โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Safe Heaven

[milo 888]

แหะๆ สรุปก็คือแก๊งค์นายแบงค์

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[ส้มโอมือ 4,910]

วรวรรณ ธาราภูมิ5 ชั่วโมงที่แล้ว ·

 

 

บทเรียนจากดีทรอยท์

----------------------

 

วิษณุ โชลิตกุล

บรรณาธิการข่าว หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจ

7 สิงหาคม 2556

 

เดือนกรกฎาคม เมืองดีทรอยท์ ได้ประกาศยื่นต่อศาลล้มละลายของสหรัฐ เพื่อขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน เพราะหมดปัญญาจ่ายภาระหนี้ของเมือง 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับผู้ถือตราสารหนี้ที่เรียกกันว่า ตราสารหนี้เทศบาล (MUNI- Municipal Bonds) ถือเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของอเมริกาที่ประกาศล้มละลาย

 

ปัญหาของเมืองดีทรอยท์ ถือเป็นฟางเส้นใหญ่ล่าสุดหรือสัญญาณเตือนภัยที่ทำให้เมืองขนาดใหญ่ทั่วโลก ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายให้สามารถบริหารการเงินและหนี้สาธารณะด้วยตน เองอย่างเป็นอิสระจากรัฐบาลกลางต้องหันมาทบทวนตนเองเป็นการมใหญ่โดยเฉพาะ เมืองในเอเชีย รวมทั้งจีนด้วย

 

การบริหารการเงิน และหนี้สาธารณะของเมือง เคยเป็นศูนย์กลางความภาคภูมิใจของประเทศ และรัฐประชาธิปไตยในโลกที่อวดอ้างได้ว่า นี่คือรูปแบบ และสาระสำคัญของระบบการปกครองท้องถิ่นที่ทำให้คนในชุมชนสามารถมีส่วนร่วมใน อำนาจรัฐได้อย่างคล่องตัวและบริหารอนาคตของตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาอำนาจของ รัฐบาลกลางทั้งหมด

 

ในสหรัฐฯ นั้น เมืองขนาดใหญ่ ได้รับอนุญาตให้เลือกตั้งผู้บริหารอย่างเป็นอิสระ และสามารถใช้อำนาจในการบริหารการเงิน และหนี้สาธารณะเพื่อสร้างความเจริญให้กับเมืองอย่างสะดวกกว้างขวางเป็นต้น แบบให้กับชาติอื่นๆ มายาวนาน

 

เครื่องมือสำคัญที่มีเปิดช่องให้ผู้บริหารเมืองสามารถบริหารการเงินและหนี้ สาธารณะได้เต็มที่คือ หุ้นกู้ หรือ MUNI นี้เอง โดยการออกหุ้นกู้จะกระทำเหมือนการออกหุ้นกู้ทั่วไปนั่นคือจะต้องมีการนำเอา สินทรัพย์มาประเมินค่าตามหลักการทางการเงิน แล้วให้บริษัทเครดิตเรตติ้งทำการประเมินเพื่อตีมูลค่าและอัตราดอกเบี้ยออกมา ในรูปของคะแนนจัดอันดับเรตติ้ง

 

เมืองที่มีเรตติ้งดีก็จะเสียอัตราดอกเบี้ยต่ำ ส่วนเมืองที่เรตติ้งตกก็จะเสียดอกเบี้ยแพงตามสูตรทางการเงิน

 

ดีทรอยท์ เมืองศูนย์กลางการผลิตรถยนต์และเครื่องบินสำคัญของสหรัฐฯในรัฐมิชิแกน ถือว่าเป็นเมืองที่อยู่ในหัวแถวของการออกหุ้นกู้เพื่อบริการการเงินสาธารณะ ดีทรอยท์รับเครดิตดีมายาวนาน เพราะว่ามีความสามารถในการจัดเก็บรายได้จากภาษี และค่าธรรมเนียมเพื่อนำมาชำระหนี้หุ้นกู้ได้ตามโปรแกรม ซึ่งที่ผ่านมาราบรื่นโดยตลอด

 

จนกระทั่งโครงการพัฒนาเมืองขนาดใหญ่เมื่อ 10 ปีก่อน เรียกว่า Renaissance City (ชื่อสอดคล้องกับอาคารสำนักงานใหญ่ของบริษัทรถยนต์อันดับหนึ่ง เจนเนอรัล มอเตอร์ส ชื่อ Renaissance Centre) ซึ่งมีการออกหุ้นกู้ MUNI มูลค่า 1.8 หมื่นล้านดังกล่าว โดยมีกองทุนและนักลงทุนจำนวนมากซื้อไปถือไว้ ถือเป็นประชานิยมอีกรูปแบบหนึ่งก็ไม่ผิด

 

ปัญหาก็คือใน 10 ปีที่ผ่านมา แหล่งป้อนภาษีสำคัญของเมืองคือพนักงานในกิจการรถยนต์และชิ้นส่วนจำนวนมากหมด ความสามารถในการแข่งขันจนต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาลให้ช่วยพ้น จากภาวะล้มละลาย ทำให้ภาษีและรายได้ของเมืองลดลงฮวบฮาบ จนกระทั่งเมื่อหุ้นกู้ MUNI ครบกำหนดอายุไถ่ถอน เทศบาลเมืองก็หมดความสามารถในการชำระเงิน และประกาศเข้ายื่นต่อศาลล้มละลาย

 

การก่อหนี้ของเมืองโดยเอาภาษีในอนาคตมาการันตี ไม่ใช่เรื่องใหม่ของเมืองในสหรัฐฯ เมืองขนาดใหญ่ที่ไหนก็ทำเช่นนี้มานานหลายทศวรรษ เพราะมันคือการกระจายอำนาจทางการเงินการคลังที่รัฐบาลกลางไม่มีสิทธิ์เข้ามา ก้าวก่าย

 

แต่ประเด็นมันอยู่ที่อำนาจของเมืองที่มากเกิน ทำให้แนวโน้มของผู้บริหารเทศบาลที่เน้นประชานิยมและก่อหนี้เกินตัว นำเงินไปใช้ในโครงการที่ไม่สามารถทำให้เมืองพัฒนาไปข้างหน้าได้ ได้ทำให้เมืองจำนวนมากเข้าข่ายล้มละลาย

 

แม้กระทั่งรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งบริหารงานโดยอาร์โนลด์ ชวาเซนเน็กเกอร์ ดาราเจ้าของฉายา “คนเหล็ก” ซึ่งไม่ได้มีความรู้อะไร ก็ทำให้รัฐล้มละลายเป็นกรณีตัวอย่างมาแล้ว

 

กรณีของดีทรอยท์ ลุกลามไปที่ญี่ปุ่น ซึ่งเมืองจำนวนมากเริ่มก่อปัญหาไม่สามารถชำระหนี้หุ้นกู้เทศบาล (คล้ายหรือทำนองเดียวกับ MUNI) ของตนเองเมื่อครบกำหนดได้ และลามต่อไปยังจีนซึ่งขณะนี้มีมูลค่าหนี้สินทั้งต่อธนาคารพาณิชย์และต่อผู้ ถือหุ้นกู้ที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ในสัดส่วนน่าเป็นห่วงว่าหากเกิดปัญหาไม่สามารถชำระได้ตามกำหนด อาจจะทำให้เสียศูนย์ได้ง่าย

 

ในกรณีของญี่ปุ่น มีประเด็นขัดแย้งระหว่างรัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลกลางมาจนถึงทุกวันนี้อย่างที่แก้ไม่ตก

