ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

"ฟิทช์-มูดี้ส์"เก็บข้อมูล ธปท.ยันสถาบันการเงินไทยแกร่ง! พร้อมรับมือเศรษฐกิจจีนชะลอ-เฟดลดขนาดคิวอี

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับคณะผู้บริหารบริษัทจัดอันดับ ฟิทช์ เรทติ้งส์ วานนี้ (17 ก.ค.) ว่า มีความเห็นตรงกันกับทาง ฟิทช์ เรทติ้งส์ ว่า การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันของไทยถือเป็นอีกส่วนที่ช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ ซึ่งทางรัฐบาลจะเข้าไปดูแลข้าราชการในส่วนปฏิบัติงานในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นด้วยเพื่อให้แรงจูงใจในการคอร์รัปชันลดลง

เมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของไทย เป็น"A-" จากระดับ "BBB+" ซึ่งสะท้อนถึงเศรษฐกิจไทยที่มีความยืดหยุ่น รวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่ขยายตัว และการปรับเครดิตเป็นปัจจัยหนึ่งทำให้เงินทุนไหลเข้า จนส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาท

นายกิตติรัตน์ กล่าวอีกว่าได้ชี้แจงกับ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ว่า การพัฒนาประเทศช่วงหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมาของรัฐบาลและแนวทางที่ประเทศไทยจะเดินหน้าปรับสมดุลเศรษฐกิจมีอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะการวางแผนเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท โดยรัฐบาลไม่ได้ตั้งใจลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตแบบระยะสั้น แต่ต้องการทำให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่องระยะยาว เหมือนกับช่วงที่ลงทุนพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก หรือ อีสเทิร์นซีบอร์ด และท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเมื่อลงทุนเสร็จได้ช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)

"ทิศทางเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่มีแนวคิดไปอัดฉีด ใครก็ตามที่ออกมาเรียกร้องให้ หรืออยากให้รัฐบาลอัดฉีดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขอให้เชื่อว่ารัฐบาลจะไม่ทำเช่นนั้น และส่วนที่ดีมากช่วยนำรายได้เข้าประเทศคือการท่องเที่ยว ถือเป็นส่วนสำคัญมาปรับสมดุลเศรษฐกิจของประเทศ และในส่วนรัฐบาลก็จะทำงานเต็มที่รวมถึงพยายามเร่งรัดการใช้จ่ายภาครัฐเพื่อนำไปประกอบกับการลงทุนของภาคเอกชนซึ่งเป็นอีกส่วนที่สำคัญ"นายกิตติรัตน์ กล่าว

ด้าน นางฤชุกร สิริโยธิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา ทาง มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ได้เดินทางมาพบ ธปท. เพื่อสอบถามและขอข้อมูลของธนาคารพาณิชย์ในไทย ซึ่งไม่ได้หยิบยกประเด็นอะไรขึ้นมาเป็นพิเศษ และเข้าใจว่า มูดี้ส์ เตรียมจะออกรายงานเกี่ยวกับฐานะของสถาบันการเงินไทยในเร็วๆ นี้

ก่อนหน้านี้ มูดี้ส์ เข้าพบ นายกิตติรัตน์ โดยสอบถามข้อมูลด้านเศรษฐกิจของประเทศและแนวนโยบายของรัฐบาล

ทั้งนี้ เมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา มูดี้ส์ ยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลสกุลเงินบาทและสกุลเงินตราต่างประเทศของประเทศไทย (Local and foreign government bonds) อยู่ที่ระดับ Baa1 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความแข็งแกร่งทางการเงินของรัฐบาลที่อยู่ในระดับสูง ความเข้มแข็งของเศรษฐกิจและโครงสร้างที่อยู่ในระดับปานกลาง และความอ่อนไหวต่อความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่อยู่ในระดับต่ำ

