ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
จูกัดเหลี่ยง

เตรียมทัพ จับทอง พร้อมลงสนาม (ฉบับนักค้าทอง)

โพสต์แนะนำ

มุมมองทองปี 2554

สวัสดีครับสมาชิก Thaigold ทุกท่าน อาจจะไม่คุ้นชื่อกันเท่าไหรนะครับ เนื่องจากเป็นสมาชิกใหม่ เห็นพี่ ๆ เพื่อน ๆ และน้อง ๆ ใน Thaigold แบ่งปันความรู้ และมุมมอง เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ แล้วก็อยากที่จะร่วมแชร์บ้าง เลยขออนุญาติที่จะร่วมแสดงความคิดผ่านกระทู้ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ หวังว่ารุ่นพี่ทุกท่านจะไม่รังเกียจนะครับ

สำหรับเรื่องการวิเคราะห์ราคาทองคำ โดยส่วนตัวนั้นสนใจทั้ง 2 ศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางด้านพื้นฐาน และปัจจัยทางด้านเทคนิค จึงจะขอนำเสนอทั้งสองรูปแบบ ถ้าสมาชิกท่านใดมีความเห็นแตกต่างหรือเพิ่มเติมส่วนที่ตก ๆ ขาด ๆ รบกวนที่จะปรับปรุง แก้ไขให้ครบถ้วนสมบูรณ์ด้วยนะครับ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

ในกระทู้แรกอยากจะเล่าความกว้าง ๆ ด้วยภูมิปัญญาอันน้อยนิด ถึงทิศทางราคาทองคำในช่วงปี 2554 จากปัจจัยทางพื้นฐาน ซึ่งหลายท่านอาจจะเคยชินกับการลงทุนในกรอบสั้น ๆ จนขาดเวลาที่จะถอยกลับมามองภาพใหญ่และอาจจะทำให้พลาดช่วงตอนสำคัญไปได้

โดยส่วนตัวมุมมองราคาทองคำในกรอบปีนี้จะยังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักลงทุน รวมถึงสร้างความท้าทายแก่บรรดากรูรูในการคาดเดาราคาทองอย่างแน่นอน แต่ส่วนตัวยังเชื่อว่าในกรอบ 3-6 เดือนราคายังคงอยู่ในกรอบแนวโน้มขาขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งมีแนวความคิดที่สนับสนุนดังนี้ครับ

1. การปรับเพิ่มขึ้นของปริมาณเงิน (สภาพคล่องในระบบ) ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังจากที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐ ทำให้เกิดการผ่อนคลายเชิงนโยบายทั้งการเงินและการคลังอย่างมหาศาล โดยเฉพาะการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้นและส่งผลต่อมูลค่าของสกุลเงิน และแนวความคิดในการเสริมสภาพคล่องยังคงไม่หมดไป ในช่วงปีที่ผ่านมาทุกท่านคงเคยได้ยินคำว่า QE2 (Quantitative easing Package 2) เป็นการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพื่อที่จะลดระดับของอัตราผลตอบแทน ที่ใช้เป็นอัตราผลตอบแทนอ้างอิงในตลาดในลงต่ำลงมา ในวงเงินกว่า 6 แสนล้านดอลล่าร์ โดยเป็นการทยอยซื้อในช่วงเวลาประมาณ 6-8 เดือน สิ้นสุดเดือน 6 ปี 2554 ซึ่งก่อนหน้านั้นธนาคารกลางสหรัฐได้ดำเนินการเข้าซื้อใน QE1 แล้วกว่า 1.7 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ และยังมีการพูดกันถึง QE3 ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงครึ่งแรกของปียังคงไม่เป็นที่น่าพอใจ ทำให้แนวโน้มของปริมาณดอลล่าร์ในระบบยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะผลต่อราคาทองคำอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยการอ่อนค่าลงของดอลล่าร์จะทำให้ราคาทองคำที่กำหนดเป็นสกุลเงินดอลล่าร์ปรับเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณเองก็ส่งผลต่อราคาสินทรัพย์โดยร่วมเช่นกัน

