ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ติดตามมาตั้งแต่ต้นเลยท่าน Next คารมสุดยอดจริงๆเลย ข้าพเจ้าขอนับถือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อ่านกระทู้นี้ทีไร รุ้สึกอยากวิ่งไปร้านทองจัง

 

แต่วิ่งไปก็ต้องเบรกกลางทาง เพราะไม่มีทุนแว้ววว มีแต่ดอย

 

ลุ้นๆนิวไฮ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขออนุญาติเรียนถามคุณnext แล้วถ้าถึงวันที่อเมริกาล้มละลาย(แบบไม่มีเครดิตอะไรเหลือแล้วน่ะค่ะ) จะส่งผลต่อโลกนี้หรือไทยอย่างไรคะ เราน่าจะแย่ไปด้วยหรือเปล่า การมีเพื่อนจนลงน่าจะแย่กว่ามีเพื่อนรวยขึ้นมั๊ยคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไม่ได้เข้ามาอ่านนานแล้ว วันนี้เข้ามาปั๊บขึ้น19500แล้ว เมื่อเจอบทวิเคราะห์คุณNext เข้า ก็ให้นึกเสียดายที่ไม่เก็บเพิ่มตอน18750

อ่านแล้วทำให้หัวใจพองโต (เสียดายมากมีเหลือเพียงแท่งเดียว) คุณNext คิดว่าจะมีย่อที่18***อีกมั้ยค่ะ :D

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณและยินดีมากๆครับ :blush:

อ่านทุกหน้า สนุก+ความเป้นจริงในอนาคต ชอบค่ะ+1

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขออนุญาติเรียนถามคุณnext แล้วถ้าถึงวันที่อเมริกาล้มละลาย(แบบไม่มีเครดิตอะไรเหลือแล้วน่ะค่ะ) จะส่งผลต่อโลกนี้หรือไทยอย่างไรคะ เราน่าจะแย่ไปด้วยหรือเปล่า การมีเพื่อนจนลงน่าจะแย่กว่ามีเพื่อนรวยขึ้นมั๊ยคะ

 

อยากรู้เหมือนกันครับ .. ในใจก็แอบคิดอยู่ว่ามันอาจลุกลามเหมือนสมัยวิกฤตต้มยำกุ้ง (น่าจะรุนแรงกว่าด้วยซ้ำ)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลล่าห์อ่อน บาทแข็ง ถ้าเป็นงี้ไปเรื่อยๆ

ทองคำแท่งจะไปยังไงกันหนอ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

GoldenTicket.jpg

 

 

โอกาส"ทอง" จริงๆ ครั้งที่ 1 (The First Golden Opportunity)

 

ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่กอดทองเอาไว้ไม่ยอมปล่อยกับ "New All Time High" ของ ราคาทองคำในวันนี้ครับ

 

บทความที่ผมจะมาพูดคุยกับเพื่อนๆสมาชิกในวันนี้เข้ากับบรรยากาศ วันทองขึ้นพอดีครับเรามาดูกันว่า ........

 

เกิดอะไรขึ้น หลักจากนิกสันประกาศไม่อิงดอลล่าห์กับทองคำ ?

 

นาทีที่ ประธานธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ประกาศ ยกเลิกระบบ เบรตตัน ตอนนั้นทั้งโลก ยังมึนๆ กันอยู่

ประชาชนส่วนใหญ่ หาเช้ากินค่ำ ทำงานกันไป ไม่ได้สนใจหรือเข้าใจอย่างแท้จริงว่ามันคือ อะไรเหรอ?

 

ข่าาวการเมือง การเงิน มันไกลตัวครับ หนำซ้ำมันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ ไม่เกี่ยวกับเรา เค้าเหล่านี้พลาดครับ

พลาดโอกาสทอง (จริงๆ) ครั้งที่ 1 ไปอย่างน่าเสียดาย …......

 

.............................................

 

เมื่อโซ่ที่เคยพันธนาการ ดอลล่าห์ ไว้กับ ทองคำที่ ราคา 35$/oz ถูกตัดลง

 

:excl: ดอลล่าห์ เป็นอิสระ ไม่ต้องถูกจำกัด “การพิมพ์” ด้วยจำนวนทองคำที่อยู่ในคลัง อีกต่อไป

 

ในทางกลับกัน………

 

:excl: ทองคำ เอง ก็เป็นอิสระ ที่จะกำหนดราคาด้วยตัวของมันเอง ไม่ต้องถูกตรึงไว้ที่ 35$

 

ในช่วงแรกนั้นมีนักเศรษฐศาสตร์และกูรู บางคน สับสนและไม่เข้าใจ ออกมาวิเคราะห์ว่าราคาทองคำ

จะดิ่งเหวลงไปเหลือ 5-7$ โดยเค้าให้เหตุผลว่า

ทองคำเมื่อยกเลิกระบบเบรตตันซะแล้ว ก็ไม่ใช่เงิน (Money) อีกต่อไป

กลายเป็นแค่โลหะมีค่า หรือ สินค้าโภคภัณฑ์ อย่างนึงเท่านั้น ??????

