moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 19, 2010 FW: Hotel KEY CARDS from Metropolitan Police Service ( worth reading !!!! ) Always take a small magnet on your holiday, they come in handy at the end of it. Thought you all needed to know this. This is pretty good info. Never even thought about key cards containing anything other than an access code for the room! HOTEL KEY CARDS Ever wonder what is on your magnetic key card? Answer: a. Customer's name b. Customer's partial home address c. Hotel room number d. Check-in date and out dates e. Customer's credit card number and expiration date! When you turn them in to the front desk your personal information is there for any employee to access by simply scanning the card in the hotel scanner.. An employee can take a hand full of cards home and using a scanning device, access the information onto a laptop computer and go shopping at your expense. Simply put, hotels do not erase the information on these cards until an employee reissues the card to the next hotel guest. At that time, the new guest's information is electronically 'overwritten' on the card and the previous guest's information is erased in the overwriting process. But until the card is rewritten for the next guest, it usually is kept in a drawer at the front desk with YOUR INFORMATION ON IT! The bottom line is: Keep the cards, take them home with you, or destroy them. NEVER leave them behind in the room or room wastebasket, and NEVER turn them into the front desk when you check out of a room. They will not charge you for the card (it's illegal) and you'll be sure you are not leaving a lot of valuable personal information on it that could be easily lifted off with any simple scanning device card reader. For the same reason, if you arrive at the airport and discover you still have the card key in your pocket, do not toss it in an airport trash basket. Take it home and destroy it by cutting it up, especially through the electronic information strip! If you have a small magnet, pass it across the magnetic strip several times. Then try it in the door, it will not work. It erases everything on the card. Information courtesy of: Metropolitan Police Service. PLEASE FORWARD to friends and family . อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
MOR LEK 2,835 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 19, 2010 FW: Hotel KEY CARDS from Metropolitan Police Service ( worth reading !!!! ) Always take a small magnet on your holiday, they come in handy at the end of it. Thought you all needed to know this. This is pretty good info. Never even thought about key cards containing anything other than an access code for the room! HOTEL KEY CARDS Ever wonder what is on your magnetic key card? Answer: a. Customer's name b. Customer's partial home address c. Hotel room number d. Check-in date and out dates e. Customer's credit card number and expiration date! When you turn them in to the front desk your