โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Safe Heaven

[plaifa 37]

 

 

ร่วมด้วยช่วยกันคุย

 

ถ้า ..... เศรษฐกิจไม่ดีฝรั่งเทขายทอง ทิ้งเอา ทิ้งเอา กลัวว่าถึงตอนเศรษฐกิจล่มทั้งยุโรปจริง ๆ

เขาจะเทขายทองในคลังทิ้งกันหนักทุกประเทศเพื่อเอาเงินมาใช้จ่าย แล้วทองที่เก็บไว้จะ ขาดทุน ?

 

มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเหรอ........

 

ระยะสั้น... Panic sell คนที่เก็งกำไร ทองแท่ง แบบระยะสั้น รอบต่ำกว่าเืดือน - 3เดือน ขาดทุนแน่นอน

เพราะราคาลงดิ่ง อะไรที่ขายมากกว่าซื้อ ก็ต้องราคาลงอยู่แล้ว

 

ระยะสั้น..คนที่เก็งกำไรทองแท่ง แบบระยะยาว เกิน 3เดือนขึ้นไป หรือคนที่ถือไว้เพืี่่อเป็นหลักประกันถึงอำนาจในการซื้อขายของตนในอนาคต

เมื่อเกิดเหตุการณ์ Panic sell ก็เอาทองแท่งที่เก็บไว้้มาลูบ ๆ คลำ ๆ ทำไปแล้วก็มีอยู่เท่าเดิม ก็ไม่รู้สึกอะไรมากเพราะยังไม่คิดจะขาย

อาจมีหวั่นไหวแล็กน้อย ถึงปานกลาง ถ้าหวั่นไหวมากอาจจะไปขายแท่งได้ ขาดทุนพอกัน. อาจจะไม่ขาดทุนก็ได้ เพราะซื้อไว้ตอนถูกมาก ๆ

ระยะสั้น... คนเล่น GF อยู่ผิดฝั่ง L บาน ก็ขาดทุนบาน พอๆ กับ ที่ คนที่ S ไว้รวยบาน... บานตาม.. Panic sell

แอ๊ะ..! หรือคนที่ S ไว้จะจนไปด้วย ถ้าราคามันวิ่งขึ้นลงวันละ 500-600$ ไป ๆ มา ๆ ขาใหญ่ลากไป ทุบ ทุบอยู่ให้ถูกฝั่งก็แล้วกัน

 

สรุประยะสั้น คนเล่น GF ต้องเป็นคนที่นิยมความตื่นเต้นอย่างที่สุด ห้ามเป็นโรคหัวใจ หรือความดัน ใด ๆ ทั้งสิ้นรวมถึงความดันทุรังด้วย

เตรียมตัวรวย และจนไว้พร้อม.

 

ระยะกลาง...ฝุ่นเริ่มจาง ชักจะชิน จาก Panic sell คนเก็งทองแท่งระยะสั้น เริ่มจับทางได้ หรือไม่ก็ขาดทุนตายจากระบบไปแล้ว

ชักเฉย เพราะไม่มีไรจะเสียเพิ่มเริ่มชินกับการขึ้นลง เยอะ ๆ แล้ว พอจะทำกำไรได้บ้าง

 

ระยะกลาง....คนที่ถือทองแท่งระยะยาว ก็ยังเฉย ๆ ชินแล้ว รับได้

 

ระยะกลาง...คนเล่น GF เหลือแต่ผู้มี วรยุทธล้ำเลิศ เท่านั้น เม่า..ตายไปหมดเรียบร้อย

ตัวขาใหญ่ถือสัญญา ที่อาจจะทำให้ตัวเองขาดทุนไว้เกือบหมดแล้ว เคลียร์ทางลงได้แล้ว

 

 

ฝุ่นจางลง เริ่มมีการตกลงกันแล้ว ว่าจะแก้ไขปัญหาโลกแตกกันอย่างไร?

 

ระยะยาว....คนถือแท่งสั้น ก็ยังเก็งกำไรได้ เพราะผ่าน ระยะกลางมาแล้ว

 

ระยะยาว...คนถือแท่งยาวราคาเพิ่มขึ้นมากมาย รวย..........บานรวย...เพราะ กลายเป็นคนกลุ่มน้อยที่มีอำนาจในการซื้อขาย

 

เพราะ จากการตกลงกันใหม่ ของพวกขาใหญ่ ที่ยึดสัญญา GF คืนได้เกือบหมดแล้ว ด้วยวิธีพิมพ์แบงค์กงเต๊กออกมาซื้อ ทองคำ

ทั้งส่วนที่อยุ่ ใน GF กับที่เป็น ของจริง ไว้เกือบหมดแล้ว ตอน Panic sell

 

พวกเขาจะเปลี่ยนท่าทีใหม่ ต่อทองคำทันที บอกว่าทองนั่นดีหนักหนา ถือไว้มีราคามากมาย (เพราะอยู่ที่พวกขาใหญ่เกือบหมด)

 

ส่วนแบงค์นั้นที่จริงแล้ว เป็นแบงค์กงเต็ก พวกเขาเข้าใจผิดไป (แล้วที่หลอกให้ตรูใ้ช้มา นมนานก็จะไม่เอ่ยถึง)

 

ประชาชนทั่วไป รายย่อย ทั่วไป ตายเกลื่่อนจากค่าเงินที่อ่อนลงไป จนทำอะไรไม่ได้ คนถือทอง,เงินโลหะ, โภคภัณฑ์ , อาหาร , ที่ดินการเกษตร รวย..

