ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

ทองใหม่

ผู้นำชุมชน
  • จำนวนเนื้อหา

    9,822
  • เข้าร่วม

  • วันที่ชนะ

    484

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย ทองใหม่

  1. อรุณสวัสดิ์จ้า ต้นผักเชียงดายังไม่ทานจ้า หากทานแล้วก็ไม่ได้ปลูกซิจ๋า เขามีใบมาให้บ้าง พอต้มน้ำทานได้หลายวัน เพิ่งทานได้สามวัน คงยังไม่ทราบผลหรอกครับ
  2. ลองดูนี่จะโหลดได้ไหม http://www.forexinterval.com/2009/05/fibopivv2.html
  3. เกาหลีเหนือประกาศปิดชายฝั่งซ้อมยิงขีปนาวุธ Friday, 25 June 2010 17:08 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางการเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือประกาศห้ามเดินเรือเข้าไปบริเวณชายฝั่งทางตะวันตกของประเทศ ทางด้านเกาหลีใต้จึงได้เฝ้าระวังการโจมตีทางทหารจากเกาหลีเหนือ โดยขณะนี้เกาหลีเหนือยังคงไม่ดำเนินการทางทหาร แต่เกาหลีเหนือยังคงเฝ้าระวังการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด ซึ่งทางการเกาหลีใต้คาดว่า เกาหลีเหนืออาจประกาศปิดชายฝั่งเพื่อทดสอบยิงขีปณาวุธยิงระยะใกล้ หรือเพื่อทดสอบยิงปืนใหญ่ ทั้งนี้ ในอดีตที่ผ่านมาเกาหลีเหนือได้ประกาศห้ามเดินเรือเพื่อทดสอบยิงขีปนาวุธหรือเพื่อซ้อมรบ ซึ่งความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือและเข้าหลีใต้ได้ทวีความรุนแรงขึ้น หลังเกาหลีเหนือออกมาประกาศว่า เกาหลีเหนือพร้อมที่จะทำสงครามกับเกาหลีใต้ หากเกาหลีใต้ดำเนินการใดๆ เพื่อลงโทษเกาหลีเหนือในข้อหาการจมเรือรบเกาหลีใต้ในเดือนมีนาคม
  4. ค่าบาทเย็นนี้ปิดที่ 32.41 บาท/ดอลล์ Friday, 25 June 2010 17:23 นักค้าเงินจาก ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) กล่าวว่า ค่าเงินบาทเย็นนี้ ปิดตลาดที่ระดับ 32.41 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับแข็งค่าสุดของวัน ขณะที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าสุดที่ระดับ 32.44 บาทต่อดอลลาร์ โดยคาดการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้าว่า จะเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่า และแนะนำให้ติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวน เพราะค่อนข้างมีอิทธิพลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวไว้ที่ระดับ 32.35-32.45 บาทต่อดอลลาร์
  5. แรงงานฝรั่งเศสประท้วงวุ่น หลังรัฐจ่อปฏิรูประบบบำนาญ Posted on Friday, June 25, 2010 แรงงานฝรั่งเศสประท้วงหลังรัฐจ่อปฏิรูประบบบำนาญ แรงงานจากหลายภาคส่วนของฝรั่งเศส อาทิ ภาคขนส่ง การศึกษา ไปรษณีย์ เตรียมผละงานประท้วงแผนปฏิรูประบบบำนาญของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงการเพิ่มอายุเกษียณจาก 60 เป็น 62 ปี องค์กรบริหารระบบเดินรถไฟแห่งฝรั่งเศส (SNCF) ได้แจ้งเตือนล่วงหน้าตั้งแต่ว่า รถไฟความเร็วสูง TVG อาจให้บริการเพียงครึ่งหนึ่งของปกติ ขณะที่ระบบเดินรถเมล์และรถรางก็ลดการให้บริการแม้ในชั่วโมงเร่งด่วน ด้านพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ พิพิธภัณฑ์ออร์เซ พิพิธภัณฑ์ปอมปิดัวร์ และพิพิธภัณฑ์กุยเมต์ ก็ปิดทำการเพราะพนักงานผละงานประท้วงเช่นกัน ขณะเดียวกันสหภาพครูแห่งฝรั่งเศสก็คาดการณ์ว่า 50% ของครูโรงเรียนประถมหลายแห่งจะร่วมการประท้วงครั้งนี้ นอกจากนั้น แรงงานจากภาคเอกชนอย่าง ธนาคาร โชว์รูมขายรถ และซูเปอร์มาร์เก็ต ก็ร่วมผละงานด้วย เมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลฝรั่งเศสประกาศว่าจะเพิ่มอายุผู้เกษียณจากเดิม 60 ปี เป็น 62 ปี ในปีพ.