 

นี่คือตัวอย่างของคนประเภทที่ คุ้นชินและผูกพันกับระบบธนบัตรกระดาษ มานานเกินไป

จนมึนไปคิดย้อนศรว่า

ดอลล่าห์หนุนทองคำอยู่ ตรงกันข้ามความจริงคือ ทองคำที่ถูกขังนอนอยู่ในคลังเฉยๆ ต่างหากที่หนุน ดอลล่าห์ !!!

 

ผลก็คือ ….. ดอลล่าห์ ต่างหากที่ไม่ใช่”เงินที่แท้จริง” อีกต่อไป

 

ดอลล่าห์เสื่อมค่าลงอย่างรวดเร็วจากปริมาณการพิมพ์ที่เพิ่มขึ้น และ ไม่มีทองคำหนุนหลัง

ในขณะที่ ทองคำกระชากตัวเอง จาก 35$ ไปเป็น 40$ ไปเป็น 55$, 70$

แต่ตามมาด้วยการขายทองทิ้ง ทำกำไร …….

 

ในขณะที่ บางคนที่รู้จริง !! ออกมาพูดว่า ราคาทองจะทะลุ 100$ ---------- ถูกมองว่าเพ้อเจ้อ

 

ในขณะที่ บางคนที่รู้จริงยิ่งกว่า ออกมาพูดว่า ราคาทองจะทะลุ 200$ 300$ ------ ถูกมองว่า เพี้ยนๆ เพ้อๆ

 

สุดท้ายมันก็เป็นจริง เมื่อทองคำพุ่งแตะระดับ 250$ เป็นครั้งแรก

 

คนที่เคยโดนสบประมาทว่าเพ้อเจ้อ

กลับกลายเป็น คนฉลาด คนที่เคยไปสบประมาทเค้า กลับกลายเป็นคนที่ “ดูเหมือนจะฉลาด”

และเมื่อราคาทองคำปรับมูลค่า (Revalue) ตัวเองขึ้นไปถึง 300$ นั่นก็ เพียงพอที่จะทำให้คนทั่วไป เริ่ม “เอ๊ะ”

 

เอ๊ะ ?? ................ มันเกิดอะไรขึ้น

 

เมื่อทุกคนเริ่มจะเอ๊ะ และหันมามอง ทองคำ จากที่ไม่เคยมองมาก่อน เริ่มสงสัยและอยากจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

 

:excl: เริ่มจากสนใจ

 

:excl: ตามด้วยเปิดใจรับข้อมูลความจริง

 

:excl: ถึงได้เข้าใจ ถึงการเสื่อมค่าลงทุกวันของเงินดอลล่าห์ที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์ ของตนเอง

 

 

ปากต่อปาก......

 

 

จากภาพคนที่เคยเทขายทองทิ้ง ทำกำไร กลับกลายเป็นการ ต่อแถวยาวเหยียด เพื่อซื้อทองคำ !!

หากทุกวันนี้คุณเคยเห็น การเข้าแถวยาวเหยียด เพื่อจะซื้อ IPHONE 4 หรือ

เข้าแถวรอคิวซื้อ โดนัท ร้าน Krispy Kreme ที่สยามพารากอน

บอกได้เลยว่าไม่ต่างจากการเข้าแถวรอซื้อเหรียญทองคำ ของคนอเมริกันในช่วงนั้น

(จะต่างก็ตรง “มูลค่า” ของสินค้าที่จะได้ ห่าง.........กันลิบ)

 

ทองคำกลายเป็น “Talk of the town” ไม่เฉพาะ นักลงทุนใน Wall Street แต่ไม่ว่าจะเพื่อนบ้าน

ญาติพี่น้อง ช่างเสริมสวย หรือแม้แต่เด็กเสริฟ ในร้านกาแฟ ทุกคนต่างพูดคุยกันว่า

วันนี้ “ทองคำราคาเท่าไหร่ ?”

