ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

Thanong Fanclub

 

ถูกใจแล้ว · วันนี้ เวลา 15:00 · แก้ไขแล้ว · zF84oovpD-v.png

 

1. เฟดจอมหลอกลวง

 

Paul Craig Roberts อดีตรมวช่วยคลังสมัยประธานาธิบดีเรแกนจับโกหกUS Federal Reserveได้ว่าไม่ได้ลดการทำQuantitative Easing หรือ QEจริงตามที่ประกาศ แต่แอบใช้เบลเยี่ยมเป็นโนมินีเพื่อช่วยซื้อพันธบัตรสหรัฐฯแทน

 

เขาเขียนบทความล่าสุดแฉเฟดว่าเป็นจอมหลอกลวง

 

"เฟดลดการทำQEจริงหรือเปล่า? เฟดได้ลดการซื้อพันะบัตรในช่วง3เดือนระหว่างพฤศจิการยน 2013 และมกราคม2014หรือไม่? คำตอบคือไม่ได้ลด ถ้าหากต่างชาติขายพันธบัตรสหรัฐฯ

 

ระหว่างพฤศจิกายน 2013 และมกราคม2014 ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งมีจีดีพีหรือขนาดเศรษฐกิจ $480,000ล้านซื้อพันธบัตรสหรัฐฯถึง$141,200ล้าน ไม่รู้ว่าเบลเยี่ยมเอาเงินมาจากใหนเพื่อมาซื้อพันธบัตรสหรัฐฯในมูลค่า29%เทียบเท่ากับจีดีพีของประเทศตัวเอง

 

แน่นอนเบลเยี่ยมไม่ได้มีงบเกินดุล $141,200ล้าน หรือว่าเบลเยี่ยมมีดุลการค้าเกินดุล29%ต่อจีดีพีในช่วง3เดือนนั้น? เปล่าเลย เบลเยี่ยมมีุดลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดติดลบด้วยซ้ำ

 

หรือว่าธนาคารกลางของเบลเยี่ยมพิมพ์เงิน$141,200ล้านเทียบเท่าเงินยูโร เพื่อซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ คำตอบก็คือเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าเบลเยี่ยมอยู่ในเขตยูโร มีเพียงEuropean Central Bankพิมพ์เงินได้ ธนาคารกลางของเบลเยี่ยมไม่สามารถเพิ่มปริมาณเงินได้

 

แล้วเงิน$141,200ล้านมาจากใหน?

 

คำตอบคือมีแหล่งเงินเดียวเท่านั้นที่เป็นไปได้ เบลเยี่ยมได้เงินมาจากUS Federal Reserve ซึ่งแอบซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯผ่านเบลเยี่ยม เพื่อปกปิดความจริงว่าเฟดเป็นผู้ซื้อพันธบัตรสหรัฐฯระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2013 และมกราคม2014ในระดับ$112,000ล้านต่อเดือน

 

ทั้งๆที่เฟดประกาศจะลดการทำQEเป็นครั้งแรกเดือนธันวาคม ว่าจะลดการซื้อพันธบัตรจาก$85,000 เป็น$75,000ต่อเดือน เริ่มต้นเดือนมกราคม2014 แต่ความจริงแอบซื้อพันธบัตรสหรัฐฯเพิ่มทางประตูหลังผ่านประเทศเบลเยี่ยม

 

ลวงโลกจริงๆ สำหรับเจ้าพ่อพิมพ์เงินรายนี้

 

thanong

14/5/2014

 

http://www.thedailybell.com/editorials/35299/Paul-Craig-Roberts-The-Great-Deceiver--The-Federal-Reserve/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น


  •  
     
     
     
     
    Thanong Fanclub
     
    2. เฟดจอมหลอกลวง
     
    มี บางประเทศขายพันธบัตรสหรัฐฯแบบเทกระจาดออกไป$104,000ล้านภายใน1อาทิตย์ (ซึ่งน่าจะเป็นรัสเซียหรือจีน) ทำให้เฟดต้องเข้าไปอุ้มซื้ออย่างลับๆล่อๆ
     
