ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ก็อปมาฝากครับ

 

ด่วนครับพี่น้องขบวนการโจรการเงินโลกโดนถลกหนังแล้วครับ ความชั่วช้าและฉ้อฉลครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเงินและเศรษฐกิจโลกกำลังถูกสอบหนักครับ "ปั่น Libor" ครับ เรื่องนี้ใหญ่มากครับ ผมว่ามันจะทำเอากรณีอื้อฉาวต่างๆทั้ง Enron, Lehman, AIG หรือพวกบริษัทเรตติ้งต่างๆเป็นเรื่องกระจอกไปเลยครับ เพราะนี่ถือว่าเป็นอาชญกรรมที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกก็ว่าได้

 

 

http://www.muslimtoday.in.th/?modules=article&id=2149

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ก็อปมาฝากครับ

 

Jimmy Siri ญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรสหรัฐอยู่ในอันดับ 3 ของโลก รองจาก FED และจีน ซึ่งน่าจะเป็นอะไรที่ญี่ปุ่นน่าจะพิจารณาเทขายออกมาก่อนเป็นอันดับแรก หากต้องการระดมเงินกันจริงๆ ต้องเทขายในปริมาณที่มีนัยสำคัญเลยละครับ ถ้าญี่ปุ่นเทขายทองคำออกมาจริงตามที่เป็นข่าว ซึ่งผมกำลังหาดูสำนักข่าวที่ปล่อยข่าวเรื่องนี้ออกมา ช่วงกลางวันเห็นอยู่แว๊บหนึ่งใน Kitco อาจจะมีมือดีอาศัยช่วงชุลมุนอาศัยปล่อยข่าวเรื่องนี้ออกมาก็เป็นได้ครับ ซึ่งก็ได้ผล ถ้าหากญี่ปุ่นขายทองจริงๆ แล้ว ตลาดในตอนนี้แย่งกันซื้อครับ กลุ่มแรกเลยที่ซื้อน่าจะเป็นพวกขาใหญ่ที่ต้องซื้อเพื่อไปส่งมอบสัญญาช๊อตในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ นอกจากนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นจีน รัสเซีย อินเดียก็รอเข้าแถวซื้ออยู่ครับ // โดยเฉพาะการประกาศอัดเงินเข้าระบบปริมาณมหาศาลอย่างที่ประกาศออกมาเมื่อ 2 วันนี้ เงินเหล่านั้นมาจากไหน ก็ต้องจับตาดูครับว่าจะเป็นการประกาศพิมพ์เงินลอยๆออกมาจากอากาศแล้วอัดเข้าระบบ หรือ QE อย่างที่สหรัฐทำ หรือจะมีการขายสินทรัพย์ใดๆ อย่างที่เป็นข่าวหรือไม่ เพราะการขายตรงนี้จะเป็นตัวบอกถึงที่มาของเงินที่ประกาศอัดเข้าระบบ ซึ่งในระดับโลกก็คงเป็นความเข้าใจว่าต้องทำครับ แต่ระบบการเงินก็ต้องเป็นระบบ ถ้าหากไม่มีการขายทรัพย์สินใดๆ เลยตามที่เป็นข่าวเงินเยนก็ต้องเสื่อมค่าลงในลักษณะเดียวกับการประกาศ QE ของสหรัฐเช่นกัน // ในด้านมูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประเมิณคร่าวๆ อาจจะสูงถึง $1 Trillion ครับ เรียกได้ว่าร้ายแรงที่สุดตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา หรือก็คือจะต้องกลับไปสู่ยุคสร้างชาตินั่นเลยครับ มีมุมหนึ่งที่น่าสนใจคือ GDP ของญี่ปุ่นอาจจะมีการกระทบกระเทือนนิดหน่อย เพราะตัวเลข GDP โดยพื้นฐานไม่ได้คำนาณจากทรัพย์สินของประเทศที่มีอยู่หรือเสียหายไป แต่การฟื้นฟูตรงนี้กลับเป็นผลดีกับเศรษฐกิจที่แน่นิ่งมานับ 10 ปี ของญี่ปุ่นเอง คือจะต้องมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างมากมาย ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการใช้จ่ายไปในตัว เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่ในมุมมืดขนาดไหนก็ยังพอมีแสงสว่างอยู่บ้างครับ...

