ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

บอร์ดผู้ได้รับความนิยม

  1. Anny999

    Anny999

    ขาใหญ่


    • คะแนน

      1

    • จำนวนเนื้อหา

      595


  2. ginger

    ginger

    ขาใหญ่


    • คะแนน

      1

    • จำนวนเนื้อหา

      76,813


  3. Henryokey

    Henryokey

    ขาใหญ่


    • คะแนน

      1

    • จำนวนเนื้อหา

      226


  4. Liza

    Liza

    ขาใหญ่


    • คะแนน

      1

    • จำนวนเนื้อหา

      520



เนื้อหายอดนิยม

แสดงเนื้อหาที่มีคะแนนนิยมสูงสุด เมื่อ 05/04/2561 ในทุกพื้นที่

  1. 1 คะแนน
    ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ 9.6 ดอลล์ เหตุนักลงทุนขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังดาวโจนส์พุ่งแรง ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 4 เมษายน 2561 06:59:16 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 9.6 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 1,337.3 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 28 เซนต์ หรือ 1.68% ปิดที่ 16.392 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 5.2 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ 931.3 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 927.80 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.18% แตะระดับ 90.21 เมื่อคืนนี้ ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าจะลดความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญามีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างคึกคัก หลังจากที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค. โดยข้อมูลแรงงานเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2807890 จีนขู่ใช้มาตรการตอบโต้ หลังสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 1,300 รายการ ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 4 เมษายน 2561 10:02:01 น. กระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยว่า รัฐบาลจีนขอประณามและต่อต้านอย่างรุนแรงต่อการที่สหรัฐในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน และจีนพร้อมที่จะดำเนินมาตรการตอบโต้ ต่อสินค้านำเข้าของสหรัฐในลักษณะเดียวกัน ถ้อยแถลงของโฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนมีขึ้นหลังจากที่สหรัฐเปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% จำนวน 1,300 รายการ คิดเป็นวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ กระทรวงพาณิชย์จีนยังระบุด้วยว่า "สหรัฐไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของจีน และยังเดินหน้าประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนหลักเหตุผลอย่างแท้จริง ทั้งยังเป็นการกระทำเพียงฝ่ายเดียวและเป็นการปกป้องทางการค้าที่จีนต่อต้านอย่างจริงจังมาตลอด ขณะเดียวกันสหรัฐเผยแพร่รายการสินค้าของจีนโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันและความร่วมมือทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกันตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา ตลอดจนการขออุทธรณ์จากชุมชนธุรกิจจีนและอเมริกัน รวมถึงผลประโยชน์ของผู้บริโภคด้วย" สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทางการจีนมีแผนจะฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลกหรือ WTO และเตรียมใช้แผนตอบโต้สินค้านำเข้าของสหรัฐด้วยมาตรการที่มีความรุนแรงและเท่าเทียมกัน คาดว่าจะเปิดเผยออกมาภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า พวกเรามีความเชื่อมั่น และมีสมรรถนะในการตอบโต้มาตรการป้องกันการค้าของสหรัฐอย่างแน่นอน ด้านนายลู่ กัง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนเปิดเผยว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนที่สหรัฐประกาศล่าสุดนั้น เป็นการดำเนินการเพียงฝ่ายเดียวและเป็นการปกป้องทางการค้าซึ่งรัฐบาลจีนไม่เห็นด้วยและต่อต้านการกระทำดังกล่าว --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ตรีสิริ เซะวิเศษ/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2808057 ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.19 ทรงตัวจากวานนี้ ตลาดรอปัจจัยใหม่ มองกรอบวันนี้ 31.15-31.25 ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 4 เมษายน 2561 09:23:49 น. นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.19 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวใน ระดับเดียวกันกับช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา "บาททรงตัว ค่อนข้างนิ่ง ตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะที่ดอลลาร์เคลื่อนไหวแบบผสม โดยแข็งค่าเมื่อเทียบกับเยนและ ยูโร แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.15-31.25 บาท/ดอลลาร์ THAI BAHT FIX 3M (3 เม.ย) อยู่ที่ระดับ 1.15268% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (3 เม.