การดูจุดซื้อขายกองทุนระบบ trend following แบบบ้าน ๆ

[ngoodin 12,920]

ขอบคุณค่ะ คือ ให้ซื้อน้อยลง เป็นการจำกัดความเสี่ยงเพราะทุนอาจสูงขึ้น และออกตามสัญญานเดิม ดังนั้น ขบวนนี้จะไม่ตกรถ แต่ได้นั่งแค่ชั้นสามเพราะมาสาย ถูกมั้ยคะ

 

ครับ นั่งชั้นสามยังดีกว่าต้องรอรถขบวนต่อไป เพราะไม่รู้จะมาเมื่อไหร่

ระบบเรา กลัวการตกรถเป็นที่สุดครับ แต่เราไม่เคยกลัวติดดอย เพราะเราจะกระโดดที่เนินแรกก่อนจะพาไปดอยครับ

ถูกแก้ไข กันยายน 30, 2012 โดย ngoodin

[ส้มโอมือ 4,910]

ผมมีโพสเพิ่มเติมในเฟซผม(น่าจะจบเนื้อหาที่ผมต้องการสื่อแล้วครับ) เลยเอามาลงเพิ่มที่กระทู้นี้ด้วยครับ

 

อธิบายเพิ่มเติมส่วนของคุณงูดินครับ

3.1 หากกราฟมี bullish divergence ในเขต oversold ที่ rsi 14 ผมเข้าซื้อไม้แรก 30% ของพอร์ต

 

ดูกราฟsilverที่คุณงูดินลงที่หน้านี้ครับ จากรูปจะเห็นเส้นลากของราคาที่เฉียงลงและเส้นลากของRSIที่เฉียงขึ้นครับ

http://www.thaigold.info/Board/index.php?/topic/17-%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99/page__st__10635

 

ผมลองอธิบายในแนวของผมนะครับ ไม่รู้ว่าเพื่อนจะยิ่งงงมากขึ้นหรือเปล่า ผมผิดพลาดอย่างไรรบกวนคนเก่งTAช่วยแก้ไขด้วย นะครับ

---RSIคือกำลังของคลื่น กรณีคนที่ยังนับคลื่นไม่เก่ง ให้มองภาพใหญ่ของคลื่นก่อน หาคลื่น3จากRSIเพราะคลื่น3จะเป็นคลื่นที่มีกำลังทะลุทะลวงสูงสุด จุดที่มีRSIสูงสุดน่าจะเป็นคลื่น3 หลังจากนั้นก็หาคลื่นอื่นต่อ

---เซียนมวยเวลาดูมวย นอกจากว่าดูว่าใครชกดีกว่าคุมเกมส์มากกว่า เขาดูขาของหนักมวยด้วย ถ้านักมวยคนไหนขาหมดแรง เดินเป๋ ขาขยับไม่ไหว(แสดงว่ากำลังใกล้หมดแล้ว ถ้ายังเหลืออีกหลายยกคงไม่รอด) แต่นักมวยคนไหนดูเจียนอยู่เจียนไปแต่ขาเขามั่นคงมาก อาจเดาว่าเขามีแผนบางอย่างหรือรับเงินมาเพื่อแกล้งแพ้ช่วงแรก พอถึงเวลาอัดกลับทันทีคู่ต่อสู้ไม่ทันระวังถึงน็อค

---จากรูปSILVERที่คุณงูดินนำมาลง ราคาช่วงปลายกันยาเป็นLOWจุดที่1 ราคาปลายธันวาเป็นLOWจุดที่สอง(จุดที่สองต่ำกว่าจุดที่1 ลากได้เป็นเส้นเขียวเฉียงลงตามที่คุณงูดินลากไว้)

---แต่พอเรามาดูRSI กันบ้าง RSIที่ช่วงเวลาเดียวกัน RSIจุดที่สอง(ช่วงปลายธันวาคม)สูงกว่าRSI จุดที่1 ลากเส้นRSIปรากฎว่าเฉียงขึ้นตามที่คุณงูดินทำไว้

