ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

16831024_10155063983872855_8266374887036056860_n.jpg?oh=f9f0c92a9e9e668fe3ea916e96032173&oe=593960D2

พสกนิกรจากทุกสารทิศยังคงเดินทางมาสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในวันพุธที่ 22กุมภาพันธ์ 2560

ภาพ ชาลินี ถิระศุภะ (Chalinee Thirasupa)

16864508_10155064204922855_7114306392348538044_n.jpg?oh=0f22b19331ab5e2074e00c5015759fdb&oe=5928BB9D

เมื่อ เวลา16.49 น. ของวันที่ 22 ก.พ. 60 บริษัท เอส ที เฟรม แอนด์ ทรัส จำกัด ทำการขนย้ายโครงสร้างเหล็กจำพวกเสาเหล็กและคานเหล็กที่ใช้สำหรับประกอบพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ออกจากโรงงานที่ อ.บางปะหัน เพื่อไปยังท้องสนามหลวง โดยใช้ถนนสายเอเซีย เลี้ยวเข้าถนนสาย 347 บางปะหัน-ปทุมธานี จากนั้นจอดพักรถที่หน้าศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด เพื่อรอเวลาวิ่งรถบรรทุก จนถึงเวลา 21.00 น. จะเคลื่อนขบวนขึ้นทางด่วนเชียงรากน้อย ลงทางด่วนที่จุดยมราช และเดินทางต่อไปยังท้องสนามหลวง

ภาพ ฐานิส สุดโต (Thanis Sudto)

#NationPhoto #ฐานิสสุดโต #รัชกาลที่9 #พระเมรุมาศ

 

16864583_10155064027942855_1912349200773256794_n.jpg?oh=4ae86133407f1a81f39805ff25294bcc&oe=594460D7

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาเปิดอาคารโรงพยาบาลยะลาสิริรัตนรักษ์ ซึ่งอยู่ภายในศูนย์ปฎิบัติตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา โดยมีพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ข้าราชการตำรวจระดับสูง หัวหน้าส่วนราชการ เฝ้ารอรับเสด็จ สำหรับโรงพยาบาลยะลาสิริรัตนรักษ์ เป็นโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือทันสมัย ขนาด 30 เตียง โดยในช่วงแรกดำเนินการก่อสร้างเพื่อให้บริการดูแลรักษาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ แต่ปัจจุบันเปิดให้บริการกับผู้ป่วยทั่วไปด้วย

 

ภาพ นครินทร์ ชินวรโกมล (Nakharin Chinnawornkomol)

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 07:36:25 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ก.พ.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) โดยดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกัน 9 วันทำการ ทำสถิติปิดในแดนบวกที่ยาวนานที่สุดในรอบ 30 ปี เพราะได้แรงหนุนจากข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นไปได้ที่จะมีการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทดูปองท์ และดาว เคมิคอล อย่างไรก็ตาม แรงบวกของดัชนีดาวโจนส์ถูกสกัดลงในระหว่างวัน หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดเห็นพ้องว่าควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,775.60 จุด เพิ่มขึ้น 32.60 จุด หรือ +0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,860.63 จุด ลดลง 5.32 จุด หรือ -0.09% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,362.82 จุด ลดลง 2.56 จุด หรือ -0.11%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) ขานรับรายงานที่ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.พ. ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีการเปิดเผยหลังจากตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการแล้ว

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดทรงตัวที่ 373.38 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,895.88 จุด เพิ่มขึ้น 7.12 จุด, +0.15% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,998.59 จุด เพิ่มขึ้น 31.10 จุด หรือ +0.26% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,302.25 จุด เพิ่มขึ้น 27.42 จุด, +0.38%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) ด้วยแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของอังกฤษ และเชื่อว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจยังอยู่ในทิศทางที่สดใส นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารบางแห่งและบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 27.42 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 7,302.25 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะเปิดเผยรายงานดังกล่าวหลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 5.6 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ระดับ 1,233.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 5.1 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 17.95 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 1,002.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 9.95 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 770.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบในวันนี้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 74 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 53.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 82 เซนต์ หรือ 1.5 ปิดที่ 55.84 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและเยน ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ได้แรงหนุนบางส่วนจากรายงานการประชุมของเฟด ซึ่งมีการส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0564 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0545 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2457 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2460 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7706 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7679 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 113.15 เยน จากระดับ 113.58 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส 1.0102 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0091 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,362.82 จุด ลดลง 2.56 จุด, -0.11%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,860.63 จุด ลดลง 5.32 จุด, -0.09%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 20,775.60 จุด เพิ่มขึ้น 32.60 จุด, +0.16%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,895.88 จุด เพิ่มขึ้น 7.12 จุด, +0.15%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,998.59 จุด เพิ่มขึ้น 31.10 จุด, +0.26%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,302.25 จุด เพิ่มขึ้น 27.42 จุด, +0.38%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,864.71 จุด เพิ่มขึ้น 103.12 จุด, +0.36%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,708.08 จุด เพิ่มขึ้น 1.53 จุด, +0.09%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,122.20 จุด เพิ่มขึ้น 28.01 จุด, +0.91%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,358.68 จุด เพิ่มขึ้น 17.69 จุด, +0.33%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,201.96 จุด เพิ่มขึ้น 238.33 จุด, +0.99%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 717.24 จุด เพิ่มขึ้น 0.69 จุด, +0.10%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,304.45 จุด เพิ่มขึ้น 21.77 จุด, +0.30%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,261.22 จุด เพิ่มขึ้น 7.89 จุด, +0.41%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,106.61 จุด เพิ่มขึ้น 3.68 จุด, +0.17%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,379.87 จุด ลดลง 1.57 จุด, -0.01%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,778.78 จุด เพิ่มขึ้น 14.85 จุด, +0.15%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,805.10 จุด เพิ่มขึ้น 14.10 จุด, +0.24%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,850.10 จุด เพิ่มขึ้น 14.70 จุด, +0.25%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2605986

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง $5.6 นลท.ชะลอเทรดก่อนเฟดเผยรายงานประชุม

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 07:27:01 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะเปิดเผยรายงานดังกล่าวหลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 5.6 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ระดับ 1,233.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 5.1 เซนต์ หรือ 0.28% ปิดที่ 17.95 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 1,002.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 9.95 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 770.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่เฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ประจำวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.

 

ทั้งนี้ หลังจากตลาดทองคำนิวยอร์กทำการแล้ว เฟดได้เปิดเผยรายงานการประชุมดังกล่าว โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดได้แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ และเห็นสมควรที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเร็วๆนี้ หากข้อมูลที่ได้รับมานั้นบ่งชี้ถึงว่า ตลาดแรงงานและอัตราเงินเฟ้อมีความสอดคล้อง หรือ แข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์ของเฟดในปัจจุบัน

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงเดินหน้าทำสถิติสูงสุดติดต่อกันหลายวัน โดยปัจจัยล่าสุดที่หนุนตลาดหุ้นเมื่อคืนนี้ มาจากข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นไปได้ที่จะมีการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทดูปองท์ และดาว เคมิคอล

 

ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐนับเป็นอีกปัจจัยที่กดดันให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำ โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนม.ค. พุ่งขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี

 

ทั้งนี้ ยอดขายบ้านมือสองพุ่งขึ้น 3.3% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.69 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2007 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านมือสองจะเพิ่มขึ้น 1.1% สู่ระดับ 5.54 ล้านยูนิตในเดือนม.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2605847

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 74 เซนต์ จากคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบพุ่ง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 07:08:07 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ก.พ.) โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบในวันนี้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 74 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 53.59 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 82 เซนต์ หรือ 1.5 ปิดที่ 55.84 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงหลังจากผลสำรวจของนักวิเคราะห์ซึ่งรายงานโดยสำนักข่าวซินหัวระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐมีแนวโน้มพุ่งขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 7 สัปดาห์

 

ด้านแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ รายงานว่า การที่สหรัฐผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) เพิ่มขึ้น และการแข็งค่าของดอลลาร์ รวมทั้งการทำสงครามราคาน้ำมัน จะเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมัน

 

ทั้งนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกา ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จนถึงปี 2022 สู่ระดับ 50-70 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเดิมที่ระดับ 55-75 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

รายงานระบุว่า ถึงแม้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ปรับลดกำลังการผลิตร่วมกับประเทศนอกกลุ่ม แต่การที่สหรัฐเพิ่มการผลิตน้ำมัน shale oil จะสร้างความผันผวนในตลาด

 

รายงานชี้ว่า หากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่า 55 ดอลลาร์/บาร์เรล ก็จะยิ่งดึงดูดให้สหรัฐทำการผลิตน้ำมัน shale oil มากขึ้น โดยคาดว่าหากราคาน้ำมันอยู่ในช่วง 50-70 ดอลลาร์/บาร์เรล จะทำให้สหรัฐผลิตน้ำมัน shale oil เพิ่มขึ้น 700,000 บาร์เรล/วันในปี 2017-2022

 

นอกจากนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกายังคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะเพิ่มขึ้นอย่างเชื่องช้าในช่วงหลายปีข้างหน้า โดยเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล/วันต่อปีไปจนถึงปี 2022 ขณะที่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะฉุดอุปสงค์ลง

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2605843

 

โฆษกรัฐบาลปฏิเสธยกเลิกบัตรทองเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวลวง

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 14:50:54 น.

