ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณ คุณ Chicken Little, TOUNE, joonggo และคุณ Nicegold ด้วยครับ

ติดตามคุณ Nicegold ตั้งแต่อยู่ที่บ้านหลังเก่า ที่ห้องคุณงูดิน แต่ตอนนั้นแอบอ่านอย่างเดียวไม่ได้เป็นสมาชิก :D

 

ขอบคุณค่ะ !01 เรามีแฟนคลับด้วยหรือนี่ อยากให้คุณPuPuk ศึกษาเรียนรู้การลงทุนให้มากๆนะค่ะ ก่อนที่จะนำเงินมาลงทุนจริง ตลาดที่จะเข้าใกล้พันจุดแต่ละวันจะมีความผันผวนมากเพราะต่างฝ่ายก็กลัว ต่างชาติยังอยากซื้อ แต่คนไทยก็กล้าๆ กลัวๆ พอเห็นตลาดดันไม่ขึ้นก็จะทิ้งหุ้นทันที หุ้นที่ยังมีอัพไซด์ก็เหลือน้อยตัว นักวิเคราะห์ก็อยากเห็นพันจุด แต่ก็มักจะเตือนถ้าขึ้นก็ให้ขายทุกที ดัชนีก็เลยไม่ไปไหน คนที่ได้ก็เป็นโบรกจากค่าคอมมิสชั่น รายย่อยถ้าไม่ได้เฝ้าหน้าจอ หรือตามเหตุการณ์ไม่ทันก็มักจะติดตอย หรืออยากขายแต่ก็กลัวซื้อกลับไม่ได้ หากตลาดหุ้นยังขึ้นต่อได้ ไม่มีใครคาดเดาได้ถูกว่าต่างชาติจะซื้อแล้วดันดัชนีไปได้ถึงกี่จุดภายในปีนี้ก่อนที่จะขายเก็บกำไรกลับบ้าน ลงทุนก็ต้องหวังผลกำไรใช่ไหมค่ะ แล้วเค้าก็ลงทุนติดต่อกันมาหลายเดือนแล้ว ช่วงนี้รายย่อยก็มักจะเป็นเดทเทรด เก็งกำไรหรือถือหุ้นระยะสั้นๆ หากเข้าซื้อใหม่

 

พี่ก็ยังถือหุ้นไว้หลายตัวนะค่ะ และตอนนี้ก็สนใจลงทุน DW มาก ต้องเผ้าหน้าจอตลอด ทุกเย็นก็ต้องลุ้นว่าต่างชาติยังซื้อต่อยอดเท่าไร ทุกเข้าก็ต้องฟังกิมเอ็งสรุปการซื้อขายตลาดเพื่อนบ้านว่าต่างชาติซื้อหรือขายมากน้อยเท่าไร

 

คุณPuPuk ได้ศึกษาหรือเข้าสัมมนาเกี่ยวกับการลงทุนมากน้อยเพียงใด เว็บนี้ได้สมัครแล้วหรือยังค่ะ

http://www.tsi-thailand.org/

 

ปีนี้มีสัมมนาเหลือตามหัวข้อนี้ หัวข้อไหนเต็มแล้วเราก็ walk in หน้างานเลยค่ะ บางคนจองแล้วก็ไม่ได้ไป ยังไงก็ยังพอมีที่นั่งค่ะ พี่มักจะเข้าร่วมงานสัมมนาที่ฟรีเท่านั้นค่ะ !uu

post-62-019240000 1287121638.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคุณไนซ์ค่ะสำหรับทุกความเห็นที่แบ่งปันข้อมูลมาให้ค่ะ :) :) :)+1ให้ด้วยค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคุณไนซ์ค่ะสำหรับทุกความเห็นที่แบ่งปันข้อมูลมาให้ค่ะ :) :) :)+1ให้ด้วยค่ะ

 

!_087

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มีงานสัมมนาดีๆ ไม่ควรพลาด เกี่ยวกับ DW (Derivatives Warrant) และคุณอติ อติกุล ก็เป็นบุคคลที่มีความรู้ด้านตลาดอนุพันธ์อย่างมาก

ใครไม่ได้เป็นลูกค้ากิมเอ็งก็เข้าร่วมสัมมนาได้ค่ะ

 

http://www.kimeng.co.th/thai/seminar.asp

 