 

ส่วนในกรณีของจีน ก็ทำให้สี จิ้น ผิง และหลี เค่อ เฉียง ต้องปวดหัวอาจจะต้องทบทวนเป้ามายแผนปฏิรูปการกระจายอำนาจที่วางเอาไว้เสีย ใหม่ หลังจากที่มีการสำรวจพบโดยผู้ตรวจสอบบัญชีภาครัฐ และสำนักวิจัยหลายแห่งว่ามีการซ่อนหนี้เอาไว้นอกงบการเงินสาธารณะในรัฐบาล ท้องถิ่นมหาศาลที่อาจก่ออันตรายในระยะต่อไปได้

 

ในกรณีของกรีซ โปรตุเกส ไอร์แลนด์ และไซปรัส ในสหภาพยุโรปนั้น ปัญหาหนี้ท่วมจนไม่สามารถชำระได้กระจุกตัวในรัฐบาลกลางเป็นหลัก

 

แต่ในสเปน เมืองบาร์เซโลน่าที่เข้าข่ายล้มละลายเป็นทำนองเดียวกันกับดีทรอยท์ ซึ่งแก้ไขยุ่งยากมากพอสมควร

 

ปัญหาการล้มละลายของรัฐบาลกลางของเอเชียซึ่งอาจจะมีประสบการณ์ต่ำกว่ารัฐใน ยุโรปไม่เพียงสะท้อนปัญหาของการกระจายอำนาจที่ถูกเบี่ยงเบนเป็นปัญหาซับซ้อน แล้ว ยังมีคำถามล่วงหน้าอีกว่าหากจะให้รัฐบาลกลางยื่นมาเช้ามาช่วยแก้ปัญหา แล้วความเป็นอิสระของรัฐบาลท้องถิ่นที่เคยเพรียกหาในอดีตสำหรับชาติและสังคม ประชาธิปไตยที่มีการแบ่งอำนาจเพื่อการมีส่วนร่วม จะมีอนาคตเช่นไร

 

ปัญหานี้ ตอบค่อนข้างยาก และกระทบกับโครงสร้างอำนาจรัฐโดยตรง ซึ่งคำตอบสำเร็จรูปไม่มีให้แก้เสียด้วย เนื่องจากช่องว่างระหว่างความจริงและอุดมคติเริ่มจะมีปัญหาทับซ้อนบางส่วน และถ่างกว้างในบางส่วน

 

กรณีดีทรอยท์ เป็นแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งที่เปิดให้เห็นปัญหาในการคลังของรัฐประชาธิปไตยและรัฐสมัยใหม่ที่เลี่ยงไม่พ้น

[mdaddy 2,443]

http://pantip.com/topic/30763667

 

 

เอามาฝากระหว่างดูเจ้ามือเขาเล่นลมเพลมพัด

 

ส่วนตัวยังเชื่อว่าวิกฤติเศรษฐกิจมันกำลังรอที่จะเกิดอยู่

ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องอะไร แถมเวลาผ่านไปก็ไม่สนใจที่จะเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีก

กระทู้นี้ช่วยให้มองย้อนเวลาไปเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่เห็น

และช่วยให้แนวทางไว้เตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

ถูกแก้ไข สิงหาคม 8, 2013 โดย wcg

[ส้มโอมือ 4,910]

Thanong Fanclub

 

4 ชั่วโมงที่แล้ว

เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของโลกเป็นกระดาษทั้งนั้น

 

 

ขณะนี้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของโลกมีอยู่รวมกันประมาณ $11.167ล้านล้าน ณ เดือนกรกฎาคม 2013 จากจำนวนนี้ประเทศไทยมีอยู่อยู่ประมาณ$170,000กว่าๆล้าน

 

ส่วนมากแล้วเงินดอลล่าร์และเงินยูโรจะเป็นเงินสกุลหลักของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของโลก

 

ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2011 มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศทั้งหมด $10.063ล้านล้าน จะเห็นได้ว่าเงินกระดาษเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากการที่มีประเทศขาดดุลการค้า ทำให้ต้องส่งดอลล่าร์ หรือยุโรให้ประเทศที่เกินดุล ประเทศที่เกินดุลจะมีทุนสำรองระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น

 

ส่วนมากประเทศที่เกินดุล (ส่วนมากเป็นประเทศทางเอเซียที่เน้นการส่งออก) มีเงินทุนสำรองฯมากจะเอาเงินนั้นไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลในประเทศที่ขาดดุล พอครบกำหนดรัฐบาลที่ขาดดุลก็ออกพันธบัตรใหม่เป็นดอลล่าร์และยูโรเพื่อสร้าง หนี้ใหม่เพื่อบริโภคสินค้าที่นำเข้าที่ทำให้ขาดดุล พันธบัตรใหม่ส่วนหนึ่งก็มาจ่ายหนี้ จ่ายดอกของหนี้เก่า ประเทศที่เกินดุลก็จะมีเงินทุนสำรองเพิ่มขึ้นไปอีก

 

ประเด็นคือ ประเทศที่ขาดดุลไม่ได้จ่ายหนี้ แต่มีการเพิ่มหนี้ที่เป็นเงินกระดาษตลอดเวลา

 

ให้สังเกตุดูจากกราฟ ทองคำเป็นส่วนประกอบน้อยมากของเงินทุนสำรองฯ ส่วนมากเป็นเงินกระดาษที่ไม่ได้อิงทรัพย์สินอะไรเลยทั้งนั้น จุดเริ่มต้นของการเติบโตแบบก้าวกระโดของระบบเงินกระดาษ fiat currency system คือปี1971หลังจากการเลิกมาตรฐานทองคำโดยประธานาธิบดีนิกสันของสหรัฐฯ พอไม่มีข้อบังคับทองคำสำรอง เฟดก็มือเติบ พิมพ์ดอลล่าร์ให้โลกใช้อย่างสนุกมือ อันนำไปสู่ภาวะวิกฤติการเงินที่เราทุกคนกำลังเผชิญทุกวันนี้

 

เราทุกคนทราบดีว่า ไม่มีอะไรดำเนินต่อไปเรื่อยๆได้โดยไม่มีวันสิ้นสุด โดยเฉพาะหนี้ที่ก่อโดยประเทศขาดดุลหนักๆอย่างอเมริกา หนี้นี้ไม่สามารถก่อไปได้เรื่อยๆ โดยไม่มีวันจบ

 

ด้วยเหตุนี้ ประเทศที่เกินดุลอย่างจีน หรือรัสเซีย กำลังกระจายความเสี่ยงออกจากเงินทุนสำรองที่เป็นกระดาษ โดยหันไปถือทองคำแทน แล้วมันจะไปสู่จุดจบ หรือจุดเริ่มต้นใหม่ เมือ่ไหร่อย่างไร ยังไม่มีใครรู้ชัด

 

thanong fanclub

8/8/2013

 

http://www.24hgold.com/english/news-gold-silver-some-thoughts-on-international-reserves-.aspx?article=4469112708G10020&redirect=false&contributor=Hugo+Salinas+Price&mk=1

 

ถูกแก้ไข สิงหาคม 8, 2013 โดย ส้มโอมือ

[MOR LEK 2,835]

Gold skyrocketed as the LBMA's GOFO rates increased in negativity and we also witnessed the 6 month finally go negative. This gave the boost that physical metals in London where in scarce supply.

