ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

สวัสดีและขอบคุณมากค่ะ ginger news chez bmw bas+trader+น้องบีม ต่ายทอง ย่าหยา พี่มดแดง พี่แสงแดด goldtoy fung กบจ้า

ปุยเมฆ ตังเม เด็กสยาม wann put Mr.Li auntnextdoor gejen Pa'ree Aiya Pasaya เกี้ยมอี๋ กัปตัน และทุกๆคนค่ะ

โชคดี สุขกาย สบายใจ มีกำไรค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
สวัสดีและขอบคุณมากค่ะ ginger news chez bmw bas+trader+น้องบีม ต่ายทอง ย่าหยา พี่มดแดง พี่แสงแดด goldtoy fung กบจ้า ปุยเมฆ ตังเม เด็กสยาม wann put Mr.Li auntnextdoor gejen Pa'ree Aiya Pasaya เกี้ยมอี๋ กัปตัน และทุกๆคนค่ะ โชคดี สุขกาย สบายใจ มีกำไรค่ะ

 

YLG เจาะลึกเศรษฐกิจ

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลล์แข็งค่าแตะ 83 เยนเช้านี้จากคาดการณ์บีโอเจผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 11:04:21 น.

ดอลลาร์แข็งค่าเหนือ 83 เยนเล็กน้อย ในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว ซึ่งเป็นการแข็งค่าสูงสุดเมื่อเทียบเยน นับตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. โดยขยายช่วงบวกต่อเนื่องจากเมื่อคืนนี้ จากกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจออกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม

เมื่อเที่ยงวันนี้ตามเวลาในญี่ปุ่น ดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ 83.43-83.48 เยน เมื่อเทียบกับ 83.22-83.32 เยนที่ตลาดนิวยอร์กและ 82.78-82.80 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้

ทางด้านยูโรอยู่ที่ 1.3063-1.3067 ดอลลาร์ และ 108.98-109.00 เยน เมื่อเทียบกับ 1.3068-1.3078 ดอลลาร์ และ 108.81-108.91 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.3003-1.3005 ดอลลาร์ และ 107.64-107.68 เยนที่ตลาดโตเกียวในเย็นวานนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

emnb_18_18900.gif?1676705179emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

(เพิ่มเติม) ดอลล์แข็งค่าแตะ 83 เยนเช้านี้จากคาดการณ์บีโอเจผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 11:25:38 น.

ดอลลาร์แข็งค่าเหนือ 83 เยนเล็กน้อย ในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว ซึ่งเป็นการแข็งค่าสูงสุดเมื่อเทียบเยน นับตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. โดยขยายช่วงบวกต่อเนื่องจากเมื่อคืนนี้ จากกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจออกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม

เมื่อเที่ยงวันนี้ตามเวลาในญี่ปุ่น ดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ 83.43-83.48 เยน เมื่อเทียบกับ 83.22-83.32 เยนที่ตลาดนิวยอร์กและ 82.78-82.80 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้emnb_18_18900.gif?696012718emnb_1_370236.gif

ทางด้านยูโรอยู่ที่ 1.3063-1.3067 ดอลลาร์ และ 108.98-109.00 เยน เมื่อเทียบกับ 1.3068-1.3078 ดอลลาร์ และ 108.81-108.91 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.3003-1.3005 ดอลลาร์ และ 107.64-107.68 เยนที่ตลาดโตเกียวในเย็นวานนี้

ดีลเลอร์กล่าวว่า ดอลลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะราว 83.45 เยนในช่วงหนึ่ง จากกระแสคาดการณ์ว่าพรรคเสรีประชาธิปไตยญี่ปุ่น (แอลดีพี) ซึ่งผลักดันการผ่อนคลายทางการเงินในเชิงรุกนั้น จะชนะการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์นี้

ดีลเลอร์ระบุว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประกาศว่าจะขยายโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์อีก 4.5 หมื่นดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งสอดคล้องกับกระแสคาดการณ์ของนักลงทุนในตลาด

ทางด้านยูโรทรงตัวต่อเนื่องเหนือระดับ 109 เยนในช่วงหนึ่ง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย. เนื่องจากเทรดเดอร์ต้องการสกุลเงินที่มีความเสี่ยงสูง หลังจากคลายความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจยูโรโซน และจากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการผ่อนคลายทางการเงินของบีโอเจ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

IEA คาดอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกโลกเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4 ปีนี้

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 11:30:00 น.

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 90.5 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาส 4 ปีนี้ มากกว่าที่คาดการณ์ในเดือนที่แล้วอยู่ 4.35 แสนบาร์เรล/วัน

IEA ระบุในรายงานตลาดน้ำมัน (OMR) รายเดือนฉบับล่าสุด ซึ่งเสนอมุมมองด้านสถานการณ์ตลาดน้ำมันโลกและคาดการณ์ภาวะอุปสงค์อุปทานใน 12-18 เดือนข้างหน้า ว่าการคาดการณ์ที่สูงขึ้นเป็นผลจากความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในจีน และจากการอิงข้อมูลอุปสงค์เบื้องต้นในเดือนต.ค.ซึ่งแข็งแกร่งเกินคาดemnb_18_18900.gif?705356823

