ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณคุณgingerที่นำข้อความดีๆมาลงให้อ่าน เป็นเรื่องจริงทีเดีียวที่บางทีคนเราก็มีความสุขกับการได้ช่วยเหลือผู้อื่น แม้คนพูดเองกก็เคยพูดไปแล้วว่าอดชื่นชมเหล่าบรรดาสมาชิกในเวปนี้ไม่ได้ จนต้องสมัครเข้ามาเพื่อจะส่งคำชื่นชมออกมาดังๆ ทั้งที่postข้อความกับเขาไม่ค่อยเป็น เพราะเฝ้าอ่านมาตลอด จึงมองเห็นในมิตรภาพที่มีให้กัน ทุกคนเป็นเพื่อนกันหมด

เห็่นคุณค่าของความเป็นเพื่อน แต่บางที "คุณค่า" ความเป็นเพื่อนก็ต้องใช้เวลากว่าจะเกิด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ

วันที่ 6 สิงหาคม 2555 05:41

 

นับถอยหลัง'สเปน'ส่งสัญญาณ SOS

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

 

 

 

news_img_464805_1.jpg

 

 

ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญๆบ่งชี้ว่า สเปน ใกล้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศเต็มที แม้รมว.คลังของสเปน ยังเริ่มเคลื่อนไหวในเรื่องนี้

 

เจ้าหน้าที่ในยูโรโซนคนหนึ่ง กล่าวว่า นายลูอิส เด กวินโดส รมว.เศรษฐกิจ

สเปน

ได้หารือกับนายโวล์ฟกัง ชอยเบล รมว.คลังเยอรมนี ในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว เกี่ยวกับความเป็นไปได้ ในการดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินขนาด 3 แสนล้านยูโรแก่

สเปน

ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่า 4 ประเทศในยูโรโซน ที่ขอรับความช่วยเหลือทางการเงินไปก่อนหน้านี้รวมกัน อันได้แก่ กรีซ โปรตุเกส ไอร์แลนด์ และไซปรัส

ที่ผ่านมา รัฐบาล

สเปน ยอมรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศให้แก่ภาคธนาคารในประเทศไปแล้ว และยังคงยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีความจำเป็น ต้องขอความช่วยเหลือสำหรับฐานะการเงินของรัฐบาลเอง แต่ต้นทุนการกู้ยืมของสเปน พุ่งขึ้นสูงมากในช่วงที่ผ่านมา และเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้ เคยส่งผลให้กรีซ, โปรตุเกส, ไอร์แลนด์ และไซปรัส ต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศมาแล้ว

สเปน กลายเป็นจุดสนใจจากตลาดโลกอีกครั้ง เมื่อนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เพิ่งให้สัญญาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า จะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อสกัดกั้นการล่มสลายของยูโรโซน และตัวเขาได้ประชุมกับนายเยนส์ วีดมานน์ ประธานธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการต่างๆที่ใช้แก้ไขวิกฤติ

ข้อเสนอของนายดรากี รวมถึงการให้กองทุนคุ้มครองยุโรป เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลในตลาดแรก และให้อีซีบี เข้าซื้อพันธบัตรในตลาดรอง เพื่อเป็นการรับประกันว่า อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ที่สถิติต่ำสุดของอีซีบีจะส่งผลบวกต่อเนื่องต่อระบบเศรษฐกิจ

ที่ผานมา นายวีดมานน์ คัดค้านแผนการใดๆก็ตามของอีซีบีในการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล ดังนั้น นายดรากี จึงจำเป็นต้องเกลี้ยกล่อมนายวีดมานน์ในเรื่องนี้ ส่วนนายดรากี สนับสนุนให้มีการมอบใบอนุญาต

ดำเนินธุรกิจธนาคารแก่กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (อีเอสเอ็ม) ซึ่งเท่ากับเป็นการอนุญาตให้อีเอสเอ็มกู้เงิน และปรับเพิ่มขนาดทุนทรัพย์ของตนเอง ถ้าหากมีการเรียกร้องให้อีเอสเอ็ม ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เช่น

สเปน ในอนาคต

วิกฤติยูโรโซนทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงนี้ ในขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมของ

สเปนพุ่งสูงขึ้น และเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป (อียู) ยอมรับว่า กรีซ อาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ในมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบสอง ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เพิ่งตกลงกันเมื่อ 5 เดือนก่อน