    การ ขายครั้งนี้ไม่ได้ทำผ่านระบบเคลียริ่งของเฟด (National Book-Entry System) เพราะเฟดทำหน้าที่ดูแลบัญชีพันธบัตรสหรัฐฯ (custodian service)ให้ธนาคารกลางหรือกองทุนมั่งคั่งของประเทศต่างๆด้วย แต่ผู้ที่เทกระจาดขายพันธบัตรสหรัฐฯอย่างมโหฬารครั้งนี้ถอนพันธบัตรออก จากcustodian serviceของเฟด แล้วก็ไปขายผ่านระบบเคลียริ่งธนบัตรของยุโรป (Euroclear Securities Clearing System) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม
     
    เรา ยังไม่รู้แน่ชัดว่าทำไม หรือเป็นใครกันแน่ รู้แต่ว่ามีการถอนพันธบัตรสหรัฐฯ$104,000ล้าน มีการขายพันธบัตรจำนวนนี้ออกไป มีจำนวนพันธบัตรนี้ในคัสโตเดียนของเฟดลดลง มีการเพิ่มการถือพันธบัตรของเบลเยี่ยมอย่างอธิบายไม่ได้ และท้ายที่สุดพันธบัตรนี้กลับมาโผล่ที่บัญชีคัสโตเดียนของเฟดอีกครั้ง
     
    วนไปมาครึ่งโลกกว่าจะกลับมาที่เฟด เหตุผลเพราะอะไร?
     
    thanong
    14/5/2014
     
    Thanong Fanclub
    2 ชั่วโมงที่แล้ว
    3. เฟดจอมหลอกลวง
     
    ทำไมเฟดถึงทำกลลวงอัฐยายซื้อขนมยายเช่นนี้
     
    คำ ตอบคือ เฟดตระหนักดีว่าการทำQEเพื่ออุ้มงบดุลของแบงค์ อุ้มการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ และอุ้มภาระดอกเบี้ยของทั้งระบบการเงิน จะสร้างแรงกดดันให้เงินดอลล่าร์ต้องอ่อนตัวลง เพื่อที่จะสร้างภาพลวงตาให้มีความเชื่อมั่นในค่าดอลล่าร์ เฟดประกาศนโยบายtaper คือจะค่อยลดการซื้อพันธบัตรลงไป และหยุดการพิมพ์เงินผ่านQE
     
    ภาพ ที่ปรากฎออกมาว่ารัฐบาลต่างประเทศจะไม่ยอมอุ้มพันธบัตรสหรัฐฯต่อไปจะทำให้ ตลาดการเงินตกใจ ในขณะที่เฟดต้องการให้ตลาดการเงินรู้สึกมั่นใจกับดอลล่าร์ การเทขายพันธบัตรจำนวน$104,000ล้านนับมากโขอยู่ และถ้าผู้ขายเป็นผู้ถือพันธบัตรสหรัฐฯรายใหญ่ จะส่งสัญญานว่าการขายล๊อตใหญ่อาจจะตามมาอีก
     
    เฟด เลยจำเป็นต้องปิดบังข้อมูลว่าใคร หรือประเทศใดเป็นผู้ขายพันธบัตรสหรัฐฯล๊อตนี้ เพราะถ้ามีอาการตกใจในตลาดบอนด์มีการเทขายขึ้น ดอกเบี้ยจะสูงขึ้น และจะสร้างภาระหนี้ให้ระบบการเงินสหรัฐฯ เพื่อที่จะเลี่ยงวความเสี่ยงของดอกเบี้ยสูงขึ้นนี้ เฟดเลยต้องเข้าไปอุ้มหรือซื้อพันธบัตรที่ถูกขายออกไปกลับเข้ามา
     
    เฟด เลยอยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก เพราะว่าการเพิ่มQEจะทำให้ตลาดตกใจทิ้งดอลล่าร์ แต่จะทำอย่างไรได้ เฟดต้องขี่หลังเสือ และเล่นมายากลทางการเงินต่อไปจนกว่าจะเรียกแขกไม่ได้อีก
     
    thanong
    14/5/2014
     
    http://www.thedailybell.com/.../Paul-Craig-Roberts.../...

