ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

namchiang

ขาใหญ่
  • จำนวนเนื้อหา

    1,876
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย namchiang

  1. Gold Wins Strongest Returns In 2014 So Far: Goldman Sachs By International Business Times | Commodities News | Feb 17, 2014 06:02PM GMT | | 1 Comment International Business Times Article AA By Nat Rudarakanchana - After a dismal 2013, gold has actually offered the best returns for the year to date among all asset classes in 2014, according to a Goldman Sachs Group Inc. (NYSE:GS) chart from Monday. Gold Wins Strongest Returns In 2014 So Far: Goldman Sachs That comes on the heels of a 28 percent decline in gold prices in 2013, its worst year since 1981. Stock markets have been sluggish in early 2014, however, pulling out the brakes after a bullish 2013 gave rise to talk of potential market corrections in 2014. Still, like many Wall Street analysts, the New York-based investment bank’s metals analysts maintain a dim view of gold prices for the upcoming year. Goldman Sachs’ Jeffrey Currie sees gold averaging $1050 over 2014, down significantly from its current $1318 per ounce. In the research note sent out Sunday, Goldman Sachs also discussed global equities. It held global macroeconomic conferences in Tokyo and Hong Kong last week, and said the majority of the 2000 attendees were most bullish on equities, relative to other assets, and specifically European equities. In contrast with Asian investors and portfolio managers, Goldman Sachs predicts that the Japanese stock market will post the strongest returns in 2014. “It became apparent that Europe is viewed as the ‘default option of choice.’ Past experience has led us to expect a bias in favor of local [Asian] equity markets, but the pattern did not occur this year,” wrote the Goldman Sachs analysts. There is much apprehension over a Chinese economic slowdown and Japan’s “third arrow” of Abenomics reforms, which has dampened local sentiment, said the analysts. “Most clients subscribed to our view that the current high valuation of the S&P 500 will result in only modest returns for the index in 2014. By process of elimination, clients believe European equities have the best near-term return possibilities.” Asia-based equity investors also have a dimmer view of potential gains in the S&P 500 for 2014, relative to their American counterparts, according to the note. “American home-bias exists. Many US-based investors with whom we have met recently expect the S&P 500 will climb to 2000 - 2200 by the end of this year (+10% to +20%). No investor we met at the macro conference expressed such a positive view of the US stock market,” read the note. Goldman Sachs forecasted that Japan would post the best total return in 2014, at 23 percent, followed by Asian markets excluding Japan (16 percent), and Europe (12 percent), with U.S. equities in last place at a projected 6 percent return.
  2. ผิดหวังตัวเลขสหรัฐ ฉุดบาทแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือน updated: 17 ก.พ. 2557 เวลา 20:40:49 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ภาวะการเคลื่อนไหวของตลาดเงินปริวรรตประจำวันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.35/37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นมาเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดในวันพฤหัสบดี (13/2) ที่ระดับ 32.58/60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่แข็งค่าที่สุดในรอบ 2 เดือน และเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับสกุลเงินในภูมิภาค โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้ปรับตัวอ่อนค่าลง หลังจากที่นักลงทุนผิดหวังกับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ประกาศออกมาในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยยอดค้าปลีกของสหรัฐปรับตัวลดลงที่ระดับ -0.4% ในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันหลังจากเดือนก่อนหน้าออกมาที่ -0.1% นอกจากนี้ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐในเดือนมกราคมปรับตัวลดลง 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธันวาคม ซึ่งคาดว่าได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เลวร้าย นอกจากนี้ ค่าเงินบาทยังคงปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับเงินสกุลดอลลาร์ หลังจากที่คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/56 เติบโต 0.6% จากในช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.6% จากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเติบโต 0.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นผลจากการที่มีอุปสงค์ต่อเนื่องจากกองทุนต่างประเทศหลังจากที่สถานการณ์การเมืองในประเทศยังไม่มีความรุนแรง โดยในช่วงบ่ายค่าเงินบาทยังมีแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง ในระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.23-32.38 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.25/32.27 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.3715/16 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาจากระดับปิดตลาดในวันพฤหัสบดี (13/2) ที่ 1.3666/67 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร หลังจากที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสที่ 4/56 ของเยอรมัน ฝรั่งเศสและอิตาลี ปรับตัวดีขึ้นเกินคาด โดย GDP ของเยอรมันปรับตัวสูงขึ้นแตะ 0.4% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส จาก 0.3% ในเดือนก่อนหน้า และ GDP ของฝรั่งเศสปรับตัวสูงขึ้นแตะที่ระดับ 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส จากระดับ -0.1% ในเดือนก่อนหน้า ในส่วนของ GDP ของอิตาลีปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส จากระดับ 0.0% ในเดือนก่อนหน้า ประกอบกับการเปิดเผยยอดเกินดุลการค้าของยูโรโซนในเดือนธันวคมขยายตัวสู่ระดับ 1.39 หมื่นล้านยูโร จากระดับ 9.8 พันล้านยูโรเมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรยังคงได้รับแรงหนุนหลังจากที่มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรอิตาลีเป็น "มีเสถียรภาพ" จาก "เชิงลบ" เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่นายกอิตาลีนายเอ็นริโก เลตตา ได้ประกาศลาออก ทำให้คาดว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีความมุ่งมั่นในการปฏิรูปมากกว่านี้ ในระหว่างวัน ค่าเงินยูโรยังคงปรับตัวแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.3685-1.3723 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1.3407/10 ดอลลาร์/ยูโร ส่วนค่าเงินเยนเปิดระดับที่ 101.50/52 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์จากระดับปิดตลาดในคืนวันพฤหัสบดี (13/2) ที่ระดับ 101.94/95 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของญี่ปุ่นซึ่งปรับตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยขยายตัวเพียง 0.3% ในไตรมาสที่ 4/56 ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.7% ซึ่งเป็นผลให้นักลงทุนเข้าถือครองเงินเยนซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น อย่างไรก็ดีในช่วงปลายตลาดมีแรงเทขายกลับบ้าง โดยในระหว่างวันค่าเงินเยนมีกรอบการเคลื่อไนหวอยู่ที่ระดับ 101.97-101.98 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 101.87/92 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ในสัปดาห์นี้ตลาดรอติดตามการเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีเงินเฟ้อและดัชนีราคาผู้บริโภคของอังกฤษ (18/2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมัน ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐ รวมถึงดัชนีภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ (19/2) ตัวเลขราคาผู้ผลิตเยอรมัน ตัวเลขภาคการผลิตและภาคการบริการของประเทศต่าง ๆ ในกลุ่มสหภาพยุโรป และดัชนีเงินเฟ้อของสหรัฐ (20/2) เป็นต้น อัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +5.2/5.4 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +5.0/5.5 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1392644508
  3. ตลาดหุ้น,น้ำมัน,ทองUSปิดทำการวันปธน.สหรัฐ ข่าวเศรษฐกิจ วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2557 7:08น. ตลาดหุ้นสหรัฐ น้ำมัน ทองคำ ปิดทำการ1วัน เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ U.S. Stocks Closed today for Presidents' Day http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=517252
  4. กุหลาบแดง-ช็อกโกแลตธรรมดาไป ชาวเวียดนามเซอร์ไพรส์คนรักด้วยกุหลาบทองคำ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กุมภาพันธ์ 2557 16:06 น. ชายชาวเวียดนามเดินเข้าไปในร้านขายสินค้าวันวาเลนไทน์แห่งหนึ่งในกรุงฮานอย วันที่ 13 ก.พ.--Agence France-Presse/Hoang Dinh Nam. ซินหวา - ช่วงเวลาก่อนถึงวันวาเลนไทน์ บรรดาหนุ่มสาวชาวเวียดนามต่างเสาะหาของขวัญชิ้นพิเศษเพื่อมอบให้แก่คนรัก แต่หลายคนระบุว่ากุหลาบ และช็อกโกแลตที่มักมอบให้กันในวันวาเลนไทน์เพื่อแสดงความรักนั้นดูธรรมดาไปในยุคนี้ แม่บ้านชาวเวียดนาม อายุ 26 ปี จากกรุงฮานอย โพสต์รูปแม็คบุ๊กจอเรตินา ที่เป็นของขวัญจากสามีลงบนเฟซบุ๊กของตัวเอง และเขียนข้อความกำกับว่า “กุหลาบกับช็อกโกแลตเห็นได้ทั่วไปในวันวาเลนไทน์ แต่ของขวัญชิ้นนี้สิ เซอร์ไพรส์ฉันมากจริงๆ” ตามรายงานของบรรดาร้านขายสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ในกรุงฮานอย ระบุว่า ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 10% ในช่วงก่อนวันวาเลนไทน์เมื่อเทียบกับยอดขายในวันอื่นๆ ปัจจุบันนี้ ชาวเวียดนามโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่น มักมองหาของบางอย่างที่ไม่ธรรมดา และมีความเฉพาะให้แก่คนรักแทนการให้ดอกกุหลาบ หรือช็อกโกแลต รายงานของสำนักข่าวซินหวาระบุว่า สำหรับคนที่มีความโรแมนติกมากเป็นพิเศษก็ใช้เวลาไปกับการตามหาของขวัญชิ้นพิเศษเพื่อเซอร์ไพรส์คนรัก เช่น ดอกกุหลาบสีน้ำเงิน ที่ในเวลานี้เป็นสินค้าที่ลูกค้าชาวเวียดนามต่างออกตามหากันในช่วงวันวาเลนไทน์ เหวียน แม็งห์ หุ่ง ผู้จัดการร้านขายดอกไม้นำเข้าในกรุงฮานอย กล่าวว่า ดอกกุหลาบสีแปลกๆ เหล่านี้จะถูกย้อมสีระหว่างการปลูกเพื่อให้ได้สีออกมาตามที่ต้องการ สำหรับกุหลาบสีน้ำเงิน จำหน่ายอยู่ที่ช่อละ 150,000 ด่ง (มากกว่า 7 ดอลลาร์) ขณะที่กุหลาบ 7 สี ขายช่อละ 250,000 ด่ง (12 ดอลลาร์) “กุหลาบสีน้ำเงินถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ซื่อสัตย์ และเป็นนิรันดร์ในเวียดนาม กุหลาบพวกนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แม้ราคาจะสูงก็ตาม” หุ่ง กล่าว ด้านเจ้าของร้านขายดอกไม้อีกร้านหนึ่งเสนอขายดอกกุหลาบขอบทองสำหรับวาเลนไทน์ปีนี้ โดยระบุว่า กุหลาบขอบทองเป็นสินค้าขายดีที่สุดของร้าน ซึ่งตามการระบุของเจ้าของร้าน กุหลาบแบบพิเศษนี้ถูกสั่งจองไว้ล่วงหน้าแล้วทั้งหมด และดอกไม้จะส่งถึงบ้านของลูกค้า โดยกุหลาบขอบทองแต่ละดอกจะบรรจุอยู่ในกล่องอย่างดีความยาว 30 ซม. กว้าง 10 ซม. เป็นดอกกุหลาบนำเข้าจากอินเดีย ชุบทองคำบริสุทธิ์ 24K “แม้ว่าราคาจะสูงมาก แต่กุหลาบทองคำพวกนี้ได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างมากเช่นกัน เพราะความแตกต่างบวกกับสีที่โดดเด่นสะดุดตา และภาพลักษณ์ที่งดงาม” เจ้าของร้าน กล่าว กุหลาบทองคำ มีราคาขายตั้งแต่ 2-4 ล้านด่ง (ประมาณ 95-190 ดอลลาร์) ขึ้นอยู่กับขนาดของกุหลาบ มิงห์ กวาน อายุ 24 ปี กล่าวกับสำนักข่าวซินหวาว่า ได้สั่งกุหลาบทองคำให้แก่แฟนสาวเพื่อแสดงถึงความรักที่มั่นคงต่อคนรัก “กุหลาบชุบทองคำเป็นตัวแทนความรักชั่วนิรันด์ของผมที่มีให้แก่เธอ กลิ่นหอม และสีของกุหลาบดอกนี้จะคงอยู่ตราบนานเท่านาน” กวาน กล่าว.