ขอพูดเพิ่มเติมในส่วนข้อความสีแดงหน่อยนะครับ จริงๆว่าจะพูดเรื่องนี้หลายวันแล้วแต่จะดูไม่ค่อยเหมาะสมนัก แต่ในโลกของการลงทุนต้องตัดอารมณ์ออกไป

สงสารก็ช่วยบริจาคตามกำลังศรัทธา ช่วงที่เศรษฐกิจซบเซาอย่างยาวนาน รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามกระตุ้นอย่างหนักและหลายรอบแต่ก็ไม่ได้ผล รัฐบาลใช้จ่ายเงินไปมากจนเป็นหนี้น่าจะถึง200%ของGDP(ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง)แต่ไร้ผล สุดท้ายเมื่อเกิดแผ่นดินไหวอย่างหนักที่โกเบ หลังจากนั้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นขยับดีขึ้นอย่างชัดเจน ความเสียหายครั้งนั้นทำให้ต้องสร้างบ้าน สร้างถนน สร้างเมืองและอื่นๆมากมายกันใหม่ เงินที่ภาครัฐและเอกชนใช้จ่ายลงไปทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นพลิกฟื้นขึ้นมาก

แผ่นดินไหวครั้งนี้เสียหายอย่างมากมาย แค่รถที่พังไปแล้วต้องซื้อมาใชกันใหม่ก็มหาศาลแล้ว แต่ที่น่าเศร้าใจคือเรื่องของสารกัมมันตภาพรังสี(สิ่งนี้อาจทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟุบแบบไม่ฟื้นทั้งๆที่มีการใช้จ่ายเงินอย่างมากมายก็ได้) สึนามิครั้งนี้รุนแรงมากๆแต่สิ่งที่เกิดตามมายิ่งน่ากลัวสุดๆ

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณ คุณMOR LEK สำหรับข่าวคะ

ถูกแก้ไข โดย nicole 101

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:rolleyes: สึนามิรอบนี้จะทำใ้ห้ญี่ปุ่น ตกในกับดักเดียวกับอเมริกา คือต้องพิมพ์เงินมาใช้อีกหลายระลอก

 

จำนวนมหาศาล

 

อย่างรอบนี้ก็ประมาณ 2-3 แสนล้านเหรียญ เค้าประเมินความเสียหายไว้ 1 ล้านล้านเหรียญ

 

ตอนแรกผมคิดว่าน้อยจัง เพราะดันไปเทียบกับอเมริกา ที่พิมพ์มา 2-3 ล้าน ล้าน เหรียญ แล้ว

 

แต่พอมาเทียบกับประเทศไทยเราเองก็ตกใจ เรามีเงินทุนสำรองอยู่ 1.7 แสนล้านเหรียญ

 

เลยมองว่า แต่ละประเทศเนี่ย พิมพ์เงินกันมากมายมหาศาลเลยนะครับ

 

คนที่บริจาคข้าวของ บริจาค เงิน ผมก็ขออนุโมทนาในความเมตตากรุณาของทุก ๆ ท่านมาก

 

แต่พอดูยอดเงินที่รัฐบาล ญี่ปุ่นพิมพ์ขึ้นมาแล้ว มากกว่าเงินทุนสำรองของเราเสียอีก มากกว่า GDP เราอีก

 

สงสัยเราเป็นมด กำลังจะไปช่วยช้างละมั้งเนี่ย คณะรัฐมนตรี บริจาค 5 ล้านบาท :blink:

 

ประมาณ 7-8 ล้าน ล้าน บาท คิดในใจ นี่มันก็เป็นภาษีทางอ้อมของคนทั้งโลกนั้นเอง

 

ทะยอยพิมพ์เงินกันเข้าไป ยูโรป อเมริกา ญี่ปุ่น จีน อังกฤษ

 

QE infinite จริง ๆ

 

ดีเหมือนกันอีกหน่อยคงไม่ต้องทำงานแล้ว อยู่เฉย ๆ พิมพ์เงินมาใช้สบายกว่าละมั้ง

ถูกแก้ไข โดย zagio

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณ คุณMOR LEK สำหรับข่าว ขอช่วยแปลสรุปให้หน่อยได้ไหมคะ5fc0f220.gif ภาษาไม่แข็งแรงคะ

 

 

 

แหะๆ วันนี้ลิงค์ที่เอามาแปะเป็นภาษาไทยครับbiggrin.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:unsure: สรุป ตอนนี้เครื่องจักรพิมพ์เงินในโลกนี้คงทำงานกันหนักน่าดู

 

อย่าไปดูแค่ที่อเมริกาที่เดียวครับ ตอนนี้มี 4 สกุล

 

1.อเมริกา = จีน (fix ค่าเงินไว้)

 

2.ญี่ปุ่น

 

3.อังกฤษ

 

4.ยูโรป

 

 

หากจะมีการ collapse ยูโร จะต้องไปก่อน เพราะตัวเองมีทองคำสำรองเยอะเป็นหมื่นตัน สามารถยกเลิกค่าเงินได้ทันที สร้างเงินสกุลใหม่ได้อย่างไว

 