----ราคาเฉียงลง

----RSIเฉียงขึ้น

----ราคาลงแบบไม่มีกำลัง ถ้าลงแบบมีกำลังต้องเฉียงลงเหมือนกัน

----ถ้าราคากับRSIเกิดการขัดแย้งกันในช่วงRSIต่ำกว่า30 หรือสูงกว่า70 จะมีนัยทางTAมาก

----รู้แบบลักจำมานิดๆหน่อย ทำเองไม่เป็น ถ้าผมเข้าใจอะไรผิดช่วยเสริมหรือแก้ไขด้วยครับ

ถูกแก้ไข กันยายน 30, 2012 โดย ส้มโอมือ

[funnycandy 2]

ขอบคุณพี่งูดินและคุณส้มโอมือมากๆค่ะ ตอนนี้ขอเป็นแค่ใส้เดือนดินตัวน้อย ค่อยๆคืบคลานหาประสบการณ์ ขอขอบคุณน้ำใจงามๆที่นำข้อมูลมาแบ่งปันกันนะคะ ขอบคุณค่ะ ^_/\_^

[banggrow 10]

:01

[ส้มโอมือ 4,910]

---ผมมองว่าถ้าใช้MA5 กับMA13 ของยอดการซื้อหรือขายสุทธิของต่างชาติมาทำพล็อตเป็นข้อมูล MA5ตัดขึ้นซื้อ MA5ตัดลงขาย ผมว่าน่าสนใจนะ แต่ยังไม่มีเวลาทำ อีกอย่างอ่อนคอมอาจทำได้ช้าหรือทำไม่ได้ก็ได้ครับ ใครถนัดเรื่องแนวนี้และสนใจลองทำดูครับ ได้ผลอย่างไรแจ้งด้วยครับ

----ยอดซื้อขายสุทธิของต่างชาติรายวัน

http://siamchart.com/stock-summary/

[ส้มโอมือ 4,910]

เอาสิ่งที่ผมเขียนในเฟซผมมาแจมนะครับ แต่ถ้าไปดูในเฟซผมที่ทำเป็นpdfไฟล์ จะดูง่ายกว่าครับ

http://www.facebook.com/groups/135029796643588/144149145731653/

 

--ทาไมเถ้าแก่ที่เก่งๆบางคนที่วันๆขายของ จานวนมากมาย วันๆแทบไม่มีเวลาตามข่าวสารต่างๆ แต่ทาไมเขาคาดเดาได้ค่อนข้างแม่นว่าเขาจะตุนสินค้าตัวไหน สาหรับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับฤดูกาลยังพอบอกได้ว่าเขาดูฤดูกาล แต่สินค้าบางชนิดไม่มีฤดูกาลเขาก็เก็งกาไรได้ค่อนข้างแม่น TAต่างๆเขาคงไม่รู้จัก สูตรคานวณต่างๆหรือกราฟต่างๆเขาคงไม่รู้ ถ้าอย่างนั้นเขาคงศึกษาจากธรรมชาติรอบตัวเขาคือราคาสินค้าต่างๆ เมื่อเขาจับหลักได้เขาก็ใช้หลักนั้นในการเก็งกาไรสินค้า หลักที่เขาจับได้บางครั้งก็ถ่ายทอดให้ลูกหลาน เขาแค่มองธรรมชาติของราคาให้ออกก็พอ เกือบทุกอย่างในโลกนี้ธรรมชาติบอกเราเกือบหมดแล้ว

ทฤษฎีของดาว์นก็ได้จากการมองคลื่นในแม่น้า คลื่นในแม่น้าบอกอะไรเราเยอะมาก ๆ เชื่อมั้ยการขึ้นลงของระดับน้าในแม่น้าสอนอะไรเราเยอะ

1)เวลาเราไปที่แม่น้าเราจะมองไม่ออกว่าตอนนั้นเป็นน้าขึ้นหรือน้าลง แต่ถ้าเราให้เวลากับการมองระดับน้าสักช่วงนึงเราจะรู้ว่าช่วงเวลานั้นเป็น น้าขึ้นหรือน้าลง เช่นเรามองระดับน้าเป็นเวลา5นาที มองหาระดับที่ต่าที่สุดของระดับน้า