สเปน เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าขนาดเศรษฐกิจของ 4 ประเทศในยูโรโซนที่ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินไปแล้วรวมกัน ดังนั้น การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สเปน จึงอาจจะต้องใช้มาตรการที่มีขนาดใหญ่มาก

วิกฤติที่

สเปน กำลังเผชิญ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยศูนย์วิจัยด้านสังคมวิทยาของสเปน เผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสเปนลดลง แตะสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกรกฎาคม โดยลดลงเกือบ 10 จุดจากสถิติต่ำสุดครั้งก่อนในเดือนกรกฎาคม 2551 มาอยู่ที่ 37.6 จุด

รายงานของศูนย์ฯ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ

สเปนลดลง 13 จุดจากเดือนก่อนในเดือนกรกฎาคม และลดลง 36 จุดจากเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ผลการสำรวจของศูนย์ฯ ยังพบว่า 60.6% ของผู้ที่ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า ครอบครัวมีสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่กว่าในช่วง 6 เดือนก่อน ในขณะที่ 48.4% ระบุว่า สถานการณ์จะยิ่งย่ำแย่ลงไปอีกในเดือนหน้า

ผู้ตอบแบบสอบถาม ระบุว่า รายได้ที่ลดลงของภาคครัวเรือน และการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้า เป็นสาเหตุหลักของภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ ขณะที่เหตุผลอื่นๆ ได้แก่ อัตราว่างงาน ซึ่งสำนักงานสถิติแห่งชาติของ

สเปน ระบุว่า แตะที่ 24.63% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในยุโรป

วิกฤตินี้ต้องลากยาวออกไปอีกแน่ๆ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาล

สเปน ประกาศมาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่ ที่คาดว่าจะมีการหั่นงบประมาณค่าใช้จ่ายลงทั้งหมด 1.02 แสนล้านยูโร (1.25 แสนล้านดอลลาร์) ภายในปี 2557 เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามสร้างสมดุลให้กับงบประมาณตึงตัว

คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป กำหนดให้

สเปน ปรับลดงบประมาณขาดดุลลงเหลือ 4.5% และ และ 2.8% ในปี 2556 และ 2557 ตามลำดับ เพื่อช่วยให้สเปน สามารถเลื่อนระยะเวลาในการทำงบประมาณขาดดุลไม่เกิน 3.0% ตามมาตรฐานอียูออกไปได้อีก 1 ปี

แผนนี้ ระบุว่า อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของ

สเปน อาจหดตัวลง 0.5% ในปี 2556 แต่จะกลับมาขยายตัว 1.2% ในปี 2557 เนื่องมาจากการบริโภคภายในประเทศและการลงทุน ตลอดทั้งการปฏิรูปโครงสร้าง

น่าจะได้ฤกษ์ นับถอยหลัง เพื่อรับ "

สเปน" เข้าเป็นสมาชิกชาติที่ 5 ของยูโรโซน ที่รับความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเป็นทางการจาก "ทรอยก้า" อันได้แก่ คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ,กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)กันได้แล้ว

 

 

 

Tags :

สเปน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคุณgingerที่นำข้อความดีๆมาลงให้อ่าน เป็นเรื่องจริงทีเดีียวที่บางทีคนเราก็มีความสุขกับการได้ช่วยเหลือผู้อื่น แม้คนพูดเองกก็เคยพูดไปแล้วว่าอดชื่นชมเหล่าบรรดาสมาชิกในเวปนี้ไม่ได้ จนต้องสมัครเข้ามาเพื่อจะส่งคำชื่นชมออกมาดังๆ ทั้งที่postข้อความกับเขาไม่ค่อยเป็น เพราะเฝ้าอ่านมาตลอด จึงมองเห็นในมิตรภาพที่มีให้กัน ทุกคนเป็นเพื่อนกันหมด

เห็่นคุณค่าของความเป็นเพื่อน แต่บางที "คุณค่า" ความเป็นเพื่อนก็ต้องใช้เวลากว่าจะเกิด

ขอบคุณ natty001 มากค่ะ ที่เป็นกำลังใจ 55

ขอให้เพื่อนทุกคนเข้าใจด้วยว่า"คำว่าคุณนำหน้าชื่อพิมพ์แบบล่องหนเพื่อประหยัดเวลาที่บางครั้งฉุกเฉินเฉียดฉิว"