personal information is there for any employee to access by simply scanning the card in the hotel scanner.. An employee can take a hand full of cards home and using a scanning device, access the information onto a laptop computer and go shopping at your expense. Simply put, hotels do not erase the information on these cards until an employee reissues the card to the next hotel guest. At that time, the new guest's information is electronically 'overwritten' on the card and the previous guest's information is erased in the overwriting process. But until the card is rewritten for the next guest, it usually is kept in a drawer at the front desk with YOUR INFORMATION ON IT! The bottom line is: Keep the cards, take them home with you, or destroy them. NEVER leave them behind in the room or room wastebasket, and NEVER turn them into the front desk when you check out of a room. They will not charge you for the card (it's illegal) and you'll be sure you are not leaving a lot of valuable personal information on it that could be easily lifted off with any simple scanning device card reader. For the same reason, if you arrive at the airport and discover you still have the card key in your pocket, do not toss it in an airport trash basket. Take it home and destroy it by cutting it up, especially through the electronic information strip! If you have a small magnet, pass it across the magnetic strip several times. Then try it in the door, it will not work. It erases everything on the card. Information courtesy of: Metropolitan Police Service. PLEASE FORWARD to friends and family . ตามปกติเราต้องคืนโรงแรมตอนเช็คเอ๊าท์ไม่ใช่เหรอครับ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 21, 2010 The One....ความเป็นหนึ่งคืออะไรกันแน่ มีเรื่องดีๆมาให้อ่าน อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 21, 2010 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
MOR LEK 2,835 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 22, 2010 (มีการแก้ไข) เอามาฝากบ้านนี้บ้าง ถูกแก้ไข กรกฎาคม 23, 2010 โดย MOR LEK 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 23, 2010 (มีการแก้ไข) สุนัขดีกว่าเพื่อน..... หากมีสักคนเดินเป็นเพื่อน จะช่วยให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น แต่จะให้ดีกว่านั้น ควรนำสุนัขตัวโปรดของคุณไปเดินออกกำลังด้วยกัน ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งมิสซูรี ในสหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้ที่จูงสุนัขไปเดินออกกำลังกายด้วย ช่วยให้เดินเร็ว 28 เปอร์เซ็นต์ หรือเดินเร็วขึ้นชั่วโมงละประมาณครึ่งไมล์ แต่หากมีคนเดินเป็นเพื่อน จะช่วยให้เดินเร็วขึ้นแค่ 4 เปอร์เซ็นต์ นักวิจัยเชื่อว่า เป็นเพราะสุนัขกระตือรือร้นในการเดินเล่นตลอดเวลา จึงช่วยกระตุ้นให้เจ้าของเดินเร็วตามไปด้วย ในขณะที่การเดินไปกับเพื่อน บางครั้งกลายเป็นว่า เพื่อนชวนเลิกออกกำลังเสียอย่างนั้น บางเรื่องสัตว์เลี้ยงแสนรักก็ทำได้ดีกว่าคน ลิฟ ไทเลอร์ และ เจสสิกา อัลบา จูเลีย โรเบิร์ต และ ราเชล บิลสัน ที่มา : http://www.praew.com ถูกแก้ไข กรกฎาคม 23, 2010 โดย moddang.. อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 