ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

[ginger 11,058]

u can fry .....

keep on ......

be happy

love the nature

[ginger 11,058]

“สมเด็จพระราชินีฯ”พระราชทานเงิน 20 ล้านบาทช่วยชาวบ่อนไก่

 

 

พล.อ.ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ เผย “พระราชินี” พระราชทานเงิน 20 ล.บาท ช่วยชาวบ่อนไก่ 2 พันคน จากเหตุทหารกระชับพื้นที่เสื้อแดงปี 53 ระบุผู้ค้ารถเข็นไม่อยู่ในข่ายได้เงินชดเชย…

เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2555 ที่โรงแรมเฟิร์ส ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ พล.อ.ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ “ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้” ว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไม่ได้เพียงทรงสนพระทัยทุกข์ของประชาชนเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น แต่ต้องการช่วยประชาชนที่ทุกข์ยากในทุกภาคของประเทศ เมื่อได้รับจดหมายร้องเรียน หรือร้องทุกข์เข้ามา พระองค์ท่านก็จะรับสั่งให้ตนและคณะทำงานลงไปดู เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาให้ราษฎรเหล่านั้น

“สมเด็จพระนางเจ้าฯ ก็บอกให้ผมไปดูหน่อยว่า ชาวบ้านตรงบ่อนไก่มีปัญหาอะไร เพราะพระองค์ทรงทราบว่า มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ก็มีคนค้านว่าจะไปช่วยทำไมตรงนั้น บ่อนไก่แดงทั้งเมือง พระองค์ท่านก็ไม่ว่าอะไร รับสั่งให้ผมลงไป เพราะเชื่อว่าผมจัดการได้ พร้อมพระราชทานเงินเบื้องต้นใส่ถุงมา 2 ล้านบาท ผมแต่งชุดธรรมดา ใส่เสื้อขะมุกขะมอม หมวกทรวงม้าเหยียบไปดู คุยหาข่าวจากร้านส้มตำไก่ย่าง ถามว่าไปไหนกันหมด เขาก็บอกว่าไปหาเงิน เพราะพวกทหารไล่ยิง เดือดร้อน รถเข็นเดือดร้อน ยิงหม้อก๋วยเตี๋ยวทะลุ กระจกพัง ชาวบ้านบอก ทหารตัวดี ถ้าเจอจะเอาทุเรียนตบหน้า เท่าที่ฟังชาวบ้านไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทางการ เพราะหาบเร่ รถเข็นไม่มีใบทะเบียนการค้าที่จะได้รับสิทธิ์ได้เงินชดเชย” พล.อ.ณพล กล่าว

รองสมุหราชองครักษ์ กล่าวต่อไปว่า จากนั้นตนได้นัดหมายให้ชาวบ้านมารับความช่วยเหลือที่กองงานของรองสมุหราชองครักษ์ ในเบื้องต้นมีคนมาขอให้ช่วยเหลือ 50 คน ซึ่งตนได้มอบเงินพระราชทานให้คนละ 5 พันบาท เพื่อใช้ทำทุนในการค้าขาย หรือซื้อรถเข็นใหม่ พร้อมถุงยังชีพพระราชทาน ที่สามารถใช้ยังชีพได้ 2-3 สัปดาห์ พร้อมบอกชาวบ้านว่า มีใครที่เดือดร้อนอีกให้มากรอกประวัติ และแจ้งความเสียหาย แล้วเราจะส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจเพื่อช่วยเหลือต่อไป ปรากฏว่ามีชาวบ้านมาแจ้งความจำนงจำนวนมาก สรุปแล้วเราได้ช่วยชาวบ้านที่บ่อนไก่ไปกว่า 2 พันคน ใช้เงิน 20 ล้านบาทที่พระองค์ท่านพระราชทานลงมา.

