ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น / ช่วงนี้ ตลาดค่าเงินผันผวน ถึงขนาด ตลาดล่วงหน้าค้าเงินในไทย ปิดทำการ

[chaiklang 161]

เด้งมาใหม่แว้ววววว

 

ขอบคุณ ป๋า นะครับ

[Pete 15,187]

รายงานยุโรป ตามโพลให้มา บอกว่า ไม่ดี / รายงานสหรัฐฯ ตามโพลให้มา ช่วงแรก ไม่ดี ช่วง 3 ทุ่ม ออกมาดี

[Pete 15,187]

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ต.ค.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,994.22 จุด พุ่งขึ้น 274.83 จุด หรือ +1.64% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,468.59 จุด เพิ่มขึ้น 83.39 จุด หรือ +1.90% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,968.89 จุด เพิ่มขึ้น 33.79 จุด หรือ +1.75%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 อ่อนแรงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.9% ปิดที่ 328 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 8,995.33 จุด ลดลง 90.88 จุด, -1.00% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,168.12 จุด ลดลง 41.02 จุด, -0.97% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,482.24 จุด ลดลง 13.34 จุด, -0.21%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการเดินทาง อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลา

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 13.34 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 6,482.24 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากแรงขายทำกำไร หลังจากที่สัญญาทองคำพุ่งขึ้นเกือบ 20 ดอลลาร์ในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 6.4 ดอลลาร์ หรือ 0.53% ปิดที่ 1,206 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 17.6 เซนต์ ปิดที่ 17.064 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,266.9 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 9.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 796.45 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์พลังงานภายใน ประเทศ

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.54 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 73 เซนต์ ปิดที่ 91.38 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) หลังจากรายงานการประชุมกำหนดนโยบายครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่มีความวิตกว่าภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและสกุล เงินที่แข็งแกร่งขึ้นอาจก่อความเสี่ยงต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจสหรัฐ

 

ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2731 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2658 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6160 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6089 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 108.16 เยน เทียบกับระดับ 108.15 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9524 ฟรังค์ จาก 0.9578 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8832 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8812 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,994.22 จุด เพิ่มขึ้น 274.83 จุด +1.64%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,468.59 จุด เพิ่มขึ้น 83.39 จุด +1.90%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,968.89 จุด เพิ่มขึ้น 33.79 จุด +1.75%

[Pete 15,187]

-- ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) หลังจากรายงานการประชุมกำหนดนโยบายครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่มีความวิตกว่าภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและสกุล เงินที่แข็งแกร่งขึ้นอาจก่อความเสี่ยงต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจสหรัฐ

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วง หลังรายงานประชุมเฟดสกัดคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม 2557 07:30:46 น.

ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) หลังจากรายงานการประชุมกำหนดนโยบายครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่มีความวิตกว่าภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและสกุลเงินที่แข็งแกร่งขึ้นอาจก่อความเสี่ยงต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจสหรัฐ

 

ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2731 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2658 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6160 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6089 ดอลลาร์

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 108.16 เยน เทียบกับระดับ 108.15 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9524 ฟรังค์ จาก 0.9578 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8832 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8812 ดอลลาร์

 

รายงานการประชุมของเฟดที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ระบุว่า เจ้าหน้าที่บางรายกล่าวว่าเศรษฐกิจที่อ่อนแอและอัตราเงินเฟ้อต่ำของยุโรปอาจจะส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าต่อไป ซึ่งจะบั่นทอนการส่งออกของสหรัฐและจำกัดการปรับตัวขึ้นของราคา ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดอยู่แล้ว

 

นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนมากกล่าวว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ “อาจชะลอลงมากกว่าที่คาดกันไว้ หากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของต่างประเทศอ่อนแอเกินคาด"

 

ส่วนการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกสำหรับปีนี้และปีหน้าในการประเมินแนวโน้มทางเศรษฐกิจเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก็สะท้อนถึงความวิตกของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด อย่างไรก็ตาม ไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 3.1% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์เมื่อเดือนก.ค.ที่ 3%

 

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาตลาดมีกระแสคาดการณ์มาโดยตลอดว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนช่วงกลางปี 2558 แต่รายงานการประชุมครั้งล่าสุดได้หนุนคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ระดับปัจจุบันไว้เป็นระยะเวลาที่นานขึ้น