[milo 888]

http://pantip.com/topic/30763667

 

 

เอามาฝากระหว่างดูเจ้ามือเขาเล่นลมเพลมพัด

 

ส่วนตัวยังเชื่อว่าวิกฤติเศรษฐกิจมันกำลังรอที่จะเกิดอยู่

ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องอะไร แถมเวลาผ่านไปก็ไม่สนใจที่จะเรียนรู้ประวัติศาสตร์อีก

กระทู้นี้ช่วยให้มองย้อนเวลาไปเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่เห็น

และช่วยให้แนวทางไว้เตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

 

เกิดขึ้น เสื่อมลง ดับไป

 

ช่วงเวลาที่เสื่อมลงมักกินเวลายาวนานกว่าการเกิดหรือดับ

[magnataur 39]

http://harveyorgan.blogspot.com/

 

อิอิ บทความคุณทนง เจอคุณฮาร์วี่ ไปพูดถึงแฮะ กลายเป็น gold bug อินเตอร์

[mdaddy 2,443]

ราคาทองคำไม่คุ้มกับการขุดทองในตอนนี้ ?!?!

ขายเหมืองให้จีนเลย จีนไม่สนว่าราคาตลาดจะเท่าไหร่ อีรู้แต่ว่า

อีอยากได้ทองคำมาเก็บไว้ในมือเยอะๆ

 

 

เตียนมิน เฉิน ผู้บริหารเหมืองทองคำ นอร์ตัน โกลด์ ในออสเตรเลีย (เป็นบ.ลูกของ ซิจิน ไมน์นิ่งกรุ๊ป / ผู้ผลิตทองคำที่ใหญ่ที่สุดของจีน) ออกมาบอกว่า

• เขาได้รับคำสั่งมาให้เพิ่มกำลังการผลิต(ทองคำ) ให้ได้อย่างน้อยเป็น ๒ เท่า
  
• เขายังได้รับคำสั่งให้คอยมองหาโอกาสที่จะไปซื้อกิจการของเหมืองอื่นๆอีกด้วย
  

• "เรามองว่าของในตลาดราคาถูกๆแบบนี้ เป็นโอกาสให้เราขยายกิจการ ในตอนนี้มีเหมืองเป็นจำนวนมากกำลังถูกประกาศขายทอดตลาด ทั้งในออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ ... เราจะไม่หยุดที่ ๓๐๐,๐๐๐ ออนซ์แน่ๆ ในปีนี้เราตั้งเป้าที่จะเพิ่มกำลังการผลิตร้อยละ ๑๑ ... เป้าหมายหลักของเราคือการเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้เป็น ๒ เท่า (สำหรับเหมืองที่อยู่ในมือในตอนนี้) ถ้าเราสามารถควบรวมกิจการได้อีก กำลังการผลิตจะสูงกว่านี้
  

http://www.blanchard...om_rising_costs

ถูกแก้ไข สิงหาคม 9, 2013 โดย wcg

[mdaddy 2,443]

http://harveyorgan.blogspot.com/

 

อิอิ บทความคุณทนง เจอคุณฮาร์วี่ ไปพูดถึงแฮะ กลายเป็น gold bug อินเตอร์

 

ด้วยความเคารพคุณทนง... แต่เนื้อหาที่ฮาร์วีย์เอาไปลง ผมเข้าใจว่าเป็นตัวเลขที่สื่อนอกกระแสตปท.คาดการไว้อยู่แล้ว

การที่มีการนำมาเสนอในสื่อเมืองไทย ถือเป็นเรื่องที่ดี ... แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าการนำเสนอถูกส่งกลับไปในกลุ่มสื่อนออกกระแสตปท.

โดยไม่มีการอ้างอิงแหล่งที่มา ของแหล่งที่มาให้ชัดเจนแล้ว อาจจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ "เอคโค่ เชมเบอร์" ได้ คือข่าวๆหนึ่งถูกกระจายไปหลายที่

แล้วก็เอามาอ้างอิงกันไปกันมาจนเป็นเรื่อง เป็นเราว

 

โดยเฉพาะในเวบข่าวของ โกลด์บั๊ก ในตปท.ที่ผมตามอ่านเอง ก็เคยได้สัมผัสปรากฏการณ์นี้มาแล้ว

พอเอะใจ ไล่ไปไล่มา ปรากฏว่าแต่ละเวบดันอ้างกันเอง โดยมีต้นตอจากแหล่งๆเดียวกัน

ถูกแก้ไข สิงหาคม 9, 2013 โดย wcg

[ส้มโอมือ 4,910]

บทความจากThanong Fanclub

 

Thanong Fanclub

6 ชั่วโมงที่แล้ว

ฝรั่งเศสกำลังดิ้น แต่หนทางข้างหน้าดูมืดมน

 

เมื่อเดือนมกราคมปีนี้ ฝรั่งเศสเสียเร็ตติ้งความน่าเชื่อถือAAAของประเทศไป โดนStandard & Poor'sลดเร็ตติ้งลงเหลือAA+ เพราะว่าเศรษฐกิจแย่ อัตราการว่างงานยังสูงระดับ10-11% หนี้รัฐบาลก็สูงอาจไปถึง95%ต่อจีดีพีปีหน้า

 

อังกฤษก็โดนสอยเหมือนกัน โดยFitch Ratingหั่นอังกฤษจากความน่าเชื่อถือสูงสุดAAA มาเป็นAA+

 

พวกบริษัทเร็ตติ้งงานนี้แยกกันตี ไม่ให้ดูน่าเกลียด

 

แต่เยอรมันยังคงแกร่งที่สุด ยืนหยัดรักษาเร็ตติ้งAAAได้

 

นายฟรังซัว โอแลงด์ผู้นำฝรั่งเศสกำลังตระเกี่ยกกระกายลากฝรั่งเศสให้ขึ้นฝั่งให้ได้ เพราะว่าเยอรมันกำลังหายใจรดต้นคออยู่ พลาดก็เสียเมือง ในขณะเดียวกันก็ไม่ไว้ใจอังกฤษคู่รักคู่แค้นแต่ปางหลัง

 

โอแลงค์ทำทุกอย่างให้ฝรั่งเศสยืนหยัดกลับมาให้ได้ ดูจีดีพีฝรั่งเศสแล้วเหมือนคนไข้ที่เลี้ยงไม่โตแล้ว ก่อนวิกฤติ2008 ฝรั่งเศสก็ไม่ได้เติบโตแข็งแรงอะไรมาก พอปี 2008 เศรษฐกิจติดลบ-0.08%, ปี2009 -3.15%, ปี2010 +1.66%, ปี2011 +1.70%, ปี2012 +0.20%, ปี 2013 +0.30%

 

ตัวเลขว่างงานมิอาจทำให้ลดลงจากระดับตัวเลขสองหลักได้ง่ายๅ ภายในการครองอำนาจ5ปีของนายโอแลงด์

 

ที่ผ่านมานายโอแลงด์มีเรื่องกับนางแองเจลลา เมอร์เคิ้ล ผู้นำเยอรมันหลายยกเกี่ยวกับแนวทางเพิ่มหนี้เพื่อให้เศรษฐกิจยุโรปฟื้น หรือว่าต้องรัดเข็มขัดปฏิรูประบบเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นอย่างมั่นคง นายโอแลงค์ชอบแนวทางแรก และเยอรมันเขี้ยวลากดินชอบแนวทางหลังมากกว่า เพราะเยอรมันรู้ดี ประเทศยุโรปอื่นๆมีอาการดื้อยาไปหมดแล้ว ไม่มีพลังทางการเมือง หรือความอดทนจากภาคข้าราชการ ธุรกิจหรือภาคประชาชนพอที่จะปฏิรูปให้ประเทศแข็งแกร่งได้อีกครั้ง เพราะว่าหนี้ต่างๆทั้งหลายมันเกินเยียวยาแล้ว วงจรหนีของโลกมันมาถึงจุดสุดยอดแล้ว มีแต่จะระเบิดออกมา เพราะฉะนั้นยิ่งปฎิรูปก็ยิ่งจะตายเร็ว เข้าเกมเยอรมันเทคโอเวอร์

