ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ฝรั่งเดาทอง กับตัวเลขขาเสี่ยงอาทิตย์นี้ คือ

แนวทางขาเสี่ยง ประจำอาทิตย์ วันที่ 15-19 มิถุนายน 2558 คือ

 

LONG GOLD above 1175 SL 1172 TP 1188-1198-1208-1218-1222

SHORT GOLD below 1172 SL 1175 TP 1162-1154-1146-1142

แนวทางขาเสี่ยงยังใช้งานได้ดี 1175 แล้วกลับขึ้นมาชนต้าน #1 คือ 1188 พร้อมกับค่าเงิน USindex ที่อ่อนค่าลงมาเยอะ ก็ต้องรอลุ้นต่อไปในด่านต้านต่อๆ ไป

post-775-0-42002400-1434588739.jpg

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 5,35,9 สัญญานนำทาง ยังคงแนวโน้มบวก ต่อราคาทอง " แนวทางเดิน ย่อลงยังไง ก็จะกลับขึ้นมาได้ "

post-775-0-20360700-1434588584_thumb.jpg

post-775-0-77956000-1434588601_thumb.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รหัส 5,35,9 ของค่าเงิน US Index แนวโน้มยังคงอ่อนค่า

post-775-0-97818400-1434588836_thumb.jpg

post-775-0-80128400-1434588852_thumb.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เปรียบเทียบราคาทองกับจุดต้านจุดรับ " ทยอยซื้อตามจุดรับ ทยอยขายตามจุดต้าน

post-775-0-25250700-1434589119_thumb.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานยุโรป ไม่มีอะไร ยกประเด็นไปที่การเจรจากรีซ ที่เขาว่าครั้งสุดท้าย

post-775-0-86221700-1434589237_thumb.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานสหรัฐ ตามโพลฯ ออกมาดี แต่คงยกประเด็นไปที่รายงานเฟดเมื่อคืนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยปลายปี แต่สิ่งสำคัญคือการปรับลด GDP สหรัฐ หลังจากนักลงทุนรอดูการปรัชุมมาหลายวัน และตีความ

post-775-0-76720900-1434589431_thumb.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิม ณ ระดับเตี้ยติดพื้นใกล้ๆร้อยละ 0 ในวันพุธ(17มิ.ย.) แต่เผยเศรษฐกิจของอเมริกากำลังเติบโตปานกลางหลังหยุดชะงักท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บก่อนหน้านี้ พร้อมแย้มดูเหมือนจะแข็งแกร่งเพียงพอสำหรับสนับสนุนให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปี

 

เหล่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงอัตราดอกเบี้ยระดับใกล้ร้อยละ 0 ไว้สำหรับตอนนี้ และบอกว่าจะปรับขึ้นอย่างเหมาะสมก็ต่อเมื่อตลาดงานฟื้นตัวแล้วและมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะดีดขึ้น

 

เฟดปรับลดประมาณการณ์การขยายตัวทางจีดีพีในปี 2015 ลง ตามหลังภาวะอ่อนแอในช่วงต้นปี ถือเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ธนาคารกลางแห่งนี้ปรับลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของปีนี้ อย่างไรก็ตามเหล่าคณะกรรมการเฟด 15 ใน 17 ราย ยังบ่งชี้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกน่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ อันเป็นมุมมองที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมาณการณ์คราวก่อน

 

ทั้งนี้สมาชิกส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟด คาดหมายจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหนือร้อยละ 0.5 ในช่วงสิ้นปี "กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวปานปลาง" เฟดระบุในถ้อยแถลง "อัตราการจ้างงานเริ่มดีดตัวขึ้น ขณะที่ตัวเลขคนว่างงานยังทรงตัว สิ่งต่างๆในตลาดแรงงานบ่งชี้ว่าการใช้ทรัพยากรแรงงานไม่ก่อประโยชน์ก็ค่อยๆน้อยลงแล้ว"