  5. น้ำมันทรงตัว ทองคำขึ้น-ดาวโจนส์พุ่ง นักลงทุนเชื่อมั่น ศก.สหรัฐฯ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 กุมภาพันธ์ 2557 05:31 น. น้ำมันทรงตัว ทองคำขึ้น-ดาวโจนส์พุ่ง นักลงทุนเชื่อมั่น ศก.สหรัฐฯ เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - น้ำมันวานนี้ (14) ทรงตัวแม้มีการเทขายทำกำไรในช่วงปลายสัปดาห์ ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก ด้วยนักลงทุนมั่นใจต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่อุปสงค์ที่แท้จริงอันแข็งแกร่ง ก็ดันให้ทองคำ ขยับขึ้นเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 5 เซนต์ ปิดที่ 100.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ ปิดที่ 109.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันยังทรงตัวจากระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนเมื่อวันพุธ (12) จากแนวโน้มอุปสงค์ที่แข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐฯ หนึ่งในชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ที่สุดของโลก ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ (14) ปิดบวก ด้วยดาวโจนส์ ทะยานกว่า 100 จุด นักลงทุนมั่นใจว่าเศรษฐกิจอเมริกากำลังฟื้นตัวอย่างมั่นคง แม้พบข้อมูลเผยให้เห็นถึงความอ่อนแอในภาคอุตสาหกรรมช่วงเดือนที่แล้วก็ตาม ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 126.67 จุด (0.79 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,154.26 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 8.76 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,838.59 จุด แนสแดก เพิ่มขึ้น 3.35 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,244.03 จุด รายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯเดือนมกราคม พบว่าลดลงผิดความคาดหมายร้อยละ 0.3 แต่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ชี้แจงว่าการปรับลดดังกล่าว ส่วนใหญ่มาจากสภาพอากาศอันเลวร้ายที่ตัดลดการผลิตในบางภูมิภาคของประเทศ ขณะเดียวกันวิเคราะห์ก็มองว่าความเคลื่อนไหววอลล์สตรีทวานนี้ (14) เป็นผลมาจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจอเมริกามากขึ้น ส่วนราคาทองคำวานนี้ (14) เพิ่มขึ้น 8 วันติด และตลอดทั้งสัปดาห์นี้ปิดบวกถึงร้อยละ 4.4 สืบเนื่องจากความต้องการทองคำที่แท้จริงเพิ่มมากขึ้น โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 18.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,318.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000018073
  6. ราคาทองคำปิดบวก 18.5 ดอลล์จากแรงซื้อในตลาดสปอตจีน ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2557 08:51:58 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งแรงเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) ทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้นทั้งหมด 4.4% ในสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 18.5 ดอลลาร์ หรือ 1.42% ปิดที่ 1,318.6 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 21.421 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.026 ดอลลาร์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,430.1 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 13.5 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดที่ 737.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.50 ดอลลาร์ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อที่แข็งแกร่งในตลาดสปอตของจีน และการคาดการณ์เกี่ยวกับการผ่อนคลายข้อจำกัดการนำเข้าทองคำของอินเดีย นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของรอยเตอร์ส/มหาวิทยาลัยมิชิแกนที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทรงตัวอยู่ที่ระดับ 81.2 ในเดือนก.พ. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 80.0 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 9.7% ในปีนี้ ทะลุระดับแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ ในขณะที่นักวิเคราะห์หลายรายคาดว่า ราคาทองคำจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2557 อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th-- http://www.ryt9.com/s/iq31/1836771
  7. น้ำมันทรงตัว-ทองคำขึ้น หุ้นสหรัฐฯพุ่งหลังปธ.ใหม่เฟดยันสานต่อกระตุ้นศก. โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 กุมภาพันธ์ 2557 05:30 น. น้ำมันทรงตัว-ทองคำขึ้น หุ้นสหรัฐฯพุ่งหลังปธ.ใหม่เฟดยันสานต่อกระตุ้นศก. เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันขยับในกรอบแคบและทองคำวานนี้(11) ปิดบวก หลังประธานเฟดคนใหม่ยืนยันกับสภาคองเกรส สานต่อนโยบายค่อยๆลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจของผู้นำคนก่อน ปัจจัยนี้ประกอบกับแนวโน้มรีพับลิกันและเดโมแครต ส่อบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ ก็ดันให้วอลล์สตรีท พุ่งขึ้นแรง สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 12 เซนต์ ปิดที่ 99.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ ปิดที่ 108.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ระหว่างเข้าให้ปากคำกับสภาคองเกรสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) นางเจเน็ต เยนเลน ได้แสดงความคิดเห็นตามที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ล่วงหน้าว่า จะสานต่อนโยบายค่อยๆลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจและคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำตามแผนของเบน เบอร์นันกี ประธานเฟดคนก่อน จนกว่าพบเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดแรงงานอย่างมีนัย กรณีที่ เยลเลน ส่งสัญญาณว่าจะยังคงเดินหน้านโยบายผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณนี้ ก็ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้(11) พุ่งขึ้นแรง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 15.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,289.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปัจจัยข้างต้นประกอบกับสภาคองเกรสส่งสัญญาณเห็นพ้องขยายเพดานหนี้โดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ ก็ผลักให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(11) ปิดบวกแรงเช่นกัน ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 188.29 จุด (1.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,990.08 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 19.53 จุด (1.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,819.37 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 42.86 จุด (1.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,191.03 จุด เมื่อวันอังคาร(11) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรีพับลิกัน ส่งสัญญาณว่าพวกเขาจะยอมตกลงขยายเพดานหนี้โดยปราศจากการผูกติดกับเงื่อนไขซึ่งเป็นที่ถกเถียงใดๆ ถ้อยแถลงที่สร้างความเบาใจต่อนักลงทุนเป็นอย่างมาก
  8. ทองปิดพุ่ง $15.1 ขานรับเฟดเดินหน้าลด QE ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 06:56:51 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ก.พ.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการการเงินของรัฐสภาสหรัฐว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าแผนการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 15.1 ดอลลาร์ หรือ 1.18% ปิดที่ 1,289.8 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 4.1 เซนต์ ปิดที่ 20.153 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,387.8 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 716.35 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำยังคงพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง หลังจากนางเยลเลนได้แถลงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการการเงินของรัฐสภาสหรัฐเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าแผนการปรับลดมาตรการ QE ต่อไป เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น นางเยลเลนให้คำมั่นสัญญาว่า เธอจะสานต่อเจตนารมณ์ด้านนโยบายการเงินของนายเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานเฟด ด้วยการเดินหน้าปรับลดมาตรการ QE ต่อไป นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และหลังจากสมาคมทองคำจีนรายงานว่า ปริมาณการใช้ทองคำในจีนพุ่งขึ้น 1,000 ตัน สู่ระดับ 1,176.40 ตันในปี 2556 หรือเพิ่มขึ้น 41.36% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนผลผลิตทองคำของจีนในปี 2556 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 428.16 ตัน อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--