 

ฝรั่งเศสมีความสามารถในการแข่งขันต่ำ เปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ เพราะว่าค่าแรงสูงกว่า แถมปฏฺิรูปกฎหมายแรงงานแทบจะเป็นเรื่องแตะต้องไม่ได้ อยู่ไปไล่คนงานออกทำไม่ได้ง่ายๆเหมือนอเมริกาหรือประเทศอื่น แต่ไปๆมาๆนายโอแลนด์ก็ได้ทำการปฎิรูปภาษีหลายอย่างเพื่อลดการขาดดุล ไม่ได้เน้นการลดการใช้จ่าย แต่เน้นการเก็บภาษีคนรวยมีกลิ่นไอของสังคมนิยมอยู่ ทำให้เศรษฐีฝรั่งเศสหนีไปอยู่ประเทศอื่นกันอย่างจ้าระหวั่น

 

ทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศเมื่อเร็วๆนี้บอกให้ฝรั่งเศสเพลามือเรื่อง ภาษีหน่อยเพราะว่าอาจทำให้เศรษฐกิจไม่ฟื้น ถ้าเศรษฐกิจไม่ฟื้นจะลากประเทศเพือนบ้านเขตยูโรโซนที่แย่อยู่แล้วลงเหวหนัก ลงไปอีก

 

นายโอแลงด์กำลังเสียศูนย์เพราะว่าฝรั่งเศสไม่ได้มีอาการฟื้นจริง แล้วจะแก้เกมอย่างไร

 

thanong fanclub

9/8/2013

http://www.telegraph.co.uk/finance/financialcrisis/10224099/IMF-sees-no-end-to-French-jobless-crisis-this-decade.html

 

 

 

2. ฝรั่งเศสจะแข่งบุญบารมีกับเยอรมันอย่างไร

 

ฝรั่งเศสกำลังออกอาการดิ้น เพราะถ้าปล่อยให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปเรื่อยๆ ไม่ช้าอุตสาหกรรมหรือธุรกิจต่างๆ จะโดนเยอรมันเท็คโอเวอร์หมด มองไปรอบๆตัว แต่ละประเทศเพื่อนบ้านก็มีอาการงอ่นแง่นไปหมด

 

ล่าสุดอิตาลีมีหนี้เสียเพิ่ม22% ในเดือนพฤษภาคม

 

หนี้เสียเสปนอยู่ที่ 17%

 

อัตราว่างงานเสปนจะอยู่ที่25% อย่างน้อยอีก 5ปี

 

อัตราว่างงานของคนหนุ่มสาวยูโรอยู่ที่25%

 

ผู้ฝากเงินไซปรัสมี่มีเงินฝากในแบงค์เกิน100,000ยูโร จะโดนหัก 47.5%

http://investmentwatchblog.com/buckle-up-the-eu-crisis-will-be-back-soon/?utm_source=feedburner&utm_medium=twitter&utm_campaign=Feed%3A+Investmentwatch+%28InvestmentWatchBlog%29

 

 

พูดกันง่ายๆ 9ใน 17ประเทศในเขตยูโรโซนกำลังเจอภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ

 

ไม่น่าแปลกใจที่นายฟรังซัว โอแลงด์ผู้นำฝรั่งเศสในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จึงเสนอให้มีการจัดตั้งรัฐบาลเขตยูโรโซนขึ้นมา เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้บล๊อคนี้ โดยให้เหตุผลว่าเขตยูโรต้องรวมตัวกันแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น มีรัฐบาลกลางของตัวเอง มีงบประมาณของตัวเอง มีสิทธิกู้ยืมเงินเอง มีระบบภาษีอันเดียวกัน มีการคลังและสวัสดิการสังคมที่กลมกลืนกัน และที่สำคัญที่สุดมีผู้นำเป็นของตัวเอง

http://www.dw.de/hollande-proposes-eurozone-government-as-differences-with-merkel-show/a-16819966

 

ดูเผินๆเป็นข้อเสนอที่ท้าทายจากผู้นำฝรั่งเศส แต่เกมนี้ลึกซึ้งเพราะว่าถ้าเป็นไปได้ฝรั่งเศสอยากจะเป็นผู้นำในบล๊อคยุโร โซน17ประเทศที่ใช้เงินยูโร เขตนี้เป็นไข่แดงของสหภาพยุโรปที่มีสมาชิก27ประเทศ ประเทศที่เหลือเด่นคืออังกฤษไม่ใช้ยูโร

 

เยอรมันจับทางถูกไม่เล่นด้วย เพราะว่าสิ่งที่เยอรมันกลัวที่สุด การที่ตัวเองต้องอุ้มหนี้ทั้งหมดของเขตยูโร แผนนี้จะลากเยอรมันให้ถูกมัดมือชกเพื่อแบกหนี้ของสมาชิกคนอื่นโดยที่ ฝรั่งเศสจะได้หน้า ทุกวันนี้เยอรมันก็อุ้มจนอ่วมแล้ว ถ้าต้องรวมตัวกันถึงขนาดต้องเกลี่ยรายได้ภาษีเยอรมันไปอุ้มกรีซ ไซปรัส หรือเสปนและประเทศอื่นๆที่จะตามมาแบมือขอตัง คนเยอรมันไม่เล่นด้วยแน่ๆ

 

สังเกตุดูดีๆ ประเทศยุโรปใต้ ที่มีฝรั่งเศสเป็นผู้นำแข็งสุดรู้จักกันดีว่าลาตินยุโรปที่นับถือศาสนาแคทอ ลิคเช่นฝรั่งเศส เสปน โปรตุเกส อิตาลีจะมีวิกฤติเศรษฐกิจหนักกว่าและ มีความสามารถในการแข่งขันน้อยกว่าพวกยุโรปเหนือนำโดยเยอรมัน เนเธอร์แลนด์ ฟินแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศโปรเตสแต้นท์

 

ส่วนประเทศที่อยู่นอกวงโคจรอย่างกรีซหรือไซปรัสไม่ต้องพูดถึง รอวันโดนเชือดอย่างเดียว

 

โครงสร้างที่ไม่เข้ากันแต่ต้นหลักๆคือความสามารถในการแข่งขันไม่เท่าเทียม กัน ก่อให้เกิดปัญหาเวลามารวมกันเป็นสหภาพยุโรป โดยมีฝรั่งเศสและเยอรมันเป็นแกน เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้มีสงครามโลกอีก

 

แต่จะกันสงครามโลกได้จริงหรือ ถ้าสหภาพยุโรปมีอาการปริแตก เพราะตอนนี้ก็ร้าวแล้ว

 

Thanong Fanclub

9/8/2013

 

http://investmentwatchblog.com/buckle-up-the-eu-crisis-will-be-back-soon/?utm_source=feedburner&utm_medium=twitter&utm_campaign=Feed%3A+Investmentwatch+%28InvestmentWatchBlog%29

 

 

 

