โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Safe Heaven

[ninja 8]

ตอนตี 1 อ่านของลุงมาค่ะ เลยก็อปมาฝากจาก

http://www.chaloke.com/article/921-2011-08-21-17-45-38.html

“มีแต่ทองคำที่ยังคง bullish อยู่ ถ้าตรงนี้เป็น sub-minute wave (v) ก็จะเกิด small correction เป็นโอกาสให้ซื้อเพิ่ม

ใครมีแล้วก็ดีใจด้วย ใครยังไม่มีก็สมน้ำหน้า อยากไม่ทำตามระบบ รอให้เกิด Correction เสียก่อนค่อยซื้อ”

[aomsin 1]

บทความใหม่ของคุณ next สุดยอดมากๆเลยค่ะ

คราวนี้ถ้าใครพูดถึงราคาหน้าเหมืองกับเรื่องทองกำลังถูกปั่นราคา จะได้ตอบกลับแบบที่คุณnext อธิบายซะเลย

[madamjun 40]

ดีจังค่ะ แตกฉาน ทุกฉากเลยค่ะ คุณเน็กซ์ ตอนแรกจะตั้งคำถามที่สงสัย แต่พออ่านถึงบรรทัดสุดท้าย หมดคำถามค่ะ

และดีใจอีกอย่าง ต่อไปส่งออกสวิสจะถูกกระทบ Dark Chocolate ที่ส่งมาประเทศเราจะได้ถูก ๆ

เพิ่งทราบว่า นอกจากติดทองแล้ว คุณปุยยังติดdark chocอีกด้วยนะเนี่ย

[minicooper 0]

ขอบคุณมากมายคะ Khun Next !30

มีอยู่เกือบเต็มปอดแล้วคะ

[plaifa 37]

ยังคิดอยู่เลยครับว่า

ทำไมจู่ๆ Jpmorgan ถึงมาเชียร์ทอง

นิสัยของพวกเขาก็เป็นอย่างนี้แหละ คิดว่าจะลวงโลกไปได้อีกนานแค่ไหน

[plaifa 37]

 

 

 

อะไรเป็นอะไร? (What's it? What should it be?)

 

เรากำลังอยู่ในช่วงเวลา “ประวัติศาสตร์” ครับ

เป็นช่วงโอกาส “ทอง” (Golden Moment) ที่เราได้พูดกันมานาน

 

สิ่งที่กำลังจะเกิดกับ “ทองคำ” แม้เคยเกิดขึ้นในลักษณะคล้ายๆกันมาแล้วในอดีต

แต่ผมเชื่อว่าครั้งนี้จะยิ่งใหญ่กว่า

 

บางคนเตรียมตัวพร้อมมานานแล้ว

 

บางคนก็พึ่งจะเริ่มต้น แต่....

 

บางคน..ยังงงๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

วันนี้ก่อนที่จะไปกันต่อ

เราควรจะเข้าใจว่า "อะไรเป็นอะไร" ซะก่อน

เพราะยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอยู่มากกับสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดเวลานี้

 

 

*********************************************************************************

 

 

อะไรเป็นอะไร 1 : ทองขึ้นน่ากลัว

 

ประโยคนี้เป็นประโยคยอดฮิต ที่ได้ยินบ่อยมากในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

 

“ทองขึ้นแรงอย่างน่ากลัว”

 

จริงหรือ ? ความจริงคืออะไรครับ ?

 

“เงินต่างหากที่เสื่อมลงเร็วอย่างน่ากลัว”

 

ปริมาณเงินเท่าเดิมซื้อทอง 1 บาทไม่ได้แล้ว ต้องเพิ่มความหนาเข้าไปอีกหลายใบ จึงจะพอจ่าย

แบบนี้เราควร “กลัว” ราคาทองที่พุ่ง หรือ “กลัว” ค่าเงินที่เสื่อมกันแน่ ??