24, 2010 " 5 อย่าเมื่อคุณจะนอน " * ที่ 1 คือ อย่านอนหลับไปพร้อมๆ กับนาฬิกาข้อมือ ก็เพราะขณะที่นาฬิกาเจ้ากรรมทำงานไปเรื่อยๆ นั้นเจ้านาฬิกาไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ล้วนปล่อยพลังงานทั้งสิ้น เชื่อมั้ยว่าการใส่นาฬิกาข้อมือนอน จะมีผล ต่อสุขภาพระยะยาวเลย * อย่าที่ 2 นี่ สำหรับพวกชอบคุยโทรศัพท์มือถือจนหลับโดยเฉพาะเลย ไม่ควรนอนหลับไปพร้อมๆ กับโทรศัพท์เท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงการวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ๆ ตัวด้วย บางคนที่ชอบใช้มือถือเป็นนาฬิกาปลุกยามเช้า กรุณาเก็บมือถือของท่านไว้ให้ ใกลตัวที่สุดเมื่อจะนอนซะเถอะ ไปหาซื้อนาฬิกาปลุกถูกๆ ดีๆ เก๋ๆ มาใช้ดีกว่า เพราะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า โทรศัพท์มือถือเครื่องจิ๋วเนี่ย จะปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมา ขณะเปิดเครื่องไว้ และเจ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านี้ มีผลกับระบบประสาทซะด้วยส ิ เพราะฉะนั้น ตอนนอนก็ปิดโทรศัพท์มือถือซะดีกว่า พอปิดโทรศัพท์มือถือเรียบร้อยแล้ว จะวางไว้ ใกล้หรือไกลก็หายห่วง * อย่าที่ 3 ง่ายๆ สั้นๆ คือ อย่าหลับพร้อมๆ กับเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเหนื่อยอ่อนเมื่อยล้าขนาดไหน ต้องล้างเครื่องสำอางออกให้หมด เพราะการหลับทั้งๆ ที่เครื่องสำอางยังคาอยู่ที่ผิวหน้านั้น จะก่อให้เกิดปัญหาด้านผิวพรรณระยะยาว กลางคืนคือ ช่วงเวลาที่ผิวพรรณจะได้พักผ่อนบ้างนะค่ะ * อย่าที่ 4 (สำหรับสาวๆ เท่านั้น) คือ อย่านอนหลับทั้งๆ ที่ยังใส่ยกทรง นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ค้นพบว่าการใส่ยกทรงนานเกิน 12 ชั่วโมง จะเป็นการเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทรวงอกได้ ฉะนั้น ก็อย่าใส่ยกทรงนอน เลย ไม่ต้องกลัวเสียทรง ไม่ต้องกลัวอกแบะห่วงชีวิตไว้ก่อนดีกว่า * อย่าที่ 5 อันนี้เหมาะกับทุกเพศเลยนะ “อย่านอนกับสามีหรือภรรยาของคนอื่น” เพราะคุณอาจจะไม่ได้ตื่นอีกเลย … 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 26, 2010 กระเป๋ากันง่วง..... อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
MOR LEK 2,835 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 26, 2010 " 5 อย่าเมื่อคุณจะนอน " * ที่ 1 คือ อย่านอนหลับไปพร้อมๆ กับนาฬิกาข้อมือ ก็เพราะขณะที่นาฬิกาเจ้ากรรมทำงานไปเรื่อยๆ นั้นเจ้านาฬิกาไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ล้วนปล่อยพลังงานทั้งสิ้น เชื่อมั้ยว่าการใส่นาฬิกาข้อมือนอน จะมีผล ต่อสุขภาพระยะยาวเลย * อย่าที่ 2 นี่ สำหรับพวกชอบคุยโทรศัพท์มือถือจนหลับโดยเฉพาะเลย ไม่ควรนอนหลับไปพร้อมๆ กับโทรศัพท์เท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงการวางโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ๆ ตัวด้วย บางคนที่ชอบใช้มือถือเป็นนาฬิกาปลุกยามเช้า กรุณาเก็บมือถือของท่านไว้ให้ ใกลตัวที่สุดเมื่อจะนอนซะเถอะ ไปหาซื้อนาฬิกาปลุกถูกๆ ดีๆ เก๋ๆ มาใช้ดีกว่า เพราะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า โทรศัพท์มือถือเครื่องจิ๋วเนี่ย จะปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมา ขณะเปิดเครื่องไว้ และเจ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเหล่านี้ มีผลกับระบบประสาทซะด้วยส ิ เพราะฉะนั้น ตอนนอนก็ปิดโทรศัพท์มือถือซะดีกว่า พอปิดโทรศัพท์มือถือเรียบร้อยแล้ว จะวางไว้ ใกล้หรือไกลก็หายห่วง * อย่าที่ 