ส่วนที่จะตามมา ก็คือ ดอลล่าห์ ปอนด์ และ เยน ตามลำดับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณหมอเล็ก กรุณาก๊อบปี้มาหน่อยได้ไหมคะ พี่ปุณณ์ไม่มีล็อคอินเข้าไปอ่านไม่ได้ ค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอโทษค่ะเพิ่งเข้าไปดู เพราะปกติจะเห็นเป็นภาษาอังกฤษ 332f960b.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณหมอเล็ก กรุณาก๊อบปี้มาหน่อยได้ไหมคะ พี่ปุณณ์ไม่มีล็อคอินเข้าไปอ่านไม่ได้ ค่ะ

 

สะพัดธนาคารชื่อก้องโลกถูกสอบสวนข้อหาปั่นดอกเบี้ย Libor

US%20SEC%20-%20Bloomberg.jpg

รูปภาพ : สำนักงาน ก.ล.ต.สหรัฐฯ

ที่มา : Bloomberg

บรรดาหน่วยงานกำกับดูแลระบบการเงินทั้งในสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และอังกฤษกำลังสอบสวนว่า มีการรวมหัวของธนาคารขนาดใหญ่บางแห่งในการ "ชักใย" หรือ "ปั่น" (manipulate) อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงซึ่งใช้ในการคำนวณต้นทุนการกู้ยืมเงินในตลาดพันธบัตรมูลค่านับแสนล้านดอลลาร์

 

การสอบสวนครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่กลุ่มของธนาคารยักษ์ใหญ่ 16 แห่งซึ่งมีหน้าที่ช่วยสมาคมนายธนาคารแห่งอังกฤษ (British Bankers' Association หรือ BBA) ในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเสนอขายตลาดระหว่างธนาคารหรือ Libor (London interbank offered rate) ซึ่งเป็นต้นทุนโดยประมาณของการกู้ยืมระหว่างกันของธนาคาร

 

การสอบสวนครั้งนี้จำเพาะเจาะจงไปที่อัตราดอกเบี้ย Libor ที่กำหนดขึ้นเพื่อการกู้ยืมเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯระหว่างปี 2006-2008 ซึ่งเป็นช่วงก่อนและระหว่างเกิดวิกฤตการเงิน แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการสอบสวนกล่าวกับไฟแนนเชียลไทม์

 

การสอบสวนเป็นข่าวขึ้นเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 15 มีนาคม 2011) เมื่อธนาคารยูบีเอสของสวิตเซอร์แลนด์ได้เปิดเผยในรายงานประจำปีของธนาคารว่า ทางธนาคารได้รับหมายเรียกจากหน่วยงานของทางการสหรัฐฯ 3 หน่วยงานและคำร้องขอข้อมูลจากสำนักงานกำกับดูแลภาคการเงินหรือ FSA (Financial Supervisory Agency) ของญี่ปุ่น

 

ยูบีเอสกล่าวว่า บรรดาหน่วยงานที่กำกับดูแลกำลังพุ่งประเด็นไปที่ "มีความพยายามที่ไม่เหมาะสมโดยยูบีเอสในการชักใยอัตราดอกเบี้ย Libor ในบางช่วงเวลาหรือไม่ ทั้งการกระทำโดยตัวยูบีเอสเองหรือทำร่วมกับผู้อื่น"

 

เชื่อกันว่าบรรดาธนาคารสมาชิกที่มีส่วนร่วมในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย Libor ได้รับคำร้องขอที่ไม่เป็นทางการต่อข้อมูลอย่างน้อยหนึ่งคำร้องขอ ซึ่งถือเป็นขั้นตอนเริ่มต้นในกระบวนการสอบสวนก่อนไปถึงขั้นของการออกหมายเรียก

 

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการสอบสวนยังบอกกับทางไฟแนนเชียลไทม์อีกว่า พยานจำนวนมากถูกเรียกสัมภาษณ์โดยเจ้าหน้าที่สอบสวนจากหน่วยงานกำกับดูแลและรัฐบาลต่างๆไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐฯ (US Securities and Exchange Commission หรือ US SEC), กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และสำนักงานกำกับดูแลธุรกิจการเงินหรือ FSA (Financial Services Authority) ของอังกฤษ

 

การสอบสวนได้ดำเนินการมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว โดยมีอย่างน้อยหนึ่งธนาคารได้รับการร้องขอเบื้องต้นต่อข้อมูลในช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว แหล่งข่าวระบุ

 

BBA มีหน้าที่ผลิตอัตราดอกเบี้ย Libor สำหรับการกู้ยืมเงิน 10 สกุลโดยใช้อัตราดอกเบี้ยที่กำหนดโดยธนาคาร 8-20 แห่ง ธนาคารที่ส่งอัตราดอกเบี้ยจะต้องตั้งดอกเบี้ยในระดับที่พวกเขาคิดว่าสามารถยืมได้ในตลาดเปิด อัตราดอกเบี้ยที่เสนอเข้ามาหากมีการเบี่ยงเบนเกินไปจะถูกตัดออกและอัตราที่ประกาศจะเป็นค่ากลางของอัตราดอกเบี้ยที่แต่ละธนาคารส่งเข้ามา

