ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

namchiang

ขาใหญ่
  • จำนวนเนื้อหา

    1,876
  • เข้าร่วม

  • เข้ามาล่าสุด

ทุกๆอย่างที่โพสต์โดย namchiang

  1. แรงซื้อเก็งกำไรหนุนทองคำปิดบวก $ 9.8 วันอังคาร, 17 ธันวาคม 2556 08:20 | พิมพ์ | อีเมล สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 9.8 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ 1,244.4 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อเก็งกำไร ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด นักลงทุนจับตาดูการประชุมเฟดในวันอังคารและวันพุธนี้อย่างใกล้ชิด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE ในการประชุมเดือนนี้เนื่องจากมีการรายงานข้อมูลการจ้างงานเดือนพ.ย.ที่สดใสในสหรัฐ โดยปัจจุบันวงเงิน QE หรือโครงการซื้อพันธบัตรของสหรัฐอยู่ที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน นอกจากนี้ ข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดขนาด QE โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย เฟดเปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ของสหรัฐปรับตัวขึ้น 1.1% ซึ่งพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี และนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ล่าสุดถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 0.8% แตะ 79.0% ในเดือนพ.ย ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 49.7 เซนต์ ปิดที่ 20.101 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 2.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1360.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ ปิดที่ 716.35 ดอลลาร์/ออนซ์ http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-53/23384-aj44.html
  2. ทองคำปิดดีดขึ้น $9.7 จากแรงซื้อเก็งกำไร วันจันทร์, 16 ธันวาคม 2556 08:15 | พิมพ์ | อีเมล สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 9.7 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ 1,234.6 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ (13 ธ.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อเก็งกำไรหลังราคาทองคำร่วงลงอย่างหนัก 2 วันติดต่อกัน ขณะเดียวกันนักลงทุนกำลังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า เฟดจะพิจารณาเรื่องการชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐประจำเดือนพ.ย. ปรับตัวลดลง 0.1% ทำสถิติร่วงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าไม่มีแรงกดดันเงินเฟ้อ และเป็นปัจจัยที่เฟดสามารถนำไปประกอบการพิจารณาลด QE นักวิเคราะห์กล่าวว่า โดยปกติแล้วความวิตกกังวลเรื่องเฟดลด QE จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง แต่ตอนนี้ตลาดได้ซึมซาบแล้วว่าอาจมีการลด QE ในสัปดาห์หน้า ดังนั้นข้อมูลเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการลด QE จึงไม่มีผลต่อตลาดในตอนนี้ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าหากเฟดประกาศลด QE ในสัปดาห์หน้า ราคาทองคำอาจร่วงลงแตะระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ถ้าเฟดยังไม่ลด QE ราคาทองคำอาจพุ่งขึ้นสู่ระดับ 1,275 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ขยับขึ้น 15.1 เซนต์ หรือ 0.78% ปิดที่ 19.604 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 1.5 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 1,362.9 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 4.05 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 716.20 ดอลลาร์/ออนซ์ http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-53/23325-aj14.html
  3. 13 December 2013 at 18:15 IST Gold Forecast for 2014: Global banks bullish and bearish on Gold PRINT 0 Those gold bulls who had predicted that gold would only continue to boom in 2013 had their mouths shut when the yellow metal fell to a record low this year. As we wait for the birth of 2014, the commodity that is being hotly talked about is gold, and gold prices only. Related News India, US Gold futures neutral, firm data continues to weigh Silver to average $19.5 an ounce in 2014; Gold at $1310 an ounce: Barclays US Gold steadies after sharp fall; MCX Gold, Silver negative Columns : Ukraine energy cost may fall on deal with Slovakia, Russia Prior to the Vilnius Summit in November, the Ukrainian government found itself between a r... More + Specials : Gold Forecast for 2014: Global banks bullish and bearish on Gold Those gold bulls who had predicted that gold would only continue to boom in 2013 had their.. More + Interviews : Bathurst Resources on track to advance Escarpment projects Stacey we're working flat out on it now obviously, and obviously we've got the Christmas b.. More + Trading-tips Commodity Trends Advisory Pivot Points Outlook Commodity | Advise | Entry | Agency Gold 29280-29290 Karvy Silver 44720-44740 Karvy Crude Oil 6020-6025 Karvy Gold 29350 RBG Crude Oil 6090 RBG More+ Commodity Pulse Commodities may witness mixed trend on concerns over QE tapering Spot gold prices traded on a negative note by around 0.1 percent today on the back of rising concerns of early QE taper after a string of positive data from the US. Also, mixed global market sentiments and declining trend in SPDR Gold holdings acted read more Most Popular Viewed Emailed Commented India Rabi Oil Seeds acreage jumps 3.54% Y/Y to 74.74 lakh hectares India Pulses demand may touch 21.77 mn tons in 2013-14 US Crude Oil prices may average $96.5 per bbl, Brent $104.8 in 2014 Short covering supports US Gold, Crude Oil steady; MCX Gold negative NEW YORK (Commodity Online): As we come close to this year, it is time to take a look at the most volatile and valuable commodity traded on the global commodity exchanges. The hottest commodity that swung between bear and bull markets in 2013 was gold. Several commodity analysts lost their forecasting grip on gold as the yellow metal plunged in the middle of the year, before recovering to regain the lost ground. Those gold bulls who had predicted that gold would only continue to boom in 2013 had their mouths shut when the yellow metal fell to a record low this year. As we wait for the birth of 2014, the commodity that is being hotly talked about is gold, and gold only. Here is a quick look at what the world’s leading investment banks have to say about gold for the year 2014: Citi Bank: Citi Bank says gold prices will average $1,255 an ounce in 2014. Tapering of Federal Reserve quantitative easing could lead to a fall in gold prices in the first quarter, but Asian buying spree led by China could lend support to the yellow metal prices. Bank of America Merrill Lynch: The bank predicts that gold will average $1,294 an ounce in 2014. The yellow metal could boom to touch a $1,350 average in the fourth quarter of 2014. The banks says that the upside remains limited for now, in part because none of the concerns that brought investors to the market post-recession materialized - for instance, inflation remains low and USD has not debased. Also, the tighter monetary policy in the U.S. and rising rates are hanging over the market and could push gold towards $1,100/oz in 2014. Commerzbank: The bank says gold price is going to be in a boom period in 2014, and predicts that the yellow metal could go up to $1,400 an ounce this year. It bases the argument on the investment demand for gold from Asian countries, especially