ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

ทองใหม่

ผู้นำชุมชน
  • จำนวนเนื้อหา

    9,822
  • เข้าร่วม

  • วันที่ชนะ

    484

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย ทองใหม่

  1. ชี้แนวโน้ม ศก.มะกันฟื้นตัวช้า วันอาทิตย์ที่ 04 กรกฏาคม 2010 เวลา 19:55 น. ทีมออนไลน์ ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวช้าลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เมื่อตัวเลขการจ้างงานเดือนมิถุนายนขยายตัวน้อยกว่าคาดการณ์ แสดงให้เห็นถึงความซบเซาในอุตสาหกรรมต่างๆ ตั้งแต่ภาคอสังหาริมทรัพย์ไปจนถึงภาคการผลิต ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงาน ในเดือนมิถุนายน ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรลดลง 125,000 ตำแหน่งซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ส่วนยอดขายบ้านและความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็ร่วงหนักในเดือนมิถุนายน ตลาดแรงงานที่ซบเซาจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เพราะการจ้างงานที่ซบเซาทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายน้อยลง และการใช้จ่ายผู้บริโภคก็มีสัดส่วนถึงร้อยละ 70 ของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนั้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้สินในยุโรป เศรษฐกิจจีน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐที่ค่อยๆลดประสิทธิภาพลง
  2. ฮาฮา พูดแล้วเดี๋ยวผมหน้าแดง ผมไม่ได้ทำเองครับ เอามาจากเวปจีนจ้า แต่...ผมก็มีโปรแกลมที่ทำภาพเคลื่อนไหวอยู่ แต่ไม่ค่อยมีเวลาที่จะเล่น เอาเวลาส่วนใหญ่มาหาข่าว ดูกราฟ ดูหนัง .... !17 !32
  3. ไม่รู้googleแปลจีนเป็นปะกิดจะถูกต้องและมั่วนิ่มแค่ไหน ผมแปลเสริมโดยใจความช่วงต้นนะครับ ดังนี้ จันทร์-อังคารจะร่วงสองวัน คาดว่าร่วงต่ำสุดที่1166 พุธหยุดร่วงดีดกลับ พฤหัสฯดีดกลับต่อ ศุกร์จะเห็นจุดสูงที่1231 จากนั้นก็จะหล่นลงอีก...........
  4. อ่านเจอที่เวปจีน มีนักวิเคราะห์ท่านหนึ่งทำนายเช่นนี้ เห็นว่ากล้าดี เลยนำมาให้เพื่อนๆได้อ่านบ้าง พิจารณาเอาเองนา อย่าพึงเชื่ออะไรง่ายๆนะครับ ขอบอก Next week's Forecast: 下周一,二连跌两天,估计跌到最低位1166美元,周三开始止跌反弹,周四进一步反弹,周五见高位1231美元然后回落,收阳十字星,全周收阴十字星。 Next Monday, the second two-day losing streak, fell to the lowest estimated 1166 U.S. dollars, will be launched on rebound, further rebound Thursday, Friday and then see the high of 1231 U.S. dollars drop in income Yang Cross stars, cross star Yam received the week. 下周较强支持位1158美元,压力位1231美元,在下周五将有机会冲到此高位。 Strong support for bit 1158 U.S. dollars next week, the pressure bit 1231 U.S. dollars, next Friday will have the opportunity rushed here highs. 纵观下周是探底回升走势,收周阴十字星。 Throughout the next week is the bottom pick-up trend, closing weeks of overcast Cross star. 善若判断是否正确,将由市场来验证。 Good if the judge is correct, will be the market to verify.
  5. ขอบคุณหลายขอบคุณเอย ฮาฮา 谢谢你!
