ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 6, 2012 พระไพศาล วิสาโล - Phra Paisal Visalo แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล แม่เราเฝ้าโอ้ละเห่ กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเห ไปจนไกล เมื่อเล็กจนโตโอ้แม่ถนอม แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดจากรักลูกปักดวงใจ เติบ โตโอ้เล็กจนใหญ่ นี่แหละหนาอะไร มิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม * ควร คิดพินิจให้ดี ค่าน้ำนมแม่นี้ จะมีอะไรเหมาะสม โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม เลือดในอกผสม กลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน บวช เรียนพากเพียรจนสิ้น หยดหนึ่งน้ำนมกิน ทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย การตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ มีพุทธพจน์ตรัสว่าแม้จะปรนนิบัติท่านด้วยการแบกท่านไว้บนบ่าทั้งสองข้าง ขัดสี นวดฟัน อาบน้ำให้ท่าน และให้ท่านถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่าทั้งสอง จนท่านมีอายุถึง ๑๐๐ ปี การทำเช่นนั้นยังไม่ชื่อว่าตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ จะได้ชื่อว่าตอบแทนบุญคุณท่านก็ต่อเมื่อชักจูงหรือปลูกฝังท่านให้มีศรัทธา มีศีล มีจาคะ(การให้) มีปัญญา - พระไพศาล วิสาโล อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 6, 2012 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 6, 2012 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 6, 2012 …ประเทศชาติก็มีความสุขบ้าง มีความทุกข์บ้าง แต่ก็ขออย่าให้มากเกินไป สุขมากเกินไป ก็ทำให้คนเราไม่สบายได้เหมือนกัน…” ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 6, 2012 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 6, 2012 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 6, 2012 December ทุกข์ของแม่ ที่ร่างกาย... สุขของแม่ ที่จิตใจ รักแม่ให้มากๆนะ ^^ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 6, 2012 สถานี RTV1 สำนักข่าวออนไลน์ 24 ชั่วโมง "ไต้ฝุ่นซาวลา" ถล่มไต้หวันหนัก! สภาพ ภาคตะวันออกของเกาะไต้หวัน ทำให้การจราจรกลายเป็นอัมพาต พื้นที่การเกษตรเสียหาย รวมถึงทำให้กรุงไทเปกลายเป็นเมืองร้าง ที่ผ่านมา See Translation อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 6, 2012 COLOURS OF LIFE อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 6, 2012 อาสาสมัครฟื้นฟูประเทศไทย ★ ใครอยากจะเริ่มปั่น หาเพื่อนปั่น แนะนำที่นี่เลย... ★ ทุกคำถามที่คาใจ จะเริ่มอย่างไร ปั่นอย่างไรดี จักรยานแบบไหรถึงจะเหมาะ อยากหาเพื่อนปั่น ปั่นอย่างไรให้ปลอดภัย ทุกๆ ปัญหาที่คุณสงสัยเกี่ยวกับจักรยานไปถามกันได้ที่นี่เลย *** อยู่ในหรือนอกกรุงเทพแจมได้หมด *** กลุ่มนี้ปั่นทั่วไทยครับ ไปแจมได้เลย *** Bangkok