  9. ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากดอลล์อ่อน, แรงซื้อในตลาดจีน ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 21:06:56 น. ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. เนื่องจากแรงซื้อในตลาดสปอตของจีนและการอ่อนค่าลงของเงินสกุลดอลลาร์ได้กระตุ้นอุปสงค์ในทองคำ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% แตะที่ 1,285.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลาประมาณ 20.11 น.ตามเวลาประเทศไทย ราคาทองคำที่ตลาดสปอตของจีนพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 9 เดือนเมื่อวานนี้ ในการกลับมาเปิดทำการเป็นวันแรกหลังจากช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนตัวลงของดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก 10 สกุล ก่อนที่นางนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงนโยบายการเงินต่อรัฐสภาสหรัฐเป็นครั้งแรกหลังจากที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งจะมีขึ้นในวันนี้ อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--
  10. 11 กุมภาพันธ์ 2557 07:00 ความต้องการทองคำจีนทะลุพันตัน โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ สมาคมทองคำจีน สมาคมทองคำจีนรายงาน การบริโภคทองคำของจีนปี 2556 พุ่งขึ้น 41% ทะลุ 1,000 ตันเป็นครั้งแรก สมาคมทองคำจีนรายงาน การบริโภคทองคำของจีนปี 2556 พุ่งขึ้น 41% ทะลุ 1,000 ตันเป็นครั้งแรก หลังจากราคาที่ลดลงอย่างรวดเร็วดึงดูดผู้ซื้อทั้งทองคำแท่งและทองรูปพรรณ ความต้องการที่พุ่งขึ้นช่วยให้จีนกลายเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับหนึ่ง และอาจสนับสนุนราคาทองคำซึ่งได้รับผลกระทบในปีที่แล้ว จากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งความต้องการของอินเดียผู้ซื้อสำคัญอีกรายหนึ่งลดลง สมาคมทองคำจีนรายงานผ่านเว็บไซต์ว่า การบริโภคทองคำในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 1,176.40 ตันในปี 2556 ด้วยความต้องการทองรูปพรรณเพิ่มขึ้น 43% เป็น 716.50 ตัน และความต้องการทองคำแท่งเพิ่มขึ้น 57% เป็น 375.73 ตัน ความต้องการของจีนพุ่งทำสถิติหลังราคาทองคำร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้นและราคาหุ้นสูงขึ้น ในปี 2556 ราคาทองคำร่วงลง 28% นักวิเคราะห์จากบริษัทจินรูอิ ฟิวเจอร์ส ในเมืองเสิ่นเจิ้น "นายเฉิน หมิ่น" กล่าวว่า ราคาทองคำที่ลดลงอย่างมากดึงดูดใจผู้บริโภคชาวจีนจำนวนมากให้ซื้อหาทองคำ เขามองว่า ทองคำจะเป็นการลงทุนที่น่าดึงดูดใจในจีนต่อไปในระยะใกล้ เมื่อราคาไม่มีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับเกือบ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ข้อมูลเดือนมกราคมระบุว่า การนำเข้าทองคำจากฮ่องกงของจีนในปี 2556 มากกว่าปี 2555 กว่าสองเท่า สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,158.162 ตัน ข้อมูลจากสมาคมทองคำจีนยังแสดงให้เห็นว่า ผลผลิตทองคำของจีนในปี 2556 เพิ่มขึ้น 6.2% จากปี 2556 สูงสุดทำสถิติที่ 428.163 ตัน ทำให้จีนเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่สุดของโลกเจ็ดปีติดต่อกัน ตัวเลขการบริโภคทองคำของจีนดังกล่าว ไม่รวมความต้องการจากธนาคารกลาง รายงานล่าสุดจากเว็บไซต์ธนาคารกลางจีนระบุว่า มีทองคำสำรอง 1,054 ตัน ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2552 ส่วนเงินตราต่างประเทศสำรองของจีนที่มากที่สุดในโลกเพิ่มขึ้นเป็น 3.82 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อสิ้นปี 2556 http://www.bangkokbiznews.com/
  11. หุ้นมะกัน-น้ำมันทรงตัวจับตาปธ.ใหม่เฟดให้ปากคำคองเกรส ทองคำบวกต่อ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 กุมภาพันธ์ 2557 05:02 น. เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - วอลล์สตรีทและราคาน้ำมันสหรัฐฯวานนี้(10) ปิดบวกในกรอบแคบๆ จับตาประธานเฟดคนใหม่เข้าให้ปากคำกับสภาคองเกรสช่วงกลางสัปดาห์ ขณะที่ทองคำยังขยับขึ้นต่อเนื่อง หลังแรงซื้อจากจีนกลับเข้าสู่ตลาด ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 7.45 จุด (0.05 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,801.53 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 2.80 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,799.82 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 22.31 จุด (0.54 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,148.17จุด นักลงทุนพากันจับตากรณีนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ มีกำหนดเข้าให้ปากคำแก่สภาคองเกรส เกี่ยวกับสถานะทางเศรษฐกิจและทิศทางของนโยบายการเงินในช่วงกลางสัปดาห์นี้ การให้ปากคำครั้งแรกของนางเยลเลน ต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในฐานะหัวเรือใหญ่ของเฟดจะมีขึ้นในวันอังคาร(11) ซึ่งคาดหมายว่าเธอจะให้มุมมองต่อข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ 2 เดือนติดและให้ทัศนะว่าการลดระดับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อการ ฟื้นตัวมากน้อยแค่ไหน ปัจจัยข้างต้นส่งผลให้ราคาน้ำมันวานนี้(10) ก็ขยับในกรอบแคบๆเช่นกัน ทว่าในส่วนของน้ำมันดิบตลาดสหรัฐฯนั้น ปิดเหนือ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบปี สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ ปิดที่ 100.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือ ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 94 เซนต์ ปิดที่ 108.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาทองคำวานนี้(10) ปิดบวก 4 วันติด แตะระดับสูงสุดรอบรอบกว่า 2 เดือนครึ่ง ด้วยผู้ซื้อชาวจีนกลับสู่ตลาดตามหลังพ้นวันหยุดเทศกาลตรุษจีนเมื่อเร็วๆนี้ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 11.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,274.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  12. ศูนย์กสิกรไทยคาดเงินบาทสัปดาห์หน้าแกว่งในกรอบ32.70-33.00 จับตาการเมือง ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2557 11:10:28 น. ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองแนวโน้มค่าเงินบาทในสัปดาห์ถัดไป (10-14 ก.พ.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70-33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาเหตุการณ์ทางการเมืองในประเทศ ความคืบหน้าในเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนม.ค.ของจีน ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครายงานโดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนสำหรับเดือนก.พ. 2557 (เบื้องต้น) ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค. 2557 สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจและภาคค้าส่งเดือนธ.ค. 2556 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้น โดยเงินบาทได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อคืนของนักลงทุนในช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากที่การเลือกตั้งทั่วไปของไทยผ่านพ้นไปโดยปราศจากเหตุรุนแรง (แม้ว่าสถานะการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติจะยังคงเป็นขายสุทธิทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทย) นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย ก็หนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกลงบางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ท่ามกลางการปรับโพสิชั่นของนักลงทุนก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (7 ก.พ.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.78 เทียบกับระดับ 32.99 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (31 ม.ค.) อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.02-2535000 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--
