บรรยากาศทองคำ ณ ช่วงเวลานี้ BY Rจานอั๋น

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[jewjang40 5,712]

 

Good Morning News 6 กุมภาพันธ์ 2556 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

พรรคสังคมนิยม (PSOE) ซึ่งเป็นฝ่ายค้านของสเปน เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี มาเรียโน ราจอย ลาออกจากตำแหน่ง จากข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับคอร์รัปชั่น ขณะที่ผลสำรวจความเห็นประชาชนระบุว่าพรรคพีเพิลส์ ปาร์ตี้ (PP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายกลาง-ขวาของราจอยได้รับคะแนนนิยมต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

 

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนเดือน ม.ค. ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 48.6 จุด แต่ยังต่ำกว่า 50 จึงบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจยังคงหดตัว โดยภาคบริการของฝรั่งเศสและของสเปนหดตัวลง ขณะที่ PMI ของเยอรมนีขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีกำลังฟื้นตัวหลังจากที่หดตัวในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว

 

IMF เรียกร้องให้ธนาคารกลางทั่วโลกสร้างเสถียรภาพไปพร้อมๆ กับวางนโยบายทางการเงิน เนื่องจากหลายประเทศเริ่มใช้มาตรการดูแลความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมหภาคเพื่อป้องกันการลงทุนที่เสี่ยงเกินความจำเป็น และป้องกันไม่ให้ระดับความเสี่ยงเชิงระบบเศรษฐกิจมีมากเกินพอดี แต่นโยบายการเงินควรจะยังคงเป็นเครื่องมือหลักในการควบคุมเงินเฟ้อและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

 

ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั่วโลกปรับลดลงในช่วงปลายปีที่แล้ว เนื่องจากกังวลเรื่องการเจรจางบประมาณของสหรัฐและวิกฤติยูโรโซน ขณะที่ผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกมีความเห็นในแง่บวกมากที่สุด แต่ 59% ของผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกระบุว่าในช่วง 12 เดือนข้างหน้าไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสำหรับการใช้จ่าย

 

สหรัฐ ยื่นฟ้อง แมคกรอฮิล และ S&P กรณีให้ข้อมูลเป็นเท็จเรื่องที่ให้อันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้อ้างอิงสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์สูงเกินไปซึ่งไม่สะท้อนความเสี่ยงที่มี และเป็นต้นเหตุให้เกิดวิกฤตการเงินในปี 2008 โดยเรียกค่าเสียหายบริษัทละ 1.1 ล้านดอลลาร์

 

ยูบีเอสเอจี (ธ.รายใหญ่อันดับ 1 ของสวิสเซอร์แลนด์) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 4 ปีว่าขาดทุนสุทธิ 1.89 พันล้านฟรังค์สวิส (2.08 พันล้านดอลลาร์) จากที่เคยมีกำไรสุทธิ 323 ล้านฟรังค์สวิสในไตรมาสเดียวกันปีก่อน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายจากการลดจำนวนพนักงานลง 10,000 ตำแหน่ง และเสียค่าปรับกรณีบิดเบือนอัตราดอกเบี้ย LIBOR

 

ธ.กลางจีนจะอัดฉีดเม็ดเงินสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 4.50 แสนล้านหยวนหรือ 2.15 ล้านล้านบาท เข้าสู่ตลาดเงินวานนี้ เพื่อจะสร้างเสถียรภาพต่ออัตราดอกเบี้ยระยะสั้น และรองรับความต้อง การใช้เงินก่อนถึงเทศกาลตรุษจีนในสัปดาห์หน้า

 

มาอาซากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการ ธ.กลางญี่ปุ่น (BOJ) เตรียมก้าวลงจากตำแหน่งในวันที่ 19 มี.ค.นี้ ซึ่งเป็นการลงจากตำแหน่งก่อนที่จะครบวาระ

 

อินโดนีเซีย เปิดเผยว่า GDP ไตรมาส 4 ขยายตัว 6.11% ซึ่งขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี หลังภาคส่งออกและการบริโภคในประเทศชะลอลง

 

เวียดนาม เตรียมประกาศแผนแปรรูปรัฐวิสาหกิจ 52 แห่งในเดือน มิ.ย. นี้ โดยรัฐบาลจะเข้าถือหุ้นในรัฐวิสาหกิจในสัดส่วน 50%-75% ซึ่งจะมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจหลักของรัฐวิสาหกิจนั้นๆ และจะขายกิจการที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักให้กับภาคเอกชน นอกจากนี้ ยังมีแผนขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพื่อลดจำนวนหนี้เสียลงด้วย ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าการแปรรูปรัฐวิสาหกิจจะช่วยให้มีการจำหน่าย หุ้น IPO มากขึ้นในปีนี้ โดยรัฐวิสาหกิจที่เป็นที่จับตามอง ได้แก่ ปิโตรเวียดนาม ปิโตรเม็กว์ เวียดนามอิเล็กทริกซิตี้ เวียดนามโพสท์แอนด์เทเลคคอมมูนิเคชั่น และเวียดนามลิเม็กซ์

 

อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต เปิดเผยผลสำรวจซึ่งพบว่า กรุงโตเกียว โอซาก้า และสิงคโปร์ เป็น 3 มหานครใหญ่ของเอเชียที่ติดอันดับราคาแพงที่สุดของโลก ขณะที่นครใหญ่ของยุโรปอย่างเช่นลอนดอนติดอันดับ 16 เท่านั้น โดยการสำรวจครั้งนี้อ้างอิงองค์ประกอบหลายด้าน ทั้งการขนส่ง ความสะดวกสบาย อาหาร และเสื้อผ้า เป็นต้น

 

นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ระบุว่า กำลังศึกษาแผนควบรวมเอสเอ็มอีแบงก์เข้ากับออมสินตามข้อเสนอของ World bank และ ก.คลัง ยังไม่มีแผนยุบกิจการเอสเอ็มอีแบงก์ เนื่องจากอยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการหลังจากหนี้เสียทยอยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท หรือ 33% ของยอดสินเชื่อคงค้าง

 

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุว่า การกระจุกตัวของสินเชื่อที่เพิ่มสูงขึ้นใน ธ.พาณิชย์รายใหญ่ของไทย ซึ่งเป็นผลมาจากการควบรวมและซื้อขายกิจการของบริษัทขนาดใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ เป็นสิ่งที่ยังคงสามารถบริหารจัดการได้ โดยพิจารณาจากคุณภาพการดูดซับภาวะขาดทุนที่แข็งแกร่งของธนาคาร และ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ยังให้แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพแก่ธนาคารเหล่านี้

 

 

SET Index ปิดตลาดที่ 1,505.72 จุด ลดลง 0.65 จุด หรือ -0.04% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 52,955.5 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,052.61 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวก-ลบสลับกัน เนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อปัญหาหนี้ยุโรปรอบใหม่หลังเกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางการเมืองในอิตาลี รวมทั้งตัวเลขสวัสดิการว่างงานของสเปนที่เพิ่มขึ้น

 

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับลดลงอยู่ในช่วง - 0.04% ถึง - 0.01% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรรัฐบาล อายุ 15.8 ปี วงเงิน 7,000 ล้านบาท

 