3. อังกฤษคอยตีกรรเชียง ตีกินอยู่นอกวง

 

เหมือนอย่างที่เขียนมาแล้วในโพสท์ก่อนหน้านี้ อังกฤษไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของทวีปยุโรป แม้ว่าจะเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป และเป็นประเทศสำคัญ แต่อังกฤษไม่เคยคิดที่ใช้เงินยูโรร่วม เพราะอังกฤษหวงแหนแท่นพิมพ์ เงินปอนด์ของตัวเองเป็นที่สุด ที่ครองโลกมาตั้งแต่ศตวรรษที่19 จนทุกวันนี้ได้ก็เพราะแท่นพิมพ์เงินปอนด์และแท่นพิมพ์เงินของUS Federal Reserveที่ Bank of Englandคุมอยู่

 

อำนาจการเมือง มาจากอำนาจเงิน และอำนาจเงินมาจากการควบคุมแท่นพิมพ์ อังกฤษตระหนักในข้อนี้มาตลอดประวัติศาสตร์การเงินหลายร้อยปีแล้ว

 

มีความเป็นไปได้ที่การโจมตีค่าเงินปอนด์ของนายจอ์จ ซอรอสในปี1992เป็นแผน และข้ออ้างต่อมาไม่าให้อังกฤษเข้าร่วมเงินสกุลยูโร การโจมตีรั้งนั้นทำให้เงินปอนด์ต้องออกจาก European Exchange Rate Mechanism เป็นกลไกตั้งขึ้นมาเพื่อให้ค่าเงินยุโปต่างๆ มีการเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ ก่อนที่ค่าเงินเหล่านี้จะconvergeหรือประสานกันกลายเป็นเงินสกุลยูโรเดียว ปรากฎว่านายโซรอสกำไรการเก็งค่าเงินปอนด์ที่ต้องลดค่าเงินถึง1,000ล้านปอนด์ กลายเป็นตำนานไป Bank of Englandตอนนั้นเสียหน้ามาก แต่ในใจอาจจะอมยิ้มก็ได้ ขาดทุนนิดหน่อยแต่ก็คุ้ม

 

อีกเหตุการสำคัญอันหนึ้ง คือการล่มสลายของBarings Bankที่สิงคโปร์ โดยนายนิค ลีสัน ทำให้อังกฤษเอาเป็นข้ออ้างทั้งเงินปอนด์ที่ไม่เสถียร ทั้งระบบการธนาคารที่ไม่ได้ดูแลดีเรื่องการตรวจสอบว่าไม่พร้อมเข้าร่วมยูโร ผู้นำอังกฤษก็เตะถ่วงว่าจะทำประชามติ ตีกรรเชียงไปเรื่อยๆ หลอกให้เยอรมันกับฝรั่งเศสเข้าคอกเดียวกัน

 

นายMilton Friedmanนักเศรษฐศาสตร์โนเบลเคยกล่าวว่าเงินยูโจะอยู่ได้อย่างมาก10ปี แล้วก็จะเจ้ง เพราะแต่ละประเทศมีโครงสร้างต่างกันมาก

 

แล้วก็จริงอย่างที่เขาทำนาย ยูโรเกิดปี1999 พอปี2008 ก็ออกอาการรวนแล้ว เพราะพิษซับไพร์มจากสหรัฐฯลามมา

 

Milton Friedman:…I think the euro is in its honeymoon phase. I hope it succeeds, but I have very low expectations for it. I think that differences are going to accumulate among the various countries and that non-synchronous shocks are going to affect them. Right now, Ireland is a very different state; it needs a very different monetary policy from that of Spain or Italy. On purely theoretical grounds, it’s hard to believe that it’s going to be a stable system for a long time. …

http://marginalrevolution.com/marginalrevolution/2011/09/milton-friedman-on-the-euro-and-qe3.html

 

การอยู่นอกวงยูโร ทำให้อังกฤษที่ผ่านมาตั้งแต่2008 ทำคิวอีสนุกมือ พิมพ์เงินไปแล้วเกือบ$700,000 ทำควบคู่กับFederal Reserveของสหรัฐฯ ตอนนี้ให้ท้ายญี่ปุ่นทำคิวอีสร้างฟองสบู่ระบบการเงินโลก ถ้าตัวเองไปไม่ได้ คนอื่นก็ต้องไปไม่ได้เหมือนกัน

 

 

 

4. เยอรมันกว่าจะรู้ตัว ก็สายไป

 

กว่าจะรู้ตัวก็ช้าไปแล้ว เยอรมันและฝรั่งเศสรู้ว่าโดนอังกฤษตัวแสบต้มซะเปื่อย เพราะว่าฝรั่งเศสยอมทิ้งเงินฟรังซ์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเงินสกุลหลักของโลก ยุคล่าอาณานิยมที่เกรียงไกรของฝรั่งเศส

 

ส่วนเยอรมันก็ยอมทิ้งเงินมาร์ คที่ได้เกิดใหม่หลังWeimar Republic ที่เงินเฟ้อกระจุยกระจาย และหลังแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง เยอรมันสร้างชาติใหม่จากความอุตสาหะ เทคโนโลยี่ที่ล้ำเลิศ ความสามารถในการแข่งขันที่แกร่งสุด ทำให้ฟื้นจากสงครามกลายเป็นประเทศผู้นำของยุโรป กระเป๋าตังหนักสุด

 

แต่เยอรมันคงตีดลูกคิดคำนวนแล้วว่าอยู่ในยูโรคุมเกมได้ อย่างอังกฤษอยู่นอกวงคงจะทำอะไรไม่ได้ถนัด

 

สิ่งที่เยอรมันจะคัดค้านมากที่สุดคือการอุ้มยุโรปทั้งยวง และเยอรมันรู้ตัวดีว่ายุโรปไปไม่รอดแล้ว รอวันระเบิดออกมา เพราะหนี้ของยูโรโซนตอนนี้406%ต่อจีดีพีไปแล้ว ปกติถ้าปล่อยให้หนี้ต่อจีดีพีไปถึงระดับ80-90%ก็อ่วมแล้ว เพราะภาระหนี้ ดอกเบี้ยจะเป็นตัวถ่วงเศรษฐกิจ

 

http://www.benzinga.com/news/13/08/3815324/ecb-announces-total-eurozone-debt-rose-to-406-8-of-gdp-in-q1-from-405-1-in-q4-201

 

ดูหนี้ต่อจีดีพีที่เพิ่มวนไตรมาสแรกจากไตรมาศ4ของปีที่แล้ว

 

Luxembourg total debt to GDP rose to 4,368.6% from 4,309.2%.

Ireland total debt to GDP rose to 1,074.7% from 1,056.2%.

Holland's total debt to GDP fell to 648.8% from 651.1%.