และสูงสุดของระดับน้าให้ได้(ถ้ามีเสาที่มีขีดบอกระดับความสูงแบบมีขีด เยอะๆ ยิ่งดี) จากนั้นทุก5นาทีเราหาจุดต่าสุดและสูงสุดของระดับน้าใหม่ ถ้าระดับน้าขยับเพิ่มขึ้นแสดงว่าอยู่ในช่วงขาขึ้น ถ้าระดับน้าต่าลงแสดงว่าเราอยู่ในแนวโน้มขาลง ในโลกของการลงทุนถ้าเราสามารถเข้าซื้อณจุดที่แนวโน้มเปลี่ยนจากลงเป็นขึ้น แล้ว เราจะมีกาไร

2)เวลาน้าลง น้าจะลงไปเรื่อยๆจนกว่าจะเปลี่ยนเป็นน้าขึ้นซึ่งกินเวลานานมาก เวลาน้าขึ้นน้าจะขึ้นไปเรื่อยๆจนกว่าจะเปลี่ยนเป็นน้าลง ช่วงเวลาน้าตาย น้านิ่ง (ระดับน้าทรงตัวไม่ไปไหน) ก็เหมือนตลาดsideway(ไม่ไปไหนขึ้นไม่นานก็ลง ลงไม่นานก็ขึ้น) ตลาดที่มีการเก็งกาไรจะไม่ชอบตลาดนิ่ง เพราะถ้าตลาดนิ่งเขาจะทากาไรไม่ได้ ดังนั้นตลาดที่มีการเก็งกาไรสุดท้ายจะเลือกขึ้นหรือลงเป็นส่วนใหญ่

สินค้าบางชนิดหรือหุ้นบางตัวอาจถูกละเลยหรือไม่มีคนสนใจเก็งกาไรเป็นเวลานานถึงนานมากๆ สินค้าที่ไม่มีคนสนใจเก็งกาไรอาจหยุดนิ่งนานหลายปีมาก ช่วงหุ้นไทยโดนต้มยากุ้งเล่นงาน หลังจากลงหนักก็น่าจะอยู่ช่วงไซด์เวย์นานเหมือนกัน ถ้าใครไปลงทุนกับตัวที่side wayนานหลายปีและยิ่งลงทุนตามระบบด้วยจะเสียกับตัวนั้นมากมาย ดังนั้นการลงทุนตามระบบควรกระจายไปสินค้าหลายกลุ่มที่แตกต่าง ไม่ใช่ลงหุ้นแค่อย่างเดียว(ถึงจะหลายกลุ่มหุ้นก็เถอะ) กระจายหลายกลุ่มการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง หุ้นหรือสินค้าที่ไม่มีคนสนใจก็เหมือนน้าในสระที่ไม่มีทางให้น้าไหลขึ้นหรือไหลลง ระดับน้าจะคงเดิมไปตลอดจนกว่าจะมีการเชื่อมต่อกับน้าในแม่น้า

3)เวลาน้าลงเราใช้อะไรเป็นจุดสังเกตว่าเปลี่ยนเป็นน้าขึ้นแล้ว ทุก10นาทีผมจะมองหาระดับที่สูงที่สุดของระดับน้าและจาตาแหน่งยอดคลื่นของ10 นาทีH1 นาที20ยอดคลื่นของH2 30H3…และHที่N

-- ช่วงน้าลงเมื่อไหร่ก็ตามที่ระดับน้าสูงกว่ายอดคลื่นก่อนหน้านี้ เป็นจุดน่าสนใจมากว่าน้าจะเริ่มเปลี่ยนทิศแล้ว

--ช่วงน้าขึ้นเมื่อไหร่ก็ตามที่ระดับน้าต่ากว่าท้องคลื่นก่อนหน้านี้ เป็นจุดน่าสนใจมากว่าน้าจะเริ่มเปลี่ยนทิศเป็นขาลงแล้ว