กนง. ย้ำว่า มีอิสระในการแสดงความคิดเห็นต่อการพิจารณาเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยใช้หลักวิชาการอย่างรอบคอบและคำนึงถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ แม้ฝ่ายการเมืองจะออกมาเรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อช่วยสกัดเงินทุนไหลเข้าประเทศ และช่วยลดการแข็งค่าของเงินบาทลงก็ตาม

 

 

 

Paul Krugman

“หนึ่งในปัญหาที่สำคัญจริงๆ ของญี่ปุ่นก็คือการที่ ธ.กลาง เชื่อมั่นว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวดีขึ้นได้โดยการกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อให้สูงขึ้น แต่ปัญหาก็คือไม่มีใครเชื่อว่า ธ.กลาง จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง”

 

Bill Gross (PIMCO)

“ระบบการเงินเป็นเหมือน ดวงดาว ที่ฉายแสงเจิดจรัสจนกระทั่งวันหนึ่งที่พลังงานหมด ดวงดาวก็จะค่อยๆ ดับสลายลง ซึ่งแหล่งพลังงานของระบบการเงินก็คือนโยบายการเงินที่หละหลวมของธนาคารกลางซึ่งไม่มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แท้จริง เพราะแม้ว่ายอดสินเชื่อในระบบการเงินของสหรัฐมีมูลค่าสูงถึง 56 ล้านล้านเหรียญ และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สินเชื่อเหล่านี้ไม่ได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่แท้จริง เนื่องจากไปขยายตัวอยู่ในกลุ่มนักเก็งกำไรที่เต็มไปด้วยหนี้สิน รวมทั้งเหล่าลูกหนี้ที่ไม่มีกำลังความสามารถพอที่จะจ่ายหนี้คืนได้ แต่ไปกู้เพิ่มเพื่อจ่ายดอกเบี้ยไปวันๆ เท่านั้น (Ponzi หรือ แชร์ลูกโซ่)

 

เงิน 1 ดอลลาร์ มีคุณค่าต่อระบบเศรษฐกิจน้อยลงและน้อยลง เห็นได้จากในปี 1980 ที่ 4 ดอลลาร์ เคยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ GDP ได้ 1 ดอลลาร์ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เราต้องใช้เงินดอลลาร์จำนวนมากขึ้นๆ เพื่อสร้างมูลค่าให้แก่ GDP ในอัตราส่วนเท่าเก่า

 

นโยบายการเงินและการปล่อยสินเชื่อมีแต่จะทำให้เกิดผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งรวมถึงสหรัฐ และสัญญาณที่จะบ่งบอกถึงความหายนะของระบบการเงินได้ดีก็คือ การลงทุนที่มีแต่ความเสี่ยงมากขึ้นๆ ขณะที่ผลตอบแทนที่ได้รับมีแต่ลดลง

 

ผู้ลงทุนจึงควรวางแผนลงทุนเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อ โดยลงทุนในพันธบัตรระยะสั้นและพันธบัตรที่มีอัตราผลตอบแทนอ้างอิงเงินเฟ้อ (TIPS) รวมทั้งเคลื่อนย้ายเงินลงทุนไปยังประเทศที่มีหนี้สินน้อย เช่น ออสเตรเลีย บราซิล แม็กซิโก และแคนาดา เป็นต้น และอาจลงทุนในตลาดหุ้น ทองคำ หรือสินค้า Commodities เพิ่มเติมก็ได้

 

Abby Joseph Cohen (Goldman Sachs)

“เราคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐปีนี้จะเติบโต 12-13% เพราะเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มดีขึ้น การส่งออกฟื้นตัว ขณะที่การใช้จ่ายของรัฐบาลลดลง”

 

Jack Bogle (The Vanguard Group)

“ยังไม่มีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจสหรัฐ ไม่ว่าดัชนีดาวน์โจนส์จะเป็น 14,000 12,000 หรือ 16,000 ก็ไม่ได้แปลว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นมาก เราคาดการณ์ว่ามันจะขยายตัวได้ 2.0%-2.5% ในปีนี้”

[meng166 131]

ขอบใจหลาย

[aunson 1,403]

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนเย็นของวันที่ 6-2-2556 เวลา 17.26 น.

 

เมื่อวานราคาทองคำเปิดตลาดมาที่ 1674.37 เหรียญ และขึ้นไปทำจุดสูงสุด High ก่อนที่ 1684.79 เหรียญ

 

หลังจากนั้นไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้ จึงถูกแรงขายออกมา ทำจุดต่ำสุด LoW อยู่ที่ 1666.62 เหรียญ

 

และดีดกลับขึ้นมาปิดตลาดที่ 1672.57 เหรียญ มี Volume 47043 สัญญา เพิ่มขึ้น 6062 สัญญา

 

รวมทั้งวันวิ่งรวมทั้งหมด 18 เหรียญ ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเมื่อวาน เคลื่อนไหวเป็นไปในลักษณะ Up Trend และ Down Trend ระยะสั้น

 

ทำให้ ทิศทางราคาทองคำวันนี้ มีแนวโน้มการเคลื่อนไหวเป็นไปในลักษณะ Side Ways อยู่ในกรอบ 1660-1680 อีกครั้ง

 

ซึ่งหากยังไม่สามารถผ่านหรืหลุดไปได้ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง คาดการณ์ว่าราคาทองคำก็ยังคง Side Ways อยู่ครับ

 

แนวต้าน 1679 ดูว่าจะผ่านไปได้หรือไม่ **** 1685 ไม่ผ่านระวังแรงขาย 1693-1696 *****

 

สรุป แนวต้าน ระยะนี้ราคาทองคำยังคงวิ่ง Side Ways อยู่ในกรอบ 1660-1680 อยู่ โดยจะมี กรอบบน 1675-1680 เป็นแนวต้าน

 

ซึ่งหากไม่ผ่านก็แนะนำให้ระวังแรงขาย เอาไว้ก่อนครับ

 

แนวรับ 1668-1667 ดูก่อนอีกครั้งว่าจะรับอยุ่หรือไม่ *** 1662 *** 1657-1653 ระวัง ******

 

สรุป แนวรับ ระยะนี้ราคาทองคำอาจจะ Side Ways ขึ้นและลงชนแนวรับและแนวต้าน ในกรอบ 1660-1680 เหรียญ

 

แต่ถ้าหากหลุดหรือผ่านไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งคาดว่าราคาอาจจะมีการเลือกทิศทางที่ชัดเจนอีกครั้ง ครับ

 

กรอบเล็ก 1650-1680 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1650-1700 = 50 เหรียญ

 

กรอบ Side Ways 1660-1680 = 20 เหรียญ

 

วันนี้มีตัวเลขที่สำคัญดังนี้

 

1. เวลา 22.00 น. ยอดสต็อคน้ำมันดิบ คาดการณ์ส่งผลลบต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ

 

กลยุทธ์ ระยะนี้ ราคาทองคำอาจจะ Side Ways ในกรอบ 1680-1660 เหรียญ

 

ซึ่งหากนักลงทุนจะเข้าเปิดปิดสถานะแนะนำให้ ลงทุนเก็งกำไรระยะสั้น

 

โดยอาศัย 1680-1685 เป็นแนวขาย หรือ Short ตัดขาดทุน 1700 เหรียญ

 

และรอเปิด Long หรือ ซื้อ 1670-1660 ตัดขาดทุน 1650 เหรียญ ครับ

 

