ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ทำไมวันนี้ ทองร่วงจังเลยคะ :huh:

จองหนังสือ พร้อมลายเซ็นต์ 1 เล่ม ค่ะ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทำไมวันนี้ ทองร่วงจังเลยคะ :huh:

จองหนังสือ พร้อมลายเซ็นต์ 1 เล่ม ค่ะ :lol:

 

ผมว่าเพราะ ประกาศผลเศรษฐกิจเมกาที่ดีขั้น กับ spdr จัดใ้ห้ไปอี 4 ตันกว่าๆนะครับ

 

ทองร่วงเราซื้อ ทองขึ้นเรายิ้ม :rolleyes: :rolleyes:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คนอื่นผมไม่รู้ แต่ช่วงต้นปีหุ้นขึ้น ขายทองไปซื้อหุ้น

แล้วพอกลางเดือนก็ขายหุ้นมาซื้อทอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ,

ผมก็เป็นเด็กใหม่ในกระทู้ ค้นหาเจอกระทู้บทความของคุณ เน็ก โดยบังเอิญ ครับ ...ได้อ่านแล้วติดใจ เลยแนะนำให้เพื่อนฝูงหลายคนเข้ามาอ่านด้วยครับ

 

บทความของคุณเน็กทำให้ผมที่ไม่ได้จบเศรษฐศาสตร์ เข้าใจหลักเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นมากขึ้นครับ

 

หากมีเป็นหนังสือได้ผมว่าน่าจะเป็นหนังสือเศรษฐศาสตร์เบื้องต้นที่ดีเล่มนึงเลยครับ....

 

ถ้ามีออกเป็นหนังสือจริงๆ ผมขอจองซัก 10 เล่มเลยครับ (ถ้าไม่แพง.. ขอร้อยเล่มไว้แจกเป็นวิทยาทานให้ลูกหลานและเพื่อนฝูงครับ)

 

 

 

ผมยังมีข้อสงสัยบางประการครับ... จึงขอเรียนถาม คุณ เน็ก หรือเพื่อนในกระทู้ผู้มีความรู้ช่วยตอบครับ

 

1. สมัยที่เริ่มมีการใช้ ธนบัตรเป็นตัวแทนการแลกเปลี่ยน รัฐบาลจะแจกจ่ายให้ประชาชนยังไงครับ?

 

ในเมื่อเริ่มจากไม่มีใครมีธนบัตรเลย นอกจากรัฐบาล

 

 

2. การพิมพ์แบงค์เพิ่ม ทำให้เงินด้อยค่าลงได้อย่างไร?

 

ในเมื่อการพิมพ์แบงค์เพิ่ม ไม่ได้หมายถึงราคาสินค้าที่แพงขึ้น

 

3. อะไรเป็นเหตุให้ค่าเงินแต่ละประเทศไม่เท่ากันครับ เช่น ทำไม 1 US dollar ไม่เท่ากับ 1 Thai Baht?

 

ในเมื่อตอนเริ่มต้นกำหนดค่า 35$ = 1 ounce gold แล้วทำไมจะกำหนด 35 Thai Baht = 1 ounce gold ไม่ได้ละครับ

 

อาจเป็นคำถามโง่ๆครับ แต่ผมยังไม่เข้าใจจริงๆครับ... หากใครไขข้อข้องใจให้ผมได้ จักเป็นพระคุณอย่างสูงครับ

 

ถือว่า เป็นทาน ให้ผู้โง่เขลาละกันครับ

 

 

ขอบคุณครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เห็นด้วยกับคุณkenshin คุณเขียนได้ตรงใจจังเลยค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณกับความรู้และบทความของคุณNextที่ทำให้เราได้หยุดคิด !21 และดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวังและมีแบบแผนขึ้น !thk !01 ขอลงชื่อจองหนังสือพร้อมลายเซ็นด้วยนะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:) สวัสดีค่ะคุณเน็กซ์ มิสเคลุ้นทองให้ลงอยู่ค่ะจะได้เก็บเพิ่มอีก ^_^ ^_^

มาลงชื่อทักทายค่ะ :wub: :wub:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ต้องขอคุณ เน็กซ์...ช่วยโพสต์เร็วขึ้นอีกนิดครับ..อ่านแล้วรู้สึกว่าทุกอย่างไปเร็วกว่าที่คิดมาก...ถึงไม่มีเงินหรือทองมากพอที่จะทำกำไรจำนวนมาก...แต่ก็อยากรู้สาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น-เป็นเพราะอะไร? จะได้เฝ้าติดตามเป็นกรณีศึกษา...เงินอ่อน-เงินแข็ง-ทองขึ้น-ทองลง...??ถ้าขอมากไป ต้องขอโทษด้วย..นะครับ

