ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

ทองใหม่

ผู้นำชุมชน
  • จำนวนเนื้อหา

    9,822
  • เข้าร่วม

  • วันที่ชนะ

    484

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย ทองใหม่

  1. กราฟรายวันนี้ว่าทองเข้าสู่ขาลงแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะเชื่อได้เต็มร้อย ยังต้องดูว่าปัจจัยพื้นฐานและจิตวิทยาของตลาดว่า จะส่งเสริมให้ลงหรือไม่ Uploaded with ImageShack.us
  2. อ่านข้อความแล้ว ผมควรทำอะไรต่อ ทำไม่ถูกครับ เชยมากๆเลยเรา 555555

  3. อังกฤษเตรียมเผยแผนรัดเข็มขัดควบคุมการใช้จ่ายครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี Posted on Tuesday, June 22, 2010 รมว. คลังอังกฤษเตรียมแถลงแผนรัดเข็มขัดวันนี้ จอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีคลังอังกฤษเปิดเผยว่า อังกฤษจะขึ้นภาษีกับธนาคารและผู้ฝากเงิน ขณะเดียวกันก็จะลดการใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคมในการแถลงงบประมาณวันนี้ (23 มิ.ย. 53) เพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รมว.คลังอังกฤษ กล่าวว่า การควบคุมการใช้จ่ายครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปีจะกินระยะเวลาตลอดวาระการทำงาน 5 ปีของรัฐสภา โดยอังกฤษไม่สามารถปล่อยให้หนี้สูงขึ้นมากไปกว่านี้ได้ เพราะความเสี่ยงสูงสุดสำหรับเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ก็คือ ความเสี่ยงเรื่องหนี้สาธารณะ ทั้งนี้ แผนการลดรายจ่ายอย่างเข้มงวดดังกล่าว ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลผสมภายใต้การนำของพรรคอนุรักษ์นิยมได้ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่บริหารประเทศเมื่อ 6 สัปดาห์ก่อนนั้น จะกำหนดขนาดของงบประมาณของประเทศ Institute for Fiscal Studies ซึ่งเป็นสถาบันอิสระที่ดำเนินการศึกษาด้านการคลัง ประเมินว่า รมว.คลังอังกฤษจะลดงบประมาณลง 8.5 หมื่นล้านปอนด์ (1.26 แสนล้านดอลลาร์) หรือคิดเป็น 5.7% ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ผู้นำรัสเซีย-สหรัฐฯ จ่อสานความสัมพันธ์ธุรกิจระหว่างประเทศ ภารกิจของผู้นำรัสเซียและสหรัฐที่กำลังจะสานต่อการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกัน เป็นสิ่งที่น่าจับตามองในสัปดาห์นี้ เมื่อทั้งประธานาธิบดีบารัค โอบามา และนายดมิทรี เม็ดเวเดฟ (Dmitry Medvede) พยายามที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ โดยอาศัยโอกาสที่ประธานาธิบดีของรัสเซียเดินทางเยือนแหล่งอุตสาหกรรมไฮเทคของสหรัฐฯ อย่าง Silicon Valley และกรุงวอชิงตัน การเดินทางเยือนสหรัฐฯของผู้นำรัสเซียที่จะมีขึ้นในวันนี้ มีกำหนดการประชุมร่วมกับบรรดาผู้บริหารขององค์กรธุรกิจชั้นนำหลายแห่ง รวมทั้ง ซีอีโอของบริษัท Google ซึ่งก็คือ นาย Eric Schmidt ขณะที่ทาง Medvedev เองก็มีความต้องการเสียงสนับสนุนการก่อตั้ง Silicon Valley ที่รัสเซียด้วย หลังจากนั้น ผู้นำอดีตอาณาจักรสหภาพโซเวียตจะเดินทางต่อไปยังกรุงวอชิงตันเพื่อพูดคุยกับประธานาธิบดี โอบามา ในวันที่ 24 มิถุนายน ก่อนที่ทั้งคู่จะมีกำหนดนัดพบกับผู้บริหารสูงสุดของหลายบริษัท รวมถึง นาย Jim McNerney ที่เป็นซีอีโอของบริษัท Boeing เป็นต้น ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ตั้งแต่ที่ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการปรับสัมพันธ์กับรัสเซีย ทั้งคู่ก็ได้เริ่มต้นด้วยการลงนามในสนธิสัญญาเรื่องการลดอาวุธนิวเคลียร์ พร้อมกับร่วมมือกันในกรณีของอัฟกานิสถาน นอกจากนั้น รัสเซียยังสนับสนุนข้อเสนอของทางสหรัฐฯ ที่ต้องการให้เข้าแทรกแซงเพื่อตอบโต้กับอิหร่านด้วย ทั้งทำเนียบขาวและรัฐบาลจากเกรมลินระบุว่า การเยือนสหรัฐฯ ของ Medvedev นี้ ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญในการย่างกรายเข้าสู่เรื่องความสัมพันธ์ของภาคธุรกิจระหว่างทั้งสองประเทศ รัสเซียจะลดปริมาณส่งก๊าซไปเบลารุส ประธานาธิบดีรัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ สั่งก๊าซปรอม ซึ่งเป็นกิจการผูกขาดของชาติ ลดปริมาณส่งก๊าซไปเบลารุส สำนักงานสารนิเทศแห่งทำเนียบเครมลินเผยเมื่อวันจันทร์นับเป็นความเคลื่อนไหวที่เกรงกันว่า จะส่งผลกระทบต่ออุปทานไปยังยุโรป อเลคเซย์ มิลเลอร์ ซีอีโอของก๊าซปรอม เผยว่า จะค่อยๆ ตัดอุปทานไปเบราลุสอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามสัดส่วนหนี้ที่เพื่อนบ้านอดีตส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตแห่งนี้ ค้างชำระมูลค่า 192 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามเวลามาตรฐานสากล หรือเวลา 13.00 น. วานนี้ ตามเวลาไทย เขาบอกกับสำนักข่าวอาร์ไอเอ นอวอสตี ด้วยว่า จะตัดสัมปทานลงร้อยละ 85 รัสเซียมีปัญหาพิพาทเรื่องราคาก๊าซกับชาติเพื่อนบ้าน ทำให้เกิดความกังวลเรื่องซัปพลายในยุโรป หลังจากมอสโกและยูเครนโต้เถียงกันเรื่องราคาและข้อกำหนดในการส่งก๊าซ ทำให้การส่งก๊าซไปยุโรปหยุดชะงักเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ในเดือนมกราคม 2009 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ก๊าซปรอมเผยว่า มีศักยภาพในการเปลี่ยนเส้นทางส่งไปยุโรปแทนเส้นทางเบลารุส และผลกระทบจากการตัดก๊าซครั้งนี้จะรุนแรงน้อยกว่า เนื่องจากความต้องการในช่วงฤดูร้อนต่ำ ก่อนหน้านี้ เบลารุสส่งคณะผู้แทนเข้าประชุมฉุกเฉินเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเรื่องราคาที่มอสโก และซีอีโอของก๊าซปรอมออกมาเผยว่า เบลารุสยอมรับว่าเป็นหนี้ และเสนอที่จะจ่ายหนี้เป็นเครื่องจักร อุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ แทน อย่างไรก็ตาม การหารือก็จบลงโดยปราศจากข้อยุติ ก่อนหน้านี้ ในเดือนที่ผ่านมา เบลารุส จ่ายค่าก๊าซ 150 ดอลลาร์ต่อ 1,000 คิวบิคเมตร จากราคา 169.20 ต่อคิวบิคเมตรที่ก๊าซปรอมตั้งไว้ในช่วงไตรมาสแรก และ 184.80 ดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 นายกญี่ปุ่นเตรียมอภิปรายการขึ้นภาษีการบริโภคเดือนหน้า นาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เขาจะเปิดอภิปรายเต็มรูปแบบเพื่อพิจารณาเรื่องการขึ้นอัตราภาษีเพื่อการบริโภค (consumption tax rate) ภายหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ พร้อมกับเปิดเผยว่า การขึ้นภาษีดังกล่าวต้องใช้เวลาเตรียมการอย่างน้อย 2-3 ปี นอกจากนี้ นายคังกล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่สำนักนายกรัฐมนตรีว่า นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งจะพบปะพูดคุยกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐในวันอาทิตย์นี้ที่โทรอนโต แคนาดา นอกรอบการประชุม G20 ทั้งนี้ พรรคเดโมเครติค พาร์ตี ออฟ เจแปน (DPJ) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลญี่ปุ่นชี้แจงว่ารายได้จากการจัดเก็บภาษีบริโภคจะถูกจัดสรรไปใช้ในด้านสวัสดิการสังคม ซึ่งขณะที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้เงินอีก 10 ล้านล้านเยนเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุในอนาคต ปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีอัตราการจัดเก็บภาษีบริโภคอยู่ที่ 5% และมีความเป็นไปได้ว่า ในอนาคตรัฐบาลอาจสั่งให้มีการปรับขึ้นภาษีดังกล่าวสู่ระดับ 10% ขณะที่ แอนดรูว์ คาฮูน ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของฟิทช์ เรทติ้งส์ ประจำเอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า การผลักดันการปฏิรูปการคลังของนายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่ายินดี อย่างไรก็ตาม กระบวนการทางการเมืองถือเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจจะส่งผลกระทบต่อแผนการดังกล่าว โดยการเลือกตั้งสภาสูงในเดือนหน้าจะแสดงให้เห็นถึงอำนาจในมือของนายกฯว่า จะสามารถผลักดันให้มีการปรับโครงสร้างการคลังของประเทศได้หรือไม่ สำหรับการต่อสู้กับกับภาวะเงินฝืดของประเทศนั้น นายคาฮูนแนะนำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นดำเนินการมากกว่านี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนว่าภาวะเงินฝืดของประเทศจะสิ้นสุดลงได้ ซึ่งการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ และการซื้อหลักทรัพย์ของบริษัทเอกชนมากขึ้นน่าจะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่เป็นไปได้ ในส่วนของอันดับความน่าเชื่อถือนั้น นายคาฮูนกล่าวว่า ในระยะอันใกล้นี้ ฟิทช์ยังไม่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ AA เนื่องจากพันธบัตรดังกล่าวขึ้นอยู่กับปัจจัยในประเทศเป็นหลัก อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยระยะยาวยังคงอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่า อันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นอาจจะตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากความสามารถในการเพิ่มทุนยังอ่อนแอ เช่นเดียวกับอัตราการออมที่ลดลง แต่แรงกดดันดังกล่าวอาจจะได้รับการชดเชยหากรัฐบาลใช้แผนการปรับปรุงด้านการคลังที่มีความน่าเชื่อถือ ขณะที่ สำนักข่าวเกียวโดจัดทำผลสำรวจความเห็นประชาชน 1,228 รายทั่วประเทศ โดยได้สอบถามความเห็นผ่านทางโทรศัพท์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่บ่งชี้ว่า คะแนนสนับสนุนคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 6% จากสัปดาห์ก่อนมาอยู่ที่ระดับ 58.8% โดยคะแนนของผู้ไม่เห็นชอบกับการทำงานของรัฐบาลขยับขึ้น 6.4% มาอยู่ที่ระดับ 30.0% และคะแนนสนับสนุนครม.