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ความเห็นฝรั่ง เอามาให้ดูเป็นแนวทางภาพใหญ่นะคะ เค้ามองว่ามันจะลงมาทำ Triple Bottom ก่อนกลับตัวนะคะ :17 เชื่อ/ไม่เชื่อพิจารณานะคะ :10

post-2539-0-70583500-1401455451_thumb.png

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แก้เครียด

 

คนไข้รายใหม่เข้ามาใน รพ.โรคจิต

ซึ่งเป็นผู้ชายที่คิดว่าตัวเองเป็นนายกฯ

แต่มีคนไข้ชายอีกคนซึ่งอยู่ก่อนแล้ว คิดว่าตัวเองเป็นนายกเช่นกัน

หมอตัดสินใจให้ทั้งสองอยู่ห้องเดียวกัน

คนไข้ทั้งสองก็เกิดทะเลาะกัน ตกกลางคืนกลับเงียบ

รุ่งเช้า ... หมอนำคนไข้คนใหม่ออกมาสอบถาม

"เป็นไงบ้างครับท่านนายกฯ?"

"ผมไม่ได้เป็นนายกฯครับหมอ นายกฯอยู่ในห้องต่างหาก"

"โอ...แสดงว่าคุณดีขึ้นแล้ว ว่าแต่ตอนนี้คุณเป็นใครหรือครับ?"

"ฉันเป็นเมียนายกฯ" !!!

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พระเอกับพระบีคุยกัน เมื่อกลับมาถึงวัดหลังเสร็จกิจนิมนต์

พระเอ : ทำไมเอ็งถึงรีบลุกหนีมา ตอนเจ้าภาพเขากำลังจะถวายสังฆทานกับปัจจัยให้ล่ะ

พระบี : ให้กูนั่งได้ไง กูได้ยินแม่ถามลูกชายว่า

"ลูกซองอยู่ไหน? ไหนล่ะลูกซอง?

รีบไปเอามา เดี๋ยวพระจะกลับซะก่อน"

สักพักแกก็พูดออกมาดังๆว่า "ฆ่าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ..."

กูก็เลยรีบเผ่นกลับวัดเลย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้ เรามารู้จักทองเคกันครับ เป็นนักลงทุนในทองคำแล้วไม่รู้จักทองเคก็ดูจะเสียฟอร์มนะครับ นิยามสั้นๆของทองเค ก็คือ การกำหนดคุณภาพของทองคำโดยใช้หน่วยเรียกเป็นกะรัต โดยตัวเลขที่อยู่หน้าอักษร k คือสิ่งที่บอกความบริสุทธิ์ของทองชิ้นนั้นๆ

หน่วยที่เราคุ้นเคยมากที่สุดคือร้อยละหรือ%(เทียบจาก100ส่วน) สำหรับทองคำซึ่งมีหน่วยเป็นKarat(โดยเทียบจาก24ส่วน)

1)ทอง24k หมายความว่าใน24ส่วนมีทองคำ24 ส่วน ถ้าจะเทียบเป็น% ก็จะได้ทองคำ100%โดยการเทียบบัญญัติไตรยางค์ตามนี้ครับ

ใน24ส่วน มีทองคำ24ส่วน

ใน100ส่วนมีทองคำเท่ากับ 100*24/24 = ทองคำ100%

2)ทอง21K

ใน24 ส่วน มีทองคำ 21 ส่วน

ใน100ส่วนมีทองคำเท่ากับ 100*21/24 =ทองคำ 87.50%

อยากรู้ว่าทองคำกี่เคเท่ากับทองคำกี่% ก็เทียบบัญญัติไตรยางค์เอาเลยครับ อะไรพอเข้าใจก็จะง่ายครับ

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Johnny Pereira

3 ชม. ·

ทอง Update

The two Daily Bearish Reversals are 1240 and 1186.

2 แนวรับหลักคือ 1240 และ 1186

We are holding the 1240 level for now with a minor Daily Bullish forming at 1262 and 1294.

ดูเหมือนว่าแนวรับที่ 1240 น่าจะรับอยู่ และน่าจะมีเด้ง

แนวต้านอยู่ระดับ 1262 และ 1294

We see a turning point next week and the week of the 23rd.

จุดเปลี่ยน (จุดทีจะแสดงทิศทางชัดเจน) คือสัปดาห์หน้า และ สัปดาห์ปลายเดือน

We do not see the meltdown yet without a monthly closing below 1190 area. We also see tomorrow as a turning point in both silver and gold.