ซึ่งถ้าดูจากกราฟรายวันอีกไม่นานครับ ราคาทองคำใกล้จะเลือกทิศทางที่ชัดเจนอีกครั้ง

 

โดยอาศัยกรอบ 1650-1700 เหรียญเป็นหลักในการเปลี่ยนทิศทางที่จะขึ้นหรือลง

[gejen 5,749]

ขอบคุณมากๆๆค่ะ Rจานอั๋น ^____^

[aunson 1,403]

......กลับบ้านแล้วนะครับทุกคน บาย

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 6, 2013 โดย Rจานอั๋น

[jewjang40 5,712]

 

Good Morning News 7 กุมภาพันธ์ 2556 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

 

 

 

• เยอรมนีปฏิเสธข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่ต้องการให้ยูโรโซนกำหนดอัตราแลกเปลี่ยน โดยระบุว่า ตลาดควรเป็นผู้กำหนดอัตราแลกเปลี่ยน และยูโรไม่ได้แข็งค่าเกินอดีต อีกทั้ง การแข็งค่าในระยะหลังเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่านักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นในเงินยูโรอีกครั้ง
  

• คำสั่งซื้อของผู้ผลิตเยอรมนีในเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.8% จากที่หดตัว 1.8% ในเดือนก่อน โดยเป็นยอดคำสั่งซื้อจากยุโรปที่เพิ่มขึ้นถึง 7% แต่ยอดคำสั่งซื้อในประเทศลดลง 1.2%
  

• Royal Bank of Scotland Group Plc ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ของอังกฤษ วางแผนจะเรียกคืนโบนัสและเงินรางวัลที่จ่ายพนักงานไปแล้วใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมา หลังจากถูกปรับ 612 ล้านดอลลาร์ ในกรณีปั่นอัตราดอกเบี้ย
  

• สำนักงบประมาณสภาคองเกรส เปิดเผยว่า การขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางในปีนี้จะลดลงมาอยู่ที่ 8.45 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ลดลงมาต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการลดงบประมาณรายจ่ายลง โดยคาดว่าการขาดดุลจะลดลงมาอยู่ที่ 616 พันล้านดอลลาร์ในปี 2557 อย่างไรก็ตาม แนวโน้มระยะยาวของการขาดดุลงบประมาณยังมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากงบประมาณรายจ่ายด้านสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมจะเพิ่มขึ้นในอนาคต และใน 10 ปีข้างหน้าอาจทำให้สหรัฐขาดดุลถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์
  

• Texas Instruments (บริษัทไอทีที่มีฐานที่ตั้งในดัลลัส เท็กซัส) ประสบความสำเร็จต่อเนื่องในการเป็นหนึ่งในบริษัทในอเมริกาที่ได้รับการลงคะแนนให้เป็นนายจ้างที่ดีที่สุด เพราะมีบรรยากาศในการทำงานที่ยอดเยี่ยม สามารถดึงดูดและรักษาคนเก่งๆ ให้อยู่กับบริษัทได้ในท่ามกลางการแข่งขันแย่งชิงตัวอัจฉริยะทางไอที ซึ่งเบื้องหลังของความสำเร็จคือการบอกกับบรรดาลูกจ้างว่า “จงทำงานให้สำเร็จ แต่ต้องรักและดูแลครอบครัวของคุณด้วย”
  

• ยอดค้าปลีกออสเตรเลียเดือน ธ.ค.หดตัวลง 0.2% แตะระดับ 2.142 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% อันเป็นผลจากยอดขายของธุรกิจอาหารที่ลดลงเพราะการจ้างงานชะลอตัวลง
  

• รมช.คลังญี่ปุ่น กล่าวว่า การดำเนินมาตรการต่างๆ ของธนาคารกลางญี่ปุ่นเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจและเงินฝืดในขณะนี้ถือว่าเพียงพอแล้ว โดยจะใช้มาตรการต่างๆ ตามที่ประกาศออกมาแล้วต่อไประยะหนึ่ง และหากมีความจำเป็นถึงจะพิจารณาออกมาตรการเพิ่มในอนาคต
  

• รอง ผอ.IMF กล่าวว่า การกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่นมีความเหมาะสมสำหรับการทำให้ญี่ปุ่นหลุดพ้นจากภาวะเงินฝืดที่ยาวนาน และเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ว่าการธนาคารกลางคนต่อไปจะต้องระบุแนวทางที่ชัดเจนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่กำหนด
  

• ยอดนำเข้ารถยนต์ใหม่ของญี่ปุ่นเดือน ม.ค.เพิ่มขึ้น 11.4% เป็น 19,984 คัน โดยยอดขายของรถยนต์จากบริษัทญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 15.8% และรถยนต์จากบริษัทต่างชาติเพิ่มขึ้น 9.8%
  

• คณะรัฐมนตรีจีนเห็นชอบแผนการลดช่องว่างรายได้ของประชาชน โดยจะเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำอย่างน้อย 40% ในระยะยาวลดการควบคุมอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ เพิ่มงบประมาณด้านการศึกษาและที่อยู่อาศัย และให้รัฐวิสาหกิจส่งเงินรายได้ให้กับรัฐบาลมากขึ้น เป็นต้น ทั้งนี้ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเป็นปัจจัยเสี่ยงด้านความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของประเทศ ทำให้ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นอย่างมาก
  

• ฮอนด้าประกาศแผนลงทุนในไทยเพิ่มอีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ใหม่ที่ปราจีนบุรี 1.7 หมื่นล้านบาท (กำลังการผลิต 120,000 คัน/ปี) และขยายกำลังการผลิตในโรงงานที่อยุธยาเพิ่มเป็น 300,000 คัน/ปี ทำให้ฮอนด้าจะมีกำลังการผลิตในไทยในปี 2558 รวม 420,000 คัน/ปี ซึ่งจะจำหน่ายในประเทศ 300,000 คัน และส่งออกอีก 120,000 คัน
  

• ผู้ว่า ธปท.ยืนยันว่า ไม่รู้สึกว่าถูกกดดันในการทำงาน โดยทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นการตัดสินใจของ กนง. หลังจากก่อนหน้านี้ รมว.คลัง ได้ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการ ธปท.เพื่อเสนอให้ กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อแก้ปัญหาการแข็งค่าของเงินบาท
  

• SET Index ปิดตลาดที่1,500.35 จุด ลดลง 5.37 จุด หรือ -0.36% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 58,368.76 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,295.70 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยอยู่ในแดนลบจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ โดยมีหุ้นกลุ่มรับเหมาที่ขึ้นสวนทางกับตลาด จากความคาดหวังต่อโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ
  

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทรงตัวอยู่ในระดับเดิม โดยมีเพียงบางรุ่นที่ปรับตัวลดลง -0.02% ถึง -0.01% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อายุ 5 และ 10 ปี วงเงิน 3,000 ล้านบาท
  

• Richard Bernstein (CEO, Richard Bernstein Advisors)
  

“ช่วงนี้อาจเป็นตลาดกระทิงที่ดีที่สุดในชีวิต เพราะผู้ลงทุนรายย่อยยังกังวลต่อสถานการณ์ต่างๆ ในอนาคต เช่น อัตราเงินเฟ้อ การขาดดุลการคลัง ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ การยกเลิกมาตรการ QE และการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับต่ำ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ลงทุนยังให้มูลค่ากับข่าวสารในเชิงบวกต่ำจนเกินไป เพราะจากการวิเคราะห์เราพบว่าปัจจุบันตลาดหุ้นยังมีมูลค่าที่ถูกมาก และเมื่อใดที่รายย่อยเริ่มเชื่อมั่นต่อสถานการณ์และตลาด นั่นจะเป็นสัญญาณเตือนภัยของการเข้าสู่ตลาดหมี”