 

บรรดาผู้ที่ตำหนิกระบวนการกำหนด Libor ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงของผลิตภัณฑ์ทางการเงินมูลค่ากว่า 350 ล้านล้านดอลลาร์หรือมากกว่า 10,600 ล้านล้านบาท ได้วิจารณ์มานานแล้วว่า ระบบนี้ล้าสมัยและขาดความโปร่งใส บรรดานักวิจารณ์ทางการเงินยังตำหนิในช่วงวิกฤตการเงินด้วยว่า บรรดาอัตราดอกเบี้ย Libor ถูกบิดเบือนเพราะพวกเขาเชื่อว่า ธนาคารที่มีฐานะอ่อนแอย่อมไม่ต้องการยอมรับต้นทุนการกู้ยืมเงินที่สูงขึ้น

 

ยูบีเอสปฏิเสธที่จะตอบวิจารณ์มากไปกว่าที่เปิดเผยในรายงานประจำปี หน่วยงานกำกับดูแลต่างๆก็ปฏิเสธที่จะออกมาพูดเรื่องนี้ด้วย ธนาคารต่างๆที่อยู่ในกลุ่มที่กำหนดดอกเบี้ย Libor ในช่วงเวลาที่การสอบสวนครอบคลุมไปถึงก็ปฏิเสธที่จะออกมาพูดเรื่องนี้หรือโฆษกของธนาคารไม่สามารถติดต่อได้

 

ธนาคารที่เข้าข่ายเหล่านั้นได้แก่ : แบงก์ออฟอเมริกา, บาร์เคลย์ส, ซิตี้กรุ๊ป, เครดิตสวิส, ดอยช์แบงก์, เอชเอสบีซี, เจพีมอร์แกน เชส, ลอยด์ส, ราโบแบงก์, รอยัลแบงก์ออฟแคนาดา, แบงก์ออฟโตเกียวมิตซูบิชิ, ธนาคารโนรินชูกิน, รอยัลแบงก์ออฟสก็อตแลนด์ และ ธนาคารเวสต์แอลบี

 

เอชบีโอเอสซึ่งควบรวมกิจการกับลอยด์สก็เป็นสมาชิกในกลุ่มนี้ด้วย

 

BBA เคยกล่าวไว้ว่า "เรามีพันธะในการรักษาชื่อเสียงและความซื่อตรงของ Libor ที่กำหนดโดย BBA ซึ่งจะยังคงเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่น่าเชื่อถือสำหรับตลาดเงินระหว่างสถาบัน"

 

"Libor มีวิธีการคำนวณที่ตรงไปตรงมาและชัดเจนซึ่งไม่รวมอัตราดอกเบี้ยใดก็ตามที่มีการเบี่ยงเบนอย่างมีนัยสำคัญ Libor มีความโปร่งใสอย่างสมบูรณ์ ข้อมูลทั้งหมดซึ่งบรรดาธนาคารสมาชิกส่งเข้ามามีการเปิดเผยต่อสาธารณะเช่นเดียวกับวิธีวิทยาของเราที่ใช้ในการคำนวณ"

 

ที่มา Financial Times

 

http://www.ft.com/cm...l#axzz1Gin3Onoj

 

แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday

ก็อปมาฝากต่อครับ

แล้วเหตุการณ์นี้จะส่งผลอะไรกับระบบการเงิน และตลาดบ้างครับ

แบบว่ายังไม่ งงๆ ว่าเค้าโกงอะไรนะครับ

เบ๊นซ์ สุดตา ตอบ ....เอาแบบง่ายๆและทันทีเลยนะครับ นั่นหมายความว่าบรรดางานวิจัยทางการเงินและเศรษฐศาสตร์เกือบทั้งโลกผิดหมด เพราะข้อมูลที่ดึงไปไม่มีความน่าเชื่อถือเลย ข้อมูล Libor มีึความจำเป็นต่อการทำสมมติฐานด้านการเงินและเศรษฐศาสตร์เชิงปริมาณมาก (อย่างน้อยที่เกี่ยวกับการเงิน)

เครื่องมือบริหารความเสี่ยงอย่าง Swaps ทั้งโลกด้วยเหตุนี้จึงไม่สะท้อนสถานะความเสี่ยงที่แท้จริงของผู้กู้เงิน ซึ่งรวมถึงธนาคารด้วย สถานะด้านความเสี่ยงและต้นทุนการเงินทั้งโลกถูกบิดเบือน แล้วสัญญาเงินกู้ที่เป็น Floating Rate ในรูปดอลลาร์จึงย่อมขาดความน่าเชื่อถือไปโดยปริยายเพราะต้นตอของมันคือ Libor ขาดความน่าเชื่อถือไปแล้ว