  6. กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว 卖 ---ขาย ตัวหนังสือสีแดง买----ซื้อ เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลง ขวาบน เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น แท่งเขียว---แรงขายลง ขวาช่องสอง แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง แท่งสีเขียว---เพดาน แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
  7. กลับมาแล้วจ้า ไปเปลี่ยนกาดร์จอตัวใหม่ที่เชียรังสิต ตัวเก่าใช้งานมากไปจนหลอดปริแทบระเบิดเลยจ้า พอดีเขามีงานที่เชียรังสิต คนเยอะมาก กว่าจะได้ที่จอดรถเหนือยเลยครับ งานขายเกี่ยวกับเครื่องคอมครับ พุ่งนี้เป็นวันสุดท้ายครับ
  8. ดาวโจนส์ลบ46.05จุด-น้ำมันปิดที่72.14ดอลลาร์-ทองปรับขึ้น1.10ดอลลาร์ วันเสาร์ที่ 03 กรกฏาคม 2010 เวลา 07:51 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ User Rating: / 0 แย่ดีที่สุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 46.05 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 9,686.48 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 4.79 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 1,022.58 จุด และดัชนีแนสแดค ลดลง 9.57 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 2,091.79 จุด โดยดาวโจนส์ปิดลบต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันแล้ว โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้น เพราะผิดหวังต่อข้อมูลตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่พิ่มขึ้นเพียง 83,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 112,000 ตำแหน่ง ซึ่งสะท้อนว่าภาคธุรกิจยังไม่มีการจ้างพนักงานเพิ่มเนื่องจากยังไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ถึงแม้ว่าดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญบางตัวซึ่งนักลงทุนจับตามองจะออกมาดีขึ้น คือ อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะปรับตัวลดลงจาก 9.7% ในเดือนพ.ค. มาอยู่ที่ระดับ 9.5% ในเดือนมิ.ย. เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน แต่อัตราว่างงานที่ลดลงนั้น เป็นผลมาจากประชาชน 652,000 คนเลิกหางานและทำให้ไม่ถูกรวมอยู่ในกำลังแรงงาน (labor force) ซึ่งประชาชนที่ไม่หางานทำจะไม่ถือว่าเป็นผู้ว่างงาน ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานในเดือนพ.ค.ลดลง 1.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 1% ในเดือนเม.ย. เป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 แต่ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 0.5% ทางด้านตลาดน้ำมันไนเม็กซ์ของสหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบชนิดไลท์สวีตครูด งวดส่งมอบ เดือนสิงหาคม ลดลง 81 เซนต์ ปิดที่ 72.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนท์ ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 27 เซนต์ ปิดที่ 71.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,207.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อวานนี้ซึ่งทองคำปิดร่วงลงแรงถึง 39 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
  9. ดาวโจนส์ลบ46.05จุด-น้ำมันปิดที่72.14ดอลลาร์-ทองปรับขึ้น1.10ดอลลาร์ วันเสาร์ที่ 03 กรกฏาคม 2010 เวลา 07:51 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ User Rating: / 0 แย่ดีที่สุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง 46.05 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 9,686.48 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 4.79 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 1,022.58 จุด และดัชนีแนสแดค ลดลง 9.57 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 2,091.79 จุด โดยดาวโจนส์ปิดลบต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันแล้ว โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้น เพราะผิดหวังต่อข้อมูลตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่พิ่มขึ้นเพียง 83,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 112,000 ตำแหน่ง ซึ่งสะท้อนว่าภาคธุรกิจยังไม่มีการจ้างพนักงานเพิ่มเนื่องจากยังไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ถึงแม้ว่าดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญบางตัวซึ่งนักลงทุนจับตามองจะออกมาดีขึ้น คือ อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะปรับตัวลดลงจาก 9.7% ในเดือนพ.ค. มาอยู่ที่ระดับ 9.5% ในเดือนมิ.ย. เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน แต่อัตราว่างงานที่ลดลงนั้น เป็นผลมาจากประชาชน 652,000 คนเลิกหางานและทำให้ไม่ถูกรวมอยู่ในกำลังแรงงาน (labor force) ซึ่งประชาชนที่ไม่หางานทำจะไม่ถือว่าเป็นผู้ว่างงาน ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานในเดือนพ.ค.ลดลง 1.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 1% ในเดือนเม.ย. เป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 แต่ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 0.5% ทางด้านตลาดน้ำมันไนเม็กซ์ของสหรัฐฯ ราคาน้ำมันดิบชนิดไลท์สวีตครูด งวดส่งมอบ เดือนสิงหาคม ลดลง 81 เซนต์ ปิดที่ 72.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนท์ ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 27 เซนต์ ปิดที่ 71.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,207.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากเมื่อวานนี้ซึ่งทองคำปิดร่วงลงแรงถึง 39 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