 

ตรงนี้สำคัญเพราะ

 

- หากคุณคิดว่า ทองขึ้นเร็วจนน่ากลัว สิ่งที่คุณจะทำคือ “ขายทองทิ้ง” - Sell

 

- แต่ถ้าคุณคิดว่า เงินเสื่อมลงเร็วจัดจนน่าตกใจ สิ่งที่คุณจะทำคือ “ซื้อทองเก็บแทน” - Buy

 

คนละเรื่องเลย ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง จริงมั๊ยครับ?

 

 

*********************************************************************************

 

 

อะไรเป็นอะไร 2 : ยอมซื้อแพง ?

 

แต่ไม่ได้หมายความว่า นักลงทุนทองคำส่วนใหญ่ ที่มีความกล้าเข้าซื้อทองคำที่ระดับนี้

จะกังวลในเรื่อง “ค่าของเงิน” นะครับ เพราะในใจแล้วคิดเพียงแต่ว่า

 

“ยอมซื้อแพงเพื่อไปขายแพงกว่า”

 

ที่เยาวราช คราคร่ำไปด้วยผู้คน ราคาทองระดับนี้ ไปเข้าคิวกันเพื่อ “ซื้อทอง”

 

500 คิว 600 คิว 700 คิว

(คิดเล่นๆ หากจะทำกำไรคนที่ได้คิว 1-10 มาขายคิวให้คนที่ได้คิวท้ายๆ ก็เหนาะๆแล้ว

อาจจะเกิดเหตุการณ์ “ทองผี” คล้ายๆ “ตั๋วผี” ขึ้นได้)

 

ทองก็ไม่มี เป็นใบจองก็เอา ..... เหตุการณ์ในอดีตไม่เคยเป็นหนักถึงขนาดนี้

 

แท้จริงแล้ว “เป้าหมาย” ที่นักลงทุนควรสนใจไม่ใช่ –ราคาทองคำ- แต่เป็น –ปริมาณของทองคำ-

ที่จะสามารถซื้อได้มากกว่า การไปเข้าคิวซื้อ โดยคาดหมายกันที่ราคา 28,000-29,000-30,000 ต่อบาท

ว่าหากถึงจะขายเพื่อรอย่อแล้วซื้อใหม่ ผมบอกได้เลยว่า Mania phase ไม่หมูอย่างนั้นครับ

(ไม่เชื่อลองถามคนที่ปล่อยไปที่ราคา 22,000 แล้วตอนนี้ยังรอย่ออยู่ดูได้

บางครั้งทองก็ไม่ค่อยยอมย่อให้เราเลยครับ)

 

ตลาดทองคำได้เปลี่ยนไปแล้ว เราเองก็ต้องเปลี่ยน"เป้าหมาย"ตาม

การซื้อเพื่อเน้นให้ได้ปริมาณมาก (แบบไม่เกินกำลัง)

มีความหมายมากกว่าราคา แล้วที่สำคัญไปกว่านั้นหากเป็นไปได้

“ควรจะได้ของจริง” (Physical)กลับบ้านด้วยครับ.

 

Safe Heaven ตอนนี้ในสายตานักลงทุนนอก เหลือแค่

 

1.พันธบัตรสหรัฐ(ชนิด 10 ปีอัตราผลตอบแทนลดลงไปต่ำที่สุด

เหลืออยู่แค่ 2.07% เนื่องจากคนแห่เข้าซื้อ)

 

2.ทองคำ(ปรับตัวขึ้นกว่า 10% ในแค่ 1 เดือนที่ผ่านมา)

 

ทั้งๆที่ S&P downgrade ส่งผลให้ตลาดหุ้นถูกเทขายทั่วโลก

แต่พันธบัตรสหรัฐกลับได้รับเลือกเป็น 1 ใน Safe Heaven ??

ดอลล่าร์ อินเด็กซ์ ก็ร่วงให้เห็นแบบโงหัวไม่ขึ้นทั้งๆที่สินทรัพย์เสี่ยงโดน Sell off ??