  13. US Economic Calendar รายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 10-14 กุมภาพันธ์ 2557 ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 08:15:00 น. ปฏิทินเศรษฐกิจสหรัฐในรอบสัปดาห์ วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 (ตามเวลาประเทศไทย) ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 (ตามเวลาประเทศไทย) 22.00 น. สต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนธ.ค. วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 (ตามเวลาประเทศไทย) 22.30 น. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) 02.00 น. (เช้าวันที่ 13 ก.พ.) ดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนม.ค. วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 (ตามเวลาประเทศไทย) 20.30 น. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ 20.30 น. ยอดค้าปลีกเดือนม.ค. 22.00 น. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค. วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 (ตามเวลาประเทศไทย) 20.30 น. ราคานำเข้าและส่งออกเดือนม.ค. 21.15 น. การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนม.ค. 21.55 น. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.พ.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--
  14. ทองปิดทะยาน $5.7 จากคาดการณ์เฟดชะลอการลด QE ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2557 07:51:37 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) เนื่องจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐเดือนม.ค. ขยายตัวน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จุดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการปรับลดขนาดมาตรการ QE สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 1,262.9 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ขยับขึ้น 0.8 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 19.936 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 4.30 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,379.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.55 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 708.80 ดอลลาร์/ออนซ์ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนม.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 113,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง ด้านอัตราว่างงานอยู่ที่ระดับ 6.6% ในเดือนม.ค. ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 6.7% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดเคยกล่าวไว้ว่า การลดมาตรการ QE จะต้องไม่กระทบต่อการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน ดังนั้นตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐเดือนม.ค.ที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดการณ์ อาจทำให้เฟดตัดสินใจชะลอการปรับลดขนาดมาตรการ QE อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--
  15. ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำร่วง นักลงทุนกังวลQE-ดอลลาร์แข็งค่า ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- ศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 06:00:00 น. นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ (Gold Price Sentiment Index) เดือนกุมภาพันธ์ 2557 ว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำปรับตัวลดลงจากเดือนมกราคมเล็กน้อยแต่ยัง สะท้อนมุมมองเชิงบวก โดยค่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 53.55 จุด ลดลง 5.06 จุด หรือ 8.63% หลังจากราคาทองคำปรับตัวขึ้นพอสมควรในเดือนมกราคมที่ผ่านมา กลุ่มตัวอย่างยังมองทองเชิงบวกแต่ส่วนใหญ่เชื่อราคาทองคำโลกปรับตัวขึ้น อย่างจำกัดแต่ได้ค่าเงินบาทหนุนราคาทองคำในประเทศ ซึ่งมุมมองดังกล่าวสอดคล้องกันทั้งกลุ่มผู้ลงทุนทองคำและกลุ่มผู้ค้าทองคำ แต่ที่น่าสังเกตคือดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะสามเดือนยังปรับตัว ลดลงอย่างต่อเนื่อง และลงมาต่ำกว่าระดับ 50 จุด เป็นการสะท้อนว่าในระยะยาวกลุ่มตัวอย่างยังไม่แน่ใจว่าราคาทองคำจะปรับตัว ต่อเนื่องหรือไม่ โดยค่าดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะสามเดือนอยู่ที่ระดับ 45.72 จุด ลดลง 4.47 จุด โดยมีความวิตกเรื่องการลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการปรับตัวแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นสำคัญ นายกมลธัญกล่าวว่าราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวสวนทางกับตลาดหุ้นสหรัฐค่อน ข้างชัดเจน สะท้อนว่าทองคำยังถูกมองเป็นสินทรัพย์ทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยงจากการ ลงทุน ขณะที่ความเสี่ยงในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่เชื่อว่าจะเพิ่มความรุนแรงขึ้น น่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจจะทำให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย กลับมาอีกครั้ง นายภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย สรุปความคิดเห็นผู้ค้าทองคำ (Gold Trader Consensus) ที่รวบรวมตัวอย่างจากผู้ค้าส่งทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคา ทองคำ เชื่อว่า ราคาทองคำในตลาดโลกช่วงเดือนกุมภาพันธ์โดยรวมน่าจะใกล้เคียงกับเดือนมกราคม หรือปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 1,160-1,360 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ราคาต่ำสุดในเดือนกุมภาพันธ์น่าจะอยู่ในช่วง 1,180-1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่สูงสุดน่าจะอยู่ในกรอบ 1,280-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศ (ความบริสุทธิ์ 96.5%) เชื่อว่าราคาจะเคลื่อนไหวระหว่าง 18,500-20,600 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดกลุ่มตัวอย่างให้น้ำหนักระหว่าง 18,500-18,800 บาทต่อหนึ่งบาท และมีกรอบการเคลื่อนไหวสูงสุดบริเวณ 19,800-20,000 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ และ 20,200-20,400 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ โดยมีประเด็นการอ่อนค่าของค่าเงินบาทที่เกิดจากความเสี่ยงภายในประเทศ การลดขนาดมาตรการ QE ความเสี่ยงในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และอุปสงค์ที่อาจจะชะลอตัวลงในช่วงหลัง เทศกาลเป็นปัจจัยสำคัญ http://www.ryt9.com/s/nnd/1831541
  16. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยต่ำสุดในรอบ 26 เดือน ฉุดบาทอ่อนค่า updated: 06 ก.พ. 2557 เวลา 18:40:46 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวของค่าเงินประจำวันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.75/77 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยตามภูมิภาคเอเชียเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันพุธ (5/2) ที่ 32.76/78 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเมื่อคืนนี้ (5/2) สถาบัน ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วไปปรับตัวเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม ต่ำกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 191,000 ตำแหน่ง สำหรับการเคลื่อนไหวในช่วงเช้าค่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรซึ่งเป็นตัวเลขในตลาดแรงงานของสหรัฐที่จะเปิดเผยในคืนวันศุกร์นี้ (7/2) ก่อนที่จะประเมินสถานการณ์การลงทุนต่อไป อย่างไรก็ดี ในช่วงบ่ายค่าเงินบาทเริ่มปรับตัวอ่อนค่าลง หลังจากมีการประกาศตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของไทยปรับตัวลดลงจากเดิม 73.4 ในเดือนธันวาคม เป็น 71.5 ในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 นับเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ 26 เดือน นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2554 นอกเหนือไปจากนั้นดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวมก็ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกันโดยปรับตัวลดลงจาก 63.2 ในเดือนธันวาคม เป็น 61.4 ในเดือนมกราคม ทั้งนี้เป็นผลมาจากในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตลาดได้มีมุมมองในเชิงลบกับประเทศไทยค่อนข้างมากทั้งเรื่องความขัดแย้งด้านการเมืองภายในประเทศที่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ รวมทั้งปัญหาโครงการจำนำข้าวที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย ทั้งนี้ตลอดทั้งวันค่าเงินบาทตลอดทั้งวันค่าเงินบาทมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 32.74-32.86 บาท/ดอลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 32.81/83 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับค่าเงินยูโรวันนี้เปิดตลาดที่ระดับ 1.3529/33 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดในวันพุธ (5/2) ที่ 1.3512/15 