ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
aunson

บรรยากาศทองคำ ณ ช่วงเวลานี้ BY Rจานอั๋น

โพสต์แนะนำ

480694_204435853028599_956408431_n.jpg

 

Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง

 

25 มกราคม 2556

 

General News

------------------

 

• IMF ลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้ลงจากที่ประมาณการไว้ 3.6% เป็น 3.5% ซึ่งไม่สูงพอที่จะช่วยลดอัตราว่างงานในกลุ่มประเทศพัฒนา และปัญหาต่อเนื่องของยูโรโซนก็เป็นปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่จะรุนแรงขึ้นหากไม่ผลักดันการปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์ว่า GDP ยูโรโซนปีนี้จะติดลบ 0.2% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 0.2%

 

• ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิตและบริการของยูโรโซนเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือนที่ 48.2 โดยมีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในเยอรมนีที่ฟื้นตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ดัชนีที่ยังต่ำกว่า 50 แสดงว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมในภูมิภาคยังหดตัว

 

• อัตราว่างงานของสเปนในไตรมาส 4 ปีก่อนเพิ่มขึ้นสู่ 26.02% จาก 25.01% ในไตรมาส 3 ส่งผลให้มีผู้ว่างงานกว่า 6 ล้านคน หลังจากที่รัฐบาลใช้นโยบายรัดเข็มขัด

 

• ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ ณ 19 ม.ค.ของสหรัฐลดลงสู่ 330,000 ราย ต่ำสุดตั้งแต่เดือน ม.ค. 2551 สะท้อนว่านายจ้างโดยรวมยังเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

 

• HSBC รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนเดือน ม.ค. อยู่ที่ 51.9 สูงสุดในรอบ 24 เดือน บ่งชี้ว่า กิจกรรมภาคการผลิตมีการขยายตัว อันสืบเนื่องมาจากอุปสงค์ภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น

 

• ธ. แบงก์ ออฟ ไชน่า (BOC) คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของจีนในปีงบประมาณใหม่จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.2 ล้านล้าน ซึ่งเป็นผลจากการลงทุนของรัฐบาลโดยเฉพาะโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวลง

 

• ในปีก่อนญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 6.93 ล้านล้านเยน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากความต้องการในยุโรปลดลง มีข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะเตียวหยูกับจีน และมียอดนำเข้าเพิ่มขึ้นจากการนำเข้าพลังงานและการนำเข้าเพื่อฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิตั้งแต่ปี 2554

 

• เกาหลีเหนือจะทดสอบอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธพิสัยไกลอีก โดยอาจพุ่งเป้าไปที่สหรัฐ หลังจากไม่พอใจที่โดนคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติคว่ำบาตร

 

• GDP ปีก่อนของเกาหลีใต้ขยายตัว 2% ต่ำสุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากภาคส่งออกกับการลงทุนภาคธุรกิจชะลอตัว แม้มีแรงกระตุ้นจากการใช้จ่ายภาครัฐและการขยายตัวของภาคก่อสร้าง ทั้งนี้ ธ.กลางเกาหลีใต้ได้ลดประมาณการ GDP ปีนี้เหลือ 2.8% จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

 

• ธ.กลางฟิลิปปินส์ คงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.5% โดยมีความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังสมดุล และคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวต่อไปจากการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนภาครัฐ

 

• อัตราเงินเฟ้อของเวียดนามเดือน ม.ค.เพิ่มขึ้น 1.25% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 2555 และ 7.07% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเพิ่มจากราคาเวชภัณฑ์ยาและค่าขนส่ง ประกอบกับเป็นช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ทางจันทรคติของชาวเวียดนามอีกด้วย

 

• S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือไทยที่ BBB+ ด้วยแนวโน้มมีเสถียรภาพ เพราะแม้เศรษฐกิจไทยจะมีพื้นฐานดี แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองและระดับหนี้สาธารณะยังเป็นปัจจัยเสี่ยง

 

• สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ รายงานว่า ระดับหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน พ.ย. 2555 เป็น 4.88 ล้านล้านบาท หรือ 43.47% ของ GDP (เพิ่มขึ้น 4.8 หมื่นล้านบาทจากเดือน ต.ค. 2555)

 

• สศค. เปิดเผยว่า ยอดรายได้ของ ก.คลัง ในไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2556 (ต.ค.-ธ.ค.55) เพิ่มขึ้น 23.3% หรือเพิ่ม 4.99 แสนล้านบาทจากปีก่อน โดยเพิ่มจากภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิตรถยนต์เป็นหลัก ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ 7.86 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 60.5%

 

ทั้งนี้ ยืนยันว่า เงินคงคลังยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และรัฐบาลสามารถลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2556

 

• สภาอุตฯ จะนำข้อสรุปมาตรการบรรเทาผลกระทบจากปัญหาเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ไปหารือร่วมกับ ธปท.ในต้นสัปดาห์หน้า โดยเห็นว่า ธปท.ควรดูแลเงินบาทไม่ให้แข็งค่าจนเกินไป ควรให้เคลื่อนไหวใกล้เคียงกับค่าเงินในภูมิภาค

 

ทั้งนี้ ได้ระบุว่า ธปท.อาจใช้มาตรการเดิมที่เคยนำมาใช้แล้วอย่างการกันสำรองเงินทุนไหลเข้าร้อยละ 5 เพื่อชะลอการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ และมาตรการประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น

 

• ธปท. ยังไม่เห็นสัญญาณการโจมตีค่าเงินบาท และบาทยังเคลื่อนไหวเกาะกลุ่มภูมิภาค โดยการแข็งค่าเร็วใน1-2 สัปดาห์นี้จะไม่กระทบส่งออก ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 9% ในปีนี้

 

• กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมต.คลัง ระบุว่า ในที่สุดค่าเงินบาทจะถูกกำหนดโดยตลาด (ผู้ซื้อ ผู้ขาย) แต่ ธปท.อาจช่วยบรรเทาผลกระทบมิให้เกิดขึ้นรวดเร็วภายใต้ขีดจำกัดที่มีอยู่

 

• IMF คาดว่า นักลงทุนเอกชนจะนำเงินเข้าลงทุนในตลาดเกิดใหม่มากขึ้นในปีนี้ โดยเงินที่ไหลเข้าละตินอเมริกาและเอเชียมีมากกว่าปี 2007 ถึง 30% เนื่องจากเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และอัตราดอกเบี้ยในประเทศพัฒนาแล้วยังต่ำอยู่มาก ซึ่งกระแสเงินที่ไหลบ่าเข้าตลาดเกิดใหม่อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อภาคการส่งออก และอาจเกิดการต่อสู้แทรกแซงให้ค่าเงินของประเทศตนอ่อนลงเพื่อช่วยการส่งออก อันนำไปสู่สงครามค่าเงินได้

 

Equity Market

------------------

 

• SET Index ปิดตลาดที่ 1,449.09 จุด เพิ่มขึ้น 9.89 จุด หรือ +0.69% ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ออกไปจนถึงกลางเดือน พ.ค. ประกอบกับกระแสเงินทุนไหลเข้าที่มีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ มีมูลค่าการซื้อขาย 48,538.08 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 59.48 ล้านบาท

 

Fixed Income Market

--------------------------

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไม่เปลี่ยนแปลงในทุกช่วงอายุ สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท. อายุ 14 วัน มูลค่า 45,000 ล้านบาท

 

Gold Corner

---------------

 

Morgan Stanley คาดว่า ทองคำจะขึ้นสู่ 1,830 ดอลลาร์/ออนซ์ ในไตรมาส 4 และยังอยู่ในขาขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า เนื่องจาก FED จะไม่ยกเลิก QE ภายใน 2 ปีนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวจริง และ ธ.กลางหลายแห่งทั่วโลกจะยังคงมีการซื้อทองคำเข้าเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

544005_496823027025804_1726752196_n.jpg

 

 

 

Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง

 

29 มกราคม 2556

 

General News

------------------

 

• เยอรมนีขายตั๋วเงินคลังอายุ 1 ปีโดยมีอัตราผลตอบแทนเป็นบวกที่ 0.06% โดยเฉลี่ย ได้ครั้งแรกนับตั้งแต่ มิ.ย. 2555 หลังจากนักลงทุนเริ่มคลายกังวลเกี่ยวกับปัญหาวิกฤติหนี้สาธารณะของยูโรโซนและหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

 

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอิตาลีเดือน ม.ค.อยู่ที่ 84.6 ต่ำสุดในรอบ 17 ปี จากความกังวลของประชาชนก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในปลายเดือน ก.พ. ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ยังคงถดถอย

 

• คริสตีน ลาการ์ด ผู้อำนวยการ IMF เตือนว่า สหรัฐอาจสูญเสียความเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก หากนักการเมืองไม่เร่งยุติความขัดแย้งและหันมาผลักดันแผนระยะยาวเพื่อรับมือปัญหาการคลังอย่างจริงจังเพราะความเชื่อมั่นของคนทั่วโลกที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐกำลังถูกทำลายลงไปทีละน้อย

 

• ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเดือน ธ.ค. 2555 เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือน พ.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากการสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง ในขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าทุนซึ่งถือเป็นสัญญาณของการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 0.2%

 

• ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนในปีก่อนเพิ่มขึ้นเพียง 5.3% เมื่อเทียบกับปี 2554 ที่ขยายตัว 25.4% โดยกำไรของอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้ากับอาหารขยายตัวสูงสุด

 

• รัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีงบประมาณ 2556 (เม.ย. –มี.ค.) มาอยู่ที่ 2.5% โดยหวังว่าอุปสงค์ภายในประเทศจะปรับตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ครั้งล่าสุด ประกอบกับเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้น

 

• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเกาหลีใต้เดือน ม.ค. เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน สู่ 102 ทำให้มีหวังว่าการบริโภคภาคเอกชนจะช่วยชดเชยภาคการส่งออกและการลงทุนที่ชะลอตัวลงได้

 

• การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของสิงคโปร์ในปีก่อนเพิ่มขึ้น 17% สู่ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ นำโดยการลงทุนของภาคธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และเคมีภัณฑ์ แสดงว่าเอเชียยังคงเป็นแหล่งลงทุนที่น่าดึงดูดใจของบรรดาบริษัททั้งภายในและภายนอกภูมิภาค

 

• ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ของไทยเดือน ธ.ค. 2555 เพิ่มขึ้น 23.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 98.8 เนื่องจากอุตสาหกรรมที่ประสบภัยพิบัติในช่วงปี 2554 ได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ รถยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เร่งการผลิตเพิ่มขึ้น อนึ่ง ในปีนี้ สนง.เศรษฐกิจอุตสาหกรรมคาดว่าดัชนีจะขยายตัว 3.5-4% จากการเร่งผลิตของโรงงานประกอบรถยนต์เพื่อรีบส่งมอบให้กับลูกค้าที่จองรถตามนโยบายรถคันแรก

 

Equity Market

------------------

 

• SET Index ปิดตลาดที่ 1,472.05 จุด เพิ่มขึ้น 10.64 จุด หรือ +0.73% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 59,042.3 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 777.47 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ ดัชนีปรับตัวเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยที่นักลงทุนเชื่อมั่นในการลงทุนมากขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาดี ประกอบกับญี่ปุ่นออกมาตรการฟื้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุม FOMC ระหว่างวันที่ 29 – 30 ม.ค.

 

• โตโยต้า กลับมาครองตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ขายดีที่สุดในโลกประจำปี 2555 โดยมียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 9.75 ล้านคันหรือเพิ่มขึ้น 22.6% จากปีก่อนหน้า หลังจากที่ต้องเสียตำแหน่งให้เจเนอรัล มอเตอร์ส ในปี 2554 เนื่องด้วยผลกระทบเชิงลบจากการเรียกคืนรถยนต์ในสหรัฐ และผลกระทบด้านอุปทานที่ชะงักงันหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นและน้ำท่วมในไทย

 

Fixed Income Market

--------------------------

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย +0.01% ในตราสารระยะสั้นและกลาง สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท. 1 เดือน / 3 เดือน / 6 เดือน 78,000 ล้านบาท

 

• ธปท. เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าในช่วงนี้เป็นเพียงการปรับตัวของตลาดหลังจากที่ตัวเลขการส่งออกของไทยออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และยืนยันว่ายังไม่มีสัญญาณการเก็งกำไรค่าเงินบาทที่ผิดปกติ

 

• สมาคมตลาดตราสารหนี้ (ThaiBMA) แสดงความไม่เห็นด้วยหาก ธปท. จะออกมาตรการควบคุมการไหลเข้าของเงินทุน เนื่องจากจะทำให้นักลงทุนต่างชาติไม่กล้าเข้ามาลงทุน เพราะไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าภาครัฐจะออกมาตรการมาควบคุมเมื่อใด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาวะการลงทุนในระยะยาวได้

 

Guru Corner

---------------

 

• Bruce Krasting อดีต ผู้จัดการกองทุน Hedge Fund วิเคราะห์ว่า ที่ผ่านมาการใช้นโยบาย QE ของ FED ผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวและขายพันธบัตรระยะสั้นเพื่อกดดอกเบี้ยระยะยาวให้ต่ำลง ทำให้ FED มีกำไรจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยประมาณ 9 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Gain) จากพันธบัตรที่ลงทุนอีกประมาณ 2 แสนล้านดอลลาร์

 

(เมื่อ Yield ถูกกดให้ต่ำลงตลอด พันธบัตรที่ถือจึงมีกำไรทางบัญชีจากการ Mark to market) FED จึงนำส่งรายได้เข้าคลังได้สูงขึ้นตลอด โดยคาดว่ารายได้ที่ส่งเข้าคลังในปีก่อนมีมูลค่าเกือบ 9 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 10% ของยอดขาดดุลงบประมาณทั้งปี

 

แต่เมื่อใดที่อัตราดอกเบี้ยกลับสู่ภาวะปกติ (QE) Yield จะสูงขึ้น ผู้ถือพันธบัตรจะขาดทุน และ FED เองก็จะมีรายได้จากอัตราดอกเบี้ยที่ค่อยๆ ลดลงเหลือศูนย์ โดยจะขาดทุนทางบัญชี (Unrealized loss) จากพันธบัตรที่ถือไว้ถึง 3 แสนล้านเหรียญภายใน 3 ปี (เมื่อ Yield พันธบัตรสูงขึ้น คนที่ถือพันธบัตรอายุยาวๆ จะยิ่งขาดทุน) ส่งผลให้ไม่มีรายได้ส่งคลัง

 

ดังนั้น ความเสี่ยงที่ FED กำลังกังวลต่อการจบมาตรการ QE คือ ความเสี่ยงต่อรายได้ของ ก.คลัง ของที่จะลดลงนั่นเอง

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

bg_line2.gif

405228_319570388084403_1737435782_n.jpg

 

Good Morning News 30 มกราคม 2556 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

 

บริษัทวิจัยเซ็นทิกซ์ ได้สำรวจความคิดเห็นของนักลงทุนจำนวน 959 คนเกี่ยวกับแนวโน้มที่ประเทศใดประเทศหนึ่งจะต้องถูกสถานการณ์บีบบังคับให้ออกจากยูโรโซน พบว่า การล่มสลายของยูโรแทบจะไม่เป็นประเด็นอีกต่อไปแล้ว เพราะมีนักลงทุนเพียง 17.2% ที่คาดว่าจะมีหนึ่งหรือหลายประเทศที่จะออกจากยูโรโซนภายใน 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งลดลงจาก 25% ในเดือน ธ.ค. และระดับสูงถึง 73% ในเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคล่วงหน้าสำหรับเดือน ก.พ. ของเยอรมนีเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน สู่ 5.8 จาก 5.7 ในเดือนม.ค. ซึ่งได้แรงหนุนจากการคาดการณ์รายได้ที่พุ่งขึ้น และความตั้งใจจะซื้อสินค้ามากขึ้น