ศ.2561 ทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างหนักจากสหภาพแรงงานต่างๆ สหภาพแรงงาน CGT ซึ่งมีอิทธิพลมากที่สุดในฝรั่งเศส คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนร่วมล้านคนมาร่วมชุมนุมคัดค้านแผนปฏิรูประบบบำนาญของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม เอริค เวิร์ธ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานฝรั่งเศส กล่าวว่า รัฐบาลจะผลักดันการปฏิรูปต่อไปไม่ว่าจะมีผู้มาร่วมชุมนุมมากแค่ไหนก็ตาม ผลสำรวจซึ่งตีพิมพ์โดยหนังสือพิมพ์ Le Figaro เมื่อวานนี้ระบุว่า ชาวฝรั่งเศส 58% เห็นว่าการปฏิรูประบบบำนาญเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ แต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์ธุรกิจตีพิมพ์ผลสำรวจซึ่งระบุว่าชาวฝรั่งเศส 56% ไม่เห็นด้วยกับแผนปฏิรูปดังกล่าว ทั้งนี้ ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส แสดงความเต็มใจที่จะเจรจากับสหภาพแรงงานต่อไป นักเศรษฐศาสตร์มองต่างมุมแนวโน้มตลาดบ้านสหรัฐฯ ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันสำหรับนักเศรษฐศาสตร์ที่มองแนวโน้มตลาดบ้านในสหรัฐฯ เมื่อฝ่ายหนึ่งที่รวมถึงนาย Dean Maki หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Barclays Capital ที่มองว่าจุดเลวร้ายที่สุดของตลาดบ้านได้ผ่านพ้นไปแล้ว ขณะที่อีกฟากหนึ่งก็มีสมาชิกอย่าง นาย Dean Baker ผู้อำนวยการของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและนโยบาย หรือ Center for Economic and Policy Research ที่คาดว่า ตลาดบ้านสหรัฐฯ จะต้องเจอกับความตกต่ำอีกรอบ ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดบ้านมีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดว่าเศรษฐกิจของประเทศจะเดินไปในทางไหน ซึ่งรวมถึงทิศทางของตลาดการเงินโลกอีกด้วย และถ้าจำกันได้ถึงวิกฤติตลาดบ้าน ที่เคยแผลงฤทธิ์ด้วยการเป็นตัวจุดชนวนจนทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่สภาวะถดถอยเป็นเวลาถึง 2 ปี และทำให้ชาวอเมริกันกว่า 8 ล้านคนต้องตกงาน ในขณะเดียวกัน ก็ฉุดให้มูลค่าตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกหดหายลงไปถึง 37 ล้านล้านเหรียญ นักวิเคราะห์รายหนึ่งมองว่าการคาดการณ์แนวโน้มตลาดบ้านสหรัฐฯ ก็เหมือนกับเป็นการเสี่ยงทายดีๆ นี่เอง ท่ามกลางปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ ที่ยังแวดล้อมอยู่ และจริงๆ แล้วสภาวะแบบนี้ก็เป็นเรื่องหลักที่กดดันตลาดอยู่ในขณะนี้ เงื่อนไขที่สำคัญอย่างหนึ่งที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่าคือสิ่งชี้ชะตาตลาดบ้านว่าจะอยู่หรือจะไปอีกรอบ ก็คือ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะรวดเร็วเพียงพอจนทำให้ผู้คนกลับมามีงานทำกันมากน้อยแค่ไหน ซึ่งประเด็นนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องมีการถกเถียงกันต่อไป G20 มุ่งหารือปัญหาการคลัง-แนวโน้มเศรษฐกิจระยะยาว สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประชุมผู้นำกลุ่ม G20 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26 - 27 มิ.ย.นี้ที่เมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดานั้น ที่ประชุมจะหารือกันเรื่องปัญหาด้านการคลังที่กำลังส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว เกียวโดระบุโดยอ้างร่างเอกสารการประชุมว่า ที่ประชุม G20 เตรียมออกแถลงการณ์เตือนว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่มีความต่อเนื่องและเปราะบาง ขณะที่อัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับที่ไม่สามารถยอมรับได้ นอกจากนี้ การใช้จ่ายด้านการคลังจำนวนมากหลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2551 ทำให้สถานะการคลังของหลายประเทศร่อยหรอลง ทั้งนี้ กลุ่ม G20 ตระหนักว่า ยอดขาดดุลงบประมาณที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงและการที่รัฐบาลเข้าแทรกแซงภาคเอกชนมาเป็นเวลานานนั้น จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว อีกทั้งตระหนักว่า ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความเสี่ยงของหนี้สาธารณะนั้น หลายประเทศในยุโรปมุ่งมั่นใช้มาตรการรัดเข็มขัด ในขณะที่สหรัฐและญี่ปุ่นระมัดระวังเกี่ยวกับการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เร็วเกินไป กลุ่ม G20 