ตามจริง natty โพสได้น่าอ่านมากเลย เรื่องที่โพสก็เป็นการแบ่งประสบการณ์กัน

(หากรู้สึกอยากโพสก็โพสเลย กับกระทู้ที่อยากโพสไม่จำกัด)

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มาปล่อยวางความโกรธเพื่อสุขภาพกันเถอะ

blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 สิงหาคม 2555 07:14 น. blank.gif 555000010113601.JPEG blank.gif blank.gif

เมื่อเอ่ยถึงการเป็นคนโกรธง่าย หรือก็คือ "ใจ" ถูกกระทบได้ง่ายมากจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัวนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีนิสัยเช่นนี้อาจทำให้ชีวิตของใครหลายคนเจอปัญหาได้บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินสะดุดหินหกล้มก็โกรธหิน ขับรถตกหลุมก็โกรธคนทำถนน ฝนตกก็โกรธฟ้า ราคาทองร่วงก็โกรธรัฐบาล ฯลฯ สุดท้ายคนเหล่านี้ก็ต้องหาทางโวยวายออกมา

 

แต่อีกสิ่งหนึ่งที่คนมักโกรธอาจยังไม่ทราบก็คือ อันตรายที่จะเกิดแก่สุขภาพของตนเองจากการสะสมความโกรธเอาไว้มาก ๆ เมื่อนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียค้นพบว่า คนที่ไม่สามารถ "ปล่อยวาง" ความโกรธได้นั้น อาจต้องพบกับภาวะความดันโลหิตเพิ่มสูงอย่างรวดเร็วได้ และหากคนเหล่านั้นเป็นคนที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น ป่วยด้วยโรคหัวใจ โรคเส้นเลือดอุดตัน ก็อาจมีอันตรายต่อสุขภาพได้นั่นเอง

 

การวิจัยครั้งนี้ได้ทดสอบกับอาสาสมัครกว่า 200 คนที่ติดตั้งเครื่องวัดความดันโลหิต และอัตราการเต้นของหัวใจ โดยแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม เริ่มแรก อาสาสมัครทั้งหมดถูกกำหนดให้คิดถึงการที่พวกเขาถูกทำร้าย หรือถูกกระทำรุนแรงโดยเพื่อนของพวกเขาเอง จากนั้น อาสาสมัครกลุ่มแรกจะถูกกระตุ้นให้คิดถึงความโกรธที่เกิดขึ้น ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งถูกกระตุ้นให้คิดบวก และพยายามให้อภัย การทดสอบนี้ใช้เวลา 5 นาที จากนั้นจะมีการหันเหความสนใจของอาสาสมัครจากการคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ

 

ผลก็คือ กลุ่มที่ถูกกระตุ้นให้เกิดความโกรธนั้นมีการเพิ่มขึ้นของความดันโลหิตสูงสุดเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ถูกกระตุ้นให้อภัย ซึ่งในระยะยาว อาจทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพสำหรับผู้ที่ป่วยด้วยโรคหัวใจ หรือเส้นเลือดอุดตันได้

 

ดังนั้น ถ้าหากทำได้ การให้อภัย ไม่โกรธ ไม่เกลียดผู้ที่กระทำไม่ดีต่อเรา อาจเป็นอีกหนึ่งของขวัญที่เราในฐานะมนุษย์จะสามารถมอบให้แก่ตนเองได้อีกทางหนึ่งด้วย

 

งานวิจัยชิ้นนี้ได้รับการเผยแพร่ใน the Journal of Biobehavioural Medicines

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

555692_428299743888937_458888608_n.jpg

ดราม่ามากเลย นุ่มๆ ดูแล้วซึ้งอ่ะ

feeling

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

582190_394722927250163_1726766336_n.jpg

อุ่นใดไหนจะเท่า อุ่นไอรักจาก"แม่"

love the nature

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ดราม่ามากเลย นุ่มๆ ดูแล้วซึ้งอ่ะ

feeling

ซึ้งด้วยคนนะginger :32

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

486477_394722887250167_1514760552_n.jpg

แม่ ยังไม่มา "หิวแล้ว" หนาวด้วยเบียดกันหน่อยจะได้อุ่น(หากเห็นแม่หน้าคงไม่หมุ้ยงี้