(ซึี่่ึ่งส่วนใหญ่ ก็จะเป็นของ ขาใหญ่อยู่ดี)

 

แล้วจะมีใครสนใจรายย่อยไหม ? ตอบได้ ไม่มี....สังเกตจากวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ ปี 2008 รายย่อย + ประชาชน รับกรรมเอาเอง

(ถึงได้เป็นสาเหตุให้ เราต้องระมัดระวังตัวกันเอาเองในตอนนี้)

จริงแล้ว โดยความเห็นส่วนตัว การถือทองคำในระยะยาว เป็นการคงไว้ซึ่งอำนาจการการซื้อของตัวเองในอนาคตเท่านั้น

เพราะเมื่อถึงตอนนั้น คนที่มีทองคำจะกลายเป็นคนส่วนน้อยที่มีอำนาจในการซื้อมากกว่าเพราะคนไม่เชื่อมั่นกระดาษแล้ว

นี่คือเหตุผล ว่าทำไม่จึงเรียกว่ารวย.

 

ขาใหญ่ หลังจากสร้างความเสียหายมากมาย แล้วแอบถือทองคำไว้แล้ว ก็จะ ชักดาบ ให้แบงค์กงเต็ก กลายเป็นกระดาษทิชชู่

ทันที เพื่อที่ตัวเองจะได้ล้มบนฟูกอย่างสบาย.............

 

คำถามวันนี้ คุณเตรียมตัวเพื่อระยะยาวแล้วหรือยัง ?.................................

ปล. 1. ระยะสั้น กินเวลาประมาณไม่เกิน 3 เดือน เพราะเงื่อนไขเวลาการนำเสนอข่าว ในปัจจุบันเร็วมาก เพราะมีอินเตอร์เน็ต มีถ่านทอดสด เหมือนอย่างในคลิปสารคดี ที่ท่านผู้รู้เคยเอามาให้ดู มีการสมมุติ ช่วงเหตุการณ์ ของการล้มเหลวของการเงินโลกไว้ กินเวลาแค่ สิบกว่าวันเอง

ถ้าเราฟัง คุณโป้งเหน่งพูดตอน ตี4 หลังจากพูดเสร็จไม่เกิน ครึ่งชั่วโมง ก็คงมีบทความวิเคราะห์คำพูดของเขาออกมาแล้ว ระยะสั้น คงกินเวลาไม่นานนัก.

 

ปล. 2. ข้อความทั้งหมด นึกฝันเอาเอง ผิดถูกอย่างไร ท่านผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะคะ

ส่วนตัวคิดว่ามันจะล่มตั้งแต่ sub prime แล้ว

แต่นึกไม่ถึงเลยว่า

เขาเล่นสั่งพิมพ์แบ็งค์เพิ่มแบบ ไม่อั้นเต็มกำลัง

ผ่านไปยังไม่ครบสามปี ก็เอาไม่อยู่อีกแล้ว

ลูกไม้เก่า ๆ ก็มีคนในโลกรู้ทันเพิ่มขึ้น

แก็งค์ศรีธนชัยผมทอง กลุ่มเดิม คงต้องคิดและใช้สารพัดวิธี

เผื่อว่าจะแก้ปัญหาเอาหน้ารอด แบบด้าน ๆ ไปอีกครั้งกับปัญหาที่เป็นลูกโป่งที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า

แถมยังมียุโรป ร่วมด้วยช่วยล่มกันอีกเป็นแถว

งานนี้ คิดเหมือนกันว่า

คงใกล้จบเต็มทีแล้ว หนังเรื่องนี้ยาวเกินและสร้างมาหลายภาค จนคนดูเบื่อเต็มทนแล้ว

[plaifa 37]

BBC สัมภาษณ์ trader คนหนึ่ง ที่ตอบคำถามแบบจริงใจมากๆ

ดูตอนแรกนึกว่าเป็น trailer หนังฮอลลีวูดเรื่องใหม่

 

 

via http://www.zerohedge.com/news/bbc-speechless-trader-tells-truth-collapse-comingand-goldman-rules-world

 

 

 

เห็นด้วยครับ ส่วนตัวขึ้นก็เชียร์ ลงก็เชียร์ มีข้อดีทั้งสองทิศเลยครับ

 

 

 

อยู่บนเขาก็มีความเสี่ยงนะครับ ถ้าเลือกผิดลูก

ในแคลิฟอร์เนีย คนมีเงินชอบไปซื้อบ้านอยู่บนเขา เพราะเห็นวิวสวย

เป็นส่วนตัว ฯลฯ แต่พอถึงเวลาที่เจอฝนตกหนักมากๆ กลายเป็นว่าเสี่ยงเจอดิน/โคลนถล่มครับ

 