เราเชื่อว่าจะยังไม่มีการลงแรงๆ ในช่วงนี้ จนกว่าราคาปิดของกราฟรายเดือนจะปิดต่ำกว่า 1190 นั่นแหละ

วันนี้ (บทความออกเมื่อวาน 3/6/14) น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนในทั้งโลหะเงินและทอง

(วันนี้น่าจะมีเด้ง เพราะลงมาหลายวันแล้ว)

 

http://armstrongeconomics.com/2014/06/03/metals-update/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Johnny Pereira ได้แชร์ลิงก์

 

4 มิถุนายน

ทอง Update

 

The two Daily Bearish Reversals are 1240 and 1186.

2 แนวรับหลักคือ 1240 และ 1186

 

We are holding the 1240 level for now with a minor Daily Bullish forming at 1262 and 1294.

ดูเหมือนว่าแนวรับที่ 1240 น่าจะรับอยู่ และน่าจะมีเด้ง

แนวต้านอยู่ระดับ 1262 และ 1294

 

We see a turning point next week and the week of the 23rd.

จุดเปลี่ยน (จุดทีจะแสดงทิศทางชัดเจน) คือสัปดาห์หน้า และ สัปดาห์ปลายเดือน

 

We do not see the meltdown yet without a monthly closing below 1190 area. We also see tomorrow as a turning point in both silver and gold.

เราเชื่อว่าจะยังไม่มีการลงแรงๆ ในช่วงนี้ จนกว่าราคาปิดของกราฟรายเดือนจะปิดต่ำกว่า 1190 นั่นแหละ

 

วันนี้ (บทความออกเมื่อวาน 3/6/14) น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนในทั้งโลหะเงินและทอง

(วันนี้น่าจะมีเด้ง เพราะลงมาหลายวันแล้ว)

 

 

http://armstrongeconomics.com/2014/06/03/metals-update/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดาวโจนส์ปิดบวก 98.58 จุด รับ ECB ลดดอกเบี้ย

 

วันศุกร์, 06 มิถุนายน 2557 08:01 | printButton.png | emailButton.png

 

 

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ตัดสินใจใช้มาตรการรับมือกับภาวะเงินฝืด ด้วยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้

 

ดัชนี อุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,836.11 จุด เพิ่มขึ้น 98.58 จุด หรือ +0.59% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,296.23 จุด เพิ่มขึ้น 44.59 จุด หรือ +1.05% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,940.46 จุด เพิ่มขึ้น 12.58 จุด หรือ +0.65%

 

ตลาด หุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากอีซีบีมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0.15% จากระดับเดิมที่ 0.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจของยูโรโซนต้องเผชิญกับภาวะเงินฝืด

 

นอก จากนี้ อีซีบียังได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงสู่ระดับติดลบ 0.10% จากระดับเดิมที่ 0% ส่งผลให้อีซีบีเป็นธนาคารกลางแรกในโลกที่ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ โดยนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีกล่าวภายหลังการประชุมว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย

 

ความเคลื่อน ไหวดังกล่าวของอีซีบีช่วยหนุนดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 1,941.74 จุด ก่อนที่จะปิดที่ระดับ 1,940.46 จุด และยังหนุนดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 16,845.81 จุด ก่อนที่จะปิดที่ระดับ 16,836.11 จุด

 

ส่วนข้อมูล เศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐที่มีผลต่อความเคลื่อนไหวของตลาดนั้น กระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. เพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 312,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ที่ระดับ 310,000 ราย

http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-53/30010-mn195.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ต่อไปเราจะเอาเงินมาใส่ไหแล้วฝังดินกัน :uu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

2 อาทิตย์ติดๆกันแล้วครับที่เจ้ามือลด S มหาศาล(อาทิตย์ล่าสุดเพิ่ม L ด้วยอีกหน่อย)

 

post-23-0-65165000-1402122338_thumb.png

 

 

 

post-23-0-50615700-1402122349_thumb.png

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักธุรกิจจีนซื้อ “ทองแท่ง” มูลค่าพันล้าน สุดท้ายได้แค่ก้อนเหล็ก!

blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 มิถุนายน 2557 20:24 น.

 

 

 

blank.gif 557000006589601.JPEG blank.gif

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - นักธุรกิจจีนประสบเหตุสุดอลวน เมื่อ “ทองแท่ง” มูลค่าเกือบสามร้อยล้าน กลายเป็น “ก้อนเหล็ก” ราคาถูก!