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธข่าวรัฐบาลเตรียมล้มเลิกโครงการบัตรทอง เนื่องจากเป็นภาระด้านงบประมาณจนส่งผลให้ไม่มีงบจัดสรรให้เพียงพอว่า รัฐจัดสรรงบรายหัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งประชาชนยังคงได้รับสิทธิตามเดิมและคุ้มครองเพิ่มขึ้นอีก 3 รายการ

 

 

 

"เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ร่วมมือกันอย่างดีในการดูแลประชาชนและได้ปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ดีขึ้นด้วย" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

 

ในปีงบประมาณ 2561 กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้รับการจัดสรรงบประมาณเป็นจำนวนเงิน 128,533 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3,197.32 ต่อหัวประชากร เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2560 จำนวน 87.75 บาทต่อหัว ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 2-3 ปีนี้ โดยพี่น้องประชาชนยังคงได้รับสิทธิเช่นเดิม และมีส่วนที่จะได้รับเพิ่มขึ้น คือ ค่าบริการวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ค่าบริการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ และค่าบริการเจ็บป่วยฉุกเฉิน

 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลอยากให้พี่น้องประชาชนตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องถ้วนถี่ เมื่อได้รับข่าวสารจากแหล่งต่าง ๆ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย เพราะมีหลายครั้งที่ข้อมูลถูกบิดเบือนเพื่อทำให้สังคมหลงเชื่อ เช่น มีการแชร์ข่าวต่อกันว่าประชาชนถูกหลอกให้สนใจข่าวตามจับธัมมชโย แต่รัฐบาลได้ตัดงบโครงการบัตรทองไปเรียบร้อยแล้ว เป็นต้น

 

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติยืนยันว่า จะร่วมกันบริหารงบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อไม่ให้กระทบกับคุณภาพการให้บริการประชาชน

 

--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2605581

 

เกาหลีเหนืออ้างการเสียชีวิตของ คิม จอง นัม เป็นการสมรู้ร่วมคิดโดยเกาหลีใต้

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 07:57:54 น.

สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานว่า ทางการเกาหลีเหนือเปิดเผยในวันนี้ว่า การเสียชีวิตของนายคิม จอง นัม ที่เกิดขึ้นในมาเลเซียเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น เป็นการกระทำสมรู้ร่วมคิดเพื่อต่อต้านเกาหลีเหนือ โดยฝีมือของเกาหลีใต้

 

นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังตำหนิมาเลเซียว่า มีทัศนคติที่ไม่เป็นมิตรในการจัดการกับกรณีการเสียชีวิตของพลเมืองเกาหลีเหนือผู้นี้

 

สำนักข่าว KCNA ยังรายงานด้วยว่า ไม่มีความจำเป็นต้องทำการชันสูตรศพ เนื่องจากผู้เสียชีวิตได้รับการยืนยันว่าหัวใจล้มเหลว และผู้เสียชีวิตถือหนังสือเดินทางในฐานะนักการทูต

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปรียพรรณ โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2606027

 

สภาขุนนางอังกฤษไฟเขียวรับรองร่างกฎหมาย Brexit

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 14:49:30 น.

สภาขุนนาง (House of Lords) ของอังกฤษมีมติรับรองร่างกฎหมายที่ว่าด้วยการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในการอภิปรายตลอดระยะเวลา 2 วัน หลังจากที่สภาสามัญชน (House of Commons) ของอังกฤษ มีมติเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ตาม นางเทเรซา เมย์ ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากร่างกฎหมายดังกล่าวจะต้องถูกส่งไปยังรัฐสภาเพื่อทำการลงมติ

 

ทั้งนี้ เมื่อร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านการลงมติจากรัฐสภาแล้ว ก็จะส่งผลให้นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ สามารถประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป เพื่อให้อังกฤษเริ่มต้นกระบวนการเจรจาเป็นเวลา 2 ปี สำหรับการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2605579

 

กัมพูชาออกแถลงการณ์เรียกร้องสหรัฐยุติแทรกแซงกิจการภายใน

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 18:24:23 น.

กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์เรียกร้องให้สหรัฐยุติการแทรกแซงกิจการภายในของกัมพูชา

 

"เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐให้ความเคารพต่อหลักการระหว่างประเทศในการไม่แทรกแซงกิจการภายใน และอธิปไตยของชาติ รวมทั้งไม่ก้าวก่ายกิจการภายในของกัมพูชา" แถลงการณ์ระบุ

 

แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่สหรัฐออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อการที่รัฐสภากัมพูชาได้ผ่านร่างแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

 

ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวได้ห้ามนักการเมืองเป็นผู้นำพรรคการเมือง หากเคยถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด และกฎหมายยังได้ให้อำนาจศาลฎีกายุบพรรคการเมือง หากพบว่าผู้บริหารพรรคมีความผิดในคดีใดคดีหนึ่ง

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2605789

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

HSHsocial

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า23-FEB-2017

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า23-FEB-2017

AUSIRIS.CO.TH

 

 

NOW26

 

 

NOW26

 

 

NOW26

 

NOW26

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

NOW26

 

 

:01 :01 :01

 

สุขภาพแข็งแรง โชคดี มีกำไร

ขอบคุณคับบ

 

 

Ylg Bullion

 

 

 

YLGResearch

 

 

 

NOW26

 

 

 

ทีนิวส์ออนไลน์

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น่าจะโฟกัสกับทรงนี้กันทั้งตลาด ถ้ามองจากภาพแล้วขึ้นจาก 1180 สูงสุดเอาแถว 1244.6 แล้วพักตัวลงต่ำสุดแถว 1217 ก่อนจะค่อยๆ ยกตัวเป็น Ascending ขึ้นมา อย่างน้อยก็บีบตัวเข้าให้ลุ้นว่าจะเลือกทาง ซึ่งก็ต้องให้น้ำหนักทางขึ้นตามแนวโน้มเดิม ส่วนจะซื้อตอนไหนระหว่างซื้อเลย ยืนเหนือ 1240 หรือเบรก 1245.2 ไปมีเป้าหลักอยู่ที่ 1284 และแนวต้านระยะสั้นที่ 1255 1265 1272 โดยมี Low ตรง 1227 และ 1230 เป็นจุดเปลี่ยนลงต่ำกว่านี้มองว่าเลือกลง เป้าแรกคือกรอบล่างของช่วงนี้คือ 1215 - 1225

ไม่ว่าจะซื้อจากตรงไหนถ้าหลุดโซน 1215 - 1225 ลงมาก็ถือว่าดูไม่ดีควรถอยก่อนแล้วมาดูว่าจะไปลงสุดตรงไหนค่อยว่ากันอีกที

ส่วนถ้าขึ้นจริงๆ ต้องระวังว่ากลางเดือนมีนาคมจะมีประชุมเฟด การโหมโรงว่าจะขึ้นดอกเบี้ยก่อนมิถุนายนถือเป็นเร็วกว่าคาดอาจกดดันทอง ขึ้นมาถึงเป้าก็ขายหลุด support ก็ขายครับ

23 Feb, 2017

www.facebook.com/Wealthstation

16939620_1316522178386254_9039356192469582134_n.png?oh=74eb3abfa65637e6463f2d52017f5786&oe=594B7FD9

 

NOW26

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

NationTV22

 

 

NationTV22

 

 

NOW26

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝากกลุ่ม line รับข่าวสารทองด้วยนะครับ ชอบคุณครับ

thumb-1C8D_58AEBD85.jpg

ถูกแก้ไข โดย arthas

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีวันศุกร์

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $18.1 รับคาดการณ์เฟดไม่ขึ้นดบ.เดือนหน้า