LOVE THE NATURE

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

+_______+ ดีต่ายทอง

 

ความเป็นไปได้ อยู่ที่ สมการของความสมดุล = ความรู้+ความเข้าใจ+ประสบการณ์+ความพยายาม+ความใส่ใจ+การทำด้วยใจรัก+ใจสู้+การยอมรับกฏของอนิจจัง+

(ใครจะ+อะไรอีกก็ได้สูตรสำเร็จไม่ตายตัวต้องหาให้เหมาะกับตัวเอง)

318738_290932221013769_1726392219_n.jpg

kid world

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

373038_121758881222086_334571553_q.jpg

 

GT Gold Bullion

532970_402561179808520_1275284325_n.jpg

 

สวัสดียามเช้าค่ะ.... วันหยุดยาวไปเที่ยว หรือทำบุญที่ไหนกันมาบ้างค่ะ มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะค่ะ ^^ ตอนเช้าๆๆ รับข่าวสารกันก่อนเลยนะค่ะ..

 

ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญๆบ่งชี้ว่า สเปน ใกล้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศเต็มที แม้รมว.คลังของสเปน ยังเริ่มเคลื่อนไหวในเรื่องนี้

 

เจ้าหน้าที่ในยูโรโซนคนหนึ่ง กล่าวว่า นายลูอิส เด กวินโดส รมว.เศรษฐกิจสเปน ได้หารือกับนายโวล์ฟกัง ชอยเบล รมว.คลังเยอรมนี ในช่วงสัปด

าห์ที่แล้ว เกี่ยวกับความเป็นไปได้ ในการดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินขนาด 3 แสนล้านยูโรแก่สเปน ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่า 4 ประเทศในยูโรโซน ที่ขอรับความช่วยเหลือทางการเงินไปก่อนหน้านี้รวมกัน อันได้แก่ กรีซ โปรตุเกส ไอร์แลนด์ และไซปรัส

 

ที่ผ่านมา รัฐบาลสเปน ยอมรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศให้แก่ภาคธนาคารในประเทศไปแล้ว และยังคงยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีความจำเป็น ต้องขอความช่วยเหลือสำหรับฐานะการเงินของรัฐบาลเอง แต่ต้นทุนการกู้ยืมของสเปน พุ่งขึ้นสูงมากในช่วงที่ผ่านมา และเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้ เคยส่งผลให้กรีซ, โปรตุเกส, ไอร์แลนด์ และไซปรัส ต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศมาแล้ว

 

สเปน กลายเป็นจุดสนใจจากตลาดโลกอีกครั้ง เมื่อนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เพิ่งให้สัญญาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า จะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อสกัดกั้นการล่มสลายของยูโรโซน และตัวเขาได้ประชุมกับนายเยนส์ วีดมานน์ ประธานธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการต่างๆที่ใช้แก้ไขวิกฤติ

 

ข้อเสนอของนายดรากี รวมถึงการให้กองทุนคุ้มครองยุโรป เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลในตลาดแรก และให้อีซีบี เข้าซื้อพันธบัตรในตลาดรอง เพื่อเป็นการรับประกันว่า อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ที่สถิติต่ำสุดของอีซีบีจะส่งผลบวกต่อเนื่องต่อระบบเศรษฐกิจ

 

ที่ผานมา นายวีดมานน์ คัดค้านแผนการใดๆก็ตามของอีซีบีในการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล ดังนั้น นายดรากี จึงจำเป็นต้องเกลี้ยกล่อมนายวีดมานน์ในเรื่องนี้ ส่วนนายดรากี สนับสนุนให้มีการมอบใบอนุญาต

 

ดำเนินธุรกิจธนาคารแก่กองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (อีเอสเอ็ม) ซึ่งเท่ากับเป็นการอนุญาตให้อีเอสเอ็มกู้เงิน และปรับเพิ่มขนาดทุนทรัพย์ของตนเอง ถ้าหากมีการเรียกร้องให้อีเอสเอ็ม ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เช่น สเปน ในอนาคต

 

วิกฤติยูโรโซนทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงนี้ ในขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมของสเปนพุ่งสูงขึ้น และเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป (อียู) ยอมรับว่า กรีซ อาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ในมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบสอง ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เพิ่งตกลงกันเมื่อ 5 เดือนก่อน

 

สเปน เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าขนาดเศรษฐกิจของ 4 ประเทศในยูโรโซนที่ได้รับความช่วยเหลือทางการเงินไปแล้วรวมกัน ดังนั้น การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สเปน จึงอาจจะต้องใช้มาตรการที่มีขนาดใหญ่มาก

 

วิกฤติที่สเปน กำลังเผชิญ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยศูนย์วิจัยด้านสังคมวิทยาของสเปน เผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสเปนลดลง แตะสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนกรกฎาคม โดยลดลงเกือบ 10 จุดจากสถิติต่ำสุดครั้งก่อนในเดือนกรกฎาคม 2551 มาอยู่ที่ 37.6 จุด

 

รายงานของศูนย์ฯ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสเปนลดลง 13 จุดจากเดือนก่อนในเดือนกรกฎาคม และลดลง 36 จุดจากเดือนเดียวกันในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ผลการสำรวจของศูนย์ฯ ยังพบว่า 60.6% ของผู้ที่ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า ครอบครัวมีสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่กว่าในช่วง 6 เดือนก่อน ในขณะที่ 48.4% ระบุว่า สถานการณ์จะยิ่งย่ำแย่ลงไปอีกในเดือนหน้า

 

ผู้ตอบแบบสอบถาม ระบุว่า รายได้ที่ลดลงของภาคครัวเรือน และการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้า เป็นสาเหตุหลักของภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ ขณะที่เหตุผลอื่นๆ ได้แก่ อัตราว่างงาน ซึ่งสำนักงานสถิติแห่งชาติของสเปน ระบุว่า แตะที่ 24.63% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในยุโรป

 

วิกฤตินี้ต้องลากยาวออกไปอีกแน่ๆ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลสเปน ประกาศมาตรการรัดเข็มขัดรอบใหม่ ที่คาดว่าจะมีการหั่นงบประมาณค่าใช้จ่ายลงทั้งหมด 1.02 แสนล้านยูโร (1.25 แสนล้านดอลลาร์) ภายในปี 2557 เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามสร้างสมดุลให้กับงบประมาณตึงตัว

 

คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป กำหนดให้สเปน ปรับลดงบประมาณขาดดุลลงเหลือ 4.5% และ และ 2.8% ในปี 2556 และ 2557 ตามลำดับ เพื่อช่วยให้สเปน สามารถเลื่อนระยะเวลาในการทำงบประมาณขาดดุลไม่เกิน 3.0% ตามมาตรฐานอียูออกไปได้อีก 1 ปี

 

แผนนี้ ระบุว่า อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสเปน อาจหดตัวลง 0.5% ในปี 2556 แต่จะกลับมาขยายตัว 1.2% ในปี 2557 เนื่องมาจากการบริโภคภายในประเทศและการลงทุน ตลอดทั้งการปฏิรูปโครงสร้าง

 

น่าจะได้ฤกษ์ นับถอยหลัง เพื่อรับ "สเปน" เข้าเป็นสมาชิกชาติที่ 5 ของยูโรโซน ที่รับความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเป็นทางการจาก "ทรอยก้า" อันได้แก่ คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ,กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)กันได้แล้ว

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาพการลงทุนครึ่งปีหลัง

blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 สิงหาคม 2555 14:15 น.

 

 

blank.gif 555000009991701.JPEG

 

blank.gif โดยคมศร ประกอบผล, AFPTTM

Wealth Manager

บลจ. ทิสโก้ จำกัด

 

7 เดือนแรกของปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ภาพการลงทุนในช่วงครึ่งปีนั้นแรกเต็มไปด้วยความผันผวนและความไม่แน่นอน ตลาดหุ้นทั่วโลกที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาสแรก กลับต้องสะดุดและลดฮวบลงจากความกังวลกับปัญหาหนี้ยุโรปที่ลากยาวต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 และยังไม่มีทีท่าจะคลี่คลาย ประกอบกับการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของเอเชีย อย่างประเทศจีน ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หุ้นทั่วโลก สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำและน้ำมัน รวมไปถึงเงินฝากและตราสารหนี้ของประเทศที่มีปัญหา และหนีไปพักเงินในสินทรัพย์ปลอดความเสี่ยงอย่างพันธบัตรสหรัฐฯ และส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรปรับตัวลดลงไปอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมาภาพการลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง และเราจะคาดหวังอะไรได้จากภาวะตลาดที่ยังผันผวนเช่นนี้?