 

นายเจ้า จิ้งจวิน นักธุรกิจแดนมังกรวัย 43 ปี ต้องวิ่งวุ่นนำเอกสารหลักฐานซื้อ-ขายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกง หลังพบว่า “ทองคำ” มูลค่ากว่า 270 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 1,100 ล้านบาท) ที่สั่งซื้อจากแอฟริกา กลับกลายเป็นแท่งเหล็กธรรมดาราคาถูก

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยผลการสอบสวนเบื้องต้นว่า เจ้าซื้อทองคำ น้ำหนัก 998 กก. จากบริษัทในประเทศกานาเมื่อกลางเดือน เม.ย. และสินค้าทั้งหมด 14 กล่อง ถูกจัดส่งด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำพร้อมเจ้าหน้าที่คุ้มกันมายังเกาะฮ่องกงใน ปลายเดือน พ.ค.

 

“ลูกน้องของนายเจ้ายืนยันว่ากล่องบรรจุทองแท่งอยู่แน่นอนก่อนมันจะโหลดขึ้นเครื่องบินในกาน่า” เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว

 

ด้านนักธุรกิจหนุ่มใหญ่ซึ่งเดินทางมาจากมณฑลเหอเป่ยเมื่อวันจันทร์ (2 มิ.ย.) และเข้าพักในโรงแรมเกาลูน แชงกรีล่า ของเขตจิมซาจุ่ย ได้นัดพบลูกค้าของเขาเพื่อตรวจเช็คสินค้าในวันพุธ (4 มิ.ย.) โดยเขานำกล่องสินค้า 5 ใบ ไปยังสำนักงานของลูกค้า ทว่าเมื่อเปิดดูกลับเจอแต่แท่งเหล็ก

 

“เขาบอกว่ากล่องดูเหมือนถูกสับเปลี่ยนเพื่อทำลายหลักฐานบางอย่าง” แหล่งข่าวแห่งหนึ่งระบุ “ส่วนลูกน้องของบริษัททองก็เดินทางกลับกานาทันทีหลังส่งสินค้าให้เจ้าหน้า ที่บริษัทโลจิสติคส์ที่สนามบินเช็กแล็บก็อก โดยทั้งหมดถูกส่งต่อไปเก็บที่คลังสินค้าในเขตฉวนวัน”

 

หน่วยสืบสวนฯ เผยว่า จะยังไม่ตัดความเป็นไปได้ว่าทองคำอาจถูกเปลี่ยนย้ายก่อนส่งมาฮ่องกง

 

“มันจะเป็นการโจรกรรมครั้งใหญ่สุดในรอบทศวรรษของเกาะฮ่องกง หากพิสูจน์แล้วว่าทองทั้งหมดถูกขโมยไปจริงๆ” เจ้าหน้าที่อาวุโสกล่าว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Thanong Fanclub

8 ชั่วโมงที่แล้ว

1. ผู้ฝากเงินต้องจ่ายดอกเบี้ยให้แบงค์

โลกการเงินกำลังหมุนกลับตาละปัด เพราะว่าต่อไปชาวยุโรปที่มีเงินฝากในธนาคารอาจจะต้องจ่ายดอกเบี้ย -- แทนที่จะได้ดอกเบี้ย --ให้กับธนาคาร

นี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่เป็นแนวโน้มที่กำลังจะเกิดหลังจากที่ธนาคารกลางของยุโรป European Central Bankมีการสร้างประวัติศาสตร์การเงินหน้าใหม่ด้วยการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยติด ลบ แสดงว่าเลือดเข้าตาECBแล้ว

จากการประชุมบอร์ดECBครั้งล่าสุด มีมติออกมาว่า:

1. ลดดอกเบี้ยมาตรฐานของECBจาก0.25% เหลือ0.15% (ญี่ปุ่นอยู่ที่0.10%; สหรัฐฯอยู่ที่0.25%)

2. ลดดอกเบี้ยปล่อยกู้มาร์จิ้นของECB จาก0.80% เหลือ0.45%

3. ดำเนินมาตรการดอกเบี้ยติดลบครั้งแรกด้วยการชาร์จแบงค์พานิขย์ที่เอาเงินมาฝากกับECBที่ 0.10%

