ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

บอกรักแม่

เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ๑๒ ส.ค.๖๐

ทรงพระเจริญ

รัฐบาลสร้างพระพุทธรูปทองคำ “พระสัมพุทธโคดม สิสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ริกิติ์บรมราชินีนาถจตุราสีติวรรษมงคล” พระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ ส.ค.๕๙ กับในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ ส.ค.๖๐ นี้ โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบพิธีเททองหล่อ “พระสัมพุทธโคดม สิริกิติ์บรมราชินีนาถจตุราสีติวรรษมงคล” ใน ๑๑ ส.ค.๖๐ เวลา ๑๗๐๐ น. ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง

พระสัมพุทธโคดม สิริกิติ์บรมราชินีนาถจตุราสีติวรรษมงคล เป็นปางลีลา จัดสร้างด้วยทองคำบริสุทธิ์ร้อยละ ๙๙.๙๙ สูงตลอดพระรัศมี ๓๘ ซม. มีความหมายถึงคุณธรรม ๓๘ ประการ น้ำหนักสุทธิ ๒๐ กก. แท่นฐาน ๘ เหลี่ยม สร้างด้วยเนื้อทองคำขาว น้ำหนักสุทธิ ๕ กก. มีลักษณะเดียวกันกับ “พระพุทธธรรมิกราชบพิตร ภูมิพลนริศรจตุราสีติวรรษมงคล” พระพุทธรูปที่จัดสร้างถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธ.ค. ๕๔ แต่ยกพระหัตถ์ขวา และปรับพระบาทพระพุทธรูป

การจัดสร้างพระพุทธรูป ประจำพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในนามของประชาชนทั้งประเทศ เพื่อแสดงความจงรักภักดี ที่พระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรไทย

นอกจากนี้ มส.ยังมีมติให้คณะสงฆ์จัด พิธีเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ เพื่อถวายพระพรชัยมงคล และถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคลด้วย

พระพุทธรูปมีนามว่า “พระสัมพุทธโคดม สิริกิตบรมราชินีนาถจตุราสีติวรรษมงคล” อ่านว่า “พระ-สัม-พุด-ทะ-โค-ดม-สิ-ริ-กิด-บอ-รม-มะ-รา-ชิ-นี-นาด-จะ-ตุ-รา-สี-ติ-วัด- สะ-มง-คน” มีความหมายว่า “พระสัมพุทธโคดม องค์เป็นมงคลสร้างเมื่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา”

สำหรับพุทธลักษณะ เป็นพระพุทธรูปปางลีลา มีความหมาย ๓ ประการ ๑.พระพุทธคุณ หมายถึง พระพุทธรูป ๒.พระธรรมคุณ หมายถึง พระธรรมคุณ ๓๘ ประการ ๓.พระสังฆคุณ หมายถึง คณะสงฆ์ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการจัดสร้างเพื่อถวายความจงรักภักดี

ร่วมบุญได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขากระทรวงการคลัง

ชื่อบัญชี >>> “สร้างพระพุทธรูปประจำพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ”

เลขที่บัญชี >>> ๐๖๘-๐-๑๗๑๒๐-๗

20729260_1857056167943397_644294484210505151_n.jpg?oh=6b20dbd4bc362f0da8f2b377d0db4429&oe=5A2A983E

 

 

วันพุธที่ 9 สิงหาคม พุทธศักราช 2560 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นประธานในพิธีบายศรีสู่ขวัญเฉลิมพระเกียรติสืบดวงพระราชสมภพ และพิธีเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ณ พระมหามณฑป วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร กรุงเทพมหานคร

.

ภาพจาก FB_Aksorn Pichai

20727995_1218395031599050_1633056628310662380_n.jpg?oh=0d924c6279907ee632e10bd68d00fa61&oe=59EABE00

วันอังคารที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๗.๑๐ น. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปทรงเปิดงาน "วันสตรีไทย" ประจำปี ๒๕๖๐ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

ขอบคุณภาพ.Web_บ้านเมือง

20431451_10155746787262922_7734813974598890904_n.jpg?oh=ed1d0dc10dd42d67c5a95bfb5ce5d683&oe=5A349659

วันจันทร์ที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๔.๑๕ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโครงการเดินตามรอยเท้าพ่อ ของกองทัพภาคที่ ๓ ณ กองพันส่งกำลังและบริการที่ ๒๓ กองบัญชาการช่วยรบที่ ๓ ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

ขอบคุณภาพ.FB_นายสุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน และ FB_หนังสือพิมพ์ พิษณุโลกทูเดย์

20525545_10155743255362922_4012055833860327523_n.jpg?oh=047e72d22ff3d4e232518233b1327db1&oe=5A2E7369

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กล้วยน้ำว้า : รักษาโรคกระเพาะโดยเฉพาะ

กล้วยเป็นผลไม้ที่เกิดมาเพื่อดูแลท้องไส้ ไม่ว่าท้องเสีย ท้องผูก เป็นโรคกระเพาะ ในวัฒนธรรมไทยใหญ่เชื่อว่าการกินกล้วยน้ำว้าจะทำให้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ และให้ความฉ่ำเย็นกับที่อยู่อาศัย ดังนั้นในการสร้างบ้านเรือน หรือการแยกครอบครัวใหม่ จะต้องมีต้นกล้วยเป็นพืชมงคลที่นำไปปลูกไว้เสมอ

การที่กล้วยเป็นยาเย็น เมื่อรู้สึกแสบร้อนในกระเพาะอาหาร ซึ่งถือเป็นการกำเริบของธาตุไฟ ให้กินกล้วยจะช่วยได้ ทั้งในแบบของการตากแห้ง ตำผงกินกับน้ำร้อน หรือคลุกกินกับน้ำผึ้ง หรือกินกล้วยสุกธรรมดาก็ได้

มีการวิจัยโดยใช้กล้วยในการรักษาโรคกระเพาะพบว่า ได้ผลน่าพอใจ เนื่องจากกล้วยไปกระตุ้นให้ผนังกระเพาะสร้างเยื่อเมือกมากขึ้น เยื่อเมือกนี้จะปิดแผลทำให้แผลหายเร็ว ผู้ที่มีปัญหาในกระเพาะจะมีอาการดีขึ้น กระเพาะแข็งแรงขึ้นโอกาสเป็นแผลก็น้อยลง แต่ไม่ไปลดกรดอันจะไปทำลายกลไกธรรมชาติของร่างกาย จนทำให้เกิดความแปรปรวนของธาตุในร่างกาย ดังนั้น กล้วยจึงเป็นทั้งยารักษาและป้องกันโรคกระเพาะในเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้กล้วยยังช่วยลดคลายเครียดจากการที่กรดอะมิโนทริปโทเฟนที่มีอยู่ในกล้วยเปลี่ยนเป็นซีโรโทนิน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้เกิดอาการผ่อนคลายอารมณ์ผ่องใส และรู้สึกมีความสุข เรารู้กันดีว่าความเครียดเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะกล้วยจึงช่วยรักษาโรคกระเพราอย่างเป็นองค์รวมเลยทีเดียว

ตำหรับยาแก้โรคกระเพาะ

ให้นำกล้วยดิบมาฝานเป็นแว่นบางๆอบให้อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส หรือตากแดดอ่อนๆ จนกว่าจะแห้ง ห้ามใช้ความร้อนสูงกว่านี้เด็ดขาด เพราะสารที่มีฤทธิ์รักษาโรคกระเพาะในกล้วยจะสูญเสียหรือหมดฤทธิ์ไป จากนั้นนำมาบดเป็นผง กินครั้งละ1 ช้อนชา ก่อนอาหารวันละ 3 เวลา หรือจะผสมกับน้ำผึ้งด้วยก็ได้

20689712_10155678818232028_3820183771082190852_o.jpg?oh=0dbb1dfca54d2bcc4d2dbbe7b7d0f99c&oe=59EDA23B

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันที่ ๑o สิงหาคม ปีพุทธศักราช ๒๕๖๐

นับได้ ๓๐๒ วัน นับแต่วันสวรรคต

สถิตในดวงใจตราบนิจนิรันดร์ น้อมศิระกรานต์ กราบแทบพระยุคลบาท ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