3 ง่ายๆ สั้นๆ คือ อย่าหลับพร้อมๆ กับเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเหนื่อยอ่อนเมื่อยล้าขนาดไหน ต้องล้างเครื่องสำอางออกให้หมด เพราะการหลับทั้งๆ ที่เครื่องสำอางยังคาอยู่ที่ผิวหน้านั้น จะก่อให้เกิดปัญหาด้านผิวพรรณระยะยาว กลางคืนคือ ช่วงเวลาที่ผิวพรรณจะได้พักผ่อนบ้างนะค่ะ * อย่าที่ 4 (สำหรับสาวๆ เท่านั้น) คือ อย่านอนหลับทั้งๆ ที่ยังใส่ยกทรง นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน ค้นพบว่าการใส่ยกทรงนานเกิน 12 ชั่วโมง จะเป็นการเพิ่มอัตราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทรวงอกได้ ฉะนั้น ก็อย่าใส่ยกทรงนอน เลย ไม่ต้องกลัวเสียทรง ไม่ต้องกลัวอกแบะห่วงชีวิตไว้ก่อนดีกว่า * อย่าที่ 5 อันนี้เหมาะกับทุกเพศเลยนะ “อย่านอนกับสามีหรือภรรยาของคนอื่น” เพราะคุณอาจจะไม่ได้ตื่นอีกเลย … สงสัยครับ ข้อ1 ถ้านาฬิกาของผมเป็นประเภทไขลานหรืออัตโนมัติ ไม่ได้ใส่ถ่าน จะใส่นอนได้หรือป่าว อิอิ ข้อ4 ผู้ชายใส่กางเกงในนอนได้ป่าว (แหะๆที่ใส่ไม่ได้กลัวเสียทรงไข่แบะดอกนะครับ มันเป็นความเคยชินอ่ะ) อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 26, 2010 คุณ mor lek คะ ข้อ 1. ตัวเองอ่านแล้วต้องไปค้นค่ะ มีข้อมูลมาแค่นั้น ไว้จะลองหาคำตอบให้นะคะ ส่วนข้อ 4 ..รอให้คุณหมอแถวๆนี้ตอบก็แล้วกัน ( เขาบอกผู้หญิงค่ะ ) ไม่ได้บอกผู้ชาย คำตอบคิดว่าทุกคนรู้ค่ะ ว่าอะไรควร ไม่ควร แค่ไหน เพียงไร อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
Gtothong 1 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 26, 2010 ขอร่วมแจมเล็กครับ เห็นว่ามีประโยชน์ดี :D หัวจดเท้ารักษาเองได้ก่อนไปหาหมอ ๑. ไขมันในเลือดสูง แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัว ตับพังก็หากระเทียมสดมากินสักวันละ ๑๐ กลีบกับกินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว ๒. ปวดหัว ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง (แมกนีเซียม) กินวันละ ๕ ขีดและกินปลาทูอีกวันละ ๒ ตัว (น้ำมันปลาลดการอักเสบได้) หรือจะชงโกโก้กินหน่อยก็ช่วยได้ค่ะ ๓. เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้นและกินกระเทียม, หอม, พริกให้มากเข้าไว้ ๔. ภูมิแพ้ แค่กินฝรั่งวันละ ๕ ชิ้นกับเมล็ดฟักทองวันละ ๑ กำมือ (สังกะสี) ๕. แพ้ฝุ่นละออง ไรฝุ่น หาโยเกิร์ตแบบรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่หวานจัดมากิน ๖.โรคหืดหอบ ไอเรื้อรัง กินต้มยำไก่, กินหัวหอมใหญ่, หอมแดง, ต้นหอมและเอาหอมซุกไว้ใต้หมอน ๗.นอนไม่หลับ ตักน้ำผึ้งกินก่อนนอนสักวันละ ๒ ช้อนโต๊ะ ถ้าหาน้ำผึ้งไม่ได้ใช้น้ำตาลทราย ๒ ช้อนโต๊ะแทน ถ้าอยากให้หลับสบายเพิ่มเติมขี้เหล็กและมะรุมเข้าไปหน่อย ๘. ไขข้ออักเสบ หาปลาเนื้อมันกินวันละ ๒ ขีด เช่นปลาทู, ปลาสวาย, ปลาแซลม่อน, ปลาซาร์ดีน, ปลาทูน่าหรือแม้แต่ปลากระป๋อง ๙. กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย ให้กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ ๓ มื้อ หรือน้ำแครนเบอรี่ของฝรั่งในปริมาณเท่ากัน ( เปรี้ยวจัดมาก) ๑๐.ท้องอืด แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อย ๆ ๑๑.ท้องผูก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ ๓ ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า เย็น ๑๒.โรคกระเพาะอาหาร หากล้วยหักมุกปิ้งกิน, กินกล้วยหรือกินผักกระ หล่ำปลีให้มาก ๑๓.เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทาน เช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง, น้ำขิง, ชาขิงหรือเต้าฮวย ๑๔.