ยังคงให้ความสำคัญกับการรักษาความสมดุลระหว่างสถานะทางการคลังและการขยายตัวของเศรษฐกิจ ส่วนในเรื่องการลดจำนวนคนยากจนและลดช่องว่างระหว่างประเทศที่ร่ำรวยและประเทศที่ยากจนนั้น กลุ่มผู้นำ G20 จะตกลงกันเรื่องการจัดตั้งกลุ่มเฉพาะกิจกลุ่มใหม่ขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องนี้ สหภาพแรงงานออสเตรเลียหนุนนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ สภาสหภาพแรงงานออสเตรเลีย (ACTU) ประกาศสนับสนุนนางจูเลีย กิลลาร์ด จากพรรคแรงงาน ทำหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของออสเตรเลีย ระบุชัดไม่ต้องการให้พรรครัฐบาลผสมกลับมาบริหารประเทศอีก รวมถึงคัดค้านการกลับไปใช้นโยบายปรับปรุงกฎหมายแรงงาน (Work Choices) เจฟฟ์ ลอว์เรนซ์ เลขาธิการของ ACTU กล่าวว่า "จะยังคงมุ่งเน้นที่การป้องกันมิให้รัฐบาลผสมนำนโยบายปรับปรุงกฎหมายแรงงานกลับมาบังคับใช้อีก เพื่อป้องกันการริดรอนสิทธิของแรงงานชาวออสเตรเลีย โดยทางสหภาพแรงงานจะให้ความร่วมมือกับนางกิลลาร์ดและรัฐบาลพรรคแรงงานในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นต่อการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในตลาดแรงงาน รวมถึงการรักษาผลประโยชน์ให้กับชาวออสเตรเลียทุกคน" นอกจากนี้ ทางสหภาพฯประกาศให้การสนับสนุนนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ ภาษี และสังคม ซึ่งรวมถึงข้อเสนอการขึ้นภาษีกำไรในภาคอุตสาหกรรมเหมือง พอล ฮาวส์ เลขาธิการสหภาพแรงงานออสเตรเลียกล่าวว่า นางกิลลาร์ดต้องเร่งกอบกู้ความน่าเชื่อถือของพรรคแรงงานในกลุ่มคนทำงานกลับคืนมา ขณะที่สมาพันธ์ด้านการพยาบาลของออสเตรเลียชี้ว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกที่นางกิลลาร์ดจำเป็นต้องทำคือ การปฏิรูประบบสาธารณสุข และการปรับปรุงความสัมพันธ์ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ สำนักข่าวซินหัวรายงาน ทั้งนี้ กิลลาร์ดกล่าวว่า ชาวออสเตรเลียจะได้ใช้สิทธิเลือกตั้งภายในไม่กี่เดือนนี้ หลังจากที่สมาชิกระดับสูงของพรรคแรงงานเรียกร้องให้เธอฉวยโอกาสในขณะที่คะแนนนิยมยังสูง จัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพรรคแรงงาน ธนาคารกลางไต้หวันประกาศขึ้นดอกเบี้ย ธนาคารกลางไต้หวันประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานเป็น 1.375% จากเดิมที่ระดับ 1.25% หลังจากที่เศรษฐกิจของประเทศทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี เนื่องจากการส่งออกและการลงทุนดีขึ้นมาก ขณะที่อัตราว่างงานก็ปรับตัวลดลง การตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ชาติไต้หวันในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ธนาคารคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์มาตั้งแต่เมื่อเดือนมี.ค. 2552 และยังเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่มองว่าธนาคารจะคงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ต่อไป เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานสถิติของไต้หวันเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 13.27% จากปีก่อน ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2521 เนื่องจากการส่งออกที่ทะยานขึ้น พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีปี 2553 เป็น 6.14% จากเดิมที่ 4.72% ขณะที่ในสัปดาห์นี้ รัฐบาลไต้หวันเปิดเผยอัตราว่างงานลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน ความเคลื่อนไหวของแบงก์ชาติไต้หวันในวันนี้มีขึ้นตามหลังธนาคารกลางหลายประเทศในเอเชียแปซิฟิกที่เริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการขึ้นดอกเบี้ย อาทิ มาเลเซียที่ขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองในเดือนที่แล้ว และนิวซีแลนด์ ซึ่งเมื่อสองสัปดาห์ก่อนได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 3 ปี โรงงานผลิตชิ้นส่วนโตโยต้าในจีนก่อเหตุประท้วงวันที่ 3 การผลิตรถยนต์ของโตโยต้าในจีนต้องสะดุดต่อเป็นวันที่ 