20620922_342791246134253_5476723604220009730_n.jpg?oh=61a849b2b48b22a8c4586808a0bec214&oe=5A287AB7

 

19029718_439554569754571_6442930347502545680_n.jpg?oh=530f7bdd0b4c022b50e6dd79565b6b10&oe=5A31F9D3

 

20245737_459527991090562_2760203823660727374_n.jpg?oh=4c34e1250b68cd73fca80a4b2a8b0743&oe=5A326DE0

 

20229280_459528827757145_2379165064874160145_n.jpg?oh=edba560380f8cdbb1360172541d74796&oe=5A316F85

 

 

19990351_455564204820274_7204063690022806571_n.jpg?oh=956abbe7fd7bcfa8e1691d5983d88817&oe=59EBC826

 

 

"แทนคำขอบคุณ พ่อ" ที่กลั่นออกมาจากหัวใจลูกให้พ่อนี่คือเสียงจากหัวใจของพวกเราชาวไทยทุกคน

 

 

Published on Jun 2, 2017

 

"แทนคำขอบคุณ พ่อ" ที่กลั่นออกมาจากหัวใจลูกให้พ่อนี่คือเสียงจากหัวใจของพวกเราชาวไทยทุกคน

 

"แทนคำขอบคุณ พ่อ"

 

(ที่กลั่นออกมาจากหัวใจลูก .. ให้พ่อ)

 

นี่คือเสียง จากหัวใจ ของพวกเรา .. ชาวไทยทุกคน.

 

ขอบคุณ (ครับ,ค่ะ) "พ่อ"

 

พวกเราจะระลึกถึงพระคุณ "พ่อ" ตลอดไป .

 

จะขออธิบายความประกอบเพิ่มเติมครับ

ต้นคลิปบันทึกนี้ เป็นพระราชพิธีใดหรือ ..

 

ตอบครับ เป็นช่วงหนึ่งในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ ๘ ค่ะ ทรงเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ปี ๒๔๘๙ และมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพขึ้น ในวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๔๙๓ ซึ่งในบันทึกที่ผมโพสต์ประกอบช่วงนี้เป็นช่วง เชิญพระบรมศพ คลื่อนจากพระราชวังสู่ ท้องสนามหลวงเพื่อทำการถวายพระเพลิงพระบรมศพ เป็นบันทึกที่หาชมได้ยากยิ่งครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สมเด็จพระเทพฯ ทรงตรวจความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมาศ

 

https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_279290

 

18119415_2376175592608012_1849685046394108196_n.jpg?oh=89b76109a0667b3ad28306d8f580f271&oe=5A2F627C

 

18198335_10208766291425921_8052916185664901994_n.jpg?oh=cf3460f840ef4dd6eeec858094fb9030&oe=59F210C2

 

18118483_10208766291665927_1824182405654925685_n.jpg?oh=d5491d4e281895180d85b3b4c76a8945&oe=5A35E01E

 

18198539_10208766293065962_5804546248952993807_n.jpg?oh=35b4f25e525bff18800560798bdd0953&oe=59F1A4E3

 

18118662_10208766293585975_2983556865320452594_n.jpg?oh=0ae3dea77ab5a13f4eb9c075e234eb6a&oe=59F9525E

 

Yongyut Laksap added 27 new photos — at ท้องสนามหลวง

28 April · Bangkok ·

_Y91QzmaslR.png

จิตรกร = จิต + มือ

จิตรกรรม = จิต + การกระทำ

คือการทำงานที่มือประสานเป็นหนึ่งเดียวกับหัวใจ

----

ฉากบังเพลิง หนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญของพระเมรุมาศ น้อมนำจิตรกรรมตามแนวพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 มาใช้เป็นแนวทางในการสร้างสรรค์ผลงาน ปลายพู่กันค่อยๆ บรรจง ลงส...

YOUTUBE.COM

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Paisal Puechmongkol

 

 

 

 

 

4 hrs · _Y91QzmaslR.pngคลิป

ทำไมเกาหลีเหนือ จึงขู่ถล่มเกาะกวม

1 เกาะกวมคือฐานทัพสหรัฐ ที่ใหญ่ที่สุด ที่อยู่นอกดินแดนของสหรัฐ มีทหาร กว่า 6 หมื่นคนและ เป็นฐานที่ตั้ง ของฐานทัพอากาศ ที่สามารถส่งเครื่องบินไปโจมตีได้ระยะไกลถึงรัสเซียและจีน

2 เกาะกวมเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของสหรัฐในแปซิฟิก ถ้าหากขาดเกาะกวมเสียแล้ว แสนยานุภาพกองทัพเรือที่ 7 ก็จะเดี้ยง เพราะ เส้นทางการลำเลียงจากแผ่นดินใหญ่สหรัฐไปยังพื้นที่อื่น ห่างไกลมาก

3หากขาดฐานทัพที่เกาะกวมแล้ว เส้นทางเคลื่อนตัวของกองทัพเรือที่ 7 ก็จะมีอันตรายอย่างใหญ่หลวง และทำให้การเสริมกำลังและส่งกำลังหนุนต่างๆในเอเชียแปซิฟิก ประสบปัญหา

4สหรัฐ ไม่มีวันที่จะเสี่ยงยอมเสียเกาะกวม เพราะ จะทำให้ความเป็นต่อในแปซิฟิกหมดไป และเปิดช่องทางให้ กองเรือแปซิฟิกของรัสเซีย และกองทัพเรือของจีน สามารถยึดครองแปซิฟิกอย่างง่ายดาย

นั่นหมายความว่ากองทัพเรือที่ 5 ของสหรัฐถูกตัดขา

เห็นหรือยังครับว่า คำขู่ของเกาหลีเหนือนั้นไม่ธรรมดา

มีนัยทางยุทธศาสตร์ ที่ใครคิดใครวางแผนก็ไม่รู้

แต่กล่าวได้ว่า สามารถสกัดจุดหยิมต๊กของสหรัฐได้อย่าง แม่นยำทีเดียว

 

จีนชี้ ยังมีทหารอินเดียพร้อมรถดันดินรุกล้ำพรมแดน

วานนี้ (9 ส.ค.) สำนักโฆษกประจำกระทรวงต่างประเทศของจีนเผยว่า เท่าที่ทางการจีนทราบมา ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีทหารอินเดีย 53 นายพร้อมรถดันดิน 1 คันที่ยังคงอยู่ในดินแดนของจีนอย่างผิดกฎหมาย

โดยทางจีนเน้นย้ำว่าอินเดียต้องสั่งให้ทหารทั้ง 53 นายพร้อมอุปกรณ์ในข้างต้นถอยกลับไปยังฝั่งเขตแดนของอินเดีย พร้อมกล่าวว่าไม่ว่าทหารอินเดียที่ได้ล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตของจีนจะมีจำนวนเท่าไร แต่การกระทำในลักษณะดังกล่าวล้วนถือเป็นการล่วงละเมิดต่ออำนาจอธิปไตยของชาติจีนทั้งสิ้น

 

 

 

 

20638924_1960062614209751_3515256144551152828_n.jpg?oh=a3446fb861cf68f13df77074e78770cc&oe=59F1E3D7

20664669_1960062620876417_6058142703045724070_n.jpg?oh=585ae807c6af5b6ef25bceef03050fa7&oe=5A36EED1

20664472_1960062617543084_2036672479973912854_n.jpg?oh=9e436e4102e5e5961329bca26c8fa88c&oe=5A2B1676

 

 

 

 

 

 

 

China Xinhua News

 

59 mins · _Y91QzmaslR.png

 

 

นักศึกษาฝึกงานช่วยเด็ก4คนรอดชีวิตเหตุแผ่นดินไหว

เหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.0 แมกนิจูด ที่อำเภอจิ่วไจ้โกว มณฑลเสฉวนของจีน เมื่อช่วงดึกของวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่ามาได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย บาดเจ็บอีก 400 กว่าราย