-ช่วงน้านิ่งก็คือมีการแกว่งตัวในกรอบแคบ เหมือนตีปิงปองโต้ไปโต้มา จะเกิดท้องคลื่นและยอดคลื่น แต่เมื่อไหร่ระดับน้าขยับสูงกว่ายอดคลื่นก่อนหน้านี้หรือลงต่ากว่าท้องคลื่น ก่อนหน้านี้ เป็นจุดน่าสนใจมาก อาจเป็นการเลือกข้างแล้วว่าจะไปทางไหน

4)ถ้าเอาราคาปิดรายวันของหุ้นหรือสินค้าต่างๆที่มีการเก็งกาไรมาพล็อคเป็นกราฟเส้น ถ้าเลือกขนาดscaleที่เหมาะสม เราจะเห็นเป็นคลื่น เมื่อเวลาผ่านไปจะเห็นมียอดคลื่นและท้องคลื่นเกิดขึ้น ยอดคลื่นและท้องคลื่นใหม่ที่เกิดขึ้นคือตัวที่ผมสนใจ สาหรับราคารายวันทางชมรมโฉลกใช้%ซิกแซก1%ในการกรองnoiseออกไป

ทองช่วงนี้คนส่วนมากมองว่าเป็นขาขึ้น ดังนั้นถ้าย่อตัวจะมีแรงรับมารับ หลายคนอยากซื้อจุดต่าสุดจุดไหนละ จุดย่อตัวเมื่อ20วันที่แล้วซื้อไม่ทันมันขึ้นไปก่อน(ท้องคลื่นครั้งที่แล้ว) ครั้งนี้ย่อตัวอีกแล้วต้องหาจังหวะซื้อ ยิ่งถึงจุดย่อตัวเมื่อ20วันที่แล้วที่ซื้อไม่ทัน คนยิ่งเข้าซื้อมากขึ้น ถ้ายังเป็นขาขึ้นอยู่จุดย่อตัวก่อนหน้านี้จะมีแรงรับเยอะครับ แต่ถ้าถึงจุดย่อตัวก่อนหน้านี้แล้วยังลงต่อแสดงว่าคนมองว่าจะลงต่อถึงไม่ เข้าไปรับและยังมีคนขายอีก

ถ้ามองขึ้นต่อย่อตัวต้องมีคนรับ ถ้าถึงจุดย่อตัวก่อนหน้านี้แล้วยังลงต่อแสดงว่าคนส่วนมากไม่ได้มองขึ้นแต่มองลงต่อถึงไม่มารับกัน

สาหรับแนวโน้มระยะยาวผมดูจากราคาปิดรายสัปดาห์ กฎของนิวตันเมื่อวัตถุเคลื่อนที่แล้วจะเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดแรง

หมดแรงเมื่อไหร่จุดย่อตัวก่อนหน้านี้ก็จะรับไม่อยู่ครับ

ด้านล่างยังมีต่อครับ เป็นรูปกราฟเลยต้องขึ้นหน้าใหม่

ส้มโอมือ

 

• 
  

---ดูกราฟจุดต่ายกสูงของคุณงูดินประกอบนะครับ แต่ผมใช้higher highเมื่อเกิดครั้งแรกเป็นจุดเข้าซื้อของผมครับ คือหุ้นลงจะต่าลงเรื่อยๆและอาจซึมไปช่วงใหญ่ ราคาเคลื่อไวไปเรื่อยๆ แต่เมื่อสร้างยอดคลื่นใหม่ที่สูงกว่ายอดคลื่นก่อนหน้านั้น(กราฟเส้นราย วัน%วิกแซก1%เพื่อลดสัญญาณรบกวน) ยอดคลื่นที่ผ่านมาถือเป็นแนวต้านครับ ถ้าผ่านแนวต้านได้ก็คือคนซื้อมากกว่าขาย(เริ่มเชื่อมั่น) ถ้าเข้าซื้อแล้วผิดทางก็ขายครับ