 

 

 

ได้เลยครับ ขออภัยที่โพสไม่ค่อยเป้นเวลาด้วยนะครับ ยังไงจะขยันโพสให้มากขึ้นสมกับ "ระยะประชิด"

กำไรจากทองอย่าไปลงอ่างหมดนะครับ คุณคนหลงอ่าง (ฮา) :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

bullandbear.jpg

 

 

 

ธรรมชาติตลาดกระทิง(Bull Market)

 

วันนี้ปากกาขายดีแน่ๆ เซียนทำหักกันหลายคน ทองคำและเงิน (Gold and Silver)

โดนทุบราคาลงมาอย่างหนักถึง 30$ ภายในคืนเดียว เหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่

เคยเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง นั่นเพราะราคาทองคำไม่ได้ขึ้นเป็นเส้นตรง ทุกวันๆ

ถึงจุดหนึ่งมันจะมีการปรับฐาน-พักตัว แต่ในระยะยาวแล้ว

 

 

“ทุกอย่างยังเหมือนเดิม”

 

 

ปัจจัยพื้นฐานไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง อารมณ์ของตลาดต่างหากที่เปลี่ยน สิ่งเหล่านี้เป็น “ธรรมชาติ”

การลงแรงๆ ของราคาทองคำ หลายต่อหลายครั้งในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ไม่ได้มีความหมายอะไร

(สุดท้ายก็ขึ้นคืนกลับมาตลอด)การลงของทองคำเมื่อวานก็เช่นกัน

 

 

นั่นทำให้ผมเคยเตือนเพื่อนๆสมาชิกว่า อย่าเพิ่งเข้าเทรด Gold Future เพราะการลงแรงๆ

ลักษณะนี้เกิดขึ้นได้เป็นเรื่องธรรมดา แต่Margin เราจะโดนกวาดทิ้ง หากเราขายตัดขาดทุนหรือ

ไม่สามารถหาเงินมาเติมหลักประกันได้จนโดนบังคับขาย (Force Sell) นั่นเท่ากับว่า

เราจะโดนเชิญให้ออกจากตลาด

 

ใครที่อ่านบทความผมแล้วเห็นว่าทองจะขึ้น เลยซื้อสัญญา Gold Future เยอะๆเข้าไว้

บางทีอาจจะไม่ได้ง่ายและไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

 

วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจและศึกษาธรรมชาติของตลาดกระทิงกันก่อนลงสู่สนามครับ

ขึ้นชื่อว่ากระทิง นั้นต้อง “พยศ” แน่ๆ หากคิดจะขึ้นขี่ จึงต้องรู้วิธี.

 

 

:excl: ธรรมชาติ ข้อที่ 1 : ตลาดกระทิงเวลาขึ้น-ขึ้นบันได / แต่เวลาลง–ลงลิฟท์

 

 

อาจารย์ผมสอนไว้ว่า ในภาวะตลาดขาขึ้นนั้น ราคาจะทำการไต่ระดับค่อยๆขึ้นๆ ใช้เวลาพอสมควร

แต่เวลาลงนั้นจะลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว สาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะ

 

ตลาดจะทำการ “กำจัดผู้เล่นที่มาทีหลังให้ออกจากตลาดไปก่อน”

 

สังเกตจากล่าสุด ราคาทองคำใช้เวลาถึง 1 อาทิตย์กว่าจะปรับขึ้น 400 บาท (ถือว่าขึ้นเร็วแล้วนะครับ)

แต่เวลาลง 400 บาทนั้น เกิดขึ้นได้ภายในคืนเดียว

 

“เปรียบไปก็เหมือนกระทิงตัวนี้ จะสะบัดคนให้ตกจากหลังมันให้มากที่สุดก่อน แล้วค่อยวิ่ง”

 

นักลงทุนที่รอให้ราคาตลาดขึ้นไปเรื่อยๆ จนมั่นใจว่าขึ้นแน่ๆ แล้วค่อยซื้อจึง

มักจบลงโดยการ “ตัดขาดทุน” ผู้เล่นที่จิตใจไม่มั่นคง และปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล+ปัจจัยพื้นฐาน