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 07:02:00 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. หลังจากรายงานการประชุมครั้งล่าสุดบ่งชี้ว่าเฟดระมัดระวังในการกำหนดช่วงเวลาของการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไป

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 18.1 ดอลลาร์ หรือ 1.47% ปิดที่ระดับ 1,251.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 16.7 เซนต์ หรือ 0.93% ปิดที่ 18.117 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 9.2 ดอลลาร์ หรือ 0.92% ปิดที่ 1,011.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 4.40 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 774.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นหลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. โดยเจ้าหน้าที่เฟดได้แสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ และเห็นสมควรที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในเร็วๆนี้

 

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมองว่า เฟดมีความระมัดระวังที่จะระบุถึงกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป และคาดว่าเฟดน่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

 

สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.25% แตะที่ 101.07 เมื่อคืนนี้ ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยให้สัญญาทองคำมีมูลค่าที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ

 

นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอของสหรัฐยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยปรับตัวขึ้น 6,000 ราย สู่ระดับ 244,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 241,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2606799

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 07:26:54 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 ก.พ.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) โดยดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 10 หลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้คำมั่นกับบรรดาผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมหารือที่ทำเนียบขาวว่า เขาจะนำการจ้างงานหลายล้านตำแหน่งกลับสู่สหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า เขาจะผลักดันให้กฎหมายปฏิรูปภาษีผ่านสภาคองเกรสก่อนจะปิดสมัยประชุมสภาในเดือนส.ค.

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,810.32 จุด เพิ่มขึ้น 34.72 จุด หรือ +0.17% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,835.51 จุด ลดลง 25.12 จุด หรือ -0.43% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,363.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.99 จุด หรือ +0.04%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่บางแห่งได้เปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันหลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% 372.85 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,891.29 จุด ลดลง 4.59 จุด, -0.09% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,947.83 จุด ลดลง 50.76 จุด, -0.42% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,271.37 จุด ลดลง 30.88 จุด, -0.42%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนลบเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) ด้วยแรงฉุดจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มการเงิน โดยเฉพาะธนาคารบาร์เคลย์ส ซึ่งร่วงลงอย่างหนัก หลังธนาคารเผยผลกำไรต่ำกว่าคาดการณ์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกด้วยว่า ทางธนาคารยังไม่สามารถยุติคดีความกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐในข้อหาฉ้อโกงการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤตการเงินโลกในปี 2008

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 30.88 จุด หรือ -0.42% ปิดที่ 7,271.37 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 54.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 56.58 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. หลังจากรายงานการประชุมครั้งล่าสุดบ่งชี้ว่าเฟดระมัดระวังในการกำหนดช่วงเวลาของการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไป

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 18.1 ดอลลาร์ หรือ 1.47% ปิดที่ระดับ 1,251.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 16.7 เซนต์ หรือ 0.93% ปิดที่ 18.117 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 9.2 ดอลลาร์ หรือ 0.92% ปิดที่ 1,011.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 4.40 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 774.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) หลังนักลงทุนเกิดความวิตกว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มศักยภาพตามคำมั่นที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้ได้อย่างไร

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.75 เยน จากระดับ 113.15 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0073 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0102 ฟรังก์สวิส

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0572 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0564 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2541 ดอลลาร์จากระดับ 1.2457 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 0.7715 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7706 ดอลลาร์

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,363.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.99 จุด, +0.04%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,835.51 จุด ลดลง 25.12 จุด, -0.43%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 20,810.32 จุด เพิ่มขึ้น 34.72 จุด, +0.17%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,891.29 จุด ลดลง 4.59 จุด, -0.09%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,947.83 จุด ลดลง 50.76 จุด, -0.42%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,271.37 จุด ลดลง 30.88 จุด, -0.42%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,892.97 จุด เพิ่มขึ้น 28.26 จุด, +0.10%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,704.48 จุด ลดลง 3.60 จุด, -0.21%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,137.57 จุด เพิ่มขึ้น 15.37 จุด, +0.49%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,372.75 จุด เพิ่มขึ้น 14.07 จุด, +0.26%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,114.86 จุด ลดลง 87.10 จุด, -0.36%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 716.87 จุด ลดลง 0.37 จุด, -0.05%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,335.56 จุด เพิ่มขึ้น 31.11 จุด, +0.43%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,247.02 จุด ลดลง 14.20 จุด, -0.44%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,107.63 จุด เพิ่มขึ้น 1.02 จุด, +0.05%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,371.46 จุด ลดลง 8.41 จุด, -0.04%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,769.31 จุด ลดลง 9.47 จุด, -0.10%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,784.70 จุด ลดลง 20.40 จุด, -0.35%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,832.50 จุด ลดลง 17.60 จุด, -0.30%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2606806

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์หลังยังไร้ปัจจัยเด่นชัด,รอดูนโยบายศก.-แผนลดภาษีของทรัมป์

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 09:36:28 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,560-1,575 จุด เนื่องจากตลาดฯไม่ได้มีปัจจัยอะไรเด่นชัด ขณะเดียวกันก็ยังรอดูนโยบายเศรษฐกิจ และแผนลดภาษี ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ

 

 

 

อย่างไรก็ดี เมื่อคืนที่ผ่านมาราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นก็น่าจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานให้ฟื้นขึ้นได้ และช่วงนี้เป็นช่วงประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ดังนั้นก็คงจะมีการเล่นเก็งกำไรตามงบฯกัน

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบเล็กน้อยเฉลี่ย 0-0.1% โดยคืนนี้ก็จะมีตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ และยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ ที่จะต้องติดตามดู แต่ส่วนใหญ่จะรอดูในวันที่ 28 ก.พ.ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรส

 

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (23 ก.พ.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,810.32 จุด เพิ่มขึ้น 34.72 จุด (+0.17%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,835.51 จุด ลดลง 25.12 จุด (-0.43%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,363.81 จุด เพิ่มขึ้น 0.99 จุด (+0.04%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 139.35 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 4.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.75 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 11.64 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 1.20 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 1.33 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.00 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 6.61 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 ก.พ.60) 1,567.32 จุด ลดลง 4.72 จุด (-0.30%)

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 78.56 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 ก.พ.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (23 ก.พ.60) ปิดที่ 54.45 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.6%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 ก.พ.60) ที่ 6.28 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 34.94/99 แนวโน้มยังแกว่งแคบ นลท.รอดูตัวเลขศก.สหรัฐฯสำคัญในสัปดาห์หน้า

 

- นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้มาตรการสนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ครอบคลุมทั้งระบบ แต่โดยภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ราคาที่อยู่อาศัยสูงขึ้น ขณะที่สถาบันการเงินยังเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัย จึงต้องหาเครื่องมือเสริมให้ผู้บริโภคเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ส่วนผู้ประกอบการเชื่อว่าจะสามารถปรับตัวได้

 

- รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้การจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และรายงานผลกระทบสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (อีเอชไอเอ) โรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ว่าจะเริ่มต้นใหม่หรือจะรับแนวทางคำตอบต่อประเด็นคำถามกว่า 200 ข้อ ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อยู่ระหว่างปรับปรุงคำตอบ รวมถึงคำตอบต่อข้อสังเกตของคณะกรรมการไตรภาคี

 

- กระทรวงพาณิชย์ได้รับอนุมัติงบประมาณกลางจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาผลักดันโครงการที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจฐานรากทั้งหมด ซึ่งในงบประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาทนั้น จะจัดสรรงบประมาณจำนวน 3,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้พัฒนา 4 ตลาดหลัก ตามนโยบายของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ผลักดันตลาดกลาง เช่น ตลาดกลางสินค้า ตลาดสินค้าอัตลักษณ์ (ตลาดนิวเอสเคิร์ฟ) และตลาดชุมชนประชารัฐ โดยได้เพิ่มอีก 1 ตลาด คือ ตลาดต้องชม และนำมาเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว เพื่อสร้างจุดขายให้กับตลาดเหล่านี้ ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้แข็งแรงตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันเศรษฐกิจท้องถิ่น

 

- ธปท.เผยเงินไหลเข้าไทยจากมุมมองต่างชาติเชื่อไทยเป็นแหล่ง Safe Haven พร้อมใช้เครื่องมือและมาตรการต่างๆ ในยุคผันผวน ชี้ปี 60 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 4% ระบุดอกเบี้ยตลาดการเงินไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว

 

- นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า คลังจะเสนอลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือ 17% สำหรับคนที่เข้ามาทำงานในโครงการที่รับอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี และต้องเป็นโครงการใน 10 อุตสาหกรรมใหม่ที่รัฐบาลส่งเสริม

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- CPALL (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 74 บาท กำไรสุทธิ 4Q59 ดีกว่าเราและตลาดคาด +4.5% Q-Q, +10.9% Y-Y ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 4.3 พันล้านบาท แม้ว่า SSSG จะติดลบเล็กน้อย -1% Y-Y แต่การเปิดสาขาใหม่ 131 แห่ง และมีรายได้จากช่องทางอื่นมาชดเชยการหยุดขายบัตรเติมเงิน AIS ได้ รวมทั้งกำไรของ MAKRO ออกมาดี ทำให้กำไรสุทธิทั้งปี +22% Y-Y โดยคาดกำไรปีนี้โตต่อเนื่อง 18.4% Y-Y

 

- MALEE (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 130 บาท จากปัจจัยสำคัญ คือ ยอดขายต่างประเทศที่คาดว่าจะเติบโตในระดับสูงต่อเนื่อง หลังจากปี 59 เพิ่มขึ้นถึง 67%

 

- BANPU(โกลเบล็ก) "ซื้อ"เป้า 21.75 บาท รายงานกำไรปี 59 ที่ 1.68 พันลบ. เติบโต เทียบกับปี 58 ขาดทุน 1.53 พันลบ. 109%YoY พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผล 0.25 บาทต่อหุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD 10 เม.ย.

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th-

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2607091

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.94/99 แนวโน้มยังแกว่งแคบ นลท.รอดูตัวเลขศก.สหรัฐฯสำคัญในสัปดาห์หน้า

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 09:32:51 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.94/99 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า

 

 

 

เล็กน้อยจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.99 บาท/ดอลลาร์

ตลอดทั้งวันนี้คาดว่าเงินบาทจะยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ เพราะวันนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อค่าเงินบาทมากนัก

 

ตลาดน่าจะรอดูหลายตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญทางฝั่งสหรัฐฯ ที่จะออกมาอีกหลายตัวในสัปดาห์หน้า ซึ่งน่าจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวของค่า

 

เงินได้มากกว่า

"วันนี้เงินบาทคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ยังไม่มีปัจจัยอะไรสำคัญมาก รอดูสัปดาห์หน้าสหรัฐฯ จะรายงานตัวเลข

 

เศรษฐกิจสำคัญหลายตัว ตลาดคงดูว่าจะ move อย่างไร" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90-35.05 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เปิดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.66 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 113.19 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.0551 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 1.0546 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.994 บาท/ดอลลาร์

 

- กระทรวงการคลังยันไม่จำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ เชื่อรัฐเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหนุนตลาดปีนี้ดีขึ้น

 

ด้านผู้ประกอบการมองผู้บริโภคยังไม่เชื่อมั่นเศรษฐกิจและการเมืองปัจจัยฉุด ขณะที่ดอกเบี้ยต่ำช่วยหนุนกำลังซื้อ ห่วงเฮโลทำตลาดบน

 

อาจทำให้โครงการล้นตลาด

- นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เปิดเผยว่า ที่

 

ประชุมคณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ(กพข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็น

 

ประธาน เห็นชอบให้ สศช.เป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศระยะ 20 ปี

 

เพื่อบรรจุไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23

 

ก.พ.) หลังนักลงทุนเกิดความวิตกว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็ม

 

ศักยภาพตามคำมั่นที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้ได้อย่างไร

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐ

 

เปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว โดยปรับตัวขึ้น 6,000 ราย สู่

 

ระดับ 244,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่

 

ระดับ 241,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้จัดการประชุมร่วมกับผู้บริหารบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐกว่า 20 แห่งในวันนี้ เพื่อหารือ

 

เกี่ยวกับอุปสรรคในการสร้างงานในสหรัฐ

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลาง

 

สหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. หลังจากรายงานการประชุมครั้งล่าสุดบ่งชี้ว่าเฟดระมัดระวังในการกำหนด

 

ช่วงเวลาของการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไป

- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้เชิญบรรดาผู้บริหารระดับสูงของบริษัทรายใหญ่สหรัฐเข้าร่วมหารือที่

 

ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ โดยเขาให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟูตำแหน่งงานในโรงงานต่างๆที่ต้องสูญเสียไปกับการแข่งขันของต่างชาติ นอกจากนี้

 

ทรัมป์ระบุว่า เขามีแผนที่จะนำการจ้างงานหลายล้านตำแหน่งกลับสู่สหรัฐ

- รมว.คลังสหรัฐ ยืนยันว่าจะผลักดันให้กฎหมายปฏิรูปภาษีผ่านสภาคองเกรสก่อนจะปิดสมัยประชุมสภาในเดือนส.ค.นี้

 

พร้อมระบุว่ารัฐบาลพุ่งเป้าการปรับลดภาษีสำหรับชนชั้นกลาง และจะปฏิรูปภาษีให้มีความเรียบง่ายขึ้นสำหรับภาคธุรกิจ อย่างไรก็ดี

 

หากมีการปรับลดภาษีสำหรับคนรวย รัฐบาลก็จะมีการออกมาตรการปิดช่องโหว่ที่จะเอื้อประโยชน์แก่คนกลุ่มดังกล่าวเช่นกัน โดยจะมี

 

การลดการหักลดหย่อนภาษี และสิทธิประโยชน์อื่นๆ

พร้อมกันนี้ รมว.คลังสหรัฐ ระบุด้วยว่า รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะผลักดันการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐไปสู่ระดับ 3%

 

หรือมากกว่า โดยหวังว่าจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวภายในสิ้นปีหน้า

-กระทรวงการคลังสหรัฐกำลังพิจารณาการออกพันธบัตรอายุ 50 ปี และ 100 ปี เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากภาวะอัตรา

 

ดอกเบี้ยต่ำในขณะนี้

- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัย

 

มิชิแกน และยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2607088

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำวันนี้ 27 ก.พ. 60

ราคาทองคำวันนี้ 27 ก.พ. 60

 

AUSIRIS.CO.TH

 

 

 

HSHsocial

 

 

 

YLGResearch

 

 

 

 

NOW26

 

 

 

NationTV22

 

 

ทีนิวส์ออนไลน์

 

 

 

NationTV22

 

 

NOW26

 

 

 

NOW26

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 09:32:47 น.

กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางความคาดหมายว่านโยบายต่างๆของนายทรัมป์จะยังต้องรอความชัดเจน โดยที่SPDR ยังคงถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 841.17 ตัน ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจในวันศุกร์ออกมาค่อนข้างทรงตัว ได้แก่ New Home Sales และ Revised UoM Consumer Sentiment ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงมาสู่ระดับ 101.07 จุด จากระดับ101.13 จุด ด้านค่าเงินบาทแข็งค่าลงมาอีกครั้งจากระดับ 35.00 บาท/ดอลลาร์ ลงมาที่ระดับ 34.87 บาท/ดอลลาร์ รวมทั้งค่าเงินเยนที่แข็งค่าลงมาหลุด 113 เยน/ดอลลาร์ สู่ระดับ 112 เยน/ดอลลาร์

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องตามที่ได้วิเคราะห์ไปแล้ว โดยที่เข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น โดยภาพทางเทคนิคราคาทองคำยังเกิดภาวะ Golden Cross อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ราคาทองคำตัดเส้นค่าเฉลี่ยต่างๆขึ้นมา จึงทำให้เกิดภาวะกระทิงอย่างต่อเนื่อง สำหรับแนวโน้มของทองคำยังเป็นแนวโน้มทิศทางขาขึ้น โดยจะมีแนวต้านถัดไป 1,280 เหรียญ และ 1,300 เหรียญตามลำดับ ขณะที่แนวรับจะอยู่ที่ระดับ 1,243 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยเองปรับตัวสูงขึ้นมาในเช้าวันเสาร์อยู่ที่ระดับ 20,650-20,750บาท/บาททองคำ และวันนี้คาดว่าราคาทองคำไทยจะมีแนวรับ 20,500 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 20,800 บาท/บาททองคำ

 

* อย่างไรก็ดี Gold Futures G17 จะหมดอายุลงในวันที่ 27 ก.พ. 60 จึงแนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยนมาถือครองสถานะของ Gold Futures J17 แทน

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

กลยุทธ์ตามทิศทางแนวโน้มขาขึ้น แนะนำให้ปิดสถานะ Short ในนักลงทุนที่ยังมี Short อยู่ โดยหันมาถือครองสถานะ Long