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลงมติในการประชุมเมื่อวานนี้ให้คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป ขณะที่ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากสัญญาณการอ่อนตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วง ต้นปีได้เริ่มเบาบางลงแล้ว อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่เฟดทำการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ

 

คณะกรรมการ FOMC ลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ในการประชุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน

 

ทั้งนี้ ในแถลงการณ์หลังการประชุม เฟดได้ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับใกล้ 0% ยังคงมีความเหมาะสม และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมีความเหมาะสมก็ต่อเมื่อตลาดแรงงานมีการปรับ ตัวที่ดีขึ้นต่อไป และมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้น

 

ขณะเดียวกัน เฟดแสดงความพอใจต่อภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่ได้หดตัวลงในไตรมาสแรก โดยเฟดระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวปานกลาง หลังจากที่ประสบภาวะชะงักงันในฤดูหนาว และมีแนวโน้มที่จะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน ช่วงปลายปี ส่วนการจ้างงานได้เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราการว่างงานยังคงทรงตัว และการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ปรับตัวขึ้นปานกลาง และตลาดที่อยู่อาศัยได้ฟื้นตัวขึ้นบ้าง

 

ขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% นั้น เฟดก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่าราคาพลังงานมีเสถียรภาพ หลังจากที่ได้ฉุดให้อัตราเงินเฟ้อลดต่ำลงก่อนหน้านี้

 

นอกจากนี้ เฟดยังได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ, อัตราดอกเบี้ย, อัตราการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ

 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยคาดว่าจะเติบโต 1.8%-2.0% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ 2.3%-2.7% และเฟดได้คงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2016 ที่ 2.4%-2.7% ขณะที่คาดว่าการขยายตัวในปี 2017 จะอยู่ที่ 2.1%-2.5%

 

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เฟด 15 จาก 17 รายยังคงระบุว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกจะเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งเป็นจำนวนเท่ากับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นจำนวน 1 หรือ 2 ครั้งก่อนสิ้นปี แต่ในการคาดการณ์ครั้งก่อน เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้

 

เจ้าหน้าที่เฟด 7 รายสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียว หรือไม่มีการปรับขึ้นในปีนี้ ขณะที่ปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในปี 2016 และ 2017 ลง 0.25% ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดมีความไม่มั่นใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐใน ระยะยาว และความสามารถในการรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

จากการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเฟดบ่งชี้ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.ยังคงมีความเป็นไปได้ แต่เฟดยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความรวดเร็ว และความรุนแรงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

 

เฟดคงตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในช่วงปลายปีนี้ที่ 0.625% ขณะที่ปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปี 2016 สู่ระดับ 1.625% จากเดิมที่ 1.875% และปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของปี 2017 สู่ 2.875% จาก 3.125%

 

ขณะเดียวกัน เฟดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ที่ระดับ 0.6%-0.8% ส่วนในปี 2016 คาดว่าจะอยู่ในช่วง 1.6%-1.9% ขณะที่ปี 2017 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.9%-2.0%

 

นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานจะแตะ 5.2%-5.3% ในไตรมาส 4 ของปีนี้ เทียบตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ 5.0%-5.2% และจะปรับตัวลงสู่ระดับ 4.9%-5.1% ในปี 2016

 

ท่ีมา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 18 มิถุนายน 2558)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลงมติในการประชุมเมื่อวานนี้ให้คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป ขณะที่ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากสัญญาณการอ่อนตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วง ต้นปีได้เริ่มเบาบางลงแล้ว อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่ เฟดทำการปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ

 

คณะกรรมการ FOMC ลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ในการประชุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน

 

ทั้งนี้ ในแถลงการณ์หลังการประชุม เฟดได้ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับใกล้ 0% ยังคงมีความเหมาะสม และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมีความเหมาะสมก็ต่อเมื่อตลาดแรงงานมีการปรับ ตัวที่ดีขึ้นต่อไป และมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้น

 

