ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
จูกัดเหลี่ยง

เตรียมทัพ จับทอง พร้อมลงสนาม (ฉบับนักค้าทอง)

โพสต์แนะนำ

ติดตามความคืบหน้าการประชุม EU ประเด็นการเพิ่มวงเงินการปล่อยกู้ของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) หรือ European Financial Stability Facility

ซึ่งเป็นกองทุนที่ปล่อยกู้ให้กับประเทศสมาชิกในยูโรโซนเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน

สรุปผลการประชุม : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด โดยวงเงินที่จะใช้ในการปล่องกู้ยังคงเดิมที่ระดับ 2.5 แสนล้านยูโร (ระดับความสามารถในการปล่อยกู้ที่แท้จริง 4.4 แสนล้านยูโร)เนื่องจากประเทศสมาชิกยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มวงเงินเนื่องจากการประมูลพันธบัตรครั้งล่าสุดของโปรตุเกส และสเปนเป็นไปด้วยดี

ผลกระทบ :

ระยะสั้น : ทำให้การคาดการณ์ปัญหาหนี้สินยุโรปยังอยู่ในเชิงลบเพราะระดับการปล่อยกู้ในปัจจุบันคาดว่าจะไม่เพียงพอถ้าโปรตุเกสและสเปนมีการเข้าขอกู้เงิน และจะส่งผลให้ค่าพรีเมียมของพันธบัตรเพิ่มขึ้นอีกครั้ง (ส่งผลดีต่อราคาทองคำ)

การติดตาม : คาดว่าผลที่แน่นอนน่าจะนำไปคุยในการประชุม EU ในช่วงวันที่ 25-26 มีนาคมนี้

 

ขอบคุณท่านอาจารย์ขงเบ้ง !thk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โดยส่วนตัวคิดว่าในกรอบ 3-6 เดือน ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ครับ หลังจากนั้นต้องคงต้องดูลมฟ้าอากาศอีกที

เหตุผลสนับสนุน

- ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าประเทศสำคัญมีประสบปัญหาหนี้ในกลุ่มยูโรโซน จะต้องมีการ Refinance ในวงเงินที่มากพอสมควร

- ผลกระทบของ QE2 ที่จะไปสิ้นสุดประมาณเดือน 6 (สิ้นไตรมาส 2)

- อัตราเร่งของเงินเฟ้อในช่วงต้นปี

สำหรับการลงทุนทองแท่ง กลยุทธ์การซื้อแล้วถือยาว ผมว่ายังไม่เหมาะตอนนี้ครับ เนื่องจากราคาทองไม่ได้ปรับตัวขึ้นตามพื้นฐานที่สมเหตุสมผล

ถ้าทองคำที่มีอยู่สะสมมาในช่วงต้นทุนต่ำ ๆ อาจจะทยอยรับรู้กำไรบางส่วน ส่วนการลงทุนใหม่เน้นการเล่นในกรอบสั้น ๆ

เนื่องจากผมมองว่า "ในช่วงที่ผ่านมาราคาใช้เวลาปรับตัวขึ้น 3-4 ปี แต่ตอนลงอาจจะใช้เวลาเพียง 3-4 เดือน"

 

ปล. ในการลงทุนสิ่งสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือการกำหนดนโยบายในการลงทุน อย่างการประมาณการณ์กำไรที่ต้องการ หรือจุดขาดทุนที่รับได้ ถ้าทำได้อย่างนี้ถึงเรียกได้ว่าเป็นนักลงทุนมืออาชีพ ^^ ขอให้โชคดีนะครับ

ขอบคุณค่ะท่านจูกัดเหลียง สำหรับคำแนะนำในครั้งนี้

ข้าน้อยขอคารวะไป 1จอก +1ค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประจำวันที่ 21 ม.ค. 54

21154.jpg

สรุป : ราคาหลุดผ่านกรอบสามเหลี่ยมล่าง 1,365 ทำให้กรอบแนวโน้มราคายังอยู่ในขาลง ช่วงสั้น Rebound ในกรอบแคบ ใกล้ 1,350-1,352 ก่อนปรับตัวลงอีกครั้ง กรอบล่าง 1,330