2. แนวโน้มเพิ่มเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากราคาสินค้าเกษตรและราคาพลังงานเป็นสำคัญ โดยราคาน้ำมันในตลาดโลกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาขยับเพิ่มขึ้นจากราคาเปิดในปี 2552 ประมาณ 43 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับปัจจุบันประมาณ 90 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล และยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอนาคต แม้อัตราการใช้น้ำมันจะชะลอลงจากกำลังการใช้ของประเทศในฝั่งตะวันตกอย่างสหรัฐ และยุโรปเนื่องจากกำลังเจอกับวิกฤติเศรษฐกิจ แต่ในฝั่งตะวันออกกลับเติบโตอย่างรวมเร็ว โดยเฉพาะจีน อินเดีย และรัสเซีย ที่ระดับรายได้ของชนชั้นกลางมีการปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นย่อมส่งผลให้มีการบริโภคเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และส่งผลต่อความต้องการในการใช้พลังงาน ขณะอัตราการผลิตยังมีแนวโน้มคงที่แม้หลายประเทศจะเริ่มมีการส่งออกน้ำมันเพิ่มมากขึ้นก็ตาม แต่ส่วนที่น่ากังวลจริง ๆ น่าจะมาจากเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นจากราคาสินค้าเกษตร หลังจากเกิดภาวะโลกร้อนทำให้ความถี่ในการเกิดภัยธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและส่งผลต่อผลผลิตทางการเกษตร และส่งให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่ความต้องการอาหารเองก็ปรับเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากจากความต้องการของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น อย่างจีนและอินเดีย ทำให้แนวโน้มเงินเฟ้อที่เกิดจากราคาอาหารเป็นอีกประเด็นที่น่าจับตา แต่คำถามคือเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นแล้วเกี่ยวกับทองคำอย่างไร ซึ่งมุมนี้อยากให้มองเป็น 2 ประเด็นครับ อย่างแรกถ้าเราใช้วิธีทางสถิติย้อนหลังไป 30-40 ปี จะเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อโดยรวมกับราคาทองคำมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ประกอบกับความเชื่อของนักลงทุนในตลาดที่คิดว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ จึงทำให้เวลาที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญก็จะทำให้นักลงทุนสะสมทองคำเพิ่มเติมและส่งผลต่อราคาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ประเด็นที่สองเมื่อเวลาเราพูดถึงเงิน เราก็จะนึกถึงธนบัตร เงินดอลล่าร์ เงินบาท เงินยูโร ซึ่งวิธีในการคิดอัตราเงินเฟ้ออย่างง่ายคือดูที่ตัว CPI Index หรือดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นการนำเอาการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าในตลาดมาเทียบกับปีฐานและคิดการเปลี่ยนแปลงเป็นเปอร์เซ็นและถ่วงน้ำหนักสินค้าแต่ละหมวด หมายความว่าอำนาจซื้อของเงินลดลงถ้าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นนั้นเอง ดังนั้นเมื่อแนวโน้มอำนาจซื้อของเงินมีความเป็นไปได้ที่จะลดลงในอนาคต นักลงทุนอาจจะเปลี่ยนการถือครองสกุลเงินไปเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าด้วยตัวของมันเองอย่างทองคำ และส่งผลต่อราคาเช่นกัน

3. ความต้องการทองคำในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งในประเด็นนี้ก็ต้องแบ่งออกเป็น 3 ส่วนเช่นกัน อย่างแรกในภาคธนาคารกลางเริ่มมีการกลับมาสะสมทองคำเพิ่มขึ้น โดยถ้าเรามองย้อนหลังไป 10-20 ปีก่อนหน้าจะเห็นว่าภาคธนาคารกลางมีการขายทองคำออกอย่างต่อเนื่อง ขณะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านกลับมีการลดลงของการขายทองออกอย่างเห็นได้ชัด โดยมีหลายประเทศที่กลับมีการสะสมเพิ่มอย่างเห็นได้ชัด อย่างจีน อินเดีย รัสเซีย ศรีลังกา เป็นต้น ซึ่งก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด เนื่องจากประเทศเหล่านี้มีเงินทุนสำรองเพิ่มขึ้น การรักษาระดับความสมดุลของเงินทุนสำรองถือเป็นเรื่องที่จำเป็น เนื่องจากถ้าเราย้อนมองไปในช่วงเกิดวิกฤติสหรัฐ ดอลล่าร์ปรับอ่อนค่าลงอย่างมากดังนั้นประเทศที่มีการสำรองเป็นสกุลเงินดอลล่าร์สูง ๆ จะได้รับผลกระทบจากการอ่อนค่าอย่างมาก ดังนั้นแนวความคิดในการปรับพอร์ตเงินสำรองจึงเป็นที่พูดถึงกันอย่างแพร่หลาย ประเด็นที่สอง การเพิ่มขึ้นของราคาทองคำในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีค่าเฉลี่ยผลตอบแทนที่สูงมาก โดยเมื่อเทียบราคาเปิดในช่วงต้นปี 2550 ที่ระดับ 636 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ กับราคาปัจจุบันแถว 1,360 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ หรือ 114% ในช่วงเวลาเพียง 4 ปี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีผู้สนใจเข้ามาลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้น โดยเงินที่ไหลเข้ามาสู่ตลาดทองคำยิ่งส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยสัดส่วนความต้องการทองคำเพื่อการลงทุนในตลาดโลกในช่วงปี 2550 อยู่ที่ประมาณ 20% เมื่อเทียบกับความต้องการใช้ทองคำทั้งหมด แต่กลับเพิ่มขึ้นมาในช่วงปี 2552 อยู่ที่ประมาณ 40% สะท้อนให้เห็นได้ชัดความพฤติกรรรมของผู้ลงทุนมีการเปลี่ยนแปลงไป และปัจจัยสุดท้ายมาจากความต้องการทองคำจากการใช้จริงทั้งในด้านของการใช้เป็นเครื่องประดับ ซึ่งการเพิ่มขึ้นมาจากกลุ่มประเทศเกิดใหม่อย่างจีนและอินเดียเป็นสำคัญ เนื่องจากชนชั้นกลางมีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้นประกอบกับวัฒนธรรมของสองประเทศนี้มีความผูกผันกับทองคำเป็นอย่างมาก ส่งผลให้การซื้อทองคำเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับและของขวัญจะเพิ่มขึ้นส่วนนี้ นอกจากนั้นการกลับมาของอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิคที่ชะลอตัวในช่วงวิกฤติจะทำให้การใช้ทองคำที่เป็นส่วนประกอบของพวก semi-conductor มีเพิ่มมากขึ้น