3 ในเมื่อวานนี้ หลังจากที่ได้ระงับการผลิตมาตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. เนื่องจากการประท้วงของพนักงานที่บริษัท เดนโซ การผลิตของนิสสันในประเทศจีนก็ได้รับผลกระทบเป็นครั้งแรกจากการผละงานประท้วง ซึ่งได้ลุกลามบานปลายไปสู่โรงงานผลิตชิ้นส่วนในจีนอย่างน้อย 8 แห่งแล้ว ทั้งนี้ พนักงานของบริษัท เอ็นเอชเค สปริง ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ให้กับค่ายรถหลายค่าย ได้เริ่มผละงานเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. และสิ้นสุดลงเมื่อเย็นวันพุธ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการผลิตรถยนต์ในประเทศจีนของทั้งนิสสันและฮอนด้า สายการผลิตที่โรงงานแห่งหนึ่งของนิสสันต้องหยุดชะงักไปเป็นเวลา 2 ชั่วโมงวานนี้ ก่อนที่จะกลับมาดำเนินการต่อตามปกติ ส่วนฮอนด้าต้องปิดโรงงานผลิต 2 แห่งที่เมืองกวางโจว ก่อนที่จะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งวันนี้ ความขัดแย้งเรื่องค่าแรงได้กระจายวงกว้างนับตั้งแต่ที่ฮอนด้าได้ตกลงขึ้นค่าแรงให้กับพนักงานที่บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอีก 24% เพื่อยุติการประท้วง ซึ่งการประท้วงที่โรงงานผลิตต่างๆสะท้อนให้เห็นถึงอุปทานแรงงานค่าแรงต่ำที่หดตัวลง นอกจากนี้ นายอาคิโอะ โตโยดะ ประธานบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ออกมากล่าวขอโทษที่ทำให้ผู้ถือหุ้นบริษัทต้องอับอายจากการเรียกคืนรถหลายล้านคันทั่วโลกเมื่อช่วงต้นปี "เราจะพัฒนาและผลิตยานยนต์ที่ลูกค้าสามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจ" นายโตโยดะ กล่าวในการประชุมทั่วไปประจำปีของผู้ถือหุ้น ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ในจังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น "พร้อมกันนั้นเราจะเน้นเรื่องบริการหลังการขายให้มากกว่านี้" ในการแถลงข่าว โตโยต้าเผยว่าได้มีการแต่งตั้งชาวอเมริกันให้มารับตำแหน่งประธานโรงงาน 2 แห่งในสหรัฐ แทนประธานคนเดิมที่เป็นชาวญี่ปุ่น ด้วยหวังให้กระบวนการผลิตในอเมริกาเหนือมีความเป็นอิสระมากขึ้น โตโยต้าแต่งตั้ง นอร์ม บาฟันโน เป็นประธานโรงงานในอินดิแอนาซึ่งทำหน้าที่ผลิตรถ SUV และแต่งตั้ง คริส นีลเซน เป็นประธานโรงงานในเท็กซัสซึ่งทำหน้าที่ผลิตรถกระบะ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป อดีตเลขาธิการ DPJ ตำหนิรัฐบาลญี่ปุ่นขึ้นภาษี นายอิจิโร่ โอซาว่า อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปไตยญี่ปุ่น (DPJ) ซึ่งลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ยังถูกมองว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในแวดวงการเมืองญี่ปุ่น ได้ออกมาตำหนิรัฐบาลที่มุ่งเน้นเรื่องการปรับขึ้นภาษีเพื่อการบริโภค ในระหว่างพักอยู่ที่เมืองมิโนบุ เขตยามานาชิ เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาสูงที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 ก.ค. นายโอซาว่ากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "ผมคิดว่าในช่วงที่มีการเลือกตั้งสภาสูงและสภาล่างครั้งก่อนหน้านี้ เรามีความเห็นว่าจะไม่ปรับขึ้นภาษีการบริโภค และผมก็ยังคงไม่เปลี่ยนมุมมองนี้" ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาจะเปิดอภิปรายเต็มรูปแบบเพื่อพิจารณาเรื่องการขึ้นอัตราภาษีเพื่อการบริโภค โดยมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะปรับขึ้นภาษีการบริโภค 5% ในขณะที่พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ซึ่งเป็นพรรคคู่แข่ง ได้เสนอให้จัดเก็บภาษีดังกล่าวเพิ่ม 10% สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา นายโอซาว่าได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารหมายเลข 2 ของพรรค DPJ หลังจากที่นายยูคิโอะ ฮาโตยาะ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อรับผิดชอบกับความล้มเหลวในการแก้ปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับการโยกย้ายฐานทัพสหรัฐออกจากเกาะโอกินาว่าตามที่ตนเองเคยได้ให้สัญญาไว้ รวมทั้งเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับกองทุนด้านการเมืองที่เกี่ยวพันกับเขาและสมาชิกพรรค DPJ ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 24 มิ.