ญี่ปุ่นปรับตัวลดลงหลังจากที่นายคังกล่าวถึงการพิจารณาปรับขึ้นภาษีบริโภค ผู้เชี่ยวชาญแนะจีนคุมสินเชื่อ-ป้องกันฟองสบู่ นายเซียะ ปิ๋น หนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางจีน แนะนำให้ทางการจีนยึดเป้าหมายการขยายตัวของอัตราสินเชื่อที่ระดับ 7.5 ล้านล้านหยวนในปีนี้ เพื่อป้องกันภาวะสินทรัพย์ฟองสบู่ และกำลังผลผลิตล้นตลาดในบางภาคอุตสาหกรรม นายเซียะกล่าวให้สัมภาษณผ่านหนังสือพิมพ์ซีเคียวริตี้ ไทม์สว่า จีนเผชิญกับความเสี่ยงจากการทำธุรกรรมทรัสต์ที่เพิ่มมากขึ้น โดยในสิ้นเดือนเม.ย. ธนาคารพาณิชย์จีนมียอดการทำธุรกรรมกับบริษัททรัสต์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการซื้อขายหลักทรัพย์รวมทั้งสิ้น 1.88 ล้านล้านหยวน ด้วยอัตราการขยายตัวที่ระดับ 5.80 แสนล้านหยวนต่อเดือน นอกจากนี้ เซียะกล่าวเสริมว่า อัตราการทำธุรกรรมทรัสต์ที่มีอยู่เกือบ 1.9 ล้านล้านหยวน ประกอบกับอัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่ 7.5 ล้านล้านหยวนในปีนี้จะส่งผลให้จีนมีอัตราการขยายตัวของสินเชื่อเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ธนาคารพาณิชย์ควรใช้นโยบายควบคุมการออกผลิตภัณฑ์ด้านธุรกรรมทรัสต์อย่างเข้มงวด เพื่อควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้นได้ ขณะเดียวกัน เซียะได้แนะนำแนวทางการคุมเข้มด้านนโยบายทางการเงินเพื่อป้องกันภาวะสินทรัพย์ฟองสบู่และกำลังการผลิตที่สูงเกินไปในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเขาคาดว่า เศรษฐกิจจีนในปีนี้จะหดตัวลง 2-3% ในช่วงครึ่งหลังของปี เมื่อเทียบกับที่ขยายตัวได้ 11.7% ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ มูดีส์ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถืออินโดนีเซียเป็นเชิงบวก มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศเพิ่มแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของอินโดนีเซียขึ้นสู่ระดับ เชิงบวก จากเดิมมีเสถียรภาพ บ่งชี้เศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ของเอเชียยังคงแข็งแกร่ง ท่ามกลางปัญหาหนี้สาธารณะที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ตั้งแต่กรีซไปจนถึงญี่ปุ่น ปัจจุบันอันดับความน่าเชื่อถือของอินโดนีเซียอยู่ที่ระดับ Ba2 การปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของมูดีส์มีขึ้นหลังจากเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของอินโดนีเซียขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี มูดี้ส์ระบุว่า โดยหลัก ๆ แล้ว อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจอินโดนีเซียถูกขับเคลื่อนด้วยตลาดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งได้รับการบริหารจัดการเป็นอย่างดีด้วยนโยบายทางเศรษฐกิจ และคาดว่ารัฐบาลจะยังเดินหน้าปรับปรุงนโยบายการคลังและหนี้สาธารณะ ส่วนภาวะผันผวนในต่างประเทศ รวมถึงตัวเลขหนี้สาธารณะที่ทำให้ยุโรปตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพนั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานด้านความน่าเชื่อถือของอินโดนีเซีย ค่าเงินรูเปียห์พุ่งขึ้น 15% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาสกุลเงินอื่นๆในเอเชีย เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าลงทุนในประเทศที่มีเศรษฐกิจขยายตัวได้ดีอย่างอินโดนีเซีย อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศอาเซียนประเทศเดียวที่อยู่ในกลุ่ม G-20 กำลังมีอิทธิพลทางการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆในประชาคมโลกเนื่องด้วยเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ฮัตตา รัดจาซา รัฐมนตรีประสานงานด้านเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียได้เตรียมเสนอโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการที่เป็นประโยชน์กับประเทศกำลังพัฒนา เพื่อผลักดันให้เป็นวาระในการประชุม G-20 วันที่ 26-27 มิถุนายนนี้ ตัวอย่างโครงการที่อินโดนีเซียจะนำเสนอประกอบด้วย การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประเทศกำลังพัฒนา การแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน การปฏิรูปการบริหารธนาคารโลกและ ไอเอ็มเอฟ รวมถึงการรื้อฟื้นการเจรจาขององค์การการค้าโลก นอกจากนั้นอินโดนีเซียจะเดินหน้าผลักดันมาตรการที่เกี่ยวข้องกับประเด็นหลักๆ ที่ประเทศกำลังพัฒนาน่าจะนำเสนอในที่ประชุม อย่างเรื่องการเก็บภาษีธนาคาร มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการคุ้มครองการค้า ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (อังคารที่ 22 มิ.ย. 2553) • เริ่มการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) • ยอดขายบ้านมือสอง (พ.ค.) โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติสหรัฐฯ
  4. 22 มิ.ย. 2553 สรุปภาวะตลาดก่อนหน้านี้ ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สแกว่งตัวผันผวนตามราคาทองคำสปอตที่กลับมาปรับตัวลดลงรุนแรงเมื่อคืนหลังTFEXปิดทำการ เงินบาททรงตัวตามภูมิภาค ทองคำแท่งสมาคมปิดที่ 19,050/19,150 บาท ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้ กรณีเรื่องค่าเงินหยวนที่มีการเก็งกำไรถึงขั้นปล่อยลอยตัวก่อนหน้านี้ เริ่มมีความชัดเจนขึ้นว่าจีนเพียงแค่ต้องการเพิ่มความยืดหยุ่นของค่าเงินหยวนอย่างช้าๆเท่านั้นเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของจีนเองและเพื่อลดความกดดันทางการเมืองเท่านั้น นอกจากนี้รัสเซียยังออกมาให้ความเห็นอีกด้วยว่าจะไม่มีการพูดถึงค่าเงินหยวนของจีนเป็นประเด็นแยกในการประชุมกลุ่มจี20ในสุดสัปดาห์นี้แต่อย่างใด แต่จะมีการพูดถึงภาวะเศรษฐกิจและความเหมาะสมของนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศต่างๆโดยรวมเท่านั้น นักเก็งกำไรจึงเริ่มเทขายสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้นและเงินยูโรเพื่อทำกำไรหลังจากที่ได้มีการเก็งกำไรก่อนหน้านี้ ซึ่งทองคำก็เป็นหนึ่งในสินทรัพย์เสี่ยงที่ได้รับผลกระทบจากการเทขายดังกล่าวด้วย [Reuters, AFC Research] นักลงทุนจะจับตามองความเชื่อมั่นผู้ประกอบการเยอรมันในบ่ายวันนี้ และยอดขายบ้านเก่าในสหรัฐฯคืนนี้ ซึ่งเรามองว่ารายงานในยุโรปน่าจะยังออกมาค่อนข้างดีในขณะที่รายงานตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯอาจไม่เป็นที่น่าพอใจนัก [AFC Research] แนวโน้มทองคำวันนี้ เรามองว่าราคาทองคำวันนี้น่าจะกลับมาเป็นสินทรัพย์เสี่ยงเช่นเดิม ซึ่งจากการคาดการณ์ข้างต้น เรามองว่า "ราคาทองคำอาจแกว่งตัวเพิ่มขึ้นในช่วงบ่ายและลดลงช่วงข้ามคืน" เราจึงแนะนำให้ "สะสม SHORT เมื่อราคาทองคำสปอตเพิ่มสูงขึ้น" มุมมองทองคำ สถานะของทองคำไม่ชัดเจนนัก ซึ่งนักลงทุนจะต้องติดตามความคืบหน้าของปัญหาต่างๆ และแนวโน้มเศรษฐกิจแต่ละภูมิภาคอย่างใกล้ชิด