China and India. Goldman Sachs: Goldman has an entirely differing forecast for gold compared to that of Commerzebank. It says that gold prices would considerably decline in 2014 to average $1,275 per ounce. The investment bank predicts that gold prices could slump to $1,050 by the end of 2014. Canadian Imperial Bank of Commerce: Gold will fall to $1,000 an ounce in 2014. The Federal Reserve tapering is driving gold to a slowdown. The bank does not see much recovery in gold prices in 2014. UBS: UBS is also not very bullish on gold for the year 2014. It predicts that gold prices could be around $1,200 per ounce next year, as there is limited investor interest in the yellow metal. “Gold is unlikely to regain its former appeal. The more upbeat outlook on the global economy, the reduction of tail risks, and the growing appetite to take on more risk suggests that safe havens like gold will become even more unfashionable up ahead,” UBS forecast said. Standard Chartered: Standard Chartered forecast on gold is on the similar ground of arguments like that of Goldman Sachs. It says US interest rates could pressurize gold, resulting in an average gold price of $1,200 an ounce in 2014. http://www.commodityonline.com/news/gold-forecast-for-2014-global-banks-bullish-and-bearish-on-gold-57320-3-57321.html
  4. ทองคำปิดดีดขึ้น $9.7 จากแรงซื้อเก็งกำไร ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2556 07:29:05 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อเก็งกำไรหลังราคาทองคำร่วงลงอย่างหนัก 2 วันติดต่อกัน ขณะเดียวกันนักลงทุนกำลังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าเฟดจะพิจารณาเรื่องการชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ปรับเพิ่มขึ้น 9.7 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ 1,234.6 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ขยับขึ้น 15.1 เซนต์ หรือ 0.78% ปิดที่ 19.604 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 1.5 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 1,362.9 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 4.05 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 716.20 ดอลลาร์/ออนซ์ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐประจำเดือนพ.ย. ปรับตัวลดลง 0.1% ทำสถิติร่วงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าไม่มีแรงกดดันเงินเฟ้อ และเป็นปัจจัยที่เฟดสามารถนำไปประกอบการพิจารณาลด QE นักวิเคราะห์กล่าวว่า โดยปกติแล้วความวิตกกังวลเรื่องเฟดลด QE จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง แต่ตอนนี้ตลาดได้ซีมซาบแล้วว่าอาจมีการลด QE ในสัปดาห์หน้า ดังนั้นข้อมูลเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการลด QE จึงไม่มีผลต่อตลาดในตอนนี้ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าหากเฟดประกาศลด QE ในสัปดาห์หน้า ราคาทองคำอาจร่วงลงแตะระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ถ้าเฟดยังไม่ลด QE ราคาทองคำอาจพุ่งขึ้นสู่ระดับ 1,275 ดอลลาร์/ออนซ์ อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th-- http://www.ryt9.com/s/iq31/1797311
  5. น้ำมันทรงตัว-หุ้นมะกันบวกหลังคองเกรสบรรลุข้อตกลงงบฯ ทองคำขึ้น โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 ธันวาคม 2556 05:30 น. น้ำมันทรงตัว-หุ้นมะกันบวกหลังคองเกรสบรรลุข้อตกลงงบฯ ทองคำขึ้น เอเอฟพี - ราคาน้ำมันวานนี้(13) ปิดผสมผสาน จับตาเชื้อเพลิงลิเบียจ่อหวนคืนสู่ตลาด ส่วนวอลล์สตรีท บวกเล็กน้อยจาก แรงหนุนคองเกรสบรรลุข้อตกลงการใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐฯนาน 2 ปี เลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ชัตดาวน์ซ้ำรอย ปัจจัยนี้ประกอบกับแรงช้อนชื้อ ส่งผลให้ทองคำ ขยับขึ้นพอสมควร สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 90 เซนต์ ปิดที่ 96.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ ปิดที่ 108.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล น้ำมันเคลื่อนไหวผสมผสาน เหตุเพราะเหล่านักลงทุนจับตาว่าหัวหน้ากลุ่มนักรบชนเผ่าจะทำตามคำมั่นสัญญาเปิดทางให้คลังน้ำมันดิบของประเทศกลับมาปฏิบัติการได้อีกครั้งในวันที่ 15 ธันวาคมนี้หรือไม่ หลังจากสมุนของเขาปิดกั้นการเข้าออกคลังน้ำมันมานานหลายเดือนแล้ว ทั้งนี้ปัญหาการประท้วงและปิดกั้นแหล่งส่งมอบน้ำมันดิบโดยชนกลุ่มน้อยเบอร์เบอร์นี้ ส่งผลทำให้ ลิเบีย ผลิตน้ำมันได้แค่ราว 250,000 บาร์เรลต่อวัน จากระดับปกติเกือบ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(13) ปิดบวกเล็กน้อย หลังจากผู้นำการเจรจางบประมาณในสภาคองเกรส บรรลุข้อตกลงการใช้จ่ายของรัฐบาลนาน 2 ปี เลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ปิดหน่วยงานรัฐบางส่วน ซ้ำรอยเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 16.06 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,755.49 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 0.19 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,775.31 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 2.57 จุด (0.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,000.98 จุด ในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี(12) สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติเห็นของข้อตกลงงบประมาณประนีประนอม ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากมาตรการตัดลดรายจ่ายเหมารวมและยุติการเผชิญหน้าในสภาคองเกรสที่ทำให้สหรัฐฯ ดำดิ่งสู่วิกฤตการคลังจนเข้าสู่ภาวะ "ชัตดาวน์" ช่วงเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตามข้อตกลงนี้ยังต้องผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาเสียก่อน ขณะเดียวกันนักลงทุนก็ยังจับตาที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ในสัปดาห์หน้า ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเฟดอาจลดระดับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุกลง ปัจจัยนี้เองที่ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้(13) ปิดบวกสมควร ขณะที่นักลงทุนก็อาศัยโอกาสนี้เข้าช้อนซื้อ หลังโลหะมีค่าชนิดนี้ขยับอย่างแรงในการซื้อขายเมื่อวันพฤหัสบดี(12) โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 9.70 ดอลลาร์ (0.8 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,234.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000153683
  6. หวั่นเฟดลดขนาด QE ฉุดทองคำปิดร่วง 32.3 ดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2556 06:50:29 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) โดยสัญญาทองคำร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมที่จะมีขึ้นสัปดาห์หน้า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 32.3 ดอลลาร์ หรือ 2.57% ปิดที่ 1,224.9 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 90.3 เซนต์ ปิดที่ 19.453 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 20.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1364.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 18.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 720.25 ดอลลาร์/ออนซ์ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีกำหนดประชุมในวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ ซึ่งนักลงทุนจับตาดูการประชุมดังกล่าวอย่างใกล้ชิดหลังจากมีกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆว่า เฟดอาจจะตัดสินใจลดขนาด QE ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากมีข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยล่าสุดมีรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% และยังทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค.ของสหรัฐขยายตัว 0.7% ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ส่วนตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น นักลงทุนมองว่าเป็นเพียงข้อมูลที่ผันผวนตามฤดูกาลเนื่องจากตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ธ.ค. พุ่งขึ้น 68,000 ราย แตะระดับ 368,000 ราย สูงว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 320,000 ราย อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- http://www.ryt9.com/s/iq31/1796576