อย่างไรก็ตาม IEA คาดการณ์ว่า ความเสี่ยงอุปสงค์ยังคงท้าท้ายตลาดน้ำมัน เนื่องจาก"การขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกยังคงเชื่องช้า" สำหรับแนวโน้มการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในปี 2556 ยังคงค่อนข้างซบเซา ที่ระดับ 900,000 บาร์เรล/วัน

ทางด้านปริมาณการผลิตน้ำมัน IEA ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันนอกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) กลับมาดีดขึ้น 7 แสนบาร์เรล/วันในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับเดือนก่อน สู่ระดับ 54 ล้านบาเรล/วัน หลังบ่อผลิตน้ำมันในทะเลเหนือและบราซิลดำเนินการผลิตอีกครั้งหลังการปิดปรับปรุง

ทั้งนี้ IEA ยังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐ เนื่องจากผลผลิตน้ำมันสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน และจะทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม OPEC เพิ่มขึ้น 9 แสนบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 54.2 ล้านบาร์เรล/วันในปี 2556 ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2553 สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

ราคาน้ำมัน WTI ลด 38 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 10:51:12 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนม.ค.ปรับลง 38 เซนต์ แตะที่ 86.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ธ.ค. เพิ่มขึ้น 843,000 บาร์เรล แตะที่ 372.6 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 2.2 ล้านบาร์เรล

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หลังจากเฟดประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 4 (QE4) โดยระบุว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรอบใหม่ในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นพิเศษที่ 0-0.25% ไปจนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่า 6.5%

 

 

 

 

 

 

emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฮอนด้าเรียกคืนรถยนต์ SUV ในสหรัฐจำนวน 807,000 คัน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 13:15:42 น.

สื่อท้องถิ่นสหรัฐรายงานว่า บริษัทฮอนด้า มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น ประกาศว่าบริษัทอยู่ระหว่างการเรียกคืนรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) ในสหรัฐอเมริกา จำนวน 807,000 คัน เนื่องจากพบปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ของรถยนต์ดังกล่าว

ฮอนด้าระบุว่าการดำเนินการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ทดสอบระดับแอลกอฮอล์ที่มีความบกพร่อง โดยระบุว่าชิ้นส่วนของอุปกรณ์ดังกล่าวอาจจะได้รับความเสียหายหรือเสื่อมสภาพ ซึ่งจะทำให้ตัวล็อคหลุดออก แม้ว่าจะไม่ได้ปลดเกียร์มาอยู่ที่ตำแหน่งจอดรถก็ตามemnb_1_370236.gif

โดยรถยนต์ที่มีปัญหา ได้แก่ Honda Odyssey จำนวน 318,000 คัน, Honda Pilot รุ่นปี 2546-2547 จำนวน 259,000 คัน และ Acura MDX รุ่นปี 2546-2549 จำนวน 230,000 คัน

หน่วยงานด้านความปลอดภัยของสหรัฐได้เริ่มตรวจสอบรถยนต์ Honda Odyssey และ Honda Pilot รุ่นปี 2546-2547 ในช่วงต้นเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา เพราะได้รับร้องเรียนจากผู้ใช้เกี่ยวกับสวิตช์กุญแจ

ทั้งนี้ คาดว่าฮอนด้าจะเรียกคืนรถยนต์ทั่วโลกจำนวน 871,000 คันในครั้งนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

 

รมว.คลังฝรั่งเศสเผยรมว.คลังอียูบรรลุข้อตกลงกำกับดูแลภาคธนาคาร

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 12:10:53 น.

นายปิแอร์ มอสโควิซี รมว.คลังฝรั่งเศส กล่าวว่าในเช้าวันนี้ บรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซนได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกลไกกำกับดูแลภาคธนาคารที่เป็นหนึ่งเดียว ร่วมกับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินการดังกล่าว

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แถลงการณ์ดังกล่าว ซึ่งมีขึ้นหลังการประชุมรัฐมนตรีคลังสหภาพยุโรป (อียู) ได้ยืนยันรายงานก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าอียูได้ดำเนินการก้าวแรกที่มีความสำคัญในการจัดตั้งสหภาพการธนาคาร

ก่อนหน้านี้ ร่างแถลงการณ์ของการประชุมสุดยอดอียูแสดงให้เห็นว่า บรรดาผู้นำอียูจะพิจารณาความเป็นไปได้ของการสร้างระบบที่มีการรวมศูนย์มากขึ้นในการกำกับดูและภาคธนาคารและการปฏิรูปทางการคลังเมื่อมีการประชุมสุดยอดเป็นเวลา 2 วัน ซึ่งเปิดฉากขึ้นในวันนี้ที่กรุงบรัสเซลส์emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดเช้าบวก 0.71 จุด แกว่งไซต์เวย์-เกิด Sell on fact หลังสหรัฐฯออก QE4

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 13:05:47 น.