4. เตรียมทำLong Term Refinancing Operationอีกรอบหนึ่งในปริมาณ400,000ล้านยูโรเพื่ออุ้มแบงค์

5. เตรียมการทำQEเหมือนเฟดของสหรัฐฯ ด้วยการพิมพ์เงินเพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลของอียู และซื้อพันธบัตรเอกชนจากธนาคาร

ข้อ3.น่าสนใจมากที่สุด เพราะว่าการที่ECB ดำเนินนโยบายดอกเบี้ยติดลบ กับแบงค์แสดงว่าในที่สุดแบงค์อาจจำต้องชาร์จดอกเบี้ยผู้ฝากเงินอีกต่อหนึ่ง ECBใช้ไม้เรียวบังคับให้แบงค์ปล่อยกู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่เอาเงินมาฝากECBเพื่อมากินดอกเบี้ยเฉยๆ แต่แบงค์มีหนี้เสียมากเกินไป ทำธุรกรรมการเงินซี้ซั้วจนงบดุลเจ้งไปหมดแล้ว ที่อยู่มาได้ทุกวันนี้ก็เพราะว่าฝ่ายกำกับหรือตรวจสอบสถาบันการเงินเอาหูไป นาเอาตาไปไร่กัน เพราะรู้ดีว่ามันเจ้งกันทั้งระบบแล้ว เป็นแบงค์ซอมบี้ ทำอะไรไม่ได้

ลองฟังความเห็นของAndy Hoffman นักวิเคราะห์การเงินดู เพราะเขาเชื่อว่าในที่สุดแบงค์ในยุโรปจะเก็บดอกเบี้ยเงินฝากประชาชน:

"ผมเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นในอนาคต หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าECBจะมีเครื่องไม้เครื่องมือทางการเงินมาก พิมพ์เงินหรือลดดอกเบี้ยก็ได้ ทำได้ทุกอย่าง แต่ECBเริ่มจะหมดกระสุนเหมือนกับBank of Japan และUS Federal Reserve ตอนนี้พวกเขาต้องการให้แบงค์ปล่อยกู้ แน่นอนมันเป็นเรื่องบ้าบอเพราะว่าแบงค์ไม่มีทางปล่อยกู้ เนื่องจากแบงค์ล้มละลายกันหมดแล้ว เพราะเหตุผลนี้เองที่ ECBต้องนำเอาLong Term Refinancing Coperationมาใช้อีกครั้งหนึ่งเพื่ออุ้มDeutsche Bank หรือEspirito Santo ของโปรตุเกส เพราะว่าแบงค์เหล่านี้มีปัญหา

ท้ายที่สุดปัญหาจะมาลงที่ผู้ฝากเงินหรือไม่? มีทางเลือกสองทาง คือ1. ให้แบงค์รับประทานการขาดทุนไปเรื่อยๆ (ฝากเงินกับECBเสียดอกเบี้ย) เนื่องจากล้มละลายไปแล้ว หรือ 2. ผลักภาระไปให้ผู้ฝากเงิน คือเก็บดอกเบี้ยผู้ฝากเงิน"

็Hoffmanเชื่อว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแบงค์ยุโรปต้องเก็บดอกเบี้ยผู้ฝากเงิน และเขาจะเป็นคนแรกที่จะถอนเงินจากแบงค์

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนยุโรป ถอนเงินออกจากแบงค์พร้อมๆกัน เพราะใครจะโง่จ่ายดอกเบี้ยให้แบงค์ค่าฝากเงิน??

thanong

10/6/2014

http://usawatchdog.com/negative-interest-rates-signal-final-currency-war-andy-hoffman/

Thanong Fanclub

8 ชั่วโมงที่แล้ว

2. ผู้ฝากเงินต้องจ่ายดอกเบี้ยให้แบงค์

Martin Armstrong นักวิเคราะห์เศรษฐกิจการเงินสหรัฐฯบอกว่าในที่สุดผู้ฝากเงินชาวอเมริกันจะ ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้แบงค์ค่าฝากเงินเหมือนกัน

นี้คือรูปแบบการbail in อีกอย่างหนึ่ง หรือการผลักภาระของแบงค์ไปสู่ประชาชนผู้ฝากเงินที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่