ขณะเกิดเหตุ นายหวังหยวน นักศึกชั้นปีที่ 3 จากสาขาวิชาการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยวมหาวิทยาลัยชนชาติทิเบต ซึ่งฝึกงานประจำอยู่ที่ภัตตาคารของรีสอร์ท จิ่วไจ้ พาราไดส์ ได้ช่วยเหลือเด็ก 4 คนออกมาจากโรงแรมที่เกิดเหตุ หวังหยวนเล่าว่าขณะเกิดเหตุนั้นตนกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ และบังเอิญเจอกับเด็กสองคนเข้า จึงรีบอุ้มเด็กออกมาจากที่เกิดเหตุ แต่ก็ยังมีเด็กอีกสองคนที่ต้องการความช่วยเหลือ ตนจึงทยอยอุ้มทีละ 2 คน เท่าที่แรงตนจะช่วยไหว จนพาเด็กทั้ง 4 คนออกจากที่เกิดเหตุได้สำเร็จ

 

ส่วนแม่ของเด็กที่ได้รับการช่วยเหลือเล่าด้วยความซึ้งใจว่า ตอนนั้นลูกของเธอกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องอาบน้ำชาย เมื่อเกิดเหตุเธอวิ่งมาตามหาลูกชายสองคน แต่ไม่มีใครรู้ว่าลูกๆ ของเธออยู่ที่ไหนและทุกคนกำลังเตรียมวิ่งหนีออกจากโรงแรม เธอจึงตะโกนร้องหาลูกอยู่ตลอดเวลา และหลังจากเธอออกมา ทั้งห้องโถงและทางเดินในตึกก็พังทลายลงมาหมดแล้ว และตอนนั้นเองที่เธอเห็นชายวัยรุ่นผอมๆ ใส่แว่นคนหนึ่งกำลังพาลูกของเธอวิ่งออกมา ขอเสียงปรบมือให้หนุ่มผู้มีน้ำใจคนนี้ดังๆ

 

 

 

 

 

 

20774076_1960074764208536_86278162035507200_n.jpg?oh=4220e00b8632664caf9c06a478dab919&oe=59F4D9C9

 

China Xinhua News added 5 photos and a video.

2 hrs · _Y91QzmaslR.pngคลิป

เมกะโปรเจ็กต์! รถไฟจีนเชื่อมกัวลาลัมเปอร์-กลันตัน

9 ส.ค. ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเปิดตัวเมกะโปรเจ็กต์เส้นทางรถไฟที่สร้างโดยประเทศจีน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสัมพันธ์จีน-มาเลเซีย สืบเนื่องจากนโยบาย Belt and Road ที่จีนกำลังผลักดัน

นาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวในพิธีเปิดโปรเจ็กต์ดังกล่าวว่า เส้นทางรถไฟเชื่อมต่อชายฝั่งตะวันออก (East Coast Rail Link - ECRL) นี้ใช้งบประมาณ 5.5 หมื่นล้านริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 4.2 แสนล้านบาท) มีความยาว 688 กิโลเมตร โปรเจ็กต์นี้จะช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งให้กับชายฝั่งทะเลตะวันออก

ทางรถไฟดังกล่าวจะเป็นเส้นทางรถไฟแรกที่สร้างในฝั่งตะวันออก ซึ่งเดิมนั้นเชื่อมต่อกับชายฝั่งตะวันตกผ่านทางถนน ทางด่วน และทางรถไฟสายเล็กๆ ซึ่งไม่เพียงพออย่างมาก

มาเลเซียมองว่าโปรเจ็กต์นี้จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมให้กับมาเลเซีย นาจิบ ราซัคกล่าวว่า รถไฟสายนี้จะลดเวลาเดินทางจากกอมบัค (ชานเมืองกัวลาลัมเปอร์) ไปถึงโกตาบารูซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐกลันตันได้ 4-7 ชั่วโมง

เส้นทางรถไฟนี้จะสร้างโดยบริษัท China Communications Construction Company Ltd. เครือบริษัทก่อสร้างโครงสร้างคมนาคมพื้นฐานชั้นนำ ซึ่งเป็นผู้สร้างสะพานปีนังในรัฐปีนังนั่นเอง

นายหวังหย่ง หนึ่งในคณะรัฐมนตรีจีน ก็เดินทางมาร่วมพิธีเปิดเมกะโปรเจ็กต์นี้ด้วย หวังหย่งกล่าวชื่นชมโปรเจ็กต์เส้นทางรถไฟเชื่อมต่อชายฝั่งตะวันออกว่า โปรเจ็กต์นี้จะเป็นหมุดหมายสำคัญซึ่งเกิดจากความร่วมมือของสองประเทศภายใต้นโยบาย Belt and Road และจะช่วยยกระดับเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการพัฒนาที่เท่าเทียมกันในแต่ละภาคส่วนของประเทศมาเลเซีย

เส้นทางรถไฟเชื่อมต่อชายฝั่งตะวันออกนี้จะวิ่งผ่านรัฐกลันตัน รัฐตรังกานู รัฐปาหัง และรัฐเซอลาโงร์ (รัฐซึ่งล้อมรอบกัวลาลัมเปอร์) รถไฟโดยสารที่จะนำมาวิ่งนั้นมีความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. ส่วนรถไฟขนส่งสินค้าจะมีความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม. ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีแผนแล้วเสร็จภายในปี 2024

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

11831719_894249970651482_3502709553985565510_n.jpg?oh=dd87a0e77c104712cfef74cc892d1f11&oe=5A355E6D

วิธีสร้างกุศลของสมเด็จพระนางเจ้าฯ

พระบรมราชินีนาถ

 

ในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗๒ พรรษา

เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๗

มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา

ได้จัดทำหนังสือเฉลิมพระเกียรติ

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

ชื่อว่า "๗๒ พรรษา มหาราชินี"

ในครั้งนั้น คณะผู้จัดทำหนังสือเล่มดังกล่าว

ได้ขออนุญาตเข้าสัมภาษณ์

ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ รองราชเลขานุการ

ในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เกี่ยวกับ

พระราชกรณียกิจด้านต่างๆ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ

พระบรมราชินีนาถ ซึ่งมีหลายประเด็นที่น่าสนใ

ควรแก่การนำเผยแพร่ให้ได้ทราบกันทั่วไป

 

แฟนเพจของศูนย์สารสนเทศ สำนักราชเลขาธิการ

จึงเลือกตัดตอนมาเผยแพร่ ดังนี้

 

...............................................

คณะผู้จัดทำหนังสือ "๗๒ พรรษา มหาราชินี" ถามว่า

 

สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงสดับตรับฟังสื่อต่างๆ

อย่างไร

 

ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ ตอบว่า

 

เมื่อตื่นบรรทมแล้ว ต้องมีหนังสือพิมพ์รายวันถวายไว้

จะเสวยไปทรงอ่านหนังสือพิมพ์ไป แล้วก็รับสั่งว่า

คนเราเกิดมาเป็นมนุษย์นี่นับว่าโชคดีที่สุดแล้ว

ก็เป็นโอกาสเดียวที่จะสร้างกุศลด้วยการช่วยเหลือ

ผู้อื่นบ้าง การที่ทรงอ่านหนังสือพิมพ์ทุกฉบับนี่

เพื่อจะได้ทรงทราบว่าใครตกทุกข์ได้ยาก

หรือเดือดร้อนอย่างไร มีปัญหาอยู่ตรงไหน

บ่อยครั้งที่ทรงเจอเด็กถูกทิ้งในถังขยะ

อะไรต่างๆ ก็จะทรงบอกให้เจ้าหน้าที่กองราชเลขาฯ

ไปช่วยเหลือดูแล ถ้ามีหน่วยงานไหนเข้าไปดูแลอยู่

ก็จะทรงทราบ ทรงรับฟังความเดือดร้อนทุกข์ยาก

พระราชจริยวัตรนี่คือ ทรงมีความรักในแผ่นดิน

และก็ทรงอบรมพวกเราเสมอว่า

เกิดมาเป็นคนนี่แต่ละวันนี่ต้องคิดว่า

เราจะช่วยเหลือคนอื่นได้อย่างไร

สร้างกุศลได้อย่างไร ทำตัวให้เป็นประโยชน์

ต่อคนอื่นได้อย่างไร ประการที่สอง

เราต้องสำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน

ฉะนั้น ชีวิตในแต่ละวัน ก็ต้องทำให้เป็นประโยชน์

ต่อแผ่นดินที่สุด นี่ก็เป็นสิ่งที่ทรงเชื่อ

และก็ทรงทำมาตลอด

 