Libor คืออัตราดอกเบี้ยแบบก้าวหน้า ใช้ในการคำนวณต้นทุนการกู้ยืมเงินในตลาดพันธบัตร ในตลาดอนุพันธุ์

คุม Libor ได้ก็เหมือนคุมระบบการเงินได้ทั้งโลก เงินตั้ง 350 ล้านล้านดอลลาร์ ไม่อยากจะคิด ใครเรียนหรือทำงานด้านการเงินคงรู้ดี พวกสูตรหรือโมเดลคำนวณต่างๆต้องมีพวก Risk-free rate ไปยุ่งตลอด และรวมถึง Money Market Rate อย่าง Libor ด้วย

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:P ไม่ทันคุณหมอเลย :P

 

 

ถูกแก้ไข โดย nicole 101

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1281708936.gif

 

 

ญี่ปุ่น สู้ !! (Japan Fighto Fighto !!)

 

ทุกวันนี้ เหมือนเราอยู่ในโลกที่วุ่นวายและเต็มไปด้วย ความไม่แน่นอน(Uncertainty)

ข่าวร้ายหลายๆ ข่าวเกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก ชนิดที่ไม่มีใครคาดฝัน จนถึงวันนี้ก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอนาคตจะจบลงเช่นไร

สิ่งที่เราพอจะทำได้คือ “เตรียมความพร้อม” ไว้ก่อนเป็นดีที่สุด

การเตรียมตัวเร็วไป 1 ปีย่อมดีกว่า รอให้สิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นแล้วสายไปเพียง 1 วัน

ด้วยเหตุที่เรานั้นไม่รู้ว่า วิกฤตมันจะมาถึงเมื่อไหร่ ? ส่งผลร้ายแรงระดับไหน ?

 

:excl: วิกฤตการณ์จากภัยธรรมชาติ แม้ว่าจะมีการติดตั้งสัญญาณเตือนภัย “ระบบ” ป้องกันอันทันสมัย

พอถึงเวลาที่เกิดขึ้นมาจริงๆ กลับรวดเร็วและรุนแรงจนตั้งตัวไม่ติด

ระดับความเสียหายรุนแรงเกินกว่าจะประมาณ นาทีชี้เป็นชี้ตายแบบนั้น

กลับหวังพึ่งสิ่งใดไม่ได้เลยนอกจาก “ตนเอง”

 

:excl: ไม่ต่างจาก วิกฤตการเงิน (Currency Crisis)ที่กำลังจะมา

หลายคนไม่เชื่อว่ามันจะเกิดขึ้น หรือคาดหวังว่า “ระบบ” การเงินและเศรษฐกิจ

ที่ทุกๆ ประเทศวางเอาไว้ จะสามารถเตือนเราก่อนเวลามีปัญหาและแก้ไขให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี

แท้จริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะเมื่อถึงเวลานั้นขึ้นมาจริงๆ

สิ่งเดียวที่เราพอจะหวังพึ่งได้ดีที่สุดก็คงเป็น “ตัวของเราเอง” อีกเช่นเคย

 

แผ่นดินไหวที่เฮติ, นิวซีแลนด์, จีน ,และล่าสุดซึนามิที่ ญี่ปุ่น

ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง รัฐบาลของแต่ละประเทศจำเป็นต้องเยียวยาโดยเร่งด่วน

การอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ เพื่อเยียวยาผู้ประสบภัยเป็นสิ่งที่รัฐบาลและธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เลือกทำ

เหตุผลก็เพื่อฟื้นฟูประเทศให้กลับมาได้โดยเร็ว แต่ผลข้างเคียงที่คงเลี่ยงไม่ได้ในอนาคตอันใกล้ก็คือ “เงินจะเฟ้อ” (Inflation)

 

ยุคข้าวยากหมากแพงจะกลับมาอีกครั้ง นั่นเพราะไม่มีรัฐบาลไหนมีเวทย์มนต์วิเศษที่จะเสกสรรอะไรให้ใครได้

สิ่งที่เค้าพอจะทำได้คือ เอา(Take) จากคนอีกกลุ่มหนึ่งไป มอบ(Give)ให้คนอีกกลุ่มหนึ่งเท่านั้น

 

เงินปริมาณมหาศาลไหลเข้ามาสู่ระบบเมื่อไหร่จะทำการเจือจางเงินเก่าในระบบที่มีอยู่เดิมให้ด้อยค่าลงไป

ผู้ที่ไม่ประสบภัยพิบัติในประเทศ จำเป็นต้องเสียสละให้กับ ผู้ประสบภัยพิบัติ

ช่วยเหลือเกื้อกูลผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปด้วยกัน เพราะในอนาคตชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศจะต้องเผชิญ