ย. 2553) • ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (พ.ค.) ลดลง 1.1% จากเดือนก่อนหน้า • ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ 457,000 ราย ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศวันนี้ (ศุกร์ที่ 25 มิ.ย. 2553) • จีดีพี ขั้นสุดท้าย (Q1/2010) โดยกระทรวงพาณิชย์ • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.) โดย มหาวิทยาลัยมิชิแกน
  6. 25 มิ.ย. 2553 บาท/ดอลลาร์ภาคเช้าอ่อนค่าเล็กน้อย, มองวันนี้ทรงตัวหลังแรงซื้อขายใกล้เคียงกัน *บาท/ดอลลาร์ภาคเช้าอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากเมื่อวาน ขณะที่ดีลเลอร์ มองว่า เงินบาทในวันนี้ไม่น่าจะเคลื่อนไหวมากนัก เนื่องจากแรงซื้อขาย ในตลาดมีเข้ามาค่อนข้างใกล้เคียงกัน *ดอลลาร์อ่อนค่าในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียเช้าวันนี้ จากความไม่แน่ใจ ต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่คำสั่งซื้อคืนและความระมัดระวัง ต่อสินทรัพย์เสี่ยง ช่วยหนุนเยน *เยนยังได้ปัจจัยหนุนจากแถลงการณ์สายพิราบ ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีส่วนทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ต่ำ อยู่แล้วนั้น ลดลงไปอีก *ข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ในเดือนพ.ค.ของสหรัฐ ออกมาค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ก็ยังไม่สามารถ ลดความมืดมนในตลาดได้ *ดอลลาร์ในตลาดนิวยอร์ควานนี้ ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโรและเยน โดย ยังคงได้รับผลกระทบจากมุมมองของเฟด ที่มองภาวะเศรษฐกิจสหรัฐแย่ลง ซึ่งการลดมุมมองเชิงบวกของเฟดต่อเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนมีข้ออ้าง ในการซื้อคืนยูโรบางส่วน *08.59 น. บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 32.42/47 จาก 32.39/44 เมื่อวาน ขณะที่ใน offshore อยู่ที่ 32.41/45 จาก 32.41/44 เมื่อวาน *เยน/ดอลลาร์ อยู่ที่ 89.60/62 จาก 89.45 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อวาน *ยูโร/ดอลลาร์ อยู่ที่ 1.2327/30 จาก 1.2324 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อวาน "ไม่ได้เปลี่ยนจากเมื่อวานมากนัก ตัว month-end demand(แรงซื้อดอลลาร์ ช่วงปลายเดือน) ก็พอมีบ้างแต่ก็ไม่มาก ของเรายังดูนิ่งๆมากกว่า" ดีลเลอร์ กล่าว เขา กล่าวว่า เงินบาทช่วงเช้ายังแกว่งตัวใกล้เคียงกับระดับปิดเมื่อวานนี้ ขณะที่มองว่าวันนี้บาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.38/50 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก เนื่องจากแรงซื้อแรงขาย ที่เข้ามาในช่วงนี้ค่อนข้างใกล้เคียงกัน
  7. ราคาทองคำพุ่ง 11 เหรียญ นักลงทุนแห่ซื้อ กังวลแผนรัดเข็มขัดยุโรป Posted on Friday, June 25, 2010 นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงผันผวน รวมทั้งรัฐบาลในยุโรปที่พากันใช้มาตรการรัดเข็มขัดหลังจากเกิดวิกฤติการเงิน ซึ่งมาตรการดังกล่าวทำให้เกิดความไม่สงบในหลายประเทศ โดยล่าสุดกลุ่มแรงงานในหลายภาคส่วนของฝรั่งเศส อาทิ ภาคขนส่ง การศึกษา ไปรษณีย์ ประกาศว่าจะผละงานประท้วงแผนปฏิรูประบบบำนาญของรัฐบาล ซึ่งรวมถึงการเพิ่มอายุเกษียณจาก 60 เป็น 62 ปี ขณะที่รัฐมนตรีคลังของกรีซเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายของยุโรปใช้มาตรการปกป้องระบบการธนาคารและปกป้องมาตรการรัดเข็มขัดก่อนการประชุมผู้นำกลุ่ม G20 ที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา ช่วงสุดสัปดาห์นี้ กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครองทองคำ 1,313.135 ตันในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ วันที่ 23 มิ.ย. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับของวันที่ 22 มิ.ย. - ทองคำ ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดที่ 1,245.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+11.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์) - เงิน ส่งมอบเดือนกรกฎาคม ปิดที่ 18.736 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+0.27 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