 

ทรงพระเจริญ

สำนักข่าวเจ้าพระยา

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

“ในหลวง-พระราชินีฯ”ทรงห่วงสถานการณ์ใต้รับสั่งให้ช่วยชาวบ้าน

 

พล.อ.ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ เผย “ในหลวง–ราชินี” ห่วงสถานการณ์ใต้ รับสั่งให้ไปเก็บข้อมูลช่วยเหลือชาวบ้าน แฉเป้าหมายไม่ได้แบ่งแยกดินแดนแค่ 3 จว.ใต้ แต่หวังยึดประเทศ เปิดคลิปเสียงชาวตะวันออกกลางประชุมลับยืนยัน ชี้แผนปิดล้อม 5 ด้าน ไล่คนไทยพุทธออกนอกพื้นที่ เปิดภาพโหดศพพระสงฆ์ เด็ก ผู้หญิงท้อง ถูกฆ่าโหดเหี้ยม…

เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 2555 ที่โรงแรมเฟิร์ส ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ พล.อ.ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ กล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้”ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมาก เพราะหลังจากปี 2547เป็นต้นมา สถานการณ์ในพื้นที่มีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พบการปรากฏตัวของกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนและเริ่มมีประชาชนร้องทุกข์ เนื่องจากมีกลุ่มมอเตอร์ไซค์ 5-6 คัน ออกก่อกวนตามหมู่บ้าน มีการยิงกราดใส่บ้านเรื่องราษฎร ทำร้ายและฆ่าพระสงฆ์ เผาวัด เผาโรงเรียน ซึ่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทนไม่ได้ และขอให้ตนลงไปดู ซึ่งตนก็ลงไปเดือนละหลายครั้ง แต่ไปส่วนตัว ไม่ได้แจ้งบอกใคร

“ผมขอใช้คำว่า มีมุสลิมแค่กลุ่มหนึ่งเท่านั้น ที่มีเป้าหมายดังกล่าว เริ่มตั้งแต่ทำร้ายพระสงฆ์ ทำร้ายคนต่างศาสนา ทำให้พระสงฆ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ลาสิกขาบทไปจำนวนมาก จาก 266 วัด จะมีพระเหลือวัดละ 1-2 รูปเท่านั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ รับสั่งให้ผมลงไปดู และให้ตั้งคลังอาหารที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เพื่อนำข้าวสาร อาหารแห้งไปส่งที่วัด ไม่ต้องให้ออกมาบิณฑบาตไกลจากบริเวณวัด เพื่อลดอันตรายที่จะเกิดขึ้น นอกจากนั้น ยังได้พระราชทานปัจจัยและจัดให้ประชาชนมาตักบาตรที่วัดด้วย” พล.อ.ณพล กล่าว

รองสมุหราชองครักษ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนั้น ยังมีการข่มขู่พระสงฆ์ ทั้งการเขียนจดหมาย และการส่งกระสุนมาในซองจดหมายให้พระออกจากวัดไปโดยเร็ว ซึ่งตนได้พยายามลงไปเยี่ยมเยียนให้กำลัง พระหลายรูปมีกำลังใจดี และไม่ยอมทิ้งวัดไปไหน เพราะทราบดีว่าเป้าหมายของพวกนี้ต้องการยึดครองพื้นที่ พร้อมกันนั้น ตนยังได้เพิ่มจำนวนพระสงฆ์ลงไปในพื้นที่ โดยเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา มีพระสงฆ์จากภาคอีสานและเหนือ พร้อมลงไปในพื้นที่ 60 รูป เมื่อรวมกับที่มีการจัดโครงการบวชในพื้นที่อีกจำนวนหนึ่ง ก็ทำให้จำนวนพระสงฆ์ในพื้นที่เพิ่มขึ้นมา

พล.อ.ณพล กล่าวว่า ชาวบ้านที่อยู่รอบบริเวณวัดถูกข่มขู่และลอบทำร้าย เพื่อกดดันให้ขายที่ดินให้ จากข้อมูลพบว่าหลายหมู่บ้านมีการย้ายถิ่นฐานออกนอกพื้นที่ไปมาก เช่น ที่บ้านดุซงญอ จาก 200 ครอบครัว เหลือแค่ 5 ครอบครัว และคนที่ยังอยู่ในหมู่บ้าน ส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุทั้งนั้น ทำให้ทหารต้องจัดชุดไปอารักขาดูแลความปลอดภัย อย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้บอกไว้ว่า ทหารมีงานเยอะ เพราะต้องจัดชุดเหล่านี้ไปทิ้งไว้ตามหมู่บ้าน นอกจากนั้น กลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงยังทำลายพื้นที่ทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้ร้านค้าประกอบการไม่ได้ และตัดสินใจออกไปจากพื้นที่ หรือแม้กระทั่งการการยิงรถขายอาหาร ที่จะไปขายในหมู่บ้าน หรือร้านค้าย่อยที่ทุกคนต้องมาจับจ่ายใช้สอย ก็เพื่อต้องการบีบให้คนทิ้งฐานไป