ย) อยู่ที่ระดับ 1.26125% * ปัจจัยสำคัญ - เงินเยนอยู่ที่ 106.49 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 106.17 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2278 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2314 ดอลลาร์/ยูโร - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.1990 บาท/ ดอลลาร์ - ที่ประชุม ครม.เห็นชอบในหลักการของร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือกฎหมายพีพี พี ซึ่งถือเป็นกฎหมายฉบับใหม่ที่กระทรวงการคลังยกร่างขึ้น เพื่อสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและ บริการสาธารณะของภาครัฐ ชี้อนาคตกระบวนการดำเนินโครงการร่วมทุนจะไม่เกิน 9 เดือนในปัจจุบัน จากอดีตใช้เวลา 25 เดือน พร้อมกำหนดโครงการเข้าข่ายร่วมทุนเบื้องต้น 12 ประเภท และต้องเปิดรับฟังความเห็นเอกชนทุกขั้นตอน - สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ให้ความเห็นถึงสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯว่า จะมีผล กระทบต่อการค้าและการส่งออกของไทยไตรมาส 3 ปีนี้ ในระยะกลางและยาว สงครามการค้าอาจขยายผลเป็นมาตรการกีดกันทาง การค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษี (เอ็นทีบี) และกลายเป็นภัยคุกคามการค้าโลกในที่สุด ทั้งนี้ ต้องรอลุ้นมูลค่าการส่งออกไทยเดือน มี. ค.นี้ ที่อาจโตไม่ถึง2หลักเพราะเริ่มเกิดสงครามการค้าแล้ว - ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดระบบ-พัฒนา Call Center ครั้งใหญ่ ทั้งด้านบริการ-บุคลากร-เทคโนโลยี รองรับความ ต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุม-รวดเร็วตามต้องการลูกค้า ในงบลงทุน 500 ล้าน พร้อมเพิ่ม Smart Agent เท่าตัวจาก 700 เป็น 1,200 คน ในไตรมาส 2 ปีนี้ พร้อมเตรียมนำระบบพิสูจน์ตัวตนด้วยเสียงมาใช้ในไตรมาส 2 - สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า คิดเป็นวงเงิน รวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ USTR ระบุว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจำนวน 1,300 รายการ ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้า เทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรม สินค้าด้านการขนส่ง และสินค้าทางการแพทย์ ในอัตรา 25% โดยมีเป้าหมายที่จะตอบโต้จีนที่ขโมย ทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ - เอกอัคราชทูตจีนประจำองค์การการค้าโลก (WTO) กล่าวว่า จีนจะยื่นเรื่องต่อ WTO เพื่อฟ้องร้องกรณีที่สหรัฐ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจำนวน 1,300 รายการ - ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืน นี้ (3 เม.ย.) อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงคราม การค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอก ภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ในวันศุกร์นี้ - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอก จากนี้ การดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย - ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกแถลงการณ์ระบุว่า นายจอห์น วิลเลียมส์ ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานเฟด สาขาซาน ฟรานซิสโก จะได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเฟด สาขานิวยอร์ก แทนนายวิลเลียม ดัดลีย์ - สกุลเงินดิจิทัลต่างทรุดตัวลงในไตรมาสแรก โดยได้รับผลกระทบจากการที่เจ้าหน้าที่ในประเทศต่างๆพากันคุมเข้มการ ซื้อขาย ขณะที่บริษัทสื่อออนไลน์หลายแห่ง เช่น เฟซบุ๊ก, กูเกิล และทวิตเตอร์ ต่างประกาศระงับการโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิ ทัล --อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2808038 World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 4 เมษายน 2561 ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 4 เมษายน 2561 10:08:38 น. สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เปิดเผยรายการสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า คิดเป็นวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะบีบให้จีนผ่อนปรนกฎระเบียบด้านการค้าและการลงทุน USTR ระบุว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 25% จำนวน 1,300 รายการ ตั้งแต่สินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เช่น การแพทย์ การบิน และเซมิคอนดักเตอร์ ไปจนถึงสินค้าจำพวกเครื่องจักรและเคมีภัณฑ์ นอกจากนี้ มาตรการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวยังครอบคลุมถึงสินค้าผู้บริโภคอย่างเครื่องซักผ้า เครื่องกวาดหิมะ และมอเตอร์ไซค์ -- นายจาง เซียงเฉิน เอกอัคราชทูตจีนประจำองค์การการค้าโลก (WTO) เปิดเผยในวันนี้ว่า การที่สหรัฐดำเนินการสอบสวนพฤติกรรมการค้าของจีนมาตรา 301 นั้น ถือเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของ WTO ที่ว่าด้วยการห้ามเลือกปฏิบัติและตั้งกำแพงภาษี การแสดงความเห็นของนายจางมีขึ้นหลังจากสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เปิดเผยรายการสินค้าของจีนจำนวน 1,300 รายการที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% คิดเป็นวงเงินรวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ทางด้านนายชุย เถียนไค เอกอัคราชทูตจีนประจำสหรัฐกล่าวว่า จีนจะยื่นเรื่องต่อ WTO เพื่อฟ้องร้องกรณีที่สหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจำนวน 1,300 รายการ -- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และกูเกิล) นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมีแนวโน้มพุ่งขึ้นในเดือนนี้ แม้ปรับตัวลงในไตรมาสแรก โดยนายไรอัน เดทริค นักวิเคราะห์อาวุโสของแอลพีแอล ไฟแนนเชียล กล่าวว่า ตามสถิติที่ผ่านมา ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมักพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนเม.ย. โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ดัชนี S&P500 สามารถปรับตัวขึ้นถึง 9 ครั้งในเดือนเม.ย. และหากพิจารณาย้อนกลับไปถึงปี 2493 ดัชนีบวกขึ้นเฉลี่ย 1.5% ในเดือนดังกล่าว ทั้งนี้ นายเดทริคกล่าวว่า ปัจจัยทางเทคนิคยังบ่งชี้ว่าดัชนี S&P500 จะดีดตัวขึ้นในเดือนนี้ -- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกแถลงการณ์ในวันนี้ ระบุว่า นายจอห์น วิลเลียมส์ ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก จะได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานเฟด สาขานิวยอร์ก แทนนายวิลเลียม ดัดลีย์ ทั้งนี้ นายวิลเลียมส์ได้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกนับตั้งแต่ปี 2554 นายดัดลีย์ได้ประกาศในปีที่แล้วว่า เขาจะลาออกจากตำแหน่งในกลางปีนี้ โดยเขาจะทำหน้าที่วันสุดท้ายในวันที่ 17 มิ.ย. ขณะที่วาระการดำรงตำแหน่งของเขามีกำหนดสิ้นสุดลงในเดือนม.ค.2562 -- กระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้แถลงเมื่อวานนี้ว่า เกาหลีเหนือแจ้งขอเลื่อนการจัดการประชุมเจรจากับเกาหลีใต้เกี่ยวกับการเตรียมจัดประชุมสุดยอดที่จะเกิดขึ้นในปลายเดือนนี้ โดยจะเลื่อนออกไปเป็นวันพฤหัสบดี จากเดิมที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้ การประชุมดังกล่าวจะมีการจัดขึ้นที่ด้านใต้ของหมู่บ้านปันมูนจอมเพื่อหารือเกี่ยวกับรูปแบบการประชุม, การรักษาความปลอดภัย และการทำข่าวของสื่อมวลชน อย่างไรก็ดี การเลื่อนการประชุมดังกล่าวออกไปจะไม่ส่งผลกระทบต่อกำหนดการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีมูน แจ อินของเกาหลีใต้ และนายคิม จอง อีน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 27 เม.ย.ที่ Peace House ทางด้านใต้ของหมู่บ้านปันมูนจอม -- เกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าไปกราดยิงในสำนักงานใหญ่ของบริษัทยูทูป ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองซาน บรูโน ทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน และจากนั้นคนร้ายซึ่งเป็นผู้หญิงได้ใช้ปืนยิงตัวเองเสียชีวิต -- บรรดาผู้บริหารของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในซิลลิคอนวัลเลย์ ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐควบคุมอาวุธปืน หลังจากเกิดเหตุคนร้ายบุกเข้ากราดยิงในสำนักงานใหญ่ของยูทูปเมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 4 คน ก่อนที่คนร้ายซึ่งเป็นผู้หญิงจะใช้ปืนปลิดชีพตัวเองในเวลาต่อมา นายแจ็ค ดอร์ซีย์ ซีอีโอของบริษัททวิตเตอร์กล่าวว่า เราไม่สามารถทนต่อสถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น และเราภาวนาไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นอีกในโรงเรียน สถานที่ทำงาน หรือชุมชนของเรา ขณะที่นายดารา ครอสโรว์ชาฮี ซีอีโอบริษัทอูเบอร์ เทคโนโลยีส์ และนายอารอน เลวี ซีอีโอบริษัทบ็อกซ์ อิงค์ ได้ทวีตข้อความ พร้อมติดแฮชแทก #EndGunViolence และ #NeverAgain เพื่อแสดงออกถึงการเรียกร้องให้รัฐบาลควบคุมอาวุธปืนเช่นกัน -- เจ้าหน้าที่การรถไฟของฝรั่งเศส (SCNF) เริ่มการผละงานเมื่อวานนี้ เพื่อประท้วงนโยบายปฏิรูปแรงงานของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครอง ทั้งนี้ คนขับรถไฟมากกว่า 75% และพนักงานรถไฟเกือบ 50% พากันหยุดงาน โดยมีแผนผละงานเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งพนักงานจะหยุดงาน 2 วันในทุก 5 วันจนกว่าจะถึงวันที่ 28 มิ.ย. การประท้วงดังกล่าวส่งผลให้มีการให้บริการรถไฟความเร็วสูง TGV เพียง 1 ใน 8 ขณะที่มีการระงับการเดินรถไฟยูโรสตาร์จำนวน 1 ใน 4 ทางด้านปธน.มาครองต้องการปฏิรูปการให้บริการรถไฟ โดยให้มีการแข่งขันมากขึ้น ขณะที่กฎระเบียบของสหภาพยุโรประบุให้มีการแปรรูป SNCF ภายในปี 2566 -- จับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจในวันนี้ ได้แก่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐประจำเดือนมี.ค.จากมาร์กิต ดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ส่วนในวันพรุ่งนี้ สหรัฐ ออสเตรเลียและมาเลเซียจะเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.พ. ขณะที่เกาหลีใต้จะเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.พ. --อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ชาญวิทย์ เอี่ยมอุดม/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2808061
  2. 1 คะแนน
  3. 1 คะแนน
  4. 1 คะแนน
บอร์ดผู้ได้รับความนิยมนี้ ตั้งเป็น กรุงเทพฯ/GMT+07:00
  • สถิติสมาชิก

    8,713
    สมาชิกทั้งหมด
    3,904
    ออนไลน์พร้อมกันมากสุด
    heerhorr
    สมาชิกล่าสุด
    heerhorr
    เข้าร่วม
×
×
  • สร้างใหม่...