 

 

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 7, 2013 โดย กระต่ายทอง

[jewjang40 5,712]

 

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 9, 2013 โดย กระต่ายทอง

[Pasaya 499]

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ ทุกๆ คนนะคะ

เฮงๆ ตลอดปีค่ะ

[jewjang40 5,712]

 

 

 

Good Morning News 11 กุมภาพันธ์ 2556 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

 

 

• บรรดาผู้นำสหภาพยุโรปสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณสำหรับช่วง 7 ปีข้างหน้าแล้ว โดยร่างงบประมาณปี 2557-2563 ของ 27 ชาติสมาชิกยุโรป ได้กำหนดให้มีการจำกัดรายจ่ายที่ 9.59 แสนล้านยูโร ลดลงจากข้อเสนอเดิมที่ 1.04 ล้านล้านยูโร และน้อยกว่าวงเงิน 9.94 แสนล้านยูโรในงบประมาณฉบับปัจจุบัน ถ้าหากร่างงบประมาณนี้ได้รับอนุมัติจากรัฐสภายุโรป จะถือเป็นการลดรายจ่ายลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการจัดทำงบประมาณของกลุ่มอียูขึ้น
  

• การส่งออกของเยอรมนีในเดือนธ.ค.55 เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือนก่อนหน้า แต่หดตัวลง 6.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตลอดปี 55 มูลค่าการส่งออกของเยอรมนีขยายตัว 3.4% อยู่ที่ 1.097 ล้านล้านยูโร เป็นสถิติสูงสุดใหม่เนื่องจากเยอรมนีสามารถส่งออกไปประเทศนอกภูมิภาคยุโรปได้ดีขึ้น ช่วยชดเชยผลกระทบจากการส่งออกที่ลดลงกับประเทศในยูโรโซน
  

• ก.พาณิชย์สหรัฐรายงานยอดขาดดุลการค้าเดือนธ.ค.55 ปรับตัวลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด เป็นการลดลงมากที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี โดยยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 20.7% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ระดับ 3.85 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดนำเข้าปิโตรเลียมลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี ในขณะที่มูลค่าการส่งออกปิโตรเลียมทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ยอดขาดดุลการค้าตลอดทั้งปี 55 ลดลง 3.5% จากปี 54 อยู่ที่ระดับ 5.4 แสนล้านดอลลาร์
  

• นายคิคูโอะ อิตาวา หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เรียกร้องให้ธนาคารกลางเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบด้านนโยบายการเงินให้สนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% และป้องกันการแข็งค่าของเงินเยนขึ้นอีกรอบ ทั้งนี้ นายอิตาวาเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่คาดว่าจะได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการฯธนาคารกลางแทนนายมาซาอากิ ชิรากาวา ซึ่งจะลาออกจากตำแหน่งในเดือนมีนาคมนี้
  

• รมต.การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเสนอให้ความช่วยเหลือแก่ซาอุดิอาระเบียในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ในประเทศ ทั้งนี้ซาอุดิอาระเบียมีแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่งเพื่อตอบสนองต่อการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรและเพื่ออนุรักษ์แหล่งทรัพยากรน้ำมัน โดยคาดว่าจะก่อสร้างเตาปฏิกรณ์จำนวน 16 แห่งภายในปี 2573 เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการไฟฟ้า 20% ของปริมาณการใช้ทั้งหมด
  

• จีนแซงหน้าสหรัฐขึ้นเป็นประเทศผู้ค้า (ยอดส่งออกรวมกับยอดนำเข้า) รายใหญ่ที่สุดของโลกเป็นครั้งแรกในปี 55 โดยการค้าของจีนมีมูลค่าทั้งสิ้น 3.867 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6.2% จากปีก่อนหน้า ขณะที่มูลค่าการค้ารวมของสหรัฐอยู่ที่ 3.863 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.5%
  

• สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค.56 ขยายตัว 2.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ชะลอลงจากที่เพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนธ.ค.55 ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค.ปรับตัวลง 1.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากที่ลดลง 1.9% ในเดือนธ.ค. บ่งชี้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนกำลังเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ
  

• ธนาคารกลางจีนได้มอบหมายให้ธนาคารอินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า (ICBC) สาขาสิงคโปร์ทำหน้าที่เป็นเคลียริ่ง แบงก์ สำหรับการทำธุรกรรมเกี่ยวกับเงินหยวนในสิงคโปร์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้สิงคโปร์พัฒนาประเทศสู่การเป็นศูนย์ซื้อขายเงินหยวนในต่างประเทศ นอกจากสิงคโปร์แล้ว ยังมีฮ่องกงและลอนดอนที่พยายามจะก้าวขึ้นมาเป็นศูนย์กลางเงินหยวนในต่างประเทศเช่นกัน
  

• ธนาคารกลางออสเตรเลียปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีและเงินเฟ้อลง โดยคาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจปี 56 จะอยู่ที่ 2.5% ต่ำกว่าการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้าเมื่อเดือนพ.ย.ที่ 2.75% ส่วนอัตราเงินเฟ้อ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 3% จนถึงเดือนมิ.ย. 56 ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้าที่ 3.25% โดยปัจจัยที่ทำให้ปรับลดการคาดการณ์ครั้งนี้เนื่องจากการลงทุนนอกธุรกิจเหมืองยังคงไม่มีความชัดเจน ตลาดแรงงานที่อ่อนตัว และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย
  

• ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ได้ให้คำมั่นที่จะช่วยเหลือพม่าในด้านการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในแง่ของเทคโนโลยี การเงิน การสื่อสาร และพลังงาน ซึ่งประกอบด้วย การพัฒนาพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำในพม่าซึ่งเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญ การใช้ประโยชน์น้ำจืดจากแม่น้ำ 3 สายหลักของพม่า การเก็บกักน้ำเพื่อผลิตไฟฟ้า การก่อสร้างถนนเชื่อมระหว่างอินเดีย-พม่า-ไทย รวมทั้งการก่อสร้างสะพามข้ามแม่น้ำโขงระหว่างลาว-พม่า เป็นต้น• ก.พาณิชย์เปิดเผยนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าไทยปี 2556 ใน 6 ด้าน ได้แก่ 1.ดูแลค่าครองชีพ ด้วยโครงการธงฟ้ามากขึ้น 2.ยกระดับราคาสินค้าเกษตรด้วยโครงการจำนำข้าว 3.ส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ในภาวะที่ค่าแรงปรับขึ้นเป็น 300 บาท 4.สนับสนุนสินค้าศิลปหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) สู่สากล 5.ผลักดันและสร้างความเชื่อมั่นการส่งออก 6.ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในตลาดอาเซียน โดยจัดตั้งศูนย์ AEC เพื่อให้บริการทั้งในด้านข้อมูล คำแนะนำ และแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาด AEC
  