  8. ทองคำปรับขึ้น11.10ดอลลาร์ต่อออนซ์ วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2010 เวลา 07:24 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.)ทองโคเม็กซ์ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับขึ้น 11.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,245.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,228.00 - 1,249.50 ดอลลาร์ โดยนักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เพราะไม่มั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ จากข้อมูลยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ลดลง และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ยังสูงอยู่ ประกอบกับมาตรการเข้มงวดในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของประเทศในยุโรปที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
  9. ข้อมูลศก.สหรัฐฉุดดาวโจนส์ร่วง145.64จุด-น้ำมันปิดที่76.51ดอลลาร์ วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2010 เวลา 07:01 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 145.64 จุด หรือ 1.41% ปิดที่ 10,152.80 จุด ดัชนีเอสแอนด์พีลดลง 18.35 จุด หรือ 1.68% ปิดที่ 1,073.70 จุด และดัชนีแนสแดคลดลง 36.81 จุด หรือ 1.63% ปิดที่ 2,217.42 จุด ดัชนีปรับลดลงทุกตัวเนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้น เพราะกังวลต่อข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งหลายปัจจัยสะท้อนผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 19 มิ.ย.ลดลงเหลือ 457,000ราย หรือลดลง 19,000ราย ซึ่งถือว่าจำนวนคนว่างงานยังอยู่ในระดับสูง ,กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค.ร่วงลง 1.1% มาอยู่ที่ระดับ 1.92 แสนล้านดอลลาร์ ประกอบกับบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐปรับลดแนวโน้มคาดการณ์ผลประกอบการ ทางด้านตลาดน้ำมันไนเม็กซ์ ราคาน้ำมันดิบลท์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ ปิดที่ 76.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่เบรนท์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ปิดที่ 75.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
  10. อีทีเอฟเล่นซื้อไม่เลิก ตาแป๊ะก็ทำตัวลำบากเหมือนกัน กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว 卖 ---ขาย ตัวหนังสือสีแดง买----ซื้อ เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลง ขวาบน เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น แท่งเขียว---แรงขายลง ขวาช่องสอง แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง แท่งสีเขียว---เพดาน แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้ Uploaded with ImageShack.us
  11. อีทีเอฟเล่นซื้อไม่เลิก ตาแป๊ะก็ทำตัวลำบากเหมือนกัน Uploaded with ImageShack.us