 

1.เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงเล็กน้อย โดยรายงานล่าสุดของ IMF มีปรับลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP โลกในปีนี้ ลง 0.1% เป็น 3.5% โดยมีปัจจัยถ่วงจากปัญหาหนี้ของกลุ่มยูโรโซน

 

2.ราคาน้ำมันถูกลง ราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลดลง 10% นับตั้งแต่ต้นปี และ 18% นับจากจุดสูงสุดในไตรมาส 1 จากปัญหาความขัดแย้งของอิหร่านกับชาติตะวันตกที่เริ่มผ่อนคลายความร้อนแรงลง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงนี้ จะเป็นการช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในภาคการบริโภคให้สูงขึ้นทางอ้อม เนื่องจากภาคครัวเรือนจะมีเงินเหลือเพื่อการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นนั่นเอง

 

3.ดอกเบี้ยทั่วโลกลดต่ำลง สืบเนื่องจากราคาน้ำมันและราคาอาหารที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกคลายความกังวลเรื่องปัจจัยเงินเฟ้อ และหันมาลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยธนาคารกลางที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ก็อย่างเช่น จีน เกาหลี อินโดนีเซีย บราซิล และออสเตรเลีย ดอกเบี้ยที่ต่ำลงนี้จะช่วยกระตุ้นการลงทุนและการซื้อสินทรัพย์ชิ้นใหญ่ๆ ที่ต้องใช้เงินกู้ เช่น บ้านและรถยนต์ เป็นต้น

 

4.มาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้ของกลุ่มยูโรเริ่มชัดเจนขึ้น หลังจากต้องลุ้นกันอย่างใจหายใจคว่ำกับการตั้งรัฐบาลของกรีซ และการที่ดอกเบี้ยพันธบัตรของสเปนพุ่งสูงทะลุ 7% กลุ่มผู้นำสหภาพยุโรป ก็ได้เริ่มประกาศมาตรการต่างๆ ออกมา เพื่อลดความกังวลของตลาด เริ่มตั้งแต่ผลการประชุม Euro Summit ที่มีมติเห็นชอบแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรป และการใช้เงินกองทุนช่วยเหลือเพื่อเพิ่มทุนให้กับธนาคารในยุโรปได้โดยตรง และการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดของประธาน ECB ที่กล่าวว่าจะทำทุกวิถีทางที่จะปกป้องเงินสกุลยูโร ก็น่าจะช่วยให้ตลาดกลับมามีความมั่นใจมากขึ้นได้

 

เรามองว่าภาพการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก ได้ถูกสะท้อนมายังราคาหุ้นในปัจจุบันแล้ว และปัจจัยบวกอื่นๆ เช่น ราคาน้ำมันอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่ลดต่ำลง และมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้ของกลุ่มยูโรที่เริ่มชัดเจนขึ้น จะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและความมั่นใจของนักลงทุนได้ในช่วงครึ่งหลังของปี ประกอบกับเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่จะไหลเข้าพันธบัตรสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาส 2 น่าจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นอีกครั้งเมื่อนักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น ทำให้เรายังเชื่อว่าหุ้นน่าจะกลับมาสร้างผลตอบแทนได้ดีในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาพรวมกองทุนรวมครึ่งปีแรก

blank.gif

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

4 สิงหาคม 2555 18:32 น. blank.gif 555000010075901.JPEG blank.gif

 

จบไปแล้วสำหรับครึ่งปีแรกของปีมังกรทอง 2555 หวังว่านักลงทุนทุกท่านคงมีความสุขและประสบความสาเร็จในการลงทุนกันทั่วหน้า เมื่อพูดถึงสถาณการ์ณการลงทุนตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา นักลงทุนหลายท่านคงนึกย้อนไปถึงเหตุการ์ณเมื่อช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (Deja Vu) ปัญหาหนี้ยุโรปยังคงวนเวียนหลอกหลอนอยู่โดยไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก หุ้นไตรมาสแรกที่จบไปได้สวยบวกกันเกือบทุกตลาดกลับกลายเป็นติดลบกันแทบทุกตลาดเช่นกันในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่ตลาดหุ้นเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ สินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆทั้ง ทองคำ น้ำมัน ต่างได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน

 

หุ้น

 

ตามคาดสาหรับตลาดหุ้นทั่วโลกที่ต่างมีแรงขายทากำไรในไตรมาสที่ 2 หลังจากบวกกันค่อนข้างมากในไตรมาสแรกของปี ประกอบปัญหาหนี้ยุโรปที่ยังมีอยู่ อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นทั่วโลกก็สามารถปิดบวกได้ในช่วงครี่งปีแรกที่ผ่านมา นำโด่งโดยตลาดหุ้นแถบเอเชียทั้งสิ้น ตลาดหุ้นไทย SET Index บวก 14.32% อินเดีย ดัชนี BSE SENSEX บวก 12.78% ดัชนี Nikkei บวก 6.52% ส่วนดัชนี Hang Seng บวก 5.46% ส่วนตลาดหุ้นอเมริกาก็ยังไปได้ต่ออย่างดีเช่นกัน บวก 8.31% ขณะที่ในยุโรปยังคงดูทรงๆเนื่องจากปัญหาวิกฤตหนี้ยังคงไม่ชัดเจนทำให้ ดัชนี FTSE 100 -0.02% ดัชนี CAC ของฝรั่งเศส บวกเล็กน้อย 4.77% ส่วนศูนย์กลางของปัญหาอย่างสเปนดูจะยิ่งแย่ลงไปอีก ติดลบกว่า 17.09% และถ้าย้อนหลังกลับไปหนึ่งปีที่ผ่านมาติดลบกว่า 30%

 

ตราสารหนี้

 

เป็นไปตามทฤษฎีการลงทุนทั่วไปเมื่อตลาดหุ้นดี ผลตอบแทนในตราสารหนี้และสินทรัพย์อื่นๆก็จะไม่ค่อยดีเท่าไร เห็นได้ชัดจากผลตอบแทนดัชนีตราสารหนี้ทั่วโลกน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดยิ่งเมื่อเปรียบเทีบยกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว Barclays Global Aggregate บวกเพียง 1.5% ในขณะที่กลุ่มตราสารในตลาดเกิดใหม่ก็ยังดูดีโดย ดัชนี JPM EMBI Global TR USD บวก 7.45% แต่ความเสี่ยงก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน ส่วนตราสารหนี้ไทยดูเหมือนว่าตราสารหนี้ระยะสั้นจะให้ผลตอบแทนดีกว่าตราสารหนี้ระยะยาวโดย ตั๋วเงินคลังระยะเวลา 91 วัน (ThaiBMA 91 day T-bill) มีผลตอบแทนอยูที่ 1.56% ขณะที่ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (ThaiBMA Government bond) ให้ผลตอบแทนเพียง 0.5%

 

ทองคำ- น้ำมัน

 

ทองคำดูได้รับความสนใจน้อยลงไปมากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปีที่แล้ว รวมทั้งผลตอบแทนที่ไม่โดดเด่นเหมือน ขณะที่น้ำมันกลับยิ่งแย่กันไปใหญ่จากที่โดดเด่นอย่างมากในปีที่แล้ว ครึ่งปีแรกนี้กลับทำผลตอบแทนได้น่าผิดหวัง ติดลบมากถึง -13.95% สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงที่สูงมากของสินทรัพย์ทั้ง 2 ชนิดนี้

 

อุตสาหกรรมกองทุนรวมประเทศไทย

 

กลับมาเติบโตในเลข 2 หลักอีกครั้งสาหรับทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมประเทศไทยโดยช่วงแรกของปีโตกว่า 12% หรือประมาณ 250,000 ล้านบาท และเช่นเคยกองทุนประเภทตราสารหนี้ระยะสั้นยังคงได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวนเช่นนี้ ส่วนTrigger Fund ก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง หลายบลจ.ต่างทยอยออกกองทุนประเภทนี้ออกมาในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลง (-7.08%) ไปพอสมควรในช่วงเดือนพฤษภาคมซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน โดยสามารถขายได้กว่า 6,000 ล้านบาท

 

