช่วงค่ำที่ผ่านมานั้นออกมาค่อนข้างไร้ทิศทาง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนสิงหาคมหดตัวลง 10.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2535 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 9.3% ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง โดยก่อนหน้านี้มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงแตะ 57.5 ในเดือนกันยายน จากระดับ 57.9 ในเดือนสิงหาคม

 

นอกจากนี้สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ภาคการผลิตของสหรัฐฯขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงในเดือนกันยายนเมื่อเทียบกับ เดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นเดือนที่ภาคการผลิตขยายตัวในอัตราที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2554 ส่วนรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ปรากฏว่ามีผู้ขอรับสวัสดิการลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 2.87 แสนราย สวนทางกับผลสำรวจที่ประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ 2.97 แสนราย นักลงทุนต่างรอติดตามรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐซึ่งผลสำรวจ ประเมินว่าจะมีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้น 2.13 แสนราย จากเดือนก่อนที่เพิ่มขึ้นเพียง 1.42 แสนราย ในขณะที่อัตราการว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 6.1%

 

ส่วนภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองคำซึ่งวานนี้ราคาทองฟื้นตัวขึ้น ต่อเนื่องจากการซื้อขายวันพุธ แต่โดยรวมเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบ และปิดตลาดเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ในขณะที่เครื่องมือทางเทคนิคบางชนิดเคลื่อนไหวในระดับขายมากเกินไป และมีสัญญาณการกลับตัวเกิดขึ้น ดังนั้นหากราคาทองคำยังสามารถทรงตัวเหนือแนวรับบริเวณ 1,200 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ได้ ยังคงมีแนวโน้มที่ราคาทองจะเริ่มมีการฟื้นตัวกลับ โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,200-1,225 และ 1,240 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ.

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (03/10/2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนในเดือนก.ย. อยู่ที่ 54 ลดลง 0.4 จุด จากเดือนส.ค.

 

ดัชนีที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่าภาคบริการมีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า และดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ถึงภาวะหดตัว

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 3 ตุลาคม 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากความกังวลของนักลงทุนทั้งในเรื่องอุปสงค์ที่อ่อนแอและอุปทานที่ยังคงล้นตลาด รวมไปถึงการที่ซาอุดิอาระเบียประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ ยังไม่พิจารณาปรับลดกำลังการผลิตลง ซึ่งส่งผลทำให้ส่วนต่างระหว่างราคาน้ำมันดิบเบรนท์และราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสของสหรัฐฯ ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2556

 

- สมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ OPEC บางประเทศได้ออกมาเรียกร้องให้ ทางกลุ่ม OPEC พิจารณาการลดกำลังการผลิตของกลุ่มลงในการหารือที่จะมีขึ้นในเดือน พฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม สมาชิกหลัก เช่น ซาอุดิอาระเบีย ยังคงมีท่าทีที่จะชะลอการพิจารณาจนกระทั่งช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่มีอุปสงค์สูงสุดของปี

 

+ อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสของสหรัฐฯ ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ จากการประกาศปรับตัวลดลงของปริมาณน้ำมันสำรองคุชชิ่ง ใน โอคลาโฮมา รวมไ ปถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากตัวเลขการว่างงานในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง

 

+ นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงจากการที่ธนาคารกลางของยุโรป (European Central Bank: ECB) ได้ออกแผนการที่จะซื้อหุ้นกู้มีประกัน (Secured Debt) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในยุโรป ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสของสหรัฐฯให้เพิ่มขึ้น และพยุงราคาน้ำมันดิบเบรนท์ไม่ให้ปรับตัวลดลงมากนัก

 

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในสิงคโปร์ที่ปรับตัวลดลง และอุปสงค์จากอินโดนีเซียและแอฟริกาตะวันตกที่ยังช่วยหนุนราคาไว้อย่างต่อเนื่อง

 

ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ที่ปรับตัวลดลงในออสเตรเลีย จีน และ อินโดนีเซีย ซึ่งมีผลมาจากเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ชะลอตัว รวมไปถึงปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังของสิงคโปร์ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