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรได้รับแรงหนุนหลังจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนทั่วไปของสหรัฐอเมริกาที่ออกมาต่ำกว่าคาด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรปที่เปิดเผยออกมาวานนี้ก็ยังคงไม่ดีมากนัก โดยตัวเลขยอดค้าปลีกยูโรโซนปรับตัวลดลงจากเดิมที่มีการขยายตัว 0.9% ในเดือนพฤศจิกายน เป็นหดตัวลง 1.6% ในเดือนธันวาคม แย่กว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ว่าจะหดตัวเพียง 0.7% นอกจากนี้ตลาดยังคงรอจับตาดูผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในช่วงค่ำวันนี้ (6/2) ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจากเดิม 0.25% หรือไม่ โดยตลอดทั้งวันค่าเงินยูโรมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1.3513-1.3539 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 1.3524/25 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร สำหรับค่าเงินเยนวันนี้เปิดตลาดที่ระดับ 101.51/53 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดในวันพุธ (29/1) ที่ 101.18/21 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ภายหลังจากนักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย และรอจับตาดูผลของการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐ (6/2) ที่คาดการณ์ว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยตลอดทั้งวันค่าเงินเยนมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 101.30-101.66 เยน/ดอลลาร์ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 101.47/48 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจและต้องติดตาม ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงานของเยอรมนีเดือนธันวาคม (5/2), ประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (5/2), ประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (5/2), ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธันวาคมของสหรัฐ (5/2), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (5/2), ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธันวาคมของสหรัฐ (5/2), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ (5/2), ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธันวาคมของเยอรมนี (6/2), การผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนี (6/2), ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมกราคม (6/2), อัตราการว่างงานของสหรัฐ (6/2) สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +5.2/5.4 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง (swap point) ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +8.5/10.5 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1391686693
  17. ทองปิดบวก $5.7 เหตุตลาดหุ้นสหรัฐซบเซาหนุนแรงซื้อทอง ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 06:39:50 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงและตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ 1,256.9 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 38.3 เซนต์ ปิดที่ 19.805 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 5.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1379.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7 ดอลลาร์ ปิดที่ 707.10 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับ ตัวลงภายหลังจากที่ ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งน้อยว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นราว 185,000 ตำแหน่งในเดือนดังกล่าว นอกจากนี้ ADP ยังได้ปรับลดการประมาณการตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค. โดยระบุว่าเพิ่มขึ้นเพียง 227,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 238,000 ตำแหน่ง นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดของสหรัฐ จะไม่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีกในการประชุมครั้งหน้า หลังจากที่เฟดได้ตัดสินใจลดขนาด QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการประชุมเมื่อช่วงปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้วงเงินการซื้อพันธบัตรปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--
  18. เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดทองปิดร่วง $8.7 ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2557 06:46:57 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอจากนี้ การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเท ขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 8.7 ดอลลาร์ หรือ 0.69% ปิดที่ 1,251.2 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.3 เซนต์ ปิดที่ 19.422 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 13.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,373.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 2.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 700.10 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำปรับตัวลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็น สินทรัพย์ที่ปลอดภัยและหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเกือบ 0.5% เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักกว่า 2% เมื่อวันจันทร์ อันเป็นผลมาจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของจีนและสหรัฐ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่ทางการสหรัฐเปิดเผยล่าสุดนั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าที่ผลิตในโรงงานสหรัฐปรับตัวลง 1.5% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.หรือในรอบ 5 เดือน เนื่องจากยอดสั่งซื้ออุปกรณ์การขนส่งร่วงหนัก อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--
  19. ทองปิดพุ่ง $20.1 เหตุวิตกภาคการผลิตสหรัฐชะลอตัว ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 06:26:33 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) เนื่องจากข้อมูลภาคการผลิตที่น่าผิดหวังและการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 20.1 ดอลลาร์ หรือ 1.62% ปิดที่ 1,259.9 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 28.9 เซนต์ ปิดที่ 19.409 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 10.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,386.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 50 เซนต์ ปิดที่ 702.70 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างรุนแรง และหลังจากมีรายงานว่าภาคการผลิตของสหรัฐชะลอตัวลง โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า การขยายตัวของดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.ของสหรัฐชะลอลงมาอยู่ที่ระดับ 51.3 จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 56.5 เนื่องจากยอดสั่งซื้อใหม่ในภาคอุตสาหกรรมร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 33 ปี ขณะที่มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐลงแตะ 53.7 ในเดือนม.ค. หลังจากที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือนที่ 55.0 ในเดือนธ.ค. โดยมาร์กิตระบุว่าปัจจัยที่ทำให้ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐชะลอตัวลงนั้น มาจากอุปสงค์และการผลิตในต่างประเทศชะลอตัวลง อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--