เดวิด ไมล์ส หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ กล่าวว่าศักยภาพการผลิตของอังกฤษอาจลดลงตามอุปสงค์ที่ยังคงซบเซา แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะขยายตัวมากขึ้น นอกจากนี้ ได้สนับสนุนการผ่อนคลายเชิงปริมาณมากขึ้น เพราะเชื่อว่ายังมีโอกาสที่เศรษฐกิจที่อ่อนแอจะขยายตัวโดยไม่ทำให้เงินเฟ้อเพิ่ม และระบุว่า การพิมพ์ธนบัตรเป็นเครื่องมือที่ทรงอานุภาพมาก

Fitch Rating ยกเลิกคำเตือนที่จะลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงจาก AAA ในไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากสหรัฐบรรลุข้อตกลงเรื่องเพดานหนี้ชั่วคราว แสดงว่าความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งด้านงบประมาณที่ยืดเยื้อได้ผ่อนคลายลงแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้เตือนว่า สหรัฐยังคงเสี่ยงต่อการถูกปรับลดอันดับ ถ้าผู้กำหนดนโยบายไม่ร่วมกันวางแผนที่น่าเชื่อถือเพื่อลดยอดขาดดุลจำนวนมหาศาลของประเทศลงในระยะกลางคือช่วง 6-12 เดือน

สมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE) เปิดเผยผลสำรวจรายไตรมาสว่า นักเศรษฐศาสตร์อเมริกันมีมุมมองบวกมากขึ้นเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในนี้ โดยมีจำนวนครึ่งหนึ่งที่คาดว่าอัตราการเติบโตจะอยู่ที่ 2-4% ในขณะที่มีนักเศรษฐศาสตร์ 36% ที่ระบุเช่นนี้ในการสำรวจเมื่อ 3 เดือนก่อน ส่วนอีกครึ่งหนึ่งคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำกว่า 2%

ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะเปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤติของภาคธนาคารในวันที่ 7 มี.ค.นี้ เพื่อตัดสินว่าธนาคารขนาดใหญ่จะรับมือกับความตื่นตระหนกทางการเงินอย่างไรซึ่งธนาคารต่างๆ จะต้องผ่านการทดสอบภาวะวิกฤติภายใต้สมมติฐานทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุด ได้แก่ อัตราว่างงานของสหรัฐจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 12% ยุโรปและญี่ปุ่นจะเผชิญกับภาวะถดถอย และกิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนจะชะลอตัวลงอย่างมาก

ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ของสหรัฐในเดือน พ.ย.ปรับเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือน ต.ค. และเมื่อเทียบรายปีพุ่งขึ้น 5.5% ซึ่ง เดวิด บลิทเซอร์ ประธานฝ่ายจัดทำดัชนีราคาบ้านของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส ระบุว่า ตลาดที่อยู่อาศัยกำลังฟื้นตัวขึ้น โดยคาดกันว่าภาคธุรกิจนี้จะช่วยหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลราคาบ้านในครั้งนี้สวนทางกับการเปิดเผยของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเมื่อวานนี้ที่ระบุว่า ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ส.ค.ปีที่แล้ว แสดงว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยยังไม่มีความต่อเนื่องมากนัก

จากการสำรวจโดย เนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเป็น +3 ในเดือน ธ.ค. จากเดิม -9 ในเดือน พ.ย.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบหลายปี โดยระบุว่าภาวะทางธุรกิจของอุตสาหกรรมค้าส่ง การผลิต ค้าปลีก และการก่อสร้าง อยู่ในระดับที่อ่อนแอที่สุด แต่อุตสาหกรรมการขนส่ง สาธารณูปโภค และการบริการส่วนบุคคล อยู่ในระดับที่ค่อนข้างน่าพอใจ นอกจากนี้ ได้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียจะขยายตัวในอัตรา 2% ในปี 2556 และ 3.3% ในปี 2557

ครม.ญี่ปุ่น อนุมัติงบประมาณเบื้องต้นสำหรับปีงบประมาณ 2556 (เริ่ม 1 เม.ย.) เป็นจำนวนเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 92.61 ล้านล้านเยน (1.02 ล้านล้านดอลลาร์) โดยมีเป้าหมายพยุงเศรษฐกิจผ่านโครงการสาธารณะขนาดใหญ่ ทั้งนี้ คาดว่าจะเก็บภาษีได้ 43.1 ล้านล้านเยน สูงกว่าการออกพันธบัตรใหม่ของรัฐบาลที่ 42.85 ล้านล้านเยน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่รายได้จากการจัดเก็บภาษีสูงกว่ามูลค่าการออกพันธบัตร ขณะที่รายได้ที่ไม่ได้มาจากภาษี คาดว่าจะอยู่ที่ 4.05 ล้านล้านเยน

รัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนออกตราสารหนี้รวมถึงพันธบัตรใหม่และพันธบัตรเพื่อการรีไฟแนนซ์ภายใต้งบประมาณปี 2556 ในวงเงิน 170.5 ล้านล้านเยน (1.9 ล้านล้านดอลลาร์) ซึ่งลดลง 2.1% จากปีที่แล้ว (ลดลงครั้งแรกในรอบ 5 ปี) สะท้อนความพยายามที่จะปรับปรุงสถานะการคลังของประเทศที่ย่ำแย่ที่สุดประเทศหนึ่งในบรรดาประเทศพัฒนาแล้วรายใหญ่

รองอธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวถึงกรณีที่ธุรกิจเช่าซื้อกังวลปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ จากโครงการรถคันแรกว่า ถ้าผู้เข้าโครงการคิดว่าผ่อนชำระไม่ไหวหรือยังไม่ได้รับเงิน ขอให้แจ้งยกเลิกการแจ้งสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ หรือถ้าได้รับเงินคืนไปแล้ว ก็สามารถนำเงินมาคืนทางรัฐบาลได้ เพื่อรถคันนั้นจะได้สามารถโอนได้ภายในระยะเวลาที่ไม่เกิน 5 ปี นอกจากนี้ ได้ระบุเพิ่มเติมว่าผู้เข้าร่วมโครงการรถคันแรกที่จะเป็นลูกหนี้ที่ไม่สามารถชำระได้ตจะมีอยู่เพียง 4%

 

SET Index ปิดตลาดที่ 1,478.77 จุด เพิ่มขึ้น 6.72 จุด หรือ +0.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 56,146 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 37 ล้านบาท ทั้งนี้ มีแรงซื้อหุ้นเทคโนโลยี และพลังงานหนุนตลาด ขณะที่มีแรงขายหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และแบงก์ โดยตลาดแกว่งตัวในกรอบแคบจากการที่นักลงทุนรอดูปัจจัยเกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาส 4/55 และงวด 1 ปีของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) รวมถึงการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลค่อนข้างทรงตัว มีเพียงช่วงอายุ 5-12 ปีที่ปรับลดลงเพียง -0.01% โดยนักลงทุนรอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของสหรัฐฯ ในวันที่ 29 - 30 มกราคม ว่าจะมีการส่งสัญญาณใดๆ ที่อาจกระทบต่อกระแสเงินทุนไหลเข้าหรือไม่สำหรับวันพุธนี้มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุ 10 ปี วงเงิน 14,000 ล้านบาท

ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ 7.75% ตามคาด โดยได้แรงหนุนจากการชะลอตัวของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นการลดครั้งแรกในรอบ 9 เดือน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่ขยายตัวในอัตราช้าที่สุดในรอบ 10 ปี ทั้งนี้ RBI ได้ลดคาดการณ์เศรษฐกิจในปีงบประมาณ 2555-2556 ลงมาอยู่ที่ 5.5% จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะขยายตัว 6.5% นอกจากนี้ ยังได้ลดสัดส่วนกันสำรองของธนาคารพาณิชย์อย่างไม่คาดหมายลง 0.25% สู่ 4.00% ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินอีก 1.80 แสนล้านรูปีไหลเข้าสู่ระบบธนาคาร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนใกล้เที่ยงของวันที่ 30-1-2556 เวลา 11.26 น.