ต้องอยู่ปนไปกับชาวบ้านในหมู่บ้านที่เขาอยู่กันมานานหลายสิบปี

และเป็นประมาณที่ราบบนเนินเขาที่อยู่สูงกว่าลำธารมาก ๆ หน่อย

ไม่ใช่ไปหาที่บุกเบิกใหม่ ๆ หรือที่จัดสรรแพง ๆ ที่เน้นเป็นที่พักผ่อน

ต้องหาที่ที่เราทำกินได้จริง ๆ และมีสังคมชาวบ้านที่จะช่วยดูแลให้เราได้เวลาเราต้องกลับมาในเมือง

[HudchewMan 3]

เห็นด้วยๆค่ะ ซื้อทอง อย่าลืมซื้อที่ดินไว้ด้วยนะ !047 ไว้พอปลูกข้าวปลูกผัก อย่างน้อยๆ ก็รับประกันได้ว่าไม่อดตายแน่ๆเจ้าค่ะ !v@

 

ปัญหามีอยู่ว่า ถ้าปลูกแล้วเจอน้ำท่วม มีปาดเหงื่อครับ '

 

คงต้องวางแผนสร้างคันกั้นน้ำไว้ด้วยล่ะมั้งเนี่ย ^^'

 

คลองจินดา โมเดล เพิ่งได้ยินไม่กี่วันก่อน น่าสนใจมาก

อาจเป็นแนวทางหนีน้ำท่วมแบบไม่ต้องไปหาที่ไกลบนเขาได้นะ หากยังอยากอยู่ใกล้เมือง

แต่ก็ต้องเสียที่จำนวนหนึ่งทำคันกั้นน้ำ แต่สามารถปลูกมะพร้าวหรือกล้วยไว้บนคั้นกั้นน้ำได้

 

มะพร้าวกับกล้วย เวลานี้ไม่ใช่ของไร้ราคาอีกแล้ว

อยู่บนเขายังมีคนไปแย่งกันซื้อ หวีละแปดบาท สองปีก่อน หวีละสองบาท ยังไม่มีคนมาตัดเลย

มะพร้าวคั้นกระทิ ขึ้นไปถึงโลละ50-60บาท จากโลละ10กว่าบาท ยังหาของไม่ได้เมื่อต้นปีนี่เอง

 

เห็นฤทธิ์เงินเฟ้อหรือยังว่า มันรุนแรงแถมมีตัวเร่งจาก ภัยธรรมชาติ ทำให้วัตถุดิบเกษตรหาได้ยากขึ้น

มันจะเฟ้อกันไปทั้งระบบ แล้วหากเราได้รายได้เท่าเดิม หรือขึ้นบ้างเล็ก ๆ น้อย มันจะทันไหมกับเงินเฟ้อ

 

กระดาษเก็บไว้เอาไปอยู่กับแบ็งค์ ก็ให้สองสามเปอร์เซนต์ ทีกู้ละคิดแปดเก้าเปอร์เซนต์ มากกว่าฝากสามเท่า

รัฐบาลก็จะเลิกค้ำอยู่แล้ว แล้วเราจะมัดกอดกระดาษทำไมให้จนลงจนลงทุกวัน

 

กำลังซื้อที่น้อยลงไปเรื่อย ๆ ย่อมทำให้ชนชนกลางกลายเป็นคนจนโดยไม่รู้ตัว

 

ลองไปค้นข้อมูลของ “คลองจินดา โมเดล” น่าสนใจดีสำหรับการทำสวน

 

ที่จริงผมก็เคยคิดเรื่องสวนเหมือนกัน ว่าถ้ามีสวนเองก็อยากทำคันกั้นน้ำสำหรับป้องกันน้ำท่วมสวน

แต่พอลองคำนวณดูเรื่องของแรงดันของน้ำแล้ว มันคงรับได้สำหรับน้ำที่ขึ้นสูงตามปกติ

 

แต่ถ้าเป็นน้ำหลาก มันจะมีปริมาณมาก และมีความแรงของกระแสน้ำ คันดินที่ทำไว้ไม่น่าจะกันไหว

สวนของญาติและคนรู้จักหลายคน พยายามสู้น้ำตอนน้ำท่วมโดยทำคันดินกั้น แต่สุดท้ายก็สู้ไม่ไหว เสียหายหนักมากพอดู ^^'

เลยเลิกคิดไปแล้วล่ะ ^^'

 

แต่ตอนนี้สถานการณ์ชีวิตเริ่มแวะเวียนเข้าใกล้การเป็นเกษตรกรสมัครเล่นในอนาคตอยู่

ก็เริ่มที่จะเก็บข้อมูลอะไรๆ ด้านนี้ไว้เพิ่มเติมประดับความรู้อีกครับ ^^

[darefas 27]

แล้วหากเงินด้อยค่า จนไม่เหลือค่า ทองถูกนำมาเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนแทนเงินกระดาษ คนเก็บทองเยอะๆก็จะรวย หรือว่า!!!