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,355.28 จุด เพิ่มขึ้น 0.71 จุด(+0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 18,404.82 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,360.23 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,350.55 จุด

นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซต์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากตลาดฯได้ปรับตัวขึ้นมารับข่าวเรื่องมาตรการ QE ของสหรัฐฯไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว วันนี้จึงมี Sell on fact ออกมาบ้างemnb_18_21074.gif?930215043

ทั้งนี้ มาตรการ Operation Twist จะหมดอายุลงในสิ้นปีนี้ ดังนั้นทางสหรัฐฯจึงได้ออกมาตรการ QE4 ด้วยการจะเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว ทำให้มีเม็ดเงินที่จะไหลเข้าระบบประมาณ 85,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อเดือน และจากนี้ไปก็คงจะต้องมาติดตามดูการแก้ปัญหา Fiscal Cliff มากขึ้น เพราะขณะนี้ยังตกลงกันไม่ได้

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายสุรชัย กล่าวว่า ตลาดฯคงแกว่งไซต์เวย์ขึ้น/ลงคงจะไม่มาก พร้อมให้กรอบการแกว่งตัวไว้ที่ 1,350-1,360 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 835.02 ล้านบาท ปิดที่ 331.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

SCB มูลค่าการซื้อขาย 719.43 ล้านบาท ปิดที่ 176.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

SCC มูลค่าการซื้อขาย 704.34 ล้านบาท ปิดที่ 420.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

CPF มูลค่าการซื้อขาย 580.41 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 576.64 ล้านบาท ปิดที่ 157.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th-

 

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นบ่ายนี้ ขณะหุ้นส่งออกญี่ปุ่นพุ่งหลังเยนอ่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 12:18:27 น.

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นบ่ายนี้ เนื่องจากหุ้นบริษัทส่งออกของญี่ปุ่นดีดตัวขึ้น หลังจากที่เงินเยนร่วงลงแตะระดับเกือบต่ำสุดในรอบ 9 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์

ดัชนี MSCI Asia Pacific Index บวก 0.4% แตะ 127.44 เมื่อเวลา 13.18 น.ตามเวลากรุงโตเกียว

หุ้นแคนนอน บวก 2.9% ในตลาดหุ้นโตเกียว เนื่องจากเงินเยนอ่อนค่าลงและช่วยสนับสนุนแนวโน้มหุ้นกลุ่มส่งออก ส่วนหุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป บวก 2.4% ขณะที่หุ้นฉีเหม่ย อินโนลักซ์ คอร์ป พุ่ง 6.9% ขานรับรายงานที่ว่า บริษัทจะสามารถทำกำไรได้ในปีหน้า เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นemnb_18_18900.gif?1876674356emnb_1_370235.gif

ดอลลาร์แข็งค่าเหนือ 83 เยนเล็กน้อย ในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียว ซึ่งเป็นการแข็งค่าสูงสุดเมื่อเทียบเยน นับตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. โดยขยายช่วงบวกต่อเนื่องจากเมื่อคืนนี้ จากกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจออกนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม

เมื่อเที่ยงวันนี้ตามเวลาในญี่ปุ่น ดอลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ 83.43-83.48 เยน เมื่อเทียบกับ 83.22-83.32 เยนที่ตลาดนิวยอร์กและ 82.78-82.80 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นออสเตรเลีย: S&P/ASX 200 ปิดลบเล็กน้อย เหตุตลาดไร้ปัจจัย

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 12:33:47 น.

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้ขยับลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนขาดปัจจัยชี้นำหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐให้คำมั่นว่า จะยังคงอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ

ดัชนี S&P/ASX 200 ขยับลง 1.00 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 4,582.80 จุด ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดวันนี้ที่ 4,592.90 จุด เพิ่มขึ้น 1.10 จุด

หุ้นกลุ่มวัสดุดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง หุ้นพลังงานบวก 0.2% แต่หุ้นการเงินอ่อนตัวลง 0.1%emnb_18_21074.gif?915694772

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นไต้หวัน: เวทเต็ดปิดบวก 66.90 จุด ขานรับเฟดประกาศใช้ QE4

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 12:58:14 น.

ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค ที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 4 (QE4)

ดัชนีเวทเต็ดเพิ่มขึ้น 66.90 จุด หรือ 0.86% ปิดที่ 7,757.09 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนemnb_18_18900.gif?1474834052emnb_1_370235.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง: ฮั่งเส็งปิดเช้าขยับลง 0.35 จุด ต่อเนื่องจากช่วงเปิดตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 11:16:56 น.

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดเช้าลดลงเพียงเล็กน้อยเช่นเดียวกับช่วงเปิดตลาด เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีฮั่งเส็งทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือนเมื่อวานนี้ แต่ภาวะการซื้อขายโดยรวมได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 4 (QE4)

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งขยับลง 0.35 จุด ปิดภาคเช้าที่ 22,503.00 จุดemnb_18_18900.gif?1032559925emnb_1_370235.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

 

ภาวะตลาดหุ้นอินเดีย: ดัชนี Sensex เปิดบวก 48.40 จุด สอดคล้องภูมิภาค

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 11:07:27 น.