จึงมักจะเป็นผู้แพ้ และจบลงด้วยการเสียตังค์

 

ตรงกันข้ามกับตลาดหมี (Bear Market) ตลาดนี้เวลาขึ้น-ขึ้นลิฟท์ แต่เวลาลง-ลงบันได

ราคาจะปรับตัวขึ้นแรง เพื่อเรียกความมั่นใจให้กับนักลงทุนว่าราคาขึ้นแน่ๆ จนกระโจนเข้าใส่

แต่หลังจากนั้นก็เป็นแค่การขึ้นหลอก ค่อยๆตกกลับลงมาเรื่อยๆ ไม่ให้เรารู้ตัว

 

 

:excl: ธรรมชาติข้อที่ 2 : ในตลาดกระทิงคุณต้องกล้าซื้อเมื่อมันลง

 

 

“Buy the dip" คือหัวใจสำคัญในการเข้าสู่ตลาด

เหมือนอย่างที่ วอร์เรน บัฟเฟต เคยพูดไว้ว่า “ต้องกล้าในเวลาที่คนอื่นกลัว” ในภาวะ ที่คนส่วนมากในตลาด

นั้นมีการเทขายอย่างรุนแรง (Sell off) หากเรามองที่อีกด้าน มีคนจำนวนหนึ่ง “รับซื้อ” อยู่

หากไม่มีคนซื้อก็เกิดการซื้อขายไม่ได้) คนเหล่านี้เป็นใคร ?? ทำไมมองต่างจากคนอื่น ??

 

คนเหล่านี้คือ ผู้เล่นที่ฉลาด (Smart Money) กล้าซื้อในเวลาที่คนอื่นไม่ซื้อ

สำหรับตลาดทองคำนั้น บอกได้เลยว่า ยิ่งลงแรง เราควรจะดีใจ

 

เพราะยิ่งลงมาก หมายความว่า ประตูแห่งโอกาสเปิดกว้างมากขึ้นตามไปด้วย

(The bigger sell off The bigger buying opportunity)

 

ใช้จังหวะแบบนี้เติมทองคำในพอร์ทของคุณ แล้วกอดมันไว้แน่นๆ นะครับ

 

 

:excl: ธรรมชาติข้อที่ 3 : “เซอร์ไพรส์” ทองขึ้น !

 

 

พวกเรามักจะคอยติดตามและอ่านข่าวกันอย่างหนัก เพื่อที่จะได้คาดเดาราคาได้ถูก แท้จริงแล้ว

 

ราคาต่างหากที่กำหนดข่าว -ไม่ใช่ข่าวกำหนดราคา

 

หลายต่อหลายครั้งนักลงทุนแม้จะติดตามอ่านข่าวทุกสำนัก ก็ยังขาดทุน นั่นเพราะ ราคามันจะวิ่งลงหรือขึ้นก่อน

ข่าวค่อยตามมาสนับสนุน ทีหลังเป็นแบบนี้อยู่ทุกครั้งไป เราจึงคิดไปว่า "ตลาดที่เราลงทุนอยู่นี่ สมเหตุสมผลจริงๆ"(มีข่าวรองรับตลอด)

แต่หากเป็นอย่างนั้นจริง คนที่จะกำไรจากการลงทุนมากที่สุด ควรจะเป็น นักข่าว

เพราะเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้เร็วกว่าคนอื่น แต่ก็ยังเห็นมานั่งอ่านข่าวให้เราฟังทุกวันเหมือนเดิม

 

ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ศึกษาหาข้อมูลนะครับ แต่ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่การอ่านข่าว

แต่อยู่ที่การ เอาข่าวมาวิเคราะห์ ถึงผลที่จะตามมาในอนาคตมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นความน่าเชื่อถือของข่าวก็มีส่วนสำคัญ

 

หลายปีที่ผมเฝ้าติดตาม ตลาดทองคำ หลายต่อหลายครั้งทองขึ้นในช่วงเวลาที่เราคาดไม่ถึง

ทำให้เราประหลาดใจและซื้อไม่ทันอยู่บ่อยๆ การไม่มีทองคำติดพอร์ทเลยทำให้เราพลาดโอกาสแบบนี้

 

 

:excl: ธรรมชาติ ข้อที่ 4 : หากไม่หวังกินรอบเล็ก ก็จะไม่พลาดรอบใหญ่

 

 