Spain's total debt to GDP fell to 404.3% from 406.6%

France's total debt to GDP rose to 397.8% from 386.5%

Italy's total debt to GDP rose to 371% from 370.6%

Germany's total debt to GDP fell to 296.7% from 296.9%

 

หนี้ขนาดหนี้ ก็คงจ่ายได้ชาติหน้าตอนบ่ายๆ

 

 

ประเทศไทยมิเห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตา ภาครัฐตั้งหน้าตั้งตาก่อหนี้ เพื่อให้ไปแตะเส้นนรกโดยเร์ว

 

เยอรมันต้องเตะถ่วงเวลามากที่สุด ในเรื่องการให้ความช่วยเหลือประเทศที่อ่อนแอ ที่สำคัญต้องหยุดEuropean Central Bankให้ได้ เพราะว่าเป็นพวกเดียวกับอิตาลี ฝรั่งเศสและอังกฤษลึกๆ บุนเดสแบงค์หรือธนาคารกลางเยอรมันต้องคอยดักไม่ให้ECBพิมพ์เงิน เพราะตัวเองได้ประสบการจากWeimar Republicที่เยอรมันโดนทำลายย่อยยับจากเงินเฟ้อเป็นล้าน% ปี1923 ที่ผ่านมาเยอรมันแทบจะเป็นหัวเดียวกระเทียมลีบในECB

 

thanong fanclub

9/8/2013

นางเองเจลล่า เมอร์เกลผู้นำเยอรมันจะลงเลือกตั้งอีกครั้งในเดือนกันยายน และเชื่อว่าน่าจะชนะและกลับมาเป็นผู้นำอีกครั้ง

 

แต่เยอรมันคงปลอบใจตัวเองว่าไม่เป็นไร แม้อังกฤษจะอยู่นอกวง

 

 

 

5. พวกลาตินยุโรปกำลังรวมตัวกันต้านเยอรมัน

 

Mario Draghiผู้ว่าการธนาคารEuropean Central Bankชาวอิตาลี และนาย Jose Manue Barroso ประธาน European Commissionชาวโปรตุเกส แคทอลิคหัวหอกทั้งคู่ เป็นหัวหอกที่รวบรวมสหภาพยุโรปให้แน่นแฟ้นขึ้นไปอีก จนจะกลายเป็นสหรัฐแห่งยุโรป คล้ายสหรัฐอเมริกาที่เป็นการรวบรวมมลรัฐต่างๆเข้ามาเป็นประเทศเดียวกัน

 

โดยนายดรากี้ห์จะดูการเงิน ส่วนนายบาณรอสโซดูการเมือง แน่นอนจะไม่มีที่ยืนให้เยอรมัน เพราะถ้าเยอรมันจะเข้มมารวมต้องอยู่ในเกม เยอรมันคิดในใจว่าฉันคงจะโง่ให้พวกคุณหลอกหรอกนะ เพราะฉันก็ไม่อยากจะร่วมกับพวกเฮงซวยอย่างคุณหรอกเอาเข้าจริงๆแล้ว

 

นายบาร์รอสโซเสนอแผนการรวมยุโรปเป็นสหรัฐแห่งยุโรปปีที่แล้ว โดยแต่ละประเทศจะสิ้นสุดความเป็นประเทศ ละทิ้งอำนาจอธิปไตยไปสิ้น และจะมีสโยบายความมั่นคง ทางทหาร การเมืองเศรษฐกิจ การเงิน ค่าเงินสกุลเดียวอย่างเบ็ดเสร็จ

 

บาร์รอสโซมีประวัติพิลึก คล้ายนักการเมืองบ้านเรา ตอนวันรุ่นนักศึกษาเห็นพวกหัวรุนแรงคอมมิวนิสต์ ต่อมาเล่นการเมืองได้เป็นนายกโปรตุเกส ตอนนีเป็นถึงประธานEuropean Commission ไม่รู้ขึ้นมาได้อย่างไร แต่บ้านเราก็มีคอมมิวนิสต์หลายคนกลับใจมาเป็นรัฐมนตรีรักประชาธิปไตยหน้าตา เฉย

 

http://www.keeptalkinggreece.com/2012/09/13/barroso-united-states-of-europe-with-pool-sovereignty/

 

ยังดูไม่ออกว่าถ้ารวมสำเร็จ แล้วกันเยอรมันออกนอกวงได้ โรมหรือปารีสจะขึ้นเป็นใหญ่

 

แต่การรวมตัวกันนี้จะเป็นไปไม่ได้ ถ้าประเทศบริวารไม่พังก่อน เลยต้องให้เลห์แมนล้ก่อนปี2008 เพื่อจะลากยุโรปให้ล้มลงไปด้วย แผนนี้มีความเป็นไปได้ เพราะไม่มีเหตุผลที่เฟดจะให้เลห์แมนล้ม เครื่องพิมพ์อยู่กับมือ อุ้มทุกเจ้าได้ แต่ทำไมยอมบูชายันเลห์แมน ถ้าไม่ใช่ต้องการให้ยุโรปและเอเซียมีปัญหาไปด้วย

 

เหมือนช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ตอนนั้นเฟดล้มระบบการเงินสหรัฐฯ ล้มตลาดหุ้นปี1929 แถมมีกฎหมายกีดกันการค้าเพื่อให้ระบบการค้าโลกล่ม อังกฤษก่อสงครามการเงินด้วยการลดค่าเงินและออกจากมาตรฐานทองคำปี 1931 และปี 1933 สหรัฐฯโดยรุสเวลท์ยึดทองคำจากประชาชนเพื่ออุ้มแบงค์

 

เหตุการณืครั้งนั้นทำให้ยุโรปล่ม อันนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่สอง หลังสงครามมีการก่อตั้งBretton Woods System ตั้งWorld Bank, IMF, UNยึดโลกอย่างเบ็ดเสร็จ

 

และประเทศไทยก็สูญเสียระบบสมบูรณาญาสิทธิราชจากหางเลขครั้งนั้นในปี1932 ทองคำสยามโดนขายเกลี้ยง เข้ากระเป๋าใครมิทราบ

 

 

 

6. ถ้าไม่เข้าก๊วน ก็จะโดนเชือด

 

กรีซและไซปรัสเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู แก้ปัญหากรีซอยู่นั้นแหละมาหลายปีแล้ว ทั้งไอเอ็มเอฟ สหภาพยุโรป เยอรมันดึงเรื่องกันไปมาจนกรีซโดนปั่นจนฟ้ืนขึ้นมาแล้วสลบหลายรอบ ตอนนี้ยังโคม่า ไซปรัสก็โดนยำซะเละ

 

ก็ต้องเป็นการส่ง สัญญานให้ประเทศบริวารperipheralที่เหลือว่าต้องเจียมบอดี้นะ ถ้าไม่เข้าก๊วนด้วยการละทิ้งอำนาจอธิปไตยทั้งหมดสิ้นชาติ จะโดนป่ล่อยเกาะให้ชิบหายแบบกรีซแบบไซปรัส ไม่มีทางฟื้นได้

 

ถ้ายอมนบนอบพิเทา ทำตามคำสั่งแต่โดยดี ก็จะได้เงินยูโรจาก Mario Draghiผู้ว่าอซีบี แล้วก็จะรอด เข้าไปอยู่ในสหรัฐแห่งยุโรปเป็นส่วนหนึ่งเหมือนรัฐเวอร์มอนท์เป็นส่วนหนึ่ง ของสหรัฐอเมริกา

 

ตอนนี้ดรากี้ห์มีพลังอำนาจมาก เป็นเด็กGoldman Sachsเจ้าเก่า เงื้อนิ้วแล้วอยากจะพิมพ์ยูโรออกมา เหมือนเฟด กับแบงค์ออฟอิงแลนด์ แบงค์ออฟจาแปน แต่ยังไม่ทำ ยังไม่ถึงเวลา

 

แค่ดรากี้ห์บอกว่าจะใช้ Outright Monetary Transactionsหรือคิวอีฉบับยุโรปแค่นี้ ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลยุโรปที่ง่อนแง่นก็ตีกลับอ่อนลง ทำให้หายใจกันได้ไประยะพักใหญ่แล้ว จนคนคิดว่าวิกฤติยุโรปจบไปแล้ว ที่ใหนได้รอวันระเบิดแค่นั้นเอง