กับค่าครองชีพที่สูงขึ้นไม่ต่างจากช่วงสงครามในอดีตที่เกิดเงินเฟ้ออย่างรุนแรง

 

:excl: ในแง่ของมนุษยธรรมแล้ว (Humanity)

ขอแสดงความเสียใจอย่างที่สุดจากใจจริง ความเสียหายทางเศรษฐกิจ

ประเมินกันออกมาเป็นตัวเลขว่ามากมายมหาศาลแล้ว

ยังไม่เท่ากับหลายชีวิตที่ต้องจากไปของพี่น้องชาวญี่ปุ่นซึ่งไม่อาจจะมีสิ่งใดจะมาทดแทนได้

 

:excl:แต่ในแง่ของเศรษฐศาสตร์และการเงิน (Economy)

ไม่มั่นใจว่าการแก้ปัญหาของธนาคารกลางญี่ปุ่นจะเป็นการกระทำที่ถูกต้อง

การเพิ่มปริมาณเงินเข้ามาในระบบถึง 8,000,000,000,000 เยน(คิดเป็น 98,000,000,000 ดอลล่าร์)

จะส่งผลทำให้ค่าเงินเยนด้อยค่าลงในอนาคต ราคาต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าที่จะต้องนำมาก่อร่างสร้างประเทศกันใหม่

เหล็ก ทองแดง น้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ จะปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน

 

สหรัฐอเมริกาแก้ไขปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นด้วยการ พิมพ์เงิน พิมพ์เงิน และก็ พิมพ์เงิน

ไม่สมควรที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะดำเนินรอยตามตัวอย่างที่ผิด

แล้วควรทำอย่างไร ??

 

สิ่งที่ควรทำคือ

 

1.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (Increase Interest rate)

 

ไม่ใช่พิมพ์เงินอัดฉีดหรือแม้แต่ขายทองคำทิ้ง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะจูงใจให้ชาวญี่ปุ่นเก็บออมเงินเพิ่มขึ้น+ลดการใช้จ่ายลง

รัฐจึงจะสามารถนำทุนส่วนนี้ไปใช้บูรณะประเทศได้โดยเกิดปัญหาน้อยที่สุด ผลที่ตามมายังจะทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่า

- เมื่อปริมาณเงินในรับถูกดูดออก (Contraction)

สอดคล้องกับปริมาณการผลิตสินค้าและบริการที่หดหาย (Contraction)จากภัยพิบัติ

เงินเฟ้อก็จะไม่เกิด

 

- หากเพิ่มปริมาณเงินในระบบ (Expansion) ในขณะที่สินค้าและบริการหดหาย (Contraction)

ผลที่ตามมาคือความวุ่นวายจากพิษเงินเฟ้อเล่นงาน (เงินมากขึ้นในขณะที่สินค้าลดลง)

 

อย่าไปกังวลถึงเรื่องปัญหา การส่งออก(Export) จากการที่เงินเยนแข็งค่า

เพราะตอนนี้ การนำเข้า(Import)วัตถุดิบมาฟื้นฟูประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญกว่า.

 

 

2.ขายพันธบัตรสหรัฐ (Selling U.S. Treasuries)

 

การเทขายพันธบัตรสหรัฐทิ้ง ยิ่งเป็นสิ่งที่น่าทำ

 

เวลา บ้านพัง หัวหน้าครอบครัวต้องตัดสินใจนำ“เงินออม”ออกมาใช้

เพื่อแก้ไขปัญหา เพราะจุดประสงค์ของเงินออมก็เพื่อเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน

 

สำหรับญี่ปุ่นแล้วเก็บทุนสำรองในรูปแบบของพันธบัตรสหรัฐ มานานแสนนาน (885,900,000,000 ดอลล่าร์)

อยากถามธนาคารกลางญี่ปุ่นว่า นี่ฉุกเฉินแล้วหรือยัง ????

 

บางทีที่รัฐบาลญี่ปุ่นไม่กล้าขายพันธบัตรทิ้งเพราะเกรงว่าจะเป็นการจุดชนวนให้ดอลล่าร์ล่มสลาย (Dollar collapse)

แล้วนำมาซึ่ง วิกฤตการเงินโลก (Currency Crisis) หากเป็นเช่นนั้นก็ไม่ต่างจากหัวหน้าครอบครัวที่ไม่กล้าถอนเงินออม

เพราะกลัวธนาคารจะล้ม อย่างนั้นหรือ ?? แล้วแบบนี้จะมีเงินออมไว้หาพระแสงเลเซอร์ ทำไมกัน ??