คณะผู้จัดทำหนังสือ "๗๒ พรรษา มหาราชินี" ถามว่า

 

พระองค์ท่านทรงอ่านหนังสือพิมพ์ไทยด้วยไหม

 

ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ ตอบว่า

 

ใช่ค่ะ ทรงอ่านทั้งหนังสือพิมพ์ไทยและต่างชาติ

ทรงอ่านนิตยสาร นิตยสารต่างประเทศ

 

คณะผู้จัดทำหนังสือ "๗๒ พรรษา มหาราชินี" ถามว่า

 

ได้ทราบจากการสัมภาาณ์ครั้งก่อนๆ ว่า พระองค์ท่าน

ทรงอ่านนิตยสาร Newsweek

 

ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ ตอบว่า

 

มีไทมส์ นิวส์วีค นอกจากนี้ ก็มีแม็กกาซีน

ทางด้านเศรษฐกิจของภูมิภาคตลอดจนวารสาร

ทางเศรษฐกิจอื่นๆ แล้วที่สนพระทัยก็เวิร์ล ว็อช

ที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมซึ่งออกมาเดือนละครั้ง

มีเรื่องสิ่งแวดล้อมทั่วโลก คืออะไรที่เป็นปัญหา

เขาจะเฝ้าดูเฝ้าระวัง ขนาดสิ่งแวดล้อมของไทย

เขากล้าพูดกล้าเล่า เพราะว่าเขาไม่ได้มีส่วนได้

ส่วนเสีย เพียงแต่เขาเป็นห่วงอนาคต

ของสิ่งแวดล้อมที่มีค่า เขาห่วงทรัพยากรต่างๆ

 

คณะผู้จัดทำหนังสือ "๗๒ พรรษา มหาราชินี" ถามว่า

 

เมื่อมีคนเดือดร้อน ก็มีข่าวว่าพระองค์ท่านส่งค

เข้าไปอุปถัมภ์ได้รวดเร็ว ทันควัน พระองค์ทรงดู

โทรทัศน์ใช่ไหม

 

ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ ตอบว่า

 

ค่ะ พระองค์ท่านทรงดูโทรทัศน์ในช่วงข่าว

แต่ว่าส่วนใหญ่ทรงอ่านหนังสือพิมพ์ ส่วนโทรทัศน์

อาจเป็นคนใกล้ชิดหรือคุณข้าหลวงดูแล้วเล่าถวาย

ให้พระองค์ฟังแล้วก็โปรดให้ตามข่าวทางด้านนี้

 

...........................................

 

ข้อมูลและภาพจากหนังสือ "๗๒ พรรษา มหาราชินี"

มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยาจัดพิมพ์

ในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๗๒ พรรษา

เมื่อ พ.ศ.๒๕๔๗

 

เชิญคลิกถูกใจและช่วยกันแชร์นะครับ

https://www.facebook...?type=3

 

 

====

กรมประชาสัมพันธ์

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ added 2 new photos.

1 hr · _Y91QzmaslR.png

ผมคำนวณว่าเกาหลีเหนือ *ชนะ* สงครามน้ำลาย:

จากข่าวที่ผมนำเสนอให้ทุกท่านอ่าน มีข้อมูลน่าเชื่อถือว่าเกาหลีเหนือมีหัวรบนิวเคลียร์อยู่หลายหัวรบ มีศักยภาพที่จะโจมตี อย่างน้อยที่สุด เกาะฮาวายและอลาสก้า ดีไม่ดีถึงภาคกลางของสหรัฐอเมริกาด้วยซ้ำ

เพราะฉะนั้น ฉากต่อไป จึงสรุปได้ว่า ๑.เกาหลีเหนือจะไม่มีทางเจรจาเพื่อลดการผลิตขีปนาวุธนิวเคลียร์กับอเมริกาหรือสหประชาชาติ (องค์กรนี้ไม่มีปัญญาช่วยเหลือประเทศที่ถูกรังแกจริง) มีแต่จะเพิ่มหัวรบให้มากขึ้น ๒.อเมริกาจะไม่กล้าโจมตีเกาหลีเหนือ ในสภาพที่ตนเองมีปัญหาทางเศรษฐกิจอยู่ขณะนี้ จะก่อสงครามเพื่อกลบเกลื่อนปัญหาทางเศรษฐกิจแบบเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว เพราะคิมจองอันมีอาวุธร้ายแรง ได้ไม่คุ้มเสีย

เกาหลีเหนือถูกอเมริกา ทำลายชาติ สังหารประชาชนเป็นผักปลา ว่ากันว่าในสงครามเกาหลี มีคนถูกฆ่าตายไม่น้อยกว่า ๓ ล้านคน (ดู https://theintercept.com/…/why-do-north-koreans-hate-us-on…/ และ http://www.newsweek.com/us-forget-korean-war-led-crisis-nor… ) เกาหลีเหนือจึงคั่งแค้นอเมริกาในอกมานาน

คนเกาหลีเหนือฉลาด ไม่ลืมประวัติศาสตร์ว่าอเมริกาเคยทำกับตนเองไว้อย่างไร สื่อเกาหลีเหนือช่วยกันแฉว่ารัฐบาลอเมริกาคือรัฐบาลประชาธิปไตยจอมปลอม เป็นประเทศที่เคารพสิทธิมนุษยชนจอมปลอมแต่เป็นรัฐบาลอันธพาลตัวจริง

คิมจองอันไม่อยากเป็นเหมือนกัดดาฟีในลิเบียหรือซัดดัม ฮุสเซนในอิรักที่ถูกรัฐบาลอเมริกาและแก๊งชาตินักล่าอาณานิคมปล้นสดมภ์ เขาไม่ต้องการให้เกาหลีเหนือเป็นเหมือนซีเรีย อิรัก ลิเบีย ถ้าหากอเมริการุกรานเขาอีก ผมเชื่อว่าพลังแค้นของเกาหลีเหนือจะถล่มอเมริกาเละ และไม่ต้องใช้เวลาตัดสินใจนาน หากอเมริกายังทำตัวเป็นอันธพาลอยู่

รัฐบาลอเมริกาคือรัฐบาลประชาธิปไตยและเป็นรัฐบาลที่เคารพสิทธิมนุษยชนจอมปลอม รุกรานต่างชาติ ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศเป็นอาจิณ ร่วมมือกับซาอุฯ ถล่มเยเมน ทิ้งระเบิดใส่แม้กระทั่งคลังอาหารจนชาวบ้านอดตาย เอาระเบิดฟอสฟอรัสขาวทิ้งใส่ประชาชนซีเรียยังไม่พอ ยังอ้างว่าชาติอื่นทำอีก ม็อบที่อเมริกาหนุนในเวเนซุเอล่าก็ลักลอบเผาคลังอาหารของฝ่ายรัฐบาล หวังจะให้ประชาชนอดตาย ฯลฯ

รัฐบาลที่ไร้ศีลธรรมอย่างอเมริกาสมควรเจอคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อหน่อย มาเจอเกาหลีเหนือที่ต้องการแก้แค้น นับเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมแล้ว

ถ้าจะให้ดี

ตัวต่อตัวกับเกาหลีเหนือนะครับ

อย่าเล่นหมาหมู่ตามนิสัยเคยชิน

๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๐

(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

*หมายเหตุ: ๑.ถ้าจะแชร์ ไม่ต้องขออนุญาตแต่โปรดอ้างที่มาให้ชัดเจน ๒.หากจะวิจารณ์โปรดใช้คำสุภาพ สองข้อนี้สำคัญเพื่อป้องกันมิให้ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ โปรดสะกดใช้คำให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทยด้วย ข้อความวิจารณ์ที่ *หยาบ* และ *สะกดผิด* จะลบออกทุกครั้งที่เห็น

20689711_1382834561764500_844411118295665701_o.jpg?oh=de82d95101782f6b893c2b6567e1ab6f&oe=5A2EAB3D