 

ผมว่ามัน งงๆ

 

นักลงทุนที่เข้าใจว่า “อะไรเป็นอะไร”จึงเลือกที่จะถือทองคำมากกว่า

เราควรกอดทอง ไปจนกว่าวิกฤตครั้งนี้จะคลี่คลาย ระบบการเงินใหม่ลงตัว

วิธีนี้จะทำให้เราผ่านพ้นมันไปได้ครับ

 

 

*********************************************************************************

 

 

อะไรเป็นอะไร 3 : ต้นทุนทองคำ 700$/oz

 

มีคนกล่าวว่า

 

ออกจากเหมือง ต้นทุนทองคำขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 700$/oz

รวมค่าดำเนินการ จิปาถะ ไม่น่าเกิน 1,000$/oz ราคาที่ระดับกว่า 1,800$ จึงดูเหมือนไม่สมเหตุสมผล??

 

ฟังดูแล้วเหมือนน่าเชื่อถือ และทำให้เรากังวลได้ แต่แท้จริงแล้ว กลับไม่เป็นเช่นนั้น

คำพูดนี้จะเป็นจริงได้ ก็ต่อเมื่อ

 

การตั้งราคา “Price” ถูกกำหนดด้วย ต้นทุน “Cost” เพียงอย่างเดียว

 

แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นอย่างนั้นหรือ ??

 

ยกตัวอย่างเช่น....

 

ภาพเขียนสีน้ำมันบนผืนผ้าใบ 1 ภาพ

หากถูกวาดด้วยจิตรกรฝีมือเอก บางภาพสามารถตั้งราคาได้ถึง “หลายล้านบาท”

 

คำถามก็คือ ต้นทุน ผ้าใบ 1 ผืน สีน้ำมัน+ชุดพู่กัน 1 ชุด จะซักเท่าไหร่?? เหตุใดราคาถึงได้ตั้งแพงขนาดนั้น ??

 

ผมไม่ได้บอกว่าจะเปรียบเทียบ “งานศิลปะ” กับ “ทองคำ” นะครับ

แต่สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อก็คือ จากตัวอย่างนี้ยืนยันได้ว่า

 

การตั้งราคา “Price” ถูกกำหนดด้วย ต้นทุน “Cost” เพียงอย่างเดียวนั้น เห็นๆกันอยู่ว่า “ไม่จริง”

 

มันยังมีสิ่งที่เรียกว่า มูลค่า(Value) มาเกี่ยวข้องด้วย

มูลค่าเป็นสิ่งที่ประเมินกันได้หลากหลาย

ไม่เกี่ยงว่าต้นทุนจะเป็นเท่าไหร่ หากเป็นที่ยอมรับว่ามี

“มูลค่าสูงราคาก็จะสูงตาม”

 

นอกจากนี้ “สถานะการณ์” ยังเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถกำหนดราคาได้เช่นกัน

 

ยกตัวอย่างเช่น....

 

น้ำดื่ม 1 ขวด ราคาทั่วๆไปก็คงไม่เกิน 10 บาท

 

ทีนี้คุณลองนึกภาพว่า

หากผมมีเงินสดติดตัว 1 หมื่นบาทในขณะที่คุณมีน้ำดื่มติดตัว 2 ขวด

เราสองคนเดินหลงอยู่กลางทะเลทราย.

ในวินาทีที่จะเป็นจะตายเพราะร่างกายขาดน้ำ

ผมยอมจ่าย 1 หมื่นให้คุณแลกกับน้ำดื่ม 1 ขวด ไม่ต่อราคาซักบาท

 

ยังกลัวคุณจะไม่ขายให้ผมเลยครับ!!

 

ต้นทุนมันไม่ได้สำคัญแล้วครับ สถานะการณ์แบบนี้ “ยอมจ่ายแพง”

หากผมซื้อน้ำดื่มได้ในราคา 1 หมื่น คุณจะว่าผม “เพ้อๆ” รึเปล่า ทั้งๆที่มันควรจะแค่ 10 บาท ?

เปล่าเลยใช่มั๊ยครับ ?

