ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

ilovecgf

ขาใหญ่
  • จำนวนเนื้อหา

    5,298
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

  • วันที่ชนะ

    1

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย ilovecgf

  1. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 7 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงจากเมื่อคืนนี้เล็กน้อยหลังจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เนื่องจากตัวเลขขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวออกมาดีกว่าต่อเนื่อง แต่ในเช้าวันนี้ราคาทองได้รับแรงหนุนจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่สหรัฐฯ มีการยิงขีปนาวุธ เพื่อตอบโต้ซีเรีย หลังจากซีเรียได้มีการใช้อาวุธเคมีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายในสัปดาห์นี้ และคืนนี้ติดตามตัวเลขภาคการจ้างงานสหรัฐฯ Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 3.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.28% โดยปิดที่ 1,251.30 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,249.35 – 1,258.96 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,265 เหรียญ ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยในเมื่อคืนนี้หลังจากโดนกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากตัวเลขขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลงต่อเนื่องแสดงถึงภาคการจ้างงานที่แข็งแกร่ง แต่ว่าอย่างไรก็ตามในเช้าวันนี้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ได้ยิงขีปนาวุธ เพื่อตอบโต้ซีเรียที่มีการใช้สารเคมีที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคนในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีจีน ทำให้ต้องติดตามเหตุความไม่สงบนี้อย่างใกล้ชิด และช่วยหนุนราคาทองให้ปรับตัวขึ้นแรงมากกว่า 1% และในคืนนี้ติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 1.1 % ในวันพฤหัสบดี และปิดตลาดในแดนบวกเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ยังคงกังวลกับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ • ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี แต่การปรับตัวขึ้นเป็นไปอย่างจำกัดก่อนการประชุมสุดยอดเป็นเวลา 2 วันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันพฤหัสบดีและศุกร์นี้ และก่อนการเปิดเผยรายงานการจ้างงานของสหรัฐในวันศุกร์นี้ นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้เพื่อดูว่า ตลาดแรงงานสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอหรือไม่ที่จะปรับตัวรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปีนี้ • ยูโรร่วงลง 0.2% สู่ 1.0646 ดอลลาร์ หลังร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์จากความเห็นของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ระบุว่า เขายังไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องปรับแนวนโยบายของอีซีบีในขณะนี้ • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 3.50 ดอลลาร์ สู่ 1,251.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการว่างงานที่ต่ำเกินคาด และนักลงทุนบางรายขายทำกำไรทอง หลังจากราคาทองพุ่งขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ • เหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศซีเรีย • ตัวเลขภาคการจ้างงานในคืนนี้ • Strategy : trading long ได้เปรียบต่อเนื่อง และหากไม่หลุด 1,261 เหรียญ อาจจะเป็นจังหวะเข้า long แต่ถ้าหลุดให้รอ Smart Stock Today Strategy: ผันผวนระหว่างวัน สำหรับการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้เราคาดการณ์ว่ามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบๆ และมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบาง ซึ่งเป็นผลมาจากวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่เกิดขึ้นในช่วงตลอดสัปดาห์หน้า รวมทั้งปัจจัยกดดันจากภายนอกประเทศโดยเฉพาะประเด็นด้านความมั่นคงระหว่างประเทศทั้งการก่อการร้ายและสงครามกลางเมืองในซีเรียซึ่งสหรัฐฯ เริ่มใช้กำลังทางทหารต่อซีเรียรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเมื่อเช้าตามเวลาไทยมีการโจมตีด้วยขีปนาวุธในซีเรีย ส่งผลให้สถานการณ์ความมั่นคงดูจะรุนแรงขึ้นและส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาพบรรยากาศการลงทุน มีแนวโน้มที่จะกดดันให้มีแรงขายเกิดขึ้นในตลาดโดยเฉพาะช่วงเปิดตลาด ดังนั้นนักลงทุนต้องจับตามองประเด็นนี้เป็นพิเศษระหว่างวัน ด้านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 ในวันพุธที่ผ่านมาก่อนที่ตลาดจะปิดทำการเมื่อวานนี้นั้นเริ่มเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบระหว่าง 993-998 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 995.90 จุด -0.2 จุด ภาพการเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับ SET index ซึ่งปิดตลาดบริเวณ 1,582.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เริ่มกลับเข้าสู่เกณฑ์ปกติที่ 43,456.54 ล้านบาท โดยเป็นเเรงขายสุทธิจากนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ -279.53 ล้านบาท, นักลงทุนรายย่อยทั่วไปในประเทศ -1,192.64 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างประเทศมีมุมมองที่สวนทางออกไปโดยซื้อสุทธิ +370.28 ล้านบาท ซึ่งเรามองว่าเเม้นักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องเเต่ปริมาณเริ่มเบาบางลง ซึ่งเราคาดว่าเม็ดเงินลงทุนบางส่วนไหลเข้าสู่ตลาดตราสารหนี้โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลและตลาดเงินซึ่งสะท้อนผ่านค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 34.58 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการซื้อขายในวันนี้เราแนะนำให้นักลงทุนชะลอหรือลดสถานะการลงทุนไปก่อนเนื่องจากตลาดมีแนวโน้มที่จะผันผวนไร้ทิศทางจากหลายปัจจัยได้แก่ 1.ความมั่นคงระหว่างประเทศ(-) 2.ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่ฟื้นตัวค่อนข้างโดดเด่นบริเวณ 52.50 USD/bb(+) และ 3.มูลค่าการซื้อขายในช่วงปลายสัปดาห์ใกล้วันหยุดเทศกาลสงกรานต์ในสัปดาห์หน้าซึ่งส่งผลลบต่อมูลค่าการซื้อขายระหว่างวัน(-) • Strategy : Wait & See, ตลาดมีแนวโน้มเคลื่อนไหวผันผวนจากหลายปัจจัย, อัตราผลตอบแทนที่คาดการณ์ไม่คุ้มความเสี่ยง ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่ฟื้นตัวค่อนข้างโดดเด่น (52.50 USD/bbl) ข่าวในประเทศ - ธนาคารแห่งประเทศไทย ลงนามเจรจา QABs กับฟิลิปปินส์: ธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารกลางฟิลิปปินส์ ได้ร่วมลงนามในเอกสารแสดงความประสงค์เข้าร่วมการเจรจาทวิภาคีเพื่อจัดตั้งการทำกรอบมาตรฐานธนาคารอาเซียน หรือ Qualified ASEAN Banks (QABs) ระหว่างไทยและฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการยกระดับการรวมตัวภาคการธนาคารในอาเซียน โดยจะเปิดโอกาสให้ธนาคารพาณิชย์ของทั้งสองประเทศเข้าสู่ตลาดระหว่างกันได้บนหลักการต่างตอบแทนและมีความยืดหยุ่นในการประกอบธุรกิจมากยิ่งขึ้น - ต้นทุนส่งออกพุ่ง 6-7% 'เอ็กซิมแบงก์' แนะเอกชนปรับตัวหาเทรดเดอร์ใหม่แก้ลำสหรัฐฯ กีดกันการค้าไทย: กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ผลกระทบต่อการส่งออกไทยไปยังสหรัฐฯ จะไม่มากจนน่าตกใจหากสหรัฐฯ สอบสวนการขาดดุลการค้ากับ 16 ประเทศ รวมทั้งไทย เพราะสินค้าที่ส่งออกโดยตรงบางอย่างไม่สามารถหาแหล่งผลิตทดแทนได้และซื้อจากไทยได้ราคาดีที่สุด - MINT ส่งสัญญาณฟื้นตัว ท่องเที่ยวบูม-บุ๊กพิเศษ: MINT ก้าวผ่านช่วงวิกฤต ส่งสัญญาณฟื้นตัว ตามอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้น ขณะที่แนวโน้มธุรกิจในต่างประเทศหนุน จับตาบุ๊กกำไรพิเศษขายอสังหาในภูเก็ต ดันงบไตรมาสแรกพุ่ง อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  2. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 5 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) ติดตามรายงานการประชุมเฟด ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,255.23 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,251.76 – 1,257.28 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำแกว่งตัวในช่วงบ่ายวันนี้ในกรอบประมาณ 6 เหรียญ โดยแกว่งในแดนลบส่วนใหญ่ หลังจากราคาขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดบริเวณ 1,261 เหรียญ แต่ยังเผชิญกับแรงขายทำกำไร ทำให้ราคาทองคำภาพในระยะสั้นมีโอกาสย่อตัวในวันได้ โดยปัจจัยที่กดดันราคาทองคือประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มออกมาพูดถึงประเด็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ ที่จะพยายามปรับลดกระบวนการ เพื่อเร่งการดำเนินการตามที่หาเสียงเมื่อปีก่อน ส่งผลให้ราคาทองเริ่มโดนกดดัน และตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มปิดบวกได้ แต่ทางเราเชื่อว่าภาพราคาทองคำในระยะกลางยังมีแนวโน้มที่ดี และต้องติดตามการรายงานการประชุมเฟดซึ่งถ้าหากไม่มีการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจจะช่วยหนุนให้ราคาทองปรับขึ้นต่อได้ แต่ถ้าไม่อาจจะได้เห็นราคาทองเริ่มพักฐานได้เช่นกัน หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - เจ.พี.มอร์แกนเปิดเผยผลสำรวจลูกค้าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฉบับล่าสุดในวันอังคาร โดยระบุว่า นักลงทุนปรับเพิ่มการถือครองสถานะขายในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาว ในขณะที่การพุ่งขึ้นของราคาพันธบัตรส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันอังคารว่า ยอดขาดดุลการค้าสหรัฐร่วงลง 9.6% สู่ 4.356 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. หลังจากแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีที่ 4.817 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. ในขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศชะลอตัวลง และปัจจัยนี้ส่งผลลบต่อยอดนำเข้า ทางด้านยอดส่งออกสินค้าสหรัฐได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจโลกที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐประกาศในวันอังคารว่า เขาจะปรับลดความยุ่งยากของระบบราชการ เพื่อจะได้เร่งรัดการอนุมัติโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน และกล่าวว่ามาตรการปรับปรุงถนน, อุโมงค์ และสะพานของเขาอาจจะมีขนาดสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมาตรการดังกล่าวเป็นหนึ่งในสิ่งที่เขาเคยให้สัญญาไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งในปี 2016 - ผลสำรวจภาคเอกชนบ่งชี้ในวันนี้ว่า กิจกรรมในภาคบริการของญี่ปุ่นขยายตัวในอัตราสูงสุดในรอบ 19 เดือนในเดือนมี.ค. ขณะที่ภาคธุรกิจปรับตัวดีขึ้น ซึ่งทำให้บริษัทต่างๆสามารถปรับเพิ่มราคาสินค้า - สำนักข่าวบีบีซีรายงานในวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษส่งสัญญาณว่า อาจจะมีการต่อเวลาให้ชาวอังกฤษและประชาชนของสหภาพยุโรป (อียู) สามารถเดินทางระหว่างกันได้อย่างเสรีต่อไป ในช่วงที่อังกฤษเริ่มถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคบริการ - ค่าเงินดอลลาร์ที่แกว่งเหนือ 100 จุด คำแนะนำ : trading long ยังน่าสนใจ แต่เพิ่มน้ำหนักระวังแรงขายทำกำไรมากขึ้น อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  3. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 5 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยระหว่างวันได้ไปทดสอบจุดสูงสุดใหม่ในรอบสัปดาห์ และทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบเดือนได้ โดยปัจจัยหนุนในช่วงนี้ยังคงเป็นปัจจัยการเมืองเป็นหลัก ทั้งทางฝั่งสหรัฐฯ และการเลือกตั้งในฝรั่งเศส แต่ว่าอย่างไรก็ตามราคาทองเริ่มย่อตัวลงหลังจากนายทรัมป์เริ่มเปิดเผยแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการปรับลดกฏระเบียบ และในคืนนี้ติดตามตัวเลข PMI ภาคบริการและรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดเป็นหลัก Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.62 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.21% โดยปิดที่ 1,255.47 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,253.71 – 1,261.15 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,254 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเมื่อคืนนี้ราคาทองคำได้ไปทดสอบจุดสูงสุดบริเวณ 1,261.15 เหรียญ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 1 สัปดาห์ แต่ยังไม่สามารถทดสอบจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 5 สัปดาห์ได้ที่บริเวณ 1,263.80 เหรียญ โดยปัจจัยหลักยังคงเป็นความไม่แน่นอนทางการเมืองซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเข้าพบกับประธานาธิบดีจีนในสัปดาห์นี้ รวมทั้งความกังวลถึงการเลือกตั้งฝรั่งเศสในปลายเดือนนี้ ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้ช่วยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคาทองย่อตัวท้ายตลาด ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเปิดเผยแผนการขนาดใหญ่สำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการปรับลดกฎระเบียบ และคืนนี้ติดตามรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของเฟด และตัวเลข PMI ภาคบริการ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากข่าวเหตุขัดข้องทางการผลิตน้ำมันในทะเลเหนือ และจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบกับผลิตภัณฑ์น้ำมันสหรัฐอาจปรับลดลง • เยนปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ และระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนครึ่งเมื่อเทียบกับยูโรในวันอังคาร ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อเยนซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความระมัดระวังเกี่ยวกับการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้บรรดานักลงทุนในตลาดยังรอการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐในวันศุกร์นี้ และการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในปลายเดือนนี้ • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 2.62 ดอลลาร์ สู่ 1,255.47 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ 1,261.15 ดอลลาร์ในระหว่างวัน อย่างไรก็ดี ราคาทองขยับลงจากจุดสูงสุดของวัน ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเปิดเผยแผนการขนาดใหญ่สำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการปรับลดกฎระเบียบ Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ • รายงานการประชุมของ FOMC • ตัวเลขภาคการจ้างงาน และตัวเลขผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) • Strategy : trading long ในกรอบขาขึ้นระยะสั้น แต่ให้ระวังแรงขายทำกำไรบริเวณจุดสูงสุดเดิม Smart Stock Today Strategy: ได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดในภาคเช้าบริเวณ 993 จุด โดยมีแรงขายกดดันสัญญาฯ ให้ลงไปทำจุดต่ำที่สุดในวันบริเวณ 990.80 จุด ก่อนมีแรงซื้อกลับในการซื้อขายภาคบ่ายและปิดตลาดที่ 996 จุด +2.9 จุด ภาพการเคลื่อนไหวมีความผันผวนชัดเจนกว่า SET index ซึ่งเคลื่อนไหวระหว่างวันนิ่งกว่าและปิดตลาดที่ 1,583.82 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ยังคงเบาบางต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ยปกติเพียง 37,273.47 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศ +1,194.22 ล้านบาท, บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +598.52 ล้านบาท เเละนักลงทุนต่างประเทศที่เริ่มซื้อสุทธิลดลงเพียง +83.46 ล้านบาท สะท้อนการชะลอการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่เเตกต่างกับนักลงทุนกลุ่มอื่นๆ โดยขายสุทธิสวนทาง -1,876.19 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำหรับการซื้อขายในวันนี้เราคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยและสัญญาซื้อขายล่วงหน้ายังคงซบเซาและยังคงขาดปัจจัยบวก/ลบ ที่โดดเด่นเพียงพอที่จะชี้นำตลาดได้ประกอบกับพรุ่งนี้ (และสัปดาห์หน้า) จะเป็นวันหยุดซึ่งจะส่งผลลบต่อมูลค่าการซื้อขายระหว่างวัน ด้านปัจจัยภายนอกยังคงมีภาพลบกดดันบรรยากาศการลงทุนอยู่พอสมควรทั้งประเด็นความมั่นระหว่างประเทศ, การเลือกตั้งฝั่งยุโรปและเสถียรภาพ/เอกภาพของรัฐบาลสหรัฐฯ รวมไปถึงการซ้อมรบร่วมทางทะเลระหว่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ • Strategy : Wait & See, มีแนวโน้มผันผวนและแกว่งตัวไร้ทิศทาง ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ติดตามรายงานการประชุม FED, ECB (6 เม.ย.) และการหารือระหว่างผู้นำสหรัฐฯ-จีนช่วงปลายสัปดาห์ ข่าวในประเทศ - คลังฟุ้งเบิกจ่ายงบ 60 พุ่ง: บัญชีกลางฟุ้งเบิกจ่ายภาพรวม 2 ไตรมาส ปีงบ 60 กระฉูดแตะ 1.45 ล้านล้านบาท ด้านเบิกจ่ายลงทุนพุ่ง 41.13% - ดัชนีความเชื่อมั่น SME เดือนกุมภาพันธ์วูบ: สสว.เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เดือน ก.พ. ร่วงจากเดือน ม.ค.เล็กน้อย อยู่ที่ระดับ 96.2 ชี้ยอดขายและการลงทุนทรงตัว สวนทางคาดการณ์ไตรมาสหน้าเพิ่มขึ้นที่เป็น 101.8 ยืนยันผู้ประกอบการยังมั่นใจ - ภาคครัวเรือนกังวลปัญหารายได้ กสิกรฯพบถูกเลิกจ้างเพิ่ม-ไม่ได้ปรับเงินเดือน แต่มุมมอง3เดือนข้างหน้าดีขึ้น: ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่า ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือนปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 45.0 ในเดือน มี.ค. 2560 จากเดิมที่ระดับ 45.3 ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากความกังวลต่อประเด็นรายได้และภาวะการมีงานทำ เรื่องเงินออม รวมถึงราคาสินค้า - ลงทะเบียนคนจนยอดทะลุ 9 แสนราย: ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเปิดเผยว่าเตรียมหารือกับกระทรวงการคลังว่าจะให้กลุ่มนักบวชมาลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยได้หรือไม่ หลังจากพบว่ามีพระและแม่ชีมาขอลงทะเบียน - (BANPUM17) BANPU ยิ้มราคาถ่านหินทะยาน/ลุยซื้อเหมืองอินโด-ออสเตรเลีย: BANPU ลั่นปี 2560 รายได้โตเด่น ขานรับราคาถ่านหินพุ่ง หนุนยอดขายทั้งปีแตะ 47 ล้านตัน ชี้ยอดขายถ่านหินล่วงหน้าทะลัก โชว์กลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพ-พัฒนาสินค้า หวังขยายฐานลูกค้าสู่ประเทศจีนมากขึ้น ซุ่มซื้อกิจการเหมืองอินโดนีเชีย-ออสเตรเลียแห่งใหม่ภายในปีนี้ พร้อมเร่งเครื่องพลังงานเต็มสูบ หวังปั๊มกำลังไฟฟ้าในมือ 4300 เมกะวัตต์ อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  4. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 4 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) ยังมีปัจจัยบวก ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่บริเวณ 1,255.57 USD/toz เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,254.51 – 1,260.09 USD/toz ภาพรวมราคาทองคำเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาขึ้นได้รับปัจจัยบวกจากประเด็นความมั่นคงระหว่างประเทศได้แก่ 1.ประเด็นการก่อการร้ายรถไฟใต้ดินที่รัสเซียเมื่อวานนี้ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน สะท้อนความเปราะบางของความมั่นคงระหว่างประเทศและการก่อการร้ายสากล 2.ประเด็นการซ้อมรบทางทะเลระหว่าง เกาหลีใต้ ญีปุ่นและสหรัฐฯ เพื่อป้องปรามการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลของเกาหลีเหนือ 3.คาดการณ์การเลือกตั้งฝั่งยุโรปหลายประเทศซึ่งยังไม่มีความชัดเจนฯ อย่างไรก็ตามเรามองว่าประเด็นทั้งหมดยังเป็นปัจจัยบวกให้ตลาดทองคำ สำหรับการประกาศดัชนีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อคืนประกาศค่อนข้าง +/- สลับกัน โดย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเเละดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตจาก ISM ประกาศค่อนข้างไม่โดดเด่นไม่มีนัยสำคัญเท่าใด ในขณะที่มุมมองของนักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR เพิ่มสถานะการลงทุนในทองคำเมื่อคืนนี้ +4.45 ตัน รวมถือครองทองคำ 836.77 ตัน โดยหากนับตั้งเเต่ต้นเดือน มีนาคม SPDR ปรับลดการถือครองทองคำจากระดับ 843.54 ตัน (ปรับลด 6.77 ตัน) สำหรับค่ำคืนนี้ติดตามการประกาศดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ ดุลการค้า, คำสั่งซื้อโรงงานและการสำรวจความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจจาก IBD/TIPP หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - ความกังวลปัจจัยการเมืองหนุนราคาทองคำปรับขึ้น: ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 4.22 ดอลลาร์ สู่ 1,252.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง อย่างไรก็ดี ราคาทองเคลื่อนตัวในกรอบแคบ เนื่องจากไม่มีสัญญาณใหม่เกี่ยวกับนโยบายการเงินของสหรัฐ และนักลงทุนรอดูตัวเลขเศรษฐกิจที่จะได้รับการรายงานออกมาในช่วงต่อไปในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาด COMEX ปิดปรับขึ้น 2.80 ดอลลาร์ สู่ 1,254.00 ดอลลาร์/ออนซ์ - ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังเปิดเผยตัวเลขยอดขายรถยนต์: ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับขึ้นในวันจันทร์ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ประเภทอายุ 10 ปี ดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน หลังจากมีการเปิดเผยตัวเลขยอดขายรถยนต์ที่ต่ำเกินคาดในสหรัฐฯ และนักลงทุนโยกย้ายเงินลงทุนเข้าสู่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในช่วงต้นไตรมาส ทั้งนี้ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปี ปิดปรับขึ้นราว 14/32 สู่ 99-04/32 โดยมีอัตราผลตอบแทน 2.35 % และราคาพันธบัตรอายุ 30 ปี ปิดปรับขึ้น 21/32 สู่ 100-10/32 โดยมีอัตราผลตอบแทน 2.984 % - ค่าเงินดอลลาร์ร่วงเมื่อเทียบค่าเงินเยนและยูโรจากความไม่แน่ใจการเมืองฝั่งสหรัฐฯ: ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนและยูโรในวันจันทร์ ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการสนับสนุนของสภาคองเกรสสหรัฐฯ ต่อนายนีล กอร์ซุซ ซึ่ง ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์เลือกให้เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกานั้น ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสามารถของ ปธน.ทรัมป์ในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วง 0.4% สู่ 110.90 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.2% สู่ 1.0670 ดอลลาร์ - น้ำมันดิบปรับตัวร่วงลงเพราะข่าวลิเบียเพิ่มปริมาณการผลิต: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า WTI(NYMEX) ร่วงลงในวันจันทร์ ในขณะที่ลิเบียปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันและปัจจัยลบนี้บดบังปัจจัยบวกที่ราคาน้ำมันได้รับจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในเอเชีย ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 36 เซนต์ หรือ 0.7 % มาปิดตลาดที่ 50.24 USD/bbl หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 50.12-50.83 ดอลลาร์ ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน มิ.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับลง 41 เซนต์ หรือ 0.8 % สู่ 53.12 USD/bbl ประเด็นที่ต้องติดตาม: - รายงานการประชุมของ FOMC, ECB (6 เม.ย.) คำแนะนำ : ฝั่ง Long ยังได้เปรียบ (Long Bias) อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  5. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 4 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 โดยปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนราคาทองในช่วงนี้เป็นปัจจัยทางด้านการเมืองสหรัฐฯ และความไม่สงบในรัสเซียที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่ในสัปดาห์นี้ยังคงต้องติดตามรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของเฟด และตัวเลขภาคการจ้างงานสหรัฐฯ ที่จะบ่งชี้ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อๆ ไป และเมื่อคืนนี้กองทุน SPDR กลับเข้าซื้อสะสมทองอีกครั้ง ทำให้ทองคำมีแนวโน้มที่ดีและแกว่งตัวในกรอบขาขึ้นระยะสั้นได้ต่อ Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.22 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.34% โดยปิดที่ 1,252.85 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,244.05 – 1,253.70 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,255 เหรียญ ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ เป็นหลัก ซึ่งในปลายสัปดาห์นี้ประธานาธิบดีทรัมป์จะเข้าพบกับประธานาธิบดีของจีน และนายทรัมป์ระบุถึงความเป็นไปได้ ที่จะใช้ประเด็นเรื่องการค้าชักจูงจีน ให้ร่วมมือกับสหรัฐฯ เพื่อต่อต้านเกาหลีเหนือ รวมทั้งความกังวลถึงความสามารถของนายทรัมป์ที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามที่หาเสียงหรือไม่ ผนวกกับมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในรัสเซียเมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้ง 3 ประเด็นจึงเป็นปัจจัยหนุนราคาทอง แต่อย่างไรก็ตามติดตามรายงานการประชุมของเฟดครั้งล่าสุด และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้เป็นหลัก ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทองคำ 4.45 ตัน รวมถือครอง 836.77 ตัน Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงในวันจันทร์ ในขณะที่ลิเบียปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน และปัจจัยลบนี้บดบังปัจจัยบวกที่ราคาน้ำมันได้รับจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในเอเชีย ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 36 เซนต์ หรือ 0.7 % มาปิดตลาดที่ 50.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 50.12-50.83 ดอลลาร์ • ตัวเลขเศรษฐกิจจากเอเชียบ่งชี้ว่า อุปสงค์พลังงานอาจจะอยู่ในระดับแข็งแกร่งในอนาคต ตัวเลขภาคการผลิตของโรงงานทั่วเอเชียเติบโตอย่างแข็งแกร่งในเดือนมี.ค. โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของจีนแสดงให้เห็นว่า ภาคโรงงานของจีนขยายตัวเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน • ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับเยนและยูโรในวันจันทร์ ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการสนับสนุนของสภาคองเกรสสหรัฐต่อนายนีล กอร์ซุซ ซึ่งปธน.โดนัลด์ ทรัมป์เลือกให้เป็นผู้พิพากษาศาลฎีกานั้น ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความสามารถของปธน.ทรัมป์ในการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ • บรรดานักลงทุนได้ปรับตัวรับโอกาสมากกว่า 50% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. • ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงในวันจันทร์ ในขณะที่นักลงทุนพยายามประเมินว่าจุดยืนในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้าของปธน.ทรัมป์ จะส่งผลกระทบอย่างไรบ้างต่อการประชุมระหว่างปธน.ทรัมป์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ • รายงานการประชุมของ FOMC • ตัวเลขภาคการจ้างงาน และตัวเลขผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) • Strategy : trading ในกรอบการขึ้นระยะสั้น โดยเน้นฝั่ง long เมื่อราคาย่อตัว Smart Stock Today Strategy: มีทั้งปัจจัยบวก/ปัจจัยลบ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 เมื่อวานนี้ยังสามารถเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ในกรอบราคาแคบๆ ระหว่าง 990.70 – 994.90 จุด ก่อนย่อตัวเล็กน้อยลงมาปิดตลาดที่ 993.20 จุด +3.2 จุด ภาพการเคลื่อนไหวไม่ค่อยหวือหวาเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังหมดปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบอารมณ์ตลาดในระยะสั้น ด้านดัชนี SET index ปิดตลาดในแดนบวกที่ 1,580.86 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางเพียงแค่ 31,184.45 ล้านบาทเท่านั้น สะท้อนความไม่เชื่อมั่นต่อการปรับขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทย โดยเป็นเเรงซื้อสุทธิจากกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ +1,293.40 ล้านบาท กลุ่มเดียวเท่านั้น ในขณะที่นักลงทุนกลุ่มอื่นมีมุมมองไปในทิศทางเดียวกันรวมขายสุทธิทุกกลุ่มประมาณ –1,300 ล้านบาท อย่างไรก็ตามการที่นักลงทุนต่างประเทศยังซื้อสุทธิสะสมในดัชนีตลาดหุ้นไทยนั้นได้สะท้อนมุมมองบวกที่โดดเด่นของดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ดีกว่าภูมิภาคเเละเราคาดว่าเป็นกระเเสเงินทุนที่ไหลเข้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากรายงานการประชุม FED, ECB ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยเเรงซื้อส่วนใหญ่เกิดขึ้นในหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่กลับมาฟื้นตัวระหว่างวัน ในขณะที่เงินทุนบางส่วนได้ถูกกระจายไปในหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการประการงบของไตรมาสล่าสุด อย่างไรก็ตามเรามองว่าปัจจัยบวกภายในประเทศยังพอมีให้ชื่นใจทั้ง ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจเดือนมีนาคมซึ่งปรับดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 52.6 สูงสุดในรอบ 2 ปี ที่ได้รับแรงหนุนจากการส่งออกที่โดดเด่น สำหรับการซื้อขายในวันนี้คาดว่าตลาดจะแกว่งตัวในกรอบที่จำกัดและมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบาง ประกอบการการปรับขึ้นของดัชนียังเป็นการปรับขึ้นที่ไม่ค่อยมีปริมาณการซื้อขายเข้ามารองรับและสวนทางกับนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาด • Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา, หากราคาเคลื่อนไหวเหนือ 993 จุด ฝั่ง Long น่าสนใจ ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ติดตามรายงานการประชุม FED, ECB (6 เม.ย.) ข่าวในประเทศ - ยอดส่งออกดีขึ้นหนุนสินเชื่อเดือนกุมภาพันธ์โต 3.9%: ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานภาวะการเงินในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาว่า สินเชื่อภาคเอกชนของสถาบันรับฝากเงินทั้งระบบไม่ว่าธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ มีวงเงินรวม 16.75 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน 3.9% ส่วนเงินฝากรวม ตั๋วแลกเงินทั้งระบบมี 18.1 ล้านล้านบาท ขยายตัว 3.5% - ดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจพุ่งสูงรอบ 2 ปี: ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือน มี.ค. 2560 ที่ผ่านมาว่า ดัชนีปรับดีขึ้น จากเดือนก่อนที่ระดับ 49.8 มาอยู่ที่ระดับ 52.6 สะท้อนว่าภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และเมื่อขจัดผลของปัจจัยชั่วคราวด้านฤดูกาลออก ดัชนีอยู่ที่ระดับ 51.0 ถือเป็นการปรับดีขึ้นสูงสุดในรอบ 24 เดือน สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ตามความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะผู้ส่งออกในกลุ่มธุรกิจกระดาษและการพิมพ์ การผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ กลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และการผลิตยานยนต์ตามทิศทางการส่งออกที่ปรับดีขึ้น - (KBANKM17)บัณฑูรแจง 'ธีรนันท์' ลาออกไม่กระทบแบงก์กสิกรฯ: นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า นายธีรนันท์ ศรีหงส์ ได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในธนาคาร แต่ไม่กระทบกับการบริหารงานที่เคยดูแลเพราะธนาคารทำงานเป็นทีม ขณะนี้ยังไม่ได้แต่งตั้งใครขึ้นมาแทน ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และประธานกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (เคบีทีจี) ขอใช้เวลาพิจารณาระยะหนึ่ง อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  6. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 3 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) ติดตามตัวเลข PMI ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,247.90 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,244.05 – 1,249.88 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวจากกรอบการย่อตัวในคืนวันศุกร์ และในวันนี้ราคาทองคำแกว่งในกรอบแคบๆ บวกลบสลับกันประมาณ 5 เหรียญ โดยปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองคือตัวเลขภาคการใช้จ่ายของสหรัฐฯ ออกมาใกล้เคียงเดิม รวมทั้งท่าทีของประธานเฟดสาขาย่อยที่กล่าวว่าจะไม่เร่งรีบใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน ทำให้ทองฟื้นตัวได้เล็กน้อย แต่ว่าอย่างไรก็ตามคืนนี้ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ซึ่งถ้าออกมาชะลอตัวอาจจะช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อได้ และในสัปดาห์นี้ต้องติดตามรายงานการประชุมของเฟด และตัวเลขภาคการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่มีโอกาสสร้างความผันผวนให้ราคาทองได้ หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - นายเบนัวท์ เคอร์ สมาชิกคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวในวันนี้ว่า อีซีบีมองไม่เห็นหลักฐานบ่งชี้ว่า การดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแข็งกร้าวสร้างความเสียหายต่อเสถียรภาพทางการเงินในปัจจุบัน ถึงแม้มีความกังวลเรื่องอัตราผลตอบแทนที่ระดับต่ำมากในพันธบัตรบางรายการก็ตาม - นายปีเตอร์ แพรท หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า นโยบายการเงินของอีซีบีในปัจจุบันนี้ยังคงมีความเหมาะสม นายแพรทกล่าวในวันที่ 27 มี.ค.ในการให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์ Expansion ของสเปนฉบับวันนี้ว่า นโยบายการเงินในปัจจุบันสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนปรับเข้าใกล้ระดับเป้าหมายซึ่งอยู่ต่ำกว่า 2% เล็กน้อย - ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเม็ดเงิน 6.1899 แสนล้านหยวน (8.993 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ระบบการเงินโดยผ่านทางเครื่องมือสภาพคล่องระยะสั้นและระยะกลางในเดือนมี.ค. โดยพุ่งขึ้นเกือบ 50% จากเดือนก.พ. ในขณะที่ตลาดการเงินกังวลกับภาวะขาดแคลนเงินสด - กระทรวงพลังงานของรัสเซียเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผลผลิตน้ำมันของรัสเซียอยู่ที่ 11.05 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมี.ค. ลดลง 200,000 บาร์เรลต่อวันจากเดือนต.ค. - ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยผลสำรวจทังกันในวันนี้ โดยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทผู้ผลิตขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้นเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน โดยพุ่งขึ้นสู่ +12 ในเดือนมี.ค. ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง และสิ่งนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่นกำลังส่งผลบวกในวงกว้างมากยิ่งขึ้น - ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยผลสำรวจทังกันในวันนี้ โดยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของบริษัทผู้ผลิตขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้นเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน โดยพุ่งขึ้นสู่ +12 ในเดือนมี.ค. ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง และสิ่งนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่นกำลังส่งผลบวกในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคการผลิต - ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเหนือ 100 จุด คำแนะนำ : trading long เป็นหลักหากราคาไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ บริเวณ 1,239 เหรียญ อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  7. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 3 เมษายน 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยราคาได้แรงหนุนในคืนวันศุกร์หลังจากตัวเลขภาคการใช้จ่ายของสหรัฐฯ ออกมาใกล้เคียงเดิม และเริ่มมีแนวโน้มจะชะลอตัวลง รวมทั้งประธานเฟดสาขานิวยอร์ค ได้ออกมาแสดงความเห็นในเชิงผ่อนคลาย และไม่รีบเร่งคุมเข้มนโยบายทางการเงิน ส่งผลให้ราคาทองฟื้นตัวได้ท้ายตลาด และในสัปดาห์นี้ติดตาม ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อของสหรัฐฯ (PMI) รายงานการประชุมครั้งล่าสุดของ FOMC และ ตัวเลขภาคการจ้างงานในปลายสัปดาห์ Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.73 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.46% โดยปิดที่ 1,248.63 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,239.55 – 1,250.61 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,248 เหรียญ ราคาทองได้รับแรงหนุนในช่วงคืนวันศุกร์ หลังจากตัวเลขดัชนีราคาและภาคการใช้จ่ายในสหรัฐฯ ประกาศออกมาใกล้เคียงเดิมและมีแนวโน้มชะลอตัวลง รวมทั้งประธานเฟดสาขาย่อยออกมาพูดว่าเฟดไม่เร่งรีบที่จะคุมเข้มนโยบายการเงิน ส่งผลให้ราคาทองฟื้นตัวได้ช่วงท้ายตลาด และกลับมาปิดบวกได้ โดยสัปดาห์นี้ต้องติดตาม ตัวเลขดัชนี้ผู้จัดการฝ่ายซื้อของสหรัฐฯ (PMI) รายงานประชุมของ FOMC และตัวเลขภาคการจ้างงานในคืนวันศุกร์ โดยภาพรวมราคาทองคำยังมีแรงซื้อกลับเมื่อราคาปรับลง เพราะ ปัจจัยเสี่ยงทางด้านการเมืองสหรัฐฯ และการเลือกตั้งฝรั่งเศส ยังคงต้องติดตามต่อเนื่อง Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันศุกร์ แต่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง หลังจากปรับขึ้นมานานติดต่อกัน 3 วัน ในขณะที่จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น และส่งผลให้อุปทานน้ำมันโลกล้นตลาดมากยิ่งขึ้น • ดอลลาร์ทรงตัวในวันศุกร์ หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นในเชิงผ่อนคลายนโยบาย และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ไม่สดใสมากนักส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในดอลลาร์ • ยูโรดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ และดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดของวันเมื่อเทียบกับเยน หลังการแสดงความเห็นของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์คซึ่งระบุว่า เฟดไม่เร่งรีบที่จะคุมเข้มนโยบายการเงิน ความเห็นของเขาออกมาหลังจากข้อมูลบ่งชี้ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐอ่อนแอเกินคาด ซึ่งแสดงว่าชาวอเมริกันยังคงชะลอการใช้จ่าย โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือน ก.พ. • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 5.73 ดอลลาร์ สู่ 1,248.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ และปิดตลาดไตรมาสแรกด้วยการพุ่งขึ้น 8.4 % จากไตรมาส 4/2016 ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 1 ปี ในขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับความไม่แน่นอนในแผนภาษีและการลงทุนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และกังวลกับการเลือกตั้งในฝรั่งเศส Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ • รายงานการประชุมของ FOMC • ตัวเลขภาคการจ้างงาน และตัวเลขผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) • Strategy : trading long เป็นหลัก Smart Stock Today Strategy: เผชิญแรงขาย ภาพรวมการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ก่อนค่อนข้างสวนทางกับการเคลื่อนไหวของดัชนีอื่นๆ ในภูมิภาคที่ปรับตัวลดลงตลอดสัปดาห์(ก่อนที่จะมีแรงเทขายในวันศุกร์ในขณะที่ตลาดอื่นๆ เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดสัปดาห์) โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับปัจจัยบวกจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าอย่างมีนัยสำคัญตลอดสัปดาห์ในทุกตลาด ทั้งตลาดตราสารทุน, ตลาดตราสารหนี้และตลาดอนุพันธ์ รวมไปถึงตลาดเงินด้วย สะท้อนความน่าสนใจที่โดดเด่นและดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติมากกว่าดัชนีตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 ในวันศุกร์ที่ผ่านมาเปิดตลาดที่ 996.60 จุด ก่อนมีแรงขายทำกำไรกดดันลงไปทำจุดต่ำที่สุดในวันบริเวณ 986.40 จุด และปิดตลาดในแดนลบที่ 990.40 จุด -4.5 จุด ถือว่าเป็นการปรับตัวลงลึกพอสมควร ภาพการเคลื่อนไหวเช่นเดียวกับดัชนี SET index ซึ่งปิดตลาดในแดนลบเช่นกัน บริเวณ 1,575.11 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันประมาณ 38,033.69 ล้านบาท โดยเป็นเเรงขายหลักมาจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศที่ขายสุทธิ -601.43 ล้านบาท เเละเเรงขายสุทธิจาก นักลงทุนต่างประเทศ -286.68 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเรามองว่าแม้นักลงทุนต่างประเทศจะกลับมาขายสุทธิแต่ก็ถือว่ายังไม่มากเท่าใดและยังมีสถานะซื้อสุทธิตลอดเดือนมีนาคม +3,604.32 ล้านบาท ประกอบกับกระแสเงินที่ไหลเข้าในตลาดเงินยังสะท้อนผ่านค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องสวนทางกับดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นปัจจัยบวกต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม อย่างไรก็ตามการแข็งค่าดังกล่าวก็ส่งผลลบต่อความน่าสนใจในกลุ่มอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลักแต่เราเชื่อว่าไม่นานตลาดจะปรับตัวเข้าสู่ดุลภาพเนื่องจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่พึ่งพาการส่งออกส่วนใหญ่ทำการป้องกันความเสี่ยงด้านค่าเงินด้วยอนุพันธ์ทางการเงินไว้แล้ว เพียงแต่นักลงทุนบางส่วนอาจยังไม่ทราบและเทขายหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวออกไปก่อน สำหรับการซื้อขายในวันนี้เรามองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวออกข้างและมีแรงขายกดดันให้ปรับตัวลดลงโดยเฉพาะจากปัจจัยด้านการสิ้นสุดการทำ Window Dressing ไตรมาส 1/60 • Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา Upside จำกัด, ให้น้ำหนักฝั่ง Short Position (Short Bias) ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าที่สุดในรอบ 20 เดือน บริเวณ 34.29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ข่าวในประเทศ - ชงแผนประมูลแหล่งก๊าซ ดันเข้า ครม.ปลายเดือนนี้-ตั้งเป้าจบก่อนสิ้นปี "นักวิชาการ"แนะกรรมการศึกษาบรรษัทฯ น้ำมันต้องไร้คู่ขัดแย้ง: กรมเชื้อเพลิงฯ เร่งทำแผนคำนวณผลประโยชน์ชง ครม.ปลายเดือนนี้ เคาะรูปแบบเปิดประมูล 2 แหล่งก๊าซหมดอายุ เลือก "สัมปทาน" หรือ "แบ่งปันผลผลิต" เพื่อดำเนินการให้เสร็จภายในสิ้นปี "นักวิชาการ" แนะโครงสร้างกรรมการศึกษาตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ ต้องไม่มีตัวแทนความขัดแย้งเข้าร่วม - ดัชนีเชื่อมั่นอสังหาฯ ไทย ปี60 แผ่ว: ดีดี พร็อพเพอร์ตี้ เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยปี 60 ต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ลดลงสวนกระแสตลาดเพื่อนบ้านเหตุเจอปัจจัยเสี่ยงรุมรอบด้าน - หนี้ครัวเรือนปรับตัวลดลงจากปีก่อน แนวโน้มปีนี้จะลดลงต่อเนื่อง: ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ หนี้ครัวเรือนปี 2559 ลดลงเหลือ 79.9% จากปีก่อน 81.2% เหตุสินเชื่อนอนแบงก์หดตัวและสถาบันการเงินระมัดระวังตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอคาดปีนี้จะปรับลดลงเหลือประมาณ 78.5-80% ต่อจีดีพี - (BTSM17)BTSพื้นฐานแกร่ง-ธุรกิจฟื้นสวย: BTS ราศีจับ! ลุ้นภาครัฐเซ็นสัญญาสายสีชมพู-เหลืองเร็วๆ นี้ หนุนธุรกิจสดใส ฟันธงปี 2560 ธุรกิจหวนฟื้นตัวแรง รับธุรกิจโฆษณา-คอนโดร่วมทุน-รับรู้ส่วนต่อขยายสายสีเขียว อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  8. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงหลังจากถูกกดดันโดยค่าเงินดอลลาร์ที่ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ก่อนที่จะทำจุดสูงสุดในรอบ 9 วันได้ และราคากลับมาเคลื่อนไหวเหนือ 100 จุดได้ โดยปัจจัยสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์ คือตัวเลข GDP สหรัฐฯ ที่ประกาศออกมาดีกว่าคาดการณ์ และดีกว่าครั้งก่อน และประธานเฟดสาขาย่อยให้น้ำหนักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ตามเดิม แต่ราคาทองก็ปรับลดลงไม่มากเนื่องจากปัจจัยความเสี่ยงการเมืองฝั่งยุโรปก็ยังคงต้องติดตาม Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 9.05 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.72% โดยปิดที่ 1,242.90 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,242.21 – 1,253.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,241 เหรียญ ราคาทองได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่ฟื้นตัวและทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 9 วัน โดยเมื่อคืนนี้ค่าเงินดอลลาร์ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 2 ปัจจัยหลักๆ คือ 1. ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (GDP) ไตรมาส 1/2560 ประกาศออกมาที่ 2.1% มากกว่าคาดการณ์ที่ 2.0% 2. ประธานเฟดสาขาชิคาโก้ เห็นด้วยกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ราคาทองปรับลดลงไม่มากเนื่องจากยังมีความกังวลเรื่องการเมืองฝั่งยุโรป คือ ประเด็นการออกจากยูโรโซนของประเทศอังกฤษ และ การเลือกตั้งของฝรั่งเศสในเดือนหน้า และวันนี้ติดตามตัวเลขดัชนีราคาของสหรัฐฯ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดีเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และได้ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 3 สัปดาห์ในระหว่างวัน หลังจากคูเวตสนับสนุนให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ต่ออายุมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไป • ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอในยูโรโซนถ่วงยูโรร่วงลง ยูโรร่วงสู่ระดับ 1.0681 ดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. และดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ 100.52 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค • ยูโรร่วงลงหลังข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีและสเปนชะลอตัวลงรุนแรงเกินคาดในเดือนมี.ค. ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซาของยูโรโซนอาจดำเนินต่อไป ส่วนในสหรัฐนั้น ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวเกินคาดในไตรมาส 4/2016 อันเป็นผลจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง • ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก โดยนายอีแวนส์กล่าวว่า เขาเห็นด้วยกับเพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่ของเขาในการสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • ดัชนีราคาของสหรัฐฯ • Strategy : trading ในกรอบการอ่อนตัว ในระยะกลางรอสะสม long เมื่อปรับลดลงแรง Smart Stock Today Strategy: ระวังแรงขายทำกำไร ดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวปรับตัวขึ้นค่อนข้างโดดเด่นสวนทางกับดัชนีตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งเคลื่อนไหวและปิดตลาดในแดนลบเป็นส่วนมาก ในขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าทั้งในตลาดตราสารทุน, ตลาดตราสารหนี้และตลาดอนุพันธ์ อย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ โดยเรามองว่าการเคลื่อนไหวที่สวนทางกับตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคพร้อมทั้งกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าอย่างต่อเนื่องสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่มีมุมมองบวกต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยมากกว่าตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค ประกอบกับแรงซื้อในหุ้นใหญ่กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่นำตลาด จากคาดการณ์การทำ Window Dressing สิ้นไตรมาส 1/60 โดยดัชนี SET index เมื่อวานนี้ปิดตลาด ในแดนบวกที่ 1,579.88 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่หนาเเน่นอย่างมีนัยสำคัญถึง 51,767.28 ล้านบาท โดยเป็นเเรงซื้อหลักจากนักลงทุนต่างประเทศซึ่งซื้อสุทธิถึง +10,662.23 ล้านบาท รวมมีสถานะซื้อสุทธิในดัชนี SET index ตลอดเดือน +3,891 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนกลุ่มอื่นมีมุมมองสวนทางขายสุทธิรวมกันประมาณ -10,000 ล้านบาท ปัจจัยนี้ให้ความเห็นว่าการปรับขึ้นของดัชนีไม่สอดรับกับมุมมองของนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดดังนั้นอาจมีเเรงขายทำกำไรบางส่วนในวันนี้หรือในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อรอปัจจัยพื้นฐานให้สามารถปรับตัวตามดุลยภาพของตลาดได้ ในส่วนของสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50M17 เคลื่อนไหวในแดนบวกตั้งแต่เปิดตลาดในภาคเช้าขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 998 จุด ก่อนปิดตลาดบวก +2.3 จุด ที่ 995.20 จุดอย่างไรก็ตามสำหรับการซื้อขายในวันนี้เรามองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญแรงขายทำกำไรบางส่วนกดดัน ประกอบกับเป็นวันศุกร์ปลายสัปดาห์ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางเป็นปกติโดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์นี้ซึ่งอาศัยแรงหนุนจากกระแสเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติและแรงหนุนจากการทำ Window Dressing ของนักลงทุนสถาบันภายในประเทศเท่านั้น ในขณะที่ปัจจัยบวกระยะกลางอื่นๆ ยังไม่โดดเด่น • Strategy : หากราคาเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 990 จุด ฝั่ง Long ได้เปรียบ, Upside เริ่มจำกัด ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ราคาน้ำมันดิบ WTI(NYMEX) ที่เริ่มฟื้นตัวอาจเป็นปัจจัยบวกกลุ่มพลังงานภายในประเทศ ข่าวในประเทศ - รายได้รัฐ 5 เดือนแรกเกินเป้า1.6%: คลังเผยเก็บรายได้รัฐบาล 5 เดือนแรก ปีงบ 60 เกินเป้าหมาย 1.4 หมื่นล้านบาท หรือ 1.6% โดยการจัดเก็บรายได้จาก 3 กรมภาษีต่ำเป้าราว 2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ การนำส่งรายได้รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นสูงกว่าประมาณการกว่า 3 หมื่นล้านบาท - ไทยถกรัฐบาลทรัมป์ครั้งแรก 3 เม.ย. : กระทรวงพาณิชย์จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะมนตรีภายใต้กรอบความตกลงการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐ ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ประจำปี 60 วันที่ 3 เม.ย.นี้ ที่กรุงเทพฯ เป็นการหารืออย่างเป็นทางการครั้งแรก กับสหรัฐ ภายใต้รัฐบาลใหม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ถือเป็นโอกาสดีในการหารือเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือระหว่างกัน ในลักษณะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ ที่ทั้ง 2 ฝ่ายสนใจและเป็นประโยชน์ร่วมกัน - (CBGH17)'คาราบาว'กรุ๊ปปีนี้ รายได้โต20-25% : CBG ลุยลงทุนเพิ่มกำลังผลิตกระป๋องหลังขายดีจนกำลังผลิตไม่พอ หวังปีนี้รายได้โต 20-25% โดยเปิดเผยว่า ในปี 60 บริษัทตั้งเป้ารายได้จะเติบโตประมาณ 20-25% ขณะที่กำไรปีนี้จะดีขึ้นจากปีก่อน จากการเติบโตของธุรกิจทั้งในและต่างประเทศที่เติบโตดี โดยธุรกิจในประเทศหลังจากในปี 2559 บริษัททยอยเพิ่มจำนวนหน่วยรถกระจายสินค้า (Cash Van) เป็น 31 คัน จะเข้ามาช่วยสร้างยอดขายปีนี้เต็มปีเฉลี่ย 3 หมื่นบาท/วัน/คัน อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  9. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) ติดตาม “จีดีพี” สหรัฐฯ ราคาทองคำเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าที่ 1,250.52 USD/toz เคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มขาขึ้นระหว่าง 1,247.55 – 1,251.46 USD/toz ภาพการเคลื่อนไหวถือว่ามีทั้งแรงซื้อและแรงขายสลับกัน โดยทองคำยังคงถือได้ว่าได้รับปัจจัยบวกจากความกังวลเรื่องความไม่แน่นอนทางการเมืองฝั่งยุโรปซึ่งมีโอกาสที่ผลการเลือกตั้งจะไม่เป็นไปตามคาดการณ์ของตลาดเดิม รวมทั้งความไม่มั่นใจในประสิทธิภาพของประธานาธิบดีทรัมป์ในทางปฏิบัติว่าจะสามารถเป็นผู้นำฝ่ายบริหารได้อย่างเด็ดขาดเหนือฝ่ายนิติบัญญัติได้ ในส่วนของมุมมองนักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR ยังคงมุมมองถือครองทองคำสุทธิไว้ที่ระดับ 833.51 ตัน ติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ซึ่งเรามองว่าการถือสถานะทองคำดังกล่าวก็สอดคล้องกับภาพการเคลื่อนไหวของทองคำที่เริ่มมีแรงขายทำกำไรและแกว่งตัวออกข้างในกรอบราคา โดยเราเชื่อว่านักลงทุนบางส่วนตอบรับข่าวต่างๆ ทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบหลักๆ ไปแล้วระดับหนึ่ง ดังนั้นทองคำมีแนวโน้มทีจะเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวออกข้างในแนวโน้มขาขึ้นเล็กน้อย สำหรับการเปิดสถานะในค่ำคืนนี้ ขอให้ติดตามตัวเลขดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะ จีดีพีขั้นสุดท้ายไตรมาส 4/59, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีราคา รวมไปถึงถ้อยแถลงสมาชิก FOMC(Kaplan) ซึ่งมีความสำคัญต่อการชี้นำการเคลื่อนไหวของทองคำพอสมควร หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลง: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลงในวันพุธท่ามกลางภาวะซื้อขายเบาบาง โดยถูกกดดันจากความไม่แน่ใจเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปี ปิดที่ 100-64/256 โดย มีอัตราผลตอบแทน 2.9872% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี ปิดที่ 98-216/256 โดยมีอัตราผลตอบแทน 2.3819% - ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าจากความเห็นเจ้าหน้าที่เฟดหนุนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก: ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันพุธโดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และยุโรป รวมทั้งนักลงทุนมองว่า ค่าเงินดอลลาร์เผชิญแรงขายมากเกินไปแล้ว หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่สามารถผลักดันร่างกฏหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยูโรร่วงลงสู่ 1.0741 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับ ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ 100.13 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. - ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบหนุนราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวพุ่งขึ้น 2.4%: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า WTI(NYMEX) ปรับพุ่งขึ้น 2.4 % ในวันพุธ ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับขึ้นน้อยเกินคาด ด้านลิเบียยังคงประสบปัญหาขัดข้องในการส่งออกน้ำมัน และประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีแนวโน้มที่จะต่ออายุข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไป ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือ น พ.ค.