ตอนนี้ DW เป็นที่นิยมซื้อขายมาก ถ้าสองสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ถูกเทรด Cash Balance เสียก่อน หลายตัวเหลืออีก 1 สัปดาห์ที่จะหลุด หวังว่าจะกลับมาฮ็อตเหมื่อนเดิม ใครที่อยากเข้ามาเทรดควรหาความรู้เพิ่มเติมก่อนนะค่ะ ดิฉันเคยสัมมนาเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว 4 ครั้งค่ะ งานนี้ยังอยากไปฟังเพิ่มเติมค่ะ และสนใจ Put Warrant เป็นอย่างมาก อยากให้มีการออกตัว Put มาหลายๆ ตัว เพื่อรองรับตลาดเป็นขาลง ตอนนี้มี IVL01PA แค่ตัวเดียว

 

ปัจจุบันการบันทึก EXCEL ที่เป็น DW จะมีการคำนวณราคาหรือตั้งสูตรไว้รอเลย หากวันไหนอยากเข้าซื้อก็เพียงกรอกราคาต้นทุน ก็จะทราบราคาเหมาะสมทันที สำหรับดิฉันไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก หากได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ และในอนาคตมีหลายโบรกเตรียมออก DW ตัวใหม่ๆ เพื่อมารองรับความต้องการของตลาด จึงอยากให้เพื่อนๆ หาความรู้ไว้ก่อนที่จะเข้ามาซื้อขายนะค่ะ

post-62-092795400 1287126631.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Set ปิดตลาดในภาคเช้าที่ 996.54 จุด บวก 2.82 จุด หรือ 0.28% มูลค่าการซื้อขาย 17,811.48 ล้านบาท

 

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย

 

PTTAR ปิดที่ 30.25 บาท บวก 0.50 บาท

PTTCH ปิดที่ 136.50 บาท บวก 3.50 บาท

ADVANC ปิดที่ 95.00 บาท บวก 0.75 บาท

BBL ปิดที่ 157.50 บาท ลดลง 2.50 บาท

PTT ปิดที่ 313.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Set ปิดตลาดที่ 997.15 จุด บวก 3.43 จุด หรือ 0.35%

 

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรกประกอบด้วย

 

PTTAR ปิดที่ 30.75 บาท บวก 1.00 บาท

PTTCH ปิดที่ 137.50 บาท บวก 4.50 บาท

PTT ปิดที่ 313.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

ADVANC ปิดที่ 95.50 บาท บวก 1.25 บาท

BBL ปิดที่ 158.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปการซื้อขาย ณ วันที่ 15 ต.ค. 2553

 

วันจันทร์ไม่น่าพลาดที่จะได้เห็น 1000 จุด !57 วันนี้น่าดีใจที่เห็นสถาบันกลับมาซื้อบ้าง !031 แต่ต่างชาติซื้อน้อยลง ก็เมื่อวานซื้อไปตั้งสี่พันกว่าล้าน

post-62-035084800 1287137964.jpg

post-62-025546800 1287137976.jpg

post-62-059943500 1287138487.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หวังว่า bank ชาติจะลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก ซักอย่างน้อย .25% ในวันที่ 20 นี้จะมีการประชุม กนง ค่าเงินตอนนี้เป็นปัญหาน่ากังวลมาก

อยากอธิบายให้เพื่อนเข้าใจนิดนึงครับ GDP บ้านเรา 70% มาจากการส่งออก ถ้าหากว่าค่าเงินแข็งค่าขึ้นอยากรวดเร็ว ปัจจุบันประมาณ 10% หมายความว่า กำไรจะหายไป คิดแบบง่าย 10% (ที่จริงจะมากกว่าแต่คิดแบบคร่าวๆ)เท่าทีดูกำไรสินค้าเกษตรได้กำไรไม่ถึง 10% หรอกครับ (โดยเฉพาะ สินค้าเกษตร และ commodity เน้นขายเอาปริมาณมากๆกำไรน้อยๆ)หมายถึง ธุรกิจพวกนี้ยิ่งขายยิ่งเข้าเนื้อ ยิ่งขายยิ่งขาดทุน บริษัทเล็กๆ เริ่มทิ้ง order กันแล้ว บริษัทใหญ่ๆจำต้องยอมขายขาดทุนรักษาลูกค้าไว้ไปก่อนหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นในอนาคต สำหรับผม กำไรขาดทุน ของบริษัทเป็นแค่ยอดน้ำแข็ง แต่สิ่งที่ตามมานี่สิ ปัญหาใหญ่เลยละ เมื่อบริษัทพวกนี้ยิ่งขายยิ่งขาดทุน ใครจะอยากขายมากๆ ละครับ เค้าก็ต้องลด order ลง order ลด งานลด lay off พนักงานส่วนเกินออก คนตกงาน บริษัทไปกดราคาสินค้าจากเกษตรกร ปัญหาสังคม เศษรฐกิจแย่ วันนี้จะยังเห็นไม่ชัด เพราะ ถ้าเพื่อนๆ เข้าใจ ยกตัวอย่าง แรงงาน เป็น lagging indicator หมายถึงว่า ปัญหาค่าเงินตอนนี้จะไม่ส่งผล ต่อเศษฐกิจเราในทันทีแต่ผลกระทบลูกโซ่ของเงินแข็งวันนี้ อาจทำให้คนตกงานในอีก 1/2 ปีข้างหน้า