"ปกติเขาจะออกรายงานปีละ 2 ครั้ง คือ ช่วงเดือนมี.ค. จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับประเทศ ส่วนของแบงก์จะออกช่วงเดือนส.ค. หรือเดือนก.ย. ซึ่งเขาก็มาพบเราเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ส่วนคำถามที่ถาม ก็แล้วแต่ขึ้นกับสถานการณ์ในช่วงนั้น อย่างตอนที่เราเจอน้ำท่วม เขาก็ถามว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวหรือไม่ เอ็นพีแอลเป็นอย่างไร ส่วนช่วงนี้เขาไม่น่าจะห่วงอะไรเป็นพิเศษ เพราะคำถามก็เป็นคำถามทั่วๆ ไป" นางฤชุกรกล่าว

ส่วนกรณีที่ มูดี้ส์ ออกมาแสดงความเป็นห่วงเรื่องสินทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ในกลุ่มประเทศเอเชีย รวมถึงการปรับลดแนวโน้ม 3 ธนาคารพาณิชย์ของสิงคโปร์นั้น นางฤชุกร กล่าวว่า ธนาคารพาณิชย์ของสิงคโปร์มีโครงสร้างแตกต่างกับธนาคารพาณิชย์ไทย เพราะว่า ธนาคารพาณิชย์ไทย มีรายได้หลักจากภายในประเทศ แต่ธนาคารพาณิชย์ของสิงคโปร์ ค่อนข้างเปิดกว้าง

นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์ไทย ยังมีระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง รวมทั้งยังมีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญในระดับที่สูงมาก ในส่วนของ ธปท. เองก็ไม่ได้มีความเป็นห่วงในเรื่องพวกนี้แต่อย่างใด รวมทั้งที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ ก็มีการทำแบบทดสอบภาวะวิกฤติ (Stress test) อยู่เป็นระยะๆ

Tags : ฟิทช์ฯมูดี้ส์แบงก์แกร่งธปท.เฟดเศรษฐกิจจีนลดขนาดคิวอีQE

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

164941_621959501155764_1324355899_n.jpg

 

...ขอบคุณ news Trader J.

โชคดี มีความสุขนะคะทุกท่าน

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 18 กรกฎาคม 2556

 

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2556 17:00:00 น.

เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงนโยบายการเงินต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐว่า เฟดจะไม่กำหนดตารางเวลาเกี่ยวกับการลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรเอาไว้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน และการปรับขนาดโครงการซื้อพันธบัตรซึ่งปัจจุบันอยู่ที่วงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนนั้น เฟดจะดำเนินการโดยอิงตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นหลัก

 

 

 

-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการขยายตัว “เล็กน้อยถึงปานกลาง" ในเดือนมิ.ย.และต้นเดือนก.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคที่อยู่อาศัยและการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้านการบริโภคและการผลิต

 

-- ทางการจีนเปิดเผยว่า ราคาบ้านใหม่ใน 69 เมืองขนาดใหญ่ของจีน ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย.

 

-- สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีน (CISA) เปิดเผยว่า ผลผลิตเหล็กกล้าดิบโดยเฉลี่ยรายวันของจีนอยู่ที่ 2.083 ล้านตันในรอบ 10 วันแรกของเดือนก.ค. ลดลง 4.5% จาก 10 วันก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผลผลิตรายวันลดลงต่ำกว่า 2.1 ล้านตัน ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.

 

-- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์จีนจะไม่มีปรับตัวรุนแรง แม้ว่านายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะได้ออกมาแถลงกับสภาคองเกรสว่าเฟดจะเริ่มปรับลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรในปีนี้

 

-- เนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ เผยความเชื่อมั่นทางธุรกิจของออสเตรเลียร่วงลงในไตรมาส 2 เนื่องจากมุมมองที่เป็นลบเกี่ยวกับธุรกิจเหมือง ความกังวลเกี่ยวกับตลาดหุ้นในและต่างประเทศที่ร่วงลง

 

-- รัฐสภากรีซมีมติผ่านร่างกฎหมายการรัดเข็มขัดและการปฏิรูปฉบับใหม่ รวมถึงการปรับลดการจ้างงานภาครัฐครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นการเดินหน้าครั้งสำคัญเพื่อเร่งปลดหนี้ที่เจ้าหนี้ต่างประเทศได้มอบความช่วยเหลือให้แก่ประเทศที่มีภาระหนี้สินรายนี้

 

-- มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เผยอันดับความน่าเชื่อถือในเอเชียแปซิฟิค จะยังคงมีเสถียรภาพ แม้ว่า เศรษฐกิจจีนจะลอตัวลง ความไม่แน่นอนทั่วโลกที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความผันผวนในตลาดทุนทั่วโลก

 

-- นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับมาตรการเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ท่ามกลางเงินเยนที่อ่อนค่าลง โดยเบอร์นันเก้ไม่เห็นด้วยกันมุมมองที่ว่าญี่ปุ่นกำลังปั่นค่าเงินด้วยการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

-- ข้อมูลจากธนาคารกลางสเปนแสดงให้เห็นว่า หนี้สาธารณะของสเปนในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นแตะ 89.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)

 

-- สมาพันธ์เหล็ก และเหล็กกล้าญี่ปุ่น (JISF) เปิดเผยว่า ผลผลิตเหล็กกล้าดิบในช่วงครึ่งปีแรก(เดือนม.ค.- มิ.ย.) ของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 1.2% จากปีก่อนหน้า แตะที่ 54.71 ล้านตัน

 

-- นายเฉิน ตันหยาง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน (MOC) เปิดเผยว่า กระทรวงอยู่ในระหว่างการเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจีน เพื่อดำเนินการออกมาตรการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

 

-- ยอดค้าปลีกของอังกฤษปรับตัวสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนมิ.ย. หลังจากที่ห้างสรรพสินค้าต่างๆพร้อมใจกันลดราคาสินค้า ส่งผลให้อุปสงค์เสื้อผ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้น

สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า ยอดค้าปลีกรวมน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. และเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

 

-- เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 4,000 นายเข้าประจำการเพื่อดูแลความเรียบร้อยในระหว่างการเยือนกรุงเอเธนส์ของนายโวลฟ์กัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนีในวันนี้ ขณะที่รัฐบาลกรีซออกคำสั่งห้ามเดินขบวนประท้วงในเมืองหลวง ภายหลังรัฐสภากรีซมีมติผ่านร่างมาตรการรัดเข็มขัดชุดใหม่เมื่อคืนนี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

 

ราคาทองคำฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ ร่วงลงแตะ 11,890 HKD/tael

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2556 17:00:58 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 100 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,890 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,286.17 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 10.82 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

 

emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายการ Gold Insight วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2556 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ

ขอบคุณคับ deb ^_________^

Gold Tonight by MTS Gold @MoneyChannel_20130718

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐเผยผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2556 21:43:00 น.

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงมากเกินคาด

หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 36 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 15,508 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 3 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 1,683 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับลง 2 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 3,607 จุด

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 ก.ค. ร่วงลง 24,000 ราย สู่ระดับ 334,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ 345,000 ราย

สำหรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 5,250 ราย แตะที่ 346,000 ราย

นอกจากนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 6 ก.ค. ยังถูกปรับทบทวนเหลือ 358,000 ราย จากเดิมที่รายงานว่ามี 360,000 ราย

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

 

 

คอนเฟอเรนซ์บอร์ดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐทรงตัวในเดือนมิ.ย.

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2556 21:25:38 น.

คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชน เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐทรงตัวที่ระดับ 95.3 ในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.3%

นักวิเคราะห์ของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด กล่าวว่า ตัวเลขการอนุญาตสร้างบ้าน คำสั่งซื้อใหม่ และราคาหุ้นที่ลดลง หักกลบลบกันพอดีกับข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆที่ดีขึ้น

ขณะเดียวกันดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของเดือนพ.ค.ถูกปรับทบทวนเป็นเพิ่มขึ้น 0.2% แตะ 95.3 จากเดิมที่รายงานว่าขยับขึ้น 0.1% สู่ระดับ 95.2

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th-

 

 

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สเกือบทรงตัว ขณะตลาดจับตาเบอร์นันเก้แถลงวันที่สอง

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2556 19:06:58 น.