 

ราคาทองคำได้ลงมาปรับฐาน ตามมุมมองทางเทคนิค ที่ได้กล่าวเอาไว้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วนะครับ

 

ระยะนี้ คงต้องรอให้ราคาทองคำสะสมกำลัง ณ บริเวณ แนวรับที่สำคัญแถว 1650-1670 ไปก่อนอีกสักระยะครับ

 

ซึ่งหากแนวรับโซนนี้รับอยู่... ในอนาคต ผมยังคงให้มุมมองเช่นเดิมคือ การผ่านแนวต้าน 1700 เหรียญขึ้นไปทดสอบแนวต้านหลักถัดไปครับ

 

ก่อนที่จะเกิดแรงขายอีกครั้ง ในอนาคต

 

เมื่อวานราคาทองคำเปิดตลาดมาที่ 1654.68 เหรียญ มีราคาต่ำสุดก่อนที่ 1654.56 เหรียญ

 

มีราคาสูงสุดที่ 1665.98 เหรียญ มีราคาปิดตลาดที่ 1663.30 เหรียญ

 

รวมทั้งวันราคาทองคำวิ่งรวมทั้งหมด 11 เหรียญ มี Volume 37940 สัญญา เพิ่มขึ้นจากจันทร์ 993 สัญญา

 

การเคลื่อนไหวของราคาทองคำเป็นไปในลักษณะ Side Ways Up ขึ้นทดสอบแนวต้าน

 

ทำให้ สัปดาห์นี้ราคาทองคำ จะสะสมกำลังและเตรียมจะขึ้นทดสอบแนวต้าน 1680-1700 เหรียญ อีกครั้งในอนาคต

 

โดยส่วนตัวผมมองว่ารอบนี้ถ้าขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้งได้ แนวโน้มทิศทางราคาทองคำมีโอกาศที่จะผ่านแนวต้านหลักดังกล่าวไปได้ครับ

 

แนวต้านแนวรับ

 

แนวต้าน 1668 ***รอผ่าน **** 1673-1676 ระวังแรงขายออกมาเล็กน้อย - ปานกลาง *** 1680 -1700 ขึ้นทดสอบแนวต้านหลัก ********

 

สรุป แนวต้าน ระยะนี้ราคาทองคำได้ลงมาทดสอบแนวรับเป็นที่ได้ประเมินไว้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเรียบร้อยแล้ว ทำให้ แนวต้านในระยะนี้

 

อาจจะมีการขึ้นทดสอบ แนวต้าน 1668-1674 ก่อนเป็นระยะ....แต่อาจจะมีแรงขายออกมาเล็กน้อย-ปานกลาง ด้วยครับ

 

ซึ่งหากผ่าน 1675 เหรียญขึ้นไปได้ ประเมินไว้ว่าราคาทองคำ จะรอสะสมกำลังเหนือบริเวณ แนวรับ 1670-1680 เหรียญอีกครั้ง ก่อนที่

 

จะสามารถผ่าน 1700 เหรียญ ขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปในอนาคตอันใกล้นี้ครับ

 

แนวรับ 1662-1658 **** 1654 *** ไม่สมควรหลุด *** ถ้าหลุด 1646 ******** หรืออาจจะเปลี่ยนแนวโน้ม เป็นขาลง ทดสอบ 1630-1600 *****

 

สรุป แนวรับ ระยะนี้ราคาทองคำได้ลงมาปรับฐานระยะสั้นและตอนนี้กำลังสะสมกำลัง ณ บริเวณแนวรับ 1650-1670 อยู่ ทำให้ มุมมอง

 

ส่วนตัวของผม ยังเชื่อมั่น ว่าราคาทองคำจะสามารถ ผ่านแนวต้าน 1700 เหรียญ ขึ้นไปทดสอบแนวต้านหลักถัดไปได้ในอนาคตอันใกล้นี้ครับ

 

(อ้างอิงมาจาก กราฟ รายวัน ครับ และ RSI เริ่มส่งสัญญาณ ดีดกลับ ดังในรูปภาพที่แสดง)

 

วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญดังนี้

 

1. เวลา 20.15 น. ตัวเลขการจ้างงาน สหรัฐ คาดการณ์ ส่งผลลบต่อราคาทองคำ ระยะกลาง-ยาว แต่ระยะสั้นจะทำให้ราคาทองคำผันผวนตามตัวเลขที่ประกาศออกมา

 

2. เวลา 20.30 น. GDP ไตรมาส 4/2012 คาดการณ์ ส่งผลบวกต่อทองคำระยะกลาง-ยาว แต่ระยะสั้นจะทำให้ราคาทองคำผันผวนตามตัวเลขที่ประกาศออกมา

 

3. เวลา 22.30 น. สต๊อคน้ำมันดิบ คาดการณ์ ส่งผลดีต่อราคาทองคำ เล็กน้อย-ปานกลาง

 

4. เวลา 02.15 น.ติดตามการแถลงการณ๋ของ FOMC คาดการณ์ ราคาทองคำอาจจะมีการผันผวนมากขึ้น ไม่ว่าจะขึ้นหรือลง ตามกระแสข่าวที่ออกมา ระวังความผันผวนของราคาทองคำ

 

 

S395uz.gif

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ :047

 

กลยุทธ์ ระยะนี้ เน้น สะสม Long 1650-1670 เหรียญ ไว้ ไม่สมควรเปิด Short เพราะมันจะได้ไม่คุ้มเสีย เอา

 

(หรือถ้าใครจะเปิด Short ต้องเก็งกำไรระยะสั้น ไม่ถือออเดอร์นาน)

 

นักลงทุนในประเทศไทย ระวัง เรื่องของค่าเงินบาทเอาไว้ด้วยนะครับ

 

ฝั่งซื้อ Long ไม่เท่าไหร่ แต่ฝั่งขาย หรือเปิด Short นี้อ่าดิ เกรงว่าจะไม่ได้กำไร เอาซะเลย

 

ช่วงนี้ผมขอโทษด้วยนะครับ ที่ มา มา หาย หาย ไป อีกแล้ว บางที่ก็อยากจะเข้ามารายงานกระทู้ทุกวัน แต่ติดตรงที่ไม่ค่อยว่างทุกที ครับ ..........

 

แต่ถึงยังไงผมก็ได้ให้ มุมมอง จากกราฟ รายวัน ให้เรียบร้อยแล้วนะครับ กราฟ ยังคงใช่ได้ ไปอีกหลาย สัปดาห์ เลย................อิอิ :uu

 

วันนี้ระวังความผันผวนของราคาทองคำ ในช่วงตลาดอเมริกาอีกครั้ง นะครับ เพราะจะมีการประกาศตัวเลขที่สำคัญ รวมไปถึงการรายงาน จาก FOMC นะครับ

 

ระวังราคาทองคำผันผวน อีกครั้งใน สัปดาห์ที่เหลือนี้ :17

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากๆๆค่ะ Rจานอั๋น :gd

อาจานหายไปหลายวัน ชาวไทยโกลด์คอยตล๊อดๆค่ะ^___^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

401181_319570158084426_764466832_n.jpg

 

Good Morning News 31 มกราคม 2556 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