พุ่งขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.4 % มาปิดตลาดที่ 49.51 USD/bbl - ราคาทองคำขยับขึ้นขณะตลาดที่จับตา Brexit: ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ขยับขึ้น 43 เซนต์ สู่ 1,251.95 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันพุธและเคลื่อนตัวอยู่ใต้จุดสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ทำไว้ในวันจันทร์ที่ 1,261.03 USD/toz โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนในการเจรจาเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปหรือ Brexit และจากความไม่แน่นอนในการเลือกตั้งในฝรั่งเศส รวมไปถึงความไม่แน่นอนในนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยบวกเหล่านี้ช่วยบดบังการแข็งค่าของดอลลาร์ที่ปรับขึ้นกดดันทองคำ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือน เม.ย.ที่ตลาด COMEX ปิดลดลง 1.90 ดอลลาร์ ที่ 1,253.70 USD/toz ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน - ค่ำคืนนี้ติดตามจีดีพีขั้นสุดท้ายสหรัฐฯ คำแนะนำ : เปิดสถานะในกรอบให้น้ำหนักฝั่ง Long Position เป็นหลัก (Long Bias) อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  10. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยราคาทองเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ และขาดปัจจัยที่ชัดเจนในช่วงนี้ โดยปัจจัยกดดันคือค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และทำจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ได้ แต่อย่างไรก็ตามราคาทองก็ได้รับปัจจัยหนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองทั้งทางฝั่งสหรัฐฯ และทางฝั่งยุโรปที่มีทั้งประเด็นการออกจากยูโรโซนของประเทศอังกฤษ และการเลือกตั้งของประเทศฝรั่งเศสในเดือนหน้า Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.43 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.03% โดยปิดที่ 1,251.95 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,246.75 – 1,254.66 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,250 เหรียญ ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบแคบ ประมาณ 8 เหรียญในเมื่อวานนี้ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และทำจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ได้ แต่ว่าอย่างไรก็ตามราคาทองก็ได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนทางการเมืองทั้งทางฝั่งสหรัฐฯ และฝั่งยุโรป ที่มีทั้ง การออกจากยูโรโซนของอังกฤษ และการเลือกตั้งของฝรั่งเศสที่ใกล้เข้ามาถึงในเดือนหน้า แต่ในช่วงสั้นนี้ราคาทองยังขาดปัจจัยที่ชัดเจนที่จะทำให้ราคาทองแกว่งผันผวนแรง และในวันนี้ติดตามตัวเลข GDP สหรัฐฯ เป็นหลัก หากผิดคาดการณ์มาก อาจจะเป็นปัจจัยให้ราคาทองแกว่งผันผวนได้ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้น 2.4 % ในวันพุธ ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับขึ้นน้อยเกินคาด, ลิเบียยังคงประสบปัญหาขัดข้องในการส่งออกน้ำมัน และประเทศผู้ผลิตน้ำมันมีแนวโน้มที่จะต่ออายุข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไป • ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐและยุโรป และนักลงทุนมองว่า ดอลลาร์เผชิญแรงขายมากเกินไปแล้ว หลังปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ไม่สามารถผลักดันร่างกฏหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพในสัปดาห์ที่ผ่านมา • ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากความเห็นของนายชาร์ลส อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐขยับขึ้น 43 เซนต์ สู่ 1,251.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ และเคลื่อนตัวอยู่ใต้จุดสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ทำไว้ในวันจันทร์ที่ 1,261.03 ดอลลาร์ โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนในการเจรจาเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit, จากความไม่แน่นอนในการเลือกตั้งในฝรั่งเศส และจากความไม่แน่นอนในนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และปัจจัยบวกเหล่านี้ช่วยบดบังการแข็งค่าของดอลลาร์ Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • ตัวเลขการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ (GDP) • Strategy : trading ในกรอบการอ่อนตัว ระยะกลางฝั่ง long ยังน่าสนใจ Smart Stock Today Strategy: เปลี่ยนมาถือซีรี่ย์ M (S50M17) ดัชนีตลาดหุ้นไทยกลับมาเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวออกข้างและเริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง หลังจากที่ภาพการเคลื่อนไหวตลอดสัปดาห์ได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดไทย ทำให้กลุ่มตลาดเกิดใหม่รวมทั้งไทยเคลื่อนไหวและปิดตลาดในแดนบวกเป็นส่วนมาก โดยที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยค่อนข้างโดดเด่นกว่าตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ เริ่มทรงตัวจากความไม่มั่นใจต่อศักยภาพของประธานาธิบดีทรัมป์ หลังฝ่ายนิติบัญญติคว่ำร่างกฎหมายอเมริกันเฮลแคร์ สำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้ เปิดตลาดบริเวณ 997.50 เคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่างวัน 2-3 จุด และปิดตลาด +0.1 จุด ที่บริเวณ 998 จุด ลักษณะการเคลื่อนไหวระหว่างวันคล้ายคลึงกับดัชนี SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,574.97 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่ยังคงเบาบางตามเดิมเพียง 36,901.85 ล้านบาท เป็นเเรงขายของกลุ่มนักลงทุนรายย่อยภายในประเทศ -1,923.13 ล้านบาท, บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ -300.28 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างประเทศเริ่มซื้อสุทธิน้อยลงเพียง +156.62 ล้านบาท เท่านั้น โดยปัจจัยที่เข้ามากระทบระหว่างวันคงหนีไม่พ้นประเด็นที่ กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี หลังพิจารณาว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตดีกว่าที่คาดการณ์ สำหรับการซื้อขายในวันนี้เราแนะนำให้เปลี่ยนมาถือซีรีย์ M (S50M17) แทนซีรีย์ H (S50H17) ที่ครบกำหนดสิ้นอายุสัญญาลงไป • Strategy : เปิดสถานะในกรอบราคา, เป้าทำกำไร/ตัดขาดทุน สั้นๆ รอประเด็นใหม่ๆ ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ติดตามกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าทั้งในตลาดตราสารทุน, ตลาดตราสารหนี้และตลาดอนุพันธ์ ข่าวในประเทศ - ต่างชาติซื้อหุ้นไทยหมื่นล้านหนีความเสี่ยงนโยบายทรัมป์ไม่ชัด: ทุนต่างชาติไหลเข้าทั้งสัปดาห์เฉียด 1 หมื่นล้านบาท ดันหุ้นอันทัชนิวไฮรอบปี “เมย์แบงก์” ชี้ความเสี่ยงต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนโยบายทรัมป์ ส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง ขณะที่เศรษฐกิจและบจ.ไทยแนวโน้มเติบโตดี ด้านเคทีบีแนะเพิมน้ำหนักหุ้นขนาดใหญ่ พร้อมประเมินดอกเบี้ยสหรัฐฯ อาจปรับขึ้นช่วงไตรมาส 2 - แนะไทยเร่งลงทุน 5G รองรับ4.0 ชี้หากล่าช้าจะเสียโอกาสสร้างรายได้นับแสนล้าน: หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะสมาคมจีเอสเอ็มเปิดเผยว่าการลงทุนเทคโนโลยีมีทั้งความท้าทายและความเสี่ยงถ้าต้องรอเหมือนตอนเปลี่ยนยุค 2G มา 3G ที่ต้องใช้เวลา 20 ปี ประเทศจะเดินหน้าไม่ทันดังนั้น ไม่ใช้แค่ผู้ให้บริการโครงข่ายหรือ ภาคเอกชนที่ให้บริการเป็นผู้ลงทุน แต่ภาครัฐควรเร่งวางโครงสร้างพื้นฐานให้ทั่วถึงและเพิ่มจำนวนคลื่นความถี่ที่เหมาะสมกับการใช้งานและควรลงมือทันทีไม่ใช่รออีก 3-5 ปี แล้วค่อยเดินหน้า - (CKH17) CK แบ็กล็อกทะลักแสนล้าน ลุ้นชิงรถไฟฟ้าทุกเส้นทาง : CK จ่อร่วมวงชิงงานไฟฟ้าทุกเส้นทาง ตั้งเป้าคว้างานไม่ต่ำกว่า 20-25% ของมูลค่างานทั้งหมด หวังอัพยอด Backlog ทะลักกว่า 1 แสนล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 8.3 หมื่นล้านลาท รับรู้รายได้ยาวต่อเนื่อง 3 ปีข้างหน้า ด้านบอร์ด PPP อนุมัติ 6 โครงการ เร่งประมูลปีนี้ มูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  11. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 29 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) เริ่มย่อ ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,251.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,246.75 – 1,253.38 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองแกว่งในกรอบบวกลบแคบๆ ประมาณ 7 เหรียญ โดยในบ่ายวันนี้ราคาทองแกว่งในแดนบวกเล็กน้อย ราคาทองได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือน รวมทั้งราคาน้ำมันที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวช่วยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยง แต่อย่างไรก็ตามวันนี้ต้องติดตามกระบวนการลงนามถอนตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ ซึ่งคาดว่าหากไม่มีอะไรผิดคาดการณ์ ก็จะไม่ส่งผลกระทบกับราคาทอง แต่ให้จับตาความคืบหน้าเรื่องนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นหลัก ที่มีโอกาสสร้างความผันผวนให้ตลาดการเงินทั่วโลกได้ และในวันติดตามยอดขายบ้านที่รอปิดการขายและตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ โดยคาดว่าภาพรวมราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่ดี แต่ระยะสั้นเสี่ยงต่อการขายทำกำไรช่วงสั้น หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาดวันนี้ ขณะที่อังกฤษเตรียมที่จะเริ่มกระบวนการออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่เข้าร่วมอียูในปี 1973 ณ เวลา 14.41 น.ตามเวลาไทย ดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปบวก 0.2% มาที่ 1,490.94 ส่วนดัชนี STOXX 600 บวก 0.14% - รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอาจจะร่วงลงก่อนกลางปีนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนในการออกกฎหมายในสหรัฐและการเลือกตั้งในยุโรป อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีแนวโน้มปิดตลาดปีนี้ด้วยการปรับขึ้น 7% จากปี 2016 - ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนครึ่งในวันนี้ ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปในปีนี้ ทางด้านปอนด์ได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า อังกฤษจะเริ่มกระบวนการอย่างเป็นทางการในการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit - รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า กิจกรรมภาคการผลิตของจีนมีแนวโน้มเติบโตในเดือนมี.ค.เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ในขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ดีดขึ้นอย่างพลิกความคาดหมาย และส่งผลให้เกิดภาวะเฟื่องฟูในภาคก่อสร้าง โดยทำให้ยอดขายวัสดุก่อสร้างซึ่งรวมถึงเหล็กกล้าและปูนซีเมนต์พุ่งสูงขึ้น - นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในวันอังคารว่า ผลกระทบที่เศรษฐกิจได้รับจากคณะผู้บริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงมีความไม่แน่นอนมากเกินไป ดังนั้นเฟดจึงไม่สามารถแสดงปฏิกิริยาต่อผลกระทบดังกล่าวได้ และไม่สามารถปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ใหม่ได้ในช่วงนี้ - บริษัทซีพีเอ็ม กรุ๊ประบุในวันอังคารว่า การลงทุนในทองแท่งจะเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันในปีนี้ ขณะที่คาดว่าปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจระดับโลกจะทำให้มีความสนใจซื้อทองต่อไป "นักลงทุนซึ่งเคยขายทองในปลายปี 2011 และต้นปี 2012 นั้น ได้กลับเข้ามาลงทุนแล้ว" ซีพีเอ็ม กรุ๊ประบุในรายงาน Gold Yearbook 2017 ซีพีเอ็มคาดว่า การลงทุนในทองแท่งจะอยู่ที่ 17.6 ล้านออนซ์ในปี 2017 พุ่งขึ้นจากระดับ 17.4 ล้านออนซ์ในปี 2016 และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งอยู่ที่ 29.2 ล้านออนซ์ ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ราคาน้ำมันที่เริ่มดีดกลับจากกำลังการผลิตที่ลดลงในลิเบีย - ค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน - กระบวนการ Brexit ในวันนี้ คำแนะนำ : trading ในกรอบการอ่อนตัว หรือระยะกลางรอ long เมื่อปรับตัวลดลงแรง อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  12. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 29 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) เริ่มย่อ ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,251.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,246.75 – 1,253.38 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองแกว่งในกรอบบวกลบแคบๆ ประมาณ 7 เหรียญ โดยในบ่ายวันนี้ราคาทองแกว่งในแดนบวกเล็กน้อย ราคาทองได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือน รวมทั้งราคาน้ำมันที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวช่วยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยง แต่อย่างไรก็ตามวันนี้ต้องติดตามกระบวนการลงนามถอนตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ ซึ่งคาดว่าหากไม่มีอะไรผิดคาดการณ์ ก็จะไม่ส่งผลกระทบกับราคาทอง แต่ให้จับตาความคืบหน้าเรื่องนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นหลัก ที่มีโอกาสสร้างความผันผวนให้ตลาดการเงินทั่วโลกได้ และในวันติดตามยอดขายบ้านที่รอปิดการขายและตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ โดยคาดว่าภาพรวมราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่ดี แต่ระยะสั้นเสี่ยงต่อการขายทำกำไรช่วงสั้น หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาดวันนี้ ขณะที่อังกฤษเตรียมที่จะเริ่มกระบวนการออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากที่เข้าร่วมอียูในปี 1973 ณ เวลา 14.41 น.ตามเวลาไทย ดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปบวก 0.2% มาที่ 1,490.94 ส่วนดัชนี STOXX 600 บวก 0.14% - รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอาจจะร่วงลงก่อนกลางปีนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนในการออกกฎหมายในสหรัฐและการเลือกตั้งในยุโรป อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีแนวโน้มปิดตลาดปีนี้ด้วยการปรับขึ้น 7% จากปี 2016 - ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนครึ่งในวันนี้ ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปในปีนี้ ทางด้านปอนด์ได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า อังกฤษจะเริ่มกระบวนการอย่างเป็นทางการในการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit - รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า กิจกรรมภาคการผลิตของจีนมีแนวโน้มเติบโตในเดือนมี.ค.เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน ในขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ดีดขึ้นอย่างพลิกความคาดหมาย และส่งผลให้เกิดภาวะเฟื่องฟูในภาคก่อสร้าง โดยทำให้ยอดขายวัสดุก่อสร้างซึ่งรวมถึงเหล็กกล้าและปูนซีเมนต์พุ่งสูงขึ้น - นายเจอโรม พาวเวล ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในวันอังคารว่า ผลกระทบที่เศรษฐกิจได้รับจากคณะผู้บริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงมีความไม่แน่นอนมากเกินไป ดังนั้นเฟดจึงไม่สามารถแสดงปฏิกิริยาต่อผลกระทบดังกล่าวได้ และไม่สามารถปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ใหม่ได้ในช่วงนี้ - บริษัทซีพีเอ็ม กรุ๊ประบุในวันอังคารว่า การลงทุนในทองแท่งจะเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันในปีนี้ ขณะที่คาดว่าปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจระดับโลกจะทำให้มีความสนใจซื้อทองต่อไป "นักลงทุนซึ่งเคยขายทองในปลายปี 2011 และต้นปี 2012 นั้น ได้กลับเข้ามาลงทุนแล้ว" ซีพีเอ็ม กรุ๊ประบุในรายงาน Gold Yearbook 2017 ซีพีเอ็มคาดว่า การลงทุนในทองแท่งจะอยู่ที่ 17.6 ล้านออนซ์ในปี 2017 พุ่งขึ้นจากระดับ 17.4 ล้านออนซ์ในปี 2016 และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งอยู่ที่ 29.2 ล้านออนซ์ ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ราคาน้ำมันที่เริ่มดีดกลับจากกำลังการผลิตที่ลดลงในลิเบีย - ค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน - กระบวนการ Brexit ในวันนี้ คำแนะนำ : trading ในกรอบการอ่อนตัว หรือระยะกลางรอ long เมื่อปรับตัวลดลงแรง อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  13. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 29 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากค่าเงินดอลลาร์ดีดกลับจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือนได้ในเมื่อวานนี้ โดยปัจจัยหนุนค่าเงินดอลลาร์นั้นคือ ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ประกาศในเมื่อคืนนี้ออกมาดีสุดในรอบกว่า 16 ปี รวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นช่วยหนุนสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้ทองคำเผชิญแรงขายทำกำไร แต่เชื่อว่าในระยะกลางราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่ดีต่อ ระยะสั้นอาจมีโอกาสพักฐาน Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 2.27 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.18% โดยปิดที่ 1,251.52 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,247.41 – 1,258.35 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,248 เหรียญ ราคาทองคำเริ่มปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากแรงซื้อกลับในค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยเมื่อคืนนี้มีประกาศตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค ที่ออกมาทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 16 ปี ทำให้ปัจจัยนี้ช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ ผนวกกับ ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงเนื่องจากจะมีการลงนามออกจากสหภาพยุโรปของประเทศอังกฤษ และราคาน้ำมันที่เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกำลังการผลิตที่ลดลงในลิเบีย ส่งผลให้เป็นปัจจัยหนุนในสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนคืนนี้ติดตามตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์ และสต็อกน้ำมันดิบ โดยคาดว่าราคาทองคำในระยะกลางยังมีแนวโน้มที่ดี แต่ระยะสั้นอาจจะถูกขายทำกำไรเพื่อพักฐานได้ และกองทุน SPDR มีการลดสถานะขายทองออกมาเมื่อวานนี้ 1.78 ตัน รวมถือครอง 833.51 ตัน Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.34 % ในวันอังคาร หลังจากลิเบียประสบปัญหาใหญ่ในการผลิตน้ำมัน และเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กับประเทศผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอาจจะต่ออายุมาตรการปรับลดการผลิตน้ำมันออกไปจนถึงสิ้นปีนี้ • แหล่งข่าวในบริษัทเนชั่นแนล ออยล์ คอร์ป (NOC) ของลิเบียรายงานว่า กลุ่มติดอาวุธได้ปิดกั้นการผลิตน้ำมันในแหล่งน้ำมันชาราราและวาฟาทางภาคตะวันตกของลิเบีย และส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันลดลง 252,000บาร์เรลต่อวัน หรือลดลงราว 1 ใน 3 • ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันอังคารโดยดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนขณะที่นายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองจากการที่อังกฤษจะเริ่มถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) นั้นกดดันสกุลเงินยุโรป • ดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 16 ปี • ราคาทองได้รับแรงกดดัน ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐ, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และตลาดหุ้นปรับสูงขึ้น Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • การลงนามออกสหภาพยุโรปของอังกฤษในวันนี้ • ตัวเลขการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ (GDP) • Strategy : trading ในกรอบการอ่อนตัว หรือระยะกลางรอ long เมื่อปรับลดลงแรง Smart Stock Today Strategy: แรงหนุนจาก Window Dressing สำหรับภาพการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ระหว่างดัชนี SET index และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า SET50(S50H17) ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยเรามองว่าเป็นผลมาจากการที่สัญญาฯ S50H17 ใกล้ถึงวันสิ้นสุดอายุแล้วประกอบกับภาพความชัดเจนของปัจจัยต่างๆ ยังคงไม่เกิดขึ้นทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจในการปรับขึ้นของดัชนี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับขึ้นที่มีแนวโน้มมาจากการทำ Window Dressing ในไตรมาส1/60 และกระแสเงินทุนไหลเข้าหลังนักลงทุนต่างชาติขาดความมั่นใจในมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งประสบปัญหาการคัดค้านจากฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นโดยไม่มีมูลค่าการซื้อขายที่สอดคล้องกันทำให้มีความอ่อนไหวและเปราะบางต่อปัจจัยกระทบ ซึ่งเรามองว่ามีโอกาสสูงที่อาจมีแรงขายทำกำไรบางส่วนเกิดขึ้นในตลาดตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์นี้เป็นต้นไป สำหรับสัญญาฯ S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดที่บริเวณ 998 จุด ปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 999.50 จุด สร้างกรอบการเคลื่อนไหวประมาณ 5 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 998 จุด +2.8 จุด การเคลื่อนไหวผันผวนระหว่างวันมากกว่าดัชนี SET index ซึ่งปิดตลาดที่ 1,576.72 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มมากขึ้นจากวันก่อนหน้าเเต่ก็ยังคงต่ำกว่าเกณฑ์ปกติที่สี่หมื่นล้านเพียง 38,903.60 เท่านั้น โดยยังคงเป็นเเรงซื้อสุทธิหลักจากกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศที่ซื้อสุทธิกว่า +1,675.69 ล้านบาท พร้อมทั้งมีสถานะซื้อในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 +876 สัญญา สะท้อนมุมมองบวกต่อดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่และกลุ่มธนาคารที่มีแนวโน้มจะได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ • Strategy : ฝั่ง Long Position ได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 997.50 จุด, ระวังแรงขายทำกำไร, ติดตามการประชุม กนง. ปัจจัยที่ต้องติดตาม - การประชุม กนง. 29 มี.ค. และการทำ Window Dressing ไตรมาส 1/60 - กระบวนการ BREXIT 29 มี.ค. ข่าวในประเทศ - ก.ล.ต.คุมเข้มหุ้นไอพีโอตีกันผู้มีอุปการคุณ: ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดสรรหุ้นไอพีโอ ให้กับผู้มีอุปการคุณและบุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์เพราะที่ผ่านมาพบว่าการซื้อขายหุ้นไอพีโอ ในหลายกรณีมีความร้อนแรง ส่วนหนึ่งเกิดจากหุ้นที่กระจุกตัวมากในกลุ่มผู้มีอุปการคุณที่ออกหลักทรัพย์ถึง 40-50% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขาย ซึ่งทำให้สามารถควบคุมปริมาณหุ้นจนนำไปสู่การสร้างราคาหุ้นสูงได้ง่ายและพบว่ามีรายชื่อผู้มีอุปการคุณซ้ำกันในการทำไอพีโอของบริษัทที่อยู่ต่างอุตสาหกรรมกัน - ทำธุรกิจในไทยง่ายขึ้นแน่ พาณิชย์มั่นใจธนาคารโลกประกาศ ต.ค.นี้อันดับดีกระโดด: พาณิชย์มั่นใจอันดับความยาก-ง่ายทำธุรกิจไทยปี 2561 ที่ธนาคารโลกจะประกาศในเดือน ต.ค.นี้ "โตแบบกระโดด" แน่ ตั้งเป้าติด 1 ใน 30 หลังเปิดให้จดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ครม.ปลื้ม แนวโน้มเศรษฐกิจไทยต้นปีเริ่มฟื้น ส่งออกกระเตื้อง อานิสงส์ตลาดคู่ค้าเริ่มคึกคัก - (MINTH17)‘ไมเนอร์ฯ’ รุกผุดช็อปรับกระแสฮิตอเนลโล่: ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น ผู้จัดจำหน่ายสินค้านำเข้ากระเป๋าอเนลโล่ เปิดเผยว่า บริษัทได้เซ็นสัญญากับบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์กระเป๋าอเนลโล่ แบรนด์จากญี่ปุ่นระยะ 5 ปี เพื่อเป็นผู้จัดจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการและทุ่มงบ 50 ล้านบาท ขยายช็อปจาก 39 สาขา ให้ครบ 53 สาขา และมีโอกาสจะขยายเพิ่มเป็น 70 สาขาทั่วประเทศ อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  14. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 28 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) คืนนี้ติดตามฝั่งสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,253.84 USD/toz เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,250.45 – 1,254.86 USD/toz ภาพรวมการเคลื่อนไหวเป็นลักษณะแกว่งตัวออกข้างพักฐานหลังปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลาสิบกว่าวันและขึ้นไปทำจุดสูงที่สุดในรอบเกือบหนึ่งเดือนที่ระดับ 1,261.03 USD/toz ในช่วงเย็นเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวระหว่างวันยังคงมีความผันผวนจากแรงขายทำกำไรอยู่บ้างโดยเฉพาะช่วง 13.00น.-14.00น. โดยเราคาดการณ์ว่าเป็นแรงขายเพื่อปรับสถานะการลงทุนของนักลงทุนที่ปรับลดสถานะการถือครองทองคำเพื่อรับความเสี่ยงจากถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC(Kaplan) และความผันผวนจากการประกาศตัวเลขดัชนีทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในค่ำคืนนี้หลายดัชนี ได้แก่ ดุลการค้า, สินค้าคงคลังของภาคการค้าส่ง, ดัชนีราคาบ้าน, ความเขื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีภาคการผลิตเขตริชมอนต์ฯ ซึ่งเรามองว่ามีแนวโน้มสูงที่ทองคำจะเคลื่อนไหวผันผวนในค่ำคืนนี้จากการประกาศดังกล่าว อย่างไรก็ตามสำหรับปัจจัยบวกเรายังคงให้น้ำหนัก ค่าเงินดอลลาร์ที่ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องโดยที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 100 จุด และถือว่าลงไปทำจุดอ่อนค่าต่ำที่สุดในรอบประมาณ 4 เดือน ด้านนักลงทุนสถาบันหลักอย่างกองทุน SPDR เมื่อคืนมีมุมมองบวกต่อทองคำโดยซื้อสุทธิกว่า + 2.67 ตัน ส่งผลให้กองทุนมีสถานะการถือครองทองคำสุทธิที่ 835.29 ตัน ซึ่งก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ยังสะท้อนภาพบวกต่อตลาดทองคำ หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงที่สุดในรอบ 1 เดือนขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลง: ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ปรั บขึ้น 9.99 ดอลลาร์ สู่ 1,253.79 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประสบความล้มเหลวในการผลักดันมาตรการปฏิรูประบบประกันสุขภาพในวันศุกร์ที่ผ่านมาและเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะมีความสามารถมากพอหรือไม่ในการดำเนินแผนลงทุนและแผนปรับลดภาษีตามที่เคยให้สัญญาไว้ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 7.20 ดอลลาร์ที่ 1,255.70 USD/toz - อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน: ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับร่วงลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ในวันจันทร์จากความไม่มั่นใจเกี่ยวกับความสามารถของฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ปิดที่ 100-116/256 โดย มีอัตราผลตอบแทน 2.9769% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปิดที่ 98-244/256 โดยมีอัตราผลตอบแทน 2.3693% - ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงต่ำที่สุดในรอบ 4 เดือนเทียบตะกร้าเงินสกุลหลัก: ดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงในวันจันทร์สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการคลังของสหรัฐฯ หลังประธานา ธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประสบความล้มเหลวในการผ่านร่างกฏหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ทั้ งนี้ค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้นในการซื้อขายที่ตลาดสหรัฐฯ แต่ก็ยังคงลดลง 0.45% เมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน หลังร่วงต่ำถึง 98.858 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. - ราคาน้ำมันดิบร่วงลงขณะที่ตลาดไม่แน่ใจเรื่องการต่ออายุข้อตกลงมาตรการการปรับลดอุปทานน้ำมันดิบ: ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงห น้า NYMEX ร่วงลงในวันจันทร์ ในขณะที่นักลงทุนยังคงไม่แน่ใจว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมัน จะต่ออายุมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปหลังสิ้นเดือน มิ.ย.หรือไม่ ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ค.ร่วงลง 24 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 47.73 USD/bbl ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ค่ำคินนี้ติดตามประกาศตัวเลขดัชนีทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายดัชนี โดยเฉพาะดุลการค้าและถ้อยแถลงสมาชิก FOMC(Kaplan) - ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าต่อเนื่องต่ำกว่าระดับ 100 จุด - กระบวนการ BREXIT (29 มี.ค.) คำแนะนำ : ฝั่ง Long Position ได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 1,253 USD/toz อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  15. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) ขึ้นแรงลุ้นไปต่อ ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,247.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,247.31 – 1,259.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำเปิดบวกตั้งแต่เช้าวันจันทร์และปรับตัวขึ้นแรงมากกว่า 10 เหรียญ โดยราคาได้ทำจุดสูงสุดใกล้ 1,260 เหรียญ และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาทดสอบบริเวณ 99 จุด โดยปัจจัยที่กดดันค่าเงินดอลลาร์นั้นคือ ร่างกฎหมายประกันสุขภาพของชาวอเมริกัน ไม่ผ่านการโหวตในเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความกังวลถึงนโยบายต่างๆ ในอนาคตที่อาจจะมีการล่าช้า หรือไม่สามารถผ่านร่างได้เช่นกับนโยบายประกันสุขภาพ ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภาคบ่ายนี้มีแรงขายออกมาทั้งฝั่งเอเชียและยุโรป และแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมีเข้ามาต่อเนื่อง โดยในคืนนี้ติดตามหุ้นสหรัฐฯ ว่าจะมีแรงขายกดดันต่อหรือไม่ และลุ้นราคาทองคำไปทดสอบจุดสูงสุดถัดไปในคืนนี้ หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะปรับขึ้นค่าแรงในอัตราที่ช้ากว่าในปี 2016 ซึ่งสิ่งนี้สวนทางกับความพยายามของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทางการปรับเพิ่มค่าแรงและการบริโภค - ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยบทสรุปความเห็นของสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของบีโอเจในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค. โดยบทสรุประบุว่า สมาชิกคณะกรรมการกล่าวว่า จะมีการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพราะว่าอัตราการเติบโตของราคาผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับที่ห่างจากเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2 % ของบีโอเจ - โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะไม่ขยายข้อตกลงลดการผลิตออกไป ถ้าหากการขยายตัวของอุปสงค์ไม่ชะลอตัวลงอย่างรุนแรง หรือการผลิตในลิเบีย/ไนจีเรียไม่ดีดตัวขึ้นอย่างมาก - สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีนพุ่งขึ้น 31.5% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆนับตั้งแต่ถ่านหินไปจนถึงสินแร่เหล็กพุ่งขึ้น และการนำเข้าที่แข็งแกร่งบ่งชี้ถึงกิจกรรมการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น - ราคาทองในตลาดสปอตพุ่งขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือนในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง หลังจากความล้มเหลวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการผ่านกฏหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ทำให้เกิดความไม่แน่ใจต่อความสามารถของเขาในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่อง - ความคืบหน้าของนโยบายต่างๆ ของประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ คำแนะนำ : trading long ได้เปรียบหลังจากทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  16. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) ขึ้นแรงลุ้นไปต่อ ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,247.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,247.31 – 1,259.14 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองคำเปิดบวกตั้งแต่เช้าวันจันทร์และปรับตัวขึ้นแรงมากกว่า 10 เหรียญ โดยราคาได้ทำจุดสูงสุดใกล้ 1,260 เหรียญ และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาทดสอบบริเวณ 99 จุด โดยปัจจัยที่กดดันค่าเงินดอลลาร์นั้นคือ ร่างกฎหมายประกันสุขภาพของชาวอเมริกัน ไม่ผ่านการโหวตในเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความกังวลถึงนโยบายต่างๆ ในอนาคตที่อาจจะมีการล่าช้า หรือไม่สามารถผ่านร่างได้เช่นกับนโยบายประกันสุขภาพ ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภาคบ่ายนี้มีแรงขายออกมาทั้งฝั่งเอเชียและยุโรป และแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมีเข้ามาต่อเนื่อง โดยในคืนนี้ติดตามหุ้นสหรัฐฯ ว่าจะมีแรงขายกดดันต่อหรือไม่ และลุ้นราคาทองคำไปทดสอบจุดสูงสุดถัดไปในคืนนี้ หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะปรับขึ้นค่าแรงในอัตราที่ช้ากว่าในปี 2016 ซึ่งสิ่งนี้สวนทางกับความพยายามของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทางการปรับเพิ่มค่าแรงและการบริโภค - ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยบทสรุปความเห็นของสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของบีโอเจในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค. โดยบทสรุประบุว่า สมาชิกคณะกรรมการกล่าวว่า จะมีการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพราะว่าอัตราการเติบโตของราคาผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับที่ห่างจากเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2 % ของบีโอเจ - โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะไม่ขยายข้อตกลงลดการผลิตออกไป ถ้าหากการขยายตัวของอุปสงค์ไม่ชะลอตัวลงอย่างรุนแรง หรือการผลิตในลิเบีย/ไนจีเรียไม่ดีดตัวขึ้นอย่างมาก - สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีนพุ่งขึ้น 31.5% ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆนับตั้งแต่ถ่านหินไปจนถึงสินแร่เหล็กพุ่งขึ้น และการนำเข้าที่แข็งแกร่งบ่งชี้ถึงกิจกรรมการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น - ราคาทองในตลาดสปอตพุ่งขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือนในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง หลังจากความล้มเหลวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการผ่านกฏหมายปฏิรูประบบประกันสุขภาพ ทำให้เกิดความไม่แน่ใจต่อความสามารถของเขาในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อเนื่อง - ความคืบหน้าของนโยบายต่างๆ ของประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ คำแนะนำ : trading long ได้เปรียบหลังจากทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  17. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยในคืนวันศุกร์ แต่ยังมีแนวโน้มที่ดีเนื่องจาก สามารถปิดบวกได้เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน และในเช้าเปิดตลาดนี้ ราคาทองได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าต่อลงไปทดสอบใกล้บริเวณ 99 จุด และความเสี่ยงเรื่องนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังจากไม่ผ่านร่างกฎหมายประกันสุขภาพ ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความกังวลถึงความล่าช้าของนโยบายอื่นๆ ส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทอง โดยราคาเช้านี่ปรับขึ้นกว่า 10 เหรียญ Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวลดลง 1.00 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น -0.08% โดยปิดที่ 1,243.