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าขยับขึ้น 2 จุด หรือไม่ถึง 0.1% แตะที่ 15,442 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าบวก 0.1% ที่ระดับ 1,677.5 จุด เมื่อเวลา 7.40 น.ตามเวลานิวยอร์ก ขณะที่นักลงทุนจับตาดูนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่สอง

เมื่อคืนนี้ตามเวลาไทย นายเบอร์นันเก้ได้แถลงนโยบายการเงินต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐว่า เฟดจะไม่กำหนดตารางเวลาเกี่ยวกับการลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรเอาไว้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน และการปรับขนาดโครงการซื้อพันธบัตรซึ่งปัจจุบันอยู่ที่วงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนนั้น เฟดจะดำเนินการโดยอิงตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นหลัก

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ก.ค. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ 345,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 360,000 ราย

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

 

 

ราคาน้ำมัน WTI ยังใกล้ระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ หลังสต็อกน้ำมันดิบร่วง

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2556 19:29:31 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ขยับลง 6 เซนต์ แตะ 106.42 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเวลา 19.00 น.ตามเวลาประเทศไทย อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ก.ค.ร่วงลง 6.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 367 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2 ล้านบาร์เรล

ก่อนหน้านี้ การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ซึ่งเป็นหน่วยงานเอกชนด้านพลังงานของสหรัฐ เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ก.ค. ร่วงลง 2.6 ล้านบาร์เรล

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐเผยผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2556 21:43:00 น.

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงมากเกินคาด

หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 36 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 15,508 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 3 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 1,683 จุด และดัชนี Nasdaq ขยับลง 2 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 3,607 จุด

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 ก.ค. ร่วงลง 24,000 ราย สู่ระดับ 334,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ 345,000 ราย

สำหรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 5,250 ราย แตะที่ 346,000 ราย

นอกจากนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 6 ก.ค. ยังถูกปรับทบทวนเหลือ 358,000 ราย จากเดิมที่รายงานว่ามี 360,000 ราย

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

 

 

สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงมากเกินคาด

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม 2556 19:59:41 น.

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงมากเกินคาดจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน บ่งชี้ว่านายจ้างยังคงเดินหน้าจ้างพนักงานใหม่อย่างต่อเนื่อง

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 ก.ค. ร่วงลง 24,000 ราย สู่ระดับ 334,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ 345,000 ราย

 

 

สำหรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 5,250 ราย แตะที่ 346,000 ราย

นอกจากนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 6 ก.ค. ยังถูกปรับทบทวนเหลือ 358,000 ราย จากเดิมที่รายงานว่ามี 360,000 ราย

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดแรงงานสหรัฐส่งสัญญาณที่แข็งแกร่ง จนก่อให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเริ่มลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรในเดือนก.ย.

อย่างไรก็ดี นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงนโยบายการเงินต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐเมื่อคืนนี้ว่า เฟดจะไม่กำหนดตารางเวลาเกี่ยวกับการลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรเอาไว้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน และการปรับขนาดโครงการซื้อพันธบัตรซึ่งปัจจุบันอยู่ที่วงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนนั้น เฟดจะดำเนินการโดยอิงตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นหลัก

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Good morning

I am busy today.

See you afternoon today.

Bye

Good morning news

Have a nice day.

1014137_541927539193836_1460837680_n.jpg

Ted Dyer

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 07:31:52 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) ขานรับผลประกอบการของบริษัทเอกชน และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลง ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 Index เพิ่มขึ้น 0.9% ปิดที่ 299.76 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,927.79 จุด เพิ่มขึ้น 55.77 จุด หรือ +1.44% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,337.09 จุด เพิ่มขึ้น 82.37 จุด หรือ +1.00% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,634.36 จุด เพิ่มขึ้น 62.43 จุด หรือ +0.95%

 

 

 

-- ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,634.36 จุด เพิ่มขึ้น 62.43 จุด หรือ 0.95%

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,548.54 จุด เพิ่มขึ้น 78.02 จุด หรือ +0.50% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,611.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.28 จุด หรือ +0.04% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,689.37 จุด เพิ่มขึ้น 8.46 จุด, +0.50%

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลง ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานจะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้เติบโตมากขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 1.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.04 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 108.7 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจว่าจะลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ในการประชุมเดือนก.ย. หรือไม่

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 6.7 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 1,284.2 ดอลลาร์/ออนซ์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 3.1 เซนต์ ปิดที่ 19.389 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1414.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 747.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.05 ดอลลาร์

 

--ราคาทองคำตลาดลอนดอนปิดวันทำการล่าสุด (18 ก.ค.) ที่ 1,283.25 ดอลล์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปีนี้

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 100.5 เยน จากระดับของวันพุธที่ 99.58 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9454 ฟรังค์ จากระดับ 0.9411 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3105 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3113 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.5217 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5209 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9169 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9225 ดอลลาร์สหรัฐ

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $6.7 หลังปธ.เฟดไม่ฟันธงลด QE เดือนก.ย.