จุดเปลี่ยนสำคัญ ถ้าราคาสามารถขึ้นเหนือ 1,365 ราคาจะกลับสู่ขาขึ้นย่อย และเบรคเทรนขาลง

เหตุผลสนันสนุน :

- กราฟรายสี่ชั่วโมง RSI ยืนต่ำกว่าระดับ 30 จังหวะที่ราคาลงจุดต่ำสุด 1,343 มีแรงซื้อกลับค่อนข้างหนาแน่น

- ราคาหลุดแนวรับหลัก 1,365 และหลุดฐานเก่า 1,352 จึงทำให้น่าจะลงไปทดสอบฐานถัดไป 1,330

แนวต้าน 1,353, 1,365

แนวรับ 1,340, 1,330

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

+1คร้าาาาาาา ท่านจูกัดเหลียง รอ 1330ด้วยค่ะ ขอบคุณนะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:wub: :wub: เป็นคำแนะนำในการลงทุนที่ดี และให้ประโยชน์โดยตรง ขอบคุณที่มีคำแนะนำชี้แนะว่าควรหรือมิควรในการคิดจะลงสนาม !thk !thk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขออภัยนะครับ จริงมีเรื่อง Update เยอะมาก แต่มีเวลาเข้ามาอธิบายค่อนข้างน้อย ก็ขออนุญาติที่จะค่อย ๆ เล่าละกันนะครับ

วันนี้ขอพูดเรื่องจีนกันหน่อยครับ หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วส่งผลต่อตลาดการลงทุนรวมถึงราคาทองได้รับผลจากความกังวลว่าจีนอาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยหลังเศรษฐกิจเติบโตในระดับสูง และเจอแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อ

chinainflationandinterestrate2010.jpg

จากการเติบโตของเงินเฟ้อในช่วงปี 2010 ที่ออกมาสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางจีนที่ระดับ 3% โดยค่าเฉลี่ยทั้งปีของอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 3.3% จะเห็นว่าธนาคารกลางจีนมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นในช่วงท้ายของปีในเดือน ตุลาคมและธันวาคม เนื่องจากเงินเฟ้อเริ่มเร่งตัวในช่วงครึ่งหลังของปี นอกจากนี้จีนยังชะลอเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มเพดานสำรองธนาคารอีก 7 ครั้ง เพื่อที่จะชะลอการขยายตัวของปริมาณเงินในระบบ (M2)โดยทั้งปี 2011 จีนตั้งเป้าปริมาณเงินในระบบของจีนในการปรับขึ้นไว้ 16% ซึ่งแน่นอนว่าการกำหนดกรอบในรูปแบบนี้จะทำให้มีความเป็นไปถึงมาตรการอื่น

 

แนวทางในอนาคต : โดยส่วนตัวเชื่อว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนคงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับนี้จะเลี่ยงแรงกดดันจากเงินเฟ้อได้ยาก ยิ่งการกำหนดกรอบการเพิ่มของปริมาณเงินด้วยแล้วยิ่งเป็นการทำให้ในระดับของการปฎิบัติจำเป็นต้องมี action เมื่อมีการเร่งตัว เนื่องจากนโยบายเหล่านี้จะไม่ส่งผลทันทีแต่จะมีผลหลังจากออกนโยบายระยะหนึ่ง ดังนั้นถ้าจะควบคุมเงินเฟ้อหรือปริมาณเงินอาจจะต้องมีการออกนโยบายล่วงหน้าเพื่อชะลอไว้ก่อน ทำให้คาดว่าในช่วง 3 เดือนแรกของปีน่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 1 ครั้ง ขณะในช่วง 6 เดือนแรกน่าจะมีการปรับประมาณ 2 ครั้ง (ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ)

 

นัยสำคัญ : เป็นการแสดงให้เห็นว่าจีนมีการเปลี่ยนท่าทีจากการใช้นโยบายแบบผ่อนคลายเป็นแบบระมัดระวังมากขึ้น และจะมีต่อเนื่องไปเพื่อลดลงแรงกดดันจากเงินเฟ้อในระบบลง

 

ผลกระทบต่อราคาทองคำ : เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการกระทบราคาทองคำเป็นระยะเนื่องจากการชะลอเศรษฐกิจนั้นเป็นการส่งผลต่อสภาพคล่องที่ส่งเสริมราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยตรง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...