  10. ISMระบุดัชนีภาคการผลิตสหรัฐเดือนมิ.ย.ลดลง0.7 จุดจากเดือนพ.ค. วันเสาร์ที่ 03 กรกฏาคม 2010 เวลา 05:08 น. mทีมออนไลน์ ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ในเดือนมิถุนายนชะลอลง ขณะที่ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น โดยดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ที่จัดทำโดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (Institute for Supply Management : ISM) ลดลงอยู่ที่ 59.0 จุดในเดือนมิถุนายน จากที่อยู่ที่ 59.7 จุดในเดือนพฤษภาคม สำหรับยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 13,000 ราย เป็น 472,000 ราย พุ่งขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ Bloomberg คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 455,000 ราย และเป็นการปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 สัปดาห์
  11. เครื่องคอมผมพังครับ ตอนนี้ใช้เครื่องเล็กกระเป๋าหิ้ว ไม่มีโปร์แกลมกราฟเลยครับ กราฟทั้งหมดอยู่ในเครื่องใหญ่ตั้งโต๊ะ ทำอะไรก็ไม่ได้ เซ็งมากๆเลยตรับ
  12. สรุปสภาะตลาดทองคำแท่งและแนวโน้ม : YLG วันศุกร์ที่ 02 กรกฏาคม 2010 เวลา 18:24 น. บล.วายแอลจี บลูเลี่ยนฯ ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ User Rating: / 0 แย่ดีที่สุด สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 2 กรกฎาคม 2553 สภาวะตลาดวันที่ 2 กรกฎาคม 2553 หลังราคาเกิดแรงขายจากการที่หลุดแนวรับสำคัญทางเทคนิค ในอดีตบริเวณ 1,228 – 1,230 US$ /Oz ปรับตัวลงมาถึงบริเวณ 1,196 US$ /Oz โดย ราคาบ่ายอยู่ที่บริเวณ 1,210.85 US$/ Oz ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ10 ราคาปรับตัวลดลง - 450 บาท อยู่ที่ 18,780บาท จากวันก่อนหน้าที่ 19,230 บาท -เวลา 15.55 น. สำหรับแนวโน้มราคา ช่วงวันที่ 2 - 5 กรกฎาคม 2553จากการที่ธนาคารกลางยุโรปได้ จัดหาเงินกู้ระยะ 3 เดือน วงเงินรวม 1.319 แสนล้านยูโร หรือ 1.614 แสนล้านดอลลาร์ ให้กับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ 2.10 แสนล้านยูโร เป็นผลให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวปัญหาภาคการเงินในยุโรปลงจึงเกิดแรงขายทองคำ ทำกำไรออกมา ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจจีน จากดัชนีฝ่ายจัดซื้อ และเศรษฐกิจของสหรัฐ จากตัวเลขเครมว่างงาน ดัชนีการผลิตอุตสหกรรม ยอดขายบ้านรอการปิด ออกมาล่าสุดค่อนข้างอ่อนแอ โดยเงินยังไหลไปพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา10 ปี และ 30 ปี โดยให้ผลตอบแทนที่ 2.94% และ 3.90% และเงินหยวนที่แข็งขึ้นถึง 6.7742 ทิศทางกระแสเงินต่อทองคำ ยังวิตกอาจจะเกิดแรงซื้อ ระยะสั้นทางเทคนิคกลับเข้ามาในตลอดหุ้นหลักเกิดขึ้นได้ จากที่ปรับตัวลงรุนแรงก่อนหน้านี้ โดยทางวายแอลจีให้ แนวรับแนวต้านดังนี้ แนวรับ 1,196 1,178 แนวต้าน 1,213 1,220 กรอบทางเทคนิค 1,178 – 1,213 US$ /Oz แนะนำกลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT แนวโน้มระยะสั้น (ภายใน 1-2 วัน) : ราคาทองคำยังคงให้เล่นแค่ในกรอบ 1,196 – 1,213 US$/Oz ไปก่อนเท่านั้น ปิดสถานะ Short เพื่อเล่นรอบใหม่ ส่วนคนมีสถานะ Long หาจังหวะปิดเมื่อราคาดีดขึ้นไป 1,213 – 1,220 US$/Oz แนวโน้มระยะกลาง (ภายใน 3-5 วัน) : หากราคาไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 1,196 US$/Oz ได้ให้หาจังหวะโอกาส ปิดสถานะ Long แล้วหาจังหวะเปิดสถานะ Short ใหม่อีกรอบ โดยแนวรับถัดไป 1,178 US$/Oz แนวโน้มระยะยาว (>1สัปดาห์) แนวรับสำคัญที่ แนวรับสำคัญที่ 1,178 – 1,198 US$/ Oz จะเป็นแนวรับสำคัญของราคาทองคำ หากลงไปที่จุดนี้ การเข้าซื้อจะมีความปลอดภัย และเป็นแนวจุดขาดทุนการลงทุนระยะยาวด้วย กลยุทธ์การลงทุน ระยะสั้น : จุดสำคัญในการเข้าซื้อคือที่แนวรับ 1,198 US$/ Oz โดยมีจุดทำกำไรแรกที่ 1,213 – 1,220 US$/ Oz ระยะกลาง : จุดสำคัญในการเข้าซื้อคือที่แนวรับ 1,178 -1,198 US$/ Oz โดยมีจุดทำกำไรแรกที่ 1,220แต่หากผ่านไปได้ จะมีแนวต้านอีกครั้งใกล้บริเวณ 1,230 US$ / Oz ระยะยาว: จุดสำคัญในการเข้าซื้อคือที่แนวรับ 1,178 US$/ Oz โดยมีจุดทำกำไรแรกที่ 1,230 US$/ Oz Turning point : จุดเปลี่ยนจากซื้อเป็นขายคือ หากราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,296 US$/ Oz แนะนำกลยุทธ์การลงทุน GOLD FUTURE แนวโน้มระยะสั้น (ภายใน 1-2 วัน): ราคาทองคำยังถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรหากยังไม่สามารถยืนเหนือระดับ 18,820 บาท ระยะสั้นจะมีการปรับฐานออกด้านข้างก่อนจะดีดตัวขึ้นอีกครั้งแต่ถ้ายืนไม่ได้ให้รอรับที่ 18,710 บาท แนวโน้มระยะกลาง(ภายใน 3-5 วัน): ราคาอาจจะได้รับแรงกดดันจากแรงขายต่อเนื่องได้ แนวรับสำคัญคือ 18,710 และ 19,160 บาท แนวโน้มระยะยาว (>1สัปดาห์): แนวโน้มระยะยาวยังคงมองแกว่งในกรอบไร้ทิศทางไปก่อน ขึ้นให้ขายทำกำไร ลงให้ซื้อ ปัจจัยที่ต้องติดตาม •คาดวันนี้สหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานลดในมิ.ย. กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนมิ.ย.ในวันพรุ่งนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทยคาดว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะลดลง 110,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. •คาดวันนี้สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานลดในพ.ค.กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานในเดือนพ.ค.ในวันพรุ่งนี้เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทยคาดว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานจะลดลง 0.5% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนเม.ย.