 

ทุกวันนี้ที่ทองดูมีมูลค่าเพราะคนหลงอยู่กับอำนาจเงินตราที่นับวันยิ่งกระตุ้นให้ทองดูดี

 

สรุปคือว่า... มีทองไว้คานอำนาจเงินที่เฟ้อในปัจจุบันและอนาคต น่าจะดีกว่าที่ระบบการเงินโลกล้ม แล้วเปลี่ยนมาใช้ทองแทนเงิน

 

มันดูคล้ายกับทองเป็นตัวตน และเงินคือเสื้อผ้าที่ทำให้ทองดูสวยงาม

 

บทความคุณ Next ผมอ่านแล้วซาบซึ้งมากครับ เพียงแค่สติปัญญาของผมเองยังไม่สูงพอที่จะตอบปัญหานี้ครับ หากท่านใดจะกรุณาชี้แนะข้าน้อยจะเป็นพระคุณยิ่ง ขอบคุณครับ

 

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87

 

ขอตอบนะคะ ผิดถูกไม่รู้เพราะคงไม่่มีผิดมีถูก แต่คิดว่าเป็นหลักพื้นฐานล้วนๆ ถือว่าแบ่งปันกันนะคะ

 

ลองเริ่มคิดจาก เราเกิดมาบนโลกจากกระบอกไม้ไผ่ โดยรอบข้างไม่มีคน ไม่มีสังคม สิ่งที่เราต้องการก็จะเป็นเพียงข้าวปลาอาหารเพื่อให้อยู่รอดเท่านั้น เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัยก็คงไม่อยากได้ คิดง่ายตอนคลอดออกมา เราก็ร้องไห้แหกปากจะกินน่ะแหละค่ะ 555

 

แต่ทีนี้พอกินๆไป ฝนก็ตก ฝนตกก็เปียก แถมฟ้าแลบฟ้าร้องอีกน่ากลัว ว๊ายๆ แล้วมันฟ้าก็ผ่าต้นไม้ต้นนั้นไหม้เลย แย่แล้วๆ น่ากลัวๆ ไปนอนในถ้ำดีกว่า ที่อยู่อาศัยที่จะกำบังคุ้มภัยได้ ก็เลยเป็นปัจจัยที่ 2 ในการใช้ชีวิตค่ะ

 

เอาล่ะๆ เข้าถ้ำไปแล้ว มัวแต่กลัว เดินไม่ระวัง โดนหินบาดด้วย แงๆ ยารักษาโรคก็จำเป็นขึ้นมา แล้วก็เอ๊ะๆ ถ้าเรามีรองเท้าหรือเสื้อผ้าด้วย ก็คงไม่โดนหินบาดสินะ

 

เห็นมั๊ยคะ ง่ายๆแค่นี้ คนเราต้องการแค่ปัจจัย 4 น่ะแหละค่ะ ลองคิดเอาว่าจะไปอยู่ป่าซักปี ก็ต้องการแค่นี้แหละค่ะ

 

ทีนี้ มันไม่ง่ายแบบนี้ เพราะเราไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม สิ่งอื่นๆที่เกิดขึ้นตามมาก็เพราะเรามีสังคมเนี่ยแหละค่ะ ลองเทียบกับสัตว์ดูนะคะ ตัวผู้ั ตัวเมีย ต้องต่อสู้ และพยายามดูดี เพื่อการสืบพันธุ์ต่อไป (แล้วเราจะสืบพันธุ์กันไปทำไม อันนี้ยังคิดไม่ได้ จริงๆก็เพื่อให้ระบบนิเวศน์ไม่รวนน่ะแหละ ธรรมชาติมันดันบังคับมา ถือซะว่าเป็นกฏข้อที่แหกไม่ได้ละกัน)

 

คนเราก็ไม่ต่างกันค่ะ สิ่งนี้ก่อให้เกิดกิเลส เสื้อผ้าธรรมดาก็ไม่ได้ ต้องดูดีกว่า มีอาหารแต่พอกินคนเดียวไม่ได้ เดี๋ยวหาคู่ยาก ปัจจัยสี่ ที่ดูจะธรรมดา ก็เกิดการเปรียบเทียบ ต้องแย่งชิงให้มีดีกว่า เยอะกว่า การต่อสู้ สงครามก็เกิด การควบคุมจึงต้องเกิดขึ้น กฏหมาย จาีรีต ประเพณี วัฒนธรรม ล้วนเป็นกุศโลบายในการควบคุมอิสระของมนุษย์นั่นเองค่ะ

 

เข้าเรื่องเงินๆทองๆกันบ้าง ทองและเงินถูกกำหนดขึ้นมาให้ใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า ก็ด้วยน้ำมือมนุษย์ พูดง่ายๆ มีฐานะเป็นหนึ่งในผู้คุมกฎ สาเหตุที่ต้องเป็นทองก็เพราะมันไม่สูญสลายไป โดนกระทำชำเรายังไงก็ยังเป็นทอง ส่วนน้องเงินก็เสริมมาเป็นตัวช่วย ตอนนี้คนที่เข้ามาซื้อทองและเงินช่วงหลังส่วนใหญ่ก็เพราะกิเลส มองเห็นเป็นเงินๆๆ (เิงินกระดาษน่ะแหละ) ตาโตลุกวาว เหมือนแมงเม่าบินเข้าตลาดหุ้นน่ะแหละ

 