เทรนหลักของตลาดทองคำ คือ “ขึ้น” ลองมาย้อนดูกันครับ

 

10 ปี

 

 

au3650nyb.gif

 

 

 

5 ปี

 

 

au1825nyb.gif

 

 

 

ปีเดียว

 

 

 

au0365nyb.gif

 

 

 

 

หรือจะแค่ 6 เดือน

 

 

au0182nyb.gif

 

 

 

 

พอเราถอยห่างออกมาดู กราฟในระยะกลางและระยะยาวแล้ว ก็พบว่า ทิศทาง เป็นไปในลักษณะเดียวกันคือ “ขึ้น”

 

“การซื้อแล้วถือรออย่างอดทน จะทำให้เราได้ผลตอบแทน ที่ดีกว่าการ ซื้อๆขายๆ เข้าๆออก พยายามจะทำรอบ”

 

คนที่ยืนยันเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนที่ใครหลายๆคนยึดเป็นต้นแบบ

 

ดร.บอกว่า การลงทุนก็เหมือนการขับรถ จุดหมายปลายทางคือความสำเร็จ

บางครั้งระหว่างทาง เลนที่เราขับมันดูติดขัดเหลือเกินเมื่อเทียบกับเลนข้างๆ

พอเราเห็นอย่างนี้ เราจึงชอบ “เปลี่ยนเลน”

 

เคยมั๊ยครับ ? เลนข้างๆ วิ่งฉิว แต่พอเราเปลี่ยนเลนไปเท่านั้น

ติดทันทีเลย ส่วนเลนเก่าของเราวิ่งแซงไปซะอย่างงั้น

 

:rolleyes: การที่เราเห็น คันอื่นพยายามเปลี่ยนเลนไปมาบ่อยๆ

ดูเหมือนเค้าจะไปได้ไวกว่าเรา เอาเข้าจริงๆ อาจจะไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้

 

:rolleyes: การซื้อทองคำแล้วติดดอยไม่ได้กำไร เทียบกับคนอื่น

ซื้อๆขายๆ เล่นรอบ ทำกำไรบ่อย ๆ เหมือนเค้าจะไปไวกว่าเรา ท้ายที่สุด พอทองขึ้นเค้าอาจจะ

ไม่ได้กำไรเหมือนอย่างที่เราคิดก็ได้

นอกจากนี้การเปลี่ยนเลน ปาดแซงบ่อยๆ ยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ (ขาดทุน) อีกด้วย

 

ด้วยเหตุนี้ การลงทุนที่ดี บางทีมันน่าเบื่อครับ เปรียบเหมือนเรา วิ่งเลนขวาเลนเดียวไปเลย

มันติดบ้างช้าบ้าง “รอเถอะครับ”

ปลอดภัยคุ้มค่ารอและถึงจุดหมายปลายทางแน่นอน

 

หากยังไม่ชัดเจน ผมอยากจะเทียบกับการ “หุงข้าว” พอร์ททองคำของเรานั้น

หากว่าอยากจะให้สุกงอมและออกมาสวยน่ารับประทาน ต้องให้เวลามันครับ

 

หากคุณใจร้อนเปิดฝาหม้อดูบ่อยๆ สุดท้าย คงได้กินข้าวแข็งๆ

อดใจรอ จนสวิตซ์ มันดีดเองเถอะครับ รับรองข้าวสวยฟูได้ที่แน่ๆครับ.

 

 

:excl: ธรรมชาติ ข้อที่ 5 :อย่าปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล

 

ทุกอย่างที่ผมได้พูดมา ในทุกบทความ คือ“สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจริง” หากว่าคุณเชื่อและรู้แบบนี้แล้ว

สิ่งเดียวที่จะขัดขวางไม่ให้คุณได้เข้าร่วมในโอกาสทอง (จริงๆ) ครั้งนี้

ก็คงเหลือแต่ “อารมณ์” ของคุณเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

 

นักลงทุน หลายคนที่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะปล่อยให้อารมณ์เข้ามาครอบงำเหนือเหตุผลที่ตัวเองรับรู้

แผนการที่วางเอาไว้เลยพังไม่เป็นท่า

 

เลิกทรมานตัวเองด้วยการจ้องราคาอยู่หน้าคอมพ์แล้วลุ้นระทึกไปกับมันเถอะครับ

มองไปในระยะยาวดีกว่า ไม่วุ่นวายใจ-หลับสบายทุกคืนครับ

 

