ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

namchiang

ขาใหญ่
  • จำนวนเนื้อหา

    1,876
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย namchiang

  1. Government Shutdown ฉุดทองดิ่งเหวหลุด20,000! Government Shutdown ฉุดราคาทองในประเทศ ดิ่งเหวหลุด 20,000! เปิดตลาดราคาดิ่งบาทละ 550 ผอ.ศูนย์วิจัยทองคำคาดราคาเคลื่อนไหวบาทละ 19,050-19,150 ประเมินหากหลุด 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ราคามีโอกาสหลุดไปที่ 1,250-1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์... นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผย “ไทยรัฐออนไลน์”​ ถึงแนวโน้มราคาทองคำในวันนี้ (2 ต.ค.56) ว่า ราคาทองคำในตลาดโลกและราคาซื้อขายทองคำในประเทศได้รับผลกระทบโดยตรงจาก Government Shutdown ของสหรัฐฯ เมื่อวานนี้ (1 ต.ค.56) ส่งผลให้สมาคมค้าทองคำประกาศปรับราคาซื้อขายทองคำในประเทศถึง 3 รอบ และแนวโน้มในวันนี้ก็ยังอยู่ในช่วงขาลง หลังจากสัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) งวดส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลงถึง 40.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ 1,286.1 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยประเมินราคาซื้อขายทองคำในประเทศช่วงเช้าวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 19,050-19,150 บาทต่อบาททองคำ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำกล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับลดลงของราคาทองคำเมื่อวานนี้เป็นเรื่องเข้าใจได้ว่าเป็นสัญญาณการปรับตัวตามปัจจัยลบที่เกิดขึ้นจากปัญหางบประมาณประจำปีของสหรัฐฯ​ซึ่งรัฐบาลกลางไม่สามารถหาข้อสรุปได้ จนเกิดเหตุการณ์ Government Shutdown ขึ้นในที่สุด แม้ตลาดทองคำจะรับรู้ปัจจัยลบดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (30 ก.ย.56) แต่นักลงทุนยังคงเทขายทำกำไรต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ ซึ่งสอดคล้องกับปัจจัยทางด้านเทคนิค หลังจากในช่วงที่ผ่านมาราคาทองปรับขึ้นใกล้แนวต้านที่ระดับ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จึงเกิดการเทขายทำกำไร “ในระยะสั้นหากราคาทองคำยืนได้ในกรอบแนวรับ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำก็จะฟื้นตัวกลับในระยะสั้นๆ โดยราคาอาจดีดกลับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง หากไม่สามารถยืนในระดับ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคาทองคำมีโอกาสร่วงลงไปแตะที่ระดับ 1,250-1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์” ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำกล่าว อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าของวันนี้ สมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อขายทองคำรอบแรกในเวลา 09.31 น. โดยราคาทองปรับลดลงบาทละ 550 บาท ทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 19,050 บาท ขายออกบาทละ 19,150 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 18,768.08 บาท ขายออกบาทละ 19,550 บาท ในขณะที่สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) งวดส่งมอบเดือน ธ.ค. ปิดการซื้อขายวานนี้ปรับลดลงถึง 40.9 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปิดที่ 1,286.1 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการปรับลดลงหนักสุดในรอบกว่า 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.56 ซึ่งเป็นผลจาก Government Shutdown โดยนักวิเคราะห์คาดว่า หากสภาคองเกรสยังไม่สามารถผ่านกฎหมายงบประมาณได้ภายใน 17 วัน อาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และอาจทำให้สหรัฐฯ ต้องถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคาทองคำให้ปรับลดลงอีก. http://www.thairath.co.th/content/eco/373440
  2. 2 ตุลาคม 2556 19:00 จีนจ่อเป็นผู้ซื้อทองอันดับ 1 ปีนี้ โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ จีนมีแนวโน้มแซงหน้าอินเดียเป็นประเทศบริโภคทองคำอันดับหนึ่งของโลกในปีนี้ หลังแรงขับเคลื่อนในตลาดย้ายจากตะวันตกสู่ตะวันออก กรรมการผู้จัดการทองคำโลก' class='anchor-link' target='_blank'>สภาทองคำโลก ภาคพื้นตะวันออกไกล "นายอัลเบิร์ต เจิ้ง" เปิดเผยว่า มีแนวโน้มอย่างมากที่ความต้องการทองคำของจีนในปีนี้ จะแซงหน้าอินเดียขึ้นมาเล็กน้อย โดยตลาดทองคำจีนอาจมีปริมาณการซื้อขายเกินกว่า 1,000 ตัน เทียบกับการซื้อขายในตลาดทองคำโลกที่ประมาณปีละ 4,400 ตัน ซึ่งประกอบด้วยทองคำใหม่จากการผลิตในเหมือง 2,800 ตัน และทองคำที่มีอยู่แล้ว 1,600 ตัน นายเจิ้งกล่าวว่า การบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้แรงหนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ และรัฐบาลไม่มีข้อกำหนดในตลาด ทำให้ชาวจีนทั่วไปหาซื้อทองคำได้ง่าย เขาประเมินว่าขณะนี้มีร้านทองราว 1 แสนร้านในจีน และธนาคาร 20 แห่งขายทองคำแท่ง หรือสัญญาลงทุนในทองคำ กรรมการผู้จัดการทองคำโลก' class='anchor-link' target='_blank'>สภาทองคำโลกฝ่ายภาคพื้นตะวันออกไกล กล่าวด้วยว่า อินเดียและจีนคือเครื่องยนต์แฝดสำหรับตลาดทองคำ การบริโภคทองคำของทั้งสองประเทศคิดเป็น 60% ของการบริโภคทองคำในโลก แต่ความต้องการของอินเดียชะลอลงสองปีมาแล้ว ทั้งนี้ ราคาทองคำพุ่งสูงระหว่างวิกฤติการเงินโลกและหนี้สินของยุโรป เมื่อนักลงทุนหันมาถือทองคำในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมีปัญหา แต่เมื่อมีการคาดการณ์กันมากว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น ราคาทองคำจึงตกลงราว 20% ในปีนี้ ปัจจุบันเคลื่อนไหวที่ราว 1,340 ดอลลาร์ต่อออนซ์ http://www.bangkokbiznews.com/
  3. ดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังการปิดหน่วยงานภาครัฐจุดกระแสคาดการณ์เฟดคง QE ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 1 ตุลาคม 2556 19:37:57 น. ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ เนื่องจากการปิดทำการหน่วยงานราชการสหรัฐบางส่วนในวันนี้ได้ทำให้เกิดกระแส คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงเดินหน้าการซื้อสินทรัพย์ต่อไป ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ดอลลาร์อ่อนค่าติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อเทียบฟรังค์สวิส โดยลดลง 0.1% สู่ระดับ 90.39 ซองตีมส์ เมื่อเวลา 6.55 น.ตามเวลานิวยอร์ก โดยก่อนหน้านั้น ดอลลาร์ได้ร่วงลงแตะ 89.93 ซองตีมส์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือน ขณะเดียวกันดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.1% สู่ระดับ 1.3546 ดอลลาร์/ยูโร ด้านเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.5% สู่ระดับ 97.76 เยน/ดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้น 0.4% สู่ระดับ 132.43 ยูโร ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญเกือบทั้งหมด ภายหลังสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับร่างงบประมาณชั่วคราว จนเป็นเหตุให้หน่วยงานสหรัฐบางส่วนต้องปิดทำการ นอกจากนี้ สภาคองเกรสยังต้องเดินหน้าหาข้อตกลงเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้ภายในเส้นตายวัน ที่ 17 ต.ค เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่เงินเยนแข็งค่าขึ้น หลังจากนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ประกาศปรับขึ้นภาษีการขายเป็น 8% ในเดือนเม.ย. 2557 จากปัจจุบันที่ระดับ 5% นอกจากนี้คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้อนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 6 ล้านล้านเยน เพื่อรับมือกับแผนการขึ้นภาษีดังกล่าว อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--
  4. หุ้นมะกันลง-ทองคำพุ่ง$34เริ่มกังวลมะกันปิดหน่วยงานรัฐนาน น้ำมันพุ่ง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 ตุลาคม 2556 04:45 น. เอเอฟพี/เอพี - วอลล์สตรีทวานนี้(2) ขยับลง กลับสู่ภาวะความเป็นจริงที่ว่าปัญหาการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯก่อความ หวาดวิตกต่อตลาด ปัจจัยนี้ก็ผลักให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ดันทองคำพุ่งแรง ส่วนน้ำมันดีดขึ้นกว่า 2 ดอลลาร์ หลังมีข่าวงานขยายท่อลำเลียงอเมริกาใกล้แล้วเสร็จ ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 62.80 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,128.90 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 1.45 จุด (0.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,693.55 จุด แนสแดค ลดลง 2.96 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,815.02 จุด การปรับลงในวันพุธ(2) สวนทางกลับความเคลื่อนไหวในวันอังคาร(1) ที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯขยับขึ้นจากความหวังที่ว่าการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางจะเกิด ขึ้นในช่วงสั้นๆเท่านั้น โดย ไมเคิล เจมส์ กรรมการผู้จัดการของเวดบุช ซีเคียวริตี กล่าวว่า "จากถ้อยคำที่วนเวียนอยู่รอบๆ ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายยังยึดมั่นในจุดยืนของตนเอง และการเจรจาคงไม่สัมฤทธิ์ผลภายใน 1 ถึง 2 วันนี้" กระนั้นนายเจมส์ คาดหมายว่ายังมีความเป็นไปได้ที่คองเกรสและทำเนียบขาวจะบรรลุข้อตกลงเพิ่ม เพดานหนี้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม โดยบอกว่า "ความเผ็ดร้อนในวอชิงตัน ณ ขณะนี้ ไม่ได้สร้างความประหลาดใจแก่ผมเลย ทว่าตอนนี้มันมีความไม่แน่นอนอย่างมากและปกติแล้วความไม่แน่นอนก็คือต้นตอ ของการเทขาย" ด้านราคาทองคำวานนี้(2) ปิดบวกแรงเกือบร้อยละ3 ฟื้นคืนจากการดิ่งลงอย่างหนักในการซื้อขายเมื่อวันอังคาร(1) เกือบทั้งหมด หลังดอลลาร์อ่อนค่าลงและการเทขายในตลาดทุน อันเป็นผลจากข้อวิตกเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ผลักให้นักลงทุน หันมาถือครองโลหะมีค่าชนิดนี้ที่ถูกมองในฐานะสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 34.