 

การตั้งราคา “Price” ถูกกำหนดด้วย ต้นทุน “Cost” เพียงอย่างเดียวนั้น จึงสรุปได้ว่า“ไม่จริง”

 

ตลาดทองคำในขณะนี้

 

คนเริ่มจะรับรู้แล้วว่า “มูลค่า”ของทองคำนั้นอยู่ในฐานะเป็น

“เงินที่แท้จริง ”(Real money)

+ภายใต้ “สถานะการณ์” ที่เงินกระดาษมันล้นโลกและยังไม่ยอมหยุดพิมพ์

+ในขณะที่เหมืองทองกำลังการผลิตลดลงทุกปี (หายากขึ้น) ราคาทองคำจึงยังทะยานต่อไปได้ หากปัจจัยเหล่านี้ยังหนุนอยู่..

 

ล่าสุดเงินสวิสฟรังก์ ที่สุดแสนจะแข็งแกร่ง

เป็นสกุลเงินที่น่าเชื่อถือมาโดยตลอด ก็ “ถูกระบบกลืน”

ทนเห็นค่าเงินตัวเองแข็งอยู่คนเดียวต่อไปไม่ไหว (กระทบการส่งออกและขาดดุลการค้า)

จัดการเข้าแทรกแซงตรึงค่าเงินตัวเองกับ “ยูโร” ซะอย่างงั้น ???

 

เงินยูโร กำลังแข่งกันร่วงกับ ดอลล่าร์ อยู่ ดันไปทำ Currency Peg กับเค้า

 

หมดแล้วครับ ผมหมดศรัทธาแล้วกับเงินทุกสกุล หมดศรัทธาแล้วกับระบบ Fiat Currency

40 ปีหลังจาก นิกสันประกาศยกเลิกเบรตตันวู้ด อีกไม่นานต่อจากนี้

เราทุกคนจะได้ “ตื่น”

ขึ้นมาเห็นกับการเปลี่ยนแปลงของระบบการเงิน (Monetary System)

ครั้งยิ่งใหญ่ที่จะกระทบไปทั่วโลก

 

 

*********************************************************************************

 

 

อะไรเป็นอะไร 4 : ทองคำถูกปั่น

 

มีการพูดกันอย่างกว้างขวางว่า ราคาทองคำถูกปั่นเว่อร์ เราต้องเข้าใจก่อนว่า

ในการบิดเบือนราคาตลาดนั้น ทำได้อยู่สองอย่าง

 

1.กด

 

2.ปั่น

 

"กด" คือ การทำให้ราคาตลาดต่ำกว่าความเป็นจริง "ปั่น" คือ การทำให้ราคาตลาดสูงกว่าความเป็นจริง

 

ที่ถูกต้องคือ ราคาทองคำไม่ได้ถูกปั่นในช่วงนี้

แต่ที่แล้วมา ราคาทองคำถูกกดราคาต่างหาก การที่เราเห็นราคาเพิ่มสูงขึ้น เพราะที่เคยกดไว้มันกดไม่อยู่

จนราคาเริ่มจะปรับเข้าหามูลค่าที่แท้จริง ไม่ใช่ปั่น!

 

-ตรงนี้ก็สำคัญเพราะ หากคุณคิดว่า ทองถูกปั่น สิ่งที่คุณจะทำคือ “ขายทองทิ้ง” - Sell

 

-แต่ถ้าคุณคิดว่า ทองเคยถูกกดแต่กดไม่อยู่ สิ่งที่คุณจะทำคือ“ซื้อทองเก็บแทน” – Buy

 

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะการบิดเบือนราคาตลาด มันทำได้แค่ “ชั่วคราว”

สุดท้ายทุกสิ่งทุกอย่างจะปรับไปสู่ “มูลค่าที่แท้จริง” ของมัน

 

ที่ผ่านมา ธนาคารกลางทั่วโลก กดราคาทองคำมานาน จากที่เคยขาย เริ่มเปลี่ยนใจมาเป็นซื้อ

และก็ยังซื้อต่อเนื่องกันไม่หยุด ล่าสุด เวเนซูเอล่า ประกาศเรียกทองคำ 99 ตัน

คืนจาก Bank of England ทำเอาต้องหาทองมาคืนกันจ้าละหวั่น เพราะที่ผ่านมาไม่รู้เอาทองเค้าไปทำอะไรบ้าง

 

แล้วถ้านี่คือ “เทรนด์” ล่ะ?