 

ตลาดทองคำปี 2011 ผมเชื่อว่า ราคาสวิงไปมาต้องมีอยู่แล้ว

การขึ้นลง ระดับ 5-10% นั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้

แต่เนื่องจากฐานของทองคำมันกว้างขึ้น

 

เช่น

 

- ทองบาทละ 10,000 : ขึ้นลง 5-10% คือ 500-1000 บาท

 

- แต่ตอนนี้ทองบาทละ 20,000 : ขึ้นลง 5-10% เลยกลายเป็น 1,000-2,000 บาท

 

การเคลิ่อนไหวระดับนี้อาจจะดูหวือหวา แต่เราต้องทำใจรับมันให้ได้ เพราะท้ายที่สุด

ทิศทางยังเป็นขาขึ้น

 

ในปี 2011 นี้ผมขอคาดการณ์แบบ "ถ่อมตัวและกลัวผิด" ว่า

อย่างน้อย เราน่าจะได้เห็น ราคาทองคำที่ระดับ 22,000-23,000 ต่อบาท

แต่หากเข้า Mania Phase แล้ว ระดับราคาที่ว่านี้ถือว่าจิ๊บๆ ครับ

 

 

ปล. ลุ้นเหนื่อยเลยครับสำหรับเป้าของลุงจิม : Widget ผมแจ้งเตือนว่าเหลือเวลาอีกเพียง 9 วัน

ผมเฝ้านับมา ตั้งแต่ 400 กว่าวัน ก็จะขอลุ้นกับลุงไปจนถึงที่สุดหละครับ ตามกันต่อไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคะคุณเน็กซ์ . ดีใจที่อยู่ตอนคุณเน็กซ์ว่างเข้ามาพอดี

 

แต่อีกเดี๋ยวหนูต้องไปทำธุระแล้ว (ไม่รู้จะได้เก็บ New high ให้หรือเปล่า อิอิ)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ คุณ Next ขอบคุณมากๆครับสำหรับบทความดีๆ

 

เงิน(SI)ในไทยนั้นมีขายเเบบเป็นเม็ดเงิน เค้าเอามาใช้ในงาน จิวรี่เป็นหลักในไทยอะครับ

ตอนต้นปีที่เเล้วราคา 15,000 เองตอนนี้จะ 35,000 เเล้ว น่าสนใจมากๆครับ

 

 

ขอบคุณมากๆครับ

เสม

 

 

เม็ดเงินที่ใช้ในงาน จิวรี่ มันมีหลายเกรดน่ะครับ จำได้ตอนนั้นยังไปหิ้วกับแฟนเก่าแถวๆตรอกข้าวสารเลยครับ ผมจำได้ว่าหิ้วมาถุงใหญ่พอควร(ตอนนั้นไม่กี่พันเองครับ ไม่เกิน 3000 แน่นอน) แล้วอย่างนี้ถ้าจะเอามาเก็งกำไรเราต้องดูเกรดของมันเปล่าครับ ขอบคุณมากครับ

 

 

 

หากจะซื้อลงทุนเน้นว่าต้อง "เพียว"(Pure) เท่านั้นนะครับ 99.99% สถานเดียว

หากซื้อเป็น Silver Sterling 92.5% นั้นไม่เหมาะครับ

ลองสอบถามจากร้านที่ขายด้วยนะครับ

ถูกแก้ไข โดย Nexttonothing

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคะคุณเน็กซ์ . ดีใจที่อยู่ตอนคุณเน็กซ์ว่างเข้ามาพอดี

 

แต่อีกเดี๋ยวหนูต้องไปทำธุระแล้ว (ไม่รู้จะได้เก็บ New high ให้หรือเปล่า อิอิ)

 

 

 

สวัสดีครับ ขอให้วันนี้เป้นวันที่ดีของ คุณtiny นะครับ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากครับ บางครั้งอารมณ์ก็ อยู่เหนือเหตุผลเหมือนกันครับ

ถูกแก้ไข โดย psycho

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ความคืบหน้าของหนังสือ โอกาสทอง(จริงๆ) ตอนนี้ฉบับต้นแบบ อยู่ในมือผมแ้ล้วครับ ขอแก้ไขการจัดวางหน้าอีกนิดครับ

ปลื้มใจมากๆ ที่มีคนสนใจ ขอบพระคุณล่วงหน้าเลยนะครับ :rolleyes:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...