วัยทอง วูบวาบ อารมณ์ปรวน ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ ๑ แผ่น ถ้ากินเต้าหู้แล้วเบื่อให้สลับกับถั่วลิสงวันละ ๑ กำมือก็ได้ ๑๕.หงุดหงิดง่าย ให้กินอาหารร่าเริง ค! ือ ข้าวเ หนียวดำ ข้าวโพด กลอย กล้วยหอมและปลาทูน่า ๑๖.กระดูกพรุน ให้กินงาดำวันละ ๔ ช้อนโต๊ะ (ได้แคลเซียมเท่ากับเม็ดใหญ่) มะม่วงจิ้มกะปิและสับปะรดซึ่งมีธาตุสมานกระดูดอยู่มาก ( แมงกานีส) ๑๗.ความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ ๒ ขีด หอยแครงและหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้ ๑๘.มะเร็งเต้านม ให้กินบร็อคโคลีหรือคะน้าวันละ ๕ ขีด ๑๙.มะเร็งปอดทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วง ให้มาก เพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี แต่ต้องระวังวิตามินเอโดยเฉพาะผู่ที่ยังสูบบุหรี่อยู่ ๒๐.ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ ๑-๒ ผล หรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกาก จะเป็นการล้างพิษในตัวด้วย ๒๑.เจ็บอก โรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ กินปลาทะเล น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน ผลอโวคาโดเพราะเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออก ถ้าชอบดื่มชาให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มเองวันละถ้วย ๒๒.ความดันสูง ต้องตัดบุหรี่และอาหารเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมากินและผักขึ้นฉ่ายสดหรือปั่นก็ได้ จะช่วยคุมความดันให้ดีขึ้น ๒๓.เบาหวนถามหา ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาลและกินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อคโคลี ผักโขมให้มาก ถ้าอยากหวานให้กินส้มโอและฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 27, 2010 ขอบคุณ คุณ gto มากนะคะ ที่นำข้อมูลดีๆมาฝาก ขออนุญาติก็อปไปวางที่กระทู้สุขภาพบ้างนะคะ ...... ณ.โรงพยาบาลบ้าแห่งหนึ่งมีคนบ้าเป็นจำนวนมาก ทำให้มีเนื้อที่ไม่เพียงพอแก่การอยู่อาศัยของผู้ป่วย ทางโรงพยาบาลจึงได้จัดให้มีการทดสอบผู้ป่วยที่เป็นบ้าาาาาา โดยทำการสูบน้ำออกจากสระว่ายน้ำจนแห้งเหือด แล้วจึงปล่อย ผู้ป่วยให้ลงไปเล่นน้ำใน สระว่ายน้ำโดยมีอุบายอยู่ว่าถ้าผู้ป่วยคนใดไม่ลงไปเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ ก็แสดงว่าผู้ป่วยคนนั้นหายจาก อาการบ้า (เพราะสระว่าย น้ำถูกสูบน้ำออกจนแห้ง) จากนั้นทางโรงพยาบาลก็จะส่งตัวผู้ที่หายจากอาการบ้ากลับบ้านหลังจากที่ปล่อยคนบ้าให้ไปเล่นน้ำ คนบ้าทุกคนต่างก็ลงเป็นเล่นน้ำในสระอย่างสนุก แต่ทว่ามีผู้ป่วยรายหนึ่งนั่งอยู่ริมสระ และไม่ลงไปเล่นน้ำกะเพื่อนๆ ผู้ป่วยคนนั้นชื่อนายหิด หมอ : อ้าว! นายหิดทำไม่ไม่ลงไปเล่นน้ำกะเพื่อนหล่ะ นายหิด : หมอจะบ้ารึป่าว หมอ : ถ้าอย่างนั้น แสดงว่าเธอก็หายแล้ว เดี๋ยวหมอจะส่งตัวเธอกลับบ้าน นายหิด : ก็ได้ครับ แต่ก่อนจะส่งผมกลับบ้าน หมอช่วยสอนผมว่ายน้ำก่อนซิครับ ผมจะได้ลงไปเล่นน้ำกะเพื่อนได้ หมอ : !?!?… อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 27, 2010 ข้อความดีๆ สร้างแรงจูงใจ...... อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 27, 2010 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
moddang 3,625 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 28, 2010 (มีการแก้ไข) ถูกแก้ไข กรกฎาคม 28, 2010 โดย moddang.. อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น