ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

tqmbroker

ขาอ่อน
  • จำนวนเนื้อหา

    2
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

คะแนนนิยม

0 ปานกลาง

เกี่ยวกับ tqmbroker

  • คะแนนนิยม
    น้องใหม่

Profile Information

  • เพศ
    ชาย
  • ที่อยู่
    กรุงเทพมหานคร
  1. ปกติแล้วน้ำมันเครื่องยนต์นั้นจะมีการลดระดับลงจากการใช้งานไปนานๆ ซึ่งจำเป็นต้องตรวจเช็คน้ำมันเครื่องเป็นประจำ เพื่อที่จะได้เติมน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับปกติเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดกับเครื่องยนต์ และเป็นการหล่อลื่นเครื่องยนต์ให้ทำงานได้อย่างปกติ ซึ่งถ้าเกิดอาการน้ำเครื่องหายบ่อยนั้น มีสาเหตุดังนี้ 1.เกิดอาการรั่วของน้ำมันเครื่องที่เครื่องยนต์ เมื่อเกิดอาการนี้สามารถตรวจเช็คได้ตาม ประเก็นฝาครอบวาล์ว ซีลยางต่างๆของเครื่องยนต์ ว่ามีคราบน้ำมันไหลออกมาหรือไม่ เพราะซีลยางพวกนี้จะมีการเสื่อมสภาพตามการใช้งาน เป็นเรื่องปกติและอีกจุดที่สามารถสังเกตุได้ ก็คือ ถ้าจอดรถอยู่แล้วมีน้ำมันหยดลงพื้น แสดงว่าเกิดการรั่วซึมควรรีบตรวจสอบหาจุดรั่วทันที่ 2.ลูกสูบ กระบอกสูบ หรือแหวนลูกสูบ มีปัญหา สาเหตุนี้เป็นอีกสาเหตุนึงที่ทำให้น้ำมันเครื่องหาย หากเครื่องยนต์มีการสึกหรอมาก โดยเฉพาะที่ ลูกสูบ กระบอกสูบ และแหวนลูกสูบ จะทำให้น้ำมันเครื่องเข้าไปเผาไหม้ที่กระบอกสูบจึงเป็น สาเหตุทำให้น้ำมันเครื่องหายอีก1สาเหตุด้วยเช่นกัน 3.ร่องนำวาล์วสึกหรอ อาการนี้ก็จะเหมือนกันการสึกหรอของลูกสูบ คือจะทำให้น้ำมันเครื่องไหลผ่านร่องนำวาล์วแล้วเข้าไปเผาไหม้ในกระบอกสูบ เมื่อเกิดอาการนี้ควรทำการรีปเปลี่ยนร่องนำวาล์วโดยทันที 4.ก้านวาล์วสึกหรอมาก ซึ่งผลของการที่ก้านวาล์วสึกหรอนั้นก็จะมีผลคล้ายๆกับอาการของร่องนำวาล์วสึกหรอ ควรทำการรีบเปลี่ยนด้วยเช่นกัน 5.เครื่องยนต์ร้อนจัด การที่ใช้งานเครื่องยนต์เป็นเวลานานนั้นก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้น้ำมันเครื่องที่ทำการหล่อลื่นเครื่องยนต์ หายได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งควรรีบหาสาเหตุของอาการเครื่องยนต์ร้อนจัดโดยเร็ว นอกจากจะน้ำมันเครื่องหายแล้ว ยังเป็นสาเหตุของความเสี่ยงในการเปิดปัญหาเครื่องยนต์อีกด้วย ท่านสามารถติดตามเกร็ดความรู้รถยนต์อีกมากมายได้ที่ www.q4car.com ค่ะ หากสนใจทำ ประกันภัยรถยนต์ อยากดูรายละเอียดโปรโมชั่น ประกันรถยนต์ สามารถดูได้ที่ ทีคิวเอ็ม เบื่อซ่อม อยากขาย รถมือสอง กำลังมองหา ตลาดรถ เพื่อฝากขาย รถยนต์มือสอง สามารถดูรายละเอียดได้ที่ Q4car ค่ะ
  2. การขับขี่รถบนทางด่วนดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผู้ใช้รถในปัจจุบัน เพราะทุกวี่วันก็ใช้บริการทางด่วนอยู่แล้ว หรือเป็นเรื่องที่ผู้อ่านรู้อยู่แล้วแต่ไม่ได้ใส่ใจ แต่ใครจะรู้บ้างไม่ว่าเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่"ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง" จะมานำเสนออาจจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้รถบ้างหากเกิดอุบัติจริง