20707910_1382834631764493_7049142089163610868_n.jpg?oh=025d87ef754c4bf16c81529944aea0eb&oe=5A2CC528

ยึดทรัพย์ข้ามโลก! 'วิษณุ'เล็งแก้กม.ตามล่าถึงต่างประเทศ

10 ส.ค.60 ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการปฏิรูปกฎหมาย ว่า ประเทศไทยมีกฎหมายที่ต้องเปลี่ยนแปลงจำนวนมาก จึงตั้งคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายขึ้นมารองรับ ซึ่งไม่สามารถทำม้วนเดียวจบได้…

NAEWNA.COM

===

cr Paisal Puechmongkul

un ไม่ได้แซงชั่นอิหร่าน

อาเซี่ยนไม่ได้แซงชั่นอิหร่านและยังค้าขายกันเอิกเกริก

สหรัฐแซงชั่นอิหร่านเรื่องนิวเคลียร์ เป็นกรณีระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน อาเซี่ยนและไทยไม่เกี่ยว

และที่สหรัฐแซงชั่นก็ไม่ห้ามการแลกเงินของนักท่องเที่ยว

ถ้าธนาคารแห่งประเทศไทยห้ามแลกเงินแก่นักท่องเที่ยวอิหร่าน

เป็นการไม่ชอบและต้องชี้แจงว่าใครสั่งและทำไมสั่งอย่างนั้น

อย่าลืมว่าไทยอิหร่านมีไมตรีที่ดีต่อกันมาก

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพิ่งทรงมีพระราชสาส์นตามทางไมตรีไปอิหร่านสองครั้ง

รัฐบาลก็เพิ่งส่งรัฐมนตรีเป็นตัวแทนไปร่วมพิธีรับตำแหน่งของประธานาธิปดีมาหยกๆ

เรื่องนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องรีบแก้ไขและขี้แจงโดยพลัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

11071141_663484790423012_1652727049854854456_n.jpg?oh=e8f812f2bd43b21153f5adeaff776919&oe=5A35BFBF

 

11066024_663485363756288_9002048705787191764_n.jpg?oh=112f030cee81c284506935e3bbe671ed&oe=5A33C8E5

 

1010154_663485783756246_5579205018936506734_n.jpg?oh=919f20de40f3f600733a0ac2ce81f160&oe=5A327D64

"Every picture shows a spot with which the artist has fallen in love."

~Alfred Sisley~

 

PAINTINGS : Arthur John Elsley (1860-1952)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เตรียมแผนเผชิญเหตุ หน่วยพิเศษรปภ.ขั้นสูงสุดพระราชพิธีถวายพระเพลิง

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมร่วมกับตัวแทนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล…

NAEWNA.COM

 

286842.jpg?t=1503044964957

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมร่วมกับตัวแทนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสันติบาล กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเตรียมความพร้อมจัดทำแผนเผชิญเหตุในช่วงระหว่างงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

โดย พล.ต.อ.เดชณรงค์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า เป็นการเตรียมความพร้อมในด้านการอำนวยการจราจรและการดูแลรักษาความปลอดภัยในงานพระราชพิธีพวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยในวันนี้เป็นการหารือเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำแผนเผชิญเหตุ ซึ่งมีหลักสำคัญ คือ ต้องสมพระเกียรติสูงสุดและปลอดภัยสูงสุดเช่นกัน โดยการทำแผนเผชิญเหตุเป็นไปตามสมมุติฐานที่ต้องคาดไว้ก่อนว่า หากเกิดกรณีฉุกเฉินหรือมีภัยคุกคามจะต้องเตรียมแผนรองรับอย่างไร เพื่อให้พระบรมวงศานุวงค์ทุกพระองค์ปลอดภัย ประชาชนทุกหมู่เหล่าที่ร่วมงานก็ปลอดภัย และพระราชพิธีผ่านไปอย่างราบรื่น

ทั้งนี้ในวันที่ 19 สิงหาคม เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจุดต่างๆของสถานที่จริง สำหรับกำหนดแผนเผชิญเหตุทุกมิติทั้งภาคพื้นดิน ทางอากาศ ทางน้ำ และส่วนสำคัญที่สุดในการดูแลความปลอดภัย คือ ต้องการความร่วมมือการสอดส่องเป็นหูเป็นตาจากประชาชน ในการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่กรณีพบเห็นสิ่งผิดปกติ เปรียบเสมือนกล้องซีซีทีวีจากภาคประชาชนที่คอยเป็นหูเป็นตาแทนเจ้าหน้าที่รัฐ คอยแจ้งเหตุ

“เราได้จัดเตรียมชุดปฏิบัติการพิเศษที่รวมกำลังของกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และตำรวจไว้ด้วยกันจำนวน 100 นาย เป็นชุดปฏิบัติการที่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ทันท่วงที กรณีหากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเหตุไม่พึงประสงค์ โดยสั่งการผ่านกองอำนวยการร่วมใช้ระบบการสั่งการวันวอยซ์วันคอมแมน แยกกันทำงาน แต่สั่งการโดยผู้บังคับบัญชาคนเดียว เพื่อให้งานคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีความพร้อมมีร้อยละ 99.99 แล้ว เหลือเพียงการซักซ้อมและเติมเต็มให้สมบูรณ์เท่านั้น” พล.ต.อ.เดชณรงค์กล่าว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันเสาร์ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ เวลาบ่าย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จออกพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล เป็นการส่วนพระองค์ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

ขอบคุณภาพ.สำนักพระราชวัง

 

20727823_10155787163907922_4636271811346099856_n.jpg?oh=fdba1678a6ac692c8bd376f4627a3b9d&oe=5A257D42

 

20664942_10155787164012922_2253916289201174047_n.jpg?oh=44969063803fe09df8a6b9ea838e3251&oe=5A385191

 

20729363_10155787163877922_4968246798531429514_n.jpg?oh=92ad6f63dc33fec6f1a07973d00c3a67&oe=5A2685CC

 

20729438_10155787163952922_5256303355632064766_n.jpg?oh=4b59899470904c63b67f578c231d2dc6&oe=5A173E20

 

 

 

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานคลิป

 

เมื่อวันเสาร์ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๙.๓๗ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล นำคณะผู้บริหารของคณะแพทยศาสตร์ฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานเงินจำนวน ๑๐๐ ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากการจำหน่ายสมุดไดอารีภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์ เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา โรงพยาบาลศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสความว่า "...ช่วยโครงการศิริราชที่ดำเนินการอยู่ หวังว่าจะช่วยได้บ้าง และขอขอบคุณที่ดูแลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"

ขอบคุณภาพ.Web_Matichon Online - มติชนออนไลน์

 

 

 

 

20746059_10155789509412922_2733888657004568590_o.jpg?oh=aa518af0b5b78f6f21e41a9c5d492e35&oe=5A327160

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

20914520_630821340638779_3187061304541751047_n.jpg?oh=fcaa357e347b34e02e7aa4e5b5636201&oe=5A2CEE36

นายกฯเผยในหลวงพระราชทาน 9 แนวทางปฏิบัติ ทรงแนะนำพระราช

ดำริในหลวงงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ยึดเป็นหลักปฏิบัติต่อไป รัฐบาลน้อมรับใส่เกล้าฯ นำดำเนินการทันที... เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่

8 ส.ค. 2560 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า

เมื่อช่วงค่ำวันที่ 7 ส.ค. 2560 ได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นการส่วนพระองค์ เพื่อถวายรายงานการทำงานของรัฐบาลตามห้วงระยะเวลา ซึ่งตนเองได้ถวายรายงานการทำงานของรัฐบาลตามห้วงระยะเวลา ซึ่งตนเองได้ถวายรายงานในทุกๆ เรื่อง ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ ปัญหาอุทกภัย และการช่วยเหลือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีกระแสรับสั่ง ประกอบด้วย 1. ทรงมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ทรงรับสั่งให้ช่วยเหลือตามมาตรการต่างๆด้วยความรวดเร็ว และทั่วถึง ลดภาระการซ้ำซ้อน สิ่งใดที่สถาบันจะช่วยได้ก็จะพระราชทานความช่วยเหลือมาให้อย่างที่ทรงทำในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังรับสั่งให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนเป็นแต่ละพื้นที่ไป ถ้ายังไม่สามารถดำเนินการภาพรวมใหญ่ๆ ทั้งหมดได้ ก็ให้ทยอยดำเนินการไป เรื่องดังกล่าวตนได้กราบบังคมทูลอธิบายถวาย