 

ตัวOMTจะเข้าไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนที่ง่อนแง่นดอกสูงในตลาด รองsecondary market เพื่อกดดอกให้ต่ำ ทำให้รัฐบาลก่อหนี้ต่อไปได้ แต่OMTก็ต้องเอาเงินจากการบริจาคของประเทศสมาชิกใส่เข้ากองทุนเสถียรภาพ ประเด็นคือทุกประเทศการคลังแทบล้มละลาย แล้วจะเอาเงินมาจากใหนมาสมทบกองทุนเสถียรภาพ

 

เยอรมันค้านหัวชนฝา ออกมาบอกว่าพวกยูกำลังคิดจะไฟแนนซ์หนี้รัฐบาลแบบนี้ไอไม่เอาด้วย

 

ภายในเยอรมันก็เล่นเกมเป็น มีการฟ้องศาลรัฐธรรมนูญว่าไอ้เจ้าคิวอีOMTมันไม่อยู่ในสาระบบผิดกฎหมาย เยอรมันนะ ศาลฟังคำให้การ มีการสืบไต่สวนไปแล้วเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ยังไม่แน่ว่าจะตัดสินว่า ไอ้คิวอีประหลาดตัวนี้ขัดกฎหมายเยอรมันหรือขัดกับเงื่อนไขการเข้าร่วมยูโร ของเยอมันเมื่อใด

 

ศาลเยอรมันอาจจะตัดสินช่วงก่อนการเลือกตั้งเยอรมันหรือหลังก็ได้ เพื่อให้อาวุธนางเมอร์เกิ็ล ผู้นำเยอรมันที่จะกลับมาเป็นผู้นำอีกครั้งเพื่อฟาดฟันกับพวกลาตินยุโรป ที่กำลังล้อมกรอบเยอรมันอยู่

 

เยอรมันต้องเดินเกมรุกกลับแล้ว โดนรุมตึ้บแบบนี้

 

thanong fanclub

 

 

 

7. เยอรมันเห็นที่ต้องออกจากยูโร กลับไปพิมพ์มาร์ค

 

หลังการเลือกตั้ง นางเองเจลล่า เมอร์เกิ้ลผู้นำเยอรมัน คงต้องตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่ร่วมกับเรือยูโรผุๆที่รอวันล่ม หรือจะถีบส่งตีกรรเชียงหนีออกไป เพราะพวกลูกเรือก็รวมตัวกัน จะล้อมกรอบเล่นงานกับตัวเยอรมัน เป็นการก่อการปฏิวัติซ้อนระบบภายใน

 

มีความเป็นไปได้สูงที่เยอรมันจะออกจากยูโร แล้วกลับไปใช้มาร์คเหมือนเดิม แล้วเยอรมันจะคุมเกมได้สะดวกมือกว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นยูโรเห็นทีจะระส่ำหนัก เพราะเจ้ามือใหญ่ไปแล้ว ผลก็คือค่าเงินยูโรจะป่วนมาก เมื่อเทียบเยอรมัน ปอนด์และดอลล่าร์จะโดนผลกระทบด้วย ฝรั่งเศสจะย่ำแย่

 

ขณะนี้ตลาดเทรดดอลล่าร์ ยูโรใหญ่ที่สุดในโลก

 

ด้วยความแกร่งของเยอรมัน มาร์คจะแข็ง มีอำนาจซื้อ ถึงตอนนั้นนั้นเยอรมันจะไล่เซิ้งพวกยุโรปอ่อนหัด แต่อยากซ่า เพราะส่วนมากแล้วไม่มีทางฟื้น

 

ไอเอ็มเอฟจมูกไว เมื่อเร็วๆนี้ เข้าไปแนะอีซีบีว่าให้เตรียมQEเกียร์ห้าได้เลย ถ้าเฟดแตะเบรคQEจริงๆ ยิ่งจะทำใหยุโรปเข้าสู่ภาวะหนี้ที่เพิ่มขึ้น การเติบโตจะโดนทุบ นโยบายการเงินของยูโรจะป่าน และตลาดการเงินจะย่ำแย่

 

ไอเอ็มเอฟแนะว่า ถ้าเหตุการณ์เป็นอย่างนั้น ทางธนาคารกลางแห่งยุโรปหรืออีซีบี ควรต้อง

1. ลดดอกเบี้ย

2. ใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ (แบงค์ที่เอาเงินมาฝากกับอีซีบี จะไ้ดอกเบี้ยติดลบ คือเงินต้นจะหาย เพื่อบังคับให้แบงค์ปล่อยกู้ ทำธุรกรรม)

3. พิมพ์เงินเข้าไปซื้อทรัพย์สินของเอกชน หรือการทำQEนั่นเอง

 

แต่ที่จริงแล้ว ไอเอ็มเอฟ กลัวด้วยว่าเยอมันจะแผลงฤทธิออกจากยูโร ถ้าเป็นอย่างนั้นยุโรปจะระสำ่หนัก อีซีบีคงต้องเล่นQEดื้อๆแบบเฟด แบงค์ออฟอิงแลนด์และแบงค์ออฟจาแปน เพื่ออุ้มทั้งระบบให้เอาให้อยู่ ก่อนการอภิมหารีเซ็ท

 

เกมพิมพ์เงินโดยแก๊งพิมพื์เงินจะสมบูรณ์แบบเหมือนวงดนตรีquartet เงินมาร์คที่จะเกิดใหม่ เงินหยวนที่จะแจ้งเกิดทางฟากนี้ จะฉวยจังหวะใดให้ยืนหยัดอยู่ได้ ท่ามกลางแก๊งพิมพ์เงินที่กำลังล้มระบบ ด้วยเงินเฟ้อ และฟองสบู่ตลาดการเงิน เพื่อการสร้างระบบใหม่

 

แต่เมืองไทยสบายไม่ต้องห่วงฝรั่งตีกัน เพราะบุญบารมีนายกปู ผู้เดินทางทั่วโลกตลอดเวลา เพื่อเรียนรู้งาน ส่งเสิรมการท่องเที่ยว ช่วยขายโอท๊อป และเพื่อการสร้างภาพพจน์ประเทศไทย แฮะๆๆๆ

 

 

thanong fanclub

 

http://www.telegraph.co.uk/finance/economics/10202278/IMF-fears-Fed-tapering-could-reignite-euro-debt-crisis.html

 

https://www.facebook.com/groups/135029796643588/306785659468000/

 

 

[MOR LEK 2,835]

แม้ว่า GOFO rate 6 เดือนจะติดลบเป็นวันที่ 2 แล้วก็ตาม

 

 

แต่พอดู COT ที่ออกมาเมื่อวานแล้วก็หนาวเหมือนกันแฮะ เจ้ามือเพิ่ม S จำนวนมหาศาลเลย

 

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[ส้มโอมือ 4,910]

( ภาคผนวก )เยอรมันกำลังขนทองคำแท่งกลับบ้าน เตรียมการทิ้งยูโร

 

เป็นข่าวใหญ่เมื่อเดือนมกราคม 2013 เมื่อบุนเดสแบงค์ หรือธนาคารกลางของเยอรมันออกแถลงการณ์ว่า มีความประสงค์ที่จะขนทองคำแท่งที่ฝากไว้ในตู้นิรภัยของเฟดเดอรัลรีเชร์ฟแห่ง นิวยอร์คและธนาคารกลางของฝรั่งเศส เพื่อเอากลับมาเก็บดูแลรักษาในตู้นิรภัยของตัวเองที่แฟรงค์เฟร์ท ทำให้มีคำถามขึ้นมาว่า เยอรมันเตรียมทิ้งยูโรเพื่อกลับไปพิมพ์เงินมาร์คเหมือนเดิม โดยมีทองคำแท่งหนุนเพื่อความเชื่อมั่นหรือเปล่า?