ขณะเดียวกัน เฟดแสดงความพอใจต่อภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่ได้หดตัวลงในไตรมาสแรก โดยเฟดระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวปานกลาง หลังจากที่ประสบภาวะชะงักงันในฤดูหนาว และมีแนวโน้มที่จะแข็งแกร่งเพียงพอที่จะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน ช่วงปลายปี ส่วนการจ้างงานได้เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราการว่างงานยังคงทรงตัว และการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้ปรับตัวขึ้นปานกลาง และตลาดที่อยู่อาศัยได้ฟื้นตัวขึ้นบ้าง

 

ขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% นั้น เฟดก็ได้ตั้งข้อสังเกตว่าราคาพลังงานมีเสถียรภาพ หลังจากที่ได้ฉุดให้อัตราเงินเฟ้อลดต่ำลงก่อนหน้านี้

 

นอกจากนี้ เฟดยังได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ, อัตราดอกเบี้ย, อัตราการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ

 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยคาดว่าจะเติบโต 1.8%-2.0% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ 2.3%-2.7% และเฟดได้คงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2016 ที่ 2.4%-2.7% ขณะที่คาดว่าการขยายตัวในปี 2017 จะอยู่ที่ 2.1%-2.5%

 

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เฟด 15 จาก 17 รายยังคงระบุว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกจะเกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งเป็นจำนวนเท่ากับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นจำนวน 1 หรือ 2 ครั้งก่อนสิ้นปี แต่ในการคาดการณ์ครั้งก่อน เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้

 

เจ้าหน้าที่เฟด 7 รายสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียว หรือไม่มีการปรับขึ้นในปีนี้ ขณะที่ปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในปี 2016 และ 2017 ลง 0.25% ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดมีความไม่มั่นใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐใน ระยะยาว และความสามารถในการรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

จากการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเฟดบ่งชี้ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.ยังคงมีความเป็นไปได้ แต่เฟดยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความรวดเร็ว และความรุนแรงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

 

เฟดคงตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในช่วงปลายปีนี้ที่ 0.625% ขณะที่ปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปี 2016 สู่ระดับ 1.625% จากเดิมที่ 1.875% และปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของปี 2017 สู่ 2.875% จาก 3.125%

 

ขณะเดียวกัน เฟดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ที่ระดับ 0.6%-0.8% ส่วนในปี 2016 คาดว่าจะอยู่ในช่วง 1.6%-1.9% ขณะที่ปี 2017 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1.9%-2.0%

 

นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานจะแตะ 5.2%-5.3% ในไตรมาส 4 ของปีนี้ เทียบตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ 5.0%-5.2% และจะปรับตัวลงสู่ระดับ 4.9%-5.1% ในปี 2016

 

ท่ีมา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 18 มิถุนายน 2558)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์สหรัฐปรับลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อาจจะไม่รวดเร็วอย่างที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้ก่อนหน้านี้

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1333 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1241 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5829 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5648 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.38 เยน จาก 123.37 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9222 ฟรังก์ จาก 0.9325 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7750 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7745 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดัน หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด ลงมติในการประชุมเมื่อวานนี้ให้คงอัตราดอกเบี้ยในช่วง 0-0.25% ต่อไป พร้อมกับส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากสัญญาณการอ่อนตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วง ต้นปีได้เริ่มเบาบางลงแล้ว อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป

 

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เฟดได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ โดยคาดว่าจะเติบโต 1.8%-2.0% จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ 2.3%-2.7% และเฟดได้คงคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2559 ที่ 2.4%-2.7% ขณะที่คาดว่าการขยายตัวในปี 2560 จะอยู่ที่ 2.1%-2.5%

 

คณะกรรมการ FOMC ลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ในการประชุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน

 

ทั้งนี้ ในแถลงการณ์หลังการประชุม เฟดได้ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับใกล้ 0% ยังคงมีความเหมาะสม และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะมีความเหมาะสมก็ต่อเมื่อตลาดแรงงานมีการปรับ ตัวที่ดีขึ้นต่อไป และมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้น