---ซื้อเมื่อเริ่มมีhigher high ครั้งแรก

---ขายเมื่อมีLower low คือย่อแล้วลงมาจนลงต่ากว่าท้องคลื่นก่อนหน้านั้นก็ขายครับ

----ช่วงราคาแกว่งตัวไปจะเกิดท้องคลื่นใหม่และยอดคลื่นใหม่เสมอ ดูยอดคลื่นและก้นคลื่นที่ใกล้สุดครับสุด พอเอาราคาปิดรายวันมาลงข้อมูลในกราฟ ทาเป็นกราฟเส้นใส่%ซิกแซก1% เพื่อลดคลื่นเล็กๆออกไป จะเห็นเป็นยอดคลื่นและทองคลื่นครับดูยอดคลื่นและท้องคลื่นที่ใกล้สุดครับ

-------------------------------------------------------------------------------------------------

เสริมอีกนิดนึง เวลาเราไปดูน้าในแม่น้า จะดูว่าช่วงนั้นเป็นน้าขึ้นหรือน้าลง ใช้เวลาสัก10กว่านาทีก็รู้แล้ว

----ถ้าเป็นน้าขึ้น จะสร้างยอดคลื่นทที่สูงกว่าเก่าและสร้างท้องคลื่นที่สูงกว่าเก่า ดูการเคลื่อนไหวของระดับน้าและสังเกตุท้องคลื่นและยอดคลื่น

----ถ้าเป็นน้าลง จะสร้างท้องคลื่นที่ต่ากว่าท้องคลื่นก่อนหน้านี้และสร้างยอดคลื่นต่ากว่ายอดคลื่นก่อนหน้านี้

---จะเข้าซื้อเมื่อเริ่มเปลี่ยนสัญญาณครั้งแรก เปลี่ยนจากลงเป็นขึ้นแล้ว จะขายเมื่อเริ่มเปลี่ยนสัญญาณครั้งแรกเหมือนกัน

---เขียวแรกซื้อ แดงแรกขาย

---การใช้ระบบนี้ จานวนครั้งที่จะผิดมากกว่าถูกเยอะนะ แต่ถ้าถูกทางอย่ารีบขายกินกาไรยาว กาไรยาวครั้งเดียวชดเชยที่เสียมาหลายครั้งได้และยังมีกาไรเหลือ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

ส้มโอมือ

---ระบบสาคัญแค่10% ที่เหลืออีก90คือ จิตวิทยา(ทาตามระบบให้ได)+money management

---กระจายไปหลายตลาดและหลายสินค้า เช่นถ้าคุณเล่นหุ้นอย่างเดียวถ้าช่วงนั้นเกิดภาวะแบบต้มยากุ้ง หุ้นทั้งตลาดตกกันหมดและตกยาวนาน ถ้าคุณเล่นหุ้นอย่างเดียวถึงเล่นตามระบบก็ขาดทุนมากนะ

ถ้าเราคิดว่าเรามีสูตรที่ดี เราเชื่อว่าสูตรนี้มีกาไรแน่ ทดสอบกับราคาย้อนหลังประมาณ10ปี ถ้าใช้ได้ก็โอเค ทดสอบกับหลายตลาดหลายตัว

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หลักของTREND Following

---เชื่อว่าตลาดมีเทรน

---ประวัติศาสตร์ซ้ารอยเดิมเสมอ

--อย่าอ่อนไหวกับข่าวสาร มีข่าวลือ ข่าวจริง ข่าวปล่อย ข่าวถึงเราเขาใช้ประโยชน์จากข่าวแล้ว ตามระบบพอ

--ราคาปิดของวันนั้นเป็นผลลัพธ์สุทธิจากเหตุการณ์ทุกอย่างแล้ว

[jewjang40 5,712]

[milo 888]

โอ้โห เพิ่งอ่านจบ เห็นคุณส้มโอมือพูดถึงแว้บๆ แต่ไม่เคยเข้ามาดู ที่ไหนได้ขุมทรัพย์ทั้งนั้นกระทู้นี้

[juy 97]