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,320.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาน้ำมันวานนี้(2) ปิดบวกแรง หลังมีข่าวปฏฺิบัติการขยายท่อลำเลียงเชื้อเพลิงสำคัญใกล้แล้วเสร็จ ทำให้มีแนวโน้มว่าจะสามารถลำเลียงน้ำมันระหว่างศูนย์กลางแถบมิดเวสต์ของ สหรัฐฯและชายฝั่งทะเลได้มากยิ่งขึ้น สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 2.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รายงานข่าวของสื่อมวลชนระบุว่าบริษัททรานส์แคนาดา ใกล้แล้วเสร็จงานสร้างท่อลำเลียงน้ำมันริมฝั่งเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยให้สามารถลำเลียงน้ำมันดิบจากจุดส่งมอบคุชชิง โอคลาโฮมา ไปยังโรงกลั่นชายฝั่งเทกซัส ได้อีก 700,000 บาร์เรลต่อวัน ความเคลื่อนไหวของตลาดวานนี้(2) เพิกเฉยต่อรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่เผยให้เห็นว่าคลังน้ำมันดิบและเบนซินของประเทศเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมาย บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอ รวมถึงไม่ยี่หระต่อวิกฤตปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางบางส่วนของอเมริกา
  5. น้ำมันลงหลังมะกันปิดหนวยงานรัฐ ผิดคาดหุ้นสหรัฐฯขึ้น-ทองคำร่วง$40 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ตุลาคม 2556 05:32 น. เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันวานนี้(1ต.ค.) ขยับลงอีกครั้ง หลังภาวะปิดหน่วยงานรัฐบางส่วนของสหรัฐฯ ก่อความสงสัยต่ออุปสงค์ทางพลังงาน อย่างไรก็ตามวอลล์สตรีทกลับปิดบวกและทองคำลดลงอย่างแรง ด้วยนักลงทุนยังมองแง่ดีว่าวิกฤตนี้จะยุติลงในเวลาอันสั้น สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 29 เซนต์ ปิดที่ 102.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 43 เซนต์ ปิดที่ 107.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดน้ำมันวันอังคาร ปรับลดลงต่อเนื่องจากวันจันทร์(30ก.ย.) ตามหลังสหรัฐฯต้องปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางบางแห่ง สืบเนื่องจากการต่อสู้ทางการเมืองเกี่ยวกับงบประมาณ ก่อความกังวลว่ามันจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากมีลูกจ้างรัฐถึง 800,000 คนต้องพักงานโดยไม่ได้รับเงินเดือน ขณะเดียวกันก็อาจส่งผลกระทบให้ผู้ขับขี่ใช้เชื้อเพลิงน้อยลงด้่วย ปัจจัยแห่งความกังวลข้างต้นได้ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบอย่างแรงในวันจันทร์(30ก.ย.) และคาดหมายว่าจะร่วงลงต่อเนื่องในวันถัดๆไป อย่างไรก็ตามในวันอังคาร(1ก.ย.) วอลล์สตรีท กลับขยับขึ้นได้อย่างน่าประหลาดใจ เหตุนักลงทุนคาดหวังว่าการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรุนแรงมากนัก ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 61.33 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,191.00 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 13.46 จุด (0.80 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,695.01 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 46.50 จุด (1.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,817.98 จุด นักวิเคราะห์มองว่านักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ล่วงหน้าแล้วว่าสหรัฐฯคงไม่พ้นต้องปิดหน่วยงานรัฐบาลกลาง ดังนั้นพอเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงๆในช่วงเที่ยงคืนของวันจันทร์(30ก.ย.) มันจึงส่งผลกระทบไม่มากนัก ขณะเดียวกันหลายคนก็กะเก็งว่าวิกฤตนี้จะคลี่คลายในเร็ววัน "นักลงทุนส่วนใหญ่มองในแง่บวกว่า จนถึงจุดหนึ่งทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงและมันไม่น่าจะยืดเยื้อยาวนานนัก" วิลเลียม ลินซ์ ผู้อำนวยการด้านการลงทุนของสถาบันฮินส์เดล แอสโซซิเอตส์ระบุ ด้านราคาทองคำวานนี้(1ต.ค.) ลดลงกว่า 40 ดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ผิดคาดจากที่กะเก็งกันว่าน่าจะพุ่งขึ้นในฐานะสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำตามหลังภาวะการณ์ที่สหรัฐฯต้องปิดหน่วยงานราชการ เหตุนักลงทุนบางส่วนเชื่อว่าปัญหานี้จะยุติลงในระยะเวลาอันสั้น โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 40.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,286.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000123683
  6. หุ้นมะกันดิ่ง-น้ำมันลงวิตกมะกันต้องปิดหน่วยงานรัฐ ทองคำก็ร่วง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 ตุลาคม 2556 05:32 น. เอพี/ASTVผู้จัดการ - วอลล์สตรีทดิ่งแรงและราคาน้ำมันปิดลบวานนี้(30) จากความกังวลว่าเหตุต่อสู้ด้านงบประมาณในวอชิงตันจะลุกลามเข้าสู่เหตุกาณ์อันเลวร้ายที่สุดทางเศรษฐกิจนั่นคือล้มเหลวในการเพิ่มเพดานหนี้ของประเทศ ปัจจัยนี้ก็ฉุดให้ทองคำขยับลง หลังหวั่นอาจกระทบอุปสงค์ ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 128.57 จุด (0.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,129.67 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 10.20 จุด (0.60 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,681.55 จุด แนสแดค ลดลง 10.11 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,771.48 จุด นักลงทุนถอนตัวจากตลาดหุ้น หลังเหตุต่อสู้ด้านงบประมาณในสภาคองเกรสเสี่ยงทำให้หน่วยงานรัฐบาลกลางบางแห่งต้องปิดทำการเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ขณะที่สมาชิกรัฐสภามีเวลาจนถึงเที่ยงคืนวันอังคาร(1ต.ค.) เพื่อบรรลุข้อตกลงงบประมาณเพื่อให้รัฐบาลยังคงปฏิบัติงานอย่างสมบูรณ์ต่อไป ขณะเดียวกันก็มีความกังวลเพิ่มเติมว่าข้อขัดแย้งนี้อาจลุกลามสู่การพิจารณาขยายเพดานหนี้ในช่วงกลางเดือนตุลาคม โดยหากรัฐสภาอเมริกันไม่เห็นพ้องกันในเรื่องนี้ ก็จะถึงขั้นที่รัฐบาลอาจผิดนัดชำระหนี้กันทีเดียว หากในอีกราวครึ่งเดือนต่อจากนี้ คองเกรสไม่อนุมัติการขยายเพดานการก่อหนี้ รัฐบาลจะไม่สามารถกู้ยืมเพิ่ม จึงต้องนำรายได้จากภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ มาชำระหนี้เดิม บีบให้ต้องลดการใช้จ่ายลง 32% นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คิดว่า รัฐบาลอาจใช้วิธีชะลอการชำระหนี้แต่ละส่วนไปก่อนจนกว่าจะรวบรวมเงินชำระได้ทั้งหมด ที่แย่กว่านั้นคือ รัฐบาลอาจผิดนัดชำระดอกเบี้ยพันธบัตรคลัง นำไปสู่การผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรก ซึ่งหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้นานๆ อาจนำไปสู่วิกฤตการเงินโลก ทั้งนี้เค้ารางแห่งการที่สหรัฐฯต้องปิดหน่วยงานราชการบางส่วนในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ก็ส่งผลให้ราคาน้ำมันวานนี้(30) ปิดลบเล็กน้อย สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 54 เซ็นต์ ปิดที่ 102.33 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 26 เซ็นต์ ปิดที่ 108.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาทองคำวานนี้(30) ปิดลบ เหตุนักลงทุนทบทวนความเป็นไปได้ที่หน่วยงานสังกัดรัฐบาลกลางสหรัฐฯต้องปิดทำงาน รวมถึงผลกระทบของปัญหาดังกล่าวกับอุปสงค์โลหะมีค่าสีเหลืองชนิดนี้ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 12.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,327.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปกติแล้วสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนแบบนี้มักส่งเสริมราคาทองคำที่ถูกมองในฐานะสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ประธานของ Lamoureux & Co บริษัทที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจชี้ว่า "การปิดหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯก็คือภาวะเงินฝืดตามธรรมชาติ ซึ่งไม่เป็นผลดีนักต่ออุปสงค์ทองคำ" http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000123189