อะไรที่มันมากไปเร็วไปก็ไม่ดีทั้งนั้น เงินต่างชาติไม่เข้ามาเลยก็ไม่ดี แต่ื เรื่องทุกอย่างมีความพอดีของมัน มากไปก็ไม่ดีน้อยไปก็ไม่ดี พอดีๆ ดีสุด

ถามว่า เงินออก หุ้นก็ลงสิ ผมมีเงินตลาดหุ้น เงินออกก็ไม่ดีสำหรับผม? ที่จริงในระยะสั้นก็น่าจะเป็นแบบนั้น เค้าขายเอาเงินออก หุ้นก็ต้องลง ในระยะสั้น แต่อยากให้มองแบบนี้ ถ้า เศษฐกิจเราดี ไม่มีปัญหา ยังไงเค้าก็กลับมาอยู่ดี แต่ในทางตรงข้าม เงินต่างชาติไหลเข้ามากๆ วันนี้ทำให้หุ้นขึ้นก็จริง แต่เศษฐกิจเราแย่ลง ถึงตอนนั้นเค้าเอาเงินออกเมื่อเราไม่เหลืออะไรแล้ว ทิ้งซากปรักหักพังของเศษฐกิจเราไว้เบี้องหลัง เราจะชอบแบบไหน? ถ้าเปรียบ แบบแรกคือการกินอิ่ม แต่พอประมาณแต่มีกินนาน กับอีกแบบ กินวันเดียวจนจุก แต่พรุ่งนี้อด เราชอบแบบไหน?

 

ที่จริงผมพอเข้าใจแบงค์ชาิติต้องมองหลายๆประเด็นพร้อมๆกัน เงินเฟ้อก็ส่วนนึง อีกอย่าง การเอาเงินไปเราไปสู้กับเงินทุนต่างชาติ ยังไงก็ไม่ทางสู้ได้ เหมือนเอาไม้ซี้ไปสู็้้้้จะไม่ซุง แต่ เราสามารถสร้างนโยบายให้ เงินต่างชาติเข้ายากขึ้นลดผลตอบแทนที่เค้าจะได้ลง เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ลงทีละน้อย สลับกับการขึ้นภาษีหัก ณ ที่จ่ายเฉพาะเงินจากนอกประเทศไปเรื่อยๆ (ปัจจุบันเราประชาชนคนไทย เสียภาษีอัตราเดียวกะต่างชาติ เราควรเพิ่มให้เค้าจ่ายมากกว่าบ้าง)ถ้ายังไม่ได้ผล เพิ่มทีละน้อย จนเริ่มได้ผลก็หยุด เอาเงินเฉพาะที่เก็บภาษีได้เพิ่มจากเค้า มาซื้อดอลล่าร์เพิ่มเก็บไว้ อย่าเอาเงินงบประมาณชาติมาซื้อละเจ๊งแน่

 

ด้วยความเป็นห่วงครับ

ปล มีหุ้นเต็มปอดครับ ราคาหุ้นไม่สำคัญสำหรับผม ผลประกอบการดี คือสิ่งที่พิจารณาเป็นอับดับต้นๆในการเลือกหุ้น