Bicycle Campaign โครงการ "จักรยานมหานคร" โดยกลุ่มผู้ใช้จักรยานที่ต้องการรณรงค์การใช้จักรยานในประเทศไทย ขอชวน "ผู้ใช้จักรยาน" และ "ผู้สนใจ" ทุกท่านร่วมสนันสนุน และร่วมณรงค์การใช้จักรยานโดยการขับเคลื่อนของ "ภาคประชาชน" ประกอบด้วย มูลนิธิโลกสีเขียว / กลุ่ม BigTrees / a day Foundation / อาสาสมัครฟื้นฟูประเทศไทย / อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
pookun 5 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 6, 2012 ขอบคุณครับ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 6, 2012 สำหรับ ทหาร ตำรวจ ศิลปิน นักดนตรี นักเขียน ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้มีความสามารถด้านต่างๆ ผู้เสียสละผู้มีจิตอาสาเพื่อประโยชน์ของชุมชนบ้านเมืองทุกท่าน อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 6, 2012 ขอบคุณครับ ยินดีครับ สุขกาย สบายใจ นะ ^_______^ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 6, 2012 (มีการแก้ไข) โรงเรียน “ควาย” ในวิถีเกษตรพอเพียง PreviousFull sizeNext โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ โรงเรียนสอนคนและควาย “ข้าว” เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากของประเทศไทย แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่ากว่าจะมาเป็นข้าวสารและข้าวสวยที่หุงกินกันทุกวันนั้นเป็นมาอย่างไร กระบวนการทำนาต้องใช้อะไรบ้าง “เมื่อก่อนชาวนาใช้ควายไถนา” เป็นคำพูดที่แสดงถึงวีถีเกษตรกรในอดีต ที่จะเห็นได้ว่าควายคือคู่แท้ของชาวนา ถ้าไม่มีความก็คงไม่สามารถจะทำมาหากินได้ เมื่อความเจริญทางเทคโนโลยีและความเจริญทางวัตถุนำพาความสะดวกสบายเข้ามาสู่เกษตรกร ควายเนื้อแท้ๆ ก็จะหายไป กลายเป็นควายเหล็กเข้ามาแทนที่ ในยุคสมัยนี้ คงมีไม่กี่แห่งที่จะได้เห็นชาวนาใช้ความทำนา เด็กสมัยใหม่บางคนอาจนึกภาพไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าควายกับวัวแตกต่างกันอย่างไร แล้วการใช้ควายทำนาเขาทำกันอย่างไร แต่ก่อนที่ภาพวิถีชีวิตแบบนี้เริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา ก็ยังมีผู้ที่คิดถึงการอนุรักษ์สิ่งเหล่านี้ให้คงอยู่ เพื่อรักษาวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมให้คนรุ่นหลังได้เห็น จะได้สืบทอดต่อไปในอนาคต บรรยากาศภายในโรงเรียนโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ แปลงปลูกที่3 “กาสรกสิวิทย์” เป็นชื่อโรงเรียนที่ไม่ใช่โรงเรียนทั่วๆ ไปตามที่เคยเห็น แต่เป็นโรงเรียนที่สอนคนและควายให้ใช้ชีวิตร่วมกันได้ตามวิถีของเกษตรกร ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ให้มูลนิธิชัยพัฒนาดำเนินการจัดตั้งโรงเรียนแห่งนี้ขึ้น เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับประชาชนในเรื่องการอนุรักษ์วิถีชีวิต ความเป็นอยู่แบบพื้นบ้านที่เรียบง่ายและพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โรงเรียนสอนคนและควาย แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.