ถ้าอ่านบทความคุณ next แล้วเข้าถึงจิตวิญญาณจริงๆ จะรู้ว่าตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้มีค่าเลย หากแต่เราสะสมทองและเงินเพื่อรักษากำลังในการแลกเปลี่ยนสินค้าเอาไว้ เนื่องจากเรายังต้องอยู่ในสังคม ซึ่งถูกตั้งกฏมาแล้วว่าต้องมีตัวกลางในการแลกเปลี่ยน เราก็ต้องยอมรับ มันเป็นกฏที่อยู่ๆเราจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนทั้งโลกคงไม่ได้ แต่ถ้าเราจะเอาผักชีไปแลกต้นหอมคนข้างบ้านก็อาจจะพอทำได้นะคะ

 

เอาแค่คร่าวๆก็ประมาณนี้ค่ะ เชื่อว่าคงพอเห็นภาพ เศรษฐกิจพอเพียง จึงช่วยให้เราอยู่รอดได้ในสังคมโดยปราศจากเงื่อนไขทางสังคม เพราะเราอยู่รอดได้ มีปัจจัยสี่ครบถ้วน พอมีเหลือๆ ค่อยเอาไปแลกกับข้างบ้าน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันไป แต่สุดท้ายที่คนส่วนใหญ่ทำกันไม่ได้ ก็เพราะไม่เข้าถึงมันจริงๆ ละกิเลสไม่ได้ ยังแสวงหาสิ่งที่ดีกว่าให้ชีิวิตตัวเองเสมอ หารู้ไม่ว่าหาที่พอ ที่หยุดไม่ได้ เหนื่อยกันไปทั้งชีวิต

 

มีอีกทางนะคะ อย่าอยู่ในสังคม ออกไปอยู่ป่า ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เสมอ มีเหลือเฟือให้เราใช้ แต่มนุษย์เราดันเอากิเลสไปทำลายมันซะหมด ไม่เคยคิดเหรอคะว่า ทำไมเราจะเข้าอุทยานไปดูธรรมชาิติที่มันตั้งอยู่เฉยๆ ฟรีๆ เราต้องเสียตังค์ด้วย ทำไมต้องไปดูแลรักษามันได้ ปล่อยมันไปก็โตได้ ก็เพราะสังคมมนุษย์เนี่ยแหละค่ะ ไปๆมาๆ โลกนี้ไม่มีมนุษย์คงดี

 

ถ้าคุณ Harnsin เริ่มคิดแบบนี้แล้ว ลองปล่อยวางดูสิคะ แล้วมองหาว่าสิ่งที่จำเป็นในชีวิตมีอะไรบ้าง หามันมาให้เร็วที่สุด ชีวิตที่เหลือก็จะมีแต่อิสระ ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปค่ะ คนเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตและดับไป มีแค่นั้นแหละค่ะ จุดเริ่มต้นและจุดจบของทุกคนเหมือนกัน ต่างกันที่ระหว่างกลางเราใช้ชีวิตยังไง ความเป็นไปได้อยู่ที่ตัวเราที่จะกำหนดมันค่ะ

 

ร่ายมาซะยาว กลายเป็นกระทู้ธรรมไปซะแล้ว หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนตอนนี้นะคะ มีสติกันไว้ค่ะ

 

@darefas Look around, and see all fake. Eyes meet all human makes. Mind asks for tree and lake. Listen please, and be awake.

[Harnsin 362]

ขอตอบนะคะ ผิดถูกไม่รู้เพราะคงไม่่มีผิดมีถูก แต่คิดว่าเป็นหลักพื้นฐานล้วนๆ ถือว่าแบ่งปันกันนะคะ

 

ลองเริ่มคิดจาก เราเกิดมาบนโลกจากกระบอกไม้ไผ่ โดยรอบข้างไม่มีคน ไม่มีสังคม สิ่งที่เราต้องการก็จะเป็นเพียงข้าวปลาอาหารเพื่อให้อยู่รอดเท่านั้น เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัยก็คงไม่อยากได้ คิดง่ายตอนคลอดออกมา เราก็ร้องไห้แหกปากจะกินน่ะแหละค่ะ 555

 

แต่ทีนี้พอกินๆไป ฝนก็ตก ฝนตกก็เปียก แถมฟ้าแลบฟ้าร้องอีกน่ากลัว ว๊ายๆ แล้วมันฟ้าก็ผ่าต้นไม้ต้นนั้นไหม้เลย แย่แล้วๆ น่ากลัวๆ ไปนอนในถ้ำดีกว่า ที่อยู่อาศัยที่จะกำบังคุ้มภัยได้ ก็เลยเป็นปัจจัยที่ 2 ในการใช้ชีวิตค่ะ

 

เอาล่ะๆ เข้าถ้ำไปแล้ว มัวแต่กลัว เดินไม่ระวัง โดนหินบาดด้วย แงๆ ยารักษาโรคก็จำเป็นขึ้นมา แล้วก็เอ๊ะๆ ถ้าเรามีรองเท้าหรือเสื้อผ้าด้วย ก็คงไม่โดนหินบาดสินะ

 

เห็นมั๊ยคะ ง่ายๆแค่นี้ คนเราต้องการแค่ปัจจัย 4 น่ะแหละค่ะ ลองคิดเอาว่าจะไปอยู่ป่าซักปี ก็ต้องการแค่นี้แหละค่ะ

 