 

99 ตันอาจจะพอหาให้ได้ แต่ถ้าประเทศอื่น เอาอย่างล่ะ? เรียกคืนกันเยอะๆ แล้วไม่มีให้เค้า

เป็นไงไม่อยากจะคิดเลยครับ... :wacko:

 

ความวิตกกังวล+ความสงสัยมีอยู่ในตลาดเยอะครับ เราควรศึกษาจากอดีต

ทองเคยเกิดเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกับคำว่าฟองสบู่ อยู่ครั้งนึงในปี 1980 ผมมองว่ามันปรับไปหามูลค่าที่แท้จริงมากกว่า

แต่ที่คนมองว่าเป็นฟองสบู่เพราะทองทะยานไป 850$ แล้วแตกโพ๊ละร่วงไปเหลือเพียง 250$

 

-เละซะยิ่งกว่าเละ-

 

หลายคนจึงกังวลว่าเหตุการณ์แบบเดิมจะซ้ำรอย หากคุณอ่านบทความผมมาตลอดคงจำได้ว่า

ทำไมตอนนั้นทองคำจึงร่วง?

 

คำตอบคือ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ พอล วอร์คเกอร์ ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 20% ครับ!!

 

แต่ล่าสุด เบน เบอร์นันเก้ พึ่งออกมาประกาศ

ว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0% อย่างน้อยถึงปี 2013 ใช่หรือเปล่าครับ

นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้กระทิงทอง กระโดด โลดเต้น อาละวาดอยู่อย่างนี้

 

อาวุธที่เคยน็อคทองคำเมื่อ 30 ปีก่อนมันถูก “ล็อคเอาไว้”จากคำพูดของประธานเฟดเอง

คนที่ไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ย่อมต้องวิตกกังวลเป็นธรรมดา

“ความไม่รู้นั้นทำให้เรากลัว แต่หากเรามีความรู้ความเข้าใจเราจะกล้า”

หากคุณกล้า + การวางแผน + มีวินัยการลงทุนที่ดี

 

โอกาส“ทอง”(จริงๆ)ครั้งนี้ยินดีต้อนรับครับ.

 

เยื่ยมมาก ชัดเจน เวลานี้ เป็นเรื่อง demand supply ล้วนๆ

[totonx 399]

http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=49178

 

เพื่อนๆคิดอย่างไรกับบทความนี้บ้างครับ

 

ผมมองว่าเป็นมุมมองของคนที่ลงทุน มากกว่า 1 อย่างครับ และผมเห็นด้วยแบบนั้น

ส่วนตัวผมเอง ผมเล่น GF เอากำไรไปซื้อหุ้น เอาปันผลหุ้นมาสะสม ทองคำ

แต่ละตัวมีรอบความเสี่ยงที่ไม่เท่ากัน แต่สุดท้ายเราต้องบริหาร ต้นทุนให้ดีครับ

และที่สุดแล้ว เราควรมีทองคำไว้ในครอบครอง เป็นหลักค้ำของ port ตัวเอง

[totonx 399]