 

ขณะนี้เยอรมันมีทองคำแท่ง3,400ตัน มากเป็นอันดับสองของโลกรองมาจากสหรัฐอเมริกา ก่อนปี 1990 เยอรมันเก็บทองคำแท่ง98%อยู่นอกประเทศ คือสหรัฐอเมริกา อังกฤษและฝรั่งเศส แต่หลังจากสงครามเย็นสงบลง เยอรมันค่อยๆทะยอยขนทองคำแท่งที่เพิ่มพูนขึ้นมาจากพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็ง แกร่งกลับบ้าน อีกประการหนึ่งเยอรมันได้เข้าร่วมเขตยูโร โดยใช้เงินสกุลยูโรแทนเงินมาร์คของตัวเองที่ยกเลิกไป ทำให้มีความจำเป็นน้อยลงในการเก็บทองที่ตู้นิรภัยในธนาคารกลางของสหรัฐฯ อังกฤษและฝรั่งเศส เพื่อช่วยในการบริหารเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ

 

เมื่อปี2000 เยอรมันได้ขอคืนทองคำแท่ง930ตันที่เก็บไว้ที่ธนาคารกลางของอังกฤษ แต่จะยังคงเก็บทองไว้ที่ธนาคารกลางอังกฤษ13%ของทองคำทั้งหมดที่เยอรมันมี อยู่ เริ่มปีนี้เยอรมันจะขนทองคำแท่ง300ตันที่ฝากไว้ที่นิวยอร์คกลับบ้าน และจะขนทองคำแท่งทั้งหมด374ตันที่ฝากไว้กลับธนาคารกลางของฝรั่งเศสไม่เหลือ หรอ

 

ตารางของการขนทองคำแท่งของเยอรมันจากนี้ไปถึงปี 2536เป็นดังนี้ :

31 ธันวา 2555 31 ธันวา 2563

แฟรงค์เฟร์ท 31% 50%

นิวยอร์ค 45% 37%

ลอนดอน 13% 13%

ปารีส 11% 0%

 

ต้องเข้าใจว่าระบบการเงินกระดาษ (fiat currency) ของโลกเริ่มจะแกว่งไม่มีเสถียรภาพหลังวิกฤติปี2551 เพราะระบบธนาคารล้มละลาย มีหนี้เสียมาก เศรษฐกิจถดถอย ตลาดเงิน ตลาดทุนเกือบจะพัง ทำให้ธนาคารกลางในประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธนาคารกลางอังกฤษและเฟดเดอรัล รีเชร์ฟของสหรัฐอเมริกาต้องพิมพ์เงินเข้าไปอุ้มระบบการเงินไม่ให้ล้ม การพิมพ์เงินกระดาษโดยไม่มีทองคำหนุนหลัง ทำให้ความเชื่อมั่นในเงินกระดาษไม่ปกติ

 

ถ้าเยอรมันจะพิมพ์มาร์ค ก็ต้องมีทองคำหนุนหลัง การขอถอนทองคำคืนของเยอรมันเป็นจุดเริ่มต้นของการผันผวนของราคาทอง มีการทุบราทองเป็นระลอกๆ เพราะสหรัฐฯอาจจะไม่มีทองเหลืออยู่ในมือ เพราะต้องใช้เวลาถึง7ปีกว่าจะคืนทองคำเยอรมันหมด ฝรั่งเศสได้ส่งกองกำลังทหารเข้าประเทศมาลี เพราะที่นั่นมีทองคำมาก

 

ขณะนี้ญี่ปุ่นผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่สอง กำลังจะเปลี่ยนรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นรัฐทหาร โดยมีสหรัฐหนุนหลังเพื่อจะได้เตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับจีน เยอรมันผู้แพ้สงครามโลกอีกประเทศก็จะต้องเตรียมการเป็นรัฐทหารเหมือนกัน เมื่อเวลามาถึง ในเมื่อเยอรมันโดนพวกยุโรปอื่นๆล้อมกรอบจึงได้หันไปจับมือกับรัสเซียใน เรื่องความมั่นคง

 

สงครามโลกครั้งที่หนึ่งเป็นการทำลายจักรวรรดิปรัสเซียเป็นหลัก และจักรวรรดฺอื่นๆ ไม่ว่าออตโตมัน ออสเตรีย ฮังการรี่และรัสเซียโดนทำลายไปด้วย สงครามโลกครั้งที่สองเป็นการทำลายเยอรมันล้วนๆ กว่าครึ่งศตวรรษผ่านไป เยอรมันโดนล้มกรอบอีกครั้ง เพื่อการลำลาย คราวนี้เยอรมันรู้ตัวดี จะไม่แพ้เหมือนสงครามโลกครั้งที่1และ 2

 

เพราะฉะนั้นต่อไปเราจะเห็นเค้าโครงของมหาอำนาจใหม่ประกอบด้วยเยอรมันและรัส เซียในยุโรป จีนในเอเซีย อินเดียในเอเซียใต้ ที่จะมาเผชิญหน้ากับมหาอำนาจเก่าคือกลุ่มแองโกล อเมริกันเพราะว่ากงล้อประวัติศาสตร์ของสงครามวนมาบรรจบอีกรอบหนึ่งแล้ว

 

thanong fanclub

10/8/2013

 

 

 

ถูกแก้ไข สิงหาคม 10, 2013 โดย ส้มโอมือ

[mdaddy 2,443]

นอกเรื่องทองคำ แต่ขอนำมาฝากไว้พิจารณาครับ

• ตอนนี้ผู้ให้บริการอีแมวระบบ โคตรปลอดภัย (ไม่มีใคร แม้แต่ผู้ให้บริการ สามารถแอบอ่านอีแมวของคุณได้) ๒ เจ้า ให้ประกาศหยุดให้บริการแล้ว เนื่องจากแรงกดดันจากสตาซีรัฐบานให้ดูดข้อมูลส่งรัฐ (หลังจากที่รายแรกปิดตัวไปไม่กี่ชั่วโมง รายที่ ๒ ก็ปิดตัวตาม)
  
• ส่วนผู้ให้บริการในลักษณะเดียวกันที่เหลืออยู่ (อีกยี่ห้อ) เคยมีประวัติว่ายอมอ่อนข้อ ทำให้ระบบมีรูโหว่ไว้อยู่แล้ว
  
• เจ้าของระบบอีเมลล์รายแรกที่ปิดตัวไป ยอมเสียรายได้ปีละกว่า ๓ ล้านบาท เพื่อที่จะไม่ต้องยอมทำตามแรงกดดันของสตาซีรัฐบานให้ทรยศลูกค้าตัวเอง ... จากสัมภาษณ์ เขาปิดท้ายไว้ว่า "ตอนนี้ผมหยุดใช้อีแมวแล้ว ถ้าคุณรู้เรื่องเกี่ยวกับอีแมวเหมือนที่ผมรู้ คุณก็อาจจะไม่อยากใช้เหมือนกันก็ได้"
  

http://www.forbes.co...ght-not-use-it/

ถูกแก้ไข สิงหาคม 10, 2013 โดย wcg