ทีนี้ มันไม่ง่ายแบบนี้ เพราะเราไม่ได้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม สิ่งอื่นๆที่เกิดขึ้นตามมาก็เพราะเรามีสังคมเนี่ยแหละค่ะ ลองเทียบกับสัตว์ดูนะคะ ตัวผู้ั ตัวเมีย ต้องต่อสู้ และพยายามดูดี เพื่อการสืบพันธุ์ต่อไป (แล้วเราจะสืบพันธุ์กันไปทำไม อันนี้ยังคิดไม่ได้ จริงๆก็เพื่อให้ระบบนิเวศน์ไม่รวนน่ะแหละ ธรรมชาติมันดันบังคับมา ถือซะว่าเป็นกฏข้อที่แหกไม่ได้ละกัน)

 

คนเราก็ไม่ต่างกันค่ะ สิ่งนี้ก่อให้เกิดกิเลส เสื้อผ้าธรรมดาก็ไม่ได้ ต้องดูดีกว่า มีอาหารแต่พอกินคนเดียวไม่ได้ เดี๋ยวหาคู่ยาก ปัจจัยสี่ ที่ดูจะธรรมดา ก็เกิดการเปรียบเทียบ ต้องแย่งชิงให้มีดีกว่า เยอะกว่า การต่อสู้ สงครามก็เกิด การควบคุมจึงต้องเกิดขึ้น กฏหมาย จาีรีต ประเพณี วัฒนธรรม ล้วนเป็นกุศโลบายในการควบคุมอิสระของมนุษย์นั่นเองค่ะ

 

เข้าเรื่องเงินๆทองๆกันบ้าง ทองและเงินถูกกำหนดขึ้นมาให้ใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้า ก็ด้วยน้ำมือมนุษย์ พูดง่ายๆ มีฐานะเป็นหนึ่งในผู้คุมกฎ สาเหตุที่ต้องเป็นทองก็เพราะมันไม่สูญสลายไป โดนกระทำชำเรายังไงก็ยังเป็นทอง ส่วนน้องเงินก็เสริมมาเป็นตัวช่วย ตอนนี้คนที่เข้ามาซื้อทองและเงินช่วงหลังส่วนใหญ่ก็เพราะกิเลส มองเห็นเป็นเงินๆๆ (เิงินกระดาษน่ะแหละ) ตาโตลุกวาว เหมือนแมงเม่าบินเข้าตลาดหุ้นน่ะแหละ

 

ถ้าอ่านบทความคุณ next แล้วเข้าถึงจิตวิญญาณจริงๆ จะรู้ว่าตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้มีค่าเลย หากแต่เราสะสมทองและเงินเพื่อรักษากำลังในการแลกเปลี่ยนสินค้าเอาไว้ เนื่องจากเรายังต้องอยู่ในสังคม ซึ่งถูกตั้งกฏมาแล้วว่าต้องมีตัวกลางในการแลกเปลี่ยน เราก็ต้องยอมรับ มันเป็นกฏที่อยู่ๆเราจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนทั้งโลกคงไม่ได้ แต่ถ้าเราจะเอาผักชีไปแลกต้นหอมคนข้างบ้านก็อาจจะพอทำได้นะคะ

 

เอาแค่คร่าวๆก็ประมาณนี้ค่ะ เชื่อว่าคงพอเห็นภาพ เศรษฐกิจพอเพียง จึงช่วยให้เราอยู่รอดได้ในสังคมโดยปราศจากเงื่อนไขทางสังคม เพราะเราอยู่รอดได้ มีปัจจัยสี่ครบถ้วน พอมีเหลือๆ ค่อยเอาไปแลกกับข้างบ้าน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันไป แต่สุดท้ายที่คนส่วนใหญ่ทำกันไม่ได้ ก็เพราะไม่เข้าถึงมันจริงๆ ละกิเลสไม่ได้ ยังแสวงหาสิ่งที่ดีกว่าให้ชีิวิตตัวเองเสมอ หารู้ไม่ว่าหาที่พอ ที่หยุดไม่ได้ เหนื่อยกันไปทั้งชีวิต

 

มีอีกทางนะคะ อย่าอยู่ในสังคม ออกไปอยู่ป่า ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เสมอ มีเหลือเฟือให้เราใช้ แต่มนุษย์เราดันเอากิเลสไปทำลายมันซะหมด ไม่เคยคิดเหรอคะว่า ทำไมเราจะเข้าอุทยานไปดูธรรมชาิติที่มันตั้งอยู่เฉยๆ ฟรีๆ เราต้องเสียตังค์ด้วย ทำไมต้องไปดูแลรักษามันได้ ปล่อยมันไปก็โตได้ ก็เพราะสังคมมนุษย์เนี่ยแหละค่ะ ไปๆมาๆ โลกนี้ไม่มีมนุษย์คงดี

 

ถ้าคุณ Harnsin เริ่มคิดแบบนี้แล้ว ลองปล่อยวางดูสิคะ แล้วมองหาว่าสิ่งที่จำเป็นในชีวิตมีอะไรบ้าง หามันมาให้เร็วที่สุด ชีวิตที่เหลือก็จะมีแต่อิสระ ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปค่ะ คนเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตและดับไป มีแค่นั้นแหละค่ะ จุดเริ่มต้นและจุดจบของทุกคนเหมือนกัน ต่างกันที่ระหว่างกลางเราใช้ชีวิตยังไง ความเป็นไปได้อยู่ที่ตัวเราที่จะกำหนดมันค่ะ

 

ร่ายมาซะยาว กลายเป็นกระทู้ธรรมไปซะแล้ว หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนตอนนี้นะคะ มีสติกันไว้ค่ะ

 

@darefas Look around, and see all fake. Eyes meet all human makes. Mind asks for tree and lake. Listen please, and be awake.