  7. หวั่น เฟดลด QE ฉุดทองคำปิดร่วง $ 32.3 วันศุกร์, 13 ธันวาคม 2556 08:25 สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 32.3 ดอลลาร์ หรือ 2.57% ปิดที่ 1,224.9 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) โดยสัญญาทองคำร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมที่จะมีขึ้นสัปดาห์หน้า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีกำหนดประชุมในวันที่ 17-18 ธ.ค.นี้ ซึ่งนักลงทุนจับตาดูการประชุมดังกล่าวอย่างใกล้ชิดหลังจากมีกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆว่า เฟดอาจจะตัดสินใจลดขนาด QE ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากมีข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยล่าสุดมีรายงานว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% และยังทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน ขณะที่สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค.ของสหรัฐขยายตัว 0.7% ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ส่วนตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้น นักลงทุนมองว่าเป็นเพียงข้อมูลที่ผันผวนตามฤดูกาลเนื่องจากตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ธ.ค. พุ่งขึ้น 68,000 ราย แตะระดับ 368,000 ราย สูงว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 320,000 ราย ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 90.3 เซนต์ ปิดที่ 19.453 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 20.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1364.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 18.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 720.25 ดอลลาร์/ออนซ์ http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-53/23251-ah66.html
  8. Larry Edelson ...ตัวชี้วัดทางเทคนิคของตลาดทองคำ ช่วงสิ้นปี โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ธันวาคม 2556 01:26 น. ในบทความสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้บอกไปแล้วว่าทั้งราคาของทองคำและโลหะเงินในตลาดจะยังอ่อนตัวและมีแนว โน้มที่จะปรับลดลงต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2557 ซึ่งราคาก็ได้ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงไปแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากช่วงสิ้นปีใกล้จะมาถึงแล้ว ผมจึงอยากจะพูดถึงตัวชี้วัดทางเทคนิคของผมสำหรับทองคำ โลหะเงิน และค่าเงินดอลลาร์ เพื่อที่คุณจะได้เตรียมตัวรับมือกับแรงเหวี่ยง (momentum) และแนวโน้ม (trend) ของตลาดต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2557 ตัวชี้วัดเหล่านี้เป็นกลุ่มตัวชี้วัดระยะยาวที่สำคัญที่สุดสำหรับผม และในช่วงใกล้สิ้นปีอย่างนี้ผมก็ยิ่งจับตาดูมันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น ก่อนอื่น ผมถือว่าผมเป็นหนี้บุญคุณนักวิเคราะห์ทางเทคนิค และนักเศรษฐศาสตร์ที่น่านับถือท่านหนึ่งคือ Martin Armstrong ซึ่งผมได้มีโอกาสเรียนกับท่านในช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 ผลงานการบุกเบิกค้นคว้าของท่านในด้านของการวิเคราะห์ทางเทคนิค และการวิเคราะห์วัฎจักรของตลาดนั้นเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งไม่มีสองเลยทีเดียว ซึ่งจากวิธีการของท่าน ผมได้ใช้เวลาหลายปีนำสิ่งที่เรียนรู้จากท่านมาปรับเปลี่ยนบางอย่างเพื่อให้ ผมสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น ก่อนจะเริ่มลงในรายละเอียด ผมคิดว่าควรจะอธิบายให้คุณเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับตัวชี้วัดกันสักเล็กน้อย ก่อน ซึ่งสำหรับตลาดทองคำ โลหะเงิน และค่าเงินดอลลาร์แล้ว ผมจะพูดให้คุณฟังถึงเรื่องที่สำคัญสองประเด็นด้วยกัน นั่นก็คือ… 1. ช่วงเหวี่ยง (momentum range) ของตลาดในปี 2557: ซึ่งหมายถึงขอบบนและขอบล่างซึ่งจะบอกคุณว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงเหวี่ยงขาขึ้น ช่วงเหวี่ยงที่เป็นกลางๆ หรือช่วงเหวี่ยงขาลง 2. ช่วงแนวโน้ม (trend range) ของตลาดในปี: ซึ่งหมายถึงขอบบนและขอบล่างซึ่งจะบอกคุณว่าตลาดกำลังอยู่ในช่วงแนวโน้มขาขึ้น แนวโน้มกลางๆ หรือแนวโน้มขาลง ทั้งนี้การรวมตัวชี้วัดแรงเหวี่ยงและแนวโน้มของตลาดเข้าด้วยกัน สามารถบอกอะไรเกี่ยวกับทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างมาก แต่ประสบการณ์ในการแปลความหมายของตัวชี้วัดเหล่านี้ก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ มากเช่นกัน ขอให้คุณระลึกไว้ว่าสัญญาณการเคลื่อนไหวนี้บ่งชี้ไปถึงแค่วันซื้อขาย วันสุดท้ายของปี 2556 เท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเหล่านี้มีความสำคัญอย่างมากเพราะจะเป็นเหมือนตัวผลักดันการเคลื่อน ไหวของราคาในอีกหลายเดือนข้างหน้าด้วย ซึ่งในทุกๆ กรณี ตัวชี้วัดเหล่านี้เป็นสัญญาณการปรับตัวที่สำคัญในระยะยาว ซึ่งผมยังไม่เคยเห็นว่าจะมีวิธีไหนที่ดีกว่านี้ในการที่จะแปลความหมายของ ราคาปิดปลายปี และทิศทางที่ตลาดจะมุ่งไปในปีถัดไป ดังนั้นผมจึงอยากให้คุณทำความเข้าใจกับวิธีการนี้ สิ่งสำคัญก็คือ ในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้าผมจะอ้างกลับมาถึงตัวเลขต่างๆ ที่ผมพูดถึงในวันนี้ และตลอดทั้งปีหน้าก็จะอ้างกลับมาที่ตัวเลขเหล่านี้เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจการ เคลื่อนไหวของตลาด ดังนั้นผมจึงอยากแนะนำให้ตัดข่าวชิ้นนี้เก็บไว้เพื่อการอ้างอิงในอนาคต ทีนี้ก็เริ่มกันได้แล้ว... ทองคำ ช่วงเหวี่ยงปี 2557: $1,948.10 - $1,338.20 ช่วงแนวโน้ม ปี 2557: $1,268.30 - $852.60 จากราคาทองปัจจุบันที่ประมาณ $1,240 momentum ค่อนไปในทางลบเนื่องจากราคาทองคำต่ำกว่าขอบล่างของช่วงเหวี่ยงปี 2557 ซึ่งหมายความว่าราคาน่าจะปรับลงต่อ นอกจากนี้ ราคาทองคำปัจจุบันก็อยู่ต่ำกว่าขอบบนของช่วงแนวโน้มปี 2557 ซึ่งเป็นสัญญาณว่าทองคำกำลังอยู่ในระดับกลางๆ ของแนวโน้มระยะยาว หรือาจจะกล่าวได้ว่า ราคาทองคำจะเข้าสู่แนวโน้มขาลงในระยะยาวก็ต่อเมื่อราคาทองปิดสิ้นปีนี้ต่ำ กว่า $852.60 ซึ่งผมคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น สิ่งที่ตัวชี้วัดนี้บอกกับผมก็คือ แนวโน้มขาขึ้นระยะยาวของทองคำยังไม่จบ และอย่างที่ผมเขียนไว้ในบทความก่อนหน้านี้ว่าทองคำน่าจะอยู่ในช่วงตลาดขาลง ในขณะที่แนวโน้มระยะยาวยังอยู่ในขาขึ้น และราคาทองคำน่าจะถึงจุดต่ำสุดในช่วงต้นปี 2557 ก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้น ทีนี้เราลองมาดูตลาด:โลหะเงิน ช่วงเหวี่ยงปี 2557: $50.52 to $26.71 ช่วงแนวโน้ม ปี 2557: $20.42 to $11.41 เช่นเดียวกับทองคำ แนวโน้มระยะยาวของโลหะเงินก็อยู่ในขาขึ้น ในขณะที่การปรับตัวขาลงในระยะสั้นของตลาดยังไม่จบ คุณอาจจะสงสัยว่าผมรู้ได้ยังไง จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เพราะราคาปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ $19.50 ซึ่งบอกว่าแรงเหวี่ยงยังอยู่ในขาลง ซึ่งหมายความว่าราคาน่าจะปรับลงได้ต่อ แต่ในแง่ของแนวโน้มสำหรับปีหน้านั้น ผมมองว่าแนวโน้มอยู่ในระดับกลางๆ หลังจากที่โลหะเงินปรับตัวขึ้นไปเกือบถึง $50 ต่อออนซ์ในเดือนเมษายน 2554 ทั้งหมดนี้ เมื่อรวมกับตัวชี้วัดอื่นๆ และวัฎจักรเวลาที่ผมติดตามอยู่แล้ว บอกว่าโลหะเงินน่าจะปรับลงต่อในเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ทะลุจุดต่ำสุดก่อนนี้ที่ $18.22 เมื่อเดือนมิถุนายนปีนี้ ซึ่งหากเป็นดังนั้นจริง ราคาก็น่าจะผ่านจุดต่ำสุดในระยะยาวและกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวได้ ที่นี้มาดู:ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ช่วงเหวี่ยงปี 2557: 85.110 to 76.045 ช่วงแนวโน้ม ปี 2557: 96.300 to 79.420 