ถูกแก้ไข โดย TOUNE

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

+1 ค่ะคุณต่วนมาได้อ่านข้อคิดดีๆค่ะ !thk !thk !thk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมชอบแนวคิดแบบคุณตวนนะคับ แต่อย่างไงผมว่าควรใช้ยาแรงบางก็ดีนะคับดัดหลังฝรั่งมันบางก็ดี ส่วนเรื่องเงินอย่าได้ไปสู้เลยจะเข้าทางต่างชาติเหมือนตอนปี 40อีก ขอบคุณคุณตวนที่ยอมเสียเวลามาให้ข้อมูลต่าง คับ !thk !thk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อ่านเล้วเข้าใจได้ง่ายเลย ขอบคุณที่แสดงแนวคิดครับคุณToune

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผมชอบแนวคิดแบบคุณตวนนะคับ แต่อย่างไงผมว่าควรใช้ยาแรงบางก็ดีนะคับดัดหลังฝรั่งมันบางก็ดี ส่วนเรื่องเงินอย่าได้ไปสู้เลยจะเข้าทางต่างชาติเหมือนตอนปี 40อีก ขอบคุณคุณตวนที่ยอมเสียเวลามาให้ข้อมูลต่าง คับ !thk !thk

ทำแรงเลยไม่ได้ครับ เดี๋ยวต่างชาติตกใจขายเยอะ หุ้นลงแรงและเร็ว จะไปกันใหญ่ (จะถูกคนแถวนี้ด่ารึเปล่านะ?)

การเปลื่ยนแปลงอะไรที่มันเร็วเกินไปคนจะตั้งตัวไม่ทัน จะมีผลเสียมากกว่าผลดีครับ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่า

ถ้าค่าเงินหยุดแข็งค่า จะให้ดีได้ยินว่าแถว 32 บาทก็พอไหว แต่ตอนนี้เอาแค่ ยืนเหนือ 30 บาทได้ก็ดีมากแล้ว ถ้าผู้ส่งออกก็พอมีเวลาตั้งตัว ก็คิดว่าก็มีเวลาแก้ไขได้ไม่เสียหายมาก

พวกนำเข้า ก็จะยังได้ประโยชน์ เพราะค่าเงินบาท 30 บาท/ดอล ก็ยังถือว่าแข็งมาก

ถือว่าได้ประโยชน์กันทุกฝ่ายครับ

ถูกแก้ไข โดย TOUNE

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อยากให้ผู้ว่าแบงค์ชาติ กะ รัฐมนตรีคลัง เข้ามาอ่านจัง เพื่อจะคิดอะไรได้บ้าง สงสัยคงจะเรียนกันมาเยอะเกินไป เลยไม่รู้ว่าจะต้องเอาทฤษฏีไหนมาแก้ปัญหา 555

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะ !01 เรามีแฟนคลับด้วยหรือนี่ อยากให้คุณPuPuk ศึกษาเรียนรู้การลงทุนให้มากๆนะค่ะ ก่อนที่จะนำเงินมาลงทุนจริง ตลาดที่จะเข้าใกล้พันจุดแต่ละวันจะมีความผันผวนมากเพราะต่างฝ่ายก็กลัว ต่างชาติยังอยากซื้อ แต่คนไทยก็กล้าๆ กลัวๆ พอเห็นตลาดดันไม่ขึ้นก็จะทิ้งหุ้นทันที หุ้นที่ยังมีอัพไซด์ก็เหลือน้อยตัว นักวิเคราะห์ก็อยากเห็นพันจุด แต่ก็มักจะเตือนถ้าขึ้นก็ให้ขายทุกที ดัชนีก็เลยไม่ไปไหน คนที่ได้ก็เป็นโบรกจากค่าคอมมิสชั่น รายย่อยถ้าไม่ได้เฝ้าหน้าจอ หรือตามเหตุการณ์ไม่ทันก็มักจะติดตอย หรืออยากขายแต่ก็กลัวซื้อกลับไม่ได้ หากตลาดหุ้นยังขึ้นต่อได้ ไม่มีใครคาดเดาได้ถูกว่าต่างชาติจะซื้อแล้วดันดัชนีไปได้ถึงกี่จุดภายในปีนี้ก่อนที่จะขายเก็บกำไรกลับบ้าน ลงทุนก็ต้องหวังผลกำไรใช่ไหมค่ะ แล้วเค้าก็ลงทุนติดต่อกันมาหลายเดือนแล้ว ช่วงนี้รายย่อยก็มักจะเป็นเดทเทรด เก็งกำไรหรือถือหุ้นระยะสั้นๆ หากเข้าซื้อใหม่