 

ขอขอบคุณมากๆครับ อ่านแล้วซึ้งใจมากๆเลย อุตส่า่ห์สละเวลาตอบให้ผมและชี้แจงอย่างเห็นภาพ ขอบคุณมากๆครับ

[madamjun 40]

เรื่องทองกินไม่ได้เห็นพูดกันมากจริงๆ เมื่อวานแฟนกลับมาเล่าว่าน้องๆที่ทำงานบอกว่าถ้าเศษฐกิจล่มจริงๆหนูไม่เก็บทองไว้หลอกพี่ทองมันกินไม่ได้

 

ต้องเก็บอาหารสิถึงจะถูก

 

ในความเห็นผม ถูกต้องครับอาหารกินได้ทำให้เราอยู่ได้ แต่เราไม่สามารถผลิตอาหารเองได้ครับ ข้าวคุณมีนาข้าวไหม เนื้อสัตว์คุณได้เลี้ยงไว้ไหม

 

ถึงคุณเลี้ยงไว้อาจจะเป็นหมูสักคอก คุณกล้าฆ่ามันแล้วกินมันไหม ผักผลไม้ ยารักษาโรค เสื้อผ้า อื่นๆที่จำเป็นเอามาจากไหน สุดท้ายคุณจะตุน

 

อาหารพอกินไปได้นานพอจนทุกอย่างดีขึ้นไหม สงสัยต้องมีโกดังเป็นของตนเอง

 

ทุกอย่างที่กล่าวมามันทำให้ต้องมีตัวกลางในการแลกเปลี่ยนครับ ปัจจุบันเราใช้เงินกระดาษในการแลกเปลี่ยน แต่เมื่อมีเหตุที่ทำให้เงินกระดาษ

 

ไม่สามารถทำหน้าที่แลกเปลี่ยนหรือต้องใช้เงินกระดาษจำนวนมากมายในการแลกเปลี่ยน อะไรละที่จะทำหน้าที่แทน สังคมมนุษย์มันขาดการแลกเปลี่ยน

 

สิ่งของกันไม่ได้ครับเพราะเราไม่สามารถมีทุกอย่างที่เราอยากได้(เราอยากได้มากสะด้วยสิ)

 

ทองคือความน่าจะเป็นอันดับแรกๆที่เราคิดว่าน่าจะมาทำหน้าที่นี้แทนเงินกระดาษได้ครับ เป็นเหตุผลที่ทำไมเราถึงต้องเก็บทอง

 

ทองกินไม่ได้ครับ แต่มันสามารถทำให้เรามีอาหารกินได้ครับ เหตุที่ทองอยูในอันดับต้นๆที่จะมาแทนเงินกระดาษ(อาจจะชั่วคราว)คุณ next ได้บอกไว้หมดแล้วครับ

 

คุณแม่สามีก็เคยเล่าให้ฟังว่า ในช่วงที่เขมรแตกหลังสงครามโลกครั้งที่2

พวกเขมรที่หนีตายจากเขมรจะเข้ามาอยู่เมืองไทย ก็จะมีการจ่ายค่าใช้จ่ายระหว่างทางด้วยทองคำค่ะ

เพราะไม่มีใครรับเงินเขมรในขณะนั้น บางคนก็แอบเอาสร้อยคอทองคำร้อยต่อต่อกันผูกกับเอวมา

แล้วก็ทยอยแบ่งให้ทีละด่านๆ ด่านละ 3ข้อ(ทองรูปพรรณ)บ้าง 5ข้อบ้าง

 

แล้วถ้าหากต่อไปเกิดมีวิกฤตขนาดที่ต้องใช้ทองคำเป็นสื่อแลกเปลี่ยนขึ้นมาจริงๆ

เคยคิดเหมือนกันว่า คงต้องเก็บเป็นทองรูปพรรณบ้าง เผื่อเอาไว้แบ่งจ่าย เป็นข้อๆ ตามราคาที่ต้องการแลกเปลี่ยน

เพราะ ถ้ามีแต่ทองแท่ง (โดยเฉพาะแท่งใหญ่)จะทอนทองกันอย่างไรล่ะเนี่ย

ถูกแก้ไข กันยายน 28, 2011 โดย madam

[JohnCM 939]

BBC สัมภาษณ์ trader คนหนึ่ง ที่ตอบคำถามแบบจริงใจมากๆ

ดูตอนแรกนึกว่าเป็น trailer หนังฮอลลีวูดเรื่องใหม่

 

 

via http://www.zerohedge.com/news/bbc-speechless-trader-tells-truth-collapse-comingand-goldman-rules-world

 

 

 

ขอบคุณครับ สำหรั้บคลิป ชัดเจนมากๆ

ทราบไหมครับ เขาเป็นใคร กล้าพูดมากๆ ชักสนใจอยากติดตามผลงานเรื่อยๆ แล้วซิครับ

[ee16053 11]