ๆ หรืออย่างน้อยก็เป็นความรู้ที่ผู้ใช้รถเป็นพาหนะคู่กายควรจะรับรู้ไว้ซึ่งก็ไม่เสียหายอะไร ข้อควรจำในการใช้ทางด่วน โดยหลักการแล้ว การขับรถบนทางด่วนจะง่ายกว่าการขับรถบนท้องถนนธรรมดา เนื่องจากไม่มีสี่แยกและไม่มีรถวิ่งสวนมา แต่ด้วยเป็นการขับบนทางด่วน ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหรือโศกนาฎกรรมอันใหญ่หลวงได้ ลักษณะเฉพาะของอุบัติเหตุบนทางด่วน ส่วนใหญ่จะเป็นอุบัติเหตุชนกันหรืออุบัติเหตุเดี่ยว(รถคันเดียว) การขับรถบนทางด่วน การเตรียมการล่วงหน้าดังต่อไปนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก 1.วางแผนขับรถอย่างสบาย ๆไม่รีบร้อน เมื่อขับรถบนทางด่วนในระยะทางยาวๆ ผู้ขับเพียงแต่เหยียบคันเร่งเพียงอย่างเดียว จึงสามารถทำให้ง่วนนอนได้ ความระมัดระวังจึงลดน้อยลง ทำให้ผิดพลาดได้ เมื่อไรจะใช้ทางด่วนพึงควรปฎิบัติดังนี้ - ตรวจสอบจุดบริการ และจุดจอดรถไว้ล่วงหน้า - กำหนดล่วงหน้าว่าจะจอดพักที่ไหนและเติมน้ำมันที่ไหน 2.ต้องตรวจสอบสภาพรถยนต์ให้สมบูรณ์ที่สุดก่อนเดินทาง การตรวจสอบรถยนต์และสัมภาระควรทำแต่เนิ่นๆ อย่าพยายามตรวจอย่างเร่งรีบก่อนออกเดินทางหรือขึ้นทางด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าลืมตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้ให้เรียบร้อย - เชื้อเพลิง ปริมาณน้ำมันมีพอหรือไม่ - หม้อน้ำ ปริมาณน้ำในหม้อน้ำมีพอหรือไม่ หม้อน้ำรั่วไหม - มีน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรกพอหรือไม่ - สายพานพัดลมตึงพอดีไหม มีรอยขาดหรือไม่ - ยางเก่าเกินไปหรือเปล่า ลมยางแข็งกว่าปกติ 20-30% หรือไม่ - สัมภาระ ใช้เชือกผูกอย่างแข็งแรงแน่นหนาแล้วหรือยัง นอกจากนี้ ควรนำไฟหรือแผ่นป้ายที่มีเครื่องหมายแสดงว่ามีรถกำลังจอดอยู่(ป้ายสามเหลี่ยม) นำไปติดตั้งไปด้วย เผื่อรถกรณีที่เกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนแล้วจำเป็นต้องจอดรถบนทางด่วน 3.สนใจติดตามข่าวการจราจร หากผู้ขับขี่ไม่ทราบข่าวคราวการจราจรที่เพียงพอ อาจเป็นสาเหตุให้ต้องรีบเร่ง และเกิดกังวลกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวเมื่อจะใช้ทางด่วนควรจะ - สอบถามไปยังศูนย์ข้อมูลการจราจรล่วงหน้าเพื่อขอทราบข้อมูล - ให้ความสนใจเครื่องหมายจราจรหรือแผ่นป้ายต่างๆ บนทางด่วนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้มองข้ามข้อมูลที่สำคัญไป - ใช้วิทยุในรถฟังข่าวจราจร 4.ควรรัดขัดเข็มนิรภัยทุกครั้ง ผู้ขับขี่และผู้โดยสารในรถทุกคน ควรรัดเข็มขัดนิรภัย เพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุในกรณีที่คาดไม่ถึง นอกจากนั้นแล้วเข็มขัดนิรภัยยังช่วยให้ผู้ขับขี่อยู่ในท่านั่งที่ถูกต้อง และยังมีประโยชน์ช่วยลดความเมี่อยล้าและทำให้ขับรถได้อย่างมั่นคง ที่มา : ผู้จัดการมอเตอร์ริ่ง ขอบคุณข่าวโดย automotive-knowledge-cars รูปประกอบ : oknation เกร็ดความรู้ดีๆ จาก ทีคิวเอ็ม ประกันภัยรถยนต์ โปรโมชั่น ทีคิวเอ็ม ประกันรถยนต์ ดีๆ เบื่อซ่อม อยากขาย ไว้ใจ รถยนต์มือสอง ตลาดรถ รับฝากขาย รถมือสอง เปรียบเทียบรถยนต์ ฟรี!!
×
×
  • สร้างใหม่...