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

หาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดสถานะลดความเสี่ยงจากภาวะตลาดขาขึ้นในขณะนี้

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

บริหารพอร์ตสมดุล หาจังหวะเปิดสถานะ Long โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,280 – 1,300 เหรียญ

 

Gold Futures G17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,720 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,920 บาท

Gold Futures J17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,760 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,960 บาท

Gold Futures M17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,810 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,010 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2608232

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

14980738_1768774133384752_3842661116524118657_n.jpg?oh=19684d85fc855c64f6acbd9bae14559f&oe=5927406F

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.88 ทิศทางแข็งค่า มองกรอบวันนี้ 34.80-34.95

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 09:28:40 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 34.88 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า

 

 

 

จากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 34.91/93 บาท/ดอลลาร์

"ตลาดผิดหวังเรื่องภาษีของสหรัฐฯตั้งแต่วันพฤหัส และข้อมูลเศรษฐกิจอเมริกาที่ออกมาก็สัญญาณไม่ชัดเจน มองทิศทาง

 

เงินบาทค่อนข้าง Downside" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.80-34.95 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.98 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 112.48 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0570 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 1.0592 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.9610 บาท/

 

ดอลลาร์

- ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (27 ก.พ.-3 มี.ค.) ที่ 34.90-

 

35.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสภาคองเกรส (28 ก.พ.) และสัญญาณเกี่ยวกับทิศ

 

ทางดอกเบี้ยจากเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ดัชนีความเชื่อ

 

มั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลเดือน

 

ม.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค. และจีดีพีประจำไตรมาส 4/59 (รายงานครั้งที่ 2) นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามตัวเลขส่งออก

 

เดือนม.ค. ของไทย และ ดัชนี PMI ของจีนและยุโรปด้วยเช่นกัน

- ธนาคาร ซี ไอเอ็มบี ไทย คาดว่าเงินบาทสัปดาห์นี้ (27 ก.พ.-3 มี.ค.) จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.90-

 

35.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยต้องจับตาการแถลงนโยบายของปธน.ทรัมป์ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ว่าจะมีราย

 

ละเอียดเกี่ยวกับมาตรการทางการคลังเพิ่มขึ้นหรือไม่ รวมทั้งการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯเดือน

 

กุมภาพันธ์ในวันศุกร์ที่ 3 มี.ค.2560

- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (TMB Analytics) ประเมินแนวโน้มสินเชื่อรวมของธนาคารพาณิชย์ในปี 2560

 

จะกลับมาเติบโตได้ในระดับสูงที่ร้อยละ 6.3 ได้อีกครั้ง โดยสินเชื่อภาคธุรกิจเติบโตร้อยละ 6.0 ในขณะที่สินเชื่อรายย่อยจะกลับมา

 

เติบโตได้ที่ร้อยละ 7.1 จากปัจจัยหนุนใน 4 เดือนด้วยกัน ได้แก่ 1) การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ 2) การ ท่องเที่ยวและ

 

บริการ 3) กำลังซื้อของผู้บริโภค และรายได้การเกษตรและ 4) การปรับตัวขึ้นของผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

 

- นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และรองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทาง

 

เรือแห่งประเทศไทย (สรท.) คาดการณ์ตัวเลขส่งออกเดือน ม.ค. 2560 ที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมประกาศสัปดาห์นี้ น่าจะเป็น

 

บวก โดยจะขยายตัวกว่า 10% แน่ เนื่องจากมีสินค้าหลายประเภทขยายตัวดี เช่น สินค้าเกษตรที่ดีขึ้นจากราคาตลาดโลกปรับขึ้นมาก

 

- ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐอยู่ที่ระดับ 96.3 ในเดือนก.พ. โดยสูงกว่าที่นัก

 

วิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 96.0

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ

 

555,000 ยูนิต หลังจากร่วงลงอย่างหนักในเดือนธ.ค.

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (24 ก.พ.) เนื่อง

 

จากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้งในเรื่องของการปฏิรูปภาษีและ

 

กระตุ้นการใช้จ่าย โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.6% เทียบเยน แตะที่ 111.95 เยน ส่วนยูโรอ่อนตัวลง 0.2% เทียบดอลลาร์

 

สหรัฐ สู่ระดับ 1.0558 ดอลลาร์

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ก.พ.) โดยปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน หลังเงิน

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเงิน

 

ดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำให้ทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นๆ จึงดึงดูดใจนักลงทุนมากขึ้น

 

- ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสสหรัฐในคืนวันอังคารที่

 

28 ก.พ. หรือตรงกับช่วงเช้าของวันพุธที่ 1 มี.ค.ตามเวลาไทย โดยคาดว่าเขาจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการปรับลด

 

อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลในวันดังกล่าว นอกจากมาตรการปฏิรูปภาษีแล้ว นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า

 

ปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการสาธารณูปโภคในวันดังกล่าวเช่นกัน

 

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2608254

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.88 ทิศทางแข็งค่า มองกรอบวันนี้ 34.80-34.95

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 11:05:27 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 34.88 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า

 

 

 

จากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 34.91/93 บาท/ดอลลาร์

"ตลาดผิดหวังเรื่องภาษีของสหรัฐฯตั้งแต่วันพฤหัส และข้อมูลเศรษฐกิจอเมริกาที่ออกมาก็สัญญาณไม่ชัดเจน มองทิศทาง

 

เงินบาทค่อนข้าง Downside" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.80-34.95 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 34.8633 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (24 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 1.40437%

 

ส่วน THAI BAHT FIX 6M (24 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 1.56420%

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.98 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 112.48 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0570 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 1.0592 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.9610 บาท/

 

ดอลลาร์

- ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (27 ก.พ.-3 มี.ค.) ที่ 34.90-

 

35.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อสภาคองเกรส (28 ก.พ.) และสัญญาณเกี่ยวกับทิศ

 

ทางดอกเบี้ยจากเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการ ดัชนีความเชื่อ

 

มั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลเดือน

 

ม.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค. และจีดีพีประจำไตรมาส 4/59 (รายงานครั้งที่ 2) นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามตัวเลขส่งออก

 

เดือนม.ค. ของไทย และ ดัชนี PMI ของจีนและยุโรปด้วยเช่นกัน

- ธนาคาร ซี ไอเอ็มบี ไทย คาดว่าเงินบาทสัปดาห์นี้ (27 ก.พ.-3 มี.ค.) จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.90-

 

35.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยต้องจับตาการแถลงนโยบายของปธน.ทรัมป์ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ว่าจะมีราย

 

ละเอียดเกี่ยวกับมาตรการทางการคลังเพิ่มขึ้นหรือไม่ รวมทั้งการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯเดือน

 

กุมภาพันธ์ในวันศุกร์ที่ 3 มี.ค.2560

- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี (TMB Analytics) ประเมินแนวโน้มสินเชื่อรวมของธนาคารพาณิชย์ในปี 2560

 

จะกลับมาเติบโตได้ในระดับสูงที่ร้อยละ 6.3 ได้อีกครั้ง โดยสินเชื่อภาคธุรกิจเติบโตร้อยละ 6.0 ในขณะที่สินเชื่อรายย่อยจะกลับมา

 

เติบโตได้ที่ร้อยละ 7.1 จากปัจจัยหนุนใน 4 เดือนด้วยกัน ได้แก่ 1) การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ 2) การ ท่องเที่ยวและ

 

บริการ 3) กำลังซื้อของผู้บริโภค และรายได้การเกษตรและ 4) การปรับตัวขึ้นของผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

 

- นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และรองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทาง

 

เรือแห่งประเทศไทย (สรท.) คาดการณ์ตัวเลขส่งออกเดือน ม.ค. 2560 ที่กระทรวงพาณิชย์เตรียมประกาศสัปดาห์นี้ น่าจะเป็น

 

บวก โดยจะขยายตัวกว่า 10% แน่ เนื่องจากมีสินค้าหลายประเภทขยายตัวดี เช่น สินค้าเกษตรที่ดีขึ้นจากราคาตลาดโลกปรับขึ้นมาก

 

- ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐอยู่ที่ระดับ 96.3 ในเดือนก.พ. โดยสูงกว่าที่นัก

 

วิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 96.0

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ

 

555,000 ยูนิต หลังจากร่วงลงอย่างหนักในเดือนธ.ค.