  20. สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 07:29:42 น. ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 ก.พ. 2557 -- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 4,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2556 หลังมีรายงานว่าภาคการผลิตของสหรัฐและจีนชะลอตัวลง ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,372.80 จุด ร่วงลง 326.05 จุด หรือ -2.08% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,741.89 ลดลง 40.70 หรือ -2.28% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,996.96 จุด ดิ่งลง 106.92 จุด หรือ -2.61% -- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) เนื่องจากข้อมูลภาคการผลิตที่น่าผิดหวังและการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 20.1 ดอลลาร์ หรือ 1.62% ปิดที่ 1,259.9 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 28.9 เซนต์ ปิดที่ 19.409 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 10.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,386.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 50 เซนต์ ปิดที่ 702.70 ดอลลาร์/ออนซ์ -- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของภาคการผลิตของจีนและสหรัฐ อาจทำให้ความต้องการน้ำมันดิบลดน้อยลงด้วย สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 96.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 36 เซนต์ ปิดที่ 106.04 ดอลลาร์/บาร์เรล -- -ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) อันเนื่องมาจากข้อมูลการผลิตของสหรัฐที่อ่อนแรง ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3532 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3488 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ระดับ 1.6302 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.6437 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 100.86 เยน จากระดับ 102.30 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9007 ฟรังค์ จากระดับ 0.9068 ฟรังค์ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8753 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8744 ดอลลาร์สหรัฐ -- ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) หลังจากสหรัฐรายงานข้อมูลภาคการผลิตที่ชะลอลง ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 44.78 จุด หรือ 0.69% ที่ 6,465.66 จุด -- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคการผลิตสหรัฐ นอกจากนี้ การร่วงลงของหุ้นลอยด์ แบงกดิ้ง กรุ๊ป ยังได้ฉุดหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มธนาคารดิ่งลงด้วย ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.3% ปิดที่ 318.21 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,107.75 จุด ลดลง 57.97 จุด หรือ -1.39% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,186.52 จุด ลดลง 119.96 จุด หรือ -1.29% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,465.66 จุด ลดลง 44.78 จุด หรือ -0.69% ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 15,372.80 จุด ลดลง 326.05 จุด -2.08% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,996.96 จุด ลดลง 106.92 จุด -2.61% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,741.89 จุด ลดลง 40.70 จุด -2.28% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,107.75 จุด ลดลง 57.97 จุด -1.39% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,186.52 จุด ลดลง 119.96 จุด -1.29% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,465.66 จุด ลดลง 44.78 จุด -0.69% ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 20,209.26 จุด ลดลง 304.59 จุด -1.48% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,990.95 จุด ลดลง 36.27 จุด -1.20% ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,386.26 จุด ลดลง 32.50 จุด -0.74% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,015.30 จุด ลดลง 25.89 จุด -0.43% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,919.96 จุด ลดลง 21.19 จุด -1.09% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 14,619.13 จุด ลดลง 295.40 จุด -1.98% ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,187.90 จุด ลดลง 2.10 จุด -0.04% * หมายเหตุ: ตลาดหุ้นจีน ไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย ปิดทำการวันจันทร์ที่ 3 ก.พ.เนื่องในเทศกาลตรุษจีน อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--
  21. Gold gains on emerging market growth fears, dollar weakness A slow down in emerging economies caused US dollar to weaken, not least driven by JPY buying as overextended short positions were scaled back. Falling emerign markets stocks and currencies spread to some of the major .. 25 Jan 2014 LONDON (Commodity Online): Last week, risk aversion heightened and it was a blessing in disguise for gold, according to a weekly review by Ole S Hansen, Head of Commodity Strategy at Saxo Bank. A slow down in emerging economies caused US dollar to weaken, not least driven by JPY buying as overextended short positions were scaled back. Falling emerign markets stocks and currencies spread to some of the major stock markets with the S&P 500 falling for a second consecutive week. Bond markets received a boost from this with US 10-year government bond yields falling to a two-month low. These developments played into the hands of gold investors with both the physical metal and gold mining stocks rallying while growth-dependent commodities such as industrial metals fell. Brent crude also struggled while the US energy sector was somewhat immune to these potential negative developments as the key focus was domestic US issues such as the increased pipeline capacity from the US Midwest to the Gulf of Mexico (WTI Crude positive) together with the very cold wind winter which lent support to heating oil (ULSD) and especially natural gas, Ole S Hansen said. http://www.commodityonline.com/news/gold-gains-on-emerging-market-growth-fears-dollar-weakness-57743-3-57744.html
  22. บาทผันผวน การเมืองไม่นิ่ง updated: 24 ม.ค. 2557 เวลา 18:10:01 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวของค่าเงินประจำวันที่ 20-24 มกราคม 2557 ค่าเงินบาทเปิดตลาดวันจันทร์ (20/1) ที่ระดับ 32.92/94 บาท/ดอลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (17/1) ที่ 32.85/88 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทปรับตัวผันผวนตลอดทั้งสัปดาห์ หลังความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นต่อเนื่องได้กดดันค่าเงินบาทอยู่เป็นระยะ ขณะที่การประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงเทพฯของรัฐบาลไทยในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ความวิตกเกี่ยวกับความรุนแรงทางการเมืองเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีมติ 4 ต่อ 3 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25% ซึ่งแตกต่างจากที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จะลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% แต่เรื่องดังกล่าวก็หนุนค่าเงินบาทให้แข็งค่าขึ้นในช่วงสั้นเท่านั้น อย่างไรก็ดี ในช่วงท้ายสัปดาห์ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว ตามค่าเงินในภูมิภาค ภาคหลังตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณ (Forward Guldance) ในการลดวงเงินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) เพิ่มเติมในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ในสัปดาห์หน้า 28-29 ม.ค.) ได้หนุนค่าเงินดอลลาร์ แต่เงินบาทก็ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 33.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐได้ และกลับมาปรับตัวแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับพิจารณาคำร้องขอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีขอให้วินิจฉัยว่าจะเลื่อนการเลือกตั้งได้หรือไม่ และอำนาจกำหนดวันเอกตั้งใหม่เป็นขององค์กรใดระหว่าง กกต.หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะที่การเลือกตั้งจะมีขึ้น 2 ก.พ.