ให้ทรงทราบแล้วว่า รัฐบาลกำลังมีโครงการต่างๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงริเริ่มไว้มาหลาย10 ปี ซึ่งบางโครงการก็ยังไม่สำเร็จ หรือยังไม่ครบ ซึ่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่การทำ แต่อยู่ที่ประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียในที่ดิน หรือพื้นที่ส่วนบุคคล ซึ่ง

ในวันที่ 9 ส.ค. ตนจะหารือกับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำในเรื่องดังกล่าวว่า จะต้องทำอะไรให้เกิดขึ้นได้บ้าง โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งอาจจะต้องมีการเวน

คืนที่ดินกันหรือไม่ หรือจำเป็นต้องเช่าพื้นที่เอกชนเพื่อเก็บกักน้ำให้ได้อย่างแท้จริง วันนี้ถ้าเราปล่อยให้น้ำท่วมถึงเวลาก็ไปเยียวยา ก็ต้องไปดูในภาพรวมว่าในพื้นที่ดังกล่าวประชาชนมีรายได้อย่างไร ปลูกพืชปีละกี่ครั้ง และปริมาณน้ำท่วมเท่าไร ก็จะต้องไปหารือว่าจะใช้เป็นพื้นที่เก็บน้ำเลยได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวต่อว่า เรื่องที่ 2. มีรับสั่ง ขอให้ทำให้ประเทศชาติ และประชาชนมีความสุข ซึ่งทรงย้ำเสมอทั้งเรื่องการช่วยเหลือ การบรรเทา การจัดระเบียบ การสร้างวินัย สร้างวินัย

สร้างอุดมการณ์ ว่าให้ทำทุกมาตรการอย่างต่อเนื่อง 3. ให้ช่วยกันรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีที่มีมาแต่โบราณกาลในส่วนที่ดีงาม มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย ทำให้นักท่องเที่ยวได้พบเห็นและชื่นชม ขอให้รักษาไว้ให้ได้ 4. รับสั่งถึงภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ อาทิ ภัยคุกคามในรูปแบบเก่า อธิปไตย ซึ่งวันนี้น้อยลง มีเฉพาะเรื่องของการรักษาทรัพยากรทั้งบนผืนแผ่นดิน และผืนน้ำ ที่เป็นอาณาเขตของประเทศไทย จำเป็นต้องมีกำลังไว้ดูแลรักษา และทรงเป็นห่วงในเรื่องของภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ต้องเตรียมมาตรการรองรับไว้ให้เป็นสากล ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เกิดในประเทศอื่นก็จะมามีอิทธิพลต่อประเทศไทย อยู่ที่คนไทยทุกคนจะร่วมมือกัน 5. รับสั่งให้เร่งดู

แลระบบการศึกษา ซึ่งปัจจุบันเรามีการปฏิรูปกันอยู่มากพอสมควร เพื่อเร่งกระบวนการเรียนรู้ให้คนไทยมีความรู้อย่างจริงจัง ทำงานได้ สามารถที่จะมีอาชีพมั่นคงมีความเข้มแข็ง และมีหลักคิดที่ถูกต้องในทุกๆ เรื่อง จะได้ลดความขัดแย้ง 6. รับสั่งให้ช่วยกันส่งเสริมงานจิตอาสา ซึ่งตนได้สั่งการในที่ประชุม ครม.นำแนวกระแสรับสั่งให้กระทรวงมหาดไทยไปจัดตั้งกลุ่มอาสาสมัครขึ้นมาในการดูแลพื้นที่ ดูแลความมั่นคง และในกิจการต่างๆ ลักษณะเป็นจิตอาสา หรือทำกิจการสาธารณะ เพราะบางอย่างถ้ารอข้าราชการทำฝ่ายเดียวไม่ทัน เพราะต้องผ่านกลไก และขั้นตอนต่างๆ แต่ถ้าช่วยกันคนละไม้คนละมือโดยจิตอาสาก็จะเกิดขึ้นได้เร็ว ภาระต่างๆ การใช้จ่ายงบประมาณก็จะลดลง จะได้นำงบประมาณไปทำอย่างอื่น 7. รับสั่งในเรื่องการดูแลประชาชนให้ความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม ทุกอย่างทรงขอว่าให้เป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายทุกประการ ให้มีหลักฐานที่ชัดเจน ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น และไว้วางใจในกระบวนการยุติธรรมให้ได้ 8. ข้าราชการทุกหมู่เหล่า หรือส่วนราชการ ไม่ว่า

จะเป็นข้าราชการฝ่ายใดก็ตาม ขอให้ประพฤติตนเป็นแบบอย่าง เป็นแม่แบบให้กับประชาชน ให้เกิดความเคารพศรัทธา และเชื่อมั่นในการทำงาน จะได้เกิดความร่วมมือ ลดผลกระทบระหว่างกันให้ได้ในการบังคับใช้กฎหมาย 9. เรื่องสำคัญที่สุด คือ ทรงเสียใจในการสูญเสียพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และคนไทยทั้งประเทศก็มีความรุ้สึกเช่นเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งว่า ขอให้ช่วยกันสร้างความเข้าใจ ขยายสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงทำไว้อย่างมากมายให้ยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป ซึ่งพระองค์ท่านทรงพระราชทานแนวทางไว้เป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเองก็ทรงได้รับการสอนจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ด้วย เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่จะต้องแก้ไข เพราะท่านทรงตรัสว่า "เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วที่สมเด็จพ่อได้ทรงทำไว้" ขณะเดียวกันก็ทรงให้นึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ด้วย ซึ่งพระองค์พระราชทานสิ่งต่างๆ ไว้มากมายให้กับประเทศไทย ขอให้นำแนวทางพระราชดำริของทั้งสองพระองค์ไปขับเคลื่อน ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็จะทรงสนับสนุนและส่งเสริม สถาบันก็จะช่วยเหลือรัฐบาลในการทำหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนไปพร้อมๆ กัน มีอะไรขอให้ทูลฯ ให้ทราบ "สิ่งเหล่านี้ ผมได้นำความต่างๆ มาให้ประชาชนทั้งประเทศได้รับทราบ เพื่อสนองแนวพระราโชบาย สนองพระกระแสรับสั่ง ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และโชคดีที่ประเทศไทยมีพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ทรงสืบสานต่อพระราชปณิธานของรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ขอให้คนไทยทุกคนช่วยกันรักษาต่อไป และขอให้ใช้การสูญเสียในครั้งนี้ไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศไปในสิ่งที่ดีกว่าเดิม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล" นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์​ กล่าวด้วยว่า ในเรื่องการถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ที่ได้มีการเตรียมการ มีความก้าวหน้าไปตามลำดับ เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งว่า อยากให้ประชาชนในทุกพื้นที่ ทุกจังหวัด มีส่วนร่วมในการวางดอกไม้จันทน์ แต่ทั้งหมดคงมาที่กรุงเทพฯ ไม่ได้ ขอให้จัดสถานที่ในการวางดอกไม้จันทน์ในทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสวางด้วยมือของตัวเองอย่างทั่วถึง ซึ่งตนได้สั่งการในที่ประชุม ครม.วันนี้ไปแล้ว นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นต่อพวกเราทุกคน.