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,240.35 – 1,251.90 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,255 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย ในช่วงท้ายตลาดหลังจากเงินดอลลาร์เริ่มดีดกลับจากจุดต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือน แต่ว่าอย่างไรก็ตามเช้านี้ราคาทองได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง มากกว่า 10 เหรียญ และเงินดอลลาร์เปิดตลาดเช้านี้ปรับตัวลดลงเข้าใกล้บริเวณ 99 จุด หลังจากร่างกฎหมายเรื่องประกันสุขภาพนั้น ไม่ผ่านการโหวตในครั้งนี้ ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความกังวลถึงความล่าช้าของนโยบายต่างๆ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้มีแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยง และมีเม็ดเงินไหลเข้าในสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำได้ และสัปดาห์นี้ติดตามตัวเลข GDP สหรัฐฯ และความคืบหน้าของนโยบายต่างๆ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์อย่างใกล้ชิด Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อในช่วงท้ายตลาด อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการร่วงลงจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด • ดอลลาร์ฟื้นตัวจากใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับเยนในวันศุกร์ และยุติการร่วงลง 8 วันติดต่อกันเมื่อเทียบกับเยน หลังพรรครีพับลิกันถอนร่างกฏหมายประกันสุขภาพออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐเนื่องจากขาดเสียงสนับสนุน • ปอนด์ร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโรจากระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนในวันพฤหัสบดี ขณะที่นักลงทุนเตรียมพร้อมต่อการที่อังกฤษจะเริ่มกระบวนการถอนตัวอย่างเป็นทางการออกจากสหภาพยุโรปในสัปดาห์นี้ • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐขยับลง 1 ดอลลาร์ สู่ 1,243.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ แต่ปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนบวกเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ในขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง โดยดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอาจจะไม่มีความสามารถในการผลักดันร่างกฎหมายผ่านสภาคองเกรส Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • ความคืบหน้าของนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ • ตัวเลขการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ (GDP) • Strategy : trading long ได้เปรียบหลังราคาทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง Smart Stock Today Strategy: ลุ้น Window Dressing หนุนระยะสั้น ดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ก่อนยังคงมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางเฉลี่ยตลอดสัปดาห์ โดยมีมูลค่าการซื้อขายต่ำกว่าระดับเกณฑ์ค่าเฉลี่ยที่ระดับ 40,000 ล้านบาท ขาดปัจจัยบวกภายในประเทศที่มีนัยสำคัญเพียงพอต่อการชี้นำตลาด เช่นเดียวกับตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคซึ่งนักลงทุนพิจารณาประเด็นจากฝั่งสหรัฐฯ เป็นหลัก อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยบวกเรื่องกระแสเงินทุนที่ไหลกลับเข้ามาในกลุ่มตลาดเกิดใหม่รวมทั้งในดัชนีตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่องสะท้อนมุมมองของนักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันซึ่งมีมุมมองบวกต่อกลุ่มตลาดเกิดใหม่และยังคงไม่มั่นใจในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมทั้งแนวนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งในทางปฏิบัติมีอุปสรรคค่อนข้างมาก ทั้งในด้านการปรับโครงสร้างภาษีภายในประเทศ, นโยบายการคลัง และล่าสุดเรื่อง “อเมริกันเฮลแคร์” ซึ่งพึ่งถูกสภาคว่ำร่างไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ในส่วนของสัญญาซื้อขาย S50H17 ในวันศุกร์สัปดาห์ก่อนเปิดตลาดที่ 991.60 จุด ปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกค่อนข้างชัดเจนก่อนขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 997.10 จุด และปิดตลาดที่ 996.50 จุด +5.6 จุด ภาพรวมนิ่งกว่า SET index ซึ่งเคลื่อนไหวระหว่างวันผันผวนและจำกัดในกรอบแคบมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดย SET index ปิดตลาดที่ 1,573.51 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางเพียง 35,671.48 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อหลักในกลุ่มอุตสหกรรมหลักทั้งพลังงานเเละกลุ่มธนาคารเท่านั้น โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงมีมุมมองบวกซื้อสุทธิ +1,566.47 ล้านบาท, สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ +1,188.28 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่ค่อนข้างส่วนทางขายสุทธิ -2,352.65 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำหรับการซื้อขายในวันนี้เรามองว่าแม้ดัชนีจะเคลื่อนไหวในแดนบวกติดต่อกันแต่ก็ขอให้นักลงทุนพิจารณา Upside ของตลาดที่ถูกจำกัดด้วยการขาดปัจจัยบวกภายในประเทศที่โดดเด่นประกอบกับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบเคลื่อนไหวในในแดนลบซึ่งอาจส่งผลกระทอบต่อกลุ่มพลังงานภายในประเทศได้ อย่างไรก็ตามสำหรับปัจจัยบวกก็ยังพอมีเรื่องการทำ Window Dressing แต่เราไม่ให้น้ำหนักในระยะกลาง-ยาว • Strategy : หากราคาเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 994 จุดฝั่ง Long น่าสนใจ, Upside จำกัด, ระวังแรงขายทำกำไร ปัจจัยที่ต้องติดตาม - การประชุม กนง. 29 มี.ค. - การทำ Window Dressing ภายในประเทศ ข่าวในประเทศ - บีโอไอหนุนรถยนต์ไฟฟ้า หวังกระตุ้นอุตสาหกรรม: “บีโอไอ” ไฟเขียวเห็นชอบเปิดให้ส่งเสริมลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบครบห่วงโซ่อุปทาน พร้อมชูสิทธิยกเว้นภาษีนิติบุคคล หวังกระตุ้นอุตสาหกรรมให้หวนคึกคัก - ไอพีโอระดมทุน'ดึงสภาพคล่อง'หด โบรกเกอร์หวั่นแย่งเม็ดเงินในตลาดหุ้น/หุ้นเข้าเทรดใกล้วันหยุดยาวรับความเสี่ยงสูง: หุ้นไอพีโอแห่เข้าตลาดไตรมาส 2 หลังภาวะตลาดเริ่มฟื้นตัว เมย์แบงก์-ไทยพาณิชย์ เร่งดันไอพีโอเข้าตลาดปีนี้มากกว่า 10 บริษัท นักวิเคราะห์มองเข้าระดมทุนช่วงสงกรานต์อาจมีปัญหาสภาพคล่อง - (BBLH17) ธนาคารกรุงเทพเปิดสาขาสวนกระแส: ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่าไม่มีแผนปิดสาขา ตรงกันข้ามยังเปิดสาขาเพิ่มอยู่เพื่อรองรับความต้องการใช้บริการของลูกค้าในทำเลต่าง ๆ โดยในช่วง 2 เดือนแรกได้เปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง และในเดือน มี.ค. มีแผนเปิดเพิ่มอีก 4 แห่ง แบ่งเป็น ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล 2 สาขา และต่างจังหวัด 2 สาขา ทำให้ในสิ้นเดือน มี.ค. ธนาคารกระงเทพจะมีสาขาทั้งสิ้น 1,164 แห่ง จาก 1,157 เมื่อสิ้นปี 2559 อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  18. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธที่ 22 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 และทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 3 สัปดาห์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและเคลื่อนไหวต่ำกว่าบริเวณ 100 จุด รวมทั้งแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยง เช่นตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยเริ่มมีแรงซื้อกลับ เช่น ทองคำ และค่าเงินเยน รวมทั้งกองทุน SPDR ได้กลับเข้าซื้อทองในเมื่อคืนนี้กว่า 4.15 ตัน ทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้นทะลุจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 1,235 เหรียญได้ Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.35 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.92% โดยปิดที่ 1,244.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,226.32 – 1,247.60 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,245 เหรียญ ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเป็นวันที่ 5 หลังจากค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องและเคลื่อนไหวต่ำกว่าบริเวณ 100 จุด ทำให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นและทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 3 สัปดาห์ โดยค่าเงินดอลลาร์ถูกกดดันจากค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นจากการคลายความกังวลจากการโต้วาทีการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่คาดว่า นายเอ็มมานูเอล มาครงมีโอกาสจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเหนือนางมารีน เลอ แปนซึ่งต่อต้านสหภาพยุโรป รวมทั้งแรงขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้ปิดปรับตัวลดลงแรงในเมื่อคืนนี้ ช่วยหนุนให้ทองคำมีแรงซื้อต่อ โดย SPDR กลับเข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก 4.15 ตัน รวมถือครอง 834.40 ตัน และวันนี้ติดตามตัวเลขยอดขายบ้านมือสอง และสต็อกน้ำมันดิบ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันอังคาร โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐดิ่งลงมาปิดตลาดที่ระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2016เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับอุปทานน้ำมันใหม่ และความกังวลนี้บดบังข่าวที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กำลังพิจารณาเรื่องการต่ออายุมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปหลังเดือนมิ.ย. • บริษัทโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า มาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน อาจจะส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันของโครงการขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยอาจส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรลต่อปี และอาจส่งผลให้เกิดภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดในปี 2018-2019 • ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับเยนในวันอังคาร ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับความล่าช้าในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ได้ฉุดตลาดหุ้นร่วงลง และกระตุ้นแรงซื้อเยนในฐานะสกุลเงินปลอดภัย • ดัชนี S&P 500 ร่วงลงมากกว่า 1% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ • แนวโน้มการเลือกตั้งในฝรั่งเศสช่วยหนุนยูโรและถ่วงดอลลาร์ลง หลังการโต้วาทีบ่งชี้ว่า นายเอ็มมานูเอล มาครงจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเหนือนางมารีน เลอ แปนซึ่งต่อต้านสหภาพยุโรป Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • ถ้อยคำปราศัยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) • Strategy : trading long กลับมาได้เปรียบหลังราคาปรับขึ้นเหนือ 1,235 เหรียญได้ Smart Stock Today Strategy: ระวังแรงขายทำกำไร สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้เปิดตลาดในภาคเช้าที่ 986.20 จุด เคลื่อนไหวในแดนบวกสดใสตลอดวัน โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 993.70 จุด ก่อนย่อตัวเล็กน้อยลงมาปิดตลาดที่ 992.60 จุด ปรับเพิ่ม +6.8 จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวของราคาประมาณ 7 จุด ถือว่ากว้างพอสมควร ในขณะที่ SET index ปิดตลาดที่ 1568.78 จุด ในแดนบวกเช่นกันแต่ภาพการเคลื่อนไหวนั้นมีกรอบที่แคบกว่า โดยเป็นแรงซื้อเข้าในกลุ่มพลังงานและธนาคารนำตลาด รวมมีมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันประมาณ 35,685.04 ล้านบาท ถือว่าน้อยกว่าเกณฑ์ติดต่อกันเป็นวันที่สองเเล้ว โดยเป็นเเรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศซึ่งซื้อสุทธิ +74.66 ล้านบาท เเละกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศซึ่งซื้อสุทธิ +1,532.58 ล้านบาท พร้อมทั้งมีสถานะซื้อสุทธิในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 มากถึง +12,025 สัญญา สะท้อนมุมมองบวกของนักลงทุนต่างชาติที่มีเเนวโน้มที่จะเคลื่อนย้ายเงินทุนบางส่วนกลับเข้าประเทศไทยรวมทั้งกลุ่มประเทศเกิดใหม่ด้วย อย่างไรก็ตามเรามองว่าปัจจัยเดิมๆ อย่างเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์และการเมืองฝั่งยุโรป ยังคงเป็นปัจจัยกระตุ้นหลัก เนื่องจากปัจจัยบวกภายในประเทศมีน้ำหนักค่อนข้างน้อย สำหรับการซื้อขายในวันนี้ให้ระวัง Downside Risk ที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นในลักษณะที่มีวอลลุ่มน้อยประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงต่อเนื่องเคลื่อนไหวที่ระดับ 47.50 USD/bbl ซึ่งมีโอกาสกดดันกลุ่มพลังงานในประเทศประกอบกับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อคืนประมาณ 1% จะเป็นปัจจัยลบต่ออารมณ์ตลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเปิดตลาดและการซื้อขายในภาคเช้า • Strategy : หากราคาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 990 ฝั่ง Long ได้เปรียบ, ระวังแรงขายทำกำไรกดดัน ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ 23 มี.ค. - ติดตามถ้อยแถลงสมาชิก FOMC (Kaplan, Evans) 24 มี.ค. ข่าวในประเทศ - ตลาดทุนเริ่มห่วงเหตุการเมือง/หุ้นแกว่งตามกระแสเงินไหล : เลขาธิการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าว่า ค่าดัชนีเชื่อมั่นปรับตัวลดลงและอยู่ในภาวะทรงตัวจากเดิมอยู่ในระดับร้อนแรง และเป็นครั้งแรกในรอบปี ที่นักลงทุนต่างประเทศเริ่มกังวลเรื่องปัจจัยทางการเมืองในไทย โดยภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังรอความชัดเจนจากการดำเนินการมาตรการภาษีของสหรัฐอาจส่งผลต่อการค้าระหว่างประเทศ การกีดกันทางการค้า การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ความไม่แน่นอนทางการเมือง เป็นต้น ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดทุนในภูมิภาคมีความผันผวนตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย และเงินทุนไหลเข้าออกในภูมิภาค ปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยมากสุดคือ เศรษฐกิจในประเทศ ปัจจัยลบคือความผันผวนของกระแสเงินทุนเข้าและออก - (BCPH17)‘BCP’เจาะตลาดเพื่อนบ้าน เล็งทุ่มงบ 3 พันล้านขยายปั๊ม : BCP เร่งขยายฐานต่างแดนเดินหน้าผุดปั๊มน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้านปักหมุดลาว พม่า กัมพูชา “สมชัย เตชะวณิช” เผยอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรศึกษาตลาดและข้อกฎหมาย คาดเดือนเมษายน 2560 ได้ข้อสรุปชัด ส่วนในไทยตั้งเป้าขยายปั๊ม 120 แห่ง คาดใช้งบลงทุนเกือบ 3 พันล้านบาท หวังผลักดันยอดขายปีนี้โตเพิ่ม 10% อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  19. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันอังคารที่ 21 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) เริ่มเผชิญแรงขาย ราคาทองคำในภาคเช้าเคลื่อนไหวในแดนลบได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ, การปรับโครงสร้างภาษีและนโยบายทางการค้าที่มีผลกระทบต่อนโยบายการค้าเสรีของกลุ่ม G20 โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงจากระดับ 1,235 USD/toz ซึ่งเป็นจุดสูงที่สุดในรอบเกือบสามเดือนลงมาทำจุดต่ำสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,226 USD/toz ในช่วงเช้าตามเวลาไทยก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาพยุงราคาทองคำไว้ ส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบประมาณ 3 ดอลลาร์ ภาพรวมยังคงมีปัจจัยบวกด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ยังคงเคลื่อนไหวอ่อนค่าโดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลงไปเคลื่อนไหวบริเวณ 100 จุด ในขณะที่ปัจจัยลบที่เข้ามากดดันทิศทางของราคาทองคำยังคงเป็นมุมมองของกองทุน SPDR เมื่อคืนซึ่งมีสถานะขายสุทธิในทองคำประมาณ - 3.85 ตัน ส่งผลให้รวมมีสถานะถือครองทองคำสุทธิที่ 830.25 ตัน ถือเป็นมุมมองของนักลงทุนสถาบันหลักซึ่งการส่งสัญญาณลบต่อทองคำในระหว่างวัน สำหรับการซื้อขายในค่ำคืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC (Dudley) และบัญชีเดินสะพัดสหรัฐฯ ไตรมาส 4/59 ซึ่งมีเนวโน้มที่จะชี้นำตลาดทองคำได้อย่างมีนัยสำคัญในค่ำคืนนี้ หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - ราคาทองคำปรับขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ขณะค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง : ราคาทองคำสปอตที่ตลาดสหรัฐฯ ปรับขึ้น 4.75 ดอลลาร์ สู่ระดับ 1,233.15 USD/toz ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ หลังจากขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1,235.50 USD/toz ในระหว่างวัน ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินรูดลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 6 สัปดาห์ในระหว่างวัน เนื่องจากการประชุมกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป (G-20) ในช่วงสุด สัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากจุดยืนของสหรัฐฯ ในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า ทั้งนี้ราคาทองส่งมอบเดือน เม.ย.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 3.80 ดอลลาร์ ที่ 1,23 4.00 USD/toz - ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ : ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวใกล้ระดับต่ำที่สุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันจันทร์ โดยถูกถ่วงลงจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณในสัปดาห์ที่แล้วว่าจะคุมเข้มนโยบายการเงินน้อยกว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.1% สู่ระดับ 100.40 จุด หลังร่วง 0.3% ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียและยุโรป - ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น : ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ หลังจากที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาชิคาโกย้ำมุมมองของเฟดที่ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้มีความเป็นไปได้ ซึ่งสร้างความผิดหวังให้แก่นักลงทุนที่คาดไว้ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่านี้ ทั้งนี้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี ปิดบวก 13/32 ที่ 98-08/256 โดยมีผลตอบแทน 3.091% ส่วนราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปิดบวก 07/32 ที่ 98-01/32 โดยมีผลตอบแทน 2.475% - กังวลอุปทานน้ำมันสหรัฐฯ กดดันราคาน้ำมันดิบปิดดิ่งลงกว่า 1.2% : ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลงในวันจันทร์ในขณะที่นักลงทุนกังวลกับปริมาณการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ และสต็อกน้ำมันในคลังที่ระดับสูงถึงแม้มีข่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) สนับสนุนการต่ออายุมาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันออกไปก็ตาม ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน เม.ย.ดิ่งลง 56 เซนต์ หรือ 1.2 % มาปิดตลาดที่ 48.22 USD/bbl ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ค่ำคืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC (Dudley) - ถ้อยคำปราศัยของประธานเฟด นางเจนเนต เยลเลน 23 มี.ค. คำแนะนำ : ฝั่ง Short Position ได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,230 USD/toz อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  20. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 วันทำการต่อเนื่องหลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ รวมทั้งการประชุมของกลุ่มจี 20 จะได้รับผลกระทบจากจุดยืนของสหรัฐฯ ในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า ทำให้ช่วยหนุนราคาทองได้ แต่เริ่มเห็นแรงขายจากกองทุน SPDR ที่มีการขายทองคำออกมา 2 วันติด รวมทั้งประธานเฟดสาขาย่อยได้ยืนยันถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ว่าจะเกิดขึ้นอีก 2 ครั้งอย่างแน่นอน ทำให้โดยรวมทองคำขาดปัจจัยใหม่ แกว่งตัวออกข้าง Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.39% โดยปิดที่ 1,233.15 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,228.76 – 1,235.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,232 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 วันทำการติดต่อกัน โดยราคาได้ขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอ่อนค่าในรอบกว่า 6 สัปดาห์ รวมทั้งการประชุมของกลุ่มจี 20 จะได้รับผลกระทบจากจุดยืนของสหรัฐฯ ในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า ทำให้ช่วยหนุนราคาทองได้ แต่ทองคำเจอแรงขายจากกองทุน SPDR ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยขายออกมาในเมื่อวานนี้ 3.85 ตัน ทำให้ยอดถือรวมสุทธิ 830.25 ตัน และประธานเฟดสาขาชิคาโก้ได้ออกมากล่าวว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้จะมีอีก 2 ครั้งตามที่คาดการณ์ ทำให้คาดว่าราคาทองคำแกว่งตัวออกข้างในวันนี้เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ และติดตามการปราศัยของประธานเฟดในวันพฤหัสฯ นี้ Exclusive News • บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์รายงานในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้น 14 แท่น สู่ 631 แท่นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 มี.ค. โดยจำนวน 631 แท่นนี้ถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2015 และถือเป็นการปรับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน • นักวิเคราะห์ของบริษัทเจ.พี. มอร์แกนปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลงสู่ 53.75 ดอลลาร์สำหรับปี 2017 และ 53.50 ดอลลาร์สำหรับปี 2018 และปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลงสู่ 55.75 ดอลลาร์สำหรับปี 2017 และ 55.50 ดอลลาร์สำหรับปี 2018 • ดอลลาร์ปรับตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันจันทร์ โดยถูกถ่วงลงจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดจะคุมเข้มนโยบายการเงินน้อยกว่าที่หลายคนคาดไว้ • ผู้นำการเงินกลุ่มจี-20 แสดงความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านการค้าโลกของสหรัฐ และความวิตกของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับการแข็งค่าของดอลลาร์ • ปอนด์ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์จากข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์จะเริ่มกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 29 มี.ค.นี้ โดยเริ่มการเจรจาต่อรองระยะเวลา 2 ปี Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • ถ้อยคำปราศัยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) • ถ้อยคำปราศัยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ • Strategy : trading ในกรอบและระมัดระวังแรงขายทำกำไร Smart Stock Today Strategy: ฟื้นตัวในภาพความผันผวน เมื่อวานนี้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เปิดตลาดเกิดช่องว่างของราคาในแดนบวก (Positive Trading Gaps) แต่ราคากลับเคลื่อนไหวในกรอบแคบไม่ค่อยวิ่งไปไหน โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวของราคาเพียง 2-3 จุด เท่านั้น ก่อนที่จะมีแรงขายในช่วงหนึ่งชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดตลาดค่อนข้างรุนแรงอย่างมีนัยสำคัญ กดดันให้สัญญาฯ ลงไปปิดตลาดลบ -3.6 จุด ที่ 986 จุด สะท้อนมุมมองของนักลงทุนที่ยังไม่มั่นใจในการฟิ้นตัวของดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ภาวะที่ยังไร้ปัจจัยบวกและยังคงมีปัจจัยลบจากความผันผวนภายนอกรุมเร้าอย่างชัดเจน ในด้านของดัชนี SET index ก็เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันแต่ความผันผวนน้อยกว่า ปิดตลาดที่ 1,563.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางอย่างเพียง 35,790.37 ล้านบาทเท่านั้น โดยเป็นเเรงซื้อขายกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ +539.93 ล้านบาท, บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +295.76 ล้านบาท เเละนักลงทุนต่างประเทศ +735.92 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่เเตกต่างออกไปขายสุทธิ -1,571.61 ล้านบาท เหมือนวันก่อนหน้า โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่นำตลาดยังคงเป็นกลุ่มพลังงานและธนาคารที่ได้รับปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามเรามองว่าเงินทุนบางส่วนที่ไหลออกก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะไหลกลับเข้าสู่กลุ่มตลาดเกิดใหม่และประเทศไทย สะท้อนจากแรงขายในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งกดดันให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงและเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 100.15 จุด ในขณะที่ค่าเงินบาทก็แข็งค่าขึ้นสวนทางอย่างมีนัยสำคัญในช่วงนี้โดยเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 34.68 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ • Strategy : Wait & See, Upside ถูกจำกัดด้วยการขาดปัจจัยบวกภายในประเทศ, แกว่งตัวผันผวนในกรอบราคาที่กว้างขึ้น ปัจจัยที่ต้องติดตาม - สัปดาห์นี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC, MPC และประธานาธิบดีทรัมป์ ข่าวในประเทศ - กอช.เล็งลงทุนหุ้น SET50 พร้อมลดสัดส่วนเงินฝาก-พันธบัตรมาเป็นตราสารหนี้ หวังดันผลตอบแทนแตะ 3% : กอช.ปรับแผน จ่อลงทุนใน SET50 พร้อมตราสารหนี้ 3-5 ปี รับมือดอกเบี้ยขาขึ้น ดันผลตอบแทน ที่ 3% เลขาธิการ กอช. เปิดเผยว่าได้ปรับแผนการลงทุนปี 2560 โดยคาดว่าจะได้ผลตอบแทนการลงทุน ที่รวมดอกเบี้ยจากการลงทุนในตราสารและการลงทุนในหุ้น และหุ้นกู้เอกชนอยู่ที่ระดับ 3% - ดัชนีหุ้นไทยยืนเหนือ 1,560 จุด มองเศรษฐกิจเด้ง5% : หุ้นไทยเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนในแดนบวกตลอดทั้งวัน แต่มูลค่าซื้อขายยังเบาบาง โดยได้แรงหนุนจากเงินบาทแข็งค่า และนักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิ โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,563.54 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด มูลค่าซื้อขาย 35,790.37 ล้านบาท แตะจุดสูงสุด 1,568.29 จุด และต่ำสุด 1,561.79 จุด - CPALL ผุดสาขาใหม่เร่งรายได้แรง : CPALL ฉายแววโชว์ฟอร์มครึ่งปีแรกสวย วงในเผยเติบโตสูงกว่าช่วงครึ่งปีหลังปี 2559 จากกำลังซื้อผู้บริโภคฟื้นตัว บวกกับรับส่วนแบ่งรายได้จาก MAKRO ผลักดันผลงานครึ่งปีแรกแจ่ม ฟากโบรกมองบวกชี้ได้แรงหนุนจากการเร่งขยายสาขา คาดแตะระดับ 1 หมื่นสาขาในช่วงกลางปีนี้ หนุนรายได้-กำไรเร่งตัวแรง อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  21. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 วันทำการต่อเนื่องหลังจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ รวมทั้งการประชุมของกลุ่มจี 20 จะได้รับผลกระทบจากจุดยืนของสหรัฐฯ ในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า ทำให้ช่วยหนุนราคาทองได้ แต่เริ่มเห็นแรงขายจากกองทุน SPDR ที่มีการขายทองคำออกมา 2 วันติด รวมทั้งประธานเฟดสาขาย่อยได้ยืนยันถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ว่าจะเกิดขึ้นอีก 2 ครั้งอย่างแน่นอน ทำให้โดยรวมทองคำขาดปัจจัยใหม่ แกว่งตัวออกข้าง Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.39% โดยปิดที่ 1,233.15 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,228.76 – 1,235.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,232 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 วันทำการติดต่อกัน โดยราคาได้ขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอ่อนค่าในรอบกว่า 6 สัปดาห์ รวมทั้งการประชุมของกลุ่มจี 20 จะได้รับผลกระทบจากจุดยืนของสหรัฐฯ ในการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า ทำให้ช่วยหนุนราคาทองได้ แต่ทองคำเจอแรงขายจากกองทุน SPDR ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยขายออกมาในเมื่อวานนี้ 3.85 ตัน ทำให้ยอดถือรวมสุทธิ 830.25 ตัน และประธานเฟดสาขาชิคาโก้ได้ออกมากล่าวว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้จะมีอีก 2 ครั้งตามที่คาดการณ์ ทำให้คาดว่าราคาทองคำแกว่งตัวออกข้างในวันนี้เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ และติดตามการปราศัยของประธานเฟดในวันพฤหัสฯ นี้ Exclusive News • บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์รายงานในวันศุกร์ว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐเพิ่มขึ้น 14 แท่น สู่ 631 แท่นในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 มี.ค. โดยจำนวน 631 แท่นนี้ถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2015 และถือเป็นการปรับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน • นักวิเคราะห์ของบริษัทเจ.พี. มอร์แกนปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลงสู่ 53.75 ดอลลาร์สำหรับปี 2017 และ 53.50 ดอลลาร์สำหรับปี 2018 และปรับลดตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลงสู่ 55.75 ดอลลาร์สำหรับปี 2017 และ 55.50 ดอลลาร์สำหรับปี 2018 • ดอลลาร์ปรับตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินในวันจันทร์ โดยถูกถ่วงลงจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดจะคุมเข้มนโยบายการเงินน้อยกว่าที่หลายคนคาดไว้ • ผู้นำการเงินกลุ่มจี-20 แสดงความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านการค้าโลกของสหรัฐ และความวิตกของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับการแข็งค่าของดอลลาร์ • ปอนด์ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์จากข่าวที่ว่า นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์จะเริ่มกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 29 มี.ค.นี้ โดยเริ่มการเจรจาต่อรองระยะเวลา 2 ปี Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • ถ้อยคำปราศัยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) • ถ้อยคำปราศัยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ • Strategy : trading ในกรอบและระมัดระวังแรงขายทำกำไร Smart Stock Today Strategy: ฟื้นตัวในภาพความผันผวน เมื่อวานนี้สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เปิดตลาดเกิดช่องว่างของราคาในแดนบวก (Positive Trading Gaps) แต่ราคากลับเคลื่อนไหวในกรอบแคบไม่ค่อยวิ่งไปไหน โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวของราคาเพียง 2-3 จุด เท่านั้น ก่อนที่จะมีแรงขายในช่วงหนึ่งชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดตลาดค่อนข้างรุนแรงอย่างมีนัยสำคัญ กดดันให้สัญญาฯ ลงไปปิดตลาดลบ -3.6 จุด ที่ 986 จุด สะท้อนมุมมองของนักลงทุนที่ยังไม่มั่นใจในการฟิ้นตัวของดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ภาวะที่ยังไร้ปัจจัยบวกและยังคงมีปัจจัยลบจากความผันผวนภายนอกรุมเร้าอย่างชัดเจน ในด้านของดัชนี SET index ก็เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันแต่ความผันผวนน้อยกว่า ปิดตลาดที่ 1,563.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันที่เบาบางอย่างเพียง 35,790.37 ล้านบาทเท่านั้น โดยเป็นเเรงซื้อขายกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ +539.93 ล้านบาท, บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ +295.76 ล้านบาท เเละนักลงทุนต่างประเทศ +735.92 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่เเตกต่างออกไปขายสุทธิ -1,571.61 ล้านบาท เหมือนวันก่อนหน้า โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่นำตลาดยังคงเป็นกลุ่มพลังงานและธนาคารที่ได้รับปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามเรามองว่าเงินทุนบางส่วนที่ไหลออกก่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะไหลกลับเข้าสู่กลุ่มตลาดเกิดใหม่และประเทศไทย สะท้อนจากแรงขายในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งกดดันให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงและเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 100.15 จุด ในขณะที่ค่าเงินบาทก็แข็งค่าขึ้นสวนทางอย่างมีนัยสำคัญในช่วงนี้โดยเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 34.68 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ • Strategy : Wait & See, Upside ถูกจำกัดด้วยการขาดปัจจัยบวกภายในประเทศ, แกว่งตัวผันผวนในกรอบราคาที่กว้างขึ้น ปัจจัยที่ต้องติดตาม - สัปดาห์นี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC, MPC และประธานาธิบดีทรัมป์ ข่าวในประเทศ - กอช.เล็งลงทุนหุ้น SET50 พร้อมลดสัดส่วนเงินฝาก-พันธบัตรมาเป็นตราสารหนี้ หวังดันผลตอบแทนแตะ 3% : กอช.ปรับแผน จ่อลงทุนใน SET50 พร้อมตราสารหนี้ 3-5 ปี รับมือดอกเบี้ยขาขึ้น ดันผลตอบแทน ที่ 3% เลขาธิการ กอช. เปิดเผยว่าได้ปรับแผนการลงทุนปี 2560 โดยคาดว่าจะได้ผลตอบแทนการลงทุน ที่รวมดอกเบี้ยจากการลงทุนในตราสารและการลงทุนในหุ้น และหุ้นกู้เอกชนอยู่ที่ระดับ 3% - ดัชนีหุ้นไทยยืนเหนือ 1,560 จุด มองเศรษฐกิจเด้ง5% : หุ้นไทยเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนในแดนบวกตลอดทั้งวัน แต่มูลค่าซื้อขายยังเบาบาง โดยได้แรงหนุนจากเงินบาทแข็งค่า และนักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิ โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,563.54 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด มูลค่าซื้อขาย 35,790.37 ล้านบาท แตะจุดสูงสุด 1,568.29 จุด และต่ำสุด 1,561.79 จุด - CPALL ผุดสาขาใหม่เร่งรายได้แรง : CPALL ฉายแววโชว์ฟอร์มครึ่งปีแรกสวย วงในเผยเติบโตสูงกว่าช่วงครึ่งปีหลังปี 2559 จากกำลังซื้อผู้บริโภคฟื้นตัว บวกกับรับส่วนแบ่งรายได้จาก MAKRO ผลักดันผลงานครึ่งปีแรกแจ่ม ฟากโบรกมองบวกชี้ได้แรงหนุนจากการเร่งขยายสาขา คาดแตะระดับ 1 หมื่นสาขาในช่วงกลางปีนี้ หนุนรายได้-กำไรเร่งตัวแรง อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  22. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) ลุ้นไปต่อ ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,229.04 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,228.90 – 1,235.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาเปิดตลาดในช่วงเช้าวันนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกต่อเนื่อง หลังจากค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง และทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 5 สัปดาห์ รวมทั้งการเลือกตั้งรอบแรกของฝรั่งเศสที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า มีผลสำรวจคะแนนเสียงออกมาว่าพรรคผู้ต่อต้านอียูได้รับคะแนนเสียงนำอีกพรรคหนึ่ง ทำให้ราคาทองเริ่มกลับมามีแนวโน้มที่ดีได้ต่อ รวมทั้งทางฝั่ง SPDR ก็ไม่ได้แสดงทีท่าที่ชัดเจนหลังจากมีการซื้อขายสลับกันในสัปดาห์ก่อน โดยรวมยังเป็นการซื้อสุทธิที่ 2.07 ตัน ทำให้ทองรวม 834.10 ตัน และในวันพรุ่งนี้ตอนเช้าให้ติดตามการปราศัยของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งถ้าหากมีการปรับโครงสร้างภาษี และลดลงกว่าที่นักลงทุนคาดอาจจะช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ให้ฟื้นกลับและกดดันราคาทองได้ แต่ถ้าไม่มีมาตรการเพิ่มเติมราคาทองก็มีแนวโน้มที่ดีต่อได้ หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - หนังสือพิมพ์ซีเคียวริตีส์ ไทมส์ของทางการจีนรายงานในวันนี้ว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ได้ประกาศใช้ข้อจำกัดใหม่ต่อสถาบันการเงินที่ต้องการจ้างผู้จัดการกองทุนจากภายนอกสถาบันให้มาทำงานจัดการกองทุน ในขณะที่รัฐบาลจีนคุมเข้มการทำธุรกิจธนาคารเงา - นำทางการเงินของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา 19 ประเทศ รวมทั้งสหภาพยุโรป (จี-20) ได้ยกเลิกคำสัญญาเดิมที่ว่า จี-20 จะทำให้การค้าโลกเสรีและเปิดกว้างต่อไป โดยกลุ่มจี-20 ได้ยอมทำตามความต้องการของรัฐบาลสหรัฐที่ดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้ามากยิ่งขึ้น หลังจากการประชุมในวันศุกร์และวันเสาร์ที่ผ่านมาไม่สามารถทำให้กลุ่มจี-20 ประนีประนอมกันได้ - นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่นกล่าววานนี้ว่า สหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่นน่าจะบรรลุข้อตกลงด้านเศรษฐกิจในเร็วๆนี้ และได้ย้ำถึงความสำคัญของการค้าเสรีต่อญี่ปุ่น - นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมวิจัยพัฒนาชุมชนระบบธนาคารกลางสหรัฐในหัวข้อ "พื้นฐานที่แข็งแกร่ง: อนาคตทางเศรษฐกิจของเด็กๆและชุมชนต่างๆ" ในเวลา 19.45 น.ตามเวลาไทยในวันพฤหัสบดีที่ 23 มี.ค.นี้ ประเด็นที่ต้องติดตาม: - ถ้อยคำปราศัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ - ถ้อยคำปราศัยของประธานเฟด นางเจนเนต เยลเลน คำแนะนำ : trading long หากราคายืนเหนือ 1,233 เหรียญได้ อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  23. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยในคืนวันศุกร์ และเป็นการปิดบวกครั้งแรกในรอบกว่า 3 สัปดาห์ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด แต่ไม่ได้มีท่าทีในการรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคงประมาณการณ์ไว้ที่ 3 ครั้งในปีนี้ ทำให้เกิดแรงขายในค่าเงินดอลลาร์ และแรงซื้อกลับในทองคำ สัปดาห์นี้ติดตามการปราศัยของประธานาธิบดีทรัมป์ และการปราศัยของประธานเฟด Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.00 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.16% โดยปิดที่ 1,228.