  12. สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและแนวโน้ม : YLG วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 2010 เวลา 17:24 น. วายแอลจี ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 24 มิถุนายน 2553 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ ที่ระดับ $1,229.5– $1,237.95ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM10 ราคาปรับลดลง 130 บาท อยู่ที่ 19,000 บาท จากวันก่อนหน้าที่ 19,010 บาท แนวโน้มวันที่ 25 มิถุนายน 2553 หลังจากมีแรงขายเป็นจำนวนมากกดราคาทองคำหลุดแนวรับ $1,234 ก่อนจะดีดตัวขึ้นมาอีกครั้งหลังไปทดสอบแนวรับต่อไปที่ $1,225 อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นการเคลื่อนไหวยังคงอยู่ในกรอบราคาที่ $1,225 และ $1,238 แต่แนวโน้มใหญ่ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นดังนั้นทางวายแอลจียังคงแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเมื่อราคาย่อมาบริเวณแนวรับสำคัญและให้ขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำปะทะแนวต้านโดยเราให้แนวรับแนวต้านสำคัญในระยะสั้นไว้ดังนี้ แนวรับสำคัญ $1,225 และ $1,210 แนวต้านสำคัญ $1,238 และ $1,245 แนวโน้มระยะสั้น (ภายใน 1-2 วัน) : แรงขายทำกำไรยังมีอยู่ซึ่งสามารถกดให้ราคาทองอ่อนตัวลงได้อีกโดยมีแนวรับสำคัญที่ $1,225 และ $1,210 จุดทำกำไรคือ $1,245 แนวโน้มระยะกลาง (ภายใน 2-5 วัน) : แรงขายทำกำไรอาจกดให้ราคาทองคำลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ $1,210 และควรใช้เป็นจุดรับสำคัญ โดยมีเป้าหมายการทำกำไรที่ $1,245 กลยุทธ์การลงทุน ระยะสั้น : จุดสำคัญในการเข้าซื้อคือที่แนวรับ $1,225 และ $1,210 โดยมีจุดทำกำไรแรกที่ $1,238 และหากผ่านได้ควรทำกำไรที่ $1,245 ระยะกลาง : จุดสำคัญในการเข้าซื้อคือที่แนวรับสำคัญ $1,210 โดยมีจุดทำกำไรแรกที่ $1,238 และหากผ่านได้ควรทำกำไรที่ $1,245 Turning point : จุดเปลี่ยนจากซื้อเป็นขายคือ หากราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ $1,225 ให้ ขายออกก่อนเพราะจะมีแรงขายตามมามาก แล้วรอเข้าซื้อใหม่ที่ $1,210 แนะนำกลยุทธ์การลงทุน GOLD FUTURE แนวโน้มระยะสั้น (ภายใน 1-2 วัน) : แรง take profit กดราคาทองคำลงมาทดสอบแนวรับหลักบริเวณ 19,000 บาท แต่แนวโน้มขาขึ้นยังคงแข็งแกร่งอยู่ แนะนำเข้าซื้อ ณ จุดแนวรับสำคัญที่ 18,850 –18,950 บาท แนวโน้มระยะกลาง (ภายใน 2-5วัน) :แนวโน้มระยะกลางยังคงปรับตัวขึ้นอยู่โดยมีการพักตัวเป็นระยะๆ แนวรับสำคัญ บริเวณ 18,800-18,900 บาท กลยุทธ์การลงทุน Long Position: ทะยอยปิดสถานะบริเวณ 19,050-19,100 บาท Short Position : ถือสถานะข้ามวันหรือปิดสถานะทำกำไรบางส่วนบริเวณ 18,950-19,050 บาท Open New Position: เปิด Short Position บริเวณ 19,050-19,100 บาท Turning point: จุดเปลี่ยนจากขายเป็นซื้อคือ หากราคาสามารถยืนเหนือ 19,150 ได้อย่างแข็งแกร่ง
  13. ก.ล.ต. กล่าวโทษ4บริษัทและบุคคล13 รายประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 2010 เวลา 16:46 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ เมื่อวานนี้ (วันที่ 23 มิถุนายน 2553) ก.ล.ต. ได้ดำเนินการกล่าวโทษบริษัท ซี.เอ็น.บี.ซี. (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ที.เอ็น.เอ็น. (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท จี.แอล.อี. (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอ.แอล.ที.ไอ. จำกัด และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของบริษัท รวม 13 ราย ได้แก่ นายศักดา ปันนิตามัย (หรือ ขวัญ/สา/แพท) นายชูเกียรติ ปันนิตามัย (หรือ ต๋อง/แคท) นางสาววรรัตน์ จันทร์โอกุล (หรือ รัตน์/รินทร์/แอ๊ด) นางสาวทัศนีย์ สมทอง (หรือ กี้/อิ่ม) นางสาวกนกวรรณ นาคบาตร์ (หรือ เพ็ญพัชมน/พัชมน พรรณาราย) นางสาวจันทร์จิรา แก่นแสนดี นางสาวณัฐฐา สินธุวานิช นางสาวพลอยนัชชา ทิพย์จิรโรจน์ นายณัฐพงษ์ เอกพันธุ์ นายพิษณุ บุญอาจ นางสาวมนัสนันท์ ปิยพงพันธุ์ นางสาวอินทิรา สืบสังข์ และนางสาวสุภารักษ์ รักษาศรี ในข้อหาประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากการติดต่อชักชวนของบุคคลเหล่านี้ ให้แจ้งไปยังกองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่โทรศัพท์ 0-2513-1273 เพื่อให้ดำเนินการกับ ผู้กระทำผิดต่อไป สืบเนื่องจากมีประชาชนเข้าแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจว่า บริษัท ซี.เอ็น.บี.