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1031819

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

20954050_1491318714258382_2566863456731365737_n.jpg?oh=887f08599a7265993065d12ffa69fcdb&oe=5A1E9849

พระเมตตาดั่งห่าฝน

สีห้อมบนกระดาษ

วาดโดย Thanakorn Chaijinda

 

 

==

หนังสืองานพระบรมศพ

จัดทำเสร็จแล้วค่ะ

50 หน้า

(เปิดอ่านเหมือนหนังสือได้เลย)

 

http://www.m-culture.go.th/th/ebook/Glossary_about_HM_King_Bhumibol_Adulyadej's_Funeral/mobile/index.html#p=1

ใช้นิ้วมือปัดจากขวาไปด้านซ้าย ก็จะเปิดทีละหน้า เหมือนกับเราเปิดหนังสืออ่าน

 

ส่งแจกไปให้ทั่วถึงนะคะ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

Paisal Puechmongkol

Yesterday at 13:57 ·

eecเกี่ยวอะไรกับสถานีต่อสู้อากาศยานป้องกันชายฝั่งผืนล้ำค่าของกองทัพเรือ?

ใจชื้นได้ครับพี่น้อง ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมากมายกำลังสนใจติดตามเรื่องประหลาดๆของeec กัน

ได้รับข้อมูลสำคัญมาแจ้งให้ทราบทั่วกัน!!!!

รวบรวมเรื่องราวกันไว้ครับ

เรื่อง EEC นั้น ตัวจักรกลหลักคือ ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เพื่อนของนาย... และมี....หนุนให้มาตรงนี้ และเชื่อมถึงกลุ่มไอ้....ด้วยครับ

นอกจากนั้น ดร.คณิศ ยังเป็น ปธฯบอร์ดเล็ก ของ การบินไทยด้วยครับ ปัจจุบันบอร์ดเล็กนี้เป็นผู้บริหารการบินไทยตัวจริงครับ

ดร.คณิศก็เป็น ปธฯสายการบินไทยสไมล์อีกตำแหน่งหนึ่งด้วยครับ

เรื่อง EEC นี้ จริงๆแล้วกลุ่มนายทุนมันจ้องจะเอาที่ดินชายทะเลของ สอ.รฝ.ทร.ครับ เดิมก็เคยมีการพยายามกันมาตั้งแต่คราวอีสเทินซีบอร์ด แต่ ณ.ขณะนั้น ท่าน พล.อ.เปรม นายกฯ และ แม่ทัพเรือ พล.ร.อ.ประพัฒน์ ท่านไม่อนุมัติ และตกลงใจตั้ง สอ.รฝ. - สถานีทหารเรือต่อสู้อากาศยานรักษาชายฝั่งคลุมพื้นที่แทน

ขณะนี้...เกิดความพยายามอีกครั้ง โดยเอา....มาทำต่อครับ

ที่ดิน สอ.รฝ.(สถานีทหารเรือต่อสู้อากาศยานรักษาชายฝั่ง)นั้น ยาวเหยียดติดทะเลชายหาดสวยงาม มีเงินเท่าใดก็ซื้อไม่ได้ และไอ้....มันจะเอานายทุนญี่ปุ่นมาวางรางรถไฟและทำ housing เอาคนชราสูงอายุญี่ปุ่นมารีไทร์ครับ

ขณะนี้เริ่มเตรียมเปิดทางที่จะออกวีซ่าให้คนต่างชาติอายุเกิน40ปีมาอยู่ประเทศไทยตลอดชีวิตแล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แถลงการณ์ของคณะศิษย์เก่าจุฬาฯกีณีเนติวิทย์ ครับ.

จดหมายเปิดผนึกถึงผู้บริหาร

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายนำโดยนายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตคณะรัฐศาสตร์กับพวกในระหว่างพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณของนิสิตใหม่ประจำปีการศึกษา 2559 และ 2560 ซึ่งไม่เคารพและปฏิบัติตามรูปแบบของพิธีการอันเป็นประเพณีอันดีงามที่สืบทอดกันมา นอกจากนั้น ยังมีการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ โดยบังอาจแอบอ้างประกาศพระบรมราชโองการของรัชกาลที่ 5 เพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่พฤติกรรมของตนและพวกนั้น

​คณะศิษย์เก่าจุฬาฯ มีความเห็นว่าหากมหาวิทยาลัยไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลเหล่านี้อย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนรวมทั้งกำหนดบทลงโทษผู้ก่อกวนทำลายพิธีการของจุฬาฯ ตลอดจนไม่ชี้แจงให้สังคมไทยได้เข้าใจถึงบริบทและประเพณีต่างๆ ของจุฬาฯ ในอนาคตก็อาจจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาอีกซึ่งจะนำไปสู่ความแตกแยกในหมู่นิสิตและเปิดโอกาสให้กลุ่มนิสิตที่นำโดยนายเนติวิทย์ได้มีโอกาสเผยแพร่แนวคิดที่หลงผิดแก่นิสิตและคนทั่วไปอันเป็นอันตรายอย่างยิ่งอีกด้วย จึงมีความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อฝ่ายบริหารของจุฬาฯ เพื่อพิจารณาดังนี้

1. งานประเพณีของจุฬาฯ เป็นสิ่งที่แตกต่างจากงานกิจกรรมที่จัดขึ้นโดยสโมสรนิสิตทั้งความหมายและรูปแบบ การจัดงานประเพณีของจุฬาฯ เป็นการสืบทอดทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของสถาบัน เป็นสิ่งที่ดีงามควรค่าแก่การธำรงไว้และสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตามยุคสมัย อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจต่อนิสิตผู้เข้าร่วมทุกคนที่จะได้รับการปลูกฝังให้มีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระผู้ให้กำเนิด พระผู้สถาปนา และสำนึกในพระคุณของครูบาอาจารย์ ตลอดจนพัฒนาจิตสำนึกให้นำความรู้คู่คุณธรรมไปสร้างประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติภายใต้พระนาม “จุฬาลงกรณ์” ที่จะติดตัวบัณฑิตทุกคนตลอดไป

2. งานประเพณีของจุฬาฯ ไม่ว่าจะเป็น งานปฐมนิเทศนิสิตใหม่ พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นนิสิตจุฬาฯ งานไหว้ครู พิธีถวายบังคมและวางพวงมาลางานวันปิยมหาราชและวันมหาธีรราชเจ้า หรือพิธีถวายบังคมลาหลังพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ล้วนเป็นงานประเพณีตามนโยบายของมหาวิทยาลัย ไม่ใช่งานของสโมสรนิสิต ฝ่ายบริหารของจุฬาฯ จึงต้องรับผิดชอบในการเตรียมงานทุกด้านและทุกขั้นตอน โดยองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ หรือ อบจ. จะเป็นผู้ประสานงานให้นิสิตได้เข้าร่วมและดำเนินการตามขั้นตอนที่มหาวิทยาลัยกำหนดไว้ภายหลังจากการปรึกษาหารือในรายละเอียดร่วมกัน ดังนั้น ฝ่ายบริหารของจุฬาฯ จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปจัดทำข้อตกลงหรือประนีประนอมกับกลุ่มนิสิตกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะกลุ่มที่เหิมเกริมต้องการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของงานโดยมีวาระซ่อนเร้นและบิดเบือนด้วยถ้อยคำปรุงแต่งให้สาธารณะเกิดความเข้าใจผิด

3. งานประเพณีของจุฬาฯ ไม่ได้บังคับให้นิสิตทุกคนต้องเข้าร่วม แต่นิสิตใหม่ทุกคนที่กำลังย่างเท้าก้าวเข้าสู่เส้นทางชีวิตใหม่ในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้กำลังเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความอยากที่จะเรียนรู้การใช้ชีวิตที่ประกอบไปด้วยบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะนิสิตใหม่ในมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย จึงไม่มีใครปฏิเสธหรือตั้งคำถามและสมัครใจที่จะเข้าร่วมงานปฐมนิเทศนิสิตใหม่ งานไหว้ครู งานพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นนิสิตจุฬาฯ หรืองานอื่นๆ ที่จัดขึ้นเพราะเป็นงานประเพณีที่ทรงคุณค่า ให้ความรู้ความประทับใจ ด้วยรูปแบบงานที่สะท้อนถึงเอกลักษณ์และสอนสั่งให้เกิดความกตัญญูรู้คุณ สามารถตอบสนองความต้องการของนิสิตใหม่จนเกิดความภาคภูมิใจที่ได้รับการยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของลูกจุฬาฯ เมื่อผ่านพิธีต่างๆ แล้ว อย่างไรก็ตาม นิสิตใหม่อาจจะไขว้เขวและสับสนหากไม่ได้รับคำชี้แนะที่ถูกต้องจนหลงเชื่อข้อมูลอันเป็นเท็จจากกลุ่มนายเนติวิทย์