ค่าเงินดอลลาร์มีความสำคัญด้วยเหตุผลที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับราคาทองคำและโลหะเงิน จากตัวชี้วัดข้างต้น และการที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวต่ำกว่า 80— แสดงว่าค่าเงินดอลลาร์ไม่มีความเสี่ยงที่จะร่วงพรวดพราดในขณะนี้ และน่าจะอยู่ในระดับกลางๆ เมื่อพิจารณาจากช่วงทั้งสองตามที่ระบุข้างต้น ซึ่งเป็นการบอกว่าค่าเงินดอลลาร์น่าจะเคลื่อนไหวผันผวนอยู่ในช่วงที่กำหนดไป จนถึงสิ้นปี ซึ่งการที่ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวในช่วงแคบจะไม่ได้ส่งผลดีต่อ ทองคำและโลหะเงิน แต่จะส่งผลให้ทั้งทองและเงินทำสถิติต่ำสุดใหม่ในช่วงต้นปี 2557 แต่ถ้าดัชนีค่าเงินดอลลาร์ขยับต่ำกว่า 76.045 ในปี 2557 ก็ให้ระวังว่าค่าเงินดอลลาร์จะปรับลดลงต่อ และกลับเข้าสู่ช่วงตลาดขาลงซึ่งผมคาดว่าจะเป็นเช่นนั้น และสนับสนุนให้ทั้งทองคำและโลหะเงินกลับเข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบใหม่ในปี 2557 สรุปก็คือ: ค่า เงินดอลลาร์น่าจะขยับอยู่ในช่วงแคบๆ จนถึงปลายปี ในขณะที่ทองคำและโลหะเงินน่าจะจบวัฎจักรรอบนี้ด้วยการ ทำสถิติต่ำสุดใหม่ในรอบสามปีของตลาดขาลงในต้นปี 2557 ดังนั้น คุณควรเตรียมความพร้อมอย่างที่ผมบอกไปแล้วในบทความอาทิตย์ที่แล้วด้วยการ เตรียมเงินไว้สำหรับซื้อทองคำและโลหะเงินเมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบ ใหญ่
  9. ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลดลง เหตุวิตกเฟดอาจเริ่มพิจารณาลด QE ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 11 ธันวาคม 2556 20:36:26 น. ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนเกิดความกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเริ่มพิจารณาปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมสัปดาห์หน้า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 5.10 ดอลลาร์ หรือ 0.40% แตะที่ 1,256.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเวลา 20.21 น.ตามเวลาประเทศไทย นักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลว่าเฟดอาจจะลดขนาด QE หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่เฟดหลายคนยังส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะพิจารณาลดขนาด QE ในการประชุมสัปดาห์หน้า โดยล่าสุดนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ เปิดเผยว่า ตลาดแรงงานที่ดีขึ้นของสหรัฐ ยิ่งทำให้โอกาสที่จะมีการลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรของเฟดมีมากขึ้นด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกันผู้นำการเจรจางบประมาณในสภาคองเกรสสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐในวันที่ 15 ม.ค.แล้ว ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด มีกำหนดประชุมในวันอังคารและพุธหน้า ซึ่งตลาดกำลังรอดูว่าเฟดจะเริ่มปรับลดการซื้อสินทรัพย์รายเดือนลงเมื่อใด อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--
  10. น้ำมันสหรัฐฯ-หุ้นมะกันปิดลบ ทองคำลงหลังคองเกรสบรรลุข้อตกลงงบประมาณ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ธันวาคม 2556 05:29 น. น้ำมันสหรัฐฯ-หุ้นมะกันปิดลบ ทองคำลงหลังคองเกรสบรรลุข้อตกลงงบประมาณ เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - น้ำมันสหรัฐฯวานนี้(11) ลงพอสมควร หลังพบสต๊อกเบนซินเพิ่มขึ้น บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่ยังอ่อนแอ ส่วนวอลล์ตรีท ปิดลบแรงจากการขายทำกำไรก่อนสิ้นปี ขณะที่ทองคำ ก็ปรับลด เหตุคองเกรสบรรลุข้อตกลงงบประมาณ ช่วยคลายกังวลแก่นักลงทุนไม่ต้องหันไปถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูด ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.07 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ ปิดที่ 109.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รายงานของกระทรวงพลังงานสหัฐฯระบุว่าในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 6 ธันวาคม คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศลดลงถึง 2.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์โดยเฉลี่ยถึง 5 เท่า อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันวานนี้(11) ถูกเหนี่ยวรั้งไว้โดยสต๊อกเบนซินที่เพิ่มขึ้นถึง 6.7 ล้านบาร์เรล เช่นเดียวกับคลังสำรองน้ำมันกลั่น อันประกอบด้วยดีเซลและน้ำมันทำความร้อน ที่เพิ่มขึ้นกว่า 4.5 ล้านบาร์เรล ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(11) ปิดลบพอสมควร ด้วยนักวิเคราะห์ชี้ว่าเป็นผลจากการขายทำกำไรของนักลงทุนช่วงปลายปี หลังจากตลอดทั้งปี 2013 ตลาดทุนดีดตัวขึ้นอย่างมาก ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 131.65 จุด (0.82 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,841.48 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 20.57 จุด (1.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,782.05 จุด แนสแดค ลดลง 56.68 จุด (1.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,003.81 จุด "ตลาดอยู่ในอารมณ์ของการขายเล็กน้อยนับตั้งช่วงเริ่มเข้าสู่เดือนนี้ แน่นอนว่ามันมีขึ้นหลังจากที่ตลาดขยับขึ้นมาแล้วกว่า 25 เปอร์เซนต์" แม็ค บลิคซิลเวอร์ ผู้จัดการของมาร์เบิลเฮด แอสเซต แมนเนจเมนต์ อ้างถึงการปรับขึ้นของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ในช่วงปี 2013 ขณะที่ ไมเคิล เจมส์ จากเวดบุช ซีเคียวริตี เสริมว่า "มีการทำกำไรมากขึ้นเพื่อปกป้องปีนี้" ส่วนราคาทองคำวานนี้(11) ขยับลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันหลังสุดของการซื้อขาย หลังการบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณของสภาคองเกรส ทำให้อุปสงค์โลหะมีค่าชนิดนี้ที่ถูกมองในฐานะสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ลดน้อยลงไป โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 3.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,257.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000152814
  11. รัฐเข้มนำเข้าทำทองเถื่อนทะลักอินเดีย โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ การที่รัฐบาลอินเดียเพิ่มความเข้มงวดในการนำเข้าทองคำ เพื่อต่อสู้กับการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด-เงินรูปีอ่อน ส่งผลให้การลักลอบขนทองคำเข้าประเทศ นับตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา อินเดียได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทองคำแท่งจาก 8% เป็น 10% จากนั้นในเดือนกรกฎาคม ได้กำหนดให้ 20% ของทองคำแท่งนำเข้าทั้งหมดต้องถูกส่งออกในรูปเครื่องประดับทองคำ หลังจากที่ได้สั่งห้ามนำเข้าเหรียญทองคำทุกชนิดมาแล้ว ทั้งนี้ อินเดียถือเป็นหนึ่งในประเทศผู้บริโภคทองคำรายใหญ่สุดของโลก มีการนำเข้าทองคำมากเป็นอันดับ 2 รองจากน้ำมัน โดยระหว่างปี 2555-2556 อินเดียนำเข้าทองคำมากถึง 860 ตัน ในไตรมาส 3 ของปีนี้ อินเดียมีมูลค่าการนำเข้าทองคำลดลงมาอยู่ที่ 3,900 ล้านดอลลาร์ จากระดับ 16,400 ล้านดอลลาร์ แต่ขณะเดียวกัน การลอบนำเข้าทองคำก็พุ่งสูงขึ้น จากความต้องการโลหะมีค่าชนิดนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากรอินเดีย เปิดเผยว่า ระหว่างเดือนเมษายน-กันยายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศุลกากรยึดทองคำที่ท่าเรือและสนามบินได้ 570 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 15,300 ล้านรูปี เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ยึดทองคำได้ 94 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 2,800 ล้านรูปี นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรม ระบุว่า ยังมีทองคำเถื่อนที่จับไม่ได้มากกว่านี้ โดยทองคำที่ลักลอบนำเข้าส่วนใหญ่มาจากตะวันออกกลาง ไทย และสิงคโปร์ ซึ่ง ราคาทองคำ 24 กะรัตในดูไบ และไทยอยู่ที่ประมาณกรัมละ 39-40 ดอลลาร์ แต่เมื่อมาถึงอินเดียราคาจะเพิ่มเป็นกรัมละ 48-50 ดอลลาร์ มูลค่าทองคำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้บรรดาผู้ลักลอบนำเข้าทั้งที่เป็นชาวอินเดียเอง หรือชาวต่างชาติ ต่างพยายามหาวิธีการใหม่ๆ ในการขนทองคำผิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่สนามบินมุมไบ เผยว่า ในแต่ละวัน จะตรวจพบทองคำซุกซ่อนอยู่ในช่องใส่แบตเตอรีโทรศัพท์มือถือและโน้ตบุ๊ก และยังพบผงทองคำในห่อที่ระบุว่าเป็น "ผงเฮนนา" ด้วย เดือนพฤศจิกายนเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ สนามบินกัลกัตตาพบทองคำแท่งมีเครื่องหมายการค้าดูไบ มูลค่าราว 1.4 ล้านดอลลาร์ ซ่อนอยู่ในห้องสุขาเครื่องบินของสายการบินพาณิชย์แห่งนึ่ง เครื่องบินลำดังกล่าวบินระหว่างบินระหว่างสองเมืองในภาคตะวันออก แต่ก่อนหน้านี้บินในเส้นทางมุมไบ-ดูไบ เจ้าหน้าที่สงสัยว่าทองคำที่ถูกซ่อนไว้ในห้องน้ำนั้น เพื่อจะนำออกมาในภายหลัง เมื่อเครื่องบินให้บริการเส้นทางภายในประเทศ ข้อมูลของกรมศุลกากรอินเดีย แสดงให้เห็นว่า นับแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ยึดทองคำได้มากกว่า 30 ครั้ง ถ้าเจ้าหน้าที่พบแบตเตอรีในกระเป๋าหรือสัมภาระก็จะตรวจสอบโทรศัพท์มือถือหรือโน้ตบุ๊ก บางครั้งเจ้าหน้าที่พบยาระบายให้กระเป๋าของพวกเขา หรือพวกเขาใช้ภาษากายแปลก ๆ นั่นหมายความว่าอาจซุกซ่อนทองคำแท่งไว้ในทวารหนัก ทางด้านอดีตประธานสมาพันธ์ค้าเพชรและอัญมณีอินเดีย "นายอโศก มินาวาลา" เปิดเผยว่า ธุรกิจอัญมณีในระบบกำลังต่อสู้ให้อยู่รอด ธุรกิจ 20% ต้องปิดตัวลง อีก 30% เจอปัญหาอย่างหนัก ในขณะนี้มีแต่ตลาดทองคำเถื่อนเท่านั้นที่เฟื่องฟูอย่างมาก - See more at: http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/foreign/20131212/549122/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2.html#sthash.u9GhCfpM.dpuf
  12. ทองปิดร่วง $15.3 หลัง ศก.สหรัฐแข็งแกร่ง วันศุกร์, 06 ธันวาคม 2556 08:23 | พิมพ์ | อีเมล สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 15.3 ดอลลาร์ หรือ 1.23% ปิดที่ 1,231.9 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นักลงทุนลดการถือครองทองคำหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยการประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2556 โดยระบุว่าจีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัว 3.6% มากกว่าการประมาณการครั้งแรกที่ระบุว่าเศรษฐกิจขยายตัว 2.8% ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย.ร่วงลง 23,000 ราย แตะระดับ 298,000 ราย ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ UBS ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจของสวิตเซอร์แลนด์ ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำปี 2557 ลงสู่ระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ จาก 1,325 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนสัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 26 เซนต์ ปิดที่ 19.570 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 12.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1363.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 736.85 ดอลลาร์/ออนซ์ http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-53/22978-ag21.html
  13. น้ำมันขึ้นหลังศก.มะกันขยายตัวเกินคาด แต่หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำลงหวั่นเฟดลดกระตุ้น โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 ธันวาคม 2556 04:31 น. น้ำมันขึ้นหลังศก.มะกันขยายตัวเกินคาด แต่หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำลงหวั่นเฟดลดกระตุ้น เอเอฟพี - ราคาน้ำมันสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 5 วันติดวานนี้(5) จากข้อมูลการเติบโตทางเศรษฐกิจและคนว่างงานที่ดีเกินคาดหมายของอเมริกา อย่างไรก็ตามปัจจัยนี้ก่อความกังวลว่าเฟดอาจลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจ จนฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบและทองคำดิ่งลงแรง สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ ปิดที่ 97.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 90 เซนต์ ปิดที่ 110.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันนิวยอร์ก มีขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ปรับเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 3 ของประเทศ เป็นร้อยละ 3.6 จากเดิมที่ประมาณการณ์ขยายตัวร้อยละ 2.8 ขณะเดียวกันยอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานก็ลดต่ำกว่า 300,000 อัตราเป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวภาคแรงงาน แม้ว่าข้อมูลนี้ของกระทรวงแรงงานอาจได้รับผลกระทบจากช่วงวันหยุดเทศกาลขอบคุณพระเจ้าก็ตาม อย่างไรก็ดีปัจจัยการขยายตัวทางเศรษฐกิจและข้อมูลภาคแรงงานที่ดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ กลับฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(5) ปิดในแดนลบ ด้วยความกังวลว่ามันอาจนำมาซึ่งธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) ลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็ววัน ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 68.65 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,821.12 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 7.74 จุด (0.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,785.07 จุด แนสแดก ลดลง 4.84 จุด (0.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,033.16 จุด ปัจจัยแห่งความกังวลว่าเฟดอาจลดระดับโครงการเข้าซื้อพันธบัตรกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ฉุดให้ทองคำวานนี้(5) ขยับลงกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 15.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,231.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000150737
  14. UBS หั่นราคาทองคำปี 57 ลงแตะ 1,200 ดอลลาร์ วันพุธ, 04 ธันวาคม 2556 14:41 UBS หั่นราคาทองคำปี 57 ลงแตะ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ ทำความน่าสนใจน้อยลง UBS ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจของสวิตเซอร์แลนด์ ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำปี 2557 ลงสู่ระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ จาก 1,325 ดอลลาร์ เนื่องจากความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐจะลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ UBS เปิดเผยว่า นอกจากทองคำจะต้องเผชิญแรงเทขายของบรรดานักลงทุนในปัจจุบันแล้ว ปัจจัยหนุนเชิงบวกจะอยู่ในกรอบจำกัดในอนาคตด้วย และไม่น่าจะดึงดูดแรงซื้อได้เหมือนแต่ก่อน ขณะเดียวกัน UBS ยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาโลหะเงินปี 2557 ลงสู่ระดับ 20.50 ดอลลาร์/ออนซ์ จาก 25 ดอลลาร์ http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-53/22940-ag22.html
  15. แรงซื้อเก็งกำไร หนุนทองคำปิดพุ่ง 26.4 ดอลล์ ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม 2556 07:58:36 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (4 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 26.4 ดอลลาร์ หรือ 2.16% ปิดที่ 1,247.2 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 76.5 เซนต์ ปิดที่ 19.830 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 20.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1376.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 14.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 729.25 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำทะยานขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาร่วงลงในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์กันมากขึ้นว่า เฟดอาจจะลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ ภายหลัง ISM เปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตสหรัฐที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจอีกหลายรายการในสัปดาห์นี้ที่อาจบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะยิ่งสนับสนุนความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดมาตรการกระตุ้น นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ในวันศุกร์นี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 7.2% ในเดือนพ.ย. ลดลงจาก 7.3% ในเดือนต.ค. อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-- http://www.ryt9.com/s/iq31/1791941