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดีย เปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น เช่นเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 4 (QE4)

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี Sensex บวก 48.40 จุด หรือ 0.25% เปิดที่ 19,403.66 จุดemnb_1_370235.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีนเงินหนาไล่ซื้อกิจการทั่วอเมริกาเหนือ

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"ตามข้อตกลงจีนจะได้เส้นทางการบินของเครือข่ายสายการบินทั่วโลกกว่า 200 สายการบินใน80ประเทศและตลาดจีนเองถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของไอแอลเอฟซี

หากไม่มีอะไรผิดพลาด บริษัทเช่าเครื่องบินรายใหญ่อันดับสองของโลกที่ชื่อว่า ไอแอลเอฟซี ซึ่งเป็นบริษัทลูกของอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป หรือ เอไอจี จะเปลี่ยนมือไปอยู่กับไต้ก๋งทุนจีนที่รวมกันซื้อเป็นมูลค่า 4.8 พันล้านดอลลาร์ หรือ 144,000 ล้านบาท ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า จะช่วยให้ตลาดเช่าเครื่องบินเหมาลำ ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วนี้ สามารถให้บริการได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญ ใครๆก็บินได้ ในราคาที่ถูกกว่าเดิม

กลุ่มทุนจีน แสดงความสนใจในธุรกิจเช่าเครื่องบินเหมาลำมาก่อนหน้านี้แล้ว และตามข้อตกลง จีน จะได้เส้นทางการบินของเครือข่ายสายการบินทั่วโลกกว่า 200 สายการบินใน 80 ประเทศ และตลาดจีนเอง ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ ไอแอลเอฟซี อยู่แล้ว โดยมีเครื่องบินจำนวน 180 ลำปฏิบัติการอยู่ เรียกว่า กินส่วนแบ่งตลาดไปแล้ว 35%

พอล เชอริแดน จากบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจการบินมองว่า ข้อตกลงระหว่างเอไอจี กับกลุ่มทุนจีนดังกล่าว ถือเป็นข้อตกลงธุรกิจเช่าเหมาลำเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุด และยังเป็นข้อตกลงที่สำคัญต่อจีน และดูรูปการณ์แล้วเชื่อว่าจีน ยังต้องสั่งซื้อเครื่องบินเพิ่มสำหรับให้บริการ นั่นหมายความว่า สายการบินจีน จะมีเครื่องบินประจำการมากขึ้น

แน่นอนว่า ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ที่สุดในโลกสองรายได้แก่ แอร์บัส ของกลุ่มธุรกิจยุโรป และโบอิ้งของสหรัฐ รีบคว้าเครื่องคิดเลขมากดดูตัวเลขเงินในอนาคตกันแล้ว ทั้งสองค่ายประเมินว่า ออเดอร์สั่งซื้อเครื่องบินโดยสารในอีก 20 ปีข้างหน้า จะมีมูลค่าราว 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ โดย 2 ใน 3 ของยอดสั่งซื้อเครื่องบินใหม่ จะมาจากประเทศในแถบเอเชีย แปซิฟิก และจีน เพียงตลาดเดียวจะมียอดสั่งซื้อมากที่สุดในแง่มูลค่า

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จีน คงสั่งซื้อทั้งจากแอร์บัส และโบอิ้ง ในมูลค่าที่เท่ากัน แน่นอนว่า ส่วนหนึ่งเป็นเหตุผลเชิงการเมือง และยังหมายความอีกด้วยว่า จีน สามารถซื้อเครื่องบินด้วยราคาที่ดีที่สุดเนื่องจากทั้งผู้โบอิ้ง และแอร์บัส ไม่ต้องห้ำหั่นกันอย่างเลือดสาด เพื่อให้ได้ยอดสั่งซื้อเหมือนกับที่ทั้งสองผู้ผลิตแข่งกันในที่อื่น ผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมการบิน ยังเห็นอีกว่า การสั่งจองเครื่องบินล่วงหน้าให้กับ ไอแอลเอฟซี จะทำให้จีน ได้เครื่องบินราคาถูกลง

อย่างไรก็ดี เอไอจี จะต้องยื่นเรื่องการเสนอซื้อ ให้คณะกรรมการด้านการลงทุนต่างประเทศของสหรัฐพิจารณาก่อน ซึ่งหน่วยงานดังกล่าว ทำหน้าที่ตรวจสอบการลงทุนของต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ

การลงทุนในบางภาคธุรกิจ ที่พบว่ามีเงินทุนจากรัฐบาลจีนหนุนหลัง เคยก่อกระแสคัดค้านเชิงการเมืองมาแล้ว แต่สำหรับธุรกิจเช่าเหมาลำนั้น ถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่อ่อนไหวน้อยกว่าการลงทุนในธุรกิจเหมืองแร่ และอุปกรณ์โทรคมนาคม

นักวิเคราะห์มองว่า เส้นทางบินของไอแอลเอฟซีในสหรัฐมีไม่มากนัก แม้จะเป็นสินทรัพย์ ที่ถือครองโดยชาวอเมริกันก็จริง แต่เครื่องบิน บินอยู่นอกน่านฟ้าสหรัฐเสียเป็นส่วนใหญ่

เหตุที่เอไอจี ต้องลดโหลดสัมภาระลงไปบ้าง ก็เพราะหลังจากโลกเผชิญกับวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ เอไอจี ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นมูลค่า 1.82 แสนล้านดอลลาร์ และยังทะยอยขายธุรกิจในเอเชีย ตามแผนเลิกกิจการ เพื่อหาเงินมาจ่ายคืนรัฐบาลสหรัฐ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐ ลดการถือหุ้นในเอไอจีลงต่ำกว่า 16%จากเดิมที่เคยถือไว้ถึง 53.4%