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,224.31 – 1,231.70 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,232 เหรียญ ราคาทองปิดบวกในคืนวันศุกร์ และราคาทองปิดบวกเป็นสัปดาห์แรกในรอบสามสัปดาห์ หลังจากราคาทองปรับตัวลดลงมาต่อเนื่องจากความกังวลในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาดการณ์ ในสัปดาห์ก่อน โดยกล่าวว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และคงประมาณการณ์ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อยู่ที่ 3 ครั้ง ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะเร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. เร็วกว่าตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นในช่วงกลางปี ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ และหนุนให้ราคาทองดีดกลับได้ และสัปดาห์นี้ ติดตามการปราศัยของประธานาธิบดีทรัมป์ และการปราศัยของประธานเฟดในช่วงปลายสัปดาห์ Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ทรงตัวในวันศุกร์ และปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการขยับขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี นักเก็งกำไรปรับลดสถานะซื้อลงเป็นอย่างมากในระหว่างสัปดาห์ เนื่องจากนักเก็งกำไรกังวลว่า มาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่สามารถบรรเทาภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดโลกลงได้ • ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ในวันศุกร์ แต่ยังคงเผชิญแรงกดดันเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ถึงอัตราการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป • ยูโรร่วงลง 0.2% สู่ 1.0740 ดอลลาร์ หลังผลสำรวจบ่งชี้ว่านางมารีน เลอ แปน ผู้ต่อต้านอียูจะมีคะแนนนำนายเอ็มมานูเอล มาครงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐขยับขึ้น 2 ดอลลาร์ สู่ 1,228.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ และปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ ในขณะที่แถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งผลให้ดอลลาร์เคลื่อนตัวอยู่ใกล้จุดต่ำสุดรอบ 5 สัปดาห์ และปัจจัยนี้ส่งผลบวกต่อราคาทอง Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • ถ้อยคำปราศัยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) • ถ้อยคำปราศัยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ • Strategy : trading ในกรอบ 1,224 – 1,233 เหรียญ และ follow เมื่อ breakout Smart Stock Today Strategy: เคลื่อนไหวในกรอบที่กว้างขึ้น สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาครวมไปถึงฝั่งยุโรปเคลื่อนไหวเเละปิดตลาดในเเดนบวก/ลบ สลับกันไปไม่ชัดเจน ในส่วนของดัชนีตลาดหุ้นไทยเป็นภาพการเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ มีลักษณะการแกว่งตัวที่กว้างมากขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าโดยได้รับผลกระทบทั้งจากราคาน้ำมันดิบที่ยังคงปรับลดลงจากอุปทานที่ล้นตลาดและการเมืองโลกทั้งจากฝั่งยุโรปและเอเชียเอง รวมทั้งประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เปิดตลาดในวันศุกร์ที่ผ่านมาบริเวณ 986.60 จุด ราคาเปิดค่อนข้างต่อเนื่องจากราคาปิดวันก่อนหน้า แกว่งตัวในกรอบราคาประมาณ 3 จุด ก่อนมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงท้ายตลาดขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันบริเวณ 989.40 จุด และปิดตลาดที่ 988.90 จุด การเคลื่อนไหวมีความผันผวนน้อยกว่า SET index ซึ่งภาพการเคลื่อนไหวผันผวนกว่าอย่างเห็นได้ชัดโดยภาคเช้ามีแรงขายกดดันให้เคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลง ก่อนมีแรงซื้อกลับเข้ามาในภาคบ่ายและปิดตลาดที่ 1,560.98 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายระหว่างวันในเกณฑ์ปกติไม่มากไม่น้อยที่ 46,970.27 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อจากกลุ่มสถาบันภายในประเทศ (+409.18 ล้านบาท), บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (+252.19 ล้านบาท) เเละ นักลงทุนต่างประเทศ (+1,566.95 ล้านบาท) ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยภายในประเทศมีมุมมองที่เเตกต่างออกไปโดยขายสุทธิ -2,228.32 ล้านบาท รวมมีสถานะขายสุทธิตั้งเเต่ต้นเดือนที่ผ่านมากว่า -7,363.19 ล้านบาทเเล้ว สำหรับการซื้อขายในวันนี้ (และสัปดาห์นี้) ฝ่ายวิจัยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงต่างๆ ทั้งจากสมาชิก FOMC, MPC และ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในส่วนของปัจจัยลบเรายังคงมองราคาน้ำมันดิบที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในเเนวโน้มขาลงกดดันกลุ่มพลังงานภายในประเทศอยู่ แต่ในส่วนปัจจัยบวกก็ยังพอมีให้ได้ลุ้น ได้แก่ กระแสเงินทุนที่ไหลออกอาจกลับเข้าสู่กลุ่มตลาดเกิดใหม่รวมทั้งประเทศไทยด้วย โดยเราคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวในกรอบราคาที่กว้างขึ้นและยังอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอกในขณะที่ปัจจัยภายในยังไม่ชัดเจน • Strategy : ฝั่ง Long Position ยังคงได้เปรียบหากราคาเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 986 จุด ปัจจัยที่ต้องติดตาม - สัปดาห์นี้ติดตามถ้อยแถลงของสมาชิก FOMC, MPC และประธานาธิบดีทรัมป์ ข่าวในประเทศ - เปิด 10 เทรนด์พลิกไทยสู่ ‘ดิจิทัล’ ดึง‘ไอที-บล็อกเชน’ เสริมแกร่ง : สรอ. เผย 10 เทรนด์เด่นดันรัฐบาลดิจิทัล หนุนไทยก้าวสู่สังคมยุคใหม่ ผนึกหน่วยงานรัฐเอกชน ดึงเทคโนโลยี “บล๊อกเชน-อีเพย์เมนท์” เสริมแกร่ง พร้อมดันแอพพลิเคชั่นภาครัฐเสิร์ฟบริการประชาชน - คปภ.เชื่อธุรกิจประกันปีนี้โต 6.01% : คปภ. มั่นใจธุรกิจประกันชีวิต-วินาศภัยปีนี้โต 6.01% ดันเบี้ยแตะ 8.24 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่ 7.77 แสนล้านบาท เดินหน้าประกันยุคดิจิทัล ล่าสุดคลอดประกันพีเอ ช่วงสงกรานต์ใหม่ ประกันภัย 222 คุ้มสูงสุดถึงแสนและค่ารักษาพยาบาล 5 พันบาท - (PTTH17) PTT เคาะปันผล10บาท PTTGC ลุยบิ๊กโปรเจ็กต์ : PTT บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลงวดครึ่งหลังปี 2559 ที่ 10 บาทต่อหุ้น หลังโค้งแรกจ่ายแล้ว 6 บาทต่อหุ้น ด้าน PTTGC เตรียมเสนอบอร์ดลุยลงทุน 2 โครงการใหญ่ มูลค่า 80,000-100,000 ล้านบาท เพื่อผลิตวัตถุดิบพิเศษรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์-ไฟฟ้า ซึ่งตั้งอยู่ในโซนโครงการ EEC อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  24. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น) แกว่งในกรอบบน ราคาทองคำเปิดตลาดในช่วงเช้าที่ 1,226.56 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,224.36 – 1,228.10 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ราคาทองปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบสัปดาห์ ในเมื่อคืนนี้ หลังจากค่าเงินดอลลาร์มีเจอแรงขายทำกำไรต่อเนื่อง และต่ำกว่า 100 จุดในช่วงบ่ายวันนี้ แต่อย่างไรก็ตามแรงซื้อทองคำก็เริ่มชะลอลงหลังจากปรับตัวขึ้นแรงทำให้ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเช่นกัน โดยจะเห็นได้ว่ากองทุน SPDR เริ่มมีการขายทองออกมาอีกครั้งในเมื่อคืนนี้ รวมทั้งแรงซื้อที่เริ่มลดลงหลังจากการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์เสร็จสิ้นและเป็นไปตามคาดการณ์ ทางฝ่ายวิจัยจึงคาดว่า ราคาทองจะแกว่งตัวในกรอบด้านบน ในคืนนี้ เพื่อรอปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยในคืนนี้ติดตามตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเป็นหลัก หัวข้อข่าวที่น่าสนใจ - นายอีวาลด์ โนวอทนี ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า อีซีบีจะตัดสินใจในภายหลังว่า อีซีบีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงก่อนหรือหลังจากที่อีซีบียุติมาตรการเข้าซื้อพันธบัตร หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) - นางคริสติน ฟอร์บส์ ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ลงคะแนนเสียงให้ BOE ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก 0.25% สู่ 0.50% ในวันพฤหัสบดี ในขณะที่สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (MPC) อีก 8 คนใน BOE ลงคะแนนเสียงให้ BOE ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่สถิติต่ำสุดที่ 0.25% ต่อไป อย่างไรก็ดี สมาชิก MPC บางคนระบุว่า ไม่ใช่เรื่องยากในการที่พวกเขาจะลงคะแนนเสียงแบบเดียวกับนางฟอร์บส์ในอนาคต - นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานซาอุดิอาระเบียกล่าวในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวบลูมเบิร์กในวันพฤหัสบดีว่า อาจจะมีการต่ออายุข้อตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกไป ถ้าหากสต็อกน้ำมันในคลังยังคงอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ย - บริษัทเอ็นทีเอ็น คอร์ป (NTN) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ของญี่ปุ่นแถลงในวันนี้ว่า บริษัทเอ็นทีเค พรีซิชัน แอกเซิล ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนของ NTN จะสร้างโรงงานในรัฐอินเดียนาของสหรัฐเพื่อปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพลาขับ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้เรียกร้องให้บริษัทรถยนต์ซึ่งรวมถึงบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปของญี่ปุ่น มาสร้างโรงงานในสหรัฐและจ้างคนงานในสหรัฐ - INSEE ซึ่งเป็นสำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศสระบุในวันพฤหัสบดีว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 2 ของปีนี้ และจะเติบโตในอัตราที่สอดคล้องกับประเทศอื่นๆ ในยูโรโซนในวงกว้าง หลังจากเติบโตต่ำกว่ายูโรโซนมาเป็นเวลานาน 3 ปี ประเด็นที่ต้องติดตาม: - การประชุมกลุ่มผู้นำ G20 - ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำจุดต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ คำแนะนำ : trading ในกรอบบน และ follow เมื่อ breakout อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
  25. บทวิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม 2560 โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเช้า) Today Strategy: • Gold ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อในเมื่อวานนี้ และทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบสัปดาห์ หลังจากได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่ทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าราคาทองคำจะเริ่มแกว่งในกรอบที่แคบลง หลังจากราคาทองคำได้รับข่าวเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปหมดแล้ว และเริ่มมีแรงขายของกองทุน SPDR ในเมื่อคืนนี้ รวมทั้งการเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์ฝ่ายต่อต้านอิสลามแพ้การเลือกตั้งทำให้แรงซื้อทองคำในสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง Key Factors • Gold ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.75 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.64% โดยปิดที่ 1,226.40 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,217.45 – 1,233.13 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,225 เหรียญ ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อในเมื่อวานนี้โดยราคาทองคำได้ทำจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ที่บริเวณ 1,233 เหรียญ โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 5 สัปดาห์ และในวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะเริ่มแกว่งในกรอบที่แคบลงหลังจากรับรู้ข่าวเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และเริ่มมีแรงขายออกมาจากกองทุน SPDR ที่ขายออกมา 2.37 ตัน รวมถือครองทองคำ 837.06 ตัน รวมทั้งผลการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ที่ฝ่ายต่อต้านอิสลามแพ้การเลือกตั้งส่งผลให้แรงซื้อทองคำในสินทรัพย์ปลอดภัยลดลงเช่นกัน และในวันนี้ติดตามตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ โดย ม.มิชิแกน Exclusive News • ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงในวันพฤหัสบดี ในขณะที่สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐยังคงอยู่ใกล้สถิติสูงสุด และปัจจัยนี้ทำให้นักลงทุนกังวลว่า มาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อาจจะไม่สามารถบรรเทาภาวะน้ำมันล้นตลาดโลก โดยความกังวลดังกล่าวบดบังแรงหนุนที่ราคาน้ำมันได้รับจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ • ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้ากสุลเงินในวันพฤหัสบดี หลังแถลงการณ์จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะเร่งอัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เฟดลงมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ช่วง 0.75-1.00% และคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่บรรดานักลงทุนคาดไว้ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ • ปอนด์ปรับตัวขึ้น หลังธนาคารกลางอังกฤษลงมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ขณะที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดด้วยการระบุถึงโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยปอนด์แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1.2373 ดอลลาร์ • เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองในรอบ 3 เดือนในวันพุธที่ผ่านมา แต่เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่า เฟดจะเร่งความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ถึงแม้นักลงทุนบางรายเคยคาดการณ์ก่อนหน้านั้นว่า เฟดอาจจะเร่งความเร็ว Key Point Positive( + ) • ความต้องการถือทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนผันผวนแรง Negative( - ) • เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น • การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ • การใช้นโยบายทางการเงินเชิงผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ Neutral ( * ) • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีน • การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ • การประชุม G20 • Strategy : trading ในกรอบ 1,218 – 1,233 เหรียญ โดยฝั่ง long ยังน่าสนใจเมื่อราคาย่อตัว Smart Stock Today Strategy: ได้รับปัจจัยบวกจากกลุ่มธนาคาร สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S50H17 เมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกอย่างชัดเจนโดยเปิดตลาดเกิดช่องว่างของราคาประมาณ +4 จุดที่ 982 จุด ก่อนที่จะมีแรงซื้อเข้ามาดันสัญญาขึ้นไปทำจุดสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ 987.20 จุด และปิดตลาดในแดนบวกที่ 986.60 จุด ลักษณะการเคลื่อนไหวเหมือนกับ SET index ซึ่งปิดตลาด 1,557.05 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในวันหนาเเน่นพอสมควรที่ 56,117.78 ล้านบาท เป็นเเรงซื้อหลักจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันภายในประเทศที่ซื้อสุทธิกว่า +5,568.85 ล้านบาท ซึ่งมีมุมมองต่างจากนักลงทุนกลุ่มอื่นโดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยภายในประเทศที่ขายสุทธิ -3,640.94 ล้านบาท เเละนักลงทุนต่างประเทศที่ขายสุทธิ -1,324.92 ล้านบาท (รวมมีสถานะขายสุทธิตลอดเดือนกว่า -16,124.63 ล้านบาท) โดยเป็นแรงซื้อเข้าในกลุ่มธนาคารเป็นหลักจากปัจจัยบวกด้านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ สำหรับการเคลื่อนไหวในวันนี้เราคาดว่าตลาดมีแนวโน้มที่จะมีแรงขายทำกำไรออกมาบางส่วนประกอบกับเป็นวันศุกร์ปลายสัปดาห์อาจส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายระหว่างวันเบาบางจำกัด Upside ของดัชนีได้ อีกทั้งดัชนีตลาดหุ้นไทยยังคงขาดปัจจัยบวกสำคัญภายในประเทศที่จะชี้นำทิศทางการเคลื่อนไหวได้อย่างมีนัยสำคัญ • Strategy : ฝั่ง Long ได้เปรียบในวันหากราคายังเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 985 จุด, ระวังแรงขายทำกำไร ปัจจัยที่ต้องติดตาม - ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าที่ 34.97 บาท/USD - ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่องเคลื่อนไหวที่ระดับ 100.23 จุด ข่าวในประเทศ - ดัชนีตลาดหุ้นโลกทะยานรับเฟดไม่เร่งดอกเบี้ย : เฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ไปอยู่ที่ 0.75-1% ตามความคาดหมายระหว่างการประชุมรอบล่าสุด ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งผ่านอัตราเงินเฟ้อและการจ้างงาน แต่เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่เหลือในปีนี้ให้มากขึ้นตามที่ตลาดคาดไว้ ส่งผลให้ตลาดทุนทั่วโลกตอบรับในแดนบวกจนทุบสถิติใหม่ - กลต.อาเซียนออกเกณฑ์คุมกรีนบอนด์ : รายงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า หน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนอาเซียน (ACMF) เห็นชอบโครงการสำคัญตามแผนปฏิบัติการ 5 ปี (2559-2563) มุ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจและการลงทุน เชื่อมโยงตลาดทุนในภูมิภาคอาเซียนในแข็งแกร่งและเตรียมออกเกณฑ์อาเซียนกรีนบอนด์ใช้ร่วมกันทั่วภูมิภาค - (PTTH17) PTT ลุ้นปันผลครึ่งหลัง : PTT จับตาไตรมาสแรกปี 2560 กลับมาฟื้นตัวโดดเด่น เหตุไม่มีการตั้งสำรองกำไรหลักได้แรงหนุนจากอัตรากำไรของธุรกิจโรงแยกก๊าซที่ได้รับประโยชน์จากต้นทุนก๊าซที่ทรงตัวต่ำ หนุนทั้งปีเติบโตต่อเนื่อง อบรมทุกวันอังคารและพฤหัสบดี ที่อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้นที่ 12 สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808, http://www.classicgoldfutures.co.th http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup http://www.youtube.com/ilovecgf http://www.twitter.com/ilovecgf https://plus.google.com/114919553661509313835/posts http://web.stagram.com/n/classicgoldgroup/ http://classicgoldfutures.blogspot.com Application search CLASSIC GOLD ทั้ง iPhone และ Android
×
×
  • สร้างใหม่...