  13. กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว 卖 ---ขาย ตัวหนังสือสีแดง买----ซื้อ เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลง ขวาบน เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น แท่งเขียว---แรงขายลง ขวาช่องสอง แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง แท่งสีเขียว---เพดาน แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
  14. 02 ก.ค. 2553 สรุปภาวะตลาดก่อนหน้านี้ ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สแกว่งตัวผันผวนอยู่ในช่วงแคบ ก่อนที่ราคาทองคำสปอตจะปรับตัวลดลงรุนแรงเมื่อคืนนี้ในช่วงที่TFEXปิดทำการ เงินบาททรงตัว ทองคำแท่งสมาคมปิดที่ 19,000/19,100 บาท ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้ เมื่อวันพุธสถาบันจัดอันดับสินเชื่อมูดีส์ตัดสินใจว่าจะติดตามความน่าเชื่อถือของสเปนเพื่อเตรียมปรับความน่าเชื่อถือลงถ้าจำเป็น ส่งผลกดดันบรรยากาศการลงทุนได้เล็กน้อย [Reuters, AFC Research] ค่าเงินยูโรได้รับข่าวดีทั้งวันพุธและพฤหัสบดีหลังจากที่การปล่อยกู้ของอีซีบีต่อธนาคารพาณิชย์ได้รับความสนใจน้อยกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้มาก แสดงให้เห็นว่าปัญหาสภาพคล่องในยุโรปไม่ได้เลวร้ายดังที่นักลงทุนคิดกันเอาไว้ จึงมีการซื้อคืนค่าเงินยูโรอย่างต่อเนื่อง [Reuters, AFC Research] รายงานเศรษฐกิจต่างๆที่เปิดเผยออกมาเมื่อวานนี้ของจีนและสหรัฐฯต่างออกมาค่อนข้างแย่ ทั้งในด้านมุมมองของผู้ผลิตที่แย่ลง การว่างงานในสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น และยอดทำสัญญาขายบ้านในสหรัฐฯที่แย่ลงอย่างมาก ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆออกมาอย่างรุนแรงโดยเฉพาะหุ้นในสหรัฐฯ เนื่องจากมีความกังวลว่าแนวโน้มเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวในสหรัฐฯอาจเกิดปัญหารอบสอง [bloomberg, Reuters, AFC Research] นักเก็งกำไรได้ใช้หุ้นที่ปรับตัวลดลงเป็นข้ออ้างในการเทขายทองคำ โดยอ้างว่าจำเป็นต้องเทขายทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นเพื่อนำเงินไปเติมมาร์จินให้กับตลาดอื่นๆที่พวกเขาเข้าไปลงทุน ซึ่งแรงเทขายได้ทำให้ปัจจัยทางเทคนิคของแนวโน้มขาขึ้นถูกรบกวน นักลงทุนจึงเทขายทองคำออกมาอย่างรุนแรงเมื่อคืนนี้ [Reuters, AFC Research] อย่างไรก็ตามเรามองว่าการปรับลดลงของราคาทองคำดังกล่าวอาจเป็นผลต่อเนื่องจากนักเก็งกำไรประเภทสถาบันที่มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับราคาทองคำได้ช่วยกันพยุงราคาทองคำไว้ในการตกแต่งบัญชี ก่อนเทขายออกมาเมื่อเปิดไตรมาสใหม่ โดยเฉพาะในสหรัฐฯที่มีหลายบริษัทเลือกปิดงบปีปลายเดือนมิถุนายน [AFC Research] วันนี้สหรัฐฯมีกำหนดเปิดเผยรายงานการว่างงานรายเดือน ซึ่งถึงแม้เรามองว่าไม่น่าจะออกมาดีนัก แต่สถานะทองคำที่ยังมีการเก็งกำไรยังปัจจัยหลักอาจทำให้รายงานดังกล่าวถูกใช้เป็นเพียงข้ออ้างในการซื้อขายเท่านั้น [AFC Research] แนวโน้มทองคำวันนี้ เรามองว่านักเก็งกำไรน่าจะยังมีการเทขายทองคำต่อเนื่องอีกในคืนนี้ เราจึงมองว่า "ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวลดลงต่อเนื่อง" และแนะนำให้ "สะสม SHORT เมื่อราคาเพิ่มสูงขึ้น" มุมมองทองคำ สถานะของทองคำและแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังผันผวน นักลงทุนจะต้องติดตามความคืบหน้าของปัญหาต่างๆ และแนวโน้มเศรษฐกิจแต่ละภูมิภาคอย่างใกล้ชิด
  15. บางครั้ง ปัจจัยพื้นฐานของตลาดก็อ่านยาก---ยากที่จะเข้าใจได้เช่นกันคราบ