• ไทยและสาธารณรัฐโมซัมบิกเตรียมลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านพลังงาน (MOU) ภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า โดยกลุ่ม ปตท. และกฟผ. จะศึกษาการลงทุนสร้างโรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) โรงไฟฟ้า และโรงงานปิโตรเคมีในโมซัมบิก และส่งกลับมาเป็นวัตถุดิบของไทย ส่วนฝ่ายไทยจะให้ความช่วยเหลือในการช่วยพัฒนาบุคลากรด้านพลังงานให้แก่โมซัมบิก ปัจจุบันโมซัมบิก มีปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองสุงสุดในโลกที่ 60 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และมีการใช้ก๊าซฯ 8 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
  

• SET Index ปิดตลาดที่ 1,497.30 จุด ลดลง 2.51 จุด หรือ -0.17% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 56,717 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,569 ล้านบาท ยังคงขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้ชะลอตัวลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียและยุโรปตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหุ้นที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นได้แก่ กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ส่วนหุ้นมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ (Big Cap) ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง
  

• Marc Faber ให้สัมภาษณ์ โดยเขาคิดว่าราคาทองคำจะขึ้นในระยะยาวเนื่องจาก1. ฐานเงิน (Monetary base) ในสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 10 เท่าตั้งแต่ปี 1990 และน่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถึงจุดหนึ่งจะต้องทำให้เกิดเงินเฟ้อขึ้นไม่ว่าจะเป็น Consumer price หรือ Investment Assets price ถ้าเทียบกับฐานเงินที่เพิ่มขึ้นแล้ว ราคาทองคำ ณ ตอนนี้ก็ไม่ได้ถือว่าแพง2. ในภาวะเงินฝืด ทองคำจะถูกเทขายอย่างหนัก แต่ด้วยนโยบายขยายฐานเงินของธนาคารกลางจะไม่ทำให้เกิดภาวะเงินฝืด และนโยบายดังกล่าวไม่น่าจะสิ้นสุดลงในทันทีทันใด3. เหตุการณ์ที่ทองคำถูกขายหนักอย่างในช่วง 1980s และ 1990s นั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นอีก เพราะระดับ Real Interest rates ในช่วงนั้นสูงมาก ในขณะที่ปัจจุบันนี้ Real Interest rates ติดลบ และน่าจะ ติดลบไปอีกนาน
  

 

ถ้าราคาทองคำลงต่อ Marc Faber บอกว่าเขาจะไม่ขายทองคำแต่จะรอซื้อเพิ่ม เพราะแนวทางการลงทุนของเขาจะกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์ 4 อย่าง อย่างละ 25% เท่าๆ กัน คือ หุ้น พันธบัตรและเงินสด ทองคำ และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการกระจายสินทรัพย์แบบนี้ ช่วงเวลาที่หุ้นและอสังหาฯ ราคาขึ้น ทองคำและพันธบัตรมักจะราคาลง ในทางกลับกัน ถ้าหุ้นและอสังหาฯ ราคาลง ราคาทองคำและพันธบัตรมักจะขึ้น จึงเป็นการจัดพอร์ตที่ hedge ความเสี่ยงของราคาไปในตัว และเขาเชื่อว่า ถ้าราคาทองคำลดลงอีก $50-100/oz. จะถือว่าถูกขายมากเกินไป และจะรอซื้อเพิ่ม

• Mark Mobius เชื่อว่า ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์อาจจะเป็นขาขึ้นได้ในระยะยาว เนื่องจากความต้องการสินค้าของประเทศตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องตามเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและพลังงาน เช่น การเพิ่มขึ้นของปริมาณรถยนต์ โลหะที่ใช้ในการจับสารพิษเพื่อไม่ให้ปล่อยไปในอากาศ (Catalytic Converter) อย่าง Platinum หรือ Palladium น่าจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นมาก หรือการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์นั้นต้องใช้ทองแดงเพื่อเป็นส่วนประกอบในสายไฟ เป็นต้น ในขณะที่ด้าน Supply นั้นกลับหายากมากขึ้นหรือมีต้นทุนในการนำมาใช้ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าแรง ค่าสัมปทาน เป็นต้น ดังนั้น เมื่อเกิดความไม่สมดุลระหว่าง Demand-Supply จึงทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีโอกาสปรับขึ้นได้ในระยะยาว
  

สำหรับโลหะทองคำ Mark Mobius เชื่อว่าราคาทองคำมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้ ด้วยผลจากนโยบายอัดฉีดเม็ดเงิน ความนิยมที่เพิ่มขึ้นจากประชาชนในประเทศตลาดเกิดใหม่นิยมเก็บสะสมทองคำเพื่อเป็นการรักษา Wealth ของตนเอง รวมทั้งยังมีการซื้อเก็บจากธนาคารกลางต่างๆ ด้วย

 

สรุป ตราบเท่าที่ประเทศตลาดเกิดใหม่อย่าง จีน หรืออินเดีย ยังมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เชื่อได้ว่าความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทุกชนิดจะปรับขึ้นด้วยกันทั้งหมด ขึ้นอยู่กับว่าความต้องการสินค้านั้นๆ มันเพิ่มขึ้นด้วยหรือไม่

 

 

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 11, 2013 โดย กระต่ายทอง

[aunson 1,403]

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนเช้าวันใหม่ เริ่มต้นปีใหม่ของเทศกาลตรุษจีน กันนะครับ 10.13 น. 11-2-2013

 

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ ขอให้ รวย รวย รวย มี เงิน มีทอง มีที่ดิน กันเยอะ นะครับ ทุกคน

 

สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำ เคลื่อนไหว Side ways อยู่ในกรอบ 1660-1680 = 20 เหรียญ

 

ยังไม่ขยับขึ้นและลงไปไหนมาก แม้ว่าบางครั้งจะมีความผันผวนของราคาทองคำบ้างก็ตาม

 

แต่โดยภาพรวมแล้ว ถือว่านักลงทุนยังพอใจราคาทองคำ ณ ระดับราคา 1665-1675 อยู่ครับ

 

จึงส่งผลทำให้ราคาทองคำยังไม่ขยับไปไหนมาก

 

แต่ถ้ามองจากทางเทคนิคแล้ว ราคาทองคำ ณ ขณะนี้ เริ่มขยับเข้ามาในกรอบมากยิ่งขึ้นและใกล้จะออกนอกกรอบ ซึ่งในอีก 1-2 วันนี้

 

ราคาทองคำอาจจะมีแนวโน้มเปลี่ยนทิศทางไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง แน่นอนครับ

 

ซึ่งแนะนำนักลงทุนได้ ก็คงเป็นลักษณะของการ ซื้อ-ขาย ตามแนวโน้มไปครับ ถึงแม้บางครั้งอาจจะต้องยอมตัดขาดทุนบ้างก็ตาม

 

สัปดาห์นี้ ถ้าดูจากกราฟทางเทคนิคแล้ว ราคาทองคำ ขยับเข้ามาทำกรอบสามเหลี่ยมระยะสั้น ซึ่งถ้าหลุดหรือผ่าน

 

ราคาทองคำจะกลับขึ้นหรือลงไปทดสอบ 1650 หรือ 1680 อีกครั้ง ซึ่งหากสามารถผ่านไปในทิศทางได้ราคาทองคำจะเลือกทิศทางและเปลี่ยนแนวโน้ม

 

ระยะสั้นไปในทิศทางนัน้ ในระยะถัดไป แต่ถ้าดูจากกราฟ ระยะยาว ราคาทองคำ ยังคงมีมุมมอง