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 18 มิถุนายน 2558)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นายใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คริสทีน ลาการ์ด แถลงกร้าวเตือนรัฐบาลกรีซในวันพฤหัสบดี (18 มิ.ย.) ว่า ไม่สามารถเลื่อนการจ่ายหนี้ก้อนโตที่ถึงกำหนดในสิ้นเดือนนี้ได้อีกแล้ว เป็นการเพิ่มแรงบีบคั้นในขณะที่บรรดารัฐมนตรีคลังของยูโรโซนเปิดประชุมกันเพื่อหาทางทำข้อตกลงคลี่คลายวิกฤตหนี้สินของเอเธนส์

 

ขณะที่บรรดารัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซน หรือที่เรียกขานกันว่า “ยูโรกรุ๊ป” กำลังเข้าประชุมกันที่ลักเซมเบิร์กในวันพฤหัสบดี (18) ในสภาพที่เรียกได้ว่า เกือบถอดใจกับการหาหนทางคลี่คลายวิกฤตหนี้สินของกรีซแล้ว ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ ได้กล่าวสำทับก่อนที่เธอจะเข้าร่วมการหารือคราวนี้ด้วย ว่า “ไม่มีระยะปลอดหนี้อีกต่อไปแล้ว” โดยเงื่อนไขชำระหนี้ระบุเอาไว้ว่าวันที่ 30 มิถุนายน ดังนั้นหากเมื่อเข้าสู่วันที่ 1 กรกฎาคมยังไม่มีการจ่าย ก็คือกรีซไม่ได้ชำระหนี้

 

วิกฤตหนี้กรีซใกล้จุดไคลแมกซ์เข้ามาทุกที เนื่องจากแพกเกจเงินกู้ล่าสุดซึ่งกรีซขอกู้จากพวกเจ้าหนี้ระหว่างประเทศทั้ง 3 อันได้แก่ สหภาพยุโรป (อียู) , ไอเอ็มเอฟ, และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) นั้น กำลังจะสิ้นสุดอายุลงในวันที่ 30 นี้แล้ว ขณะที่เอเธนส์ยังไม่สามารถตกลงเงื่อนไขกับฝ่ายเจ้าหนี้ เพื่อจะได้รับเงินกู้งวดสุดท้ายของแพกเกจดังกล่าว เป็นจำนวน 7,200 ล้านยูโร (8,100 ล้านดอลลาร์) จะได้นำไปชำระให้ไอเอ็มเอฟ 1,600 ล้านยูโรภายในวันที่ 30 เดือนนี้เช่นกัน และอีก 6,700 ล้านยูโรที่ต้องจ่ายให้อีซีบีในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม

 

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (17) ถือเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกลางของกรีซเอง ได้ออกมาแถลงเตือนว่า หากไม่สามารถตกลงกับเจ้าหนี้ได้ เอเธนส์อาจต้องออกจากยูโรโซนหรือกระทั่งออกจากอียูด้วยซ้ำ

 

ขณะเดียวกัน เริ่มปรากฏสัญญาณชัดเจนว่า พวกผู้นำทางการเงินในอียูมีการพิจารณาอย่างจริงจังเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่กรีซจะออกจากยูโรโซน โดยเจนส์ ไวด์แมนน์ ผู้ว่าการธนาคารกลางเยอรมนี แสดงความเห็นตรงไปตรงมาว่า หากไม่มีกรีซ สหภาพการเงินของยุโรปอาจเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ไม่ถึงกับล่มสลาย

 

ทั้งนี้ บรรดาเจ้าหนี้ระงับเงินกู้งวดสุดท้ายไว้ก่อน เพื่อแลกเปลี่ยนกับมาตรการปฏิรูปเพิ่มเติมจากกรีซ ทว่า นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ที่ชูธงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดมาตั้งแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้ง ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงมาตรการที่สำคัญอย่างระบบบำนาญและภาษีมูลค่าเพิ่ม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...