ซี. (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารกมลสุโกศล ชั้นที่ 13 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและทำการชักชวนประชาชนให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ทำให้ประชาชนที่หลงเชื่อได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่งกรณีดังกล่าวตรงกับข้อร้องเรียนที่ ก.ล.ต. ได้รับ ดังนั้น เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2553 ก.ล.ต. จึงร่วมกับเจ้าพนักงานตำรวจกองบังคับการปราบปรามเข้าตรวจค้นบริษัทตามที่มีผู้แจ้งความ จากการตรวจค้น พบเอกสารชักชวนให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ได้รับการติดต่อให้ซื้อขาย และเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายของลูกค้า ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน ประกอบกับข้อมูลการร้องเรียนและการสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องพบว่า ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2552 เป็นต้นมา บริษัท ซี.เอ็น.บี.ซี. (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ที.เอ็น.เอ็น. (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท จี.แอล.อี. (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอ.แอล.ที.ไอ. จำกัด ได้แสดงตนต่อประชาชนทั่วไป ว่าเป็นตัวแทนซื้อขายทองคำล่วงหน้าของบริษัทโบรกเกอร์ต่างประเทศ และทำการติดต่อชักชวนประชาชนให้เข้าใจว่าการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดังกล่าวสามารถทำกำไรได้โดยง่าย โดยให้เปิดบัญชีผ่านทางเว็บไซต์ www.sunnybullion.com www.winwoodgroup.com www.thaipalmgold.com และ/หรือ www.bullionhk.com จนมีผู้หลงเชื่อหลายรายโอนเงินให้ ทำให้ผู้ที่หลงเชื่อได้รับความเสียหายรวมกว่า100 ล้านบาท การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ. 2546 ซึ่งมีโทษตามมาตรา 125 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน ก.ล.ต. จึงได้กล่าวโทษบริษัททั้งสี่แห่งและบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้ง 13 ราย ต่อกองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นอกจากนี้ ในการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมนายชูเกียรติ ปันนิตามัย และนางสาวกนกวรรณ นาคบาตร์ ด้วย เนื่องจากบุคคลทั้งสองเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญารัชดา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และนายศักดา ปันนิตามัย เคยถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษฐานประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกับบริษัทโกรว์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด อนึ่ง ประชาชนที่สนใจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ขอให้เลือกลงทุนเฉพาะกับบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตการประกอบธุรกิจอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตได้ที่เว็บไซต์ของ ก.ล.ต. www.sec.or.th หรือกรณีที่อ้างอิงสินค้าเกษตร ขอให้ตรวจสอบรายชื่อที่เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (ก.ส.ล.) www.aftc.or.th และหากได้รับการติดต่อชักชวนจากบุคคลที่สงสัยว่าไม่ได้รับใบอนุญาต โปรดแจ้งเบาะแสมายังศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของ ก.ล.ต. ที่โทรศัพท์ 0-2263-6000 หรือ complain@sec.or.th อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน หรือ ก.ส.ล. ที่ enforcement@aftc.or.th อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป
  14. เดี๋ยวจะออกไปส่งเพื่อนที่สุวรรณภูม คงกลับเย็น
  15. ผมก็ว่าจะไป อยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก สะดวกออก ไม่เสาร์ก็อาทิตย์นี้ หากไปก็บอกด้วยนา จะได้มีเพื่อนเดิน และเพื่อนๆท่านอื่นใครจะไป ระวังเดินชนกันยังไม่รู้ว่าเคยรู้จักกัน หากไม่แสดงตัว ฮา !53 !53 !53
×
×
  • สร้างใหม่...