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 07:00:18 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจว่าจะลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ในการประชุมเดือนก.ย. หรือไม่

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 6.7 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 1,284.2 ดอลลาร์/ออนซ์emnb_1_370236.gif

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 3.1 เซนต์ ปิดที่ 19.389 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1414.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 747.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.05 ดอลลาร์

เบอร์นันเก้ แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าเฟดควรจะเริ่มลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเดือนก.ย. หรือไม่

เบอร์นันเก้กล่าวว่า การตัดสินใจว่าจะลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์นั้น จะขึ้นอยู่กับข้อมูลด้านตลาดแรงงานที่เฟดได้รับ หรือมีข้อมูลบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งได้สกัดแรงบวกของทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนมักจะเข้าซื้อเมื่อเศรษฐกิจผันผวน โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 ก.ค. ร่วงลง 24,000 ราย สู่ระดับ 334,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 345,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 5,250 ราย แตะที่ 346,000 ราย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส หนุนเงินดอลล์แข็งค่า

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 07:25:32 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปีนี้

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 100.5 เยน จากระดับของวันพุธที่ 99.58 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9454 ฟรังค์ จากระดับ 0.9411 ฟรังค์

 

 

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3105 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3113 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.5217 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5209 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9169 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9225 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐอาจจะทำให้เฟดชะลอการใช้มาตรการ QE ในปีนี้ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 ก.ค. ร่วงลง 24,000 ราย สู่ระดับ 334,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 345,000 ราย

ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียระบุว่า ดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติก พุ่งขึ้นแตะระดับ 19.8 ในเดือนก.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2554 จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 12.5

เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าเฟดควรจะเริ่มลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเดือนก.ย. หรือไม่

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก $1.56 หลังจำนวนคนว่างงานสหรัฐลดลง

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 06:31:28 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลง ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานจะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้เติบโตมากขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 1.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.04 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 108.7 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 ก.ค. ร่วงลง 24,000 ราย สู่ระดับ 334,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ 345,000 ราย

สำหรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 5,250 ราย แตะที่ 346,000 ราย

ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียระบุว่า ดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติก พุ่งขึ้นแตะระดับ 19.8 ในเดือนก.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2554 จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 12.5

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ก.ค.ร่วงลง 6.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 367 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล แตะที่ 224.1 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 500,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่อัตราการใช้กำลังการกลั่นเพิ่มขึ้น 0.4% แตะที่ 92.8%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

เบอร์นันเก้ชี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจเรื่องลดขนาด QE ในเดือนก.ย.

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 06:05:38 น.

เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าเฟดควรจะเริ่มลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเดือนก.ย. หรือไม่

เบอร์นันเก้กล่าวว่า การตัดสินใจว่าจะลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์นั้น จะขึ้นอยู่กับข้อมูลด้านตลาดแรงงานที่เฟดได้รับ หรือมีข้อมูลบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างยั่งยืน

emnb_18_18900.gif?2071562168

นอกจากนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า การคุมเข้มด้านการเงินซึ่งเป็นเหตุให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้น เป็นสิ่งที่ไม่สมควรให้เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า "มี 3 ปัจจัยที่จะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวสูงขึ้น ปัจจัยแรกคือข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น เมื่อนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้น อัตราดอกเบี้ยก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นด้วย ปัจจัยที่ 2 คือ การที่นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงในตลาด และปัจจัยที่ 3 นั้น เกี่ยวข้องกับการสื่อสารของเฟดและการที่ตลาดตีความนโยบายของเฟด"

การแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยนับเป็นการแถลงนโยบายเศรษฐกิจรอบครึ่งปีในวันสุดท้ายของเบอร์นันเก้ ส่วนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เบอร์นันเก้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐว่า เฟดจะไม่กำหนดตารางเวลาเกี่ยวกับการลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรเอาไว้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน และการปรับขนาดโครงการซื้อพันธบัตรซึ่งปัจจุบันอยู่ที่วงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนนั้น เฟดจะดำเนินการโดยอิงตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นหลัก

เบอร์นันเก้ยังคงย้ำมุมมองของเขาที่เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาว่า "เราจะพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจเป็นหลัก หากข้อมูลเศรษฐกิจออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ เราก็จะดำเนินการลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรให้เร็วขึ้น แต่หากข้อมูลที่ออกมาไม่สอดคล้องกับการคาดการณ์ เราก็อาจจะชะลอการดำเนินการดังกล่าว หรืออาจจะเพิ่มขนาดโครงการซื้อพันธบัตร"

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 78.02 จุด รับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 06:21:02 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,548.54 จุด เพิ่มขึ้น 78.02 จุด หรือ +0.50% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,611.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.28 จุด หรือ +0.04% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,689.37 จุด เพิ่มขึ้น 8.46 จุด, +0.50%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงมากเกินคาดจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน บ่งชี้ว่านายจ้างยังคงเดินหน้าจ้างพนักงานใหม่อย่างต่อเนื่อง

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 ก.ค. ร่วงลง 24,000 ราย สู่ระดับ 334,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ 345,000 ราย

สำหรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 5,250 ราย แตะที่ 346,000 ราย

ด้านคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชน เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐทรงตัวที่ระดับ 95.3 ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของเดือนพ.ค.ถูกปรับทบทวนเป็นเพิ่มขึ้น 0.2% แตะ 95.3 จากเดิมที่รายงานว่าขยับขึ้น 0.1% สู่ระดับ 95.2

นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียระบุว่า ดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติก พุ่งขึ้นแตะระดับ 19.8 ในเดือนก.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2554 จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 12.5

ตลาดได้รับแรงหนุนในระดับหนึ่งหลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าเฟดควรจะเริ่มลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเดือนก.ย. หรือไม่

หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 4.37% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรสุทธิมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ปีนี้ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่ระดับ 6.9 พันล้านดอลลาร์

หุ้นอินเทล คอร์ป ร่วงลง 3.7% ขณะที่หุ้นอีเบย์ ดิ่งลง 6.7% หลังจากทั้งสองบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีท

ส่วนหุ้นเวริซอน ร่วงลง 1.5% แม้บริษัทเปิดเผยกำไรที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2 ก็ตาม

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

1004488_541927422527181_1398134292_n.jpg

Good morning

Have a niceday.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 07:31:52 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) ขานรับผลประกอบการของบริษัทเอกชน และจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลง ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 Index เพิ่มขึ้น 0.9% ปิดที่ 299.76 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค.

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,927.79 จุด เพิ่มขึ้น 55.77 จุด หรือ +1.44% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,337.09 จุด เพิ่มขึ้น 82.37 จุด หรือ +1.00% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,634.36 จุด เพิ่มขึ้น 62.43 จุด หรือ +0.95%

 

 

 

-- ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ที่ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,634.36 จุด เพิ่มขึ้น 62.43 จุด หรือ 0.95%

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,548.54 จุด เพิ่มขึ้น 78.02 จุด หรือ +0.50% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,611.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.28 จุด หรือ +0.04% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,689.37 จุด เพิ่มขึ้น 8.46 จุด, +0.50%

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลง ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานจะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้เติบโตมากขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 1.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.04 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 108.7 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจว่าจะลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ในการประชุมเดือนก.ย. หรือไม่

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 6.7 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 1,284.2 ดอลลาร์/ออนซ์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 3.1 เซนต์ ปิดที่ 19.389 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1414.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 747.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.05 ดอลลาร์

 

--ราคาทองคำตลาดลอนดอนปิดวันทำการล่าสุด (18 ก.ค.) ที่ 1,283.25 ดอลล์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปีนี้

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 100.5 เยน จากระดับของวันพุธที่ 99.58 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9454 ฟรังค์ จากระดับ 0.9411 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3105 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3113 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.5217 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5209 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9169 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9225 ดอลลาร์สหรัฐ

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $6.7 หลังปธ.เฟดไม่ฟันธงลด QE เดือนก.ย.