  7. “วัดฮินดู” ปฏิเสธเผย “ทองคำ” ในคลัง-หวั่นรัฐบาลอินเดียสูบไปแปลงเป็น “ดอลลาร์” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 กันยายน 2556 12:04 น. พนักงานร้านเครื่องประดับในอินเดียโชว์ทองคำแท่ง "บิสกิต" (แฟ้มภาพ) เอเจนซีส์ – วัดฮินดูในแดนภารตะไม่ยินดีที่จะเผย “คลังทองคำ” ในครอบครอง หวั่นถูกรัฐบาลอินเดียดึงไปโปะบัญชีเดินสะพัดที่ขาดดุลมหาศาล เนื่องจากมูลค่าสินค้านำเข้าฟุ่มเฟือยที่ยังสูงลิบลิ่ว สมาคมชาวฮินดูออกมาคัดค้านแผนของธนาคารกลางแห่งอินเดีย (Reserve Bank of India – RBI) ซึ่งได้ส่งจดหมายไปยังวัดฮินดูบางแห่งเพื่อขอให้แจ้งปริมาณทองคำในคลัง แม้ว่าทางธนาคารจะยืนยันว่า เป็นเพียงการ “เก็บข้อมูล” ก็ตามที “ทองคำของวัดเป็นทรัพย์สินที่ผู้ศรัทธาเต็มใจบริจาคเพื่อทำนุบำรุงศาสนามานานหลายพันปี เราจะไม่ยอมให้ใครมาผลาญมันเด็ดขาด” วี โมหนัน เลขาธิการองค์กร Vishwa Hindu Parishad ในรัฐเกรละ ระบุในถ้อยแถลง ชาวอินเดียทั่วประเทศซื้อทองคำเฉลี่ยวันละ 2.3 ตัน หนักพอๆกับช้างตัวย่อมๆ ซึ่งหากไม่ถวายเป็นเครื่องบูชาเทพเจ้าก็จะเก็บเป็นสมบัติส่วนตัว เครื่องเพชรและทองคำเหล่านี้จะตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นเพื่อแปลงเป็นทุนในช่วงที่เงินเฟ้อ หรือใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน อย่างไรก็ดี พฤติกรรม “สะสมทอง” กำลังสร้างภาระหนักต่อเศรษฐกิจอินเดีย โดยช่วง 1 ปีจนถึงวันที่ 31 มีนาคม ปี 2013 อินเดียนำเข้าทองคำเป็นมูลค่าสูงถึง 54,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงที่สุดในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย และเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อินเดียขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสูงเป็นประวัติการณ์ในปีงบประมาณ 2012/13 วัดคุรุวายูร์ในรัฐเกรละ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งในอินเดีย และมีเสาธงสูง 33.5 เมตรหุ้มด้วยแผ่นทองคำแท้เป็นที่เชิดหน้าชูตา ได้แจ้งไปยัง RBI แล้วว่า จะไม่เปิดเผยรายละเอียดทองคำของวัดโดยเด็ดขาด “ทองที่เรามีอยู่ส่วนใหญ่ได้มาจากผู้ศรัทธา พวกเขาคงไม่ต้องการให้วัดนำรายละเอียดไปบอกใคร” วี เอ็ม โกปาลา เมนอน หนึ่งในคณะกรรมการบริหารวัดกล่าว หญิงชาวอินเดียกำลังหยอดธนบัตรลงกล่องรับบริจาคภายในวัด Chottanikkara Bhagavathy ในเมืองโกจิ ทางตอนใต้ของอินเดีย เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา สภาทองคำโลกประเมินว่า วัดวาอารามในอินเดียมี “กรุทองคำ” รวมกันไม่ต่ำกว่า 2,000 ตัน คิดเป็นตัวเงิน 84,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามราคาตลาด โดยอยู่ในรูปของเครื่องประดับ, ทองคำแท่ง, เหรียญทอง หรือแม้กระทั่ง “รูปจำลอง” อวัยวะส่วนต่างๆ ซึ่งเจ้าของทองได้นำมาถวายต่อเทพเจ้าเพื่อแสดงความขอบคุณหลังได้รับโชคลาภ หรือหายจากโรคภัยไข้เจ็บ ปีนี้รัฐบาลอินเดียและ RBI ชูนโยบายลดนำเข้าทองคำจากต่างประเทศ และดึงทองคำในประเทศออกมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ โดยมีการเพิ่มภาษีนำเข้าเป็น 10% และกฎใหม่ล่าสุดของ RBI ที่กำหนดให้ร้อยละ 20 ของทองคำนำเข้าจะต้องถูกนำไปเป็น “สินค้าส่งออก” ก็สร้างความสับสนต่อผู้บริโภค จนฉุดให้แรงซื้อทองคำลดลงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา วี มุราลีธารัน ประธานพรรค ภารติยะ ชนะตะ (BJP) ซึ่งเป็นพรรคฮินดูชาตินิยมที่มีฐานอยู่ในรัฐเกรละ กล่าวหาว่า RBI ต้องการ “ยึด” ทองคำของวัดไปขาย เพื่อแลกเป็นเงินดอลลาร์ สุภา อุนนิกฤษนัน เจ้าของร้านเสื้อผ้าที่ไปบูชาเทพเจ้า ณ วัดฮินดูแห่งหนึ่งในเมืองตริวันดรัมอยู่เป็นประจำ บอกว่า ของที่ถวายเทพเจ้าไปแล้วไม่ควรมีใครไปยุ่งอีก “เราเอาทรัพย์สินถวายต่อเทพเจ้าด้วยเจตนาเฉพาะ... ใครจะมาเอาทองเหล่านั้นไปใช้ไม่ได้” เขากล่าว อย่างไรก็ดี RBI ยังไม่ได้ส่งคำขอตรวจสอบไปยังวัดศรีปัทมนาภะสวามี วัดเก่าแก่อายุหลายร้อยปีในเมืองตริวันดรัมที่มีการขุดพบเหรียญทองคำและอัญมณีในกรุใต้ดินเมื่อ 2 ปีก่อน ว่ากันว่าสมบัติที่พบครั้งนั้นมูลค่าสูงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่างบประมาณด้านการศึกษาของรัฐบาลอินเดียเสียอีก หนังสือพิมพ์ ไทม์ส ออฟ อินเดีย รายงานว่า ทรัพย์สมบัติบางส่วนที่พบภายในกรุประกอบด้วยเหรียญทองคำหนัก 1 ตัน ซึ่งมีอายุเก่าแก่ถึงสมัยกษัตริย์ นโปเลียน โบนาปาร์ต ของฝรั่งเศส, กระสอบใส่เพชรนิลจินดา และรูปปั้นทองคำ ศาลสูงสุดอินเดียได้เข้าตรวจสอบทรัพย์สินที่พบ และจัดมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000122801
  8. ข้อขัดแย้งงบประมาณสหรัฐฯฉุดหุ้นลง-ดันทองคำขึ้น น้ำมันปิดลบ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 กันยายน 2556 05:18 น. เอเอฟพี - ตลาดหุ้นสหรัฐฯวันศุกร์(27) ปิดลบพอสมควรท่ามกลางความกังวลต่อข้อขัดแย้งเกี่ยวกับร่างงบประมาณในสภาคองเกรสที่เสี่ยงทำให้หน่วยงานราชการบางส่วนของอเมริกาต้องปิดดำเนินการ อย่างไรก็ตามปัจจัยผลักให้ทองคำขยับขึ้น หลังนักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ส่วนน้ำมันลดลง จากสถานการณ์ความตึงเครียดที่คลี่คลายในตะวันออกกลาง ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 70.06 จุด (0.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,258.24 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 6.92 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,691.75 จุด แนสแดค ลดลง 5.83 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,781.59 จุด ในวันศุกร์(27) วุฒิสภาที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ลงมติเห็นของร่างงบประมาณชั่วคราวที่จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลยังปฏิบัติงานได้ตามปกติในช่วงเริ่มต้นปีงบประมาณปี 2014 ในวันอังคารหน้า(1ต.ค.) อย่างไรก็ตามร่างนี้ซึ่งส่งกลับให้สภาผู้แทนราษฎรที่พรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ ได้ตัดถ้อยคำที่ขัดขืนกฎหมายประกันสุขภาพของโอบามาออกไป นั่นบ่งชี้ว่าสมาชิกรีพับลิกันอาจจะปรับแก้ร่างกฎหมายนี้อีกรอบและส่งมันกลับคืนไปยังวุฒิสภาอีกครั้ง ความเคลื่อนไหวที่อาจทำให้ร่างกฎหมายฉบับแก้ไขมีเวลาไม่เพียงพอสำหรับผ่านความเห็นชอบจากทั้งสองสภาทันก่อนเส้นตายสิ้นปีงบประมาณในช่วงเที่ยงคืนของวันจันทร์(30) ขณะเดียวกันก็ยังไม่มีสัญญาณประนีประนอมออกมาจากสองฝ่าย ด้วยประธานาธิบดีบารัค โอบามา แถลงที่ทำเนียบขาวว่าสภาคองเกรสควรผ่านร่างกฎหมายเพื่อให้เงินทุนแก่รัฐบาล และหากไม่เป็นไปตามนั้นก็จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพ ปัจจัยนี้เองที่ผลักให้นักลงทุนวิ่งเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และเป็นผลให้ราคาทองคำวานนี้(27) ปรับเพิ่มพอสมควร ขณะที่มันยังได้แรงหนุนจากความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอเมริการายหนึ่งที่บ่งชี้ว่าอาจชะลอแผนลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจออกไปในปีหน้า โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 15.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,339.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านราคาน้ำมันวานนี้(27) ขยับลงเล็กน้อย หลังความตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตกกับซีเรียและอิหร่านผ่อนคลายลงไป นอกจากนี้นักลงทุนจับตาการต่อสู้ทางการเมืองในสภาคองเกรสสหรัฐฯขณะที่เส้นตายด้านงบประมาณขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 16 เซ็นต์ ปิดที่ 102.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 58 เซ็นต์ ปิดที่ 108.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000122221
  9. ทองปิดพุ่ง $15.1 วิตกการคลังสหรัฐ วันจันทร์, 30 กันยายน 2556 08:10 | อัพเดตล่าสุดเมือ วันจันทร์, 30 กันยายน 2556 08:10 | วันเผยแพร่ | | สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 15.1 ดอลลาร์ หรือ 1.14% ปิดที่ 1,339.2 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญา ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ (27 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการคลังของสหรัฐ โดยล่าสุดมีรายงานว่า สภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายชั่วคราว เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐสามารถดำเนินงานดำเนินต่อไปตั้งแต่วัน ที่ 1 ต.ค.จนถึงวันที่ 15 พ.ย. โดยไม่ต้องมีการปิดหน่วยงาน ร่าง กฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพื่อให้สภาฯผ่านร่างภายในวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ผู้นำพรรครีพับลิกันกล่าวว่า พวกเขาจะไม่ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ นอก จากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสัญญาทองคำหลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย เดือนก.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 77.5 จากระดับ 76.8 ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวสู่ระดับ 78.0 อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยรวมเพียง 0.5% ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.5 เซนต์ ปิดที่ 21.831 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 4.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,419.2 ดอลลาร์/ออนซ์