 

Side ways Down แต่ก็ยังต้องรอลุ้นการผ่าน 1680-1700 เหรียญขึ้นไปให้ได้เพื่อกลับตัวเป็นขาขึ้นระยะสั้น

 

แต่ ซึ่งถ้าหากยังไม่สามารถผ่านไป แนวรับ 1630-1650 อาจจะต้องทำงานหนักอีกครั้งครับ

 

แนวต้านแนวรับ

 

แนวต้าน 1673 ไม่ผ่านระวังแรงขาย **** ผ่านได้ 1678-1683 อีกครั้ง ***

 

สรุป แนวต้าน รอดูรีบาวด์ขึ้นทดสอบแนวต้าน ก่อนว่าวันนี้ จะสามารถผ่าน 1670 ขึ้นเหรียญขึ้นไปยืนเหนือ แนวต้าน ได้หรือไม่

 

ถ้าผ่านไปได้ เป้าหมาย เล็กๆ1680-1685 เหรียญ ตรงนั้นระวังแรงขายอีกครั้งครับ

 

แนวรับ 1665 **** ระวัง *** ถ้าหลุด 1662-1660 ****** 1654 ไม่สมควรหลุด ***** ถ้าหลุด ก็ 1646-1635 โน่นเลยครับ

 

สรุป แนวรับ ระยะนี้ราคาทองคำขยับเข้ามาใกล้แนวรับแล้วนะครับ ดังนั้น ต้องติตตามกันต่อไปครับ ว่า

 

แนวรับ 1660 วันนี้จะรับอยู่หรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ แนวรับ 1655-1650 อาจจะต้องทำงานหนักกันอีกรอบครับ

 

ซึ่งถ้าหลุด อาจจะมี หนาว ๆกันบ้างครับ เพราะ ระยะที่ผ่านมาราคาทองคำไม่เคยหลุดครับ

 

กรอบเล็ก 1650-1680 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1650-1700 = 50 เหรียญ

 

กรอบ side ways 1660-1680 = 20 เหรียญ

 

วันนี้ไม่มีตัวเลขทางฝั่งสหรัฐนะครับ แต่มีการประชุมของกลุ่มยูโร ครับ ซึ่งต้องติดตามข่าวกันต่อไปครับ

 

ว่าจะส่งผลดีต่อสกุลเงินยูโรและราคาทองคำยังไงครับ

 

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ

 

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ รอดูก่อนว่า วันนี้ ราคาทองคำจะเลือก ปิดตลาด ต่ำกว่า 1665 เหรียญ หรือ สูงกว่า 1670 เหรียญ ครับ

 

ซึ่งถ้าหาก เลือกปิดตลาดต่ำกว่า 1665 เหรียญ วันถัดไป แนะนำให้ระวังราคาทองคำทดสอบแนวรับ 1655-1650 ซึ่ง

 

ตรงนัน้ต้องวัดใจกันอีกครั้งว่าหลุดหรือไม่ ครับ แต่ถ้าเลือกปิดสูงกว่า 1670 เหรียญได้ ก็เป้าหมาย เล็ก ก็อาจจะ 1680-1685 อีกครั้งครับ

 

ดังนัน้ วันนี้ถ้านักลงทุน จะเปิด Long หรือ Short ก็สมควร ตั้งจุดตัดขาดทุนไว้ด้วยนะครับ

 

แต่วันนี้ไม่ขอแนะนำให้เปิด Long หรือ Short ครับแต่ขอ นั่ง ๆ นิ่ง รอดู ราคาทองคำหลุดออกนอกกรอบก่อนดีกว่า ......... ถึงจะเทรด Follow Trend (Me) ตามครับผม

 

เอาง่าย ๆ ว่าวันนี้ไม่ผ่านแนวต้าน ระวังแรงขาย ในวันถัดไปครับ

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[jewjang40 5,712]

Good Morning News 12 กุมภาพันธ์ 2556 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

 

 

ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสในไตรมาส 4 ปี 2555 ลดลง 1.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่ลดลง 3.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอ

 

รมว.เศรษฐกิจเยอรมนีคาดว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะสามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ภายในประเทศหลังมีการปรับขึ้นค่าแรงและปรับลดภาษีตั้งแต่ในช่วงต้นปีนี้ ประกอบกับความมีเสถียรภาพมากขึ้นของเศรษฐกิจและตลาดการเงินโลก

 

ยอดสินเชื่อบ้านของออสเตรเลียในเดือน ธ.ค. 2555 ลดลง 1.5% จากเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นการชะลอตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน แสดงให้เห็นว่า การลดอัตราดอกเบี้ยไม่ช่วยกระตุ้นความต้องการในตลาดอสังหาริมทรัพย์

 

ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส ระบุว่าจีนมีแนวโน้มแซงหน้าสหรัฐขึ้นเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2560 โดยจะมีมูลค่า GDP ถึง 20 ล้านล้านดอล่าร์สหรัฐ ในขณะที่อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ 7% จะลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระหว่างปี 2555-2593 เนื่องจากเศรษฐกิจถึงจุดอิ่มตัว

 

ยอดส่งออกรถยนต์ของเกาหลีใต้ในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 24.3% จากปีก่อนหน้าสู่ระดับ 4.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน เนื่องมาจากยอดการขายรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงเพิ่มมากขึ้น

 

ปธน.มาห์มูด อาห์มาดิเนจัดของอิหร่านประกาศว่าไม่มีอำนาจใดที่จะหยุดยั้งการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่านได้ แต่พร้อมที่จะหารือประเด็นข้อพิพาทนิวเคลียร์กับสหรัฐหากกลุ่มประเทศตะวันตกยกเลิกความพยายามที่จะกดดันอิหร่าน

 

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของฟิลิปปินส์ในช่วงเดือนม.ค.-พ.ย. 2555 เพิ่มขึ้น 1.1% สู่ระดับ 1.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นการลงทุนในภาคการผลิต อสังหาริมทรัพย์ ค้าส่งและค้าปลีก การทำเหมืองและการระเบิดหิน การเงิน และการประกันภัย

 

ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอินโดนีเซียในเดือนม.ค. อยู่ที่ระดับ 116.2 ลดลงจากเดือน ธ.ค. ที่ 116.4 เนื่องจากผู้บริโภควิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า ถึงแม้จะเชื่อว่ากิจกรรมทางธุรกิจและการจ้างงานจะมีแนวโน้มดีขึ้นก็ตาม

 

ผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของธปท. ระบุว่า หลายธุรกิจมีแผนปรับเพิ่มราคาสินค้าในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ เพื่อชดเชยต้นทุนที่สูงขึ้นโดยเฉพาะต้นทุนแรงงาน แต่อาจไม่ปรับเพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรง

 

 

SET Index ปิดตลาดที่ 1,489.11 จุด ลดลง 8.19 จุด หรือ -0.55% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 49,552.47 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 927.29 ล้านบาท ยังคงขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน ในขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่ปิดทำการเนื่องจากวันหยุดเทศกาลตรุษจีน โดยปัจจัยที่ควรติดตามได้แก่ การประชุม รมว.คลังยูโรโซนและการแถลงนโยบายประจำปีของ ปธน. บารัค โอบามา

 

 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวลดลงในทุกช่วงอายุระหว่าง -0.01% ถึง -0.02% โดยอัตราผลตอบแทนยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ว่า กนง.อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมวันที่ 20 ก.พ. นี้ สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท. อายุ 1 เดือน/ 3 เดือน/ 6 เดือน มูลค่ารวม 80,000 ล้านบาท

 

 

รัสเซียซึ่งเป็นประเทศผู้ครอบครองทองคำรายใหญ่เป็นอันดับ 8 ของโลก ได้กลายมาเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยธ.กลางรัสเซียมียอดซื้อทองคำมากกว่า 570 เมตริกตัน (570,000 กิโลกรัม) โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการรับมือกับกรณีที่เกิดหายนะขึ้นกับค่าเงินสกุล ดอลล่าร์สหรัฐ ยูโร ปอนด์ หรือสกุลเงินสำรองอื่น ๆ

[aunson 1,403]

สวัสดีครับทุกคน สวัสดีตอนบ่ายของวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 15.29 น.