  16. น้ำมันขึ้นแรงหลังสต๊อกสหรัฐฯลดฮวบ หุ้นมะกันทรงตัว-ทองคำพุ่งจากข้อมูลศก. โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 ธันวาคม 2556 05:14 น. น้ำมันขึ้นแรงหลังสต๊อกสหรัฐฯลดฮวบ หุ้นมะกันทรงตัว-ทองคำพุ่งจากข้อมูลศก. เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - ราคาน้ำมันสหรัฐฯขึ้นแรงวานนี้(4) หลังพบสต๊อกเชื้อเพลิงมะกันลดลงอย่างน่าประหลาดใจ ด้านวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจอันผสมผสาน แต่ด้วยที่พอมีตัวเลขทางบวกให้ชื่นใจก็ช่วยส่งทองคำปิดบวกแข็งแกร่งพอสมควร สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 97.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 74 เซนต์ ปิดที่ 111.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันนิวยอร์กวานนี้(4) มีขึ้นหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯเผยตัวเลขคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศรายสัปดาห์ ที่พบว่าลดลงถึง 5.6 ล้านบาร์เรล ผิดจากนักวิเคราะห์คาดหมายไว้อย่างมาก ขณะที่การปรับลดของราคาน้ำมันเบรนท์ลอนดอน ขานรับต่อผลประชุมอันเป็นไปตามคาดหมายของกลุ่มโอเปก ที่มีมติคงกำลังการผลิตไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจัยนี้ก่อความกังวลทางอุปทาน หลังอิหร่านและอิรักเตรียมเพิ่มกำลังผลิตอย่างมากในปี 2014 เช่นเดียวกับสหรัฐฯ ที่คาดหมายว่จะสามารถผลิตเชื้อเพลิงได้มากขึ้น ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(4) ปิดลบในกรอบแคบๆ ท่ามกลางข้อมูลทางเศรษฐกิจอันสผสมผสาน ในนั้นรวมถึงภาคการผลิตหรือการจ้างงาน ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 24.08 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,890.54 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.29 จุด (0.13 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,792.86 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 0.80 จุด (0.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,038.01 จุด วอลล์สตรีทถูกฉุดดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของสหรัฐฯของสถาบันจัดการด้านอุปทาน ประจำเดือนพฤศจิกายน ลดลงสู่ 53.9 จุด ต่ำกว่าที่คาดหมายไว้ แม้จะมีข้อมูลบวกในรายงานของเอดีพีเกี่ยวกับการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ยอดขาดดุลการค้าลดลง และตัวเลขการขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้านี้ถึง 25.4 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม อย่างไรก็ตามปัจจัยข้อมูลทางเศรษฐกิจบางอย่างในด้านบวก ก็ส่งผลให้ราคาทองคำวานนี้(4) พ่งแรง หลังจากขยับลงต่อเนื่องในช่วง 2 วันของการซื้อขายหลังสุด โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 26.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,247.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000150408
  17. น้ำมันขึ้นแรง หุ้นมะกันลง-ทองคำทรงตัว จับตาเฟดลดกระตุ้นเศรษฐกิจ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 ธันวาคม 2556 05:33 น. เอเอฟพี - ราคาน้ำมันนิวยอร์กวานนี้(3)พุ่งแรง ตามข่าวเตรียมเปิดใช้งานบางส่วนของท่อลำเลียงใหม่เดือนหน้า ส่วนวอลล์สตรีทและทองคำปิดลบ จับตาข้อมูลทางเศรษฐกิจซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางของมาตรการกระตุ้นของธนาคาร กลางอเมริกา สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.22 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 112.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดน้ำมันนิวยอร์กขยับขึ้น หลังทรานส์แคนาดา บริษัทรับเหมาแคนาดาที่กำลังดำเนินการก่อสร้างท่อลำเลียงเชื้อเพลิงคีย์สโตน ระบุในเอกสารที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ว่าบางส่วนของท่อคีย์สโตนจะเริ่มลำเลียงน้ำมันดิบจากคลังเชื้อเพลิงไปยังโรง กลั่นริมฝั่งเทกซัส ได้ในวันที่ 3 มกราคม ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(3) ปิดลบ 2 วันติด ท่ามกลางข่าวลือที่หนาหูขึ้นเรื่อยๆว่าธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) จะเริ่มลดระดับการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือนเร็วๆนี้ ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 94.40 จุด (0.59 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,914.37 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 5.81 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,795.09 จุด แนสแดค ลดลง 8.06 จุด (0.20 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,037.20 จุด ข่าวลือเกี่ยวกับการลดระดับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลาง สหรัฐฯ มีขึ้นตามหลังข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่เผยแพร่ออกมาในวันจันทร์(2) อันย้อนให้นึกถึงถ้อยแถลงของเฟดว่าจะดำเนินการลดวงเงินเข้าซื้อพันธบัตรราย เดือนเมื่อเห็นว่าตลาดแรงงานมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่วนราคาทองคำวานนี้(3) ปรับลงในกรอบแคบๆ ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำสุดรอบ 5 เดือน นักลงทุนเฝ้ารอข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมช่วงกลางสัปดาห์ ในนั้นรวมถึงตัวเลขการจ้างงานรายเดือน ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,220.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  18. ทองปิดลบ $1.1 วิตกเฟดลด QE วันพุธ, 04 ธันวาคม 2556 07:30 สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,220.8 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจชะลอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ สัญญาทองคำปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์กันมากขึ้นว่า เฟดอาจจะลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ ภายหลัง ISM เปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตสหรัฐที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งในเดือนพ.ย. โดยนักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจอีกหลายตัวในสัปดาห์นี้ที่อาจบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งจะยิ่งสนับสนุนความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดมาตรการกระตุ้น ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ในวันศุกร์นี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 204,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 7.2% ในเดือนพ.ย. ลดลงจาก 7.3% ในเดือนต.ค ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 22.4 เซนต์ หรือ 1.16% ปิดที่ 19.065 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1355.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 714.80 ดอลลาร์/ออนซ์ http://www.moneychannel.co.th/