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (24 ก.พ.) เนื่อง

 

จากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้งในเรื่องของการปฏิรูปภาษีและ

 

กระตุ้นการใช้จ่าย โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.6% เทียบเยน แตะที่ 111.95 เยน ส่วนยูโรอ่อนตัวลง 0.2% เทียบดอลลาร์

 

สหรัฐ สู่ระดับ 1.0558 ดอลลาร์

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ก.พ.) โดยปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน หลังเงิน

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเงิน

 

ดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำให้ทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นๆ จึงดึงดูดใจนักลงทุนมากขึ้น

 

- ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสสหรัฐในคืนวันอังคารที่

 

28 ก.พ. หรือตรงกับช่วงเช้าของวันพุธที่ 1 มี.ค.ตามเวลาไทย โดยคาดว่าเขาจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการปรับลด

 

อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลในวันดังกล่าว นอกจากมาตรการปฏิรูปภาษีแล้ว นักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่า

 

ปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการสาธารณูปโภคในวันดังกล่าวเช่นกัน

 

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2608375

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

NationTV22

 

 

NationTV22

 

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

NOW26

 

 

HSHsocial

 

 

YLGResearch

 

ทีนิวส์ออนไลน์

 

 

NOW26

 

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 07:46:17 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 ก.พ.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) โดยดาวโจนส์ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 12 หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า เขาจะเปิดเผยถึงการลงทุนครั้งใหญ่ในโครงการสาธารณูปโภค ในการแถลงต่อสภาคองเกรสในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ปรับตัวขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค.

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,837.44 จุด เพิ่มขึ้น 15.68 จุด หรือ +0.08% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,861.90 จุด เพิ่มขึ้น 16.59 จุด หรือ +0.28% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,369.75 จุด เพิ่มขึ้น 2.41 จุด หรือ +0.10%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสสหรัฐในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่มีกระแสคาดการณ์ว่า ทรัมป์จะประกาศแผนปรับลดภาษีครั้งใหญ่และกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 369.52 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,845.18 จุด ลดลง 0.06 จุด หรือ 0.00% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,822.67 จุด เพิ่มขึ้น 18.64 จุด หรือ +0.16% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,253.00 จุด เพิ่มขึ้น 9.30 จุด หรือ +0.13%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) ด้วยแรงหนุนจากการที่สกุลเงินปอนด์ร่วงลง อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของหุ้นบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างบริษัทลอนดอน สต็อก เอ็กซ์เชนจ์ กรุ๊ป และไดเร็กต์ ไลน์ อินซัวแรนซ์ ได้ฉุดดัชนี FTSE 100 ลดช่วงบวกลง

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 9.30 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 7,253.00 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) หลังจากมีรายงานว่า นักลงทุนยังคงมีความเชื่อมั่นในการลงทุนในตลาดน้ำมัน รวมทั้งรายงานที่ว่าการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับตัวลดลงในเดือนม.ค.

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 54.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 55.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) โดยทองคำปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ ขณะที่นักลงทุนจับตาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะแถลงต่อสภาคองเกรสในคืนวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 1,258.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.1 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 18.417 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 10.2 ดอลลาร์ หรือ 0.99% ปิดที่ 1,038.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 12.05 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 785 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) ด้วยแรงหนุนจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส ที่ระบุว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ เพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินการที่ล่าช้าเกินไปในการสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่งในบางรายการ

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.83 เยนจากระดับ 112.13 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0098 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0072 ฟรังก์สวิส

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0582 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0563 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2434 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2456 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7671 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7676 ดอลลาร์

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,369.75 จุด เพิ่มขึ้น 2.41 จุด, +0.10%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,861.90 จุด เพิ่มขึ้น 16.59 จุด, +0.28%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 20,837.44 จุด เพิ่มขึ้น 15.68 จุด, +0.08%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,845.18 จุด ลดลง 0.06 จุด, 0.00%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,822.67 จุด เพิ่มขึ้น 18.64 จุด, +0.16%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,253.00 จุด เพิ่มขึ้น 9.30 จุด, +0.13%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,812.88 จุด ลดลง 80.09 จุด, -0.28%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,693.84 จุด ลดลง 4.51 จุด, -0.27%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,108.62 จุด ลดลง 8.41 จุด, -0.27%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,382.87 จุด ลดลง 3.04 จุด, -0.06%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,925.05 จุด ลดลง 40.65 จุด, -0.17%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 717.44 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด, +0.42%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,232.47 จุด ลดลง 26.52 จุด, -0.37%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,228.66 จุด ลดลง 24.77 จุด, -0.76%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,085.52 จุด ลดลง 8.60 จุด, -0.41%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,107.47 จุด ลดลง 176.07 จุด, -0.91%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,724.20 จุด ลดลง 14.80 จุด, -0.26%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,773.80 จุด ลดลง 13.10 จุด, -0.23%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 50 เซนต์ ตลาดจับตาทรัมป์แถลงคองเกรส

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 07:19:16 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) โดยทองคำปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ ขณะที่นักลงทุนจับตาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะแถลงต่อสภาคองเกรสในคืนวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 1,258.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.1 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 18.417 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 10.2 ดอลลาร์ หรือ 0.99% ปิดที่ 1,038.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 12.05 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 785 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนจับตาปธน.ทรัมป์ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสสหรัฐในคืนวันนี้เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพุธเวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลในการแถลงต่อสภาคองเกรส

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ปธน.ทรัมป์ระบุว่า เขาจะประกาศแผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ "ในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า" ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า การกล่าวปราศรัยของปธน.ทรัมป์ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 28 ก.พ.จะตรงกับช่วงเวลา 2-3 สัปดาห์ที่เขาได้สัญญาไว้

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาทางการสหรัฐจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2559 (ประมาณการครั้งที่ 2) ในวันนี้ และจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์นี้

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2608772

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2608973

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบเงินสกุลหลัก รับถ้อยแถลงประธานเฟดดัลลัส-ข้อมูลเศรษฐกิจ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 07:06:48 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) ด้วยแรงหนุนจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส ที่ระบุว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ เพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินการที่ล่าช้าเกินไปในการสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่งในบางรายการ

 

 

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.83 เยนจากระดับ 112.13 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0098 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0072 ฟรังก์สวิส

 

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0582 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0563 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2434 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2456 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7671 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7676 ดอลลาร์

 

นักวิเคราะห์มองว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดเงินนิวยอร์กเมื่อวานนี้ได้ปัจจัยหนุนจากการที่นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส ได้ส่งสัญญาณสนับสนุนให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

 

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนบางส่วนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ฟื้นตัวขึ้นในเดือนม.ค. โดยปรับตัวขึ้น 1.8% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7%

 

นักลงทุนจับตาดูประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ซึ่งเตรียมจะเปิดเผยแผนการลงทุนครั้งใหญ่ในโครงการสาธารณูปโภค ในการแถลงต่อสภาคองเกรสในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2559 (ประมาณการครั้งที่ 2), ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ไตรมาส 4/2559 , สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนม.ค., ราคาบ้านเดือนธ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก Conference Board

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2608771

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 15.68 จุด ตลาดจับตาทรัมป์แถลงคองเกรส

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 06:33:18 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) โดยดาวโจนส์ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 12 หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า เขาจะเปิดเผยถึงการลงทุนครั้งใหญ่ในโครงการสาธารณูปโภค ในการแถลงต่อสภาคองเกรสในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ปรับตัวขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค.