นี้ ได้หนุนมุมมองเชิงบวกต่อค่าเงินบาทในระยะสั้น ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อดูทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินในช่วงนี้ต่อไป ทั้งนี้ ตลอดทั้งสัปดาห์ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 32.68-32.99 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดวันศุกร์ (24/1) ที่ระดับ 32.89/91 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดวันจันทร์ (20/1) ที่ระดับ 1.3513/14 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (17/1) ที่ระดับ 1.3598/99 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยในช่วงต้นและกลางสัปดาห์ ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวในแนวอ่อนค่าอยู่ในกรอบแคบ ภายหลังจากเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใส ประกอบกับตลาดมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะเข้ามาแทรกแซงตลาดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยุโรป ทำให้ค่าเงินยูโรไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นได้ อย่างไรก็ดี ในช่วงท้ายสัปดาห์ค่าเงินยูโรทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งเหนือระดับ 1.3700 ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐอีกครั้ง หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของยูโรโซน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซนเพิ่มขึ้นนำโดยเยอรมนี ประกอบกับหนี้ของรัฐบาลยูโรโซนร่วงลงในไตรมาส 3/2013 ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบเกือบ 6 ปี ได้สนับสนุนความหวังที่ว่า ยุโรปกำลังหลุดพ้นจากวิกฤตหนี้ที่ยาวนานถึงแม้ว่าระดับหนี้ยังคงอยู่สูงกว่าเพดานที่สหภาพยุโรป (อียู) กำหนดไว้เป็นอย่างมากก็ตาม โดยในบรรดาประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยูโรโซน 3 ประเทศ ซึ่งได้แก่ เยอรมนี, ฝรั่งเศส และอิตาลีนั้น หนี้สินของรัฐบาลทั้ง 3 ประเทศดังกล่าวร่วงลงเมื่อเทียบเป็นสัดส่วนของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ทั้งนี้ ตลอดทั้งสัปดาห์ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 1.3506-1.3704 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ก่อนปิดตลาดวันศุกร์ (24/1) ที่ระดับ 1.3668/72 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนนั้น ค่าเงินเยนเปิดตลาดวันจันทร์ (20/1) ที่ระดับ 103.91/92 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (17/1) ที่ระดับ 104.43/44 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ โดยในช่วงต้นสัปดาห์ ค่าเงินเยนแข็งขึ้นในช่วงสั้นอยู่ในกรอบแคบ ก่อนที่จะอ่อนค่าลง หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐโดยส่วนใหญ่สดใส ทำให้ตลาดเชื่อมั่นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงปรับลดมาตรการกระตุ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ดี ในช่วงท้ายสัปดาห์ค่าเงินเยนปรับตัวแข็งค่าขึ้นอยางแข็งแกร่งต่อเนื่องจนกระทั่งปิดตลาดท้ายสัปดาห์ ภายหลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติไม่เปลี่ยนแปลงกรอบนโยบายที่เคยกำหนดไว้โดยผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น นายฮารุฮิโกะ คุโรตะ ให้ความเห็นว่า ความเสี่ยงในต่างประเทศน่าจะลดลง และญี่ปุ่นน่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อได้ในเร็ววันอีกด้วย ภายหลังจากภาคเอกชนเพิ่มการใช้จ่ายด้านค่าจ้างและการลงทุน ซึ่งย่อมมาให้ญี่ปุ่นมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในเร็ววันอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ตลอดทั้งสัปดาห์ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 102.74-104.83 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดวันศุกร์ (24/1) ที่ระดับ 102.94/96 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อนึ่ง มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศได้ให้ความเห็นต่อสถาบันทางการเงินในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ว่าจะมีเสถียรภาพในช่วง 12 เดือนข้างหน้า แม้ในช่วงนี้อาจจะพบกับแรงต้านทานจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของจีน, ผลต่อเนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐปรับลดวงเงินโครงการซื้อพันธบัตร, ภาวะสภาพคล่องที่ตึงตัวทั่วโลก และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน แต่อย่างไรก็ตาม คุณภาพความน่าเชื่อถือโดยรวมของบริษัทยังคงมีระดับเงินทุนที่เพียงพอ และมีขีดความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งจากเงินทุนหมุนเวียนภายในประเทศได้อย่างแน่นอน สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสำคัญที่น่าสนใจ ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานยอดขายบ้านใหม่เดือน ธ.ค. (27/1), กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ธ.ค., สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยราคาบ้านเดือน พ.ย., Conference Board เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือน ม.ค. และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มการประชุมกำหนดนโยบายการเงินวันแรก (28/1), คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศมติการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (29/1), กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวม ภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 4/2013), กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือน ธ.ค. (30/1), กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือน ธ.ค., กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 4/2013, สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือน ม.ค. และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือน ม.ค. (31/1) http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1390561707
  23. ผู้ค้าฟังธงร้านทองคึกรับตรุษจีน ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- จันทร์ที่ 27 มกราคม 2557 06:00:00 น. นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวถึงภาวะตลาดร้านค้าทองคำในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ว่า ร้านค้าทองคำน่าจะคึกคักกว่าปกติ เพราะเป็นช่วงจับจ่ายซื้อของ จะเห็นความคึกคักชัดเจนก็ช่วงหลังการแจกแต๊ะเอียไปแล้ว และถ้าหากราคาทองอยู่ในระดับต่ำกว่าบาทละ 20,000 บาทเหมือนในขณะนี้ ก็น่าจะมีความต้องการซื้ออยู่มากพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามทองแท่งคงคึกคักน้อยกว่าทองรูปพรรณ “มองว่าการลงทุนในทองคำระยะนี้หากราคาต่ำกว่า 20,000 บาท เป็นสิ่งที่น่าลงทุน แม้ว่าการซื้อขายทองคำจะไม่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในประเทศมากนัก ซึ่งคนที่มีเงินเหลือหรือต้องการซื้อเก็บก็จะเข้ามาซื้อทองคำไว้ เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ซื้อขายคล่องตัว” นายจิตติ กล่าว สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้มองว่ามีโอกาสปรับสูงขึ้นได้จากประเด็นปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่ขยายออกมาจากเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้คาดการณ์จะว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ และมีการเก็งกำไรทำให้ราคาขยับสูงขึ้นได้ ส่วนการแข่งขันในร้านค้าทองคำนั้น เชื่อว่ายังมีการแข่งขันกันสูงในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเฉพาะร้านค้าทองจะแข่งขันกันในเรื่องของการออกแบบ น้ำหนักทองคำ ซึ่งทางร้านเองก็ได้ผลิตทองคำแท่งที่ระลึกออกมาในช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปี และมักได้รับความสนใจจองซื้อกันมากตั้งแต่ผลิต http://www.ryt9.com/s/nnd/1823674
  24. ดอลลาร์อ่อน หนุนทองคำปิดบวก $1.9 วันศุกร์, 17 มกราคม 2557 07:33 | สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1,240.2 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ซึ่งช่วยหนุนสัญญาทองคำให้ดีดตัวขึ้นปิดบวกเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ นักวิเคราะห์คาดว่า ตลาดทองคำจะได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 8.0 เซนต์ ปิดที่ 20.054 ดอลลาร์/ออน สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 2.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,431.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 10 เซนต์ ปิดที่ 743.90 ดอลลาร์/ออนซ์ http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-53/24561-ar22.html
  25. เศรษฐกิจสหรัฐแกร่งฉุดทองโลกร่วง 5.7 ดอลล์ วันพุธ, 15 มกราคม 2557 07:27 | พิมพ์ | อีเมล สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 มกราคม 2557) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ 1,245.4 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้น 0.1% ด้านธนาคารบาร์เคลย์ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำโดยเฉลี่ยในปี 2557 ลงสู่ระดับ 1,205 ดอลลาร์/ออนซ์ และคาดว่าราคาทองคำอาจจะดิ่งลงไปทดสอบระดับต่ำสุดที่ 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีนี้ ขณะที่โกลด์แมนแซคส์ ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำลงอีกในปี 2557 โดยคาดว่า ณ สิ้นปีนี้ ราคาทองคำจะดิ่งลงไปแตะระดับ 1,050 ดอลลาร์/ออนซ์ http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-53/24437-bby02.html
×
×
  • สร้างใหม่...