Martin Armstrongบอกว่าที่คุยกันหลังไมค์ทุกวันนี้ระหว่างพวกธนาคารกลางและพวกนาย แบงค์คือการเก็บดอกเบี้ยเงินฝากประชาชน ตอนนี้แบงค์เป็นเสือนอนกันเอาสภาพคล่องที่เหลือล้นพ้นประมาณ$1ล้านล้านไปฝาก ที่เฟดหรือUS Federal Reserveได้ดอกเบี้ย0.25% เฟดอยู่ภายใต้แรงกดดันให้เลิกรูปแบบการเงินนี้เพื่อให้แบงค์เอาเงินไปปล่อย กู้ช่วยเศรษฐกิจ

สถานการณ์แบงค์สหรัฐฯและยุโรปไม่ได้ต่างอะไรกันมากหลังจากล้มละลายเรียบร้อย โรงเรียนจีนไปเมื่อปี2008 ที่อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะFed และECBอุ้มเอาไว้

Martin Armstrongเชื่อว่าในที่สุดเมื่อเฟดเลิกนโยบายให้แบงค์เป็นเสือนอนกิน คือปิดการบริการการเงินที่ให้แบงค์เอาเงินมาฝากจากประชาชนที่ตัวเองให้ ดอกเบี้ยต่ำๆ มากินดอกเบี้ยที่สูงกว่ากับเฟดที่0.25% เพราะฉะนั้นแบงค์จะมีสภาพคล่องล้น ปล่อยกู้ไม่ได้ เพราะไม่รู้จะปล่อยอะไร ปล่อยให้ใคร งบดุลตัวเองก็มีปัญหาหนี้เสีย ไม่งั้นเฟดไม่อุ้มด้วยการซื้อmortgage backed securitiesที่เน่าแล้วออกมาให้แบงค์หายใจได้

เมื่อเป็นเช่นนี้ดอกเบี้ยเงินฝากของระบบธนาคารสหรัฐฯจะลงมาเหลือ0.% หรือ-0.01% คือประชาชนฝากเงินแล้วไม่ได้ดอกเบี้ยเสมอตัว หรือเสียดอกเบี้ยเล็กน้อยค่าบริการการฝาก แต่ถ้าหักเงินเฟ้อ2% (บางคนบอกที่จริงแล้ว8-9%) แสดงว่าผู้ฝากเงินจะจนลงไปจนไม่เหลืออะไร เพราะโดนทั้งแบงค์ชาร์จค่าฝาก และโดนเงินเฟ้อกินอีกต่อหนึ่ง ครั้นจะเอาเงินไปลงทุนในบรรยากาศฟองสบู่ที่แบงค์มีtoxic assetsหรือหนี้เสียมาก ก็เป็นความเสี่ยงว่าจะสูญเสียเงินทุกดอลล่าร์

แล้วจะทำอย่างไรดีครับคุณป้าJanet Yellenผู้ใจดีม๊ากมาก

thanong

10/6/2014

http://armstrongeconomics.com/2014/06/06/negative-interest-rates-coming-to-usa-but-wait-banks-or-you/

Thanong Fanclub ได้แชร์ลิงก์

8 ชั่วโมงที่แล้ว

3. ผู้ฝากเงินต้องจ่ายดอกเบี้ยให้แบงค์ (จบ)

ในแง่ภูมิศาสตร์การเมือง เราพอจะสรุปได้ว่าทั้งรัสเซีย จีน อินเดีย จะค่อยๆลดความเกี่ยวดองกับยุโรปและสหรัฐฯลงไปเพื่อทำลายทั้งยูโรและดอลล่าร์ พร้อมๆกัน ด้วยการสร้างเศรษฐกิจในระเบียบโลกใหม่ กับพวกBRICS โดยที่ไม่จำเป็นต้องมียุโรป สหรัฐฯ และญีุ่นเป็นแกนเหมือนในขณะนี้

เปิดหน้าไพ่เล่นกันทุกฝ่ายแล้ว รู้กันดีอยู่แก่ใจในทุกฝ่ายว่าระบบการเงินและเศรษฐกิจของG-3 หรือยุโรป สหรัฐฯและญี่ปุ่นไปไม่รอด รอวันล่มสลาย การพิมพ์เงินโดยธนาคารกลางและดอกเบี้ยติดลบลงโทษประชาชนผู้ฝากถือว่า เป็นlast line of defence คือมาตรการขั้นสุดท้ายของระบบการเงินแล้ว หลังจากนั้นคือลงเหว ไม่มีทางฟื้น