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,837.44 จุด เพิ่มขึ้น 15.68 จุด หรือ +0.08% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,861.90 จุด เพิ่มขึ้น 16.59 จุด หรือ +0.28% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,369.75 จุด เพิ่มขึ้น 2.41 จุด หรือ +0.10%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากทรัมป์ได้กล่าวต่อบรรดาผู้ว่าการรัฐของสหรัฐเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างรวดเร็วในการปฏิรูปกฎระเบียบต่างๆ ขณะที่การแถลงต่อสภาคองเกรสในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เขาจะเปิดเผยถึงการลงทุนครั้งใหญ่ในโครงการสาธารณูปโภค

 

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์จะกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสสหรัฐในคืนวันนี้เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพุธเวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย

 

ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวต่อผู้ว่าการรัฐของสหรัฐด้วย เขาจะยื่นงบประมาณฉบับใหม่ในเดือนหน้า ซึ่งจะเป็นงบประมาณที่สร้างความปลอดภัยแก่ประชาชน และสร้างความมั่นคงต่อชาติ โดยเขาจะอัดฉีดงบประมาณเพิ่มเติมแก่กระทรวงกลาโหม

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ฟื้นตัวขึ้นในเดือนม.ค. โดยปรับตัวขึ้น 1.8% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7%

 

หุ้นกลุ่มบริษัทที่จำหน่ายยุทธปัจจัยทางทหารปรับตัวขึ้น หลังจากมีรายงานว่าปธน.ทรัมป์เตรียมเพิ่มงบประมาณสำหรับกระทรวงกลาโหมอีก 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในร่างงบประมาณฉบับแรกของเขา

 

ทั้งนี้ หุ้นล็อคฮีด มาร์ติน พุ่งขึ้นกว่า 1% ส่วนหุ้นนอร์ทธรอป กรัมแมน หุ้นโบอิ้ง และหุ้นเรย์เธียน ต่างก็พุ่งขึ้นมากกว่า 1% เช่นกัน

 

หุ้นเบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ ของนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ปรับตัวขึ้นกว่า 2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 15%

 

หุ้นไลออนส์เกท เอนเตอร์เทนเมนท์ คอร์ป ปิดลบ 0.5% หลังจากภาพยนตร์เรื่อง "La La Land" กวาดรางวัลออสการ์หลายรายการ ซึ่งรวมถึงเอ็มมา สโตน ที่คว้ารางวัลดารานำหญิงยอดเยี่ยม แต่เนื่องจากความผิดพลาดในการประกาศรางวัล ทำให้รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมตกเป็นของ "Moonlight"

 

นอกเหนือจากการจับตาดูถ้อยแถลงของทรัมป์ในสภาคองเกรสแล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2559 (ประมาณการครั้งที่ 2), ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ไตรมาส 4/2559 , สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนม.ค., ราคาบ้านเดือนธ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก Conference Board

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2608765

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ จับตาตัวเลขศก.เดือนม.ค.ของไทย,รอดูทรัมป์แถลงต่อสภาคองเกรส

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 09:30:50 น.

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยเช้านี้จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แม้ดัชนีดาวโจนส์จะยังคงทำสถิติปิดสูงสุดใหม่ติดต่อกันก็ตาม แต่ตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ยังเคลื่อนไหวกรอบแคบทั้งในแดนบวกและลบ ขณะที่ตลาดยังรอดูการแถลงต่อสภาคองเกรส ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐในคืนวันนี้ (ตรงกับช่วงเช้าวันพุธเวลา 9.00 น.ตามเวลาไทย) ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดเผยเรื่องแผนปฏิรูปภาษี,สาธารณสุข,โครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น

 

 

 

ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ยังต้องจับตาการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเดือนม.ค.ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ในวันนี้ ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะออกมาตามคาด หรือดีกว่าคาด รวมถึงยังต้องติดตามเรื่องการลงทุนในโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) หลังเมื่อสัปดาห์ก่อนมีการเปิดเผยว่ากระทรวงการคลังจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณามาตรการภาษีการลงทุนใน EEC ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบจากการที่เม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ ที่ยังไม่มีความชัดเจนมากนัก รวมถึงการเลื่อนการประกาศผลผู้มีสิทธิในการเสนอราคาโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง

 

พร้อมมองแนวรับบริเวณ 1,553 และ 1,546 จุด ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 1,570 และ 1,575

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (27 ก.พ.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,837.44 จุด เพิ่มขึ้น 15.68 จุด (+0.08%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,861.90 จุด ปรับขึ้น 16.59 จุด (+0.28%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,369.75 จุด เพิ่มขึ้น 2.41 จุด (+0.10%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 87.21 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.69 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 27.59 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.74 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 13.14 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.74 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 7.17 จุด ส่วนตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันรำลึกสันติภาพ

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 ก.พ.60) 1,558.03 จุด ลดลง 6.56 จุด (-0.42%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 700.19 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ก.พ.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (27 ก.พ.60) ปิดที่ 54.05 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.1%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 ก.พ.60) ที่ 6.40 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 34.85/87 แนวโน้มแกว่งแคบ ตลาดรอดูการแถลงนโยบาย"ทรัมป์"ต่อสภาคองเกรส

 

- พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมสภานโยบายวิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณามาตรการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของประเทศด้วยการให้บริษัทที่มีการรวมตัวกันทำการวิจัยและพัฒนาสามารถขอลดหย่อนภาษีนิติบุคคลได้ 300% หรือ 3 เท่าของวงเงินที่มีการใช้จ่ายเพื่อการวิจัยและพัฒนาต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปี 2560-2563

 

- นายกรัฐมนตรี สั่งยกเลิกผลการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ เน้นทำใหม่ให้โปร่งใสประชาชนมีส่วนร่วม

 

- นายกรัฐมนตรีส่งสัญญาณเลื่อนโรดแมป ถ้ามีอะไรมาขัดขวางการทำงานของรัฐบาล เตรียมคิกออฟแผนปฏิรูป-ปรองดอง 2 มี.ค.นี้ ทูตสหรัฐฯ พบพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ช่วยลุ้นให้ชาวบ้านร่วมแผนสู่ประชาธิปไตย

 

- "พาณิชย์" ปลื้มมูลค่าส่งออกเดือน ม.ค.60 โต 8.83% เป็นบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เหตุส่งออกสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมดีขึ้น มั่นใจทั้งปีโตตามเป้า 5% ด้าน สศค.มองต่างมุมอย่างเก่งแค่ 2.5% ส่วนภาวะเศรษฐกิจไทยเดือน ม.ค.60 ยังแข็งแกร่ง

 

- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา มีมูลค่า 17,099.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.8% นับเป็นการขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่องเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ตั้งแต่เดือน พ.ย. 59 และยังเป็นมูลค่าการค้าที่กลับมาเป็นปกติ

 

- รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าปลายปีนี้ไทยน่าจะได้รับการปลดธงแดงมาตรฐานการบินจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) โดยจะเร่งตรวจสอบผู้ประกอบการที่เหลืออีก 22 สายการบิน และออกใบรับรองเอโอซีให้เร็วที่สุด พร้อมเตรียมยื่นเรื่องให้ไอเคโอเข้ามาตรวจสอบสายการบินในไทย

 

- ตลาดหลักทรัพย์หารือก.ล.ต. กำหนดเกณฑ์ ตลาดสตาร์ทอัพ คาดสรุปได้ภายในเดือน มี.ค. เบื้องต้นเคาะคุณสมบัติต้องเป็นบริษัทจำกัด-งบการเงินเดียว คาดเริ่มให้บริการได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้

 

- 14 บลจ.ตั้งโครงการ "กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย" ตัดเงินค่าฟี 40% บริจาคองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ตลท. เผยเตรียมเปิดกระดานเทรดสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี แยกจาก SET และ mai

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- QH (ทรีนีตี้) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 3.40 บาท โดยยังคงประมาณการรายได้ปี 2560 ที่ระดับเดิมที่ 2.24 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 3.22 พันล้านบาท โดยมียอด Backlog ที่รอโอนในปี 2560 ที่ 3.1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนของคอนโดทั้งหมด และมีโครงการใน Inventory ที่พร้อมขายอยู่ที่ 9 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนของโครงการแนวราบที่ 5.8 พันล้านบาท และคอนโดที่ 3.2 พันล้านบาท ที่จะมาช่วยสนับสนุนรายได้ ขณะที่ราคาหุ้นยังถูก เมื่อเทียบกับ Valuation โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก เป็นราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่รวมการลงทุน ,เน้นโครงการทาวน์โฮมที่มี Real Demand อยู่มาก ,เน้น Product inventory management ,การปรับปรุงรูปลักษณ์โครงการที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ มากขึ้น และประกาศจ่ายปันผลที่ 0.08 บาท สำหรับ 2H59 ส่งผลให้ปันผลรวมทั้งปีที่ 0.15 บาท โดยจะขึ้น XD วันที่ 24 เม.ย. 2560

 

- KKP (ธนชาต) แนะ"ซื้อ"ปรับเป้าหมายพื้นฐานขึ้นเป็น 75 บาท มองสินเชื่อกลับมาเติบโตปีนี้ และการบริหารต้นทุนที่ดีทำให้ KKP สามารถรับมือกับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นได้ดี นอกจากนี้การบริหารเงินทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ปรับ dividend payout เพิ่มเป็น 80-86% ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ส่งผลให้ Dividend yield ปี 2560 จะอยู่ที่ 9.1% หรือ 6.03 บาท/หุ้น โดยไม่ทำให้เงินกองทุนฯ ต่ำกว่า 15% ขณะทีทางเทคนิคตาม Trade Code อยู่ที่ Let Profit Run เป้าหมาย 67.5/71.25 บาท