4. งานประเพณีของจุฬาฯ ที่มีรูปแบบการถวายบังคมไม่ได้ขัดแย้งกับบริบทของวัฒนธรรมและประเพณีไทย ฝ่ายบริหารของจุฬาฯ สามารถอาศัยเทคโนโลยีสร้างเครือข่ายสังคมกลุ่มต่างๆ อาทิ พ่อแม่ผู้ปกครองนิสิตใหม่ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เกิดความเข้าใจตรงกันเพราะพ่อแม่ผู้ปกครองยังคงมีอิทธิพลสูงต่อการตัดสินใจเข้าร่วมงานของลูกหลาน รวมทั้งสร้างความชัดเจนกรณีที่มีข้อห้ามทางศาสนาหรือสภาพร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวยว่าทางมหาวิทยาลัยมีการเตรียมการในเรื่องนี้อย่างไร คำแนะนำโดยพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีต่อลูกหลานนั้นจะยิ่งช่วยสร้างกระบวนการเรียนรู้และปลูกฝังให้นิสิตใหม่เห็นคุณค่าและพร้อมที่จะเข้าร่วมงานด้วยความกระตือรือร้น

5. นิสิตปัจจุบัน ศิษย์เก่า คณาจารย์ที่ได้รับเชิญเข้าร่วมงานประเพณีของจุฬาฯ จะต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์กติกาเดียวกันและต้องปฏิบัติตามด้วยความเคารพและมีมารยาททางสังคม หากผู้ใดล่วงละเมิด ทำลาย สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นในระหว่างพิธีการ ฝ่ายบริหารจุฬาฯ ต้องมีแผนและมาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อหยุดยั้งพฤติกรรมและยับยั้งความเสียหายที่กำลังเกิดขึ้น รวมทั้งต้องกำหนดบทลงโทษต่อผู้กระทำผิดด้วยเพื่อป้องกันและป้องปรามมิให้ผู้หนึ่งผู้ใดอาศัยงานประเพณีเป็นเครื่องมือแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อประโยชน์ส่วนตนอันอาจจะยิ่งสร้างความหลงผิดแก่เยาวชนจนนำไปสู่การทำลายรากเหง้าแห่งประเพณีและวัฒนธรรมของสังคมไทยด้วย

6. จุฬาฯ เป็นสังคมที่เปิดกว้าง มีอิสรภาพทางวิชาการและแสดงออกได้โดยต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตที่ไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ต้องเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน ตลอดจนต้องไม่ลบหลู่ดูหมิ่นรูปแบบของพิธีการในงานประเพณีที่ได้รับความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัยและฝ่ายบริหารของจุฬาฯ แล้ว หรือจงใจสร้างสถานการณ์เพื่อทำลายพิธีการในภาพรวม กรณีของนายเนติวิทย์ที่มีประวัติเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนและแวดล้อมไปด้วยกลุ่มบุคคลที่สังคมไทยต้องเฝ้าระวังและจับตามองนั้น ได้แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่ไม่เคารพและปฏิบัติตามระเบียบกฎเกณฑ์และขั้นตอนของพิธีการ ละเมิดสิทธิของผู้เข้าร่วมพิธีถึง 2 ครั้ง ทำลายภาพลักษณ์ของจุฬาฯ โดยอ้างว่าเป็นประธานสภานิสิตได้ทำข้อตกลงกับรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตแล้ว ดังนั้น ฝ่ายบริหารของจุฬาฯ จึงต้องชี้แจงให้สังคมไทยได้รับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดรวมทั้งบทบาทหน้าที่ของประธานสภานิสิตที่เป็นเพียงประธานในที่ประชุมเท่านั้น ไม่มีสิทธิมาสร้างเงื่อนไขต่อรองกับฝ่ายบริหารและไม่มีสิทธิมาตรวจสอบเพราะไม่ใช่กิจกรรมของสโมสรนิสิตเว้นแต่ให้ข้อเสนอแนะในเชิงสร้างสรรค์เท่านั้น การที่นายเนติวิทย์มาร่วมในพิธีนี้ในชุดราชปะแตนก็เป็นเพียงการมาเป็นสักขีพยานในตำแหน่งของสมาชิกสภานิสิตซึ่งยิ่งต้องทำตัวให้สมกับเกียรติที่ได้รับ มิใช่เล่นแง่หรือทำตัวเป็นขบถต่อประเพณีของสถาบันที่ตนเองเข้ามาศึกษาหาความรู้ หากฝ่ายบริหารของจุฬาฯ ยังไม่จริงจังที่จะดำเนินการลงโทษนายเนติวิทย์และพวกทั้งๆ ที่มีพยานบุคคลและภาพถ่ายเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นถึงการวางแผนเคลื่อนไหวอย่างเป็นขบวนการ ก็เสมือนส่งเสริมให้กลุ่มอันธพาลในคราบปัญญาชนเหล่านี้ประพฤติผิดซ้ำซากและเผยแพร่แนวคิดที่หลงผิดต่อไป อันจะเป็นภัยต่อขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของสังคมไทยและนำความเสื่อมเสียแก่สถาบันแห่งนี้ในที่สุด

โดยสรุป คณะศิษย์เก่าจุฬาฯ ขอแสดงจุดยืนที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งงานประเพณีที่ดีงามต่างๆ ทั้งหลายและส่งต่อให้เป็นวัฒนธรรมอันงดงามของสถาบันต่อไปอย่างไม่สูญสลาย และมีความเห็นว่า การแสดงออกซึ่งความรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความเคารพสูงสุดโดยการหมอบกราบ หรือการถวายบังคมเป็นสัญลักษณ์ที่งดงามและสมควรอนุรักษ์ มิใช่แต่ภายในสถาบันเท่านั้น แม้แต่ในสังคมโดยทั่วไป คนไทยส่วนใหญ่ยังคงยึดถือปฏิบัติอยู่อย่างมิมีผู้ใดคิดจะยกเลิก การแสดงถึงความกตัญญูรู้คุณ การให้เกียรติ การมีสัมมาคารวะ การแสดงความเคารพต่อบุคคลอย่างเหมาะสมแก่สถานะ เป็นสิ่งที่งดงามไม่ว่าจะใช้มาตรวัดในด้านใดๆ ทั้งในแง่ภาพลักษณ์ที่แสดงออกภายนอก ในแง่จริยธรรม และคุณค่าที่ส่อจากภายใน ไม่ว่าจะในสังคมไทยหรือแม้แต่ระดับสากล

ดังนั้น คณะศิษย์เก่าจุฬาฯ จึงขอแสดงจุดยืนต่อต้านกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาร้ายมุ่งหวังป่วนทำลายโดยแอบอ้างพระบรมราโชวาทอย่างผิดๆ ขาดเข้าใจในบริบท (Context) ที่ถูกต้อง และเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับการที่ฝ่ายบริหารของจุฬาฯ ได้จัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนความประพฤติของนายเนติวิทย์และพวก ตลอดจนใคร่ขอเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารของจุฬาฯ ดำเนินการเชิงรุกอย่างเป็นรูปธรรมและแก้ไขกฎระเบียบให้สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร็วและมีมาตรการจัดการขั้นเด็ดขาดต่อกลุ่มผู้ไม่หวังดี ดื้อดึง เหยียบย่ำ บ่อนทำลายและสร้างความสับสนแก่สังคมไทยอันจะเป็นการบั่นทอนความน่าเชื่อถือและความมั่นคงของสถาบันในระยะยาวรวมทั้งทำลายรากเหง้าขนบประเพณีอันดีงามของชาติอีกด้วย

นายธัชพงศ์ ธรรมพุฒิพงศ์

นายกองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ พ.ศ. 2529

20992763_671367186399939_2481218033051207640_n.jpg?oh=2e1d4c21fed3dbdfe2e561b8a8a336fb&oe=5A34E7AA

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...