กลุ่มทุนจีน ที่รวมตัวกันภายใต้ชื่อ นิว ไชน่า ทรัสต์ ประกอบด้วยบาร์เคลยส์ กองทุนอุตสาหกรรมการบินจีนและพีทรี อินเวสต์เมนต์ จำกัด โดยมีเครดิตสวิส เป็นที่ปรึกษาตกลงเข้าซื้อหุ้น 80.1% ของ ไอแอลเอฟซี คิดเป็นมูลค่า 4.23 พันล้านดอลลาร์ พร้อมกับได้รับออปชั่นซื้อเพิ่มอีก 9.9% และเมื่อแผนการเข้าซื้อกิจการผ่านการรับรองด้านกฎระเบียบลงทุนแล้ว อินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ออฟไชน่า ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของจีน จะเข้ามาร่วมทุนทันที เรียกว่าทุนหนาปึก อนาคตสดใส

สำหรับบริษัท พีทรี อินเวสต์เมนต์ ชื่ออาจไม่คุ้นหู แต่ชื่อผู้บริหารคนสำคัญอย่าง วิง เฟยเอง ไม่ใช่บุคคลธรรมดา เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทพรีมัส ไฟแนนเชียล โฮลดิ้ง กองทุนแพนเอเชีย ที่เลิกกิจการไปแล้ว ย้อนรอยบริษัท ไอแอลเอฟซี ก่อตั้งโดย นักธุรกิจด้านเช่าบินเหมาลำชื่อ สตีเวน อัดวาร์ขฮาซี ก่อนที่จะขายให้เอไอจี เมื่อปี 2533 และไอแอลเอฟซี เป็นผู้ให้บริการเครื่องบินเจทที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีคู่แข่งสำคัญคือ จีคาส (GECAS) ซึ่งเป็นธุรกิจภายใต้บริษัทเจเนอรัล อีเล็กทริก หรือจีอี

การเข้าซื้อบริษัท ไอแอลเอฟซี สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุนจีน ในการเข้าไปผนวกและควบรวมกิจการนอกประเทศ และจากข้อมูล ที่รวบรวมโดยศูนย์ข้อมูลธอมป์สัน รอยเตอร์ พบว่าในปี 2555 มูลค่าเข้าซื้อธุรกิจของจีนสูงถึง 56.8 พันล้านดอลลาร์ เรียกว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 ที่จีน ออกไปตะลุยซื้อธุรกิจนอกบ้าน

ไม่ต้องย้อนถอยหลังไปไกล เพียงแค่ไม่กี่วันที่ผ่านมา แคนาดา ตกลงให้บริษัทซีนุก (CNOOC) ของจีนซื้อบริษัทเนกเซน (NEXEN) ธุรกิจพลังงานของแคนาดาด้วยมูลค่า 15.1 พันล้านดอลลาร์ และยังมีบริษัทหวังเสียง กรุ๊ป ของจีน ชนะการประมูลซื้อบริษัท เอ123 ซิสเต็มส์ อิงค์ ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่ประสบปัญหาล้มละลาย ซึ่งถือเป็นการประมูลที่มีความอ่อนไหวทางการเมือง เนื่องจากบริษัทดังกล่าวรัฐบาลสหรัฐ ให้ทุนสนับสนุนอยู่

ที่ผ่านมา เอไอจี มองหาจังหวะที่จะนำไอแอลเอฟซี เข้าตลาดสหรัฐมาพักหนึ่งแล้ว ตามแผนเพิ่มระดมทุนเพื่อหาเงินมาใช้คืนรัฐบาลสหรัฐ แต่สภาพตลาดที่เหงาหงอยทำให้แผนทำไอพีโอให้กับธุรกิจเช่าเหมาลำต้องเลื่อนไป

การขายบริษัท ไอแอลเอฟซี ดังกล่าว จะทำให้เอไอจี เหลือหุ้นอยู่ในเอไอเอ กรุ๊ป 6.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเอไอเอ เป็นหน่วยธุรกิจประกันชีวิต ที่คาดกันในวงกว้างว่าจะปล่อยขายเช่นกัน

เอไอจี แถลงว่า จะลงบันทึกขาดทุน ที่ไม่ใช่จากการดำเนินงาน 4.4 พันล้านดอลลาร์จากการขาย ไอแอลเอฟซี รวมถึงค่าใช้จ่าย ที่เกี่ยวกับภาษีด้วย คาดกันว่า ข้อตกลงครั้งนี้จะเสร็จสิ้นในไตรมาสสองปีหน้า และมูลค่าของธุรกิจเช่าบินเหมาลำอยู่ที่ 5.28 พันล้านดอลลาร์ ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี สิ้นไตรมาสสามที่ 7.9 พันล้านดอลลาร์

โรเบิร์ต เบนมอสช์ ซีอีโอของเอไอจี บอกว่า หากการตกลงซื้อขายธุรกิจเสร็จสิ้น เอไอจี จะมีสภาพคล่องเป็นบวก และมีอันดับความน่าเชื่อถือดีขึ้น ทั้งยังช่วยให้เอไอจี กลับมาโฟกัสธุรกิจประกันซึ่งเป็นธุรกิจหลักได้อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากเอไอจี ตกลงซื้อหุ้นบริษัทพีไอซีซี กรุ๊ป ของจีน เป็นมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ สร้างความเกรียวกราวให้กับตลาดหุ้นฮ่องกงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