  19. ทองคำดิ่ง$28หลังดอลล์แข็งค่า หุ้นมะกันลง-น้ำมันปิดบวก โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 ธันวาคม 2556 05:04 น. ทองคำดิ่ง$28หลังดอลล์แข็งค่า หุ้นมะกันลง-น้ำมันปิดบวก เอเอฟพี - วอลล์สตรีทวานนี้(2) ลงเล็กน้อย จากแรงคาดเดาว่าเฟดคงละระดับกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆ หลังพบข้อมูลการผลิตที่แข็งแกรง ปัจจัยนี้เองดันให้ดอลลาร์แข็งค่าและฉุดให้ทองคำดิ่งลงอย่างหนัก ขณะที่น้ำมันบวกพอสมควร เหตุซาอุดีอาระเบียบ่งชี้คงเพดานการผลิตไว้ตามเดิม ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 79.31 จุด (0.49 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,007.10 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 4.96 จุด (0.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,800.85 จุด แนสแดค ลดลง 14.62 จุด (0.36 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,054.26 จุด บิลล์ ลินช์ ผู้จัดการด้านการลงทุนของฮินส์เดล แอสโซซิเคทส์ ให้ความเห็นว่าความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นอเมริกา อาจเป็นเพราะนักลงทุนคาดหมายว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆนี้ หลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(พีเอ็มไอ) ของภาคการผลิตในเดือนพฤศจิกายน ทะยานแตะ 57.3 จุด จาก 56.4 จุดเมื่อเดือนก่อน เหนือกว่านักวิเคราะห์คาดหมายไว้อย่างมาก ปัจจัยภาคการผลิตของสหรัฐฯในเดือนพฤศจิกายน ที่แข็งแกร่งสุดในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง ก็ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แต่นั่นก็เป็นผลให้ทองคำวานนี้(2) ร่วงลงอย่างหนักเช่นกัน โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 28.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,221.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านราคาน้ำมันวานนี้(2) ปิดบวกพอสมควร ก่อนหน้าการประชุมของโอเปกประจำเดือนธันวาคม ขณะที่ซาอุดีอาระเบีย บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ทางกลุ่มจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพดานการผลิตเชื้อเพลิง สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.76 ดอลลาร์ ปิดที่ 111.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ปัจจัยทางอุปทานแล้ว นักวิเคราะห์มองว่าราคาน้ำมันวานนี้(2) ยังได้แรงหนุนจากข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีนและยุโรปด้วย http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000149416
  20. การเมืองที่บานปลายยังคงกดดันเงินบาทต่อ updated: 02 ธ.ค. 2556 เวลา 18:25:53 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพรายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวของค่าเงินประจำวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2556 ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.26/27 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (29/11) ที่ระดับ 32.10/12 บาท/ดอลลาร์ โดยปัญหาความขัดแย้งของการเมืองทั้งสองขั้วยังคงเป็นปัจจัยหลักที่กดดันให้ ค่าเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นการชุมนุมของทั้งสองฝ่ายทวีความรุนแรงมากขึ้น และมีผู้เสียชีวิตจากการปะทะกันถึง 3 ราย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการที่กลุ่มผู้ชุมนุมที่สนับสนุนรัฐบาลซึ่งปัก หลักที่สนามราชมังคลากีฬาสถานไม่พอใจกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงที่ ต้องการล้มรัฐบาลจึงมีการปะทะกันเกิดขึ้น สื่อต่างประเทศรวมถึงนักลงทุนต่างชาติต่างเสียความมั่นใจในประเทศไทยและส่ง ผลถึงเสถียรภาพของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมยังแบ่งกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อทำการเข้ายึดสถานที่ราชการและ กระทรวงต่าง ๆ อนึ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลประกาศให้หน่วยงานราชการหยุดทำงานในวัน จันทร์ที่ 2 ธันวาคม เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกัน อย่างไรก็ดีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองยังคงไม่คลี่คลายถึงแม้ว่านางสาวยิ่ง ลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ออกมาแถลงการณ์ในบ่ายวันนี้ว่ารัฐบาลยังคงจะดำเนินการปกครอง ประเทศต่อไปและขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมลดความรุนแรงลง อนึ่งค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลักภายหลังจากทางการ จีนประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อที่ระดับ 51.4 หน่วย ซึ่งถึงแม้จะเป็นระดับเดียวกับเดือนตุลาคมแต่ระดับดังกล่าวยังสูงกว่าที่นัก วิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 51.0 หน่วย ส่งผลให้นักลงทุนหันมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงค่าเงินที่ให้ผลตอบแทน สูงมากขึ้น กระนั้นบริษัทเก็บข้อมูลสถิติรายหนึ่งของสหรัฐ ได้ประกาศตัวเลขการจับจ่ายของอเมริกันชนในช่วงวันหยุดเทศกาบขอบคุณพระเจ้า (Thankgiving) และ Black Friday ออกมาโดยยอดค้าปลีกขยับขึ้นกว่า 2.3% และการซื้อของทางออนไลน์เพิ่มขึ้นกว่า 17.3% จากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ดีตลาดยังคงจับตามองตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่จะประกาศใน วันศุกร์ (6/12) และการประชุมนโยบายทางการเงินของสหรัฐที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 32.11-32.27 บาท/ดอลลาร์ ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 32.14/16 บาท/ดอลลาร์ สำหรับค่า เงินยูโรนั้นเปิดตลาดที่ระดับ 1.3592/94 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (29/11) ที่ระดับ 1.3616/17 ดอลลาร์/ยูโร โดยความเห็นของนักวิเคราะห์ที่มีต่อการดำเนินนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่อเค้าลดน้อยลงภายหลังที่อัตราเงินเฟ้อของกลุ่มประเทศสมาชิกยูโรโซนปรับตัว เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 0.8% ในเดือนกันยายนสู่ระดับ 1.0% ในเดือนตุลาคม ถึงแม้ว่าอัตราการว่างงานของประเทศอิตาลียังคงที่ที่ระดับ 12.5% ในเดือนตุลาคม นอกจากนี้ระหว่างวันมีการประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของกลุ่ม ประเทศสมาชิกยูโรโซนที่ระดับ 51.6 หน่วย ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้และเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 51.5 หน่วย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1.3543-1.3616 ยูโรโซน/ดอลลาร์ ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 1.3556/57 ยูโร/ดอลลาร์ ส่วน ค่าเงินเยนนั้นเปิดตลาดที่ระดับ 102.41/43 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (29/11) ที่ระดับ 102.25/28 เยน/ดอลลาร์ โดยค่าเงินเยนนั้นยังคงมีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคมยังคงรักษาระดับเดิมที่ 1.1% ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อถัวเฉลี่ยประจำปียังคงอยู่ที่ระดับ 1.1% เช่นกัน อย่างไรก็ดีอัตราเงินเฟ้อยกเว้นอาหารและพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% เทียบกับเดือนกันยายนที่ระดับ 0.0%สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่เริ่มเห็นผลชัดเจน ทั้งนี้ตลาดยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะทำการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในเร็ววันนี้ อนึ่งค่าเงินเยนเคลื่อนไหวระหว่าง 102.23-102.81 เยน/ดอลลาร์ ก่อนจะปิดตลาดที่ระดับ 102.68/70 เยน/ดอลลาร์ ในสัปดาห์นี้ตลาดรอ ติดตามการเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ ดัชนี ISM Manufacturing ประจำเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐ ถ้อยคำแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรับ ถ้อยคำแถลงของนายคุโรตะ ประธานธนาคารกลางญี่ปุ่นในเย็นวันนี้ (2/12) ยอดการขายบ้านใหม่ของสหรัฐ (4/12) อัตราการจ้างงานนอกภาคการเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐ (6/12) อัตรา ป้องกันความเสี่ยง (Swap point) 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +4.5/4.75 สตางค์/ดอลลาร์ และอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ +14.0/17.0 สตางค์/ดอลลาร์ ติดตาม ความเคลื่อนไหวข่าวหุ้น ตลาดหุ้น การเงิน การลงทุน และบทวิเคราะห์หุ้น ที่ประชาชาติธุรกิจ http://www.prachachat.net/category.php?catid=09