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 07:00:18 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจว่าจะลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ในการประชุมเดือนก.ย. หรือไม่

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 6.7 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 1,284.2 ดอลลาร์/ออนซ์emnb_1_370236.gif

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 3.1 เซนต์ ปิดที่ 19.389 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1414.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.80 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 747.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.05 ดอลลาร์

เบอร์นันเก้ แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าเฟดควรจะเริ่มลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเดือนก.ย. หรือไม่

เบอร์นันเก้กล่าวว่า การตัดสินใจว่าจะลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์นั้น จะขึ้นอยู่กับข้อมูลด้านตลาดแรงงานที่เฟดได้รับ หรือมีข้อมูลบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งได้สกัดแรงบวกของทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนมักจะเข้าซื้อเมื่อเศรษฐกิจผันผวน โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 ก.ค. ร่วงลง 24,000 ราย สู่ระดับ 334,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 345,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 5,250 ราย แตะที่ 346,000 ราย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส หนุนเงินดอลล์แข็งค่า

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 07:25:32 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปีนี้

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 100.5 เยน จากระดับของวันพุธที่ 99.58 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9454 ฟรังค์ จากระดับ 0.9411 ฟรังค์

 

 

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3105 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3113 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.5217 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5209 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9169 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9225 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐอาจจะทำให้เฟดชะลอการใช้มาตรการ QE ในปีนี้ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 ก.ค. ร่วงลง 24,000 ราย สู่ระดับ 334,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 345,000 ราย

ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียระบุว่า ดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติก พุ่งขึ้นแตะระดับ 19.8 ในเดือนก.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2554 จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 12.5

เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าเฟดควรจะเริ่มลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเดือนก.ย. หรือไม่

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก $1.56 หลังจำนวนคนว่างงานสหรัฐลดลง

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 06:31:28 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลง ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานจะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้เติบโตมากขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 1.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.04 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 108.7 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 ก.ค. ร่วงลง 24,000 ราย สู่ระดับ 334,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ 345,000 ราย

สำหรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 5,250 ราย แตะที่ 346,000 ราย

ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียระบุว่า ดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติก พุ่งขึ้นแตะระดับ 19.8 ในเดือนก.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2554 จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 12.5

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ก.ค.ร่วงลง 6.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 367 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 2 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล แตะที่ 224.1 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 500,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่อัตราการใช้กำลังการกลั่นเพิ่มขึ้น 0.4% แตะที่ 92.8%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

เบอร์นันเก้ชี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินใจเรื่องลดขนาด QE ในเดือนก.ย.

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 06:05:38 น.

เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าเฟดควรจะเริ่มลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเดือนก.ย. หรือไม่

เบอร์นันเก้กล่าวว่า การตัดสินใจว่าจะลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์นั้น จะขึ้นอยู่กับข้อมูลด้านตลาดแรงงานที่เฟดได้รับ หรือมีข้อมูลบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างยั่งยืน

emnb_18_18900.gif?2071562168

นอกจากนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า การคุมเข้มด้านการเงินซึ่งเป็นเหตุให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้น เป็นสิ่งที่ไม่สมควรให้เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เบอร์นันเก้กล่าวว่า "มี 3 ปัจจัยที่จะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวสูงขึ้น ปัจจัยแรกคือข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น เมื่อนักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้น อัตราดอกเบี้ยก็มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นด้วย ปัจจัยที่ 2 คือ การที่นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงในตลาด และปัจจัยที่ 3 นั้น เกี่ยวข้องกับการสื่อสารของเฟดและการที่ตลาดตีความนโยบายของเฟด"

การแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยนับเป็นการแถลงนโยบายเศรษฐกิจรอบครึ่งปีในวันสุดท้ายของเบอร์นันเก้ ส่วนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เบอร์นันเก้แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐว่า เฟดจะไม่กำหนดตารางเวลาเกี่ยวกับการลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรเอาไว้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน และการปรับขนาดโครงการซื้อพันธบัตรซึ่งปัจจุบันอยู่ที่วงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนนั้น เฟดจะดำเนินการโดยอิงตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นหลัก