ทั้งรัสเซีย จีน อินเดียพวกBRICS หรือประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆรู้ดีว่าG-3กำลังไปไม่รอด จำต้องสร้างภูมิต้านทานภายในให้แข็งแรงที่สุดเพื่อเตรียมรับมือการรีเซ็ท ระบบการเงิน ซึ่งอาจจะโดนสงครามโลกชิงตัดหน้าเกิดก่อน

เวลาอยู่ข้างBRICS ส่วนG-3ไม่มีเวลาเหลืออยู่มากไม่เกินช่วงโอบามาสิ้นสุดการเป็นประธานาธิบดี ยิ่งอยู่ไปยิ่งอ่อนแอ มีโอกาสเกิดวิกฤติการเงินรอบใหม่และจราจลทางสังคม และจะโดนBRICSตีท้ายครัวได้

รัสเซียและจีนดำเนินนโยบายไม่เอาดอลล่าร์อย่างเป็นรูปธรรมที่สุด เรากำลังมาถึงบริบทสุดท้ายก่อนที่โลกจะเข้าสู่ภาวะวิกฤติทั้งการเงินและ สงครามที่อาจจะเลี่ยงไม่ได้ ถ้าสงครามโลกจะเกิด ฝ่ายG-3น่าจะเป็นผู้ก่อสงครามก่อน เพราะฝ่ายรัสเซียและจีนได้เปรียบกว่าสายป่านยังยาวอยู่ คอยได้

ฝ่ายสีแดงคือรัสเซีย จีน อินเดียจะรบกับฝ่ายสีน้ำเงินคือG-3 แล้วประเทศไทยจะอยู่สีอะไร?

thanong

10/6/2014

http://urbansurvivalsite.com/how-much-longer-until-world-war-3/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หยุดสักนิดคิดให้ดีก่อนที่จะจัดให้มีการเลือกตั้ง ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้างกับอเมริกาและประเทศในแถบยุโรป อเมริกามีหนี้สินมากเป็นอันดับ1ของโลก ปัญหาเศรษฐกิจนับตั้งแต่วิกฤติในปี2008จนถึงเดี๋ยวนี้ยังไม่ดีขึ้นทั้งๆที่อัดเงินเข้าไปอย่างมหาศาล(ข่าวที่แต่งต่างๆคือดีแล้วฟื้นแล้ว ลองเจาะหาข้อมูลดูครับยังไม่ฟื้นและรอวันล้ม) ส่วนกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรสถานะก็ไม่ต่างจากอเมริกา ใครจะล้มก่อนกันเท่านั้น สิ่งที่ต้องแก้และตีกรอบป้องกันคือเรื่อง ประชานิยม

 

ถ้าการเลือกตั้งปล่อยให้มีประชานิยมแบบเสรี ถึงคุมการซื้อเสียงได้ ประชานิยมแบบเสรีก็ไม่ต่างจากการซื้อเสียงแบบถูกกฎหมาย ใครเสนอประชานิยมมากกว่าก็จะได้รับเลือกตั้ง

 

อาจต้องคุมว่าในการหาเสียง งบในการทำประชานิยมแต่ละพรรคห้ามเกินเท่าไหร่ โครงการไหนใช้เงินส่วนกลางไปเท่าไหรต้องทำให้ชัดเจนก่อนหาเสียง การขึ้นค่าแรงก็หาเสียงได้แต่ห้ามเกินเท่าไหร่ ไม่เช่นนั้นโครงการคล้ายในอดีตจะโผล่ขึ้นมาอีกเช่น ค่าแรง300ทั่วประเทศ ข้าวทั่วประเทศตันละ15,000บาท กองทุนกู้ยืมหมู่บ้านละ1ล้าน โครงการประชานิยมทำได้ครับ แต่คุมว่าทุกโครงการประชานิยมของแต่ละพรรคต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนดครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

May 27, 2014 จอร์จ โซรอส เตือนคนอเมริกา

ให้ถอนเงินของพวกเขาออกจากธนาคาร ก่อนที่จะสายเกินไป

http://www.dcclothesline.com/2014/05/27/george-soros-tells-america-take-money-banks-late/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...