  16. เอกชนสหรัฐฯกว่า 90 ราย คึกคักแห่ยื่น Filing เตรียมออกหุ้น IPO ตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว Posted on Friday, July 02, 2010 ดีล IPO สหรัฐฯ กลับมาคึก แม้ราคาถูกกดดันจากปัจจัยเสี่ยง เมื่อเศรษฐกิจเริ่มจะเข้าที่เข้าทางได้บ้างแล้ว ก็มีข้อมูลที่ระบุว่าบริษัทอเมริกันกำลังฉวยโอกาสการฟื้นตัวของตลาดหุ้นแห่ออกดีล IPO ขายกันยกใหญ่ ซึ่งคราวนี้เรียกได้ว่าเป็นการกวาดนำหุ้นออกขายต่อสาธารณะครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การเกิดวัฏจักรตลาดกระทิงในรอบที่แล้ว ก่อนที่จะต้องจำใจยกเลิกการเสนอขายหุ้นภายในเวลาอันรวดเร็วเมื่อเกิดกรณีการล้มของธนาคารวาณิชธนกิจชื่อดัง อย่าง Lehman Brothers Holdings ข้อมูลของสำนักข่าว Bloomberg ระบุว่า สำนักงาน ก.ล.ต.ของสหรัฐฯ ได้รับเอกสาร Filing ที่ยื่นโดยบริษัทจำนวนกว่า 90 รายเพื่อเสนอออกขายหุ้นจำนวน 23,600 ล้านหุ้นในไตรมาสที่ผ่านมา หลังจากสภาวะที่มีบริษัทนำหุ้น IPO แห่ออกขายเช่นนี้เคยเกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2550 ที่น่าสนใจ ก็คือ มีจำนวนดีล IPO ที่มากถึง 4 ใน 5 ของดีลใหญ่ที่สุด เป็นของบริษัทที่ผู้ถือหุ้นเคยใช้วิธีการกู้ยืมเงินมาเพื่อซื้อธุรกิจดังกล่าว ซึ่งบริษัทที่นำเงินมาลงทุนนี้รู้จักกันดีในชื่อว่า leveraged-buyout firm นั่นเอง ผู้บริหารของหน่วยงาน investment banking จาก Merrill Lynch ที่เป็นธุรกิจภายใต้ปีกของ Bank of America ให้ความเห็นว่า จากสถานการณ์ตลาดผันผวนอย่างเช่นทุกวันนี้ บริษัทลงทุนหลายๆ แห่ง ต่างจ้องมองหาโอกาสที่จะปล่อยหุ้นออกขายให้สำเร็จ แต่ด้วยปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิกฤติการณ์หนี้ในยุโรป หรือแนวโน้มการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลหลายแห่ง ก็ทำให้ราคาหุ้น IPO ในสหรัฐฯ ที่เปิดขายในปีนี้ ร่วงหล่นลงไปแล้วกว่า 7% สภาผู้แทนฯ สหรัฐผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาคการเงิน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติด้วยคะแนนเสียง 237 ต่อ 192 ผ่านร่างกฎหมายยกเครื่องระบบการเงินครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 80 ปี โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันเศรษฐกิจไม่ให้เผชิญกับวิกฤตการณ์การเงิน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้แสดงความพอใจที่ร่างกฎหมายปฏิรูปภาคการเงินดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร โดยกล่าวว่า "กฎหมายฉบับนี้ถือเป็นชัยชนะของชาวอเมริกันทุกคน และการปฏิรูปภาคการเงินจะช่วยให้ระบบการเงินของเรามีความโปร่งใสมากขึ้น" ปัญหาต่างๆที่สหรัฐเรียนรู้จากวิกฤตการณ์การเงินในปี 2551 นั้น ทำให้กฎหมายฉบับนี้กำหนดข้อบังคับที่เข้มงวดเกี่ยวกับกิจกรรมการซื้อขายและการลงทุนด้านเฮดจ์ฟันด์ของธนาคาร นอกจากนี้ ยังเปิดทางให้รัฐบาลสามารถปิดกิจการสถาบันการเงินเสี่ยงต่อการล้มละลายได้ รวมทั้งการจัดตั้งหน่วยงานใหม่เพื่อคุ้มครองกลุ่มผู้บริโภคทางการเงิน จัดตั้งกระบวนการในการปิดบริษัทการเงินที่ประสบปัญหา และยกระดับมาตรฐานเงินกองทุนของธนาคาร โดยมีจุดประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤติสินเชื่อแบบในปี 2550 - 2552 ขึ้นอีก สำหรับร่างกฎหมายปฏิรูปภาคการเงินดังกล่าวได้ผ่านการเจรจาต่อรองมานานหลายเดือน จนกระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐจึงสามารถตกลงประนีประนอมกันได้ในที่สุดเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆของร่างกฎหมาย โดยหลังจากผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนฯแล้ว ร่างกฎหมายดังกล่าวจะต้องผ่านการลงมติโดยวุฒิภา จากนั้นจึงจะส่งให้ประธานาธิบดีลงนามเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าวุฒิสภาสหรัฐจะลงมติร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวหลังจากวันที่ 12 ก.