ขอบคุณกระทู้นี้ที่ให้โอกาส คนเพิ่งหัดลงทุน ค่อย ๆศึกษาตาม ไปเรื่อย ๆ มีค่ามากเลยค่ะ ทั้งผู้ถาม ผู้ตอบ เพราะปัญหาที่เราอยากรู้แต่บางทีก็ไม่ทราบว่าจะถามอย่างไร ขอบคุณทุก ๆท่านเลย ตามอ่านไปเรื่อย ๆนะคะ ถ้าพอมีเวลาอย่าลืมเขียนสอนเรื่อย ๆนะคะ เชื่อว่า คนมือใหม่ยังต้องการทราบมีอีกมาก

[ngoodin 12,920]

แนวทางการลงทุน ltf rmf ของผมในปี 2556

 

ปี 2556 นี้ผมครบกำหนดขายกองทุน ltf ที่ซื้อไว้ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา

แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ขายเพราะตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาขึ้นอยู่ macd ยืนเหนือเส้นสัญญาณผมก็ต้อง let profits run ต่อไปก่อน

 

คราวนี้ถ้าได้เวลาขายมีเงินกลับคืนมาแล้วจะทำอย่างไร

กองทุน ltf ไม่สาทารถสับเปลี่ยนไปพักเงินได้อีกต่อไป เพราะ กลต สั่งยกเลิกกองทุนประเภท strategic defensive ไปแล้ว เพราะกลัวนักลงทุนจะได้ประโยชน์มากเกินไป เนื่องจาก กลต ประเมินว่าในปี 2555 set น่าจะกลับเป็นขาลง ซิ่งเมื่อต้นปี 2555 ผมเองก็ประเมินว่าเป็นขาลงเช่นกันเพราะ set ขึ้นแรงติดๆกันมา 2 ปีแล้ว

แต่กลับกลายเป็นว่า set ย่อตัวแรงๆในช่วงต้นนแล้วยึกยักช่วงกลางปี แต่พอปลายปีดีดพุ่งแรงทำ new high หน้าตาเฉย

 

เมื่เป็นดังนี้การที่ยกเลิกกองทุน defensive แล้วบังคับให้นักลงทุนถือยาวกลับทำกำไรให้ได้มากกว่าการสับเปลี่ยนเสียอีก

ใครที่ครบขาย ltf ในปีนี้จึงได้กำไรตั๋งๆ รวมทั้งผมด้วย อิอิ

 

[ngoodin 12,920]

..

[ngoodin 12,920]

แล้วในปี 2556 ผมจะลงทุน ltf อย่างไร

 

อย่างที่บอกไว้แล้วว่าหากมีรายได้ฐานภาษีสูง การลงทุน ltf จะได้กำไรเห็นๆ อย่างน้อยปีละ 30% ซึ่งยากที่จะมีการทำธุรกิจใดๆในโลกนี้ที่จะให้ผลตอบแทนสูงมากขนาดนี้ได้ทุกปี

ถือว่ารัฐบาลที่ออกนโยบายนี้มาแต่ต้นเอื้อประโยชน์ให้คนรวยอย่างมากมาย

 

สามารถใช้เงินต่อเงินทำกำไรปีละ 30% ได้ไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งนี้ยังไม่รวม capital gain ที่ได้จากตลาดหุ้นเฉลี่ยปีละ 15-20% อีก

 

ตลาดหุ้นไทยทำ new high และขึ้นแรงๆมา 3 ปีแล้ว โอกาสที่ปีนี้จะเริ่มชะลอตัวแล้วกลับตัวลงก็มีมากขึ้นไปอีก

ในการลงทุน ltf ในปีนี้ผมจึงใช้ money management ในการลงทุนแบบ trend following เนื่องจากไม่สามารถสับเปลี่ยนได้อีก ซื้อแล้วต้องถือยาวถึง 3 ปีกว่า

การลงทุนทั้งหมดในคราวเดียวจึงเสี่ยงเกินไปสำหรับคนแก่อย่างผมแม้ขณะนี้ตลาดหุ้นยังเป็นขาขึ้นก็ตาม แต่อีกสองปีข้างหน้าอาจจะเป็นขาลงยาวๆได้เช่นกัน