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

[Pete 15,187]

รายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวันที่ 16-17 ก.ย.ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดบางรายมีความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐที่อาจจะเกิดขึ้นจากการแข็งค่าของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ

 

สมาชิกบางส่วนของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) “ได้แสดงความกังวลว่าภาวะอ่อนแรงต่อเนื่องของการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในยูโรโซน อาจทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นต่อไป และมีผลกระทบเชิงลบต่อภาคการส่งออกของสหรัฐ"

 

ผู้เข้าร่วมการประชุมหลายราย ซึ่งรวมถึงผู้ที่ไม่มีสิทธิโหวต ได้ตั้งข้อสังเกตว่า “การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงในจีนหรือญี่ปุ่น หรือเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดไว้ในตะวันออกกลางหรือยูเครน อาจก่อความเสี่ยงที่คล้ายคลึงกัน"

 

เจ้าหน้าที่ 2 รายชี้ว่า “การแข็งค่าของดอลลาร์อาจมีแนวโน้มที่จะสกัดเงินเฟ้อในการปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่เป้าหมายที่ 2% ของ FOMC" ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดอาจจะใช้เวลาสักระยะหนึ่งก่อนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับปัจจุบันที่ถือว่าต่ำมาก

 

รายงานระบุว่า บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดได้หารือกันถึงประเด็นการแข็งค่าของดอลลาร์เมื่อเทียบสกุลเงินส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึงเงินเยน ยูโรและปอนด์ นับตั้งแต่การประชุมครั้งก่อนเมื่อปลายเดือนก.ค. สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 9 ตุลาคม 2557)

[Pete 15,187]

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.44/50 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.59/60 บาท/ดอลลาร์

 

เงินบาทเช้านี้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากเมื่อวานเย็น เนื่องจากเช้านี้ฝั่ง offshore มีขายเทขายดอลลาร์ออกมา จึงทำให้เช้านี้เงินบาทหลุดจากระดับ 32.50 ลงมา และแนวโน้มคาดว่าจะแข็งค่าต่อ

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.40-32.55 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.35 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 108.12 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2740 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2660 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.6400 บาท/ดอลลาร์

 

- ธปท.เผยปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบทยอยลดลงในทุกเดือนตั้งแต่ต้นปี 57 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธนบัตรลดลงมากกว่าเหรียญ ผลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอและคนเริ่มหันใช้จ่ายผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์แทนเงินสด โดยเฉพาะโอนเงินจากบัญชีไปชำระค่าบริการต่างๆ ระยะหลังคนนิยมมากขึ้น อีกทั้งธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาทและ 50 บาทมีปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจลดลง

[Pete 15,187]

น.ส.ณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกในช่วงนี้ ยังคงติดตามเศรษฐกิจของสหรัฐและอังกฤษที่กำลังค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ประเทศกลุ่มยูโรโซนและยุโรปตะวันออกนั้นเกิดการชะลอตัว ทางด้านเศรษฐกิจของจีนก็ยังมีความเสี่ยงและอาจต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมทั้งญี่ปุ่นที่กำลังฟื้นตัวขึ้น แต่การปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มทำให้การใช้จ่ายบริโภคอ่อนตัวลง และขัดขวางการเติบโตในระยะสั้น ทำให้ยังต้องใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและมีผลทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง อย่างไรก็ตามการใช้นโยบายเพิ่มสภาพคล่องของธนาคารกลางยุโรป ญี่ปุ่นและจีน ทำให้สภาพคล่องของเศรษฐกิจโลกสูง ซึ่งมีผลช่วยหนุนราคาหุ้นแต่ด้านราคาทองคำไม่ได้รับประโยชน์จากสภาพคล่องที่มีล้นเกินในขณะนี้ ความไม่สมดุลในเรื่องการฟื้นตัวในแต่ละภูมิภาคได้ส่งผลให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นมาก จึงเป็นปัจจัยที่กดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์

 