เบอร์นันเก้ยังคงย้ำมุมมองของเขาที่เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมาว่า "เราจะพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจเป็นหลัก หากข้อมูลเศรษฐกิจออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ เราก็จะดำเนินการลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรให้เร็วขึ้น แต่หากข้อมูลที่ออกมาไม่สอดคล้องกับการคาดการณ์ เราก็อาจจะชะลอการดำเนินการดังกล่าว หรืออาจจะเพิ่มขนาดโครงการซื้อพันธบัตร"

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 78.02 จุด รับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2556 06:21:02 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,548.54 จุด เพิ่มขึ้น 78.02 จุด หรือ +0.50% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,611.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.28 จุด หรือ +0.04% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,689.37 จุด เพิ่มขึ้น 8.46 จุด, +0.50%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงมากเกินคาดจนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน บ่งชี้ว่านายจ้างยังคงเดินหน้าจ้างพนักงานใหม่อย่างต่อเนื่อง

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 ก.ค. ร่วงลง 24,000 ราย สู่ระดับ 334,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ 345,000 ราย

สำหรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 5,250 ราย แตะที่ 346,000 ราย

ด้านคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชน เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐทรงตัวที่ระดับ 95.3 ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของเดือนพ.ค.ถูกปรับทบทวนเป็นเพิ่มขึ้น 0.2% แตะ 95.3 จากเดิมที่รายงานว่าขยับขึ้น 0.1% สู่ระดับ 95.2

นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียระบุว่า ดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติก พุ่งขึ้นแตะระดับ 19.8 ในเดือนก.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2554 จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 12.5

ตลาดได้รับแรงหนุนในระดับหนึ่งหลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าเฟดควรจะเริ่มลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเดือนก.ย. หรือไม่

หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 4.37% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรสุทธิมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ปีนี้ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่ระดับ 6.9 พันล้านดอลลาร์

หุ้นอินเทล คอร์ป ร่วงลง 3.7% ขณะที่หุ้นอีเบย์ ดิ่งลง 6.7% หลังจากทั้งสองบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีท

ส่วนหุ้นเวริซอน ร่วงลง 1.5% แม้บริษัทเปิดเผยกำไรที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2 ก็ตาม

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

1004488_541927422527181_1398134292_n.jpg

Good morning

Have a niceday.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันที่ 19 กรกฎาคม 2556 08:02

 

ไทยตอนบนฝนเพิ่ม-กทม.ฝนตก60%ของพื้นที่

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_518291_1.jpg

กรมอุตุฯเผยไทยตอนบนมีฝนเพิ่ม-กรุงเทพฯมีฝนตกในช่วงภาคบ่าย-ค่ำ 60% ของพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันศุกร์ที่ 19 กค. 2556 ว่าหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะ 1-2 วันนี้

พายุดีเปรสชัน ซิมารอน (CIMARON) อยู่บริเวณประเทศจีนตอนใต้ คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำในระยะต่อไป สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง และพังงา ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ อยู่ในเกณฑ์กระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ โดยกลุ่มฝนจะเคลื่อนจากทางด้านตะวันตกไปทางด้านตะวันออก

Tags : กรมอุตุฯพยากรณ์อากาศ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สุรนันทน์ยันนายกฯไปประชุมครม.สัญจรใต้แน่ "สุรนันทน์"ยืนยันนายกฯไปประชุม ครม.สัญจร 3 จังหวัดชานแดนใต้แน่นอน น้ำมันพุ่ง$1.56 รับข้อมูลศก.สหรัฐสดใส น้ำมันปิดบวก 1.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.04 ดอลลาร์/บาร์เรล รับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส ว่างงานเริ่มฟื้น ดาวโจนส์พุ่ง78จุด รับข้อมูลศก.สหรัฐ คาร์ฟูร์ยอดขายลด หลังหยุดธุรกิจหลายตลาด เกาะติดตลาดหุ้นโลก 19 ก.ค.56 vdo.gif ซีอีโอ'ซีเจกรุ๊ป'ถูกรวบฐานยักยอก-เลี่ยงภาษี

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...