“ผมได้เก็บรวบรวมข้อมูลไว้ทั้งหมดว่าหมู่บ้านไหนมีเหตุเกิดเท่าไหร่ คนตาย คนเจ็บกี่คน บันทึกไว้หมด ทำเป็นสถิติ เพื่อวิเคราะห์ได้ว่าทำไมต้องทำตรงนี้บ่อย เพื่อต้องการให้คนตรงนี้ออกไปใช่หรือไม่ รวมถึงข้อมูลความเดือดร้อนและจดหมายร้องทุกข์ ตรงนี้ผมก็นำกราบบังคมทูล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตลอด จะเห็นได้ว่าเป้าหมายของคนที่ก่อเหตุคือ ต้องการให้คนออกจากตรงนี้ให้หมด โดยการปิดล้อมทุกด้านคือ ปิดล้อมทางด้านศาสนา สังคม เศรษฐกิจ การศึกษา โดยเฉพาะกรณีของโรงเรียนสอนศาสนา จะพบว่ามีกฎกระทรวงที่ว่าด้วยเรื่องเงินอุดหนุนเป็นแรงจูงใจให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ไปเผาโรงเรียนสามัญ เพื่อบีบให้นักเรียนไปเรียนที่ปอเนาะ หวังเงินอุดหนุนรายหัวที่มากกว่า ส่วนการปิดล้อมทางทหารนั้นผมไม่อยากพูดมาก ขอให้เป็นเรื่องของรัฐบาล และกองทัพไปแก้ไขปัญหากัน” พล.อ.ณพล กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการบรรยาย พล.อ.ณพล ได้นำซีดีมาเปิดเพื่อฉายภาพของพระสงฆ์ที่ถูกสังหารจากการวางระเบิด การยิง ฟันหัว รวมถึงชาวบ้านที่ถูกระเบิดขาขาด เด็กโดนมีดฟัน หญิงท้องที่ถูกยิงจนไส้แตก ศีรษะของชายที่ถูกตัดหัวถูกโยนไว้ในตลาดสด รวมถึงคลิปของชายมุสลิมที่นั่งอยู่บนเวทีห้องประชุม ด้านหลังเวทีขึงผ้าเขียนอักษรภาษาอาหรับ มีเสียงพูดกับผู้เข้าร่วมประชุม โดย พล.อ.ณพล บอกว่า ชายผู้นี้เป็นชาวตะวันออกกลาง กำลังพูดระหว่างประชุม แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าที่ไหน เนื้อหาบอกว่า เขาต้องรับผิดชอบดาวะห์ในประเทศไทย เป้าหมายของเขาไม่ใช่แค่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ต้องกระจายไปทุกภาค คำว่าชาติ คือคนกับแผ่นดิน ถ้าให้คนหนีออกไป แผ่นดินก็จะเป็นของเขา.

ที่มา:ข่าวไทยรัฐออนไลน์ 5ส.ค.2555

 

สำนักข่าวเจ้าพระยา

[ginger 11,058]

มั่นใจคนไทยเกินล้าน ขอบคุณทหารที่ช่วยเหลือประชาชนจากอุทกภัย ปี 54

ที่พวกเขาลงไปก็เพื่อรอยยิ้มของเด็กๆ เหล่านี้ เป็นกำลังให้ฉก.ทุกชุดที่ปัตตานีและอีกสองจังหวัดครับ

 

เพื่อนๆ ผมไม่ต้องการความสงสารแต่ต้องการความเข้าใจว่าพวกเขาลงไปเพื่ออะไรครับ

 

Neil Kaewsangthong

 

 

[ginger 11,058]

Stolen Moments's photo.

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

พระราชินีพระราชทานคำขวัญวันแม่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

6 สิงหาคม 2555 15:46 น.