การจัดการธุรกิจของไอแอลเอฟซีในแต่ละวัน ยังคงเป็นไปตามเดิม และมีฐานอยู่ในลอสแองเจลิสเช่นเดิม แต่คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตัวแทนจากสหรัฐ และยุโรป จะเข้ามาบัญชาการแทน

ช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ไอแอลเอฟซี ได้ซื้อเครื่องบินเจทจากโบอิ้ง และแอร์บัสมากกว่า 1500 ลำ และปัจจุบัน มีเครื่องบินที่เป็นเจ้าของและบริหารอยู่มากกว่า 1000 ลำ และไอแอลเอฟซี ยังได้สั่งซื้อเครื่องบินใหม่ที่ประหยัดเชื้อเพลิงอีก 239 ลำ รวมถึงโบอิ้ง 787 และแอร์บัส เอ320 นีออส ทั้งยังได้รับสิทธิ์ ซื้อเครื่องบินรุ่นดังกล่าวเพิ่มอีก 50 ลำ

 

Tags : จีนเงินหนา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวด่วนธุรกิจ :

 

  • ดัชนีออลออดินารีส์ ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดตลาด 4,592.90 บวก 1.10 จุด
  • ดัชนี KOSPI หุ้นเกาหลีใต้ ปิดตลาด 2,002.77 บวก 27.33 จุด
  • ดัชนีนิกเกอิ หุ้นโตเกียว ปิดตลาด 9,742.73 บวก 161.27 จุด
  • ดัชนีเวทเต็ด ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดตลาด 7,757.09 บวก 66.90 จุด
  • ดัชนีหั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดภาคเช้า 22,503.00 ลบ -0.35 จุด
  • ดัชนี BSE SENSEX 30 หุ้นอินเดีย เปิดตลาด 19,403.66 บวก 48.40 จุด
  • ตลาดทองฮ่องกง (เช้า) ซื้อขายที่ 1,699.60 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ตลาดเงินโตเกียว ดอลลาร์/เยน ซื้อขายที่ 83.42
  • ตลาดเงินโตเกียว ยูโร/ดอลลาร์ ซื้อขายที่ 1.3063
  • ตลาดเงินโตเกียว ยูโร/เยน ซื้อขายที่ 108.95

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคะเพื่อนๆ :01 วันนี้สามีส่งกราฟมาซะเย็นเลย13-12-2012-1.gif"จากกราฟจะเห็นว่่าราคาเทลงเยอะเหมือนกันและผมก็ไม่ว่างเท่าไหร่วันนี้ แต่จากที่ดูกราฟเทียบกับค่ายอื่นทำให้มีจุดนึงตรงโลวก่อนหน้าแถวๆ1684 ตรงนั้นในค่ายอื่นๆเกิดเป็นโลวใหม่ ไม่เหมือนของfxthaiทำให้การนับคลื่นย่อยในสองวันมานี้ผิด สรุปก็คือเกิดการรีบาวขึ้นทำคลื่นย่อย3คลื่นabcและจบที่1723 ทำให้จบ1hBตรงนั้นและตอนนี้กำลังทำ1hCอยู่วัดจากฟิโบสีฟ้า มีโอกาสลงถึง1653เลย ซึ่งราคาอยู่ในกรอบสีขาวฟิโบสีชมพู ที่คลื่น4hC จะจบในกรอบนี้ มุมมองวันนี้หากเด้งขึ้นมา1714แนะนำsellทั้งgs&gf รวมถึงทองแท่งหากพอมีกำไรปิดขาย แล้วไปรอซื้อ(buy)ที่1653ลงมา :aa " จบการรายงานข่าวคะ :Announce

ปล.มาซะสั้นเชียววันนี้สามีต้องพาผู้พิการไปร่วมงานที่จังหวัดกลับมาก็ยังไม่ค่อยมีเวลา แต่ก็สรุปกราฟคร่าวๆ มาให้ด้วยเวลาอันน้อยนิด หวังว่าพอจะช่วยเป้นแนวทางให้เพื่อนๆได้นะคะ ขอให้เพื่อนๆโชคดีในการลงทุนทุกท่านคะ :bye

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เบอร์นันเก้ชี้มาตรการเฟดไม่สามารถลดผลกระทบของปัญหาหน้าผาการคลังสหรัฐได้

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 15:13:00 น.

นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือนว่า การดำเนินการใดๆของเฟดในการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่สามารถที่จะชดเชยความเสียหายทางเศรษฐกิจซึ่งเกิดจากภาวะหน้าผาการคลัง หรือมาตรการการปรับขึ้นภาษีอย่างรวดเร็วและปรับลดงบประมาณค่าใช้จ่ายของรัฐบาลลง ซึ่งจะเริ่มมีผลในเดือนหน้า หลังจากที่ประธานาธิบดีโอบามาและเจ้าหน้าที่นิติบัญญัตของพรรครีพับลิกันมีความเห็นไม่ลงรอยกันemnb_18_18900.gif?892254563emnb_1_370236.gif

แต่อย่างไรก็ดี นายเบอร์นันเก้เชื่อว่าวิกฤตดังกล่าวจะสามารถแก้ไขได้โดยไม่ได้สร้างความเสียหายตามมาในระยะยาว โดยระบุในงานแถลงข่าวภายหลังการประชุมเฟดครั้งสุดท้ายของปีว่า “เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ภาวะหน้าผาการคลังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ" โดยความไม่แน่นอนส่งผลให้ภาคธุรกิจปรับลดงบการลงทุนลง

นอกจากนี้ นายเบอร์นันเก้ยังระบุว่า สิ่งที่ทั้งรัฐสภาและนายโอบามาสามารถช่วยได้มากที่สุดก็คือ การแก้ปัญหาในประเด็นดังกล่าวอย่างรวดเร็ว

“ผมหวังว่ารัฐสภาจะทำในสิ่งที่ถูกต้องในเรื่องหน้าผาการคลัง ปัญหากำลังใกล้จะเกิดขึ้นทุกขณะ อย่างไรก็ตาม เฟดไม่สามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดจากภาวะหน้าผาการคลังได้ เพราะนั่นเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก" นายเบอร์นันเก้กล่าว

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

 

ธ.กลางเกาหลีใต้เผยเศรษฐกิจยังเผชิญความเสี่ยงขาลงจากสหรัฐ,ยุโรป

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 13:40:00 น.

ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ความเสี่ยงช่วงขาลงต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้ยังคงมีมากกว่าปัจจัยหนุนในช่วงขาขึ้น เมื่อพิจารณาจากความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับภาวะหน้าผาทางการคลัง (fiscal cliff) ของสหรัฐ และวิกฤตการคลังของยูโรโซน

“คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะมีแนวโน้มการขยายตัวปานกลาง แต่ความเสี่ยงช่วงขาลงอย่างมากต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้ อันเนื่องมาจากวิกฤตการคลังยูโรโซนและปัญหาหน้าผาทางการคลังของสหรัฐ" ธนาคารกลางเกาหลีใต้ระบุในการประเมินภาวะเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยหลังการประชุมกำหนดนโยบายการเงินประจำเดือนธ.ค.emnb_18_18900.gif?869139591emnb_1_370236.gif

สำหรับสถานการณ์ภายในประเทศนั้น การส่งออกปรับตัวดีขึ้น แต่อุปสงค์ภายในประเทศยังคงซบเซา ซึ่งส่งผลให้การขยายตัวยังคงอยู่ที่ระดับต่ำ

รายงานการประเมินดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% ในการประชุมประจำเดือนธ.ค. โดยยังคงประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจหลังจากที่ได้ปรับลดดอกเบี้ยไปแล้วในเดือนก.ค.และต.ค.

ธนาคารกลางระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงมีทิศทางการขยายตัวที่อ่อนแอนับแต่ไตรมาส 2 ปีนี้ แต่ย้ำว่าภาวะซบเซาดังกล่าวดูเหมือนไม่ได้มีความรุนแรงขึ้น

นอกจากนี้ ธนาคารคาดว่าเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคจะอยู่ในระดับต่ำในขณะนี้ เนื่องจากแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์และอุปทานไม่ได้อยู่ในระดับสูง อันเนื่องมาจากภาวะชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความมีเสถียรภาพของราคาวัตถุดิบ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะ

ดีค่ะ เป็นไงบ้าง

67642_173488869463604_1406396744_n.jpg

Carrick-a-Rede Rope Bridge, Northern Ireland

 

ราคาทองคำฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ ร่วงลงแตะ 15,750 HKD/tael

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 16:49:34 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 168 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 15,750 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,705.92 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 18.2 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.752 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

 

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 13 ธันวาคม 2555

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 16:58:54 น.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25 % ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.) นอกจากนี้ เฟดประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 4 (QE4) โดยระบุว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรอบใหม่ในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นพิเศษจนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่า 6.5% โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและการสร้างงานemnb_18_18900.gif?1894630296emnb_1_370236.gif

-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 7 ธ.ค. เพิ่มขึ้น 843,000 บาร์เรล แตะที่ 372.6 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 2.2 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 3 ล้านบาร์เรล แตะที่ 118.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.5 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 5 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 217.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.2% แตะที่ 90.4% มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%

-- กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐแตะระดับสูงสุดที่ 1.7211 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่าสหรับกำลังเผชิญกับอปสรรคทางการคลัง

รายงานของกระทรวงการคลังระบุว่า รัฐบาลกลางสหรัฐมีรายได้ 1.6173 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. ในขณะที่รายจ่ายอยู่ที่ 3.3384 แสนล้านดอลลาร์

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.75% ในการประชุมวันนี้ โดยธนาคารกลางยังคงประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจหลังจากที่ได้ปรับลดดอกเบี้ยไปแล้วในเดือนก.ค.และต.ค.ปีนี้

-- สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 90.5 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาส 4 ปีนี้ มากกว่าที่คาดการณ์ในเดือนที่แล้วอยู่ 4.35 แสนบาร์เรล/วัน