  5. ราคาทองคำปิดลบ 17.60 เหรียญ หลังค่าเงินยูโรร่วง Posted on Tuesday, June 22, 2010 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง เพราะถูกกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของสกุลเงินยูโร แต่ในระหว่างวัน สัญญาทองคำทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติกาณ์ ขานรับข่าวธนาคารกลางจีนประกาศปรับค่าเงินหยวนให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น สัญญาทองคำทะยานขึ้นในช่วงแรกนั้นขานรับข่าวที่ว่าธนาคารกลางจีนได้ตัดสินใจปรับเงินหยวนให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยในระหว่างวัน สัญญาทองคำเดือนส.ค.ทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,266.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่การที่ค่าเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพในตลาดยุโรป จึงทำให้มีแรงเทขายเข้าฉุดสัญญาทองคำในช่วงบ่าย สัญญาโลหะทองแดงพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าการปรับเงินหยวนให้มีความยืดหยุ่นจะช่วยให้ดีมานด์สินค้าโภคภัณฑ์จากจีน รวมถึงโลหะพื้นฐานอย่างทองแดง ฟื้นตัวขึ้นด้วย - ทองคำ ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดที่ 1,240.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-17.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์) - เงิน ส่งมอบเดือนกรกฎาคม ปิดที่ 18.808 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-0.37 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
  6. 22 มิ.ย. 2553 บาท/ดอลลาร์ภาคเช้าอ่อนค่า, ดีลเลอร์เผยธปท.แทรกแซงที่ 32.28/30 *บาท/ดอลลาร์ภาคเช้าอ่อนค่าจากระดับปิดวานนี้ ขณะที่ดีลเลอร์ระบุว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เข้าแทรกแซงด้วยการซื้อดอลลาร์ และขายเงินบาท ที่แนวต้าน 32.30-32.28 *ยูโรอ่อนลงในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนรอดูว่า จีนจะปล่อยให้หยวนแข็งค่าขึ้นมากและเร็วเพียงใด ท่ามกลางกระแส คาดการณ์ว่า การแข็งค่า จะเป็นไปอย่างช้าๆ *หยวนแข็งค่าขึ้น 0.42% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดในวันเดียว นับตั้งแต่การเพิ่มค่าเงินในปี 48 แต่ดีลเลอร์หวั่นว่า ธนาคารกลางจีนจะ ไม่ปล่อยให้ค่าเงินหยวนเคลื่อนไหวจากค่ากลางมากนัก ซึ่งอาจจะถ่วง ค่าเงินยูโร และสกุลเงินที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ *ธนาคารกลางจีน กำหนดค่ากลางเงินหยวนในวันนี้ที่ 6.7980 หยวน/ ดอลลาร์ จากระดับ 6.8275 หยวน/ดอลลาร์วานนี้ โดยเป็นระดับ แข็งค่าสุดนับตั้งแต่ที่จีนมีการปรับค่าเงินเมื่อเดือนก.ค.48 *ยูโรในตลาดนิวยอร์ควานนี้ ร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์ลดช่วงบวกลง โดยแรงหนุนจากข่าว การปรับค่าเงินหยวนจางหายไป ท่ามกลางความไม่แน่ใจที่มีต่อผลกระทบ โดยรวม จากการยืนยันของจีนที่จะเพิ่มความยืดหยุ่นของค่าเงินหยวน *การประกาศปรับค่าเงินหยวนของจีนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะเพิ่ม อำนาจซื้อและอุปสงค์ในจีน ได้หนุนตลาดทั่วโลกขึ้นในช่วงแรก โดยตลาด มองว่า การปรับค่าเงินหยวน จะช่วยหนุนบริษัททั่วโลกที่ขายสินค้าให้กับจีน และหนุนสกุลเงินที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ *แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า การทะยานขึ้นของตลาดได้หยุดชะงัก และขาด แรงซื้อต่อเนื่อง โดยตลาดมองว่า การดำเนินการของจีน คงมีผลเพียง เล็กน้อย และเป็นไปเพื่อจุดประสงค์ทางการเมืองในเบื้องต้น *09.22 น. บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 32.31/35 จาก 32.27/31 เมื่อวาน ขณะที่ใน offshore อยู่ที่ 32.32/34 จาก 32.27/30 เมื่อวาน *เยน/ดอลลาร์ อยู่ที่ 90.94/99 จาก 91.00 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อวาน *ยูโร/ดอลลาร์ อยู่ที่ 1.2291/94 จาก 1.2323 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อวาน "ปัจจัยเรื่องหยวนก็ยังคงมีผลอยู่ แต่แบงก์ชาติก็พยายามเข้ามาค้ำไว้ที่ ประมาณ 32.30-32.28 ให้บาทค่อยๆ แข็งค่า รอดูเพื่อนบ้านก่อนว่าจะเป็นยังไง" ดีลเลอร์ กล่าว เขา กล่าวว่า ในช่วงเช้าวันนี้ ธปท.ได้เข้าแทรกแซงเงินบาทไว้ที่ บริเวณ 32.30-32.28 เพื่อไม่ให้เงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไป หลังวานนี้แข็งค่า ขึ้นมาก จากการเพิ่มความยืดหยุ่นของค่าเงินหยวน ดีลเลอร์ มองว่า ปัจจัยเรื่องเงินหยวน จะยังส่งผลในทางแข็งค่าต่อ เงินบาท แต่มองว่าการแทรกแซงของ ธปท. จะทำให้เงินบาทในวันนี้ ติดอยู่ที่ แนวต้าน 32.28 ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 32.35 แหล่งที่มา (โดย สะตะวสิน สถาพรชาญชัย รายงานและเรียบเรียง--บร--)
  7. กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว 卖 ---ขาย ตัวหนังสือสีแดง买----ซื้อ เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลง ขวาบน เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น แท่งเขียว---แรงขายลง ขวาช่องสอง แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง แท่งสีเขียว---เพดาน แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้ Uploaded with ImageShack.us
  8. 21 มิ.ย. 2553 USA:น้ำมัน NYMEX พุ่งทะลุ 78 ดอลล์เช้านี้ รับข่าวจีนเพิ่มความยืดหยุ่นหยวน ราคาน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% ในวันนี้ เหนือระดับ 78 ดอลลาร์ หลังจากที่จีนยืนยันในช่วงสุดสัปดาห์ว่าจะปล่อยให้หยวนมีความ ยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์กันมากขึ้นว่าจีนจะเพิ่มการนำเข้า ขณะที่จีนเป็นผู้บริโภคน้ำมันอันดับ 2 ของโลก ณ เวลา 09.04 น.ตามเวลาไทย ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate ส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาด NYMEX ปรับตัวขึ้นสูงถึง 97 เซนต์ หรือ 1.26% สู่ 78.15 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนส.ค.ในตลาด ICE พุ่งขึ้น 97 เซนต์ในช่วงแรก สู่ 79.19 ดอลลาร์/ บาร์เรล ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นราว 20% จากจุดต่ำสุดที่ระดับต่ำกว่า 65 ดอลลาร์ ในสัปดาห์ก่อน แต่ยังคงต่ำกว่าราว 9 ดอลลาร์จากระดับสูงสุดรอบ 19 เดือน ที่ทำไว้ในช่วงต้นเดือนพ.ค.เหนือ 87 ดอลลาร์ จีนประกาศในวันเสาร์ว่า จะเริ่มทำให้ค่าเงินหยวนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า จีนพร้อมที่จะยกเลิกการผูกติดหยวนกับดอลลาร์ที่ดำเนินมา 23 เดือน หลังเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนานาชาติ แต่ในแถลงการณ์เกี่ยวกับแนวทางการปฏิรูปการปริวรรตเงินตรานั้น ธนาคารกลางจีนปฏิเสธอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าเงินหยวนในครั้งเดียว โดยย้ำว่าไม่มีเหตุผลสำหรับการปรับค่าเงินขึ้นครั้งใหญ่ และเสริมว่า มูลค่าของ หยวนไม่ได้อยู่ห่างไกลจากระดับที่เหมาะสม ตลาดหุ้นทั่วโลก, สกุลเงินของประเทศผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ และ สกุลเงินอื่นๆที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงต่างได้รับแรงหนุนในสัปดาห์นี้จากการตัดสินใจ ของจีนเรื่องค่าเงินหยวน ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าพุ่งขึ้นในวันนี้ ส่วนยูโรดีดตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงเช้า ที่ตลาดเอเชีย หลังจากที่จีนประกาศเพิ่มความยืดหยุ่นต่อค่าเงินหยวน โดยนักลงทุน มองว่าความเคลื่อนไหวของจีนในครั้งนี้เป็นการแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโลก จะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ตลาดหุ้นทั่วโลกดีดตัวขึ้นเป็นวันที่ 9 ติดต่อกันในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุน ต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากยิ่งขึ้น โดยความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรรัฐบาล สเปนช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับภาวะหนี้สินของรัฐบาลในยุโรป และช่วยหนุนให้ยูโร ทรงตัวอยู่ใกล้จุดสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ มีสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยดัชนีความผันผวน (VIX) ที่ใช้วัดระดับความกังวลในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงผ่านระดับ 24 ในวันศุกร์ หลังจากที่เคยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 14 เดือนเหนือ 47 ในเดือนพ.ค. แหล่งที่มา (รอยเตอร์ โดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์ แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง)