GDP สเปนไตรมาส 4 ปีก่อนติดลบ 0.7% สะท้อนเศรษฐกิจที่ถดถอยรุนแรงขึ้น หลังไตรมาสก่อนหน้าติดลบ 0.3% ซึ่งเป็นผลจากการใช้นโยบายรัดเข็มขัดที่เข้มงวดเพื่อแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ ส่งผลให้ GDP ทั้งปี 2555 ติดลบ 1.37% แต่ก็มีรายได้ 1.23 แสนล้านยูโร มากกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 1.19 แสนล้านยูโร อันเป็นผลมาจากการเพิ่ม VAT ภาษีเงินได้ และภาษีนิติบุคคล ทำให้รายได้จากภาษีฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลยังยืนยันว่าจะลดการใช้จ่ายลงอีกแม้ยุโรปจะให้เวลาสเปนมากขึ้นเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจถดถอยก็ตาม

 

ออสเตรเลียเตรียมเลือกตั้งวันที่ 14 ก.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่ยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองของออสเตรเลีย เพราะปกติแล้วจะใช้เวลาเพียงเดือนกว่าเท่านั้น

 

ธ.กลางยุโรป (ECB) เปิดเผยว่า ความต้องการสินเชื่อภาคธุรกิจยังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากผู้ประกอบการยังกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจของยูโรโซนที่เสี่ยงว่าจะถดถอยอีกในปีนี้ ทำให้ยังไม่กล้าเสี่ยงที่จะลงทุนด้วยเงินจำนวนมากในเครื่องจักรหรือสิ่งปลูกสร้าง

 

สหรัฐรายงานว่า GDP ไตรมาส 4 หดตัวลง -0.1% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว เพราะภาครัฐใช้จ่ายลดลงถึง 15% และภาคเอกชนลดสต็อกสินค้าคงคลัง อย่างไรก็ดี GDP ทั้งปี 2555 ยังคงขยายตัว 2.2% ซึ่งดีกว่าปี 2554 ที่ขยายตัว 1.8%

 

FED อาจใช้เงินราว 1.14 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อดำเนินมาตรการ QE จนถึงไตรมาส 4/2557 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน โดยจะใช้เงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนไปซื้อตราสารหนี้อ้างอิงสินเชื่อจำนอง และอีก 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนไปซื้อพันธบัตร ก.คลังสหรัฐ จนถึงสิ้นปี 2557 แม้จะมีคณะกรรมการ FED บางคนเห็นว่าไม่ควรที่จะขยายงบดุลมากเกินไปก็ตาม

 

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือน ม.ค.ลดลง 8.1 จุด มาอยู่ที่ 58.6 จุด ต่ำสุดนับแต่เดือน พ.ย. 54 เนื่องจากผู้บริโภคกังวลว่า การเก็บภาษีผู้มีรายได้สูงจะกระทบการขยายตัวของเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐที่มีต่อรายได้และการจ้างงานในอนาคตก็ลดลงด้วย

 

สถาบัน ปีเตอร์ จี แพทเตอร์สัน คาดว่า อัตราส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 200% ในปี 2040 ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาฐานะการคลังในระยะยาว อันเป็นผลมาจากรายจ่ายด้านสวัสดิการสังคมที่เพิ่มสูงขึ้นกว่ารายได้ นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยง Fiscal cliff ได้ ก็ไม่ได้ทำให้ฐานะการคลังของสหรัฐดีขึ้น

 

จอห์น เทย์เลอร์ ชี้ว่า นโยบายการเงินของ FED เป็นตัวฉุดรั้งเศรษฐกิจของประเทศ เพราะเมื่อเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น FED จะขายสินทรัพย์ที่ซื้อไว้เพื่อป้องกันเงินเฟ้อ ซึ่งหากการขายสินทรัพย์เกิดขึ้นเร็วเกินไปหรือฉับพลันก็จะฉุดราคาพันธบัตรลงและหนุนให้อัตราดอกเบี้ยสูงมากเกินไป อันจะเป็นสาเหตุให้เกิดภาวะถดถอยในที่สุด

 

ฮ่องกง เร่งหามาตรการแก้ปัญหาชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่เข้ามาซื้อสินค้าในประเทศเป็นจำนวนมากจนสินค้าใกล้ขาดตลาด เนื่องจากมีราคาถูกและเลี่ยงภาษีนำเข้าสินค้า ทั้งไอโฟน เครื่องสำอาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "นมผงเด็ก" ที่พบสารปนเปื้อนจนคนจีนไม่กล้าบริโภคสินค้าในประเทศ

 

ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า การแก้ไขกฎหมายความเป็นอิสระของ ธ.กลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจเป็นทางเลือกหนึ่งในอนาคต เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเกาหลีใต้เดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 1% จากเดือนก่อนหน้า ดีขึ้นจากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.5% ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจยังขยายตัวได้ดี เนื่องจากภาคการผลิตช่วยชดเชยภาคส่งออกที่ชะลอลง ขณะที่ IMF คาดว่า GDP เกาหลีใต้ปีนี้จะขยายตัวในอัตรา 3% สูงกว่าปีก่อนที่ขยายตัว 2%

 

สิงคโปร์ คาดการณ์ว่า ในปี 2573 จะมีจำนวนชาวต่างชาติเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรสิงคโปร์ทั้งหมด โดยเหตุผลสำคัญที่สิงคโปร์ยอมรับผู้ย้ายถิ่นฐานมาจากนอกประเทศถึง 15,000 -25,000 คนต่อปีนั้นก็เพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศในอนาคต เนื่องจากชาวสิงคโปร์ให้กำเนิดบุตรในอัตราที่ต่ำกว่าระดับทดแทนมายาวนานกว่า 3 ทศวรรษ

 

ฟิลิปส์ เตรียมขายธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ (วิทยุ โทรทัศน์ วีดีโอ สื่อมัลติมีเดีย และอุปกรณ์เสริม) ให้กับ บริษัท ฟูไน อิเล็คทรอนิค ในราคา 150 ล้านยูโร (202 ล้าดอลลาร์) เพื่อลดการพึ่งพาสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเน้นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายมั่นคงเช่น หลอดไฟ แปรงสีฟันไฟฟ้า มีดโกนหนวดไฟฟ้า เป็นต้น

 

สศค.เตรียมทบทวนเศรษฐกิจไทยปีนี้ใหม่จากปัจจุบันที่คาดว่าจะเติบโต 5% เนื่องจากมีตัวแปรในช่วงนี้ได้แก่ค่าเงินบาทและความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบลงทุนของภาครัฐ ทั้งนี้ หากรัฐบาลเบิกจ่ายเงินเพิ่มขึ้น 1 แสนล้านบาทก็จะสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายได้ 0.4% ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีก่อนขยายตัวได้ 5.7% ตามคาด

 

สศค.คาดการณ์ว่า การส่งออกปีนี้จะเติบโตประมาณ 10% เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าฟื้นตัวดีขึ้น และลดคาดการณ์การส่งออกในปีก่อนเหลือเติบโต 3.1% จากเดิมที่คาดไว้ 3.9% เนื่อง จากการส่งออกในเดือน ธ.ค. มีมูลค่าต่ำกว่าที่คาด

 

ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ชี้ว่า เงินจำนวนมหาศาลที่ไหลเข้ากำลังสร้างปัญหาให้เศรษฐกิจประเทศไทยจนอาจเกิดฟองสบู่ในตลาดเงินก่อนลามเป็นโดมิโนไปตลาดอสังหาริมทรัพย์ จึงแนะนำให้ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินร้อนเก็งกำไร เพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้รอดจากเงินทุนไหลท่วม

 

ดร.บัณฑิต นิจถาวร กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่แข็งในช่วงนี้เกิดจากสภาพคล่องในตลาดโลกสูง เงินจึงไหลเข้ามาในภูมิภาคเพื่อหาผลตอบแทนที่สูงกว่าและกดดันเงินบาทให้แข็งค่าขึ้น และเมื่อมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายด้านอุปโภคบริโภคที่เคยมีหมดไป ก็ไม่ควรมีเพิ่มขึ้นอีก เพราะจะทำให้เกิดปัญหาการสะสมหนี้ทั้งภาคประชาชนผู้บริโภคและรัฐบาล รวมถึงผู้ลงทุนก็จะก่อหนี้เพื่อลงทุนเพิ่ม เพราะหากทุกภาคส่วนสะสมหนี้ทุกภาคส่วนก็อาจเป็นความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลควรนำเงินไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใช้เงินที่เข้ามาให้เกิดประโยชน์มากกว่า นอกจากนี้ ก็ไม่ควรกดดันให้ลดดอกเบี้ยนโยบายสกัดเงินทุนไหลเข้า เพราะเงินทุนไหลเข้ามีบริบทกว้างกว่าที่คิด และเป็นปัจจัยมาจากต่างประเทศ ไม่ได้ขึ้นกับดอกเบี้ยอย่างเดียว