IEA ระบุในรายงานตลาดน้ำมัน (OMR) รายเดือนฉบับล่าสุด ซึ่งเสนอมุมมองด้านสถานการณ์ตลาดน้ำมันโลกและคาดการณ์ภาวะอุปสงค์อุปทานใน 12-18 เดือนข้างหน้า ว่าการคาดการณ์ที่สูงขึ้นเป็นผลจากความต้องการน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในจีน และจากการอิงข้อมูลอุปสงค์เบื้องต้นในเดือนต.ค.ซึ่งแข็งแกร่งเกินคาด

-- นายปิแอร์ มอสโควิซี รมว.คลังฝรั่งเศส กล่าวว่าในเช้าวันนี้ บรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซนได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกลไกกำกับดูแลภาคธนาคารที่เป็นหนึ่งเดียว ร่วมกับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินการดังกล่าว

-- สื่อท้องถิ่นสหรัฐรายงานว่า บริษัทฮอนด้า มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น ประกาศว่าบริษัทอยู่ระหว่างการเรียกคืนรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ (SUV) ในสหรัฐอเมริกา จำนวน 807,000 คัน เนื่องจากพบปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ของรถยนต์ดังกล่าว

-- นายคิม ชุง-ซู ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้กล่าวว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้อาจจะฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในไตรมาสที่สาม โดยระบุว่าอัตราการขยายตัวของจีดีพีในไตรมาสที่ 4 ไม่น่าจะต่ำกว่าไตรมาสดังกล่าว

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ความเสี่ยงช่วงขาลงต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้ยังคงมีมากกว่าปัจจัยหนุนในช่วงขาขึ้น เมื่อพิจารณาจากความไม่แน่นอนที่ยังคงมีอยู่เกี่ยวกับภาวะหน้าผาทางการคลัง (fiscal cliff) ของสหรัฐ และวิกฤตการคลังของยูโรโซน

-- รายงานของสถาบันวิชาการด้านกลยุทธ์เศรษฐกิจในสังกัดวิทยาลัยสังคมศาสตร์ของจีนระบุว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัว 7.7% ในปีนี้และเพิ่มขึ้นเป็น 8.5% ในปี 2556 โดยส่วนหนึ่งเกิดจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

-- นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเตือนว่า การดำเนินการใดๆของเฟดในการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่สามารถที่จะชดเชยความเสียหายทางเศรษฐกิจซึ่งเกิดจากภาวะหน้าผาการคลัง หรือมาตรการการปรับขึ้นภาษีอย่างรวดเร็วและปรับลดงบประมาณค่าใช้จ่ายของรัฐบาลลง ซึ่งจะเริ่มมีผลในเดือนหน้า หลังจากที่ประธานาธิบดีโอบามาและเจ้าหน้าที่นิติบัญญัตของพรรครีพับลิกันมีความเห็นไม่ลงรอยกัน

-- สื่อท้องถิ่นรายงานว่า กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย กลายเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงมากที่สุดเป็นอันดับ 2 สำหรับชาวต่างชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากสิงคโปร์

-- สำนักข่าว ISNA ของอิหร่านรายงานว่า คณะผู้เชี่ยวชาญจากผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ได้เดินทางถึงกรุงเตหะรานในเช้าวันนี้ เพื่อหารือในบางประเด็นเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

โพลล์ชี้ฝ่ายค้านญี่ปุ่นกวาดคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งวันอาทิตย์นี้

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2555 17:14:26 น.

ผลสำรวจล่าสุดซึ่งได้รับการเปิดเผยในวันนี้แสดงให้เห็นว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ซึ่งเป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้านญี่ปุ่น มีแนวโน้มได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรเกือบ 300 ที่นั่งในการเลือกตั้งวันอาทิตย์นี้

ผลสำรวจผ่านทางโทรศัพท์โดยเกียวโด นิวส์ระบุว่า พรรคแอลดีพีซึ่งนำโดยนายชินโสะ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และพรรคนิวโคเมโตะ ซึ่งเป็นพรรคพันธมิตร น่าจะได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรกว่า 300 ที่นั่งจากทั้งหมด 480 ที่นั่งemnb_18_18900.gif?418166262emnb_1_370236.gif

ทางด้านพรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น (ดีพีเจ) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ที่นำโดยนายกรัฐมนตรีโยฮิชิโกะ โนดะนั้น มีแนวโน้มได้ที่นั่งในสภาประมาณ 60 ที่นั่งเท่านั้น เมื่อเทียบกับจำนวนส.ส.ในปัจจุบันของพรรคที่มีอยู่ 230 ที่นั่ง

พรรคดีพีเจชนะการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎรครั้งที่แล้วเมื่อปี 2552 ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น และปิดฉากการครองอำนาจต่อเนื่องยาวนานมากว่า 50 ปีของพรรคแอลดีพี

เกียวโดระบุว่า การจัดทำผลสำรวจดังกล่าวใช้เวลา 2 วันและเสร็จสิ้นลงวานนี้ โดยสำรวจผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงกว่า 63,000 คน ในเขตเลือกตั้ง 150 เขตที่มีส.ส.เขตละ 1 คน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากการเขตเลือกตั้งอีก 150 เขตที่เหลือได้รวบรวมผ่านทางช่องทางอื่นๆ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...