 

พี่ก็ยังถือหุ้นไว้หลายตัวนะค่ะ และตอนนี้ก็สนใจลงทุน DW มาก ต้องเผ้าหน้าจอตลอด ทุกเย็นก็ต้องลุ้นว่าต่างชาติยังซื้อต่อยอดเท่าไร ทุกเข้าก็ต้องฟังกิมเอ็งสรุปการซื้อขายตลาดเพื่อนบ้านว่าต่างชาติซื้อหรือขายมากน้อยเท่าไร

 

คุณPuPuk ได้ศึกษาหรือเข้าสัมมนาเกี่ยวกับการลงทุนมากน้อยเพียงใด เว็บนี้ได้สมัครแล้วหรือยังค่ะ

http://www.tsi-thailand.org/

 

ปีนี้มีสัมมนาเหลือตามหัวข้อนี้ หัวข้อไหนเต็มแล้วเราก็ walk in หน้างานเลยค่ะ บางคนจองแล้วก็ไม่ได้ไป ยังไงก็ยังพอมีที่นั่งค่ะ พี่มักจะเข้าร่วมงานสัมมนาที่ฟรีเท่านั้นค่ะ !uu

 

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและน้ำใจขอพี่มากครับ ผมจะลองเข้าไปศึกษาดู แต่ผมเองไม่มีเวลาดูหน้าจอตลอด เพราะต้องเดินทางไปโน่นไปนี่

เลยไม่รุ้ว่าถ้าได้ลงทุนจริงจะตามตลาดได้ทันหรือปล่าว เพราะตลาดหุ้นเปลี่ยนแปลงไวมาก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คลังยุธปท.ใช้ยาแรง คุม"เงินร้อน"เก็งกำไร ค้านลดภาษีเครื่องจักร ชี้ไม่ช่วยแก้"บาทแข็ง"

 

........................."คลัง"จี้ ธปท. เร่งเข็นมาตราการคุมทุนนอกไหลเข้า ก่อนฉุด"จีดีพี"ปีหน้าโตไม่ถึง4-5% ประเมินแนวโน้มจ่อแตะ 28บาทในเร็วๆนี้ เตรียมชง ครม.ให้ผู้ประกอบการนำค่าเสื่อมเครื่องจักรมาหักภาษีได้มากขึ้น พร้อมค้านลดภาษีนำเข้าเครื่องจักรให้เหลือ 0%

 

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตามที่ คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติยกเลิกมาตรการยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15% สำหรับพันธบัตรของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ถือโดยนักลงทุนต่างประเทศ (Non-resident)ไป เมื่อเร็วๆ นี้เพื่อชะลอการไหลเข้าของเงินทุน (Capital Inflows) นั้น ล่าสุดยังไม่สามารถประเมินผลจากการออกมาตรการได้ โดย เนื่องจากข้อมูลตัวเลขเหล่านี้อยู่กับธปท.

 

อย่างไรก็ดี การแก้ไขปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่านั้น ตนมองว่า จะให้กระทรวงการคลังดำเนินการแก้ปัญหาฝ่ายเดียวคงไม่ได้ ต้องร่วมมือกันระหว่างผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยหากมาตรการปัจจุบันยังไม่สามารถคุมได้ ก็ควรมีมาตรการควบคุมการไหลเข้าของเงินทุน(Capital Control) ที่เป็น "ยาแรง"ออกมา เพื่อสกัดเงินทุนไหลเข้าที่เป็นเงินร้อนเข้ามาเก็งกำไรระยะสั้น

 

"ผมตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมข้อมูลเงินทุนไหลเข้าในส่วนของตลาดเงินไม่มีเลย ไม่เคยเห็น ธปท. ก็ไม่เคยบอกมี แต่รายงานในส่วนของตลาดทุน แล้วธนาคารพาณิชย์ก็ไม่เคยเห็นออกมาโวยวายเรื่องเงินบาทแข็งค่าเลย ซึ่งถ้ามีการเก็งกำไรก็ต้องทำผ่านธนาคารพาณิชย์ ผมว่า ธปท. ควรออกมาตรการแบบทีเดียวเอาให้น็อคไปเลย" นายจักรกฤศฏิ์ กล่าว