 

ไม่ได้เข้ามารายงานกระทู้ซะหลายวัน ระยะนี้ราคาทองคำหลุดแนวรับที่สำคัญ ระดับรายวัน-รายสัปดาห์มาแล้วนะครับ

 

จึงส่งผลทำให้ ตอนนี้ราคาทองคำกำลังสะสมกำลังเพื่อรอทดสอบ หรือพยายามรีบาวด์ กลับขึ้นไปยืนแนวต้านระดับ 1650-1660 เหรียญ

 

ให้ได้ก่อนนะครับ ถ้าไม่ได้ แนะนำให้นักลงทุน ระวังราคาทองคำหลุดแนวรับที่สำคัญระดับ 1640-1630 เหรียญลงไปทำราคาต่ำสุดใหม่นะครับ

 

ดังนั้น ระยะนี้หากราคาทองคำไม่สามารถกลับขึ้นไปยืนแนวต้าน 1650-1660 เหรียญก็ยังไม่สมควรสะสมซือ้เท่าไหร่ ครับ ถ้าผ่านได้ก็ค่อยซือ้ตามขึ้นไปครับ

 

แนวต้านแนวรับ

 

แนวต้าน 1649-1653 **** ไม่ผ่านระวังแรงขาย *** 1658 ระวังแรงขาย ไว้ก่อน ******ผ่านได้ทดสอบ 1666-1670 อีกครัง

 

สรุป ระยะนี้ ราคาทองคำหลังจากหลุดแนวรับที่สำคัญลงมาทำให้ทิศทางราคาทองคำระยะนี้ มีแนวโน้มกลับเข้ามาเป็น

 

Side ways Down เช่นเดิม ซึ่งแนวต้าน ระยะนี้อาจจะเป็นแค่แรงรีบาวด์ขึ้นทดสอบแนวต้าน เท่านั้น ซึ่งหากราคาทองคำจะกลับเป็นขาขึ้นจริง ราคาทองคำ

 

ต้องผ่าน 1680-1700 เหรียญขึ้นไปยืนเหนือ ให้ได้อีกครั้งก่อนครับ

 

แนวรับ 1641-1639 เหรียญยังไม่แข็งแรง ระวัง หลุด ***** 1634 รอดูว่าจะรีบาวด์ได้อีกหรือไม่ ***** ถ้าหลุด 1626 อีกครั้ง ถ้าไม่รีบาวด์ ก็ 1606-1600 เหรียญครับ

 

สรุป แนวรับ หลังจากราคาทองคำหลุดแนวรับทีสำคัญลงมา (1670-1660) ก็ส่งผลทำให้นักลงทุนบางกลุ่ม ที่ใช้เทคนิคเป็นเครื่องมือในการซื้อ-ขาย

 

เทขายสินทรัพย์ออกมาด้วย ซึ่งจะส่งผลทำให้ในระยะนี้ราคาทองคำยังขาดแรงซื้อสะสมอยู่ซึ่งส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจจะมาจากตลาดทางด้านเอเชีย ประเทศจีน ปิดทำการซือ้-ขาย

 

เนื่องจากเป็นวันตรุษจีนที่ผ่านมา จึงส่งผลทำให้ แรงซื้อ-ขายจากประเทศจีนอาจจะหายไปส่วนหนึ่งด้วยครับ

 

ต้องรอกันต่อไปว่า พรุ่งนี้ตลาดเอเชียหรือตลาดจีนกลับเข้ามาเปิดทำการเป็นปกติแล้ว จะมีแรงซือ้ เข้ามาจากประเทศจีนหรือไม่ครับ

 

แต่โดยภาพรวม แนวโน้ม ใหญ่ ยังคงเป็น Side Days Down อยู่ครับ

 

กรอบเล็ก 1630-1660 = 30 เหรียญ

 

กรอบใหญ่ 1630-1680 = 50 เหรียญ

 

กรอบ Side Ways เลือกทิศทางว่าจะรีบาวด์ หรือ ลงต่อ 1640-1650 เหรียญ

 

วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่ต้องติดตามดังต่อไปนี้

 

1.เวลา 20.30 น. ยอดคำขอรับสวัสดิการการว่างงาน คาดการณ์ส่งผลลบต่อราคาทองคำเล็กน้อย

 

2.เวลา 01.00น. การประมูลพันธบัตรอายุ 30 ปี ไม่มีตัวเลขคาดการณ์ ซึ่ง หากผลออกมาจะส่งผลต่อ สกุลเงินสหรัฐ และจะส่งผลต่อราคาทองคำระยะกลาง-ระยะยาวภายหลังครับ

 

 

 

โชคชะตาฟ้าลิขิต ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะคน

 

การให้ที่ยิ่งใหญ่ คือการให้ต่อไปไม่รู้จบ

 

 

กลยุทธวันนี้ แนะนำหากราคาทองคำรีบาวด์ ขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1649-1653 เหรียญและไม่สามารถยืนเหนือหรือผ่านไปได้ แนะนำ

 

ให้ Short เก็งกำไรระยะสั้น ได้ครับ โดยจะมีจุดตัดขาดทุน 1660 เหรียญครับ ส่วนใครที่อยากจะต้องการเปิด Long หรือซือ้เก็งกำไรแนะนำ

 

ให้รอดูราคาทองคำแถว 1640-1635 เหรียญ ซึ่งหากไม่หลุด ก็สามารถเปิด Long เข้าไปเก็งกำไรระยะสั้นเป้าหมาย ในการปิดทำกำไรประมาณ 1645-1650 เหรียญครับ

 

และก็อย่าลืมว่าอาจจะมีจุดตัดขาดทุนที่ 1620 เหรียญหากหลุดลงไปครับ

 

นานนานมาที แต่ก็จะพยายามมาให้ บ่อย ๆ นะครับ ขอให้โชคดี รวย รวย รวย เฮง เฮง เฮง รับวันวาเลนไทน์กันทุกทุกคนนะครับ

[jewjang40 5,712]

Good Morning News 18 กุมภาพันธ์ 2556 - วรวรรณ ธาราภูมิ

 

 

 

 

• รัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศ G20 เห็นพ้องต้องกันว่า จะงดเว้นการแข่งขันกันลดค่าเงินของประเทศตนเอง เนื่องจากเห็นว่าความผันผวนมากเกินไปของอัตราแลกเปลี่ยนจะส่งผลเสียต่อความมั่นคงทางการเงินและเศรษฐกิจโดยรวม โดยการใช้นโยบายการเงินนับจากนี้ควรมีเป้าหมายเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านราคา และกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศเป็นหลัก ซึ่งจะต้องลดผลกระทบที่มีต่อประเทศอื่นให้น้อยที่สุด นอกจากนี้ ประเทศกลุ่ม G20 เห็นว่าความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจโลกได้ลดลงแล้ว แต่อัตราการขยายตัวยังอยู่ในระดับที่อ่อนแอเกินไป
  

• นักวิเคราะห์จาก Citigroup ให้มุมมองต่อ สงครามอัตราแลกเปลี่ยน (Currency War) ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ว่า จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ในระยะยาว เพราะแม้ว่าการทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลงจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระยะสั้น แต่จะทำให้ไม่เกิดการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันที่แท้จริง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการขยายตัวในระยะยาว อีกทั้งประเทศอื่นๆ ก็จะตอบโต้ด้วยการลดค่าเงินเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังส่งผลข้างเคียงอื่นด้วยอย่างกรณีญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นต้องนำเข้าสินค้าในราคาแพงขึ้นโดยเฉพาะพลังงาน ซึ่งจะส่งผลต่อบริษัทขนาดเล็กและกลางในประเทศ และถึงแม้การลดค่าเงินจะทำให้กำไรของบริษัทใหญ่ของญี่ปุ่นดีขึ้น แต่บริษัทเหล่านี้ล้วนแต่มีแนวโน้มจะขยายการลงทุนไปในต่างประเทศ จึงจะไม่ส่งผลช่วยต่อการจ้างงานในประเทศเท่าใดนัก
  

• ยอดค้าปลีกของอังกฤษในเดือน ม.ค.ลดลง 0.6% เมื่อเทียบทั้งเป็นรายเดือนและรายปีสวนทางกับที่ตลาดคาดว่าช่วงต้นปีนี้จะขยายตัวขึ้น ทั้งนี้ เป็นผลจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ มีหิมะตกหนักจนทำให้ร้านค้ารายย่อยจำนวนมากต้องปิดทำการ
  

• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐในเดือน ม.ค.ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แย่กว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 79.1% ลดลงจาก 79.3% ในเดือน ธ.ค. เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมรถยนต์ คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ มีปริมาณการผลิตลดลง
  

• รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือน ก.พ.ว่าปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ 76.3 จุด จาก 73.8 จุดในเดือน ม.ค. และดัชนีคาดการณ์เงินเฟ้อในรอบ 1 ปีข้างหน้ายังทรงตัวอยู่ที่ 3.3% ทั้งนี้ คนอเมริกันมีความเชื่อมั่นมากขึ้น แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะเผชิญกับอัตราจัดเก็บภาษีที่สูงขึ้น ซึ่งได้เริ่มใช้ตั้งแต่ต้นปีนี้ รวมถึงราคาเชื้อเพลิงที่ปรับเพิ่มขึ้น
  

• FED สาขานิวยอร์ก รายงานดัชนี Empire State Manufacturing Index เดือน ก.พ.ว่า เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10 จุด ในขณะที่เดือน ม.ค.เป็น -8 จุด จึงอยู่ในแดนบวกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว บ่งชี้ว่ากิจกรรมของธุรกิจภาคการผลิตในรัฐนิวยอร์กและบริเวณใกล้เคียงกำลังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น (ดัชนีที่สูงกว่า 0 แสดงถึงการขยายตัวของภาคการผลิต)
  

• วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนของสหรัฐ ประกาศจะเข้าซื้อกิจการของ บริษัท เอช.เจ. ไฮน์ซ์ ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ ด้วยวงเงินมูลค่า 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายในปีนี้ซึ่งเป็นการเข้าซื้อกิจการในอุตสาหกรรมอาหารครั้งใหญ่ที่สุดของโลก โดยเขามองว่า ธุรกิจของไฮน์ซมีความแข็งแกร่ง และมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีก ทั้งนี้ บริษัทไฮน์ซก่อตั้งขึ้นในปี 2412 โดยเป็นผู้จำหน่ายซอสมะเขือเทศ ซอสชนิดต่างๆ ซุปสำเร็จรูป กับผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ และมีการดำเนินกิจการในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก
  

• ก.พาณิชย์จีน รายงานว่า ยอดค้าปลีกช่วงตรุษจีนปีนี้ขยายตัว 14.7% ขยายตัวน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2552 (ตรุษจีนปีก่อนที่ขยายตัว 16.2%) โดยสาเหตุหนึ่งคือการที่ สี จิ้นผิง ผู้นำคนใหม่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประกาศใช้มาตรการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นและการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย
  

• สศค.รายงานรายได้รัฐบาลสุทธิเดือน ม.ค. ว่าจัดเก็บได้ 161,697 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 12.3% และสูงกว่าเดือน ม.ค.ปีก่อน 20.1% สะท้อนว่าเศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะความต้องการภายในประเทศที่ขยายตัวได้ดี ส่งผลให้รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 648,698 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 11.5% ในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 56 (ต.ค.55-ม.ค.56)
  

• พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน กล่าวว่า รัฐบาลจะยังสนับสนุนการผลิตก๊าซชีวภาพอัด (ซีบีจี) เนื่องจากนำมาใช้ทดแทนก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ได้โดยมีต้นทุนการผลิตและการขนส่งที่ต่ำกว่ามาก เพราะผลิตด้วยวัตถุดิบทางการเกษตรซึ่งหาได้ง่ายในต่างจังหวัด
  

• ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า มีโอกาสมากขึ้นที่ กนง.จะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เนื่องจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการแข็งค่าของเงินบาทอาจส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรรัฐบาลไทยกับสหรัฐที่ค่อนข้างสูงอาจดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาเก็งกำไร อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำอาจมีผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบการเงินและเศรษฐกิจในระยะยาว เพราะอัตราดอกเบี้ยแท้จริงที่ติดลบจะกระทบต่อการออมของภาคครัวเรือน และเพิ่มความเสี่ยงด้านปัญหาหนี้ครัวเรือน
  

• SET Index ปิดตลาดที่ 1,521.52 จุด ลดลง 5.22 จุด หรือ -0.34%ด้วยมูลค่าซื้อขาย 54,524 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,896 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเซีย หลังจากตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ของญี่ปุ่นและประเทศในแถบยุโรปออกมาแย่กว่าที่คาด ส่งผลให้หุ้นในหมวดพลังงานและปิโตรเคมีซึ่งเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ปรับตัวลดลง
  

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยส่วนใหญ่ โดยเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วงระหว่าง 0.00% ถึง +0.02% ซึ่งเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันที่อัตราผลตอบแทนปรับเพิ่มขึ้น หลังจากที่ปรับลดลงเมื่อช่วงสองสัปดาห์ก่อนหน้า
  

• จอร์จ โซรอส ลดการลงทุนใน SPDR ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำลง 55% ในช่วงไตรมาส 4/55 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ ยังมีนักลงทุนอีกหลายรายที่ลดการลงทุนในทองคำลงเนื่องจากเศรษฐกิจโลกทีมีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้เปลี่ยนไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่มีความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจมากขึ้น อย่างเช่น หุ้นหรือสินค้าโภคภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรม
  

 

 

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 18, 2013 โดย กระต่ายทอง