  10. ความมหัศจรรย์ของ... "ราคาทองคำ" โดย : ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์ ผมเพิ่งจะเขียนหนังสือที่มีชื่อว่า “30 วัน รวยด้วย...รายได้ที่ไม่ต้องทำงาน” เสร็จไป หลังจากนี้ทางสำนักพิมพ์เนชั่นบุ๊คส์จะเป็นผู้พิมพ์ และจัดจำหน่ายต่อไป ในหนังสือเล่มนี้มีอยู่บทหนึ่งที่ตัวผมเองชอบมาก และน่าจะเหมาะกับคุณผู้อ่านที่ชอบเก็บสะสมทองคำ เพราะได้เล่าถึงประวัติของราคาทองคำ ซึ่งผู้ที่มีทองคำหรือผู้ที่ลงทุนในทองคำควรจะรู้เป็นอย่างยิ่ง ดังรายละเอียดต่อไปนี้ครับ หนึ่ง ปี 2514-2523... ยุคกระทิงดุ เริ่มจาก 15 สิงหาคม 2514 ประธานาธิบดีนิกสันประกาศยกเลิกการใช้ทองคำเป็นตัวค้ำประกันเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา โดยเริ่มต้นกำหนดที่อัตราแลกเปลี่ยน 35 ดอลลาร์ต่อหนึ่งทรอยออนซ์ของทองคำ ปี 2516 เกิดการรวมตัวของประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางหรือที่เรียกกันว่า กลุ่มโอเปค ทำให้ราคาน้ำมันและทองคำพุ่งทะยานขึ้น ส่งผลให้วันที่ 14 พฤษภาคม 2516 ราคาทองคำพุ่งทะลุกว่า 100 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ปี 2522 เกิดการปฏิวัติโค่นล้มราชวงศ์ในประเทศอิหร่าน ทำให้เกิดกระแสความหวาดกลัวกลุ่มหัวรุนแรงในตะวันออกกลาง เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้วันที่ 27 ธันวาคม 2522 ราคาทองคำพุ่งขึ้นทะลุ 500 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ วันที่ 24 ธันวาคม 2522 สหภาพโซเวียตประกาศบุกอัฟกานิสถาน ทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงไปทั่วโลก นักลงทุนจึงย้ายเงินไปลงทุนในทองคำอย่างมโหฬารอีกครั้งหนึ่ง จนถึงวันที่ 24 มกราคม 2523 ราคาทองคำก็พุ่งขึ้นกว่า 870 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ อาจกล่าวได้ว่าช่วง 10 ปีนี้เป็นยุคทองของราคาทองคำ เพราะราคาทองคำเพิ่มขึ้นจาก 35 ดอลลาร์ ไปถึง 870 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ คิดเป็นเพิ่มขึ้นประมาณ 2,485 เปอร์เซ็นต์ อธิบายง่ายๆ ว่า “ถ้าคุณผู้อ่านซื้อทองคำไว้ในปี 2514 เป็นเงิน 1 ล้านบาท เก็บไว้ 10 ปีแล้วค่อยขายออก คุณผู้อ่านก็จะได้เงินทั้งสิ้นประมาณ 25 ล้านบาท คุณผู้อ่าน เริ่มอยาก..ลงทุนในทองคำหรือยังครับ?” สอง ช่วงปี 2524-2543.. ยุคมืดของราคาทองคำ ปี 2524-2525 เป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและค่าเงินดอลลาร์มีเสถียรภาพ ประกอบกับการพบแหล่งทองคำใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นในทวีปอเมริกาเหนือหรือออสเตรเลีย ราคาทองคำจึงเริ่มตกลงมาเรื่อยๆ จนถึงประมาณ 300 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ปี 2529 สหประชาชาติได้ทำการแซงชันประเทศแอฟริกาใต้จากปัญหาการออกกฎหมายแบ่งแยกและกีดกันชนชั้นจากสีผิว นักลงทุนส่วนใหญ่จึงคาดกันว่าแอฟริกาใต้จะแก้แค้นกลับโดยการงดการส่งออกทองคำ ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นมาบ้าง ปี 2539-2542 ไอเอ็มเอฟต้องการใช้เงินจำนวนมากเพื่อไปแก้ปัญหาหนี้สินของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา จึงเทขายทองคำ 5 ล้านทรอยออนซ์ออกมา ธนาคารกลางของหลายประเทศก็ทำตามไอเอ็มเอฟ โดยสวิตเซอร์แลนด์ขาย 1,400 ตัน อังกฤษขาย 400 ตัน เป็นต้น ทำให้ราคาทองคำตกต่ำแบบสุดๆ ... โดยในวันที่ 20 สิงหาคม 2542 ราคาทองคำอยู่ที่ 252.80 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี ตรงกันข้ามอย่างสุดขั้ว ... ในรอบ 20 ปีนี้ จากราคาทองคำในเดือน มกราคม 2524 จาก 677 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ พอมาถึงเดือนธันวาคม 2543 ราคาเหลือเพียง 283 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือตกลงเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ เช่นกัน..ถ้าคุณผู้อ่านซื้อไว้ 1 ล้านบาทในปี 2524 และขายในปี 2543 คุณผู้อ่านก็จะได้เงินกลับคืนมาแค่สี่แสนกว่าบาทเท่านั้น ...เสียเวลาไป 20 ปี ...แต่ขาดทุนกว่าครึ่ง สาม ช่วงปี 2544-2555.. เมื่อกระทิงกลับมาผงาด เริ่มต้นในปี 2544 เศรษฐกิจของยักษ์ใหญ่ 2 ตนคือ จีนและอินเดีย มีอัตราการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เครื่องประดับต่างๆ ที่ต้องใช้ทองคำขายดี ส่งผลให้ทองคำจำนวนหนึ่งถูกเก็บออกไปจากตลาดในรูปของเครื่องประดับ การบริโภคทองคำในลักษณะนี้ยังดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและมากขึ้นทุกปี ปี 2544 เกิดเหตุการณ์ 9/11 ในสหรัฐอเมริกา ก็ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นภายในวันเดียวถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2547 มีการก่อตั้งกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในทองคำโดยเฉพาะ ปัจจุบันคาดกันว่า SPDR น่าจะมีทองคำอยู่ในมือสูงมากจนติดอันดับต้นๆ ของผู้ถือครองทองคำมากที่สุดในโลก ธันวาคม 2548 เกิดเฮอร์ริเคนแคทริน่าเข้าถล่มเมืองนิวออร์ลีนส์ ทำให้ราคาทองคำพุ่งไปถึง 536.50 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ต่อมาเดือนกันยายน 2551 เกิดวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในสหรัฐอเมริกา ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นถึง 872 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หลังเหตุการณ์นั้น เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาก็ย่ำแย่มาโดยตลอด ส่งผลให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในการถือครองพันธบัตรสหรัฐอเมริกา จึงทำให้บรรดาธนาคารกลางในหลายประเทศเริ่มทยอยเก็บทองคำแทนพันธบัตรสหรัฐอเมริกา จนถึงช่วงต้นปี 2555 ราคาทองคำก็วิ่งจนไปอยู่ที่ระดับ 1,600-1,800 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์แล้ว ในช่วงที่ 3 นี้ราคาทองคำจากประมาณ 300 ดอลลาร์ขึ้นถึงประมาณ 1,800 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 6 เท่าตัว ดังนั้นคำว่า “ทอง” จึงเป็นสิ่งที่น่าพิสมัยของคนทุกเพศทุกวัย “สรุปง่ายๆ ภายในระยะเวลาระหว่างปี 2514-2555 ประมาณ 40 ปี ราคาทองคำพุ่งขึ้นมาประมาณ 50 เท่า” แม้ว่าทุกวันนี้ ราคาทองคำจะดูเหมือนว่าจะ...เตี้ยลง...เตี้ยลง แต่โดยส่วนตัวผมก็เชื่อมั่นว่าราคาทองคำจะกลับมาแน่ และมันก็จะสำแดงฤทธิ์เดชให้ทุกคนได้เห็นว่า… “ลงทุนซื้อทองคำเก็บไว้ ดีกว่า...การฝากเงินในสถาบันการเงิน” อย่างแน่นอนครับ Tags : ดร.วีรพงษ์ ชุติภัทร์ http://www.bangkokbiznews.com/
  11. 26 กันยายน 2556 18:00 ธนาคารกลางตุรกีซื้อทองมากที่สุดในโลก โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ไอเอ็มเอฟเผยธนาคารกลางตุรกีซื้อทองคำสำรองมากที่สุดในรอบ 5 เดือน ผงาดผู้ซื้อทองแท่งมากที่สุดในโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) รายงานว่า ธนาคารกลางตุรกีได้เพิ่มทองคำสำรองเป็นปริมาณมากที่สุดในรอบ 5 เดือนเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และขึ้นแท่นเป็นประเทศที่ซื้อทองคำแท่งเพิ่มมากที่สุดในโลก บ่งชี้ว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความนิยมสูงถึงแม้ราคาจะลดลง ไอเอ็มเอฟระบุในเว็บไซต์ว่า ธนาคารกลางตุรกีได้เพิ่มการถือครองทองคำอีก 23.344 ตันเป็น 487.351 ตัน ขณะที่ธนาคารกลางรัสเซียเพิ่มทองคำสำรองอีก 12.722 ตัน เป็น 1,015.521 ตัน นอกจากนี้ ตุรกีได้ซื้อทองคำ 13 เดือนในรอบ 14 เดือนที่ผ่านมา และรัสเซียเพิ่มทองคำสำรอง 11 เดือนติดต่อกัน นอกจากนี้ ข้อมูลของไอเอ็มเอฟระบุว่า รัสเซียซึ่งมีทองคำสำรองมากเป็นอันดับ 7 ของโลก ก็เพิ่มการถือครองทองคำเมื่อเดือนก่อนเป็นปริมาณมากที่สุดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2555 ในเดือนสิงหาคม มีธนาคารกลาง 8 ประเทศที่เพิ่มปริมาณทองคำสำรอง ลดลงจากในเดือนกรกฎาคมที่มี 15 ประเทศ ในขณะที่มีธนาคารกลาง 5 ประเทศลดปริมาณการถือครองทองคำ การถือครองทองคำของธนาคารกลางต่างๆ ถูกจับตามองอย่างมาก ตั้งแต่ธนาคารเหล่านี้กลายมาเป็นผู้ซื้อสุทธิในปี 2553 หลังจากที่เป็นผู้ขายสุทธิมา 20 ปี โดยวิกฤติเศรษฐกิจโลกปี 2551 ทำให้ภาครัฐหันมาสนใจทองคำมากขึ้น การการซื้อครั้งล่าสุดมีขึ้นหลังจากราคาทองคำในตลาดโลกร่วงลงต่ำกว่า 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงต้นเดือนสิงหาคม จากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด อาจจะลดมาตรการเข้าซื้อพันธบัตร ราคาทองคำฟื้นกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่เฟดมีมติในเดือนนี้ว่าจะคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ถึงแม้ความวิตกรอบใหม่ว่าการตัดสินใจที่จะลดมาตรการกระตุ้นอาจจะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ทำให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเกินระดับ 1,300 ดอลลาร์ http://www.bangkokbiznews.com
  12. ทองปิดร่วง $12.1 หลังข้อมูลศก.สดใสหนุนคาดเฟดลด QE ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 27 กันยายน 2556 06:41:35 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลงสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าข้อมูลดังกล่าวอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 12.1 ดอลลาร์ หรือ 0.91% ปิดที่ 1,324.1 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 12 เซนต์ ปิดที่ 21.766 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 18.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1410.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 723.45 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนลดการถือครองทองคำเนื่องจากความกังวลที่ว่าเฟดอาจจะลดขนาด QE หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 ก.ย. ปรับตัวลดลง 5,000 ราย แตะระดับ 305,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 325,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 309,000 ราย ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 2/2556 โดยระบุว่าจีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัว 2.5% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 2.5% นักลงทุนกำลังจับตาดูการอภิปรายเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์กังวลว่าในสัปดาห์นี้สภาคองเกรสสหรัฐอาจเผชิญกับสถานการณ์ที่ยุ่งยาก ซึ่งการที่หน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐอาจจะต้องปิดทำการในวันที่ 1 ต.ค. หรืออาจจะเปิดทำการได้ต่อไปนั้น ขึ้นอยู่กับผลการลงคะแนนเสียงในสภาคองเกรส อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- http://www.ryt9.com/s/iq31/1743897