สระแก้ว โดย นายเชษฐา โชไชย ผู้อำนวยการโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ได้เล่าถึงการคัดเลือกคนที่จะเข้ามาเรียนรู้ภายในโรงเรียนว่า ทางกรมปศุสัตว์จะทำการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น เพื่อที่จะได้รับกระบือพระราชทานประจำปี ทั้งนี้เกษตรกรเหล่านั้นต้องเป็นสมาชิกธนาคารโค-กระบือ โดยทางโรงเรียนจะมีปราชญ์ผู้มีความรู้ เป็นครูสอนให้กับผู้ที่ได้ถูกคัดเลือกให้มาเรียน ในแต่ละรุ่นนั้นทางกรมปศุสัตว์จะเป็นผู้พิจารณาผู้เรียน10 คนและควายอีก 10 ตัว เพื่อมาฝึกฝนกับปราชญ์ที่โรงเรียนในระยะเวลา 10 วัน ของทุกเดือน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เกษตรกรและควาย ผู้เรียนรู้ คนและควายที่ถูกคัดเลือกมานั้น ก็จะได้มาเรียนรู้และฝึกฝนในวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบพื้นบ้านดั้งเดิมของไทย และวัตถุประสงค์ที่สำคัญของการเรียนรู้ครั้งนี้คือ การใช้ควายไถนา หลังจากการได้รับควายจากทางกรมปศุสัตว์และได้รับคัดเลือกให้มาเรียนยังโรงเรียนแห่งนี้ ช่วงเวลา 10 วัน คือการเรียนรู้รูปแบบชีวิตที่เคยเป็นมาในอดีต ใช่ว่าควายที่เกิดมาทุกตัวนั้นจะไถนาเป็นตั้งแต่เกิด ควายทุกตัวจะต้องมีการฝึกฝนเพื่อที่จะไถนา หรือทำงานอื่นๆ เช่นเดียวกับคนที่จะต้องเรียนรู้การไถนา และวิธีการฝึกฝนควายให้ไถนาเป็นเช่นกัน โรงเรียนแห่งนี้จึงเสมือนสถานที่ฝึกสอนที่คนและควายไปพร้อมๆ กัน ตามวิถีของชาวนาไทย บรรยากาศคนและควาย กำลังเรียนไถนา นายแดง มารศรี ปราชญ์ผู้สอน เล่าถึงเรื่องการเรียนการสอนว่า ในวันแรกของการเรียนนั้น จะเป็นการสร้างความคุ้นเคยให้แก่คนและควาย เพราะการจะไถนาได้ดีนั้นต้องใช้การร่วมแรงร่วมใจกันของทั้งสองฝ่าย หากไม่เกิดความสนิทสนมคุ้นเคยกันนั้นงานคงออกมาได้ไม่ดี การเรียนจะมีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ โดยเริ่มจากการทำความรู้จักกับควายไทยและการใช้ประโยชน์ วิธีดูลักษณะควายตามภูมิปัญญาไทย และการคัดเลือกควายไว้ใช้งาน การป้องกันโรคและสมุนไพรสำหรับควาย ตลอดจนแนวทางทำการเกษตรแบบผสมผสานตามทฤษฎีใหม่ ส่วนภาคปฏิบัติก็เริ่มกันตั้งแต่วิธีจูงควาย วิธีเทียมแอกและเทียมไถ วิธีใช้ภาษาเชือก การฝึกไถดะ ไถแปร ฝึกคราดและการตีลูกทุบ ไปกระทั่งหัดทำแร่ธาตุก้อนสำหรับควายและการทำโอ่งแก๊สชีวภาพจากมูลควาย เป็นต้น ระยะเวลาในการเรียน 10 วันนี้ จะมีการทดสอบวัดผลควบคู่ไปด้วย หากผ่านการเรียนรู้และทดสอบวัดผลได้นั้น ทางโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ก็จะมีใบประกาศนียบัตรรับรองให้แก่ คนและควายที่จบการศึกษาด้วย ที่นี่เป็นการถ่ายทอดความรู้จากปราชญ์ท้องถิ่นผู้มีประสบการณ์ เพื่อที่จะทำให้วิถีชีวิตของคนที่อยู่คู่กับควายยังคงอยู่ไม่ให้เลือนหายจากไป นายสายัญ สกุลดี และควายคู่ใจเจ้าบุญชู ภายในโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ได้น้อมนำวิธีเกษตรพอเพียงมาปรับใช้ภายในบริเวณโรงเรียนด้วย โดยมีการแบ่งพื้นที่ 30-30-30-10 เป็นพื้นที่เพาะปลูก สระน้ำเพื่อการใช้สอย และพื้นที่ทำนา อย่างละ 30 ส่วน รวม 90 ส่วน และพื้นที่พักอาศัย 10 ส่วน ภายในพื้นที่โรงเรียนยังมีโรงเรือนแสดงเครื่องมือและอุปกรณ์ในการใช้ทำนา ที่ใช้กันมาแต่ดั้งเดิม ซึ่งทำขึ้นตามภูมิปัญญาชาวบ้าน อุปกรณ์ทุกชิ้นจะนำมาใช้ทำการเกษตรในโรงเรียน และแปลงนาจะปลูกข้าวในระยะต่างๆกัน เพื่อให้ผู้ที่ได้มาเยี่ยมชมได้เห็นข้าวในระยะเติบโตที่ต่างกัน และภายหลังจากการเก็บเกี่ยว จะใช้การปลูกพืชบำรุงดินแทนการใช้ปุ๋ย นอกจากนี้ ภายในโรงเรียนยังมีที่พักที่ทำจากดินเป็นที่พักของผู้ฝึกอบรมและวิทยากร เพื่อการสัมผัสวิถีชาวนาอย่างแท้จริง สำหรับวิธีการไถนานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นายสายัญ สกุลดี ผู้ช่วยปราชญ์ กล่าวว่า ควายที่จะนำมาฝึกฝนนั้นจะต้องมีอายุ 2 ปีขึ้นไป ซึ่งควายจะมีขนาดตัวพอเหมาะ เนื่องด้วยการใช้คราดผูกติดบนหลังควาย ปลายคราดนั้นจะอยู่ที่พื้นพอดี ส่วนชาวนานั้นต้องมีทักษะการใช้เชือก เพราะเชือกจะเป็นตัวบังคับทิศทางการเดินของควาย ความคุ้นเคยกันและความไว้ใจกันของคนและควายก็เป็นสิ่งสำคัญ การจะไถนาได้สำเร็จนั้น ต้องพึ่งพาทักษะและความอดทนของทั้งสองฝ่ายที่ร่วมด้วยช่วยกัน ในการเรียนก็มีควายบางตัวที่ดื้อ หรือบางตัวก็ขี้เกียจ สัตว์ก็คล้ายกับคนเราที่มีความเกียจคร้านบ้างเหมือนกัน อย่างเจ้าบุญชูควายคู่ใจของพี่สายัญ อายุ 5 ปี เพศผู้ ก็มีอาการดื้อตามประสาควายหนุ่มๆ อยู่บ้างเป็นบางครั้งคราว เกษตรกรพาควายตนเองมากินหญ้า จะเห็นได้ว่าแม้เป็นเพียงมุมเล็กๆ แต่เมื่อมองถึงคุณค่าที่ควรแค่การอนุรักษ์ไว้ จะเป็นความรู้ที่ยิ่งใหญ่ที่จะสืบต่อวัฒนธรรม และวิถีชีวิตที่เคยเป็นมา ไม่ให้หายไปตามวันเวลาที่มีการพัฒนาด้านวัตถุอย่างรวดเร็ว เป็นสิ่งที่สะท้อนให้ผู้คนที่อยากได้รับรู้ได้เห็นว่าการใช้ควายทำนานั้นเป็นมาอย่างไร ภาพของควายไถนาก็คงจะยังไม่เลือนหายจากไปในเร็ววัน * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 999 ต.ศาลาลำดวน อ.เมือง จ.สระแก้ว ผู้สนใจเข้าเที่ยวชมสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางโรงเรียนได้ที่ โทร.0-3743-5058 หรือสอบถามที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครนายก (พื้นที่รับผิดชอบ: นครนายก,ปราจีนบุรี,สระแก้ว) โทร.0-3731-2282, 0-3731- 2284 Credit : Manager ถูกแก้ไข สิงหาคม 6, 2012 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ สิงหาคม 6, 2012 อาสาสมัครฟื้นฟูประเทศไทย ★ วันนี้ "อาสาสมัครฟื้นฟูประเทศไทย (SiamArsa)" มีอาสาสมัครร่วมอุดมการณ์แล้วมากกว่า 120,000 คน ★ ดีใจที่ประเทศไทยมีอาสาสมัครมากมายขนาดนี้ ★ พวกเราดีใจและภูมิใจจริงๆ ทึ่ได้รู้จักพวกคุณทุกคนครับ ★ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น