 

 

ทองคำเข้าสู่ “Mania Phase” อย่างเต็มตัว

สุดท้ายทองคำ ทะยานฟ้า จากระดับ 35$ ไปถึงระดับ 850$ !!!!! หรือ 25 เท่าตัว ภายในระยะเวลาแค่ 10 ปี

ปี 1980 ปีที่ทั่วโลกต้องจารึก ……… โอกาสของทองคำ

 

 

 

โอกาสทอง(จริงๆ) ครั้งที่ 1 ราคาทองคำย้อนหลัง ปี 1975-1980

 

 

gold%20chart.jpg

 

 

จากกราฟ โอกาสทอง (จริงๆ) ครั้งแรก การเสื่อมศรัทธาในดอลล่าห์ ทำให้คนทั่วไปหันกลับมามอง

“เงินที่จริง” เหตุการณ์ในครั้งนี้ ดูยังไงก็เป็นโอกาสของทองคำ หากใครลงทุนทองคำไว้ราคาต่ำกว่า 100$

อำนาจการซื้อ (Purchasing Power) เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

คนที่เก็บเงินสดดอลล่าห์ติดตัวจบลงด้วยการเป็นเหยื่อ ของ “เงินเฟ้อ” (ในเรื่องเงินเฟ้อ จะว่ากันในรายละเอียดต่อไปครับ)

 

กลับมาที่ประเทศไทย เหตุการณ์ในครั้งนี้ ตรงกับช่วงปี พศ. 2513 ถึง 2523

ทำให้ราคาทองคำในบ้านเราจากราคาเฉลี่ยปี 2513 บาทละ 400 ขึ้นไปสูงถึงบาทละ 6000!! ภายใน 10 ปี

(ตัวเลขย้อนหลังจากสถิติของ ธนาคารแห่งประเทศไทย)

 

คนที่ถือครองทองคำในยุคนั้น สั้นๆ ง่ายๆ คำเดียว ……………….. “รวย”

แต่ สามสิบปีที่แล้ว ระบบสารสนเทศไม่ได้ทันสมัยเหมือนในตอนนี้ ไม่ต้องพูดถึงอินเตอร์เนท

มีแต่หนังสือพิมพ์ อย่างมากสุดโทรทัศน์ขาวดำก็หรูแล้ว ประชาชนในประเทศหาเช้ากินค่ำ เกษตรกรรมกันเป็นหลัก

การขึ้นของทองคำในครั้งนี้ รู้กันเฉพาะกลุ่ม ไม่ได้ ครึกโครม ใหญ่โต ไม่เฉพาะคนไทย

แต่ คนเอเชีย ยังถือครองทองคำกันน้อยมากครับ ในสมัยนั้น

 

 

........... โอกาสเลยผ่านมาแล้วก็ผ่านเลยไป

 

ทำไมต้อง 850$/oz ??

 

คำตอบคือ “ทองคำ” ปรับ มูลค่า (Value) ของตัวเองให้ สอดคล้องสมเหตุสมผลกับ ราคา (Price)

ที่ควรจะเป็นครับ ยกตัวอย่างเช่น

 

หากบ้านช่างทองของช่างทองเท่ง เคยเก็บทองไว้ 1 ก้อนแล้ว ออกตั๋วไป 1 ใบ

ในเมื่อเค้าไม่ซื่อ ออกตั๋วเกินความจริง ถึง 100 ใบ ในขณะที่มี ทอง แค่ 1 ก้อนเท่าเดิม

จะเอาตั๋วแค่ 1 ใบมาแลก 1 ก้อน เหมือนเดิมก็คงจะเป็นไปไม่ได้

 

ทอง 1 ก้อน “ราคา” (Price) ขาดตัวในตอนนี้จึงต้องกลายเป็น 100 ใบ !!

 

นี่คือเหตุผลที่ ทำไมทองคำขึ้นราคา

เพราะเมื่อเอาปริมาณทองคำ (Gold Supply) ที่มีอยู่ทั้งหมด เทียบกับ ปริมาณเงินดอลล่าห์ (Money Supply) ที่พิมพ์ออกมา

จากที่เคยใช้ตั๋วดอลล่าห์แค่ 35$ กลับต้องใช้ถึง 850$ เพื่อแลกกับทองคำ 1 ออนซ์ เท่าเดิม!!!

 

ไม่จำเป็นต้องจบ ดร. หรือเป็นกูรู อะไร แค่มีความรู้ ทางเศรษฐศาสตร์และการเงินขั้นพื้นฐาน (Basic Economy) ก็เข้าใจและคาดการณ์ราคาทองคำที่จะต้องขึ้นได้

 

เหตุการณ์ ยังไม่จบนะครับ หลังจากนั้นมันไม่ได้ Happy Ending เมื่อมีคนได้ประโยชน์ ก็มีคนเสียประโยชน์อย่างมหาศาล

การแก้แค้นและเอาคืน จึงเกิดขึ้น เมื่อโลกเราได้เปลี่ยนระบบการเงินมาเป็นระบบกระดาษเต็มรูปแบบ (Fiat Currency)

อะไรจะเกิดขึ้น???

ในตอนหน้าจะเป็นการเอาคืนจากฝั่งของ พวกที่สนับสนุนระบบดอลล่าห์ นำทีมมาโดย ธนาคารกลางจากทั่วโลก โปรดติดตาม ........

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ชอบคุณค่ะคุณ Nexttonothing กำลังติดตามอย่างต่อเนื่องอยู่ค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...