ทิศทางราคาน้ำมันดิบ

 

ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์หน้าจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 90-96 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 92-98 เหรียญฯ

 

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

 

จับตาการประท้วงต่อต้านรัฐบาลจีนในฮ่องกง ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ซึ่งฮ่องกงเป็นเป็นช่องทางหนึ่งที่จีนใช้เป็นฐานเชื่อมต่อกับประเทศต่างๆ ทั้งทางด้านตลาดทุน ตลาดเงินและการขนส่ง เหตุการณ์นี้อาจทำให้เศรษฐกิจจีนที่ยังคงซบเซาอยู่เลวร้ายไปกว่าเดิม และส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบย่ำแย่ด้วยเช่นกัน

 

ยังคงต้องจับตามองถึงประสิทธิภาพของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวของอีซีบีว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาเงินฝืด และจะทำให้อุปสงค์การใช้น้ำมันในภูมิภาคกลับมาได้หรือไม่

 

รายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน ต.ค. ของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ในวันที่ 7 ต.ค. และ OPEC ในวันที่ 10 ต.ค. ติดตามว่าจะมีการปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันโลกในปีนี้ลงอีกหรือไม่ หลังหลายฝ่ายยังคงกังวลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายตัวที่ลดลงของผู้บริโภคน้ำมันอันดับสองของโลกอย่างจีน

 

 

 

 

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ (03/10/2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.44/46 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.39/43 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาค ตลาดยังรอปัจจัยใหม่

 

"เปิดตลาดเช้านี้ปรับตัวอ่อนค่ามานิดหน่อย แต่ตลาดยังนิ่งๆ คงรอ Non Farm Payroll คืนนี้" นักบริหารเงิน กล่าว

 

ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) เมื่อคืนนี้ไม่มีผลกระทบต่อตลาดมากนัก แต่คืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม(Non Farm Payroll) ของสหรัฐ

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.38-32.50 บาท/ดอลลาร์

 

"ไม่น่าขยับไปไกล ยกเว้นมี flow ล็อตใหญ่ๆ เข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.88 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 108.90 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2655 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2620 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.3910 บาท/ดอลลาร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เข้ามาอ่านรอบบ่าย ขอบคุณนะครับป๋า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งเดาทอง ยังมาเดาแบบรายอาทิตย์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองยังถูกกดดัน และ รังควาญ จากค่าเงินดอลล์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นอย่างมาก ( จากสาเหตุ ธนาคารกลางยุโรป ลดดอกเบี้ยนโยบายต่ำมาก และ อัดฉีด QE ในยูโร รวมถึง การที่จะไม่มี QE ในสหรัฐฯ )

 

ราคาทองมีแนวรับขณะนี้ 1212 ซึ่งถ้าหลุดจากนี้ น่าจะออกต่ำกว่า 1200 ในขณะเดียวกัน การแข็งค่าขึ้นมาของ US Dollar เป็นสิ่งที่นักเก็งกำไรค่าเงิน จ้องตาเป็นมัน ที่จะหาเงินเข้ากระเป๋า หรือ กรณีการเกิดเหตุไม่คาดฝันในดินแดนสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากการ ไปโจมตี กลุ่ม IS และอีกกรณีหนึ่งในเขตภูมิภาคเอเชีย ที่เกิดกับ ฮ่องกง ศูนย์การเงินของจีนที่มีการประท้วง ไม่พอใจ การจะเลือกตั้งผู้ว่าฯ ในปี 2560 โดยที่คนสมัครเป็นคนที่คัดสรรมาจาก รัฐบาลจีน

 

แนวโน้มจึงยังให้ทางเดินบันไดขึ้น แต่อาจทุกจุดแนวต้าน ย่อมมีย่อลง ทำกำไรตลอดทาง พร้อมแนวทางขาเสี่ยง คือ

 

SHORT GOLD below 1210 SL 1213 TP 1202-1190-1185-1180

LONG GOLD above 1186 SL 1183 TP 1196-1205-1215-1230-1242

 

หลุด 1200

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...