  13. ผู้ว่าแบงก์ชาติบอกผู้ประกอบการค้าทองไม่ต้องมาหารือกับธปท.แล้ว แนะไปเคลียร์กับกระทรวงการคลัง ไม่สนคำขู่โบรกฯทองจะไปเทรดสิงคโปร์ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลความเห็นเรื่องการจะเข้าไปกำกับดูแลการซื้อขายทองคำได้ เพราะตอนนี้ทางกระทรวงการคลังได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลเรื่องนี้เป็นการเฉพาะอยู่แล้ว โดยคณะทำงานชุดนี้มี นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นประธาน "หากผู้ค้าทองอยากจะเข้าหารือเพื่อเคลียร์ประเด็นต่างๆ คงต้องรอเข้าหารือกับทางคณะทำงานเอง คงไม่ต้องมาหารือกับธปท.แล้ว ถามว่าถ้าธปท.ห่วงการค้าทองคำจะกระทบอัตราแลกเปลี่ยนหรือไม่ หรือเห็นด้วยกับข้อเสนอของสมาคมผู้ค้าทองคำ ที่เสนอให้ตั้งตลาดโกลด์สปอร์ตขึ้นมาดูแลจะได้หักชำระราคาไม่ให้กระทบค่าเงินนั้น ผมว่าตอนนี้เรามีคณะทำงานอยู่ที่กระทรวงการคลัง ซึ่งผู้อำนวยการ สศค.เป็นประธาน ขอให้คณะทำงานได้ทำงานก่อน เพราะประชุมครั้งต่อไปก็ประมาณเดือนต.ค.นี้แล้ว"นายประสารกล่าว ผู้ว่าการธปท. กล่าวอีกว่า การหารือคณะทำงานจะใช้เวลานานแค่ไหน เพราะทางผู้ค้าทองคำก็ต้องการจะรู้กติกาที่ชัดเจนนั้น มองว่าเท่าที่ดูตอนนี้ก็คงไม่น่ามีใครเดือดร้อน ส่วนที่ผู้ค้าทองคำบอกว่าถ้ากติกาในประเทศไทยไม่ชัดเจนอาจจะมีการย้ายไปค้าทองคำไปที่ประเทศสิงคโปร์นั้น คิดว่าให้คณะทำงานเป็นคนพูดเป็นคนชี้แจงจะดีกว่า http://www.bangkokbiznews.com
  14. น้ำมันขึ้นจากข้อมูลศก.สหรัฐฯ หุ้นมะกันบวกแคบ-ทองคำลง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กันยายน 2556 05:32 น. เอพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันขยับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วันวานนี้(26) จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แช่มชื่น อย่างไรก็ตามวอลล์สตรีท ปิดบวกได้แค่ในกรอบแคบๆ หลังถูกฉุดจากความกังวลด้านการถกงบประมาณในสภาคองเกรส และปัจจัยนี้เองก็เป็นผลให้ทองคำปรับลด สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 37 เซ็นต์ ปิดที่ 103.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 89 เซ็นต์ ปิดที่ 109.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ความเคลื่อนไหวในแดนบวกของราคาน้ำมันเป็นผลจากข้อมูลภาคแรงงานสหรัฐฯ ที่่พบว่าจำนวนผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 5,000 อัตรา เหลือ 305,000 อัตรา ถือเป็นระดับต่ำที่สุดอันดับ 2 ในรอบ 6 ปี ขณะเดียวกันก็มีคำยืนยันว่าเศรษฐกิจอเมริกาในช่วงไตรมาส 2 ขยายตัวร้อยละ 2.5 ปัจจัยเหล่านี้เองที่ส่งให้ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี500 ปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันเมื่อวันพฤหัสบดี(26) อย่างไรก็ตามการขยับขึ้นก็ถูกจำกัดไว้โดยความกังวลว่าสมาชิกสภาคองเกรสจะผ่านกฎหมายหลีกเลี่ยงปิดหน่วยงานราชการและความเป็นไปได้ที่อาจต้องผิดนัดชำระหนี้ทันเวลาหรือไม่ ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 55.04 จุด (0.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,328.30 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.90 จุด (0.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,698.67 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 26.33 จุด (0.70 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,787.43 จุด ในวอชิงตัน สมาชิกจากรีพับลิกัน ยังปฏิเสธทำตามคำเรียกร้องของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ต่อการรับรองร่างกฎหมายสำหรับช่วยให้หน่วยงานราชการยังสามารถปฏิบัติงานได้ต่อไปแม้เลยวันที่ 30 กันยายน หรือวันสิ้นสุดปีงบประมาณ รวมถึงเพิ่มเพดานหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะผิดนัดชำระหนี้ ความเป็นไปได้ว่ากฎหมายงบประมาณจะผ่านสภาคองเกรสไม่ทันเส้นตาย ก็เป็นสิ่งที่นักลงทุนจับตาอย่างระมัดระวัง เป็นผลให้ราคาทองคำวานนี้(26) ปิดลบพอสมควร โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 12.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,324.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000121787
  15. ฮือฮา! รัสเซีย-คาซัคสถานกว้านซื้อทองคำล็อตใหญ่ 11 เดือนติด ตุรกีเอาด้วยซื้อเพิ่ม 23 ตันในเดือนเดียว แม้ไม่เกิดสงครามซีเรีย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 กันยายน 2556 12:49 น. ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยืนยันรัสเซีย และคาซัคสถาน กว้านซื้อทองคำล็อตใหญ่เป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตุรกีก็เอาด้วย ซื้อทองคำมาถือครองเพิ่มอีก 23.4 ตันภายในเดือนเดียว แม้แนวโน้มที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรจะใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียนั้น ส่อเค้าอาจไม่เกิดขึ้น ข้อมูลของไอเอ็มเอฟระบุว่า ธนาคารกลางรัสเซียทำการกว้านซื้อทองคำเพิ่มอีก 12.7 ตันในเดือนที่แล้ว ส่งผลให้รัสเซียมีปริมาณทองคำสำรองในความครอบครองล่าสุดเพิ่มเป็น 1,015.5 ตัน นับเป็นการกว้านซื้อทองคำแบบต่อเนื่องถึง 11 เดือนติดต่อกันของรัฐบาลมอสโก ขณะที่คาซัคสถาน อดีตดินแดนส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตในเอเชียกลาง ได้ทำการซื้อทองคำมาถือครองเพิ่มเติมอีก 2.5 ตันในเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ดินแดนซึ่งมั่งคั่งไปด้วยก๊าซธรรมชาติแห่งนี้มีทองคำสำรองในความครอบครองแล้วทั้งสิ้น 134.5 ตัน ข่าวการกว้านซื้อทองคำล็อตใหญ่ของทั้งรัสเซียและคาซัคสถานเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันมีขึ้น ในขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นราว 5.3 เปอร์เซ็นต์ในเดือนที่แล้ว จากความกังวลว่าอาจเกิดสงครามใหญ่ในซีเรียนับเป็นการปรับขึ้นของราคาทองคำ หลังจากที่ราคาทองคำในตลาดโลกเริ่มเข้าสู่ภาวะ “ดิ่งเหว” แบบต่อเนื่อง เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 13 ปีนับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว นอกเหนือจากรัสเซียและคาซัคสถานที่ยังคงเดินหน้าเพิ่มการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่อง ยังมีรายงานยืนยันว่า ตุรกีก็ได้เพิ่มปริมาณการถือครองทองคำสำรองของตนเช่นเดียวกัน โดยในเดือนสิงหาคม รัฐบาลอังการาได้ซื้อทองคำเพิ่มอีกกว่า 23.4 ตัน ส่งผลให้ปริมาณทองคำสำรองทั้งหมดของตุรกีล่าสุดมีอยู่กว่า 487.35 ตันแล้ว ในอีกด้านหนึ่ง สภาทองคำโลก (ดับเบิลยูจีซี) ออกมาเปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า ในปี 2012 ที่ผ่านมา ประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ทำการกว้านซื้อทองคำไปถือครองไว้คิดเป็นปริมาณรวมกันมากถึง 534.6 ตัน ส่งผลให้ปี 2012 กลายเป็นปีที่มีการกว้านซื้อทองคำมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1964 เป็นต้นมา http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000121419
  16. <div>สืบ 4 รวบต่างชาติเร่ขายทองปลอม</div> <div>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม <span class="Apple-tab-span" style="white-space:pre"> </span>25 กันยายน 2556 15:31 น. <span class="Apple-tab-span" style="white-space:pre"> </span></div> <div> </div> <div></div> <div>ตำรวจสืบสวนนครบาล 4 จับกุมตัวนายแบรี่ อาฮาจิ อับดุลลาย อายุ48 ปี สัญชาติเซียร์ราลีโอน(SIERRA LEONE) พร้อมของกลางทองคำปลอม น้ำหนัก 4 กก.</div> <div> </div> <div>ตำรวจสืบสวนนครบาล 4 แถลงข่าวจับกุมหนุ่มใหญ่ชาวต่างชาติก่อเหตุเร่ขายทองปลอมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทย สารภาพซื้อวัสดุคล้ายทองคำมาจากมาเลย์เสียกิโลกรัมละ 2 แสน ก่อนนำมาหลอกขายให้ลูกค้ากิโลกรัมละ 5 แสนบาท</div> <div> </div> <div> เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (25 ก.ย.) พ.ต.อ.สง่า กรรภิรมย์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.ต.สุรพล อยู่ชยันตี สว.กก.สส.บก.น.4 ร.ต.อ.จิรัสย์ หมื่นสิน รอง สว.กก.สส.บก.น.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว นายแบรี อาฮาจิ อับดุลลาย อายุ 48 ปี สัญชาติเซียร์ราลีโอน (SIERRA LEONE) พร้อมของกลางทองคำปลอม น้ำหนัก 4 กก. โดยจับกุมได้ห้องพักเลขที่ 725 ถ.รามคำแหง แขวงและเขตสวนหลวง กทม.</div> <div> </div> <div> ร.ต.อ.จิรัสย์กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่ามีบุคลต่างด้าวมาพักอาศัยอยู่ในห้องพักรายวันดังกล่าว และทราบว่าได้แอบลักลอบนำทองปลอมหลอกขายให้กับชาวต่างชาติและชาวไทย จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ห้องพักดังกล่าว พบนายแบรี อาฮาจิ อับดุลลาย อยู่ในห้องพัก จึงแสดงต้วขอตรวจค้น พบวัตถุคล้ายทองคำลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ จำนวน 2 ถุง น้ำหนักประมาณ 4 กก.อยู่ภายในห้อง จากการสอบถามผู้ต้องหายอมรับว่าทองปลอมดังกล่าวเป็นทองปลอมที่นำไปหลอกขายให้กับชาวต่างชาติจึงควบคุมตัวมาสอบสวน ทั้งนี้ ฝากเตือนประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมดังกล่าว อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด เพราะในช่วงระยะที่ผ่านมาพบว่ามีคดีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติถูกหลอกขายทองปลอมเพิ่มมากขึ้น มูลค่าความเสียหายสูงนับล้านบาทต่อครั้ง</div> <div> </div> <div> นายแบรี อาฮาจิ อับดุลลาย รับสารภาพว่า ตนมีหน้าที่เพียงแค่นำของไปส่งให้กับลูกค้าเท่านั้น โดยจะมีเพื่อนอีกคนทำหน้าที่ออกไปหลอกขายทองปลอมให้กับชาวต่างชาติ ซึ่งทองดังกล่าวพวกตนนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย ส่งมาทางพัสดุ ซื้อมาในราคากิโลกรัมละ 200,000 บาท และจะขายในกิโลกรัมละ 500,000 บาทขึ้นไป ครั้งนี้ตนกำลังจะนำของออกไปให้ลูกค้าพอดี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมได้ก่อน</div> <div> </div> <div> เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวพร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อทำการผลักดันออกนอกประเทศ ส่วนของกลางที่เป็นทองปลอมก็จะส่งตัวอย่างไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าทำมาจากสิ่งใดถึงมีสีและน้ำหนักใกล้เคียงกับของจริงต่อ</div> <div> </div> <div>http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000121024</div> <div> </div>