ค. มูดีส์ขู่ลดอันดับเครดิตสเปนลง 2 ขั้น มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศทบทวนอันดับเครดิต Aaa ของสเปน และมีความเป็นไปได้ที่สเปนอาจถูกปรับลดอันดับ ในขณะที่สเปนเตรียมระดมทุนสูงถึง 3.5 พันล้านยูโร หรือ 4.3 พันล้านดอลลาร์ ด้วยการนำพันธบัตรอายุ 5 ปีออกจำหน่ายในวันนี้ นักวิเคราะห์ของมูดีส์ ซึ่งรวมถึงคริสติน ลินโดว์ รองประธานอาวุโสกล่าวในแถลงการณ์ว่า "เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัว และความท้าทายที่สเปนจะต้องไปให้ถึงเป้าหมายด้านการคลัง อาจทำให้สเปนถูกปรับลดอันดับเครดิตลงมากถึง 2 ขั้น มูดีส์จะพิจารณาเรื่องการทบทวนอันดับเครดิตของสเปนภายในระยะเวลา 3 เดือนนี้" ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของมูดีส์มีขึ้นก่อนที่รัฐบาลสเปนจะประมูลขายพันธบัตรอายุ 5 ปีเพื่อระดมทุน 4.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งการแสดงความเห็นของมูดีส์ได้สร้างแรงกดดันให้กับรัฐบาลสเปนในการลดงบประมาณการใช้จ่ายในขณะที่รัฐบาลกำลังเริ่มร่างงบประมาณของปีหน้า ทั้งนี้ ข่าวมูดีส์ประกาศทบทวนอันดับเครดิตของสเปนเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา และยังสกัดช่วงขาขึ้นของสกุลเงินยูโร ผู้เชี่ยวชาญจีนคาด GDP จีนไตรมาส 2 โตกว่า 10% สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เตรียมเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนประจำไตรมาส 2 ในช่วงกลางเดือนนี้ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คาดว่า จีดีพีไตรมาส 2 ของจีนจะขยายตัวมากกว่า 10% ต่อปี นายลู่ เจิงเหว่ย หัวหน้านักวิเคราะห์จากอินดัสเทรียล แบงค์ คาดว่า จีดีพีไตรมาส 2 ของจีนจะขยายตัวในอัตรา 10.4% ต่อปี ขณะที่นายฮวง กุ่ยเตียน รองผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง คาดว่า จีดีพีไตรมาส 2 จะขยายตัวอย่างน้อย 10% เนื่องจากอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 23.33% ในเดือนพ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวในภาคการผลิตและเศรษฐกิจที่มีความคืบหน้าไปในทางที่ดี นายจาง เสี่ยวจิง ผู้อำนวยการของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจมหภาค ในสังกัดสถาบันสังคมศาสตร์ของจีน (CASS) คาดว่า จีดีพีจีนในช่วงไตรมาส 2 มีแนวโน้มขยายตัวกว่า 10% และนายเฉิน เจียกุย ผู้อำนวยการ CASS คาดการณ์ว่า จีดีพีของจีนอาจขยายตัวถึงประมาณ 11% ในไตรมาสสองปีนี้ จีนเริ่มขึ้นค่าแรง 9 มณฑล หลังเกิดเหตุประท้วงถี่ มณฑลต่าง ๆ ของจีนอย่างน้อย 9 มณฑลจะเริ่มขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตั้งแต่เมื่อวานนี้เป็นต้นไป โดยปรับขึ้นสูงสุดถึง 1 ใน 3 หลังจากที่นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการใช้มาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุประท้วงของพนักงานมากไปกว่านี้ ก่อนหน้านี้ ได้เกิดเหตุประท้วงผละงานหลายครั้งที่โรงงานผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ในจีน อาทิ ฮอนด้า มอเตอร์ที่ต้องปิดโรงงานผลิต 2 แห่งที่เมืองกวางโจว