  9. 21 มิ.ย. 2553 สรุปภาวะตลาดก่อนหน้านี้ ราคาโกลด์ฟิวเจอร์สแกว่งตัวอยู่ในช่วงแคบ เช่นเดียวกับราคาทองคำสปอตในช่วงแรกก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นรุนแรงหลังTFEXปิดทำการ เงินบาททรงตัวก่อนแข็งค่าขึ้นตามภูมิภาคในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทองคำแท่งสมาคมปิดที่ 18,950/19,050 บาท ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเนื่องถึงวันนี้ นักเก็งกำไรยังใช้ข้ออ้างจากรายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯเพื่อผลักดันราคาทองคำให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงโดยที่ไม่มีข้อมูลใหม่แต่อย่างใด [Reuters, AFC Research] ธนาคารกลางจีนออกมาให้ความเห็นว่าอาจเริ่มปล่อยให้ค่าเงินหยวนแกว่งในช่วงกว้างมากขึ้นเมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น รายงานดังกล่าวส่งผลบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอย่างชัดเจน และส่งผลกดดันดอลลาร์สหรัฐโดยตรง ในขณะที่ราคาทองคำไม่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงมากนักซึ่งเรามองว่าราคาทองคำอาจได้รับการเก็งกำไรในเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว [bloomberg, Reuters, AFC Research] วันนี้ไม่มีรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญ ในขณะข่าวเรื่องจีนอาจเป็นประเด็นให้นักเก็งกำไรผลักดันราคาทองคำและสินทรัพย์อื่นๆได้ตลอดวันทั้งในตลาดเอเชีย ยุโรป และสหรัฐฯ [AFC Research] แนวโน้มทองคำวันนี้ ด้วยการคาดการณ์ข้างต้น เรามองว่า "ราคาทองคำอาจแกว่งตัวรุนแรงมากขึ้น" ในขณะที่การปรับตัวของทองคำเริ่มเป็นไปตามปัจจัยทางจิตวิทยามากกว่าปัจจัยพื้นฐาน เราจึงแนะนำให้ "หยุดรอดูสถานการณ์ หรือซื้อขายภายในวัน" สถานะของทองคำไม่ชัดเจนนัก ซึ่งนักลงทุนจะต้องติดตามความคืบหน้าของปัญหาต่างๆ และแนวโน้มเศรษฐกิจแต่ละภูมิภาคอย่างใกล้ชิด
  10. สรุปภาวะ Gold Futures By GT Wealth Management สรุปการซื้อขาย 18 มิ.ย.53 และแนวโน้มราคาทองคำ วันนี้ 21 มิ.ย.53 ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 21 มิถุนายน 2553 07:43:53 น. กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--จีที เวลธ์แมเนจเมนท์ สรุปภาวะ Gold Futures By GT Wealth Management 18 มิ.ย. 53 (ภาคบ่าย) ราคาทองคำในตลาดโลกวันนี้ทรงตัวใกล้ระดับ 1,245 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ หลังจากปรับตัวขึ้นแรงในช่วงคืนที่ผ่านมา หลังจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้แรงซื้อสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงกลับมาอีกครั้ง ขณะค่าเงินยูโรปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อหลังจากที่การขายพันธบัตรสเปนสะท้อนการระดมทุนใหม่เป็นไปด้วยดี ขณะความพยายามของ ECB ในการที่จะรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจในภูมิภาค ยังส่งผลบวกในระยะสั้น ขณะระยะยาวนักลงทุนยังคงกังวลความเสี่ยงจากปัญหาหนี้ สังเกตจากการซื้อเพิ่มของกองทุนทองคำอย่างต่อเนื่อง โดย SPDR เพิ่มการถือครองขึ้นอีก 1.82 ตัน ส่วนค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 32.38 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ ราคาทองคำในประเทศราคาเสนอซื้อ 18,950 บาท ราคาเสนอขาย 19,050 บาท ส่วนโกลด์ฟิวเจอร์วันนี้สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน (GFM10) ปิดที่ระดับ 19,110 ปริมาณการซื้อขาย 3,827 สัญญา สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม(GFQ10) ปิดที่ระดับ 19,180 บาท ปริมาณการซื้อขาย 1,196 สัญญา สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนตุลาคม (GFV10) ปิดที่ระดับ 19,270 บาท ปริมาณการซื้อขาย 303 สัญญา ปริมาณการซื้อขายรวมทั้งตลาด 2,859 สัญญา ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนบริษัทจีที เวลธ์แมเนจเมนท์ จำกัดกล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนในตลาดโลกยังคงไม่ชัดเจน แม้จะมีข่าวดีที่ส่งผลให้มีแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงที่ผ่านมา แต่ระยะยาวยังคงมีความกังวลในภาวะหนี้ของยุโรป สังเกตจากสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงที่ยังคงมีแรงซื้อต่อเนื่อง ขณะเรามองว่าราคาทองคำยังคงผันผวนในกรอบสูงต่อไปอีกระยะ จนกว่าตลาดจะหาทิศทางที่ชัดเจนว่าจะดำเนินไปในทิศทางใด
  11. สหรัฐขานรับจีนส่งสัญญานให้หยวนยืดหยุ่นมากขึ้น Posted on Monday, June 21, 2010 สหรัฐขานรับจีนส่งสัญญานให้หยวนยืดหยุ่นมากขึ้น 1 สัปดาห์ก่อนที่การประชุม G20 จะเปิดฉาก จีนส่งสัญญาณว่าจะให้เงินหยวนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น หลังจากที่ได้มีการตรึงค่าเงินหยวนกับเงินดอลลาร์เอาไว้ถึง 2 ปี ที่ระดับ 6.83 หยวนต่อดอลลาร์ นับตั้งแต่ก.ค. 2551 ธนาคารกลางจีนได้กล่าวผ่านเว็บไซต์ว่า โอกาสในการตัดสินใจให้เงินหยวนมีความยืดหยุ่นมากขึ้นนั้นเริ่มที่จะมีเพิ่มมากขึ้น เพราะเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่ได้ระบุกรอบเวลาที่ชัดเจน ขณะที่ ธนาคารโลกสนับสนุนรัฐบาลจีนให้ปล่อยเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ เนื่องจากเงินหยวนที่แข็งค่าจะช่วยลดภาวะเงินเฟ้อลง และยังช่วยส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศจีนเอง พร้อมกันนี้ธนาคารโลกยังแนะนำให้จีนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะช่วยชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ร้อนแรงเกินไป ที่ผ่านมา จีนถูกวิจารณ์ในวงกว้างเรื่องการคงค่าเงินหยวนให้อ่อนค่าเกินจริง โดยเฉพาะสหรัฐที่กดดันจีนอย่างมากในเรื่องนี้ โดยธนาคารโลกชี้ว่า สกุลเงินที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าเดิมจะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจภายในประเทศ และทำให้นโยบายการเงินมีความเป็นอิสระมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้จีนสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ แม้ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยของประเทศอื่นๆที่มีรายได้สูงยังคงอยู่ในระดับต่ำ รัฐบาลจีนเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจที่ขยายตัวร้อนแรงเกินไป โดยเฉพาะราคาอาหารและอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่จนถึงขณะนี้ รัฐบาลก็ยังไม่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี รัฐบาลได้นำมาตรการอื่นมาใช้แทน เช่น การจำกัดการปล่อยเงินกู้ของธนาคาร ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนขยายตัว 11.9% ต่อปี ในไตรมาสแรกของปีนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐขานรับการตัดสินใจของจีนในการเพิ่มความยืดหยุ่นต่อนโยบายด้านอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวน โดยชี้ว่าการกระทำดังกล่าวจะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ก็ออกแถลงการณ์ขานรับการตัดสินใจของจีน พร้อมทั้งชี้ว่า นโยบายดังกล่าวจะช่วยเอื้อประโยชน์ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมีความสมดุลมากขึ้น นายโดมินิค สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศแสดงความเห็นว่า การตัดสินใจของจีนครั้งนี้เป็นข่าวที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยเพิ่มรายได้ภาคครัวเรือนของจีนเองและยังเป็นแรงจูงใจให้มีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคชาวจีนมากยิ่งขึ้น นักลงทุนจับตาตัวเลขบ้านสหรัฐฯ – จีนขยับเงินหยวน ตลาดหุ้นอเมริกายังมีโอกาสผันผวนต่อในสัปดาห์นี้ เมื่อดูจากรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญที่จ่อรอการประกาศออกมา ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าเรื่องการปล่อยให้หยวนแข็งค่าอาจเป็นปัจจัยหนุนแก่ตลาดหุ้นเอเชีย หลายคนเก็งกันว่าตลาดบ้านของสหรัฐฯ เริ่มที่จะแสดงอาการแผ่วลงในเดือนพฤษภาคม ภายหลังจากมาตรการจูงใจภาครัฐหมดอายุลง จนอาจทิ้งให้ภาคการผลิตของประเทศขาดแรงกระตุ้นต่อ ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจยังอยู่แค่เพียงช่วงต้นของการฟื้นตัวเท่านั้น นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯ อาจลดลงถึง 19% มาที่อัตรา 410,000 หน่วยต่อปีในเดือนที่แล้ว ขณะที่มาตรการจูงใจทางภาษีสำหรับซื้อบ้านกำหนดไว้ว่า ผู้ซื้อจำเป็นต้องเซ็นสัญญาภายในวันที่ 30 เมษายน และต้องปิดดีลให้ลุล่วงภายในสิ้นเดือนมิถุนายน นั่นหมายถึง โอกาสที่จะใช้สิทธิดังกล่าวได้หมดลงแล้วในตอนนี้ นอกจากตลาดบ้านแล้ว ในสัปดาห์นี้ยังจะมีการเปิดเผยตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods) โดยผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ที่จัดทำโดยสำนักข่าว