4. ความเสี่ยงในตลาดการลงทุน โดยเฉพาะประเด็นปัญหาหนี้ในยุโรปที่เชื่อว่าจะยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาดการลงทุน และสกุลเงินยูโรต่อเนื่องไป เนื่องจากปัญญานี้ค่อนข้างลึกอยู่ทีเดียว เนื่องจากเป็นปัญหาในเชิงโครงสร้าง การใช้เวลาในการแก้ไขอาจจะกินเวลานาน 2-3 ปี ประกอบกับประเทศในกลุ่มยูโรโซนนั้นขาดเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาโดยตรง ซึ่งโดยส่วนใหญ่เวลาที่ประเทศประสบปัญหาหนี้ภาครัฐ วิธีที่ง่ายที่สุดในการแก้ปัญหาคือการลดค่าเงินตัวเองลง แต่ 16 ประเทศในกลุ่มยูโรโซนไม่สามารถทำได้ เนื่องจากใช้สกุลเงินร่วมกัน ทำให้ไม่สามารถกำหนดนโยบายทางการเงินเองได้ ประกอบกับหลายประเทศอย่างกรีซและโปรตุเกส รวมถึงไอร์แลนด์ยังคงมีระดับการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับต่ำ แต่ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มได้อย่างเต็มที่เนื่องจากต้องตัดลดรายจ่ายเพื่อควบคุมระดับหนี้ ในประเด็นนี้เองอาจจะทำให้เศรษฐกิจมีปัญหาอย่างหนักและกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ในที่สุด

ทำให้โดยรวมแล้วแนวโน้มของราคาทองคำในระยะสั้นยังคงได้รับผลดีจากปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวมา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปาดก่อนเลยครับ ดีใจมากๆครับที่มีคนใจดีมาถ่ายทอดความรู้อีกท่าน รอติดตามครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะ !Hi

 

ดีใจค่ะ ที่จะได้มุมมองแบบพื้นฐานและเทคนิคเพิ่มอีกกระทู้นึง จะติดตามค่ะ

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะ ดีมากเลย เพราะข้อมูลทุกอย่าง เป็นประโยชน์อย่างมาก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากค่ะท่านจูกัดเหลี่ยง (ท่านจอมยุทธ..กระบี่อยู่ที่ใจ ) :wub: :wub: :wub:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยินดีและขอขอบคุณลว่งหน้ากร๊าบบ ท่านจูกัดเหลียง ที่ออกมาให้ความรู้ และแนะนำในทั้ง2แนวทาง ขอบคุณมากๆกร๊าบบบ (ผู้ที่รู้จักธรรมชาติ และสามารถ ใช้ธรรมชาติได้)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอต้อนรับสู่บ้านไทยโกล์ดค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ B)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:wub: :wub: แวะมาต้อนรับด้วยคน ขอบคุณมากนะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...