ด้านแนวโน้มการลงทุน ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องในเดือนกันยายน หลังจากหลุดแนวรับบริเวณ 1,280 USDต่อออนซ์ เมื่อเหตุการณ์ในยูเครนเริ่มคลี่คลายและมีการเจรจาเพื่อหยุดยิง นอกจากนี้นักลงทุนมีความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนกำหนด ทำให้มีการขายทองคำก่อนการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 16-17 กันยายนที่ผ่านมา และราคาทองคำได้ร่วงหลุดแนวรับบริเวณ 1,240/1,220 ลงมาทำ low ที่บริเวณ 1,208 ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมาได้และเคลื่อนไหวบริเวณ 1,220 อีกครั้ง

 

ด้านฝ่ายวิจัยคาดว่า แนวโน้มราคาทองคำในไตรมาสที่ 4 ราคาทองคำจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,180 ซึ่งเป็น low เดิมที่เคยลงไปในเดือนธันวาคม 2013 หากสามารถดีดกลับได้ จะแกว่ง side way ในกรอบระหว่าง 1,200-1,350 แต่ถ้าแนวรับ 1,180 ไม่สามารถรับอยู่ คาดว่าราคาจะปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำกว่าเดิมบริเวณ 1,100-1,080 USDต่อออนซ์ จากนั้นจะแกว่ง side way ในกรอบระหว่าง 1,080-1,250

 

ที่มา หนังสือพิมพ์บ้านเมือง (08/10/57)

[Pete 15,187]

8 ต.ค.57 นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า สถานการณ์ราคาทองคำในช่วงที่เหลือของปีนี้มีโอกาสผันผวนสูง และคาดว่า ราคาทองคำในตลาดโลกน่าจะอยู่ที่ 1,180-1,450 เหรียญสหรัฐฯต่อออนซ์ ซึ่งจะทำให้ราคาทองคำในประเทศจะไม่ต่ำกว่า 18,000 บาท ต่อบาททองคำแน่นอน แต่ทั้งนี้ ก็ต้องดูสถานการณ์โลกประกอบด้วย เพราะราคาทองคำ ยังมีปัจจัยเสี่ยงให้ลดลงและผันผวนได้มาก จากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ปัญหาเศรษฐกิจในในยุโรป เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลกระทบให้ราคาทองคำลดลง

 

สำหรับแนวโน้มในปี 2558 ราคาทองคำโลกน่าจะลดลงไปอีกโดยจะอยู่ที่ 1,100-1,300 เหรียญสหรัฐฯต่อออนซ์ และราคาทองคำในประเทศมีโอกาสมากที่จะต่ำกว่า 18,000 บาทต่อบาททองคำ จากภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐที่ขยายตัวดีขึ้น แต่ปัจจัยเรื่องดอกเบี้ยไม่น่าจะมีผลต่อราคาทองมากนัก ทั้งนี้ จึงต้องการแนะนำให้นักลงทุนเร่งทำกำไรระยะสั้นเนื่องจากราคาทองคำมีแนวโน้มปรับลดลงได้อีก แต่ก็มองว่าในระยะยาวราคาทองคำยังมีโอกาสปรับขึ้นได้

 

ที่มา หนังสือพิมพ์แนวหน้า (08/10/57)

 

 

[Pete 15,187]

รหัส 5,35,9 ของเงินตรา US Dollar ยังให้น้ำหนักมาทาง --- จะอ่อนค่า ----- ตามเนื้อหาการประชุมเฟดที่บอกว่า ค่าเงินที่แข็งค่าเป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ก็อย่าประมาท เพราะเป็นเพียงคำนิยามที่นักลงทุน เข้าใจ และทำในตลาดทุน ยังไม่ใช่นโยบายที่ออกมาใช้ของ เฟด

[Pete 15,187]

รหัส 5,35,9 ของราคาทอง

[Pete 15,187]

ค่าเงินบาท วันสุดท้ายของสัปดาห์ ท่าทางจะออกมาทางอ่อนค่า

[Pete 15,187]

รายงานมีที่น่าสนใจ เฉพาะของสหรัฐฯ ส่วนราคาทองจะขยับตัว คงเป็นช่วงตลาดยุโรปเปิดทำการ

[Pete 15,187]

รายงานมีที่น่าสนใจ เฉพาะของสหรัฐฯ ส่วนราคาทองจะขยับตัว คงเป็นช่วงตลาดยุโรปเปิดทำการ