 

 

SET Index ปิดตลาดที่ 1,490.82 จุด เพิ่มขึ้น 12.05 จุด หรือ +0.81% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 62,168 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,397.12 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้ ประกอบกับราคาน้ำมันได้ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 4 เดือน ส่งผลให้กลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลค่อนข้างทรงตัว เปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง-0.01% ถึง +0.01% โดยนักลงทุนรอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของสหรัฐว่าจะมีการส่งสัญญาณใดๆ ที่อาจกระทบต่อกระแสเงินทุนไหลเข้าหรือไม่

 

ก.คลัง เตรียมขายพันธบัตรรัฐบาลชดเชยเงินเฟ้อ อายุ 15 ปี วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะออกจำหน่ายเดือน มี.ค.นี้ โดยเป็นการต่อยอดจากพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุ 10 ปี ที่ออกไปเมื่อปี 2554 เพื่อขยายฐานของนักลงทุน

 

ธปท.ชี้แจงว่า มีเครื่องมือในการดูแลค่าเงินบาทอยู่แล้วและพร้อมนำมาใช้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ พร้อมย้ำว่าการดูแลค่าเงินบาทจะต้องคำนึงถึงความสอดคล้องกับสกุลเงินในภูมิภาคและพื้นฐานทางเศรษฐกิจด้วย ทั้งนี้ ก.คลัง ย้ำว่าจะไม่ใช้การควบคุมเงินทุนไหลเข้า และมาตรการทางด้านภาษีไปช่วยเรื่องค่าเงินบาทเป็นอันขาด

 

สศค. ระบุว่า ค่าเงินบาทมีทิศทางจะแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเม็ดเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาสู่ระบบเศรษฐกิจและสินทรัพย์ของไทย ซึ่งเป็นผลจากนโยบาย QE (สหรัฐ และประเทศอื่นๆ) ทำให้สภาพคล่องทั่วโลกสูงขึ้นจนเห็นได้ชัด ทั้งนี้ คาดว่าค่าเงินบาทในปีนี้จะอยู่ในกรอบ 29.70-31.70 บาท/ดอลลาร์ โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 30.70 บาท/ดอลลาร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนบ่ายของวันที่ 31 มกราคม 2556 เวลา 16.32 น.

 

เมื่อวานราคาทองคำเปิดตลาดมาที่ 1663.48 เหรียญ มีราคาสูงสุดที่ 1683.69 เหรียญ

 

มีราคาต่ำสุดที่ 1662.62 เหรียญ มีราคาปิดตลาดที่ 1676.41 เหรียญ

 

รวมทั้งวันวิ่งรวมทั้งหมด 17 เหรียญ มี Volume การซื้อ-ขาย 47305 สัญญา เพิ่มขึ้น 9425 สัญญา

 

ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเมื่อวานเป็นไปในลักษณะ Up trend ขึ้นทดสอบแนวต้าน

 

หลังการประกาศตัวเลขที่สำคัญ GDP สหรัฐลดลงส่งผลทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในเวลาดังกล่าว

 

วันนี้ ราคาทองคำเริ่มกลับขึ้นมายืนเหนือ 1670 ได้แล้ว แต่ยังไม่แข็งแรงต้องรอให้ราคาทองคำลงมาทดสอบและสะสม ณ บริเวณ 1670-1680 เหรียญ ไปอีกสักระยะก่อน

 

หลังจากนั้น ราคาทองคำจะมีแนวโน้มและขึ้นทดสอบแนวต้าน โดยมีเป้าหมาย เบื้องต้นคือการกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1700 เหรียญให้ได้ต่อไป ครับ

 

ซึ่งโดยส่วนตัวผม ยังมองดังเช่นเดิมครับว่า ราคาทองคำอาจะมีความเป็นไปได้ว่าจะปรับฐานสะสมกำลังอยู่ในกรอบ 1670-1680 เหรียญ

 

ต่อไปอีกครั้งก่อนเตรียมปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1700 เหรียญและรอผ่านไปได้ในอนาคต ครับ

 

แนวต้านแนวรับ

 

แนวต้าน 1686 ดูว่าจะผ่านไปได้ก่อนหรือไม่ *** 1693-1696 ตรงนี้ระวังแรงขายเอาไว้ก่อน ****ผ่านได้ 1703 ***เป้าหมาย 1720-1730 เหรียญ

 

สรุป แนวต้าน ต้องติดตามดูก่อน ว่า ราคา ณ ระดับ 1670-1680 เหรียญนี้จะสะสมกำลังได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งถ้าหากสามารถปรับฐาน และสะสมกำลังอยู่เหนือ ณ บริเวณ

 

ดังกล่าวได้แล้ว เป้าหมายการขึ้นยืนเหนือ 1700 เหรียญในระยะสั้น-กลาง ก็อยู่ไม่ไกลแล้วนะครับ

 

แนวรับ 1672-1668 ดูว่าจะหลุดลงไปหรือไม่ *** 1663 ***** 1655-1653 ไม่สมควรหลุด ****

 

สรุป แนวรับวันนี้ ต้องติดตามแนวรับ ณ ระดับ 1670 เหรียญเป็นสำคัญก่อนว่าราคาทองคำจะสะสมกำลังและปรับฐานแนวรับ ณ ระดับนี้ได้หรือไม่

 

ซึ่งหากรับอยู่ ราคาทองคำจะสะสมกำลังและ เตรียมทดสอบเป้ามหายในแนวต้านถัดไป ครับ

 

กรอบเล็ก 1650-1680 =30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1650-1700 = 50 เหรียญ

 

กรอบ Side Ways ปรับฐาน 1670-1680 = 10 เหรียญติดตามกรอบนี้เป็นสำคัญก่อนว่าวันนี้ จะหลุดหรือผ่านไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งหรือไม่ ครับ

 

วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญดังนี้

 

1. เวลา 20.30 น. ยอดคำขอรับสวัสดิการการว่างงาน คาดาการณ์ส่งผลดีต่อราคาทองคำ

 

2. เวลา 20.30 น. ต้นทุนการจ้างงานไตรมาส 4 คาดการณ์ส่งผลลบต่อราคาทองคำ

 

3. เวลา 20.30 น. รายได้และรายจ่าย ส่วนบุคคล คาดการณ์ส่งผลลบต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

4. เวลา 21.45 น. ดัชนีมุมมองการทำฐรกิจฝ่ายจัดซือ้ คาดการณ์ส่งผลบวกต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

 

NKrP72.gif

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ :047

 

กลยุทธ์ วันนี้ แนะนำให้ ถือสะสม ฝั่งซื้อ Long แถวแนวรับ 1660-1670 เหรียญและรอปิดทำกำไร ณ บริเวณแนวต้านหากไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1680 เหรียญขึ้นไปได้

 

โดยส่วนตัวผมเองมองว่า ราคาทองคำวันนี้ อาจจะมีการ Side Ways ปรับฐาน 1670-1680 เหรียญ ณ ระดับนี้ไปก่อน ยังไม่ขึ้นหรือลงมากนักครับ

 

ซึ่งบางครั้งราคาทองคำอาจจะมีการหลุดกรอบ 10 เหรียญนี้ออกไปบ้างเล็กน้อยก็ตามครับ ......... :57

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

578309_212705445534973_1587432896_n.png

 