 

ขณะที่แหล่งข่าวจาก กระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อการ ขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย โดยในเบื้องต้นพบว่าขณะนี้ค่าเงินบาทตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นแล้ว ถึง 9% ทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจขยายตัวลดลงไปแล้วประมาณ 2.7%ทั้งนี้ การประเมินดังกล่าวอยู่ภายใต้สมมุติฐานที่การแข็งค่าของเงินบาททุก 1% จะมีผลกระทบกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 0.3% และกระทบกับการขยายตัวของภาคการส่งออก 0.4%

 

อย่างไรก็ตามผลกระทบกับการขยายตัวเศรษฐกิจดังกล่าว จะมีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2553 เพียงส่วนหนึ่ง เพราะผลกระทบของค่าเงินบาทเกิดขึ้นในช่วงท้ายปี2553แล้ว แต่หากค่าเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่องก็จะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยในปีหน่า อย่างแน่นอน อาจทำให้การคาดการณ์ที่คาดไว้จะขยายตัวได้ 4-5% ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เพราะในปี 2554 จะได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาททั้งปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ประกอบการจะปรับตัวรองรับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ได้ดีขนาดไหน หากรับได้ดีก็จะทำให้การขยายตัวเศรษฐกิจไม่ลดลงมาก แต่หากปรับตัวไม่ได้จนเกิดปัญหาดำเนินกิจการต่อไปไม่ได้ ก็จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยรุนแรง

 

สำหรับมาตรการที่ กระทรวงคลังจะออกมาเพิ่มเติม เพื่อดูแลผลกระทบของผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาท จะมีมาตรการภาษีให้ผู้ประกอบการหักค่าเสื่อมเครื่องจักรได้มากขึ้น จากที่ปัจุบันที่หักได้ 20% ภายใน 5 ปี ซึ่งจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ส่วนมาตรการลดภาษีนำเข้าเครื่องจักร 1-3% ให้เหลือ 0% เห็นว่าเป็นมาตรการที่ไม่น่าเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการมากนัก เพราะอัตราภาษีดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำอยู่แล้ว

 

"ที่ผ่านมานายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง และ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้พยายามผลักดันมาตรการภาษีหักค่าเสื่อมออกมา เพราะเห็นว่าการนำเครื่องจักรแต่ละปีมีมูลค่าถึง 7 แสนล้านบาท ทำให้ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์จำนวนมาก และจูงใจให้ผู้ประกอบการปรับตัวเร็วขึ้น แต่นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ดูแลกรมสรรพากร ยังไม่เห็นด้วย เพราะจะทำให้ กรมสรรพากรสูญเสียเงินภาษีถึง 1 หมื่นล้านบาท ทำให้ต้องถอนมาตรการนี้ออกมาจากการประชุม ครม. ครั้งที่ผ่านมา" แหล่งข่าว กล่าว

 

แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า มาตรการที่คลังผลักดันออกจะเป็นการบรรเทาผลกระทบกับผู้ประกอบการเท่านั้น ซึ่งผู้ประกอบการต้องปรับตัวกับภาวะเงินบาทแข็งให้ได้ โดยใน 1-2 ปีนี้คาดว่าค่าเงินบาทน่าจะทรงตัวอยู่ที่ 28-29 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่มีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะเมื่อเทียบกับเงินดอลล่าร์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องค่าเงินบาทก็ต้อง แข็งค่าขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามกลไกของระบบเศรษฐกิจ ไม่มีใครทำให้อ่อนค่าลงได้

 

นอกจากนี้ การดูแลค่าเงินบาทเป็นหน้าที่ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าจะไม่ออกมาตรการรุนแรงเหมือนการกันสำรอง 30% อย่างแน่นอน เพราะกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนมากกว่าที่จะได้ประโยชน์ ส่วนการลดดอกเบี้ยตามข้อเสนอของภาคเอกชน ก็เชื่อว่าจะหยุดให้ค่าเงินบาทไม่แข็งค่าขึ้นได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่หลังจากนั้นค่าเงินบาทก็ยังแข็งค่าต่อไป ตราบใดที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐและยุโรปยังคงอ่อนแอ

 

ที่มา http://www.naewna.com/news.asp?ID=232667

ถูกแก้ไข โดย TOUNE

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...