อ่านบทความ ดร.นิเวศน์ แล้วรู้สึกว่าเค้าใช้วิธีคิดแบบเดิมๆ แบบว่าคนระดับล่างที่หาเช้ากินค่ำ ถ้าคิดซื้อทอง หรือ ซื้อหุ้น เมื่อไหร่แล้วตลาดเริ่มเป็นฟองสบู่ (แต่ก็แทงกั๊กไว้เหมือนกันว่าไม่ใช่จะลงทุนไม่ได้)ผมอ่านแล้วผิดหวังครับ ทำไมเค้าถึงไม่คิดว่าคนที่ดูแลแม่ยายเค้าคือคนที่มีอะไรพิเศษหรือเห็นโอกาส เพราะเค้าไม่ได้ ไปสำรวจคนระดับล่างที่หาเข้ากินค่ำทั้งหมดนี่ ว่าแต่ทำไมเค้าไม่คิดว่า CPALL เป็นฟองสบู่บ้างน่ะ PE สูงมากๆ555 สรุปว่า คนที่คิดว่าทองคำเป็นฟองสบู่คือคนที่ไม่มีทองครับ

 

เพราะความช่ำชอง ของแต่ละบุคคลไม่เท่ากันครับ

บางท่านเมื่อมีข่าวเล็กน้อย ก็พร้อมที่จะปรับ port ลงหรือเข้าซื้อเพิ่มได้ทันที

เทียบกับเราเรา ท่านท่าน กว่าจะรู้ ต้องคิดแล้วคิดอีก หลายตลบหรืออาศัยกราฟ ซึ่งกราฟ มันอธิบายอดีต ไม่ใช่อนาคต

การศึกษาพื้นฐานจะเป็นตัววัดชี้ อนาคต มากกว่าครับ

 

CPALL ถ้ามีที่ทุนต่ำ เมื่อเทียบกับเงินปันผล แล้ว ต่อให้ราคาวิ่งขึ้นวิ่งลง ไม่น่าเดือดร้อน ตราบเท่าที่ บริษัทยังคงผลประกอบการได้ มากกว่าครับ

ถูกแก้ไข สิงหาคม 22, 2011 โดย totonx

[MOR LEK 2,835]

SUNDAY, AUGUST 21, 2011

 

Jim Rogers : Do not sell your Gold (อย่าขายทอง)

Jim Rogers : I own gold , if it goes down I am going to buy more I do not see any reason to sell gold until it winds up in a big bubble that's may be ten years from now , I do not know when it is going to be all commodities are going to go up a great deal more including gold , do not sell your gold if it goes down buy some more , absolutely it is going to go over 2000 dollars may be not this year I hope not this year but certainly over this decade no question....- in ABC Australia interview

ยังไม่มีเหตุผลที่จะขายทองจนกว่ามันจะขึ้นไปจนเป็นฟองสบู่ซึ่งอาจจะกินเวลาอีกซัก 10 ปี ถ้ามันลงก็ซื้อเพิ่ม ขึ้นเกิน 2000 แน่ๆ(อาจไม่ในปีนี้)

http://goldbasics.bl...-your-gold.html

 

 

Marc Faber recommends gradual accumulation of Gold

(สะสมทองไปเรื่อยๆ)

Marc Faber : Gold is likely to correct, possibly by $100 or $150, but I continue to recommend gradual accumulation. As long as the trio of Obama, [u.S. Treasury Secretary Timothy Geithner] and Bernanke are in power, gold is destined to move higher. Long-term U.S. Treasuries are of no value. They will default by paying interest in a worthless currency. - in Baron's Blog

http://goldbasics.bl...dual.html

ถูกแก้ไข สิงหาคม 22, 2011 โดย MOR LEK

[plaifa 37]

เพราะความช่ำชอง ของแต่ละบุคคลไม่เท่ากันครับ

บางท่านเมื่อมีข่าวเล็กน้อย ก็พร้อมที่จะปรับ port ลงหรือเข้าซื้อเพิ่มได้ทันที

เทียบกับเราเรา ท่านท่าน กว่าจะรู้ ต้องคิดแล้วคิดอีก หลายตลบหรืออาศัยกราฟ ซึ่งกราฟ มันอธิบายอดีต ไม่ใช่อนาคต

การศึกษาพื้นฐานจะเป็นตัววัดชี้ อนาคต มากกว่าครับ

 