 

Good Morning News 5 กุมภาพันธ์ 2556 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

71839_3810273155234_1392450524_n.jpg

 

 

 

382305_3810279475392_703610025_n.jpg

  • สมาพันธ์กะลาสีกรีซ ได้ผละงานประท้วงนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาลเป็นสัปดาห์ที่สองแล้ว โดยยังไม่มีการนำเรือโดยสารออกมาให้บริการที่ท่าเรือทั่วประเทศ ทำให้วิตกว่าสินค้าอุปโภคบริโภคและของใช้จำเป็นอื่นๆ อาจขาดแคลน โดยเศรษฐกิจที่ถดถอยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้ส่งผลให้กะลาสี 7,000 คนต้องตกงานจากจำนวนที่ลงทะเบียนทั้งหมด 15,000 คน

  • ก.แรงงานสเปน เปิดเผยว่า ในเดือน ม.ค.มีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 2.7% จากเดือน ธ.ค. แต่เชื่อกันว่าข้อมูลนี้เชื่อถือได้น้อยกว่าข้อมูลการจ้างงานจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งเปิดเผยในเดือนก่อนว่าอัตราการว่างงานอยู่ที่ 26% ในไตรมาส 4 โดยมีผู้ว่างงาน 5.97 ล้านคน

  • รัฐบาลฝรั่งเศสเชื่อว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ที่ 0.8% ได้ โดยจะเปิดเผยข้อเสนอในการจัดเก็บภาษีคนร่ำรวยที่ร่างขึ้นใหม่ในอีก 2-3 สัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีการจัดเก็บภาษีครัวเรือนต่างๆ แทนที่จะเก็บจากบุคคลธรรมดา

  • บารัก โอบามา กล่าวว่า สหรัฐจะลดการขาดดุลและลงทุนด้านการศึกษาโดยไม่จำเป็นต้องขึ้นภาษีอีกครั้งได้ หากรัฐลดรายจ่ายฟุ่มเฟือยลง โดยการปฏิรูปค่าใช้จ่ายในระบบประกันสุขภาพเป็นมาตรการหนึ่งที่จะช่วยอุดรอยรั่วนี้ ทั้งนี้ มาตรการเพิ่มภาษีได้พุ่งเป้าไปที่ผู้ที่ได้กำไรจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยโดยจะต้องเสียภาษีจากเงินปันผลและกำไรส่วนเกินทุนเพิ่มขึ้นจากเดิม 15% เป็น 20% และประชาชนที่มีรายได้ต่อปีเกิน 400,000 ดอลลาร์ หรือครัวเรือนที่มีรายได้ต่อปีเกิน 450,000 ดอลลาร์ต่อปี จะต้องเสียภาษี39.6% จากเดิมที่เคยจ่าย 35%

  • ทาโร อาโซะ รมว.คลังญี่ปุ่น กล่าวว่า การทำให้เยนอ่อนค่าลงไม่ใช่เป้าหมาย เพราะญี่ปุ่นมีจุดประสงค์จะจัดการกับภาวะเงินฝืด ทั้งนี้ เขาไม่ได้แสดงความวิตกเรื่องที่ประเทศต่างๆ กังวลกับการทำสงครามค่าเงิน ซึ่งญี่ปุ่นอาจจะต้องปกป้องมาตรการของตนในการประชุมผู้นำทางการเงินกลุ่มจี-20 ในวันที่ 15-16 ก.พ. นี้ เพื่อหยุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น

  • การซ้อมรบทางทะเลร่วมกันของสหรัฐและเกาหลีใต้นอกชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรเกาหลี เป็นการส่งสัญญาณเตือนเกาหลีเหนือว่า การทดสอบอาวุธนิวเคลียร์จะจุดชนวนการตอบโต้ที่รุนแรง และจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเกาหลีเหนือ

  • เงินเฟ้อ 3.39% ในเดือน ม.ค. ซึ่ง ก.พาณิชย์ประกาศใกล้เคียงกับที่ ธปท.ประมาณการซึ่งแม้จะดูสูง แต่ ธปท.ก็ยังเชื่อว่าค่าเฉลี่ยทั้งปียังเป็นไปตามที่ประเมินไว้ที่ 2.8%

  • ธปท.ระบุว่า กรณีที่ดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท.สูงกว่าสหรัฐและญี่ปุ่น ส่งผลน้อยนิดในการดึงดูดเงินให้ไหลเข้าเพื่อทำกำไรส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย เพราะเงินทุนเหล่านี้จะดูผลตอบแทนจากการลงทุน ภาวะเศรษฐกิจ ความเสี่ยงโดยรวมของเศรษฐกิจประเทศนั้นๆ กับดูการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของค่าเงินด้วยและถ้าเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคที่เศรษฐกิจคล้ายๆ กัน จะเห็นว่าดอกเบี้ยแท้จริงซึ่งตอนนี้ติดลบอยู่ เป็นระดับที่ต่ำสุดในภูมิภาค

  • อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดก.คลัง เปิดเผยว่า เตรียมงบประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ 2 แห่งคือ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขยาดย่อม (ธพว.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ที่กำลังประสบปัญหากับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในระดับสูงมาก และอยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ โดย ก.คลังกำหนดให้ทั้ง 2 แห่งเสนอแผนเข้ามาภายในสิ้นเดือนก่อน ซึ่ง สศค.จะวิเคราะห์ความเหมาะสมว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป

  • ก.อุตสาหกรรม ส่งหนังสือขอให้ ก.มหาดไทย ทบทวนผังเมืองใหม่ เนื่องจากผังเมืองใหม่ในบางพื้นที่จะเปลี่ยนพื้นที่อุตสาหกรรมหรือคลังสินค้าในผังเมืองเดิมให้กลายเป็นพื้นที่สีเขียว (ชนบทและเกษตรกรรม) และกลายเป็นสีชมพู (ชุมชน) ในหลายแห่ง เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน นครราชสีมา

563154_3810280035406_1478639597_n.jpg

  • SET Index ปิดตลาดที่1,506.37 จุด เพิ่มขึ้น 7.15 จุด หรือ +0.48% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 54,076.90 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 864.93 ล้านบาท และดัชนีได้ทำสถิติNew High ในรอบ 18 ปี โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของหลายประเทศที่ออกมาดี ทำให้มีเงินจำนวนมากไหลเข้า อย่างไรก็ตาม จรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เตือนให้ระมัดระวังการเก็งกำไรในหุ้นประมาณ 70 บริษัทที่มี PE Ratio สูงกว่า 40 เท่า เพราะปรับขึ้นอย่างก้าวกระโดด จึงต้องพิจารณาว่าราคาที่ปรับขึ้นไปนั้นมีปัจจัยพื้นฐานรองรับหรือไม่ เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น

560043_3810280435416_606051459_n.jpg

  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล เปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง -0.02% ถึง 0.00% โดยพันธบัตรที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขายรวม 98,854 ล้านบาท

 

250602_3810535201785_835271863_n.jpg

  • Jack Bogle (ผู้ก่อตั้ง Vanguard ซึ่งเป็น บลจ.ที่เน้นวิธีบริหารแบบ Passive)

 

ดัชนีหุ้นตลาดดาวโจนส์ที่กำลังวิ่งไปในระดับ 14,000 จุด มันก็แค่นั้น ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรสำหรับผม นอกจากนี้ ยังมีรายย่อยเริ่มเข้ามาลงทุนในตลาด และกองทุนรวมก็มีเม็ดเงินที่ไหลเข้าถึง 6.8 ล้านดอลลาร์ในช่วง 3 สัปดาห์แรกของเดือน ม.ค. แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นการลงทุนแบบจริงจัง เพราะมันเป็นเรื่องของฤดูกาล ที่ปกติเดือน ม.ค. มักจะให้ผลตอบแทนที่ดี

 