  21. เจ้าของรางวัลโนเบลเศรษฐศาสตร์เตือน ศก.US สุ่มเสี่ยงเจอหายนะ จาก“ภาวะฟองสบู่” ในตลาดหุ้น โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ธันวาคม 2556 01:15 น. เจ้าของรางวัลโนเบลเศรษฐศาสตร์เตือน ศก.US สุ่มเสี่ยงเจอหายนะ จาก“ภาวะฟองสบู่” ในตลาดหุ้น เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-โรเบิร์ต เจมส์ ชิลเลอร์ นักเศรษฐศาสตร์อเมริกันเจ้าของรางวัลโนเบลเศรษฐศาสตร์ในปีนี้ ออกโรงเตือนโดยระบุ เศรษฐกิจสหรัฐฯอาจเผชิญหายนะจาก “ภาวะฟองสบู่” ในตลาดหุ้น ชิลเลอร์ วัย 67 ปี ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเยลในสหรัฐฯ และเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลในสาขาเศรษฐศาสตร์ปีนี้ ให้สัมภาษณ์กับ “แดร์ ชปีเกิล” นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ของเยอรมนี โดยระบุว่า ภาวะการพุ่งสูงขึ้นของหุ้นและราคาอสังหาริมทรัพย์ อาจนำไปสู่ภาวะฟองสบู่ทางการเงินที่อันตราย ซึ่งอาจนำสหรัฐฯเผชิญกับหายนะครั้งเลวร้าย ชิลเลอร์ซึ่งคว้ารางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกันอีก 2 รายในปีนี้ จากผลงานการวิจัยเรื่องสินทรัพย์ฟองสบู่และการศึกษาด้านราคาในตลาด ชี้ว่า การเติบโตอย่างผิดปกติและไร้สมดุลของตลาดหุ้นในสหรัฐฯถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจที่สุด เนื่องจากการเติบโตของตลาดหุ้นอเมริกัน มีขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯยังเต็มไปด้วยความเปราะบางและอ่อนแอ โดยเฉพาะมูลค่าของหุ้นในกลุ่มการเงินและเทคโนโลยีที่ดูเหมือนจะมีการซื้อขายกันในมูลค่าที่สูงเกินความเป็นจริง ขณะเดียวกัน ภาวะฟองสบู่ในภาคการลงทุนและอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯในเวลานี้ อาจฉุดรั้งให้เศรษฐกิจเมืองลุงแซมที่ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกต้องเผชิญกับวิกฤตที่ไม่ต่างจากวิกฤตทางการเงินช่วงปี 2008-2009 ที่สร้างผลกระทบไปทั่วโลก เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ยังเตือนว่า นอกเหนือไปจากสหรัฐฯแล้ว บราซิล ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่รายใหญ่ ก็เป็นอีกหนึ่งดินแดนที่อาจต้องเผชิญกับหายนะจากผลของภาวะฟองสบู่ที่เกิดขึ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์เช่นเดียวกัน http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000148940
  22. ทองคำโลกปิดพุ่งขึ้น 12.5 ดอลลาร์ วันจันทร์, 02 ธันวาคม 2556 08:17 | พิมพ์ | อีเมล สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไรเมื่อวันศุกร์ (29 พ.ย.) แต่ราคาร่วงลงเกือบ 6.5% ในช่วงเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการดิ่งลงมากที่สุดนับแต่ที่ปรับตัวลง 12.2% ในเดือนมิ.ย. สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดพุ่งขึ้น 12.5 ดอลลาร์ หรือ 1.01% ที่ 1,250.4 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค..ปิดปรับขึ้น 35.1 เซนต์ ที่ 20.033 ดอลลาร์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 16.1 ดอลลาร์ ที่ 1,368.8 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 3.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 719.65 ดอลลาร์/ออนซ์ http://www.moneychannel.co.th/index.php/2012-06-30-12-32-53/22775-abd102.html
  23. 29 พฤศจิกายน 2556 18:00 11เดือนแรกราคาทองดำดิ่งกว่า25% โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 11 เดือนแรกราคาทองดำดิ่งลงกว่า 25% นักลงทุนโยกเงินกลับไปลงทุนสินทรัพย์อื่น หลังสหรัฐจ่อยกเลิกคิวอี ทองคำเดินหน้าร่วงลงรายเดือนครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน หลังเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวกระตุ้นให้นักลงทุนย้ายเงินมาหาสินทรัพย์ที่ราคาฟื้นตัวขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์เรื่องธนาคารกลางสหรัฐจะยุติมาตรการกระตุ้นทางการเงิน ราคาทองคำลดลง 6% ในเดือนนี้ ตลอดปี 2556 ลดลงแล้วกว่า 25% ส่งผลให้ราคาทองคำลดลงต่อปีครั้งแรกในรอบ 13 ปี สัญญาซื้อขายราคาทองคำในตลาดสิงคโปร์เคลื่อนไหวล่าสุดที่ระดับประมาณ 1,242.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากปิดสูงขึ้น 0.5% เมื่อวานนี้ ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจค่อนข้างเบาบาง เนื่องจากตลาดเงินสหรัฐปิดในวันหยุดขอบคุณพระเจ้า การซื้อจากจีนที่มีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่สุดของโลกในปีนี้ เพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้หลังราคาตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างต่อเนื่อง เมื่อวานนี้ปริมาณการซื้อขายทองคำ 99.99% ณ ตลาดเซี่ยงไฮ้สูงสุดในรอบเจ็ดสัปดาห์ ธนาคารวีทีบีของรัสเซีย เปิดเผยว่า ธนาคารเริ่มส่งออกทองคำแท่งและเงินแท่งให้อินเดีย เพื่อขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเหมืองแร่แห่งซิมบับเวแถลงว่า ซิมบับเวต้องการปล่อยหุ้นข้างมากในหน่วยปฏิบัติการท้องถิ่นของบริษัทเหมืองแร่แพลทินัมที่มีต่างชาติเป็นเจ้าของ หากบริษัทเหล่านั้นสร้างโรงกลั่นในซิมบับเว http://www.bangkokbiznews.com
  24. น้ำมันลอนดอนดิ่ง-ทองคำขึ้น หุ้นมะกันซื้อขายเบาบางก่อนปิดในกรอบแคบๆ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤศจิกายน 2556 05:33 น. น้ำมันลอนดอนดิ่ง-ทองคำขึ้น หุ้นมะกันซื้อขายเบาบางก่อนปิดในกรอบแคบๆ เอพี/เอเจนซี - น้ำมันลอนดอนดิ่งแรง แต่สหรัฐฯปิดกรอบแคบเมื่อวันศุกร์(29) ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางหลังจากช่วงวันหยุดวันขอบคุณพระเจ้าในอเมริกา ส่วนแนสแดคได้แรงหนุนจากภาคเทคโนโลยีเลยทุบสถิติสูงสุดในรอบ 13 ปี ส่วนทองคำก็ขยับขึ้นมากสุดในรอบสัปดาห์ สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ ปิดที่ 92.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นักวิเคราะห์บอกว่าการซื้อขายในวันศุกร์(29) เป็นไปอย่างเงียบเชียบ ด้วยไม่มีปัจจัยใหม่ๆมาส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันโลกเลย ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(29) ดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ปิดทรงตัว ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง อย่างไรก็ตามดัชนีแนสแดค ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี จนปิดแตะระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 10.92 จุด (0.07 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16,086.41 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 1.42 จุด (0.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,805.81 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 15.13 จุด (0.67 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,059.88 จุด ดัชนีแนสแดค ได้แรงหนุนจากภาคเทคโนโลยี หลังหุ้นของแอปเปิล ขยับขึ้น 1.9 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 556.07 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วนไมโครซอฟต์ คอร์ป ขยับขึ้น 1.4 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 38.13 ดอลลาร์ต่อหุ้น และอะเมเซอน อิงค์ ขยับขึ้น 1.8 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 393.62 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วนราคาทองคำวานนี้(29) ขยับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ จากความตึงเครียดระหว่างจีนและญี่ปุ่น เกี่ยวกับเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ)ใหม่ของปักกิ่ง โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 12.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,250.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000148448
  25. ทองปิดพุ่ง $12.5 จากแรงซื้อเก็งกำไร ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2556 06:28:24 น. สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไรเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) แต่ราคาร่วงลงเกือบ 6.5% ในช่วงเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการดิ่งลงมากที่สุดนับแต่ที่ปรับตัวลง 12.2% ในเดือนมิ.ย. สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดพุ่งขึ้น 12.5 ดอลลาร์ หรือ 1.01% ที่ 1,250.4 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค..ปิดปรับขึ้น 35.1 เซนต์ ที่ 20.033 ดอลลาร์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 16.1 ดอลลาร์ ที่ 1,368.8 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 3.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 719.65 ดอลลาร์/ออนซ์ ในปีนี้ ราคาทองร่วงลงแล้วกว่า 25% ทั้งนี้ แรงซื้อในตลาดปัจจุบันและดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงต่างก็เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนราคาทองอยู่บ้าง แต่นักวิเคราะห์ในตลาดยังคงเชื่อว่าแนวโน้มโดยรวมของราคาทองจะปรับตัวขาลงต่อไป อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--
×
×
  • สร้างใหม่...