  17. น้ำมัน-หุ้นสหรัฐฯลง กังวลมะกันผ่านก.ม.งบฯไม่ทัน แต่ทองคำพุ่งแรง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 กันยายน 2556 04:50 น. เอพี - ราคาน้ำมันขยับลง 5 วันติดวานนี้(25) หลังสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯสูงขึ้น บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอ ขณะที่วอลล์สตรีท ปิดลบ จากความกังวลต่อข้อขัดแย้งด้านงบประมาณในอเมริกา อย่างไรก็ตามปัจจัยนี้เองได้ผลักให้ทองคำขึ้นแรง เหตุนักลงทุนหันมาถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 47 เซ็นต์ ปิดที่ 102.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 61 เซ็นต์ ปิดที่ 108.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในวันพุธ(25) เป็นผลมาจากสัญญาณอุปสงค์อันอ่อนแอในสหรัฐฯ ชาติผู้บริโภครายใหญ่ หลังกระทรวงพลังงานเผยว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 กันยายน เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล ส่วนสต๊อกเบนซิน ก็เพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(25) ปิดลบเล็กน้อย จากความกังวลต่อตัวเลขเศรษฐกิจและความเป็นไปได้ที่มากขึ้นเรื่อยๆว่าหน่วยงานราชการบางส่วนของอเมริกาต้องปิดทำการบางส่วนหลังวันที่ 1 ตุลาคม หลังจากสภาคองเกรสยังตกลงกันไม่ได้ในเรื่องของงบประมาณ ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 60.59 จุด (0.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,274.00 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 4.53 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,692.89 จุด แนสแดค ลดลง 7.05 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,761.21 จุด รัฐบาลสหรัฐฯจะหมดงบประมาณรายจ่ายในวันที่ 30 กันยายน จนกว่าพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน จะบรรลุข้อตกลงผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า ทั้งนี้วุฒิสภาที่คุมโดยเดโมแครตจะลงมติต่อมาตรการชั่วคราวในวันพุธ(25) จากนั้นก็จะเข้าสู่การอภิปรายของสภาผู้แทนราษฎรที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ดังนั้นการต่อสู้เกี่ยวกับงบประมาณนี้จึงได้รับคาดหมายว่าจะยืดเยื้อไปจนถึงช่วงสุดสัปดาห์ ทั้งนี้ความกังวลว่ากฎหมายงบประมาณจะผ่านไม่ทันเส้นตายและข้อขัดแย้งของการขยายเพดานหนี้ของสภาคองเกรส เป็นต้นตอที่ผลักให้นักลงทุนหันไปถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำและเป็นเหตุให้ทองคำวานนี้(25) พุ่งขึ้นแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 19.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,336.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000121271
  18. สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556 07:36:11 น. ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 ก.ย. 2556 ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 15,273.26 จุด ลดลง 61.33 จุด -0.40% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,692.77 จุด ลดลง 4.65 จุด -0.27% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,761.10 จุด ลดลง 7.15 จุด -0.19% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,195.35 จุด ลดลง 0.26 จุด -0.01% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,665.63 จุด เพิ่มขึ้น 1.03 จุด +0.01% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,551.53 จุด ลดลง 19.93 จุด -0.30% ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,406.77 จุด ลดลง 53.64 จุด -1.20% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,283.90 จุด ลดลง 15.22 จุด -0.18% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 14,620.53 จุด ลดลง 112.08 จุด -0.76% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดนี้ที่ 1,998.06 จุด ลดลง 9.04 จุด -0.45% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,275.90 จุด เพิ่มขึ้น 41.70 จุด +0.80% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,198.51 จุด ลดลง 9.02 จุด -0.41% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,420.42 จุด ลดลง 40.96 จุด -0.63% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,209.63 จุด เพิ่มขึ้น 30.59 จุด +0.13% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,784.06 จุด ลดลง 8.42 จุด -0.47% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,208.58 จุด ลดลง 3.17 จุด -0.10% ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 19,856.24 จุด ลดลง 63.97 จุด -0.32% -- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาด้านการคลังของสหรัฐอาจจะนำไปสู่การปิดหน่วยงานของรัฐ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,273.26 จุด ลดลง 61.33 จุด หรือ -0.40% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,692.77 จุด ลดลง 4.65 จุด หรือ -0.27% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,761.10 จุด ลดลง 7.15 จุด หรือ -0.19% -- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลาง นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 19.9 ดอลลาร์ หรือ 1.51% แตะที่ 1,336.2 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ แตะที่ 21.886 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1428.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 725.70 ดอลลาร์/ออนซ์ -- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการพลังงานของสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 47 เซนต์ ปิดที่ 102.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 32 เซนต์ ปิดที่ 108.32 ดอลลาร์/บาร์เรล -- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.)เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาด้านการคลังของสหรัฐอาจจะนำไปสู่การปิดหน่วยงานของรัฐ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.46 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 98.80 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9094 ฟรังค์ จากระดับ 0.9124 ฟรังค์ ยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3523 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3477 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.6077 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6006 ดอลลาร์สหรับ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9362 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9394 ดอลลาร์สหรัฐ -- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) ดยหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหนักสุด และจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านการคลังในสหรัฐ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,551.53 จุด ลดลง 19.93 จุด หรือ -0.30% -- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านการคลังของสหรัฐ ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 313.02 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 8,665.63 จุด เพิ่มขึ้น 1.03 จุด, +0.01% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,195.35 จุด ลดลง 0.26 จุด, -0.01% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,551.53 จุด ลดลง 19.93 จุด, -0.30% อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- http://www.ryt9.com/s/iq20/1743081