 

- CPF (ทรีนีตี้) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 33 บาท ขณะที่ประกาศ CPF ประกาศกำไร 4Q59 ที่ 1,738 ล้านบาท ลดลง 66%QoQ และ 12%YoY หากคิดเป็นกำไรปกติจะอยู่ที่ 2,620 ล้านบาท ลดลง 48% QoQ แต่ฟื้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน ถือว่าดีกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า

 

ส่วนแนวโน้มธุรกิจปี 60 ผู้บริหารตั้งเป้าจะเพิ่มยอดขายราว 8-10% โดยธุรกิจหมูในประเทศที่มีกำไรดีติดต่อกันมาหลายปีนั้น อาจเริ่มแผ่วลง จากราคาหมูในช่วงต้นปียังอยู่ในระดับต่ำที่ราว 60 บาท/กก. (จากค่าเฉลี่ยปีก่อนที่ 68.5 บาท/กก.) ขณะเดียวกันธุรกิจไก่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยราคาไก่ในช่วงต้นปีปรับตัวมาอยู่ที่ 38-40 บาท/กก. (จากค่าเฉลี่ยปีก่อนที่ 36.4 บาท/กก.) และยังมีแนวโน้มขึ้นต่อเนื่อง จากปริมาณส่งออกที่คาดว่าจะสูงขึ้น เนื่องจากหลายประเทศจะเพิ่มการนำเข้า หลังผลผลิตได้รับผลกระทบจากไข้หวัดนก นอกจากนี้ยังคาดต้นทุนอาหารสัตว์จะลดลงจากปีก่อน ซึ่งจะช่วยชดเชยธุรกิจหมูที่แผ่วลงได้ โดยคาดกำไรปกติปี 60 ที่ 13,287 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 2%YoY

 

--อินโฟเควสท์ โดย วิลาวัลย์ พงษ์พิทักษ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2609053

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.85/87 แนวโน้มแกว่งแคบ ตลาดรอดูการแถลงนโยบายทรัมป์ต่อสภาคองเกรส

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 09:15:46 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 34.85/87 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น

 

 

 

วานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 34.86 บาท/ดอลลาร์

"คาดว่าวันนี้เงินบาทคงจะมีทิศทางแกว่งในกรอบแคบๆต่อไป รอดู"ทรัมป์"ที่จะออกมาแถลงนโยบายต่อสภาคองเกรสช่วง

 

ดึกๆ คืนนี้ของบ้านเรา"นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.80 บาท/ดอลลาร์ แนวต้านแรก 34.90 บาท/ดอลลาร์

 

แนวต้านถัดไป 35.95 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.55 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 112.21 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0585 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0580 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.8630 บาท/

 

ดอลลาร์

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อีมันนี่) ที่ให้บริการการชำระเงินทาง

 

อิเล็กทรอนิกส์ (อี-เพย์เมนต์) อีกประเภท ที่ผู้ให้บริการที่เป็นธนาคารพาณิชย์ และมิใช่สถาบันการเงิน (นันแบงก์) ต้องรายงานต่อ

 

ธปท. ล่าสุด ณ สิ้นเดือน พ.ย. 2559 พบว่า อีมันนี่ขยายตัวสูงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน โดยมีมูลค่าการใช้จ่ายรวม

 

เพิ่ม 2,872 ล้านบาท หรือ 50.67% จาก 5,668 ล้านบาท เพิ่มเป็น 8,540 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าการใช้จ่ายผ่านผู้ให้บริการที่

 

เป็นนันแบงก์ 7,951 ล้านบาท และผ่านธนาคารพาณิชย์ 588 ล้านบาท

- สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เปิดเผยว่า ทางสำนักงานจะคุมเข้มการกำกับตลาดปริวรรตเงิน

 

ตราในปีนี้ โดยเพิ่มความโปร่งใสของนโยบาย และสนับสนุนการเปิดตลาดการเงินต่อไป

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่

 

ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ฟื้นตัวขึ้นในเดือนม.ค. โดยปรับตัวขึ้น 1.8% หลังจากร่วงลง 0.8% ในเดือนธ.ค.

 

- นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส กล่าวในวันนี้ว่า เฟดอาจจำเป็นที่จะต้อง

 

ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ เพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินการที่ล่าช้าเกินไปในการสกัดเงินเฟ้อ

 

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27

 

ก.พ.) ด้วยแรงหนุนจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส ที่ระบุว่า เฟดอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตรา

 

ดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ เพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินการที่ล่าช้าเกินไปในการสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูล

 

เศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่งในบางรายการ โดยดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.83 เยนจากระดับ 112.13 เย

 

น ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0582 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0563 ดอลลาร์

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ก.พ.) โดยทองคำปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ ขณะที่นักลงทุน

 

จับตาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะแถลงต่อสภาคองเกรสในคืนวันนี้ตามเวลาสหรัฐ

- นักลงทุนจับตาดูประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ซึ่งเตรียมจะกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสสหรัฐในคืนวันนี้

 

เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพุธเวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย โดยคาดว่า ทรัมป์จะเปิดเผยราย

 

ละเอียดเกี่ยวกับมาตรการปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคลในวันดังกล่าว

 

- นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตร

 

มาส 4/2559 (ประมาณการครั้งที่ 2), ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ไตรมาส 4/2559 , สต็อกสินค้าคง

 

คลังภาคค้าส่งเดือนม.ค., ราคาบ้านเดือนธ.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก Conference

 

Board

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2609036

 

 

 

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 09:43:30 น.

กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยทำจุดสูงสุดแถวระดับ 1,263 เหรียญโดยประมาณ ก่อนจะมีแรงเทขายทำกำไร ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาแถวระดับ 1,252 เหรียญ โดยเมื่อคืนนี้ปิดตลาดCOMEX ที่ระดับ 1,258.8 เหรียญ สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ออกมาผสมผสานกัน โดยข้อมูลยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders) จะออกมาดีกว่าที่คาดที่ระดับ 1.8% ในเดือนมกราคม แต่ข้อมูลยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่รวมภาคการขนส่ง (Core Durable Goods Orders) ออกมาแย่กว่าที่คาดแตะระดับ -0.2% จากระดับเดิมในเดือนก่อนหน้า 0.9% ประกอบกับยอดขายบ้านที่รออนุมัติปิดการขายก็ออกมาแย่กว่าที่คาดอย่างมากแตะระดับ -2.8% ในเดือนมกราคม จากระดับ 0.8% ด้านค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวแถวระดับ 101.14 จุดในเช้าวันนี้ สำหรับดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง และทำสถิติใหม่ที่ระดับ 20,837.44 จุดเมื่อคืนนี้ ด้านค่าเงินบาททรงตัวที่ระดับ 35.86 – 35.88 บาท/ดอลลาร์ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ คืนนี้ ที่ต้องจับตาได้แก่ Prelim GDP ที่คาดว่าจะดีขึ้น รวมทั้งสิ่งสำคัญที่ตลาดจับตามากที่สุด ได้แก่ ถ้อยแถลงของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต่อสภาคองเกรส ในช่วงเวลาประมาณ 09.00 – 10.30น. ตามเวลาไทยในวันพรุ่งนี้ ซึ่งตลาดโดยทั่วไปยังคาดว่าน่าจะยังมีความไม่ชัดเจนของเนื้อหา

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิคราคาทองคำยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น หลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นทะลุ 1,250 เหรียญขึ้นมา โดยที่มีแรงเทขายทำกำไรเป็นช่วงๆ โดยภาพรวมยังเป็นขาขึ้นและจะมีแนวต้านของทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,280 เหรียญ ขณะที่แนวรับที่ระดับ 1,245 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยมีแนวรับ 20,500 บาท/บาททองคำ และแนวต้านที่ระดับ 20,800 บาท/บาททองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

กลยุทธ์ทิศทางขาขึ้น เช้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวบริเวณแนวรับ 1,250 – 1,245 เหรียญ

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

เข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวบริเวณแนวรับ และปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

หาจังหวะปิดสถานะ Short เพื่อลดความเสี่ยง

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

บริหารพอร์ตสมดุล หาจังหวะทยอยเปิดสถานะบริเวณแนวรับ และมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,280 เหรียญ และ 1,300 เหรียญตามลำดับ

 

Gold Futures J17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,770 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,970 บาท

Gold Futures M17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,820 บาท และแนวต้านที่ระดับ 21,020 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2609035

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...