Bloomberg ชี้ว่า ตัวเลขออเดอร์จะลดลง 1.3% ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเรียกว่าเป็นการลดลงครั้งแรกของคำสั่งซื้อในรอบ 6 เดือนเลยทีเดียว แม้ว่าการลดลงดังกล่าวอาจเป็นผลจากความผันผวนของออเดอร์สินค้าประเภทเครื่องบิน ที่เคยบวกกระโดดขึ้นไปกว่า 200% เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา นักเศรษฐศาสตร์ของ SocGen ก็มองเรื่องการที่ธนาคารกลางจีนประกาศว่าจะปล่อยให้ค่าเงินหยวนเคลื่อนไหวได้ยืดหยุ่นมากขึ้น จะช่วยให้บริษัทจากแดนมังกรมีกำลังซื้อที่มากกว่าเดิม ขณะเดียวกัน เงินหยวนที่แข็งค่ามากขึ้นก็นับเป็นแรงจูงใจที่จะช่วยให้นักลงทุนต่างชาติหันมามองหุ้นที่อยู่ในรูปสกุลเงินหยวน นั่นก็คือ ช่วยทำให้หุ้นในตลาด A-share มีมูลค่าที่น่าดึงดูดใจ เขายังได้ยกตัวอย่างถึงดัชนีหุ้นของตลาดเดียวกันนี้ ที่ปรับตัวสูงขึ้นในปี 2548 ซึ่งเป็นปีที่จีนปรับขึ้นค่าเงินหยวน ญี่ปุ่นขึ้นภาษีบริโภคจัดสรรรายได้สำหรับสวัสดิการสังคม รัฐบาลญี่ปุ่นชี้แจงแผนการขึ้นภาษีบริโภค โดยระบุว่าจะมีการนำรายได้จากการจัดเก็บภาษีดังกล่าวมาใช้สำหรับการพัฒนาระบบสวัสดิการสังคม เลขาธิการพรรคเดโมเครติค พาร์ตี ออฟ เจแปน (DPJ) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รายได้จากการจัดเก็บภาษีบริโภคจะถูกจัดสรรไปใช้ในด้านสวัสดิการสังคม ซึ่งขณะที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้เงินอีก 10 ล้านล้านเยนเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุในอนาคต ปัจจุบันนี้ ญี่ปุ่นมีอัตราการจัดเก็บภาษีบริโภคอยู่ที่ 5% และมีความเป็นไปได้ว่า ในอนาคตรัฐบาลอาจสั่งให้มีการปรับขึ้นภาษีดังกล่าวสู่ระดับ 10% อย่างไรก็ตาม พรรคพีเพิล นิว พาร์ตี ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกโรงวิจารณ์ถึงแนวโน้มการปรับนโยบายการขึ้นภาษีการบริโภคของนายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น โดยชี้ถึงความจำเป็นอันดับแรกว่า รัฐบาลควรปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนก่อน เพราะหากประชาชนไม่มีอำนาจซื้อแล้ว การขึ้นภาษีบริโภคก็จะไม่ช่วยให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีสูงขึ้นตามไปด้วย บราซิลชี้ระบบการเงินของประเทศร่ำรวย เสื่อมถอย ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล กล่าวว่า ระบบการเงินของประเทศที่ร่ำรวย "เสื่อมถอยลงเล็กน้อย" ในระหว่างการทำพิธีเปิดบริษัทผลิตเหล็กแห่งหนึ่งในกรุงริโอเดอจาเนโร นายลูลาวิพากย์วิจารณ์ว่ายุโรปไร้ศักยภาพในการใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตหนี้สินของกรีซ จนทำให้ลุกลามไปยังประเทศอื่น นายลูลา กล่าวว่า "หากยุโรปแก้ปัญหากรีซเร็วกว่านี้ มันคงไม่ลุกลามไปถึงโปรตุเกส สเปน และอิตาลี" นอกจากนั้นนายลูลายังวิจารณ์สหรัฐอเมริกาว่าที่จริงแล้วน่าจะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤต เลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลายเมื่อปี 2551 ได้ ประธานาธิบดีบราซิลก็ยังตำหนิว่าหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ร่ำรวยไม่ยอมทำตามมติการประชุม G20 โดยเฉพาะเรื่องการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ IMF ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวได้เผยแพร่สาส์นจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาถึงผู้นำกลุ่มประเทศ G20 ก่อนที่จะมีการจัดการประชุมสุดยอด G20 ในวันที่ 26-27 มิ.ย.ที่ประเทศแคนาดาว่า ภารกิจที่สำคัญที่สุดในการประชุมสุดยอด G20 คือ การปกป้องและการส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยที่ผ่านมา เศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจและประเทศกำลังพัฒนานั้น ยังอยู่ในภาวะอ่อนแอ ดังนั้น การฟื้นตัวอย่างยั่งยืนและช่วยสร้างงานจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่ประชุมควรจะให้ความสำคัญกับความพยายามในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ ขณะเดียวกันก็ควรจะระมัดระวังเกี่ยวกับการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วจนเกินไปในช่วงที่ดีมานด์และธุรกิจทั่วไปยังอยู่ในสภาพที่ซบเซา สภาคองเกรสรุมจวก 'ซีอีโอ' บีพี บีพี บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของอังกฤษเปิดเผยว่า ค่าชดเชยความเสียหายในเหตุน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโก อันเนื่องมาจากแท่นขุดเจาะน้ำมัน Deepwater Horizon ระเบิดเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาได้พุ่งสูงกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว นับตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ บีพีได้จ่ายเงินชดเชยความเสียหายให้กับผู้ที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งเป็นเงิน 104 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ บีพีได้ตกลงจัดสรรเงินมูลค่า 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่กองทุนบัญชี escrow account หรือ บัญชีค้ำประกันการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินโดยให้คนกลางที่มีความมั่นคงและน่าเชื่อถือเข้ามาทำหน้าที่ดูแลการชำระหนี้ของคู่สัญญาให้เป็นไปตามที่ตกลงไว้ เพื่อเป็นทุนในการชดเชยความเสียหายให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งใหญ่ในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวระบุว่า บีพีจะต้องทยอยจ่ายเงินเข้ากองทุนปีละ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นระยะเวลา 4 ปี ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ขณะที่ โทนี เฮย์เวิร์ด ประธานบริหารบริษัทน้ำมันบริติชปิโตรเลียม วัย 28 ปีที่กลายเป็นบุคคลที่ชาวอเมริกันเกลียดมากที่สุดไปแล้ว ได้ขึ้นให้การต่อคณะกรรมาธิการการพลังงานและพาณิชย์ของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อเผชิญกับคำถามของกรรมาธิการจากทั้งสองพรรคที่ระอุด้วยอารมณ์โกรธแค้นพยายามซักไซร้หาคำตอบถึงต้นตอของวิกฤติครั้งนี้ แต่เฮย์เวิร์ดกลับไม่ได้ให้คำตอบที่เป็นพอใจแก่สภา และทำให้เฮนรี แว็กซ์แมน ประธานกรรมาธิการ กล่าวตำหนิเฮย์เวิร์ดว่า เตะถ่วงไม่ตอบยอมตอบคำถาม “ผมไม่สามารถชี้ขาดการตัดสินใจใด ๆ ได้" เฮย์เวิร์ดกล่าวตอบกรรมาธิการสหรัฐที่แสดงความไม่เชื่ออย่างออกนอกหน้า "ผมคิดว่ายังเร็วเกินไปที่จะให้ข้อสรุปได้" เฮย์เวิร์ดกล่าวว่าเขาจะรอจนกว่าบริษัทสอบสวนเหตุการณ์ระเบิดและไฟไหม้บนแท่นขุดเจาะดีปวอเตอร์ฮอไรเซินเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่คร่าชีวิตคนงาน 11 คน เสร็จสิ้นเสียก่อน "ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ" เกี่ยวกับวิธีการขุดเจาะ, ทดสอบ และดูแลรักษาแท่นขุดเจาะ คำกล่าวแสดงความเสียใจและให้คำมั่นว่าบีพีจะแก้ไขความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมตามแนวชายฝั่งตอนใต้ของสหรัฐ ของเขาในช่วงต้นกลับถูกบดบังทันทีที่เขาปฏิเสธจะเปิดเผยรายละเอียดอย่างจำเพาะเจาะจง แต่ความไม่พอใจบีพียังไม่จางหาย ระหว่างการให้การ เฮย์เวิร์ดนอกจากเผชิญการต่อว่าและเย้ยหยันจากกรรมาธิการระหว่างให้การนาน 7 ชั่วโมงแล้ว เขายังถูกผู้ประท้วงสตรีรายหนึ่งตะโกนขึ้นมากลางปล้องว่า "คุณต้องถูกตั้งข้อหาอาญา คุณโทนี" เธอกล่าว "คุณควรถูกส่งเข้าคุก" รายงานต่อมาเผยว่าเธอเป็นชาวประมงจากเมืองซีดริฟต์ รัฐเทกซัส แว็กซ์แมนโจมตีเฮย์เวิร์ดและบีพีว่าพยายามตัดลดค่าใช้จ่ายทุกวิถีทาง ซึ่งนำไปสู่การระเบิดและไฟไหม้บนแท่นขุดเจา "เราไม่พบหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสนใจกับความเสี่ยงมากมายมหาศาลที่บีพีเผชิญอยู่" เขาชี้ "เราได้ดูเอกสาร 30,000 หน้าที่ได้จากบีพี รวมถึงอีเมลของคุณ แต่ไม่มีฉบับไหนเลยที่แสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสนใจแม้แต่เพียงน้อยนิดกับอันตรายที่บ่อน้ำมันแห่งนี้" โรงงานโตโยต้าในจีนเริ่มเดินเครื่องการผลิตจันทร์นี้ บริษัท Toyoda Gosei Co. ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้กับโตโยต้าในเขตเทศบาลนครเทียนจิน จะเริ่มเดินเครื่องการผลิตตามปกติในวันจันทร์นี้ หลังพนักงานที่ผละงานประท้วงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมายอมรับข้อเสนอของผู้บริหารที่จะขึ้นค่าแรงให้อีก 20% จากอัตราค่าแรงในปีก่อนหน้านี้ โดยบริษัท Toyoda Gosei ในเขตเทศบาลนครเทียนจินจะดำเนินการจัดส่งชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อป้อนให้กับ Tianjin FAW Toyota Motor Co ซึ่งเป็นบริษัทประกอบรถยนต์ของโตโยต้าได้ตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป ซึ่งกว่าครึ่งหนึ่งของรถยนต์โตโยต้าที่ผลิตในจีนมาจากโรงงานดังกล่าว สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ผู้บริหารและพนักงานของบริษัท Toyoda Gosei ได้เปิดโต๊ะเจรจาและได้ข้อสรุปร่วมกันเมื่อวานนี้ หลังจากที่ลูกจ้างได้ผละงานเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่ผ่านมาเพื่อประท้วงขอขึ้นค่าแรง ขณะที่หลายฝ่ายออกมาแสดงความกังวลว่า ข้อพิพาทระหว่างพนักงานและนายจ้างที่โรงงานดังกล่าวจะยืดเยื้อยาวนานจนส่งผลกระทบต่อธุรกิจของโตโยต้าในจีน ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นตลาดยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก บริษัท Tianjin FAW Toyota Motor มีกำลังการผลิตรถยนต์ต่อปีที่ 420,000 คัน และในปีที่ผ่านมา บริษัทผลิตรถได้ 380,000 คัน โดยโตโยต้ามีโรงงานประกอบรถยนต์ 4 แห่งในจีนได้แก่ เมืองฉางชุน เฉิงตู กวางโจว และเขตเทศบาลนครเทียนจิน ทั้งนี้ ในปีงบการเงิน 2552 ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา โตโยต้าทำยอดขายในจีนเพิ่มขึ้น 34.6% จากปีก่อนหน้านี้ แตะที่ 759,000 คัน ขณะที่ยอดขายทั่วโลกลดลง 1.4% มาอยู่ที่ 7,291,000 คัน
  12. ImageShack.us บาท/ดอลลาร์ภาคเช้าแข็งค่า, จีนปล่อยหยวนยืดหยุ่นมากขึ้น หนุนเงินภูมิภาค (21-06-53) *บาท/ดอลลาร์ภาคเช้าแข็งค่าตามสกุลเงินภูมิภาค หลังแนวโน้มการเพิ่มความ ยืดหยุ่นให้กับค่าเงินหยวน ส่งผลให้มีแรงซื้อสกุลเงินเอเชีย *ดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นกว่า 1% และยูโรแตะระดับสูงสุดรอบ 4 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียวันนี้ ขณะที่นักลงทุน มองว่า ความมุ่งมั่นของจีนที่จะปล่อยให้หยวนยืดหยุ่นมากขึ้นนั้น เป็นสัญญาณ การเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง *จีนเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่า จะทำให้อัตราแลกเปลี่ยนหยวน มีความยืดหยุ่น มากขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งบ่งชี้ว่า จีนพร้อมที่จะยกเลิกการผูกติดหยวน กับดอลลาร์สหรัฐ ที่ดำเนินมา 23 เดือน *สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นด้วย ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนลงกว่า 1% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สิงคโปร์ สู่ระดับอ่อนสุดในรอบ 5 เดือน ที่ 1.3697 ดอลลาร์ *ยูโรในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบดอลลาร์ โดยปรับตัวขึ้นมากสุดเมื่อเทียบเป็นรายสัปดาห์ ในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่ผู้นำยุโรป เผยว่า จะเผยแพร่รายละเอียดเกี่ยวกับ สถานะของธนาคารยุโรป *ความวิตกเกี่ยวกับฐานะการคลังของประเทศในยูโรโซน ลดลงไปบ้างใน สัปดาห์ที่ผ่านมา และทำให้นักลงทุนเข้าซื้อยูโร โดยตลาดคลายความวิตกต่อ ฐานะการคลังของสเปนไปบ้าง หลังจากสเปนดึงดูดผู้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลได้ ในการประมูลเมื่อสัปดาห์ก่อน *09.15 น. บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 32.29/32 จาก 32.38/43 เมื่อวันศุกร์ ขณะที่ใน offshore อยู่ที่ 32.305/335 จาก 32.39/41 เมื่อวันศุกร์ *เยน/ดอลลาร์ อยู่ที่ 90.77/79 จาก 90.73 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ *ยูโร/ดอลลาร์ อยู่ที่ 1.2399/02 จาก 1.2374 ในตลาดนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ "เปิดแข็งค่าขึ้นมาพอสมควร สกุลอื่นก็แข็งค่าขึ้นมาหมด จากเรื่องของจีนที่ ประกาศว่า จะให้หยวนยืดหยุ่นมากขึ้น" ดีลเลอร์ กล่าว เขา กล่าวว่า การเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับค่าเงินหยวน ส่งผลให้มีแรงซื้อ สกุลเงินเอเชีย รวมถึงเงินบาท เข้ามาค่อนข้างมากในวันนี้ แต่มองว่ายังเป็นเพียง การเก็งกำไรระยะสั้น เพื่อรอความชัดเจนในระยะต่อไป ทำให้เงินบาทวันนี้ ยัง ไม่น่าผ่านแนวต้านที่ 32.28 ส่วนแนวรับอยู่ที่ 32.40 แหล่งที่มา (โดย สะตะวสิน สถาพรชาญชัย รายงานและเรียบเรียง--บร--)
  13. ราคาทองคำแตะนิวไฮ หลังนักลงทุนยังวิตกเศรษฐกิจโลก Posted on Monday, June 21, 2010 นักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่าราคาทองคำอาจทะยานสู่ระดับ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องรวม 12% นับตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา และสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในขณะนี้ ขณะที่นักลงทุนกำลังไม่มั่นใจเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งมีข้อมูลเศรษฐกิจทั้งดีและไม่ดีปะปนกัน รวมถึงยุโรปซึ่งกำลังเผชิญกับวิกฤตหนี้สิน นักลงทุนจึงหันมาลงทุนในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า นักวิเคราะห์กล่าวว่าราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนให้ราคาโลหะเงิน พัลลาเดียม และพลาตินัม ซึ่งเป็นโลหะมีค่าแต่ก็มีการใช้ในภาคอุตสาหกรรม ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนั้นยังช่วยหนุนให้หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ในตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน - ทองคำ ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดที่ 1,258.30 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+9.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์) - เงิน ส่งมอบเดือนกรกฎาคม ปิดที่ 19.184 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+0.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
  14. หน้าเทาขาว--ขายช่วงสั้น หน้าแดง--ซื้อช่วงสั้น Uploaded with ImageShack.us
  15. ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 9.70 ดอลลาร์สหรัฐ โดยปิดที่ระดับ 1,257.20ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากก่อนหน้านี้ตัวเลขทางเศรษฐกิจบางตัว ไม่ได้สะท้อนการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง เช่น จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่พุ่งขึ้นถึง 12,000 ราย เป็นระดับ 472,000ราย ขณะเดียวกันนักลงทุนยังจับตาแนวทางในการแก้ปัญหาหนี้ในยุโรป
  16. กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว 卖 ---ขาย ตัวหนังสือสีแดง买----ซื้อ เส้นสีแดงหนา---ขาขึ้น เส้นสีเขียวหนา---ขาลง ขวาบน เส้นสีแดง---เสนอซื้มากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น แท่งเขียว---แรงขายลง ขวาช่องสอง แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง แท่งสีเขียว---เพดาน แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้
  17. น้ำมะระขี้นก ส่วนผสม 1. เนื้อมะระขี้นก 30 กรัม (3 ลูก) 2. ใบเตยหอมตากแห้ง 15 กรัม (1 ช้อนคาว) 3. น้ำต้มสุก 200 กรัม (14 ช้อนคาว) 4. เกลือป่น 1 กรัม (5 ช้อนชา) 5. น้ำมะนาว 15 กรัม ( ครึ่งลูก) วิธีทำ 1. นำมะระขี้นำล้างให้สะอาด ผ่าซีก แกะเอาเมล็ดออกหั่นเป็นชิ้นยาวๆ บาง ๆ ตามขวางของผลมะระ 2. นำใบเตย หั่นเป็นท่อนสั้น ๆ ตากแห้งแล้วคั่วให้เหลืองกรอบ เก็บในขวดปากกว้าง 3. เอามะระขี้นกใบเตยหอมและน้ำ ใส่ในหม้อต้มให้เดือด หรือถ้าไม่อยากต้มจะใส่ในถ้วยแก้ว ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วนำมาดื่มได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะขมเวลาดื่ม เพราะแก้ไขด้วยการเอาใบเตยหอมและน้ำมะนาวมาผสม ช่วยได้ดี ช่วยกลบความขมของมะระขี้นกได้มาก ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอสูงมาก ช่วยบำรุงสายตา คุณค่าทางยา น้ำคั้นผลมะระ เมื่อดื่มจะช่วยลดการเกิดต้อกระจก ซึ่งเป็นอาการจากโรคเบาหวาน ช่วยเจริญอาหาร ลดน้ำตาลในเลือด ลดไข้ แก้อาการข้ออักเสบ บำรุงน้ำดี
  18. ไม่ไปจ้า...ส่วนต้นผักเชียงดาได้รับความอนุเคราะห์จากคุณดักแด้ให้ญาติส่งจากทางเหนือมาให้ หากไม่มีอุบัติเหตุคงได้รับในต้นสัปดาห์หน้า ขอขอบคุณ-คุณดักแด้มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