โดยปกติแล้ว เมื่อใดที่มีเม็ดเงินผ่านกองทุนรวมไปลงทุนในหุ้นมากๆ จะเป็นสัญญาณเชิงลบและการเพิ่มขึ้นของดาวโจนส์ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ไม่ได้บอกว่าเศรษฐกิจข้างหน้าจะเปลี่ยนได้มากผมจึงยังคงประเมินว่าเศรษฐกิจปีนี้จะเติบโตในระดับ 2.0%-2.5% และผมไม่ชอบนโยบายของ FED ที่ให้น้ำหนักในการสนับสนุนตลาดหุ้น เพราะราคาหุ้นจะเบี่ยงเบนจากที่ควรจะเป็น ผมคิดว่า FED ควรหยุดเข้ามามีอิทธิพลต่อตลาดหุ้น และให้ตลาดตัดสินใจด้วยตัวของมันได้แล้ว

  • Robert Wiedemer

 

“ตลาดหุ้นชี้นำทิศทางเศรษฐกิจเพียงเล็กน้อย อย่างเช่นเดือน ต.ค. 2007 ดัชนีตลาดหุ้นขึ้นไปทำจุดสูงสุด ก่อนที่ระบบทางการเงินจะพังทลายในปีต่อมา ซึ่งสภาพอย่างนั้น เศรษฐกิจอาจเป็นตัวชี้นำตลาดหุ้นที่ดีที่สุด และหากดูเศรษฐกิจปัจจุบันที่ชะลอตัว จึงคาดว่าผู้ลงทุนจะเริ่มกลับมากังวลในตลาดหุ้นมากขึ้น

  • Byron Wien

ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำๆ ทางเลือกในการลงทุนจึงหนีไม่พ้นหุ้น แต่ท้ายที่สุดผลประกอบการจะเป็นตัวชี้นำตลาด ผมคิดว่าผลประกอบการจะออกมาน่าผิดหวัง และคาดว่าดัชนี S&P ในปลายปีจะกลับไปสู่จุดที่มันเริ่มขึ้นมา

 

 

ถูกแก้ไข โดย กระต่ายทอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนเช้าของวันที่ 5-2-2556 เวลา 15.14 น.

 

เมื่อวานราคาทองคำเคลื่อนไหวเป็นไปในลักษณะ Sideways ลงทดสอบแนวรับ ก่อน

 

และหลังจากนั้นปรับตัวขึ้นเป็น UP Trend ขึ้นทดสอบแนวต้าน

 

แต่ยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1680 ขึ้นไปยืนเหนือได้

 

ทำให้ ระยะนี้ ต้องติดตามกันต่อไปละครับ ว่า อีกไม่นาน ราคาทองคำใกล้จะถึงจุด ดีด หรือ หลุด จากกรอบ 1650-1680 = 30 เหรียญในอีกไม่นาน

 

ระยะนี้มุมมองทางเทคนิคของกราฟราย 1 Day ราคาทองคำเริ่มขยับใกล้เข้าสู่กรอบสามเหลื่ยมระยะสั้นตามรูปที่แสดง

 

ในลักษณะรูปแบบสามเหลี่ยมชายธงสบัดขึ้น Up pannant ระยะสั้น หรือธงขนานลง Up Flag ระยะกลาง หรือ Rising wedge ในรูปแบบตลาดขาลงระยะยาว

 

ทำให้รูปแบบมุมมองทางเทคนิคเริ่มใกล้จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นแล้ว เพียงแต่ ระยะนี้ต้องรอให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวไปในทิศทางหนึ่งก่อนเท่านั้นครับ

 

โดยมีอยู่ 2 กรณี ดังนี้

 

1.กรณี จบขาลง และเตรียมขึ้น ราคาทองคำจะต้องรีบดีดกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1680-1700 เหรียญให้ได้ก่อนเพื่อที่ มุมมองรูปแบบกราฟ ระยะกลาง-ระยะยาว

 

จะได้เปลียนรูปแบบกราฟจากขาลงเป็นการเตรียมสร้างฐานขาขึ้นแทน แต่ถ้าไม่.........รอบนี้อาจจะมีแย่.......... :_cd

 

2.กรณี ยังไม่จบขาลง ก็คือหากราคาทองคำยังไม่สามรถ ดีดกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1680-1700 เหรียญได้ ดังนั้น แนะนำ ให้ เริ่มระวังแรงขาย ณ ระดับ

 

1680-1700 เหรียญ เอาไว้ก่อน โดยจะมีสัญญาณเตื่อนขาลงอีกครั้ง คือ การหลุด 1650 เหรียญลงไปครับ

 

ตรงนี้ต้องกลับมาติดตามทิศทางราคาทองคำกันต่อไปอีกครั้ง ครับ

 

แนวรับ แนวต้าน

 

แนวต้าน 1680 ดูว่าจะผ่านไปได้หรือไม่ ******* 1685 ไม่ผ่านระวังแรงขาย **** 1693-1696 *******รอดูและลุ้นว่าจะผ่านไปได้หรือไม่ ******

 

สรุป แนวต้าน ขาขึ้น ระยะนี้ ราคาทองคำอาจจะมีความผันผวนตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้นบ้าง แต่สุดท้ายราคาทองคำก็จะกลับมา อยู่ ณ ระดับราคา

 

ที่นักลงทุน ต่าง ๆ ยังพอใจที่จะซือ้-ขาย กันต่อไปอย่างเช่น ราคา 1665-1675 ใน

 

ระดับตอนนี้ครับที่ยังไม่ถือว่าขึ้นและลงไปไหนแต่ก็ระวังการหลุดออกนอกกรอบ 1660-1680 ออกไปครับแต่ถ้าผ่าน 1680 และยืนได้ ก็มีโอกาศไปทดสอบ 1700 เหรียญอีกครั้ง

 

และอาจจะผ่านไปได้ ครับ ********

 

แนวรับ 1666 ดูว่าจะหลุดหรือไม่ *** 1660 ระวัง **** 1655-1653 **** ถ้าหลุด ระวัง *********

 

สรุป แนวรับ เน้นแนวรับ 1670-1660 เป็นหลัก ในระยะสั้น โดยจะมีจุดเตือนที่จะต้องระวังมากที่สุดคือการหลุด 1655-1650 เหรียญลงไปครับ

 

ซึ่งถ้าหากหลุดลงไป ไม่ดีแน่ ๆครับตรงนี้ถ้าหลุดลงไป คงจะต้องติตตามกันต่อไปอีกครั้งว่าราคาทองคำจะสามารถดีดกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 1660-1670 ได้หรือไม่

 

แต่ระยะนี้ราคาทองคำก็ยังคง Side Wasy รอเลือกทิศทาง ที่ชัดเจนอีกครั้ง

 

กรอบเล็ก 1650-1680 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1650-1700 = 50 เหรียญ

 

กรอบ Side ways 1660-1680 = 20 เหรียญ

 

วันนี้มีตัวเลขที่สำคัญดังนี้

 

1. เวลา 22.00 น.ดัชนี PMI ภาคการผลิต คาดการณ์ส่งผลดีต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

2. เวลา 22.00 น.ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค คาดการณ์ส่งผลบวกต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

 

VRMJsF.gif

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ

 

กลยุทธ์ วันนี้ รอดูทิศทางราคาทองคำก่อนนะครับ ว่าแนวต้าน 1680 นัน้จะผ่านไปได้หรือไม่ ไม่ผ่าน น่าจะ สามารถเปิด Short แถว 1685-1680 เหรียญ

 

และแนวรับ 1665-1660 นั้น จะหลุดหรือไม่ ถ้าไม่หลุดก็เปิด Long แถวแนวรับ นั้นได้ครับ ตรงนี้เน้นเป็นการเก็งกำไรระยะสั้นไปก่อนนะครับ :57

สืบเนืองจากราคาทองคำเคลื่อนไหวเป็นไปในลักษณะ Side Ways ..............

 

ไม่ได้เข้ามารายงาน นาน ๆๆๆๆๆๆๆ ขอโทษทีนะครับ :17

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...