ก่อนที่จะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่การผลิตที่โรงงานของโตโยต้าในจีนก็ได้รับผลกระทบจากการผละงานประท้วงของพนักงานที่โรงงานเดนโซ ผู้ผลิตชิ้นส่วนป้อนโรงงานโตโยต้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ความขัดแย้งเรื่องค่าแรงได้กระจายวงกว้างนับตั้งแต่ที่ฮอนด้าได้ตกลงขึ้นค่าแรงให้กับพนักงานที่บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอีก 24% เพื่อยุติการประท้วง ซึ่งการประท้วงที่โรงงานผลิตต่างๆสะท้อนให้เห็นถึงอุปทานแรงงานค่าแรงต่ำที่หดตัวลง เหวิน เจียเป่า กังวลว่า ความขัดแย้งของพนักงานนี้จะนำไปสู่เหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นในสังคม และได้เรียกร้องให้บริษัทต่างๆสร้างความสัมพันธ์ที่สมัครสมานสามัคคีในหมู่พนักงานด้วยการปรับขึ้นค่าแรงที่ละน้อย หยิน เจิงจี โฆษกกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และประกันสังคมของจีน กล่าวว่า เทศบาลและมณฑลกว่า 20 แห่งของจีนวางแผนที่จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในปีนี้ โดยเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีน ได้สั่งให้มีการขึ้นค่าแรง 17% เป็น 1,120 หยวนต่อเดือนแล้วตั้งแต่เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่กวางตุ้งซึ่งเป็นฐานการส่งออกใหญ่สุดของจีนก็ได้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเฉลี่ย 21% โดยค่าแรงสูงสุดอยู่ที่ 1,030 หยวน ราคาที่ดินในญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 2 ปีซ้อน กรมสรรพากรญี่ปุ่น (National Tax Agency) เปิดเผยว่า ราคาที่ดินในญี่ปุ่นปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เนื่องจากจำนวนพื้นที่ว่างของอาคารสำนักงานปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่วิกฤตการเงินโลกในปี 2551 ได้ส่งผลกระทบให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์เผชิญภาวะซบเซา ราคาที่ดินโดยเฉลี่ยของญี่ปุ่น ณ วันที่ 1 มกราคมของปีนี้ปรับตัวลดลง 8.2% จากปีก่อนหน้านี้ไปอยู่ที่ 126,000 เยน/ตารางเมตร โดยสัดส่วนการร่วงลงของเปอร์เซนต์นั้นสูงกว่าในปีที่แล้ว 2.5% ขณะที่ในปีที่ผ่านมาราคาที่ดินโดยเฉลี่ยปรับตัวลดลงใน 47 เขตทั่วญี่ปุ่น ทั้งนี้ ราคาที่ดินโดยเฉลี่ยในสามเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกรุงโตเกียวซึ่งราคาที่ดินดิ่งลงหนักสุดถึง 9.7% เมื่อเทียบกับ 6.5% ในปีก่อนหน้านี้ ขณะที่ราคาที่ดินโดยเฉลี่ยในโอซาก้าลดลง 8.3% จากระดับ 3.4% ส่วนราคาที่ดินในนาโกย่าตกลง 7.6% จากระดับ 6.3% นอกจากนี้ ราคาที่ดินเฉลี่ยในพื้นที่อื่นๆทรุดตัวลง 5.9% เมื่อเทียบกับระดับที่ตกลง 3.8% ในปีก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ที่ดินบริเวณหน้าร้านเครื่องเขียน Kyukyodo ในย่านกินซาของกรุงโตเกียวยังคงทำสถิติเป็นที่ดินที่มีราคาแพงที่สุดในญี่ปุ่นเป็นปีที่ 25 ติดต่อกัน ซึ่งมีราคาตารางเมตรละ 23.2 ล้านเยน ลดลง 25.6% จากปีก่อนหน้านี้ โดยที่ดินบริเวณนี้เคยมีราคาสูงสุดที่ตารางเมตรละ 36.5 ล้านเยนในปี 2535 และเคยมีราคาต่ำสุดที่ 11.36 ล้านเยนในปี 2540 EU สั่งปรับ 17 ผู้ผลิตเหล็ก ฐานฮั้วราคา คณะกรรมาธิการยุโรปสั่งปรับกลุ่มบริษัทผู้ผลิตเหล็ก 17 แห่งเป็นเงินรวม 518 ล้านยูโร (636 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งรวมถึงบริษัทอาร์เซลอร์มิตตาล หนึ่งในบริษัทเหล็กรายใหญ่ที่สุดในโลกที่ต้องจ่ายเงินมากกว่าครึ่งหนึ่งของค่าปรับทั้งหมด โทษฐานร่วมกำหนดราคาในตลาด โจอาควิน อัลมูเนีย รองประธานคณะกรรมาธิการด้านการแข่งขันทางการค้าของอียูกล่าวว่า "น่าแปลกที่เราพบว่ามีหลายบริษัทในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างเกือบทุกประเทศในยุโรปดำเนินธุรกิจในทางที่ผิด ที่สำคัญคือมีการกำหนดราคาสินค้าที่สำคัญมาเป็นเวลานาน" เจ้าหน้าที่สอบสวนของคณะกรรมาธิการยุโรปพบว่ามี 17 บริษัทในกลุ่มสมาชิกอียูทุกประเทศ ยกเว้นอังกฤษ ไอร์แลนด์ และกรีซ ที่ร่วมกันจัดตั้งกลุ่มฮั้วราคาเหล็กมาตั้งแต่ปี 2527-2545 ตลอดระยะเวลาดังกล่าว บริษัทเหล็กเหล่านี้ร่วมกันกำหนดโควต้าลูกค้าและราคาเหล็ก รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าระหว่างกัน อีกทั้งยังติดตามราคา จัดสรรโควต้าลูกค้าผ่านกลุ่มผู้ประสานงานระดับประเทศและสัญญาทวิภาคี นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานว่าบริษัทที่รวมกลุ่มฮั้วราคาในลักษณะนี้ได้เข้าประชุมกันมากถึงกว่า 550 ครั้งทั่วยุโรป ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมา อียูได้เดินหน้าสั่งปรับกลุ่มบริษัทที่ร่วมฮั้วราคาในภาคธุรกิจต่างๆมาแล้ว 4 ครั้งด้วยกัน ส่งผลให้ยอดการสั่งปรับเงินภายใต้นโยบายต่อต้านการผูกขาดในปีนี้อยู่ที่ระดับ 1,493 ล้านยูโร (1,832 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 1 ก.ค. 53) • ตัวเลขการขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ 472,00 ราย • ดัชนีภาคการผลิต (มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 56.2 • ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง (พ.ค.) ลดลง 0.2% จากเดือนก่อนหน้า • ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 77.6 จุด ลดลง 30% จากเดือนก่อนหน้า ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (ศุกร์ที่ 2 ก.ค. 53) • สถานการณ์ตลาดแรงงานสหรัฐฯ (มิ.ย.) โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ • ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน (พ.ค.) โดยกระทรวงพาณิชย์
  17. ตลาดทองเอเชีย:ราคาทองร่วงหลุด 1,200 ดอลล์แตะนิวโลว์ 5 สัปดาห์เช้านี้ (02-07-53) 02 ก.ค. 2553 ตลาดทองเอเชีย:ราคาทองร่วงหลุด 1,200 ดอลล์แตะนิวโลว์ 5 สัปดาห์เช้านี้ ราคาทองร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์เช้านี้ ก่อนดีดตัวขึ้น หลังจากดิ่งลงเกือบ 4% วานนี้ ขณะที่กองทุนได้เทขายทองแท่งเพื่อชดเชยการ ขาดทุนในตลาดอื่นๆ ส่วนกองทุน ETF ทองได้ลดการถือทองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ เดือนมิ.ย. ราคาทองสปอตแตะระดับต่ำถึง 1,196.00 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด นับตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. ก่อนดีดตัวขึ้นแตะ 1,207.00 ดอลลาร์ ณ เวลา 09.36 น. ตามเวลาไทย ซึ่งบวกขึ้น 8.35 ดอลลาร์จากระดับปิดในตลาดสปอตนิวยอร์คเมื่อวานนี้ ราคาทองได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,264 ดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว สัญญาทองล่วงหน้าส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาด COMEX ปรับตัวลง 3.9 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,202.8 ดอลลาร์/ออนซ์ กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่าทางกองทุนได้ลดการถือครองทองคำลงสู่ระดับ 1,319.219 ตัน ณ วันที่ 1 ก.ค. โดยลดลง 1.217 ตัน จากระดับ 1,320.436 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็น ประวัติการณ์ที่ทำไว้ในวันที่ 29 มิ.ย. แหล่งที่มา (รอยเตอร์ โดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง)
×
×
  • สร้างใหม่...