CPALL ถ้ามีที่ทุนต่ำ เมื่อเทียบกับเงินปันผล แล้ว ต่อให้ราคาวิ่งขึ้นวิ่งลง ไม่น่าเดือดร้อน ตราบเท่าที่ บริษัทยังคงผลประกอบการได้ มากกว่าครับ

ไม่มีใครเก่งทุกอย่างจริง ๆ คนฟังก็ต้องแยกแยะว่า เรื่องไหน ควรไปถามใคร หรือฟังใคร แต่สุดท้ายต้องเชื่อตัวเอง ขนาดพระพุทธเจ้ายังไม่ให้เชื่อเพียงเพราะเป็นพระพุทธเจ้าเลย ท่านให้เราใคร่ครวญด้วยเหตุผลสติปัญญา ตามสถานการณ์ แล้วจึงเชื่อ

[a-dang 17]

ลุงจิมต้องบอกในใจว่า มาแน่ 2000 ในปีนี้ใช่เปล่าคะ คุณหมอ 5555

[potgarn 2,608]

ขอบคุณครับ เฮียหมอเล็ก ใครชอบเล่นเก็งกำไร มีพอร์ททองจริงๆ สะสมไปด้วยก็ดีนะ

[MOR LEK 2,835]

ลุงจิมต้องบอกในใจว่า มาแน่ 2000 ในปีนี้ใช่เปล่าคะ คุณหมอ 5555

หลายคนบอกว่าปีนี้เกิน 2000อ่ะครับ แต่จำไม่ได้ว่าใครบ้าง

 

ขอบคุณครับ เฮียหมอเล็ก ใครชอบเล่นเก็งกำไร มีพอร์ททองจริงๆ สะสมไปด้วยก็ดีนะ

 

แหะๆ ผมไม่ชอบเล่นเก็งกำไรเลยอ่ะครับ ซื้อทองใส่หม้อเป็นการออมอย่างเดียวเลย 555 เพื่อรักษาความมั่งคั่ง

[leo_attack 579]

หลายคนบอกว่าปีนี้เกิน 2000อ่ะครับ แต่จำไม่ได้ว่าใครบ้าง

 

แหะๆ ผมไม่ชอบเล่นเก็งกำไรเลยอ่ะครับ ซื้อทองใส่หม้อเป็นการออมอย่างเดียวเลย 555 เพื่อรักษาความมั่งคั่ง

 

JP Morgan บอกปลายปีนี้ 2500 นี่ครับพี่หมอ !La

ขอร่วมทางเก็บออมทองด้วยครับพี่หมอ เพราะราคามันขึ้นแรงเลยพึ่งกล่อมที่บ้านให้ซื้อเพิ่มได้สำเร็จ ราคาอาจสูงไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่มี เมื่อก่อนตอนเริ่มซื้อยังหมื่นกว่าๆ เอง ตอนนี้เห็นราคาแล้วต้องหายใจลึกๆ นิดนึง ปรับตัวตามราคาไม่ทันแฮะ

 

รอให้ถึงช่วง Mania Phase ที่แท้จริงเราจะลงไปนั่งกระดิกขารอดูหนังรอบนี้พร้อมข้าวโพดขั้วอย่างสบายใจกันเสียทีละครับ ตอนนี้มันยังแค่โฆษนาต้นเรื่องเอง

ถูกแก้ไข สิงหาคม 22, 2011 โดย leo_attack

[potgarn 2,608]

หลายคนบอกว่าปีนี้เกิน 2000อ่ะครับ แต่จำไม่ได้ว่าใครบ้าง

 

 

 

แหะๆ ผมไม่ชอบเล่นเก็งกำไรเลยอ่ะครับ ซื้อทองใส่หม้อเป็นการออมอย่างเดียวเลย 555 เพื่อรักษาความมั่งคั่ง

 

 

55 ถ้าไม่ชอบไม่ต้องเล่นครับ ไม่งั้นถึงได้เงินอาจจะเหนื่อยดีไม่ดีเสียตังค์ กร้าากกก แต่ถ้าชอบเล่น เชิญมา sell short dollie ไปเลย