  19. <div>แฉเงื่อนงำเทรดทองคำในตลาดล่วงหน้า เก็งกำไรค่าเงินบาทโดยไม่มีการส่งมอบจริง</div> <div>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ <span class="Apple-tab-span" style="white-space:pre"> </span>24 กันยายน 2556 15:12 น. <span class="Apple-tab-span" style="white-space:pre"> </span></div> <div><span class="Apple-tab-span" style="white-space:pre"> </span></div> <div>ก.ล.ต.สั่งสอบซื้อขายทองคำในตลาดล่วงหน้า ป้องกันเก็งกำไรค่าเงินบาทโดยไม่มีการส่งมอบจริง ยันพร้อมให้ความร่วมมือ ธปท. คุมเข้มโบรกเกอร์ใช้ช่องทางเทรดทองคำ เผยตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่ามีการเก็งกำไรดังกล่าวในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พบเพียงแต่การเก็งกำไรนอกตลาดเท่านั้น ชี้เงื่อนงำตั้งเงื่อนไขการวางมัดจำในการซื้อขายแล้วบอกว่าเป็นสัญญาล่วงหน้าใช่หรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก และต้องเข้าไปดูในรายละเอียด</div> <div> </div> <div> นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. พร้อมให้ความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการให้ข้อมูล รวมถึงการตรวจสอบการซื้อขายทองคำที่พบว่าอาจเป็นช่องทางในการเก็งกำไรค่าเงินบาท โดยไม่มีการส่งมอบจริง แต่ในปัจจุบันยังไม่ได้รับการร้องขอ หรือมีการพูดคุยกับทาง ธปท. อย่างเป็นทางการ</div> <div> </div> <div> ทั้งนี้ การดำเนินงานในเบื้องต้นตนเองได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อมูลว่าการเก็งกำไรทองคำ มีความเกี่ยวข้องกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือไม่ ซึ่งหากมีก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลแก่ ธปท. แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่ามีการเก็งกำไรดังกล่าวในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พบเพียงแต่การเก็งกำไรนอกตลาดเท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้อยู่นอกเหนือการกำกับดูแลของ ก.ล.ต. แต่จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ ในการตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำกับดูแล</div> <div> </div> <div> “แน่นอนว่าถ้าเราช่วยได้เราจะช่วยเต็มที่ แต่ตอนนี้แบงก์ชาติยังไม่ได้ร้องขอเข้ามาแต่ทางเราเองก็ได้มีการตรวจสอบเบื้องต้น ซึ่งอาจจะใช่ หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้ ซึ่งต้องดูว่าการวางมัดจำในการซื้อขายแล้วบอกว่าเป็นสัญญาล่วงหน้าใช่หรือไม่ อันนี้คงตอบยากต้องดูในรายละเอียด แต่เราพร้อมหากแบงก์ชาติร้องขอความร่วมมือ” นายวรพลกล่าว</div> <div> </div> <div> </div> <div>http://manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000120472</div>
  20. <div>ก.ล.ต.สั่งสอบซื้อขายทองในตลาดล่วงหน้า</div> <div> </div> <div>โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์</div> <div>ก.ล.ต.,ซื้อขายทอง,เก็งกำไรค่าเงิน</div> <div> </div> <div> ภาพข่าว ภาพประกอบข่าว</div> <div> </div> <div>0</div> <div> </div> <div>12</div> <div> </div> <div>TOOLS</div> <div> </div> <div> คัดลอก URL นี้เเบบย่อhelp</div> <div> คัดลอก</div> <div> ขนาดตัวอักษร</div> <div> พิมพ์ข่าวนี้</div> <div> ส่งต่อให้เพื่อน</div> <div> More Sharing Services แบ่งปันข่าว</div> <div> </div> <div>คอลัมน์อื่นๆ</div> <div> </div> <div> วิเคราะห์หุ้น</div> <div> LPN - ซื้อ</div> <div> KTB - ซื้อ</div> <div> การเงินส่วนบุคคล</div> <div> โอกาสการลงทุน...ในตลาดหุ้นจีน</div> <div> ถ้าวางแผนการเงินดี ก็เป็นนักลงทุนที่ดีได้</div> <div> ถนนนักลงทุน</div> <div> "สองเซียนหุ้น" วิพากษ์ เหตุ "ขาดทุน" หุ้น PACE</div> <div> ออมตังค์ผ่าน "กองทุน"วิถีลงทุน "เกศรา มัญชุศรี"</div> <div> </div> <div>ก.ล.ต.สั่งสอบซื้อขายทองคำในตลาดล่วงหน้า ป้องกันเก็งกำไรค่าเงิน ยันพร้อมให้ความร่วมมือ ธปท. คุมเข้มโบรกเกอร์ทอง</div> <div> </div> <div>นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. พร้อมให้ความร่วมมือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการให้ข้อมูล รวมถึงการตรวจสอบการซื้อขายทองคำ ที่พบว่าอาจเป็นช่องทางในการเก็งกำไรค่าเงินบาท โดยไม่มีการส่งมอบจริง แต่ในปัจจุบันยังไม่ได้รับการร้องขอหรือมีการพูดคุยกับทางธปท.</div> <div> </div> <div>ทั้งนี้ในเบื้องต้นได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อมูลว่าการเก็งกำไรทองคำ มีความเกี่ยวข้องกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือไม่ ซึ่งหากมีก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลกับธปท. แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่ามีการเก็งกำไรดังกล่าวในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พบเพียงแต่การเก็งกำไรนอกตลาดเท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้อยู่นอกเหนือการกำกับดูแลของก.ล.ต. แต่จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ในการตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำกับดูแล</div> <div> </div> <div>"แน่นอนว่าถ้าเราช่วยได้เราจะช่วยเต็มที่แต่ตอนนี้แบงก์ชาติยังไม่ได้ร้องขอเข้ามาแต่ทางเราเองก็ได้มีการตรวจสอบเบื้องต้น ซึ่งอาจจะใช่หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้ ซึ่งต้องดูว่าการวางมัดจำในการซื้อขายแล้วบอกว่าเป็นสัญญาล่วงหน้าใช่หรือไม่ อันนี้คงตอบยากต้องดูในรายละเอียด แต่เราพร้อมหากแบงก์ชาติร้องขอความร่วมมือ" นายวรพล กล่าว</div> <div> </div> <div>http://www.bangkokbiznews.com</div>
  21. น้ำมันนิวยอร์กลง กังวลวิกฤตตัดลบงบประมาณสหรัฐฯฉุดหุ้น-ทองคำปิดลบ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กันยายน 2556 05:31 น. เอเอฟพี - ราคาน้ำมันนิวยอร์กวานนี้(24)ขยับลง นักลงทุนคลายกังวลทางอุปทาน หลังวิกฤตโครงการนิวเคลียร์อิหร่านส่อแววคลี่คลายด้วยการเจรจา ส่วนวอลล์สตรีททรงตัวและทองคำปรับลด จับตาความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการตัดลดงบประมาณรายจ่ายของสหรัฐฯ ที่เดโมแครตและรีพับลิกันยังงัดข้อกันอยู่ สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 46 เซนต์ ปิดที่ 103.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 108.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ความเคลื่อนไหวในแดนลบของราคาน้ำมันเมื่อเร็วๆนี้ ส่วนหนึ่งมาจากโอกาสลดน้อยถอยลงเรื่อยๆที่สหรัฐฯจะใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย ขณะเดียวกันอีกปัจจัยที่คลายความกังวลทางอุปทานแก่นักลงทุนก็คือความเป็นไป ได้ของการใช้แนวทางด้านการทูตคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างชาติตะวันตกกับ อิหร่าน เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(24) ปิดผสมผสานในกรอบแคบๆ นักลงทุนจับตาขัดแย้งด้านการตัดลบงบประมาณในสภาคองเกรส ขณะที่เส้นตายซึ่งหน่วยงานของรัฐบาลกลางต้องหยุดทำงานตั้งแต่วันอังคารหน้า (1 ต.ค.) หากสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ก็ขยับเข้าใกล้มาทุกที ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 66.47 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,334.91 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 4.38 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,679.49 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 2.97 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,768.25 จุด นักลงทุนจับตาอย่างเป็นกังวล ก่อนหน้าเส้นตายงบประมาณรายจ่ายประจำปีของรัฐบาลจะมาถึงในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ขณะที่ทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงเห็นต่างกัน ทั้งนี้หากร่างกฎหมายนี้ไม่ผ่านสภาคองเกรส ก็จะส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางบางส่วนต้องปิดทำการตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ปัจจัยนี้ประกอบกับยังมีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะลดระดับ กระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้(24) ขยับลงพอสมควร โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 10.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,316.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  22. ทองปิดร่วง $10.7 กังวลเฟดลด QE วันพุธ, 25 กันยายน 2556 08:24 | อัพเดตล่าสุดเมือ วันพุธ, 25 กันยายน 2556 08:24 | วันเผยแพร่ | พิมพ์ | อีเมล สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 10.7 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ 1,316.3 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากความไม่แน่นอนที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ นักลงทุนเทขายทองคำเนื่องจากความไม่แน่นอนที่ว่าเฟดจะลดขนาด QE หรือไม่ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณที่แตกต่างกันในเรื่องดังกล่าว นูเรียล รูบินี นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังได้กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ความเสี่ยงของเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มลดน้อยลง ซึ่งทำให้ความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยนั้น ลดน้อยลงด้วย ซิตี้กรุ๊ปได้แสดงความคิดเห็นในรายงานล่าสุดว่า การที่เฟดตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการ QE นั้น จะช่วยหนุนตลาดทองคำแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น และสัญญาทองคำยังคงมีแนวโน้มขาลง พร้อมกับคาดการณ์ว่าราคาทองอาจร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,250 ดอลลาร์/ออนซ์ก่อนสิ้นปีนี้ เนื่องจากคาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจจะส่งสัญญาณแข็งแกร่งขึ้น ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่าราคาทองคำจะอยู่ที่ 1,200 -1,350 ดอลลาร์ในปีหน้า ก่อนที่จะมีแนวโน้มปรับตัวลง และโกลด์แมน แซคส์ คาดว่าสัญญาทองคำจะร่วงลงไปอยู่ต่ำกว่าระดับ 1,000 ดอลลาร์ในปีหน้า ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 27.1 เซนต์ หรือ 1.24% ปิดที่ 21.586 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 7.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1418.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 720.00 ดอลลาร์/ออนซ์ http://www.moneychannel.co.th