[ngoodin 12,920]

ผมยังคงเข้าซื้อตาทสัญญาณระบบพ่อ macd อยู่ แต่ในแต่ละปีผมจะแบ่งเงินลงทุนของปีนั้นเป็น 5 ส่วนเท่าๆกัน แล้วซื้อทีละส่วนเมื่อ macd ตัดขึ้นในแต่ละรอบ ปกติแล้วในแต่ละปีจะมีรอบของ macd ประมาณ 3_4 รอบที่จะเป็น trend เล็กบ้างใหญ่บ้าง ถ้ารวมที่ตัดขึ้นหลอกๆด้วยก็ปีละ 7-8 ครั้ง

การแบ่งเงินเข้าซื้อทีละส่วน รวม 5 ส่วนต่อปี ก็จะซื้อได้หมดพอดีสิ้นปี

แต่ถ้าซื้อไม่หมด ก็เอาไว้เทซื้อช่วงโปรโมชั่น cash back ปลายปีครับ

 

[ngoodin 12,920]

สมมติว่าปีนี้ผมจะลงทุน ltf จำนวน 250,000 บาท ผมจะแบ่งเป็ 5 ส่วน ส่วนละ 50,000 บาท

เก็บเงินทั้งหมดไว้ในกองทุนตลาดเงิน k-money ก่อน

ดูสัญญาณ macd จากตลาดหุ้น ตอนนี้ยังยืนเหนือเส้นสัญญาณก็อยู่เฉยๆก่อน

รอจนตลาดกลับตัว macd ตัดลงก็ยังอยู่เฉยๆ รอต่อไปจน macd ตัดขึ้นอีกทีก็ค่อยเข้าซื้อ 50,000 บาท

จากนั้นก็รอตลาดลง macd ตัดลงก็อยู่เฉยๆอีก รอต่อไปจน macd ตัดขึ้นอีก ก็เข้าอีก 50,000 บาท

ทำอย่างนี้ไปจนครบปีครับ อันนี้คือระบบ trend following แบบทยอยซื้อทุกครั้งงที่ตลาดกลับเป็นขาขึ้น แต่ช่วงที่ตลาดเป็นขาลงเราก็ไม่ยุ่งกับมัน

ทำอย่างนี้ไปจนครบ 5 ปีปฏิทินแล้วค่อยสั่งขายทั้งหมดเมื่อ macd ตัดลงตอนครบกำหนดขายครับ

 

วิธีนี้คือการทยอยสะสมหุ้นนั่นเองซึ่งสามารถใช้ในการสะสมหุ้นหรือกองทุนเพื่อกินปันผลได้ด้วย เป็นวิธีง่ายๆที่ได้กำไรแน่นอน แต่ต้องใช้เวลาสักหน่อย จึงเหมาะกับการลงทุน ltf ในปัจจุบันครับ

ถูกแก้ไข มกราคม 5, 2013 โดย ngoodin

[ngoodin 12,920]

ส่วนการลงทุนใน rmf ยังคงสับเปลี่ยนได้ตามปกติ ผมคงพักเงินไว้ที่ ksfrmf ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ในช่วงตลาดหุ้นเป็นขาลง และพอ macd ตัดขึ้นค่อยสับเปลี่ยนไปเข้า keqrmf ครับ ส่วนกองทุน rmf ทองคำ นั้น ผมใช้ของธนชาต พักเงินใน nmrmf ตอนที่ทองคำเป็นขาลง และเมื่อ macd ตัดขึ้นค่อยสับไปเข้า t-gold-rmf-H ครับ

 

อ้อ สำหรับกอง ltf ผมจะลงทุนใน k70ltf เพราะมีสัดส่วน 70-30 ในตลาดหุ้นกับตราสารหนี้ จึงมีความเสี่ยงต่ำกว่า ltf ที่ลงในหุ้นอย่างเดียวครับ ในเมื่อถูกบังคับให้ถือยาวผมก็เลือกความเสี่ยงต่ำไว้ก่อนครับ