 

 

คลื่นซึนามิสูง 10 เมตร + แผ่นดินไหว 9 ริกเตอร์วันก่อน + อีก 6 ริกเตอร์วันนี้ + เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ก็ยังมาระเบิดซ้ำ

การดำเนินนโยบายทางการเงินที่ผิดพลาด รังแต่จะเป็นการซ้ำเติมประชานชาวญี่ปุ่นในอนาคตให้ต้องเจ็บปวดมากขึ้นจากปัญหาเงินเฟ้อ

 

ถ้ารัฐบาลญี่ปุ่นจะคิดได้ซักนิด หันไปมองพันธบัตรสหรัฐที่นอนกองอยู่เฉยๆ(หนำซ้ำยังเสื่อมค่าลงทุกปีๆ)

แล้วตัดสินใจอย่างเด็ดขาด !

 

คงถึงเวลาที่อะไรๆจะ “ถูกต้องและสมควร” มากขึ้น

ประชาชนชาวญี่ปุ่นสมควรได้ใช้เงินออมก้อนนี้ ในขณะที่สหรัฐก็สมควรหยุดการใช้จ่ายอย่างมือเติบและสุรุ่ยสุร่าย

ประชาชนชาวญี่ปุ่นที่ยากลำบากสมควรได้รับการบรรเทาในขณะที่ประเทศมหาอำนาจก็สมควรที่จะได้รับบทเรียน.

 

 

 

..................................................................................

 

 

 

รวมบัญชีช่วยเหลือผู้ประสบภัยในญี่ปุ่น

 

ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยในญี่ปุ่นกับ ครอบครัวข่าว 3

ชื่อบัญชี ครอบครัวข่าว 3 ช่วยเหลือผู้ประสบภัยญี่ปุ่น

ธนาคารกรุงเทพ สาขา เอ็มโพเรียม

บัญชีกระแสรายวัน เลขที่บัญชี 096-301-5995

 

กระทรวงการต่างประเทศของไทย เปิดรับบริจาคผ้าห่ม ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในญี่ปุ่น

โดยบริจาคได้ที่กระทรวงการต่างประเทศ ถนนศรีอยุธยา หรือ

ที่กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.ทุกวันไม่เว้นวันหยุด เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ส่วนผู้ที่ต้องการบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย สามารถบริจาคได้ที่

ธนาคารกรุงไทย สาขา สามยอด ชื่อบัญชี เงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่น

เลขที่บัญชี 002-0-271-468

บัญชีกระแสรายวัน ธนาคารกรุงไทย สาขาสุรวงศ์

หมายเลข 023-606799-0

และแฟ็กซ์ใบเปย์อิน เขียนชื่อและที่อยู่มาที่ 02 6524440

หรือแสกนส่งมาทางอีเมล์ที่ pr-fund-rc@hotmail.com

สอบถามเพิ่มเติมที่ 02 2564440 และที่ศูนย์บริการข้อมูลทางโทรศัพท์ ที่ 1664

เพิ่มเติมที่ http://www.redcross.or.th/news/information/6215

 

ธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีเดินสะพัดชื่อบัญชี “มูลนิธิสยามกัมมาจล-ไทยพาณิขย์เพื่อผู้ประสบภัย”

เลขที่ 111-3-90911-5 หรือบริจาคผ่านเครื่อง ATM เลือกหมวดอื่น ๆ / บริจาคการกุศล

โดยเงินบริจาคทั้งหมดจะนำส่งมอบให้กับสภากาชาดไทย เพื่อนำไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCB Call Center 02-777-7777

 

บัญชีบริจาคช่วยญี่ปุ่นของช่อง7

เลขบัญชี 001-9-42787-1 ธ.กรุงศรีอยุธยา สาขาสำนักเพลินจิต

 

ศูนย์ช่วยเหลือเหตุการณ์สึนามิฉุกเฉินของ คุณตัน ภาสกรนที http://www.facebook.com/event.php?eid=194289643938717

หรือ http://www.facebook.com/tanmaitan

ญาติผู้ประสบภัยหรือผู้สูญหายต้องการความช่วยเหลือใน การประสานงานด้านภาษา ญี่ปุ่น ไทย อังกฤษ เพื่อติตต่อกับหน่วยงานที่ประเทศญี่ปุ่น

สามารถติดต่อแจ้งข้อมูล ได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือเหตุการณ์สึนามิฉุกเฉิน บ.ไม่ตัน จำกัด email : online@mai-tan.com

บัญชีธนาคาร กรุงศรีอยุธยา ชื่อบัญชี น้ำใจไทยไม่ตัน ปันสู่ญี่ปุ่น

สาขาเพชรบุรีใหม่ ออมทรัพย์ เลขที่ 034-1-58888-1

 

TRUEMOVE : ช่วยเหลือคนไทยในญี่ปุ่น รับสายฟรี รับ SMS ฟรี โทรติดต่อ call Center 66891001331 ฟรี ถึง 13 มี.ค

ลูกค้าทรูมูฟแบบเติมเงินที่อยู่ในญี่ปุ่น ทรูมูฟเติมเงินให้ลูกค้ารายละ 1,000 บาทไว้ใช้งาน