ในส่วนของ Fund Flow โดยเฉพาะกองทุน LTF และ RMF ที่ไหลออกกว่า 20,000 ล้านบาทในไตรมาสแรกของปี ก็ยังไม่มีสัญญาณการซื้อกลับเข้ามาของนักลงทุนโดยเฉพาะ LTF ที่ยังคงมียอดเงินไหลออกสุทธิในไตรมาสที่ 2 อีกเกือบ 900 ล้านบาท ขณะที่ RMF มีเงินสุทธิกลับเข้าเพียงเล็กน้อยประมาณ 850 ล้านบาท ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการลงทุนของนักลงทุนในกองทุน 2 ชนิดนี้ที่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงกล่าวคือ นิยมลงทุนในช่วงท้ายของปีและยังไม่นิยมลงทุนในหลักการแบบการลงทุนแบบถั่วเฉลี่ย (Dollar Cost Average)

 

555000010075902.JPEG blank.gif ผลการดำเนินงานกองทุน

 

ไม่น้อยหน้าเลยทีเดียวครับสำหรับผลตอบแทนเฉลี่ยกองทุนในแต่ละประเภทที่เป็นบวกกันแถบจะทุกกลุ่ม ยกเว้นแต่กลุ่มทองคำและน้ำมันที่ติดลบ โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นกองทุนหุ้นในประเทศทั้งกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่และกลุ่มหุ้นขนาดกลางและเล็กโดยมีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 16.15% และ 18.17% ตามลาดับ โดยกองทุนที่ทำผลตอบแทนได้สูงสุดทำได้กว่า 27% ขณะที่กองทุนหุ้นที่ลงทุนในต่างประเทศผลตอบแทนไม่ค่อยดีเท่าไรโดย กลุ่ม Asia Pacific ex-Japan Equity เฉลี่ยบวก 4.32% กลุ่ม Global Equity เฉลี่ยบวก 3.19% ตามด้วย กลุ่ม Emerging Market Equity ที่เฉลี่ยบวกเล็กน้อยที่ 1.02% ส่วนของกลุ่มตราสารหนี้ก็สอดคล้องกับดัชนีโดยที่กลุ่มตราสารหนี้ต่างประเทศทั้ง Global Bond และ Emerging Market Bond สามารถเอาชนะกลุ่มตราสารหนี้ในประเทศไปได้ ส่วนกลุ่มที่น่าผิดหวังเห็นจะเป็นกลุ่มกองทุนที่ลงทุนในทองคำและน้ำมันโดย กองทุนทองคำติดลบเฉลี่ย -3.8% ส่วนน้ำมัน ติดลบเฉลี่ยสูงถึง -14.26% ทั้งนี้ทั้งกองทุนทั้ง 2 ประเภทนอกจากจะเจอความเสี่ยงจากสินทรัพย์ที่สูงอยู่แล้ว ยังมีเรื่องของความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนมาเป็นปัจจัยเสี่ยงเพิ่มอีกด้วย ดังนั้นนักลงทุนต้องทำความเข้าใจให้มากก่อนลงทุนในกองทุนทั้ง 2 ประเภทนี้

 

ท้ายนี้อยากถือโอกาสอัพเดทข่าวที่จะมีผลกระทบต่อการลงทุนในกองทุนรวมสัก 2 ข่าวคือ 1. รัฐบาลมีมติเลื่อนใช้ พรบ.สถาบันคุ้มครองเงินฝากออกไป จากเดิมวันที่ 11 ส.ค. 2555 นี้ ไปอีก 3 ปี และ2. เพื่อเป็นการต้อนรับ AEC ทางสานักงาน ก.ล.ต. จะอนุญาตให้ผู้ลงทุนประเภท (Accredited Investor) ซึ่งประกอบด้วยผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth) สามารถลงทุนกองทุนในต่างประเทศที่เสนอขายในประเทศไทยได้

 

โดยกิตติคุณ ธนรัตนพัฒนกิจ

นักวิเคราะห์กองทุน

บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสริช (ประเทศไทย) จำกัด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

527371_471925786164349_1443608909_n.jpg

Meet Blade Runner-At the age 1 he lost his legs... Now he is in Olympics and compeleted 400m race in 45.44 secs .. Stood at 2nd position.

 

Hatts off to his Will power and confidence.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...