 

พระราชินีพระราชทานคำขวัญวันแม่ ปี 55

โปรดเกล้าฯพระองค์โสมฯเปิดงานสวนอัมพร

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ปี 2555 เพื่ออัญเชิญลงหนังสือวันแม่แห่งชาติ ปี 2555 ของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ความว่า

“มือของแม่นั้น คือ มือช่างปั้น ขึ้นรูปอันอ่อนลออจนหล่อเหลา อยากให้เป็นงานดีที่งามเงา อยู่ที่คอยขัดเกลาแต่เบามือ”

พร้อมทั้ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จแทนพระองค์ ทรงเป็นประธานพิธีเปิดงานวันแม่ ณ อาคารใหม่สวนอัมพร วันที่ 12 สิงหาคม 2555

ถูกแก้ไข สิงหาคม 6, 2012 โดย ginger

[ginger 11,058]

ถูกแก้ไข สิงหาคม 6, 2012 โดย ginger

[ginger 11,058]

เด็ก 11 ขวบ จอมอึดเดินเท้า 11 วัน 150 กม. หวังกลับบ้านเดิม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 สิงหาคม 2555 10:32 น.

 

 

เด็กชายวัย 11 ขวบ ผู้เดินทาง 150 กม. 11 วัน ด้วยเงิน 24 หยวน (ภาพเอเยนซี)

 

ไชน่าเดลี - แหล่งข่าวในมณฑลฝูเจี้ยนเผย เด็กชายวัย 11 ขวบ เดินเท้าไปตามทางหลวงเป็นเวลา 11 วัน พกเงินติดตัวเพียง 24 หยวน (120 บาท)

 

ตำรวจเผยว่า เด็กคนนี้เดินทางจากเมืองสือซือ มณฑลฝูเจี้ยน มาเป็นระยะทางถึง 150 กม.

 

เมื่อวันศุกร์ (27 ก.ค.) เด็กชายเผยว่าเขาต้องเดินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเดินได้ในช่วงกลางวันเพื่อกลับไปยังมณฑลเจียงซีให้เร็วที่สุด

 

เวลากลางคืน เขาจะอาศัยนอนบริเวณจุดจอดรถฉุกเฉิน

 

 

 

 

เด็กชายเผยว่า เขาซื้อน้ำดื่มเพียง 5 ขวด และขนมปัง 2 ก้อน ในช่วงเวลา 11 วันบนถนน เมื่อน้ำดื่มหมด ก็อาศัยเปิดจากก๊อกน้ำบริเวณสถานีพักรถของทางหลวงฯ

 

ทั้งนี้ เด็กชายเคยอยู่กับคุณยายที่มณฑลเจียงซี ขณะที่พ่อแม่เป็นแรงงานอพยพต้องมาทำงานที่เมืองสือซือ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เขาก็ต้องเดินทางตามพ่อแม่มาด้วย

 

เด็กชายบอกกับตำรวจว่า เขาคิดถึงบ้านเกิด เพราะว่าย้ายที่ใหม่มาอยู่ที่เมืองสือซือ พ่อของเขาให้ทำการบ้านเยอะเกินไป

 

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. เด็กชายหยิบเงิน 4 หยวน (20 บาท) จากลิ้นชักและหนีออกจากบ้าน

 

เขาไม่รู้ทางไป ดังนั้นจึงเดินมาเรื่อย ๆ ตลอดทาง หวังว่าเส้นทางจะพาเขาไปยังบ้านเกิด

 

วันแรกเขาเจอชายคนหนึ่ง ให้เงินเป็นค่าอาหารจำนวน 20 หยวน

 

“ตอนแรกผมกลัวมากเวลารถวิ่งผ่าน แต่ต่อมาก็ชิน” เด็กชายเล่าให้ตำรวจฟัง

 

เช้าตรู่วันที่ 24 ก.ค. เด็กชายผิวสีแทนลำตัวมีรอยฟกช้ำไปทั่ว ถูกคนงานทางหลวงพบและนำตัวส่งตำรวจ

 

วันต่อมา ผู้ปกครองแซ่อู๋ ก็มาพาตัวเด็กไป และส่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

 

ถูกแก้ไข สิงหาคม 6, 2012 โดย ginger

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

น่ารักเนอะ

ginger

[ginger 11,058]

ธรรมะอินเทรนด์ ธรรมะออนไลน์ shared his own photo.

ธรรมะแบ่งปัน

 

See Translation

 

ร่วมดาวน์โหลดและส่งต่อ E-Book วิธีใช้หนี้พ่อแม่และหน้าที่ของเด็ก

โดย หลวงพ่อจรัญ

http://www.ebooks.in.th/ebook/2834/

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]