  23. 23 กันยายน 2556 10:00 เล็งคุมค้าทองสกัดเก็งกำไรบาท โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ธปท.เตรียมจัดระเบียบซื้อขายทองคำ ถก 'คลัง-ก.ล.ต.' ออกมาตรการดูแลโบรกเกอร์-ร้านค้าทอง หลังพบนักลงทุนใช้เป็นช่องทางเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.อยู่ระหว่างหารือร่วมกับ กระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อวางกติกาเกี่ยวกับการซื้อขายทองคำของร้านค้าทอง หรือ บริษัทที่เป็นนายหน้า (โบรกเกอร์) ซื้อขายทองคำ เพื่อป้องกันใช้เป็นช่องทางเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน "ที่ผ่านมาพบว่ามีปริมาณการซื้อขายทองคำเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก และส่วนใหญ่เป็นลักษณะที่ไม่ได้มีการส่งมอบกันจริง อีกทั้งยังมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยนด้วย" ปัจจุบันโบรกเกอร์มีทั้งสิ้น 14 ราย และมีตัวแทนขาย 21 รายที่ได้รับอนุญาตให้ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้ นายประสาร กล่าวว่า การวางกติกาซื้อขายทองคำจะเกี่ยวข้อง 2 ส่วน คือ ส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับอัตราแลกเปลี่ยน และส่วนที่เป็นการซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำที่มีการชำระราคาในทันที (spot) นายประสาร กล่าวว่า ที่ผ่านมา ธปท. ได้ติดตามดูการซื้อขายทองคำของร้านค้าหรือบริษัทที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง โดยดูว่าตัวเลขที่มีการซื้อขายเมื่อหักกลบกันแล้วเป็นอย่างไร โดยมีการนำตัวเลขต่างๆ มาดู ทั้งตัวเลขการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ และตัวเลขการซื้อขายทองคำ ซึ่งปรากฏว่าตัวเลขการซื้อขายเงินตราต่างประเทศมีมากกว่าการซื้อขายทองคำค่อนข้างมากแบบมีนัยสำคัญ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า การซื้อขายในส่วนนี้ คงมีเรื่องการเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย "เราเอาตัวเลขเงินตราต่างประเทศที่เขาบอกว่า ขอแลกเพื่อไปซื้อทองคำ มาดูเทียบกับตัวเลขที่มีการซื้อขายทองคำกันจริงๆ ปรากฏว่าตัวเลขการขอแลกเงินตราต่างประเทศมันสูงกว่า ดังนั้น คงมีเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอนในเรื่องนี้"นายประสาร กล่าว ชี้คนไทยนิยมซื้อ-ขายเพิ่มขึ้น นายประสาร กล่าวว่า อีกส่วนหนึ่งที่เป็นการซื้อขายชำระราคาในทันทีหรือตลาดสปอต โดยในระยะหลังคนไทยซื้อทองคำในลักษณะที่เป็นการเทรดมากขึ้น และมากกว่าการซื้อเพื่อเก็บสะสม ประกอบกับผู้ประกอบการร้านค้าทองได้ขยายการให้บริการของตัวเองไปสู่การเป็นโบรกเกอร์มากขึ้น และมีการซื้อขายผ่านทองคำทางออนไลน์ ซึ่งไม่ได้มีการส่งมอบทองคำกันจริงๆ มากขึ้น "จึงมีโจทย์ในเรื่องของความเรียบร้อย กับการคุ้มครองผู้บริโภคเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะต้องทำให้แน่ใจว่า ถ้าลูกค้าต้องการทองคำขึ้นมาแล้วไม่มีของ จะหาวิธีชดเชยกันอย่างไร ที่สำคัญโบรกเกอร์เหล่านี้มีเงินกองทุนเพียงพอหรือไม่" เตรียมวางกติกาซื้อ-ขายทอง นายประสาร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ธปท.เชิญผู้ประกอบการร้านค้าทองมาหารือเป็นระยะ เพราะให้ความสนใจมาตั้งแต่ช่วงที่ปริมาณการซื้อขายทองคำไม่มาก เพียงแต่ตอนนั้นยังเป็นแค่การขอความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน "ตอนนี้คงเป็นโจทย์ว่า เราจะวางกติกาต่างๆ ยังไง เพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น ตอนนี้ก็อยู่ในชั้นการปรึกษาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” นายประสาร กล่าว" มูลค่านำเข้าทองพุ่งแตะ 8.2% ข้อมูล ธปท. ระบุว่า ปริมาณการนำเข้าทองคำ 7 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวน 10,858.64 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 8.2% ของปริมาณการนำเข้ารวม 131,058.21 ล้านดอลลาร์ ถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูงมากเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านๆ มา หรือมีอัตราการขยายตัวสูงมาก โดยในปี 2555 มีการนำเข้าทองคำ 12,378.60 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 5.63% ของการนำเข้ารวม 219,860.33 ล้านดอลลาร์ ถ้าหักมูลค่าการนำเข้าทองคำออกในช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ จะทำให้ประเทศไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 4,793 ล้านดอลลาร์ แต่ถ้านับรวมทองคำเข้าไปด้วย จะทำให้ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด 5,000 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม นายประสาร ไม่กังวลว่าการนำเข้าทองคำจะทำให้ประเทศขาดดุลบัญชีเดินสะพัด เนื่องจากยังเห็นว่าผู้ประกอบการอัญมณีในประเทศ นำทองคำเข้ามาเป็นวัตถุดิบผลิตเครื่องประดับเพื่อส่งออกด้วย http://www.bangkokbiznews.com/
  24. ร้านทองจ๊าก กม.คุมเก็งกำไร “จิตติ” แนะดูแลโบรกฯ ที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดสปอต โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กันยายน 2556 19:21 น. คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น นายกสมาคมค้าทองฯ แนะ ธปท. แก้ปัญหาเก็งกำไร “ทองคำ-ค่าบาท” ควรออกมาตรการคุมร้านขายทองให้ตรงจุด แนะดูแลโบรกเกอร์ที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดสปอต และถ้าจะออกกติกาเรื่องใดมาขอให้เชิญสมาคมฯ เข้าร่วมหารือด้วยเพื่อให้ข้อมูล และแก้ปัญหาให้ถูกต้อง เพราะหากออก กม. ควบคุมธุรกิจทั้งหมด อาจกระทบภาพรวมตลาดทองคำได้ นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ และประธานห้างทองจินฮั่วเฮง กล่าวถึงกรณีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หารือร่วมกับกระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อวางกติกาในการซื้อขายทองคำหลังพบการเก็งกำไรในอัตราแลกเปลี่ยน กรณีดังกล่าว ทางสมาคมฯ ได้นำเสนอให้ออกกฎหมายมาดูแลการซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำที่มีการชำระราคาใน ทันที (spot) เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เพราะพบว่ามีการจัดตั้งบริษัทนายหน้าซื้อขายทองคำ (โบรกเกอร์) ทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก ซึ่งโบรกเกอร์บางรายไม่มีที่มาที่ไป และไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมค้าทองคำ และสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งอาจสร้างความเสียหาแก่บลูกค้าได้หากปิดสำนักงานหนี ดังนั้น จึงเห็นด้วยหากจะคุมเข้มการซื้อขายออนไลน์ในตลาดสปอต และทางสมาคมฯ ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าโบรกเกอร์ที่ไม่ได้จดทะเบียนมีการเก็งกำไรในอัตรา แลกเปลี่ยนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หาก ธปท.จะออกกติกาเรื่องใดมาขอให้เชิญสมาคมค้าทองคำเข้าร่วมหารือด้วย เพื่อให้ข้อมูลเพื่อจะได้แก้ปัญหาให้ตรงจุด เพราะหากออกกติกา หรือกฎหมายมาควบคุมธุรกิจค้าทองทั้งหมดอาจจะเป็นปัญหาต่อภาพรวมตลาดทองคำได้ เนื่องจากมีโบรกเกอร์ที่ถูกกฎหมายได้รับผลกระทบไปด้วย นายจิตติ กล่าวว่า ร้านค้าทองคำ และโบรกเกอร์ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องไม่ได้มีลักษณะการเก็งกำไรอัตราแลก เปลี่ยน เพราะขณะนี้ค่าเงินบาทมีความผันผวนมาก การเข้าเก็งกำไรอาจจะทำให้เสียหายได้ และที่ผ่านมา ปริมาณการนำเข้า และส่งออกทองคำก็เป็นไปอย่างสมดุล
  25. น้ำมันลงแรงหลังคลายกังวลทางอุปทาน หุ้นมะกัน-ทองคำปิดลบ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กันยายน 2556 05:30 น. เอเอฟพี - ราคาน้ำมันดิ่งลงแรงวานนี้(23) หลังนักลงทุนคลายกังวลต่อความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปทานทางพลังงาน ส่วนวอลล์สตรีทและทองคำก็ปิดลบ หลังสมาชิกระดับสูงของเฟดส่งสัญญาณว่าธนาคารแห่งนี้จะคงกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป แต่ก็มีสิทธิ์ลดระดับในช่วงสิ้นปีนี้ สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 103.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล "ความกังวลด้านอุปทานค่อยๆสูญหายไป ปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรียมีความเป็นไปไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ประธานาธิบดีอิหร่าน ก็ส่งสัญญาณแสดงความตั้งใจเจรจาในโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขา" ฟาวัด ราซักซาดา นักวิเคราะห์จากจีเอฟพีกล่าว ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(23) ปิดลบพอสมควร หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) แสดงความคิดเห็นบ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงเหยียบคันเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามเดิม แต่ก็พร้อมลดระดับหากว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจดีขึ้น ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 48.62 จุด (0.31 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,402.47 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 7.99 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,701.92 จุด แนสแดก ลดลง 9.44 จุด (0.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,765.29 จุด ปัจจัยนี้เองที่เผยให้เห็นว่ายังมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดระดับโครงการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือนในช่วงสิ้นปี ก็ส่งผลให้ทองคำวานนี้(23) ขยับลงเล็กน้อยเช่นกัน โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,327.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000120234
×
×
  • สร้างใหม่...