รับ SMS ฟรี และโทรติดต่อ call center +66891001331 ฟรีถึง 13 มี.ค

AIS: ส่ง SMS แจ้งให้ลูกค้าที่ใช้บริการข้ามแดนอัตโนมัติ สามารโทรกลับไทยได้ครึ่งราคา

และรับสายจากไทยฟรี ตั้งแต่วันนี้ – 14 มี.ค. 54 ในญี่ปุ่นโทรเข้า Call Center ฟรีผ่านเบอร์ +6622719000 ถึงวันที่ 17 มี.ค.54

Dtac: ที่อยู่ญี่ปุ่น โทรกลับเมืองไทยครึ่งราคา รับสายจากเมืองไทยไม่เสียเงิน ถึง 14 มี.ค

 

เบอร์โทรฉุกเฉิน

 

เบอร์สถานทูตญี่ปุ่น (โตเกียว)(813) 3441-1386

สถานกงสุลใหญ่ในโอซาก้า (816)62629226-9

สถานฑูตญี่ปุ่น (โอซากา) (816) 6262-9226

คนไทยที่ต้องการติดต่อญาติที่ญี่ปุ่น ให้ติดต่อผ่านกรมการกงศุล หมายเลข 02 575 1046 -9 นอกเวลาราชการ 02 643 5000

สายด่วนสนามบินสุวรรณภูมิ สายด่วน 02 1321888 สอบถามข้อมูลเดินทางไปญี่ปุ่น

สอบถามสายการบิน CallCenter 021321888 สายการบินไทย 023561111 สาย การบินJapanAirline021342147 สายการบินNipponAir0213424034

ติดต่อสอบถามเที่ยวบินการบินไทย เที่ยวบินที่ไปญี่ปุ่น โทร 02-545-3181

สายด่วนแรงงาน โทร 1694

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ติดตามข้อมูล โทร.192 และ http://www.ndwc.go.th

ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย เปิดสายด่วนให้ประชาชนสอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2621-9703-5 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

หรืออีก 1 ช่องทางง่ายๆ ผ่านเฟซบุค

1 LIKE สมทบ “ให้” 10 YEN

 

โออิชิ ขอชวนคนไทยมาร่วมกัน “ให้” น้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศญี่ปุ่น โดยการ

- สมทบทุนผ่านกล่องรับบริจาคหน้าร้าน

- กด Like ใน facebook.com/oishigroup ทุก 1 คลิก จะเปลี่ยนเป็นเงินบริจาค 10 เยน จากเรา

นอกจากนั้น โออิชิ ขอร่วมบริจาคเงินรายได้ 5% จากทุกร้านอาหารในเครือ

เพื่อให้คนญี่ปุ่นเข้าใจความหมายของคำว่า “ให้” จากคนไทยทุกคน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก M-Thai

 

 

.............................................................................

 

 

ปล. - บทความนี้ไม่ได้พูดถึงทองเลย ไว้ตอนหน้าเราจะมาว่ากันถึง

บทบาทและหน้าที่ของทองคำในยามวิกฤตกันครับ

ถูกแก้ไข โดย Nexttonothing

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบพระคุณ คุณส้มโอมือ Morlek John CM และ คุณ Zagio

สำหรับข่าวและข้อมูลนะครับ หลังๆ เข้ามาหาความรู้ในกระทู้ตัวเหมือนกัน :lol: :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เพราะว่า internet มันเป็นสาธารณะครับ เลยไม่อยากเปิดเผยหน้าตาขี้เหร่ๆ ^_^

 

เห็นตัวจริงในงานไม่ขี้เหร่สักนิด ออกจะดูดีคู่กับคุณเน็ก เหมือนคู่สร้างคู่สม :P

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:unsure: สรุป ตอนนี้เครื่องจักรพิมพ์เงินในโลกนี้คงทำงานกันหนักน่าดู

 

อย่าไปดูแค่ที่อเมริกาที่เดียวครับ ตอนนี้มี 4 สกุล

 

1.อเมริกา = จีน (fix ค่าเงินไว้)

 

2.ญี่ปุ่น

 

3.อังกฤษ

 

4.ยูโรป

 

 

หากจะมีการ collapse ยูโร จะต้องไปก่อน เพราะตัวเองมีทองคำสำรองเยอะเป็นหมื่นตัน สามารถยกเลิกค่าเงินได้ทันที สร้างเงินสกุลใหม่ได้อย่างไว

 

ส่วนที่จะตามมา ก็คือ ดอลล่าห์ ปอนด์ และ เยน ตามลำดับ

 

แข่งกันลงเหวงวดนี้ อืมม..ผมขอแทง ดอลล่าร์

เข้าวินแล้วกัน :rolleyes:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...