คุณแม่สามีก็เคยเล่าให้ฟังว่า ในช่วงที่เขมรแตกหลังสงครามโลกครั้งที่2

พวกเขมรที่หนีตายจากเขมรจะเข้ามาอยู่เมืองไทย ก็จะมีการจ่ายค่าใช้จ่ายระหว่างทางด้วยทองคำค่ะ

เพราะไม่มีใครรับเงินเขมรในขณะนั้น บางคนก็แอบเอาสร้อยคอทองคำร้อยต่อต่อกันผูกกับเอวมา

แล้วก็ทยอยแบ่งให้ทีละด่านๆ ด่านละ 3ข้อ(ทองรูปพรรณ)บ้าง 5ข้อบ้าง

 

แล้วถ้าหากต่อไปเกิดมีวิกฤตขนาดที่ต้องใช้ทองคำเป็นสื่อแลกเปลี่ยนขึ้นมาจริงๆ

เคยคิดเหมือนกันว่า คงต้องเก็บเป็นทองรูปพรรณบ้าง เผื่อเอาไว้แบ่งจ่าย เป็นข้อๆ ตามราคาที่ต้องการแลกเปลี่ยน

เพราะ ถ้ามีแต่ทองแท่ง (โดยเฉพาะแท่งใหญ่)จะทอนทองกันอย่างไรล่ะเนี่ย

 

เหรียญเงินไง ทองเหมือนแบงค์ใหญ่ โลหะเงินเหมือนแบงค์ย่อย

[madamjun 40]

เหรียญเงินไง ทองเหมือนแบงค์ใหญ่ โลหะเงินเหมือนแบงค์ย่อย

 

จริงๆด้วย งั้นต้องเริ่มเก็บโลหะเงินบ้างแล้ว .

[leo_attack 579]

ข....ขะ....ของ......ของถูกมาแว้ว

 

1602

ถูกแก้ไข กันยายน 28, 2011 โดย leo_attack

[Harnsin 362]

ตื่นมาเข้าห้องน้ำ แอบดูกราฟนิดนึง มาจริงๆด้วยแฮะ

 

ระวังลุง เบอนันเก้ตอนตี 4 ให้ดีหล่ะครับ

ถูกแก้ไข กันยายน 28, 2011 โดย Harnsin

[mdaddy 2,443]

ขอบคุณครับ สำหรั้บคลิป ชัดเจนมากๆ

ทราบไหมครับ เขาเป็นใคร กล้าพูดมากๆ ชักสนใจอยากติดตามผลงานเรื่อยๆ แล้วซิครับ

 

http://www.facebook.com/alessiorastani

 

ชื่อ Alessio Rastani ครับ

ผมไม่รู้ข้อมูลอะไรของเค้ามาก นอกจากรู้ว่าเป็น trader อิสระ

หลังจากคลิปออกมา มีทั้งคนออกมาเชียร์ และออกมา discredit ว่าเป็นนักแสดง ไม่ใช่ trader จริงๆ ฯลฯ

[Fanclub 2]

ขอเรียนตอบคำถามของคุณหมอเล็กนะคะ

 

"แหะๆ พอดีผมไม่มีความรู้ตรงนี้เลยขอถามหน่อยนะครับว่า

1 ในวันที่มันหลุดมาที่ 1532.45 วันนั้นราคาปิดของนิวยอร์คมันหลุด ma150หรือเปล่า

2 ถ้าวันนั้นมันหลุด ma150 แล้วมาแตะ ma 200 ในรอบ 3-4ปีที่ผ่านมามันเคยหลุด ma 200หรือเปล่า

ขอบคุณล่วงหน้าครับ"

 

ข้อ 1 ราคาปิดนิวยอร์คหลุด ma150 มาเกาะเส้นma200 ค่ะ (เส้นma150 = 1578.26)

ข้อ 2 ที่มาแตะ ma200 มีปี2009 1 ครั้ง (วันที่20เมย) และปี2010 1 ครั้ง (วันที่28ก.ค.)

 

ส่วนปี2008 มีหลายครั้งน่าจะเป็นช่วงซับไพร์มถ้าจำไม่ผิดค่ะ

[HudchewMan 3]

ข....ขะ....ของ......ของถูกมาแว้ว

 

1602

 

กลัวซื้อแล้วจะกลายเป็นว่า ถูกแล้วยังมีถูกกว่า

ถูกกว่ายังมีถูกลงไปอีก

ถูกลงไปอีกยังมีถูกแสนถูก

หลังจากซื้อถูกแสนถูกไปแล้ว...

 

พอราคาถูกสุดๆ มา ไม่กล้าซื้อแล้ว หรือไม่มีเงินซื้อแล้ว ฮ่า

[mdaddy 2,443]

กลัวซื้อแล้วจะกลายเป็นว่า ถูกแล้วยังมีถูกกว่า

ถูกกว่ายังมีถูกลงไปอีก

ถูกลงไปอีกยังมีถูกแสนถูก

หลังจากซื้อถูกแสนถูกไปแล้ว...

 

พอราคาถูกสุดๆ มา ไม่กล้าซื้อแล้ว หรือไม่มีเงินซื้อแล้ว ฮ่า

 

ลองใช้วิธีเฉลี่ยซื้อเข้าสิครับ