  19. สเปนเล็งประเดิมเผยผล stress test ชาติแรกใน EU Posted on Friday, June 18, 2010 สเปนเล็งประเดิมเผยผล stress test ชาติแรกใน EU การตัดสินใจเปิดเผยผล stress test ภาคธนาคารของสเปนกำลังสร้างแรงกดดันให้ประเทศเพื่อนบ้านในยุโรปต้องทำตาม เมื่อนักลงทุนอยากเห็นความโปร่งใสด้วยการเปิดเผยระดับความเสี่ยงที่ธนาคารกำลังแบกเอาไว้ในขณะนี้ ผู้ว่าแบงก์ชาติสเปน Miguel Angel Fernandez Ordonez บอกว่า ธนาคารจะรายงานผลการทดสอบความเข้มแข็งภาคการเงินแก่สาธารณชน เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลมากขึ้นสำหรับสถานะทางการเงินของแบงก์ต่างๆ ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังแดนกระทิงดุได้ให้สัมภาษณ์ว่า ทางการจะเปิดเผยผลการทดสอบเป็นรายธนาคาร หลังจากที่ผลกระทบวิกฤติการณ์หนี้ของกรีซถูกจับตาว่าได้ลุกลามไปถึงสถานะทางการคลังและต้นทุนในการจัดการภาคการเงินของประเทศ โดยเฉพาะสถาบันการเงินที่อิงอยู่กับมูลนิธิต่างๆ และกำลังเผชิญกับหนี้เสียเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมา ธนาคารกลางสเปนได้เข้ายึดกิจการของผู้ปล่อยกู้สองแห่งนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงิน พร้อมกันนั้นก็ได้บีบให้ธุรกิจที่มีปัญหาดำเนินการควบรวมกิจการกันก่อนที่จะมาแบมือขอเงินช่วยเหลือจากภาครัฐต่อไป นาย Francisco Gonzalez ที่เป็นประธานธนาคารรายใหญ่อันดับสองของประเทศ อย่าง Banco Bilbao Vizcaya Argentaria ออกมาพูดในสัปดาห์นี้ว่า เขาสนับสนุนการจัดทำและเปิดเผยผลการทดสอบความเข้มแข็งภาคการเงินหรือ stress test นี้ ท่ามกลางความกังวลว่า ตลาดทุนของประเทศมีความใกล้ชิดกับธุรกิจธนาคารและและบริษัทโดยทั่วไป Gonzalez บอกด้วยว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการที่จะเห็นประเทศในยุโรปอื่นๆ ดำเนินการในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ล่าสุด ผู้นำของประเทศในสหภาพยุโรป นำโดย ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นาย Nicolas Sarkozy ก็บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ประเทศในภูมิภาคจะทำ stress test สถาบันการเงินเป็นรายๆ ไป และจะมีการประกาศผลให้กับผู้คนได้รับทราบภายในเดือนกรกฎาคมนี้ หุ้นสหรัฐฯ ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี แม้ตัวเลขเศรษฐกิจไม่เอื้อ แรงซื้อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีหนุนให้ดัชนี S&P 500 ขึ้นมาปิดบวกได้สำเร็จในช่วงท้ายการซื้อขาย หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาสร้างความเคลือบแคลงว่าจะมีการฟื้นตัวได้ดีเพียงใด หุ้น Apple ที่บวกได้ 1.7% ขึ้นเป็นผู้นำหุ้นในกลุ่มขยับตัวสูงขึ้น หลังตลาดมีมุมมองที่สดใสสำหรับ iPhone เวอร์ชั่นใหม่ และหนึ่งในนั้นก็คือความเห็นของนักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ที่มองว่ายอดผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ IT ยอดฮิตนี้ อาจจะพุ่งขึ้นมากกว่า 3 เท่า มาที่ 100 ล้านคนภายในสิ้นปี 2554 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกกดดันในช่วงต้นการซื้อขาย หลังจากเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีสภาวะเศรษฐกิจขยายตัวน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ในเดือนพฤษภาคม ขณะที่สภาวะการผลิตเดือนมิถุนายนในภูมิภาค ซึ่งก็คือแถบเพนซิลวาเนีย ไปจนถึงทางตอนใต้ของนิวเจอร์ซีย์ และดีลาแวร์ ขยายตัวในอัตราต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยตัวชี้วัดทางด้านการจ้างงานภาคโรงงานร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ตัวเลขดังกล่าวถือว่าไปขัดแย้งกับรายงานของเฟดนิวยอร์กที่ออกมาในสัปดาห์นี้ เมื่อผลสำรวจโรงงานในแถบนั้นสามารถโชว์อัตราการขยายตัวที่เร็วขึ้น นอกจากตัวเลขภาคการผลิตที่ออกมาน่าผิดหวังเมื่อคืนนี้แล้ว รายงานเงินเฟ้อจากกระทรวงแรงงานก็ส่งสัญญาณสภาวะราคาที่แผ่วลงเช่นกัน ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ปรับตัวลง 0.2% ในเดือนพฤษภาคม ถือเป็นการลดลงเดือนที่สองติดต่อกันและเป็นอัตราการร่วงที่สูงสุดหากย้อนหลังไปจนถึงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว การแผ่วลงของตัวเลขเงินเฟ้อนี้มีผลให้นักเศรษฐศาสตร์ของบางสำนักต้องกลับไปทบทวนแนวโน้มคาดการณ์ดอกเบี้ยใหม่ นั่นก็รวมถึงนักเศรษฐศาสตร์ของค่าย JPMorgan Chase ที่เลื่อนคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดไปเป็นช่วงไตรมาส 4 ปี 2011 จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในไตรมาส 2 ปีเดียวกันนั้น อังกฤษเล็งยุติการจัดสรรงบด้านการพัฒนาให้จีน-รัสเซีย รัฐบาลอังกฤษเตรียมยุติการให้เงินช่วยเหลือแก่จีนและรัสเซียในโครงการจัดหาเงินเพื่อการพัฒนาในต่างประเทศกว่า 90 ประเทศ เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะจีนที่ขึ้นชื่อว่า เป็นประเทศที่มีอัตราการขยายตัวเร็วที่สุดในโลก ขณะที่รัสเซียก็เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศผู้นำของโลก แอนดรู มิทเชลล์ รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศของอังกฤษกล่าวว่า เงินทุนที่เคยจัดสรรให้จีนกับรัสเซียจะถูกส่งให้กับประเทศที่สามารถนำเงินไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากที่สุดแทน โดยเฉพาะประเทศที่ดำเนินโครงการสำคัญๆ อาทิ โครงการด้านสุขภาพ การต่อสู้กับโรคร้าย และการเพิ่มโอกาสให้สตรีมีทางเลือกในการตัดสินใจเรื่องการมีบุตร นอกจากนี้ มิทเชลล์กล่าวว่า นอกเหนือจากการยุติการให้เงินช่วยเหลือแก่จีนและรัสเซียแล้ว อังกฤษจะลดหรือยกเลิกโครงการด้านการพัฒนาที่ด้อยประสิทธิภาพในประเทศอื่นๆ ด้วยเช่นกัน โดยในปี 2551-2552 จีนได้รับเงินช่วยเหลือจากอังกฤษ 40 ล้านปอนด์ ขณะที่รัสเซียได้รับเงิน 190,000 ปอนด์ ซึ่งในปีนี้ อังกฤษมีงบประมาณให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาในต่างประเทศอยู่ที่ 2.9 พันล้านปอนด์ ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในวันเดียวกับที่หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดียูเครนเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า รัสเซียเห็นชอบที่จะปล่อยเงินกู้ให้ยูเครนในวงเงิน 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ HSBC แนะปรับสมดุลด้านตลาดการเงินหลังวิกฤติ ผู้เชี่ยวชาญออกโรงแนะนักลงทุนและเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายในตลาดการเงินให้จดจำวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นไว้เป็นบทเรียน และควรปรับสมดุลการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพื่อกระตุ้นการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพในอนาคต สตีเฟ่น กรีน ประธานเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ กล่าวในระหว่างการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจยุโรป-จีนที่จัดขึ้นในกรุงปารีสว่า ขณะนี้ตลาดการเงินเป็นตลาดที่มีอิทธิพลถึงกันในระดับโลก ซึ่งหมายความว่าแต่ละประเทศต้องเพิ่มการให้ความร่วมมือระหว่างมากขึ้น กรีน กล่าวว่า "วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทำให้ทั่วโลกตระหนักว่า ตลาดไม่สามารถอยู่ด้วยนโยบายในประเทศเพียงลำพัง ขณะที่มาตรการกำกับดูแลก็เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างเสถียรภาพในตลาด เนื่องจากตลาดการเงินทั่วโลกเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาสภาพสังคม" นอกจากนี้ กรีนยังกล่าวถึงบทบาทของกลุ่มประเทศ G-20 ที่มีความโดดเด่นและมีความสำคัญมากขึ้นในการร่วมหาแนวทางกำกับดูแลด้านตลาดการเงิน ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้บ่งชี้ให้เห็นว่า ศูนย์กลางของโลกกำลังเปลี่ยนขั้วจากกลุ่มชาติตะวันตกไปยังตะวันออก พร้อมกันนี้ กรีนได้เรียกร้องให้การประชุมสุดยอด G-20 ที่กรุงลอนดอนให้ความสำคัญกับการควบคุมและกำกับดูแลด้านโครงสร้างในตลาดการเงินอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ กรีนระบุว่า จำเป็นต้องหาแนวทางที่ดีกว่าเดิมในการปรับสมดุลและกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกอย่างถูกต้อง แม้ว่าเป้าหมายดังกล่าวจะไม่สามารถทำได้สำเร็จในช่วงเวลาเพียงข้ามคืน แต่ทว่าอาจต้องใช้เวลานาน5-10 ปี" ทั้งนี้ กรีนเสริมว่า ตลาดการเงินจำเป็นต้องมีการปรับปรุงด้านมาตรการกำกับดูแลให้ดีขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจว่าระบบการเงินระหว่างประเทศจะสามารถกระตุ้นสภาพคล่องของเงินทุนได้ดีกว่าเมื่อช่วงครั้งที่ตลาดเผชิญกับวิกฤตการณ์ในช่วงที่ผ่านมา BOE อาจขึ้นดอกเบี้ยเป็นวิธีแรกในการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษเปิดเผยว่า ธนาคารกลางอาจถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเริ่มจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และตามด้วยการขายพันธบัตร อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางมองว่าการถอดถอนมาตรการกระตุ้นยังไม่มีความจำเป็นในขณะนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจอังกฤษยังไม่ฟื้นตัวขึ้นอย่างเต็มที่จากภาวะถดถอย นายคิงกล่าวว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษจะไม่ลังเลที่จะถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าจำเป็น โดยมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่การถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเริ่มจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และขายพันธบัตรในเวลาต่อมา ซึ่งการดำเนินการในลักษณะนี้จะทำให้อัตราดอกเบี้ยกลายเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% นับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่นายคิงส่งสัญญาว่าธนาคารกลางอังกฤษอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โตโยต้ายันการประท้วงไม่กระทบการประกอบรถในจีน โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ยืนยันว่าการผละงานประท้วงของพนักงานบริษัท Toyota Gosei Co. ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ให้กับโตโยต้า จะไม่ส่งผลกระทบต่อการประกอบรถยนต์ของโตโยต้า หนิว หยู โฆษกของโตโยต้า ไชน่า ในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า การประท้วงของพนักงานที่โรงงาน Tianjin Star Light Rubber and Plastic Co. ในเมืองเทียนจินได้ยุติลงแล้ว และจนถึงตอนนี้การประกอบรถยนต์ยังไมได้รับผลกระทบแต่อย่างใด นายโทโมทากะ อิโตะ โฆษกของ Toyota Gosei กล่าวว่า การประท้วงที่โรงงาน Tianjin Star Light Rubber and Plastic Co. เริ่มขึ้นเมื่อวันอังคารและยุติลงในวันพุธ หลังจากที่บริษัทยอมทบทวนโครงสร้างการจ่ายค่าแรงให้พนักงาน 800 คน ส่วนการผลิตเริ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงบ่ายวันพุธแม้จะเป็นวันหยุดราชการก็ตาม แม้จีนจะไม่ค่อยพูดถึงเรื่องปัญหาแรงงานที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในระยะหลัง แต่เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ก็ได้แสดงความกังวลออกมา โดยเขาได้เตือนให้นายจ้างปฏิบัติกับแรงงานต่างด้าวซึ่งเป็นเหมือนกระดูกสันหลังของภาคอุตสาหกรรมจีนให้ดีกว่านี้ KFC ขึ้นค่าแรงให้พนักงานจีนตามข้อเรียกร้อง ตัวแทนของเคเอฟซีในเมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน ตัดสินใจลงนามในสัญญาแรงงานร่วมฉบับแรกที่บริษัททำในประเทศจีน โดยยินยอมขึ้นค่าแรงให้พนักงานและทำตามข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานในท้องถิ่น สัญญาดังกล่าวระบุว่า พนักงาน KFC ราว 2,000 คนจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำ 900 หยวน (131.7 ดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้นจากข้อเสนอเดิมที่ 700 หยวนต่อเดือน และได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น 5% ทุกปี ผู้บริหาร Yum! Brands Inc. ในเมืองเสิ่นหยาง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเคเอฟซี 57 สาขา และร้านพิซซ่าฮัท 11 สาขา ยอมรับว่าบริษัทได้รับแรงกดดันหลังจากที่สื่อรายงานเรื่องการเจรจาระหว่างบริษัทกับสหภาพแรงงานในท้องถิ่น บริษัทระบุในแถลงการณ์เมื่อต้นเดือนว่า พนักงานส่วนมากในเสิ่นหยางได้เงินเดือนเกิน 900 หยวนอยู่แล้ว ดังนั้นการเซ็นสัญญาแรงงานครั้งนี้จึงไม่ได้หมายความว่า บริษัทจำเป็นต้องขึ้นเงินเดือนในทันที ต้วน หยาง รองประธานสหภาพแรงงานเสิ่นหยาง กล่าวว่า การลงนามในสัญญาแรงงานร่วมถือเป็นบรรทัดฐานสำคัญสำหรับการแก้ปัญหาค่าแรงระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง นอกจากนั้นยังเป็นการยืนยันว่าลูกจ้างในธุรกิจบริการอย่างร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดก็มีสิทธิได้รับการขึ้นเงินเดือนทุกปี
  20. ราคาน้ำมันดิบปิดลบ หลังยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานพุ่งเกินคาด Posted on Friday, June 18, 2010 ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน ก.ค. ปรับลดลง0.88 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 76.79 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปัจจัยลบที่มีผลต่อราคาน้ำมัน - ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานของสหรัฐฯปรับเพิ่มขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 472,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 450,000 ราย เนื่องจากอุตสาหกรรมภาคการผลิต การก่อสร้าง และการศึกษา พากันลดอัตราการจ้างงาน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าจำนวนคนว่างงานที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ - ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของรัฐฟิลาเดลเฟีย ปรับลดลงจากระดับ 21.4 ในเดือน พ.ค. มาอยู่ที่ระดับ 8.0 ในเดือน มิ.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในเขตฟิลาเดลเฟียซึ่งเป็นหนึ่งในเขตอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งที่สุดของสหรัฐฯ ยังคงอ่อนแอ ปัจจัยบวกที่มีผลต่อราคาน้ำมัน + ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. ปรับลดลงในอัตราสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี โดยปรับลดลง 0.2% ส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะถูกตรึงในระดับต่ำต่อไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ + ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากรัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนจากการออกพันธบัตรงวดใหม่อายุ 10 ปี และ 30 ปี ได้ได้เกือบ 3.5 พันล้านยูโร ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์การเงินในยุโรป + ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดบวกเพียงเล็กน้อย 24.71 จุด หรือ 0.24% แตะที่ระดับ 10,434.17 จุด จากแรงหนุนของข่าวที่ว่ารัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนเป็นจำนวนมาก ในการประมูลพันธบัตรงวดใหม่ แต่ได้รับแรงกดดันจากตัวเลขยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานของสหรัฐฯที่ปรับเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือน ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.54 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 78.68 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบดูไบ ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 1.28 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 75.98 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันเบนซินสำเร็จรูป ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ และราคาน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ หลังจากที่หน่วยผลิตน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯประสบปัญหาต้องปิดซ่อมบำรุงชั่วคราว ราคาน้ำมันดีเซลสำเร็จรูป ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ ประกอบกับความต้องการน้ำมันดีเซลเพื่อผลิตไฟฟ้าในช่วงฤดูร้อนได้ปรับเพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง - สนับสนุนข้อมูลโดยบมจ. ไทยออยล์ -
  21. นักลงทุนหันซื้อทองดันราคาพุ่ง18 ดอลล์ วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2010 เวลา 07:29 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) พุ่งขึ้นถึง 18.20ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยทองโคเม็กซ์ปิดที่ระดับ 1,248.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนหันมาซื้อทองคำเพราะผิดหวังต่อข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากที่มีการประกาศตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 12 มิ.ย. พุ่งขึ้น 12,000 ราย ไปอยู่ที่ระดับ 472,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 450,000 ราย โดยปริมาณการซื้อขายทองคำที่มีจำนวนมาก ได้ส่งให้ราคาทองคำขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,252.80 ดอลลาร์
  22. ให้เพื่อนๆสังเกตุกราฟตาแป๊ะด้านซ้ายบนของวันนี้กับของวันก่อน ช่องซ้ายบนถูกชนจนกราฟเพี้ยนเปลี่ยนทิศทางไปเลยครับ กราฟวันก่อน Uploaded with ImageShack.us กราฟเช้าวันนี้ Uploaded with ImageShack.us
×
×
  • สร้างใหม่...